Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: H3T ที่ ธันวาคม 19, 2012, 07:38:11

หัวข้อ: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: H3T ที่ ธันวาคม 19, 2012, 07:38:11
        เป็นดังนี้   
         ความจุ           เดิม       ใหม่
          1200             17        14
          1400             25         30
          1500             25         35
          1600             25         35
          1800             25         35
          2000             25         35
   2001 - 2500         30        40
   2501 - 3000         40        40
   3000 <                 50        50
       กระบะแค็ป         3           5
       กระบะ 4 ป.        12         15
       PPV                  20         30

  ผมตั้งข้อสังเกตุว่า
     1. ส่วนลดจากการใช้ E20 ได้ ซึ่งจะลดไป 5% หายไปไหน
     2. ส่วนลดจากการใช้ E85 ได้ ( ไม่เกิน 1,875 cc ) ซึ่งจะลดไป 5% หายไปไหน
     3. สรุปว่า มีแค่รถไม่เกิน 1200 เท่านั้นที่จัดเก็บลดลง ที่เหลือเพิ่มขึ้นทั้งหมด หรือเท่าเดิม
     4. รถที่ความจุตั้งแต่ 1500 - 2500 เก็บเพิ่มขึ้น 10% ทั้งหมด ( 1400 เพิ่มขึ้น 5% )
     5. รถ Hybrid ที่เดิมเก็บ 10% ของใหม่ไม่ได้กล่าวถึง

 ปล. ภาษีคันแรก โดนเอากลับแบบเนียนๆเลยนะครับเนี่ย อืม เอากันอย่างนี้เลยนะ
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: -nu- ที่ ธันวาคม 19, 2012, 07:42:12
คนที่ได้ได้ไปแล้ว  มาเก็บคืนกับคนที่ไม่ได้ประโยชน์อะไรด้วย

อย่างนี้ไม่แฟร์

Edit :
เพิ่งเห็นว่าในข่าวคมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20121218/147520/%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A1.%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C.html#.UNCD2-SIEl8 (http://www.komchadluek.net/detail/20121218/147520/%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A1.%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C.html#.UNCD2-SIEl8)

ภาษีเก็บตามปริมาณ Co2 ที่ปล่อยด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: balliblue ที่ ธันวาคม 19, 2012, 07:44:49
นี่แหละรัฐบาลไทย (ชุดนี้) ของฟรีไม่มีในโลก มาเก็บคืนจนได้
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว ที่ ธันวาคม 19, 2012, 07:45:02
เห็นอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ที่จะใช้ในปี 59 ผมถึงกับปวดตับเลยทีเดียว  :(
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: dht_tubes ที่ ธันวาคม 19, 2012, 07:48:15
ของฟรีไม่มีจริงๆ แต่ก็ต้องดูกันยาวๆ ไป

เพราะอัตราใหม่แนวนี้ ผมเืชื่อว่าต่อให้ไม่มีนโยบายเรื่องรถคันแรก

ก็ต้องมีออกมาอยู่ดี ตามแนวโน้ม เรื่องพลังงานและสิ่งแวดล้อม ของสังคมโลก
และการบีบ ของประเทศยักษ์ใหญ่ เช่น ญี่ปุ่น อเมริกา ฯลฯ อยู่แล้วครับ

อีกอย่างคือ ถ้าราคาอีโคคาร์ สามารถดันขึ้นมาจนทับ B segment ได้
ต้นทุนต่ำกว่า ขายได้ราคาใกล้เคียงกัน........อันนี้น่าจะเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักครับ

เพราะขึ้นราคาของเท่าเดิม มีแนวโน้มลดลง
ก็ต้องทำให้ราคาเท่าเดิม ต้นทุนต่ำลง กำไรจะได้มากขึ้น
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ ธันวาคม 19, 2012, 08:07:35
น้อยกว่า สองพันซีซี ภาษีสรรพสามิต 25 เปอร์เซนต์เองเหรอครับ ?

รวมVAT รวม ภาษีสรรพสามิต ภาษีอะไรอีก ? ทำไมรถบ้านเราแพงเวอร์จัง แถมขึ้นราคากันตลอด

ไอ้ส่วนลด Ethanol E20 แต่ก่อนคันละ 5 หมื่น เดี๋ยวนี้ บริษัทรถขึ้นราคามาจนทับราคานี้ไปแล้วนะ 
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ ธันวาคม 19, 2012, 08:28:41
จุก พูดไม่ออกรอซื้อ Eco Car ก็ได้ คิดว่าอีก 2 ปีมือสองน่าจะขายดีเพราะป้ายแดงแพงขึ้นและรถส่วนใหญ่ติดล็อค 5 ปี ส่วนเรื่องป้ายแดงผมว่าถ้ามีกำลังซื้อปีนี้จะคุ้มที่สุดแล้วเพราะได้เรทภาษีเดิมได้คืนภาษีด้วย
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: RUKTOOKKHON ที่ ธันวาคม 19, 2012, 08:47:37
ภาษีส่วนนี้เก็บจากผู้ซื้ออย่างเรา หรือ เก็บจากบริษัทรถครับ
ถ้ามีผลปี 2559 (อีก 3 ปีข้างหน้า ) แล้วรถที่จะเปลี่ยนโฉมปีหน้าจะปรับราคาไปรอเลยหรือเปล่า

หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: mew123765 ที่ ธันวาคม 19, 2012, 09:01:03
ดูจากรายละเอียด ส่วนลด 5% ของ E85 ยังคงอยู่นะครับ ลองดูดีๆ ^^

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/finance/20121219/482603/%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A9.html (http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/finance/20121219/482603/%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A9.html)
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: MoO Cnoe ที่ ธันวาคม 19, 2012, 09:02:55
กระบะ 4 ประตูจะขึ้นทำไมเนี่ยยยยย
ภาษีสรรพสามิตคือภาษีที่อยู่ในราคารถใช่มั้ยครับ
ไม่ใช่ที่ต้องเสียประจำปี
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: NS ที่ ธันวาคม 19, 2012, 09:09:08
ทำไมต้องปี 2559 ครับ ไม่เข้าใจ
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Iwata Kana Σ4 ที่ ธันวาคม 19, 2012, 09:19:37
ขึ้นแบบนี้ราคารถเท่าสิงคโปร์แหงๆ
และมือสองญี่ปุ่นก็มาเยอะขึ้น
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: PREM ที่ ธันวาคม 19, 2012, 09:30:38
เท่าที่อ่านดูผมว่าสมเหตุสมผลดีนะครับ
แบบนี้รถที่ความจุน้อย CO2 น้อย แต่แรงเยอะ เช่นพวกรถเทอร์โบทั้งหลายจะได้เปรียบ
ไม่แน่ BMW 528i อาจจะเสียภาษีน้อยกว่า Camry 2.5
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: delete ที่ ธันวาคม 19, 2012, 09:45:35
ทำไมต้องปี 2559 ครับ ไม่เข้าใจ

คำตอบ อยู่ที่เจ้าตลาด มั้งครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Tuned by Pex ที่ ธันวาคม 19, 2012, 09:56:49
ผมเห็นด้วยนะ เพราะรถที่เครื่องแรงๆ เทคโนโลยีดี ทำให้ประหยัดน้ำมันปล่อยมลพิษต่ำ เช่นพวกเครื่อง Down Sizing ติดเทอร์โบ น่าจะเสียภาษีถูกลง
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: 6162002 ที่ ธันวาคม 19, 2012, 10:04:23
ภาษีส่วนนี้เก็บจากผู้ซื้ออย่างเรา หรือ เก็บจากบริษัทรถครับ
ถ้ามีผลปี 2559 (อีก 3 ปีข้างหน้า ) แล้วรถที่จะเปลี่ยนโฉมปีหน้าจะปรับราคาไปรอเลยหรือเปล่า


ภาษีสรรพสามิต เหมือนภาษีมูลค่าเพิ่มครับ คือเก็บจากผู้ซื้อ
แต่ว่าผู้ขายเป็นคนเก็บแล้วนำไปจ่ายให้
พูดง่ายๆคือ ดีลเลอร์นั่นแหละ จะเก็บเพิ่มไปกับราคารถ แล้วค่อยไปจ่ายกรมฯ ต่อครับ


หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: alankarm ที่ ธันวาคม 19, 2012, 10:10:04
นโยบาย เซรงเคร็ง 1 ม.ค. 2559 เอามาเป็นตัวล่อหนะสิ ออกนโยบายหลอกประชาชน เพราะเวลานั้นมันก็ ช่วงเลือกตั้งพอดี
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ ธันวาคม 19, 2012, 10:15:56
บริษัทรถ ขายรถแพง   แต่มาโทษภาษีไทย แล้วคนไทยก็จำๆเค้ามาพูด
สรุปบริษัทรถรวยเละเลย

ทำไม all new focus ขายได้ใน option เต็ม โดยไม่บ่นเรื่องต้นทุน
ทำไม mazda3 ผลิตในไทย option หดกว่านำเข้าทั้งคัน
สิ่งที่ต้องจำคือ ต้นทุนการผลิตกับค้าปลีก ราคาคนละเรื่องเลยครับ แต่คนชอบเอาต้นทุนค้าปลีกไปใส่ให้ผู้ผลิต ถามจริงๆที่ลดต้นทุนมันจะได้สักกี่ตังค์ แต่ที่เค้าทำเพราะเป็นการดูถูกคนไทยจริงๆ และมันได้ผลซะด้วยสิ
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: PumpNISMO ที่ ธันวาคม 19, 2012, 11:18:04
บริษัทรถ ขายรถแพง   แต่มาโทษภาษีไทย แล้วคนไทยก็จำๆเค้ามาพูด
สรุปบริษัทรถรวยเละเลย

ทำไม all new focus ขายได้ใน option เต็ม โดยไม่บ่นเรื่องต้นทุน
ทำไม mazda3 ผลิตในไทย option หดกว่านำเข้าทั้งคัน
สิ่งที่ต้องจำคือ ต้นทุนการผลิตกับค้าปลีก ราคาคนละเรื่องเลยครับ แต่คนชอบเอาต้นทุนค้าปลีกไปใส่ให้ผู้ผลิต ถามจริงๆที่ลดต้นทุนมันจะได้สักกี่ตังค์ แต่ที่เค้าทำเพราะเป็นการดูถูกคนไทยจริงๆ และมันได้ผลซะด้วยสิ
เห็นด้วยอย่างยิ่ง ;D

ผมว่าที่น่าจะเดือดร้อนน่าจะเป็นพวกกระบะสี่ประตูนะครับ ที่เหลือก็เทคโนโลยีมันไปถึงไหนไม่รู้แล้วครับ ออกกฏหมายมาเหมือนให้บังคับให้ผู้ผลิตเอาเทคโนโลยีที่ขายต่างประเทศในปัจจุบันมาใส่ในปี2559 ไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วงเลยครับ :)
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ ธันวาคม 19, 2012, 11:29:08
เท่าที่ผมวิแคะเองนะครับยังไม่ถึงขั้นวิเคราะห์

ปี 55 มือหนึ่งยอดถล่มทลายจากนโยบายคืนภาษี มือสองราคาตกเพราะคนไปหามือหนึ่งกันหมด
ปี 56 ยอดจองมือหนึ่งน้อยลงแต่บ.ชิวๆเพราะทำส่งยอดจองปีที่แล้วก็หมดปีละ ส่วนมือสองก็ยังตกอยู่เพราะคนจ้องแต่จะขายเทิร์นเอามือหนึ่งที่จองไว้จากปีที่แล้ว
ปี 57-58 ยอดมือหนึ่งถล่มทลายอีกรอบยกเว้น Eco Car เพราะต้องรีบซื้อก่อนขึ้นราคาแบบก้าวกระโดด มีอย่างที่ไหนวีออสรุ่นล่างสุดราคาเกือบ 7 แสน ส่วนมือสองยังทรงๆ
ปี 59-61 มือหนึ่งยอดตกวูบเพราะแพงขึ้นเยอะ ส่วนมือสองราคาขึ้นเป็นยุคทองของมือสองซะทีเพราะคนจะซื้อป้ายแดงก็แพงอีกทั้งยังมีหลายคันติดล็อค 5 ปีขายยังไม่ได้คนซื้อก็ต้องหวนมาหามือสองกันเยอะขึ้น แต่สำหรับ Eco Car จะขายดีมากๆ
ปี 61 เป็นต้นไป มือหนึ่งจะกลับมาเหมือนเดิมเพราะชินชาเหมือนราคาน้ำมัน ส่วนมือสองตกลงไปเล็กน้อยเพราะรถที่ติดล็อค 5 ปีจะกลับเข้ามาสู่ตลาดอีกรอบ
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: BaSkInElItEgUyS ที่ ธันวาคม 19, 2012, 11:34:51
และแล้วกระบะทุกยี่ห้อ ก็จะถีบตัวเกินล้านหมด
PPV ทุกยี่ห้อ ก็จะถีบตัวเกิน 1.5 ล้านหมด
เราอาจได้ใช้รถ 1.5 ลิตร ในราคาตัวท็อปมากกว่า 8 แสนบาท
ตัวท็อปเครื่อง 2.0 ใน C-segment จะมากกว่า 1.2 ล้านบาท

แค่่คิดก็ปวดหัวแล้ว :o :o :o
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: keamglad ที่ ธันวาคม 19, 2012, 11:51:43
นโยบาย เซรงเคร็ง 1 ม.ค. 2559 เอามาเป็นตัวล่อหนะสิ ออกนโยบายหลอกประชาชน เพราะเวลานั้นมันก็ ช่วงเลือกตั้งพอดี
เดี๋ยวหมดสมัยนี้ ไม่แน่กฏหมายตัวนี้อาจจะไม่ได้ออกก็ได้มั้งครับ

หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: H3T ที่ ธันวาคม 19, 2012, 11:52:13
  มาแชร์กันดูนะครับ
 1. งานนี้กระแสรถ E85 จะมาหรือเปล่า ( ช่วยลดภาษีได้ 5% ) เท่ากับราคาเพิ่มจากรุ่นเดิมที่ใช้ E85 ไม่ได้แค่ 5% แต่ถ้ายังไม่รองรับก็จะทำให้ราคาขึ้นมาในสัดส่วนที่สูง
 2. รถ B-seg 1500 - 1600 , C-seg 1600 - 2000 , PPV รถกลุ่มนี้ราคาขายจะสูงขึ้นมากใน 1 ม.ค. 59
 3. เรื่องปล่อยก๊าซ ผู้ผลิตน่าจะมีการปรับเปลี่ยนเรื่องการปล่อยมลพิษให้ดีขึ้น ส่วนผู้จำหน่ายน้ำมันก็น่าจะเพิ่มมาตฐานที่สูงขึ้น ยูโร 6 - 7
       3.1 เครื่องเบนซิน มี 3 ช่วง ต่ำกว่า 150 / ช่วง 150 - 200 / เกิน 200
       3.2 เครื่องดีเซล มี 2 ช่วง ไม่เกิน 200 / เกิน 200
 4. น่าจับตารถรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในช่วงปีหน้าจนถึงปลายปี 2558 โดยเฉพาะงาน Motor expo 2558

 ส่วนตัวเลยนะครับ ผมสนใจรถกลุ่ม PPV มากที่สุด ซึ่งจนถึงสิ้นปี 2015 จะมีตัวเลือกเจนใหม่ออกมาหลายรุ่น
  1. Trailbazer MC
  2. New MU7
  3. New Fortuner
  4. New Mitsubishi PPV ? จะเร่งเข็นออกมาทันหรือเปล่า ผู้บริหารน่าจะต้องตัดสินใจตั้งแต่เนิ่นๆแล้ว
    
    
    
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: MoO Cnoe ที่ ธันวาคม 19, 2012, 12:38:51
เผื่อจะช่วยให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นครับ
ว่าราคาจะปรับไปขนาดไหน

หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: LimitedEdition ที่ ธันวาคม 19, 2012, 12:46:05
บริษัทรถ ขายรถแพง   แต่มาโทษภาษีไทย แล้วคนไทยก็จำๆเค้ามาพูด
สรุปบริษัทรถรวยเละเลย

ทำไม all new focus ขายได้ใน option เต็ม โดยไม่บ่นเรื่องต้นทุน
ทำไม mazda3 ผลิตในไทย option หดกว่านำเข้าทั้งคัน
สิ่งที่ต้องจำคือ ต้นทุนการผลิตกับค้าปลีก ราคาคนละเรื่องเลยครับ แต่คนชอบเอาต้นทุนค้าปลีกไปใส่ให้ผู้ผลิต ถามจริงๆที่ลดต้นทุนมันจะได้สักกี่ตังค์ แต่ที่เค้าทำเพราะเป็นการดูถูกคนไทยจริงๆ และมันได้ผลซะด้วยสิ

ถ้างั้นผมขอตั้งคำถามกลับครับ
All New Focus - Margin ต่อคันเท่าไหร่

ส่วนข้อ 2 มาสด้า 3 2.0 ในไทย ชิ้นส่วนนำเข้าจากญี่ปุ่นมากกว่ารถที่ qualify เป็น CKD ปกติ
ถูกจัดเก็บภาษีแพงกว่ารถประกอบในไทย เพราะมี Local Content ไม่เท่ากับที่กำหนด

นอกจากกำไรต่อคันแล้ว ยังมีบริการหลังการขาย การอบรมช่างและผู้แทนจำหน่าย
ฟอร์ด กับ มาสด้า เห็นความแตกต่างค่อนข้างชัดเจนครับ

เรื่องดูถูกคนไทย ผมไม่ทราบว่าจะต้องใช้อะไรเป็นฐานเปรียบเทียบในการอ้างนะครับ
เท่าที่ผมทราบ รถในอเมริกากว่าจะได้มีออพชันเท่าเมืองไทย ต้องซื้อรุ่นท้อปมากมากเท่านั้น
แอร์ออโต้ กุญแจ keyless ระบบไฟหน้าอัตโนมัติ เบาะหนัง จอ MID ฯลฯ ถ้าไม่ใช่ท้อปจริงส่วนใหญ่ก็ไม่มี
แต่รถในเมืองไทยก็เริ่มเห็นของเล่นเหล่านี้ในรถรุ่นกลางกลาง หรือรถเล็กรุ่นล่างแล้ว ผมไม่คิดว่าเป็นการดูถูกนะ

ถ้าลองเปรียบเทียบดู C200 Standard กับ Camry ราคาต่างกันไม่มาก (เมื่อเทียบเป็นสัดส่วนของราคารถ)
แต่ออพชันต่างกันหลายอย่างเลย และประกอบในประเทศไทยเหมือนกันทั้งคู่ ถ้าแบบนี้ Merc ดูถูกคนไทยมากกว่าหรือเปล่าครับ
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: i-din ที่ ธันวาคม 19, 2012, 12:49:32
และแล้วกระบะทุกยี่ห้อ ก็จะถีบตัวเกินล้านหมด
PPV ทุกยี่ห้อ ก็จะถีบตัวเกิน 1.5 ล้านหมด
เราอาจได้ใช้รถ 1.5 ลิตร ในราคาตัวท็อปมากกว่า 8 แสนบาท
ตัวท็อปเครื่อง 2.0 ใน C-segment จะมากกว่า 1.2 ล้านบาท

แค่่คิดก็ปวดหัวแล้ว :o :o :o

แต่ผมเห็นอีกอย่างนะ คือเห็น C-segment ติดเครื่อง 1.6 ลิตร+เทอร์โบ ในราคาไม่ถึงล้าน แล้วก็เห็ฯ B-segment ติดเครือ่ง 1.0 - 1.2 ลิตร + เทอโบในราคาประมาณปัจจุบันน่ะครับ เผลอๆ อาจใช้ E85 ได้อีกด้วย ผมว่า มีผลดีเยอะนะครับ ยังไม่ค่อยเห็นผลเสียชัดเจนเท่าไหร่
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: prokhall ที่ ธันวาคม 19, 2012, 13:49:46
รัฐบาลจะทำอะไร อยากจะขอแนวทางเรื่องรถ ให้เป็นแนวทางเดียวต่อเนื่องไป
ไม่ว่าจะภาษี หรือ พลังงาน อยากให้มีแนวทางที่ชัดเจนต่อเนื่องไม่ใช่เปลี่ยนตลอด

ปล.ที่สิงขโปรไม่มีใครเขาใช้รถส่วนตัวกันครับ vios คันละ 3 ล้าน น้ำมันแพง
มีแต่คนใช้รถไฟใต้ดินกันเพราะของเค้าไปไหนมาไหนได้หมด

ชีวิตลำบากขนาดไหน ซื้อเบนซิน น้ำมันขึ้น ติด LPG พอแก๊สขึ้นอีก ก็ไปติด NGV เครื่องจะพังเอาอีก ต้องไปซื้อรถดีเซลมาขับ
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: H. ที่ ธันวาคม 19, 2012, 14:08:33
Downsizing จะบูม ? เครื่องดีเซล 1.2 ลิตรเทอโบคู่จะเห็นใน 2 ปีข้างหน้า ?
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Nookkiez ที่ ธันวาคม 19, 2012, 14:09:27
มตินี้ อีก4ปีอาจจะเป็นรัฐบาลชุดใหม่แล้วประกาศยกเลิกก็เป็นไปได้ครับ  อะไรๆมันก็ไม่แน่นอน   และถึงจะเป็นแบบนี้จริง สมัยนั้นคงหันไปคบหากับ Ecoboostกันแล้วละมั้งครับ  ;)
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: MystogaN ที่ ธันวาคม 19, 2012, 14:17:00
คันต่อไปผมจะซื้อ Hybrid !! :P
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: kukonba ที่ ธันวาคม 19, 2012, 14:23:40
อีกตั้งสามปีกว่าจะเริ่มใช้...แล้วทำไมต้องรออีกสามปี หรือว่าเพื่อให้ผู้ประกอบการรถยนต์ได้เตรียมตัวเตรียมใจก่อน
ที่จะเริ่มเข้าสู่ระบบอัตราภาษีสรรพสามิตรใหม่ อย่างงี้ก็ช่วยผู้ประกอบการอีกตามเคย คนใช้รถก็เตรียมหาเงินใว้จ่าย
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Noctis Lucis Caelum ที่ ธันวาคม 19, 2012, 14:26:51
คันต่อไปผมจะซื้อ Hybrid !! :P

F10 Hybrid เลยครับ 5555+
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: MystogaN ที่ ธันวาคม 19, 2012, 14:41:44
รอดู BMW i ตะหากครับ ผมว่าน่าจะมีอะไรเด็ดๆ ;D

ไม่ก็คง Active Hybrid 4 ::)



ปล.แล้วเค้าไม่เก็บตามแรงม้าแล้วใช่ไหมครับ งี้พวก ตระกูล 35i ที่เครื่อง 2979 เทอโบ ม้า 300++ นี่ก็เก็บถูกลงใช่ไหม ??
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ ธันวาคม 19, 2012, 14:49:13
บริษัทรถ ขายรถแพง   แต่มาโทษภาษีไทย แล้วคนไทยก็จำๆเค้ามาพูด
สรุปบริษัทรถรวยเละเลย

ทำไม all new focus ขายได้ใน option เต็ม โดยไม่บ่นเรื่องต้นทุน
ทำไม mazda3 ผลิตในไทย option หดกว่านำเข้าทั้งคัน
สิ่งที่ต้องจำคือ ต้นทุนการผลิตกับค้าปลีก ราคาคนละเรื่องเลยครับ แต่คนชอบเอาต้นทุนค้าปลีกไปใส่ให้ผู้ผลิต ถามจริงๆที่ลดต้นทุนมันจะได้สักกี่ตังค์ แต่ที่เค้าทำเพราะเป็นการดูถูกคนไทยจริงๆ และมันได้ผลซะด้วยสิ

ถ้างั้นผมขอตั้งคำถามกลับครับ
All New Focus - Margin ต่อคันเท่าไหร่

ส่วนข้อ 2 มาสด้า 3 2.0 ในไทย ชิ้นส่วนนำเข้าจากญี่ปุ่นมากกว่ารถที่ qualify เป็น CKD ปกติ
ถูกจัดเก็บภาษีแพงกว่ารถประกอบในไทย เพราะมี Local Content ไม่เท่ากับที่กำหนด

นอกจากกำไรต่อคันแล้ว ยังมีบริการหลังการขาย การอบรมช่างและผู้แทนจำหน่าย
ฟอร์ด กับ มาสด้า เห็นความแตกต่างค่อนข้างชัดเจนครับ

เรื่องดูถูกคนไทย ผมไม่ทราบว่าจะต้องใช้อะไรเป็นฐานเปรียบเทียบในการอ้างนะครับ
เท่าที่ผมทราบ รถในอเมริกากว่าจะได้มีออพชันเท่าเมืองไทย ต้องซื้อรุ่นท้อปมากมากเท่านั้น
แอร์ออโต้ กุญแจ keyless ระบบไฟหน้าอัตโนมัติ เบาะหนัง จอ MID ฯลฯ ถ้าไม่ใช่ท้อปจริงส่วนใหญ่ก็ไม่มี
แต่รถในเมืองไทยก็เริ่มเห็นของเล่นเหล่านี้ในรถรุ่นกลางกลาง หรือรถเล็กรุ่นล่างแล้ว ผมไม่คิดว่าเป็นการดูถูกนะ

ถ้าลองเปรียบเทียบดู C200 Standard กับ Camry ราคาต่างกันไม่มาก (เมื่อเทียบเป็นสัดส่วนของราคารถ)
แต่ออพชันต่างกันหลายอย่างเลย และประกอบในประเทศไทยเหมือนกันทั้งคู่ ถ้าแบบนี้ Merc ดูถูกคนไทยมากกว่าหรือเปล่าครับ

all new focus กับ mazda3 ผมไม่ได้สนใจ margin
แต่หากว่า mazda3 ลำบากขนาดนั้น กลับไปนำเข้าเหมือนเดิมดีกว่ามั๊ยครับ

ส่วนเรื่องศูนย์ ผมคงไม่ต้องพูดหรอก มันไม่ใช่ประเด็นครับ เพราะจริงๆmadza-ford ในหลายๆศูนย์ยังเป็นศูนย์เดียวกันอยู่ บริการที่ผมได้รับอยู่ในระดับเดียวกัน
ส่วนเคสการแก้ปัญหา มันเป็นนโยบายบริษัทแม่ครับ ซึ่งผมเองก็ไม่ได้เจอปัญหารุนแรงจนสำผัสได้ทั้งหมดทั้งสองบริษัท แต่บอกได้ว่าที่เคยไปดูรถมา มันเหมือนกัน ดีไม่ดีfordบางที่ยัง ดูแลดีกว่าmazda ก็ยังมี

ส่วนที่บอกว่าดูถูกคนไทย  ผมคงไม่ต้องยกตัวอย่างอะไรหรอกครับ ปกติผมซื้อรถตัวtop เสมอไม่เคยมีตัวไหนที่ได้เท่าเทียมหรือมากกว่าเลย

สุดท้าย ถ้าผมทำอะไรให้คุณเดือดมาก ก็ขออภัยด้วยนะครับ ไม่ได้มีเจตนาจะว่าใคร แค่พูดไปตามที่ผมเห็นซึ่งมันอาจจะผิดก็ได้
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Noctis Lucis Caelum ที่ ธันวาคม 19, 2012, 14:51:48
รอดู BMW i ตะหากครับ ผมว่าน่าจะมีอะไรเด็ดๆ ;D

ไม่ก็คง Active Hybrid 4 ::)



ปล.แล้วเค้าไม่เก็บตามแรงม้าแล้วใช่ไหมครับ งี้พวก ตระกูล 35i ที่เครื่อง 2979 เทอโบ ม้า 300++ นี่ก็เก็บถูกลงใช่ไหม ??

ผมคิดว่าน่าจะเก็บตามไอเสียเสียที่ปล่อยออกมาหรือเปล่า

ถ้าเป็นแบบนั้นรถกระบะรุ่นเก่าๆหน่อย เสียภาษีบานเลยสิ

ไม่ค่อยเข้าใจโครงสร้างการคิดภาษีบ้านเราเหมือนกันครับ มีหลายแบบเหลือเกิน เอาแน่เอานอนไม่ได้

อีก 3ปีหน้าค่อยมาลุ้นกันอีกทีกัน
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: MystogaN ที่ ธันวาคม 19, 2012, 14:54:30
ถ้าไม่คิดตามแรงม้า นี่คือรถที่จะเสียภาษีถูกลงอย่างไม่น่าเชื่อ !! :o
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Noctis Lucis Caelum ที่ ธันวาคม 19, 2012, 14:59:44
ชอบคันนี้ตรงที่ทอร์คนี่แหละ 740NM   :D :D :D
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Amaranthe ที่ ธันวาคม 19, 2012, 15:15:03
แล้วถ้ารถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าล้วน ๆ ไม่มีการปล่อย Co2 หละ

ไม่มีในแผนผัง เพราะ รถกลุ่มนี้คงยังยากที่จะเกิดในไทยสินะ

และถ้ามีจริง ภาษีจะเก็บกี่ % หนอ
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Headman ที่ ธันวาคม 19, 2012, 15:37:51
แล้วรถเก่าล่ะครับ?
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: iKrit ที่ ธันวาคม 19, 2012, 16:55:46
ขึ้นช่วงเปลี่ยนรถใหม่ครอบครัวผมพอดีเลย T-T
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: paulmoderndog ที่ ธันวาคม 19, 2012, 18:36:25
Fiat 500, VW 1.2 ราคาถูกลง

http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=1445:-2-85-twinair&catid=47:worlds-news&Itemid=160 (http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=1445:-2-85-twinair&catid=47:worlds-news&Itemid=160)
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: spiritofsoul ที่ ธันวาคม 19, 2012, 19:01:38
พวก Ecoboost ก็จะราคาถูกลง หรือเปล่า  :P
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: pongisra ที่ ธันวาคม 19, 2012, 20:16:15
คันต่อไปผมจะซื้อ Hybrid !! :P

F10 Hybrid เลยครับ 5555+

F10 hybrid อยู่ในกลุ่มที่ราคาขึ้นนะครับ ตอนนี้ 10% อันใหม่แพงกว่านี้เพราะปล่อยไอเสียเกิน 100g/km ชตากรรมเดียวกับ camry hybrid
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: i-din ที่ ธันวาคม 19, 2012, 20:19:49
เผื่อจะช่วยให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นครับ
ว่าราคาจะปรับไปขนาดไหน



มติครม จาก คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20121218/147520/%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A1.%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C.html#.UNG9f-Rg-Sp (http://www.komchadluek.net/detail/20121218/147520/%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A1.%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C.html#.UNG9f-Rg-Sp)

มติครม.ปรับภาษีสรรพสามิตรถยนต์
ครม.มีมติเห็นชอบปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ เพื่อแก้ไขการบิดเบือน-สร้างความเป็นธรรม โดยจัดเก็บภาษีตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)
                         18 ธ.ค. 55  ครม.มีมติเห็นชอบปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอเพื่อแก้ไขปัญหาการบิดเบือนโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีรถยนต์ และเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ของโลก ซึ่งจะเปลี่ยนภาษีสรรพสามิตรถยนต์ทั้งระบบ โดยจัดเก็บภาษีตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
                         ทั้งนี้การปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ โดยคิดตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จะเป็นการคิดภาษีจะแบ่งตามประเภทรถยนต์ 7 ประเภท ประกอบด้วย
 
                         1. รถยนต์นั่ง และรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี ปล่อยก๊าซไม่เกิน 150 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 30% ปล่อยก๊าซ 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 35% และปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 40%
                         2. รถยนต์นั่งประเภทอี 85 และรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี ปล่อยก๊าซฯไม่เกิน 150 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 25% ปล่อยก๊าซ 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 30% และปล่อยก๊าซฯเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 35%
                         3. รถยนต์แบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้า ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี ปล่อยก๊าซฯไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 10% กรณีปล่อยก๊าซเกิน 100-150 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 20% และปล่อยก๊าซเกิน 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 25% และปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 30%
                         4. รถยนต์กระบะที่ไม่มีพื้นใส่สัมภาระด้านหลังคนขับ มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี ปล่อยก๊าซไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 3% และปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 5%
                         5. รถยนต์กระบะที่มีพื้นใส่สัมภาระด้านหลังคนขับ มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี ปล่อยก๊าซฯไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 5% และปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 7%                             
                         6. รถยนต์นั่งที่มีกระบะ (ดับเบิ้ลแคป) มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250ซีซี ปล่อยก๊าซฯไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 12% และปล่อยก๊าซฯเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 15%
                         7. รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี ปล่อยก๊าซฯไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 25% และปล่อยก๊าซฯเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บ 30%
 
                         โดยที่ ครม.มีความเห็นชอบในการประชุมฯครั้งนี้ เห็นควรว่าให้มีช่วงระยะเวลาในการปรับตัวของผู้ประกอบการรถยนต์เป็นเวลา 3 ปี โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2559 เนื่องจากกระทรวงการคลังวิเคราะห์ผลกระทบว่าการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ในครั้งนี้อาจส่งผลกระทบให้ผู้ประกอบการบางราย ทั้งนี้มีการคำนวณรายได้ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ในปีดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2554 เป็นเงิน 25,693 ล้านบาท
                         แหล่งข่าวจากที่ประชุม ครม.เปิดเผยว่า นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังเสนอให้มีการเก็บอัตราภาษีสรรพสามิตนำเข้ารถจักรยายนต์ขนาดกระบอกสูบ 800-1,000 ซีซี ที่ปัจจุบันมีการจัดเก็บอยู่ที่ 103% โดยจะมีการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีก 20% เป็น 123% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.เป็นต้นไป คาดว่าจะช่วยให้มีรายได้จากการเก็บภาษีส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็นวงเงินประมาณ 150 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังให้เหตุผลว่า ผู้ที่สามารถซื้อรถจักรยานยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดดังกล่าวได้เป็นผู้มีฐานะเพียงพอที่จะชำระภาษีเพิ่มเติม

ไม่เห็นเหมือนกันเลยครับ ตกลงมันอันเดียวกันหรือเปล่าครับ
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: WinniE ที่ ธันวาคม 19, 2012, 22:40:03
ผมลองเอาเครื่องยนต์ของ Accord 2013, Altima 2013 และ Camry 2012 มาคิดดู(ทั้งหมดอ้างอิงจากเว็บ USA และ Singapore)

1AZ-FE (Camry 2.0) ปล่อย CO2 204 g/km เสียภาษี 40%

2AR-FE (Camry 2.5) ปล่อย CO2 187 g/km เสียภาษี 35%

2AR-FXE (Camry Hybrid) ปล่อย CO2 137 g/km เสียภาษี 20%

K24 Earthdream (Accord 2013) ปล่อย CO2 180 g/km เสียภาษี 35%

QR25DE (Altima 2013) ปล่อย CO2 174 g/km เสียภาษี 35%

เท่ากับว่า D-Segment ผลิตในประเทศแทบทุกรุ่นตั้งแต่ 1 ม.ค. 2559 จะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5% สินะครับ นอกจากว่าค่ายรถจะทำให้ลดการปล่อย CO2 ต่ำกว่า 150 g/km ได้ ถึงจะเสียภาษีเท่าเดิม

Edit : ภาษีที่คำนวณข้างบนยังไม่ได้คิดแบบรองรับ E85 นะครับ ถ้ารองรับจะลดลงไป 5%

ส่วนอันนี้เป็นของ 2013 Mazda 6 นะครับ(เผื่อจะเข้าไทย)

2.0 SKYACTIV-G ปล่อย CO2 129 g/km เสียภาษี 30% ถ้ารองรับ E85 จะเสียแค่ 25%

ปล. ว่าแต่ทำไมเว็บ Honda Korea ถึงบอกว่าเครื่อง K24 Earthdream เสป็คเกาหลีใต้ปล่อย CO2 แค่ 139 g/km เองล่ะเนี่ย ???

http://www.hondakorea.co.kr/html/automobile/models/accord/accord_spec01.jsp (http://www.hondakorea.co.kr/html/automobile/models/accord/accord_spec01.jsp)
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: pongisra ที่ ธันวาคม 19, 2012, 23:01:33
ผมลองเอาเครื่องยนต์ของ Accord 2013, Altima 2013 และ Camry 2012 มาคิดดู(ทั้งหมดอ้างอิงจากเว็บ USA และ Singapore)

1AZ-FE (Camry 2.0) ปล่อย CO2 204 g/km เสียภาษี 40%

2AR-FE (Camry 2.5) ปล่อย CO2 187 g/km เสียภาษี 35%

2AR-FXE (Camry Hybrid) ปล่อย CO2 137 g/km เสียภาษี 20%

K24 Earthdream (Accord 2013) ปล่อย CO2 180 g/km เสียภาษี 35% อันนี้ถ้าเติม E85 ได้ก็เสีย 30% เท่าเดิม(camry teana ก็เช่นกัน) ขอให้รุ่นที่มาปีหน้าเป็น E85 มารอเลย ;D

QR25DE (Altima 2013) ปล่อย CO2 174 g/km เสียภาษี 35%

เท่ากับว่า D-Segment ผลิตในประเทศแทบทุกรุ่นตั้งแต่ 1 ม.ค. 2559 จะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5% สินะครับ นอกจากว่าค่ายรถจะทำให้ลดการปล่อย CO2 ต่ำกว่า 150 g/km ได้ ถึงจะเสียภาษีเท่าเดิม
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ ธันวาคม 19, 2012, 23:35:37
Hybrid Hybrid Ecocar Ecocar
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: LimitedEdition ที่ ธันวาคม 20, 2012, 00:10:52
บริษัทรถ ขายรถแพง   แต่มาโทษภาษีไทย แล้วคนไทยก็จำๆเค้ามาพูด
สรุปบริษัทรถรวยเละเลย

ทำไม all new focus ขายได้ใน option เต็ม โดยไม่บ่นเรื่องต้นทุน
ทำไม mazda3 ผลิตในไทย option หดกว่านำเข้าทั้งคัน
สิ่งที่ต้องจำคือ ต้นทุนการผลิตกับค้าปลีก ราคาคนละเรื่องเลยครับ แต่คนชอบเอาต้นทุนค้าปลีกไปใส่ให้ผู้ผลิต ถามจริงๆที่ลดต้นทุนมันจะได้สักกี่ตังค์ แต่ที่เค้าทำเพราะเป็นการดูถูกคนไทยจริงๆ และมันได้ผลซะด้วยสิ

ถ้างั้นผมขอตั้งคำถามกลับครับ
All New Focus - Margin ต่อคันเท่าไหร่

ส่วนข้อ 2 มาสด้า 3 2.0 ในไทย ชิ้นส่วนนำเข้าจากญี่ปุ่นมากกว่ารถที่ qualify เป็น CKD ปกติ
ถูกจัดเก็บภาษีแพงกว่ารถประกอบในไทย เพราะมี Local Content ไม่เท่ากับที่กำหนด

นอกจากกำไรต่อคันแล้ว ยังมีบริการหลังการขาย การอบรมช่างและผู้แทนจำหน่าย
ฟอร์ด กับ มาสด้า เห็นความแตกต่างค่อนข้างชัดเจนครับ

เรื่องดูถูกคนไทย ผมไม่ทราบว่าจะต้องใช้อะไรเป็นฐานเปรียบเทียบในการอ้างนะครับ
เท่าที่ผมทราบ รถในอเมริกากว่าจะได้มีออพชันเท่าเมืองไทย ต้องซื้อรุ่นท้อปมากมากเท่านั้น
แอร์ออโต้ กุญแจ keyless ระบบไฟหน้าอัตโนมัติ เบาะหนัง จอ MID ฯลฯ ถ้าไม่ใช่ท้อปจริงส่วนใหญ่ก็ไม่มี
แต่รถในเมืองไทยก็เริ่มเห็นของเล่นเหล่านี้ในรถรุ่นกลางกลาง หรือรถเล็กรุ่นล่างแล้ว ผมไม่คิดว่าเป็นการดูถูกนะ

ถ้าลองเปรียบเทียบดู C200 Standard กับ Camry ราคาต่างกันไม่มาก (เมื่อเทียบเป็นสัดส่วนของราคารถ)
แต่ออพชันต่างกันหลายอย่างเลย และประกอบในประเทศไทยเหมือนกันทั้งคู่ ถ้าแบบนี้ Merc ดูถูกคนไทยมากกว่าหรือเปล่าครับ

all new focus กับ mazda3 ผมไม่ได้สนใจ margin
แต่หากว่า mazda3 ลำบากขนาดนั้น กลับไปนำเข้าเหมือนเดิมดีกว่ามั๊ยครับ

ส่วนเรื่องศูนย์ ผมคงไม่ต้องพูดหรอก มันไม่ใช่ประเด็นครับ เพราะจริงๆmadza-ford ในหลายๆศูนย์ยังเป็นศูนย์เดียวกันอยู่ บริการที่ผมได้รับอยู่ในระดับเดียวกัน
ส่วนเคสการแก้ปัญหา มันเป็นนโยบายบริษัทแม่ครับ ซึ่งผมเองก็ไม่ได้เจอปัญหารุนแรงจนสำผัสได้ทั้งหมดทั้งสองบริษัท แต่บอกได้ว่าที่เคยไปดูรถมา มันเหมือนกัน ดีไม่ดีfordบางที่ยัง ดูแลดีกว่าmazda ก็ยังมี

ส่วนที่บอกว่าดูถูกคนไทย  ผมคงไม่ต้องยกตัวอย่างอะไรหรอกครับ ปกติผมซื้อรถตัวtop เสมอไม่เคยมีตัวไหนที่ได้เท่าเทียมหรือมากกว่าเลย

สุดท้าย ถ้าผมทำอะไรให้คุณเดือดมาก ก็ขออภัยด้วยนะครับ ไม่ได้มีเจตนาจะว่าใคร แค่พูดไปตามที่ผมเห็นซึ่งมันอาจจะผิดก็ได้

ผมยังไม่ได้อารมณ์เสียอะไรเลย ผมก็แสดงความคิดเห็นของผมจากข้อมูลที่ผมทราบมา ซึ่งอาจจะไม่เหมือนคุณเท่านั้นเอง

ตอบประเด็นที่คุยกันต่อ

1. อ้าว เห็นพูดถึงเรื่องต้นทุน กับ option ว่าทำไมฟอร์ดขายได้ มาสด้าขายไม่ได้ บริษัทรถขายแพงเอง ดูถูกคนไทย
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องกำไรขาดทุนต่อคันเหรอครับ เพราะผมเข้าใจว่าถ้าบริษัทยอมกำไรน้อยลงแบบฟอร์ด ก็น่าจะขายรถถูกลง
หรือไม่ก็ราคาเดิมแต่เพิ่มออพชัน หรือผมตีความที่คุณเขียนมาผิดครับ?

2. ทำไม่ได้ครับ ไม่มีฐานการผลิตในฟิลิปปินส์สำหรับรถเก๋งแล้ว

3. ผมคิดว่าการพูดเรื่องดูถูกหรือไม่ดูถูก น่าจะพูดในภาพรวมของคนที่ซื้อรถทั้งประเทศนะครับ ไม่ได้เจาะจงเฉพาะคนซื้อรุ่นท้อปเท่านั้น
คุณอาจจะมองว่าการซื้อตัวท้อปแล้วได้ไม่ครบเท่าเมืองนอกเป็นเรื่องถูกดูถูก แต่สำหรับผมการเกลี่ยออพชันลงมารุ่นกลางกลางให้ดีกว่าเมืองนอก
ผมมองว่าเป็นการพยายามจัดสรรออพชันให้เหมาะกับความต้องการของคนไทย และเงินที่คนไทยยอมจะจ่ายสำหรับรถคันนึงมากกว่า

เรื่องศูนย์บริการฟอร์ดและบริษัทแม่ อยู่ตรงนี้ผมเจอมาเยอะครับ เรียกว่าคุณ Newhang ยังโชคดีที่ไม่เจออะไรแย่แย่แบบที่ผมพบมาครับ
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ ธันวาคม 20, 2012, 07:59:15
ผมมองว่าเรื่องการดูถูกคนไทยเสมือนคำเปรียบเปย มันน้อยกว่าต่างประเทศจริงมั๊ย ผมว่าคงไม่ต้องพูดเยอะ และในเรื่องที่ว่าเกลี่ยoption ซึ่งมันมีจริง แต่อุปกรณ์มาตรฐานยังคงเหนือกว่า ในราคาที่ถูกกว่าด้วย

ในเรื่อง mazda ford เป็นเพียงการยกตัวอย่างชนิดนึงที่มีความคลายคลึงกันในตลาด แต่จริงๆถามว่าเปรียบกับตัวอื่นได้มั๊ยก็คงได้   ลองสังเกตดีๆครับ civic fb รุ่นนี้ทำไมถึงขึ้นราคาน้อยกว่าที่น่าจะเป็น แต่ผมเองก็ไม่อยากพูดเพราะปัจจัยมันเยอะกว่า mazda ford
ส่วนต้นทุนการหั่นราคา คือสิ่งที่คนไทยกลัวบริษัทรถจะไม่ได้กำไร  เลยเกิดคำถามว่าทำไมnew ford focus ถึงใส่option ในขนาดที่ d segment อายเลยทีเดียว แต่บางคนยังกลัวว่าถ้าd segment ใส่จะขาดทุน
อันนี้คือสิ่งที่ผมอยากให้เห็นภาพเท่านั้น
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: SignifeR ที่ ธันวาคม 20, 2012, 14:34:24
ไปปรับลดภาษีเงินได้แทน มาขึ้นภาษีรถ จริงๆมันก็ไม่ผิดนี่ เพราะไปลดตัวแรก คนได้ประโยชน์มากกว่านะครับ
แต่เรื่องลดภาษีรถคันแรก ผมเองไม่เห็นด้วยหรอก บิดเบือนโครงสร้างทุกอย่างอ่ะนะ

แต่ต้องอย่าลืมว่า ระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ๆ ก็เริ่มก่อสร้างไปได้พอสมควรแล้ว ไม่นานนี้คงมีรถไฟฟ้ามาหานะเธอกันมากขึ้น
จุดนี้เอง ที่จะทำให้ เรื่องการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล น้อยลงไปด้วย

มองยาวๆ อีก 3 ปี  5 ปี มันน่าจะชัดเจนขึ้น และเมื่อถึงจุดนั้น รถมือสองจาก โครงการรถคันแรกก็จะระบายออกสู่ตลาด
และเป็นยุคทองของรถมือสองอีกครั้ง 5 5 5  รอสอยอ่ะ
หัวข้อ: Re: 1 ม.ค. 2559 เริ่มปรับพิกัดภาษีสรรพสามิตใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: MoO Cnoe ที่ ธันวาคม 20, 2012, 15:43:06
ขนาดโฟกัส option จัดเต็มขนาดนี้ ขายถูกขนาดนี้
ยอดขายยังน้อยกว่า Nissan Sylphy เลย

ถ้าโฟกัสขายราคาสูงกว่านี้ คงขายไม่ออกเข้าไปใหญ่

นั่นแสดงว่าคนทั่วไป (ที่ไม่ได้บ้ารถ) ไม่ได้ต้องการออฟชั่นที่มากมายเลย
ขอเพียงแค่เค้าขับรถได้ปลอดภัย ขับดี ใช้งานได้ดี ตามความต้องการ เป็นส่วนมากของประเทศ

ในความคิดของผม พูดถึงเฉพาะในแง่ของการทำธุรกิจก็ต้องคำนึงถึงฐานกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นสำคัญ
ถ้าลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการ จะทำให้ทำไม จะเสียค่าเปิดฐานการผลิตเพิ่มไปทำไม
ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นหลายสิบล้าน หลายร้อยล้าน เพื่อมารองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเพียงแค่ 3% ของทั้งหมด
และในระดับ C-Segment ยอดขายเกือบทั้งหมดอยู่ที่รุ่นกลางๆ สู้เอาเงินลงทุนที่ว่านั่นมาเพิ่มออฟชั่นที่จำเป็นเกลี่ยมาให้รุ่นกลางๆ
ทำให้ผู้ซื้อส่วนใหญ่ได้รับออฟชั่นที่ดี เมื่อเทียบกับราคาดีกว่าครับ

เอาอย่างง่ายๆ เทียบ Focus 1.6 กับ Sylphy 1.6 สิครับ
ใครตั้งราคา ให้ออฟชั่น สมเหตุสมผลกว่ากัน ในภาพรวม ห้องโดยสาร การใช้งาน ออฟชั่น ราคา ฯลฯ

ผมว่ามันเป็นเทคนิคการตลาดและเป็นเรื่องของเศรษฐศาสตร์มากกว่า

กรณีแรก Focus ขาย 1.059 ล้าน สมมติ กำไรคันละ 59,000 บาท ขายได้เดือนละ 850 คัน กำไรที่ได้ 50.1 ล้าน
กรณีสอง Focus ขาย 1.159 ล้าน สมมติ กำไรคันละ 159,000 บาท ขายได้เดือนละ 200 คัน กำไรที่ได้ 31.8 ล้าน

เป็นคุณๆจะเลือกกรณีไหนครับ

ยอดขายสูงกว่า ฐานลูกค้ามากกว่า ชื่อเสียงมากกว่า แต่ยอมแลกกับกำไรต่อคันน้อยกว่า เหนื่อยกว่า
ผมว่ามันคือทางออกที่ดีสำหรับฟอร์ดที่จะอยู่รอดในตลาดครับ
ตราบใดที่ฟอร์ดยังเน้นแต่จะขาย แต่ไม่ปรับปรุงทัศนคติและบริการหลังการขายใหม่