Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: เจ้าชายบ่ออ่าง ที่ ตุลาคม 18, 2009, 11:33:56
-
พึ่งออก วีโก้มา สมาทแคป เลือกไม่เอาฟิมล์จากศูนย์ กะว่าจะมาติดเอง ตอนนี้ดูๆ v-kool มันคุ้มกับค่าตัวเปล่า อยากได้ฟิมล์ใสแต่กันร้อน
ขอบคุณคะ
-
ฟิล์มใสกันร้อนก็ดีนะครับ
แต่แพง
V-Koolก็ดีอ่ะครับ
รู้สึกจะแพงสุดแล้ว
ไม่แน่ใจว่า3Mน่าจะถูกกว่าอ่ะครับ
ลองดู3Mก็ได้อ่ะครับ
-
ชื่อกระทู้ อย่าทำให้สับสนสิครับ
-
ถ้าจะเอาใสแล้วกันร้อน ก็เอาV-Koolมาถูกทางแล้วครับ
-
อ่าน ดูข้อมูลที่นี้เลย www.108film.com จริงๆมันมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น ใช้ GPS , ขับกลางคืนประจำหรือเปล่า เพราะจริงๆแล้ว film ใสก็ไม่ได้กันร้อนดีกว่ากันเลยออกจะร้อนกว่าด้วยซ้ำแต่ดีในแง่วิสัยทัศน์ ส่วนยี่ห้อมีหลากหลายแต่แทบทุกยี่ห้อก็มีรุ่นใสทั้งนั้น(ส่วนใหญ่เป็นรุ่นtop) ไม่จำเป็นต้อง v-kool เสมอไปก็ได้นะ
-
อีกเสียงหนับหนุน V-KooL
ดีจริงครับ แต่แพง
-
ไม่รู้ว่าผมโชคไม่ดีเจอแดดจัด หรือว่าเลือก รุ่น Vkool ผิดรุ่น เวลาเอารถไปตากแดดยังงัย มันก็ร้อนเหมือน ๆ กันครับ
ฟิล์มกรองแสงเนี่ย ลองง่ายมาก ๆ เลยครับ
ไปขอตัดเศษฟิล์มจากร้านมาขนาดเท่าฝ่ามือ เอายี่ห้อที่เราต้องการ
แล้วก็เอาไปขึงใส่กล่องกระดาษตากแดด เอาปรอทไว้ใต้ฟิล์ม
แล้วจะพบว่า บางทีฟิล์มพันกว่าบาท อาจจะให้อะไรมากกว่าฟิล์มเป็นหมื่นก็ได้ครับ
-
ถ้าจะเลือกติด V KOOL ก็คิดว่าติด 3M Crystalline ดีกว่า เพราะถูกกว่าและกันความร้อนได้พอๆกับ V KOOL รุ่นแพงที่สุด
นี่พูดตามข้อมูลที่ศึกษาจาก web เมืองนอกนะไม่ใช่ web ไทยที่บอกกันความร้อนได้ 98% เพราะนั่นตัวเลขมั่วกันเอาเอง
และที่บอกว่าลองฟิล์มกรองแสงได้ง่ายๆนั้น แค่ไปขอเศษฟิล์มมาแล้วตัดแปะกล่องตั้งไว้กลางแดด วิธีที่ว่าใช้ไม่ได้แน่นอน สิ่งที่ขาดไปและเป็นตัวสำคัญมากๆคือกระจก ถ้าไปศึกษาให้ดีๆ บริษัทที่จริงใจกับคนซื้อเขาจะบอกด้วยว่ากระจกของเขาหนากี่นิ้ว ถ้าความหนากระจกเปลี่ยนไป ค่าก็เปลี่ยนไป
ที่บอกว่าจอดกลางแดดก็ร้อนเหมือนกันนั้นก็เพราะกระจกนี่แหละส่วนหนึ่ง และที่สำคัญเวลาคุณจอดรถตากแดด ความร้อนจะค่อยๆสะสมขึ้นในรถ ถ้าตากแดดไว้นานพอความร้อนก็จะสะสมจนถึงจุดที่เรียกว่า equilibrium ซึ่งอุณภูมิในรถคันเดียวกันจะใกล้เคียงกันมากไม่ว่าคุณจะติดด้วยฟิล์มอะไร จะต่างกันแค่เวลาที่ต้องการในการสะสมความร้อนเท่านั้น แต่จุดที่สำคัญคือเมื่อเวลาที่คุณเข้ามาในรถแล้วเริ่มเปิดแอร์และรถออกวิ่ง รถที่ติดฟิล์มซึ่งกันความร้อนได้ดีกว่าจะเย็นเร็วกว่ามาก เพราะความร้อนเข้ามาได้น้อย
แต่บางที่เราไม่ค่อยเห็นความแตกต่างเวลาใช้งานนั่นเพราะถ้ารถวิ่งช้าๆ เช่น เวลารถติดมากๆ ในสถาพนี้ไม่ว่าติดฟิล์มอะไรเราก็ยังรู้สึกร้อน แล้วเราก็บอกว่าฟิล์มแพงก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้น มันก็ถูกเหมือนกัน แต่ไม่หมด รถติดฟิล์มดีจะร้อนน้อยกว่าแน่นอน และที่ร้อนเวลารถติดนี่ก็เพราะกระจก คือความร้อนสะสมที่กระจกหน้ารถแล้วแผ่รังสีออกมาสู่ตัวเรา ซึ่งต่างกับเวลาที่รถวิ่ง ในเวลานั้นลมที่ปะทะกระจกจะพาความร้อนที่สะสมอยู่ที่กระจกไปทำให้ความร้อนที่แผ่จากกระจกเข้ามาในรถน้อยลงมาก
ที่พบมาด้วยตัวเองอีกจุดก็คือ ถ้ารถติดฟิล์มดี แม้ว่าจะร้อนเวลารถติด แต่ผิวที่โดนแดดที่ส่องเข้ามาจะไม่แสบ โดยเฉพาะแดดตอนเที่ยง
นี่ว่ากันแบบคร่าวๆ แบบเชิงวิชาการจริงๆก็ยาวกว่านี้แน่ ผมเองเสียเวลาหลายวันศึกษามาแล้วก็เพราะความสงสัยนี้แหละว่า "อะไรของมันวะ แค่ฟิล์ม กั น แ ด ด แค่นี้ทำไมราคาต่างกันเยอะแยะ บางยี่ห้อนี่ปล้นกันชัดๆ" จนเมื่อศึกษาอย่างละเอียดแล้วจึงรู้ว่า ที่เราต้องการคือฟิล์มกันความร้อน และมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย
แต่สำหรับคนที่คิดว่าติดฟิล์มมืดๆได้ ก็ติดฟิล์มมืดๆที่มีปรอทก็ได้ พวกที่แสงผ่านได้ไม่ถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์และมีปรอทสูงๆ พวกนี้กันความร้อนได้ดีพอๆกับฟิล์มแพงๆ แต่ก็แลกกับการขับยาก และถ้าปรอทสูงๆก็สร้างปัญหากับเพื่อนร่วมทางที่ตามหลังคุณมาได้
ถ้าเจ้าของรถเป็นผู้หญิงกลัวแดดกลัวฝ้า แนะนำติดฟิล์มดีๆ ถ้าเอาที่คุ้มค่าก็คือ 3M Crystalline
-
ขอขอบคุณคะสำหรับทุกคำตอบ
:)
-
ถ้าจะเลือกติด V KOOL ก็คิดว่าติด 3M Crystalline ดีกว่า เพราะถูกกว่าและกันความร้อนได้พอๆกับ V KOOL รุ่นแพงที่สุด
นี่พูดตามข้อมูลที่ศึกษาจาก web เมืองนอกนะไม่ใช่ web ไทยที่บอกกันความร้อนได้ 98% เพราะนั่นตัวเลขมั่วกันเอาเอง
และที่บอกว่าลองฟิล์มกรองแสงได้ง่ายๆนั้น แค่ไปขอเศษฟิล์มมาแล้วตัดแปะกล่องตั้งไว้กลางแดด วิธีที่ว่าใช้ไม่ได้แน่นอน สิ่งที่ขาดไปและเป็นตัวสำคัญมากๆคือกระจก ถ้าไปศึกษาให้ดีๆ บริษัทที่จริงใจกับคนซื้อเขาจะบอกด้วยว่ากระจกของเขาหนากี่นิ้ว ถ้าความหนากระจกเปลี่ยนไป ค่าก็เปลี่ยนไป
ที่บอกว่าจอดกลางแดดก็ร้อนเหมือนกันนั้นก็เพราะกระจกนี่แหละส่วนหนึ่ง และที่สำคัญเวลาคุณจอดรถตากแดด ความร้อนจะค่อยๆสะสมขึ้นในรถ ถ้าตากแดดไว้นานพอความร้อนก็จะสะสมจนถึงจุดที่เรียกว่า equilibrium ซึ่งอุณภูมิในรถคันเดียวกันจะใกล้เคียงกันมากไม่ว่าคุณจะติดด้วยฟิล์มอะไร จะต่างกันแค่เวลาที่ต้องการในการสะสมความร้อนเท่านั้น แต่จุดที่สำคัญคือเมื่อเวลาที่คุณเข้ามาในรถแล้วเริ่มเปิดแอร์และรถออกวิ่ง รถที่ติดฟิล์มซึ่งกันความร้อนได้ดีกว่าจะเย็นเร็วกว่ามาก เพราะความร้อนเข้ามาได้น้อย
แต่บางที่เราไม่ค่อยเห็นความแตกต่างเวลาใช้งานนั่นเพราะถ้ารถวิ่งช้าๆ เช่น เวลารถติดมากๆ ในสถาพนี้ไม่ว่าติดฟิล์มอะไรเราก็ยังรู้สึกร้อน แล้วเราก็บอกว่าฟิล์มแพงก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้น มันก็ถูกเหมือนกัน แต่ไม่หมด รถติดฟิล์มดีจะร้อนน้อยกว่าแน่นอน และที่ร้อนเวลารถติดนี่ก็เพราะกระจก คือความร้อนสะสมที่กระจกหน้ารถแล้วแผ่รังสีออกมาสู่ตัวเรา ซึ่งต่างกับเวลาที่รถวิ่ง ในเวลานั้นลมที่ปะทะกระจกจะพาความร้อนที่สะสมอยู่ที่กระจกไปทำให้ความร้อนที่แผ่จากกระจกเข้ามาในรถน้อยลงมาก
ที่พบมาด้วยตัวเองอีกจุดก็คือ ถ้ารถติดฟิล์มดี แม้ว่าจะร้อนเวลารถติด แต่ผิวที่โดนแดดที่ส่องเข้ามาจะไม่แสบ โดยเฉพาะแดดตอนเที่ยง
นี่ว่ากันแบบคร่าวๆ แบบเชิงวิชาการจริงๆก็ยาวกว่านี้แน่ ผมเองเสียเวลาหลายวันศึกษามาแล้วก็เพราะความสงสัยนี้แหละว่า "อะไรของมันวะ แค่ฟิล์ม กั น แ ด ด แค่นี้ทำไมราคาต่างกันเยอะแยะ บางยี่ห้อนี่ปล้นกันชัดๆ" จนเมื่อศึกษาอย่างละเอียดแล้วจึงรู้ว่า ที่เราต้องการคือฟิล์มกันความร้อน และมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย
แต่สำหรับคนที่คิดว่าติดฟิล์มมืดๆได้ ก็ติดฟิล์มมืดๆที่มีปรอทก็ได้ พวกที่แสงผ่านได้ไม่ถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์และมีปรอทสูงๆ พวกนี้กันความร้อนได้ดีพอๆกับฟิล์มแพงๆ แต่ก็แลกกับการขับยาก และถ้าปรอทสูงๆก็สร้างปัญหากับเพื่อนร่วมทางที่ตามหลังคุณมาได้
ถ้าเจ้าของรถเป็นผู้หญิงกลัวแดดกลัวฝ้า แนะนำติดฟิล์มดีๆ ถ้าเอาที่คุ้มค่าก็คือ 3M Crystalline
ถ้างั้นก็เอากล่องกระดาษเดิมติดกระจกแล้วเอาฟิล์มไปแตะสิครับ :-)