Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: nirvanapoint ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 16:33:52

หัวข้อ: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหตุ
เริ่มหัวข้อโดย: nirvanapoint ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 16:33:52
    เมื่องาน Motor Show ที่ผ่านมาผมจองรถไปคันนึง
แต่เรื่องไม่ได้อยู่ตรงรถที่จอง
คือว่า ผมจัดไฟแนนซ์ โดยได้โปรจากเซลล์ 0 % 48 เดือน หลังจากที่ผมจองแล้วก็รอไฟแนนซ์ติดต่อเข้ามาตามปกติ
สักไม่กี่วันก็มีไฟแนนซ์ติดต่อเข้ามานัดวันมารับเอกสารที่บ้านของผม พอถึงวันที่นัดกันก็ปกติ มีใบทำสัญญาเช่าซื้อ
เอกสารที่ต้องใช้ บัตรประชาชน สมุดบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน แล้วเค้าก็ให้ผมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
ผมก็เซ็นไปทีละใบ รวมทั้งอ่านหัวข้อคร่าวๆว่าใบที่เซ็นคืออะไร มาถึงใบสัญญาแผ่นนึงผมเห็นเขียนว่าเป็นชื่อบริษัทประกันแห่งหนึ่ง
ผมก็เลยถามว่า : นี่คือใบอะไรครับ
เค้าก็ตอบว่า : เซ็นทุกใบให้ครบก่อนเลยครับเดี๋ยวผมอธิบายให้ฟัง
ผมก็เซ็นไป พอเซ็นเสร็จเค้าก็อธิบายว่าเป็นใบอะไรบ้างซึ่งผมก็พอทราบอยู่ เพราะได้อ่านหัวข้อคร่าวๆแล้วตอนเซ็น
แต่ไอ้เจ้าใบประกันที่ว่าไม่เห็นพูดถึง
ผมเลยถามอีกทีว่า : แล้วนี่เป็นใบประกันอะไรหรอครับ
เค้าก็อธิบายว่า : เป็นตัวคุ้มครองครับ คือถ้าพี่อยู่ในสัญญาผ่อน แล้วได้รับอุบัติเหตุ แล้วเสียชีวิตทุกกรณี ไม่ต้องผ่อนต่อเลย
                    เท่ากับว่างวดที่เหลือ ไม่ต้องจ่ายเลย
ผมก็คิดในใจว่า เออ ดีแฮะ ผ่อนกับไฟแนนซ์บริษัทนี้มีแบบนี้ด้วย จะได้สบายใจถ้าเกิดเราเป็นอะไรไป
ผมก็เลยถามต่อว่า : อ้าว แล้วงี้ต้องเสียอะไรหรือเปล่าครับ
ไฟแนนซ์ : ไม่มีครับ มันรวมอยู่ในสัญญาอยู่แล้ว
ผม : คือหมายถึงว่า ถ้าจัดไฟแนนซ์กับทางคุณ ก็จะมีประกันตัวนี้รวมให้อยู่แล้ว ถูกต้องไหมครับ
ไฟแนนซ์ : ใช่ครับ ดีมากเลยนะครับ ตัวนี้คุ้มครองพี่จนผ่อนหมดเลย สบายใจได้เลย ถ้าเกิดอุบัติเหตุ แฟนและลูก สบายใจ
              ได้เลยครับ ไม่ต้องเป็นหนี้ต่อ
     ผมเริ่มคล้อยตาม เออ ดีแฮะ ผ่อนรถมีแถมประกันด้วย
เค้าก็เขียนเอกสาร นู่นนี่ ไปเรื่อยๆ จนมาถึงค่างวด ผมก็มองดูยอดจัด กับยอดผ่อน/เดือน ที่เค้าใส่ไปมันทำไมไม่ตรงกับที่ผมคิดเอาไว้
คือ ผมผ่อนแบบ 0 % 48 เดือน คิดง่ายๆก็คือ ค่ารถ-เงินดาวน์ เหลือเท่าไหร่ หารด้วย 48 เดือน มันก็ไม่น่าจะมีอะไ รเพิ่มเติมจากนี้
ดอกก็ไม่มี ก็เริ่มงงๆ เลยถามเค้าว่า
ผม : ทำไมค่าผ่อนต่อเดือนไม่ตรงกับที่ผมคิดเลย มันมีค่าอะไรเพิ่มอีกหรือเปล่าครับ
ไฟแนนซ์ (มีอ้ำอึ้งเลกน้อย): คือ ยอดนี้จะมีตัวประกันเพิ่มไปประมาณ 3 ร้อยเศษๆครับ ซึ่งรวมอยู่ในสัญญาอยู่แล้ว
ผม : แล้วประกันที่ว่าไม่ทำไม่ได้หรอครับ
ไฟแนนซ์ : มันรวมอยู่ในสัญญาด้วยครับ และก็ดีกับครอบครัวพี่ด้วย
     ผมก็งงๆ + กับมันคงบังคับทำมั๊ง เพราะเห็นบอกรวมอยู่ในสัญญา (กำลังใช้ความคิด)
     เค้าก็ทำเอกสารเสร็จพอดี
ไฟแนนซ์ (เสริมต่อ) : +เพิ่มนิดหน่อยแต่ผมว่าคุ้มกับลูกค้ามากครับ
     ผมก็ยังงงๆ ว่าจริงๆมันไม่ทำได้หรือเปล่า ถึงตอนนี้ ก็กำลังจะบ๊ายบายกันละ
ผมก็ดีตรงถามต่ออีกว่า : แล้วต้องจ่ายเพิ่มเดือนเท่าไหร่
ไฟแนนซ์ : 3 ร้อยเศษๆ เองครับ โดยประมาณ
     ผมลอง บวกลบคูณหารอีกที
ผม : นี่มัน + ไปตั้ง เกือบ 700 นะครับ แล้วบอกผม 300 (48 เดือน = 3 หมื่นกว่า)
     ผมเริ่มไม่ค่อยเชื่อละ
ไฟแนนซ์ : โดยประมาณครับ
ผม : แล้วถ้าผมไม่เป็นอะไรก็เท่ากับเสียเงินฟรีหนะสิ (เริ่มกลับมาเป็นตัวเองมากขึ้น)
ไฟแนนซ์ : อย่างน้อยก็ปลอดภัยไว้ก่อนครับ
ผม : ถ้างั้นผมไม่ทำได้ไม๊ครับ (เริ่มเสียงหนักแน่น และรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะถูกขายประกัน เพิ่งรู้ตัวจริงๆครับ)
     ไฟแนนซ์เค้าก็อธิบายอีกหลายอย่าง ซึ่งถึงตอนนี้ในใจผมก็รู้แล้วว่า ไม่ซื้อได้นี่หว่า
สรุปผม ก็ขอใบทำประกันคืน คือไม่ได้ทำ ถ้าผมไม่รู้ตัวนี่คงได้ซื้อประกันแบบงงๆ โดยไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยไปแล้ว
          ไม่ได้แอนตี้เซลล์ขายประกันนะครับ แค่ไม่ชอบเลยที่มาแบบนี้ บอกกันดีๆน่าจะดีกว่า ว่า พี่สนใจทำไม๊ ได้คุ้มครอง
         นู่นนี่เพิ่ม ก็ว่ากันไป ลูกค้าจะทำหรือไม่ทำก็อีกเรื่อง แต่มาแบบนี้ แบบแฝงๆ เหมือนหลอกขายกลายๆ ผมไม่พอใจมากเลย
         แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรครับ เพียงแต่พอเค้ากลับไปแล้วก็มาบ่นกับแฟนครับ

จริงๆมีบทสนทนาเยอะมากกว่านี้ แต่แค่นี้ก็ยาวมากแล้ว ต้องขอโทษที่เล่ายาวไปนะครับ กลัวเพื่อนๆจะไม่เห็นภาพ ไม่แน่ใจว่าเพื่อนๆเคยเจอหรือเปล่า
ไม่แน่ใจว่าโพส แบบนี้ผิดห้อง หรือผิดกฎไหมครับ ถ้าผิด ลบหรือย้ายได้เลยครับ
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: chaiz ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 16:53:40
เดี๋ยวนี้มีทุกค่ายครับ แล้วแต่ไฟแนนซ์เลยว่าจะเอามาเสนอแบบไหน อย่างของผมเค้าก็ถามว่าจะทำมั้ย ได้ประโยชน์นี้ๆๆ แต่ไม่มีบังคับทำ

กับอีกคน ไฟแนนซ์เจ้าเดียวกัน แต่จองรถคนละยี่ห้อ เนียนมาให้เซ็นต์เหมือนกันเลย บอกบังคับทำ  สรุปไม่ได้ออกรถกับคนนี้ รอดตัวไป
หัวข้อ: Re: เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนจครับเกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหตุ
เริ่มหัวข้อโดย: slate ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 16:58:32
สงสัยผมคงจะโดนแล้ว มันอาศัยช่วงชุลมุนและเรามึน   :'(
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: NONT4477 ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 17:00:24
ของผมก็เจอครับ รถแฟน แต่ชื่อผม
ก็แบบนี้แหละ ถ้าผมตายไม่ต้องผ่อนต่อ *.*
แต่เจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์เค้าพูดดี บอกว่าส่วนนี้ไม่ได้บังคับ เป็นภาคสมัครใจ (เบี้ย 3พันกว่า)
ก็เลยไม่ทำ 555
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: Ammo ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 17:02:32
ของผมก้อมีครับ
แต่ เจ้าหน้าที่ไฟแนนที่ผมทำเค้าถามก่อนว่าสนใจไหม พร้อมโชว์แผนผังอธิบาย
ผมก็ได้ตอบปฏิเสธไป เผอิญเคยได้ยินเรื่องทำนองนี้มาก่อน เลยพอตั้งตัว(สติ)ทัน
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: AutoPlace ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 17:06:25
สงสัยต้องตั้งสติดีๆ  เซลล์เดี๋ยวนี้เอาทุกเม็ดเลยแฮะ
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: kati348 ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 17:16:01
เริ่มลามไปวงการรถแล้วซินะ แต่ก่อนมีแต่วงการซื้อบ้าน เห็นหลังๆเจอบ่นกันบ่อยๆ

ตอนพ่อผมซื้อรถเซลล์ก็ทำเนียนแบบนี้แหละ พอผมจับได้และบอกว่ายืนยันว่าไม่ทำ เพราะพ่อมีประกันเยอะแล้ว

ไม่อยากจ่ายเบี้ยประกันพร้อมดอกเบี้ยเท่าดอกเบี้ยซื้อรถ ถ้าจะทำเดี๋ยวไปทำแยกเอง จะได้ไม่ต้องเสียดอก

เซลล์ถึงกับชักสีหน้าไม่ดีใส่ แถมขู่เล็กๆว่าอาจมีผลต่อการอนุมัติ เดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าทีไปตรวจที่บ้าน

(พอดีพ่อผมทำสวน ไม่ได้มีรายได้แบบ มนุษย์เงินเดือนแบบผม)

...ผมเฉยๆ แล้วบอกพ่อว่า (พูดให้เซลล์ได้ยินด้วย) ให้เค้าไปตรวจเถอะ ไม่อนุมัติก็ช่าง เอาแค่สวนปาล์ม 20 ไร่นั่น ก็เพียงพอแล้ว

ถ้าไม่พอก็พาไปดูยาง อีก 70 ไร่อีกแปลง ... เชลลเงียบแล้วไม่พูดอะไรอีก ....
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: MoO Cnoe ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 17:19:10
ส่วนใหญ่ถ้าดอกเบี้ยถูก ก็จะต้องมีพ่วงมาแบบนี้แหละครับ
เพราะเซลล์ไฟแนนซ์จะไม่ได้อะไรเลย

ของผมได้ดอกถูก 1.55% (ช่วงโครงการคืนภาษีรถคันแรก)
เค้าก็มาขอตรงๆว่าช่วยทำหน่อยนะครับ ผมก็โอเคเห็นใจ ทำไป 1ปี พันกว่าบาท

กรณีของเจ้าของกระทู้เซลล์ไฟแนนซ์น่าเกลียดครับ
ไม่จริงใจเลย แถมเบี้ยประกันแพงมากเลยครับ หลักหมื่น
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: neutrino ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 17:27:48
จริงๆแล้วมันคือการขายประกันชีวิตรูปแบบใหม่รูปแบบนึงครับ โบรกเกอร์ติดต่อกับไฟแนนซ์และบวกระบบประกันชีวิตเข้าไปด้วยโดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับระบบผ่อนรถครับ แต่เนียนกับลูกค้าพูดว่า "ถ้าพี่เป็นอะไรไปไม่ต้องผ่อนต่อแล้ว" ก็คือเอาเงินจากกรมธรรม์ประกันชีวิตนี้จ่ายให้ไฟแนนซ์เลย แต่ถ้าสมมตินะ ว่าลูกค้าเป็นอะไรไปในปีที่4 แล้วค่างวดเหลือน้อยแล้ว ทายาทจะต้องได้รับเงินส่วนเกินคืนครับ แต่ถ้าทายาทไม่รู้เรื่องราวเหล่านี้เงินจะได้คืนหรือเปล่าก็ไม่รู้ ดังนั้นพอเอกสารเรียบร้อยอนุมัติแล้ว ไฟแนนซ์หรือเซลล์จะต้องแนบกรมธรรม์ประกันชีวิตฉบับนี้มาให้ลูกค้าด้วยครับ (บางรายตัวแทนขายประกันชีวิตจะติดต่อลูกค้ามาภายหลัง หลังจากเรื่องทุกอย่างอนุมัติแล้ว)และแน่นอนครับ ตัวแทนประกันชีวิตอาจจะติดต่อคุณบ่อยๆเพื่อชักชวนให้ซื้อกรมธรรม์ฉบับอื่นๆกับเขาต่อไป อันนี้เป็นระบบที่โบรกเกอร์ประกันชีวิตอบรมตัวแทนประจำอยู่แล้วครับ บางแห่งจะมาเป็นแพ็คเกจร่วมกันทั้งประกันชีวิตและประกันภัยครับ ลูกค้าต้องตรวจสอบให้ดี หากไม่ต้องการไม่ต้องเกรงใจ อึกอัก,กระอักกระอ่วน ให้พูดไปเลยว่าอันนี้ไม่เกี่ยวข้องขอปฏิเสธได้เลยครับ
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: JikorokunG ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 17:37:22
พึ่งโดนไปเมื่อตุลาปีทีแ้ล้ว บังคับทำไม่ทำไม่ผ่านนะเออ
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: litle ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 18:09:45
ผมก็เจอตอนทำสินเชื่อบุคคลครับธนาคารแห่งนึง(จริงๆ ไม่ได้เกี่ยวกับธนาคารที่ผมทำสินเชื่อด้วยเลย)
มีพ่วงทำประกันมาด้วย หักออกจากวงเงินที่ผมกู้ผ่าน ดีที่ผมเห็นเลยดึงเอกสารออกไว้(รวมทั้งเอกสารที่ใช้ทำสินเชื่อของผมด้วย)
พนักงานก็ขยั้นขยอจะให้ทำให้ได้ บอกดี ๆ ราคาถูกมาก(กู้หมึ่งแสนหักประกันแปดพันกว่า)
ผมก็ไม่เอา สุดท้ายตื้อมากผมเลยเตรียมตัวลุกบอกงั้นไม่เอาแล้ว ไม่ใช้แล้วเงินน่ะ ไม่ได้เดือดร้อน
มันเลยต้องยอมครับ ไม่ทำก็ไม่ทำ
ลักษณะเหมือนเป็นแฟนกัน ผู้ชายจัดการเรื่องสินเชื่อ ส่วนผู้หญิงจัดการเรื่องประกัน สุดท้ายผู้ชายหน้าระรื่น ผู้หญิงหน้าเป็นม้าน้ำเลยครับ
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: nachi ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 18:59:14
พึ่งโดนไปเมื่อตุลาปีทีแ้ล้ว บังคับทำไม่ทำไม่ผ่านนะเออ

แฟนก็โดนแบบนี้คับ ไม่ช่วยเค้าทำไฟแนนซ์ก็ไม่ผ่าน ผมก็บอกว่าจิงๆตามหลักมันก็ไม่ได้เกี่ยวเลยนะ
ไฟแนนซ์รถจะผ่านไม่ผ่านมันอยู่ที่การประเมินรายได้ รายจ่าย แต่อย่างว่ามันก็คงจะเตี๊ยมกันไว้หมดแล้ว
จิงๆวันที่ไปทำสัญญาผมไม่ได้ไปกับแฟนเพราะอยู่คนละจังหวัด เค้าก็โทรมาบอกผมก็เลยบอกว่าลอง
ปฏิเสธไปซิว่าเค้าจะอะไรเรามั้ย แต่ก็อย่างที่กล่าวมาถ้าไม่ทำ อะไรๆมันก็จะผ่านยาก ทางเซลล์ก็บอกว่า
แหมพี่ แค่เดือนละ 300 บาทเอง พี่ไปกินเที่ยวยังเยอะกว่านี้ ทำประกันป้องกันชีวิตตัวเองไว้มันไม่ดีกว่าเหรอ
แฟนผมก็เลยอะๆทำไปละกัน อย่างน้อยมันก็ไม่ได้เสียหายอะไรมาก พอหมด 1 ปี จะต่อไม่ต่อก็อีกเรื่อง
ผมก็เลยเน้นถามไปว่าประกันเนี่ยมันเปนประเภทปีต่อปีใช่มั้ยในสัญญา เพราะกลัวจะโดนแบบส่งยาวๆแบบ
หลายๆปีน่ะ ซึ่งๆการทำไว้มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรอย่างที่เซลล์เค้าบอกหรอก แต่ว่าไอ่มาขู่ว่าไม่ผ่านเนี่ย
มันไม่ค่อยเวิร์คนะ ซึ่งตอนผมซื้อรถก็โดนเหมือนกัน แต่เผอิญว่าผมปฏิเสธไป ถ้าจะขู่ว่านั่นนี่ไม่ผ่านผมก็คงไม่ซีเรียสนะ
ไปเอาค่ายอื่นหรือเซลล์คนอื่นก็ได้ แต่นี่คงเห็นแฟนเราเปนผู้หญิง(เกี่ยวมั้ยนะ)ก็เลยคุยกันง่ายหน่อย ถ้าเปนผมคงจะ
ต้องคุยรายละเอียดยาวนิดนึงแหละ จิงอยู่มันเดือนละ 300 บาท แต่ต้องดูสัญญาด้วยว่าเปนแบบไหน ปีต่อปีก็ว่าไป
ถ้าไม่ใช่เราก็ต้องผ่อนประกันภัยกันยาวไป
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 19:09:24
ตกลง มันไม่ดีหรืออย่างไร หรือ ว่าไม่ได้คุ้มครองจริงๆครับ
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: toffysoft ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 20:43:13
ของผมโดนบังคับแบบถ้าไม่ทำ....สัญญาไม่ผ่านอ่ะคับ 

เซ็งเป็ดมาก...ต้องจำใจยอมเพราะดาวน์ต่ำ  อยากจะรีบใช้รถ  รถคันเก่าก็ปล่อยไปแล้ว  เลยได้แต่คิดไว้ในใจว่าคันต่อไปตรูจะดาวน์ซัก50เปอร์เซนต์
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: LaTeX ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 20:53:15
แฟนผมก็โดน แต่เซลล์แจ้งไว้ค่อนข้างชัดเจน ไม่มีการบังคับ
ผมถามว่าเธอไม่ตายในสี่ปีนี้ใช่มั้ย ถ้าใช่ก็ไม่ต้องทำหรอก ดาวน์ไปเกิน50%และคิดดูดีๆ สุดท้ายเขาก็ทำครับ :P
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: apinui ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 20:53:22
ถ้าถามว่าทำแล้วดีไหม ก็ดี ถ้าเป็นอะไรไปอย่างที่เค้าบอกไว้ ... แต่จะไม่ดี ถ้าคิดว่า เราคงไม่เป็นอะไร ... มันมองได้คนละมุม อยู่ที่ว่าจะมองมุมไหน ??

อีกอย่าง อย่าไปโทษไฟแนนท์เค้าเลยครับ เดียวนี้ทุกแบงค์ บังคับให้เจ้าหน้าที่ ต้องขายประกันประเภทนี้ให้ได้อย่างน้อยๆ หลายสิบรายอยู่ ถ้าทำไม่ได้ตามเป้า จะโดนหักเงินรายละร่วม 1000บาทเลย

จนบางธนาคารเดียวนี้เริ่มมีนโยบายใครไม่ซื้อ ไม่อนุมัติ กันแล้วนะครับ  ;D
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: Frontiere ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 20:56:27
คุ้นๆเหมือนเคยโดน ม่ายนะ
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: comet1123 ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 21:08:59
ตกลง มันไม่ดีหรืออย่างไร หรือ ว่าไม่ได้คุ้มครองจริงๆครับ

ถ้าถามว่ามันดีไหม ส่วนตัวผมก็ว่ามันดีคับ ได้ไม่เป็นภาระักับคนข้างหลัง
แต่มันจะไม่ดีก็ตรงที่ พวกไฟแนนส์ ไม่พูดกันตรงๆอ่ะคับ เนียนๆให้เซ็นไป
ของผมรถ2คันก็ทำหมดคับ ไฟแนนส์เขาก็บอกมาตรงๆเลย
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: namliab ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 21:10:12
โดนเหมือนกันนะครับ แต่ไฟแนนซ์ถามก่อนว่าสนใจหรือเปล่า ไม่เนียนน่ะครับ
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: BaSkInElItEgUyS ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 22:00:47
ตอนซื้อ Focus TDCi ก็โดนเหมือนกันครับ
แต่ค่อนข้างละเอียดกันทั้งบ้าน
เลยบอกตั้งแต่เนิ่นๆเลยที่เห็นเอกสารประกันตัวนี้ ว่าไม่เอา
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: Deu1sch ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 22:13:37
ผมไปเซนมาวันนี้ครับ

ก็ตกลงทำน่ะครับ แต่มานั่งคิดๆดูเบี้ยประกันมันแพงไปหน่อย

อยากรู้ว่าถ้าเกิดทางนั้นเค้าโทรมาว่าอนุมัติแล้วผมจะสามารถเปลี่ยนเป็นเบี้ยถูกๆตัวเลือกอื่นได้ไหม
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: kati348 ที่ พฤษภาคม 07, 2013, 22:29:14
ตกลง มันไม่ดีหรืออย่างไร หรือ ว่าไม่ได้คุ้มครองจริงๆครับ

ดีไหม? มันก็คือประกันอุบัติเหตุทั่วไปอ่ะครับ ไม่ได้พิเศษไปกว่า ท่านมีญาติเป็นตัวแทน แล้วมาขอร้องให้ช่วยทำเพื่อเอายอด

มันคืออันเดียวกันแหละ ดีไม่ดีอยู่ที่เนื้อหาที่ระบุในกรมธรรธ์นั่นแหละ ชอบมาอ้างว่า ถ้าตายก่อนผ่อนรถหมด ลูกหลานจะได้ปิดยอด

จริงๆแล้ว ถ้าคนที่ถูกระบุให้รับผลประโยชน์ ไม่เอาเงินไปปิดยอด รถมันก็ถูกยึดอยู่ดีแหละ ไม่ได้เกี่ยวกับไฟแนนช์รถเลย


ส่วนที่ไม่ดีชัดเจน คือ เท่าที่เห็นคือ เบี้ยประกันชีวิต ถูกหักจากเงินดาวน์รถ นั่นหมายความว่า ท่านต้องดาวน์รถน้อยลง ส่วนต่างที่เขาเอาไปจ่ายค่าประกัน

ท่านก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยด้วยนั่นเอง ที่บอกว่าเดือนละ 2-300 ให้ดูให้ดีๆ ว่าเงินก้อนถูกเขาหักไปทำประกันแล้วหรือเปล่า ที่ 2-300 นั่นคือเงินที่ต้องจ่ายชดเชยจากเบี้ยประกัน

เนื่องจากดาวน์น้อยลง
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: aoddy1 ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 00:19:24
ของผม6พันครับ ครบ5ปีเลย ไฟแนนท์ก็บอกช่วยกันหน่อย มันก็มีข้อดีนะครับถ้าเราเป็นอะไรไป พ่อแม่หรือลูกเมียก็ไม่ต้องส่งต่อ ได้รถใช้ฟรี(แต่ก็ไม่อยากให้ตัวเองเป็นอะไรหรอกครับ)
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: supercat ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 00:49:53
มันคือคนละอันกับประกันรถใช่มั้ยครับ

ประกันที่พี่ๆ คุยกันนี่คือ ถ้าเกิดเราตายขึ้นมา ลูก/เมีย เราไม่ต้องผ่อนรถต่อให้เรา (อะไรทำนองนั้น)
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: elite ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 00:51:31
ของผมธนชาตระบุในกรมธรรม์เลยว่าใครเป็นผู้รับผลประโยชน์
1.ธนาคารธนชาต      เจ้าหนี้
2.ชื่อภรรยา               ภรรยา
แต่ก็โดนหักจากเงินดาวน์ไปนั่นแหละ ค่างวดขึ้นประมาณ200 เคยถามว่าจ่ายแยกได้มั้ย เค้าบอกไม่ได้งงเหมือนกัน SABAI JAI 3+  ;D
แต่ไม่เป็นไรตั้งใจจะทำอยู่แล้ว เป็นอะไรไปคนที่อยู่จะได้สบาย ขับรถอะไรก็เกิดขึ้นได้
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: arlao ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 01:29:54
ถ้าเป็นดั่งเนื้อเรื่องที่จขกท.ว่าไว้
ถือว่าพนง.ไฟแนนซ์พยายามรวบรัดตัดตอน
อาศัยช่วงชุลมุนมั่วนิ่ม ขายผลิตภัณฑ์ของตน
เหมือนจะเรียกว่าขายเก่ง แต่ต้องเรียกว่าไม่มีจรรยาบรรณครับ
ทำให้อาชีพไฟแนนซ์-ขายประกันภัยฯต้องมัวหมอง
บุคคลประเภทนี้มีอยู่ทุกวงการ

เห็นด้วยกับTopicที่ตั้งไว้ว่า"เตือนภัย"เลยครับ
เป็นภัยจากมนุษย์ด้วยกันนี่เอง

พฤติกรรมแบบนี้สงสารตาสีตาสาที่อาจต้องโดนหลอก

ทั้งที่จริงควรจริงใจอธิบายให้ชัดเจน เพื่อเป็นข้อมูล สุดท้ายลูกค้าจะตัดสินใจเอง
จะเป็นการให้เกียรติทั้งต่อลูกค้าและต่อภาพลักษณ์บริษัทของตนมากกว่า
และเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือในอาชีพอย่างมั่นคงในระยะยาว

แต่โลกความเป็นจริง หาได้ยาก
ต้องระวังตัว...ฮิหายเบย
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: 6162002 ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 01:52:00
โดนเต็มๆ เบี้ยเป็นพัน เพิ่งมารู้เอาภายหลัง บังคับห้าปีเลย ถ้าปีท้ายๆเหลือยอดผ่อนน้อย ยอดคุ้มครองมันก็เหลือน้อยไปด้วยครับ โคตรทุเรศ
พอจะโทรไปยกเลิก บอกว่า ปีหน้าขอไม่ทำแล้ว มันบอกไม่ได้ เพราะจัดไฟแนนซ์ไปแล้ว.....

ป.ล. ทำกับไฟแนนซ์ธนชาติ แม่งให้ผมรอเป็นเดือนครับ กว่าจะได้คำตอบ โทรไปคอลเซนเตอร์ เรื่องจะยกเลิกประกันตัวนี้ มันก็โอนสายไปมา สุดท้ายบอกให้โทรไปหาเจ้าหน้าที่ ที่จัดไฟแนนซ์ด้วย  ทีนี้โทรไปแม่งไม่เคยรับ (คือตั้งแต่ตอนก่อนจัดไฟแนนซ์ละครับ ก่อนได้เอกสาร มันโทรตามจังเลย  พอได้เอกสารไปแล้ว แมร๊งหายหัว โทรถามว่าไฟแนนซ์ผ่านรึเปล่า มีปัญหาอะไรมั๊ย แม่งก็ตอบแบบรำคาญตลอด)   โทรกลับไปคอลเซนเตอร์แม่งก็บอกว่าทำอะไรไม่ได้ ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์เอาเอง (เออดีว่ะ ไม่มีสิทธื์เรียกร้องห่าไรเลย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ไอ่นี่คนเดียว)

โทรอยู่ทุกวัน เกือบอาทิตย์มันถึงรับ แล้วก็บอกว่า "ไม่ได้ค่ะ ต้องยกเลิกก่อนทำสัญญาเสร็จสิ้น...."

ทุกวันนี้ยังเซ็งอยู่เลยครับ คือเบี้ยมันนี่  ผมไปซื้อประกันอุบัติเหตุจากข้างนอก คุ้มครองเยอะกว่าอีกครับ
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: eamesBot ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 09:29:47
อ่าน dialog แล้วโดนมากครับ แทบจะเป็นบทพูดเดียวกับที่ผมโดนเลยครับ
ตัวแทน finance เค้ามาเนียนๆ สอดแทรกมาในใบที่เยอะๆ บอกว่า พี่เซ็นอย่างเดียวเลย ไอ้ที่กรอกเดี๋ยวเค้ากรอกให้
เผลอเซ็น แต่ก่อนยื่นให้เค้า ผมไล่อ่านทีละใบ

ประกันอุบัติเหตุ ชื่อบริษัทตัวอักษรแรก ภาษาอังกฤษ ปะครับ
และ finance T หรือป่าว  ;D

สรุปว่า ผมถามเค้าว่ามันคืออะไร และทำไมต้องทำ เค้าตอบว่า  "ต้องทำ" ครับ และก็โอ้โลมด้วยการบอกว่า แหมพี่ซื้อรถระดับนี้แล้ว (ระดับไหนวะ) สิ่งที่เพิ่มไปมันคุ้มค่า จ่ายเพิ่มอีกนิดไม่มีปัญหาหรอก อย่างนั้นอย่างนี้

ที่ผมจี๊ดก็ตรงที่บอกว่า "ต้องทำ" กับเลีย เรื่องรวยจน นี่หล่ะ ผมก็เลยเสียงแข็ง ว่าไม่ทำ ถ้าไฟแนนซ์ ไม่ผ่านก็ไม่เอา
สุดท้าย เค้าหน้าเสียๆ นะ และก็บอกว่า เดี๋ยวจะคุยกับผู้จัดการให้ (ท้ายที่สุด finance ก็ผ่านไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ)

เข้าใจเค้าระดับหนึ่งนะ ว่ามันอาจจะดี แต่ไม่ชอบวิธีการ หมกเม็ดขาย กับ เลีย กึ่งๆ ดักทาง ว่าเงินแค่นี้ ไม่มีปัญหา  :-\

หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: nuclearlab ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 10:08:24
เจอเหมือนกัน ตอนแรกที่หาไฟแนนซ์ก็คิดว่าจะทำอยู่เหมือนกันครับถ้ามันไม่แพงมาก แต่พอมาดูเบี้ยที่ไฟแนนซ์ให้มาแล้วก็อึ้งครับ ผ่อนห้าปี เบี้ยล่อไปสองหมื่นกว่า

ลองกลับมาคิดดู ตอนนี้ PA ทุนล้านนึงแบบกะหลั่วๆเลยก็ปีละ 2,500 โดยประมาณ แต่ถ้าเอาออปชั่นเทพๆหน่อยอย่างค่ารักษาครั้งละแสน มีค่าปลงศพให้อะไรงี้ก็ตกปีละ 4,500 ดูไปดูมาตูเอาตังค์ไปซื้อ PA ท่าดีกว่าแฮะ รถผมก็ราคาไม่ถึงล้านซะด้วย ยังไงซะเมียก็ยังมีเงินเหลือไปทำศพผมแน่ๆถ้ามันเกิดอะไรขึ้นจริง

อีกอย่าง ที่ไฟแนนซ์ขู่ว่าจะมีผลต่อการพิจารณานั่น ลองมาคิดดู ตัวผมก็ไม่เคยติด Blacklist เงินเดือนเยอะกว่ายอดผ่อนสามเท่า ถ้าไฟแนนซ์จะไม่เอาก็ช่างแม่...มันแล้วครับ ก็เลยบอกไปเลยชัดเจนว่าไม่ทำ ไฟแนนซ์ก็ยังขู่เหมือนเดิม แต่สุดท้ายก็ผ่านด้วยดี Checkers โทรมาเช็คปุ๊บ อนุมัติปั๊บ ย้อนกลับไปถาม Checkers ก็บอกว่าเรื่องประกันนี้แล้วแต่ตกลงครับ ไม่มีผลต่อการประเมินสินเชื่อแต่อย่างใด เค้าห่วงแค่ว่าเราจะมีปัญญาผ่อนได้หรือเปล่าแค่นั้นครับ เรื่องตายแล้วหาคนมาจ่ายไม่ได้นี่มันเป็นหน้าที่ของฝ่ายเร่งรัดหนี้สิน ไม่เกี่ยวกันกะคนอนุมัติ

สรุปคือมาร์เกตติ้งของไฟแนนซ์มันอยากลักไก่ขายประกันน่ะครับ เลยมาขู่เอากะเรา ถ้าใครเจอแบบนี้ แนะนำให้อัดเสียงอัดคลิปไว้แล้วร้องเรียนไปทาง ธปท. ได้ครับถ้าอยากจัดหนัก รับรองว่าต้องมีการเปลี่ยนงานแน่ (แต่ผมก็ไม่ได้ทำนะ)
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: nirvanapoint ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 10:58:55
แบบนี้แสดงว่า
โดนกันทั่วหน้าเลยนะครับ
ตัวแทนประกัน หรือเซลล์น่าจะมีจรรณยาบรรณกันบ้างอะครับ เดี๋ยวนี้จ้องจะขายกันอย่างเดียว แย่จัง
นี่อย่างที่ท่านข้างบนบอก เป็นตาสีตาสา นี่ก็คงโดนเซ็นทำไปหลายฉบับยังไม่รู้ตัวเลย คิดแล้วสงสารแทนเลยครับ
ไม่ได้เกลียดตัวแทนประกันนะครับ แต่ถ้าบอกหรืออธิบายกันดีๆ แล้วให้ลูกค้าตัดสินใจน่าจะดีกว่านะครับ
แล้วก็ไม่โดนด่าด้วย แบบนี้ถึงจะขายได้ ถ้าลูกค้ารู้ทีหลังก็โดนด่าเละแน่ๆ เพราะเหมือนโดนหลอก
ไม่เกี่ยวว่าอยากทำหรือเปล่า แต่ถ้าโดนหลอก เป็นใครก็ไม่พอใจทั้งนั้นแหละ
ขอบคุณทุกๆความเห็นของทุกๆท่านครับ
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 20:55:27
ตกลง มันไม่ดีหรืออย่างไร หรือ ว่าไม่ได้คุ้มครองจริงๆครับ

ถ้าถามว่ามันดีไหม ส่วนตัวผมก็ว่ามันดีคับ ได้ไม่เป็นภาระักับคนข้างหลัง
แต่มันจะไม่ดีก็ตรงที่ พวกไฟแนนส์ ไม่พูดกันตรงๆอ่ะคับ เนียนๆให้เซ็นไป
ของผมรถ2คันก็ทำหมดคับ ไฟแนนส์เขาก็บอกมาตรงๆเลย

อ๋อ ผมก็ตกใจเลย เห็นพี่ๆเค้าโวยวายกัน ว่าไม่ทำ ว่าโดนหลอก

เพราะพ่อผมทำแต่เซลบอกตรงๆ โอเค ขอบคุณครับ  ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: applebees ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 22:20:53
    เมื่องาน Motor Show ที่ผ่านมาผมจองรถไปคันนึง
แต่เรื่องไม่ได้อยู่ตรงรถที่จอง
คือว่า ผมจัดไฟแนนซ์ โดยได้โปรจากเซลล์ 0 % 48 เดือน หลังจากที่ผมจองแล้วก็รอไฟแนนซ์ติดต่อเข้ามาตามปกติ
สักไม่กี่วันก็มีไฟแนนซ์ติดต่อเข้ามานัดวันมารับเอกสารที่บ้านของผม พอถึงวันที่นัดกันก็ปกติ มีใบทำสัญญาเช่าซื้อ
เอกสารที่ต้องใช้ บัตรประชาชน สมุดบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน แล้วเค้าก็ให้ผมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
ผมก็เซ็นไปทีละใบ รวมทั้งอ่านหัวข้อคร่าวๆว่าใบที่เซ็นคืออะไร มาถึงใบสัญญาแผ่นนึงผมเห็นเขียนว่าเป็นชื่อบริษัทประกันแห่งหนึ่ง
ผมก็เลยถามว่า : นี่คือใบอะไรครับ
เค้าก็ตอบว่า : เซ็นทุกใบให้ครบก่อนเลยครับเดี๋ยวผมอธิบายให้ฟัง
ผมก็เซ็นไป พอเซ็นเสร็จเค้าก็อธิบายว่าเป็นใบอะไรบ้างซึ่งผมก็พอทราบอยู่ เพราะได้อ่านหัวข้อคร่าวๆแล้วตอนเซ็น
แต่ไอ้เจ้าใบประกันที่ว่าไม่เห็นพูดถึง
ผมเลยถามอีกทีว่า : แล้วนี่เป็นใบประกันอะไรหรอครับ
เค้าก็อธิบายว่า : เป็นตัวคุ้มครองครับ คือถ้าพี่อยู่ในสัญญาผ่อน แล้วได้รับอุบัติเหตุ แล้วเสียชีวิตทุกกรณี ไม่ต้องผ่อนต่อเลย
                    เท่ากับว่างวดที่เหลือ ไม่ต้องจ่ายเลย
ผมก็คิดในใจว่า เออ ดีแฮะ ผ่อนกับไฟแนนซ์บริษัทนี้มีแบบนี้ด้วย จะได้สบายใจถ้าเกิดเราเป็นอะไรไป
ผมก็เลยถามต่อว่า : อ้าว แล้วงี้ต้องเสียอะไรหรือเปล่าครับ
ไฟแนนซ์ : ไม่มีครับ มันรวมอยู่ในสัญญาอยู่แล้ว
ผม : คือหมายถึงว่า ถ้าจัดไฟแนนซ์กับทางคุณ ก็จะมีประกันตัวนี้รวมให้อยู่แล้ว ถูกต้องไหมครับ
ไฟแนนซ์ : ใช่ครับ ดีมากเลยนะครับ ตัวนี้คุ้มครองพี่จนผ่อนหมดเลย สบายใจได้เลย ถ้าเกิดอุบัติเหตุ แฟนและลูก สบายใจ
              ได้เลยครับ ไม่ต้องเป็นหนี้ต่อ
     ผมเริ่มคล้อยตาม เออ ดีแฮะ ผ่อนรถมีแถมประกันด้วย
เค้าก็เขียนเอกสาร นู่นนี่ ไปเรื่อยๆ จนมาถึงค่างวด ผมก็มองดูยอดจัด กับยอดผ่อน/เดือน ที่เค้าใส่ไปมันทำไมไม่ตรงกับที่ผมคิดเอาไว้
คือ ผมผ่อนแบบ 0 % 48 เดือน คิดง่ายๆก็คือ ค่ารถ-เงินดาวน์ เหลือเท่าไหร่ หารด้วย 48 เดือน มันก็ไม่น่าจะมีอะไ รเพิ่มเติมจากนี้
ดอกก็ไม่มี ก็เริ่มงงๆ เลยถามเค้าว่า
ผม : ทำไมค่าผ่อนต่อเดือนไม่ตรงกับที่ผมคิดเลย มันมีค่าอะไรเพิ่มอีกหรือเปล่าครับ
ไฟแนนซ์ (มีอ้ำอึ้งเลกน้อย): คือ ยอดนี้จะมีตัวประกันเพิ่มไปประมาณ 3 ร้อยเศษๆครับ ซึ่งรวมอยู่ในสัญญาอยู่แล้ว
ผม : แล้วประกันที่ว่าไม่ทำไม่ได้หรอครับ
ไฟแนนซ์ : มันรวมอยู่ในสัญญาด้วยครับ และก็ดีกับครอบครัวพี่ด้วย
     ผมก็งงๆ + กับมันคงบังคับทำมั๊ง เพราะเห็นบอกรวมอยู่ในสัญญา (กำลังใช้ความคิด)
     เค้าก็ทำเอกสารเสร็จพอดี
ไฟแนนซ์ (เสริมต่อ) : +เพิ่มนิดหน่อยแต่ผมว่าคุ้มกับลูกค้ามากครับ
     ผมก็ยังงงๆ ว่าจริงๆมันไม่ทำได้หรือเปล่า ถึงตอนนี้ ก็กำลังจะบ๊ายบายกันละ
ผมก็ดีตรงถามต่ออีกว่า : แล้วต้องจ่ายเพิ่มเดือนเท่าไหร่
ไฟแนนซ์ : 3 ร้อยเศษๆ เองครับ โดยประมาณ
     ผมลอง บวกลบคูณหารอีกที
ผม : นี่มัน + ไปตั้ง เกือบ 700 นะครับ แล้วบอกผม 300 (48 เดือน = 3 หมื่นกว่า)
     ผมเริ่มไม่ค่อยเชื่อละ
ไฟแนนซ์ : โดยประมาณครับ
ผม : แล้วถ้าผมไม่เป็นอะไรก็เท่ากับเสียเงินฟรีหนะสิ (เริ่มกลับมาเป็นตัวเองมากขึ้น)
ไฟแนนซ์ : อย่างน้อยก็ปลอดภัยไว้ก่อนครับ
ผม : ถ้างั้นผมไม่ทำได้ไม๊ครับ (เริ่มเสียงหนักแน่น และรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะถูกขายประกัน เพิ่งรู้ตัวจริงๆครับ)
     ไฟแนนซ์เค้าก็อธิบายอีกหลายอย่าง ซึ่งถึงตอนนี้ในใจผมก็รู้แล้วว่า ไม่ซื้อได้นี่หว่า
สรุปผม ก็ขอใบทำประกันคืน คือไม่ได้ทำ ถ้าผมไม่รู้ตัวนี่คงได้ซื้อประกันแบบงงๆ โดยไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยไปแล้ว
          ไม่ได้แอนตี้เซลล์ขายประกันนะครับ แค่ไม่ชอบเลยที่มาแบบนี้ บอกกันดีๆน่าจะดีกว่า ว่า พี่สนใจทำไม๊ ได้คุ้มครอง
         นู่นนี่เพิ่ม ก็ว่ากันไป ลูกค้าจะทำหรือไม่ทำก็อีกเรื่อง แต่มาแบบนี้ แบบแฝงๆ เหมือนหลอกขายกลายๆ ผมไม่พอใจมากเลย
         แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรครับ เพียงแต่พอเค้ากลับไปแล้วก็มาบ่นกับแฟนครับ

จริงๆมีบทสนทนาเยอะมากกว่านี้ แต่แค่นี้ก็ยาวมากแล้ว ต้องขอโทษที่เล่ายาวไปนะครับ กลัวเพื่อนๆจะไม่เห็นภาพ ไม่แน่ใจว่าเพื่อนๆเคยเจอหรือเปล่า
ไม่แน่ใจว่าโพส แบบนี้ผิดห้อง หรือผิดกฎไหมครับ ถ้าผิด ลบหรือย้ายได้เลยครับ
ขอบคุณครับ


ผมได้ได้อ่านเลยซักเม้นท์นะครับ แค่อยากตอบเจ้าของกระทู้เฉยๆ ^^

ถ้า 0% 48 เดือน ก็จะมีแค่ Honda Civic กับ Ford Fiesta รุ่นพริตตี้บอก

ตอนผมออกโฟกัส ไฟแนนซ์ของทางฟอร์ดก็คือ Tisco ก็อธิบายเรื่องนี้ แล้วก็ถามอย่างตรงไปตรงมาว่า ต้องการที่จะทำไหม

เพราะฉะนั้นผมว่า อยู่ที่จรรยาบรรณของ ไฟแนนซ์แล้วล่ะครับ  ;D ;D

หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: chaiz ที่ พฤษภาคม 09, 2013, 15:53:00
ผมว่าตัวประกันน่ะ ดีครับ เสียแต่ว่า เนียนมาให้เซ็นต์ และแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ รวมกับค่าผ่อนรถ ซึ่งบางทีเรามีกำลังจ่ายได้ทั้งก้อน จะไม่โดนดอกเบี้ยส่วนนี้
แต่ถ้าเอามาหั่นใส่กับค่าผ่อน ก้อนนี้ก็จะโดนดอกเบี้ยไปด้วยครับ เพราะเค้าเอาเงินดาวน์เราแบ่งไปจ่าย แล้วเอาค่าประกันเข้าไฟแนนซ์
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: nirvanapoint ที่ พฤษภาคม 10, 2013, 10:21:05
    เมื่องาน Motor Show ที่ผ่านมาผมจองรถไปคันนึง
แต่เรื่องไม่ได้อยู่ตรงรถที่จอง
คือว่า ผมจัดไฟแนนซ์ โดยได้โปรจากเซลล์ 0 % 48 เดือน หลังจากที่ผมจองแล้วก็รอไฟแนนซ์ติดต่อเข้ามาตามปกติ
สักไม่กี่วันก็มีไฟแนนซ์ติดต่อเข้ามานัดวันมารับเอกสารที่บ้านของผม พอถึงวันที่นัดกันก็ปกติ มีใบทำสัญญาเช่าซื้อ
เอกสารที่ต้องใช้ บัตรประชาชน สมุดบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน แล้วเค้าก็ให้ผมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
ผมก็เซ็นไปทีละใบ รวมทั้งอ่านหัวข้อคร่าวๆว่าใบที่เซ็นคืออะไร มาถึงใบสัญญาแผ่นนึงผมเห็นเขียนว่าเป็นชื่อบริษัทประกันแห่งหนึ่ง
ผมก็เลยถามว่า : นี่คือใบอะไรครับ
เค้าก็ตอบว่า : เซ็นทุกใบให้ครบก่อนเลยครับเดี๋ยวผมอธิบายให้ฟัง
ผมก็เซ็นไป พอเซ็นเสร็จเค้าก็อธิบายว่าเป็นใบอะไรบ้างซึ่งผมก็พอทราบอยู่ เพราะได้อ่านหัวข้อคร่าวๆแล้วตอนเซ็น
แต่ไอ้เจ้าใบประกันที่ว่าไม่เห็นพูดถึง
ผมเลยถามอีกทีว่า : แล้วนี่เป็นใบประกันอะไรหรอครับ
เค้าก็อธิบายว่า : เป็นตัวคุ้มครองครับ คือถ้าพี่อยู่ในสัญญาผ่อน แล้วได้รับอุบัติเหตุ แล้วเสียชีวิตทุกกรณี ไม่ต้องผ่อนต่อเลย
                    เท่ากับว่างวดที่เหลือ ไม่ต้องจ่ายเลย
ผมก็คิดในใจว่า เออ ดีแฮะ ผ่อนกับไฟแนนซ์บริษัทนี้มีแบบนี้ด้วย จะได้สบายใจถ้าเกิดเราเป็นอะไรไป
ผมก็เลยถามต่อว่า : อ้าว แล้วงี้ต้องเสียอะไรหรือเปล่าครับ
ไฟแนนซ์ : ไม่มีครับ มันรวมอยู่ในสัญญาอยู่แล้ว
ผม : คือหมายถึงว่า ถ้าจัดไฟแนนซ์กับทางคุณ ก็จะมีประกันตัวนี้รวมให้อยู่แล้ว ถูกต้องไหมครับ
ไฟแนนซ์ : ใช่ครับ ดีมากเลยนะครับ ตัวนี้คุ้มครองพี่จนผ่อนหมดเลย สบายใจได้เลย ถ้าเกิดอุบัติเหตุ แฟนและลูก สบายใจ
              ได้เลยครับ ไม่ต้องเป็นหนี้ต่อ
     ผมเริ่มคล้อยตาม เออ ดีแฮะ ผ่อนรถมีแถมประกันด้วย
เค้าก็เขียนเอกสาร นู่นนี่ ไปเรื่อยๆ จนมาถึงค่างวด ผมก็มองดูยอดจัด กับยอดผ่อน/เดือน ที่เค้าใส่ไปมันทำไมไม่ตรงกับที่ผมคิดเอาไว้
คือ ผมผ่อนแบบ 0 % 48 เดือน คิดง่ายๆก็คือ ค่ารถ-เงินดาวน์ เหลือเท่าไหร่ หารด้วย 48 เดือน มันก็ไม่น่าจะมีอะไ รเพิ่มเติมจากนี้
ดอกก็ไม่มี ก็เริ่มงงๆ เลยถามเค้าว่า
ผม : ทำไมค่าผ่อนต่อเดือนไม่ตรงกับที่ผมคิดเลย มันมีค่าอะไรเพิ่มอีกหรือเปล่าครับ
ไฟแนนซ์ (มีอ้ำอึ้งเลกน้อย): คือ ยอดนี้จะมีตัวประกันเพิ่มไปประมาณ 3 ร้อยเศษๆครับ ซึ่งรวมอยู่ในสัญญาอยู่แล้ว
ผม : แล้วประกันที่ว่าไม่ทำไม่ได้หรอครับ
ไฟแนนซ์ : มันรวมอยู่ในสัญญาด้วยครับ และก็ดีกับครอบครัวพี่ด้วย
     ผมก็งงๆ + กับมันคงบังคับทำมั๊ง เพราะเห็นบอกรวมอยู่ในสัญญา (กำลังใช้ความคิด)
     เค้าก็ทำเอกสารเสร็จพอดี
ไฟแนนซ์ (เสริมต่อ) : +เพิ่มนิดหน่อยแต่ผมว่าคุ้มกับลูกค้ามากครับ
     ผมก็ยังงงๆ ว่าจริงๆมันไม่ทำได้หรือเปล่า ถึงตอนนี้ ก็กำลังจะบ๊ายบายกันละ
ผมก็ดีตรงถามต่ออีกว่า : แล้วต้องจ่ายเพิ่มเดือนเท่าไหร่
ไฟแนนซ์ : 3 ร้อยเศษๆ เองครับ โดยประมาณ
     ผมลอง บวกลบคูณหารอีกที
ผม : นี่มัน + ไปตั้ง เกือบ 700 นะครับ แล้วบอกผม 300 (48 เดือน = 3 หมื่นกว่า)
     ผมเริ่มไม่ค่อยเชื่อละ
ไฟแนนซ์ : โดยประมาณครับ
ผม : แล้วถ้าผมไม่เป็นอะไรก็เท่ากับเสียเงินฟรีหนะสิ (เริ่มกลับมาเป็นตัวเองมากขึ้น)
ไฟแนนซ์ : อย่างน้อยก็ปลอดภัยไว้ก่อนครับ
ผม : ถ้างั้นผมไม่ทำได้ไม๊ครับ (เริ่มเสียงหนักแน่น และรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะถูกขายประกัน เพิ่งรู้ตัวจริงๆครับ)
     ไฟแนนซ์เค้าก็อธิบายอีกหลายอย่าง ซึ่งถึงตอนนี้ในใจผมก็รู้แล้วว่า ไม่ซื้อได้นี่หว่า
สรุปผม ก็ขอใบทำประกันคืน คือไม่ได้ทำ ถ้าผมไม่รู้ตัวนี่คงได้ซื้อประกันแบบงงๆ โดยไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยไปแล้ว
          ไม่ได้แอนตี้เซลล์ขายประกันนะครับ แค่ไม่ชอบเลยที่มาแบบนี้ บอกกันดีๆน่าจะดีกว่า ว่า พี่สนใจทำไม๊ ได้คุ้มครอง
         นู่นนี่เพิ่ม ก็ว่ากันไป ลูกค้าจะทำหรือไม่ทำก็อีกเรื่อง แต่มาแบบนี้ แบบแฝงๆ เหมือนหลอกขายกลายๆ ผมไม่พอใจมากเลย
         แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรครับ เพียงแต่พอเค้ากลับไปแล้วก็มาบ่นกับแฟนครับ

จริงๆมีบทสนทนาเยอะมากกว่านี้ แต่แค่นี้ก็ยาวมากแล้ว ต้องขอโทษที่เล่ายาวไปนะครับ กลัวเพื่อนๆจะไม่เห็นภาพ ไม่แน่ใจว่าเพื่อนๆเคยเจอหรือเปล่า
ไม่แน่ใจว่าโพส แบบนี้ผิดห้อง หรือผิดกฎไหมครับ ถ้าผิด ลบหรือย้ายได้เลยครับ
ขอบคุณครับ


ผมได้ได้อ่านเลยซักเม้นท์นะครับ แค่อยากตอบเจ้าของกระทู้เฉยๆ ^^

ถ้า 0% 48 เดือน ก็จะมีแค่ Honda Civic กับ Ford Fiesta รุ่นพริตตี้บอก

ตอนผมออกโฟกัส ไฟแนนซ์ของทางฟอร์ดก็คือ Tisco ก็อธิบายเรื่องนี้ แล้วก็ถามอย่างตรงไปตรงมาว่า ต้องการที่จะทำไหม

เพราะฉะนั้นผมว่า อยู่ที่จรรยาบรรณของ ไฟแนนซ์แล้วล่ะครับ  ;D ;D



ใช่ครับ
ผมไม่ได้ติดใจในบริษัทไฟแนนซ์เลยครับ
แต่ผมติดใจตรงเซลล์ที่มาหาผมเนี่ยแหละครับ ไม่เคยเจอเซลล์แบบนี้
เดี๋ยวนี้คนเรา จรรณยาบรรณในอาชีพน้อยลงจริงๆ จ้องจะเอาแต่ตังค์
ดูจากคอมเม้นข้างบนก็แสดงว่าเซลล์แบบนี้มีเยอะจริงๆ แต่เซลล์ดีๆก็ยังพอมีเหลือบ้าง
ไฟแนนซ์เดียวกะของพี่เลยครับ หุหุ
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: nirvanapoint ที่ พฤษภาคม 10, 2013, 10:24:00
ผมว่าตัวประกันน่ะ ดีครับ เสียแต่ว่า เนียนมาให้เซ็นต์ และแบ่งจ่ายเป็นงวดๆ รวมกับค่าผ่อนรถ ซึ่งบางทีเรามีกำลังจ่ายได้ทั้งก้อน จะไม่โดนดอกเบี้ยส่วนนี้
แต่ถ้าเอามาหั่นใส่กับค่าผ่อน ก้อนนี้ก็จะโดนดอกเบี้ยไปด้วยครับ เพราะเค้าเอาเงินดาวน์เราแบ่งไปจ่าย แล้วเอาค่าประกันเข้าไฟแนนซ์

จริงครับ ไอ้ตัวประกันเนี่ยผมไม่ได้ว่าอะไรเลย มันก็ดีอยู่ แต่ผมไม่พอใจตรงมาหลอกกันเนี่ยแหละครับ
อาจจะไม่ได้หลอกแบบเห็นๆ แต่มาเนียนๆแบบนี้ รู้สึกแย่ครับ เลยมาเล่าให้พี่ๆฟังครับ
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: (เล่าสู่กันฟัง เรียกว่าเตือนภัยได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจครับ)เกือบโดนหลอกทำประกันอุบัติเหต
เริ่มหัวข้อโดย: neutrino ที่ พฤษภาคม 17, 2013, 16:12:48
ไอ้ที่เขามาทำเนียนๆกับลูกค้า นี่ละครับคือระบบที่เขาสอนกัน ในที่อบรมจะมีการขึ้นมาแชร์ประสบการณ์กันว่าจะทำอย่างไรให้ขายได้ จะทำอย่างไรให้่ลูกค้าไม่รู้สึกตัว จะมีวิธีสอดแทรกจิตวิทยาเข้าไปด้วยครับ สอนกันเป็นระบบครับสำหรับบางโบรกเกอร์ การที่ได้เข้าไปร่วมในไฟแนนซ์ก็เพราะว่า ผู้บริหารไฟแนนซ์บางท่านบางแห่งเป็นตัวแทนหรือโบรกเกอร์เองครับ แบบว่าได้รายได้2ต่อครับ ถ้าเคยเข้าไปฟังอบรมของโบรกเกอร์แล้วจะรู้ว่านี่คือส่วนหนึ่งของระบบครับ