Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 18:59:24

หัวข้อ: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 18:59:24
เรื่องมันมีอยู่ว่าวันนี้เพื่อนสาวของผมได้ไปรับรถที่จองไว้ซึ่งมันก็คือ Ford Fiesta ครับ ซึ่งมันเป็นคันที่7แล้วในกลุ่มซึ่งผมอยากถามว่าทำไมสาวๆเขาชอบออก  

Fiesta กันอ่ะครับ ซึ่งผมก็ถามเพื่อนนะว่าทำไมเอาเจ้าคันนี้มันบวกว่าสวยคำเดียวเลยและชอบ เพื่อนผมผู้หญิงผมในกลุ่มออก Fiesta กันทั้งนั้นเลยโดยเฉพาะสีแดง

ผมคิดในส่วนของผมนะสงสัยพวกมันคงไม่รู้ว่าศูนย์ฟอร์ดเขาเป็นไง ถ้าถามผมว่าในปัจจุบัน B-segment ตัวไหนสวยและน่าขัดที่สุดผมว่าก็น่าจะเจ้า Fiesta นี้แหละครับ

แต่มันติดที่ศูนย์นี้แหละที่ผมไม่มั่นใจเอาเสียเลย ผมเลยคิดไปว่าการที่เรารู้เรื่องรถหรือหาข้อมูลหรือเสพมันมากเกินไปจนมันทำให้เราเป็นคนช่างติ หาข้อบกพร่องมันไป

เสียหมดมันจะทำให้เราเสียอะไรไปหลายๆอย่าง เพราะบ้างทีเราคงจะหาอะไรที่ดีที่สุด 100% ในโลกนี้ไม่ได้หรอก มันมีทั้งข้อดีและข้อด้อยบ้างแหละ ผมเลยคิดว่าถ้าเรา

รู้เรื่องรถบ้างนิดหน่อยจะดิกว่ามั้ยเวลาจะออกรถทีไม่ต้องมานั่งปวดหัว มันน่าจะมีความสุขมากกว่านี้มั้ยในการเลือกและใช้รถ
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: Tonaka ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:04:57
บางทีเผลอ กระแสมันก็จะพาไปนะครับ
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: mikio ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:06:18
ผมรู้เรื่องรถแต่ไม่ค่อยรู้เรื่องศูนย์ ก็เลยจองfocus ตัวรองทอปไปเหมือนกันฮะ
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:13:13
บางทีเผลอ กระแสมันก็จะพาไปนะครับ
เรื่องกระแสนี้ผมก็ไม่แน่ใจนะครับว่าเพื่อนผมมันซื้อเพราะกระแสอ่ะเปล่า ขับไปกินเลี้ยงรุ่นที Fiesta เรียงกันที5-6คัน
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: Wayfarer-R ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:13:36
ให้เค้าไปลองกันเองครับ เข้าใจว่ารักเพื่อน แต่เราก็ต้องปล่อยให้เค้าเรียนรู้เองบ้าง

บางทีซื้อไป ไปเจอรถดี ศูนย์โอเคร มันก็ดีต่อตัวเค้าเองครับ

ถ้ามันตรงข้าม ก็ถือเป็นบทเรียนไป คราวหน้าเค้าก็ระวังเองแหละ ประสบการณ์มันจะสอนไปเองโดยอัตโนมัติ
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: PumpNISMO ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:15:32
ถ้าศูนย์ยังเป็นแบบเดิมอีก5-15ปีฟอร์ดก็จะขายได้น้อยลงเพราะคนที่ซื้อไปบอกต่อ  แต่มันคงจะไม่เหมือนสมัยก่อนที่ต้องฮอนด้าโตโยต้าเท่านั้นแล้วหล่ะครับ  :)
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: shando ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:17:31
ไม่ใช่ว่าทุกคนซื้อไปแล้วจะโดนแจ๊คพอตนี่ครับ คนที่ซื้อไปแล้วใช้รถได้ปกติ มีความสุขกับรถก็เยอะแยะ
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: Headman ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:17:49
Fiesta ผู้หญิงชอบหรอ 55555+
ทำไมผู้หญิงที่ผมรู้จัก ชอบขับ Proton preve มากกว่า.....เวลาที่หล่อนได้ยินคำว่า Turbo ล่ะก็ ลูกตาเปลี่ยนสีกันเลยทีเดียว....555555+ (ถอยมาแล้วด้วย)

รู้เรื่องรถเยอะ ก็ดีแล้วนะครับ จะได้ให้ความเห็น + ตัวเลือกได้อย่างถูกต้อง ทั้งกับตัวเอง และคนรอบข้างนะครับ
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:19:31
ผมรู้เรื่องรถแต่ไม่ค่อยรู้เรื่องศูนย์ ก็เลยจองfocus ตัวรองทอปไปเหมือนกันฮะ
ลูกพี่ลูกน้องผมก็ออก focus มาเหมือนกันครับเขามีพี่น้องกัน2คนออกทั้งพี่ทั้งน้องเลยครับคนพี่ออกตัว 5 ประตู คนน้องออก 4 ประตู

จะว่าไปแล้วผู้หยิงรอบๆข้างผมใช้รถฟอร์ดกันหลายคนเหมือนกันนะครับ ผมอยากทราบทำไมคุณ Mikio ถึงออก focus อ่ะครับอยากรู้เหตุผลอ่ะครับ
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: deaw2011 ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:19:51
บางคนเขาไม่รู้เรื่องรถ แต่พอเห็นตัวรถอย่างเดียวก็ชอบมีเยอะแยะไป
แต่ผมว่าถ้าเขามีความสุขกับรถที่เขาชอบผมว่ามันก็โอเคนะ
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: Wayfarer-R ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:19:56
Fiesta ผู้หญิงชอบหรอ 55555+
ทำไมผู้หญิงที่ผมรู้จัก ชอบขับ Proton preve มากกว่า.....เวลาที่หล่อนได้ยินคำว่า Turbo ล่ะก็ ลูกตาเปลี่ยนสีกันเลยทีเดียว....555555+ (ถอยมาแล้วด้วย)

รู้เรื่องรถเยอะ ก็ดีแล้วนะครับ จะได้ให้ความเห็น + ตัวเลือกได้อย่างถูกต้อง ทั้งกับตัวเอง และคนรอบข้างนะครับ

ให้เธอมาเล่นเว็บนี้มั่งซิครับ อยากได้รายละเอียดจากคนใช้งานจริง สำหรับ เพรเว่
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: secrecyguy ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:21:10
ศูนย์เเย่ๆมันมีทุกยี่ห้อนะครับ
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:23:19
ให้เค้าไปลองกันเองครับ เข้าใจว่ารักเพื่อน แต่เราก็ต้องปล่อยให้เค้าเรียนรู้เองบ้าง

บางทีซื้อไป ไปเจอรถดี ศูนย์โอเคร มันก็ดีต่อตัวเค้าเองครับ

ถ้ามันตรงข้าม ก็ถือเป็นบทเรียนไป คราวหน้าเค้าก็ระวังเองแหละ ประสบการณ์มันจะสอนไปเองโดยอัตโนมัติ
ผมก็ขอให้เพื่อนๆที่ออกฟอร์ดเจอแต่ประสบการณ์ที่ดีๆ และอยากให้รถฟอร์ดคุณภาพและศูนย์ดีขึ้นเรื่อยนะครับ
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:25:22
ถ้าศูนย์ยังเป็นแบบเดิมอีก5-15ปีฟอร์ดก็จะขายได้น้อยลงเพราะคนที่ซื้อไปบอกต่อ  แต่มันคงจะไม่เหมือนสมัยก่อนที่ต้องฮอนด้าโตโยต้าเท่านั้นแล้วหล่ะครับ  :)
ผมก็ขอให้ศูนย์เขาดีขึ้นเรื่อยๆครับ ไม่อยากให้มีแต่พี่โตและพี่รองแค่สองเจ้านะครับ
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: boykung ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:27:48
ผู้หญิงซื้อของโดยใช้แต่อารมณ์จริงๆครับ

ไม่งั้นไม่มีทางที่จะมี Kia Rio มาจอดในบ้านแน่นอน
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: HYDE-- ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:30:09
รู้เยอะๆก็ดีครับ เราจะได้เป็นคนที่ฉลาดเลือกไงครับ อีกอย่าง เราไม่สามารถใช้เหตุผลได้ 100% หรอกครับ มันก็ต้องมีอารมกันบ้างแหละ

บางทีไม่รู้เรื่องเลยสิ ไม่ดี
ตัวอย่าง ผมมีญาติคนนึง จะไปออก MU-7 Choize ผมบอกว่า มันจะตกรุ่นแล้ว อย่าออกเลย เค้าก็บอก เซลบอกว่า ตัว Choize นี่เป็นตัวใหม่ ......... เอิ่มมม
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: Headman ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:31:11
Fiesta ผู้หญิงชอบหรอ 55555+
ทำไมผู้หญิงที่ผมรู้จัก ชอบขับ Proton preve มากกว่า.....เวลาที่หล่อนได้ยินคำว่า Turbo ล่ะก็ ลูกตาเปลี่ยนสีกันเลยทีเดียว....555555+ (ถอยมาแล้วด้วย)

รู้เรื่องรถเยอะ ก็ดีแล้วนะครับ จะได้ให้ความเห็น + ตัวเลือกได้อย่างถูกต้อง ทั้งกับตัวเอง และคนรอบข้างนะครับ

ให้เธอมาเล่นเว็บนี้มั่งซิครับ อยากได้รายละเอียดจากคนใช้งานจริง สำหรับ เพรเว่


ถ้าจะเป็นเรื่องยากน่ะครับ ขนาด Facebook ยังไม่เคยที่จะอัพเดต อะไรบ้างเลย ยิ่งเข้าเว็บแล้วลงลำบาก....ผู้หญิงคนนี้เรียนอยู่ สัตหีบน่ะครับ เป็นรุ่นพี่ผม 2 ปีได้.......รูปร่างน่ะผู้หญิง นิสัยก็ผู้หญิง แต่การกระทำนี้ เต็มที่แบบผู้ชาย.....ครั้งนึงเคยขับ Kb2200 ผม ขับยังไงก็ไม่รู้ ด้ามเกียร์มันหลุดติดมือออกมาซะงั้น........ผมนั่งอยู่กระบะหลังถึงกับ "อึ๋ง"
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:32:38
บางคนเขาไม่รู้เรื่องรถ แต่พอเห็นตัวรถอย่างเดียวก็ชอบมีเยอะแยะไป
แต่ผมว่าถ้าเขามีความสุขกับรถที่เขาชอบผมว่ามันก็โอเคนะ
ผมก็อยากเป็นแบบคนทั่วไปเหมือนกันอะครับ เห็นคันไหนสวยโดนใจก็เอาคันนั้นไปต้องไปคิดโน้นคิดนั้นให้มากมายครับ

ผู้หญิงซื้อของโดยใช้แต่อารมณ์จริงๆครับ

ไม่งั้นไม่มีทางที่จะมี Kia Rio มาจอดในบ้านแน่นอน
อันนี้ก้น่าจะจริงนะครับ ผมก็เจอจากคนรอบข้างมาเหือนกัน
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: Eddy5659 ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:36:12
ไม่ใช่ว่าทุกคนซื้อไปแล้วจะโดนแจ๊คพอตนี่ครับ คนที่ซื้อไปแล้วใช้รถได้ปกติ มีความสุขกับรถก็เยอะแยะ

ผมเห็นด้วยนะ มีคนรู้จัก ซึ่งก็เป็นการถอยรถใหม่คันแรกถึง 3 คนที่ถอนเจ้า fiestra ไอ้เราก็เป็นห่วง
เพราะตามข่าวตลอด และรับรู้ถึงชื่อเสียของตัวรถ กับบริการหลังการขาย แต่เจ้าของทั้งสามกลับบอกว่าดีมาก
รถไม่มีข้อเสียอะไร ศูนย์ก็ดี เขาว่ายังงั้น
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: PacMan ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:39:54
ผมว่าเฟียสต้าในสายตาของผู้หญิงคือสวยมาก คงมองตรงนี้ อย่างอื่นคงไม่ค่อยสนใจหรอก

รอดูตัวMC คงจะไม่ชอบละ เพราะหน้าตามันแมนมาก ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: pongisra ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:42:03
ต้องถามกลับก่อนว่าที่แย่นี่เจอมาเอง หรือฟังเขามาอีกที... รถทุกยี่ห้อมีข้อด้อยหมด มากน้อยต่างกันไป + อยู่กับดวงด้วยในบางครั้ง ถ้าเจอแจ็กพ้อตไปก็ซวย

พูดถึง Ford ถ้าถามผม ผมเชื่อว่าโดยภาพรวมแล้วมันคงแย่กว่ายี่ห้ออื่นจริงๆ แต่จอกที่เจอมากับตัวเอง ดีไม่แพ้ยี่ห้อเจ้าตลาด เคลมง่ายกว่าเจ้าตลาดอีก จับเปลี่ยนอย่างเดียว เจ้าตลาดชอบขอลองอัดจารบีก่อนนะครับ บลาๆๆๆๆๆๆๆ Fiesta เพื่อนเคลมคลัช พวงมาลัย ยอยพวงมาลัย ในการเข้าศูนย์ครั้งแรก เขาให้เคลมได้อย่างง่ายดาย บอกอะไรไปได้หมด ทั้งๆที่บ่างอย่างเช่นยอยพวงมาลัยนี่ถ้าไม่ได้ตั้งใจจับความรู้สึกมากๆจะไม่มีวันรู้สึกเลย เหมือนหมุนแล้วสะดุดขามดเขาก็เปลี่ยนให้ เรียกว่าประทับใจแต่แรกพบ ครั้งสอบก็ดีเหมือนเดิม ไม่มีปัญหาอะไร

ส่วนคนที่ใช้อยู่ เจอศูนย์แย่ๆ แนะนำให้ลองหาข้อมูลใน net ดูครับ ใช้เวลาหน่อย ดูว่าศูนย์ไหนเป็นไง ที่ผมรู้ๆ 2-3 ที่ใน กทม ที่ดีๆ

คนที่ฟังเขามาอีกที ลองก่อนดีกว่าครับ แล้วอาจจะติดใจ ซื้อรถ ไม่ได้ซื้อศูนย์บริการ ส่วนตัวผมมองว่าศุนย์แย่ ยังดีกว่าซื้อรถที่มีการขับขี่ไม่ดีนะครับ



หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: hutzero ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:42:26
เรื่องศูนย์ Ford มันก็อย่างนั้นแหละครับ  แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเคลียร์กันไม่ได้
ที่น่าหนักใจสำหรับ Fiesta และ Focus เป็นเรื่องของ Defect อะไหล่ต่างๆมากกว่า
โดยเฉพาะระบบขับเคลื่อนตอนนี้พังกันเป็นว่าเล่น  ไม่ว่าจะเกียร์พัง  ลูกสูบแตก  
ดับกลางอากาศเบรคไม่อยู่  จอดอยู่ดีๆไฟไฟม้วอดทั้งคัน(ไม่ได้ติดแก๊ส) ฯลฯ
ถือว่าอันตรายต่อชีวิตมาก   ถ้าเทียบกับรถตลาดอื่นๆในตอนนี้แล้ว  

คิดมากไว้ก่อนไม่เป็นภาระต่อลูกหลานหรอกครับ
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: Nismo De Alpina ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:42:53
ทุกยี่ห้อมันก็มีดีมีแย่กันทั้งนั้นแหละครับ เพียงแต่ใครจะ"ซวย"โดนรถคันที่มีปัญหา แต่นั่นไม่ใช่
ปัญหาเท่าเมื่อเกิดปัญหาแล้วบริษัทมีน้ำยาและจริงใจแค่ไหนในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นมากกว่า
ผมมองว่าฟอร์ดเองยังไม่ผ่านในจุดนี้ครับ แต่ตัวรถน่ะผมให้ผ่านนะ ถึงจะมีหลุดบ้างในบางจุด
ของแบบนี้เจ้าของรถฟอร์ดเองจะตัดสินใจว่าจะยังคงวางใจใช้ฟอร์ดต่อไปไหม หรือไปหารถเจ้า
ตลาดดีกว่า ตรงนี้ผมว่าฟอร์ดน่าจะทราบดีนะ ถ้าจริงใจอยากจะขายรถในไทยจริงๆไม่ใช่ใช้เป็นฐาน
ผลิตเพื่อส่งออกมากว่า
  
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: Wayfarer-R ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:43:23
รู้เยอะๆก็ดีครับ เราจะได้เป็นคนที่ฉลาดเลือกไงครับ อีกอย่าง เราไม่สามารถใช้เหตุผลได้ 100% หรอกครับ มันก็ต้องมีอารมกันบ้างแหละ

บางทีไม่รู้เรื่องเลยสิ ไม่ดี
ตัวอย่าง ผมมีญาติคนนึง จะไปออก MU-7 Choize ผมบอกว่า มันจะตกรุ่นแล้ว อย่าออกเลย เค้าก็บอก เซลบอกว่า ตัว Choize นี่เป็นตัวใหม่ ......... เอิ่มมม


จริงครับ รู้ข้อมูลเยอะๆ มันช่วยไม่ให้โดนเซลล์หลอกได้ เซลล์เดี๋ยวนี้เยอะนะครับ ประเภทที่ว่า เวลาไปอบรมณ์แอบเล่นเฟสบุค พอเค้าพูดก็ไม่ค่อยจะฟัง หรือฟังผ่านๆ
พอไปแนะนำลูกค้า อันไหนไม่แน่ใจ บางทีแอบมั่ว ให้ข้อมูลผิดๆ หรือบางทีต้องการยอด ก็พูดจาโน้วน้าว และโกหก

ถ้ามีความรู้ มีข้อมูลพอตัว ก็ไม่โดนหลอก
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: HYDE-- ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:48:19
ส่วนตัวผมคิดว่ายังไงๆ Ford ป้ายแดง ก็ไม่มีทางมีปัญหามากไปกว่า บรรดารถมือสอง ทั้งญุี่ปุ่น และ ยุโรป ที่ผมเคยใช้มาก่อนแน่นอน -0-
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: Yeahyeahs ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:53:42
รู้เยอะก็ดีครับ แต่รู้เยอะมากบางทีก็ทำให้เป็นข้อเสียเหมือนกัน
เพราะทุกยี่ห้อทุกรุ่นมีข้อเสียหมดแหละครับ จนบางทีเราก็รอคันที่ Perfect ไปจนไม่ได้ซื้อ

ตอนผมจะซื้อรถ ผมดูไว้มี
- Vios 2013 : โดนกระแสปั่นหัวว่าเครื่องเดิม เกียร์เดิม จนรู้สึกไม่ดีกับมัน ทั้งที่ผมยังไม่เคยขับรถที่ใช้เครื่อง+เกียร์นี้ด้วยซ้ำ
- Civic FB : กระแสว่าหน้าตาแย่ เมกาไมเนอร์แล้ว ฯลฯ : ตอนแรกก็ว่าโอเค อ่านเยอะเข้าเออว่ะเหมือนซิตี้ เออว่ะเมืองนอกสวยกว่าเยอะ บลาๆๆ
- Sylphy, Pulsar : ซิลฟี่นี่เป็นแนวโดนปั่นหัวว่าสวย มันก็สวยจริงๆอ่ะแหละ เกือบเลือกคันนี้และ ติดตรงภายในโบราณไปหน่อย แต่คิดไปคิดมามันยังไม่สุด ดูไปดูมาก็เหมือน ซันนี่นีโอ ส่วนพัลซ่าก็อ่านไปอ่านมาจนมันสวยมันดี ทั้งเรื่องเอา VW Golf เป็น Benchmark อะไรแบบนี้ ดูไปดูมา มันก็ Tiida เก่าอ่ะ เกียร์ CVT อีกตะหาก เลยไม่รอ แต่ตอนนี้ก็แอบเสียดายที่ไม่รอ มี Sunroof ด้วย 55
- Focus : คันนี้ไม่มีผลอะไร ที่ไม่เลือกเพราะข้างหลังมันแคบเท่านั้นจริงๆ นอกนั้นถูกใจหมด (ยกเว้นเรื่องศูนย์ เพราะยังไม่เคยเข้า)

สุดท้ายเลือก Civic มาครับ ก็ใช้ดี ไม่เห็นแย่ตรงไหนเลย
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:57:40
ส่วนตัวผมคิดว่ายังไงๆ Ford ป้ายแดง ก็ไม่มีทางมีปัญหามากไปกว่า บรรดารถมือสอง ทั้งญุี่ปุ่น และ ยุโรป ที่ผมเคยใช้มาก่อนแน่นอน -0-

อันนี้คงจะแน่นอนล่ะครับ

ทุกยี่ห้อมันก็มีดีมีแย่กันทั้งนั้นแหละครับ เพียงแต่ใครจะ"ซวย"โดนรถคันที่มีปัญหา แต่นั่นไม่ใช่
ปัญหาเท่าเมื่อเกิดปัญหาแล้วบริษัทมีน้ำยาและจริงใจแค่ไหนในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นมากกว่า
ผมมองว่าฟอร์ดเองยังไม่ผ่านในจุดนี้ครับ แต่ตัวรถน่ะผมให้ผ่านนะ ถึงจะมีหลุดบ้างในบางจุด
ของแบบนี้เจ้าของรถฟอร์ดเองจะตัดสินใจว่าจะยังคงวางใจใช้ฟอร์ดต่อไปไหม หรือไปหารถเจ้า
ตลาดดีกว่า ตรงนี้ผมว่าฟอร์ดน่าจะทราบดีนะ ถ้าจริงใจอยากจะขายรถในไทยจริงๆไม่ใช่ใช้เป็นฐาน
ผลิตเพื่อส่งออกมากว่า
  
ที่จริงผมอยากให้เป็นแบบว่ามีปัญหาให้น้อยที่สุดและแก้ได้จบอ่ะครับอย่างมันก็ต้องมีปัยหาบ้างล่ะแต่แค่แก้ไขได้และจบผมว่าก็โอเคแล้วครับ

เรื่องศูนย์ Ford มันก็อย่างนั้นแหละครับ  แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเคลียร์กันไม่ได้
ที่น่าหนักใจสำหรับ Fiesta และ Focus เป็นเรื่องของ Defect อะไหล่ต่างๆมากกว่า
โดยเฉพาะระบบขับเคลื่อนตอนนี้พังกันเป็นว่าเล่น  ไม่ว่าจะเกียร์พัง  ลูกสูบแตก  
ดับกลางอากาศเบรคไม่อยู่  จอดอยู่ดีๆไฟไฟม้วอดทั้งคัน(ไม่ได้ติดแก๊ส) ฯลฯ
ถือว่าอันตรายต่อชีวิตมาก   ถ้าเทียบกับรถตลาดอื่นๆในตอนนี้แล้ว  

คิดมากไว้ก่อนไม่เป็นภาระต่อลูกหลานหรอกครับ
ยิ่งฟอร์ดอยู่ในบ้านเราเท่าไหร่ปัญหาก็ยิ่งต้องหมดไปหรือมีให้น้อยที่สุด ผมยังหวังว่ารถใหม่ๆของฟอร์ดปํญหาที่เคยมีมันจะหมดไปนะครับ

ต้องถามกลับก่อนว่าที่แย่นี่เจอมาเอง หรือฟังเขามาอีกที... รถทุกยี่ห้อมีข้อด้อยหมด มากน้อยต่างกันไป + อยู่กับดวงด้วยในบางครั้ง ถ้าเจอแจ็กพ้อตไปก็ซวย

พูดถึง Ford ถ้าถามผม ผมเชื่อว่าโดยภาพรวมแล้วมันคงแย่กว่ายี่ห้ออื่นจริงๆ แต่จอกที่เจอมากับตัวเอง ดีไม่แพ้ยี่ห้อเจ้าตลาด เคลมง่ายกว่าเจ้าตลาดอีก จับเปลี่ยนอย่างเดียว เจ้าตลาดชอบขอลองอัดจารบีก่อนนะครับ บลาๆๆๆๆๆๆๆ Fiesta เพื่อนเคลมคลัช พวงมาลัย ยอยพวงมาลัย ในการเข้าศูนย์ครั้งแรก เขาให้เคลมได้อย่างง่ายดาย บอกอะไรไปได้หมด ทั้งๆที่บ่างอย่างเช่นยอยพวงมาลัยนี่ถ้าไม่ได้ตั้งใจจับความรู้สึกมากๆจะไม่มีวันรู้สึกเลย เหมือนหมุนแล้วสะดุดขามดเขาก็เปลี่ยนให้ เรียกว่าประทับใจแต่แรกพบ ครั้งสอบก็ดีเหมือนเดิม ไม่มีปัญหาอะไร

ส่วนคนที่ใช้อยู่ เจอศูนย์แย่ๆ แนะนำให้ลองหาข้อมูลใน net ดูครับ ใช้เวลาหน่อย ดูว่าศูนย์ไหนเป็นไง ที่ผมรู้ๆ 2-3 ที่ใน กทม ที่ดีๆ

คนที่ฟังเขามาอีกที ลองก่อนดีกว่าครับ แล้วอาจจะติดใจ ซื้อรถ ไม่ได้ซื้อศูนย์บริการ ส่วนตัวผมมองว่าศุนย์แย่ ยังดีกว่าซื้อรถที่มีการขับขี่ไม่ดีนะครับ




ผมก็อยากลองเหมือนกัน ตอนนี้ต้องกำจัดความกลัวเรื่องศูนย์และรถมีปัญหาที่เคยเป็นมาออกไปให้ได้เสียก่อน แต่เพื่อนผมใช้ฟอรืดก็ไม่ไม่มีปํญหาอะไรนะครับหวังว่าถ้าผมเป็นลูกค้าของฟอรืดขึ้นมาคงจะได้รับประสบการณ์อย่างเพื่อนๆบ้าง
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:59:09
ก็มีส่วนครับ แต่ก่อนผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆแต่คิดจะซื้อวีโก้แคปหรือวีออสดีก็เลยเสาะหาไปเรื่องจนมาเจอเว็ปนี้เข้าโดยบังเอิญเจอจากทั้งกูเกิลและตามเว็ปคลับต่างๆเค้สแนะนำมาพอได้มารู้จักที่นี่แหล้วเหมือนเจอคัมภีร์กลายเป็นเรียนรู้มาเรื่อยๆเอาไปเอามารถที่เคยเป็นเป้าหมายก็เป็นไม่ได้อะไรเลยขับอัลติสมือสองเก่าๆไปซะงั้นไม่ได้อยู่ในหัวเล้ย

แต่อยากบอกว่าใช้มาเกือบปีประมาณหมื่นโล ยังไม่เคยเสียอะไรเลยมีแต่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องครั้งเดียวเองกับไปเฉี่ยวกระบะ (อันนี้ทำตัวเอง) กับเติมน้ำมันกับเติมลมแค่นั้นเอง สบายใจยิ่งนักเหลือแค่อืดไม่ได้ดั่งใจกับภายในไม่ใช่เบาะหนังสีเบจ อ้อมีเปลี่ยนแบตอีกครั้งเพราะแฟนบิดกุญแจไม่สุดเลยหมด
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: fishfinger ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:59:24
ผมขับ mazda ไม่เห็นจะเป็นแฮ่มเลยครับ รถก็ไม่เห็นจะพัง ไม่เห็นจะเป็นไร

เปลืองก็เปลืองน้ำมันแต่คนมันชอบทำไงได้

ชอบอะไรก็ใช่ไปเหอะ

แบบนี้เมืองไทยคงมีแต่ altis civic เพราะศูนย์เยอะ ขายได้ราคา อะไหล่เยอะไรงีปะคับ
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: Tonaka ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 19:59:48
ผมว่ามองได้สองด้านคือ

คนอื่นซื้อเพราะเค้าตามกระแสของเขา

บางที่ที่เราไม่ซื้อก็อาจเพราะอีกกระแสนึงเหมือนกัน

ฉะนั้นจงมั่งใจในตัวเองดีกว่าครับ :)
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: ぼくは"P.P."です ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 20:09:35
ผมใข้Fiestaอยู่ครับ ;D
รถผมไม่เคยมีปัญหา+ศูนย์ก็โอเค
อาจจะเป็นเพราะผมโชคดีหละมั้ง :-\
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: seamonkey ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 20:12:14
ผมคิดว่ายิ่งรู้เรื่องเยอะจะยิ่งไม่กลัวกับปัญหาพวกนี้เลย เพราะมีปัญหาเราก็วิเคราะห์กับช่างแล้วก็แก้ไขให้เสร็จได้ในทีเดียว

น้องๆทั้งหลายถ้ามีเวลาว่าง ปิดเทอมลองไปฝึกทำงานในอู่รถดูนะครับ ผมเคยไปทำตอนม.ปลายมาแล้วได้เรียนรู้อะไรเยอะมากเลยครับ
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: vellcap ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 20:13:30
ถ้าชอบจริงๆ แล้วจะทำไมครับ อย่างผมตอนนี้รู้ว่าศูนย์ Honda ที่สะดวกมันแย่มากๆ
ต้องขับรถข้ามจังหวัด ข้ามภาคไปเข้าศูนย์ที่ไว้ใจได้
แล้วถ้าถามว่า จะซื้ออีกไหม Honda ก็ตอบได้ทันทีเลยว่า ซื้อ เพราะชอบบางอย่างในตัวมัน(อารมณ์อีกแล้ว)
หรืออย่างเพื่อนผมซื้อ Cruze เพราะเหตุผลเดียว การออกแบบภายนอกและภายในครับ(แถมตอนนี้ได้ทดสอบโครงสร้างไปแล้ว  ;D)

Fiesta เพื่อนผม 4 คันแล้วครับ แต่คงโชคไม่ดีเหมือนเพื่อนคุณ ตรงที่ทั้ง 4 คันนี้
ขยันเข้าศูนย์แข่งกันเป็นว่าเล่นครับ แถมศูนย์ก็...เอ่อ...ช่วยอะไรไม่ค่อยได้ด้วย(เคยมีประสบการณ์เอา Ranger รุ่นที่แล้วไปเช็คครับ)
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: MystogaN ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 20:17:54
ผมเคยใช้พักนึง ศูนย์บริการดีมากครับ ตั้งแต่เข้าไปจอง

ไปจองเองคนเดียวเลยครับใส่ชุดนศ.เลย

แต่เปนศุนย์ชานเมืองยอดอาจจะไม่ค่อยดีหละมั้งครับ
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: mikio ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 20:48:07
ผมรู้เรื่องรถแต่ไม่ค่อยรู้เรื่องศูนย์ ก็เลยจองfocus ตัวรองทอปไปเหมือนกันฮะ
ลูกพี่ลูกน้องผมก็ออก focus มาเหมือนกันครับเขามีพี่น้องกัน2คนออกทั้งพี่ทั้งน้องเลยครับคนพี่ออกตัว 5 ประตู คนน้องออก 4 ประตู

จะว่าไปแล้วผู้หยิงรอบๆข้างผมใช้รถฟอร์ดกันหลายคนเหมือนกันนะครับ ผมอยากทราบทำไมคุณ Mikio ถึงออก focus อ่ะครับอยากรู้เหตุผลอ่ะครับ




เรื่องมันยาวฮะ555  ท้าวความสั้นๆ ปัจจุบันใช้ latio1.6 MT ก็โอเค ชอบมากขับสนุก สั่งได้ ก็เลยติดนิสัยน่ะครับ เพราะชอบขับรถเร็ว เร็วแบบยาวๆนะ
ทีนี้พอจะหารถคันต่อไปที่เป็นของตัวเอง แบบจริงจัง ก็ยากแล้ว
เพราะต้องหารถที่ตอบโจทย์ในทุกๆด้านทั้งเรื่องราคา ความสวยงาม และ performance อ้อ ต้องเป็นเกียร์ออโต้ด้วยเพราะอยากให้แฟนหัดขับรถมั่ง
เคยขับ Mazda3 ตัวท็อปของเพื่อน ก็โอเค ตรงกับสมมุติฐานที่ตั้งเอาไว้คือ ต้องเครื่องใหญ่หน่อย ถึงจะสนุกใกล้เคียงรถเกียร์กระปุก
แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าmazda2 แพงเกินไป
โจทย์
1ต้องเกียร์ออโต้
2ขอเครื่อง 1.8 ขึ้นไป เพราะผมให้ความสำคัญกับการขับรถทางไกล (กด140-180 ตลอด 700กม.เนี่ย เครื่อง1.6 ทั้งเหนื่อยทั้งเสียว)
3ไม่เกิน 1 ล้าน
4รูปลักษ์ของรถดูดี  ไม่ดูเด็ก ไม่เชยเหมือน latio555
5ไม่คิดติดแก๊ส

           ก็เลยมองไปที่ civic 1.8ตัวปัจจุบันตอนนั้นออกมาใหม่ๆ แต่พอไปที่ศูนย์แถวบ้าน (ปี2555)ไม่มีพนักงานออกมาต้อนรับก็เลยรู้สึกเซ็งๆ
ก็เลยต้องทำหน้าด้านเดินดูรถในโชว์รูมก็พอจะดูออกว่าวัสดุที่เป็นรถมันดูออกว่าไม่ค่อยสมราคาเท่าไหร่
ก็เลยไปที่ศูนย์ฟอร์ดซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน โอเคเลยเป็นเรื่องเป็นราวเลยทีเดียว  ลองเรนเจอร์เล่นๆ แต่สุดท้ายก็ต้องจอง 5555 ทั้งๆที่ใจจริงอยากได้เฟียสต้า แต่ติดที่มันเล็กไป
          สรุปว่าเรนเจอร์รอเป็นชาติ ก็เลยต้องหาข้อมูลกันใหม่หมด  สุดท้ายหลังจากมีข้อมูลเยอะๆเข้าก็รู้ว่าไม่มีรถอะไรดีที่สุดเลยซักคัน
ก็เลยตัดสินใจว่าเอาเหอะวีโก้ก็ได้ แต่งเพิ่มอีกหน่อยก็ไม่หลุดโค้งแล้ว55(อย่างงนะครับว่าผมใช้ตรรกะอะไร เดี๋ยวเก๋ง เดี๋ยวกระบะ  ถ้าอยากรู้เดี๋ยวตั้งอีกกระทู้ดีกว่า)
วันที่ไปถอนจอง( ปลายมกราปี2556) เซลล์บอกว่า พี่อยากลองขับ focus ตัวใหม่ดูมั๊ย
ก็จริงๆอยากได้ TDCiอยู่เป็นทุนนะครับ   แล้วตัวโฉมใหม่เนี่ยไม่ได้มองเลยซักนิด 
          แต่พอลองแล้วก็เออ.... พอได้นะ ถึงจะไม่ได้รู้สึกสนุกมากมายแต่มันเร่งต่อเนื่องดี แรงมาเรื่อยๆ และเรารู้สึกว่ารถมันทำให้เราปลอดภัย ด้วยความนิ่งความหนึบและอุปกรณ์ต่างๆนาๆ (ขออนุญาติไม่จารไนเรื่องวิชาการ+เทคนิคเชียลนะครับ เพราะหาได้จากgoogle)
         คุณแฟนเธอก็รู้สึกว่ารถมันแรงนะแต่ไม่ได้น่ากลัว ยิ่งตอนขับเร็วๆไม่ต้องเกร็ง เพราะปกติเธอนั่ง  altis    ของที่ทำงานเป็นประจำ
เซลล์ก็จะขายตัวท็อปเสียให้ได้ แต่สุดท้ายผมก็เลือกตัวรองท็อป ดีกว่า เพราะอุปกรณ์ที่เกินมากับส่วนต่างอีก1แสน ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่
เผลอๆน่าจะทำให้มีปํญหาจุกจิกในอนาคตด้วย
ส่วนเรื่องศูนย์บริการหลังการขายก็ตามนั้นครับ 50/50 ต้องประเมินกันเอาเอง ส่วนก่อนการขายนั้นเกินร้อยฮะเพราะเซลล์ยากขายเหลือเกิน555

ขอบคุณที่ทนอ่านความคิดเห็นครับ
 :D
 
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: Intrend ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 21:20:39
ผมว่ารู้ไว้เยอะๆก็ดีแล้วครับแต่สำหรับผมนั่นก็ไม่ทำให้ปวดหัวเท่าไหร่แต่ทำให้ผมเรียนรู้ว่าทำไงจะอยู่กับรถอย่างมีความสุขมากขึ้น

ผมเคยอยู่ฝ่าย QC รับผิดชอบเรื่องคุณภาพตัวรถสำเร็จรูปสำรถรุ่นใหม่ก่อนผลิตแบบแมสโปรดักชั่นของรถยี่ห้อหนึ่งอยู่หลายปี
ตอนนี้ย้ายมาอยู่บริษัทรถอีกบริษัทที่ไม่ใช่ฟอร์ด หลักจากเฟียสต้าออกมาไม่นานมันก็มาจอดอยู่ในโรงรถบ้านผมตอนนี้วิ่งไปได้
เกือบ5หมื่นกิโลแล้ว ประสบการณ์กับศูนย์คือเอารถเข้าเช็คระยะ 3 ครั้งกับเลิร์นนิ่งเกียร์ 1 ครั้ง ไม่มีความประทับใจใด้กับระบบ
การนำรถเข้ารับการบริการเลย ในบ้านมีรถอีกคันเข้าศูนย์ฮอนด้าเอารถเข้าศูนย์เช็คระยะตั้งแต่ออกใหม่จนวิ่งไปเกินแสนโลแล้ว
ประสบการณ์และความรู้สึกประทับใจหลังการบริการอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ศูนย์มันช่างต่างกันลิบลับ แต่ก็นั่นแหละเรื่องการ
ใช้งานและปัญหาตัวรถไม่มีคันไหนงอแงทั้งคู่ทั้งฮอนด้าและฟอร์ด

อ้อจริงๆแล้วเจ้าเฟียสต้ามีเรื่องยางบวมและแฟนผมขับแล้วยางระเบิดกลางทางแต่แฟนผมเอาเข้าขางทางอย่างปลอดภัยและ
แปลกใจมากเพราะแทบไม่รู้สึกว่ารถเสียการทรงตัวที่เอาเข้าข้างทางเพราะได้ยินเสียงระเบิดและรถที่ขับตามมาแซงขึ้นมา
บอกว่ารถยางแบน แต่เคสนี้ผมก็ไม่ได้เอาไปเคลมเพราะรู้ว่ามันจะใช้เวลาและคงจะได้ยางคอนติเนนทัลรุ่นเดิมมาใช้ซึ่งตอนนั้น
ไม่มั่นใจยางรุ่นนี้แล้ว เลยจัดการเปลี่ยนยางใหม่เองสี่เส้นพร้อมเปลี่ยนแม็กใหม่เพื่อความสบายใจและให้รถหล่อขึ้น และอีก
ปัญหาก็เป็นเรื่องเบาะหนังเย็บไม่เรียบร้อยซึ่งเซลล์ก็จัดการสลับเบาะกับรถคันอื่นในศูนย์ให้ตั้งแต่วันแรกที่ออกรถโดยไม่เรื่องมาก
ซึ่งปัญหานี้เจ้าหน้าที่ทั้งศูนย์ไม่มีใครเจอปัญหานี้ตอนตรวจรถก่อนส่งมอบ และระหว่างที่ผมหาเบาะมาใส่รถตัวเองผมก็เจอว่า
ไม่ใช่แค่คันผมคันเดียวที่เย็บเบาะไม่ดีเพราะเซลส์ให้เลือกเบาะสภาพที่พอใจที่สุดมาใส่รถผมซึ่งในที่สุดก็หาเจอ และผมก็แนะนำ
ให้ทางศูนย์ทำเคลมไปที่ฟอร์ดเพราะจากมาตรฐานของบริษัทที่ผมเคยทำงานเบาะสภาพแบบนี้ผมตีกลับให้เมคเกอร์ไปแก้ไขใหม่

หลังจากที่เจ้าเฟียสต้าไม่มีอะไรกวนใจล่าสุดก็เลยได้โฟกัสมาจอดข้างเฟียสต้า ถามว่ามีปัญหามั้ยเรื่องการประกอบผมยืนยัน
ครับว่ามีหลายๆจุดด้วยและด้วยมาตรฐานของบริษัทที่ผมทำงานมันไม่ควรปล่อยออกมา แต่ผมก็รับรถมาและเลือกที่จะไม่ให้
ทางศูนย์แก้ไขเพราะมองผ่านๆแล้วไม่น่าเกลียดอะไรแต่ถ้าไปแก้ไขน่าจะเละกว่าเดิม เพราะถึงจะดูว่ามั่นใจถอยฟอร์ดมาสองคัน
แต่ผมวางใจให้ช่างที่ศูนย์ฟอร์ดทำเรื่องเช็คระยะเท่านั้นครับเรื่องอื่นๆดรื่องรื้อประกอบหรือซ่อมหนักๆตอนนี้ยังไม่ไว้ใจครับ
ก็ได้แต่หวังว่าเจ้าโฟกัสจะใช้ได้ยาวๆแบบไม่มีปัญหาเหมือนเฟียสต้า เพราะถึงตอนนี้ผมยังไม่รู้เลยว่ามีศูนย์ไหนที่ไว้ใจได้
เรื่องแก้ไขปัญหายากๆให้ลูกค้าได้ แต่ตอนนี้ผ่านมาสี่พันกว่าโลก็ยังไม่มีปัญหาอะไรกวนใจเลยไม่ว่าจะเรื่องที่เจอกันบ่อยๆ
อย่างเรื่องเกียร์กระตุกก็ไม่มี สงสัยรถผมจะไม่ผ่าน QC เหมือนคันอื่นแน่ๆเลย :) เลยไม่เจออะไรที่เค้าเจอกัน ยกเว้นเรื่อง
ความเรียบร้อยในการประกอบ

หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: AMG GT ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 21:50:24
รู้เยอะ  มากๆพอเราพูด  ก็จะโดนเพื่อนว่า 555+
 ก็เลยไม่ค่อยพูดดีกว่า ยกเว้นที่ บ้านจะออกรถใหม่ก็  ค่อยพูด
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: SignifeR ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 23:34:00
เพราะผู้หญิง เป็นเพศ ที่ชอบสั่งการด้วยเสียงครับ ฮาาาาา

และผู้ชายอย่างเราๆ มีหน้าที่ปฎิบัติครับ T^T
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: mathician ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2013, 23:39:38
แล้วเพื่อนๆที่ออก Ford กันอ่ะ มีใครมีปัญหาอะไรบ้างไหม
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: ohmx ที่ มีนาคม 01, 2013, 00:47:49
ที่บ้านผมมี Focus รุ่นที่แล้ว ใช้มา 7 ปี ไม่มีปัญหาจุกจิกเลย
ศูนย์เสียแค่ตรงมีน้อย แต่คงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเจาะตลาดเข้ามาได้แล้ว
การบริการก็ไม่ได้แย่นะครับ พวกแบรนด์เจ้าตลาดที่มีศูนย์เยอะ แต่ก็มีศูนย์ที่ black list ไม่กล้าไปเข้าเยอะเหมือนกันนะครับ
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ มีนาคม 01, 2013, 00:57:43
รู้ไว้ดีกว่าครับ มันเป็นโอกาสที่เราจะได้เลือกครับ

แต่บางทีมันก็แอบคิดมากจนเกินไป

ส่วนเฟียสต้า ผมว่ามันสวยสุดใน B Seg(สำหรับผม) เมื่อก่อนเป็น Jazz

และสาวๆทั้งหลาย เค้าก็ชอบในที่มันเป็น
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: NoName__??? ที่ มีนาคม 01, 2013, 03:43:43
ขาย Vios มาออก Fiesta สีแดงเหมือนกัน รู้เลยว่ากันขับขี่คนละเรื่อง ทั้ง option ความปลอดภัย  การเก็บเสียง รู้เลยตอน ESpทำงานตอนถนนเปียก แล้วมีประโยชน์อย่างไร
ใช้มาเกือบปีแล้วยังไม่มีปัญหาอะไร  Happy ค่ะ ศูนย์ก็บริการดี
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ มีนาคม 01, 2013, 08:16:20
สาวๆที่ออฟฟิศผม ถอยมาสด้า2 กับอแวนซ่า และซีวิคเยอะครับ

เฟียสต้า รุ่นน้องที่มหาลัย 2 คน
คนแรก เกียรพังตอน 6 พันโล ลงจากตึกเอ็มไพร์ พังตรงทางลงพอดี
คนที่สอง พังตอน 3 หมื่นโล

รู้เรื่องรถเยอะ ปวดหัวตอนเลือกรถใหม่ครับ
อะไรๆก็น่าใช้ไปหมด
แต่ตอนดูแลรักษา ตอนแก้ปัญหา เราหาทางออกได้

ไม่รู้เรื่องรถเลย ไม่ปวดหัวตอนซื้อครับ สาวๆออฟฟิศผม อะไรสวย เอาอันนั้น
มาสด้า2 สีขาว ซีวิคสีขาว เพียบ เพราะสวย แค่นั้น
แต่ดูแลไม่เป็น ขับอย่างเดียว เข้าบีควิก รถป้ายแดง โดนยุให้เปลี่ยนยาง
พี่แกเปลี่ยนใหม่เลย ผ้าเบรค อะไหล่เพียบ โดนฟันไปเกือบ 2 หมื่น
หากินกับคนไม่รู้เรื่องรถ
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: top3245 ที่ มีนาคม 01, 2013, 08:35:15
ผมกลับคิดว่าการที่ผมรู้มากทำให้ผมได้สิ่งที่เหมาะสมกับตัวผมมากที่สุดครับ
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: zekoza11 ที่ มีนาคม 01, 2013, 08:44:03
ไม่ลองไม่รู้ ไม่ดูไม่เห็น ไม่ทำไม่เป็น
ของอย่างนี้ ต้องพบประสบการณ์กับตัวเองครับ แล้วจะจำ
หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: Amaranthe ที่ มีนาคม 01, 2013, 09:08:45
รู้เยอะน่ะดีแล้วครับ จะได้เทียบว่า รคคันไหน รุ่นไหน ยี่ห้อไหน มีข้อเสียน้อยที่สุด
และข้อเสียเหล่านั้นเรารับได้ไหม เหมาะกับเราไหม
ปัจจุบันผมเลือกใช้รถเก๋ง เจ้าตลาดนะ แต่ถ้าต้องการกระบะ จะเลือกอีซูซุ

ส่วนตัวผม ว่า เฟียสต้า กับ โฟกัส สวยดีครับ เฉพาะภายนอกนะ
แต่เจอข้อมูลด้านลบมาก ๆ ก็เลยคิดว่า ไม่เสี่ยงดีกว่า


หัวข้อ: Re: รู้เรื่องรถมากไปบ้างทีก็ปวดหัวนะครับใครเป็นอย่างผมบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว ที่ มีนาคม 01, 2013, 13:06:28
แล้วเพื่อนๆที่ออก Ford กันอ่ะ มีใครมีปัญหาอะไรบ้างไหม
ใช้กันมาก็ไม่เห็นมีใครมีปัญหานะครับ