Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: jaesz ที่ ธันวาคม 26, 2012, 11:25:55
-
รู้สึกงง ๆ ครับ
เช้านี้
อะไรไม่รู้
จะให้ทำยังงัย
T: พี่คะ รถเสียสตาร์ทไม่ติดช่วยไปดูหน่อยได้ไหมคะ
ฺ๋J: ได้ครับ
เช็คเสร็จ ...
๋J: ปั๊มติ๊กเสียครับต้องสั่งของ
T: ถ้าอย่างนั้นพี่ช่วยทำให้มันติดได้ไหมคะ จะได้เอาไปซ่อมที่กรุงเทพ (ครั้งที่ 1)
๋๋J: ต้องเปลี่ยนปั๊มติ๊กนะครับ ถ้าเปลี่ยนมันก็จะใช้ได้ แต่ต้องสั่งของ
T: เอาแค่ติดค่ะ จะได้ไปซ่อมกรุงเทพ มีอู่ประจำ (ครั้งที่ 2)
๋J: รถมันต้องใช้ปั๊มติ๊กครับ คือสั่งของมาใส่ก็คือซ่อม
T: ค่ะ เอาแค่มันติดก็พอ เดี๋ยวไปซ่อมกรุงเทพ (ครั้งที่ 3)
๋J: ถ้าอย่างนั้นน้องโทรเรียกช่างกรุงเทพเลยครับ
T: หนูขอเบอร์พี่ไว้ก่อนนะคะเผื่อโทรตามอีก
J: ให้เบอร์แล้วกลับ ยิ้มแย้มปรกติ
ผมทำถูกไหม ? มีอะไรที่ผมควรจะำทำอีก หรือทำให้ได้อีก?
-
ปล่อยเค้าไปเถอะครับ พูดไม่รู้เรื่อง
-
ผมมองว่าเค้าเป็น ผญ คงไม่ค่อยเข้าใจอะไรครับ แต่อาจจะมีอู่ที่ไว้วางใจที่ กทม
ที่ทำไปแล้วก็ไม่ผิดหรอกครับ แต่ถ้าเป็นผมผมอาจจะอธิบายเพิ่มเติมก็ได้เพื่อความเข้าใจ แต่ถ้าไม่ได้ก็ทำแบบที่คุณว่าก็ดีแล้วครับ
-
เค้าอาจนึกว่า สั่งของสองชั่วโมง.......
-
น่าเห็นใจท่าน จขกท.
ทำมาหากิน เดี๋ยวนี้ก็ต้องทำใจครับ มันลำบากขึ้น เป็นทุกวงการแหละ
สู้ๆครับ
-
กำ...น้องเจ้าของรถเขาพูดภาษาเดียวกับเรามั้ยครับเนี้ย...ผมว่าพี่ จขกท. พูดชัดเจนแล้วนะ ผมปวดหัวแทนจริงๆ ผมว่าพี่ทำถูกแล้วล่ะ
-
ผมว่า เจ้าของกระทู้จะต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกแน่นอนครับ รถมีเยอะขึ้นเป็นแสนๆคัน
แต่เจ้าของรถขับได้อย่างเดียว ไม่เข้าใจส่วนประกอบของรถ
เข้าใจว่าเป็นผู้หญิงด้วยครับ หรืออาจจะไม่รู้จักปั๊มติ๊กจริงๆก็ได้
ผมว่าอธิบายว่าปั๊มติ๊ก คืออะไร ทำหน้าที่จ่ายน้ำมัน ไม่มีมัน..น้ำมันก็จ่ายไม่ได้
แล้วจบแบบที่เจ้าของกระทู้ทำครับ คือให้ช่างกรุงเทพฯ เตรียมปั๊มติ๊กมาเปลี่ยนให้ เพื่อความสบายใจของเจ้าของรถครับ
แต่ถ้าไว้ใจเรา ก็จะสั่งอะไหล่มาเปลี่ยนให้ครับ :D
-
ลูกค้าที่เป็นผู้หญิงส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจภาษาช่างหรอกครับ เค้าคิดแค่ว่าจะทำให้มันติดได้จะได้ขับไป กทม. ถ้าผมเป็น จขกท. ผมจะบอกลูกค้าไปว่าถ้าไม่เปลี่ยนเจ้าปั๊มติ๊กรถคุณจะสตาร์ทไม่ติด เพราะไม่มีตัวส่งน้ำมันเชื้อเพลิงให้เครื่องยนต์ หากต้องเอาไปซ่อมที่ กทม. มีทางเดียวคือต้องลากหรือยกรถไป ผมว่าลูกค้าน่าจะฉุกคิดได้นะและอาจตัดสินใจซ่อมกับ จขกท. ก็ได้
-
ผมว่า เจ้าของกระทู้จะต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกแน่นอนครับ รถมีเยอะขึ้นเป็นแสนๆคัน
แต่เจ้าของรถขับได้อย่างเดียว ไม่เข้าใจส่วนประกอบของรถ
เข้าใจว่าเป็นผู้หญิงด้วยครับ หรืออาจจะไม่รู้จักปั๊มติ๊กจริงๆก็ได้
ผมว่าอธิบายว่าปั๊มติ๊ก คืออะไร ทำหน้าที่จ่ายน้ำมัน ไม่มีมัน..น้ำมันก็จ่ายไม่ได้
แล้วจบแบบที่เจ้าของกระทู้ทำครับ คือให้ช่างกรุงเทพฯ เตรียมปั๊มติ๊กมาเปลี่ยนให้ เพื่อความสบายใจของเจ้าของรถครับ
แต่ถ้าไว้ใจเรา ก็จะสั่งอะไหล่มาเปลี่ยนให้ครับ :D
คิดในแง่ดี จขกทปีหน้า ก็จะมีลูกค้าเพิ่มอีกเป็นแสน ๆ คันเชียวนะครับ อิอิ
-
กำ....
-
พยายามหาคำเปรียบเทียบที่เธอสามารถเข้าใจได้ครับ เรื่องในโลกของเธอจะยิ่งทำให้ง่ายขึ้นครับ
เช่น ...
น้องครับ ซิบกระเป๋าแตก พี่ต้องสั่งซิปใหม่ ถ้าไม่สั่งใหม่มันก็ปิดกระเป๋าไม่ได้น่ะครับ
-
เค้าคงไม่รู้จริงๆแหละครับ แล้วเค้าอาจกลัวว่าคุณจะหลอกก็ได้ก็เลยกะว่าให้แค่วิ่งๆได้ไปก่อน ที่จริงเค้าน่าจะต่อสายโทรศัพท์ให้คุยกับช่างประจำของเค้าหรือคนที่รู้จักที่เป็นเรื่องพวกนี้น่าจะดีกว่าครับ เพราะตอนผมเอารถไปซ่อมจะโทรคุยกับพ่อผมตลอดบางทีก็ต่อสายคุยกับช่างอย่างน้อยถ้าช่างคิดจะหลอกก็ต้องเกรงๆบ้างแหละแต่หลังๆไปบ่อยจนคุ้นกับช่างแต่ก็ยังคุยเรื่องอาการเสียของรถกับพ่ออยู่ดีเพื่อความสบายใจว่าราคาไม่แพงและซ่อมได้ตรงจุด
-
ทำใจครับ ถ้าเจอกับลูกค้าแบบนี้ต้องบอกให้ละเอียดไปเลยครับ
ว่า ปั๊มติ๊กเสียจะสตาทไม่ติดต้องเปลี่ยนอย่างเดียว เค้าคงถึงจะเข้าใจมั้งครับ
-
คุณผู้หญิงเค้าคงไม่เข้าใจว่าปั๊มติ๊กเสียมันไม่เหมือนกับแบตเตอรี่เสียที่จะสามารถทำให้ติดครั้งหนึ่งได้แล้วทนใช้งานจนถึงปลายทางได้ น้ำมันไม่จ่ายนะจ๊ะอีหนู๋ววววว :P
-
ผู้หญิงเข้าใจยาก >:( ขนาดแค่เอาน้ำกลั่นใส่แบตยังไม่ทำเลย ทีล้างรถใส่บิกิน....(เอ่อ...เราผู้ชายพูดไม่ออก) :'( ;D
-
ทำถูกแล้วครับ ไม่มีอะไรที่ควรจะทำเพิ่ม นอกจากรอเธอโทรกลับ !!!
แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะแจ้งราคาซ่อมแบบประเมินให้เธอเอาไว้ตัดสินใจภายหลัง เผื่อจะได้เงินจากลูกค้าเจ้านี้
-
ผมจะบอกเค้าว่า เดี๋ยวจะทำให้ติดให้ครับ จะได้กลับไปทำที่ กรุงเทพต่อ แล้วก็เปลี่ยนปั้มติ้กไป เพราะยังไงก็ต้องเปลี่ยนอยู่แล้วหนิครับ
จะว่าไปพอผมเห็นประโยคแรก ก็นึกถึง..........
โฆษณา น้ำมัน ไดเกียว (http://www.youtube.com/watch?v=KllaaE9PpMM#)
-
คุณเธอ น่าจะขับเป็นอย่างเดียวแหละ ส่วนเรื่องอื่นๆ คงไม่รู้จริงๆอะคับ ให้อภัยหล่อนไปเหอะ :'(
-
ผมคิดว่า จขกท. น่าจะต้องพูด ขยายความ หรืออธิบาย หรือพยายามที่จะสื่อสารกับลูกค้าให้มากกว่านี้
ควรจะบอกกับลูกค้า ถึงเวลาที่ต้องรอของ ต้องใช้เวลาประมาณสักกี่นาที เพื่อที่ลูกค้าจะได้มีข้อมูล
ในการตัดสินใจว่ารอได้หรือไม่ ;D ;D
-
คุณอธิบายถูกตามภาษาช่างครับ แต่คนส่วนใหญ่ต่อให้เป็นผู้ชายแต่ถ้าไม่ได้สนใจเรื่องรถ
ก็อาจจะไม่ทราบก็ได้ครับ ว่า "ปั๊มติ๊ก" คืออะไร
ถ้าเจออีกคราวหน้า ผมคิดว่าอธิบายเพิ่มอีกหน่อยจะจบง่ายกว่า เช่น
"ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงมันเสียครับ มันปั๊มน้ำมันจากถังขึ้นมาไม่ได้ เพราะฉะนั้น ยังไงเครื่องก็ไม่มีทางติดได้หรอกครับ ต้องรอเปลี่ยนของอย่างเดียว ถ้าจะเอาไปอู่ประจำต้องลากหรือยกไปสถานเดียวครับ"
-
ตาม คห. ข้างบน ถูกละครับ
ก่อนผมใช้รถ neon ผมก็ไม่เคยรู้จัก ว่า ปั้มติ๊ก คืออะไร
หลังจากใช้มา 1 ปี รู้สึกเหมือนได้เรียน วิศวะยานยนตร์เลยทีเดียว ;D
-
@ข้อความโดย: Nuay Paul R.
"ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงมันเสียครับ มันปั๊มน้ำมันจากถังขึ้นมาไม่ได้ เพราะฉะนั้น ยังไงเครื่องก็ไม่มีทางติดได้หรอกครับ ต้องรอเปลี่ยนของอย่างเดียว ถ้าจะเอาไปอู่ประจำต้องลากหรือยกไปสถานเดียวครับ"
ผมว่าถ้าแบบนี้เค้าเข้าใจชัวร์ครับ เพราะอย่างน้อย user แบบ "use เป็นอย่างเดียว"อย่างผมคนนึงแหละครับที่เพิ่งรู้ความหมายของ "ปั๊มติ๊ก" เพราะกระทู้นี้ :P
-
ผมว่าตอบไม่ตรงคำถามเขาทีเดียว
คือเขาถามว่า ทำให้ติดได้มั้ย
คำตอบก็ต้องเป็น ได้ หรือ ไม่ได้
แล้วก็อธิบายต่อว่า ไม่ได้หรือยังไม่ได้เพราะอะไร
-
ผมว่าแบบนี้นะถ้าโทรไปที่กรุงเทพช่างที่กรุงเทพก็จะพูดแบบเดียวกันกับพี่เจ้าของอู่แล้วบอกให้เปลี่ยนมาเลย ผมว่าลูกค้าคนนี้ก็เปลี่ยนเลย เพราะเค้าไม่เข้าใจหรอกรู้แค่ว่าต้องเปลี่ยนแต่เค้าอยากเปลี่ยนกับร้านที่เค้าไว้ใจมากที่สุดครับ ที่พี่พูดแบบนั้นไม่ผิดครับ ลูกค้าคงไม่เข้าใจแค่รับรู้แต่อยากเอารถกกลับไปทำร้านที่ไว้ใจ เลยต้องการให้ทำรถให้ติดซึ่งเค้าไม่เข้าใจว่ามันต้องทำเลย
-
พยายามหาคำเปรียบเทียบที่เธอสามารถเข้าใจได้ครับ เรื่องในโลกของเธอจะยิ่งทำให้ง่ายขึ้นครับ
เช่น ...
น้องครับ ซิบกระเป๋าแตก พี่ต้องสั่งซิปใหม่ ถ้าไม่สั่งใหม่มันก็ปิดกระเป๋าไม่ได้น่ะครับ
น้องเค๊ารวมทั้งช่างและผมด้วยยังไม่เห็นภาพ ต้องบอกว่า
" น้องครับ ซิบกางเกงยีนส์ของน้องแตก พี่ต้องสั่งซิปใหม่ ถ้าไม่สั่งใหม่มันก็รูดซิบไม่ได้น่ะครับ พี่จะสั่งปั๊มติ๊กอย่างเดียวครับ ปั๊มเชลล์ของน้องไม่เสียครับ"
-
คนทั่วไปที่ไม่ได้คลุกคลีกับการซ่อมรถเท่าไรกับช่างซ่อม ปกติแล้วจะพูดกันคนละภาษาน่ะครับ
ต้องมีการดัดแปลงภาษาให้เข้ากับผู้ฟังนิดหน่อย
-
เจอตัวแม่เข้าไป 555+
-
พูดกับผู้หญิงที่ไม่น่าจะรู้เรื่องรถแค่นั้นเทอไม่รู้เรื่องหรอกครับ ต้องขยายความมากกว่านั้น
เช่น ปั๊มติกเสียครับ ซ่อมไม่ได้ทำให้สตาร์ทตอนนี้ไม่ได้ต้องเปลี่ยนอะไหล่อย่างเดียวเลย ประมาณนี้น่าจะรู้เรื่องครับ
-
ตาม คห. ข้างบน ถูกละครับ
ก่อนผมใช้รถ neon ผมก็ไม่เคยรู้จัก ว่า ปั้มติ๊ก คืออะไร
หลังจากใช้มา 1 ปี รู้สึกเหมือนได้เรียน วิศวะยานยนตร์เลยทีเดียว ;D
คงซ่อมแทบทุกอาทิตย์ เหมืือนออดี้a4 b5ของเพื่อนผมล่ะมั้ง :D
-
จขกท.ลืมอธิบายให้เขาเข้าใจครับว่า "ปั๊มติ๊ก" มีไว้ทำอะไร
ว่าแต่ เดี๋ยวนี้ยังมีอุดรูรั่วถังน้ำมันแบบชั่วคราวด้วยสบู่อาบน้ำรึเปล่าครับนั่น
-
น้องเค้าชื่อ "ติ๊ก" รึเปล่าเลยเข้าใจผิด
ถ้าบอกว่าปั้มน้ำมันเสีย น้องเค้าจะนึกว่าเป็นปั้มที่เข้าไปเติมน้ำมันมั้ยอะ :D
-
ผู้หญิงส่วนมากเขามีรถก็แค่ขับไปนู่นไปนี่แค่นั่นเอง(น้อยคนที่จะคอยเช็ครถหรือรู้เรื่องรถจริงๆจังๆ)
-
คุณอธิบายถูกตามภาษาช่างครับ แต่คนส่วนใหญ่ต่อให้เป็นผู้ชายแต่ถ้าไม่ได้สนใจเรื่องรถ
ก็อาจจะไม่ทราบก็ได้ครับ ว่า "ปั๊มติ๊ก" คืออะไร
ถ้าเจออีกคราวหน้า ผมคิดว่าอธิบายเพิ่มอีกหน่อยจะจบง่ายกว่า เช่น
"ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงมันเสียครับ มันปั๊มน้ำมันจากถังขึ้นมาไม่ได้ เพราะฉะนั้น ยังไงเครื่องก็ไม่มีทางติดได้หรอกครับ ต้องรอเปลี่ยนของอย่างเดียว ถ้าจะเอาไปอู่ประจำต้องลากหรือยกไปสถานเดียวครับ"
เห็นด้วยครับ โดยเฉพาะ ผญ ยิ่งไม่เข้าใจใหญ่เลย
-
น้องเขาอาจจะนึกถึงลิปสติก เพราะมีคำว่า (ปั้ม)ติ้ก เหมือนกัน
คือทำให้รถติด แล้วไปเปลี่ยนปั้มติ้กใหม่ ที่กรุงเทพฯ
เหมือนแต่งหน้าทาลิปสติก ทาแก้ขัดไปก่อน แล้วค่อยไปทาใหม่โดยช่างที่ไว้ใจ
-
ผมเห็นว่า จขกท ทำถูกแล้วครับ และทำได้แค่นั้นจริง ๆ
หลังจากบอกลูกค้าถึงสามครั้งแล้ว แสดงให้เห็นว่าลูกค้าไม่รู้ว่าปั๊มติ็กสำคัญอย่างไร และลูกค้าไม่มีท่าทีอยากรู้อะไรเพิ่มเติม (ว่าทีช่างย้ำให้ถึงสามรอบคืออะไร) .. เมื่อลูกค้าอยากซ่อมอู่ประจำ ก็ต้องตามนั้นครับ
ลูกค้าคือปีศาจ ถ้าคุยไม่รู้เรื่อง ก็อยู่ให้ห่างไว้ครับ ;D
-
ผมมองอีกด้านนะครับ
ลูกค้าท่านนี้เป็นผู้หญิงและคงมีความรู้เรื่องรถยนต์ค่อนข้างน้อย
เดาเอาว่าคงจะขับอย่างเดียว
พอเกิดปัญหารถเสีย เธอหวังแค่หาช่างมาช่วยซ่อมให้รถพอสตาร์ทติดแล้วจะขับไปให้อู่ที่ใช้บบริการประจำเป็นผู้ซ่อมแซม
ลองเดาใจกันเล่นๆว่าเธอคิดอะไรอยู่พอทราบว่าปั๊มติ๊กเสียและต้องสั่งของ
1. ตายล่ะ สงสัยค่าซ่อมคงหลายตังส์แน่ๆเลย
2. ช่างเจ้านี้ไม่เคยใช้บริการ ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะซ่อมดีหรือเปล่า
3. จะโดนฟันมั๊ยเนี่ย
4. ซ่อมแค่พอขับได้เอาไปให้ช่างประจำทำให้ดีกว่ามั๊ย
.......
.......
.......
ถ้าผมเป็นจขกท. ก็คงแนะนำอย่างเดียวกัน หรืออาจจะแนะนำเธอให้ลองโทรไปถามช่างที่เธอใช้ประจำแนะนำมั๊งครับ
ผมว่าทุกวันเราเจอลูกค้าหลากหลาย ขณะเดียวกันลูกค้าก็คงรู้สึกทำนองเดียวกัน
ผมสรุปว่า สังคมเราขาดความไว้วางใจกันค่อนข้างรุนแรงครับ
-
ผมมองอีกด้านนะครับ
ลูกค้าท่านนี้เป็นผู้หญิงและคงมีความรู้เรื่องรถยนต์ค่อนข้างน้อย
เดาเอาว่าคงจะขับอย่างเดียว
พอเกิดปัญหารถเสีย เธอหวังแค่หาช่างมาช่วยซ่อมให้รถพอสตาร์ทติดแล้วจะขับไปให้อู่ที่ใช้บบริการประจำเป็นผู้ซ่อมแซม
ลองเดาใจกันเล่นๆว่าเธอคิดอะไรอยู่พอทราบว่าปั๊มติ๊กเสียและต้องสั่งของ
1. ตายล่ะ สงสัยค่าซ่อมคงหลายตังส์แน่ๆเลย
2. ช่างเจ้านี้ไม่เคยใช้บริการ ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะซ่อมดีหรือเปล่า
3. จะโดนฟันมั๊ยเนี่ย
4. ซ่อมแค่พอขับได้เอาไปให้ช่างประจำทำให้ดีกว่ามั๊ย
.......
.......
.......
ถ้าผมเป็นจขกท. ก็คงแนะนำอย่างเดียวกัน หรืออาจจะแนะนำเธอให้ลองโทรไปถามช่างที่เธอใช้ประจำแนะนำมั๊งครับ
ผมว่าทุกวันเราเจอลูกค้าหลากหลาย ขณะเดียวกันลูกค้าก็คงรู้สึกทำนองเดียวกัน
ผมสรุปว่า สังคมเราขาดความไว้วางใจกันค่อนข้างรุนแรงครับ
เยี่ยมมากครับ ผมว่านี่แหละใช่เลย กลัวโดนฟันชัวร์ครับ ก็เลยคิดว่าทำไงก็ได้ เอากลับไปให้อู่ประจำดู สบายใจกว่า
-
ไม่ Roundhouse kick ใส่เขาก็ถือว่าใจดีจริงๆครับ
อย่างนี้ไม่สมควรมาขับรถเลย
-
ผมว่าเป็นผู้หญิงด้วย แหละ ครับ เลยไม่เค้าใจว่า "ปั๊มติ๊ก" คืออะไร ต้องอธิบาย อ่ะครับ ถ้าอธิบาย แล้วไม่เข้าใจก็แบบว่านะ.....
-
บทสนทนามีเยอะกว่านี้ครับ ผมอธิบายให้น้องเขาไปแล้วตั้งแต่ต้นแล้ว ว่าปั๊มติ๊กคืออะไร ทำหน้าที่อะไร ทำไมรถสตาร์ทไม่ติด
แบบว่ากำลังเซ็งครับ เลยเขียนสรุปแค่ตอนท้าย ๆ ขออภัยครับ
-
ไม่ใส่ปั้มติ๊กมันจะสตาร์ทไม่ได้ครับผม
สตาร์ทไม่ได้ต้องลากกลับอย่างเดียวครับผม
ขอคุย(โทรศัพท์)กับช่างของน้องเขา
แล้วให้เขาอธิบายกันเองก็ได้ครับ