Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: Coolcarrera8 ที่ ธันวาคม 30, 2012, 21:31:19
-
หลังจากที่ผมอ่านได้ความรู้เรื่องรถยนต์จากเว็บแห่งนี้มากมาย วันนี้ก็เลยอยากจะแบ่งปันให้กับสังคมแห่งนี้บ้างครับ
(พยายามสมัครสมาชิกอยู่นานมากกกกกกกกก มัน error ตลอด แล้วไม่บอกว่า error อะไร แต่เหมือนจะปรับปรุงแล้วมั้งครับ เอาเป็นว่าผมสมัครผ่านเรียบร้อยแล้วละกันเนอะ)
ข้อมูลในรีวิวทั้งหมด รวมถึงภาพถ่ายทุกภาพที่ปรากฎในรีวิวนี้ขอสงวนสิทธิ์นะครับ หากต้องการนำไปเผยแพร่ที่ใดโปรดอ้างอิงถึงชื่อผู้เขียน หรือทำ link มายังกระทู้นี้ด้วย
เริ่มด้วยรีวิวคันนี้ละกัน Holden Commodore SV6 จะตั้งชื่อมันว่าอะไรดีล่ะ .. สาวออสซี่ผู้เปี่ยมไปด้วยพละกำลังหรือ ก็น่าจะได้นะครับ ;D
คันนี้เป็นรถเช่านะครับ พอดีคราวนี้ผมอยากจะขับรถไปทางเหนือของรัฐ Queensland ประเทศ Australia ไม่ใช่ที่ไหนไกลครับ ก็ไปทะเลที่เขาเรียกกันว่า Noosa Beach ที่อยู่ในเขต Sunshine coast นั่นเอง
ตอนแรกก็หาไปเรื่อยๆ มี VW Golf เครื่อง 1.4 TSi แล้วก็มี Camry 2.4 และพวกรถเล็กอย่าง Mitsubishi Lancer, Toyota Corolla มีทั้งโมเด็ลแฮชแบ็คและซีดานนะครับ และเล็กลงไปอีกก็พวก Nissan Micra, Toyota Yaris กันเลยทีเดียว ซึ่งผมดูแล้ว เอาล่ะ ถึงแม้ว่าตัวเลือกที่มันดูเหมือนว่าจะมีในบ้านเราแทบจะทั้งหมด แต่บางคันก็ประกอบมาจากญี่ปุ่นนะ เช่น Corolla, Yaris, Lancer เป็นต้น
Camry ประกอบในออสเตรเลียที่ Adelaide ครับ และ Nissan Micra หรือ March ส่งมาจากอินโดนิเซีย มีทั้งเครื่อง 1.5 ลิตร และ 1.2 ลิตรบล็อกเดียวกับบ้านเราวางขายครบ
ถึงจุดนี้แล้วก็เอ้อ เอาไงดีหว่า หันไปถามเพื่อนร่วมทริปมันก็บอก เฮ้ย เอาคันที่เครื่องไม่ต้องใหญ่มากจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำมันมาก อ่าว ไอ้นี่ ไม่รู้เรื่องแระ ยิ่งวิ่งทางไกลๆยาวๆ รถไม่ติดแบบนี้เครื่องเล็กไปมันก็กินนะเว้ย เพราะต้องปั่นรอบมากกว่าเครื่องที่ใหญ่กว่าในการที่จะทำความเร็วให้เท่ากับรถเครื่องใหญ่กว่า (จริงๆ เพราะผมอยากจะลองขับรถเครื่องยนต์ใหญ่ๆบ้างเท่านั้นเองครับ เพราะอยู่ที่ไทยก็ขับรถ 1.5 มาตลอด)
หาไปหามาก็มาสะดุดกับคันนี้ซะ เป็น Holden Commodore รุ่น SV6 ซึ่งเป็นรุ่นระดับราคากลางๆในตระกูล Commodore ที่ผลิตและขายในตลาดออสเตรเลียเป็นหลัก โดยมีคู่แข่งคือ Ford Falcon และ Toyota Aurion??
-
Toyota Aurion มันก็คือ Toyota Camry V6 3.5 บ้านเรานั่นเอง (อย่ามาซึน โตโยต้า ผมรู้นะว่า Aurion น่ะ ระดับมันต่ำกว่า Commodore กับ Falcon เขานิดนึง)
(ป.ล. 2 ที่ออสเตรเลีย Camry มีทั้งสองโฉมนะครับ คือ โฉม US และ Asia (เหมือนบ้านเรา) โดยโฉม US จะวาง Position ตัวเองต่ำกว่า มีเครื่องยนต์ให้เลือกคือ 2.5 Dual VVT-I แบบธรรมดา ท่อไอเสียเดี่ยว(spec เดียวกับบ้านเรา) และ 2.5 Dual VVT-I แบบ สปอร์ท มีท่อไอเสียคู่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน(บ้านเราไม่มี) โดยแรงม้าและแรงบิดต่างกันเล็กน้อย และได้หล่อเหมือนรุ่น V6 เลยเพราะปลายท่อคู่นั่นแหละ และรุ่นไฮบริด(spec เดียวกับบ้านเรา), ส่วนโฉมเอเชีย จะหน้าตาเหมือนบ้านเราทุกอย่าง แต่วางเฉพาะเครื่อง V6 3.5 2GR-FE Dual VVT-I เท่านั้น โดยวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์สูงกว่า Camry เพื่อหวังชิงส่วนแบ่งยอดขายจากเจ้าตลาดอย่าง Holden Commodore และ Ford Falcon สองเจ้าถิ่นนั่นเอง) (Toyota.com.au)
ขอพูดถึง line ของ Commodore สักหน่อยนะครับ
ส่วนการแบ่ง Trim ของ Commodore นั้นผมว่ามันมีค่อนข้างหลายรุ่น โดยแบ่งเป็น 3 หมวดใหญ่ๆก่อนคือ Comfort, Sport, Luxury
ในแต่ละหมวดก็จะแยกย่อยลงไปอีก โดย Comfort จะมีรุ่น Omega, Berlina และ Z-series โดยทุกรุ่นจะต่างกันที่อุปกรณ์มาตรฐาน แต่วางเครื่องยนต์ตัวเริ่มต้น 3.0 L ระบบฉีดตรง 258 แรงม้าเท่ากันทุกคัน
ในหมวด Sport จะมี SS , SSV, SV6 และ SV6 Z series โดยจะมีเครื่องยนต์ 2 แบบในTrim นี้ คือ V6 3.6L Direct injection ที่ GM เรียกมันว่า SIDI เครื่องตัวนี้ ให้กำลัง 285 แรงม้า ที่ 6700 รอบต่อนาที และเป็นตัวที่ผมจะเขียนรีวิวในวันนี้
และ ในTrim นี้ก็เริ่มมีเครื่องตัวแรงอย่าง V8 6.0 โผล่มาให้เลือกใช้กัน แต่ผมว่ามันยังค่อนข้างโบราณนะคือเป็น OHV และไม่ใช่ระบบฉีดตรง มีแรงม้าให้ใช้กัน 367 ตัว
ในหมวด Luxury จะมี Calais และ Calais V-series มีแค่เครื่อง 3.6 ให้เลือกบล็อกเดียว
ทั้งหมดนี้มีให้เลือกทั้ง Sedan และ Wagon ครับ อืม... กี่รุ่นเข้าไปแล้วนั่นน่ะ?
ยังนะ ยังไม่หมดครับ ในตระกูลของ Commodore นั้น จะแยกออกไปอีก เป็นตัวหรู และขายในชื่อ Holden Caprice โดยแตกต่างกันที่การตกแต่งภายนอก และอัพราคาขายขึ้นไปจาก Commodore มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่นคือ 3.6 และ 6.0 ครับ รุ่น Caprice นี่ส่งไปขายอเมริกาเป็นรถตำรวจ ซึ่งเขาเรียกว่า PPV แน่ะ (ลองดูที่นี่ http://news.drive.com.au/drive/motor-news/first-drive-chevrolet-caprice-ppv-20110117-19swj.html (http://news.drive.com.au/drive/motor-news/first-drive-chevrolet-caprice-ppv-20110117-19swj.html))
-
เอาล่ะขอกลับมาที่ Commodore SV6 ที่ตั้งใจจะรีวิวครับ รถคันนี้ เครื่องยนต์ V6 ฉีดเชื้อเพลิงตรง 3600 CC 285 แรงม้า @6700 rpm แรงบิด 350nm@2800 rpm อืม รอบต่ำใช้ได้ เชื่อมด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 speed torque converter ครับ ไม่ใช่คลัตช์คู่นะ
รถคันนี้เป็นรถใหม่ ใหม่กว่ารถที่ผมใช้อยู่ที่ไทยซะอีก และวิ่งมาแค่ราวๆ 27000 ก.ม. เท่านั้นเอง เรียกว่ายังค่อนข้างสด และอาการของรถนั้นน่าจะยังพอใช้เป็น reference มาตรฐานของรถรุ่นนี้ได้
พอรับกุญแจมาขึ้นรถ ปรับเบาะเรียบร้อย ก็เซ็ต 0 เลยครับ เพื่อจะได้จับอัตราสิ้นเปลือง โดยคร่าวๆ
ที่บอกว่าโดยคร่าวๆเพราะว่าเป็นธรรมเนียมของบริษัทรถคือ ทุกครั้งที่คืน ลูกค้าคนก่อนต้องเติมน้ำมันจนเต็ม เต็มจริงๆนะ
แล้วค่อยคืน ถ้าไม่เต็ม บริษัทรถจะเอาไปเติมให้เต็มสุดๆ แล้วค่อยเอาไปเก็บในโรงเก็บรถ
และก็ชาร์จบัตรเครดิตลูกค้าคนก่อนครับ
เอาล่ะ เซ็ต 0 ปรับเบาะ กระจก ทุกอย่างเข้าที่แล้วก็ไปได้ครับ
ขับออกมาจากลานจอดในเมืองบริสเบน มุ่งหน้าขึ้นเหนือ การจราจรไม่ติดขัดเท่าไรครับ ใช้ความเร็วได้เรื่อยๆ ตามจังหวะสัญญาณไฟ การขับขี่ ช่วงออกตัว ผมว่ามันก็ธรรมชาติของรถเครื่อง V6 นะ คือไหลดี ติดเท้า ไม่กระชากแรงจนหลังติดเบาะ แบบพวกเครื่องเทอร์โบ แต่มองกระจกหลังอีกที อ่าว คันหลังหายไปไหนวะ (อารมณ์นี้มันก็ เรียกยิ้มได้นิดๆละ :))
การทำงานของเกียร์ ผมว่าในเมืองก็พอใช้ได้ กดลงไปลึกหน่อยก็ kick down ให้ พอขับเนือยๆก็พยายามขึ้นเกียร์สูงสุด แต่รู้สึกว่าถ้าไม่เกิน 80 กม/ชม จะยังไม่ยอมขึ้นเกียร์ 6 ให้นะครับ ถึงจะสั่ง + ในโหมดแมนนวลเองก็ไม่ยอมขึ้นให้
มีระบบ + - ให้เล่นเกียร์เอง แต่ไม่มี Paddle shift แฮะ และการเล่น + - ที่คันเกียร์ผมว่าผมเฉยๆนะ เพราะถ้ามันเกิดมาเป็นเกียร์ออโต้ ยังไงมันก็คือเกียร์ออโต้วันยังค่ำ ผมเลยปล่อย D ยาวไปเกือบตลอดทริปครับ เพื่อดูว่าสมองเกียร์มันจะฉลาดสักแค่ไหน
ขับไปเรื่อยๆ ความเร็วประมาณ 100-120 กม/ชม ตามกฎหมาย ก็โอเคครับ ระหว่างทางเจอ BMW 120d ซ่าด้วยครับ 8) ขับมุดไปมุดมา ผมก็คันๆ อยากจะเล่นด้วย พอลองมุดตาม อืมม ลุง ทำไมขับซะ Young at heart เลยล่ะเนี่ย ;D
เอาแค่ตีคู่ได้แปปนึงพอล่ะครับ (ความเร็วขณะนั้นก็แค่ 130 นิดๆเอง) สักพักลุงแกก็มุด แซงซ้ายยาวไป แล้วปาดเข้าขวา มาอยู่หน้าผมไปอีก 2-3 คันเอง แต่ผมไม่กล้ามุดตามต่อละ กลัวกฎหมาย และความปลอดภัยด้วย เอาล่ะ กลับมาขับชิวๆกันต่อ
ช่วงล่าง เนื่องจาก SV6 คันนี้เป็น sport trim ผมว่ามันเตี้ยกว่าพี่น้องร่วมตระกูลมันครับ และได้ยางขอบ 18 แถมช่วงล่างเป็นแบบ sport และเพิ่มเหล็กกันโคลงหน้า หลังเป็นพิเศษให้ ก็ถือว่า รถวิ่งได้นิ่งดีครับ พอมีช่วงนึงแซงสิบล้อ ก็มีเซบ้างนิดหน่อย ไม่มากอะไร แต่ทีนี้พอวิ่งช้าๆ ขึ้นลูกระนาดในเมือง หรือลงหลุมบ้างนิดหน่อย ถือว่า ตึงตังกันเลยทีเดียว แต่ผมกลับชอบแฮะ เป็นรถช่วงล่างแข็งที่ผมขับแล้วไม่ล้าเลย
-
ไม่ทันไรก็ออกมานอกเมืองละครับ เห็นถนนแบบนี้ เราอยู่คันหน้าสุด วิ่งอยู่ 100 ก็นึกสนุก เอาน่า ตำรวจอะไร ไม่มีหรอก คิดเข้าข้างตัวเองไปนู่น เลยลองกดเล่นๆดูครับ ครึ่งคันเร่ง เกียร์รู้สึกจะไม่ได้ลงช่วยด้วยนะ เพราะเป็นทางเรียบ และไม่ได้ตั้งใจ kick down อะไร แป๊ปเดียวจริงๆ ไม่ได้จับเวลานะครับ ความเร็วพุ่งพรวดไปเป็น 168 กม/ชม ขึ้นแบบไหลลื่นๆนิ่มๆจริงๆ รถก็มีโคลงซ้ายขวาบ้างตามสภาพของถนนราดยางบานนอกของเขา เสร็จแล้วก็รีบลดความเร็วเหลือ 100 ตามเดิมครับ แค่นี้ก็เหมือนกันเอาขาแหย่เข้าคุกไปข้างนึงละ เพราะกฎหมายเรื่อง speed limit เขาแรงจริงครับ
-
ขับๆไป เจอกับป้ายนี้เป็นระยะครับ ก็จึ๋ย นี่มัน Flood way นี่หว่า ใช่แล้ว เราขับมาทางเขต sunshine coast ซึ่งเมื่อปีก่อน จุดนี้น้ำท่วมอย่างไร ไม่ต้องพูดถึง .. ลึกแค่ไหน ก็ดูไม้วัดระดับน้ำจากรูปเลยครับ
.
.
.
อ๊ะ ในรูปมีรถที่ดูคุ้นๆตาสวนมานะ ไม่ใช่อะไรที่ไหน Holden/ Isuzu D-max จาก ไทยแลนด์นั้นเอง
โดยที่เห็นที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่น 3.0 VGS turbo หัวกระสือ ไปต่อกระบะบรรทุกของเอาเอง เน้นใช้งานจริงๆครับ แต่พอดีไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วยครับ
-
ลืมรูปป้ายของ rep ที่แล้ว
นี่ครับป้าย จึ๋ย
-
เอาล่ะ ถึงที่หมายซะที Noosa Head beach ครับ ก็ทะเลธรรมดาๆเนอะ ผมว่า ทะเลไทยหลายที่สวยกว่านี้น่า
.
.
ลองลงไปเล่นดูน้ำเย็นเฉียบยังกะเปิดออกมาจากตู้เย็น เห็นแดดเปรี้ยงๆแบบนี้ พอขาแตะน้ำ ดันเย็นขนาดปวดไปถึงกระดูก - -" ก็พอเข้าใจละครับ ทำไมฝรั่งเขาชอบทะเลไทยที่น้ำมันอุ่น สบายกว่า
-
ทะเลครับ
.
.
อาบแดดสนุกมั้ยเฮ้ย ??
-
เล่นได้สักพักพวกผมก็ออกจาก Noosa Beach ขับมุ่งหน้าไปอีกเมือง ชื่อเมือง Gympie ... อ่านว่าอะไรกันครับ
ผมอ่าน จิมพี ไปถามในปั๊ม บอกไม่รู้ บอกไปบอกมา อ้อ กิมพี เอ่อ - - กลับมา เพื่อนผมก็ เฮ้ย วันนี้เราไปไหนกันมานะ จิ๋มผี หรอ เอ่อ เอาเข้าไปสาด ;D ;D
สภาพเส้นทางก็คล้ายๆกันในรูปครับ ส่วนใหญ่เป็น ทางไปกลับสวนเลนเดียว !! ขับแล้วเครียดครับ บางทีเราขับแบบโดดๆคันเดียวดูเปลี่ยวๆ บางทีก็มีพวกรถ SUV มาจี้ท้าย
คนออสเตรเลียนี่มันก็เเปลกครับ เวลาขับถนนทางไกลที่เป็นสองเลนสวนแบบนี้ มันจะชอบจี้ตูด จี้แบบติดจริงๆนะ น้อยกว่า 1 ช่วงคันรถแน่ๆล่ะ แต่ไม่ยอมแซง ไม่ค่อยโสภาเท่าไรเหมือนกันแฮะ พอกลับมาเล่าให้เพื่อนที่เป็นคนออสเตรเลียฟังว่า เออ ไอไปเจอพวกจี้ท้ายเยอะมาก ทั้งๆที่ขับตาม speed limit คือราวๆ 100-110 km/h คนออสขับกันแบบนี้หรอ เพื่อนผมยังออกท่าทางเอือมเลยครับ บอก "ใช่ ที่นี่บนถนนมีพวกปัญญาแข็ง(อ่อน)เยอะเหมือนกัน" สงสัยเพื่อนผมก็โดนจี้มาเยอะเหมือนกันละมั้ง :D
-
ทางขึ้นลงเขา ผมว่าโค้งไปโค้งมา ขับคันนี้แล้วพวงมาลัยมัน อืมม ถ้าเรียกว่าเป็น sport trim แล้ว ผมว่าพวงมาลัยมันยังไม่ไวเท่าไร ผลคือ รถขับได้ไม่ค่อยสนุกเท่าไร ซึ่ง พวงมาลัยของ Accord G7 V6 spec บ้านเรานี่แหละ คมกว่า ไวกว่าครับ
แค่พวงมาลัยนะ ไม่ได้รวมถึงช่วงล่างโดยรวม เพราะถ้ารวมแล้ว รถขับหน้า ขับหลัง มันเทียบกันลำบากหน่อยล่ะครับ
-
ขับไปพอสมควรก็แวะจอดพัก ไม่ให้เสียเวลาก็จับถ่ายรูปกันครับ มุมนี้หล่อใช้ได้อยู่นะ
-
ท่อไอเสียคู่ ดูดีอยู่ครับ
-
ขุมพลัง V6 Direct injection จัดวางแบบนี้ ขับหลังใช่มั้ยเอ่ย
ใช่ครับ คันนี้ขับหลัง การ balance น้ำหนัก เทียบกับ Camry 3.5 ยังไงคันนี้ก็ feeling ดีกว่าครับ
ถึงบอกไปในต้น review ว่ายังไง Aurion (Camry) จะมาชนกะเจ้านี่ตรงๆมันก็คงยากหน่อยทางเทคนิก แต่ยอดขาย ความไว้ใจได้ของรถ รวมไปถึงคุณภาพการประกอบและอะไหล่ อันนั้นมันอีกเรื่องนึง
เพราะยอดขายของโตโยต้าที่ออสเตรเลียนี่ ก็เป็นผู้นำตลาดเหมือนบ้านเราล่ะครับ
-
เอาล่ะครับ มาถึงช่วงสุดท้ายของรีวิว ก่อนอื่น ผมขอสรุปเรื่องอัตราการกินน้ำมันหน่อยนะครับ อันนี้ตัวเลขคร่าวๆ ดังนี้ครับ
รถคันนี้ใช้เครื่องเบนซิน V6 3600 CC. ซึ่งถือว่าขนาดใหญ่โตเอาเรื่อง เห็นพิกัดความจุแบบนี้ก็คิดว่า มันต้องสูบน้ำมันแหงมๆ แถมผมก็ขับแบบเร่งบ้าง ผ่อนบ้าง ไม่ได้เกร็งเท้าเพื่อประหยัดแต่อย่างใด จะเป็นไปตามที่คิดมั้ย ดูตัวเลขกันดีกว่า
วิ่งไป 530.4 กม (นับตั้งแต่ออกจากบริษัทเช่ารถ จนถึงปั๊มน้ำมันสุดท้าย เติมน้ำมันเต็มถัง และวัดอัตราสิ้นเปลืองที่จุดนี้) เติมน้ำมันไป 44.13 ลิตร
สรุป อัตราสิ้นเปลือง ได้ที่ 12.02 กิโลเมตร ต่อลิตร!! เฮ้ย ?? :o :o
รถคันเบ้อเร่อ เครื่องก็ใหญ่ กินน้ำมันน้อยกว่า รถเบนซินเครื่อง 2.0 , 2.4 บางคันในบ้านเรา !!
ตอนแรกที่ลองกดเครื่องคิดเลขดู ผมตะลึงเล็กๆไปเลยนะ เห็นตัวเลขนี้
ผมยกคุณงามความดีให้ระบบ Direct injection และเกียร์ 6 speed ละกันครับ
และอีกอย่าง รถคันนี้ spec ให้เติมน้ำมันเครื่อง 5w-30 นี่ก็น่าจะมีส่วนช่วยเรื่องความประหยัดอยู่นะ
น้ำมันที่มีอยู่ในถังตอนรถมาถึงมือผม ผมไม่รู้ว่าเป็นน้ำมันอะไร แต่พอเติมกลับ ผมเติม E10 คืนไปเพราะราคาถูกกว่า
เบนซินเพียวๆครับ
-
สรุป รถคันนี้ ดีใช้ได้ สมราคามันนะ (ประมาณ 43900 AUD ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ได้เครื่อง 3.6 ลิตร V6 ฉีดเชื้อเพลิงตรง เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ระบบความปลอดภัยครบ ABS EBD BA ESP Airbags คู่หน้า ด้านข้าง และม่านด้านข้าง (ที่ครบแบบนี้เพราะกฎหมายกำหนดนะครับ ว่ารถทุกคันต้องติดตามนั้น)
การขับ ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นรถหรูอะไร เป็นรถธรรมดามากกว่า ช่วงล่าง เซ็ตมาค่อนข้างแข็ง กระด้างในบางจุด ขึ้นลูกระนาดนี่ตึงตังกันเลยแหละ นิ่งใช้ได้ในความเร็วสูง แต่ถ้าเจอลมปะทะ หรือแซงรถใหญ่ ก็มีวูบวาบนิดๆเหมือนกัน
การเก็บเสียง ทำได้เสมอตัว ไม่ได้เงียบไปกว่า Accord Camry เลย
อัตราเร่ง ถ้าคิดว่านี่คือเครื่อง 3600 cc แล้ว ผมว่ามันอืดไปนิดนะ กดคันเร่งจมมิด ปิด Traction Control แล้ว ไม่สามารถออกตัวล้อฟรีได้ เพราะยางเขาดีหรือเปล่า อืม ผมก็ลืมดูยี่ห้อยางซะด้วยสิ แต่ออกตัว อืดกว่า Camry 3.5 ไปซะงั้นแหละครับ - -" หรือนี่จะเป็นนิสัยของรถค่าย GM ที่เกียร์ 1 จะไม่พุ่งกระโดดเป็นม้าแบบฝั่งญี่ปุ่น
แต่ช่วงกลางๆ เร่งจาก 110 ไปแถวๆ 160-170 นี่ไหลต่อเนื่องดีมาก ถ้ามีถนน และไม่มีกฎหมายspeed limit ก็อยากจะลองดูเหมือนกันว่าจะไปจบที่เท่าไร
เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ของรถคันนี้ยังดูบื้อๆไปนิดในบางจังหวะ โอเค ช่วงขึ้นเขา ก็ฉลาดอยู่ เติมคันเร่งเพิ่มนิดนึงก็ลงเกียร์ต่ำให้ และค้างอยู่ที่เกียร์นั้นจนพ้นเขา โอเคตรงนี้สอบผ่าน
แต่มีช่วงลงเขา ลงเนินยาวๆ ทำไมไม่ยอม Hold เกียร์ต่ำไว้ให้ ถึงแม้จะเหยียบเบรกแล้วก็ตาม และมีจังหวะหนึ่ง ขึ้นเกียร์สูงตอนรถกำลังลงเนินด้วยซ้ำ โอ้ อันตรายนะ
อาจจะเน้นประหยัดหรือเปล่า เพราะที่ความเร็ว 100 ใช้รอบเครื่องแค่แถวๆ 1500-1600 RPM เอง
กระจกมองข้าง เป็นอะไรที่ผมไม่ชอบเลยสำหรับรถคันนี้ มันเล็กไป และหลอกตา
ทำให้บางครั้ง ไม่ชินและเกิดความเครียดตอนขับรถได้
คุณภาพงานประกอบ เอ่อ .. ให้รถญี่ปุ่นประกอบบ้านเราดีกว่าล่ะครับ
สรุป ชอบครับรถคันนี้ แต่คงไม่ได้พิสวาทขนาดต้องขนลงเรือกลับเมืองไทยไปด้วยนะ เอ แต่จะว่าไปมีอยู่ช่วงนึง Chevrolet ประเทศไทยเคยนำเข้าไปขายในนามChevrolet Lumina ใช่มั้ยครับ เอ่อ ถ้าจะเอาตัวนี้ไปขายอีกรอบ ผมก็อาจจะรับไว้พิจารณาเป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกก็ได้นะถ้าราคามันสมเหตุสมผล ไม่โดดไป 3 ล้านเพราะพิกัดกำแพงภาษีซะก่อน
แต่คงยากล่ะครับที่จะเจอเจ้านี้บนถนนเมืองไทย
-
ทิ้งท้าย ผมว่ามุมนี้มันดูหล่อสุดละ
ดูเหมือนกล้ามเนื้อเป็นมัด มีพลังพร้อมพุ่งไปข้างหน้า รับกับล้ออัลลอย 5 ก้านได้ดีจริงๆ
-
ลาไปด้วยภาพนี้ละกันครับ คู่แข่งตลอดกาล Ford Falcon นั่นเอง ไว้มีโอกาสผมจะมารีวิวให้ดูนะครับ
แล้วพบกันใหม่ครับ สวัสดีครับ
-
ขอบคุณครับ ;D ;D
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ ;D
-
ขอบคุณครับรีวิวครับ ;D ;D รีวิวได้ยอดเยื่ยมมาก ยกนิ้ว(โป้ง)ให้ :D :D
-
ขอบคุณครับกระทู้คุณภาพ อ่านเพลินเลยครับ :)
-
ขอบคุณครับ ;D
ว่าแต่คุณ time traveler ไม่รีวิวเจ้านี่หน่อยหรอครับ ;) ;)
-
ขอบคุณครับ
แต่บรรทัดมายาวมาก อ่านยาก ปวดตา ตาลาย
ช่วยตัดบรรทัดลงมา จะทำให้น่าอ่าน และอ่านง่ายครับ
-
ลองจัดย่อหน้าในบาง comment ล่ะครับ
น่าจะสบายตาขึ้นกันนะครับ
-
ขอบคุณมากครับ ไม่ทราบว่าได้มีโอกาสลองกระบะที่นู้นมั่งมั๊ยครับเห็นว่าพื้นที่โหดๆเยอะ
-
กระบะที่นู่นที่นิยมจริงๆก็ Toyota Hilux, Nissan Navara, Mitsubishi L200 (Triton บ้านเรา) Holden D-Max
ซึ่งโมเดลก่อนก็หน้าเหมือนกันเป๊ะกับ Isuzu D-max แต่ตัวปัจจุบันก็แยกกันแบบบ้านเราครับ และช่วงหลังๆนี่เริ่มเห็น Ford Ranger และ MazdaBT-50 วิ่งกันเยอะขึ้น กลุ่มนี้ตัดไป มาลองที่ไทยได้ ส่งไปจากไทย หน้าตาเหมือนกัน แต่ความปลอดภัยจัดเต็มเช่น ม่าน Airbag, VSC ESP ABS etc... และอีกอย่าง ราคาขายปลีกที่นู่น คันนึงเห็นแล้วก็หนาวล่ะครับ
เช่น Hilux นี่ตัว top สุด 4 ประตูยกสูงก็ปาไปราวๆ 1.8 ล้านบาท ตัวเริ่มต้นก็ 8-9 แสนบาท ตอนเดียว ไม่มีกระบะด้วยนะครับ :o
และกลุ่มคนที่ใช้รถประเภทนี้คือไว้ทำงานจริงๆ หรือผมมองว่าถ้าจะใช้ทั่วไปก็ถือเป็นของหรูเลยล่ะ (ตรงนี้ทำให้ผมรู้สึกรักเมืองไทยและกระบะ 1 ตันขึ้นมาทันที ;D) และแน่นอนครับ ค่าเช่าแพงกว่า SV6 คันที่ผมเอามารีวิว :-X
แล้วก็มีกระบะสายพันธุ์สปอร์ต (กระบะใช้พื้นฐานเก๋ง) ที่ทำจาก Holden Commodore และ Ford Falcon ที่มีเขียนในรีวิวช่วงต้นครับ แต่พวกนี้เน้นเท่ห์มากกว่านะผมว่า แต่ละคันเห็นเครื่อง V8 บ้าง Supercharged บ้าง ซึ่งผมดูแล้วพวกนี้มันก็คือรถเก๋งนั่นเอง ... อันนี้ก็ไม่ได้ลองครับ คิดว่าได้ขับเวอร์ชันเก๋งของทั้ง Commodore และFalcon แล้วก็น่าจะใกล้เคียง ;D
ส่วนถนน ถ้าขับบนทางดำก็โอเคนะผมว่า ไม่มีหลุมบ่อแบบบ้านเราถึงจะไปไกลๆ ต่างรัฐต่างเมือง นานๆจะมีจั๊มสักทีละครับ
แต่ถ้าเป็นทางที่ต้องใช้ 4x4 โหดๆแล้ว ก็มีเยอะที่อยู่ครับ
-
ขอบคุณมากครับสำหรับรีวิวรถแปลกๆที่คนไทย (ที่อยู่ในไทย) ยากที่จะได้สัมผัส
-
รุ่นเดียวกับที่ผมเคยเช่าที่ kingcross ขับจาก Sydney ไป Snowwy mountain เลยครับ
แต่ที่ผมขับหน้าตาแบบด้านล่างนี้นะครับ
เป็นรุ่นที่น่าลองจริงๆครับ เพราะ(เหมือนว่า)แรงดี ค่าเช่าก็พอๆกัน และที่สำคัญบ้านเราไม่มี !
-
ไม่กล้าขับเกิน100km/hในออสเลยครับ กฎหมายเค้าแรงมากจริงๆเรื่องspeeding แต่เจอHolden เยอะมาก สวยๆเพียบๆเลย
-
ขอบคุณครับ ว่าแต่มีรูปภายในบ้างมั้ยครับ อยากเห็นด้านในบ้างครับ
แหะๆ
-
รุ่นเดียวกับที่ผมเคยเช่าที่ kingcross ขับจาก Sydney ไป Snowwy mountain เลยครับ
แต่ที่ผมขับหน้าตาแบบด้านล่างนี้นะครับ
เป็นรุ่นที่น่าลองจริงๆครับ เพราะ(เหมือนว่า)แรงดี ค่าเช่าก็พอๆกัน และที่สำคัญบ้านเราไม่มี !
ที่คุณขับน่าจะเป็นรุ่นก่อนหน้าคันนี้ไปอีก 1-2 Gen ล่ะครับ ก็สวยไปอีกแบบเนาะ ค่าเช่า ตอนผมเช่าเห็นด้วยครับว่าถูกเมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่นๆ ;D
เหมือนว่าแรง อืม ผมว่าไม่เหมือนว่าแรงนะ แรงจริงๆเลยแหละ แหะๆ
-
ขอบคุณครับ ว่าแต่มีรูปภายในบ้างมั้ยครับ อยากเห็นด้านในบ้างครับ
แหะๆ
จะว่าไปแล้ว ผมลืมลงรูปภายในนี่นา !!!! :o :o :o
-
ขอบคุณสำหรับ Review ครับ
ผมเพิ่งไป Australia มาเหมือนกันครับ ไป9วัน
-ไป Melbourne ทำงานก่อน3วัน เช่าเจ้า Camry 2.5 ตัวล่าสุด ขับไปจนถึง 12 Apostle แล้วก็กลับครับ (ไม่ประทับใจในการขับขี่เท่าไหร่ แต่มันกว้างเหลือเชื่อเลยครับ)
-แล้วก็บินไปลงที่ Townsville(เมืองPowerPupGirl555+) ขับลงล่างมาเรื่อยๆ ตามแนว The Great Barrier Reef แล้วมาสุดนั่งเครื่องกลับที่ Gold Coast ครับ
เช่า VW Passat 1.8 TSI Estate(เก็บของจากOutlet DFOมาได้มากจนเหลือเชื่อเลยครับ) ขับไป 2000กว่า KM ครับ (ขับดีตามภาษารถยุโรปเลยครับ แต่เร่งมากๆไม่ค่อยจะไหว555+)
ตอนแรกได้รถเป็น Holden Commodore SV6 เหมือนจขกท เลยครับ แต่กระเป๋ามันเยอะขึ้นจนใส่หลังรถไม่ได้ เลย Upgrade วันละ 5AUD เป็น VW แทน
-
ขอบคุณสำหรับ Review ครับ
ผมเพิ่งไป Australia มาเหมือนกันครับ ไป9วัน
-ไป Melbourne ทำงานก่อน3วัน เช่าเจ้า Camry 2.5 ตัวล่าสุด ขับไปจนถึง 12 Apostle แล้วก็กลับครับ (ไม่ประทับใจในการขับขี่เท่าไหร่ แต่มันกว้างเหลือเชื่อเลยครับ)
-แล้วก็บินไปลงที่ Townsville(เมืองPowerPupGirl555+) ขับลงล่างมาเรื่อยๆ ตามแนว The Great Barrier Reef แล้วมาสุดนั่งเครื่องกลับที่ Gold Coast ครับ
เช่า VW Passat 1.8 TSI Estate(เก็บของจากOutlet DFOมาได้มากจนเหลือเชื่อเลยครับ) ขับไป 2000กว่า KM ครับ (ขับดีตามภาษารถยุโรปเลยครับ แต่เร่งมากๆไม่ค่อยจะไหว555+)
ตอนแรกได้รถเป็น Holden Commodore SV6 เหมือนจขกท เลยครับ แต่กระเป๋ามันเยอะขึ้นจนใส่หลังรถไม่ได้ เลย Upgrade วันละ 5AUD เป็น VW แทน
ขับจาก Townsville ลงมา Goldcoast เลยหรอครับ :o ได้แวะเที่ยว Brisbane มั้ยครับ (เอ แต่มีช้อปที่ DFO ด้วย น่าจะได้เที่ยวบริสเบนอยู่เนาะ)
ตอนเลือกรถผมก็เกือบๆจะเอา vw แล้วเหมือนกันครับ แต่รู้สึกจะเป็น Golf 1.4 tsi แล้วก็ Passat Sedan จำเครื่องไม่ได้ เพราะอยากลองขับรถยุโรปดูบ้าง แต่มาเจอ SV6 ซะก่อนเลยขอข้าม vw ไปก่อน (ค่อยมาหาลองในไทยเอา ;D )
ปล ไหนๆบินขึ้นไปแล้วน่าจะไปถึงแคนส์ (Cairns) นะครับ แล้วค่อยขับลุยลงมาก็ยังไหว ;)