Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: kai11 ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 12:52:38

หัวข้อ: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: kai11 ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 12:52:38
เป็นเรื่อง! สมาคมยานยนต์มะกันออกโรงเตือน “เอทานอล” เป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์ กระทบความปลอดภัยผู้บริโภค
ชาร์ลส์ เดรฟนา ประธานบริหารของสมาคมผู้ผลิตปิโตรเคมีและเชื้อเพลิงอเมริกัน ซึ่งเป็นองค์กรศูนย์รวมของบรรดาผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ใหญ่และทรงอิทธิพลที่สุดในสหรัฐฯ ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1902 ออกมาแถลงเมื่อวันอังคาร (7) โดยระบุว่า ทางสมาคมมีความกังวลถึงความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯและหลายประเทศทั่วโลกที่ต้องการผลักดันให้เพิ่มสัดส่วนของ “เอทานอล” ในน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับยานยนต์ เนื่องจากทางสมาคมฯ เชื่อมั่นว่า ปริมาณเอทานอลที่เพิ่มสูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์ของรถ และกระทบต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

เอาไงเนี้ยทีนี้
ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000055116 (http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000055116)
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: JONNY ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 12:58:19
มันจะส่งผลกระทบกับผู้ค้าน้ำมันดิบนะซิไม่ว่า
อีกหน่อยก็จะบอกว่า แก๊ส ไฮบริท เป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: shando ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 13:03:29
ที่อ่านมาคือคิดไปเองนั่นเอง ไม่เห็นพูดว่าพบหลักฐานอะไรเลย
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 13:06:02
ก็คือเชื่อ แค่นั้นเองใช่มั๊ยครับ    โดยเชื่อจากผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ใหญ่และทรงอิทธิพลที่สุดในสหรัฐฯ งั้นก็ปล่อยให้เค้าเชื่อไปเถอะครับ
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: PJ" ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 13:09:47
สรุปคือกลัวขายน้ำมันได้น้อยลง
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: sitpaku ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 13:24:09
แทนที่จะช่วยกันลดการใช้น้ำมันดิบ เฮ้ออ
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: คนกรุง ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 13:24:28
ถ้าไม่ดีจริง ป่านนี้รถที่บราซิลคงพังกันหมดแล้วล่ะครับ E100% ทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: Zahnarzt ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 13:27:27
ก็อาจจะจริงครับ แต่เหรียญมีสองด้าน
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: H. ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 13:28:46
อ้างถึง

เนื่องจากทางสมาคมฯ เชื่อมั่นว่า ปริมาณเอทานอลที่เพิ่มสูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์ของรถ และกระทบต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค


คิดไปว่า น่าจะ อาจจะ เชื่อว่า อืม....
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: Stroke8 ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 13:29:29
อย่าได้ตายใจไปนะครับ ไม่แน่ ครั้งหนึ่งนานมาแล้วผู้คนคิดว่าสูบบุหรี่ดีต่อสุขภาพ และเคยมีคนคิดว่าน้ำมันมีสารตะกั่วดีต่อสิ่งแวดล้อม

ผมก็เลยลองเอาภาพแรกไปกูเกิ้ลหาดูเล่นๆ ปรากฎว่ามันคือปั้มติ๊กของรถจีเอ็มซีปี 87 ที่วิ่งด้วยน้ำมัน E85

จีเอ็มซีปี 87

ภาพที่สองเป็นเครื่องเรือ ซึ่งเจ้าของใช้สารเติมน้ำมันที่บอกว่าป้องกันปัญหาจากการใช้แอลกอฮอ แต่มันไปหลงเหลือตะกอนอยู่ในนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับเอทานอลเลยครับ


สรุป รูปกับเนื้อข่าวมันไม่ตรงกันด้วยซ้ำ
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: Weetting ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 13:35:07
แทนที่สนับสนุน

เพราะน้ำมันดิบก็ลดลงทุกวัน

แต่ยังไงผมก็ไม่เชื่อเพราะดูชื่อสถาบันที่ มาวิจัย แล้วมันประหลาดๆ ช่างสอดคล้องกับผลงานวิจัย

หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: zeb80 ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 13:36:32
เอาเป็นว่ารถผมเติมแก๊สโซฮอล95มาเกิน5ปี ยังไม่เคยมีปัญหาเครื่องยนต์ใดๆเลยครับ
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: kreaninw ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 14:19:02
เอาเป็นว่ารถผมเติมแก๊สโซฮอล95มาเกิน5ปี ยังไม่เคยมีปัญหาเครื่องยนต์ใดๆเลยครับ
คือแก๊ส 95 หรือ E10 ค่ายรถยนต์ต่างๆเขาออกมารับรองกันจะ 20 ปี แลัวครับ จึงไม่แปลกที่คุณเติมแล้วไม่พัง ซึ่งแรกๆคนไทยก็กลัวกันไปเอง ต่างกับกรณี E85 ที่ค่ายรถยนต์ไม่รับรอง จริงๆต้องบอกว่า เขาบอกว่าเติมแล้วพัง โดยจะมีการทำรุ่นที่รองรับ E85 โดยเฉพาะออกมา แม้กระทั่ง Koenigsegg Agera ก็ยังต้องมีการทดสอบทั้งกันระบบเป็นเวลานานเพื่อพัฒนาให้รองรับกับน้ำมันของทุกประเทศที่ส่งไปจำหน่าย ต่างกับความเข้าใจที่ว่าทุกรถสามารถเติมได้ไม่พังอย่างที่หลายๆคนพยายามสื่อกัน

พูดถึงเนื้อหาในข่าว เขาว่ากันเรื่องน้ำมันที่มีค่าแอทธานอลเกิน 10% ครับ โซฮอล 95 หรือ E10 ไม่เกี่ยวครับ

ถ้าไม่ดีจริง ป่านนี้รถที่บราซิลคงพังกันหมดแล้วล่ะครับ E100% ทั้งนั้น
ก็รถที่ขายที่บาซิลเขาทำสเปคมารองรับ E100 โดยเฉพาะ แล้วมันจะพังได้ไงหละครับ... แต่บ้านเราไม่ใช่


พูดก็พูดอะครับ ใช่ คนขายน้ำในก็ต้องบอกว่ามันไม่ดี เพราะเขาจะขายน้ำมัน เรื่องนั้นผมไม่สน ผมสนแค่ว่าบริษัทผลิตรถยนต์เขาออกมาเตือนด้วยตัวเองแล้วว่ามันพัง ผมสนแค่นั้นจริงๆ คนสร้างรถเขาบอกว่าพัง แล้วยังจะไปสนอะไรกับหมอชาวบ้านที่ออกมาชวนเชื่อว่ามันไม่พังหละครับ ทุกอย่างมีผลประโยชน์หมดแหละครับ ถ้าบอกว่าคนขายน้ำมัน เขาจะขายน้ำมัน แล้วผลประโยชน์ของพวกที่ผลิตวัตถุดิบทำ E85 หละครับ? ไหนจะพวกขายชุดคิทขายกล่องอีก สรุปมันก็ได้ผลประโยชน์จากน้ำมันตัวนี้ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าสนใจรักษ์โลกรึอะไรหรอกครับ อันนั้นอะเค้าหลอกเอาตังคุณ แต่รักกระเป๋าตัวเอง

ว่ากันเรื่องรักษ์โลก ช่วยเกษตรกร มันก็เป็นประเด็นหนึ่ง แต่หลักๆที่เติมกันคุณคิดถึงประเด็นนี้กันรึครับ? พูดก็พูดที่เติมกันก็เพราะว่ามันลิตรละ 21 บาท แค่นั้นแหละ เหตุผลแค่นั้นเองจริงๆ คือเติมถูก ฉะนั้นที่ผมจะคุยก็คือ เติมแล้วมันพังมั้ย กับรถที่ไม่ได้ทำมารองรับ คำตอบคือพังครับ พังแน่ๆด้วย

Toyota and Lexus even placed warning labels on gas caps and owner's manual instructions caution not to use E-15.

Read more: http://www.foxnews.com/politics/2013/05/07/auto-makers-warn-new-ethanol-mandate-could-damage-cars/ (http://www.foxnews.com/politics/2013/05/07/auto-makers-warn-new-ethanol-mandate-could-damage-cars/)

อ่านเพิ่มเติมจาก Foxnews เลยดีกว่าครับ แน่นๆชัวร์ๆ นี่ถ้าบริษัทรถเตือนกันขนาดนี้แล้วยังบอกว่าไม่พังกันอีก ก็คงจะป่วยการที่จะพูดอะไรแล้วครับ จะหลอกตัวเองต่อไปเพื่อให้เกิดความสบายใจว่าเติมได้ก็ไม่เป็นไรครับ แต่อย่าลืมว่าคนที่เขาเชื่อคุณแล้วเสียหายมันเดือดร้อน การทดสอบทดลองต่างๆก็ต้องทดสอบโดยนักวิทยาศาสตร์ ผู้มีความรู้ในเรื่องนั้นๆจริง ถ้าเรื่องรถก็ไม่ต้องมองไปไหนไกล ก็ค่ายรถยนต์ที่เค้าทำรถขึ้นมาให้คุณขับกันยังไงหละครับ ถ้าไม่เชื่อเค้าแล้วไปเชื่อใคร อีกหน่อยผมเอาโตโยต้ามาจอดแล้วบอกว่าเป็นเบนซ์ก็คงมีคนเชื่อ

ว่าไปแล้วของต่างประเทศเขาแค่ E15 ก็ร้องจ๊ากออกมาเตือนกันแล้ว ของไทยเราเล่น E85 ยังจะบอกว่าเติมได้ไม่พังกันหน้าตาเฉย ผู้อ่านก็ต้องใช้สติกันดีๆครับ อย่าลืมว่าไม่มีใครมาจ่ายค่าซ่อมรถให้คุณ แต่ถ้าคุณคิดว่าซ่อมก็ยังคุ้มอันนั้นก็แล้วแต่ครับ
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: jinkatana ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 14:36:05
สุดท้ายก็อยู่ที่ตัวรถที่ผลิตมานั่นแหละครับว่ารองรับไหมถ้ารองรับมันก็ไม่มีปัญหาหรอกใช้ได้อยู่แล้วไม่ว่าจะ E อะไรก็ตาม
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 15:10:54
เข้ามาอ่าน

นึกว่าจะมีอธิบาย โลหะิวิทยา กับปฏิกิริยาทางเคมีกับเอธานอล

สุดท้ายเป็นแค่การบอกเล่า แบบไร้ทฤษฎี และ หลักเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์น่ะครับ

ในนีคนเรียนหนังสือมาจบตรี จบโทมาเยอะ น่าจะพอเข้าใจพื้นฐานวิทยาศาสตร์ม.1 อยู่บ้าง

ตะเกียงแอลกอฮอล์ตอนเรียนวิทยาศาตร์ ทำไมต้องเป็นอลูมินัม?

เครื่องยนต์ที่ใช้ฝา และปลอกแบบ ไหนทำปฏิกิริยา กับแอลกอลฮอล ?

ทางเดินน้ำมัน รถอะไรใช้ ท่อแบบไหน วัสดุอะไร ทำปฏิกิริยากับแอลกอฮอลผสมน้ำมันมากแค่ไหน ?

โลกไปไกลแล้วครับ ไม่ต้องให้ใครมาหลอก อ่าน และ เรียนรู้ได้เองไม่ยากครับ วิทยาศาสตร์มีให้ศึกษา ไม่ได้มีไว้เสริมปริญญา
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: TheRoadToHell ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 15:14:19
รถรุ่นใหม่ที่รองรับ E85 มันก็ไม่พังอยู่แล้วครับ ยางรุ่รเติม E20 ได้ก็เติมไปสิครับ
แต่ไม่เคยมีบริษัทใหนเค้าบอกว่าเติม LPG NGV ได้เลยก็เห็นเติมกันใช้กันเป็นล้านกิโลก็ยังไม่เห็นพัง
ดูจากแท็กซี่ไทยได้เลยรถรุ่นเก่าไม่ได้รองรับแก๊สอะไรเลยยังเติมได้
จะเชื่ออะไรก็เชื่อไปเถอะครับ พังมาค่อยซ่อม ถ้าพังจริงก็ฟ้องได้ครับ
เพราะใน คู่มือรถ ก็บอกว่าใช้เชื้อเพลิงได้ ยังจะไปเถียงคู่มือก็คิดเอาละกัน
คนทำรถเขาก็คิดมาแล้วล่ะว่าส่วนใหนจะถูกกัดกร่อน ก็พัฒนาแล้วก็เปลี่ยนใช้แบบที่ถูกกรัดกร่อนได้ช้าหรือไม่ถูกกัดกร่อนเลย

ก็เหมือนเบนซินนั่นแหละ ลองซื้อใส่ขวดโค้กพลาสติกไว้สิครับ ทิ้งไว้ซักอาทิตย์ มันจะเหลืออะไร
เบนซินก็มีฤทธิ์กัดกร่อนเขายังคิดค้นอุปกรณ์มารองรับได้ นับประสาอะไรกับ Ethanol
ระหว่างนักวิทยาศาสตร์ที่เอารถที่ใหนก็ไม่รู้มาทดสอบกับ นักวิจัยและพัฒนารถยนต์ของบริษัท คุณว่าใครเก่งกว่ากันก็คิดเอา
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: youngbear ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 15:35:13
............... ;D ;D ;Dดีใจครับที่พวกเราไม่เชื่อ  เรื่องไร้สาระของบรรดาหุ้นส่วนค้าน้ำมันนั่น 8)
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: AMG GT ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 15:58:01
ถ้าจะเป็นอันตราบ ต่อเครื่องยนต์ ก็คงต้องรถ เก่าๆ หนะสิ   แต่รถสมัยใหม่ๆ เค้าพัฒนา จนเติมได้ไม่มีปัญหา แล้้ว
ปล. กลัวขายน้ำมันดิบ ไม่ได้หละสิ
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: wittymazdaFC ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 16:25:40
เป็นผลเสียต่อพวกพ่อค้าน้ำมัน

คนพวกนี้โลภมาก  ไม่อยากพูดแล้ว อิอิ   คนที่เค้าไม่เชื่อผมเคยบอกไปแล้ว เค้าก็ไม่เชื่อ เลยไม่รู้จะพูดไง อิอิ
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: localgame ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 16:40:06
เอาเป็นว่ารถผมเติมแก๊สโซฮอล95มาเกิน5ปี ยังไม่เคยมีปัญหาเครื่องยนต์ใดๆเลยครับ
คือแก๊ส 95 หรือ E10 ค่ายรถยนต์ต่างๆเขาออกมารับรองกันจะ 20 ปี แลัวครับ จึงไม่แปลกที่คุณเติมแล้วไม่พัง ซึ่งแรกๆคนไทยก็กลัวกันไปเอง ต่างกับกรณี E85 ที่ค่ายรถยนต์ไม่รับรอง จริงๆต้องบอกว่า เขาบอกว่าเติมแล้วพัง โดยจะมีการทำรุ่นที่รองรับ E85 โดยเฉพาะออกมา แม้กระทั่ง Koenigsegg Agera ก็ยังต้องมีการทดสอบทั้งกันระบบเป็นเวลานานเพื่อพัฒนาให้รองรับกับน้ำมันของทุกประเทศที่ส่งไปจำหน่าย ต่างกับความเข้าใจที่ว่าทุกรถสามารถเติมได้ไม่พังอย่างที่หลายๆคนพยายามสื่อกัน

พูดถึงเนื้อหาในข่าว เขาว่ากันเรื่องน้ำมันที่มีค่าแอทธานอลเกิน 10% ครับ โซฮอล 95 หรือ E10 ไม่เกี่ยวครับ

ถ้าไม่ดีจริง ป่านนี้รถที่บราซิลคงพังกันหมดแล้วล่ะครับ E100% ทั้งนั้น
ก็รถที่ขายที่บาซิลเขาทำสเปคมารองรับ E100 โดยเฉพาะ แล้วมันจะพังได้ไงหละครับ... แต่บ้านเราไม่ใช่


พูดก็พูดอะครับ ใช่ คนขายน้ำในก็ต้องบอกว่ามันไม่ดี เพราะเขาจะขายน้ำมัน เรื่องนั้นผมไม่สน ผมสนแค่ว่าบริษัทผลิตรถยนต์เขาออกมาเตือนด้วยตัวเองแล้วว่ามันพัง ผมสนแค่นั้นจริงๆ คนสร้างรถเขาบอกว่าพัง แล้วยังจะไปสนอะไรกับหมอชาวบ้านที่ออกมาชวนเชื่อว่ามันไม่พังหละครับ ทุกอย่างมีผลประโยชน์หมดแหละครับ ถ้าบอกว่าคนขายน้ำมัน เขาจะขายน้ำมัน แล้วผลประโยชน์ของพวกที่ผลิตวัตถุดิบทำ E85 หละครับ? ไหนจะพวกขายชุดคิทขายกล่องอีก สรุปมันก็ได้ผลประโยชน์จากน้ำมันตัวนี้ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าสนใจรักษ์โลกรึอะไรหรอกครับ อันนั้นอะเค้าหลอกเอาตังคุณ แต่รักกระเป๋าตัวเอง

ว่ากันเรื่องรักษ์โลก ช่วยเกษตรกร มันก็เป็นประเด็นหนึ่ง แต่หลักๆที่เติมกันคุณคิดถึงประเด็นนี้กันรึครับ? พูดก็พูดที่เติมกันก็เพราะว่ามันลิตรละ 21 บาท แค่นั้นแหละ เหตุผลแค่นั้นเองจริงๆ คือเติมถูก ฉะนั้นที่ผมจะคุยก็คือ เติมแล้วมันพังมั้ย กับรถที่ไม่ได้ทำมารองรับ คำตอบคือพังครับ พังแน่ๆด้วย

Toyota and Lexus even placed warning labels on gas caps and owner's manual instructions caution not to use E-15.

Read more: http://www.foxnews.com/politics/2013/05/07/auto-makers-warn-new-ethanol-mandate-could-damage-cars/ (http://www.foxnews.com/politics/2013/05/07/auto-makers-warn-new-ethanol-mandate-could-damage-cars/)

อ่านเพิ่มเติมจาก Foxnews เลยดีกว่าครับ แน่นๆชัวร์ๆ นี่ถ้าบริษัทรถเตือนกันขนาดนี้แล้วยังบอกว่าไม่พังกันอีก ก็คงจะป่วยการที่จะพูดอะไรแล้วครับ จะหลอกตัวเองต่อไปเพื่อให้เกิดความสบายใจว่าเติมได้ก็ไม่เป็นไรครับ แต่อย่าลืมว่าคนที่เขาเชื่อคุณแล้วเสียหายมันเดือดร้อน การทดสอบทดลองต่างๆก็ต้องทดสอบโดยนักวิทยาศาสตร์ ผู้มีความรู้ในเรื่องนั้นๆจริง ถ้าเรื่องรถก็ไม่ต้องมองไปไหนไกล ก็ค่ายรถยนต์ที่เค้าทำรถขึ้นมาให้คุณขับกันยังไงหละครับ ถ้าไม่เชื่อเค้าแล้วไปเชื่อใคร อีกหน่อยผมเอาโตโยต้ามาจอดแล้วบอกว่าเป็นเบนซ์ก็คงมีคนเชื่อ

ว่าไปแล้วของต่างประเทศเขาแค่ E15 ก็ร้องจ๊ากออกมาเตือนกันแล้ว ของไทยเราเล่น E85 ยังจะบอกว่าเติมได้ไม่พังกันหน้าตาเฉย ผู้อ่านก็ต้องใช้สติกันดีๆครับ อย่าลืมว่าไม่มีใครมาจ่ายค่าซ่อมรถให้คุณ แต่ถ้าคุณคิดว่าซ่อมก็ยังคุ้มอันนั้นก็แล้วแต่ครับ
เครื่องอาจจะพังไวขึ้นหน่อย แต่ก็ไม่ได้เติมปุ๊บเสียปั๊บสักหน่อย บางทีมาคิดเงินที่ลดไปได้ อาจจะได้มากกว่าค่าซ่อมบำรุง
ดูอย่างเติมแก๊ส คนที่เติมแก๊สอยู่ก็รู้ว่ามันใช้ความร้อนสูง เครื่องพังไวกว่าใช้น้ำมันแน่นอนแต่มาคิดส่วนค่าน้ำมันกับแก๊สแล้วยังไงเติมแก๊สก็คุ้มกว่า เอาไปเป็นค่าบำรุงรักษาเพิ่มยังไงก็ยังเหลือเงิน
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: tosa ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 16:46:16
อเมริกาถ้ารถบอกว่าเติมได้ก็ไม่น่าวิตก แต่ไม่ได้บอกว่าเติมได้ก็ at your own risk
แต่เมืองไทยไม่ว่ากรณีไหนก็ดูเหมือนจะมีแต่ at your own risk  มั๊ง :(
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: popdemonic ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 16:56:21
น้ำมันเบนซินก็มีผลต่อบล๊อคเครื่องที่ทำด้วยNikasil (Nikel กับSilicone) ตัวSulphur ในน้ำมันมันไปทำปฎิกิริยากับ

Nikel ในผนังกระบอกสูบเหมือนกันครับ เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดมาก สมมติว่ามันจะทำให้เครื่องเสียหายในอีก10-15ปี

ผมว่ากว่าค่อนเว็บคงขายรถทิ้งกันไปหมดก่อนเครื่องจะพังแล้วหละครับ แล้วถึงตอนนั้นเราคงลืมบทความนี้ไปแล้วหละครับ

LPG เขาว่า มันร้อน มันแห้ง แต่พอเจอน้ำมัน40บาท ผมเห็นเปิดตูดมามีถังแก๊สกันเป็นแถวเลย เครื่องมันจะร้อนขึ้น5-10%

ช่างมันสิครับ ให้นั่งในร้อนแอร์ไม่ร้อน ไม่หน้าร้อนๆมือสั่นตอนควักบัตรเครดิตรูดเติมน้ำมันถังละ2000-3000บาท ก็พอแล้วครับ

ต่อให้มันร้อนขึ้นอีก30องศาในกระบอกสูบมันไม่มีผลหรอกครับ เพราะในนั้นมันร้อนมากๆ อีก30-50องศา ไม่ได้ไปมีผลมากขนาดนั้น

LPGแห้ง หน้าคุณไม่ได้ไปแห้งไปกะมันสักหน่อย ถ้ามันจะสึกหรอเร็วขึ้นอีกนิด รับรองได้ว่า เงินที่มันเซฟไป เปลี่ยนบ่าวาล์ว บดวาล์ว

มันคุ้มกว่าเยอะครับ แล้วที่มันแห้งหนะมันไม่ได้แห้งเป็นทะเลทราย ไอระเหยน้ำมันเครื่องก็ยังมีอยู่
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: kreaninw ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 17:26:19
น้ำมันเบนซินก็มีผลต่อบล๊อคเครื่องที่ทำด้วยNikasil (Nikel กับSilicone) ตัวSulphur ในน้ำมันมันไปทำปฎิกิริยากับ

Nikel ในผนังกระบอกสูบเหมือนกันครับ เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดมาก สมมติว่ามันจะทำให้เครื่องเสียหายในอีก10-15ปี

ผมว่ากว่าค่อนเว็บคงขายรถทิ้งกันไปหมดก่อนเครื่องจะพังแล้วหละครับ แล้วถึงตอนนั้นเราคงลืมบทความนี้ไปแล้วหละครับ

LPG เขาว่า มันร้อน มันแห้ง แต่พอเจอน้ำมัน40บาท ผมเห็นเปิดตูดมามีถังแก๊สกันเป็นแถวเลย เครื่องมันจะร้อนขึ้น5-10%

ช่างมันสิครับ ให้นั่งในร้อนแอร์ไม่ร้อน ไม่หน้าร้อนๆมือสั่นตอนควักบัตรเครดิตรูดเติมน้ำมันถังละ2000-3000บาท ก็พอแล้วครับ

ต่อให้มันร้อนขึ้นอีก30องศาในกระบอกสูบมันไม่มีผลหรอกครับ เพราะในนั้นมันร้อนมากๆ อีก30-50องศา ไม่ได้ไปมีผลมากขนาดนั้น

LPGแห้ง หน้าคุณไม่ได้ไปแห้งไปกะมันสักหน่อย ถ้ามันจะสึกหรอเร็วขึ้นอีกนิด รับรองได้ว่า เงินที่มันเซฟไป เปลี่ยนบ่าวาล์ว บดวาล์ว

มันคุ้มกว่าเยอะครับ แล้วที่มันแห้งหนะมันไม่ได้แห้งเป็นทะเลทราย ไอระเหยน้ำมันเครื่องก็ยังมีอยู่

ประเด็นนี้ผมเห็นด้วยเลยครับ เห็นด้วยมากๆ ;D

แต่ประเด็นที่ผมไม่เห็นด้วยก็คือประเด็นที่พยายามบอกกันว่าเติม E85 แล้วไม่พัง เติมแล้วดีกับเครื่องยนต์ เติมได้ทุกรถ ฯลฯ คือจริงๆต้องยอมรับว่าเติมแล้วพัง แต่จะพังทันทีมั้ย? ไม่แน่นอน แต่พังมั้ย? พังครับ ขั้นต้นควรจะต้องทำความเข้าใจกับบุคคลอื่นที่คุณสื่อออกไปเสียก่อนว่า คุณต้องดูแลรถยนต์มากกว่าปกตินะ คุณต้องไปเปลี่ยนนู่นนี่นั่นเพื่อให้มันสามารถเติมได้จริงๆก่อน ฯลฯ อะไรก็ว่าไปครับ ให้ผู้ใช้เขาเข้าใจเหมือนเวลาเขาเอารถไปติดแก๊ส คือ มันพัง เขาจะได้เริ่มดูแลรถของเขาอย่างถูกวิธีตั้งแต่มันยังไม่เป็นอะไรมากนัก

ส่วนตัวผมเห็นด้วยที่คุณพยายามบอกตลอดเรื่องท่อยาง ว่าต้องใช้เกรดไหน อะไรอย่างไร ผมเองอ่านๆดูก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่หรอกครับ จริงๆถ้าคิดจะทำจริงๆยังไม่รู้เลยว่าต้องเปลี่ยนอะไรบ้าง แต่ผมมองว่าจริงๆข้อมูลในลักษณะนี้มันน้อยมากจริงๆ ส่วนใหญ่นำเสนอกันเรื่องน้ำมัน ว่า E85 มันดี มันไม่พัง ซึ่งจุดนี้ผมค้านสุดๆเลย ที่ร้ายหนักไปใหญ่ก็หันกลับไปโจมตีเบนซินธรรมดาที่เขาเติมกันมาตั้งนามโนมเนแล้ว กลับกลายเป็นว่าเบนซินธรรมดาใช้กับเครื่องยนต์เบนซินแล้วมันพัง

คือ ผมอยากเห็นการนำเสนอในแนวทางของวิธีการดัดแปลง อะไรทำนองนี้ มากกว่า การทดสอบต่างๆก็ดีครับ จะได้มาถกกันว่ามันเป็นอย่างไร ตัวแปรต่างๆ ฯลฯ และประเด็นที่ว่ามีรถไฟไหม้และดันเป็นคันที่เติม E85 ด้วย ผมเคยอ่านเจอในบอร์ดนี้ จริงเท็จประการใดก็ยังไม่มีใครรู้

จริงๆยิ่งมีคนเติม E85 เยอะๆยิ่งดีครับ คนใช้มากๆปั๊มมันจะได้เยอะ อากาศจะได้สดชื่นมากขึ้น ดีกับผมทุกอย่างเลย เพราะผมเองก็มีรถที่ใช้ E85 ได้ แต่ที่ผมพูดทำนองว่า E85 เติมแล้วพัง ไม่ใช่เพราะผมอคติอะไรกับ E85 เพียงแต่อยากให้ใช้สติกันครับ รู้จักดัดแปลงรถของตัวเองให้มันรองรับจริงๆ ให้มันเป็นไปด้วยความรู้ทางวิชาการจริงๆ ไม่ใช่นาย a ออกมาบอกว่า เฮ้ย ตูเติมมา 5 ปี วิ่ง 5 แสนโลแล้วยังไม่พังเลย ใช้รถอะไรทดสอบ จริงเท็จแค่ไหนก็ไม่รู้ อธิบายไม่ได้ เป็นความเชื่อ เรื่องลึกลับ พลังวิเศษ บางครั้งเห็นคนออกมาโฆษณา E85 กันแล้ว มันเวอร์มากมายจริงๆ
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: jumpon77 ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 17:40:54
คงไม่เป็นหละครับยังไงแล้วคนใช้โชฮอสกันเยอะครับยังแล้วต้องรอต่อไปหละครับว่าเป็นอันตรายหรีอเปล่าต้องรอหละครับ
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: popdemonic ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 17:55:39
ดีครับ แบบนี้ชอบๆคุยกันแบบนี้ดีครับ น้ำมันเบนซินดีครับ แต่... เกรดของน้ำมันในบ้านเรา รวมทั้งราคา เหมือนเรากำลังซื้อของในราคาแพงครับ

ผมขอไม่พูดถึงเพราะมันจะกลายเป็นประเด็นของเรื่องการเมืองไปครับ จริงๆแล้ว เรื่องของวิธีการ แก้ไขให้มาใช้น้ำมันE85 จริงๆผมมีอธิบายไว้ใน

หลายกระทู้มากๆแล้วครับลองกลับไปอ่านดู หลักการของมันคือทำยังไงให้รถมันสามารถจ่ายน้ำมันเพิ่มขึ้นให้เพียงพอในการใช้น้ำมันE85 เท่านั้นเอง

เบสิคของมันคือจ่ายเพิ่มขึ้นสัก30-33% เท่านั้นเอง เจ้าชุดคิท หลักการง่ายๆก็เหมือนระบบLPG แบบSequential injections คือมันTap สัญญาณจาก

หัวฉีดน้ำมันและใช้สัญญาณกาฝากมาเข้าที่หัวฉีดแก๊ส จุดต่างของLPG กับE85 คือคุณยังใช้หัวฉีดเดิมในการจ่ายน้ำมันE85 เจ้าชุดคิทต่างๆเหมือน

ตัวAmplifier มาขยายสัญญาณ ดีเลย์สัญญาณให้หัวฉีดจ่ายนานขึ้น จ่ายมากขึ้น โดยค่าPresetในกล่องซึ่งมองง่ายๆอาจะเหมือนตัวคูณ สัญญาณลงไป

เท่านั้นเองครับ ไม่มีอะไรเลย เพราะฉะนั้น ในรถบางคันถ้าคุณทราบข้อมูล และวิธีการคำนวณปริมาณการใช้น้ำมัน และขนาดของหัวฉีด เจ้ากล่อง

พวกนี้ก็ไม่มีความหมาย คุณสามารถคำนวณความต้องการของน้ำมัน แล้วคำนวณขนาดหัวฉีดที่เพียงพอ หามาใส่ปุ้บจบทันที แต่ข้อจำกัดคือ มัน

จะไม่สะดวกหากจะต้องมีการใช้E20 E10 E85 สลับไปมา เจ้าFlex Fuel sensor จะเข้ามามีบทบาทตรงนี้ครับ ส่วนเรื่องสายน้ำมัน หาข้อมูลแล้วเลือก

ใช้ให้ถูก อย่าฟังร้านอะไหล่ เพราะ พวกนี้แหละที่ทำผมเองก็ตกม้าตายตั้งแต่ตอนเปลี่ยนสายน้ำมันตั้งกะใช้กับน้ำมันE10 แล้วครับ พวกนี้เน้นขาย

ยกตัวอย่างให้ฟัง ร้านอะไหล่ส่วนใหญ่ สายยาง ท่อยางมันมีไม่กี่ชนิดหรอกครับ จริงๆสายยางสำหรับน้ำหล่อเย็น จะมีประเภทของเค้า สายน้ำมันเครื่อง

สายเบรค สายน้ำมันเชื้อเพลิง มันแยกกัน บางคนเอาสายไฮดรอลิคมาใช้เป็นสายน้ำหล่อเย็น ถามว่าใช้ได้มั้ย ได้ครับ แต่สายพวกนี้มันไม่ทนความร้อน

แต่มันทนแรงดัน เวลาเจอน้ำนานๆเข้ามันจะแข็งและสูญเสียสภาพการให้ตัว มันจะแข็งทรงไหนทรงนั้น ตราบใดที่ไม่ไปยุ่งอะไรกับมัน มันจะไม่รั่ว ไม่ร้าว

ไม่แตก แต่ถ้าเมือใดมีการขยับตัวสายมันจะหักแตกทันที ร้านอะไหล่ที่ขายๆท่อยาง เค้าไม่มานั่งสนใจเรื่องพวกนี้เพราะใส่ไปปีนึง พอถึงเวลาจริงจะ

ไปท้วงกับเขา ไม่มีประโยชน์ครับ สายน้ำมันที่ผมเห็นมาขายตามร้านอะไหล่ที่เขียนว่าGasohol พวกนี้เอาเข้าจริงๆทนE10 ไม่ได้นะครับ บวมหมด

จากบางคนที่ตั้งใจว่าจะเปลี่ยนสายใหม่ พอไปเจอสายพวกนี้เข้า เลยกลายเป็นว่า เอทานอลมันร้ายแรง จริงๆถ้าไม่ได้มีการเปลี่ยนสาย กลับกลายเป็นว่า

สายโรงงานเนี่ยแหละครับทนที่สุด ส่วนใหญ่สายที่แตก บวมกัน ผมเจอคือมีการเปลี่ยนสายกันมาใหม่แล้วทั้งนั้น ส่วนใหญ่ก็ไปซื้อตามร้านอะไหล่ทั่วไป

นี่แหละครับ อย่าว่าแต่เขาเลย ผมเองเนี่ยก็โดนครับ หลายรอบด้วยครับ  ;D

ปล.หลังกระทู้นี้ถ้ามีคำถามเกี่ยวกับE85 เอทานอล อะไรเทือกนี้ผมต้องเพลาๆแล้วครับ รู้สึกว่าผมชักจะเครซี่เกินประมาณตนไปแล้วครับ

      รู้สึกว่าตัวผมเองจะเริ่มดูไม่ค่อยงามแล้วครับ เอาเป็นว่า ของแบบนี้ลองดูได้ครับ ลองแค่ระยะสั้นหากจะเสียหาย คงไม่มีอะไรบอบช้ำแน่นอน
  
      
ปล2.ผมเกรงใจเจ้าของเว็บด้วย ผมรู้จักกับแกมาตั้งแต่ปี2539-2540 ช่วงนี้สงสัยอากาศร้อนจัด รู้สึกตัวเองตอบคำถามดุเดือดพิกล  8) ต้องขออภัย

        ทุกท่านหากตอบอะไรแล้วอ่านดูทำให้อาจจะขุ่นข้องหมองใจ แต่หวังว่าทุกท่านคงเข้าใจเจตนาดีของข้าพเจ้าเด้อครับ
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: madboy ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 19:00:36
อากาศร้อนต้องหาน้ำเย็นๆอาบแล้วครับน้าป๊อป  ;D

ปล. เท่าที่ลองมา สายน้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็น R7 ขายทั่วไป เอาแช่ถังก็พอได้อยู่สำหรับ E20 แต่อย่าเอาออกมาเชียว เพราะบวมแหงมๆ ใช้ไปแล้วเปลี่ยนปีละครั้งสองครั้งพอได้อยู่ :D
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: popdemonic ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 20:39:54
อากาศร้อนต้องหาน้ำเย็นๆอาบแล้วครับน้าป๊อป  ;D

ปล. เท่าที่ลองมา สายน้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็น R7 ขายทั่วไป เอาแช่ถังก็พอได้อยู่สำหรับ E20 แต่อย่าเอาออกมาเชียว เพราะบวมแหงมๆ ใช้ไปแล้วเปลี่ยนปีละครั้งสองครั้งพอได้อยู่ :D

แอร้ยส์น้าก็เดี๋ยวกระทู้เขวหมด อิอิอิ
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 21:42:13
ส่งผลต่อพวกเขานั่นแหละครับ

มาช่วยเหลือเกษตรกรกันดีกว่า
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: นครอัญมณี ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 22:04:26
ไม่มีใคร ผิด หรือ ถูก ทั้งหมด หรอกครับ
เพราะโจทย์ และ ตัวแปร สำหรับ คำตอบ มันมีหลากหลาย

สรุป

เป็นอันตรายสำหรับเครื่องยนต์ยุคเก่า ที่ผู้ผลิตไม่ได้ระบุไว้ครับ
โดยเฉพาะท่อยางส่งระบบน้ำมัน ปั๊มติ๊ก  ลูกลอย ที่แช่ในถังน้ำมัน สปริง วาวล์ต่างๆ ที่ไม่สามารถทนต่อแอลกอฮอร์ได้ในระยะยาว
เพราะว่า ยุคนั้น ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับ แอลกอฮอร์

ส่วนรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่เขาระบุว่าใช้ได้กับแอลกอฮอร์ E ระดับต่างๆ 10 , 20 , ยัน 100 ก็สามารถใช้ได้ตามนั้น
เพราะเขาใช้วัสดุที่ทนทานต่อแอลกอฮอร์ แล้ว
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 23:02:32
พังไม่พังไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ คาร์บูมอไซค์ผมพังแล้วครับ จากโซฮอล95 นี่แหละ
เผลอดูดจากรถไปเต็มด้วยความลืมตัว
หัวข้อ: Re: เอทานอลเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: bittersweett1st ที่ พฤษภาคม 08, 2013, 23:16:19
ผมเถียงแบบดิบๆเลยครับ ผมใช้e85 มา5ปีได้ละ รถผม accord ไฟท้ายสองก้อน 17 ปี ไม่เปลี่ยนท่อน้ำมัน ไม่พังครับ!! ใครกล้าเถียงว่าพังมาลองขับรถผมได้ ฮิฮิ