Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Automotive Innovations ที่ ธันวาคม 10, 2012, 10:15:14
-
เป็นเรื่องที่น่าตกใจนะเนี่ย เพราะปีที่แล้ว งานเดียวเดียวกันได้แค่40,000 คันเอง
ฮอนด้านำจ่าฝูง โตโยต้างานนี้ยังเอาคืนไม่ได้
Mitsubishi จะชนะมาสด้าแล้วอีกนิดเดียว
น่าแปลกใจตรง bmwกับเบนซ์นี่แหละ ยอดพุ่งกระฉูดเลย
ในที่สุด Proton ก็นำ Tata ได้
ไอ่รถคันแรกมันก็ส่วนนึง แต่ไม่ได้คิดว่ามันจะเยอะขนาดนี้ครับ คุณขวัญชัยยังบอกเองเลยว่าตั้งเป้าไว้ที่ 60,000เห็นยอดแบบนี้ยิ้มน่าบานแน่ ;D
เพื่อนคิดว่าไงกันครับ
-
สุดยอดมากๆๆๆๆๆ ;D ;D ;D
-
มองเห็นแต่ข้อเสีย
1.รถติดเพิ่มขึ้น
2.รัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายคืนภาษี eco car
3.หนี้เสียเยอะขึ้น
4.รถ eco car มือสองมีให้เลือกมากขึ้น
-
ปีที่แล้ว รถจมน้ำกันเยอะหรือปะครับ เลยมาซื้อคันใหม่ปีนี้แทน
-
ปีที่แล้ว รถจมน้ำกันเยอะหรือปะครับ เลยมาซื้อคันใหม่ปีนี้แทน
ผมว่าน่าจะใช่ นะ แต่ อีกส่วนนึง ก็ คืนภาษี นั้นแหละ ครับ
-
มองเห็นแต่ข้อเสีย
1.รถติดเพิ่มขึ้น
2.รัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายคืนภาษี eco car
3.หนี้เสียเยอะขึ้น
4.รถ eco car มือสองมีให้เลือกมากขึ้น
ผมว่าเรื่องคืนภาษี
eco car เป็นส่วนที่น้อยกว่าพวกเครื่อง1500 นะครับ
ส่วนใหญ่กะเอาเต็มแสนทั้งนั้น
-
โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้ภาษีเงินคืนยิ่งกว่างานเทกระจาด ;D
-
สงสาร Weismann ขายไม่ได้เลย :P
-
มองเห็นแต่ข้อเสีย
1.รถติดเพิ่มขึ้น
2.รัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายคืนภาษี eco car
3.หนี้เสียเยอะขึ้น
4.รถ eco car มือสองมีให้เลือกมากขึ้น
ผมว่าเรื่องคืนภาษี
eco car เป็นส่วนที่น้อยกว่าพวกเครื่อง1500 นะครับ
ส่วนใหญ่กะเอาเต็มแสนทั้งนั้น
ถ้ามองโดยรวม Eco car คืนไม่เต็มแสน แต่ก็คืนภาษีสรรพสามิตเต็ม 100% แต่รถ 1.5 คืนเต็มแสน แต่ยังเหลือภาษีส่วนสรรพสามิตเข้ารัฐบ้าง เพราะภาษีสรรพสามิตรถ 1.5 เกินแสนทั้งนั้น รายปีก็ยังเก็บได้มากกว่า
-
ผมว่าอานิสงค์รถคันแรกเต็มๆเลย
-
1.รถติดเพิ่มขึ้น โชคดี ผมไม่ต้องเข้าเมือง
2.รัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายคืนภาษี eco car หลังจากบริษัทแม่จ่ายค่าภาษีรถให้รัฐบาลไงครับ
3.หนี้เสียเยอะขึ้น รอดูปีหน้า จะเจอกระทู้ผ่อนไม่ไหว แต่โอนไม่ได้ต้อง5ปี ทำไงดีครับ
4.รถ eco car มือสองมีให้เลือกมากขึ้น อยากรู้คนซื้อจะทำยังไงเหมือนกัน รภมันโอนไม่ได้ คงจะเป็นรถผีไม่มีเล่ม
-
โห .. ถ้ารวมยอดจองนอกงานเข้าไปอีก แล้วไหนจะโค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปีสำหรับรถคันแรกอีก
ปล. น่าจะมีคืนภาษีหรือคืนเงืนคนที่ใช้รถไฟฟ้า/รถขนส่งสารธารณะณะบ้างเน๊อะ
-
1.รถติดเพิ่มขึ้น โชคดี ผมไม่ต้องเข้าเมือง
2.รัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายคืนภาษี eco car หลังจากบริษัทแม่จ่ายค่าภาษีรถให้รัฐบาลไงครับ
3.หนี้เสียเยอะขึ้น รอดูปีหน้า จะเจอกระทู้ผ่อนไม่ไหว แต่โอนไม่ได้ต้อง5ปี ทำไงดีครับ
4.รถ eco car มือสองมีให้เลือกมากขึ้น อยากรู้คนซื้อจะทำยังไงเหมือนกัน รภมันโอนไม่ได้ คงจะเป็นรถผีไม่มีเล่ม
อันนี้แหละครับ อยากให้พี่ๆ ที่ทราบข้อมูลช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยครับ
การที่เราซื้อรถ แล้ว จัดไฟแนนซ์ เท่ากับเราเป็นลูกหนี้ไฟแนนซ์ และเค้าก็เอาเงินเค้าไปจ่ายให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ และเป็นเจ้าหนี้เรา
ต่อจากนั้น.........หลังจากบริษัทผู้ผลิตได้เงินค่ารถยนต์ (ซึ่งรวมภาษีที่จะคืนให้เรา) ซึ่งก็คงได้รับไปทันที เค้าไม่ได้นำส่งคืนให้รัฐโดยทันทีหรือครับ เพราะถ้าเค้าคืนเลย แล้วผู้ใช้สิทธิ์ได้เงินคืนช้า เพราะขั้นตอนการทำงานภาครัฐ ก็พอเข้าใจอยู่
แต่ไม่ใช่ ไปช้าตรงที่บริษัทรถยนต์คืนมาช้า (เอาไปหมุนก่อน) ใช่มั๊ยครับ
ส่วนข้อ 3 และสี่ เดี๋ยวปีหน้าไตรมาสสองรู้เรื่องกันครับ ข้างบ้านผมมีสองรายแล้ว ผ่อนมา 4 เดือน ตกงาน ผ่อนไม่ไหว ซวยคนเซ็นค้ำ แถมปัญหามหาศาลตามมา เงินคืนแสนนึง (วีออสครับคันที่ว่า) คนที่ผ่อนไม่ไหว ทำท่างอแง จะเอาไว้เอง บอกเป็นสิทธิ์ของผม ทะเลาะกับคนค้ำ (ญาติห่างๆ) ที่ต้องซวยมาผ่อนต่อ ทั้งที่ไม่ได้อยากซื้อ
ไหนจะเอกสารกรรมสิทธิ์ถือครอง เพราะคนซื้อหลังจากนี้ก็ไม่ได้ใช้รถคันนี้แล้ว แถมมาเกี่ยงกันอีกเรื่อง ถ้าเกิดอุบัติเหตุทำไง ใครรับผิดชอบ โน่น นี่ นั่น
ขอคำแนะนำด้วยจักขอบพระคุณมากๆครับ
-
แหม บางท่านก็
ให้โอกาศคนอยากมีรถบ้างเถอะครับ ยิ่งมีนโนบายรถคันแรกออกมา ก็ต้องคว้าไว้
ในเมื่อการเดินทางในเมืองมันไม่ค่อยปลอดภัย ทั้งรถเมลล์ รถตู้ หรืออาจรวมถึง แท๊กซี่ กับพี่วินชอบมุด ;D
-
ปีหน้าชานเมืองอย่างผมคงไปไหนลำบากขึ้นแน่ ;D
-
เชื่อสิ ร้อยละ 60 ในยอดจองนั้น มันคือนโยบายรถคันแรก ;D
-
มองเห็นแต่ข้อเสีย
1.รถติดเพิ่มขึ้น
2.รัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายคืนภาษี eco car
3.หนี้เสียเยอะขึ้น
4.รถ eco car มือสองมีให้เลือกมากขึ้น
ถามแบบคนไม่รู้นะครับ
ภาษีที่คืนก็คือเงินที่รัฐจัดเก็บจากรถคันนั้นๆไม่ใช่หรอครับ ไม่จำเป็นต้องหาเงินมาจ่ายเพิ่มนิครับ
-
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ภาษีที่คืนก็คือภาษีที่เราเสียไปนั่นเอง (โดนบวกเพิ่มกับราคารถโดยอัตโนมัติ ตั้งแต่ตอนค่ายรถยนต์ตั้งราคา)
สรุปอีกครั้ง (คหสต)
1) เงินที่ได้คืนก็คือเงินภาษีที่เราจ่ายไปนั่นเอง (แต่คนที่ไม่ได้ใช้สิทธิ์รถคันแรก ก็จะเสียโอกาสที่จะได้เงินก้อนนี้ไปฟรีๆ ดังนั้น ญาติ พี่น้อง คนงาน คนสวน จึงโดนใช้ชื่อเป็นคนซื้อรถเยอะขึ้น)
2) ทันทีที่คนส่วนใหญ่ได้รับเงิน 100,000 หรือน้อยกว่า คืนมา จะต้องวุ่นวายแน่นอน เพราะคนที่ผ่อนไม่ไหว คงจะทิ้งรถไปเลย เพราะได้เงินก้อนแล้วนี่ ไม่ทนผ่อนต่อดีกว่า (เคยเอามาโพส แล้วโดนด่า ว่ารัฐบาลทำสัญญาไว้แล้วว่า ถ้าไม่ผ่อนให้ครบ จะโดนฟ้องล้มละลาย คงไม่มีใครกล้าเบี้ยว - โธ่ ขอโทษเถอะครับ มีกฎหมายว่าห้ามขโมย ฝ่าฝืนก็ติดคุก ยังมีการขโมยกันทุกวันเลย อันนั้นกฎหมายนะครับ อันนี้นับประสาอะไรกับสัญญา)
3) น่าลุ้นว่าปีหน้า รถมือ 2 จะแพงขึ้น หรือถูกลงไปกว่านี้
-
มันเป็น Demand เทียมซะส่วนใหญ่อันเนื่องมาจากนโยบายรถคันแรกนั่นแหละครับ
ผมเห็นใจคนที่จำเป็นที่ต้องใช้รถ ยิ่งต่างจังหวัด-ชนบทไม่ต้องพูดถึง ใครไม่มีรถส่วนตัวนี่นรกดีๆ นะครับ
ปีนี้ก็จัดกันให้เต็มที่สำหรับรถ ปีต่อๆไปขอนโยบายรถไฟครอบคลุมทั่วประเทศเหมือนญี่ปุ่นได้ไหม?? สงสัยฝันไป :D
-
สงสารรถที่จะไปอยู่ที่เตนท์มือสองนะสิ
-
1.รถติดเพิ่มขึ้น โชคดี ผมไม่ต้องเข้าเมือง
2.รัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายคืนภาษี eco car หลังจากบริษัทแม่จ่ายค่าภาษีรถให้รัฐบาลไงครับ
3.หนี้เสียเยอะขึ้น รอดูปีหน้า จะเจอกระทู้ผ่อนไม่ไหว แต่โอนไม่ได้ต้อง5ปี ทำไงดีครับ
4.รถ eco car มือสองมีให้เลือกมากขึ้น อยากรู้คนซื้อจะทำยังไงเหมือนกัน รภมันโอนไม่ได้ คงจะเป็นรถผีไม่มีเล่ม
อันนี้แหละครับ อยากให้พี่ๆ ที่ทราบข้อมูลช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยครับ
การที่เราซื้อรถ แล้ว จัดไฟแนนซ์ เท่ากับเราเป็นลูกหนี้ไฟแนนซ์ และเค้าก็เอาเงินเค้าไปจ่ายให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ และเป็นเจ้าหนี้เรา
ต่อจากนั้น.........หลังจากบริษัทผู้ผลิตได้เงินค่ารถยนต์ (ซึ่งรวมภาษีที่จะคืนให้เรา) ซึ่งก็คงได้รับไปทันที เค้าไม่ได้นำส่งคืนให้รัฐโดยทันทีหรือครับ เพราะถ้าเค้าคืนเลย แล้วผู้ใช้สิทธิ์ได้เงินคืนช้า เพราะขั้นตอนการทำงานภาครัฐ ก็พอเข้าใจอยู่
แต่ไม่ใช่ ไปช้าตรงที่บริษัทรถยนต์คืนมาช้า (เอาไปหมุนก่อน) ใช่มั๊ยครับ
ส่วนข้อ 3 และสี่ เดี๋ยวปีหน้าไตรมาสสองรู้เรื่องกันครับ ข้างบ้านผมมีสองรายแล้ว ผ่อนมา 4 เดือน ตกงาน ผ่อนไม่ไหว ซวยคนเซ็นค้ำ แถมปัญหามหาศาลตามมา เงินคืนแสนนึง (วีออสครับคันที่ว่า) คนที่ผ่อนไม่ไหว ทำท่างอแง จะเอาไว้เอง บอกเป็นสิทธิ์ของผม ทะเลาะกับคนค้ำ (ญาติห่างๆ) ที่ต้องซวยมาผ่อนต่อ ทั้งที่ไม่ได้อยากซื้อ
ไหนจะเอกสารกรรมสิทธิ์ถือครอง เพราะคนซื้อหลังจากนี้ก็ไม่ได้ใช้รถคันนี้แล้ว แถมมาเกี่ยงกันอีกเรื่อง ถ้าเกิดอุบัติเหตุทำไง ใครรับผิดชอบ โน่น นี่ นั่น
ขอคำแนะนำด้วยจักขอบพระคุณมากๆครับ
นี่แหละเป็นเรื่องที่ผมกังวลอย่างมากมาย ประเด็นเรื่องรถติดก็ส่วนหนึ่ง แต่กังวลเรื่องปัญหาหนี้เสียมากกว่า
หลายคนทำงานไม่นาน มีคืนภาษี ซื้อๆ ไว้ก่อน ไม่รู้ว่า ไหวไหม และไฟแนนซ์เองก็ดูแค่รายได้ น้อยนักที่จะไปสืบว่าเงินเหลือไหม
ผมเชื่อว่า ปัจจุบัน คนทำงาน เงินเดือน 2-30000 บาท ไม่มีเงินเก็บแน่นอน ไหนจะค่าใช้จ่าย ไหนจะ ผ่อนอุปกรณ์ต่างๆ
เพราะผมเชื่อว่า คนเงินเดือนเกิน 20000 แทบทุกคน จะต้องมี smart phone หรือ ipad หรือ notebook พวกนี้
แค่ผ่อนพวกนี้ แล้วก็ผ่อนโน่นนี่นั่น ไม่รวมพวกซื้อบ้านอีก คงไม่ไหว เอารถก่อน ผ่อนรถอย่างถูกๆ ก็ 6-7000 ขึ้นไป
ถ้าเงินเดือน 30000 ก็ 25% แล้ว ในขณะที่ตอนยังไม่มีรถ อย่างที่ผมคิด ก็ไม่เหลือเงินแล้ว ไหนจะน้ำมัน ทางด่วน ประกัน ซ่อมบำรุง
เพราะคนพวกนี้ ยังไม่เคยมีรถ ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่ คิดแต่เรื่องเงินคืน
ผมเชื่อว่าปีหน้ารถจะโล่งขึ้น เพราะคนผ่อนไม่ไหว ต้องเอารถหนีบ้าง ทิ้งบ้าง โดนยึดบ้าง
และยังงงอยู่ว่า หากผ่อนไม่ไหว โดนยึด หรือทิ้งจริงๆ รถจะทำไง เพราะโอนไม่ได้ หรือโอนได้ โดยไฟแนนซ์
แล้วคนที่ได้เงินคืนไป ก็ถือว่าเป็นหนี้รัฐ หรืออย่างไร แล้วไฟแนนซ์ต้องรับผิดชอบอะไรไหม เพราะเป็นคนปล่อยกู้
ยังสับสนอยู่จริงๆ
ยังไงหากใครจะซื้อรถก็ขอให้คิดดีๆ ว่าเงินเหลือจริงๆ เถอะครับ รัฐก็ไม่เตือนหรือพูดเรื่องนี้เลย โปรโมทแต่ได้เงินคืน
เศร้าใจ ประเทศไทย กลัวฟองสบู่แตกกลายๆ แล้วเราจะแย่ตอน AEC จริงๆ :'(
-
แจกอะไรมาคืนอะไรมาผมก็รับไว้หมดล่ะครับ ดีกว่าให้เขาเอาไปกินกันอย่างเดียว
ไม่ได้ว่าใครเป็นพิเศษนะครับ มันเป็นกันทุกยุคทุกสมัย
อยู่กันแบบตามๆกันไป ไม่ถูกต้องนักแต่มันก็จะไม่วุ่นวายครับ......... ;)
-
เฉพาะรถที่เข้าข่ายโครงการ ภาษีรถคันแรก ก็50000คันแล้วม่าง แล้วอีก5ปี ค่อยมาซื้อใหม่ :)
-
ผมมีเงินได้มากกว่า 60K ต่อเดือน ทุกวันนี้ยังไม่มีรถเป็นของตัวเองเลยครับ อาศัย ขสมกตลอด
อีก 2-3 ปีก็น่าจะเป็นโอกาสอันดีในการหาซื้อรถมือสองสภาพดี ราคาถูกนะครับ ;D
-
ตอนไปในงาน Motor Expo ผมโดนนักข่าวมาสัมภาษณ์ด้วยว่าคิดไงกะ นโยบายคืนเงิน 1 แสน
-
เพื่อนผมคนนึง เงินเดือน15000 เพิ่งถอย มิราจ ออกมาขับ (ให้พี่ชายค้ำ)
ถามว่าผ่อนไหวเหรอ ไหวดิ เดือนไม่กี่พันเอง เงินเหลือตั้งเยอะ
แล้วถามต่อไปว่า ไอแพดก็ผ่อนอยู่นี่ แล้วเติมน้ำมันเดือนนึงเท่าไหร่ เดือนนึงจะเหลือเก็บเท่าไหร่กัน มันก็นิ่งๆไปแล้วบอก เหลืออยู่แล้ว
ผมไม่พูดอะไรต่อ เพราะใจผมคิดว่าไม่น่าพ้นกลางปีหน้ามันต้องขายทิ้ง แถมมันไม่มีรายได้อย่างอื่นเสริมด้วย ที่ออกรถมีเหตุผลเดียวคือได้ภาษีคืน
เวรกรรมแท้ๆ ;D
-
1.รถติดเพิ่มขึ้น โชคดี ผมไม่ต้องเข้าเมือง
2.รัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายคืนภาษี eco car หลังจากบริษัทแม่จ่ายค่าภาษีรถให้รัฐบาลไงครับ
มันก็ถูกครับว่าเอาเงินที่บริษัทรถจ่ายให้รัฐบาลมาจ่าย
แต่เงินตรงนี้มันเคยเป็นรายได้ของรัฐ เอาไปจ่ายไปพัฒนาไปหมุน ไปจ่ายหนี้ ตอนนี้รายได้ตอนนี้หายไป ต้องเอาไปจ่ายใหประชาชน
ท่านๆอาจจะมองว่ารัฐบาลไม่ต้องจ่ายอะไร มันก็ถูก แต่รัฐบาลเสียรายได้มันก็ใช่
เหมือนคุณมีรายได้แสนนึงต่อเดือน ต่อมาถูกหั่นไป 50000 เอาไปจ่ายให้ใครสักคน
งานนี้คนที่ได้จริงๆเป็นใครก็รู้ๆอยู่ ไม่ต้องลงทุนสักบาทแต่ได้คะแนนเต็ม ไม่พูดนะครับเดี๋ยวโดนหาว่าเข้าการเมือง
-
รอดูครับว่าจบงานแบ่งประเภทรถแล้ว พวกที่เข้าข่ายรถคันแรกจะอยู่ที่ Ratio เท่าไหร่..
เห็นแล้วน่าห่วงครับ
-
นี่แหละคือตัวฉุด แรกๆถามว่าไหวมั้ยทุกคนก็ต้องตอบว่าผ่อนไหวแต่ไม่ได้คิดถึงค่าน้ำมันและค่าเสื่อมกันบ้างเลย คิดแค่ว่าได้เงินแสนคืน ลองกลับความคิดดูนะครับแค่คืนเงินแสนเดียวแลกกับค่าใช้จ่ายต่างๆที่มันเกินหนึ่งแสนมันคุ้มมั้ย?? ถูกมั้ยครับ ถ้าติดBlacklistทั้งประเทศเพราะเงินคืนหนึ่งแสนบาทคงฮาน่าดู ;D
-
บูต Honda คนเยอะมากอย่างกับมีรถแจกฟรีอย่างนั้นเหละ จะเยอะไปไหน >:(
-
นี่แหละคือตัวฉุด แรกๆถามว่าไหวมั้ยทุกคนก็ต้องตอบว่าผ่อนไหวแต่ไม่ได้คิดถึงค่าน้ำมันและค่าเสื่อมกันบ้างเลย คิดแค่ว่าได้เงินแสนคืน ลองกลับความคิดดูนะครับแค่คืนเงินแสนเดียวแลกกับค่าใช้จ่ายต่างๆที่มันเกินหนึ่งแสนมันคุ้มมั้ย?? ถูกมั้ยครับ ถ้าติดBlacklistทั้งประเทศเพราะเงินคืนหนึ่งแสนบาทคงฮาน่าดู ;D
เห็นด้วยครับ คนเรามักคิดกันเเบบนี้ เลยลืมมองเรื่องความจำเป็นเเละภาระต่างๆที่เข้ามา รุ่นน้องผมเงินเดือน 14k เเค่นัน้ยังคิดจะซื้อเลย ผมเงินเดือน 30k ยังไม่มากไม่น้อยยังไม่สนเลย เก็บไว้กินเที่ยวสบายใจกว่าเยอะครับ คืนภาษีเเสนนึงได้รถมาก็มาจอดเเช่กลางถนน เผาน้ำมันเล่นเพือ่อะไร ? ทุกวันนี้ว่าเเย่เเล้ว ปีหน้ารถทยอยส่งมอบกันเยอะขึ้น ไม่นรกเหรอ รถกินน้ำมันไม่ใช่น้ำเปล่า จอดทิ้งไว้ก็ไม่ดี นาทีนี้เห็นเเต่ข้อสีย ยกเว้นคนที่จำเป็นจริงๆ ก็อีกเรื่อง ต้องชั่งน้ำหนักดูละครับ
-
แหม บางท่านก็
ให้โอกาศคนอยากมีรถบ้างเถอะครับ ยิ่งมีนโนบายรถคันแรกออกมา ก็ต้องคว้าไว้
ในเมื่อการเดินทางในเมืองมันไม่ค่อยปลอดภัย ทั้งรถเมลล์ รถตู้ หรืออาจรวมถึง แท๊กซี่ กับพี่วินชอบมุด ;D
พูดถูกครับ รถจะติดก็ช่างมัน เห็นใจคนที่เค้าอยากมีรถบ้างครับ อย่าเพิ่งคิดว่ามันจะแย่อย่างไร เค้าได้ประโยชน์ครับ
แต่ถ้าผ่อนไม่ไหวก็คงยุ่งน่าดู แต่ผมว่าเป็นเรื่องดีครับ รถคันแรกเนี่ย ผมคิดว่าคนที่ซื้อคือคนที่คิดจะมีรถอยู่แล้ว. คนที่ไม่ได้คิดจะมีรถหรือไม่มีเงินผ่อนก็คงไม่เยอะหรอกครับ
-
น่าจะมีรายละเอียดบอกนะคับ ว่าจองรุ่นไหนกันบ้าง กี่คัน
-
1.รถติดเพิ่มขึ้น โชคดี ผมไม่ต้องเข้าเมือง
2.รัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายคืนภาษี eco car หลังจากบริษัทแม่จ่ายค่าภาษีรถให้รัฐบาลไงครับ
มันก็ถูกครับว่าเอาเงินที่บริษัทรถจ่ายให้รัฐบาลมาจ่าย
แต่เงินตรงนี้มันเคยเป็นรายได้ของรัฐ เอาไปจ่ายไปพัฒนาไปหมุน ไปจ่ายหนี้ ตอนนี้รายได้ตอนนี้หายไป ต้องเอาไปจ่ายใหประชาชน
ท่านๆอาจจะมองว่ารัฐบาลไม่ต้องจ่ายอะไร มันก็ถูก แต่รัฐบาลเสียรายได้มันก็ใช่
เหมือนคุณมีรายได้แสนนึงต่อเดือน ต่อมาถูกหั่นไป 50000 เอาไปจ่ายให้ใครสักคน
งานนี้คนที่ได้จริงๆเป็นใครก็รู้ๆอยู่ ไม่ต้องลงทุนสักบาทแต่ได้คะแนนเต็ม ไม่พูดนะครับเดี๋ยวโดนหาว่าเข้าการเมือง
ถูกต้องงงง
-
คิดว่าสาเหตุที่จองเยอะ
1. คนชอบซื้อรถปลายปีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพื่อไปจดทะเบียนป้ายดำ มกราปีหน้า
2. นโยบายรถคันแรก บางคนก็ไม่เชื่อว่าจะคืนให้จริง
พอเริ่มมีคนได้คืนบ้างแล้วหลังจากใช้มา 1 ปี เริ่มสนใจจะหาจองเพื่อรับสิทธิ์กัน
3. ปีนี้รถแห่เปิดตัว หรือปรับรุ่นถี่มากๆ โดยเฉพาะค่ยที่โดนน้ำท่วมไปหมาดๆ
สิ่งที่ตามมา
1. จำนวนรถเพิ่มขึ้น จากชั่วโมงเร่งด่วนเดิม 7-9 กับ 17-19
เดี๋ยวนี้กลายเป็น 6-10 15-20 แทบจะเรียกได้ว่าทั้งวัน
2. จอดรถหน้าบ้านมากขึ้น คนที่ใช้สิทธิ์แล้วเอาคันเก่าไปขายเพื่อเปลี่ยนรถ คงไม่ก่อปัญหาเท่าไหร่
แต่ถ้าไม่มีที่จอดพอในบ้าน แล้วใช้สิทธิ์ เพิ่มน้องเล็กในบ้านมาอีกคันโดยไม่จำเป็น อันนี้ลำบากถึงข้อ 1 แน่นอน
3. ไฟแนนซ์ต้องเข้มงวดมากขึ้น หลังๆมาเหมือนคนซื้อผ่อนเงินเดือนต้องถึงเกณฑ์ด้วยนะ
4. เริ่มมีคนเบี้ยวผ่อนไม่ไหวบ้างแล้ว
5. ใครชอบซื้อรถหวังขายต่อ ทำใจได้เลย อีกหน่อยราคารถคงไม่หนีกันนักหรอก มีรถใหม่สภาพดีให้เลือกจิ้มเพียบ
-
ตราบใดที่พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันออก และลงทางตะวันตก
ย่อมมีคนบ่นว่า ทำไมแดดมันร้อนอย่างนี้ทำอะไรไม่ได้เลยมันร้อน
และอีกซีกโลกก็จะบอกว่าทำไมมันมืดอย่างนี้ ทำอะไรไม่ได้เลยเพราะมันมืด
มองโลกให้มีความสุขกันดีกว่าครับ ^_^
-
ภาวนา ให้ 70,000 คันเนี่ย อย่าจดทะเบียน เป็นป้าย กทม หมดเลย จินตนาการไม่ออก ว่ารถมันจะติดเพิ่มอีกแค่ไหน
-
1.รถติดเพิ่มขึ้น โชคดี ผมไม่ต้องเข้าเมือง
2.รัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายคืนภาษี eco car หลังจากบริษัทแม่จ่ายค่าภาษีรถให้รัฐบาลไงครับ
มันก็ถูกครับว่าเอาเงินที่บริษัทรถจ่ายให้รัฐบาลมาจ่าย
แต่เงินตรงนี้มันเคยเป็นรายได้ของรัฐ เอาไปจ่ายไปพัฒนาไปหมุน ไปจ่ายหนี้ ตอนนี้รายได้ตอนนี้หายไป ต้องเอาไปจ่ายใหประชาชน
ท่านๆอาจจะมองว่ารัฐบาลไม่ต้องจ่ายอะไร มันก็ถูก แต่รัฐบาลเสียรายได้มันก็ใช่
เหมือนคุณมีรายได้แสนนึงต่อเดือน ต่อมาถูกหั่นไป 50000 เอาไปจ่ายให้ใครสักคน
งานนี้คนที่ได้จริงๆเป็นใครก็รู้ๆอยู่ ไม่ต้องลงทุนสักบาทแต่ได้คะแนนเต็ม ไม่พูดนะครับเดี๋ยวโดนหาว่าเข้าการเมือง
ผมว่าตรรกะมันผิดนะครับ ก็หลายๆท่านก็บอกเองว่า ยอดจองที่เพิ่มขึ้นมา
มันมาจากนโยบายรถคันแรก ดังนั้นแสดงว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลก็ไม่ได้มีรายได้ในส่วนนี้อยู่แล้ว
เพราะยอดจองรถมันไม่ได้เยอะเท่าตอนนี้
นั่นก็แสดงว่ามันไม่ใช่ว่าคุณเคยมีรายได้แสนนึงแล้วถูกหั่นไป 50,000
แต่แสดงว่าคุณเคยมีรายได้ 50,000 แต่วันนี้คุณมีรายได้ 100,000
แต่ส่วนที่ได้เพิ่มขึ้นมาคุณต้องเอาไปให้พ่อแม่ของคุณแค่นั้นเอง
เท่ากับคุณมีรายได้ 50,000 เท่าเดิมครับ ไม่ได้หายไปไหน
-
เป็นยอดขายที่น่าดีใจด้วยกับบริษัทผลิตรถยนต์
แต่ ต้องเสียใจกับรถที่เพิ่มขึ้นมากขนาดนี้ บนถนนที่มีเท่าเดิม เพราะต้องใช้เวลาบนถนนมากขึ้นและกลับบ้านลาพักผ่อนที่ลดน้อยลงเพราะต้องออกจากบ้านเช้าขึ้นและกลับบ้านดึกขึ้น
:'(
-
จิงๆมันขายรถได้ก่อน5ปีนะครับ
แต่ต้องคืนเงินที่ได้จากรัฐไปอ่ะคับ
-
ได้แต่ทำใจ
กับรถที่โครตติดมากๆ ณ ตอนนี้และอนาคตอันแสนใกล้
-
ภาวนา ให้ 70,000 คันเนี่ย อย่าจดทะเบียน เป็นป้าย กทม หมดเลย จินตนาการไม่ออก ว่ารถมันจะติดเพิ่มอีกแค่ไหน
7 หมื่นคัน ก็ 7 หมวดทะเบียนเต็มๆ เพลียมาก ตอนนี้ 1กฐ แล้ว ไม่ถึงสองเดือนที่แล้วยัง 1กก อยู่เลย
-
1.รถติดเพิ่มขึ้น โชคดี ผมไม่ต้องเข้าเมือง
2.รัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายคืนภาษี eco car หลังจากบริษัทแม่จ่ายค่าภาษีรถให้รัฐบาลไงครับ
มันก็ถูกครับว่าเอาเงินที่บริษัทรถจ่ายให้รัฐบาลมาจ่าย
แต่เงินตรงนี้มันเคยเป็นรายได้ของรัฐ เอาไปจ่ายไปพัฒนาไปหมุน ไปจ่ายหนี้ ตอนนี้รายได้ตอนนี้หายไป ต้องเอาไปจ่ายใหประชาชน
ท่านๆอาจจะมองว่ารัฐบาลไม่ต้องจ่ายอะไร มันก็ถูก แต่รัฐบาลเสียรายได้มันก็ใช่
เหมือนคุณมีรายได้แสนนึงต่อเดือน ต่อมาถูกหั่นไป 50000 เอาไปจ่ายให้ใครสักคน
งานนี้คนที่ได้จริงๆเป็นใครก็รู้ๆอยู่ ไม่ต้องลงทุนสักบาทแต่ได้คะแนนเต็ม ไม่พูดนะครับเดี๋ยวโดนหาว่าเข้าการเมือง
ผมว่าตรรกะมันผิดนะครับ ก็หลายๆท่านก็บอกเองว่า ยอดจองที่เพิ่มขึ้นมา
มันมาจากนโยบายรถคันแรก ดังนั้นแสดงว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลก็ไม่ได้มีรายได้ในส่วนนี้อยู่แล้ว
เพราะยอดจองรถมันไม่ได้เยอะเท่าตอนนี้
นั่นก็แสดงว่ามันไม่ใช่ว่าคุณเคยมีรายได้แสนนึงแล้วถูกหั่นไป 50,000
แต่แสดงว่าคุณเคยมีรายได้ 50,000 แต่วันนี้คุณมีรายได้ 100,000
แต่ส่วนที่ได้เพิ่มขึ้นมาคุณต้องเอาไปให้พ่อแม่ของคุณแค่นั้นเอง
เท่ากับคุณมีรายได้ 50,000 เท่าเดิมครับ ไม่ได้หายไปไหน
ตรรกะคือ ยอดจองที่เพิ่มขึ้นมา มาจากคนประเภทคล้ายกับตัวอย่างนี้
นี่แหละคือตัวฉุด แรกๆถามว่าไหวมั้ยทุกคนก็ต้องตอบว่าผ่อนไหวแต่ไม่ได้คิดถึงค่าน้ำมันและค่าเสื่อมกันบ้างเลย คิดแค่ว่าได้เงินแสนคืน ลองกลับความคิดดูนะครับแค่คืนเงินแสนเดียวแลกกับค่าใช้จ่ายต่างๆที่มันเกินหนึ่งแสนมันคุ้มมั้ย?? ถูกมั้ยครับ ถ้าติดBlacklistทั้งประเทศเพราะเงินคืนหนึ่งแสนบาทคงฮาน่าดู ;D
เนื่องจากเสียดาย 1 แสน แต่คนที่ไม่เคยมีรถ อาจไม่ทราบว่ามีค่าใช้จ่ายหลายอย่างตามมาอีกมากมาย แล้วต่อไปก็เงินหมุนไม่ทัน ก็เกิด NPL ก็เกิดฟองสบู่
ผมว่าน่าจะประมาณนี้นะครับ อิอิ
-
ถ้า!เป็นผมได้เงินคืน ก็ยังจะผ่อนต่อ เพราะเป็นรถคันแรกของผม เงินที่ได้คืน เป็นแค่แรงจูงใจในการตัดสินใจซื้อ เราจงเชื่อในความดีเถิด คนอื่นที่ซื้อเค้าก็อยากได้รถคันแรกเหมือนกัน ไม่น่าจะมีใครตั้งใจซื้อ.พอได้เงินคืนแล้วก็ไม่ผ่อนต่อ ไม่น่านะ!! ;D ;D ;D ;D
-
:) รู้สึกยินดีกับคนที่จะได้มีรถใหม่ขับ เพราะผมก็เคยอยู่ในจุดนั้น
ต้องมาทำงาน กทม. นั่งมอไซด์รับจ้าง (เสี่ยงมาก ไม่รู้จะพาไปล้มวันไหน) ไหนจะต้องแบกโน๊ตบุ๊ค กระเป๋า ขึ้นรถเมล์อีก
พอได้รถมาขับ ก็สบายใจ สุขภาพดีขึ้น ไม่ต้องแบกของหนัก ไม่ต้องวิ่งแย่งขึ้นรถเมล์ (ซื้อก่อนโครงการ ไม่ได้เงินแสนคืนนะครับ) :-\
... เป็นไปได้ ก็อยากกลับไปอยู่บ้าน ตจว. นะครับ แต่ทำไงได้ หน่วยงานราชการต่างๆ หลักๆ ก็อยู่ใน กทม. ถ้าผู้ใหญ่เข้าใจ และพึงคิดได้ถึงจุดนี้ คงจะดี
จะได้กระจายเจ้าหน้าที่ๆ มีภูมิลำเนาอยู่ ตจว. ให้โอนย้ายกลับบ้าน หรือ อยู่ใกล้บ้านให้ง่ายมากยิ่งขึ้น
คงจะพอลดจำนวน รถยนต์ ใน กทม. ได้บ้างน่ะครับ :) ก็ได้แต่หวังเล็กๆ (เพราะการย้ายกลับบ้าน สังคมไทย ยังระบบอุปถัมป์อยู่เยอะเลย)
-
เยอะมากกกกก ;D
-
เงิน 1 แสน ก็คงไม่คืน ในกรณีไม่สามารถผ่อนต่อได้
คงเอาไปซื้อ iphone ipad ipad imac เรียบร้อยแล้ว
ถ้าผ่อนไหวก็คงเอาเงิน 1 แสนมาผ่อนแล้วครับ
-
เรื่องรถติดมากขึ้นไม่ขอให้ความเห็นเพราะทุกคนมีสิทธิใช้ถนน น่าห่วงเรื่องที่จอดรถมากกว่าเพราะบางคนไม่พร้อมเรื่องนีทำให้เดือดร้อนบ้านใกล้เรือนเคียงกับเรื่องผ่อนไม่ไหวแล้วมาเดือดร้อนคนค้ำ เพื่อนฝูง ที่ทำงาน
สำหรับผมจะซื้อรถก็ต่อเมื่อผ่อนสบายไม่ใช่แค่ผ่อนไหว ชีวิตไม่ได้แค่เรื่องรถเรื่องเดียว รอตบพวกผ่อนไม่ไหวดีก่า หุหุหุ
-
รอสอยพวกผ่อนไม่ไหวเช่นกัน
แถวๆรอบตัวมีไม่ต่ำกว่า3คันและ แต่โทรมๆทั้งนั้น :-\
-
น่าดีใจตรงไหน ภาษีที่ขายรถยนต์เอามาทำถนนเพิ่มพอรับได้ แต่นี้ไม่ทำเอาไป.....
มิตรภาพขาขึ้นโคราชพังแล้ว พังอีก ไม่รู้จะพังไปถึงไหนถึงจะทำใหม่ หลุมก็เยอะ สีก็ถลอกหมด เฮ้อไม่มีความพอดีสักอย่าง
-
เป็นผมจะนึกเอาง่ายๆจากชีวิตปรกติ เงินเดือน 20000 ใช้จ่ายไปเหลือ 9000 เห็นภาพการเห็นค่าเงินที่จะเอาไปทำบุญบ้าง ซื้อประกันบ้าง หรือทำอะไรๆสบายใจ และใช้ขนส่งมวลชนห่วยๆที่มีแต่ชินแล้วเพราะนั่งทุกวัน กับ 9000 ผ่อนรถ 7000 เหลือสองพัน ปีแรกไม่มีประกันต้องจ่ายหรือจ่ายแล้วแต่ญี่ห้อที่ซื้อ ปีที่สองจ่ายเต็ม ค่าน้ำมัน2000พอดี คิดอย่างเดียวว่า ตอนนี้ต้องประหยัด และคิดว่ามันจะดีขึ้นที่มีรถ สบายขึ้น กลายเป็นมานั่งเมื่อยขา เมื่อยหลัง เครียด ถ้าค่าน้ำมันเกิน 2000 จะทำไงหว่า ปีที่สามต้องซื้อยางรถยนต์เปลี่ยนด้วยตามอายุ เครียดเรื่อยๆแทนที่จะเหลือเงินกลายเป็นเต็มกลืน ซ้ำจะขายหรือหนีก็ไม่ได้ เพราะจนไม่ลง คนค้ำ หรือเพื่อนบ้านก็จะเอามาพูดแบบนี้ ว่าเราผ่อนไม่ไหว สรุป 100000 บาทที่จะได้มากับทุกข์ที่จะมีในใจ ถ้าได้โบนัส 3 เดือนขึ้นไปก็คงดี ซื้อดีกว่าเดี๋ยวคนว่าโง่ไม่ยอมซื้อ ตั้งแสนนึง
-
อยากถามว่า ที่บางท่านบอกว่า รถติดมากขึ้น ทุกวันนี้ท่านใช้ยานพาหนะใดอยู่
คนที่ต้องการซื้อรถใหม่ เพราะความจำเป็นหรือเหตุผลใดก็ตามแต่
ท่านมองคนเหล่านี้คือ ผู้สร้างปัญหาให้กับท่าน หรือเป็นภาระของท่านหรือ
ถนน ใครคือผู้มีสิทธิในการใช้งาน ............
-
อยากถามว่า ที่บางท่านบอกว่า รถติดมากขึ้น ทุกวันนี้ท่านใช้ยานพาหนะใดอยู่
คนที่ต้องการซื้อรถใหม่ เพราะความจำเป็นหรือเหตุผลใดก็ตามแต่
ท่านมองคนเหล่านี้คือ ผู้สร้างปัญหาให้กับท่าน หรือเป็นภาระของท่านหรือ
ถนน ใครคือผู้มีสิทธิในการใช้งาน ............
เห้นด้วย คนที่ใช้รถทุกคนคือคนที่ทำให้รถติดแหละ ใครใคร่ซื้อ ซื้อ ไปเห้อะะ...
-
ผมว่าตรรกะก็ยังไม่ถูกนะครับ
ไม่ใช่ว่ามีรายได้ 50000 เท่าเดิมครับ แต่รายได้มมันหยไปหมดเลย
คุณลองคิดก่อนนั้นคนมันก็ซื้อรถ 1500 หรือรถอีโคคาร์กันอยู่แล้ว ซึ่งรัฐก็ได้รายได้ส่วนนี้สมมติคนจอง 10000 คัน คิดง่ายๆเป็นเลขกลมๆ คันละแสน
รัฐได้ 10000 * 100,000
แต่พอมีนโยบายนี โอเคคนจองเยอะขึ้น จากเดิม 10000 คันเป็น 20000 คัน รัฐเสียรายได้ของเดิมที่ควรจะได้ใน 10000 คันแรกไปนะครับ
กลับกลายเป็นรายได้รถ 1500 CC ลงมา รัฐเสียรายได้ไปหมดเลย จากที่ควรจะได้
ไม่ใช่รัฐได้รายได้เท่าเดิมครับ ลองคิดดูใหม่
ผมว่าตรรกะมันผิดนะครับ ก็หลายๆท่านก็บอกเองว่า ยอดจองที่เพิ่มขึ้นมา
มันมาจากนโยบายรถคันแรก ดังนั้นแสดงว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลก็ไม่ได้มีรายได้ในส่วนนี้อยู่แล้ว
เพราะยอดจองรถมันไม่ได้เยอะเท่าตอนนี้
นั่นก็แสดงว่ามันไม่ใช่ว่าคุณเคยมีรายได้แสนนึงแล้วถูกหั่นไป 50,000
แต่แสดงว่าคุณเคยมีรายได้ 50,000 แต่วันนี้คุณมีรายได้ 100,000
แต่ส่วนที่ได้เพิ่มขึ้นมาคุณต้องเอาไปให้พ่อแม่ของคุณแค่นั้นเอง
เท่ากับคุณมีรายได้ 50,000 เท่าเดิมครับ ไม่ได้หายไปไหน
-
ผมว่าตรรกะก็ยังไม่ถูกนะครับ
ไม่ใช่ว่ามีรายได้ 50000 เท่าเดิมครับ แต่รายได้มมันหยไปหมดเลย
คุณลองคิดก่อนนั้นคนมันก็ซื้อรถ 1500 หรือรถอีโคคาร์กันอยู่แล้ว ซึ่งรัฐก็ได้รายได้ส่วนนี้สมมติคนจอง 10000 คัน คิดง่ายๆเป็นเลขกลมๆ คันละแสน
รัฐได้ 10000 * 100,000
แต่พอมีนโยบายนี โอเคคนจองเยอะขึ้น จากเดิม 10000 คันเป็น 20000 คัน รัฐเสียรายได้ของเดิมที่ควรจะได้ใน 10000 คันแรกไปนะครับ
กลับกลายเป็นรายได้รถ 1500 CC ลงมา รัฐเสียรายได้ไปหมดเลย จากที่ควรจะได้
ไม่ใช่รัฐได้รายได้เท่าเดิมครับ ลองคิดดูใหม่
ผมว่าตรรกะมันผิดนะครับ ก็หลายๆท่านก็บอกเองว่า ยอดจองที่เพิ่มขึ้นมา
มันมาจากนโยบายรถคันแรก ดังนั้นแสดงว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลก็ไม่ได้มีรายได้ในส่วนนี้อยู่แล้ว
เพราะยอดจองรถมันไม่ได้เยอะเท่าตอนนี้
นั่นก็แสดงว่ามันไม่ใช่ว่าคุณเคยมีรายได้แสนนึงแล้วถูกหั่นไป 50,000
แต่แสดงว่าคุณเคยมีรายได้ 50,000 แต่วันนี้คุณมีรายได้ 100,000
แต่ส่วนที่ได้เพิ่มขึ้นมาคุณต้องเอาไปให้พ่อแม่ของคุณแค่นั้นเอง
เท่ากับคุณมีรายได้ 50,000 เท่าเดิมครับ ไม่ได้หายไปไหน
คนซื้อรถ 1.5 eco car ที่ไม่ได้เอาภาษีคืนก็เยอะอยู่นะครับ ไม่ได้น้อยลงเท่าใหร่เลย เพียงแต่พวกเอาภาษีคืนที่เพิ่มขึ้นมาดันเยอะกว่า ไม่ใช่ว่าทุกคนมีสิทธิได้คืน ถึงแม้บางคนจะพยายามหาพี่ป้าน้าอาที่ยังไม่เคยมีรถมาก่อนแล้วก็ตาม
-
ที่แน่ๆปีหน้ายอดขายต่ำกว่าปีนี้แน่
และไม่แน่ผมว่า เซลล์จะออกจากงาน
เพราะขายรถยาก ไม่มีค่าคอม ลำพังเงินเดือน
เซลล์อยู่ไม่ได้แน่
-
ตอนผมทำงานอยู่ชลเมื่อปีที่แล้ว อย่างมากไม่เกิน 2 ทุ่ม ถนนก็ค่อนข้างว่างแล้ว
เดี๋ยวนี้งงเลย 4 ทุ่มทำไมรถมานเยอะจังวะ
แต่ไม่เปนไร เข้าใจคนอยากมีรถ
ระบบคมนาคมในประเทศไทยยังไม่มีคนเก่งๆ
หรือเป็นนโยบายหลักๆที่จะเข้ามาดูแล ก็ทนกันต่อไป
วางแผนวันนี้ อีก 10 ปีถึงจะเห็นผล
แต่วันนี้ยังไม่มีแผน ชาตินี้คงต้องทนต่อไป อิอิ
-
ไอเรื่องรถติดผมเฉยๆนะ เพราะชิน 5555+
คนที่ไม่เคยมีรถเค้าก็อยากจะมีเหมือนเราๆแหละครับ
ใจเค้าใจเรานะ ตอนเราไม่มีเรายังอยากมีเลย พอมีก็อยากได้คนโน้นเพิ่ม คนนี้เพิ่ม
อยากเปลี่ยนรถ แล้วยิ่งได้ภาษีคันแรกด้วยผมเชื่อเลย
คนรวยๆบางคนยังอยากใช้สิทเลย เงิน 100,000 บาทฟรีๆ ใครจะไม่อยากได้
-
น่าดีใจตรงไหน ภาษีที่ขายรถยนต์เอามาทำถนนเพิ่มพอรับได้ แต่นี้ไม่ทำเอาไป.....
มิตรภาพขาขึ้นโคราชพังแล้ว พังอีก ไม่รู้จะพังไปถึงไหนถึงจะทำใหม่ หลุมก็เยอะ สีก็ถลอกหมด เฮ้อไม่มีความพอดีสักอย่าง
แหม ท่าน ต่อให้คนเก่งขนาดไหนก็ดูแลไม่ทั่วถึงหรอก ท่าน
ส่วนที่บอกว่าผ่อนไม่ไหว ถ้ารถโดนยึดก็ต้องคืน 100000 ให้ รัฐแล้วรถถึงเปลีั่ยนชื่อได้ ถ้าจำไม่ผิดนะ
ส่วนคนที่คิดว่าผ่อนไหว แต่กลับไม่ไหว ก็จำไว้ เลี้ยงไม่ดูกำลังแขก แดกไม่ดูกำลังขา ถ้าพูดตรงไปขออภัยครับ
้
-
รอซื้อมือสอง ;D
-
ลูกน้องที่บริษัท ออกรถเพราะคืนภาษี มา 4 คนแระ ได้รถมา 2 คน อีก 2 คนรอสวิฟ 1ใน2ที่ออกรถมาแล้ว ผ่อนไม่ไหวแล้ว แถมอยู่ๆก็ออกจากบริษัทไปแล้ว วันนึงโทรมาขอเงินเดือนที่ทำไว้ 10 วัน บ.ไม่จ่ายเพราะออกไปโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ต่อรองขอ 1000 เดียวก็ได้เพราะไม่มีเงินจะกิน ผมบอกเอารถมาจำนองไว้ไหมหละ(พูดไปงั้นจริงๆไม่รับหรอก ไม่คุ้ม) มันบอกว่า ไม่เอาครับ ไม่มีรถไปไหนไม่สะดวก ผมหละขำ ไม่มีจะแ_ก แต่มีเงินเติมน้ำมัน
-
ลูกน้องที่บริษัท ออกรถเพราะคืนภาษี มา 4 คนแระ ได้รถมา 2 คน อีก 2 คนรอสวิฟ 1ใน2ที่ออกรถมาแล้ว ผ่อนไม่ไหวแล้ว แถมอยู่ๆก็ออกจากบริษัทไปแล้ว วันนึงโทรมาขอเงินเดือนที่ทำไว้ 10 วัน บ.ไม่จ่ายเพราะออกไปโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ต่อรองขอ 1000 เดียวก็ได้เพราะไม่มีเงินจะกิน ผมบอกเอารถมาจำนองไว้ไหมหละ(พูดไปงั้นจริงๆไม่รับหรอก ไม่คุ้ม) มันบอกว่า ไม่เอาครับ ไม่มีรถไปไหนไม่สะดวก ผมหละขำ ไม่มีจะแ_ก แต่มีเงินเติมน้ำมัน
ไม่ถึง6เดือนจะมีรถผ่อนกันไม่ไหวเพียบจ่กค่านิยมผิดๆ ถ้าเงินเดือนไม่ถึง 30000+ยังมีภาระผ่อนชำระอื่นๆ ไม่สมควรผ่อนรถค่ะ ไม่ไหวแน่ๆ
-
1.รถติดเพิ่มขึ้น โชคดี ผมไม่ต้องเข้าเมือง
2.รัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายคืนภาษี eco car หลังจากบริษัทแม่จ่ายค่าภาษีรถให้รัฐบาลไงครับ
มันก็ถูกครับว่าเอาเงินที่บริษัทรถจ่ายให้รัฐบาลมาจ่าย
แต่เงินตรงนี้มันเคยเป็นรายได้ของรัฐ เอาไปจ่ายไปพัฒนาไปหมุน ไปจ่ายหนี้ ตอนนี้รายได้ตอนนี้หายไป ต้องเอาไปจ่ายใหประชาชน
ท่านๆอาจจะมองว่ารัฐบาลไม่ต้องจ่ายอะไร มันก็ถูก แต่รัฐบาลเสียรายได้มันก็ใช่
เหมือนคุณมีรายได้แสนนึงต่อเดือน ต่อมาถูกหั่นไป 50000 เอาไปจ่ายให้ใครสักคน
งานนี้คนที่ได้จริงๆเป็นใครก็รู้ๆอยู่ ไม่ต้องลงทุนสักบาทแต่ได้คะแนนเต็ม ไม่พูดนะครับเดี๋ยวโดนหาว่าเข้าการเมือง
เมื่อรถเยอะขึ้น รายได้ก็เยอะขึ้นตามครับ
1.ภาษีประจำปี
2.พรบ.
3.ภาษีน้ำมัน
4.อุปกรณ์แต่งรถที่ขายได้เพิ่มมากขึ้น รัฐก็ได้จากภาษีนำเข้า vat
5.ค่าทางด่วน
การทำให้เงินหมุนนี่ผมว่าดีกว่าเงินไม่หมุนน่ะครับ
ส่วนปัญหารถติดนี่ผมว่ามันมีมานานมากกว่ายี่สิบปี่ได้น่ะครับ
ส่วนปัญหาส่งรถไม่ได้นี่ก็มีมาก่อนนโยบายรถคันแรกน่ะครับ ผมว่าอยู่ที่คนครับ นโยบายไม่ได้ผิดอะไร
-
ส่วนตัวคิดว่าข้อเสียมากกว่าข้อดีซึ่งยังไม่รวมผลกระทบที่จะตามมา
แต่ถ้ามองในมุมคนไม่มีรถและซื้อคันแรกถ้าไม่มีนโยบายนี้ชีวิตนี้ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ซื้อ เลยต้องซื้อตอนนี้ ได้รถมีความสุขมีรถขับแต่หลังจากนี้มันก็อีกเรื่องนึง
-
ลูกน้องที่บริษัท ออกรถเพราะคืนภาษี มา 4 คนแระ ได้รถมา 2 คน อีก 2 คนรอสวิฟ 1ใน2ที่ออกรถมาแล้ว ผ่อนไม่ไหวแล้ว แถมอยู่ๆก็ออกจากบริษัทไปแล้ว วันนึงโทรมาขอเงินเดือนที่ทำไว้ 10 วัน บ.ไม่จ่ายเพราะออกไปโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ต่อรองขอ 1000 เดียวก็ได้เพราะไม่มีเงินจะกิน ผมบอกเอารถมาจำนองไว้ไหมหละ(พูดไปงั้นจริงๆไม่รับหรอก ไม่คุ้ม) มันบอกว่า ไม่เอาครับ ไม่มีรถไปไหนไม่สะดวก ผมหละขำ ไม่มีจะแ_ก แต่มีเงินเติมน้ำมัน
อย่าหาว่าแรงเลยนะครับ ผมเล็งๆว่าน่าจะมีคนที่ผ่อนไม่ไหวทิ้งดาว์นให้เราผ่อนต่อแบบฟรีๆ ตอนนี้แหละคุ้มกว่าหนึ่งแสนเห็นๆครับ
-
พ่อผมสอนผมไว้ว่า "ถ้าจะซื้อรถ เราต้องมีทรัพย์สินรวมมีกว่าราคารถนั้น 10 เท่า ถึงจะไม่มีปัญหาที่เกิดจากการซื้อรถนั้น (ในกรณีที่ไม่ได้ใช้ในการประกอบอาชีพ)"
ฉนั้นทุกวันนี้ ขสมก คือเพื่อนยากของผมครับ ;D
-
ผมมีเงินได้มากกว่า 60K ต่อเดือน ทุกวันนี้ยังไม่มีรถเป็นของตัวเองเลยครับ อาศัย ขสมกตลอด
อีก 2-3 ปีก็น่าจะเป็นโอกาสอันดีในการหาซื้อรถมือสองสภาพดี ราคาถูกนะครับ ;D
เยอะกว่าผมกับเมียรวมกันสองเดือนอีกครับ
แต่ตอนนี้ผมมีท้ง บ้าน รถ ซึ่งผ่อนทั้งคู่ ไม่รวมหนี้อย่างอื่นอีก555
สนุกดีครับ ผมมั่นใจว่าผมเอาอยู่
ใช้ชีวิตประมาทหรือเปล่าไม่รู้ แต่ทุกคนในที่ทำงานผม ผมเป็นหนี้น้อยที่สุดครับ ถ้านับจากเงินเดือนที่ได้นะครับ(ขนาดนี้นะ ยังน้อยกว่าคนอื่นเลย) บางคนมีลูก ให้ลูกเดือนละเป็นหมื่นเกือบจะครึ่งของเงินเดือนละ ผมเลยไม่มีลูกดีกว่า
ผมอยู่เชียงใหม่ครับ อาจจะค่าใช้จ่ายอย่างอื่นน้อยกว่าคนในเมืองหลวง ด้วย จึงกล้าทำ
-
รถจะยิ่งแน่นหรือเปล่า?
:-\
-
ขออีกเรปนะครับพึ่งคิดได้ว่าอยากเม้น
ผมไม่มีปัญหากับคนที่จำเป็นต้องใช้รถจริงๆหรอกนะแต่จากที่ได้พบเจอ+คิดเองผมว่ามีคนออกเพราะมันลดราคา(แบบหลอกๆ?)โคตรเยอะเลย ไม่ชอบเลยคนที่ยังไม่มีศักยภาพพอแต่มีรถเนี่ยจะบอกจนก็ไม่แน่ใจว่าจะเดือดเปล่าแต่จากที่เห็นมันมีเยอะจริงๆ ???
อีดิท-อีกอย่างรถแม่งก็ไม่คุ้มเงินเลยเอาจริงๆอ่ะขับพวกซิตี้ วีออสผมยังรู้สึกดีกับคนขับพวกนี้มากกว่าทุกวันนี้ต้องติดนรกแตกกว่าจะถึงบ้านเล่นเอาคอพับสลบเลยงานไรก็ไม่ได้ทำ
-
lสรุบยอด ถึงวันที่ 10 = 78,836
แต่..... พี่ โต กะพี่ฮอน ยังไม่ส่งยอด ::)
ยี่ห้อ 29/12 30/12 1/12 2/12 3/12 4/12 5/12 6/12 7/12 8/12 9/12 10/12 Total Graph
HONDA 423 729 1,755 2,127 734 723 2,619 893 929 2,268 2,948 0 16,148
TOYOTA 648 906 1,181 1,494 901 992 2,052 841 1,319 1,907 2,720 0 14,961
NISSAN 123 265 667 928 394 389 1,125 471 493 879 1,135 1,950 8,819
ISUZU 311 380 454 579 366 423 601 409 515 686 863 861 6,448
MAZDA 0 206 501 612 296 248 715 349 378 602 867 1,381 6,155
MITSUBISHI 113 132 369 488 222 228 716 326 382 759 957 1,400 6,092
FORD 65 124 429 570 280 227 680 266 351 553 854 1,290 5,689
SUZUKI 59 148 346 404 150 138 417 173 185 317 452 605 3,394
CHEVROLET 89 108 282 410 188 157 385 188 168 295 354 591 3,215
MERCEDES-BENZ 155 70 113 138 70 103 154 87 101 137 178 274 1,580
-
มิตซู แซงมาสด้าไม่สำเร็จ แพ้ไปเฉียดฉิวจริงๆ
-
1.รถติดเพิ่มขึ้น โชคดี ผมไม่ต้องเข้าเมือง
2.รัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายคืนภาษี eco car หลังจากบริษัทแม่จ่ายค่าภาษีรถให้รัฐบาลไงครับ
มันก็ถูกครับว่าเอาเงินที่บริษัทรถจ่ายให้รัฐบาลมาจ่าย
แต่เงินตรงนี้มันเคยเป็นรายได้ของรัฐ เอาไปจ่ายไปพัฒนาไปหมุน ไปจ่ายหนี้ ตอนนี้รายได้ตอนนี้หายไป ต้องเอาไปจ่ายใหประชาชน
ท่านๆอาจจะมองว่ารัฐบาลไม่ต้องจ่ายอะไร มันก็ถูก แต่รัฐบาลเสียรายได้มันก็ใช่
เหมือนคุณมีรายได้แสนนึงต่อเดือน ต่อมาถูกหั่นไป 50000 เอาไปจ่ายให้ใครสักคน
งานนี้คนที่ได้จริงๆเป็นใครก็รู้ๆอยู่ ไม่ต้องลงทุนสักบาทแต่ได้คะแนนเต็ม ไม่พูดนะครับเดี๋ยวโดนหาว่าเข้าการเมือง
เมื่อรถเยอะขึ้น รายได้ก็เยอะขึ้นตามครับ
1.ภาษีประจำปี
2.พรบ.
3.ภาษีน้ำมัน
4.อุปกรณ์แต่งรถที่ขายได้เพิ่มมากขึ้น รัฐก็ได้จากภาษีนำเข้า vat
5.ค่าทางด่วน
การทำให้เงินหมุนนี่ผมว่าดีกว่าเงินไม่หมุนน่ะครับ
ส่วนปัญหารถติดนี่ผมว่ามันมีมานานมากกว่ายี่สิบปี่ได้น่ะครับ
ส่วนปัญหาส่งรถไม่ได้นี่ก็มีมาก่อนนโยบายรถคันแรกน่ะครับ ผมว่าอยู่ที่คนครับ นโยบายไม่ได้ผิดอะไร
ผมค่อนข้างมั่นใจว่าส่วนได้จากข้อที่คุณพูดนั่นน้อยกว่าเงินจำนวน 5 หมื่นล้านที่ต้องจ่ายคืนแน่นอนครับ
ยกตัวอย่างน้ำมันใช้มาก ก็นำเข้ามากก็ไม่ใช่เรื่องดีครับ ;)
-
ขอแสดงความยินดีกับรถคันแรกทุกคนครับ
ขอให้มีความสุขกับรถคันแรกนานแสนนานนะครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ ปัญหารถติดก็เกิดจากทุกคนที่ใช้รถละครับ
เงินคุณ รถคุณ เดือดร้อนก็คุณคนเดียว การชื้อรถของคุณ
จะนำมาถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มของธุรกิจต่อเนื่องอีกมากมาย
การจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้น คิดบวกดีกว่าครับ ;D
-
:) รู้สึกยินดีกับคนที่จะได้มีรถใหม่ขับ เพราะผมก็เคยอยู่ในจุดนั้น
ต้องมาทำงาน กทม. นั่งมอไซด์รับจ้าง (เสี่ยงมาก ไม่รู้จะพาไปล้มวันไหน) ไหนจะต้องแบกโน๊ตบุ๊ค กระเป๋า ขึ้นรถเมล์อีก
พอได้รถมาขับ ก็สบายใจ สุขภาพดีขึ้น ไม่ต้องแบกของหนัก ไม่ต้องวิ่งแย่งขึ้นรถเมล์ (ซื้อก่อนโครงการ ไม่ได้เงินแสนคืนนะครับ) :-\
... เป็นไปได้ ก็อยากกลับไปอยู่บ้าน ตจว. นะครับ แต่ทำไงได้ หน่วยงานราชการต่างๆ หลักๆ ก็อยู่ใน กทม. ถ้าผู้ใหญ่เข้าใจ และพึงคิดได้ถึงจุดนี้ คงจะดี
จะได้กระจายเจ้าหน้าที่ๆ มีภูมิลำเนาอยู่ ตจว. ให้โอนย้ายกลับบ้าน หรือ อยู่ใกล้บ้านให้ง่ายมากยิ่งขึ้น
คงจะพอลดจำนวน รถยนต์ ใน กทม. ได้บ้างน่ะครับ :) ก็ได้แต่หวังเล็กๆ (เพราะการย้ายกลับบ้าน สังคมไทย ยังระบบอุปถัมป์อยู่เยอะเลย)
ผมคนนึงล่ะ เคยทำงานย่าน สีลม สาทร พระราม9 เพราะอยู่สาย ITแต่ตอนนี้ออกมาทำงานที่บ้านเต็มที่ แถวชานเมือง
ส่วนปีหน้า ไปอยู่ชลบุรี แล้วไม่เอาแล้วกทม ผมเบื่อรถติด
-
Suzuki โหดมากมาย ชนะเชฟที่มีทั้งกระบะ , เก๋ง B-Seg C-Seg , SUV, PPV
-
ซื้อรถไม่ใช่จ่ายแค่ค่างวดรถแล้วจบกัน
ยังมีเรื่องอีกเพียบ...
-
ไม่มีถนนให้วิ่งกันแล้วครับ
-
ผมซื้อรถที่มีราคาเท่ากับรายได้ทั้งปีรวทกัน 1 ปี ครับ (หลักการอาจจะแปลก ๆ แต่ ผมสบาย ๆ กับแนวคิดนี้)
-
รอดูอีกซัก 1 ปี ว่าอะไรจะเกิดต่อไป ถนนแน่นขึ้น อุบัติเหตุบ่อยขึ้น แผนกยึดรถทำงานหนัก หมายศาลว่อน
-
ผมก็เกือบไปถอยแล้ว ว่าจะถอยวีโก้นี่แหละครับ แต่พอมานั่งคิดดู มันก็ยังไม่จำเป็นนะ ก่อหนี้ให้ตัวเองรึเปล่า เอาไว้ให้พร้อมก่อนแล้วค่อยถอยก็ได้ เลยกลับมานั่งลังเลอยู่ 55 อยากได้ก็อยากได้ อีกใจก็ยังไม่อยากเป็นหนี้ การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ
-
ลูกน้องที่บริษัท ออกรถเพราะคืนภาษี มา 4 คนแระ ได้รถมา 2 คน อีก 2 คนรอสวิฟ 1ใน2ที่ออกรถมาแล้ว ผ่อนไม่ไหวแล้ว แถมอยู่ๆก็ออกจากบริษัทไปแล้ว วันนึงโทรมาขอเงินเดือนที่ทำไว้ 10 วัน บ.ไม่จ่ายเพราะออกไปโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ต่อรองขอ 1000 เดียวก็ได้เพราะไม่มีเงินจะกิน ผมบอกเอารถมาจำนองไว้ไหมหละ(พูดไปงั้นจริงๆไม่รับหรอก ไม่คุ้ม) มันบอกว่า ไม่เอาครับ ไม่มีรถไปไหนไม่สะดวก ผมหละขำ ไม่มีจะแ_ก แต่มีเงินเติมน้ำมัน
ไม่ถึง6เดือนจะมีรถผ่อนกันไม่ไหวเพียบจ่กค่านิยมผิดๆ ถ้าเงินเดือนไม่ถึง 30000+ยังมีภาระผ่อนชำระอื่นๆ ไม่สมควรผ่อนรถค่ะ ไม่ไหวแน่ๆ
ประเด็นนี้ละครับที่อยากจะสื่อ ไม่ได้ว่าไม่เห็นใจคนที่ไม่เคยมีรถ เเตคุณก้ต้องเเน่ใจด้วยว่ามีเเล้วคุณมีปัญญารับภารภค่าใช้จ่ายจิง ไม่ต้องเดือดร้อนคนอื่น
-
ถ้ารถมือสอง ดอกเบี้ยเท่ารถมือหนึ่ง ผมก็คน 1 ละที่ซื้อรถมือสอง นี่รถมือหนึ่งดอกถูกป็นกว่าเเท่าตัว แถม ได้ลด 1แสนเอาไว้เป็นกำลังในการผ่อน แค่นี้ก็ต้องกัดฟันเอารถใหม่ สู้ๆ