Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: BadBoy ที่ เมษายน 17, 2013, 17:23:31
-
คือตอนนี้ผมขับ swift 2012 อยู่ เคยได้ยินมาว่า มีกล่องที่สามารถเปลี่ยนให้สามารถเติม e85 ได้ เลยอยากสอบถามว่า มีท่านใดไปติดเจ้ากล่องนี้มาแล้วบ้างครับ มันมีผลเสียอะไรกับเครื่องยนต์หรือเปล่าครับ แล้วมันจะวิ่งอืดกว่าเดิมไม๊ แล้วอัตราการบริโภคน้ำมันของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นหรือป่าวครับผม ราคาประมาณเท่าไหร่ครับผม ขอบคุณครับ
-
รู้สึกมอเตอร์โชว์มีโปรอยู่ 5พันบาทครับ ตอนนี้น่าจะ7พันแล้ว เฉพาะกล่อง
มีผลอย่างไร ขึ้นอยู่กับการปรับจูนเป็นหลักครับ
-
ไม่แนะนำครับ กล่องต้องติดเสริมอยู่แล้ว
จาก E20 ->>E85 ตัองเปลี่ยนชิ้นส่วนเยอะมากนะครับ
ไม่งั้นมันทน E85 ไม่ได้ ไล่ตั้งแต่ ปั๊มติ๊ก ท่อยาง รางหัวฉีดต้องเปลี่ยน สเปคสูงทุกชิ้นครับ
ซึ่งราคาสูงมาก
ชิ้นส่วนปัจจุบันพอทนได้แต่ไม่นานก็รั่ว ทะลุ เคลมไม่ได้
ถ้าคุณคิดว่าคุ้มเสี่ยงก็ได้นะครับ
-
ไม่แนะนำครับ กล่องต้องติดเสริมอยู่แล้ว
จาก E20 ->>E85 ตัองเปลี่ยนชิ้นส่วนเยอะมากนะครับ
ไม่งั้นมันทน E85 ไม่ได้ ไล่ตั้งแต่ ปั๊มติ๊ก ท่อยาง รางหัวฉีดต้องเปลี่ยน สเปคสูงทุกชิ้นครับ
ซึ่งราคาสูงมาก
ชิ้นส่วนปัจจุบันพอทนได้แต่ไม่นานก็รั่ว ทะลุ เคลมไม่ได้
ถ้าคุณคิดว่าคุ้มเสี่ยงก็ได้นะครับ
+1
-
ทำได้ครับ แต่อย่าเลย
ผมเคยคิดจะทำ แต่ไม่เอาดีกว่า
สุดท้ายอนาคต จะซื้อเบนซิน ของ e85 ไว้ก่อน จากโรงงานนะ
-
ไม่แนะนำครับ กล่องต้องติดเสริมอยู่แล้ว
จาก E20 ->>E85 ตัองเปลี่ยนชิ้นส่วนเยอะมากนะครับ
ไม่งั้นมันทน E85 ไม่ได้ ไล่ตั้งแต่ ปั๊มติ๊ก ท่อยาง รางหัวฉีดต้องเปลี่ยน สเปคสูงทุกชิ้นครับ
ซึ่งราคาสูงมาก
ชิ้นส่วนปัจจุบันพอทนได้แต่ไม่นานก็รั่ว ทะลุ เคลมไม่ได้
ถ้าคุณคิดว่าคุ้มเสี่ยงก็ได้นะครับ
เรื่องจริงครับถ้าแค่จูนอย่างเดียวใช้ได้ทุกยี่ห้อทำมาหมดแล้วครับ ได้ส่วนลดภาษีมากกว่า
แล้วe85กัดจริงครับโดนสีรถทีด่างเลย
-
ขอบคุณทุกๆ ท่านที่ไขข้อข้องใจให้กับผมนะครับ เติม e20 ขับชิวๆ เหมือนเดิมดีกว่าเนอะ :D :D
-
ใช้ Swift ต้องดูครับว่าสายท่อน้ำมัน หรือชิ้นส่วนอื่นๆรองรับได้มากกว่า E20 ไหม ถ้าไม่นั่นคือปัญหา ต้องไล่เปลี่ยนให้รองรับ E85 ให้หมดครับ
ส่วนกล่องติดเพราะไปสั่งให้ ECU สั่งฉีดน้ำมันให้มากกว่าเดิม คือใช้ E85 จากกินน้ำมันกว่า E20 แต่ต้องลองคำนวณดูน่าจะพบว่า ราคาต่อระยะทางถูกกว่า คุ้มกว่าครับ
ถ้าอยากทำจริงๆ ผมก็ไม่รู้จะแนะนำที่ไหนครับ ผมใช้ Focus หลายคนในคลับบอกไม่ต้องทำ ติดกล่องพอแล้วลุยเลย ผมยังไม่กล้าเลย :(
-
ลองค้น ข่าวเก่าดูนะครับ รถ mazda3 ไฟไหม้บนสะพาน รัชวิภา .. ไม่ได้ติดแก๊สนะครับ เป็น E85 นี่แหละ
ทำท่อทาง ต่าง ๆ รั่วหมด .. ตามข้างบน
ถ้าจะใส่กล่อง .. รบกวนเปลี่ยนทุกอย่างที่เป็นท่อยาง .. ด้วยจะดีครับ
แต่ .. ลูกสูบฝาสูบ วาล์ว .. มันก็ไม่ได้ทน E85 นะครับ .. จุดนี้ผมไม่รู้ว่า E85 กับแก๊ส อันไหน กัดวาล์ว มากกว่ากัน
-
ข้างบ้านผมเป็นอาจารย์สอนช่างเครื่องยนต์ เค้าเอา volvo s60 ปี95 ไปติดกล่อง กับปรับนิดหน่อยก็เติม E85 ได้แล้วครับ
เค้ายังมาชักชวนให้พ่อผมเอารถคันเก่าที่บ้านไปติด เค้าบอกว่า ยังไงก็ไม่พัง เชื่อเถอะ
จริงๆถ้าหาช่างดีๆรู้ชิ้นส่วนที่จำเป็นต้องเปลี่ยนก็น่าจะใช้ได้นะครับ
เรื่องอัตราการบริโภคน้ำมันต่อลิตรแล้วสูงขึ้นนิดหน่อย แต่ถ้าคิดเป็นจำนวนเงินยังไงก็ถูกลงครับ
-
E20 ก็เพียงพอ ดีกว่าจะเสี่ยงครับ
-
ติดได้ จริงจรีิง
รู้จัก ช่าง วินัย ไหมครับ เค้าคอนเฟริมกับผม รถพี่เค้าก็ติด ใช้มาสามปีแล้วครับ
E85 ต้องติดชุด kit เพราะ กระบอกสูบต้องยกมากขึ้น เพราะ ต้องฉีดน้ำมันเพิ่มขึ้น แค่นั้น อยู่ที่ ๗ พัน
แอลกอฮอล ทั่วไป จะทำให้ยางเปลื่อย
แต่ E85 ณ ปัจจุบัน เติมสารป้องกันมาแล้ว สาย น้ำมันรับได้ ครับ ;D ;D
-
ติดได้ จริงจรีิง
รู้จัก ช่าง วินัย ไหมครับ เค้าคอนเฟริมกับผม รถพี่เค้าก็ติด ใช้มาสามปีแล้วครับ
E85 ต้องติดชุด kit เพราะ กระบอกสูบต้องยกมากขึ้น เพราะ ต้องฉีดน้ำมันเพิ่มขึ้น แค่นั้น อยู่ที่ ๗ พัน
แอลกอฮอล ทั่วไป จะทำให้ยางเปลื่อย
แต่ E85 ณ ปัจจุบัน เติมสารป้องกันมาแล้ว สาย น้ำมันรับได้ ครับ ;D ;D
สารป้องกันอะไรครับ ช่วยขยายความหน่อย แล้วสารนั้นคืออะไรครับ
-
ราคาน้ำมันต่อระยะทางลดลงกี่%คะ ถ้าเทียบกับ e10
-
ราคาน้ำมันต่อระยะทางลดลงกี่%คะ ถ้าเทียบกับ e10
วิ่งทางไกล รถที่เติม E20 คุ้มที่สุดครับ
เนื่องจากบาทต่อลิตรถูกกว่า แต่ กิโลเมตรต่อลิตรแทบจะใกล้เคียงกัน
ถ้าวิ่งในเมือง รถที่เติม E85 ได้ จะคุ้มค่ากว่า
เมื่อเทียบกับการจอดเฉยๆเผาน้ำมันทิ้ง
แต่ถ้าลากรอบสูงๆ หรือขับนอกเมือง E85 จะใช้เยอะ แทบไม่แตกต่างครับ
สรุปคือ
วิ่งนอกเมือง = E20 >>> อัตราสิ้นเปลืองไม่ต่างกับ E10(หรือด้อยกว่านิดหน่อย) แต่ราคาน้ำมันต่าง
วิ่งในเมือง = E85 >>> อัตราสิ้นเปลืองต่าง แต่รถจอดนิ่งๆ บาทต่อกิโลเมตรถูกกว่า
-
ส่วนตัวผมก็สงสัยเรื่องนี้อยู่เหมือนกันครับ แต่ข้อมูลในเน็ตแบ่งออกเป็นสองทางตั้งแต่ใช้ 3 ปีไม่พัง ยันจนกระทั่งกัดจนท่อรั่วไฟไหมกันไปเลย ฮา ถ้าว่ากันตามตรง ผมเชื่อว่าถ้าแค่ติดกล่อง หรือจูนกล่องแล้วใช้ได้จริง พวกค่ายรถคงทำมาออกมาเป็นจุดขายแล้วหละครับ(ได้ลดภาษีลงด้วย) แค่ซอฟต์แวร์เอง ส่วนพวกท่อทางต่างๆ ไม่มีความรู้จริงๆครับ
เคยดูรายการ Speed Talk มีคนโทรฯเข้าไปถามเรื่อง E85 เหมือนกันครับ (รู้สึกเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา) คุณโบ๊ทกับพวกก็บอกว่ามันไม่มีการทดสอบ การรับรอง พูดจริงๆ เค้าบอกว่าให้ไปติดแก๊สดีกว่า และก็ให้คำตอบไม่ได้นะครับว่าพวกชุทคิทต่างๆที่ขายกันมันเวิร์คจริงรึเปล่า สรุปเลยคือเค้าไม่แนะนำให้ไปทำครับ
ข้อมูลการดัดแปลง E85 ที่เชื่อถือได้จริงไม่มีเลยครับ ทำออกมาให้ได้กระจ่างเหมือน LPG ที่เราเห็นๆโฆษณากันอยู่ค่อยน่าเสี่ยงครับ การโฆษณาเกี่ยวกับการดัดแปลง E85 ถือว่าต่ำมากหรือไม่มีเลยก็ว่าได้ เป็นพวกชุดคิทติงต๊องซะมาก ไม่มีทำเป็นรายใหญ่ที่มีงบมากพอที่จะโฆษณาทีวี แถมทางค่ายรถก็ไม่เล่นด้วย ดันทำรุ่นติด CNG ออกมาซะมากกว่า บวกกับตัวแก๊สเอง มีแทกซี่เค้าทดสอบให้เรามาเป็นสิบปีแล้ว ผมเห็นพวกมอไซด์ยังติดกันเลย ตรงจุดนี้ในมุมของผู้ใช้รถอย่างผมที่ไม่มีความรู้ด้านช่างเลยก็คงไม่เชื่อและไม่กล้าไปติด E85 เองแน่ๆครับ กลัวได้ไม่คุ้มเสีย แต่อยากได้มาติดรถเก่าที่บ้านอยู่ครับ คงไม่กล้าหรอกครับ ฮา
แต่เร็วๆนี้เห็นว่ารัฐจะเลิกอุ้ม LPG ส่วน CNG ก็แย่งกันเติม เราอาจเห็นรถ E85 มากขึ้นก็ได้ครับ ตอนนีีที่เห็นก็มี Civic กับ S60 ที่พี่จิมมี่รีวิว จัดมาแล้วคันนึงไปเอารถพรุ่งนี้ครับ ฮา แต่แอบเสียดายนิดๆที่โมเดลปี 2014 เปิดตัว MC มาแล้ว สวยขึ้น แถมได้หน้าปัด 3 โหมดแบบ V40 ด้วย ฮ่าๆ เสียดายสุดก็ตรงนี้แหละครับ แต่กว่าจะเข้าเมืองไทยอีก ฮา
-
อ่านบางคลับมีเติมe85กันสดๆไม่เปลี่ยนท่อยางโอริงหรือแต่งกล่องอะไรเติมกันเป็นว่าเล่นก็มี เป็นหนูลองยากันไป
ใจผมก็อยากลองน่ะ สเปกได้แค่e20 แต่มาคิดอีทีมันจะประหยัดได้กี่บาทต่อโลกันเชียว
ถ้าราคาe20กับe85ห่างกันอีกสักสามบาทนี่คงไม่ลังเล
-
แต่ E85 ณ ปัจจุบัน เติมสารป้องกันมาแล้ว สาย น้ำมันรับได้ ครับ ;D ;D
สารป้องกันอะไรครับ ช่วยขยายความหน่อย แล้วสารนั้นคืออะไรครับ
ปตท และ บางจาก มี คุณภาพดี มีการเติมสาร additive หัวเชื้อป้องกันการกัดกร่อน และ ช่วยหล่อลื่นระบบน้ำมันเชื้อเพลิงตัวเดียวกับที่ใช้กันอยู่ใน Brazil และคุณภาพของเอทานอลที่ผสมอยู่ 85% ผลิตจาก บ.เพโทรกรีบ ซึ่งใช้มาตรฐานของ USA และ Sweden
Additives หรือสารเพิ่มประสิทธิภาพ มีขายในท้องตลาดมากมาย และมีทั้งที่ใช้เติมกับ น้ำมันเชื้อเพลิง และน้ำมันหล่อลื่น เราลองมาทำความรู้จักกับสารเหล่านี้ดู เพื่อเป็นพื้นฐานในการพิจารณา เลือกซื้อหามาใช้งาน
จุดเริ่มต้นของ additive นั้น มาจากยุค '60 สมัยนั้น คุณภาพของน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งดีเซลและเบนซิน ไม่ดีอย่างปัจจุบันนี้ และเป็นสาเหตุของ วาล์วไหม้ ท่อหัวฉีดหรือนมหนูอุดตัน เครื่องน็อค ประสิทธิภาพต่ำ มีการสะสมของละอองคาร์บอน ฯลฯ
ผู้ผลิตในยุคนั้น เช่น Redex. Bardhal, Wynn's จึงเริ่มคิดค้น สารที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ขึ้น ซึ่งสารที่ใช้ในยุคแรกๆ ก็คือ MoS2 ที่ปัจจุบันรู้จักกันดี นำไปผสมในน้ำมันเครื่อง ในสมัยนั้นรู้จักกันในชื่อของ Molyslip เมื่อมีการนำไปใช้งาน ก็พบว่า สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ของน้ำมันหล่อลื่นให้ดีขึ้น ทำให้ประหยัดการใช้เชื้อเพลิง และถนอมเครื่อง จึงนิยมกันแพร่หลาย
ส่วน additive สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิง เจ้าแรกๆที่ทำออกมาคือ Redex ในอังกฤษ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อ ทำความสะอาดระบบเชื้อเพลิง ตั้งแต่ถังน้ำมัน ยันห้องเผาไหม้
สารปรุงแต่ง Additives
สารซึ่งนำไปผสมกับผลิตภัณฑ์อื่นในปริมาณเพียง เล็กน้อย เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาวะทางเคมีหรือทางกายภาพของสินค้า เพื่อยืดอายุผลิตภัณฑ์หรือวัตถุประสงค์อื่นๆ แต่อย่างไรก็ตามสารปรุงแต่งอาจเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมได้ เช่น เตตระเอทิลลีด (teraethyl lead) ที่ใช้เติมในน้ำมันเพื่อป้องกันการน็อคของเครื่องยนต์ (anti-knock) โดยเพิ่มค่าออกเทนในเครื่องยนต์ที่มีแรงขับเคลื่อนสูง [สิ่งแวดล้อม]
ข้อดีของ E 85 ช่วยชาวไร่ มันสัมปะหลัง 85 % คือ เอทานอล ที่ผลิตจากมัน เงิรนไม่รั่วไหล
เป็นมิตรกับ เครื่องยนต์มากกว่า ( สะอาดกว่า เผาไหม้สมบูรณ์ ) นึกถึงเวลาเอา เอลกอฮอล์ไป เผา ไฟสีฟ้า กับ เบนซิน ควันดำ
( กรุณา อย่าเอา แอลกอลฮอลล้างแผล มาเทียบกับ แอลกอลฮอลใน E85 ถ้าถามว่า แอลกอฮอล กัดการยาง มำให้กรอบ จริงไหม ตอบจริง
แต่ไม่ใช่ แอลกอฮอล หรือ เอทานอล ใน E85 ณ ปัจจุบันนี้ ผมเคยเจอเว็บหนึ่ง เอา แอลกอฮลล ล้างแผล มาพูด .....เห้อ มา ช่วย ชาติกัน เถอะ
-
http://www.youtube.com/watch?v=WOAyoCo3xXA
ตัวแรกสุดที่จุดเป็น เบนซิน 90% เอทานอล 10%
ตัวที่สองที่จุดเป็น E85
( เลือกเอง ครับ )
-
ได้ความรู้เยอะเลยครับผม ขอบคุณทุกท่านมากๆ ครับ
-
ไม่แนะนำครับ กล่องต้องติดเสริมอยู่แล้ว
จาก E20 ->>E85 ตัองเปลี่ยนชิ้นส่วนเยอะมากนะครับ
ไม่งั้นมันทน E85 ไม่ได้ ไล่ตั้งแต่ ปั๊มติ๊ก ท่อยาง รางหัวฉีดต้องเปลี่ยน สเปคสูงทุกชิ้นครับ
ซึ่งราคาสูงมาก
ชิ้นส่วนปัจจุบันพอทนได้แต่ไม่นานก็รั่ว ทะลุ เคลมไม่ได้
ถ้าคุณคิดว่าคุ้มเสี่ยงก็ได้นะครับ
ท่อน้ำมันในรถผมตั้งแต่ปี1995 แบบจุ่มถังแบบSubmersible fuel hose ติดรถ ผมใช้น้ำมันE85 มา2000ลิตร
ไม่เป็นไร หากไปดูดีๆท่อน่ำมันติดรถพวกนี้มันมีเส้นใยAramid แบบเดียวกับในเสื้อเกราะกันกระสุน มันทนเอทานอล
อยู่แล้ว ปั๊มติ๊ก ลองบอกเหตุผลว่าทำไมต้องเปลี่ยน? E85 ใช้ปริมาณเชื้อเพลิงมากขึ้นจากGasohol 95 30%ครับ
ปั๊มติ๊กเดิมเอาอยู่สบาย เรื่องท่อยางผมตอบไปแล้ว รางหัวฉีดทำไมต้องเปลี่ยน ขอเหตุผลหน่อยครับ?
ลองค้น ข่าวเก่าดูนะครับ รถ mazda3 ไฟไหม้บนสะพาน รัชวิภา .. ไม่ได้ติดแก๊สนะครับ เป็น E85 นี่แหละ
ทำท่อทาง ต่าง ๆ รั่วหมด .. ตามข้างบน
ถ้าจะใส่กล่อง .. รบกวนเปลี่ยนทุกอย่างที่เป็นท่อยาง .. ด้วยจะดีครับ
แต่ .. ลูกสูบฝาสูบ วาล์ว .. มันก็ไม่ได้ทน E85 นะครับ .. จุดนี้ผมไม่รู้ว่า E85 กับแก๊ส อันไหน กัดวาล์ว มากกว่ากัน
อะไรคือคำว่ากัดวาล์วครับ? ชื้นส่วนที่ทำลูกสูบ วาล์วมันเป็นโลหะ ภายในวาล์วไอเสียจุโซเดียมอยู่ข้างใน
เวลาที่มันจุดระเบิดในChamber องศาในกระบอกสูบร้อนมหาศาล ในขณะที่น้ำมันE85 เย็น เย้น เย็น ยิ่งทำให้
อุณหภูมิในchamber ลดน้อยลงไปอีกครับ เพราะฉะนั้นหากลูกสูบ วาล์วมันทนแรงระเบิดในห้องเผาไหม้ได้ ลำพัง
แค่เอทานอล 85% มันบ่ยั่นดอกครับเจ้านาย ถ้าบ้านเรามีE100 ผมจะใส่E100เลย มีคนเคยเปรยติดตลกว่า
สงสัยถ้ามีE100 เหล้าในโรงกลั่นขายไม่ได้ แต่อันนี้เป็นแค่เรื่องโจ๊กครับ เคยมีมอเตอร์ไซดืเติมE85 2ถังพอเปิดฝาออกมา
ปรากฎว่าเขม่า บนหัวลูกสูบหายออกไปเยอะเลยครับ มันชะล้างพวกเขม่า คราบน้ำมันออกไปได้ดีพอสมควร
ส่วนตัวผมก็สงสัยเรื่องนี้อยู่เหมือนกันครับ แต่ข้อมูลในเน็ตแบ่งออกเป็นสองทางตั้งแต่ใช้ 3 ปีไม่พัง ยันจนกระทั่งกัดจนท่อรั่วไฟไหมกันไปเลย ฮา ถ้าว่ากันตามตรง ผมเชื่อว่าถ้าแค่ติดกล่อง หรือจูนกล่องแล้วใช้ได้จริง พวกค่ายรถคงทำมาออกมาเป็นจุดขายแล้วหละครับ(ได้ลดภาษีลงด้วย) แค่ซอฟต์แวร์เอง ส่วนพวกท่อทางต่างๆ ไม่มีความรู้จริงๆครับ
เคยดูรายการ Speed Talk มีคนโทรฯเข้าไปถามเรื่อง E85 เหมือนกันครับ (รู้สึกเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา) คุณโบ๊ทกับพวกก็บอกว่ามันไม่มีการทดสอบ การรับรอง พูดจริงๆ เค้าบอกว่าให้ไปติดแก๊สดีกว่า และก็ให้คำตอบไม่ได้นะครับว่าพวกชุทคิทต่างๆที่ขายกันมันเวิร์คจริงรึเปล่า สรุปเลยคือเค้าไม่แนะนำให้ไปทำครับ
ข้อมูลการดัดแปลง E85 ที่เชื่อถือได้จริงไม่มีเลยครับ ทำออกมาให้ได้กระจ่างเหมือน LPG ที่เราเห็นๆโฆษณากันอยู่ค่อยน่าเสี่ยงครับ การโฆษณาเกี่ยวกับการดัดแปลง E85 ถือว่าต่ำมากหรือไม่มีเลยก็ว่าได้ เป็นพวกชุดคิทติงต๊องซะมาก ไม่มีทำเป็นรายใหญ่ที่มีงบมากพอที่จะโฆษณาทีวี แถมทางค่ายรถก็ไม่เล่นด้วย ดันทำรุ่นติด CNG ออกมาซะมากกว่า บวกกับตัวแก๊สเอง มีแทกซี่เค้าทดสอบให้เรามาเป็นสิบปีแล้ว ผมเห็นพวกมอไซด์ยังติดกันเลย ตรงจุดนี้ในมุมของผู้ใช้รถอย่างผมที่ไม่มีความรู้ด้านช่างเลยก็คงไม่เชื่อและไม่กล้าไปติด E85 เองแน่ๆครับ กลัวได้ไม่คุ้มเสีย แต่อยากได้มาติดรถเก่าที่บ้านอยู่ครับ คงไม่กล้าหรอกครับ ฮา
แต่เร็วๆนี้เห็นว่ารัฐจะเลิกอุ้ม LPG ส่วน CNG ก็แย่งกันเติม เราอาจเห็นรถ E85 มากขึ้นก็ได้ครับ ตอนนีีที่เห็นก็มี Civic กับ S60 ที่พี่จิมมี่รีวิว จัดมาแล้วคันนึงไปเอารถพรุ่งนี้ครับ ฮา แต่แอบเสียดายนิดๆที่โมเดลปี 2014 เปิดตัว MC มาแล้ว สวยขึ้น แถมได้หน้าปัด 3 โหมดแบบ V40 ด้วย ฮ่าๆ เสียดายสุดก็ตรงนี้แหละครับ แต่กว่าจะเข้าเมืองไทยอีก ฮา
ปัญหาที่มองและกังวลเรื่องกล่องFlex Fuel ส่วนตัวผมไม่เคยลองใช้กล่องพวกนี้ หลักการทำงานของพวกนี้คือไปทำยังไงก็ได้ให้มันฉีดน้ำมันออกให้พอ
หรือยืดระยะเวลาการฉีดน้ำมันออกไป คราวนี้ ปัญหาที่ผมกลัวคือหัวฉีดมันจะMaxed out ในDuty Cycle ของมันเองรึป่าว? แต่ถ้ารถที่ไม่ได้มีการโมดิฟาย
เรื่องความแรงหัวฉีดติดรถน่าจะมีAllowance ได้ถึง30% จริงๆถ้าจะบางนิดหน่อยไม่เป็นไร E85 มันรับไหวครับ จริงๆถ้าจะให้ได้อรรถประโยชน์จริงๆจากE85
ทำไมรถสนามถึงใช้กันมากมาย เพราะคุณสามารถเพิ่มความแรงได้ง่ายเพราะรถที่ใช้E85 มันเตะองศาไฟแก่ขึ้นไปได้ทันที เพราะฉะนั้นรถมันจะแรงขึ้นและ
E85 มันต้านการน๊อคได้ดีกว่าน้ำมันE10ทั่วไปได้แบบเยอะมากๆครับ แต่พวกกล่องที่ขายๆเค้าเป็นแค่conversion kits กล่องพวกนี้มันเลยทำได้แค่ให้รถวิ่ง
ได้ด้วยน้ำมันE85 ได้แต่ไม่ได้รับอรรถประโยชน์สูงสุดจากมันก็เท่านั้นเอง
-
แต่ E85 ณ ปัจจุบัน เติมสารป้องกันมาแล้ว สาย น้ำมันรับได้ ครับ ;D ;D
สารป้องกันอะไรครับ ช่วยขยายความหน่อย แล้วสารนั้นคืออะไรครับ
ปตท และ บางจาก มี คุณภาพดี มีการเติมสาร additive หัวเชื้อป้องกันการกัดกร่อน และ ช่วยหล่อลื่นระบบน้ำมันเชื้อเพลิงตัวเดียวกับที่ใช้กันอยู่ใน Brazil และคุณภาพของเอทานอลที่ผสมอยู่ 85% ผลิตจาก บ.เพโทรกรีบ ซึ่งใช้มาตรฐานของ USA และ Sweden
Additives หรือสารเพิ่มประสิทธิภาพ มีขายในท้องตลาดมากมาย และมีทั้งที่ใช้เติมกับ น้ำมันเชื้อเพลิง และน้ำมันหล่อลื่น เราลองมาทำความรู้จักกับสารเหล่านี้ดู เพื่อเป็นพื้นฐานในการพิจารณา เลือกซื้อหามาใช้งาน
จุดเริ่มต้นของ additive นั้น มาจากยุค '60 สมัยนั้น คุณภาพของน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งดีเซลและเบนซิน ไม่ดีอย่างปัจจุบันนี้ และเป็นสาเหตุของ วาล์วไหม้ ท่อหัวฉีดหรือนมหนูอุดตัน เครื่องน็อค ประสิทธิภาพต่ำ มีการสะสมของละอองคาร์บอน ฯลฯ
ผู้ผลิตในยุคนั้น เช่น Redex. Bardhal, Wynn's จึงเริ่มคิดค้น สารที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ขึ้น ซึ่งสารที่ใช้ในยุคแรกๆ ก็คือ MoS2 ที่ปัจจุบันรู้จักกันดี นำไปผสมในน้ำมันเครื่อง ในสมัยนั้นรู้จักกันในชื่อของ Molyslip เมื่อมีการนำไปใช้งาน ก็พบว่า สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ของน้ำมันหล่อลื่นให้ดีขึ้น ทำให้ประหยัดการใช้เชื้อเพลิง และถนอมเครื่อง จึงนิยมกันแพร่หลาย
ส่วน additive สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิง เจ้าแรกๆที่ทำออกมาคือ Redex ในอังกฤษ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อ ทำความสะอาดระบบเชื้อเพลิง ตั้งแต่ถังน้ำมัน ยันห้องเผาไหม้
สารปรุงแต่ง Additives
สารซึ่งนำไปผสมกับผลิตภัณฑ์อื่นในปริมาณเพียง เล็กน้อย เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาวะทางเคมีหรือทางกายภาพของสินค้า เพื่อยืดอายุผลิตภัณฑ์หรือวัตถุประสงค์อื่นๆ แต่อย่างไรก็ตามสารปรุงแต่งอาจเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมได้ เช่น เตตระเอทิลลีด (teraethyl lead) ที่ใช้เติมในน้ำมันเพื่อป้องกันการน็อคของเครื่องยนต์ (anti-knock) โดยเพิ่มค่าออกเทนในเครื่องยนต์ที่มีแรงขับเคลื่อนสูง [สิ่งแวดล้อม]
ข้อดีของ E 85 ช่วยชาวไร่ มันสัมปะหลัง 85 % คือ เอทานอล ที่ผลิตจากมัน เงิรนไม่รั่วไหล
เป็นมิตรกับ เครื่องยนต์มากกว่า ( สะอาดกว่า เผาไหม้สมบูรณ์ ) นึกถึงเวลาเอา เอลกอฮอล์ไป เผา ไฟสีฟ้า กับ เบนซิน ควันดำ
( กรุณา อย่าเอา แอลกอลฮอลล้างแผล มาเทียบกับ แอลกอลฮอลใน E85 ถ้าถามว่า แอลกอฮอล กัดการยาง มำให้กรอบ จริงไหม ตอบจริง
แต่ไม่ใช่ แอลกอฮอล หรือ เอทานอล ใน E85 ณ ปัจจุบันนี้ ผมเคยเจอเว็บหนึ่ง เอา แอลกอฮลล ล้างแผล มาพูด .....เห้อ มา ช่วย ชาติกัน เถอะ
- สเปครถบราซิลรองรับถึง E100 ครับ ต่างกับในบ้านเรา
- E85 เป็นมิตรกับเครื่องยนต์? ดูจะเป็นคำโฆษณาของพวกสนับสนุนพลังงานสะอาด พลังงานทางเลือก มากไปหน่อยครับ ต้องยอมรับข้อนึงครับ ถ้าเอาไปเติมในรถยนต์ที่ไม่รองรับ E85 คือสเปคมันไม่รองรับอยู่แล้ว เติมแล้วมีปัญหาเค้าไม่รับประกันด้วย ถ้าเป็นมิตรกับเครื่องยนต์จริงต้องเติมแล้วไม่พังครับ ต้องไม่มีการเพิ่มประสิทธิภาพของชิ้นส่วนต่างๆเพื่อรองรับกับการกัดกร่อนของ E85 แม้กระทั่งผู้ผลิตรถยนต์เอง ยังไม่เคลมว่า E85 เป็นมิตรกับเครื่องยนต์ของเขาเลยครับ ผมมมองว่าคำกล่าวนี้ดูออกจะเกินจริงไปหน่อย จุดที่น่าสนใจน่าจะเป็นการให้ข้อมูลเชิงเทคนิคของอุปกรณ์ดัดแปลงมากกว่า อะไรที่ทำให้เมื่อติดอุปกรณ์เหล่านั้นแล้วรถเราจะใช้ E85 ได้ ซึ่งอย่างที่ผมบอก จุดนี้เป็นจุดที่นำเสนอกันน้อยมาก หรือนำเสนอแบบความจริงด้านเดียว ไอ้เรื่องที่พูดกันเยอะดันเป็นเรื่องน้ำมันที่พูดให้ตายยังไงก็ไม่มีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากตัวอุปกรณ์เนี่ยไม่ได้ทำมารองรับเชื้อเพลิงชนิดนี้อยู่แล้ว และไม่มีประวัติการใช้งานมาอย่างยาวนานจนสามารถรู้ได้ว่ามันส่งผลกระทบอะไรต่อเครื่องยนต์บ้าง อย่างที่ผมบอก ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมค่ายรถยนต์ไม่นำจุดขายเรื่อง E85 มาโฆษณากัน โดยเฉพาะถ้ามันเป็นมิตรกับเครื่องยนต์อย่างที่ว่ามาอะครับ
- E85 สะอาดกว่า, จริงครับ เนื่องจากเมื่อเผาไหม้แล้ว มีการปล่อยของเสียเป็นก๊าสคาร์บอนน้อยกว่าเบนซินธรรมดา
- E85 ให้พลังงานน้อยกว่าเมื่อเผาไหม้ ทำให้ต้องใช้ปริมาณเชื้อเพลิงมากกว่าเพื่อให้ได้พลังงานเท่ากันกับเบนซินธรรมดา พูดง่ายๆคือรถเติม E85 จะกินน้ำมันมากขึ้น แต่ E85 ราคาถูกกว่าจนคุ้มที่จะเติม
- จริงๆแล้วการเอาแอลกอฮอลล้างแผลมาอธิบายเรื่องแอลกอฮอลใน E85 ก็ไม่ต่างจากการบอกว่าแอลกอฮอลเผาแล้วได้ไฟสีอะไร เบนซินควันสีอะไร เพราะจริงๆแล้วประเด็นนี้มันไม่เกี่ยวกับที่ว่าเครื่องยนต์จะรองรับกับเชื้อเพลิง E85 รึไม่ มันเป็นเพียง gimmick หลอกเด็กที่ใช้เบี่ี่ยงประเด็นเท่านั้นเองครับ
-
E85 ใช้ในรถแข่ง? เริ่มอ่านเริ่มงงว่ามันเกี่ยวกับรถทั่วไปตรงไหน คืออุปกรณ์ของรถแข่งมันก็ต้องทำมาเฉพาะของมันอยู่แล้ว ไอ้ที่ว่ารถแข่งเติมกันได้ มันไม่มีจุดเชื่อมโยงถึงประเด็นที่ว่ารถยนต์ธรรมดาเติมแล้วมันจะไม่พังเลย สเปคอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับ E85 ของรถแข่งที่ว่า เอามาแบเทียบสเปคกับรถบ้านที่ทั่วไปไม่รองรับ E85 ที่บอกๆกันว่าเติมแล้วไม่พังสิ ถ้าสเปคทุกอย่างเหมือนกันหมดผมจะเชื่อ นี่ก็เป็นอีกข้อที่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณของ E85 เกินจริงครับ ยิ่งข้อมูลด้านเดียวแบบนี้มีมากเท่าไหร่ ความระแวง ความสงสัย ความที่คนจะไม่ใช้และเข้าใจผิดเกี่ยวกับ E85 จะยิ่งมีมากขึ้นครับ
-
อ่านบางคลับมีเติมe85กันสดๆไม่เปลี่ยนท่อยางโอริงหรือแต่งกล่องอะไรเติมกันเป็นว่าเล่นก็มี เป็นหนูลองยากันไป
ใจผมก็อยากลองน่ะ สเปกได้แค่e20 แต่มาคิดอีทีมันจะประหยัดได้กี่บาทต่อโลกันเชียว
ถ้าราคาe20กับe85ห่างกันอีกสักสามบาทนี่คงไม่ลังเล
เห็นอยู่ในคลับนี้ลองอ่านดูครับ http://www.civicesgroup.com/forum/topic39293 (http://www.civicesgroup.com/forum/topic39293)
-
หนูลองยาเยอะเหมือนกันเนอะ ^^
-
ใช้ Opel Astra ปี93 ติด เจ้าเดียวที่ขายในมอเตอร์โชว์ E85 สนใจหลังไมค์ได้นะครับ
ผมติดตั้งแต่ E85 เข้าไทยมาใหม่ๆๆ น้องเขามาให้ลอง
เอาไปติดอาการเครื่องไม่มีปัญหา เดินเรียบ ปกติ เหยียบมาก็มา แต่TopSpeed ไม่ไหลเหมื่อนเบนชิน
2ถังแรก ให้เปลี่ยนกรองเบนซิน เท่านั้น
สายไฟ สายน้ำมันของเดิมทั้งหมด !
ตอนนี้ เฉลี่ยเดือนล่ะ 3 ถัง ถ้าเทียบวิ่งได้น้อยลงกว่าเบนซิน ประมาน 2กิโลต่อลิตร
ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ Opel ผมไม่เติมเบนชินอย่างอีกเลย E85เพียว เต็มถังก็พันเดียว
พิมเท่านี้แหละ อย่างอื่นท่าน popdemonic พูดไว้หมดแล้ว
-
; :( :( :( ขอตอบโดย รวม รวม อิอิ
ถ้าถาม ว่า ยาง ที่อยู่ท่อน้ำมัน จะกัดไหม ต้องพิสูจน์
คำถาม พิสูจน์ ยัง
คำตอบ พิสูจน์แล้ว โดยการเอา สายยาง ท่อน้ำมัน ปั้มติก ไป แช่เลย ใน E85 กับ แก็สโซฮอลล์ 95 กับ เบนซิน
สรุป เหมือนกัน เลย ยกเว้น โซฮอล 95 กัดสุด
สอบถามเพิ่มตอบ ที่ช่าง วินัยได้ ไม่ อยาก โพสเบอร์ เดี๋ยวหาว่า โฆษณา ครับ
จริง จริง ใช้ E85 ก็มีข้อเสีย เสียเงินเติม ล้อเล่น
ใคร ใช้ ไม่ใช้ เป็น สิทธิ์ แต่่ผม จะใช้ ถ้าเจอปั้ม ผมดีใจ ที่ได้ ช่วยชาติ และ ช่วยโลกร้อน และ ช่วย ชาวไร ชาวสวน ( พระเอก )
ok นะ ครับ จริงจริง เรื่องนี้ผมอยากโทษ PTT ด้วยซ้ำ ที่ ประชาสัมพันธุ์เรื่อง E85 น้อยเกินไป ครับ :-X
-
ผมว่าเอาเป็นว่าของแบบนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าของรถแล้วครับ ใครใคร่อยากใช้พลังงานแบบไหนเอาตามสบายครับ กระเป๋าสตางค์ใครกระเป๋าสตางค์มันครับ
ทุกคนบริโภคสื่อข้อมูลกันไม่เหมือนกันครับ แต่สำหรับผมเองE85 มีคุณอนันต์มากกว่า เพราะผมเองพิสูจน์ในทางเชิงกลกับรถตัวเองมาแล้วในการลอง
ปรับองศาไฟ ตัวนี้มันบอกได้ชัดเจนมากว่า น้ำมันไหนOctane มากกว่ากัน ของผมมันบ่งชี้ออกมาทางข้อมูลเป็นตัวเลขและอาการของเครื่องยนต์ชัดเจน
ว่าE85 มันต้านการน๊อคการชิงจุดระเบิดได้ดีกว่าE10แบบชัดเจน สำหรับผมนั้นE85 มันสะอาด ถูกและแรง อย่างที่แจ้งเอาไว้แล้วว่า เจ้าConversion
Kits มันทำมาเพื่อให้เราใช้น้ำมันE85 แต่ไม่ได้แปลว่ามันoptimized ที่สุดครับ องค์ประกอบในการสันดาปมันมีไฟ น้ำมัน อากาศ รถNA อากาศคงไปทำอะไรมาก
ไม่ได้ เมื่อน้ำมันดี แต่ไฟเราไปยุ่งอะไรกับมันไม่ได้ ก็เหมือนคน เซ็ต ผมมีหวี แต่ยังขาดเจล หวีไม่ให้ผมยุ่ง ก็พอไปวัดไปวาได้ แต่มันยังหล่อไม่สุดเพราะขาดเจ
ลเซ็ตติ้งผม ให้ทรงผมกิ๊บเก๋ยูเรก้า ก็เท่านั้นเอง ผมทดลองAdvance องศาไฟ ที่15องศา ก่อนศูนย์ตายบน ปกติถ้าใช้E10 จะได้ยินเสียงน๊อคเวลาที่บูสต์มา
เต็มๆที่รอบสูง แต่พอมาใช้E85 ผมเตะองศาไฟแก่ไปจนถึง20องศา ก็ไม่มีเสียงน๊อค ซึ่งแน่นอน 5องศาไฟที่มันแก่ขึ้น รถคุณจะมีกำลังมากขึ้นแบบสัมผัสได้
นี่คือข้อดีของมัน จริงๆเขี่ย5องศานี่ถือว่าเยอะมากๆสำหรับองศาไฟไม่น้อยนะครับ จริงๆข้อมูลของE85 มีฝรั่งก็เคยเขียนไว้ว่า คุณดันองศาไฟขึ้นไปมาก
กำลังมันเพิ่มขึ้นแต่เมื่อถึงจุดๆหนึ่ง ต่อให้คุณดันไปมากกว่านั้นกำลังมันก็ไม่ไปมากกว่านั้นเพราะมันเลยจุดoptimum ของเครื่องยนต์แล้ว ซึ่งผลเสีย
ก็คือ ทำให้bearings มันสึกหรอเร็วเปล่าประโยชน์ ก็ปรับลดลงมาจนถึงจุดที่องศาไฟน้อยที่สุดในขณะที่ให้กำลังออกมามากที่สุด ผมมาแชร์ข้อมูลไม่ได้ต้องการ
มาไขว้นะครับ ผมแชร์ในมุมมองของผมเอง ผมใช้E85 มันก็ประหยัดผมไปถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้มาก เพราะผมเองก็เท้าหนักขับรถเร็วประหยัดถังละ200-300
บาทก็แฮปปี้ เพราะพอมาหารกลับถ้าผมเติมE10 ผมได้subsidies จะราคาน้ำมันE85 ที่ถูกลง เท่ากับผมขับรถคันนี้ในอัตราบริโภคที่ 10km/Lในราคาของ
น้ำมันE10 แค่นี้ผมก็สบายใจไปหลายเพลา เพราะผมใช้รถคันนี้ประจำวันในช่วงหลังๆ ใช้บ่อยมากตั้งแต่เติมE85 จริงๆแล้วผมใช้มาเนี่ยกรองเบนซินสารภาพเลย
ว่ายังไม่ได้เปลี่ยนทั้งๆที่ลูกนึงไม่กี่ร้อยแถมเปลี่ยนง่ายมากเพราะมันอยู่ในห้องเครื่อง แต่พอดีถือคติ Don't fix if it ain't broken
ขนาดE85 ผมยังเติมที่นึงขนาดนี้ถ้าE10 จาก1,460 จะกลายเป็น2,500.-พอดีกับราคาน้ำมันวันนี้
ปล.เต็มถังรถผมนี่80ลิตรนะ อาเจียนเป็นเลือดพอดี
(http://i185.photobucket.com/albums/x104/popdemonic/IMAG0463.jpg) (http://s185.photobucket.com/user/popdemonic/media/IMAG0463.jpg.html)
-
E85 ใช้ในรถแข่ง? เริ่มอ่านเริ่มงงว่ามันเกี่ยวกับรถทั่วไปตรงไหน คืออุปกรณ์ของรถแข่งมันก็ต้องทำมาเฉพาะของมันอยู่แล้ว ไอ้ที่ว่ารถแข่งเติมกันได้ มันไม่มีจุดเชื่อมโยงถึงประเด็นที่ว่ารถยนต์ธรรมดาเติมแล้วมันจะไม่พังเลย สเปคอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับ E85 ของรถแข่งที่ว่า เอามาแบเทียบสเปคกับรถบ้านที่ทั่วไปไม่รองรับ E85 ที่บอกๆกันว่าเติมแล้วไม่พังสิ ถ้าสเปคทุกอย่างเหมือนกันหมดผมจะเชื่อ นี่ก็เป็นอีกข้อที่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณของ E85 เกินจริงครับ ยิ่งข้อมูลด้านเดียวแบบนี้มีมากเท่าไหร่ ความระแวง ความสงสัย ความที่คนจะไม่ใช้และเข้าใจผิดเกี่ยวกับ E85 จะยิ่งมีมากขึ้นครับ
-เอางี้รถผมเนี่ย ปั๊มติ๊กBosch 044 ทำออกมาตั้งแต่ยังไม่มี E85 ถ้านักเลงรถจะรู้อยู่แล้ว สำหรับปั๊มตัวนี้ ปั๊มตัวนี้ Usage หลักๆต้องExternal Use ด้วย ผมจับมัน
ยัดลงในถังเป็นInternal Useเลย แทนปั๊มติ๊กเดิมติดรถเลย
-เรกูเรเตอร์ของแสตนดาร์ด
-สายน้ำมันในถัง ติดรถตั้งแต่ปี1995 ตัวนี้บ่งชี้ชัดมากที่สุด ถ้าไอ้นี่ไหวตัวอื่นไม่ต้องคิด เพราะจุ่มอยู่ทั้งปีทั้งชาติ ของผมคงกินมาหลายแขนง
ตั้งแต่เบนซิน98 เบนซิน97 เบนซิน95 เบนซิน91 โซฮอลล์95(E10) E20 E85 จับมันกินมาหมดแล้ว
-สายนอกรถเปลี่ยน ตั้งแต่ใช้E10 เจ๊งกระโบ๊งตามอายุ
-กรองเบนซินติดรถ
-หัวฉีด ของFord Focus RS Cosworth(RS Cosworth คงไม่ทำมาสำหรับE85มั้ง)
ที่บอกว่ารถแข่งหนะ จุดสำคัญที่เขาทำมารองรับคือระบบEngine management เพื่อทำให้รถเรียกกำลังสูงสุด ที่เขาว่ากันว่าจูนรถๆๆๆนั่นแหละครับ
มันก็ตัวเดียวกับที่ใช้กับน้ำมัน95 E10 91 มันจูนอากาศ องศาไฟ น้ำมัน ให้แมชชิ่งกัน สายน้ำมันที่เป็นเลสถักประเด็นคือแรงดันมันสูงพวกนี้
มันใช้ปั๊มติ๊ก2ตัว 3ตัว ต่อparallel ต่อเข้าSurge Tank ถัง a ถัง b แรงดันมันสูง มันจะแตกเอา พวกในใส้ในมันเป็นTeflon PTFE หรือพวกไวตั้น
ที่เหลืออุปกรณ์มันก็เหมือนรถทั่วไปเนี่ยแหละครับ อย่างที่ผมบอกประเด็นคือถ้าคุณยกกราฟในตารางน้ำมันให้มันจ่ายเพิ่มขึ้น30% รถคุณก็วิ่งได้แล้ว
กล่องECUติดรถมันAdaptive ได้ในระดับนึง โดยการคำนวณจากO2 sensor ออกมาเป็นค่าแลมด้า ปกติถ้าใช้E85 ในปริมาณในการสร้างความร้อน
มันจะใช้มากกว่าE10 แลมด้าจะส่งสัญญาณไปบอกECUว่าเฮ้ยน้ำมันบางว่ะ เอ็งช่วยจ่ายเพิ่มอีกหน่อยซิ แต่ECUติดรถมันมีข้อจำกัดตรงที่มันยืดหยุ่น
correctionให้ได้ไม่มากพอ สมมติว่า+-10% สมมติว่ามันcompensate เต็มที่แล้วคือ10% แลมด้ายังบางอยู่ดี แน่นอน รถวิ่งเหนียวอืดๆ (ยิ่ง
สตาร์ทตอนเช้าๆเนี่ย ระบบเครื่องยนต์ O2 sensorก็ยังไม่ร้อน จะออกอาการชัด เพราะระบบเครื่องยนต์จะใช้โหมดopened loop จ่ายน้ำมันหนาเชียว
เพื่อเร่งให้เครื่องร้อนเร็วๆ ถึงอุณหภูมิทำงานเร็วๆพอมันร้อนก็จะตัดเข้าclosed loop ให้o2 sensor แจ้งผลประมวลการจ่ายน้ำมันต่อไป) เพราะ
น้ำมันมันไม่พอ อ้าวพอเพิ่มน้ำมันแล้ว ยังไม่พอ องศาไฟก็Retardลง กำลังหดหาย มันเป็นความชาญฉลาดของสมองรถเพื่อป้องกันไม่ให้
เครื่องยนต์พัง แต่หากคุณให้มันกินพอเมื่อไหร่ เจ้าส่วนที่มันเป็นการcorrection ในระบบสมองรถ มันก็ไม่ต้องActive เหมือนกับมันกินพอ ก็จบ
มันก็วิ่งได้ หากยังสงสัยอยู่ ให้ย้อนขึ้นไปอ่าน ใจความสำคัญทั้งหมดคือถ้าคุณเพิ่มน้ำมันเข้าไปได้อีก30% จะทำยังไงก็ได้ก็ จอบอ จบ
ปล.หนูไม่ใช่ลิ่วล้อ PTT นะ หนูโคตรเกลียดแม่งเลยอุ๊บ!!!! หนูใช้บางจาก ขนาดหุ้นยังไม่ซื้อเลย(จริงๆซื้อไม่ทัน ;D )
-
อยากคลิ๊กไลค์ให้คุณpopdemonicซักล้านไลค์
ท่อยางรถที่ทนe20 ก็ทนได้ถึงe100
E85กัดวาล์ว ไปฟังมาจากไหน อ่านแล้วเพลียจริงๆ
-
นี่คือสายJ30R10 ของGates submersible hose ผมสั่งเข้ามาใช้กับรถตัวเอง แต่ตัวเองตกม้าตายดันใช้convensional clampแบบหยักแถมรัด
เสียแน่นมันกัดท่อขาด สายเกรดนี้เป็นเกรดสูงที่สุด บ่งชี้เฉพาะว่าใช้สำหรับE85 E100 หากดูดีๆจะเห็นเส้นใยขาวๆนั่นคือใยAramid ที่ใช้ในเสื้อเกราะ
กันกระสุน ผมไปดูสายSubmersible Hose ติดรถมันสกรีนไว้ตัวเท่าบ้านARAMID เพราะฉะนั้นใช้ได้ซำบายดี สายเส้นนี้ผมก็เก็บเอาไว้ วันไหนมีศรัทธามากๆ
ค่อยเปิดมาเปลี่ยนลงไปใหม่ ;D
(http://i185.photobucket.com/albums/x104/popdemonic/IMG03985-20120701-1817.jpg) (http://s185.photobucket.com/user/popdemonic/media/IMG03985-20120701-1817.jpg.html)
-
ขอประชาสัมพันธุ์ ข้อดีของ E85 อีกซักนิด อย่าว่ากันหนา อิอิ ใครจะว่าผมเชียร์ ผมยอมรับ เชียร์สุดสุด get น่ะ
1 สำหรับชุด kit ติดไปแล้ว จะเกะออกเมือไหร่ก็ได้ ไม่มีปัญหา
2 ราคา ชุด kit ไม่แพง เมื่อเทียบกะ ติดแก็ส
3 ไม่ต้อง ดัดแปลง รถอะไรเลย ไม่เหมือนติดแก็ส ( กล่อง kit นิดเดียว )
4 ไม่ต้อง ดูแล มากเท่าติดแก็ส
5 รถไม่ ต้องบรรทุก เพิ่ม เหมือนติด ถังแก็ส รถไม่เสีย สมดุล ช่วงล่าง และ น้ำหนักรถ ไม่เพิ่ม เหมือนติดแก็ส
6 ช่วยชาวไร่ สาวสวน มันสัมปะหลัง เพราะ 85 เปอร์เซ็น ผลิตในประเทศ 15 เปอร์เซ็น น้ำเข้า ช่วยชาติกันเถอะ
7 เครื่องยนต์ สะอาด กว่า อ็อกเทน ดีกว่า เป็นมิตรกับ เครื่องยนต์ และ เป็น มิตรกับโลก
8 ได้ ใช้นำมันถูก แต่ไม่ต้อง ดูแลลมากเหมือนติดแก็ส ใช้รถเหมือนรถปรกติ
( คิดเอาเองครับ รถเรา เราเลือกเอง ตามใจครับ แค่บอกไว้ รักทุกคนครับ ช่วยชาติ กัน )
-
ผมคงไม่พิมพ์ไรมากหรอกครับ เพราะขี้เกียจพิมพ์ ความรู้เรื่องช่างสู้เขาไม่ได้ ฮา
แต่ผมอยากให้ทุกคนมีสติครับ ประเด็นที่ผมเคยเปิดไว้ยังไม่เห็นมีใครตอบ คือสิ่งที่ผมพูดผมพูดจากสิ่งที่มันเป็นจริงอะครับ ไม่ใช่วิชาการที่ใครก็ไม่รู้มาพูดให้ฟัง ทดสอบให้ดู นี่แหละครับ จุดอ่อนของการประชาสัมพันธ์ E85 และคุณรู้ไหมว่าใครคือคนที่มีเครดิตมากที่สุดและควรจะออกมาพูดเรื่อง E85 มากที่สุด ถ้ามันดีจริงอะครับ คือใคร? ค่ายรถยนต์ไงครับ ถ้าใช้แล้วไม่พังจริงๆ ป่านนี้เค้าบอกทุกคนให้หันมาใช้ E85 กันแล้ว แต่นี่กลับไม่ครับ ไม่รู้เพราะอะไร เชื้อเพลิงที่เป็นมิตรกับเครื่องยนต์กลับไม่ได้รับการแนะนำจากผู้ผลิตรถยนต์ด้วยซ้ำ ฮา
กลับกลายเป็นว่าที่ผู้ผลิตรถยนต์ออกมาพูดให้ตายว่ารถของเขาเติม E85 ไม่ได้นั้น เป็นเรื่องเท็จสำหรับบรรดาแฟนๆ E85 แต่เฮ้ย พวกนั้นเค้ามีความรู้มากกว่าพวกคุณแยะ ทำรถยนต์ออกมาได้ทั้งคันเค้ายังบอกว่าเติมไม่ได้เลย นี่คุณเทพแค่ไหนที่ยกวิชาการไปเถียงเค้าอีก เท่าที่เห็นพยายามประชาสัมพันธ์กันนั้นเนี่ย ประหนึ่งว่ารถทุกรถสามารถเติม E85 ได้
และที่ตลกที่สุด วันนี้ผมไปเอารถวอลโว่ S60 ตัวเติม E85 มา ทางศูนย์บอกว่า ถ้าใช้แค่โซฮอล 95 ธรรมดา เป็นประจำ เอารถเข้ามาเซอร์วิสทุกสองหมื่นกิโลฯก็ได้ แต่ถ้าเติม E85 เป็นประจำ ต้องเอารถเข้ามาเซอร์วิสทุกหมื่นโล, ไม่รู้เหมือนกันนะครับ ว่าเค้าจะเปลืิองค่าเซอร์วิสฟรี 5 ปี เพิ่มอีกเท่าตัวทำไม ฮา จุดนี้คงต้องลองให้พวกคลั่ง E85 ได้ไปเปิดโลกกับช่างวอลโว่ดูซะแล้วครับ จะได้เลิกหลอกให้คนเชื่อแบบผิดๆซักที จริงๆผมไม่อยากใช้คำว่าหลอก แค่บางที พวกคุณจะได้เลิกเข้าใจกันแบบผิดๆเสียที เพราะคนที่เชื่อตามคุณโดยไม่ได้ใช้สติเค้าเดือดร้อนนะครับ จุดนี้ต้องระวัง บ้านผมซื้อรุ่นนี้ใช้อยู่สองคัน คันแรกซื้อกับหัวหมากก่อนวันงานมอเตอร์โชว์ ก็พูดแบบเดียวกัน ซื้อในงานมอเตอร์โชว์กับลาดพร้าว ก็พูดแบบเดียวกันอีก... ได้โปรดใช้สติกันเถิดครับท่านผู้อ่าน ไม่เชื่อไปถามช่างของวอลโว่ดูได้ครับ
-
เข้ามาอ่านคอมเม้นท์เฉยๆนะ ไม่ตอบแระ เหมือนLPGสมัยตอนรถนั่งกำลังบูมใหม่ๆเลย
บวก ลบ คูณ หารแล้ว ตอนนี้รถLPGเพียบเลย เอาเป็นว่าผมใช้น้ำมันเชื้อเพลิงoctane 105+
ในราคา21.38บาท ต่อลิตรก็คุ้มสำหรับผมแล้วครับ
-
ใช่เลยครับคุณ popdemonic ตอนนี้มันก็เหมือนกับคนกลัวแก็สตอนแรกๆนั่นแหล่ะ
รถที่บ้านผมก็ใช้ E85 2 คัน ตอนเติมสบายกระเป๋าไป +40% เีทียบกับ G95 แต่รถกินน้ำมันกว่าเดิม +20%
สรุปประหยัดเงินในกระเป๋าได้จริงๆ ~20% แุุถมเหมือนรถจะแรงกว่าเก่าซะงั้น (คันนึงแรงกว่าเดิมอีกคันนึงแรงเท่าเดิม)