Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: lexus ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 20:46:36

หัวข้อ: เครื่องดีเซลโตโยต้า
เริ่มหัวข้อโดย: lexus ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 20:46:36
เห็นโตโยต้าพัฒนาเครื่องดีเซลมานาน

ไม่เห็นพัฒนาเอามาใส่รถเก๋งซะทีอะคับ เหมือนรถยุโรปเค้าทำกัน

หรือพี่โตเค้าเน้นแต่ไฮบริด
หัวข้อ: Re: เครื่องดีเซลโตโยต้า
เริ่มหัวข้อโดย: keanetona ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 21:29:44
ในยุโรปมีครับ อย่าง Avensis ที่ขายในยุโรป หรือ Yaris ก็มีดีเซล

ที่เหลือรบกวนมาช่วยลงหน่อยครับว่ามีรุ่นอะไรอีกบ้าง

จุดสังเกต

โตโยต้า มีเครื่องเบนซิน ไดเร็คอินเจ็คชั่น หรือ D4 แต่กลับไม่ได้เอามาขายบ้านเรา หรือเพราะ NOX เกิน ?
หัวข้อ: Re: เครื่องดีเซลโตโยต้า
เริ่มหัวข้อโดย: mann ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 21:32:05
เราคงได้เห็น crown camry  altis  vios yaris d4d  หล่ะครับ....555++
แต่ก็น่าสนใจครับ
หัวข้อ: Re: เครื่องดีเซลโตโยต้า
เริ่มหัวข้อโดย: lexus ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 22:04:15
ผมเข้าใจถูกรึเปล่าก็ไม่รุนะ

เหมือนว่าต้นทุนผลิตเครื่องดีเซลสูงกว่าหรือไม่ก็ภาษีเครื่องดีเซลที่ไม่ได้ใช้ในรถพานิชมันสูงกว่า

อันนี้ผมพึ่งนึกได้ ไม่รุจริงรึป่าว

แล้วสงสัยอีกเรื่องนึง

ทำไมรถยุโรปเครื่อง2000cc แต่เค้าพัฒนาได้แรงกว่าเครื่อง3000cc ของค่ายญี่ปุ่นอีก
หัวข้อ: Re: เครื่องดีเซลโตโยต้า
เริ่มหัวข้อโดย: nuttapatJazz ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 22:11:51
อยากให้เข้ามาจริงๆ

เครื่องดีเซลเหมือนมันมีแรงบิด ที่ต่างจากเบนซินอ่ะ

มันดึงได้ใจจริงๆ

เสียดายที่เครื่องดีเซลอยู่ในกระบะซะหมด

ช่วงล่างรถกระบะก็สุดจะดีมาก

ถ้าเอาดีเซลมาลงในเก๋ง

อย่างน้อยก็คงขายผมได้คันนึงล่ะ

 ;D ;D
หัวข้อ: Re: เครื่องดีเซลโตโยต้า
เริ่มหัวข้อโดย: TAI ^^ ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 22:13:22
ผมเข้าใจถูกรึเปล่าก็ไม่รุนะ

เหมือนว่าต้นทุนผลิตเครื่องดีเซลสูงกว่าหรือไม่ก็ภาษีเครื่องดีเซลที่ไม่ได้ใช้ในรถพานิชมันสูงกว่า

อันนี้ผมพึ่งนึกได้ ไม่รุจริงรึป่าว

แล้วสงสัยอีกเรื่องนึง

ทำไมรถยุโรปเครื่อง2000cc แต่เค้าพัฒนาได้แรงกว่าเครื่อง3000cc ของค่ายญี่ปุ่นอีก

เช่น 2000 รุ่นไหนอ่ะคับ อยากรู้อ่ะ ถ้าดีเซลผมเห็นว่ายุโรปเหนือกว่านะครับ แต่ถ้าเบนซินนี่วัดแต่อัตราเร่งเพียวๆ(ไม่นับเรื่องอื่นๆ เช่น เกาะถนน) 318i  320i นี่

โดน Civic 2.0 ฉีกเห็นๆเลยนะครับ  ดูตัวเลขจากรีวิวของพี่จิมมี่อ่ะครับ
หัวข้อ: Re: เครื่องดีเซลโตโยต้า
เริ่มหัวข้อโดย: TAI ^^ ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 22:25:31
อยากให้เข้ามาจริงๆ

เครื่องดีเซลเหมือนมันมีแรงบิด ที่ต่างจากเบนซินอ่ะ

มันดึงได้ใจจริงๆ

เสียดายที่เครื่องดีเซลอยู่ในกระบะซะหมด

ช่วงล่างรถกระบะก็สุดจะดีมาก

ถ้าเอาดีเซลมาลงในเก๋ง

อย่างน้อยก็คงขายผมได้คันนึงล่ะ

 ;D ;D

เวลาดึงมันได้ใจจริงครับ ผมได้นั่ง 520d ทั้งๆที่ตัวเลขอัตราเร่งต่ำกว่า Camry  Accord 2.4 นะครับ ยังรู้สึกได้เลยว่ามันดึกสนุกจริงๆ
หัวข้อ: Re: เครื่องดีเซลโตโยต้า
เริ่มหัวข้อโดย: lexus ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 23:20:23
ผมเข้าใจถูกรึเปล่าก็ไม่รุนะ

เหมือนว่าต้นทุนผลิตเครื่องดีเซลสูงกว่าหรือไม่ก็ภาษีเครื่องดีเซลที่ไม่ได้ใช้ในรถพานิชมันสูงกว่า

อันนี้ผมพึ่งนึกได้ ไม่รุจริงรึป่าว

แล้วสงสัยอีกเรื่องนึง

ทำไมรถยุโรปเครื่อง2000cc แต่เค้าพัฒนาได้แรงกว่าเครื่อง3000cc ของค่ายญี่ปุ่นอีก


เช่น 2000 รุ่นไหนอ่ะคับ อยากรู้อ่ะ ถ้าดีเซลผมเห็นว่ายุโรปเหนือกว่านะครับ แต่ถ้าเบนซินนี่วัดแต่อัตราเร่งเพียวๆ(ไม่นับเรื่องอื่นๆ เช่น เกาะถนน) 318i  320i นี่

โดน Civic 2.0 ฉีกเห็นๆเลยนะครับ  ดูตัวเลขจากรีวิวของพี่จิมมี่อ่ะครับ

หมายถึงเครื่อง200cc dieselอะคับเช่นที่อยู่ใน 520d 320d ปามานนั้น
หัวข้อ: Re: เครื่องดีเซลโตโยต้า
เริ่มหัวข้อโดย: TAI ^^ ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 23:23:58
ผมเข้าใจถูกรึเปล่าก็ไม่รุนะ

เหมือนว่าต้นทุนผลิตเครื่องดีเซลสูงกว่าหรือไม่ก็ภาษีเครื่องดีเซลที่ไม่ได้ใช้ในรถพานิชมันสูงกว่า

อันนี้ผมพึ่งนึกได้ ไม่รุจริงรึป่าว

แล้วสงสัยอีกเรื่องนึง

ทำไมรถยุโรปเครื่อง2000cc แต่เค้าพัฒนาได้แรงกว่าเครื่อง3000cc ของค่ายญี่ปุ่นอีก


เช่น 2000 รุ่นไหนอ่ะคับ อยากรู้อ่ะ ถ้าดีเซลผมเห็นว่ายุโรปเหนือกว่านะครับ แต่ถ้าเบนซินนี่วัดแต่อัตราเร่งเพียวๆ(ไม่นับเรื่องอื่นๆ เช่น เกาะถนน) 318i  320i นี่

โดน Civic 2.0 ฉีกเห็นๆเลยนะครับ  ดูตัวเลขจากรีวิวของพี่จิมมี่อ่ะครับ

หมายถึงเครื่อง200cc dieselอะคับเช่นที่อยู่ใน 520d 320d ปามานนั้น

น่าจะเป็นเพราะว่า เป็นต้นตำหรับ พัฒนามานานแล้วหรือเปล่าครับ เพราะญี่ปุ่นก็ทำเก๋งดีเซลน่าจะที่หลังเยอะเลยนะครับ ที่ทำส่วนมากก็กระบะ ที่บุคลิกยังไงๆก็

เน้นบรรทุก ความทนทาน ประหยัดมากกว่าความเร็ว พอมาทำใส่รถเก๋งทีหลังผมว่าเทคโนโลยีความเร็วยังตามไม่ทันนะครับ
หัวข้อ: Re: เครื่องดีเซลโตโยต้า
เริ่มหัวข้อโดย: earth_e60 ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 23:38:00
ผมว่า ดีเซล เป็นอะไรที่เพอร์เฟคมาก 520d ตอนนี้ใช้มา 20xxx โลแล้ว ไม่เคยทำให้ผิดหวัง เหยียบ 220 ชิลๆ สบายๆ ออกตัว ดึงมากๆ ได้อารมมาก ใจก็อยากให้ โตโยต้ามี ดีเซล นะ แต่กลัวจะไม่เก็บเสียงเหมือนบอดี้ยุโรป

ส่วน civic 2.0 ผมว่ากิน 318 แต่ไม่กิน 320i หรอกครับ ถ้าได้ขับจริงๆแล้วจะรู้ ฟีลลิ่ง ผมว่าต่างกันลี้ลับ
หัวข้อ: Re: เครื่องดีเซลโตโยต้า
เริ่มหัวข้อโดย: Chris Evn ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 23:52:31
ถ้าผมจำไม่ผิดตอนเรียน
เคยได้ยินว่าเครื่องเบนซินจะมีปัญหากับสถานที่ๆ อากาศหนาว
ส่วนเครื่อง diesel จะไม่มีปัญหาเรื่องอากาศหนาว

มันน่าจะ ทำให้ยุโรปใช้เครื่อง diesel เป็นส่วนใหญ่
หัวข้อ: Re: เครื่องดีเซลโตโยต้า
เริ่มหัวข้อโดย: TAI ^^ ที่ พฤศจิกายน 17, 2009, 23:53:31
อัตราเร่งของ 320i ที่พี่จิมมี่ทดสอบไว้ครับ คือ 0-100 ได้ 11.4 วิ ส่วน 80-120 ทำได้ 8.9 วิ ความเร็วสูงสุด 218  

                                    ในขณะที่ Civic 2.0 0-100 ได้ 10.38 ส่วน 80-120 ทำได้ 7.7 วิครับ ความเร็วสูงสุด 220
                                                  
                                                 Camry 2.0 0-100 ได้ 11.4 และ 80-120 ได้  8.92  ความเร็วสูงสุด 205                        

ต่างกันเป็นวิขนาดนี้ ถ้าขับตีคู่ไปหร้อมกัน ก็เห็นได้ชัดเจนเลยนะครับ คล้ายๆกับเอา Civic 2.0 มาแข่งกับ Camry 2.0 เพราะอัตราเร่ง 320i นี่จริงๆแล้วเท่าๆกับ

ตัวเลขของ Camry 2.0 คือ 320i ผมว่ายังไงๆก็แซง Camry ไม่พ้นถ้าขับตรงๆนอกจากจะไปแซงเอาตอนปลายจริงๆคือเกิน 205 ที่คัมรี่ถูกล็อกเอาไว้ ทั้งๆที่น้ำ

หนัก Camry น่าจะมากกว่าอีกนะครับ ส่วนเรื่องฟิลลิ่งของ 320i กับ Civic นั้นต่างอยู่แล้วครับ เพราะช่วงล่างกับ การเก็บเสียง ยังไงๆ 320i ก็กินขาด มันเทียบกันไม่

ได้หรอกครับ คู่ชกที่เหมาะสม ควรจะคือ IS250 กับ 325i มากกว่า แต่ผมเห็นแค่ อัตราเร่งนี่แหละที่ Civic 2.0 ทำได้น่าพอใจและน้อยกว่า 320i อย่างชัดเจน
หัวข้อ: Re: เครื่องดีเซลโตโยต้า
เริ่มหัวข้อโดย: liveshow ที่ พฤศจิกายน 18, 2009, 10:07:15
ถ้าเข้ามาละก็นะ ดับ แหง่มๆ ดู โฟกัส ได้เลย เครื่องดีเซล ราคาพุ่งปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ขนาดลดภาษีนำเข้ายังดีดซะล้านกว่า แล้วพี่ใหญ่ลงมาเล่นด้วยราคาไม่เท่า 2.0G extream camry เลยหรือนั้น (ในเคสที่ลง เอลดิ๊สส)
เครื่องดีเซลมันแข็งแรงกว่าทนกว่า ราคาแพงกว่า ถ้าไม่เชื่อไปดูเชียงกงได้เลยว่าราคาแรงกว่า 2jz GTE ขนาดไหน เครื่อง3.0 ของvigo ดีด ไป60K
พระเจ้า แพงได้ใจมากๆ

แต่ถ้าเอามาลงในเก๋ง เล็ก พวกยาริส เอาเครื่อง เล็กๆ1.3มาลง หลังติดเบาะแล้ว แต่.... มันจะแพงกว่า yaris 1.5 E อีกนะซิ เพราะตัวเครื่องมันแพงอีกอย่าง
ผมว่าคนไทย(ส่วนใหญ่)ยังยึดติดกับเก๋งว่าต้องเป็นเครื่อง เบนซิลอีกด้วย
หัวข้อ: Re: เครื่องดีเซลโตโยต้า
เริ่มหัวข้อโดย: RhinoMango ที่ พฤศจิกายน 18, 2009, 10:50:51
สมัยก่อน Diesel นี่ควันดำตัวทำลายโลก

เดี๋ยวนี้ Diesel ช่วยกอบกู้โลก ประหยัดกว่าปล่อยไอเสียน้อยกว่า 55+ งงๆแหะ

แต่ถ้ามีเก๋งเครื่องดีเซลขายแล้วมันใช้น้ำมันได้คุ้มค่ากว่า ปล่อยไอเสียน้อยกว่า ก็น่าสนใจนะ
เพราะที่เห็นเนี่ยทั้ง Focus ทัั้ง 320d นี่จัดจ้านขับสนุกใช้ได้เลย
หัวข้อ: Re: เครื่องดีเซลโตโยต้า
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ พฤศจิกายน 18, 2009, 11:23:09
อัตราเร่งของ 320i ที่พี่จิมมี่ทดสอบไว้ครับ คือ 0-100 ได้ 11.4 วิ ส่วน 80-120 ทำได้ 8.9 วิ ความเร็วสูงสุด 218  

                                    ในขณะที่ Civic 2.0 0-100 ได้ 10.38 ส่วน 80-120 ทำได้ 7.7 วิครับ ความเร็วสูงสุด 220
                                                  
                                                 Camry 2.0 0-100 ได้ 11.4 และ 80-120 ได้  8.92  ความเร็วสูงสุด 205                        

ต่างกันเป็นวิขนาดนี้ ถ้าขับตีคู่ไปหร้อมกัน ก็เห็นได้ชัดเจนเลยนะครับ คล้ายๆกับเอา Civic 2.0 มาแข่งกับ Camry 2.0 เพราะอัตราเร่ง 320i นี่จริงๆแล้วเท่าๆกับ

ตัวเลขของ Camry 2.0 คือ 320i ผมว่ายังไงๆก็แซง Camry ไม่พ้นถ้าขับตรงๆนอกจากจะไปแซงเอาตอนปลายจริงๆคือเกิน 205 ที่คัมรี่ถูกล็อกเอาไว้ ทั้งๆที่น้ำ

หนัก Camry น่าจะมากกว่าอีกนะครับ ส่วนเรื่องฟิลลิ่งของ 320i กับ Civic นั้นต่างอยู่แล้วครับ เพราะช่วงล่างกับ การเก็บเสียง ยังไงๆ 320i ก็กินขาด มันเทียบกันไม่

ได้หรอกครับ คู่ชกที่เหมาะสม ควรจะคือ IS250 กับ 325i มากกว่า แต่ผมเห็นแค่ อัตราเร่งนี่แหละที่ Civic 2.0 ทำได้น่าพอใจและน้อยกว่า 320i อย่างชัดเจน

ข้อมูลน่าสนใจครับ ถ้ามองในแง่เครื่องยนต์ กับเกียร์

BMW หนัก1450Kg เครื่องต้องออกแรงขับผ่านเพลาขับหลังยาวอีกร่วม ๆ 2 เมตร
CIVIC หนัก 1295Kg เครื่องขับหน้า
CAMRY หนัก 1530kg


กรณีนี้ ผมต้องยกให้ TOYOTA ที่ 1 ล่ะ ห่างกันแค่วิเดียวแต่แบกน้ำหนักมากกว่า CIVIC สองร้อยกว่ากิโลกรัม และหนักกว่า BMW 80 โล แต่ได้อัตราเร่งเท่ากัน เพราะถ้าเอาน้ำหนักอีกซัก 200กว่าโลใส่ใน CIVIC มันจะได้อัตราเร่งแย่ลงเกินวินาทีแน่ ๆ ครับ

เครื่องBMW หนักหน่อย ตรงน้ำหนัก และมีเพลากลางเสียแรงไปเยอะ แต่ยังเร่งได้เท่านี้ ผมว่าโอเคแล้วนะ

แต่ ที่ลอง ๆมา 320i E90 น่าจะได้ใกล้ 10วินาทีนะครับ 0-100 ไม่รู้ว่าการทดสอบต่างกับคุณจิมมีรึเปล่า ไม่รู้ตัวที่ขายบ้านเราเอาไปตัดทอนแรงม้า แรงบิดรึเปล่า

หัวข้อ: Re: เครื่องดีเซลโตโยต้า
เริ่มหัวข้อโดย: st_citroen ที่ พฤศจิกายน 19, 2009, 19:35:26
อัตราเร่งของ 320i ที่พี่จิมมี่ทดสอบไว้ครับ คือ 0-100 ได้ 11.4 วิ ส่วน 80-120 ทำได้ 8.9 วิ ความเร็วสูงสุด 218  

                                    ในขณะที่ Civic 2.0 0-100 ได้ 10.38 ส่วน 80-120 ทำได้ 7.7 วิครับ ความเร็วสูงสุด 220
                                                  
                                                 Camry 2.0 0-100 ได้ 11.4 และ 80-120 ได้  8.92  ความเร็วสูงสุด 205                        

ต่างกันเป็นวิขนาดนี้ ถ้าขับตีคู่ไปหร้อมกัน ก็เห็นได้ชัดเจนเลยนะครับ คล้ายๆกับเอา Civic 2.0 มาแข่งกับ Camry 2.0 เพราะอัตราเร่ง 320i นี่จริงๆแล้วเท่าๆกับ

ตัวเลขของ Camry 2.0 คือ 320i ผมว่ายังไงๆก็แซง Camry ไม่พ้นถ้าขับตรงๆนอกจากจะไปแซงเอาตอนปลายจริงๆคือเกิน 205 ที่คัมรี่ถูกล็อกเอาไว้ ทั้งๆที่น้ำ

หนัก Camry น่าจะมากกว่าอีกนะครับ ส่วนเรื่องฟิลลิ่งของ 320i กับ Civic นั้นต่างอยู่แล้วครับ เพราะช่วงล่างกับ การเก็บเสียง ยังไงๆ 320i ก็กินขาด มันเทียบกันไม่

ได้หรอกครับ คู่ชกที่เหมาะสม ควรจะคือ IS250 กับ 325i มากกว่า แต่ผมเห็นแค่ อัตราเร่งนี่แหละที่ Civic 2.0 ทำได้น่าพอใจและน้อยกว่า 320i อย่างชัดเจน
ผมว่าอัตราเร่งระหว่าง 320i กับ civic น่าจะพอๆกันนะ (หรืออาจจะดีกว่า)ถ้าเอาป้านูวี่หรืออุปกรณ์ที่ใช้วัดอัตราเร่งมาจับวัดกันจริงๆ เพราะเท่าที่ผมเคยจับมาที่ 120 km/hr(ใช้ป้านูวี่) ในรถยุโรป(ซีตรอง)เข็มความเร็วจะอยู่ที่ 122 km/hr ส่วนรถญี่ปุ่น(เทียน่า)เข็มความอยู่ที่ 128 km/hr ครับ
หัวข้อ: Re: เครื่องดีเซลโตโยต้า
เริ่มหัวข้อโดย: TAI ^^ ที่ พฤศจิกายน 19, 2009, 20:15:20
อัตราเร่งของ 320i ที่พี่จิมมี่ทดสอบไว้ครับ คือ 0-100 ได้ 11.4 วิ ส่วน 80-120 ทำได้ 8.9 วิ ความเร็วสูงสุด 218  

                                    ในขณะที่ Civic 2.0 0-100 ได้ 10.38 ส่วน 80-120 ทำได้ 7.7 วิครับ ความเร็วสูงสุด 220
                                                  
                                                 Camry 2.0 0-100 ได้ 11.4 และ 80-120 ได้  8.92  ความเร็วสูงสุด 205                        

ต่างกันเป็นวิขนาดนี้ ถ้าขับตีคู่ไปหร้อมกัน ก็เห็นได้ชัดเจนเลยนะครับ คล้ายๆกับเอา Civic 2.0 มาแข่งกับ Camry 2.0 เพราะอัตราเร่ง 320i นี่จริงๆแล้วเท่าๆกับ

ตัวเลขของ Camry 2.0 คือ 320i ผมว่ายังไงๆก็แซง Camry ไม่พ้นถ้าขับตรงๆนอกจากจะไปแซงเอาตอนปลายจริงๆคือเกิน 205 ที่คัมรี่ถูกล็อกเอาไว้ ทั้งๆที่น้ำ

หนัก Camry น่าจะมากกว่าอีกนะครับ ส่วนเรื่องฟิลลิ่งของ 320i กับ Civic นั้นต่างอยู่แล้วครับ เพราะช่วงล่างกับ การเก็บเสียง ยังไงๆ 320i ก็กินขาด มันเทียบกันไม่

ได้หรอกครับ คู่ชกที่เหมาะสม ควรจะคือ IS250 กับ 325i มากกว่า แต่ผมเห็นแค่ อัตราเร่งนี่แหละที่ Civic 2.0 ทำได้น่าพอใจและน้อยกว่า 320i อย่างชัดเจน
ผมว่าอัตราเร่งระหว่าง 320i กับ civic น่าจะพอๆกันนะ (หรืออาจจะดีกว่า)ถ้าเอาป้านูวี่หรืออุปกรณ์ที่ใช้วัดอัตราเร่งมาจับวัดกันจริงๆ เพราะเท่าที่ผมเคยจับมาที่ 120 km/hr(ใช้ป้านูวี่) ในรถยุโรป(ซีตรอง)เข็มความเร็วจะอยู่ที่ 122 km/hr ส่วนรถญี่ปุ่น(เทียน่า)เข็มความอยู่ที่ 128 km/hr ครับ

ลองแนะนำให้พี่จิมมี่ลองทำดูสิครับ