Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: C.Pipoppinyo ที่ มีนาคม 30, 2013, 14:00:02
-
เกริ่นก่อนว่าตอนนั้นเป็นช่วงที่ผมไปโครงการ work and travel ที่อเมริกา โดยทำงานคืองานเป็นลานจอดรถของเอกชนในเมือง boston ที่รัฐMA
ได้เงินตกประมาณวันละ 60-70 usd ซึ่งก็พอกินพอเก็บไว้เที่ยว ซื้อของ ในระยะเวลา 4 เดือนที่ไปแบบสบายๆเหลือๆถ้าไม่คิดจะเก็บมาคืนที่บ้าน
ที่นี้ด้วยความที่อยากทำงานได้เงินเยอะๆ จะไปหางานที่สองทำก็เวลาไม่ค่อยมี แถมได้เงินน้อย ยกเว้นงาน 1 งานคืองานเดลิเวอรี่ ซึ่งมีรุ่นพี่คนนึงไปทำอยู่ก่อน ตกรวมทั้งหมดแล้วได้ทิปด้วยวันละ 200 ดอล ผมเลยตัดสินใจเอาเงินเก็บที่ทำงานมาไปหาซื้อรถบ้าง ก็ได้คันนี้มาในราคา 1200 USD ครับ
(http://<img src='[url=http://img1.uploadhouse.com/fileuploads/17502/175023298f42c20429bc0649147541325ddd329e.jpg']http://img1.uploadhouse.com/fileuploads/17502/175023298f42c20429bc0649147541325ddd329e.jpg'[/url] /><br /><font size=\'1\'><a href=\'[url=http://www.xn--l3cohvi9am6a7e5d.net]http://www.xn--l3cohvi9am6a7e5d.net[/url]\' target=\'_blank\'>อัพโหลดรูป</a></font>)
เป็น nissan sentra ปี 95 หรือที่ไทยก็จะเป็นรุ่น sunny saloon ครับ โดยหารกับน้องอีกคน ให้เขาไว้ไปทำงานเดลิเวอรี่ที่นั่นด้วย แบ่งวันกันขับ ก็ดีครับ สองอาทิตย์ก็คืนทุนค่ารถแล้ว เหลือแต่ค่าประกัน
ภายใน สภาพผมไม่สนใจเท่าไหร่เอาเครื่องดีไว้ก่อน ต้องเอามาทำงานหาเงินอย่างเดียวตอนนั้น วัดรอบก็ไม่มีให้ง่ะ แต่มีแอร์แบ็ค ครูสคอนโทรลนะ
-
ลงรูปไงเหรอครับ ผมฝากรูปในเวปแล้วมันไม่ขึ้น ต้องใช้เวปไหนหรือเปล่าอะครับ
-
ลงรูปไงเหรอครับ ผมฝากรูปในเวปแล้วมันไม่ขึ้น ต้องใช้เวปไหนหรือเปล่าอะครับ
แนบให้ หน้า และหลังครับ
-
ภายใน และ พวงมาลัย
-
เกียร์และตูด ;)
-
ขอบคุณมากครับ ;D
รีวิวต่อเลยนะ ได้รถมาในราคาสามหมื่นหกพันบาท ประกันต้องจ่ายอีกร่วมสามหมื่นแต่จ่ายแยกรายเดือน เดือนแรกตกสองหมื่นกว่า ก็รับรถมาจากคนขายชื่อ สตี๊ฟ เป็นคนจีนครับ
รถคันนี้ผมเอามาทำงานส่งพิซซ่าครับ ก็คุ้มดี ได้เงินคืนในเวลาอันรวดเร็วและทำกำไรได้นิดหน่อย
อัตราเร่งผมไม่ได้ทำไว้นะครับ แต่ถ้าเทียบกับคันที่ขับที่ไทยมาพวกae101 หรือ city cng อัตราเร่งตอนตีนต้นพอๆกันกับ city cng ผมทำได้ 0-100 อยุ่ที่ 14.67 วิ คันนี้น่าจะตก 15-16 วิครับ
น้ำมันที่เติมก็เป็นน้ำมันอะไรไม่รู้เหมือนกัน ผมเลือกถูกสุดที่นั่นลิตรตกยี่สิบกว่าบาท น่าจะเป็น e20
ตัวรถเองมี airbag เป้นอุปกรณ์มาตรฐานทุกคัน และต้องตรวจสภาพทุกปี แต่ผมอยู่ไม่นานเลยไม่ได้ใส่ใจครับ
-
ภายในเป็นเบาะผ้า นั่งนิ่มสบายดี วัสดุภายในก็ก๊องแก๊งตามสภาพครับ
จุดเด่นคือความกว้างขวางภายใน นั่งอัดกัน 5 คนไปทำงานประจำแบบไม่อึดอัด
ช่วงล่างไม่ค่อยได้ทดสอบเลยครับ ถนนในเมืองมันดีเกินไป โค้งก้ทำซะไม่มีโอกาสได้ลองทิ้งโค้งแรงๆเลย แถมยางยังเป้นยางแก้มสูง ก็นิ่มสบายกันไป
อ่า แล้วเวลาจอดที่นั่น ต้องจอดแบบเคร่งครัดว่าวันไหนจอดได้ฝั่งไหนบนถนน เคยจอดผิดทีนึง โดนค่าปรับไปหกพัน ค่าลากรถอีกสี่พัน ขี้แตกกันทีเดียว ตอนลงมานึกว่ารถหายตกใจมาก แต่คนแถวนั้นบอกโดนลากไปแล้วเพราะจอดบังเค้าจะกวาดถนน :-\
-
อย่าลืมกลับมาต่อนะครับ รออ่านครับ
-
บทบาทของรถคันนี้นะครับ หลักๆคือทำงานส่งพิซซ่า และพาพวกเราเด็กไทยในบ้านเดียวกันไปชอปปิ้งท่องเที่ยวในเมืองboston รัฐMA ที่เป็นรัฐที่ในหลวงพระราชสมภพที่นั่น จะมีจตุรัสของในหลวงอยู่แถวๆม.ฮาร์วาร์ด สภาพบ้านเมืองจะเป็นเมืองใหญ่เก่าแก่ที่ผังเมืองยังไม่โอเคเท่าไหร่ ถนนหนทางดีแต่ซอยเยอะไปหน่อย
การเดินทางด้วยความที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในบ้านเมืองมั่กๆ ที่ผ่านมานั่งแต่รถไฟกับรถบัส เราเลยต้องลงทุนซื้อGPSของการ์มินมาติดรถไว้ ระบบนำทางก็ดีใช้ได้ครับ ว่องไวละเอียดดี เวลาจะเดินทางก็ตั้งพิกัดแล้วไปเอาเหมือนที่ไทย
ซึ่งGPSอันนี้ต้องใช้เวลาไปส่งพิซซ่าด้วยเพราะเรายังไม่ชำนาญทาง ปัจจุบันแบกกลับมาที่ไทยยังหาร้านลงซอฟแวร์ไม่ได้ ไม่มีแมพไทย ;D
นอกเรื่องไปที่งานของผมเวลาทำที่นั่น ปกติคนที่อยู่ในเมืองใหญ่นี่จไม่ค่อยนิยมใช้รถยนต์เพราะค่าที่จอดแพงมว๊ากกกกกกกกกกก เช่นที่ลานจอดผม เวลามาจอดคิดชั่วโมงละ 300 บาท แถมต้องวางค่ามัดจำไว้ด้วย แล้วเวลากลับมาติ๊กบัตรก็จะคิดเงินตามเวลา เกินไปนาทีนึงก็คิดครึ่งชั่วโมง ได้ฟักแฟงจากลูกค้าบ่อยดี :P
ทีนี้ด้วยวามที่ผมทำงานลานจอดรถ เลยจอดฟรีเกือบทั้งเมืองที่มีสาขาของบริษัทตั้งอยู่ เป็นจุดได้เปรียบอย่างหนึ่งที่ตัดสินใจซื้อรถด้วย ใบขับขี่ก็ใช้ใบขับขี่สากล ไปทำที่ขนส่งที่ไทย แนบพาสปอร์ตพร้อมใบขับขี่ไปกับเงิน500ก็ได้มาแล้วครับ ใครจะไปต่างประเทศเอาวิธีนี้ไปใช้ได้
-
งานที่ทำนี่เป้นงานลานจอดรถ ที่พอลูกค้าเข้ามาที่ลานจอด ก็ขับรถเข้ามา แล้วยื่นกุญแจมาให้ผมเอารถไปเก็บให้ ผมก็ขับไป เป็นโชคดีของเด็กบ้ารถคนนึงที่ได้ใช้เวลาที่นั่น test drive แบบ first impression กับรถนานายี่ห้อนานาสายพันธุ์ที่มีมาเยอะม๊าก วันละเป็นร้อยคัน ;D บางคันก็ถ่ายภาพเก็บไว้ช่วงแรกๆ หลังๆเริ่มขี้เกียจแล้ว ไว้จะเอารูปมาลงให้ดูครับ
ระยะทางขับก็ไม่ไกลมากครับ ราวๆร้อยเมตร หมุนๆวนๆหาที่จอดในลานจอด ไม่ได้เทสต์อะไรจริงจัง แอบเสียดายบางทีพวก porsche lambo ferrari GTR imprezza อะไรพวกนี้ขับเข้ามาแล้วเราได้ลองปล่อยม้าลงพื้นดังเอี๊ยดเล่นแล้วไม่มีโอกาสขับไกลๆนี่น่าเจ็บใจเหมือนกัน :D
-
รอติดตามต่อครับ :D
-
มาต่อเรื่องรถ นอกเรื่องไปไกล แต่เดี๋ยวก็ไปอีก ;D
handling ของรถคันนี้เป็นอะไรที่โอเคมากนะถ้าเทียบกับรถที่ผมมีโอกาสได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยนานๆ คมและหนักกำลังดี เป็นพวงมาลัยพาวเวอร์อะไรสักอย่าง ไม่ใช่ไฟฟ้าแน่นอน หนืดกำลังดีในย่านความเร็วต่ำ ได้ลองขึ้นไฮเวย์ขับไกลก็นิ่งไม่วอกแวก ดีกว่าcity cng คันที่ใช้ของแม่ กับtfrคันที่ใช้เองเยอะมาก
ในย่านความเร็วสูงบนไฮเวย์ไม่ค่อยร่อน แต่โค้งไม่ค่อยมั่นใจ อาจเพราะยางแก้มสูงหน้าแคบกับล้อกระทะก็มีส่วน มันวูบๆเวลาโค้งยาวๆเหมือนกัน
เกียร์เป็นเกียร์อัตโนมัติกี่สปีดไม่รู้ครับ ไม่ค่อยฉลากเท่าไร คิกดาวน์แล้วคิดนานไปนิด ต้องรอมันเปลี่ยนเกียร์ลงแล้วค่อยแซง เครื่องก็ แหะๆ ไม่ได้มีเรี่ยวแรงสักเท่าไหร่ ขึ้นไปส่งพิซซ่าบ้านที่อยู่บนเนินนี่รู้เลยว่าอืดมาก อาจเพราะตัวรถค่อนข้างใหญ่นิดนึง
เครื่องเสียงเป้นวิทยุเทป ไม่ได้ฟังไรเท่าไหร่ ฟังภาษาอังกฤษทางวิทยุไไม่ค่อยรู้เรื่อง เสียงเพลงก็หาเบสไม่ค่อยเจอ
ใช้ไปพักนึง ด้วยความที่ต้องเติมน้ำมันเอง สุดท้ายวันนึงก็เอาจนได้ครับ ลืมไปว่าไม่ได้ปิดจุกฝาถังน้ำมัน ลืมไว้ที่ปั๊มไหนไม่รู้ :P
แต่ก็มีตัวล็อกโลหะชั้นนึง ก้ทนใช้มันไป เอาไว้ส่งพิซซ่าหาเงินใช้
-
กำ เพิ่งเห็นว่ามันเป็นรถปี 95 อิอิ ลงภาพอีกก่อน สภาพปุปะ ไม่มีโป๊วสีอะไรทั้งนั้น สีสเปรย์พ่นฟืดๆเอาเวลามีรอยอะไร ของแถมมาจากบักสตีฟที่ขายรถมาให้
เวลาซื้อรถที่นั่นผมให้สตีฟนี่แหละจัดการให้เรื่องเอกสารกับนายหน้าเวลาตรวจสภาพ เพราะถ้าตรวจจริงแล้วไม่ผ่านจะโดดนอะไรเยอะมาก พี่ผมซื้อซิวิคfd มาสองแสนกว่าบาท แล้วไปเช็คสภาพจดทะเบียนเอง โดนไปอีกเกือบแสน อะไหล่รถที่นี่แพงมาก ส่วนใหญ่ใช้แล้วทิ้งทั้งนั้น
ประกันก็แพงกว่ารถอีกครับ แต่ผ่นอจ่ายได้ และรถทุกคันที่นี่มีประกันทุกคันครับเค้าบังคับ
พูดถึงค่าใช้จ่ายเวลามีรถที่นี่จะเยอะกว่าที่ไทยพอควร โดยเฉพาะการจอด ลำบากมาก คนเลยไม่ค่อยใช้รถ แต่จริงๆรถก็เยอะอยู่นะ ;D
เหลืออะไรให้รีวิวอีกหว่า อ่อ เอานอกเรื่องอีกนิด รถคันนี้ตามวัตถุประสงค์คือเอาไว้ส่งอาหาร น้องที่หารเงินซื้อใช้สองวันคือเสาร์อาทิตย์ที่ไปส่งของให้ร้านอาหารไทย ส่วนผมส่งให้ร้านพิซซ่าชื่อร้านpapa john จันทร์ถึงศุกร์
ค่าแรงปกติที่ลานจอดผมได้8เหรียญนิดๆ โอทีก็คูณสองไป วันนึงทำแปดชั่วโมง แต่ส่วนใหญ่ผมขอโอทีเอา เพราะงานไม่มีไร นั่งรอรถเข้า ขับจอดแล้วก็นั่ง ไม่ได้เป็นรปภ.อะไรหรอก เฝ้ารถกะกุญแจอย่างเดียว ได้เยอะเงินเหมือนกันกินใช้สบาย แต่ไม่พอจะเก็บเงินให้ได้สองแสนกลับบ้านในสามเดือน เลยซื้อรถนี่แหละ
ร้านพิซซ่าที่เป็นจ็อบสองนี่ได้ชั่วโมงละ 10 เหรียญ งานก็นั่งเฉยๆ เบื่อๆก็ไปช่วยเค้าแพ็คพิซซ่า มีคนโทรมาก็วิ่งออกไปส่งตามที่อยู่ที่ให้มา ทุกครั้งที่ออกได้อีก 2 เหรียญ ไปถึงก็มีทิปอีกแล้วแต่คนให้ บางทีไปสายโดนด่าก็มี ให้ที่อยู่ผิดก็มี ท้าทายดีเพราะต้องทำเวลา งั้นกลับมาก็ต้องรอคิวนาน เพราะเด็กส่งอาหารมีหลายคน คนที่กลับมาไวจะได้คิวเยอะกว่า
บางคนอาจสงสัยทำไมไปส่งของไม่ใช้มอไซค์ มันไม่ไหวครับ ผมไปสั้นๆ ช่วงกำลังหนาว เดินยังไม่ไหว ขี่มอไซค์ลืมไปเลย แถมมอไซค์มือสองนี่แพงเอาเรื่อง ไม่มีเวฟหรือสกู๊ตเตอร์เลย มีแต่บิ๊กไบค์
เด็กเดลิเวอรี่ในร้านส่วนใหญ่ขับแต่มินิเพราะมันจอดง่าย นิสสันผมนี่กากสุดในร้านแล้ว และก็มีรถสำรองที่ร้านคือรถไครสเลอร์เก่าๆคันนึง ตอนหลังผมต้องไปขับคันนั้นแหละ เพราะอะไรเหรอ
เพราะน้องเขียวมันพังครับ คาตรีนเลย :'(
-
เมืองไทยแอร์แบก กะครุสคอนโทรล หายไปไหนหมด
ทำไมบ้านเราต้องโดนตัดออฟชั่นแทบทุกรุ่น :'(
_____________________________________
รถถูกจังครับ สงสัยเพราะมีระบบการขนส่งที่ดีมาก คนไม่ต้องซื้อรถก็ได้
ถ้าขายเเพงคงขายไม่ออก ;D
-
ขนาดกากๆ นะ
รถดูสะอาดสะอ้าน
น่าขับน่าใช้มาก
-
ขอบคุณคร๊าบ