Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: LateTeenager ที่ มิถุนายน 24, 2013, 18:50:27
-
ตอนนี้ผมใช้vios at 2012คับ ใช้มา1600กม.แล้วคับ ถ่ายน้ำมันเครื่อง1000กม.แล้วด้วย แล้วมีความรุสึกว่ารถกินน้ำมันเยอะมาก เลยลองจับอัตราสิ้นเปลืองดู ได้ประมาณ 7.5KM/Lเอง ซึ่งจะกินพอๆกับCRV 2.0 ที่ผมใช้เลยคับ(ปัจจุบัน ติดแก๊สไปแล้ว)
ไม่ทราบว่ารถมันกินน้ำมันเยอะเกินไปรึเปล่า
ปกติ ถ้าผมขับจะค่อยๆเลี้ยงรอบคับประมาณ1500 รอบ แต่ช่วงออกตัวยังไม่ค่อย
ชินกับคันเร่งคับ คันเร่งแตะนิดเดียวพุ่ง แต่crvที่ขับคันเร่งอืดมากๆคับ
ปล. ผมขับเส้นเกียกกาย-สามเสน จุฬา บางใหญ่ เช้าเย็นคับ เสา-อาทิตย์ ก็เกียกกาย-พญาไทคับ
-
ติดแก๊สโลด รถติดๆในเมืองก็ซดแบบนี้แหละครับ ไม่แปลกหรอก ไม่งั้นก็ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ดู
-
รถยังใหม่ถ้าพ้นรันอินแล้วน่าจะดีขึ้นบ้าง แต่วิ่งในเมืองขนาดนี้ยิ่งถ้าช่วงเวลาเริ่งรีบยังไงก็ไม่น่าจะได้เกิน10ผมขับมาร์ชในเมื่องยังได้แค่11โลเอง
-
ของผมตอนนี้เพิ่งจะเริ่ม7พันโล ตั้งแต่ออกจากโชว์รูมจนถึงปัจจุบันก็กินพอๆกันกับ จขกท เลยครับ วิ่งในเมือง หน้าจอโชว์อยู่8นิดๆ วิ่งเส้น สาทร สีลม ดินแดน ครับ ดีสุดผมเคยได้อยู่เกือบๆ18 จากหน้าจอ
-
รอเลย 5000 โลก่อนครับ
ตอนแรกๆ ของผมมันก็กินประมาณนี้ครับ คนในคลับก็เป็นครับ พอเลย 5000 โลไป ตัวเลขจะดีขึ้นมากครับ
จนตอนนี้ผมยังคิดว่ามันประหยัดดีทีเดียว ที่บริษัทผมให้ค่าน้ำมันเป็นฟรีดการ์ดมา ใช้ยังไงก็ไม่ถึง 12000 ขนาดเต็มเบนซิน 95 เพียวๆนะครับ
รถมันประหยัดจริงๆครับ
-
ถ้าใคร "เพิ่ง" มาขับวีออสปี 2007 - 2012 จะรู้เลยว่าคันเร่งมันประหลาดๆ
คือ เหยียบไปนิดเดียว รถยังไม่พุ่ง แต่ถ้าเหยียบลึกกว่าเดิม คราวนี้แทบออกล้อฟรีได้เลย ซึ่งแน่นอนว่ากินน้ำมันมากเพราะจุดนี้
ให้ผมเดา เพราะเค้าเซ็ทแรงบิดไว้รอบต่ำมาก ถ้าคันเร่งไวอาจออกตัวล้อฟรีได้เลย จึงหน่วงเวลาคันเร่งไว้นิดส์นึง
ฉะนั้นแล้วต้องชินกับคันเร่งก่อน เพราะถ้าชินกับเค้าแล้ว ความประหยัดก็จะมาเองครับ
-
แต่ละเส้นที่บอกมาผมว่าประคองได้ราวๆนี้ก็ปกติครับ ผมขัับcivicว่าประหยัดๆ ปกติขับปากน้ำ-บางปูวิ่งยาวๆ เผลอเข้ารัชดาทีนึงน้ำตาแทบไหล ลดฮวบๆ
-
รอซักพัก อัตราสิ้นเปลืองก็จะดีขึ้นครับ
แต่ในเมืองติดหนักๆ รถอะไรก็กินน้ำมันต่ำกว่า 10 โลลิตรได้ครับ
-
mt vios แรกๆก็แบบนี้ สาเหตุหลักเพราะ รอบสูงตอนออกตัว
แนะนำขณะจะออกตัวให้สังเกตรอบ ให้ได้ระดับสัก 1500
-------------------------
อ่าวใช้ at หรอกหรอ กรรม
อยากประหยัดช่วงความเร็ว 0-55 ใช้รอบไม่เกิน 2000 ครับ จะช่วยได้เยอะ
หรือขับปกติคือรอบไม่เกิน 2300
เกินนี้ถือว่าเปลืองน้ำมันแน่นอน
-
เครื่อง 1nz ขึ้นชื่อเรื่องกินน้ำมันอยู่แล้ว ยิ่งเกียร์ทดมาแบบนี้ เจอคันเร่งไฟฟ้าอีก ทางเดียวคือพี่แอลโลด
-
แคมรี่ 2.5 ยังกินน้อยกว่าเลยนะครับ :'(
-
เครื่อง 1nz ขึ้นชื่อเรื่องกินน้ำมันอยู่แล้ว ยิ่งเกียร์ทดมาแบบนี้ เจอคันเร่งไฟฟ้าอีก ทางเดียวคือพี่แอลโลด
ขอเถียงสุดใจได้ไม๊ครับเนี่ย 1nz ไม่ซดนะครับ อาจะเป็นเพราะเครื่องยังใหม่ๆอยู่+วิ่งรถติดๆในเมือง ใช้ไปซักพักก็จะดีเองครับ ใช้ vios ตัวแรกอยู่ครับ ;D
-
ลอง แก๊ส95 ก่อนครับ
-
เครื่อง 1nz ขึ้นชื่อเรื่องกินน้ำมันอยู่แล้ว ยิ่งเกียร์ทดมาแบบนี้ เจอคันเร่งไฟฟ้าอีก ทางเดียวคือพี่แอลโลด
กินน้ำมันมากตรงไหนครับ
ส่วนตัวผมพิสูจน์มาแล้ว วิ่งทางไกลเปิดแอร์เบอร์ 1 เทอร์โมบิดต่ำสุดสัมภาระแค่กระเป๋าใบเดียว ขับไปเชียงราย (เเวียงป่าเป้า) ระยะทาง 768 กม. ใช้ความเร็ว 90 - 100 กม/ชม ตลอดทาง
ผมใช้น้ำมันไปไม่ถึง 1400 บาท ชนิดยังเหลืออีก 3 ขีดเต็ม (อ้างอิงจากราคาน้ำมันประมาณ 32 บาท ณ.เดือนมีนาคม ปี 2553) เฉลี่ยง่ายๆก็ราวๆ 18 - 20 กม/ลิตร
เกียร์ถึงแม้จะ 4 เกียร์โบราณ แต่ก็ใช้อิเล็กโทรนิคส์คุม แถมพัฒนาภายในถึงขั้นไม่จำเป็นต้องถ่ายน้ำมันเกียร์ตลอดชีพเหมือนเกียร์รุ่นอื่น และมีการเปลื่ยนที่นุ่ม สร้างอัตราเร่งที่ยืดหยุ่นได้ดีมาก
เกียร์สูงสุด คือ เกียร์ 4 ก็สามารถวิ่งได้ตั้งแต่ 50 จนถึง 195 กม/ชม โดยที่ไม่ต้องเปลื่ยนเกียร์ลงมา ซึ่งถ้าเปรียบกับคู่แข่งที่ใช้เกียร์มากกว่า ถึงความเร็วต่อรอบจะต่ำกว่า แต่ทำไมกลับกินน้ำมันมากกว่า 4 ออโต้โบราณๆล่ะครับ
ส่วนคันเร่ง อย่่างที่ผมกล่าว เป็นเพราะตัวเครื่องถูกจูนให้แรงบิดประมาณ 80 % ลงมาที่รอบต่ำกว่าเดิม (2000 - 2500 รอบ) แต่ถ้าเซ็ทคันเร่งไวมากเกินไป ก็อาจทำให้ล้อหมุนฟรีได้ เค้าถึงได้ออกแบบให้หน่วงไว้นิดหน่อย ถ้าคนที่ขับจนชินจะทราบจังหวะดี
ใครๆก็บอกกันครับว่า่ วีออสวิ่งในเมืองขับสนุกมาก ต้นจัด กลางดี แต่ปลายพอ (จะ) ไหว แถมยังประหยัดด้วย
---------------------------------------------------
ศึกษาให้ดีๆ แล้วจะเข้าใจถึงนิสัยเครื่อง NZ + เกียร์ 4 ออโต้ครับ
-
ของผม 2013 mt วิ่งยาว ส่วนใหญ่วิ่งเกิน 3000+ ตลอด เปลี่ยนเกียร์ที 4000+ กดท๊อปสปีดไป 2รอบ (ไม่บอกเท่าไหร่ ;)) เปิดแอร์ วิทยุปกติ
ใช้ e20 นับเติมเต็มถังหมดแล้วเติมคืน หารออกมาได้ประมาณ 13 กิโลต่อลิตร ถ้าขับเนียนๆ+โซฮอล 95 คิดว่าเกิน 15 โลแน่ๆ
-
เหอๆๆ ตั้งแต่เครื่องบล๊อคนี้มีในไทยประมาณ 11-12 ปี
พึ่งจะเจอคนบอกว่า 1NZ ขึ้นชื่อเรื่องกินน้ำมัน ก็วันนี้นี่แหละ
-
ผมขับไปนครสวรรค์ เคยได้ 17 โลลิตรมาแล้ว
ซดน้ำมัน(มาก)ตรงไหนครับ??
เคยเหยียบหนักๆ เส้นเดียวกัน ไปอุทัย
(เพื่อนบวช ต้องออกจากบ้านตี 4 แต่ดันออกช้าไป เลยต้องรีบ)
วีออส กด 170+ ตลอดทาง ตอนขากลับ เติมกลับ กิน 12 โลลิตร
เติมโซฮอล91 ตลอด ตั้งแต่ได้รถมาปี 07
-
แฟนใช้อยู่ ก็ไม่ซดนะครับ
แฟนผมเป็นพวกใจร้อนขับเร็วกว่าผมเยอะ ยังได้ 12กม./ลิตร ในเชียงใหม่
ช่วงรับรถมาใหม่ๆ ได้แค่ 10 เอง
ผมใช้ติส 1.6 ขับเนิบๆ พยายามให้ประหยัด ได้11ก็หรูแล้ว
ถ้าเจอรถติดหนักๆ 7.5กม./ลิตร ก็ไม่แปลกนะ
-
เครื่อง 1nz ขึ้นชื่อเรื่องกินน้ำมันอยู่แล้ว ยิ่งเกียร์ทดมาแบบนี้ เจอคันเร่งไฟฟ้าอีก ทางเดียวคือพี่แอลโลด
เรื่องนี้ขอเถียงค่ะ เคยขับจริงหรือป่าวที่ว่าเปลือง ดิฉันขับรถเพื่อนสาวไปกรุงเทพด้วยกัน 3 คน
ขับอยู่ 90-110 ยังได้ราว ๆ 15-16 โลลิตร แถมตอนแดงไฟกระพิบเตือนน้ำมันหมดยังไหลไปได้เกือบร้อยโล
ถ้าบอกว่าเปลืองน้ำมัน กินน้ำมันมาก แสดงว่าคุณกดคันเร่งค้างไม่ปล่อย แล้วใช้ความเร็วที่ 150+ แน่นอน ใช่ไหมค่ะ ?
-
ของผม 2013 mt วิ่งยาว ส่วนใหญ่วิ่งเกิน 3000+ ตลอด เปลี่ยนเกียร์ที 4000+ กดท๊อปสปีดไป 2รอบ (ไม่บอกเท่าไหร่ ;)) เปิดแอร์ วิทยุปกติ
ใช้ e20 นับเติมเต็มถังหมดแล้วเติมคืน หารออกมาได้ประมาณ 13 กิโลต่อลิตร ถ้าขับเนียนๆ+โซฮอล 95 คิดว่าเกิน 15 โลแน่ๆ
วีออสตัวใหม่ มันล็อคความเร็วมั้ยครับ อยากทราบว่า เกียร์ธรรมดาจะไปสุดได้แค่ไหน เดาว่าสุดที่ 180 มั้ง
-
มันซดผิดปกติแล้วครับ ลองขับไปเรื่อยๆก่อนครับ
เพราะเข้า 0 คงไม่ช่วยอะไร
ปล.ติดแก๊สตาม CR-V ไปเลยครับ เครื่องเดิมเกียร์เดิม ใช้มันให้เป็นประโยชน์ครับ
-
โถถถถถ เห็นระยะ ยังไม่พ้นรันอินเลยนะคะ แหม่ บ่นเหมือนรถ วิ่งมาสามหมื่นโล
ถ้ารับไม่ได้ก็ยอมเสียประกัน ติดแก๊สเลยค่ะ
แต่ดูไม่ค่อยใช้รถ แถมเกร็งง่ามขับแบบนั้น อีกนานกว่า จะเข้าที่ค่ะ
แนะนำว่า ถ้าจะให้ประหยัด ต้องยอมลงทุนวิ่งเยอะๆ ค่ะจะได้รู้ธรรมชาติมัน แล้วหลังจากนั้น สวรรค์ค่ะ เชื่อหนู
-..-
-
สามเสน พญาไท จุฬา นี่มันดินแดนรถติดชัดๆนะครับ บางวันครึ่งชั่วโมงไปได้กิโลเดียว ได้ประมาณนี้น่าจะถือว่าปกติด้วยซ้ำ
-
ของผม 2013 mt วิ่งยาว ส่วนใหญ่วิ่งเกิน 3000+ ตลอด เปลี่ยนเกียร์ที 4000+ กดท๊อปสปีดไป 2รอบ (ไม่บอกเท่าไหร่ ;)) เปิดแอร์ วิทยุปกติ
ใช้ e20 นับเติมเต็มถังหมดแล้วเติมคืน หารออกมาได้ประมาณ 13 กิโลต่อลิตร ถ้าขับเนียนๆ+โซฮอล 95 คิดว่าเกิน 15 โลแน่ๆ
วีออสตัวใหม่ มันล็อคความเร็วมั้ยครับ อยากทราบว่า เกียร์ธรรมดาจะไปสุดได้แค่ไหน เดาว่าสุดที่ 180 มั้ง
เอาง่ายๆ ความเร็วเกินเลข2 แต่รอบเกียร์ 5 ไม่ถึง 6000
ล็อคความเร็วหรือเครื่องไม่ไหวไม่รู้
-
เรื่องซดไม่ซดผมว่ามันก็พอๆกับ1.5ของmazda 2 honda city นั้นแหละครับ อย่าไปอวยมันมากเลย
เห็นตารางอัตราสิ้นเปลืองของพี่จิมมี่ เทียบกับสองตัวนั้นก็ไม่ได้เด่นกว่าอะไรเลย
ส่วนเจ้าของกระทู้ก็รอให้มันพ้น10000โลไปก่อนค่อยสรุปก็ได้ เห็นคุณบอกว่าขับเนียนๆด้วยผมก็ว่ามันซดไปหน่อยน่ะ ถ้าเนียนๆมันไม่น่าจะลงไปถึง7.5km/l แต่ก็ต้องดูสภาพการจราจรด้วยว่าติดแค่ไหน
-
รอพ้นรันอินไปซักพัก ให้ชินกับรถน่าจะดีขึ้นนะคะ
-
RUN IN จริงๆ ครับ March ผมยังเหลือ 9 เลย
แต่ Honda ไม่เป็นนะครับ เหมือนเครื่องเขาจะ Fit ตั้งแต่ รง. เลย
-
โถถถถถ เห็นระยะ ยังไม่พ้นรันอินเลยนะคะ แหม่ บ่นเหมือนรถ วิ่งมาสามหมื่นโล
ถ้ารับไม่ได้ก็ยอมเสียประกัน ติดแก๊สเลยค่ะ
แต่ดูไม่ค่อยใช้รถ แถมเกร็งง่ามขับแบบนั้น อีกนานกว่า จะเข้าที่ค่ะ
แนะนำว่า ถ้าจะให้ประหยัด ต้องยอมลงทุนวิ่งเยอะๆ ค่ะจะได้รู้ธรรมชาติมัน แล้วหลังจากนั้น สวรรค์ค่ะ เชื่อหนู
-..-
คือถ้าเป็นCRV ผมจะขับแบบปกติคับ เหยียบเปนเหยียบ เร่งเปนเร่ง ในเส้นทางนี้ผมจะได้ประมาณ 7KM/L คับ
ซึ่งผมลองขับviosแบบปกติคับ kick down บ่อยมากๆ แตะนิดเดียว kick down เลย จะได้ประมาณ 6.5KM/Lเองคับ
เลยสงสัยว่าทำไมviosเครื่องเล็กกว่าเยอะ น้ำหนักน้อยกว่ามากๆ ถึงกินน้ำมันพอๆกับCRVเลยคับ
-
เคยเช่า Vios โฉมที่แล้ว (เครื่องน่าจะตัวเดียวกับโฉมปัจจุบัน) ขับในตัวเมืองเชียงใหม่
เจอรถติดตลอด ก็โดนไป 7-8 กม/ลิตร เหมือนกันครับ
ผมว่ารถอะไรก็ตาม ยกเว้นพวก hybrid ถ้าจอดมากกว่าวิ่ง ก็คงอยู่ในเรตนี้ล่ะมั้งครับ
ปล. Vios ตัว E วิ่งไปแล้วประมาณ 10,000 โล น่าจะพ้นรันอินไปแล้ว เติมโซฮอลล์ 91 ผมเช่าขับอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ครับ
-
vios ตอนเครื่องเย็น รอบจะสูงอยู่ ดังนั้นช่วงนี้รถจะพุ่งหน่อย
+กับคันเร่งไฟฟ้าวีออสมันเบา กดหน่อยก็พุ่ง
+หน่วง 1 วิ ทำให้ไปกันใหญ่
new city ตอนเครื่องเย็นก็พุ่งเช่นกัน แต่เขาดีตรงคันเร่งไม่หน่วง 1 วิ
-----------------
ส่วนกินน้ำมัน
ช่วง 0-50 อย่าให้รอบเกิน 2000 จะประหยัดครับ โดยเฉพาะช่วง 0-40
---------------
ผม 2011 mt e20
ทางไกลขับแบบเน้นประหยัด เคยได้ 19.5 โลลิตร
ทางไกลปกติ 16-18.5 โลลิตร
ในเมือง(ขอนแก่น) ปกติ 13-15 โลลิตร
ถ้าในเมืองกรุงเทพปกติ 11-14 โลลิตร
ถ้าในเมือง ติดโหดๆเดียวไปเดียวติด แย่งช่องกัน แย่งจังหวะ ติดยาวๆๆๆ อาจมี 7-8 โลลิตร ได้เป็นปกติครับ
สรูป แล้วแต่สภาพถนน และ ขาคุณ ครับ
-
โถถถถถ เห็นระยะ ยังไม่พ้นรันอินเลยนะคะ แหม่ บ่นเหมือนรถ วิ่งมาสามหมื่นโล
ถ้ารับไม่ได้ก็ยอมเสียประกัน ติดแก๊สเลยค่ะ
แต่ดูไม่ค่อยใช้รถ แถมเกร็งง่ามขับแบบนั้น อีกนานกว่า จะเข้าที่ค่ะ
แนะนำว่า ถ้าจะให้ประหยัด ต้องยอมลงทุนวิ่งเยอะๆ ค่ะจะได้รู้ธรรมชาติมัน แล้วหลังจากนั้น สวรรค์ค่ะ เชื่อหนู
-..-
คือถ้าเป็นCRV ผมจะขับแบบปกติคับ เหยียบเปนเหยียบ เร่งเปนเร่ง ในเส้นทางนี้ผมจะได้ประมาณ 7KM/L คับ
ซึ่งผมลองขับviosแบบปกติคับ kick down บ่อยมากๆ แตะนิดเดียว kick down เลย จะได้ประมาณ 6.5KM/Lเองคับ
เลยสงสัยว่าทำไมviosเครื่องเล็กกว่าเยอะ น้ำหนักน้อยกว่ามากๆ ถึงกินน้ำมันพอๆกับCRVเลยคับ
อย่างที่บอกว่า ระยะ ที่ขับมันเป้นจุดที่รถติด กับ รถไม่พ้นรันอิน อันนี้มีผล มาแหละ อย่างที่บอก แถมคิกดาวนืบ่อยมากแบบนั้น -..-
ลองแนะนำ วิ่งออกต่างจังหวัดบ้างสิคะ เกรงว่า ม้าแคระตัวนี้ง่อยแน่นอนค่ะ เครื่องเล็กๆ วิ่งจอด วิ่งจอด แลดูจะโทรมไวกว่า
ส่วนที่เอามาเทียบกับ CR-V Gen3 ??
แค่เปรียบเทียบกับรถที่กินน้ำมัน+ เครื่องใหญ่กว่า จะดูเป้นการทำร้ายไปหรือเปล่าคะ?
-
หลังจากผ่านช่วงรันอินแล้ว ก็ยังถือว่ากินอยู่นะครับ รอซักที่ 3-4 พันกิโล ดูครับ น่าจะประหยัดขึ้นครับ
-
ช่วงระยะรันอินต้องทำใจ น้ำมันจะลดลงเร็วผิดปกติ พอผ่านช่วง 5000 โลไปเเล้วเครื่องยนต์เข้าที่เข้าทางอัตราการกินน้ำมันก็จะค่อยๆดีขึ้น
-
Jazz 2009 ผม อายุ เกือบ 4 ปี
นอกเมือง + รอบๆ เมือง 14.4 km/L
ในเมือง 7 km/L
ออก ตจว ขับยาว 110 Km/Hr. 19 km/L
ปล.ผมเป็นคนขับรถเท้าไม่หนักนะครับ เท้าหนักๆ กินกว่านี้ครับ
-
Fiesta ผมหนักกว่า จขกท อีกครับ ช่วงรันอิน ในเมืิอง 6-7 โล/ลิตร
พ้นรันอิน ก็ยังเท่าเดิม *+*
-
ใครวิ่งในเมืองเป็นประจำ ถ้าเจอรถติดหนักๆ ไม่ต้องเท้าหนักหรอกครับ มันไม่มีพื้นที่จะให้ท่านมุดหรือกระแทกคันเร่งแรงๆด้วยซ้ำ กินเท่านี้ก็ปกติครับ โอเคถ้าวิ่งทางไกล แล้วซัดใช้รอบตลอดทางให้ตายยังไงมันก็ไม่ต่ำกว่า10 โลลิตรหรอกครับ คนแต่ละคน รถแต่ละคัน วิ่งเส้นทางไม่เหมือนกันครับ อัตราสิ้นเปลืองมันจึงแตกต่างกันเป็นเรื่องปกติ