Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ken_p ที่ ธันวาคม 11, 2012, 21:59:30
-
คือผมเพิ่งรับรถต่อจากแฟนมาใช้ครับเป็นแลนเซอร์แซยิดปี2010 ถังที่แล้วเติม e 20 วิ่งได้ 14.37 โลลิตร ถังนี้เติง โซฮอล์91 วิ่งได้ 15.8 โลลิตร ตอนนี้ราคาต่างกันลิตรละ3บาท คิดแล้วเติมอันไหนคุ้มกว่ากันครับ ผมคิดไม่ออกจริงๆว่ามีสูตรอะไรมาคำนวณ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ :D
-
เทียบ บาท / กม. ครับรู้แน่ๆ
-
ขับในเมือง E20 คุ้มกว่าแน่นอนครับ จอดเผาน้ำมันเล่น ยังไง ต่อหน่วย E20 ก็ถูกกว่า
ขับทางไกลนี่คงต้องมาหาร บาท/กม.ครับ E20 อาจจะได้อัตราสิ้นเปลืองน้อยกว่าแต่เทียบเป็น บาท/กม. ไม่แน่ใจครับ
-
ในกรณีที่ราคาของน้ำมันเชื้อเพลิง 2 ประเภทไม่เท่า
จะดูว่าค่าเชื้อเพลิงอันไหนประหยัดกว่า ให้ิคิดเป็น "บาท / km" (บาท ต่อ กิโลเมตร)
และดูจากอัตราสิ้นเปลืองที่ให้มา น่าจะไม่ได้ขับในเมือง ไม่ใช่รถติดหนักๆ
จากข้อมูลที่ให้มาก็ให้เอา
ราคาน้ำมัน(บาท/ลิตร) หารด้วย อัตราสิ้นเปลือง(Km/ลิตร)
เช่น
โซฮอล91
ราคาิ 34.88 บาท/ลิตร
ได้อัตราสิ้นเปลือง 15.80 km/ลิตร
ซึ่งคิดเป็น 34.88/15.80 = 2.2076 บาท/km
E20
ราคาิ 31.88 บาท/ลิตร
ได้อัตราสิ้นเปลือง 14.37 km/ลิตร
ซึ่งคิดเป็น 31.88/14.37 = 2.2185 บาท/km
แปลเป็นภาษาพูดที่เข้าใจง่ายก็คือ
ถ้าใช้โซฮอล91 จะต้องจ่ายกิโลเมตรละ 2.2076 บาท
ถ้าใช้ E20 จะต้องจ่ายกิโลเมตรละ 2.2185 บาท
นั่นคือ ถ้าราคาน้ำมันเป็นตามนี้ โซฮอล 91 ถูกกว่าคร้าบ
-
ขอบคุณคร้าบกระจ่างแจ้งเลยครับ
-
แต่ต่างกันแค่กิโลเมตรละ 2.2185-2.2076= 0.0109 บาท
ถ้าวิ่งวันละ 100 km จะจ่ายต่างกัน 100x0.0109 = 1.09 บาท
นั่นคือแตกต่างกันอย่าง "ไม่มีนัยสำคัญ" ในแง่ค่าใช้จ่า่ย
ไปดูเรื่องอัตราเร่ง กับความสึกหรอที่เกิดขึ้ันดีกว่าครับ
-
เรื่องอัตราเร่งพอจับความรู้สึกได้แต่เรื่องสึกหรอ น้ำมันแบบไหนสึกหรอมากกว่ากันหรือครับ
ขอความรู้ด้วยครับขอบคุณครับ
-
แล้วถ้าบอกว่า e ยิ่งสูง เครื่องยิ่งสกปรกน้อยกว่าจะเชื่อหรือเปล่า
อากาศที่ออกมาก็สกปรกน้อยกว่า
-
เรื่องอัตราเร่งพอจับความรู้สึกได้แต่เรื่องสึกหรอ น้ำมันแบบไหนสึกหรอมากกว่ากันหรือครับ
ขอความรู้ด้วยครับขอบคุณครับ
อันไหนเร่งดีกว่าครับ
-
ความรู้สึกผมว่าอี20เร่งดีกว่าครับ ส่วนสึกหรอถ้่าอี20สะอาดกว่าอย่างนี้เติมอี20ดีกว่าครีบแต่ช่วงนี้อี20ต้องเข้าคิวเติมเหมือนกันนะครับ
-
คิดแล้วได้ประมาณ 2.2 บาท/กม. (ไม่ค่อยแตกต่างกัน)
เติม E20 ถูกกว่า เหมือนจะเร่งดีกว่า + รายได้ส่วนหนึ่งได้ช่วยเกษตรกรไทย
แล้วตัวเรา ก็มาปรับเปลี่ยน วิธีขับขี่ให้ประหยัดน้ำมันขึ้น
ไว้เป็นอีกทางเลือกครับ :D
-
+1 ;D
-
e20 เร่งดีกว่าหรอเนี่ย
ไม่เคยเติมเลยครับ
ไว้ไปลอง
-
ผมมายืนยันอีกเสียงคับ ว่า e20 อัตราเร่งดีกว่าคับและe20ประหยัดกว่านิดหน่อย (จากการลองเติม wave 110i )
-
ผมว่า e20 นะครับ
-
e20 เร่งดีกว่าครับแต่หมดถังไวกว่านิดหน่อย แต่เทียบอัตราส่วนแล้วน่าจะประหยัดกว่า 91 ครับ
แต่ก็สู้ 95 ไม่ได้อยู่ดี ;)
จาก G8 นะครับ ทดลองเติมมาหมดแล้ว
-
แหม ออกเทนตั้ง98 รถกำลังอัดสูงๆจะชอบ
อย่างรถผม SR20DE พลังแก๊ส เติมแก๊ส95 ยังเขก ติ๊กๆๆๆๆๆๆ
เติมอี20 เงียบกริบ
ดีสิ ได้ล้างหัวฉีดด้วย ผมเติม500 ใช้หมดเดือน ก้ไม่เห็นจะบูดจะเน่าอะไร
-
เติม E20 แล้ว ไม่ต้องล้างหัวฉีด แถมห้องเครื่องข้างในยังสะอาด จากการเผาไหม้ด้วยครับ
แอลกอฮอล มีคุณสมบัติเป็นสารชะล้างอยู่แล้ว
ถ้าไม่มั่นใจ
เติม E20 สลับกับ E10 ครับ รถผมทำอยู่ หารบาท/กิโลเมตรแล้ว ประหยัดดีครับ
-
เติม E-20 น้ำมันหมดไวกว่าเติม E-10 อย่างชัดเจนครับ อ้างอิงรถผม vios2010 วิ่งระยะทางเท่ากัน(ออก ตจว. นะครับ) E20 เติมเต็มถัง แต่หมดก่อน หมดเร็วมากๆ
-
รบกวนสอบถามนิดนึงครับ
ถ้าเทียบ e20 กับ e85 คิดระยะทางที่วิ่งได้ กับราคาน้ำมันแบบที่ท่านข้างบนคำนวณ
ตัวไหนประหยัดเงินกว่าครับ สงสัยมานานแล้ว
รถผมเติมได้แค่ e20 แต่อยากรู้
-
แล้วถ้าบอกว่า e ยิ่งสูง เครื่องยิ่งสกปรกน้อยกว่าจะเชื่อหรือเปล่า
อากาศที่ออกมาก็สกปรกน้อยกว่า
ตอบถูกต้องมากค่ะ
ขออธิบายเรื่องนี้นิดนึงนะคะ พอดีตัวเองทำงานเกี่ยวกับงานวิจัยพลังงานทดแทนอยู่
เรื่องนี้คนเรามักเข้าใจผิดเยอะมากว่า เติมน้ำมันตระกูล E ทั้งหลายแหล่แล้ว แรงเร่งไม่ดี เครื่องอืด
จากผลการวิจัยคือ E ยิ่งสูงกำลังยิ่งดี อากาศที่ออกมาก็เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
แต่ข้อเสียของ E คือ พอมันอยู่ในเครื่องยนต์แล้วมันจะทำให้เกิด ออกไซด์ของโลหะ ซึ่งออกไซด์ของโลหะก็คือ สนิมนี่เองค่ะ (ทำให้เครื่องสึกหรอเร็ว)
เพราะฉะนั้นเครื่องยนต์ที่ใช้ E คือ ต้องหาวิธีลดออกไซด์หรือป้องกันการกัดกร่อนของออกไซด์ วิธีนึงที่ทำกันคือ หาวัสดุบางอย่างมาเคลือบชิ้นส่วนที่เป็นโลหะ
สรุป น้ำมันตระกูล E ดีกว่าทุกอย่างยกเว้นเรื่องการสึกกร่อนของเครื่องยนต์ค่ะ
-
โซฮอล 91 เค้าจะเลิกขายต้นปีหน้าแล้วหนิคะ ลองเติม 95 เลยค่ะ
-
.....................
แปลเป็นภาษาพูดที่เข้าใจง่ายก็คือ
ถ้าใช้โซฮอล91 จะต้องจ่ายกิโลเมตรละ 2.2076 บาท
ถ้าใช้ E20 จะต้องจ่ายกิโลเมตรละ 2.2185 บาท
นั่นคือ ถ้าราคาน้ำมันเป็นตามนี้ โซฮอล 91 ถูกกว่าคร้าบ
ผมก็เคยเก็บตัวเลขและคำนวณลักษณะนี้ 1 ปีเต็มๆ กับรถ Nissan March
ก็ได้ผลตามนี้เช่นกัน
และยังพบอีกว่า ถ้าราคา E20(ปตท) ห่างจาก โซฮอล 91(เชลส์) ราวๆ 5 บาทขึ้นไป จึงจะเห็นว่า E20 จ่ายถูกกว่าและคุ้มค่าที่จะยอม อืด กว่าใช้ โซฮอล 91
ขออธิบายคำว่า"อืด" ในที่นี้คือ
1.ถ้าต้องการเร่งแซงในน้ำมันE20 ต้องกดคันเร่งนานกว่าประมาณ 1 วินาที จึงจะมีการตอบสอง
2.ที่ความเร็วเท่ากัน E20จะต้องใช้รอบเครื่องมากกว่า 200-300 รอบ/นาที
แต่โดยรวม น้ำมันทั้ง2ชนิด ก็ทำความเร็วปลายได้พอๆกัน (ถ้าไม่มีเวลามากำหนด)
-
โซฮอล 91 เค้าจะเลิกขายต้นปีหน้าแล้วหนิคะ ลองเติม 95 เลยค่ะ
น่าจะเข้าใจผิดนะครับ ที่เลิกขายน่าจะเป็น เบนซิน 91 มากกว่า
-
E10(91,95) หรือ E20 ไม่ได้หมายความว่าอย่างไหนแรงกว่ากันนะครับ มันแล้วแต่เครื่องยนต์แต่ละตัว แม้เป็นเครื่องยนต์รุ่นเดียวกันแต่สภาวะการสึกหรอต่างกัน บางคนบอกอันนู้นแรงกว่า อันนี้แรงกว่า ก็นานาจิตตังครับ
ออคเทนไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกความแรงเลย ;)
-
E มากควรแรงกว่า แต่ที่ไม่แรงกว่าต้องดูที่เครื่อง และ ECU ด้วย รถแต่ละคันไม่เหมือนกัน บางทีรุ่นเดียวกันเติมน้ำมันคนละประเภทกันวิ่งต่างกันก็เป็นไปได้ครับ ;)
-
โซฮอล 91 เค้าจะเลิกขายต้นปีหน้าแล้วหนิคะ ลองเติม 95 เลยค่ะ
น่าจะเข้าใจผิดนะครับ ที่เลิกขายน่าจะเป็น เบนซิน 91 มากกว่า
555 สงสัยสับสน
;D
-
E10(91,95) หรือ E20 ไม่ได้หมายความว่าอย่างไหนแรงกว่ากันนะครับ มันแล้วแต่เครื่องยนต์แต่ละตัว แม้เป็นเครื่องยนต์รุ่นเดียวกันแต่สภาวะการสึกหรอต่างกัน บางคนบอกอันนู้นแรงกว่า อันนี้แรงกว่า ก็นานาจิตตังครับ
ออคเทนไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกความแรงเลย ;)
ในการวัดค่าความแรงตามหลักวิทยาศาสตร์ ตัวแปรต้นของเรื่องนี้คือ ชนิดของน้ำมัน E ต่างๆ
ดังนั้นตัวอื่นคือตัวแปรควบคุมทั้งหมด หมายความว่าต้องเหมือนกัน (เครื่องเหมือนกัน สึกเท่ากัน)
จากการวัดพบว่า ยิ่ง E สูงยิ่งให้ Power มากกว่า
-
เอาง่าย ๆ ขับในเมืองเอา e20 ขับทางไกลเอา แก๊ส 91 แต่ถ้าอยากประหยัดมากก็ติดแก๊ส LPG จบ!!!
-
นี่ผมเข้าใจผิดอยู่คนเดียวเลยไช่มั้ยเนี่ย
ตอนแรกก็คิดว่า ขับในเมือง ต้อง โซฮอล 91 นอกเมืองถึงเติม E20
เพราะกลัวว่า ขับในเมือง E20 จะยิ่งซดหนัก