Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: KAKASHII ที่ มกราคม 04, 2013, 12:29:26

หัวข้อ: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: KAKASHII ที่ มกราคม 04, 2013, 12:29:26
แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ

http://men.kapook.com/view53882.html (http://men.kapook.com/view53882.html)

 ;D
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: ichok ที่ มกราคม 04, 2013, 13:04:11
กระแทกแดกดันเกินไปนิดนึง ด้านดีๆก็มีไม่ค่อยเน้น ฟังเผินๆนึกว่าเป็นเจ้าของเต็นท์มือสองซะเอง
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: xman2029 ที่ มกราคม 04, 2013, 14:34:38
แต่ผมว่าเขาพูดมันก็เป็นเรื่องจริงนะครับ บางคนอยากคืนแสนนึงจนตัวสั่น โดยไม่คำนึงถึงรายได้ตัวเอง คิดว่าตัวเองผ่อนพอไหวก็ ชื้อได้ โดยไม่คำนึงถึงค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษาอีก
อย่างที่เขาพูด คนออกรถคันแรก จะมีกี่คนกันครับที่คิดรอบครอบขนาดนั้น ผมว่าให้ 1ใน20 เลยที่คิดเผื่อ ค่าบำรุงรักษารถ ค่าประกัน ค่าภาษี
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: J!MMY ที่ มกราคม 04, 2013, 15:10:07
ฟังแล้ว อย่าเพิ่งอคติครับ

ผมมองแล้วเห็นด้วยกับบทความชิ้นนี้

คนไทย ที่ไม่ดูตัวเอง ไม่ประมาณตนเอง แล้วเข้ามาอยู่ในโครงการรถคันแรกนี้
มีมากมายเหลือเกิน

ทุกคนอยากมีชีวิตที่ดีกว่า แต่หลายๆคน ลืมคิดหน้าคิดหลังให้ดีเสียก่อน ว่าตนเองพร้อมแล้วจริงแน่หรือ

คนจะเป็นเจ้าของรถได้แบบตัวองไม่ลำบาก เงินเดือนควรจอยู่ที่ 3 หมื่นบาทถ้วนขึ้นไป
โอกาสผ่อนหมดจนครบ เป็นไปได้สูงกว่าคนที่มีฐานเงินเดือนน้อยกว่านี้ แล้วต้องมากินมาม่า
แล้วเอาตังค์ไปประเคนให้ไฟแนนซ์กับบริษัทรถ และบริษัทน้ำมัน กับบริษัทประกันภัย
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: mayjazza ที่ มกราคม 04, 2013, 15:21:31
ฟังแล้ว อย่าเพิ่งอคติครับ

ผมมองแล้วเห็นด้วยกับบทความชิ้นนี้

คนไทย ที่ไม่ดูตัวเอง ไม่ประมาณตนเอง แล้วเข้ามาอยู่ในโครงการรถคันแรกนี้
มีมากมายเหลือเกิน

ทุกคนอยากมีชีวิตที่ดีกว่า แต่หลายๆคน ลืมคิดหน้าคิดหลังให้ดีเสียก่อน ว่าตนเองพร้อมแล้วจริงแน่หรือ

คนจะเป็นเจ้าของรถได้แบบตัวองไม่ลำบาก เงินเดือนควรจอยู่ที่ 3 หมื่นบาทถ้วนขึ้นไป
โอกาสผ่อนหมดจนครบ เป็นไปได้สูงกว่าคนที่มีฐานเงินเดือนน้อยกว่านี้ แล้วต้องมากินมาม่า
แล้วเอาตังค์ไปประเคนให้ไฟแนนซ์กับบริษัทรถ และบริษัทน้ำมัน กับบริษัทประกันภัย
ตามเลย พี่ จิม แต่ยังไม่หมดนะ ยังจะต้องมี ค่า บำรุง รักษา ตามมาอีก เยอะแยะมากมาย อย่าคิด แต่ว่าเงิน พอค่าผ่อน อย่างเดียว ...
..ตอนผม ทำงาน ไฟแนนซ์ เค้า จะคิดคำนวณ ค่างวด 2.5- 3 เท่า ครับ  อย่าง ผ่อนเดือนละ 5,000 เงินเดือนคุณต้อง 12,000-15,000 ครับ..
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: ichok ที่ มกราคม 04, 2013, 15:36:31
มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ส่วนตัวคิดว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่า คนที่จะผ่อนรถไม่ไหวคือใคร คนที่คิดจะซื้อรถอยู่แล้วบางคนถึงไม่มีนโยบายนี้ เขาก็ต้องซื้ออยู่ดี แล้วเขาก็อาจจะผ่อนไม่ไหวก็ได้ แต่ก็คงไม่เป็นประเด็นถ้าไม่มีนโยบายนี้ ส่วนคนที่อยากได้คืนแสนบาทเพราะนโยบายนี้ ก็อาจจะมีเงินพร้อมหรืออาจจะเหลือใช้ด้วยซ้ำไป อาจจะซื้อมาทิ้งไว้ที่บ้านให้ลูกให้หลานกลายเป็นยอดจองที่มากขึ้นก็ได้ สรุปเราจะรู้ได้อย่างไรว่ายอดจองที่มากเกินกว่าปกติคือคนที่ไม่พร้อมเรื่องเงินแต่อยากได้คืนแสนนึงมีกี่คน ประมาณนี้ครับ
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: tosa ที่ มกราคม 04, 2013, 16:09:11
เห็นด้วยและไม่เถียงเลยกับที่แกพูดนะแต่ก็ไม่เห็นด้วยที่แกไม่ได้พูดในด้านดีบ้าง โครงการรถคันแรกนี้ข้อเสียถึงจะมีเยอะแต่ข้อดีก็มีไม่น้อย (ที่จริงอยากได้...แบบว่าเกิดมาเป็นคนไทยได้สิทธิ์นี้ทุกคนจะเลือกใช้สิทธิ์นี้เมื่อไหร่ก็แล้วแต่คุณ)
...ไอ้ที่กลัวว่าจะผ่อนไม่ไหวนั่นนะไม่ต้องห่วงหรอก สินเชื่อ bank สมัยนี้ไม่ง่ายนะ ถ้าดูแล้วไม่น่าไว้ใจเค้าก็คงไม่เสี่ยง เอ้าหละถ้ามีพวกตบตา bank ได้แสดงว่าคนพวกนี้อยากจะได้จริงๆ คุณคิดหรือว่าเค้าจะฟังใครเหรอ (ส่วนมากอายุยังน้อย) หาเหตุผล 108 มาหักล้างได้หมด อย่างงี้ก็ต้องปล่อยเค้าไป ให้ถูกยึดถูกฟ้องชีวิตจะได้มีสีสันอนาคตจะได้คิดอะไรรอบครอบขึ้น (อันนี้โดนมากับตัวแล้ว :'()
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: nirvanapoint ที่ มกราคม 04, 2013, 16:16:08
ทุกนโยบายมีผลดี และเสียครับ
แต่ถ้าผลเสียมันเยอะกว่าก็ไม่ควรจะมีนโยบายแบบนี้ขึ้นมาครับ

แต่ก็อย่างว่าครับ เค้าคงกลั่นกรองกันมาแล้ว ถึงปล่อยออกมา
แต่กลั่นกรองออกมาดีไม่ดี อันนี้ ผมไม่รู้ครับ

ส่วนความเห็นผม เซล์รถ ดีลเลอร์รถ รวยกันเป็นแถบๆ ก็คงจะชอบนโยบายนี้กัน
ส่วนพวกเต็นรถ ธุระกิจรถมือ 2 หรือพวกรถนำเข้า ก็คงจะกุมขมับกันเลยทีเดียว

แต่อย่าลืมว่า ปีนี้ขายได้เยอะจริงกว่าที่ตั้งยอดกันไว้ แต่ปีต่อๆไปก็อาจจะลดฮวบฮาบ จนตั้งตัวกันไม่ทันก็ได้นะครับ

ผมชอบ และเห็นด้วยอย่างมาก ตรงที่ว่า
ธุระกิจรถยนต์มันดีอยู่แล้ว เติบโตขึ้นทุกปี จะมีนโยบายไปกระตุ้นทางด้านนี้อีกทำไม
แทนที่จะออกนโยบายที่ช่วยเอื้อกับธุรกิจอื่นที่ซบเซา และมีประโยชน์มากกว่า

สุดท้ายผลก็ตกอยู่ที่ผู้บริโภค ประชาชนธรรมดาเนี่ยแหละครับ  ::)
ประเทศไทย เหอ เหอ
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: beercs ที่ มกราคม 04, 2013, 16:21:24
ผมเงินเดือนเกิน 30000 ไปตั้งเยอะ  ผ่อน vios ยังหืดจับ
เพราะชีวิตคนเราไม่ได้มีแต่รถนะ  บ้านก็ต้องดูแลรักษา  เสื้อผ้าก็ต้องซื้อ
ไหนจะค่าเทอมลูก  ค่าน้ำมัน  ค่าทางด่วน  ค่าน้ำ ค่าไฟ  อินเตอเน็ต  ถ้าไม่ได้มีมรดก   ใช้แต่เงินตัวเองล้วน ๆ เงินเดือน 30000 ผมว่า
ยังไม่พอเลยด้วยซ้ำ
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ มกราคม 04, 2013, 16:42:43
อยากให้คนที่ซื้อผ่อนแบบผ่อนสบายไม่ใช่แค่ผ่อนไหวเพราะหนี้ก้อนนี้เป็นหนี้ก้อนโตและระยะยาวซะด้วย หาได้ยากนักที่ 4-6 ปีจะไม่มีเรื่องให้ช็อต จริงๆอยากให้เข้าโครงการแค่กระบะตอนเดียวกับแคปตัวเตี้ยซะมากกว่าราคาไม่เกิน 600,000 แล้วไม่ใช่คืนแค่ 15,000 น่าจะเป็นดอก 0 % 5 ปีกันไปจะได้ไว้ทำมาหากิน หรือดอกเบี้ยพิเศษสำหรับมือสองเพื่อให้คนเข้าถึงรถมือสองราคาไม่แพงได้ง่ายมากขึ้นและไม่เสียดอกแพงๆ

ตัวผมเองก็เกือบได้เข้าโครงการนี้แล้วหล่ะคิดง่ายๆแค่ว่าก่อนหน้านี้ส่งทางบ้านเดือนล่ะ 4,000 แต่ตอนนี้ไม่ได้ส่งล่ะน้องได้ทุนกันหมดกับผ่อนรถปัจจุบันเดือนละ 4,300 ก็ยังอยู่ได้สบายๆเลยจะเอาแจ๊สผ่อนเดือนละ 8,800 เพิ่มมา 500 แต่พอจะมีลูกเพิ่มอีกคนคาดว่ารายจ่ายเพิ่มเดือนละ 5,000 ก็เลยคิดว่าไม่น่าผ่อนสบายล่ะ (แต่คิดว่าไหว) รถไม่ใช่สิ่งสำคัญอันดับต้นๆเท่าที่มีก็ยังใช้ได้ดีอยู่อย่างน้อยก็ 5 ปีล่ะ ก็เลยตัดใจไม่เอาคงได้รอสอยพวกที่ผ่อนไม่ไหวแทนแล้วหล่ะ

รออยู่นะจ๊ะ กระบะ 4 ประตูยกสูงเกียร์ออโต้  ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ มกราคม 04, 2013, 18:21:57
ด้านดีๆผมยังมองไม่ค่อยเห็น
ด้านมืดมันเยอะกว่าและน่่ากลัวมาก

เรื่องนี้ผมคิดแบบพี่จิมมี่เลย
และใครที่ว่าเป็นการกระตุ้นศก  ผมว่าการกระตุ้นให้กับคนเพียงกลุ่มเดียวและไม่ยั่งยืน เค้าไม่เรียกว่าการกระตุ้นเท่าไหร่หรอกครับ

คนที่ปรับตัวได้ก็คือคนที่อยู่ได้  แต่ใครที่ปรับตัวไม่ได้  เตรียมจนลงได้เลย ครั้งนี้สามเหลี่ยมปิรามิดจะฐานกว้างขึ้นอีก
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: myalexxp ที่ มกราคม 04, 2013, 18:31:29
ซื้อเงินสดเท่านั้น ที่คุ้ม
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: Nuzz ที่ มกราคม 04, 2013, 18:37:27
ผมยังมองไม่เห็นด้านดีของนโยบายนี้เลยครับ นอกจากการช่วยประหยัดเงิน 100,000 บาท ซึ่งถ้าไม่มีรถมันก็ขายได้ด้วยตัวมันเองนะผมว่า

พี่ที่ทำงานผมก็ซื้อไว้คันนึง เพราะกลัวจะเสียสิทธิ์ แต่ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร เพราะตำแหน่งแกสูงได้รถทั้งสามี ภรรยาอยู่แล้ว ลูกก็ยังเล็กเกินกว่าจะขับได้
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: settavut ที่ มกราคม 04, 2013, 20:07:37
สำหรับโครงการนี้
ผมมองเห็นข้อดีสัก 1 อย่าง
แต่ข้อเสียสัก 99 อย่าง  >:(

(ตัวเลข เป็นแค่การเปรียบเปรยครับ)
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: balliblue ที่ มกราคม 04, 2013, 20:31:47
ผมเห็นด้วยทุกข้อเลยนะที่พูดในบทความ แม้กระทั่งเรื่อง option จอดได้เอง เออ ขับรถเป็นแล้วยังจะให้รถจอดเองอีกทำไม 555 ส่วนนโยบายนี้ผมเห็นข้อดีน้อยกว่าข้อเสีย มากจริงๆ.
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: basboths ที่ มกราคม 04, 2013, 21:06:28
ผมซิเดือดร้อน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! รถเยอะรถติดขึ้นแน่ๆชาว กทมและโดยรอบ จากออกตี 5.30 เป็น 5.00 กลับ 20.00 เป็น 20.30 เพื่อเลี่ยงรถติด ทำใจกันซะพวกเรา ทำใจ+++
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: N.BeTa ที่ มกราคม 04, 2013, 21:11:16
ผมรู้อย่างเดียวอะครับ ไม่รู้ว่าแรงไปป่าว สำหรับผมคนที่ชื้อแล้วผ่อนไม่ไหว ยกเว้นคนที่เกิดปัญหาภายหลัง ผมมองว่าเป็นคนโง่ครับ คิดไรไม่รอบครอบ ถ้าแรงไปขออภัยครับ
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: กบทอดกระเทียม ที่ มกราคม 04, 2013, 21:26:36
นโยบายนี้ "ดี"กับคนที่พร้อม(มีเงินพอ)จะซื้อ

แต่"ไม่ดี"กับคนที่ไม่พร้อม แต่ดันทุรังไม่ประมาณตน ว่ามีกำงลังไม่พอ แต่ก็หลุดเข้ามาใน
โครงการนี้เยอะมาก นี่คือข้อเสียข้อที่ 1

ข้อเสียข้อที่ 2 คือรัฐฯปล่อยให้คนที่ไม่ประมาณตน เข้ามาได้ไงตั้งมากมาย
ก็เพราะรัฐฯไม่วางเกณฑ์ ที่รัดกุมไว้ป้องกันคนเหล่านี้เข้ามา หากจะมาคิดว่าเดี๋ยวไฟแนนซ์ก็กรองเอง
มันไม่ใช่ละครับ เพราะไฟแนนซ์ทุกวันนี้ ก็ปล่อยสินเชื่อง่ายจนน่าตบกะบาลเช่นกัน
การตรวจสอบหยาบเหลือเกิน คนเงินเดือนหมื่นกลางๆ ก็ปล่อยให้แล้ว แค่เพิ่มคนค้ำฯ
แย่...
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: นครอัญมณี ที่ มกราคม 04, 2013, 21:34:54
นโยบายคล้ายๆ กับ การที่ปล่อยให้มีบัตรเครดิตได้ หลายๆใบ แล้วก็ผ่อนดอกเบี้ยกันอ๊วก
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: Family man ที่ มกราคม 04, 2013, 21:38:08
เจอกับน้องที่รู้จักกันเริ่มผ่อมไม่ไหวแล้วต้องเดือดร้อนไปขอเงินพ่อแม่มาช่วย ไหนจะโดนผลกระทบลด OT เพราะค่าแรง 300 ที่จะตามมาติดๆ
มันมีผลกระทบที่ตามมาอีกเยอะครับสำหรับคน พศ.นี้  เอาใจช่วยทุกคนที่หลวมตัวเข้ามานะครับเอาให้รอด อย่าให้โดนยึดเหมือนครั้งแฮมเบอร์เกอร์
นะครับ
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: _ben ที่ มกราคม 04, 2013, 21:38:55
ผมมองว่าส่วนหลักๆก็เป็นหน้าที่ของผู้กู้ ผู้ให้กู้ และนโยบายเกี่ยวกับการเงินนะครับ

ไม่อย่างนั้นสินค้าชิ้นไหนทำโปรโมชั่นหรือทำออกมาดีจนคนไปซื้อกันเยอะๆจนผ่อนไม่ไหว
เราจะมองว่าเจ้านั้นผิดก็อาจจะไม่ถูกครับ (เช่นคนทำบ้านราคาถูก)

โครงการเค้าทำมาเพื่อคนที่กำลังซื้อน้อย(แต่ไม่ใช่ผ่อนไม่ไหว)จะได้มีโอกาสบ้าง
คนที่บอกผ่อนได้สบายๆ ก็ไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว ใช้สิทธิแต่มาสรุปว่าอีกพวกจะผ่อนไม่ไหว
ซึ่งอาจจะทายถูกบ้างผิดบ้าง การดูว่าใครจะผ่อนไม่ไหวอยู่ที่ใครครับ
นอกจากข้อเสียแล้วผมเชื่อว่าพวกเราในที่นี้ได้ประโยชน์ทั้งทางตรง และทางอ้อมกันด้วยครับ

ส่วนนโยบายผมมองว่าอาจจะแรงเกินไป พอรวมกับสภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นจากน้ำท่วมดีกว่าคาด เลยยอดทะลุไปเลย
อีกอย่างที่ควรทำคือเข้มงวดสถาบันการเงินตั้งแต่แรก หรือมีเงืีอนไขบางอย่าง เพื่อกันคนที่ไม่มีกำลังซื้อเพียงพอมาเข้าโครงการครับ
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: xex ที่ มกราคม 04, 2013, 21:46:53
ผมก็โง่คนหนึ่งที่ไปจองรถ  เพราะจะได้รถสิ้นปีนี้หรืออาจเลื่อนเป็นปี 57  ได้ของแถมเป็น  ตกรุ่นแสนนึง  เพราะรุ่นใหม่ก็ออกเดือนธันวาปีนี้นั่นแหละ   ฉีกใบคำร้องจองรถทิ้งไปแล้ว  ตอนนี้ไปคุยกับเซล ขอเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ครับ
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: z4kas ที่ มกราคม 04, 2013, 21:54:20
ความเห็นด้านอื่น ๆ ผม No Comment ละกัน
เพราะผมก็ไม่ได้รู้อะไรลึกมากพอจะมาพูด  ว่าอะไรถูกหรือผิด
(ไม่อยากอยู่ในกลุ่มที่ ไม่รู้จริง แต่พูดเพื่อให้แตกแยก)

แต่ผมชอบอันนี้ มันเหมาะกับคนในประเทศไทยสมัยนี้จริง ๆ
(และคิดว่าจะมีคนกลุ่มนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ หากยังมีจิตสำนึกกันไม่ได้)

" นิสัยมารยาทการขับรถก็อีกอย่าง คุณลองคิดสภาพนะ
รถจอดรออยู่สามแถว อยู่ ๆ มีคันหนึ่งเลาะไหล่ข้าง
- คุณคิดล่ะ ไอ้ห่านี้มารยาทไม่ดี
- คันที่สองมา พวกนี้เลวเว้ย
- คันที่สามมา คุณคิด หรือกูต้องไปกับมันวะ
- พอคนที่ห้ามา คุณคิดล่ะ กูโง่ฉิบหายทำไมไม่ไปกับมันวะ
แล้วคุณก็ต้องไปกับมัน บางทีผมก็ไปนะ ยอมรับเลย
คือสังคมมันกลายเป็นว่า คนโง่เท่านั้นที่ทำตามระเบียบ

คนไทยสมัยนี้ชอบทำตัวเป็นตำรวจ เป็นอัยการ เป็นศาลได้หมดบนถนน
กูไม่ให้มึงแซง พอขี่ช้าต้องบีบแตรไล่
พอแซงได้ต้องลงโทษ โฉบปาดหน้า
เป็นศาลตัดสิน ไอ้นี่สมควรตาย กูจะเบียดมึงให้ตกถนน
ถนนทุกวันนี้มันเหมือนโคลิเซี่ยมสมัยโรมัน
สัตว์ร้ายที่เข้มแข็งเท่านั้นจึงจะอยู่รอด
ไม่มีการให้อภัยกัน ทุกคนเอาคืนกันหมด "

ป.ล. เดี๋ยวนี้ก็เหมือนสัตว์กันจริง ๆ นั่นแหละ
เหมือนไม่รู้อีกแล้วว่าอะไรที่สัตว์เป็น สัตว์บางทีก็ยังคิดก่อนทำ
แต่เราเป็นคน ดันทำตนแย่กว่าสัตว์ ที่ทำอะไรแล้วไม่คิด
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: Eddy5659 ที่ มกราคม 04, 2013, 22:24:03
เอาตรงๆเลยนะครับ ด้านดีมันก็มีแค่ให้คนเป็นเจ้าของรถง่ายขึ้น แล้วไง
ซื้อได้แล้วแปลว่าจบเหรอ ค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกเพียบ ใคร่ครวญกันไหม

ผมหละสมเพศพวกที่ไม่ค่อยประมาณตน ในที่ทำงานผมก็มี เงินเดือนไม่ถึงสองหมื่น
ถอย swift ผ่อนเดือนละ 7,000 ก่อนหน้านั่นก็ยังมีผ่อน iphone ค่าหอพักก็สี่พันกว่าๆ
ที่เหลือคือค่าใช้จ่ายทั้งหมด มันจะไปพออะไร ตอนนี้ก็ได้โอดครวญว่ายังไม่ได้เงินคืนซักที

ข้อเสียที่สำคัญอีกข้อคือรถเยอะมาก และขับกันได้เสี่ยงสุดๆ เป็นอัตรายต่อเพื่ินร่วมทางอย่างยิ่ง
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: promt ที่ มกราคม 04, 2013, 22:33:20
ผมเงินเดือนเกิน 30000 ไปตั้งเยอะ  ผ่อน vios ยังหืดจับ
เพราะชีวิตคนเราไม่ได้มีแต่รถนะ  บ้านก็ต้องดูแลรักษา  เสื้อผ้าก็ต้องซื้อ
ไหนจะค่าเทอมลูก  ค่าน้ำมัน  ค่าทางด่วน  ค่าน้ำ ค่าไฟ  อินเตอเน็ต  ถ้าไม่ได้มีมรดก   ใช้แต่เงินตัวเองล้วน ๆ เงินเดือน 30000 ผมว่า
ยังไม่พอเลยด้วยซ้ำ

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

ถ้ามีเงินค่าตอบแทนอื่นๆ อีกเดือนละ 15,000 น่าจะไหว

------------------

ถ้าเป็นข้าราชการเงินเดือน 30,000 (ไม่รวมค่าตำแหน่งหรือค่าวิทยะฐานะ) ถือว่าเยอะมาก

ต่อให้ จบ ป.เอก ทำงานมา 12 ปี ก็ยังไม่ถึง 30,000 ครับ
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: freefall ที่ มกราคม 04, 2013, 22:49:30
ปี 2556 จะเป็นปีที่พิสูจน์ครับ
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: Do!phinz ที่ มกราคม 04, 2013, 23:39:24
เห็นละเหนื่อยๆ
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: nekoyaki ที่ มกราคม 05, 2013, 09:14:13
ผมอ่านบทความนี้จบ  ก็กดแชร์เหมือนกันครับ

โครงการนี้ ผมไม่เห็นด้วย เพราะผมมองเห็นโทษ มากกว่าประโยชน์. แต่ก็เข้าร่วม เพราะถึงไม่มีโครงการ ผมก็ต้องซื้อรถช่วงนี้อยู่แล้วครับ
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: XL_SiZe ที่ มกราคม 05, 2013, 10:21:13
ผมเห็นด้วยสุด ๆ กับประโยคนึงที่ว่า
ธุรกิจรถยนต์ เป็นธุรกิจที่แข็งแกร่งมากถึงมากที่สุด ไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปช่วยใด ๆ เลย

ไม่มีโครงการนี้ ยอดปีที่แล้ว 55 ยังไงก็ทะลุล้านคันชัวร์
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: kleang1 ที่ มกราคม 05, 2013, 14:06:35
ผมซิเดือดร้อน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! รถเยอะรถติดขึ้นแน่ๆชาว กทมและโดยรอบ จากออกตี 5.30 เป็น 5.00 กลับ 20.00 เป็น 20.30 เพื่อเลี่ยงรถติด ทำใจกันซะพวกเรา ทำใจ+++
ใช่เลย ผมถึงเอาลูกกลับมาเรียนที่ต่างจังหวัดเหมือนเดิมแล้ว ปีการศึกษาหน้า เตรียมที่เรียนไว้แล้ว
ผมไม่ให้ลูกมานั่งเครียดกับเรื่อง รถติด และกลับถึงกี่ทุ่ม เวลาออก+กลับใกล้เคียงกับ จขกท. แต่ขากลับเร็วกว่า
--ตจว.15 กิโล วิ่งไม่เกิน 20นาที ถึงที่หมาย
--กทม.15 กิโล วิ่ง 120 นาที หรือมากกว่า
 อยากให้ลูกได้รับการศึกษาที่ดีๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่....''กลับบ้านเราดีกว่าลูก ทั้งอากาศ+สภาพแวดล้อม +ความอบอุ่น''
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: capton ที่ มกราคม 05, 2013, 14:52:07
น้องผู้หญิงที่บริษัทผม ใช้สิทธิ์กันสี่คน

คนแรกรายได้ 16000 บ้านมีกิจการ ไม่ไหวพ่อแม่ช่วย บ้านไกล ดีแมกสี่ประตูผ่อน 15000
คนสองรายได้ 20000 บ้านไกล ไม่มีหนี้สิน อัลมิร่า ผ่อน 7000
คนสามรายได้ 15000 เดินสองนาทีถึงบริษัท แต่แฟนทำงานไกล ลูกสอง คงอยากพาลูกไปเที่ยว ผ่อน 7000
คนสี่รายได้ 13000 เดินสองนาทีเหมือนกัน ออกวีออส ผ่อน 9000 แรกๆขับมาบริษัท แต่ตอนนี้จอดมากกว่าขับ ที่จอดรถไม่พอ

ถามทุกคน มีเหตุผลหมด แต่สุดท้าย ถ้าไม่มีเงินภาษีคืน ยังไม่มีใครออก หรือออกมือสองแทน ตอนนี้ผมบอกให้เตรียมเงินค่าถ่ายน้ำมัน ยาง ประกัน ไว้
มันจะมีค่าใช้จ่ายตามมาอีกเพียบเลย บางคนบอก หนูจะทนเอา ปีที่สอง ได้เงินแล้วคงดีขึ้น ปีที่สามค่อยว่ากัน .. เอวัง

นโยบายนี้ดีกับธุรกิจผมอย่างมาก ลูกค้าผมงานท่วม ผมก็ท่วมเช่นกัน แต่ผลเสียเยอะดังว่า เอาแค่ ผมไปรับส่งลูกไปโรงเรียน
เจอรถมีอุบัติเหตุ แบบเล็กน้อยแทบทุกวัน ถนนเท่าเดิม แต่รถเยอะขึ้น มือใหม่ทั้งนั้น น้องที่บริษัทผมไม่มีใครขับรถเป็นมาก่อนซักคน
ไปเรียนเอา สิบชั่วโมง พร้อมทำใบขับขี่...  ยอมรับ ประโยชน์มากมาย แต่ผลเสียมหาศาล

หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: DF-SLB ที่ มกราคม 05, 2013, 15:25:42
ใครที่พอมีเงินแค่ผ่อนได้ ยังไม่เคยมีรถ เวลาครบรอบปี จะเจอการโทรจาก บ.ไฟแนนท์หรือประกันให้ต่อประกันชั้น 1, พรบ ทะเบียน พร้อมๆกัน  บวกกับค่างวดประจำเข้าไปอีก
ขอบอกว่าไม่ถูกนะครับ    ประกันรถผม บวก พรบ ทะเบียน ปีแรก ก็ เกือบ สามหมื่นเข้าไปแล้ว เตรียมตังตรงนี้ไว้ด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: SignifeR ที่ มกราคม 05, 2013, 15:33:41
ผมไม่ได้มองจุุดนี้นะ ผมมอง "ทุน" ที่มาจากพวกเราทั้งหมดที่ต้องเสียไปกับโครงการนี้ครับ

รัฐตั้งงบประมาณไว้ 30,000 ให้กับโครงการนี้ แต่ตอนนี้มันหวดขึ้นไปถึง 90,000 ล้านแล้วครับ

แปลว่า เงินอีก 60,000 ล้าน ที่หายไป มันสามารถทำอะไรให้กับประเทศชาติได้มหาศาลนะ
เช่นเอาไปทำระบบคมนาคมระบบราง อันแสนห่วยแตกของบ้านเราให้มันดีขึ้นน่ะครับ....
ปรับปรุงรางรถไฟสายสำคัญๆ เปลี่ยนหัวรถจักร ฯลฯ ผมว่า 60,000 ล้านมันทำได้นะ
และถ้าตัดไอ้โครงการนี้ออกไปซะ ก็แปลว่าเงินทั้งหมดคือ 90,000 ล้าน

เงินขนาดนี้น่าจะอัพเกรด การคมนาคม ระบบรางได้ทั้งระบบด้วยซ้ำไป....
และถามว่า ระบบโลจิสติก ที่ดีขึ้นแบบนี้ มันรองรับคนได้มากกว่า
ไอ้โครงการรถคันแรกป่าวหล่ะ ?
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ มกราคม 05, 2013, 15:39:04
ผมไม่ได้มองจุุดนี้นะ ผมมอง "ทุน" ที่มาจากพวกเราทั้งหมดที่ต้องเสียไปกับโครงการนี้ครับ

รัฐตั้งงบประมาณไว้ 30,000 ให้กับโครงการนี้ แต่ตอนนี้มันหวดขึ้นไปถึง 90,000 ล้านแล้วครับ

แปลว่า เงินอีก 60,000 ล้าน ที่หายไป มันสามารถทำอะไรให้กับประเทศชาติได้มหาศาลนะ
เช่นเอาไปทำระบบคมนาคมระบบราง อันแสนห่วยแตกของบ้านเราให้มันดีขึ้นน่ะครับ....
ปรับปรุงรางรถไฟสายสำคัญๆ เปลี่ยนหัวรถจักร ฯลฯ ผมว่า 60,000 ล้านมันทำได้นะ
และถ้าตัดไอ้โครงการนี้ออกไปซะ ก็แปลว่าเงินทั้งหมดคือ 90,000 ล้าน

เงินขนาดนี้น่าจะอัพเกรด การคมนาคม ระบบรางได้ทั้งระบบด้วยซ้ำไป....
และถามว่า ระบบโลจิสติก ที่ดีขึ้นแบบนี้ มันรองรับคนได้มากกว่า
ไอ้โครงการรถคันแรกป่าวหล่ะ ?

โดยใจครับ เห็นด้วยเลย  ;)
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: DArkMaster ที่ มกราคม 05, 2013, 16:22:13
อยากให้คนที่พร้อมจริงๆใช้สิทธิมากกว่าคนที่ไม่พร้อมแต่ทุรังจะใช้
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: SaiXaiZai ที่ มกราคม 05, 2013, 19:25:18
คนไม่พร้อมแต่ดันทุรังไปใช้สิทธิ์เพราะคิดว่ารักษาสิทธิ์ ถ้าผ่อนไฟแนนซ์ไม่ไหวนอกจากรถจะถูกยึดแล้ว รัฐยังจะทวงเงินคืนเพราะคุณทำไม่ได้ตามเงื่อนไขรถยนต์คันแรก มีแต่เรื่องเดือดร้อนตามมา ยังไม่นับมือใหม่หัดขับมาช่วยให้รถติดมากขึ้น เสี่ยงต่ออุบัติเหตุมากขึ้น และอื่นๆ อีกมากมาย
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: Skyline ที่ มกราคม 06, 2013, 01:42:56
ความเห็นผมชัดเจนเลยคือ มีเเต่ผลเสียครับ หาข้อดีไม่เจอ ปัญหาหลักๆใหญ่ๆคือรถติด ถนนไม่มีให้วิ่งพอ ดันไปเพิ่มdemand ให้คนอยากซื้อรถอีก เห็นด้วยกับคุณ Signifier เต็มๆเลยคือไอ้งบประมาณที่มีทำไมไม่ไปทำรถไฟฟ้าให้ดี เพิ่มจำนวนขบวน ขยายเส้นทาง ให้คนรู้สึกสะดวกที่จะใช้เเละไม่อยากที่จะใช้รถถ้าไม่มีความจำเป็น เป็นการช่วยลดพลังงาน การใช้น้ำมัน ไอ้เรื่องค่าเเรง 300 ก็เหมือนกัน ทำไมไม่เอางบไปทำให้ต้นทุนสินค้าสารณูประโภคมันต่ำลงละครับ เพิ้มค่าเเรงเเล้วผู้ประกอบการเค้าก็เจ๊งกะบ้งสิครับ ข้าวของมีเเต่จะเเพงขึ้นเเล้วได้ค่าเเรงสูงมันก็ซื้อของได้เท่าเดิมหรือมีเเต่จะน้อยลงเท่านั้น คุณไปทำให้ข้าว น้ำตาล น้ำมันพืชราคาต่ำลง สินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพต่ำลง คนระดับรากหญ้าหรือผู้ใช้เเรงงานเค้าก็อยู่ได้โดยไม่ต้องเพิ่มค่าเเรงละครับ เเต่อย่างว่าทุกอย่างมีที่มาที่ไปในเชิงลึกเรื่องผลประโยชน์อีกเห้อ  :(
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: sixmund35 ที่ มกราคม 06, 2013, 09:44:39
ผมเงินเดือนประมาณ 20000 บาทก็เกือบพลาดไปเข้าโครงการเหมือนกันครับ แต่ไปๆมาๆไม่เอาดีกว่า

ผ่อนรถต่อเดือนเป็นเกือบครึ่งของเงินเดือนเป็นเวลาหลายปี ยิ่งคิดยิ่งเหมือนติดคุกชัดๆ

ตอนนี้ผมเอาเงินเก็บไปทำอย่างอื่นที่มันต่อยอดเรียบร้อย รถใหม่ก็ช่างมัน เอาไว้ก่อน ซื้อทีหลังก็รุ่นใหม่กว่า เท่กว่า พร้อมกว่า สบายใจกว่า

ผมชอบคำพูดหนึ่งของนักลงทุนท่านหนึ่งเคยพูดไว้ "จงกล้าในเวลาที่คนกลัว จงกลัวในเวลาที่คนส่วนใหญ่กล้า"

ถ้าเทียบกับตอนนี้ก็คือคนเกือบทั้งหมดต่างเกิดความโลภ อยากได้เงินคืน ช่วงนี้แหละที่เราต้องระมัดระวังตัวให้มากที่สุด
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ มกราคม 06, 2013, 10:22:29
ผมเงินเดือนประมาณ 20000 บาทก็เกือบพลาดไปเข้าโครงการเหมือนกันครับ แต่ไปๆมาๆไม่เอาดีกว่า

ผ่อนรถต่อเดือนเป็นเกือบครึ่งของเงินเดือนเป็นเวลาหลายปี ยิ่งคิดยิ่งเหมือนติดคุกชัดๆ

ตอนนี้ผมเอาเงินเก็บไปทำอย่างอื่นที่มันต่อยอดเรียบร้อย รถใหม่ก็ช่างมัน เอาไว้ก่อน ซื้อทีหลังก็รุ่นใหม่กว่า เท่กว่า พร้อมกว่า สบายใจกว่า

ผมชอบคำพูดหนึ่งของนักลงทุนท่านหนึ่งเคยพูดไว้ "จงกล้าในเวลาที่คนกลัว จงกลัวในเวลาที่คนส่วนใหญ่กล้า"

ถ้าเทียบกับตอนนี้ก็คือคนเกือบทั้งหมดต่างเกิดความโลภ อยากได้เงินคืน ช่วงนี้แหละที่เราต้องระมัดระวังตัวให้มากที่สุด
คำพูด ดร.นิเวศน์ ใช่มั๊ยครับเนี่ย ;D
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: SignifeR ที่ มกราคม 06, 2013, 12:14:37
"จงกล้าในเวลาที่คนกลัว จงกลัวในเวลาที่คนส่วนใหญ่กล้า"

ชอบครับบบบบบบ
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: MORNN ที่ มกราคม 06, 2013, 15:52:42
นโยบายนี้ขัดกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ..  การณรงค์ไประหยัดน้ำมัน ไปทางเดียวกันไปด้วยกัน... และขัดกับหลักเศรษฐกิจพอเพียงแน่นอน..
ประโยชน์กับคนส่วนน้อย แต่รัฐเป็นหนี้ยาว.. ยังไงก็ไม่คุ้มครับ..

(คุ้มแต่กับพรรคการเมืองที่เอาภาษีประชาชน เป็นเครื่องมือหาเสียงเท่านั้น..)
หัวข้อ: Re: แชร์กันเพียบ! รถคันแรก...จากมุมมอง พัฒนเดช กูรูเรื่องรถ
เริ่มหัวข้อโดย: sixmund35 ที่ มกราคม 06, 2013, 16:21:28
คำพูด ดร.นิเวศน์ ใช่มั๊ยครับเนี่ย ;D
ที่ผมไม่ได้ใส่ชื่อ เพราะไม่แน่ใจว่าเป็นของอาจารย์นิเวศ หรือของ Warren Buffett น่ะครับ แหะๆ :D