Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: BestHuafoo ที่ มีนาคม 03, 2013, 08:48:07
-
Real Time Consumption Toyota Prius, Honda Jazz MT
2 เส้นทาง 2 ความแตกต่าง
เครื่องยนต์บวกมอเตอร์ไฟฟ้า ปะทะ เครื่องสันดาบเดิมๆ กับระบบส่งกำลังซึ่งไม่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน
เดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรักของสากลโลก และก็เป็นเดือนแห่งธรรมะของชาวไทยพุทธ
ด้วยเช่นกันคือวันมาฆะบูชาช่วงปลายเดือน
และการทำพิธีเปิดเขาคิชกูฏในช่วงขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 ต้นเดือนกุมภา
ซึ่งแน่นอน หนุ่มโสดไร้คู่เงินเดือนไม่ถึงหมื่นห้าตามมาตรฐานใหม่เจ๊ปูว์อย่างเรา
คงต้องแสวงหาทางธรรมมากกว่า ถึงตนเองจะไม่ได้เคร่งศาสนามากนัก
แต่ก็ยังพยายามปฏิบัติตนเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี แม้บ่อยครั้งจะ
แอบเบียดเบียนผู้อื่นไปบ้าง(แต่ที่แน่ๆ ตุไม่ไปนั่งริมทางดูขบวนธุดงค์ยานอวกาศสตาร์คราฟเด็ดขาด)
เดือนนี้มีโอกาสได้ออกนอกบ้านไปต่างจังหวัดถึง 3 แห่ง ในแต่ละสัปดาห์
คือ จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดจันทบุรี และเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรีเป็นหลัก
ก็ถือโอกาส ทำอัตราสิ้นเปลืองด้วยเสียเลย โดยทั้งสามทริปมีลักษณะคล้ายๆ กันคือ
ใช้น้ำมันเบนซินแก็สโซออลล์ 95 E10 เอาแค่หัวจ่ายตัด ยกออก
วิ่งที่ความเร็วกฎหมายกำหนด 100-120 อาจมีเกินบ้าง ช้าบ้าง ขึ้นกับเหตุการณ์ที่เจอ
เสมือนการขับเดินทางไกลจริง
-
เริ่มจากวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พาญาติผู้ใหญ่ไปสวนดาษดา ปราจีนบุรี รถที่ใช้คือ Toyota Prius
เติมน้ำมันที่ปั๊มเชลล์ Fuel save แก็สโซฮอลล์ 95 โดยมีครึ่งถังล่างเป็น ปตท. โซฮอลล์ 95
เอาแค่หัวจ่ายตัด ยกออก เซ็ตทริปเป็น 0
เส้นทางคือหลังจากรับญาติที่โชคชัย 4 ออกเลียบทางด่วน
ขึ้นทางด่วนวัชรพลไปออกวงแหวนตะวันออก
เข้าเส้นองครักษ์ ไปนครนายก แล้ววิ่งไปสวนดาษดา เยี่ยมชม รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
แวะพักบ้างเพื่อเข้าห้องน้ำ หาข้าวกิน แล้ววนกลับทางเดิม ตลอดเส้นทางวิ่ง ถ.องครักษ์ช่วงคลอง 7 เป็นต้นไป
แม้จะมีการจราจรที่ไม่หนาแน่นเหมือนแถวราชมงคลคลอง 6
แต่รถส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้ขับเร็วกันมากนัก คลานๆ ตามกันไปที่ 80-90Km/h
สงสัยอาจเป็นเพราะแถวนี้โดนจับความเร็วกันบ่อย
กว่าจะหาจังหวะแซงได้โดยที่ไม่โดนเหล่า สว.หลังรถโวยวายได้ก็หืดขึ้นคอพอสมควร
เพราะอย่างที่รู้กันว่า นิสัยคนไทย ขับรถกัน หน้าต่อตูด ตูดต่อหน้า ไม่ค่อยเว้นระยะเผื่อเบรก
ทำให้ช่องสำหรับใช้มุดแคบลงไปอีก
พอพ้นช่วงรถจอแจ ผมก็เหยียบ 100 ขึ้นตามปกติ
ไม่ได้สนเครื่องตรวจจับเท่าไหร่นัก
(http://image.ohozaa.com/i/98f/TweSvK.jpg)
(http://image.ohozaa.com/i/0c2/NMqk2u.jpg)
-
หลังจากสิ้นสุดทริป ผมไปส่งญาติ แล้วก็ใช้งานต่อแถวบ้านไปอีก 5 วัน
(http://image.ohozaa.com/i/a65/wJUH38.jpg)
(http://image.ohozaa.com/i/661/9B4var.jpg)
(http://image.ohozaa.com/i/600/4ubTbW.jpg)
จนถึงคืนวันที่ 15 เดินทางไปขึ้นเขาคิชฌกูฎ
เริ่มจากเติมน้ำมันที่ปั๊มเชลล์ต้นทางถนน
รามอินทรา เป็น 95 E10 Fuel save
จนถึงหัวจ่ายตัด
ระยะทางที่วิ่งได้ 435.1 Km
เติมกลับ 22.31 ลิตร
เฉลี่ย 19.5 กิโลเมตร/ลิตร
(http://image.ohozaa.com/i/8d4/JTmcJT.jpg)
หลังจากการเติมครั้งนี้มีค่าเท่ากับได้น้ำมันปั๊มหอยเหลืองเต็มสูบซักที
โดยมาตรฐานการขับขี่เกือบเหมือนทาง Headlightmag มากๆ คือ
วิ่ง 110 เปิดแอร์ นั่ง 2คน เพียงแต่ระยะทางมันคนละแบบกัน
และชนิดน้ำมันที่เติมต่างกัน
เซ็ตทริปเป็น 0 ออกจากปั๊ม วิ่งไปถนนวงแหวนตะวันออก
ออกมอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรี ซึ่งช่วง 21.00 น. ไปแล้วถนนโล่งมาก
จึงให้หน้าที่ในการควบคมความเร็วรถไปอยู่ที่ Cruise control โดยล็อคไว้ที่ 110 ตลอดเวลา
(http://image.ohozaa.com/i/e68/Y3LvUc.jpg)
-
จากนั้นก็เข้าเส้น 344 บ้านบึง-แกลง ซึ่งเป็นด่านนรกของคนขับกลางคืน
เพราะทั้งเปลี่ยวและมืด แถมสภาพถนนห่วยแตกอีก
พอหลุดจากสาย 344 ก็วิ่งเส้นสุขุมวิทจนถึงเขตอำเภอเมืองจันทบุรี
เลี้ยวซ้ายเข้าสาย 3249 ไปวัดพลวง ตีนเขาคิชฌกูฎ ตอนนี้เวลา 0.20 น.
จอดรถที่วัดแล้วต่อกระบะ 4x4 ไปจนถึงบนเขา
เดินเท้าต่ออีกประมาณ กิโลนึง สักการะรอยพระพุทธบาท อธิษฐานขอพร เอาฤกษ์เอาชัย
(http://image.ohozaa.com/i/280/Tn7gko.jpg)
จากนั้นก็กลับลงมาข้างล่าง ตอนนี้เกือบๆ ตี 4 ไม่รอช้าตีรถกลับกรุงเทพทันที
สภาพตอนนั้นเริ่มง่วงใช้ได้ เพราะกาแฟกระป๋อง+M150สตอร์มที่จัดไปช่วงหัวค่ำเริ่มหมดฤทธิ์
ต้องไปชาร์ตพลังด้วยกาแฟเพิ่มอีก 1 กระป๋องที่ปั๊ม
แล้วลุยต่อ วิ่งไปเรื่อยๆ ท่ามกลางความมืดมิด
มีแวะพักเป็นจุดๆ เพราะเส้นทางนี้ผมวิ่งบ่อยจนรู้ว่าตรงไหนมีปั๊ม
ที่เหมาะแก่การจอดพักรถเพื่อยืดเส้นยืดสาย
เมื่อถึงกรุงเทพ ผมก็กลับมาทางเดิม เข้ารามอินทรา
ไปถนนแจ้งวัฒนะ เวลานั้นประมาณ 7 นาฬิกาของเช้าวันเสาร์
รถโล่งมากๆ ผมกลับรถที่หน้าบริษัทไปรษณีย์ไทย
เข้าปั๊มคาร์เท็กข้างอาคาร ณ นคร เพื่อเติมน้ำมัน
จนถึงหัวจ่ายตัด
(http://image.ohozaa.com/i/6a6/qWSM6D.jpg)
(http://image.ohozaa.com/i/a1c/QMgXjE.jpg)
ระยะทางที่วิ่งได้ 531.2 Km
เติมกลับ 24.61 ลิตร
เฉลี่ย 21.58 กิโลเมตร/ลิตร
(http://image.ohozaa.com/i/adf/2WnAjj.jpg)
หลังจากเสร็จสิ้นการเติมน้ำมัน ผมก็ขับรถเข้าบ้านย่านดอนเมือง
น้องผมก็หลับยาวเลย(ไหนว่าจะช่วยขับ -*-)
ส่วนผมยังนอนไม่ได้ ต้องรอถึง 10 โมง ไปจองเดี่ยว 10
แต่ก็พบกับความผิดผวังเพราะระบบเคาเตอร์เซอร์วิสเดี้ยง
รอจนถึง 11 โมง ไม่ไหว ยอมแพ้ (แต่ก็มาได้บัตรอีกครั้งหลังจากเปิดจองรอบ 2 ที่ไทยทิคเก็ต)
หลังจากนั้นก็หายตัวเข้าห้องนอน หลับไปอีกพักใหญ่
------------------------
-
ก่อนหน้า 1 เดือน ได้นัดประชุมกับเพื่อนเก่าไปล่องแพที่เขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี
และทุกคนว่างวันที่ 23-24 กุมภาพันธ์พอดี
ในทริปนี้มี 7 คน รถ 2 คัน (แต่คนที่โดยสาร และขับตามไม่รู้ว่าผมแอบทำอัตราสิ้นเปลืองอยู่)
ส่วนรถผมนั่นเนื่องจากประโยชน์ใช้สอยมีมากกว่า รถผมจึงมี ผู้โดยสาร 3 คน
และพับเบาะทางขวาลงเพื่อวางกระเป๋า ส่วนท้ายรถเป็นถังน้ำแข็ง ของใช้ต่างๆ
ที่จำเป็นบนแพ น้ำหนักรถเวลานั้นรวมกันมีไม่ต่ำกว่า 1300 กิโล ท้ายห้อยกันเลยทีเดียว
(รถเปล่า 1060 กิโล ผู้โดยสารกับสัมภาระ มีเกิน 250 กิโล)
(http://image.ohozaa.com/i/9b1/JMHcyC.jpg)
(http://image.ohozaa.com/i/fa8/7QtT06.jpg)
เริ่มจากเติมน้ำมันที่ปั๊มเชลล์ แถวๆ ถนนวงแหวนตะวันตก เซ็ตทริปเป็น 0
ออกเดินทางไปลาดหลุมแก้ว เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย 346 ไป อ. บางเลน และต่อไปยัง อ.กำแพงแสน
จากนั้นเข้าอ.พนมทวน และเลี้ยวเข้าสาย 323 เพื่อไปยังกาญจนบุรี
ความเร็วเฉลี่ยตลอดทั้งทริป 100-110 ไม่เกิน 120 จะได้ไม่โดนเครื่องยิง
เส้นทางนี้วัดจากบ้านผมซึ่งอยู่ดอนเมือง ถือว่าใกล้และสะดวกที่สุด และปริมาณรถน้อยที่สุด
เมื่อเทียบกับพุทธมณฑลและเพชรเกษมซึ่งวุ่นวายกว่า ถึงเส้นบางเลน-กำแพงแสนจะมีรถบรรทุกมากพอสมควร
แต่ก็ยังมีที่ให้เผื่อแซงได้มากกว่าสายหลัก เพราะปริมาณรถวิ่งน้อยกว่า ส่วนสภาพถนนนั้น เหมือนกับหลายๆ
สายในไทย คือ เลนซ้ายห่วยแตก ขวาแย่เป็นบางจุด เป็นเหตุให้รถหลายคันต้องแช่ขวา
-
ก่อนแวะซื้อของที่โลตัสเมืองกาญจนบุรี วางกระเป๋าที่ท้ายรถ
(http://image.ohozaa.com/i/974/nML6mE.jpg)
หลังซื้อเสบียง ย้ายกระเป๋าไปเบาะหลังขวา
(http://image.ohozaa.com/i/990/pyWOUD.jpg)
ถ่ายรูปที่สะพานข้ามแม่น้ำ จากนั้นขับต่อไปที่เขื่อน
มีขึ้นเขาบ้างนิดหน่อย เมื่อถึงแพ ทิ้งรถไว้บนฝั่ง นอน 1 คืน
(http://image.ohozaa.com/i/75f/Eo2Fe3.jpg)
(http://image.ohozaa.com/i/807/7TXDLm.jpg)
-
(http://image.ohozaa.com/i/2de/MR67vU.jpg)
(http://image.ohozaa.com/i/fb1/1hzd5v.jpg)
วันถัดมา ขึ้นจากแพ ขับลงมาที่ตัวอำเภอเมือง
หาปั๊มเติมน้ำมัน ก็คือปั๊มเชลล์ถนนสาย 323
แต่เซ็งตรงไม่มี 95E10 Fuelsave
(http://image.ohozaa.com/i/e33/FiKaZJ.jpg)
(http://image.ohozaa.com/i/gcf/4NBG8a.jpg)
เลยต้องกด 91E10 Fuelsave แทน ถ้ากด V-Power เดี๋ยวงบกลางทะลุ
ระยะทางที่วิ่งได้ 305.0 กิโลเมตร
เติมกลับ 18.90 ลิตร (แดดแรงมาก ถ่ายมิเตอร์ไม่เห็นตัวเลข ขออภัยที่ไม่มีรูป)
อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 16.13 กิโลเมตรต่อลิตร
(http://image.ohozaa.com/i/feb/BAdz9y.jpg)
-
จากนั้นก็เซ็ตทริปเป็น 0 วิ่งกลับทางเดิมจนถึงบ้าน
และเช้าวันถัดมา ลองไปเติมน้ำมันเล่นๆดูว่า
เชลล์ โซฮอลล์ 95 ผสม โซฮอลล์ 91 ผลจะออกมาเป็นอย่างไร
(http://image.ohozaa.com/i/7cd/qVfTe0.jpg)
(http://image.ohozaa.com/i/f0d/WTnzGN.jpg)
(http://image.ohozaa.com/i/24f/DDObVW.jpg)
ระยะทางที่วิ่งได้ 150.7 กิโลเมตร
เติมกลับ 9.52 ลิตร
อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 15.82 กิโลเมตรต่อลิตร
(http://image.ohozaa.com/i/0fa/16qu66.jpg)
-
ข้อสรุปอัตราสิ้นเปลืองของทั้งคู่
-Toyota Prius
แม้จะมีกลไกไฟฟ้ามาช่วย แต่ถ้าวิ่งน้อยๆ โอกาสที่จะได้ชาร์ตแบตเข้าเพื่อใช้มอเตอร์ไฟฟ้านั้นยากมาก
เพราะส่วนใหญ่มันวิ่งแต่แถวบ้าน อัตราสิ้นเปลืองโดยมากอยู่ที่ 5.5-6.0L / 100Km ตามหน้าปัด
แต่ถ้าเอาไปวิ่งตามถนนใหญ่ บนทางด่วน มี 4.5-4.8L/100Km ตามหน้าปัด
ยิ่งการที่พ่อผมเติมแต่น้ำมันปตท. ยิ่งทำให้การสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงนรกแตกเข้าไปอีก
แต่เมื่อมันมาอยู่ในมือผม ไม่รอช้าที่จะกรอกน้ำมันปั๊มอื่นโดยไม่ลังเล
สำหรับ 21.58 Km/L เป็นตัวเลขที่น่าพอใจ สำหรับผมเชื่อได้ประมาณ 80%
เนื่องจากผลจาก HLM ซึ่งเข้มงวดกว่า ขนาดเติม 95เพียวๆ+ขย่มรถ ยังได้ 19.6 ถือว่า
ความประหยัดคันนี้ หายห่วงครับ
-Honda Jazz S MT
ด้วยความที่ไม่รู้ว่า ปั๊มที่พี่จิมมี่ใช้เป็นฐานประจำการ พี่เขากับพนักงานที่รู้งาน จะอยู่หัวจ่ายด้านในสุด
ไปพลาดอยู่ตรงหัวจ่ายลุงคนนึงที่ไม่ประสีประสา เลยทำให้ตัวเลขพลาดขึ้นไป 21 กว่าโลลิตร
ผลที่ออกมา ขับแบบตามใจฉันเล็กน้อย กลางวันรถเยอะ บางจังหวะมีชะลอบ้าง ลดเกียร์ต่ำขึ้นแซงบ้าง
ไม่แน่ไม่นอน แต่ยังอยู่ในกฎหมายกำหนด ประมาณ 100-120 แถมน้ำหนักบรรทุกแถมน้ำหนักบรรทุกแบบมหากาฬหน้าลอย
แต่ยังทำอัตราสิ้นเปลืองได้ในระดับที่ไม่เลว ส่วนหนึ่งคงต้องยกผลประโยชน์ให้เกียร์ธรรมดา
ซึ่งมีการสูญเสียกำลังน้อยกว่า ทำให้ได้เปรียบในการไต่ความเร็ว
ไปให้ถึงจุดที่ต้องการแช่ความเร็วนิ่งๆ ได้ไวกว่าเกียร์อัตโนมัติ
-
ความรู้สึกส่วนตัวหลังจากใช้งานมากว่า 1 ปี ของรถทั้ง 2 คัน
-Toyota Prius
เป็นรถที่พอได้ใช้ชีวิตด้วยกันแล้วแฮปปี้ดี เทคโนโลยีแปลกใหม่ รูปทรงไม่เหมือนใคร ออฟชั่นดีๆก็ยัดมาครบ
อัตราสิ้นเปลืองก็ดีน่าใจหาย แต่ต้องเติมน้ำมันปั๊มต่างชาตินะ ถึงจะเห็นภาพ
ด้านสมรรถนะ ถ้ายึดตามแถบ Eco Meter การกดคันเร่งแบบครึ่งๆ กลางๆ ความเร็วไม่ค่อยขึ้น
ต้องขยี้ไปให้ถึงแถบแดง (Power) ถึงจะเห็นผลชัดเจนว่ามาไวกว่าเดิม
ช่วงล่างเดิมที่ใส่ล้อ 16 ตึงตังกว่าตัวล้อ 15 พอสมควร
แต่เมื่อวิ่งทางไกลกลับรู้สึกมั่นคง และดีกว่าที่คิดไว้ (ปกติชินกับโตต้าช่วงล่างทื่อๆ)
งาน Packaging ที่หลายคนมักบอกว่า แคบ ไปนั่งแคมรี่ดีกว่า
พอผมมานั่งจริงๆ กลับนั่งสบาย พื้นที่วางขาเหลือเฟือ เบาะหลังอยู่ในองศาเอียงกำลังดี
แต่เพราะแนวกระจกหน้าต่างด้านหลังอยู่เหนือหัวไหล่ และเพดานเตี้ยไปสำหรับคนสูง 180 ขึ้น
พนักศรีษะเบาะหน้าใหญ่เวอร์บังวิวด้านหน้า มันเลยรู้สึกแคบในเหตุผลทางจิตวิทยา
ด้านที่ผิดหวังก็คงโมเดลที่บ้านผมซื้อ ณ วันนั้น เป็นวิทยุ-ซีดี MP3 ไม่มีจอ กระจกก็พับไฟฟ้าไม่ได้
นอกจากนี้ก็คงไม่มีอะไรต้องพูดถึง
-Honda Jazz 2012 รุ่นต่ำสุด S MT
ไม่เคยผิดหวังเลยที่วันนั้นตัดสินใจเลือกเกียร์ธรรมดามาขับแม้สภาพจราจร
ในกรุงเทพจะย่ำแย่ลงไปทุกวัน เป็นรถที่ชวนจะให้เล่นบทโหด
บนถนนได้ตลอดเวลา ถึงจะเป็นแค่เครื่องเดิมๆ จากโรงงาน ไม่ได้ไปปรับปรุงสมรรถนะใดๆ
เพียงแค่ได้ระบบส่งกำลังมา Compensate กับสิ่งที่ขาดหายไปในเกียร์อัตโนมัติ
แต่นั่นก็มีข้อเสียอยู่ด้วยก็คือ ความพยายามจะขับให้นิ่มนวลทำได้ยาก
เพราะเกียร์ 1 เกียร์ 2 เมื่อคลานต่ำๆ ในช่วงเย็นเลิกงาน
มักมีอาการกระจึ๊กกระจ๊าก เล็กน้อยเป็นบางครั้ง เหมือนแรงบิดในรอบต่ำไม่ค่อยดี
เกียร์ 1 ไป 2 เหมือนกับรถเกียร์ธรรมดาหลายคันในตลาดที่เซ็ตอัตราทดให้เน้นประหยัดน้ำมัน
ตอบออกเกียร์ 1 พุ่งดี แต่เข้าเกียร์ 2 ถ้าใครยังขับไม่คล่อง จังหวะ
ช่วงถอนคลัตช์พร้อมกับส่งคันเร่งไม่สัมพันธ์กัน รถจะสะอึกจากอาการรอบห้อย
ส่วนคันเร่งไฟฟ้า มีอาการแลคเล็กๆ เวลาจะทำ Rev matching ก็มีบางจังหวะเหมือนคันเร่งไม่ตามเท้า
มาถึงด้านตรงกันข้าม การเดินทางไกลด้วยรถเกียร์ธรรมดานั้น ความสุขในการขับรถบนทางหลวงยาวๆ
เพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัว เท่าที่จำได้ ตั้งแต่ออกทริปมาหลายๆรอบ ผมแทบไม่หาวในรถแจ็สเลยซักครั้ง
ผิดกับในหลายๆคันที่เป็นเกียร์อัตโนมัติ
และรู้สึกว่า ต้องใช้ไหวพริบกันพอสมควร แถมบางครั้งต้องคอยสับเกียร์ลง-ขึ้นเพื่อเร่งแซงรถในภาวะคับขัน
นั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้ขับรถแล้วรู้สึกสนุก ไม่ง่วงหงาวหาวนอนก็เป็นได้
ด้านคันเกียร์อย่างที่เคยเขียนไปในรีวิว ฟิลลิ่งรถบ้านขับสนุกพอประมาณ
ระยะกำลังพอดี ไม่สั้นไม่ยาวไป แต่มีตอนเข้าเกียร์ 2 บางครั้งเหมือนมันชอบขบกันในตัว Shifter
คันเกียร์มีระยะฟรีป้องกันการ Vibrate (อาการสั่น)มากไป
เมื่อเทียบกับคันเกียร์ของซูสุกิ สวิฟท์ และฮอนด้า บริโอ้ ซึ่งโยกเยกน้อยกว่า
ด้านอัตราสิ้นเปลืองในเมือง ปกติผมใช้ 95E10 จะวิ่งๆ อยู่แถว 13-14 กิโลเมตรต่อลิตร
ถือว่าประหยัดเกินคาดจนทำให้คิดถึงเจ้า Jazz i-DSI เกียร์ CVT คันที่ขายไป
แต่... ถ้ามันติดไฟแดง จอดเกียร์ว่าง เป็นเวลาเนิ่นนานเกินกว่าเหตุ
ไอระบบลิ้นเร่งไฟฟ้า Drive-by-wire ของฮอนด้าคือตัวแดรกน้ำมันชั้นยอด
ถ้าเอาทฤษฎีง่าวๆที่ผมคิดเอาเอง ด้วยความที่ ECU สั่งเปิดลิ้นให้กว้างเพื่อลดการสึกหรอเวลารถจอดนิ่งๆ
มันทำให้อากาศเข้าไปมาก น้ำมันที่ผสมก็ต้องมากตามธรรมชาติของระบบเซ็นเซอร์ในเครื่องยนต์
ซึ่งถ้าสัปดาห์ไหนมีรถติดมากผิดปกติ อาจจะหล่นไปแถวๆ 12 กิโลเมตรต่อลิตรเลยก็มีเหมือนกัน
สุดท้ายนี้ก็ ขอบคุณที่สละเวลาเข้ามาอ่านกันครับ
ปล. ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆกับบริษัทน้ำมันทั้งสิ้น
เพียงแต่พิจารณาลองเติมน้ำมันมาหลายยี่ห้อ
แก็สโซฮอลล์ 95 ที่มีเอทานอลไม่เกิน 10% นั้น ของปั๊มเชลล์ ดีที่สุด
รีวิวตัวเต็มของรถทั้ง 2 คัน
Honda Jazz
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,23097.0.html (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,23097.0.html)
Toyota Prius
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,14867.0.html (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,14867.0.html)
-
ขอบคุณครับสำหรับรีวิวดีๆ
-
รีวิวอ่านเพลินมาก. ผมก็ขับ jazz อยู่แต่เกียร์ออร์โต. ผมว่าทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำมัน เช่นจาก 95 เป็น 91 หรือ จาก 91 เป็น 95 อัตราสิ้นเปลืองจะไม่ค่อยดี การเร่งแซงก็ดรอปลง. ต้องใช้เวลาสักพักกว่า ecu จะปรับให้เข้าที่
ถ้าเติมน้ำมันออกเท็นเท่าไหร่ก็ควรเติมเท่านั้นตลอด
-
เจ๋งมากครับ นั่งอ่านจนจบ ;D
-
วู้วว..
เยี่ยมมากครับ
ขอบคุณครับ
สนใจ พรีอุส ขึ้นมาซะแล้ว
แต่ไปนั่งลูปคลำ คัมรี่ เจ้านี่ก็โอ่โถ่ง นั่งสบาย (แต่หมากไม่ถึง อิอิ)
-
ขอบคุณครับ อยากจับJAZZ เกียร์ธรรมดามั่งจัง เบื่อออโต้และ ไม่ทีโอกาศขับเลย >:(
-
ข้อมูลดีและมีประโยชน์มากๆครับ
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ
เจ้าอุส มันประหยัดจริงๆแฮะ
ผมเคยอยากได้และเกือบจะซื้อ แต่ยังไม่ได้ซื้อครับ
-
ขอบคุณครับ
-
รีวิวได้เห็นภาพเลยครับ :)
ผมใช้ airwave ในเมืองได้12.2km/l อิจฉารถสีแดงhitech อารมณ์สปอร์ตแต่โคตรประหยัด
น้องใช้ prius ในเมืองได้18km/l อิจฉารถสีส้มตูดใหญ่ จุเยอะ ไม่ซ้ำใคร
ทั้งคู่อิจฉาคนที่มีทั้งสองคัน!!
-
PRIUS....ของเค้าดีจิงๆ :P
-
ขอบคุณมากครับ
รถผมถึงจะเก่าแต่ใช้เกียร์แมนน่วล ก็ยังสามารถจี้ดได้เหมือนกัน
-
ขอบคุณครับ.