Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: blade ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 13:06:39
-
พอดีอยากได้รถที่บ้านมาใช้ วิ่งจากโคราชกรุงเทพ (ประมาณ300 กม.)เพราะมันติดแก็ส เป็น City 96 อายุก็สิบกว่าปีได้ แต่แม่บอกรถเก่ามันน่ากลัวจะเสียกลางทาง
ผมสังเกตุเวลากลับไปกลับโคราชกรุงเทพ มันก็ไม่ค่อยมีรถเก่าๆวิ่งจิงๆด้วย :'(
-
น่ากลัวหรือไม่? ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณดูแลรถคุณดี ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรหรอกครับ
รุ่นพ่อรุ่นแม่เราก็เคยใช้รถเก่ากว่านี้ไปต่างจังหวัดกันประจำ (ถนนแย่กว่าด้วยนะ) และนั่นก็อาจจะเป็นเหตุผลที่พวกท่านไม่อยากให้พวกเราเอารถเก่าๆไปต่างจังหวัดครับ ไม่ใช่ว่ากลัวเสียกลางทางหรอก แต่มันนั่งไม่สบายเอาเสียเลย ช่วงล่างรถเก่าไม่ดีเท่าช่วงล่างรถใหม่ๆ วัสดุซับเสียงก็มีน้อยกว่า ยางบางๆไม่ได้ทำให้มีความมั่นใจเวลาขับขี่เสียเท่าไหร่ แต่ผมก็เคยขับรถที่เก่ากว่าคุณ ยางแคบกว่าคุณ ช่วงล่างหลังก็ระบบเดียวกับรถม้ายุคโรมัน ผมยืนยันได้ว่า 300กม. ถ้าคุณมั่นใจว่ารถคุณดูแลดี จิ๊บๆครับ
-
ขับรถถ้าเกิน 100 กม. ผมถือว่าไกลแล้วครับ
การขับทางไกล ต้องแน่ใจว่ารถพร้อม ดูแลมาดี โดยเฉพาะยาง เบรค หม้อน้ำ ระบบแก๊ส ต้องดูแลต่อเนื่อง
และที่สำคัญที่สุด คือต้องมั่นใจว่าเราคุ้นเคยกับรถคันนั้นแล้วครับ ต้องรู้ใจรถพอสมควรครับ
-
ปีที่แล้วขับW123 กทม-สุโขทัย-กทม รวมเกือบ1000กิโลไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรนะครับ
ถ้ารถเราเองดูแลดี ผมว่ามั่นใจกว่าขับรถใหม่ๆของคนอื่นอีกครับ :D ;D ;D
-
รถเก่ายังไงก็มีความเสี่ยงครับแต่การดูแลให้ดีจะช่วยลดความเสี่ยงลงได้ คันก่อนผมสามห่วงปี 96 แรกๆก็ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับรถอะไรเลยครับแรกเริ่มขับจากนครพนม-อุบลเกียร์หลุดต้องให้พ่อตามาลากไปอู่ริงอะไรซักอย่างช่างคนเดิมทำไม่ดี ต่อมาเครื่องน๊อคบนทางด่วนตอน 4 ทุ่มเพราะน้ำมันเครื่องแห้งก็เปลี่ยนเครื่องกันไป ต่อมาแอร์พังเพราะช่างลืมต่อสายพัดลมทำให้ร้อนเกิน ต่อมาหม้อน้ำรั่วเพราะตัน สุดท้ายมาเรื่องแอร์อีกแต่เป็นเรื่องสวิทซ์ ทีเหลือก็ไม่มีอะไรแล้วส่วนใหญ่ซ่อมตอนแรกๆแต่ก็หวั่นๆก็เลยเปลี่ยนรถให้ใหม่ขึ้นตอนนี้เป็น Altis 04 ก็มั่นใจเวลาขับทางไหลขึ้นเยอะ
บางทีตัวเราเองคนเดียวไม่เท่าไหร่หรอกครับยังไงก็ผู้ชายต้องลุยๆบ้างอยู่แล้ว แต่กับคนที่เรารักที่นั่งมาด้วยกับทางบ้านที่เค้าเป็นห่วง แม้จะต้องยอมเพิ่มตังไปซื้อรถที่ใหม่กว่าเพื่อความมั่นใจมากกว่าเดิมก็นับว่าคุ้มนะครับ มั่นใจกว่า ดูดีกว่า ขับสบายกว่า เร่งได้ดีกว่า ช่วงล่างดีกว่า คนนั่งๆสบายกว่า ขนของได้มากกว่า ประหยัดน้ำมันพอกัน
ป.ล. ถ้าคุณขับคนเดียวเชียร์นะครับจะได้ฝึกอะไรเยอะๆที่รถใหม่ๆให้ไม่ได้เลย
-
Toyota Mighty X ของพ่อผม ยังเคยวิ่งกรุงเทพ-เชียงรายมาแล้วเลยครับเมื่อปลายปีที่แล้ว
-
ถ้าเริ่มมีอาการมาบ้าง ไม่ควรครับ ถ้าเกิน100 โล น่ากลัวมาก
-
รถ (รุ่น) เก่า บางทีมองต่างมุมกันบ้าง ไปทางยาวๆ เกิดเสียขึ้นมา ช่างยังซ่อมเป็นกว่ารถรุ่นใหม่ๆนะครับ
รถเก่า (อายุเยอะ) แต่ดูแลถูกวิธี และอย่างดีมาตลอด มันซื่อสัตย์กว่ารถใหม่ (อายุน้อย) แต่ใช้ไม่เคยดูแลรักษา เพราะเห็นว่ามันเป็นรถใหม่ ด้วยซ้ำไป เห็นมาไม่น้อยแล้ว
มองในมุมธุรกิจ หลายเรื่องเป็นการตลาดมากไป เช่น รถคันนึงใช้กี่ปีต้องเปลี่ยน ยางรถต้องใช้กี่ปีเปลี่ยน ฯลฯ
เคยลองมองๆกันดูมั๊ยครับว่า เราๆท่านๆ เปลี่ยนรถกันในชีวิตเราเอง มาจนทุกวันนี้
มีไม่น้อยหมดค่าเสื่อมรถ + แต่งโน่น นี่ นั่นไปเป็นเงินเท่าไหร่
รถเก่าไม่ได้แย่เสมอไปหรอกครับ บ้านผมมีรถสองคัน เก๋งคันนึง คาเมโอคันนึง ใช้มา 16 ปี ขึ้นปีที่ 17
บ้านผม +บ้านแฟนไปไหนกัน ก็คันนี้แหละครับลุย เที่ยวทะเล เที่ยวเขา ไหว้พระ คนอื่นขับรถดีๆไป แต่ไปถึงก็จอด ไปตลาด เล่นน้ำ ซื้อของ ก็หนีอีแก่ผมไม่พ้น ใช้แล้วสบายใจ มีแต่คนอยากไปกับเรา 555 นั่งกันแน่นไปหมด
บางทีมันผูกพันดีครับ รถเก่าๆนี่ ;D ;D
-
ทางไกลแต่ไม่เปลี่ยวก็ไม่เป็นไรหรอกครับ
เสียขึ้นมาก็โทรตามคนมาช่วยได้
ถ้าไม่ไกลแต่ไปในที่ห่างไกลชุมชน หรือไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ก็เสี่ยงเหมือนกัน
-
อยู่ที่คนดูแลรักษาครับ
ใหม่แค่ไหนก็ตายกลางทางได้ ถ้าคนใช้ไม่ดูแลเลย
-
เอารถเก่าวิ่งทางไกลต้องระวังความร้อนเป็นอันดับแรกครับ
ฮีทกลางทางขึ้นมาเดี๋ยวเครื่องไปด้วย
-
ถ้าไม่ดูแลอะไรเลย รถใหม่มันก็น่ากลัวครับ
อัลติสอาจารย์ผม วิ่งจนน้ำแบตแห้ง สตาร์ทไม่ได้
ส่วนรถเก่า ไมตี้เอ๊กที่บ้าน เปลี่ยนระบบหม้อน้ำแล้ว เปลี่ยนยาง เปลีย่นโชคแล้ว ตอนนี้ไม่มีอะไรมีแววจะเสียเลยครับ
ยิ่งถ้าพ่อผมขับไม่มีอะไรน่ากลัวเลย หลับตลอดทาง เพราะพ่อผมขับ 70
แต่นั่งมาสด้า3ของเพื่อน อันนี้น่ากลัวจริง เพราะมันขับ 160 ไม่กล้านอน
-
ถ้ารถไม่มีปัญหาก้ไม่น่ากลัวหรอกครับ
แต่ถ้ารถมีปัญหา ต่อให้เป็นป้ายแดงก้น่ากลัวครับ
-
รถป้ายแดงจอดตายกลางทางมีถมไปครับ ;)
-
นานๆๆ ไปทีก็น่าจะได้ครับ
ตรวจสภาพรถ แบบเข้าอุ่ รึศูนย์ก่อน
แต่แค่ 300 โล ค่อยๆไปก็ไม่น่าห่วงครับ
ไปแบบเรื่อยๆ ครับ
-
ผมมองว่ารถเก่าดีกว่ารถใหม่ตรงที่ระบบมันไม่ซับซ้อนมากเนี่ยแหละ เราเลยดูแลมันได้(เกือบ)จะครบ
รถเก่าถ้าเปลี่ยนอะไรให้มันสมบูรณ์ครบๆ ผมว่ามันน่าใช้ยิ่งกว่าพวกรถใหม่ๆอีกนะ ;D
เพราะรถใหม่ๆเดี๋ยวนี้ ระบบอะไรก็เยอะ ทั้งระบบไฟฟ้า รถยุโรปก็มีพวกเทอร์โบพ่วง เวลาพังทีก็เข็นเข้าอู่อย่างเดียว
แถมพวกนี้เวลาจะพัง ก็ไม่มีสัญญาณอะไรบ่งบอกให้เรารู้เลยว่าจะเสีย อยู่ดีๆจะเสียก็เสียเลย ;D
นี่อาจจะเป็นหนึ่งในเหตุผล(ส่วนตัว)ของผมที่ ผมยังชอบรถเก่าๆมากกว่ารถใหม่ๆนะครับ
-
รถรุ่นเก่าบางทีพร้อมกว่า เอารถรุ่นใหม่ที่ขาดการดูแล เดินทางไกลอีกนะครับ
เช็คให้พร้อม ระบบระบายความร้อน ระบบเชื้อเพลิง ระบบเบรค และอื่ๆ สบายมากครับ 4ปีก่อน ผมเอา e30 ไปปาย ก็สบายมาก
2ปีทีแล้วเอา e32 ไปเชียงใหม่ ก็สบายๆ corolla ae92 ผมก็พึ่งเอาไป ดอยอินทนท์มา
ทุกคันเครื่้องเดิมหมดครับ หมั่นเช็คสภาพรถ ไปไหนสบายครับ ผมชอบนะ เทห์ดี รถเก่าๆ ไปไกลๆ ใครๆก็มอง อิอิ มาถึงได้ไงวะ ก็ของมันแน่ ;D
รถรุ่นเก่าๆดีอย่าง ไม่มีระบบเซนเซอร์มาก ที่ ทำให้เสียกลางทางได้แบบรถสมัยใหม่ครับ เพราะผมเคยเจอ รถ ปีใหม่ๆเซอเซอบางตัวเสีย จอดเลยทีเดียวต้องยกกลับบ้าน ทำอะไรไม่ได้ รถเก่าๆ มั่นใจกว่า ยิ่งเครื้องคาร์บู หายห่วงเลยครับ ปีที่แล้วnv van ผมก็ไปเที่ยวภูทับเบิก เพชรบูรณ์มา ชิวๆ
-
เก่าขนาดนั้นต้องเผื่อใจไว้เลยว่ามีโอกาสเสียกลางทาง
แต่ไม่ใช่ว่าจะเกิดได้บ่อย จากประสบการณ์ที่เคยใช้มาแล้วเสียจนไปต่อไม่ได้ก็
หม้อน้ำรั่ว, ลูกปืนเพลาแตก, มอเตอร์พัดลมหม้อน้ำเสีย(ถ้าวิ่งรถติดๆจะร้อนจนไปต่อไม่ได้)
คือต่อให้ท่านดูแลดี แต่อะไหล่บางชิ้นที่มันประกอบด้วยส่วนประกอบมากมาย
ชิ้นเล็กๆสักชิ้นที่เสื่อมสภาพไปในช่วงเวลาเดินทางไกลก็มีโอกาสทำให้ท่านไปต่อไม่ได้
ผมขับไปทำงาน ไป-กลับ วันละ 170Km ตอนขับคันเก่าผมต้องลางานเพื่อซ่อมรถปีละ 2-3 วันครับ
-
สำหรับผมจะออกต่างจังหวัดต้องรถใหม่เท่านั้นครับ เพราะผมเจอมากับตัวแล้ว 2 ครั้ง ทั้ง 2 ครั้งก่อนออกทริปได้เข้าอู่ให้ช่างตรวจเช็คทั้ง 2 ครั้ง ครั้งแรกลูกปืนพูเล่คอมแอร์แตก เลยตัดสายพานแล้วไปต่อได้แต่ไม่มีแอร์ เล่นเอาทริปนั้นกร่อยไปเลย รอบสองอันนี้หนักเลยคือสายท่อน้ำมันรั่ว ไหลเป็นทางเลยครับ เคราะดีมีอู่อยู่ใกล้ๆ ผมคิดไม่ออกเลยว่าถ้ามันเป็นกลางป่ากลางเขาจะทำไง ผมสงสารพ่อกับแม่ครับ ท่านอายุมากแล้วไม่อยากให้มาเจอวิบากกรรมแบบนี้อีกแล้ว
รถใหม่ถ้าตรวจเช็คตามระยะ โอกาศเสียกลางทางน้อยมากๆครับ หรือต่อให้เสียจริงก็โทรให้ศูนย์มาลากไปได้เพราะอยู่ในประกัน
สรุปผมคิดว่ารถใหม่อุ่นใจกว่าเยอะครับ
-
ทางทีดีเช็คพวกหม้อน้ำรถ ช่วงล่าง เครีองยนต์ 3สิ่งนี้ครับอะไรทีเสียจับเปลียนชะครับรถเก่าไม่น่ากล้วนะครับถ้าใส่ใจหน่อยครับ
-
พอดีอยากได้รถที่บ้านมาใช้ วิ่งจากโคราชกรุงเทพ (ประมาณ300 กม.)เพราะมันติดแก็ส เป็น City 96 อายุก็สิบกว่าปีได้ แต่แม่บอกรถเก่ามันน่ากลัวจะเสียกลางทาง
ผมสังเกตุเวลากลับไปกลับโคราชกรุงเทพ มันก็ไม่ค่อยมีรถเก่าๆวิ่งจิงๆด้วย :'(
- ก่อนเดินทางไกลหรือเอามาใช้ เช็คระบบแก๊ส ระบบน้ำำมัน น้ำมันเครื่อง ช่วงล่างจากอู่ที่ไว้ใจได้ อันไหนเสียก็เปลี่ยน ขับมาได้ครับ
- รถพ่อผมมาสด้า กระบะแค๊ป B2500 เกียร์ตรง เครื่องอีสุ ฝาดำ อายุอานามก็น่าจะพอๆกัน ช่วงสงกรานต์ที่ผ่า่นมา ผมวิ่งลำปาง-นนท์ ไป600กลับ600 รวม1200โล ใช้ความเร็วไม่มาก100-120 ตรวจเช็ครถก่อนเดินทางข้างต้น ไม่มีปัญหาครับ มีแต่ขากลับวัด นมค.หายไปหน่อย ก็แวะซื้อเติมกลางทาง ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพครับ ;D
-
แม่คุณไม่ได้เป็นห่วงว่ามันจะเสียไม่เสียกลางทางหรอก แม่คุณห่วงความปลอดภัยมากกว่า
-
ใส่ใจมากๆ ดูแลดีๆ ก็ไม่น่ากลัวครับ
-
ทางไกล คนขับ น่ากลัวกว่ารถครับ
ของผม Citroen Gs เก่าไหม.....อายุประมาณ 40 กว่าปีได้ครับ แต่ดูแลดีมากๆ วิ่ง ชลบุรี เชียงราย มาเลเซีย ชิวๆ ครับ รักษาความเร็วที่ประมาณ 100-140 ครับ ไปได้สบายๆ เลย นั่ง 4 คนด้วย ไม่มีปัญหาครับ
อีกคัน Toyota Hiace ตาหวาน ก็ 20 กว่าปีแล้วเหมือนกัน ขึ้นเหนือเป็นว่าเล่นเลยครับ ตาผมทำทัวร์ วิ่งชลบุรี อุบล อุดร ขอนแก่น เขาปักษ์ ประจำครับ ไม่เคยงอแงเลย ความเร็วเดินทางระดับ 100-140 เหมือนกันครับ
รถน่ะ ดูแลดี ยังไงก็ไหวครับ แต่ คน ซิครับ ขับนานๆ ทั้งง่วง ทั้งเหนื่อย....ยิ่งถ้าเป็น เกียร์ออโต้ที่เหยียบอย่างเดียว ง่วงแน่ๆ อ่ะครับ
รถไม่น่ากลัวครับ ไม่น่ากลัวแน่นอนครับ ถ้าดูแลดี ครับ
-
ตอนนั้นไปเชียงใหม่ หนีน้ำท่วม ไม่มีรถใช้ ซื้อโดเรมอนมา
สภาพเน่าๆ เครื่องพอวิ่งได้ โช้คพัง สปริงตัด
วิ่งขึ้นดอย ขับกลับจากเชียงใหม่ ไปทองผาภูมิ กลับกรุงเทพมาแล้วครับ
-
ต้องมั่นใจว่าดูแลถึง ซ่อมถึงครับ เช็คบ่อยๆ รู้จักอาการรถ ถึงจะใช้อย่างสบายใจ ทางไกลก็ได้
เคยใช้รถเก่าติดแก้สวิี่งทั้งใกล้และไกล ครับ ระบบแก้สไม่เคยเสีย
แต่รถสิ เครื่องฮีท เกียร์พัง คอมแอร์พัง หม้อน้ำรั่ว ไดชาร์ทพัง ปีกนก แรคพวงมาลัย โช้คตาย ที่พูดมาซ่อมทุกอย่าง ยกเครื่อง ยกเกียร์ ที่เหลือเปลี่ยน แต่ มันทยอยๆมาเรื่อยๆ เจอทุกอย่าลทั้งเสียกลางทาง ลากกลับ สไลด์ จอดซ่อม เข้าอู่ทุกเดือนจนรูัจักอู่แทบทุกเส้นทางที่วิีง จนสุดท้ายต้องหารถใหม่มาใช้ครับ ปล.มันคือ volvo 850 ;D
-
ผมใช้ Mitsu e-car ปี 94 ผมยังกล้าขับไปทุกที่ในไทยเลยครับ ถ้าดูแลดี บำรุงรักษาดี มันก็พาเราไปได้ทุกที่ครับ ;D
แต่คันนี้พ่อผมขายไปแล้ว เพราะต้องการลดจำนวนรถในบ้านลง :'(
-
รถ (ปี) เก่า แต่ดูแลดีๆ ก็เหมือนรถใหม่ครับ
รถ (สภาพ) เก่า ถึงปีจะใหม่ ก็อันตรายนะครับ
คอยดูแลรถให้สมบูรณ์ รู้นิสัยรถเรา และก็ขับรถไม่ประมาท ก็ปลอดภัยระดับนึงแล้วครับ
-
เก่า ใหม่ไม่สำคัญเท่าสภาพครับ รถเก่าสภาพสมบูรณ์ ผมขับไปไกลมากๆบ่อยไปครับ จากภาพ
1.Opel Astra ปี 96 บนCameron Highland ,Malaysia เมื่อปี 2009
2.Citroen Xantia ปี 96 ที่สิงคโปร์ เมื่อปี 2012
3.Mitsubishi Galant GTi ปี 92 ที่หลวงพระบาง เมื่อปี 2005
4.Toyota RAV4 ปี 94 ที่น้ำตกคอนพะเพ็ง ลาวใต้ เมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา
5.Toyota Crown ปี 94 ระหว่างทางกลับจากหลวงพระบาง เมื่อปี 2011
-
ก็ดช็ตสภาพดีๆสิครับ ปัญหาก็จบ แล้วก็ต้องเป็นคนช่างสังเกตจับอาการของรถตัวเองบ่อยๆ แล้วก็ขับแบบปลอดภัย มีสติ ก็ไม่น่ากลัวแล้วครับ
รถผม mitsubishi lancer e-car91 วางเครื่องใหม่ ผมก็ไปทั่วนะ สบายๆหายห่วง เช็คบ่อยๆลดความเสี่ยงได้เยอะครับ ;)
-
ถ้าซ่อมดีๆ อะไหล่บางตัวถึงอายุไขก็เปลี่ยน บางทีมันอาจไม่พังแต่เปลี่ยนก่อนเพราะมันถึงอายุของมันแล้ว แค่นี้ก็ไม่ต้องกลัว แต่ที่มันตายกลางทางเพราะไม่ยอมซ่อมจะรออะไหล่มันเสียก่อนละค่อยเปลี่ยน พอมันเสียก็บอกว่ารถมันเก่า
-
รถเก่าผม 20ปี วิ่งไปกลับ 3000กิโลก็เคยมาแล้ว ปกติก็วิ่งเดือนละ 4000 กิโล ใช้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว
ผมว่าไม่น่ากลัวครับ รถเก่าดูแลเค้าแบบถึงๆ อะไรเสีย เสียงอะไรแปลก ซ่อม เปลี่ยน ของแท้อย่างเดียว ไม่มีดึงอาการ
เข้าใจเค้า ซ่อมบำรุงเองได้ในระดับนึง ผมว่าไม่น่ากลัวเลยครับ น่าใช้กว่ารถใหม่ๆ ที่ระบบไฟเยอะๆซะอีกครับ
-
ขอบคุณทุกคำตอบครับ เด๋วลองเอารถไปเช็ค แล้วจัดซักรอบ ;D ;D
-
- น้ำในหม้อน้ำไม่ขาด สายยางไม่ปริ ไม่รั่วซึม
- น้ำมันเครื่องไม่พร่อง ไม่มีควันขาว
- พัดลมหม้อน้ำยังทำงาน ยังมีเสียงดังของพัดลมวื๊ดๆ ให้รำคาญใจอยู่
- สายพานเครื่องยังสภาพดี
- แบตเตอร์รี่ เปลี่ยนทุกๆ 2 ปี
- ช่วงล่างไม่มีเสียง ลูกปืนล้อไม่หอน ยางไม่แบน
- ผ้าเบรคยังเหลือ น้ำมันเบรคไม่พร่อง
..........
ผมเช็คด้วยตัวเองเท่านี้
-
ถ้าดูแลถึงไม่น่ากลัวครับ แต่ต้องไม่เก่าจนเกินไปก็พอ
-
รถเก่ามันก็ต้องซ่อม จะมากจะน้อยก็ว่ากันไป
บางทีมันก็ออกอาการให้เห็น (แต่จะรู้หรือเปล่า จะใส่ใจแค่ไหน)
บางทีมันก็ไม่บอกล่วงหน้า มันเสียดื้อๆ (ขับๆมาดับไปเฉยๆ)
ตอนเสียก็ต้องพึ่งดวงนะ
ถ้าเสียในที่ที่ไม่อันตราย ใกล้อู่ ในเมือง
มีรถลาก หรือทำการแก้ไขเฉพาะหน้าได้
สำหรับผมถือว่ายังมีดวงอยู่ (ผมขอแค่นี้แหล่ะ)
แต่บางอย่างเช่นพวกเบรกและช่วงล่าง
และระบบส่งกำลัง ถ้าทำให้มันอยู่ในสภาพดีไว้
ผมคิดว่ามันเหมือน ACTIVE SAFETY
และประโยชน์ที่เพิ่มยิ่งขึ้นในหลายๆเรื่องครับ ;)
-
รถเก่า ถ้าไม่ดูแลรักษา ตามระยะของอุปกรณ์แต่ละชิ้นส่วน ก็น่ากลัวครับ
รถใหม่ ถ้าไม่ดูแลรักษา ตามระยะของอุปกรณ์แต่ละชิ้นส่วน ก็น่ากลัวครับ
โจทย์แค่นี้ เรื่องง่ายๆ
ก็เอา City ติดแก๊ส ไปเข้าอู่ที่เชื่อถือได้ เช็คทุกระบบ พื้นๆ ดังนี้
1. เครื่องยนต์ หม้อน้ำ และ เกียร์
2. ระบบเชื้อเพลิง แก๊ส น้ำมัน
3. ช่วงล่าง เพลาขับ ช็อคอัพ สปริง ยาง
4. ระบบไฟฟ้า หัวเทียน คอยล์ ECU สวิทซ์ต่างๆ รวมถึงไฟส่องสว่าง หน้า-หลัง
5. ระบบปรับอากาศ ในห้องโดยสาร
รายการไหนเสีย จัดการซ่อม ซ่อมไม่ได้ ก็เปลี่ยน
ทั้งหมดทั้งปวง อย่าขี้เหนียว ทำให้ดี เท่าที่จะทำได้
แล้วเขาจะซื่อสัตย์ต่อคุณ และวางใจได้ ไม่แพ้ รถป้ายแดงทีเดียว