Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: warez ที่ มกราคม 10, 2013, 01:22:14

หัวข้อ: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: warez ที่ มกราคม 10, 2013, 01:22:14
อ่านข้อมูลมาก็มาก ศึกษาตามตำรามาก็เยอะ

เว็บนี้เป็นสื่อกลางการให้ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ที่ดีมากๆ

ผมจึงอยากท้าให้ทุกท่านมาทำลายกำแพงความเชื่อกันเกี่ยวกับรถยนต์กันเถอะ

1. เชื่อว่าเปิดไฟฉุกเฉินแล้วจะผ่านสี่แยกโดยปลอดภัยและรวดเร็ว
2. เชื่อว่าการเติมน้ำมันที่ค่าอ๊อกเทนสูงจะต้องดีกว่าอ๊อกเทนต่ำ แม้ว่ารถจะรับอ๊อกเทนต่ำได้
3. เชื่อว่าการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่1,000กิโลเมตรแรก จะดีกว่าเปลี่ยนตามระยะที่บริษัทแนะนำเช่น10,000กิโลแรก
4. เชื่อว่าการติดตั้ง turbo timer จะถนอมเครื่องได้ดีกว่า สำหรับรถรุ่นใหม่ๆที่มี turbo มาจากโรงงาน
5. เชื่อว่ารถ turbo จะพังเร็วกว่ารถ N/A ถึงแม้ว่ามันจะ standard มาจากโรงงานทั้งคู่
ฯลฯ ผมแค่อยากถามว่า คุณมองข้อมูลรอบด้านหรือยัง หรือทำตามๆกันในแบบ "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่"

รถยนต์มันก็เป็นทรัพย์สินที่มีความสิ้นเปลืองสูงอยู่แล้ว อย่าเชื่อและสิ้นเปลืองกับมันแบบไม่มีเหตุผลเลยครับ เปลืองเปล่าๆ
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: -Anonymous- ที่ มกราคม 10, 2013, 01:29:22
ในความคิดผมยังเชื่ออยู่ข้อเดียวจริงๆครับ เพราะรถที่ผมเคยขับหลายๆคันเติมเบนซิน95เพียวๆตลอด แล้วไปเติมอย่างอื่นมันไม่ไหลไม่ดึงเท่าเดิมจริงๆครับ :D
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: warez ที่ มกราคม 10, 2013, 01:45:43
อ้อขอแถมอีกนิดเห็นชอบถามแนวนี้กันบ่อยๆ

แนวทางการปรับแต่งรถยนต์ในอุดมคติ "แรงเหมือนF1 ทนดั่งTaxi ประหยัดยังกะจักรยาน" มันไม่มีหรอกครับ ไม่ต้องหา
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: choomodify ที่ มกราคม 10, 2013, 04:58:24
ความเชื่อที่ว่า รถเหล็กแข็งๆๆจะปลอดภัยกว่ารถที่ตัวถังบอบบางเอามือเคาะแล้วเหมือนกระป๋อง   น่าจะเลิกคิดกันได้แล้ว!!!
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: basboths ที่ มกราคม 10, 2013, 05:34:51
3. เชื่อว่าการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่1,000กิโลเมตรแรก จะดีกว่าเปลี่ยนตามระยะที่บริษัทแนะนำเช่น10,000กิโลแรก

ผมเปรี่ยนทุกคันในบ้าน ที่1000 แรก 1.น้ำมันเครื่อง0 มันไม่น่าจะใช่สังเคราะห์ ซึ่งผม เปรี่ยนแล้ว รถเร่งดีขึ้นนะครับสำหรับ ผมไม่เคยมีรถ ยุโรป ไม่รู้ว่าเขาให้น้ำมันเครื่องอะไรมานะครับ

แต่ที่ผมใช้มันไม่น่าให้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์คุณมา เปรี่ยนไว้ก่อนเพื่อความสบายใจ หรือผมคิดไปเองนะ  ::)

หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ มกราคม 10, 2013, 05:41:18
อ้อขอแถมอีกนิดเห็นชอบถามแนวนี้กันบ่อยๆ

แนวทางการปรับแต่งรถยนต์ในอุดมคติ "แรงเหมือนF1 ทนดั่งTaxi ประหยัดยังกะจักรยาน" มันไม่มีหรอกครับ ไม่ต้องหา

ฮามากครับ 55+
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: IncarRus ที่ มกราคม 10, 2013, 07:04:27
ให้ทำลายความเชื่อ,,, 1-5 ข้อ, แต่จะไม่บอกหน่อยหรือคับ ว่าทำไม ไม่ควรเชื่อแบบดังกล่าว  :-\

บางข้อ,,, ผมก็เชื่อ, บางข้อ ก็ไม่เชื่อ และบางข้อ ผมก็ไม่รู้
....แต่อยากได้เหตุผล,,, ไว้ประดับสมอง, เผื่อจะได้ไปโม้ให้คนอื่นฟังหนะคับ  ;D
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: iKrit ที่ มกราคม 10, 2013, 07:27:13
ความเชื่อที่ว่า รถเหล็กแข็งๆๆจะปลอดภัยกว่ารถที่ตัวถังบอบบางเอามือเคาะแล้วเหมือนกระป๋อง   น่าจะเลิกคิดกันได้แล้ว!!!

Brio :D
(แซวเล่นนะครับ)
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Devil13 ที่ มกราคม 10, 2013, 07:40:44
ผมว่าข้อ 2 ก็ไม่ใช่ความเชื่อผิดๆเสมอไปนะ
โอเคครับว่าตามสเปคเครื่องมันเติมได้ แต่ในความเป็นจริงใช้น้ำมันอีกตัวทำให้วิ่งดีกว่าครับ
เอาง่ายๆ ลองเอามอเตอร์ไชค์ที่เติมแก้สโซฮอล์ 91 ใช้ให้เหลือน้อยที่สุด แล้วเอาไปเติม เบนซิน 91 ธรรมดาดู
ไม่ได้ดีขึ้นแบบผิดหูผิดตา แต่ก็ดีขึ้นคุ้มค่าน้ำมันที่เพิ่มขึ้นครับ

ส่วนการเอารถที่เติม  91 ไปเติม  95 อันนี้ไม่แน่ใจเท่าไหร่เพราะไม่เคยลองกับรถยนตร์ ;D
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Jeeple ที่ มกราคม 10, 2013, 08:02:32
ติด timer สำหรับเครื่อง turbo มันไม่ใช่ความเชื่อหรอกมั้งครับมันช่วยถนอมยืดอายุได้จริงนะ. บางข้อมันก็ไม่ใช่ความเชื่ิอซะทีเดียวหรอกอย่าเหมารวมหมด
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ มกราคม 10, 2013, 08:06:46
ให้ทำลายความเชื่อ,,, 1-5 ข้อ, แต่จะไม่บอกหน่อยหรือคับ ว่าทำไม ไม่ควรเชื่อแบบดังกล่าว  :-\

บางข้อ,,, ผมก็เชื่อ, บางข้อ ก็ไม่เชื่อ และบางข้อ ผมก็ไม่รู้
....แต่อยากได้เหตุผล,,, ไว้ประดับสมอง, เผื่อจะได้ไปโม้ให้คนอื่นฟังหนะคับ  ;D

อยากฟังเหตุผลเหมือนกันครับไม่งั้นก็เป็นแค่อีกความเชื่อใหม่ๆ
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: thanaphon_tik ที่ มกราคม 10, 2013, 08:15:53
 8) มีเพิ่มเติมอีกไหมครับ... ได้ความรู้ประกอบการพิจารณาดีครับ
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ID-4 ที่ มกราคม 10, 2013, 08:42:03
การเปลี่ยนถ่านน้ำมันเครื่องที่ระยะ 1000 โลแรก ไม่ควรทำครับ แต่...ผมอยากทำ เพราะไม่ทำ แล้วมันไม่สบายใจ (จริงๆแล้ว ออกจากศูนย์ ผมถ่ายน้ำมันเครื่องทิ้งเลย)
เพราะ รถใหม่ ยังฟิต ผมไม่อยากให้มีน้ำมันเครื่องเกรดความหนืดสูงๆ(หนืดมาก) อยู่ในรถ ผมจะใช้ใสที่สุดตามคู่มือบอก ราคาก็จะแพงที่สุดตามไปด้วย
ลองไปเช็คดูได้ ศูนย์มักจะใส่น้ำมันเครื่องเกรดต่ำ ราคาถูกๆให้ และมาเก็บเงินเราแพงๆครับ (แต่ไม่ผิดสเปคตามคู่มือ)

***เพิ่มเติมครับ***
เลิกเชื่อว่า น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ต้องเปลี่ยนถ่ายที่ 5000 กิโล (ตามการใช้งานปกติ รถติดบ้างไม่ติดบ้าง ไม่ลุยทางฝุ่นทุกวัน)
ทั้งที่ปัจจุบัน มาตฐานน้ำมันเครื่อง พัฒนาไปถึง API-SM ถึง SN กันหมดแล้ว

การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ผมยึดระยะประมาณนี้ครับ
--20W ใช้ให้ถึง 10000 โล
--15W ใช้ให้ถึง 12000 โล
--10W ใช้ให้ถึง 15000 โล
--5W ใช้ให้ถึง 17000 โล
--0W ใช้ให้ถึง 20000 โล

ระยะพวกนี้ ผมใช้มากับรถคันเก่า เลขไมล์ 800000 กว่ากิโล ใช้น้ำมัน 6 ปี ใช้แก็สมา 11 ปี  ผมใช้ 10W-40 มาตลอด ไม่เคยเปลี่ยนเกรดความหนืด รถไม่กินน้ำมันเครื่อง ใช้งานได้เป็นปกติครับ   
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ มกราคม 10, 2013, 09:10:51
เป็นแนวคิดที่ดีแต่ทำได้ยากครับเพราะสังคมไทยมีลักษณะแบบเชื่อสิ่งที่คนอายุมากกว่าพูดและฟังต่อๆกันมา เลือกที่จะเชื่อเสียงส่วนมาก/คนใกล้ตัวมากกว่าข้อเท็จจริงและผลวิจัยทางการ แล้วก็รู้สึกเสียหน้าถ้าหากว่าสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูกมันเป็นเรื่องที่ผิด.......ก็เลยเป็นเรื่องที่รู้กันในวงแคบๆฉะนี้แล  :P
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: nirvanapoint ที่ มกราคม 10, 2013, 09:31:16
อยากรู้เหตุผลครับ
ว่าต้องเชื่อหรือไม่เชื่ออะไร เพราะอะไร
อ่านแล้วก็งงครับ  ???
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: XL_SiZe ที่ มกราคม 10, 2013, 09:47:21
ตามที่เสนอมาผมว่า ถูกนะครับ...
แต่มันคาบเกี่ยวระหว่าง ความจริงกับความเชื่อ...

ด้านบนก็มีมาแพลม ๆ แล้วว่า ไม่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องแล้วไม่สบายใจ...

เป็นความเชื่อ ความชอบ คล้าย ๆ  การเมือง ศาสนา
ที่จะพูดให้คนเชื่อแล้ว ชอบแล้ว เปลี่ยนใจ

ย๊ากกกกกกกก  ยากกกกกกกก......
พอกับเข็นครกมือเดียวขึ้นภูกระดึง  ::)
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Nioka ที่ มกราคม 10, 2013, 09:51:58
คงจะทำได้ยาก เพราะ ความคิดผมยังไม่ตรงกับ จขกท เลย  ข้อ 2 และ ข้อ 3

"โลกใบนี้ หากเปลี่ยนแปลงไม่ได้

ก็ขอเพียงเข้าใจ หากเข้าใจไม่ได้

ก็ขอเพียงยอมรับ" (วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล)
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: 5ume7h ที่ มกราคม 10, 2013, 09:55:08
ที่พอให้เหตุผลได้คือข้อแรก

การเปิดไฟฉุกเฉินตอนผ่านสี่แยกไม่ควรทำ และไม่ใช่หลักปฏิบัติสากล
เพราะไม่ใช่ว่ารถทางอื่นของแยกจะเห็นไฟรถเราทั้งหมด
รถทางซ้ายและทางขาวจะมองว่ากำลังเปิดไฟเลี้ยว ทำให้อาจเกิดอุบัติเหตุได้
(รถทางซ้ายนึกว่าเราจะเลี้ยวซ้ายก็เลยไม่ชะลอ ผลคือชนกันกลางแยกได้)
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: teezuza ที่ มกราคม 10, 2013, 10:00:04
เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตอน 1,000 km ผมก็ทำนะอย่างที่ข้างบนบอกไม่รู้เค้าใส่น้ำมันเกรดอะไรมาให้แล้วรถคันนึงราคาหลัก แสน-ล้าน ผมก็ยอมเสียเงินเพื่อความสบายใจ    :D
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Arado_kung ที่ มกราคม 10, 2013, 10:02:28
3. เชื่อว่าการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่1,000กิโลเมตรแรก จะดีกว่าเปลี่ยนตามระยะที่บริษัทแนะนำเช่น10,000กิโลแรก

รถผมป้ายแดงทุกคันเปลี่ยนครั้งแรกที่ 10,000 โล ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีคันไหนเป็นอะไรซักทีเหมือนกัน

4. เชื่อว่าการติดตั้ง turbo timer จะถนอมเครื่องได้ดีกว่า สำหรับรถรุ่นใหม่ๆที่มี turbo มาจากโรงงาน

ข้อนี้เอาง่ายๆครับ เคยเห็นสิบล้อติด turbo timer ไหม พวกนี้ใช้งานหนักกว่ารถเล็ก ยังวิ่งได้เป็นล้านโลแบบไม่ต้องยกเครื่อง รถกระบะผม 8 ปีวิ่งมา 1.7แสนโล ก็ยังไม่เป็นไรเหมือนกัน ตัวนี้ตอบได้เลยว่าสำหรับรถที่มีเทอร์โบจากโรงงานไม่จำเป็นครับ
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Jeeple ที่ มกราคม 10, 2013, 10:25:02
ตรรกะที่เจอบ่อยๆก็ประมาณว่าประสบการณ์ที่ผ่านมากว่า10ปีไม่เห็นเป็นไรไม่น่านำมาใช้ได้นะครับเราควรพูดถึงเหตุผลอื่นทางวิทยาศาสตร์มาช่วยด้วยจะน่าจะมีความน่าเชื่อถือกว่าเพราะเคสนึงคนนึงไม่พังแต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะไม่เป็นอะไรและไม่ได้หมายความว่าทำอย่างที่บางคนว่าไว้มันจะดีสำหรับทุกคน

คำว่าไม่จำเป็นกับมีไว้ก็ดีไม่เหมือนกันนะครับ  ที่กล่าวมาเป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆนะครับ
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ มกราคม 10, 2013, 10:48:26
ข้อแรกถ้ามีสมองคิดวิเคราะห์ให้รอบด้านแม้แต่นิดเดียว ก็ตัดออกได้สบายๆครับ
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: YoungJet ที่ มกราคม 10, 2013, 10:58:19
เชื่อว่าเปิดไฟตัดหมอกในขณะฝนตก จะปลอดภัยกว่า
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ มกราคม 10, 2013, 11:14:27
เชื่อว่าเปิดไฟตัดหมอกในขณะฝนตก จะปลอดภัยกว่า
อันนี้ก็อาจจะมีเหตุผล ลองวิ่งอยู่เส้น 32 อย่างผมแล้วเจอพายุเข้าสิครับ ตอนนั้นล่ะ ไฟตัดหมอกหน้า-หลัง ได้เปิดใช้ ให้ชาวบ้านเห็นและไม่ชนได้จริงๆ

แต่เวลาปกติก็ไม่เปิดอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Adi Autolism ที่ มกราคม 10, 2013, 11:40:25
3. เชื่อว่าการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่1,000กิโลเมตรแรก จะดีกว่าเปลี่ยนตามระยะที่บริษัทแนะนำเช่น10,000กิโลแรก

รถผมป้ายแดงทุกคันเปลี่ยนครั้งแรกที่ 10,000 โล ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีคันไหนเป็นอะไรซักทีเหมือนกัน

4. เชื่อว่าการติดตั้ง turbo timer จะถนอมเครื่องได้ดีกว่า สำหรับรถรุ่นใหม่ๆที่มี turbo มาจากโรงงาน

ข้อนี้เอาง่ายๆครับ เคยเห็นสิบล้อติด turbo timer ไหม พวกนี้ใช้งานหนักกว่ารถเล็ก ยังวิ่งได้เป็นล้านโลแบบไม่ต้องยกเครื่อง รถกระบะผม 8 ปีวิ่งมา 1.7แสนโล ก็ยังไม่เป็นไรเหมือนกัน ตัวนี้ตอบได้เลยว่าสำหรับรถที่มีเทอร์โบจากโรงงานไม่จำเป็นครับ

ข้อ 4 ถ้าเป็นรถโรงงาน ใช้งานปกติธรรมดา ไม่จำเป็น แต่ถ้าใช้โหดๆ ขับแช่ยาวๆๆข้ามจังหวัด แกนเทอร์โบ มีความร้อนสะสมสูงจริงคับ (แกนเทอร์โบหมุนได้เป็นแสนรอบต่อนาทีนะคับ)
วิ่งมายาวๆ น้ำก็ร้อน(เทอร์โบจะมีน้ำจากหม้อน้ำไปหล่อเย็นด้วย) เครื่องก็ร้อน แกนเทอร์โบยิ่งร้อนหนัก จอดปุบดับเครื่องปั๊บ น้ำที่หล่อเย็นก็หยุดส่งไปเลี้ยง ฟิมล์น้ำมันเครื่องบ้างบางก็มีโอกาสที่จะระเหยเผาไหม้ได้ ต่อให้เป็น Super Synthetic ก็เถอะไม่เหลือ
ไอ้น้ำมันเครื่องที่แห้งไม่เท่าไรยิ่งเจอเศษสิ่งแปลกปลอมต่าง(เขม่าเผาไหม้+เศษผงโลหะ)ดันไปแห้งคาอยู่ด้วยนี่ซิ มันก็ทำให้แกนเทอร์โบกับเสื้อ(ส่วนมากเป็นทองเหลือง รุ่นใหม่ๆเป็นลูกปืน ลื่นกว่ามากแต่แพงเสียแล้วทิ้ง)
สึกหรอ เป็นเหตุให้เทอร์โบพัง ควันขาวไหลออกท่อ แล้วก็พลอยไปว่ารถที่เป็นเครื่อเทอร์โบพังง่าย เสียง่าย
แล้วพวกรถเทอร์โบสมัยนี้จะมีซักกี่คันที่ค่อยๆขับ เห็นกดกันวี๊ด.ด.ด มันส์

ความเชื่อทุกอย่างน่าจะเกิดจากความจริงบ้างไม่มากก็น้อยคับ

รอผู้รู้ท่านอื่นๆมาตอบคับผม

ปล.ตอนนี้ค่ายรถทั่วโลกกำลังกลับไปสู่ยุค Turbo กันอีกครั้งเพียงแต่หัวเรื่องคือความประหยัดคับ
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: promt ที่ มกราคม 10, 2013, 11:41:19

การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ผมยึดระยะประมาณนี้ครับ
--20W ใช้ให้ถึง 10000 โล
--15W ใช้ให้ถึง 12000 โล
--10W ใช้ให้ถึง 15000 โล
--5W ใช้ให้ถึง 17000 โล
--0W ใช้ให้ถึง 20000 โล


เห็นด้วยครับ รักโลกและรักเงินในกระเป๋าครับ
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: kan.kom ที่ มกราคม 10, 2013, 11:44:10
ความเชื่อมันทำให้สบายใจ
เหมือนการนำพระมาไว้ในรถ
การหาสีถูกโฉลก
การหาเลขทะเบียน
การออกรถตามฤกษ์ที่กำหนด

ไม่ทำแล้วไม่สบายใจ อึดอัด
มันไม่ส่งผลต่อตัวรถ แต่ส่งผลต่อคนขับ

แต่ข้อที่ว่ามาผมก็เห็นด้วยนะ ยกเว้นเรื่อง turbo timer อันนั้น ไม่รู้

อีกอันก็เรื่อง เอาที่ปัดน้ำฝนขึ้น เพื่อยืดอายุยางปัด
แต่หารู้ไม่ มันไปสร้างอาการล้าให้กับสปริงที่ปัดน้ำฝนแทน หนักกว่าอีก
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Phongrapee ที่ มกราคม 10, 2013, 11:45:08
จากที่เสนอมา ผมว่าแค่ข้อแรกก็เกินพอแล้ว นอกนั้นปล่อยให้เป็นไปตามเหตุผลความต้องการส่วนตัวของแต่ละคนดีกว่า
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: hutzero ที่ มกราคม 10, 2013, 11:50:48
ผมเชื่อว่าเวลารถต่อแถวยาวๆ  จะมีรถวิ่งเลนอื่นไปแทรกตรงหัวแถว  และเชื่อว่าผมจะถ่ายรูปเก็บไว้ทุกครั้งที่เห็นรถแทรกตรงเส้นทึบ
ส่งให้สำนักงานตำรวจจราจรดำเนินการต่อไป  แต่ปัจจุบันได้ทำลายความเชื่อนี้ไปแล้วครับ  เนื่องจากได้ถ่ายติดรถของสายตรวจที่มาแทรก
จึงรู้แน่ว่าส่งไปก็ไม่เป็นผล
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: PumpNISMO ที่ มกราคม 10, 2013, 12:02:56
ข้อ2-3 ผมเชื่อว่ามันเป็นความจริง แต่ข้อ 3 มันไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน แต่เปลี่ยนแล้วดีขึ้นมั้ย มันดีขึ้นอยู่แล้ว
ส่วนข้อสอง เติมออกเทนต่ำได้ไม่ใช่ว่าจะเติมออกเทนสูงแล้ววิ่งได้ดีเท่าเดิมหนิครับ รถบางคันเห็นผล รถบางคันไม่เห็นผล
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: jimsrsa ที่ มกราคม 10, 2013, 12:07:38
เลิกข้อแรกก็พอ เพราะมันเกี่ยวกับความปลอดภัย ข้ออื่นมันเป็นความเชื่อและการขาย
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: YoungJet ที่ มกราคม 10, 2013, 12:09:50
เรามักจะเรียกรถ "สีเงิน" ว่า "สีบรอนซ์"

ทั้ง ๆ ที่ บรอนซ์ คือ ทองแดง
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: dusitmon123 ที่ มกราคม 10, 2013, 13:26:40
เปลี่ยนยาก คนเลือกจะเชื่อก็เชื่อ ถึงจะไร้เหตุผล

อย่างเรื่องของ Turbo Timer  ผมเองก็มองว่าไม่ติดก็ไม่มีปัญหา เพราะอะไรเหรอครับ ถ้าเคยเห็นการทดสอบรถในโรงงานในขั้นตอนของการออกแบบนั้น
เค้าทดสอบกันโหดเสียยิ่งกว่าที่หลายๆท่านว่ามากเสียอีก วิ่งเทสในห้องทดสอบ ที่อุณหภูมิสูงๆ แช่คันเร่งวิ่งไว้นานๆ ไม่ได้มีอากาศถ่ายเทเหมือนเราวิ่งบนถนนปกติเสียด้วยซ้ำ

เค้าถึงได้มั่นใจว่าไม่จำเป็นต้องติด  ผมว่าการที่เราคิดเอาเองอย่างนั้นอย่างนี้ ว่าขับมาร้อนๆแล้วดับเครื่องเลย มันจะไม่ทน มันจะมีปัญหา ผมว่าผู้ออกแบบเค้าคิดมาก่อนเราแล้วครับ ผู้เชี่ยวชาญหลายด้านช่วยกันพัฒนานะครับ  ส่วนที่บอกว่าขับโหดๆ ขับอัดๆ มันก็ต้องเสื่อมลงเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ไม่ใช่แก้ปัญหาโดยการติด Timer แต่แก้โดยค่อยๆขับ ค่อยๆกด ถึงจะถูกครับ

ส่วนเรื่องถ่ายน้ำมันเครื่อง 1000 โลแรกหรือตอนเพิ่งออกรถมา ยิ่งตลกใหญ่เลย ผมไม่เข้าใจว่าคิดได้ยังไงว่าโรงงานจะใส่ของห่วยๆ ของหนืดๆ ไม่ดีมาให้  ผมว่าอะไรก็ตามที่ออกมาจากโรงงานนนั้นเหมาะสมและเสถียรที่สุดแล้วครับ

ถ้าท่านคิดกันอย่างนี้ วันหลังซื้อตู้เย็นหรือแอร์มา ก็ถ่ายน้ำยาหล่อเย็นออกแล้วเติมใหม่ด้วยนะครับ เพราะไม่รู้โรงงานเติมเกรดไหนมา เด๋วจะไม่สบายใจ  หรือถ่ายน้ำมันเครื่อง ก็ถ่ายน้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก น้ำมันเพาเวอร์ ไปให้หมดเลยครับ


ทั้งหมดนี้ความเห็นส่วนตัวนะ ท่านจะทำก็ไม่มีใครว่า แต่ยังไงก็แค่ความเชื่อที่ผิด ก็คือความเชื่อที่ผิด เวลาคุยกันเราควรคุยด้วยข้อมูลที่มันเป็นวิทยาศาสตร์ครับ ไม่ใช่ความเชื่อ
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ^Yimm@^ ที่ มกราคม 10, 2013, 13:44:10
1. ตอนไปสอบหรือต่อใบขับขี่มีสื่อให้ดูชัดเจนแล้ว ถ้ายังเปิดแปลว่าหลับหรือไม่ได้สนใจ
2.
3. เทคโนโลยีสมัยใหม่ดีมากทำให้ในการทำเครื่องยนต์ไม่มีเศษโลหะแล้ว(แต่ผมยังเปลี่ยน)
4.
5. ยังไงผมก็คิดว่าถ้าเอามาอัดหนักๆยังไงเทอร์โบก็สึกหรอกว่าnaอ่ะ เหมือนเอาคนร่างเล็กมายกของ กับคนร่างใหญ่มายกของที่น้ำหนักเท่าๆกัน
   ใครจะเหนื่อยจะล้าก่อน
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: xgasit ที่ มกราคม 10, 2013, 14:08:31
ขอผมความเชื่อที่ว่า จอดรถตากแดดให้ยกที่ปัดน้ำฝนขึ้น เพื่อกันยางเสื่อม แต่จริงๆแล้วที่หนักกว่าคือจะทำให้สปริงก้านปัดล้า แรงกดสปริงก็น้อยลง ปัดไม่เนียน ค่า

เปลี่ยนน่าจะแพงกว่ายางมาก
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: KrisTop ที่ มกราคม 10, 2013, 14:37:11
ทัศนคติที่ตั้งอยู่บนความเชื่อ จะมองไม่เห็นเหตุและผลที่มันควรจะเป็น

ทัศนคติ ควรตั้งอยู่บนหลักการที่เป็นที่ยอมรับ ความมีเหตุมีผล
เชื่อบนพื้นฐานความเป็นจริง หลายข้อของ จขกท.นั้น เชื่อไว้ไม่ผิดครับ
ตามแต่ปัจจัยที่ผู้ใช้ต้องการ

1 >> เชื่ออย่างผิดๆ ควรเลิกอย่างยิ่ง
2 >> นิยามดีกว่าให้ทีครับ ถ้าดีกว่าในแง่ของการเพิ่มสมรรถนะของรถ แน่นอนครับว่าดีกว่า
3 >> เปลี่ยนไม่เสียหายอะไร แต่แค่ตังค์ หากคุณมั่นใจในรถของคุณก็ลากยาวได้ครับ มันไม่ผิด ยังไม่มีงานวิจัยใหม่มาไขข้อข้องใจยกเว้นของทางบริษัทผลิตรถฯ
4 >> บางครั้งไม่ได้ติดตั้งเผื่อถนอมเครื่องครับ ติดตั้งเผื่อถนอมเทอร์โบเองที่ระบบเก่าๆ ไม่มีการ Warm-up, Cool-down turbo หลายกรณี Turbo มักไปก่อนครับ ส่วนรถที่ติด
Turbo มาจากโรงงานรุ่นใหม่ๆ หลายรุ่น ก็ใช่ว่าจะมี Pre-specified period แบบนี้มาแต่โรงงาน ติดไม่เสียหายครับ
5 >> รถ Turbo ไม่พังเร็วหรอกครับ หากขับแบบธรรมดา แต่ถ้ากระทืบตั้งแต่สตาร์ทติดในการออกตัว ทำบ่อยๆ ได้กลับบ้านเก่าเร็วกว่า N/A ธรรมดาแน่ครับตัวเทอร์โบ
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: pladaek ที่ มกราคม 10, 2013, 14:54:02
ผมว่ายากครับ.. แต่ละคนมีความคิดหรือทัศนะคติที่ต่างกัน
เอาง่ายๆแค่ตัวผมเองก็เห็นด้วยกับ จขกท. แค่ไม่กี่ข้อเอง..
แล้วทำไมผมจะต้องทำลายความคิดของผมไงครับ

เพราะบางเรื่องผมทำแล้วมันก็สบายใจในการกระทำ..
และเ้รื่องที่ท่าน จขกท. ตั้งมานั้น จริงๆถ้าเราจะไม่ทำมันก็ไม่ผิดอะไร
หรือไม่ก่อให้เกิดการรบกวนต่อเพื่อนร่วมทาง..
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Nookkiez ที่ มกราคม 10, 2013, 14:54:55
ขอทลายความเชื่อที่ว่ารถเครื่องเล็กๆ (1.2 1.3 1.5) ขับไปต่างจังหวัดไกลๆไม่ได้
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Equcha ที่ มกราคม 10, 2013, 15:09:53
เปลี่ยนยาก คนเลือกจะเชื่อก็เชื่อ ถึงจะไร้เหตุผล

ส่วนเรื่องถ่ายน้ำมันเครื่อง 1000 โลแรกหรือตอนเพิ่งออกรถมา ยิ่งตลกใหญ่เลย ผมไม่เข้าใจว่าคิดได้ยังไงว่าโรงงานจะใส่ของห่วยๆ ของหนืดๆ ไม่ดีมาให้  ผมว่าอะไรก็ตามที่ออกมาจากโรงงานนนั้นเหมาะสมและเสถียรที่สุดแล้วครับ

ถ้าท่านคิดกันอย่างนี้ วันหลังซื้อตู้เย็นหรือแอร์มา ก็ถ่ายน้ำยาหล่อเย็นออกแล้วเติมใหม่ด้วยนะครับ เพราะไม่รู้โรงงานเติมเกรดไหนมา เด๋วจะไม่สบายใจ  หรือถ่ายน้ำมันเครื่อง ก็ถ่ายน้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก น้ำมันเพาเวอร์ ไปให้หมดเลยครับ


ทั้งหมดนี้ความเห็นส่วนตัวนะ ท่านจะทำก็ไม่มีใครว่า แต่ยังไงก็แค่ความเชื่อที่ผิด ก็คือความเชื่อที่ผิด เวลาคุยกันเราควรคุยด้วยข้อมูลที่มันเป็นวิทยาศาสตร์ครับ ไม่ใช่ความเชื่อ

ที่เค้าเปลี่ยนที่ 1K Km แรกเพราะว่าเครื่องยังใหม่ครับ ยังไม่เข้าที่ อาจจะมีเศษอะไรที่เข้าไปอุดจากภายนอก หรือหลุดจากตัวเครื่องเองปนอยู่ในน้ำมันเครื่อง
แล้วพาลทำให้เครื่องเสียหายครับ ไม่ใช่เพราะของศูนย์ไม่ดีครับ

ผมขอเทียบกับ Lube oil/Turbine oil ของ Gas turbine Engine นะครับ ไม่ต้องเทียบราคากันครับ เพราะว่า Turbine Engine 1 เครื่องซื้อ RR ได้เป็นสิบเป็นร้อยคัน ใน Instruction Manual ให้เปลี่ยนน้ำมันพวกนี้ครั้งแรกทั้งหมด (จำนวนไม่ต่ำกว่าแสนๆลิตร) ณ ปีแรกหลังเดินเครื่อง แต่หลังจากนั้นให้เปลี่ยนทุกๆ 6 ปี ถ้าพร่องให้ Top up ถามว่าทำไม คำตอบคืออย่างที่ผมพิมพ์ไปข้างบนครับ

ขนาด Turbine Engine งานผลิตต้องดีกว่าเครื่องยนต์รถยนต์ทั่วไป เค้ายัง Concern ตรงนี้ครับ ของรถยนต์ยิ่งไม่ต้องพูด
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: สมาชิกคนที่2455 ที่ มกราคม 10, 2013, 15:29:02
ข้อเนี่ยะต้องรีบทำลายล้างอย่างเร่งด่วน -> มีใครทำแบบว่าก้าวเท้าไหนขึ้นรถหรือลงรถก่อนและหลัง (เหมือนก้าวเท้าแรกออกจากบ้าน )  ;D
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: wooot ที่ มกราคม 10, 2013, 15:38:31
ผมคิดว่า.....  หลายๆท่านเริ่มต้นด้วยคำว่าผมคิดว่านั่นแปลว่าเป็นความเชื่อหรือเปล่าครับ หรือเป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการพิสูจน์แล้วทางวิทยาศาสตร์

จากข้อทุกข้อที่ว่ามา ผมคิดว่า.. ข้อ 1เป็นข้อที่ควรเลิกทำตามๆกัน ข้อ 5 ไม่มีความเห็นครับ ไม่เคยใช้รถเทอร์โบ
ส่วนข้ออื่นๆ นั้น ผมคิดว่ารับได้ครับ เอาหลักการปลอดภัยไว้ก่อน (precautionary) ครับ


ส่วนคนที่ชอบเปิดไฟตัดหมอกตลอดเวลาเนี่ย ไม่ทราบว่ามีความเชื่ออย่างไรครับ  ;D
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: HYDE-- ที่ มกราคม 10, 2013, 16:57:04
ข้อ 1 ผมมองว่ามันเป็นการบอกรถคันอื่นๆว่า จะวิ่งตรงนะ ไม่ได้เลี้ยวนะ
แต่ผมเคยได้ยินว่า มันเป็น Thailand Only น่ะครับ ฝรั่งเขาไม่ทำกัน แต่ทำไปก็ไม่เสียหายหรอก

ข้อ 2 ผมว่ามันแล้วแต่คันครับ เช่น ถ้าเป็นรถญี่ปุ่นธรรมดาๆ ผมว่า เติมน้ำมันแบบที่ถูกกว่าก็ไม่น่ามีปัญหา
ตราบใดที่ไ่ม่เติม Eternol เกินกำหนด แต่ผมมองว่า รถยุโรปบางรุ่น หรือพวกรถแรงๆ ก็ควรจะเติมน้ำมันดีๆครับ
เพราะน้ำมันอาจส่งผลต่อเครื่องยนต์ได้ ยิ่งรถออกเกรย์นี่ ยิ่งต้องใช้แต่น้ำมันดีๆ
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: shando ที่ มกราคม 10, 2013, 17:19:33
ข้อ 1 ผมมองว่ามันเป็นการบอกรถคันอื่นๆว่า จะวิ่งตรงนะ ไม่ได้เลี้ยวนะ
แต่ผมเคยได้ยินว่า มันเป็น Thailand Only น่ะครับ ฝรั่งเขาไม่ทำกัน แต่ทำไปก็ไม่เสียหายหรอก

เสียหายครับ เพราะ รถที่วิ่งมาจากทางซ้ายจะเห็นแต่ไฟเลี้ยวข้างซ้ายและคิดว่าคุณจะเลี้ยวซ้าย
เค้าจะไม่ลดความเร็วหรือหยุดให้ แต่คุณจะคิดไปเองว่าเค้ารู้แล้วว่าคุณจะวิ่งตรง สุดท้ายก้ชนกันเละได้ครับ
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: warez ที่ มกราคม 10, 2013, 17:21:30
เปลี่ยนยาก คนเลือกจะเชื่อก็เชื่อ ถึงจะไร้เหตุผล

ส่วนเรื่องถ่ายน้ำมันเครื่อง 1000 โลแรกหรือตอนเพิ่งออกรถมา ยิ่งตลกใหญ่เลย ผมไม่เข้าใจว่าคิดได้ยังไงว่าโรงงานจะใส่ของห่วยๆ ของหนืดๆ ไม่ดีมาให้  ผมว่าอะไรก็ตามที่ออกมาจากโรงงานนนั้นเหมาะสมและเสถียรที่สุดแล้วครับ

ถ้าท่านคิดกันอย่างนี้ วันหลังซื้อตู้เย็นหรือแอร์มา ก็ถ่ายน้ำยาหล่อเย็นออกแล้วเติมใหม่ด้วยนะครับ เพราะไม่รู้โรงงานเติมเกรดไหนมา เด๋วจะไม่สบายใจ  หรือถ่ายน้ำมันเครื่อง ก็ถ่ายน้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก น้ำมันเพาเวอร์ ไปให้หมดเลยครับ


ทั้งหมดนี้ความเห็นส่วนตัวนะ ท่านจะทำก็ไม่มีใครว่า แต่ยังไงก็แค่ความเชื่อที่ผิด ก็คือความเชื่อที่ผิด เวลาคุยกันเราควรคุยด้วยข้อมูลที่มันเป็นวิทยาศาสตร์ครับ ไม่ใช่ความเชื่อ

ที่เค้าเปลี่ยนที่ 1K Km แรกเพราะว่าเครื่องยังใหม่ครับ ยังไม่เข้าที่ อาจจะมีเศษอะไรที่เข้าไปอุดจากภายนอก หรือหลุดจากตัวเครื่องเองปนอยู่ในน้ำมันเครื่อง
แล้วพาลทำให้เครื่องเสียหายครับ ไม่ใช่เพราะของศูนย์ไม่ดีครับ

ผมขอเทียบกับ Lube oil/Turbine oil ของ Gas turbine Engine นะครับ ไม่ต้องเทียบราคากันครับ เพราะว่า Turbine Engine 1 เครื่องซื้อ RR ได้เป็นสิบเป็นร้อยคัน ใน Instruction Manual ให้เปลี่ยนน้ำมันพวกนี้ครั้งแรกทั้งหมด (จำนวนไม่ต่ำกว่าแสนๆลิตร) ณ ปีแรกหลังเดินเครื่อง แต่หลังจากนั้นให้เปลี่ยนทุกๆ 6 ปี ถ้าพร่องให้ Top up ถามว่าทำไม คำตอบคืออย่างที่ผมพิมพ์ไปข้างบนครับ

ขนาด Turbine Engine งานผลิตต้องดีกว่าเครื่องยนต์รถยนต์ทั่วไป เค้ายัง Concern ตรงนี้ครับ ของรถยนต์ยิ่งไม่ต้องพูด

อ่านมานึกว่าจะให้เปลี่ยนทันทีหลังจากเดินเครื่อง ที่ไหนได้ตั้งปี ก็คงคล้ายๆกับ 10,000โล หรือ 25,000โลแรกไงครับ
ไม่ใช่ 1,000โล หรือ 1เดือนสำหรับเครื่องยักษ์ของท่าน
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: WhoIsI ที่ มกราคม 10, 2013, 17:26:40

ที่เค้าเปลี่ยนที่ 1K Km แรกเพราะว่าเครื่องยังใหม่ครับ ยังไม่เข้าที่ อาจจะมีเศษอะไรที่เข้าไปอุดจากภายนอก หรือหลุดจากตัวเครื่องเองปนอยู่ในน้ำมันเครื่อง
แล้วพาลทำให้เครื่องเสียหายครับ ไม่ใช่เพราะของศูนย์ไม่ดีครับ

ผมขอเทียบกับ Lube oil/Turbine oil ของ Gas turbine Engine นะครับ ไม่ต้องเทียบราคากันครับ เพราะว่า Turbine Engine 1 เครื่องซื้อ RR ได้เป็นสิบเป็นร้อยคัน ใน Instruction Manual ให้เปลี่ยนน้ำมันพวกนี้ครั้งแรกทั้งหมด (จำนวนไม่ต่ำกว่าแสนๆลิตร) ณ ปีแรกหลังเดินเครื่อง แต่หลังจากนั้นให้เปลี่ยนทุกๆ 6 ปี ถ้าพร่องให้ Top up ถามว่าทำไม คำตอบคืออย่างที่ผมพิมพ์ไปข้างบนครับ

ขนาด Turbine Engine งานผลิตต้องดีกว่าเครื่องยนต์รถยนต์ทั่วไป เค้ายัง Concern ตรงนี้ครับ ของรถยนต์ยิ่งไม่ต้องพูด

หุหุ
มีใครเข้าใจ turbine engine บ้างครับ น้อยคนที่จะเคยเห็นเครื่องยนต์แบบนี้
มีแค่ในอากาศยาน เรือ แท่นขุด โรงไฟฟ้า เท่าที่คิดออก
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ มกราคม 10, 2013, 17:50:00
3. เชื่อว่าการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่1,000กิโลเมตรแรก จะดีกว่าเปลี่ยนตามระยะที่บริษัทแนะนำเช่น10,000กิโลแรก

รถผมป้ายแดงทุกคันเปลี่ยนครั้งแรกที่ 10,000 โล ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีคันไหนเป็นอะไรซักทีเหมือนกัน

4. เชื่อว่าการติดตั้ง turbo timer จะถนอมเครื่องได้ดีกว่า สำหรับรถรุ่นใหม่ๆที่มี turbo มาจากโรงงาน

ข้อนี้เอาง่ายๆครับ เคยเห็นสิบล้อติด turbo timer ไหม พวกนี้ใช้งานหนักกว่ารถเล็ก ยังวิ่งได้เป็นล้านโลแบบไม่ต้องยกเครื่อง รถกระบะผม 8 ปีวิ่งมา 1.7แสนโล ก็ยังไม่เป็นไรเหมือนกัน ตัวนี้ตอบได้เลยว่าสำหรับรถที่มีเทอร์โบจากโรงงานไม่จำเป็นครับ

สำหรับ turbo time. ผมเคยเจอบ่อยครั้งรถสิบล้อแว๊ะกินข้าวโดยไม่ดับเครื่องเลย
และเคยเจอรถสิบล้ออุ่นเครื่องด้วยการเร่งรอบฟรีทิ้ง
มันจำเป็นมั๊ยสำหรับtimer turboผมเองยังไม่แน่ใจ  แต่ถ้าเอารถพวกนี้มาเป็นต้นแบบคงจะไม่ดีเท่าไหร่นัก
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ มกราคม 10, 2013, 18:25:59
คำตอบข้อ4ครับ   คู่มือ all new dmax

นั่นหมายความว่าถ้าไม่ได้ซัดมาเต็มเหนี่ยวกัน  มันก็ไม่ต้องถึงสามนาที หรือถ้าแค่ขับๆปกติที่มีการเข้าหมู่บ้านหรือเปิดประตูรั้วอาจจะไม่ต้องเลยก็ได้

ผมว่าขึ้นกับความพอดีมากกว่า แต่ผมว่าน้อยคนนักที่เพิ่งซิ่งมาและดับเครื่องเลย
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: litle ที่ มกราคม 10, 2013, 18:38:40
บางเรื่องมันก็ไม่ใช่เรื่องของความเชื่อหรอกครับ มันเป็นเรื่องที่บางท่านทดสอบและเห็นผลแล้วชัดเจน
อย่างเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิง ผมทดสอบกับมอเตอร์ไซต์แล้ว ขี่ทุกวัน เติมน้ำมันอาทิตย์ละถัง ขี่มา 3 ปีแล้วครับ
รู้เลยน้ำมันอะไรลื่น อะไรอืด ผมสรุปกับมอเตอร์ไซต์ของผมแล้วว่าโซล์ฮอล 95 ให้ความไหลลื่นที่ดีกว่าโซฮอล 91 (ไม่ต้องพูดถึงเบนซินนะครับ)
ฉะนั้นเรื่องนี้ขอค้านนะครับ ไม่ใช่เรื่องความเชื่อ แต่เป็นเรื่องจริงครับ ผมพิสูทมาแล้ว
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Iwata Kana Σ4 ที่ มกราคม 10, 2013, 19:23:12
ขอทลายความเชื่อที่ว่ารถเครื่องเล็กๆ (1.2 1.3 1.5) ขับไปต่างจังหวัดไกลๆไม่ได้
+1

ทำลายข้อนี้ด้วย รถ Eco Car ขึ้นเขาไม่ได้ ถ้าไม่เชื่อ ให้หมากขับละกัน
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: mothsan ที่ มกราคม 10, 2013, 23:30:37
3. เชื่อว่าการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่1,000กิโลเมตรแรก จะดีกว่าเปลี่ยนตามระยะที่บริษัทแนะนำเช่น10,000กิโลแรก

รถผมป้ายแดงทุกคันเปลี่ยนครั้งแรกที่ 10,000 โล ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีคันไหนเป็นอะไรซักทีเหมือนกัน

4. เชื่อว่าการติดตั้ง turbo timer จะถนอมเครื่องได้ดีกว่า สำหรับรถรุ่นใหม่ๆที่มี turbo มาจากโรงงาน

ข้อนี้เอาง่ายๆครับ เคยเห็นสิบล้อติด turbo timer ไหม พวกนี้ใช้งานหนักกว่ารถเล็ก ยังวิ่งได้เป็นล้านโลแบบไม่ต้องยกเครื่อง รถกระบะผม 8 ปีวิ่งมา 1.7แสนโล ก็ยังไม่เป็นไรเหมือนกัน ตัวนี้ตอบได้เลยว่าสำหรับรถที่มีเทอร์โบจากโรงงานไม่จำเป็นครับ
เห็นด้วยครับ
เท่าที่ได้เคยคุยกับคนที่วิจัยน้ำมันเครื่อง จริงๆแล้วใช้ได้หลายหมื่นโลครับ ความสามารถมันอาจลดลงบ้าง อืดขึ้นบ้าง แต่ไม่ได้มีผลเสียต่อเครื่องยนต์ชัดเจนครับ. แต่ที่ต้องบอกให้เปลี่ยนเพื่อให้เค้าขายได้ ไม่งั้นคงเจ๊งกลับบ้านกันหมดแล้ว

คนที่ยังเชื่อเรื่อง 1,000. โล ก็คงได้แต่
- เปลืองเงินโดยใช้เหตุ
- สร้างมลพิษน้ำมันเก่า ที่ไม่จำเป็น

แต่ถ้าไม่ซีเรียสก็ไม่เป็นไรครับ รุ่นเราไม่เแือดร้อนหรอก รุ่นลูกหลานเรานู้นครับ
แต่สำหรับผมไม่เชื่อ และไม่ทำอะไรที่ไม่จำเป็น. แถมยังสร้างมลพิษครับ ปัจจุบันเราก็สร้างมลพิษกันมากพอแล้ว
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: 6162002 ที่ มกราคม 10, 2013, 23:51:47
3. เชื่อว่าการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่1,000กิโลเมตรแรก จะดีกว่าเปลี่ยนตามระยะที่บริษัทแนะนำเช่น10,000กิโลแรก

รถผมป้ายแดงทุกคันเปลี่ยนครั้งแรกที่ 10,000 โล ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีคันไหนเป็นอะไรซักทีเหมือนกัน

4. เชื่อว่าการติดตั้ง turbo timer จะถนอมเครื่องได้ดีกว่า สำหรับรถรุ่นใหม่ๆที่มี turbo มาจากโรงงาน

ข้อนี้เอาง่ายๆครับ เคยเห็นสิบล้อติด turbo timer ไหม พวกนี้ใช้งานหนักกว่ารถเล็ก ยังวิ่งได้เป็นล้านโลแบบไม่ต้องยกเครื่อง รถกระบะผม 8 ปีวิ่งมา 1.7แสนโล ก็ยังไม่เป็นไรเหมือนกัน ตัวนี้ตอบได้เลยว่าสำหรับรถที่มีเทอร์โบจากโรงงานไม่จำเป็นครับ
เห็นด้วยครับ
เท่าที่ได้เคยคุยกับคนที่วิจัยน้ำมันเครื่อง จริงๆแล้วใช้ได้หลายหมื่นโลครับ ความสามารถมันอาจลดลงบ้าง อืดขึ้นบ้าง แต่ไม่ได้มีผลเสียต่อเครื่องยนต์ชัดเจนครับ. แต่ที่ต้องบอกให้เปลี่ยนเพื่อให้เค้าขายได้ ไม่งั้นคงเจ๊งกลับบ้านกันหมดแล้ว

คนที่ยังเชื่อเรื่อง 1,000. โล ก็คงได้แต่
- เปลืองเงินโดยใช้เหตุ
- สร้างมลพิษน้ำมันเก่า ที่ไม่จำเป็น

แต่ถ้าไม่ซีเรียสก็ไม่เป็นไรครับ รุ่นเราไม่เแือดร้อนหรอก รุ่นลูกหลานเรานู้นครับ
แต่สำหรับผมไม่เชื่อ และไม่ทำอะไรที่ไม่จำเป็น. แถมยังสร้างมลพิษครับ ปัจจุบันเราก็สร้างมลพิษกันมากพอแล้ว
ตามนั้นครับ

เปลี่ยนแล้วลื่นขึ้น ไม่ได้แปลว่าน้ำมันเครื่องเก่ามันหมดอายุการใช้งานครับ
และทั้งเครื่องยนต์และน้ำมันเครื่อง พัฒนาไปมาก แต่อย่างว่า เขาก็ต้องอยากขายไม่งั้นไม่รู้จะไปทำอะไร
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ton4965 ที่ มกราคม 11, 2013, 00:22:50
ทุกวันนี้ พี่สาวผมเวลาขับรถผ่านทางแยกที่เปิดไฟกระพริบหรือไม่มีสัญญาณไฟเขียว-แดง ก็ยังเปิดไฟฉุกเฉินอยู่เลย
ทั้งที่ผมเองก็คอยเตือนอยู่บ่อยครั้ง แต่แกก็อดที่จะเอามือไปกดไม่ได้
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: chat120912 ที่ มกราคม 11, 2013, 00:25:50
มานอนยันด้วยอีกคนว่า น้ำมันเครื่อง กึ่ง-สังเคราะห์ สมัยนี้ ใช้ได้ ถึง 10,000 กิโลแล้วครับ

และสังเคราะห์แท้ ก็สามารถใช้ได้ถึง 20,000 กิโลแล้ว

p.s. ต้องเป็นน้ำมันเครื่องแท้ไม่ปลอมนะครับ เกรด SM-SN  ;D

ส่วนเปิดไฟฉุกเฉินผ่านสี่แยก อ้างอิงจากที่ผมอบรมในขนส่งตอนทำใบขับขี่นั้น

วิทยากร บอกว่า ไม่ต้องเปิดไฟฉุกเฉินถ้าจะผ่านสี่แยกไปตรงๆ แต่ถ้าเลี้ยวซ้ายหรือขวาให้เปิดแค่ไฟเลี้ยวนั้นๆ  ::)
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: holahola66 ที่ มกราคม 11, 2013, 08:28:34
อ้อขอแถมอีกนิดเห็นชอบถามแนวนี้กันบ่อยๆ

แนวทางการปรับแต่งรถยนต์ในอุดมคติ "แรงเหมือนF1 ทนดั่งTaxi ประหยัดยังกะจักรยาน" มันไม่มีหรอกครับ ไม่ต้องหา

ฮามากครับ 55+

5555 ตื่นมาฮา  ;D
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Amaranthe ที่ มกราคม 11, 2013, 09:30:36
ข้อ 3
ผมจำได้ว่า พี่จิมมี่ เคยพิมบอกไว้ว่า ไม่จำเป็น เพราะ
จะเพื่มขยะมลพิษให้โลกเร็วไป และ เทคโนโลยีสมัยนี้ ทำให้เปลี่ยนตอน 10,000 โล ได้แล้ว

ส่วนความเชื่ออื่น ๆ
ทุกวันนี้ ผมยังคิดว่ารถผม คือสีทองอยู่เลย ทั้ง ๆ ที่ความจริงเป็นสีเบจ
แต่ใจอยากจะรับรู้ว่า รถเราสีทอง เพราะผมชอบสีทอง
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: dusitmon123 ที่ มกราคม 11, 2013, 09:54:42
เปลี่ยนยาก คนเลือกจะเชื่อก็เชื่อ ถึงจะไร้เหตุผล

ส่วนเรื่องถ่ายน้ำมันเครื่อง 1000 โลแรกหรือตอนเพิ่งออกรถมา ยิ่งตลกใหญ่เลย ผมไม่เข้าใจว่าคิดได้ยังไงว่าโรงงานจะใส่ของห่วยๆ ของหนืดๆ ไม่ดีมาให้  ผมว่าอะไรก็ตามที่ออกมาจากโรงงานนนั้นเหมาะสมและเสถียรที่สุดแล้วครับ

ถ้าท่านคิดกันอย่างนี้ วันหลังซื้อตู้เย็นหรือแอร์มา ก็ถ่ายน้ำยาหล่อเย็นออกแล้วเติมใหม่ด้วยนะครับ เพราะไม่รู้โรงงานเติมเกรดไหนมา เด๋วจะไม่สบายใจ  หรือถ่ายน้ำมันเครื่อง ก็ถ่ายน้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก น้ำมันเพาเวอร์ ไปให้หมดเลยครับ


ทั้งหมดนี้ความเห็นส่วนตัวนะ ท่านจะทำก็ไม่มีใครว่า แต่ยังไงก็แค่ความเชื่อที่ผิด ก็คือความเชื่อที่ผิด เวลาคุยกันเราควรคุยด้วยข้อมูลที่มันเป็นวิทยาศาสตร์ครับ ไม่ใช่ความเชื่อ

ที่เค้าเปลี่ยนที่ 1K Km แรกเพราะว่าเครื่องยังใหม่ครับ ยังไม่เข้าที่ อาจจะมีเศษอะไรที่เข้าไปอุดจากภายนอก หรือหลุดจากตัวเครื่องเองปนอยู่ในน้ำมันเครื่อง
แล้วพาลทำให้เครื่องเสียหายครับ ไม่ใช่เพราะของศูนย์ไม่ดีครับ

ผมขอเทียบกับ Lube oil/Turbine oil ของ Gas turbine Engine นะครับ ไม่ต้องเทียบราคากันครับ เพราะว่า Turbine Engine 1 เครื่องซื้อ RR ได้เป็นสิบเป็นร้อยคัน ใน Instruction Manual ให้เปลี่ยนน้ำมันพวกนี้ครั้งแรกทั้งหมด (จำนวนไม่ต่ำกว่าแสนๆลิตร) ณ ปีแรกหลังเดินเครื่อง แต่หลังจากนั้นให้เปลี่ยนทุกๆ 6 ปี ถ้าพร่องให้ Top up ถามว่าทำไม คำตอบคืออย่างที่ผมพิมพ์ไปข้างบนครับ

ขนาด Turbine Engine งานผลิตต้องดีกว่าเครื่องยนต์รถยนต์ทั่วไป เค้ายัง Concern ตรงนี้ครับ ของรถยนต์ยิ่งไม่ต้องพูด

เทียบกันไม่ได้ครับ เพราะ Turbine Engine นั้นเป็นเครื่องจักรที่ต้องอาศัยความแม่นยำในการติดตั้ง และความใส่ใจในการบำรุงรักษาอย่างมากครับ ผมเคยดูงานโรงไฟฟ้าที่เค้าถอดเปลี่ยนใบพัด Turbine มานั้น ความละเอียดในการผลิตและติดตั้งนั้นสูงมากครับ หากมีเศษอะไรเข้าไปเพียงนิดเดียว มีผลให้ใบพัดบิ่นได้เลยครับ

แต่กับเครื่องยนต์นั้นไม่เหมือนกันครับ ที่เค้าบอกว่าไม่ต้องเปลี่ยนตอน 1พันโลแรก เพราะมันใจว่าในสายการผลิตนั้นมีมาตรฐานเพียงพอแล้ว และเศษชิ้นส่วนขนาดเล็กที่ปนปลงไป ไม่มีผลกับการทำงานของเครื่องยนต์แน่นอน

ถ้าท่านยังเชื่อที่ Manual ของ Turbine เขียนมาว่าต้องเปลี่ยนตอนปีแรก ก็น่าจะมีเหตุผลมากพอที่จะเชื่อที่คู่มือรถบอกให้เปลี่ยนตอน 1หมื่นโลแรกนะครับ

ผมเข้าใจว่าท่านทำกันเพื่อความสบายใจของตนเอง แต่ผมก็คิดเหมือนหลายๆท่าน ว่าเมืองไทยของเรา ทำเพราะความสบายใจส่วนตัว ทำเพราะคิดว่าทำแล้วไม่เดือดร้อนใครกันมามากจนเกินไปแล้วมั้งครับ ทุกวันนี้มันเลยเป็นแบบนี้ บางครั้งถ้าอะไรที่ไม่จำเป็นเราก็ควรประหยัดบ้าง พยายามบ้าง หรือเปลี่ยนแปลงบ้างก็ดีครับ
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: XL_SiZe ที่ มกราคม 11, 2013, 10:18:45
บางเรื่องมันก็ไม่ใช่เรื่องของความเชื่อหรอกครับ มันเป็นเรื่องที่บางท่านทดสอบและเห็นผลแล้วชัดเจน
อย่างเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิง ผมทดสอบกับมอเตอร์ไซต์แล้ว ขี่ทุกวัน เติมน้ำมันอาทิตย์ละถัง ขี่มา 3 ปีแล้วครับ
รู้เลยน้ำมันอะไรลื่น อะไรอืด ผมสรุปกับมอเตอร์ไซต์ของผมแล้วว่าโซล์ฮอล 95 ให้ความไหลลื่นที่ดีกว่าโซฮอล 91 (ไม่ต้องพูดถึงเบนซินนะครับ)
ฉะนั้นเรื่องนี้ขอค้านนะครับ ไม่ใช่เรื่องความเชื่อ แต่เป็นเรื่องจริงครับ ผมพิสูทมาแล้ว


ข้อนี้ถ้าจะพิสูจน์กันจริง ต้องมีความเป็นกลาง ตรงตามหลักนะครับ
การเติมน้ำมันของท่าน มีปัจจัยเสี่ยงบางอย่างคือ ท่านรู้ประเภทน้ำมันที่เติมเข้าไปก่อนแล้วครับ
มันส่งผลต่อทัศนะคติเบื้องลึกในการขับขี่ + ความเชื่อตั้งต้นปนอยู่ด้วย การสรุปผลอาจคลาดเคลื่อนได้

ถ้าจะทดลองจริง ต้องน้ำมันหมดถัง
ซื้อน้ำมันมา 2 ประเภท แล้วให้คนอื่นเติมให้ทีละประเภท โดยที่ท่านไม่รู้ ไม่เห็นการเติม (จริง ๆ)
แล้วทำการทดสอบวิ่ง โดยใช้น้ำมันแต่ละประเภท ทดลองหลาย ๆ ครั้ง ประเภทละ 5 ครั้ง (จริงแล้ว ควรมากกว่านี้)
แล้วท่านสรุปความพึงพอใจ ในการขับขี่แต่ละครั้ง เป็นข้อมูล

ซึ่งถ้าท่านสามารถแยกแยะได้ถูกต้องเป๊ะ ว่าตัวไหนดีกว่าอย่างมีนัยยะ (คือถูกต้องในแต่ละครั้งอย่างยอมรับได้)
จึงจะสรุปได้ถูกต้องจริง ๆ ทางสถิติ (พอดีเรียนด้านนี้มาครับ)
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Equcha ที่ มกราคม 11, 2013, 11:47:53
เปลี่ยนยาก คนเลือกจะเชื่อก็เชื่อ ถึงจะไร้เหตุผล

ส่วนเรื่องถ่ายน้ำมันเครื่อง 1000 โลแรกหรือตอนเพิ่งออกรถมา ยิ่งตลกใหญ่เลย ผมไม่เข้าใจว่าคิดได้ยังไงว่าโรงงานจะใส่ของห่วยๆ ของหนืดๆ ไม่ดีมาให้  ผมว่าอะไรก็ตามที่ออกมาจากโรงงานนนั้นเหมาะสมและเสถียรที่สุดแล้วครับ

ถ้าท่านคิดกันอย่างนี้ วันหลังซื้อตู้เย็นหรือแอร์มา ก็ถ่ายน้ำยาหล่อเย็นออกแล้วเติมใหม่ด้วยนะครับ เพราะไม่รู้โรงงานเติมเกรดไหนมา เด๋วจะไม่สบายใจ  หรือถ่ายน้ำมันเครื่อง ก็ถ่ายน้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก น้ำมันเพาเวอร์ ไปให้หมดเลยครับ


ทั้งหมดนี้ความเห็นส่วนตัวนะ ท่านจะทำก็ไม่มีใครว่า แต่ยังไงก็แค่ความเชื่อที่ผิด ก็คือความเชื่อที่ผิด เวลาคุยกันเราควรคุยด้วยข้อมูลที่มันเป็นวิทยาศาสตร์ครับ ไม่ใช่ความเชื่อ

ที่เค้าเปลี่ยนที่ 1K Km แรกเพราะว่าเครื่องยังใหม่ครับ ยังไม่เข้าที่ อาจจะมีเศษอะไรที่เข้าไปอุดจากภายนอก หรือหลุดจากตัวเครื่องเองปนอยู่ในน้ำมันเครื่อง
แล้วพาลทำให้เครื่องเสียหายครับ ไม่ใช่เพราะของศูนย์ไม่ดีครับ

ผมขอเทียบกับ Lube oil/Turbine oil ของ Gas turbine Engine นะครับ ไม่ต้องเทียบราคากันครับ เพราะว่า Turbine Engine 1 เครื่องซื้อ RR ได้เป็นสิบเป็นร้อยคัน ใน Instruction Manual ให้เปลี่ยนน้ำมันพวกนี้ครั้งแรกทั้งหมด (จำนวนไม่ต่ำกว่าแสนๆลิตร) ณ ปีแรกหลังเดินเครื่อง แต่หลังจากนั้นให้เปลี่ยนทุกๆ 6 ปี ถ้าพร่องให้ Top up ถามว่าทำไม คำตอบคืออย่างที่ผมพิมพ์ไปข้างบนครับ

ขนาด Turbine Engine งานผลิตต้องดีกว่าเครื่องยนต์รถยนต์ทั่วไป เค้ายัง Concern ตรงนี้ครับ ของรถยนต์ยิ่งไม่ต้องพูด

อ่านมานึกว่าจะให้เปลี่ยนทันทีหลังจากเดินเครื่อง ที่ไหนได้ตั้งปี ก็คงคล้ายๆกับ 10,000โล หรือ 25,000โลแรกไงครับ
ไม่ใช่ 1,000โล หรือ 1เดือนสำหรับเครื่องยักษ์ของท่าน

วงรอบคือ 1 ปี -> 6 ปี ถ้าเทียบกันจริงๆ มันไม่ใช่ 10,000KM/ 25,000 KM แรกครับ
ถ้าเทียบทุก 6 ปี = 10,000KM มากกว่าครับ
หัวข้อ: Re: มาทำลายกำแพงความเชื่อกันดีกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: warez ที่ มกราคม 11, 2013, 12:22:30
Placebo effect คือคำตอบสำหรับท่านที่คิดว่า เติมน้ำมันเกรดดีกว่าแล้วรถแรงขึ้น