Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: pom007 ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 00:08:01

หัวข้อ: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: pom007 ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 00:08:01
สืบเนื่องจากระทู้เรื่องปัญหารถ Honda Civic ของผม
http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=2901.20 (http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=2901.20)

วันนี้ได้เอารถเข้าศูนย์ Honda ตามที่ได้ทำการนัดหมายว่าจะให้ช่างเทคนิคมาทำการตรวจสอบ
ช่างเทคนิคมาถึงประมาณ 11 โมง  ใช้เวลาการเทสรถอยู่ประมาณ 10 นาที 

ช่างเทคนิค  -  เสียงดังจริงๆ ครับ  ปัญหานี้ต้องเปลี่ยนเครื่องครับ
ผม  -  แล้วผมมีทางเลือกอื่นมั้ย  ซื้อรถคืน หรือเปลี่ยนคันใหม่
ช่างเทคนิค  -  ไม่มีครับ  อาจจะมีแต่ยากมาก  เพราะไม่มีนโยบาย
ผม  -  งั้นก็เปลี่ยนเครื่องก็ได้ครับ  แล้วเรื่องการรับประกันล่ะ  มีเพิ่มให้มั้ย
ช่างเทคนิค  -  ไม่มีครับ  ยังเหมือนเดิม  3 ปี 100000 กิโลเมตร
ผม  -  แล้วรอเครื่องใหม่นานมั้ยครับ
ช่างเทคนิค  -  รอประมาณเดือนถึงเดือนครึ่งครับ
ผม  -  Honda ส่งมอบรถใหม่ให้ลูกค้าทุกวันไม่ใช่เหรอครับ  ผมเป็นลูกค้าเก่าที่รถมีปัญหา  บริษัทควรดูแลผมก่อน  เอางี้  ผมให้เวลา 2 อาทิตย์  หาเครื่องใหม่มาให้ได้
ช่างเทคนิค  -  ครับเดี๋ยวจะแจ้งหัวหน้าให้ครับ
ผม  -  แล้วระหว่างซ่อมผมไม่มีรถใช้จะให้ทำไง
ช่างเทคนิค  -  ครับอาจไม่มีรถใช้สัก 3-4 วัน
ผม  -  ผมต้องการรถสำรองระหว่างเปลี่ยนเครื่อง  รุ่นที่เท่ากับรถผม หรือดีกว่า
ช่างเทคนิค  -  ครับ  เดี๋ยวจะประสานงานให้ครับ
ผม  -  แล้วจะให้ผมเปลี่ยนเครื่องที่ศูนย์ไหนดีครับ
ช่างเทคนิค  -  ศุนย์ไหนก็ได้ครับ  มาตรฐานเดียวกัน  แล้วอีกอย่างรื้อไม่เยอะครับ
ผม  -  งั้นผมเปลี่ยนศูนย์พระราม 5 แล้วกัน  สุวรรณภูมิไกลบ้าน
ช่างเทคนิค  -  ครับศูนย์นี้ก็ดีครับ
ผม  -  แล้วเปลี่ยนแล้วมันจะหายมั้ยครับ
ช่างเทคนิค  -  หายครับ  โรงงานเค้าแก็ไขมาแล้ว  เนี่ยรถผมก็ยังรอเปลี่ยนเหมือนกันครับ
ผม  -  อ้าวใช้รุ่นนี้เหมือนกันเหรอครับ
ช่างเทคนิค  -  ครับ
ผม  -  ถ้าไม่หายแล้วทำไงครับ
ช่างเทคนิค  -  ผมว่าครั้งเดียวก็เกินพอ  ถ้าให้เปลี่ยนอีกก็คงไม่ไหว  ผมแนะนำให้พี่โทรไปคุยกับลูกค้าสัมพันธ์ดู
ผม  -  ครับ  ไว้ผมจะโทรไปคุย


จดหมาเลขเครื่องเสร็จ   เซ็นต์เอกสารนิดหน่อย  แล้วขับรถกลับที่ทำงานไปทำงานต่อ
ทำงานไปสักพัก  นึกถึงคำแนะนำของช่างเทคนิค  ว่าแล้วโทรไปหาลูกค้าสัมพันธ์กว่า

ลูกค้าสัมพันธ์  -  สวัสดีครับ  ลูกค้าสัมพันธ์ครับ
ผม  -  ครับ  ผมซื้อรถ Honda Civic มาแล้วรถมีปัญหามีเสียงดังผิดปกติ  วันนี้ทางช่างเทคนิคมาตรวจสอบรถ  แล้วแจ้งว่าต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่
ลูกค้าสัมพันธ์  -  ครับ  เราก็ดูแลให้แล้วนี่ครับ  แล้วมีอะไรเหรอครับ
ผม  -  ผมอยาทราบว่าถ้าเปลี่ยนเครื่องแล้วไม่หายจะทำยังไง
ลูกค้าสัมพันธ์  -  ต้องหายสิครับ  โรงงานเค้าทดสอบมาแล้ว
ผม  -  แล้วที่ผมขับอยู่แล้วมีเสียงดังนี่มันไม่ใช่โรงงานเดียวกันเหรอครับ
ลูกค้าสัมพันธ์  -  ถ้ามีปัญหาอีก  ก็จะเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้
ผม  -  มันจะไม่ง่ายเกินไปหน่อยเหรอ  มีปัญหาก็ซ่อมกันไปเรื่อยๆ
ลูกค้าสัมพันธ์  -  เราดูแลให้แล้ว  แล้วลูกค้ายังต้องการอะไร
ผม  -  ผมต้องการเปลี่ยนรถ หรือซื้อรถคืน
ลูกค้าสัมพันธ์  -  การซื้อขายรถ  เป็นเรื่องของคุณกับศูนย์บริการ  Honda มีหน้าที่แต่ดูแลให้เมื่อมีปัญหา  คุณซื้อรถ  คุณก็ซื้อกับศูนย์  เงินก็อยู่ที่ศูนย์ไม่เกี่ยวกับ Honda  คุณต้องไปตกลงกับศูนย์เอาเอง
ผม  -  เหรอครับ  งั้นแสดงว่า ลูกค้าสัมพันธ์จะไม่ช่วยอะไร
ลูกค้าสัมพันธ์  -  ครับ
ผม  -  งั้นโอเค  จบ.......

วางหูมาด้วยอาการงงว่าแล้วตูจะโทรไปหามันทำไมวะเนี่ย  แถมยังมาหงุดหงิดใส่ลูกค้าอีก
งงงงงงงงงงงง

ว่าแล้วยกหูโทรไปหาเซลล์ที่ซื้อรถด้วยดีกว่า

เซลล์  -  สวัสดีค่ะ คุณ..............ทราบเรื่องแล้วนะคะว่าต้องเปลี่ยนเครื่อง  ตอนนี้ทางฝ่ายเทคนิคกำลังประสานงานให้อยู่ให้ได้เครื่องโดยเร็วที่สุด
ผม  -  ไม่ได้จะโทรมาคุยเรื่องนั้นครับ  พอดี โทรไปคุยกับลูกค้าสัมพันธ์มา....... (แล้วก็เล่าเรื่องที่คุยกับลูกค้าสัมันธ์ให้ฟัง)
เซลล์  -  ค่ะ  เดี๋ยวจะตามกับทาง Honda ให้
ผม  -  ครับ  ฝากคุยกับทางผู้จัดการศูนย์ให้ผมหน่อย  ว่าถ้าเปลี่ยนเครื่องแล้วไม่หายจะทำไง  ผมยอมให้เปลี่ยนเครื่องก็ถือว่าใจดีมากแล้วนะ  ถ่้าต้องมีรอบสองคงรับไม่ไหว
เซลล์  -  ค่ะๆ  เดี๋ยวจะคุยกับผู้จัดการให้  ได้ผลยังไงจะโทรไปแจ้ง


วันนี้ทุกเรื่่องก็ดูเหมือนจะโอเค  มีแต่ลูกค้าสัมพันธ์นี่แหละที่พูดจาปัดความรับผิดชอบสุดๆ  ไม่คิดจะช่วยเหลือลูกค้าเลย
ยังดีที่เซลล์ที่ซื้อรถด้วย  ยังพอมีความดีอยู่บ้าง  ติดตามงานดี  เลยไม่หงุดหงิดมาก

ถึงตอนนี้  ถ้าใครมาถามผมว่ารถ Honda เป็นยังไง
ตอบได้แบบไม่ต้องคิดเลยว่า  "ไม่คิดจะกลับไปซื้ออีก  คันเดียวก็เกินพอ"
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: boykung ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 00:19:18
โชคร้ายจังนะครับ

ขอให้รถหายละกันครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: mcat231032 ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 00:33:05
งานเข้าซะแล้ว honda
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: Tonaka ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 00:36:29
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง  ฮอนด้าก็จะกลับเข้าสู่เรื่องฉาวอีก!!! เหมือนตอน CR-V น่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: Satanic za' ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 00:39:14
หุๆ รถญี่ปุ่นนี่ไม่เคยคิดจะเล่นครับ

ปล ยกเว้นมิตซูกับนิสสันไว้ละกันนะ แอบชอบๆ

ส่วน T กับ H เลิกคุยดีกว่า ทำงานอยู่ บ ผลิตชิ้นส่วนพอรุ้อะไรเป็นอะไร
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: BBOnLY ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 00:40:48
ฮอนด้างานเข้าแล้วละครับงานนี้
เหอๆ

สงสัยคงต้องมีรายการลงดาบกันซะหน่อยละมั๊ง


หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: BnN ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 00:41:24
ถ้าลูกค้าสัมพันธ์ตอบแบบนี้จริงๆนะ
มันน่าเอาตะหลิวไปเคาะหัวให้มันดังป๊อกๆๆๆเหมือนเสียงเครื่องที่มันดังต๊อกๆๆๆจริงๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: pom007 ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 00:44:46
ถ้าลูกค้าสัมพันธ์ตอบแบบนี้จริงๆนะ
มันน่าเอาตะหลิวไปเคาะหัวให้มันดังป๊อกๆๆๆเหมือนเสียงเครื่องที่มันดังต๊อกๆๆๆจริงๆ

มันตอบแบบไม่ใส่ใจเลยครับ  ไม่แม้แต่จะถามชื่อ
แถมยังทำน้ำเสียงหงุดหงิดผมอีก

ไม่เห็นโลงศพ  ไม่หลั่งน้ำตา
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: BrownCony ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 01:17:39
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=n09TJQv1xto[/youtube]

ไม่ทราบว่าใช่อาการ เสียงแบบนี้ที่เกิดกับ BMW ที่ใช้เครื่อง N52 ที่วางอยู่ใน E60 E90 หรืออื่นๆ รึเปล่าครับ

ก็มีผู้ใช้หลายรายที่ใช้แล้วก็มีปัยหาเหมือนกัน ทาง BMW US ก็จัดการเปลี่ยน Cylinder Head ให้
แต่ที่ไทย BMW Thailand ไม่ได้ทำตามที่อเมริกา แต่เพียงแค่ยื่นข้อเสนอแก้ไขปัญหาได้ชั่วคราวให้
และทุกดีลเลอร์ของบีเอ็มก้รู้ปัญหานี้ดี

ผมคิดว่าปัญหาของ Honda ในกรณีนี้คือทาง call center ไม่มีปัญญาที่จะคิดนำเสนอเงื่อนไข หรือทำอะไรที่พอให้ลูกค้าพึงพอใจได้
ทางโตโยต้าดูจะมีความเป็นมืออาชีพมากกว่า เช่นในกรณีของคนที่ใช้ Camry hybrid ขับออกมาจากศุนย์ไม่กี่กิโลเมตรแล้ว inverter เสีย
(อ่านมาจากบอร์ดของรุ่นนี้) ทางโตโยต้าก็ยื่นข้อเสนอจนทำให้ผู้ซื้อคนนั้นจนพึงพอใจ

ผมคิดว่า call center เป็นหน้าเป็นตาของยี่ห้อ ควรคิดและตอบอะไรให้มีความคิดมากกว่านี้นะครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: =TUM= ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 01:43:08
รถผมตอนนี้รอเปลี่ยนเครื่องอยู่ครับ ก็ลุ้นว่าเปลี่ยนแล้วจะหายดังมั้ย ถ้าไม่หายก็จะขายครับ แล้วคงไปซื้อ tiida H/B ตัวใหม่ ไม่ก็รุ่นอื่นๆที่ไม่ใช่ honda อีกแล้ว ตั้งแต่ออกมาไม่ถึงปีปัญหาที่เจอคือ
1.ยางแท่นเครื่องเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควรมากๆ ดังตั้งแต่ 2000 โลแรก เครมไปแล้วตอนนี้ 9xxx โลกลับมาดังใหม่
2.กระจกฝืดแก้ไม่หายสักที
3.พวงมาลัยเอียงซ้าย ตั้งศูนย์กี่รอบก็เหมือนเดิม...ทำใจครับ
4.เครื่องดังต๊อกๆๆๆ ที่จริงดังมาตั้งแต่ออกมาใหม่ๆ แต่ผมพึ่งมาทราบว่ามันไม่ใช่เสียงปรกติตั้งแต่เข้าไปเล่นใน civicfdthailand

ผมเซ็งและรู้สึกเบื่อมากกับรถที่จ่ายสดไป8แสนกว่าแต่ดันต้องมานั่งซ่อมราวกับรถมือสองอายุ 20 ปี

คลิปเสียงของคนในคลับที่อัดมาลองฟังกันดูนะครับ จะได้ยินชัดถ้าใส่หูฟัง
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=s0q5sp8t6IM[/youtube]

และนี่คือหนังสือจากบริษัทฮอนด้าที่ส่งมาชี้แจงครับ อ่านแล้วก็รู้สึกขัดแย้งกันว่าทำไมถ้าปัญหาระยะยาวไม่มีอย่างที่บอกแล้วทำไมต้องลงทุนเปลี่ยนเครื่อง ผ่าเครื่องให้เสียหายเป็นแสนๆล้านๆ ถ้าคุณบอกว่าระยะยาวไม่มีปัญหาจริงก็ไม่ต้องทำอะไรสิครับ บอกลูกค้าว่าเป็นปรกติของเครื่องยนต์ก็จบ แล้วคนที่ผ่าเครื่องออกมาแล้วพบว่าแหวนลูกสูบบิ่นกับเสื้อสูบเป็นรองที่สูบ 3 นั้นไม่ใช่ปัญหาระยะยาวหรือไงจ๊ะ honda

(http://upload.tarad.com/images2/fd/85/fd85593901c137ecbd9412fb2fff1f23.png)
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: J!MMY ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 02:30:36
เอาละ

ผมชักอยากจะรู้แล้วละว่า ใครที่พูดจากับคุณแบบนี้!
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: Lecter the Ripper ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 03:46:51
ก็เข้าใจเจ้าของกระทู้นะครับ ว่าคงเสียความรู้สึก กับเหตุการณ์เช่นนี้

เเต่ว่า ถ้ามองในอีกมุมมองนึง  ทางฮอนด้า ก็ยินดีที่จะทําการ เเก้ไขปัญหาให้เเล้ว โดยการเปลี่ยนเครื่องให้ใหม่


ไม่ได้เพิ่กเฉย นิ่งนอนใจต่อปัญหาของคุณ เเละพยายาม หารถมาให้คุณใช้ตอนที่รถรอซ่อมอยู่

ทีนี้ การเเก้ไขปัญหา มันก็มีขั้นตอนของมัน บางอย่างก็ต้องใช้เวลาของมัน     การจะให้คุณยืมรถ ก็ต้องเซ็นเอกสารโน่นนี่มากมาย

เครื่องตัวใหม่ที่จะเอามาเปลี่ยนให้คุณ ก็คงไม่ได้อยู่ๆ หยิบออกมาจากสายการผลิต เเล้ว ส่ง EMS มาให้คุณเลย



ส่วนเรื่องที่คุณไปถามลูกค้าสัมพันธ์เขาว่า ถ้าเปลี่ยนเครื่องอีกเเล้วไม่หาย จะให้ทําอย่างไร

ผมว่า ก็เป็นการมองโลกในเเง่ร้ายไปหน่อย  เหมือนถามหาทางเเก้ปัญหา ก่อนที่มันจะเกิดขึ้นซะอีกน่ะครับ 

ถ้ามีคนถามผมอย่างนี้ ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกันครับ


ผมเข้าใจนะครับ ว่าลูกค้าไม่ใช่เเค่พระเจ้า  เเต่เป็น พ่อของพ่อของพระเจ้า  เเต่บางที เราก็ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรามั่งครับ

คนเรา ยังมีทั้งคนรัก เเละ คนเกลียด  เราไม่สามารถทําให้ทุกคนชอบเราหมดได้

นับภาษาอะไรกับ บริษัท บริษัท นึง  คงไม่สามารถทําให้ลูกค้าทุกคน พึงพอใจได้หมดหรอกครับ  มันก็มี ลิมิตในการเเก้ปัญหาของมันอยู่


ขอให้ใจเย็นๆ นะครับ



 



หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: slick ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 04:21:03
ลูกค้าสัมพันธ์ ไม่มีทางพูดแบบนี้เด็ดขาด

ที่ Civicfd ก็โพส แต่ทำไมไม่ยอมใส่รูป ที่นั่นเขาบังคับด้วย

รถผมก็รอเปลี่ยนเครื่อง โทรหาลูกค้าสัมพันธ์บ่อยไป

แต่ไม่เคยมีสักคั้งที่จะพูดไม่ดี
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: pom007 ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 07:17:01
ลูกค้าสัมพันธ์ ไม่มีทางพูดแบบนี้เด็ดขาด

ที่ Civicfd ก็โพส แต่ทำไมไม่ยอมใส่รูป ที่นั่นเขาบังคับด้วย

รถผมก็รอเปลี่ยนเครื่อง โทรหาลูกค้าสัมพันธ์บ่อยไป

แต่ไม่เคยมีสักคั้งที่จะพูดไม่ดี

ถ้าเค้าพูดจาดี  ผมคงไม่ต้องมานั่งพิมพ์ซะยืดยาวให้เมื่อยมือและอารมณ์เสีย
ผมไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้น

ส่วนที่ civicfd นั้น ผมพยายามใส่รูปแล้วแต่รูปมันไม่ขึ้น
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: Arado_kung ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 07:50:49
รถผมตอนนี้รอเปลี่ยนเครื่องอยู่ครับ ก็ลุ้นว่าเปลี่ยนแล้วจะหายดังมั้ย ถ้าไม่หายก็จะขายครับ แล้วคงไปซื้อ tiida H/B ตัวใหม่ ไม่ก็รุ่นอื่นๆที่ไม่ใช่ honda อีกแล้ว ตั้งแต่ออกมาไม่ถึงปีปัญหาที่เจอคือ
1.ยางแท่นเครื่องเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควรมากๆ ดังตั้งแต่ 2000 โลแรก เครมไปแล้วตอนนี้ 9xxx โลกลับมาดังใหม่
2.กระจกฝืดแก้ไม่หายสักที
3.พวงมาลัยเอียงซ้าย ตั้งศูนย์กี่รอบก็เหมือนเดิม...ทำใจครับ
4.เครื่องดังต๊อกๆๆๆ ที่จริงดังมาตั้งแต่ออกมาใหม่ๆ แต่ผมพึ่งมาทราบว่ามันไม่ใช่เสียงปรกติตั้งแต่เข้าไปเล่นใน civicfdthailand

ผมเซ็งและรู้สึกเบื่อมากกับรถที่จ่ายสดไป8แสนกว่าแต่ดันต้องมานั่งซ่อมราวกับรถมือสองอายุ 20 ปี

คลิปเสียงของคนในคลับที่อัดมาลองฟังกันดูนะครับ จะได้ยินชัดถ้าใส่หูฟัง
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=s0q5sp8t6IM[/youtube]

และนี่คือหนังสือจากบริษัทฮอนด้าที่ส่งมาชี้แจงครับ อ่านแล้วก็รู้สึกขัดแย้งกันว่าทำไมถ้าปัญหาระยะยาวไม่มีอย่างที่บอกแล้วทำไมต้องลงทุนเปลี่ยนเครื่อง ผ่าเครื่องให้เสียหายเป็นแสนๆล้านๆ ถ้าคุณบอกว่าระยะยาวไม่มีปัญหาจริงก็ไม่ต้องทำอะไรสิครับ บอกลูกค้าว่าเป็นปรกติของเครื่องยนต์ก็จบ แล้วคนที่ผ่าเครื่องออกมาแล้วพบว่าแหวนลูกสูบบิ่นกับเสื้อสูบเป็นรองที่สูบ 3 นั้นไม่ใช่ปัญหาระยะยาวหรือไงจ๊ะ honda

(http://upload.tarad.com/images2/fd/85/fd85593901c137ecbd9412fb2fff1f23.png)

ข้อ 3 น่ะ ผมว่าพวงมาลัยมันใส่มาเอียงมากกว่าศูนย์ล้อมันเบี้ยวนะ ในบอร์ดแอคคอร์ดก็เจอปัญหาคล้ายๆกันเนี่ยแหละ คือพวงมาลัยมันเอียงซ้ายเพราะมันมันใส่มาผิดล็อคครับ ไม่เกี่ยวอะไรกับศูนย์ล้อเลยซักนิดเดียว ถอดพวงมาลัยออกมาขยับเข้าล็อคใหม่ก็ตรงเหมือนเดิมล่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: gatasila ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 08:37:27
แล้วเจ้านิวอัลติสนี่มีปัญหาแบบนี้มั้ยครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: penthouse ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 08:40:47
ผมก็อยากรู้เหมือนกัน ใครหว่าพูดจากับลูกค้าแบบนี้ จริงๆ แล้วระบบ Call Center เค้าจะมีการบันทึกการพูดจากับลูกค้านะ ถ้าคุณยังติดใจหรือคิดว่าไม่รับคำตอบจากการบริการที่ดีจากเจ้าหน้าที่ท่านนี้ ผมว่าคุณสามารถเอาผิดกับพนักงานรายนี้ได้นะครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: PapaRo@ch~* ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 09:10:35
อธิบายเรื่องการนำเครื่องจากไลน์การผลิตมาใช้ซ่อมแซมรถลูกค้าให้เข้าใจกันสักนิด
ในฐานะเคยทำบริษัทรถยนต์มาก่อน และเคยอยู่ด้านการเคลมกับลูกค้า
และคิดว่าทุกบริษัทรถยนต์น่าจะมีระเบียบแบบเดียวกัน

คืองี้ครับ

ในการเคลมเปลี่ยนชิ้นส่วน(รวมไปถึงเครื่องยนต์) ทางผู้ผลิตต้องสั่งออเดอร์เข้ามาเป็นอะไหล่เสมอครับ
ไม่สามารถที่จะไปตัดมาจากไลน์การผลิตรถใหม่ได้ครับ
เนื่องจากผิดกฎหมายครับ

ชิ้นส่วนทุกชิ้น เครื่องทุกเครื่อง มีเลขของมันอยู่ ซึ่งทางผู้ผลิตต้องแจ้งกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงสรรพากร ว่าได้นำชิ้นส่วนหมายเลขนี้มาทำการผลิตรถ
ซึ่งต่างจากการนำมาเป็นอะไหล่ซ่อมแซม ซึ่งจะอยู่คนละหมวดกัน

ดังนั้นการตัดชิ้นส่วนจากไลน์การผลิตมาให้เลยจึงเป็นไปไม่ได้นะครับ
นี่ยังไม่รวมถึงขั้นตอนเอกสารภายในต่างๆของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์นั้นๆด้วยนะครับ

ทีนี้มาว่าประเด็นของคุณกันสักนิด
ถ้าฮอนด้าเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้คุณได้จริง ถือว่าน่ายินดีมากครับ
และน่ากลัวสำหรับฮอนด้าเองด้วย

เพราะกฎหมายPL Law ตัวใหม่ มีอยู่ข้อนึงที่ระบุไว้ว่า ถ้าทำการแก้ปัญหาให้ลูกค้าคนนึงด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งแล้วนั้น ต้องทำเช่นเดียวกันกับลูกค้าที่มีปัญหาเดียวกันทั้งหมด
ซึ่งถ้าเครื่องเสียงดังอย่างนี้ได้รับการเปลี่ยนเครื่องจริง
ลูกค้ารายอื่นที่มีปัญหาแบบเดียวกันสามารถร้องขอการเปลี่ยนเครื่องได้เหมือนคุณเช่นกัน
ผมเลยไม่ค่อยอยากจะเชื่อว่าฮอนด้าจะยอมเปลี่ยนเครื่องให้คุณคนเดียว
ยังไงต้องคอยติดตามเรื่องอยู่เสมอนะครับ
ขอให้โชคดีและแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็วครับ



หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: Wondering ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 11:30:54
ผมว่าตอนนี้คงมีคนร้องขอเปลี่ยนเครื่องกันให้รึ่มเลย... ถ้าเดาเอาตามนิสัยของฮอนด้านะครับ
เค้าน่าจะถอดเครื่องของคุณไปแก้ปัญหา (ถอดไปซ่อมนั่นแหละ) แก้เสร็จก็เอาไปใส่ให้คันอื่นที่ทำเรื่องขอเปลี่ยนเครื่อง
ฉะนั้น...เครื่องใหม่ที่คุณขอเปลี่ยน ก็อาจจะเป็นเครื่องจากคันอื่นที่แก้ไขแล้วนั่นแหละครับ

ผมก็ไม่รู้ว่าจะสลับกันไปมาทำไม แต่มันเป็นนิสัยของฮอนด้าครับ ผมได้ยินออกบ่อยไป ที่พอมีคนเอารถไปซ่อม แล้วช่างก็ถอดอะไหล่ของรถอีกคันที่เข้ามารับบริการ (คันที่เค้าอาจจะเข้ามาแค่เช็คระยะ) มาลองใส่คันที่มีปัญหาดู ลองดูว่าเปลี่ยนแล้วมันใช้ได้มั๊ย ถ้าใช้ได้ก็จะได้เบิกอะไหล่ ถ้าไม่ใช่ก็ไล่ถอดชิ้นอื่นของรถลูกค้ารายอื่นมาลองไปเรื่อยๆ

ทำกับลูกค้าได้เนอะ ฮอนด้า
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: P_Wut ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 12:12:34
ผมว่าตอนนี้คงมีคนร้องขอเปลี่ยนเครื่องกันให้รึ่มเลย... ถ้าเดาเอาตามนิสัยของฮอนด้านะครับ
เค้าน่าจะถอดเครื่องของคุณไปแก้ปัญหา (ถอดไปซ่อมนั่นแหละ) แก้เสร็จก็เอาไปใส่ให้คันอื่นที่ทำเรื่องขอเปลี่ยนเครื่อง
ฉะนั้น...เครื่องใหม่ที่คุณขอเปลี่ยน ก็อาจจะเป็นเครื่องจากคันอื่นที่แก้ไขแล้วนั่นแหละครับ

ผมก็ไม่รู้ว่าจะสลับกันไปมาทำไม แต่มันเป็นนิสัยของฮอนด้าครับ ผมได้ยินออกบ่อยไป ที่พอมีคนเอารถไปซ่อม แล้วช่างก็ถอดอะไหล่ของรถอีกคันที่เข้ามารับบริการ (คันที่เค้าอาจจะเข้ามาแค่เช็คระยะ) มาลองใส่คันที่มีปัญหาดู ลองดูว่าเปลี่ยนแล้วมันใช้ได้มั๊ย ถ้าใช้ได้ก็จะได้เบิกอะไหล่ ถ้าไม่ใช่ก็ไล่ถอดชิ้นอื่นของรถลูกค้ารายอื่นมาลองไปเรื่อยๆ

ทำกับลูกค้าได้เนอะ ฮอนด้า

โอ้โห...

ปล. จขกท. เช็คข้อความส่วนตัวด้วยครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: tommaris ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 12:36:10
คิดง่าย ๆ ไม่ต้องคิดลึก ๆ  ออกรถใหม่มาแล้วให้เปลี่ยนเครื่อง  แค่นี้คนซื้อก็เจ็บมากพอแล้วครับ

เป็นฝ่ายผู้จำหน่าย หรือผู้ผลิตมิใช่หรือที่ควรตระหนักถึงความรู้สึกของลูกค้า ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา
จริงอยู่ที่ว่าในความรู้สึกของบริษัท ห้าง ร้าน...อาจแบ่งเป็นลูกค้าดีบ้างแย่บ้าง (ในทางกลับกันลูกค้าก็
มองว่าบริษัท ห้าง ร้าน ต่าง ๆ ก็มีทั้งดีืทั้งเลวเช่นกัน)

แต่อย่างไรเ้ค้าก็คือบุคคลที่มาเดินเข้ามาอุดหนุน
มิใช่หรือ?? (บ้างคนจะมองว่าบริษัทเป็นฝ่ายทุ่มงบโฆษณาชักชวนลูกค้าก็ได้)  และการที่คน ๆ หนึ่ง
มาอุดหนุนบริษัท ห้าง ร้าน คือการสร้างปัญหาในบริษัทหรือเปล่าหล่ะ  ตอนที่ใครก็ตามเดินเข้ามาที่โชว์รูม
หรือที่งานแสดงและลงสัญญาจองจนกระทั่งมารับรถในวันหรือเดือนต่อไปคืออุปสรรคของบริษัทหรือ
แล้วลองถามตัวเองดูว่าทุกวันนี้รถที่ขายเนี่ย ขายตัวรถอย่างเดียว หรือขายการบริการหลังการขาย
และความรับผิดชอบต่อสินค้าที่ขายด้วย หรืออย่างเป้าหมายหลักคือการขายตัวรถอย่างเดียว  ส่วนการ-
บริการหลังการขาย และความรับผิดชอบต่อสินค้าที่ขายแค่โฆษณาให้เหมือน ๆ บริษัทอื่น ๆ เท่านั้นหรือ

ไม่มีใครไปบังคับให้บริษัท ห้างร้าน ใด ๆ ได้หรอกครับว่าต้องซื่อสัตย์ ต้องรับผิดชอบ ต้องบริการ
แต่ถ้าสิ่งที่บริษัท ห้าง ร้าน ใด ๆ นำเสนอภาพลักษณ์ที่ดีต่อผู้บริโภคและยึดมั่นจนถึงปฎิบัติตามด้วยดี
เสมอมา สิ่งที่ได้กลับมาคือ ความเชื่อมั่นอันเหนี่ยวแน่นของผู้บริโภคเท่านั้นเอง

ทั้งหมดนั้นไม่ได้หมายความว่าในกรณีของการเปลี่ยนเครื่องยนต์ของฮอนด้าในครั้งนี้ผิดหรือไม่แต่อย่างใด
เป็นเพียงมุมมองของคน ๆ หนึ่งที่มีความเห็นว่าหากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ บริษัท ห้าง ร้าน รวมถึงบุคลากร
ที่เกี่ยวข้องในองค์กรนั้น ๆ "น่าจะ" ยึดสิ่งใดในการเป็นส่วนหนึ่งของการขายสินค้าและบริการ

ปล. ส่วนตัว...หากไปซื้อยีนส์สักตัว การที่ผมจะเลือกซื้อแบนด์ไหนก็ตาม ผมก็เพียง "คาดหวัง" ว่า
หลักซื้อหากใช้ไปแล้วกระดุมหลุดในเวลาไม่นาน อย่างน้อยทางร้านคง "เต็มใจ" เปลี่ยนกระดุมให้ผม
และ "สามารถ" ทำให้ผมมั่นใจได้ว่ากระดุมที่ติดให้ใหม่นั้นจะไม่ให้หลุดอีก และทำให้ผมเชื่อมั่นว่าสินค้า
ที่นำเสนอผมในอนาคตจะระมัดระวังปรับปรุงมิให้เกิดเหตุผิดพลาด และแสดงในมั่นใจได้ว่าหากแม้
มีเหตุผิดพลาดที่ไม่ว่าฝ่ายใดก็ไม่อยากให้เกิด ทางร้านก็จะเตรียมพร้อมเสมอในด้านบริการหลังการขาย

".......แต่หากร้านยอมเปลี่ยนยีนส์ตัวใหม่ให้ ผมก็ดีใจมาก เพราะร้าน "ให้" เกินกว่าที่ผมคาดหวัง..."

หากใครก็ตามที่คิดว่าราคารถมิใช่พันสองพันบาทเหมือนยีนส์  ยีนส์ธรรมดาที่ผมซื้อก็มิใช่ราคาเหยียบล้านเช่นกัน
....ฉันใดก็ฉันนั้น  :)
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: gateaux ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 15:31:53
รถใหม่ ให้ผมเปลี่ยนเครื่อง ผมขายทิ้งดีกว่า

ไม่ใช่ผม ไม่ยอมรับ ว่าการเปลี่ยนเครื่อง เป็นการแก้ปัญหาที่รับผิดชอบต่อลูกค้านะ
ผมยอมรับ  แต่มันเสียความรู้สึกน่ะ ถ้าจะใช้รถใหม่ที่ต้องมาเรื้อ เปลี่ยนเครื่อง  อันนี้ ความชอบส่วนตัวนะครับ

กลับมาที่เรื่อง จขกท   มองโลกในแง่ดีครับ  ก้อคิดซะว่า เราได้รถที่มีเครื่องใหม่ที่สุด ในรุ่นที่ออกพร้อมกัน  ;D ;D ;D

หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 15:54:40
ช่างเองยังรับไม่ไหวกับการเปลี่ยนเครื่องครั้งที่สองเลย  :P

แล้วคนที่เค้าบ่นว่าเปลี่ยนมาสองครั้งยังไม่หายล่ะ? เปลี่ยนเครื่องแล้วแต่ไม่เพิ่มระยะประกันให้ทั้งที่มีกรณีที่บางคนใช้มาหลายหมื่นแล้วเพิ่งเจอก็มี แล้วถ้าเลยแสนไปแล้วเกิดดังขึ้นมาล่ะ?   >:(

เสียใจด้วยนะครับแต่ว่ายิ่งอ่านเรื่องราวของคุณแล้วถ้าเป้นผมทันทีที่เปลี่ยนเครื่องแล้วผมเอาไปขายทิ้งซื้อคันใหม่ดีกว่า ขายตอนนี้ขาดทุนแน่ๆแต่ว่าถ้าขืนใช้ด้วยความรักอย่างเดียวในอนาคตขาดทุนหนักกว่านี้อีก  :-[
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 16:03:03
จำได้ละเอียดจริงๆครับ
ที่ควรตำหนิที่สุดน่าจะเป็น ลูกค้าสัมพันธ์
พูดเหมือนไม่อยากสัมพันธ์กับพี่เลยครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: P1K1 ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 16:14:45
โชคร้ายจังนะครับ

ขอให้รถหายละกันครับ

ขอให้รถหายเลยเหรอครับนี่มันแช่งกันชัดๆ ;D ;D
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 16:16:16
อ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาวววววว

ผมไม่เห็นนะเีนี่ย รถผมอะขายไปปีกว่า ๆ แล้วครับ คือมันด้งตั้งแต่ต้นเหมือนกัน

แต่ ของผม ช่างบอกว่า ปรกติ เลย ทน ๆ ไปครับ เอาไปทำรถให้เช่าตัดรำคาญ แล้วถึงขายไป ไม่ขาดทุนมาก


โห เสียดายนะ ผมอะ ใจดี มากกว่าเจ้าของกระุทู้บานเลย ที่ยอมรับเอาโง่ ๆ แบบนั้น

เซ็งแทนครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: J!MMY ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 16:52:19
เอาละ

ทนไม่ไหว  ได้คุยกับทาง หนั่งใน ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของฮอนด้าแล้วครับ

โทรถามกัน แล้วหลังจากนั้น พี่เขาก็โทรกลับมา คุยกันยาวเลยทีเดียว เป็นปกติ

เรารู้ว่า ปัญหานี้ มันจะต้องแก้กันที่โรงงาน (เป็นประจำละฮอนด้าหนะ)
ถ้าจะว่ากันที่ต้นเหตุแล้ว มันมาจาก แบริ่งตัวนึง ที่ว่าถ้ามันร้อน มันก็ อาจมีการขยับตัวได้นิดนึง
และมันคือที่มาของเสียง นี่คือที่ฟังมา นะครับ

ทีนี้ ถ้าในกรณีรถใช้งานมาไม่เท่าไหร่ ฮอนด้า เค้ามองว่า เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อปัญหา
และทำให้ลูกค้าสบายใจกว่า ได้ใช้เครื่องใหม่ไปเลย ก็เลยจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ทั้งลูกดีกว่า
เพราะ ถือว่าเป็นการแก้ให้เลยดีกว่า

แต่ในมุมของลูกค้า ผมก็ไม่ยอมให้มีการเปลี่ยนเครื่องใหม่ ถ้ามันไม่ได้พังอะไรมากมายนัก เว้นแต่ หนักหนาจริงๆ อันนั้นพอเข้าใจได้อยู่

แต่ ถ้าจะถึงขั้นว่า ฮอนด้า มักใช้วิธีสลับเอาเครื่องเก่า ไปให้ลูกค้าคนอื่น อันนั้น บอกเลยว่า ตามระเบียบปฎบัติแบบนั้น มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นจริงครับ
แต่ ผมก็ไม่ทราบอีกแหละว่า ที่คุณไปเจอมานั้น ไปเจอมาจากดีลเลอร์รายไหนกันมา ถ้าจะกรุณา ก็ควรจะแจ้งชื่อดีลเลอร์ลงมาในบอร์ดไปเลย
เพื่อความบริสุทธิ์ใจของคุณ ดีกว่า จะยกกล่าวอ้างขึ้นมาลอยๆแบบนี้ครับ

สิ่งที่ ฮอนด้ามองคือ อยากจะขอโอกาสกับลูกค้า ในการแก่ไขความบกพร่องที่ ไม่มีใครอยากให้เกิด

ส่วนผม มองว่า ถ้าเป็นผม ผมจะให้โอกาสฮอนด้า ไม่เกิน 1-2 ครั้ง และ ถ้ามันยังไม่ดีขึ้น
ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการเจรจากันแล้วละ

ดังนั้น สิ่งที่ผมจะรอดูจากนี้ไปคือ รอดู ว่า ปัญหาเครื่องดังคราวนี้ จะหายไป ภายในช่วง เดือน กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้หรือไม่
และ อยากจะตามดูต่อไปว่า บรรดาชาวเว็บทั้งหลาย จะยังคงโพสต์เรื่องนี้กันต่อ จนถึงเมื่อไหร่

สิ่งที่อยากจะขอฝากเตือน ทั้งฝ่ายบริษัทรถยี่ห้อใดก็ตาม หรือฝ่ายลูกค้า คนใดก็ตาม เตือนกันทั้ง 2 ฝ่ายนั่นละ
ก็คือ อย่าพยายามใช้พื้นที่เว็บของผม ในการสร้างกระแส หรือสร้างสถานการณ์อะไรที่ไม่เข้าท่า ในเวลาลังจากนี้ นะครับ

ผมรู้เมื่อไหร่ ผมจะลงมือเปิดโปงด้วยตัวเอง แน่ๆ ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม กันละ!
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ พฤศจิกายน 04, 2009, 22:42:52
โรงงานก็ควรจะแก้ปัญหาซะนะครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: Wondering ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 10:43:56
เรื่องการสับเปลี่ยนอะไหล่จากรถคันอื่นมาใส่แทนนั้น แน่นอนครับบริษัทก็ต้องพูดว่าไม่มีนโยบายหรือระเบียบปฏิบัติแบบนี้แน่นอน (ใครล่ะจะกล้าออกมาพูดแบบนี้ จริงมั๊ย) ซึ่งผมก็เชื่อว่า บริษัทไม่มีนโยบายทำเช่นนั้นจริงๆ

แต่เท่าที่ผมทราบ หรือพบเจอมา มันเห็นอยู่บ่อยๆ ครับ เช่นที่นี่เป็นต้น
http://civicesgroup.com/forum/post183940
และเท่าที่จำได้ ก็เคยอ่านเจอมาอีกในหลายๆ เคส แต่ผม google หาไม่เจอแล้วครับ

ฉะนั้น...เรื่องที่เกิดขึ้น จึงมาจากตัวดีลเลอร์ หรือช่างซ่อมในศูนย์นั้นๆ แอบทำการเองโดยพลการ ถ้าลูกค้าไม่รู้ จับไม่ได้ ดีลเลอร์ก็รอดตัวไป คนรับกรรมคือลูกค้า ถ้าเกิดลูกค้าจับได้ขึ้นมาล่ะ ดีลเลอร์บ่ายเบี่ยง แก้ตัว ปฏิเสธ หรือยอมขอโทษก็ตาม บริษัทใหญ่ก็เอาตัวรอดอยู่ดีด้วยการที่ออกมาพูดว่า "เราไม่ีมีระเบียบปฏิบัติแบบนี้แน่นอน" แล้วดีิลเลอร์รายนั้้นๆ ปัจจุบันก็ยังเห็นเปิดบริการกันต่อไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: nobita ที่ พฤศจิกายน 05, 2009, 11:33:59
เอาละ

ทนไม่ไหว  ได้คุยกับทาง หนั่งใน ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของฮอนด้าแล้วครับ

โทรถามกัน แล้วหลังจากนั้น พี่เขาก็โทรกลับมา คุยกันยาวเลยทีเดียว เป็นปกติ

เรารู้ว่า ปัญหานี้ มันจะต้องแก้กันที่โรงงาน (เป็นประจำละฮอนด้าหนะ)
ถ้าจะว่ากันที่ต้นเหตุแล้ว มันมาจาก แบริ่งตัวนึง ที่ว่าถ้ามันร้อน มันก็ อาจมีการขยับตัวได้นิดนึง
และมันคือที่มาของเสียง นี่คือที่ฟังมา นะครับ

ทีนี้ ถ้าในกรณีรถใช้งานมาไม่เท่าไหร่ ฮอนด้า เค้ามองว่า เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อปัญหา
และทำให้ลูกค้าสบายใจกว่า ได้ใช้เครื่องใหม่ไปเลย ก็เลยจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ทั้งลูกดีกว่า
เพราะ ถือว่าเป็นการแก้ให้เลยดีกว่า

แต่ในมุมของลูกค้า ผมก็ไม่ยอมให้มีการเปลี่ยนเครื่องใหม่ ถ้ามันไม่ได้พังอะไรมากมายนัก เว้นแต่ หนักหนาจริงๆ อันนั้นพอเข้าใจได้อยู่

แต่ ถ้าจะถึงขั้นว่า ฮอนด้า มักใช้วิธีสลับเอาเครื่องเก่า ไปให้ลูกค้าคนอื่น อันนั้น บอกเลยว่า ตามระเบียบปฎบัติแบบนั้น มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นจริงครับ
แต่ ผมก็ไม่ทราบอีกแหละว่า ที่คุณไปเจอมานั้น ไปเจอมาจากดีลเลอร์รายไหนกันมา ถ้าจะกรุณา ก็ควรจะแจ้งชื่อดีลเลอร์ลงมาในบอร์ดไปเลย
เพื่อความบริสุทธิ์ใจของคุณ ดีกว่า จะยกกล่าวอ้างขึ้นมาลอยๆแบบนี้ครับ

สิ่งที่ ฮอนด้ามองคือ อยากจะขอโอกาสกับลูกค้า ในการแก่ไขความบกพร่องที่ ไม่มีใครอยากให้เกิด

ส่วนผม มองว่า ถ้าเป็นผม ผมจะให้โอกาสฮอนด้า ไม่เกิน 1-2 ครั้ง และ ถ้ามันยังไม่ดีขึ้น
ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการเจรจากันแล้วละ

ดังนั้น สิ่งที่ผมจะรอดูจากนี้ไปคือ รอดู ว่า ปัญหาเครื่องดังคราวนี้ จะหายไป ภายในช่วง เดือน กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้หรือไม่
และ อยากจะตามดูต่อไปว่า บรรดาชาวเว็บทั้งหลาย จะยังคงโพสต์เรื่องนี้กันต่อ จนถึงเมื่อไหร่

สิ่งที่อยากจะขอฝากเตือน ทั้งฝ่ายบริษัทรถยี่ห้อใดก็ตาม หรือฝ่ายลูกค้า คนใดก็ตาม เตือนกันทั้ง 2 ฝ่ายนั่นละ
ก็คือ อย่าพยายามใช้พื้นที่เว็บของผม ในการสร้างกระแส หรือสร้างสถานการณ์อะไรที่ไม่เข้าท่า ในเวลาลังจากนี้ นะครับ

ผมรู้เมื่อไหร่ ผมจะลงมือเปิดโปงด้วยตัวเอง แน่ๆ ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม กันละ!

แวะตามมาอ่าน  และต้องขอบคุณ K.Jimmy ที่บอกลายระเอียดที่ได้โทรไปคุย ผมเลยอยากจะถามเพิ่มเติมนิดหน่อยอะครับ
จาก  ถ้าในกรณีรถใช้งานมาไม่เท่าไหร่ ฮอนด้า เค้ามองว่า เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อปัญหา
และทำให้ลูกค้าสบายใจกว่า ได้ใช้เครื่องใหม่ไปเลย ก็เลยจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ทั้งลูกดีกว่า
เพราะ ถือว่าเป็นการแก้ให้เลยดีกว่า
แล้วในกรณี อย่างรถที่ใช้มานานแล้ว อย่างผมซึ่ง ปัญหา มันเกิดมานานแล้ว
แต่แก้กันไม่ตรงต้นเหตุ แต่พอเจอต้นเหตุ กลับมาบอกผมว่า เปลี่ยนแค่ อะไหล่บางตัว ที่มีปัญหา เหตุผล เพราะรถ วิ่งเกิน 20000 โลแต่รถออกใหม่ เปลี่ยนทั้งเครื่อง
เลยอย่างจะถามความคิดเห็น ซักหน่อย ว่าผมควรทำไงดีอะครับ พอดีเป็นรถที่ซื้อเองคันแรกยังใหม่ๆ อยู่ ขอบคุณมากครับ

ปล. ไม่ได้มาสร้างกระแสให้มันมากขึ้นนะครับ พอดีเห็นมีกระทู้นี้ แล้วมีผู้ เชียวชาญอยู่เลยขอปรึกษาหน่อย
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: suwanich ที่ พฤศจิกายน 07, 2009, 13:07:53
น่าสงสารคนมีตังซื้อ ซีวิค

ส่วนตัวคิดว่าเค้าเปลี่ยนเครื่องให้ใหม่ก็รับได้นะครับ
แต่ถ้ารื้อเครื่องมาเป็นชิ้นแล้วใส่กับ โดยฝีมือช่างศูนย์ก็น่ากลัวอยู่

เอาใจช่วยแล้วกันครับ อย่าเพิ่งไปคิดถึงเหตุการที่ยังไม่เกิด
หัวข้อ: Re: เรื่องน่าเศร้ากับ Honda Civic ภาค 2
เริ่มหัวข้อโดย: bytebird ที่ พฤศจิกายน 10, 2009, 15:48:41
เมื่อซักประมาณกลางเดือนที่ผ่านมา พ่อแฟนผมจะซื้อ Civic 1.8 นี่ล่ะ
ดีน่ะที่ผมได้ทราบเรื่องราวพวกนี้ก่อน (ที่จริงก็พอทราบอยู่ว่ามาตรฐาน Honda มันอยู่ในระดับไหน) และประจวบเหมาะกับมีคนรู้จักใช้อยู่คันนึง และเจอปัญหาแอร์เหม็นแก้ไม่หาย (ตอนนี้น่าจะชินจมูกแล้วมั้ง ก๊ากกกกก)
ก็เลยเล่าให้ฟัง สุดท้ายพ่อแฟนก็เลยไปออก Mazda 3 Life สีขาวแทน ได้ Option อัดแน่น แม้เครื่องยนต์ 1.6ตัวนี้จะไร้ซึ่งพละกำลังเลยก็ตาม เอาน่าเจ้าของรถอายุ 50กว่าแล้ว ขับเรื่อยๆ ไม่รีบๆ

ไม่งั้นถ้าแนะนำให้ไปออก Civic แล้วเจอปัญหาแบบนี้หรือปัญหาอื่นก็ตาม ผมคงมองหน้าพ่อแฟนไม่ติดแหงๆ - -"