Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Niti ที่ กันยายน 14, 2013, 22:40:56

หัวข้อ: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Niti ที่ กันยายน 14, 2013, 22:40:56
ก่อนอื่นขอแจ้งก่อนว่าที่เขียนนี่เพื่อให้เป็นการแบ่งปันประสบการณ์ที่เจอเท่านั้นครับ จะไม่อ้างอิงถึงบุคคล หรือยี่ห้อใดๆ แบบเฉพาะเจาะจงเด็ดขาด

เริ่มจากผมหา eco car มาใช้เพิ่มซักคัน เมื่อประมาณเดือนเมษาที่ผ่านมาจึงได้ลองหาท่านที่ประกาศขายใบจองในเนต โดยเน้นที่ว่าต้องไม่โดนคิดกำไรเพิ่มซึ่งก็หาได้ในไม่นาน เพื่อความชัวร์จึงได้นัดผู้ขายไปทำเรื่องกันที่ศูนย์โดยมีเซลล์เป็นผู้ดำเนินการให้ โดนทางเซลล์แจ้งว่าปกติไม่ให้มีการขายใบจองกัน ถ้าจะทำจริงผู้จัดการขอให้มัดจำเพิ่มอีก 5,000 (รวมกับที่ผู้ขายชำระไว้แล้ว5,000 เป็น10,000) ซึ่งผมก็ยินดีจ่าย แต่เพื่อเป็นหลักฐานผมจึงชำระด้วยบัตรเครดิต และให้เซลล์ลงไว้ในใบจองว่าได้มีการชำระเพิ่ม ทุกอย่างเรียบร้อยดี เอกสารที่เซลล์ให้มาเป็นใบจองของผมคู่มากับสำเนาใบจองของผู้ขายโดยมีกำหนดรับรถเดือน พค-มิย

ความที่ไม่ได้มีความจำเป็นต้องรีบใช้รถ และหงุดหงิดที่เซลล์หายไปทั้งๆ ที่ส่ง sms ไปติดตามหลายครั้ง ผมปล่อยเวลาผ่านไปจนเดือน สค จึงได้รับการติดต่อจากศูนย์ จริงๆ ผมคิดที่จะถอนจองนะครับ แต่เห็นว่ายังไงก็เป็นศูนย์ใกล้บ้าน ยังไงก็คงต้องได้ใช้บริการกันอยู่ดี จึงนัดรับรถวันนี้ โดยแวะไปคุยเรื่องฟิล์มและของแถมอื่นๆ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วพร้อมด้วยเอกสารจองทั้งชุดและได้ย้ำด้วยว่าผมมัดจำไว้แล้ว 10,000 นะ แต่พอไปถึงวันออกรถกลับเจอเหตุการณ์แบบนี้

เซลล์ (คนใหม่...คนเดิมออกไปแล้ว): เอ่อ เอกสารของคนเก่าที่ให้มาใช้ไม่ได้ครับ จึงหักเงินได้แค่ 5,000
ผู้จัดการ (คนเดียวกันกับตอนที่ผมมาจัดการเรื่องใบจอง): เอกสารคุณไม่ถูกต้อง คุณเอาเอกสารใครมาแนบกับใบจองของคุณแบบนี้ไม่ได้ ชื่อก็ไม่ใช่ชื่อคุณ
ผม (หงุดหงิดแน่นอน มาเจอปัญหางี่เง่าหน้างานแบบนี้): ผมมาทำเรื่องที่ศูนย์คุณ เซลล์คุณบอกแบบนี้และจัดเอกสารให้มาทั้งชุดอย่างนี้ ลูกค้าก็ต้องคิดว่าเอกสารพร้อมและถูกต้อง ทำไมคุณไม่โทรไปหาเซลล์คนเก่าคุณแล้วสอบถามให้รู้เรื่อง
ผู้จัดการ (ขึ้นเสียงเพื่อข่มผมกลับ): ไม่ใช่เรื่องอะไรที่ผมต้องโทร เอกสารคุณไม่ถูกต้อง
ผม: จะมาพูดได้ยังไงว่าจะหักเงินผม 5,000 อย่างงี้ผมถอนจองดีกว่า
ผู้จัดการ (หันไปสั่งลูกน้องให้เอาเงินมาคืนผม 5,000)
ผม: แบบนี้คุยกันไม่รู้เรื่องแล้วมั๊ง เรื่องอะไรคุณมาหักเงินผม มากล่าวหาว่าผมถือเอกสารของคนอื่นจะมาโกงเงินคุณ 5,000 ช่วยหันไปดูหน่อย (ชี้ไปที่รถ) รถที่ผมขับมาแพงกว่ารถทุกคันในศูนย์คุณด้วยซ้ำ จะมานั่งเสียเวลาโกงคุณเพื่อเงิน 5,000 ทำไม
ผู้จัดการ: คุณเอาเอกสารใครมาก็ไม่รู้ อย่างนี้เรียกตำรวจมาดีกว่า ...และผลักอกผม!!!

ขอเรียนตามตรงอย่างนี้ครับว่าพื้นฐานครอบครัวผมเป็นคนในแวดวงราชการชั้นผู้ใหญ่ แต่ไม่เคยถูกสอนให้คิดว่ามีเส้นและเอาเปรียบผู้อื่น ผมถึงซื้อใบจองเอง ดีลเองแต่แรกทั้งหมด แต่ถึงจุดนี้รู้สึกว่าจำเป็นต้อง "แผลงฤทธิ์" บ้าง  จึงแจ้งที่บ้านขอให้มีการส่งเจ้าหน้าที่มาที่ศูนย์ (ตั้งแต่เกิดมาจนครึ่งอายุคนแล้วยังไม่เคยทำแบบนี้เลยซักครั้ง!!)

...แน่นอนครับ เมื่อเจ้าหน้าที่มาจริงทุกอย่างเรียบร้อย และทุกคนในศูนย์ "ขอโทษ" ผมโดยพยายามบอกว่าเป็นความผิดพลาดเรื่องเอกสาร

สำหรับผม เรื่องเอกสารคือเรื่องนึง แต่เรื่องคุณภาพการบริการคืออีกเรื่อง การที่จะมีการกล่าวหาลูกค้าว่าโกงและปฏิเสธที่จะทำการสืบเรื่องราวภายในกันเองก่อนรวมไปถึงการเข้าถึงตัวลูกค้า แบบนี้ใช้ไม่ได้ครับ (ลืมบอกไปว่าตอนทีเรื่องพนักงานชายที่ศูนย์หลายคนพยายามล้อมผมไม่ให้เข้าถึงตัวผู้จัดการด้วย...ล้อมในลักษณะ "พร้อมรุม") ถามตรงๆ ว่าถ้าผมไม่ใช่ผมล่ะ ก็คงโดนรุม หรือไม่ก็ยอมขาดทุนไป 5,000 อย่างนั้นเหรอ

ที่เล่ามาซะยาวก็แค่อยากบอกให้ทุกท่านทำเอกสารทุกอย่างเกี่ยวกับการจองรถอย่างระมัดระวัง บางครั้งแม้จะเป็นศูนย์บริการก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่พยายามเอาเปรียบคุณ!!





หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nikle_pk ที่ กันยายน 14, 2013, 22:50:55
อยากให้ระบุให้หมดเลยครับ
ทั้งยี่ห้อ ศูนย์ ชื่อเซล ชื่อผู้จัดการ

ผมเข้าใจนะครับว่าอยากมาเตือนให้ระวัง
แต่ถ้าเรื่องนี้คือเรื่องจริงและมีหลักฐานแน่ชัด
การบอกว่าศูนย์ไหน จะเป็นประโยชน์มากๆ ทั้งกับ
เพื่อนสมาชิกทุกคน และ กับยี่ห้อนั้นๆที่จะต้องมีการสอบสวน
และปรับปรุงแก้ไขโดยด่วนที่สุดครับ

เพราะเหตุผลข้างต้น ผมอยากให้บอกทั้งหมดนะครับ
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ichamz ที่ กันยายน 14, 2013, 22:51:29
อยากให้ระบุให้หมดเลยครับ
ทั้งยี่ห้อ ศูนย์ ชื่อเซล ชื่อผู้จัดการ

ผมเข้าใจนะครับว่าอยากมาเตือนให้ระวัง
แต่ถ้าเรื่องนี้คือเรื่องจริงและมีหลักฐานแน่ชัด
การบอกว่าศูนย์ไหน จะเป็นประโยชน์มากๆ ทั้งกับ
เพื่อนสมาชิกทุกคน และ กับยี่ห้อนั้นๆที่จะต้องมีการสอบสวน
และปรับปรุงแก้ไขโดยด่วนที่สุดครับ

เพราะเหตุผลข้างต้น ผมอยากให้บอกทั้งหมดนะครับ

เห็นด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: beermix ที่ กันยายน 14, 2013, 22:53:13
เรื่องเอกสารคุยกันดีๆ ก็ได้ครับ (เงินแค่5000) ถ้าคนที่ถือเอกสารมาพร้อมที่จะซื้อรถคุณ มันก็เป็นผลประโยชน์ต่อ บ.คุณ ไม่ใช่เหรอ ? นอกจากคุณจะหุบ 5000 เข้ากระเป๋าตัวเอง
ถึงเป็นเอกสารคนอื่น ก็สามารถเช็คกับเจ้าของเก่าได้หนิครับ ว่าซื้อมาจรืงหรือไม่ ?

แต่เรื่องที่ พนักงาน มาสามห้าวกับลูกค้ามันเป็นคนละกรณีกัน
เห็นแบบนี้รู้สึกว่า ผจก พร้อมจะเล่นแง่ และ พร้อมที่จะตุกติกครับ เป็นผมๆจะเอาเรือง ผจก ก่อนเลย ถ้าถึงขั้นผลักอก+เอาลูกน้องมาล้อม ต้องพร้อมมีเรื่องแน่นอน


บอกมาเลยครับ ยี่ห้ออะไร ศูนย์ไหน ชื่อ



หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Niti ที่ กันยายน 14, 2013, 23:01:21
เรียนอย่างนี้ครับ จุดประสงค์ผมเพื่อแชร์เรื่องจริงที่เกิดขึ้นเท่านั้นให้ทุกท่านได้ระวังมากขึ้นเท่านั้น ไม่ได้ต้องการให้ใครเดือดร้อนเพิ่มเติม

หลักฐานชิ้นเดียวที่เหลืออยู่ตอนนี้คือรถคันที่เพิ่งไปออกมากับแผลถลอกเล็กน้อยที่แขนทั้งสองข้าง จากการ "ป้องกัน" นายของพนักงานที่ศูนย์ เพราะเอกสารที่เหลือก็ให้เค๊าไปหมดแล้ว  :'(

ที่แน่ๆ ผมมีตัวตนจริงพิสูจน์ได้ครับ ไม่ได้มีผลประโยชน์แฝงจากการโพสต์ หน้าที่การงานก็พอจะเป็นหลักเป็นฐานอยู่ (แวดวงธนาคารครับ ไม่เกี่ยวกับรถเลย) ไม่มาเล่าเรื่องหลอกกันให้เสียอารมณ์แน่ๆ  ;D
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: pee1818 ที่ กันยายน 14, 2013, 23:04:10
เป็นเรื่องเล่าไม่มีหลักฐานเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ถ้าบอกว่ายี่ห้ออะไรศูนย์ไหนก็พอจะยอมรับได้(แต่จริงๆ ก็เชื่อแหละครับอยากรู้ว่าศูนย์ไหน เพราะคิดว่ายี่ห้ออะไรพอจะรู้)
จริงๆ อยากให้บอกยี่ห้อกับศูนย์นะครับ เผื่อเพื่อนๆ จะไปจองจะได้รู้ไว้ก่อนว่าเคยมีเรื่องแบบนี้
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: r0okiEz ที่ กันยายน 14, 2013, 23:06:21
มีการผลักอกลูกค้าด้วย >:(

มารยาททรามมากๆ  :'(
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nyquist ที่ กันยายน 14, 2013, 23:07:14
เดาว่า eco car แบรนใหม่แน่เลย
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nikle_pk ที่ กันยายน 14, 2013, 23:15:41
เป็นเรื่องเล่าไม่มีหลักฐานเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ถ้าบอกว่ายี่ห้ออะไรศูนย์ไหนก็พอจะยอมรับได้(แต่จริงๆ ก็เชื่อแหละครับอยากรู้ว่าศูนย์ไหน เพราะคิดว่ายี่ห้ออะไรพอจะรู้)
จริงๆ อยากให้บอกยี่ห้อกับศูนย์นะครับ เผื่อเพื่อนๆ จะไปจองจะได้รู้ไว้ก่อนว่าเคยมีเรื่องแบบนี้

ตัวแดง ผมว่ามีส่วนถูกต้องเลยครับ
เพราะลอยๆอย่างนี้มันก็ไม่รู้จะระวังกันยังไง
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ceberos ที่ กันยายน 14, 2013, 23:17:49
ไม่เปิดเผยนี้เสร็จเลยฮะ คนอื่นคงโดนกันบ้างละอย่างน้อยคนหลังๆจะได้ระวังได้ครับ  ;)
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Monn ที่ กันยายน 14, 2013, 23:30:26
หากมีหลักฐาน ไม่จำเป็นต้องปิดบังเลยว่าที่ไหน ไม่ต้องระบุบุคคลก็ได้ แต่ศูนย์และยี่ห้อควรเผยได้ ไม่งั้นก็แทบจะไม่ได้ข่วยเพื่อนๆ ในนี้เลยครับ แล้วจะเล่ามาเพื่อ? สะใจ หรือให้ระวัง มันจะระวังกันยังไง เพราะหลายที่ไม่เป็น ขนาดคุณที่ดูแล้วน่าจะเป็นผู้ใหญ่ หน้าที่การงานดี มีเส้นสาย ยังโดนเลย หากคนจอง หรืออ่านเป็น ผู้หญิง เป็นคนเพื่งเริ่มทำงาน เป็นพนักงานธรรมดา จะจัดการยังไงกันหละครับ รบกวนด้วย บอกเหอะ
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: KLANG MR-S ที่ กันยายน 14, 2013, 23:53:41
ขอแชร์ความเห็นนิดหน่อยนะครับ

รู้สึกเห็นใจเจ้าของกระทู้จริง ๆ ครับ คิดว่าน่าจะเป็นเพราะมีประสบการณ์โดนอะไรมาไม่ดีเลยอยากจะเล่าให้สมาชิกฟัง ให้ระวังตัวกันไว้กรณีเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งก็ไม่น่าจะมีอะไรมากมายเลยนะครับ ใจความก็มีแค่ "เวลาจะซื้อใบจองเพื่อลัดคิวจากคนอื่น ให้ตรวจสอบเอกสารให้แน่ใจหรือเป็นไปได้ก็หลีกเลี่ยงซะ" ก็แค่นั้น ไม่เห็นมีอะไรซับซ้อน

แต่กลับกลายเป็นว่าหลาย ๆ ท่านบอกให้เอ่ยชื่อยี่ห้อรถ ชื่อศูนย์ (เพื่ออะไรก็ไม่ทราบ!?) หลังจากนั้นถ้า จขกท. เอ่ยชื่อมาก็ต้องมีถามตามอีกว่า ไหนล่ะเอกสาร!? ไหนล่ะหลักฐาน!? จขกท. พูดมาลอย ๆ มั่วเปล่าเนี่ย (อุตส่าห์มาเตือนกลับโดนด่า โดนดูถูก!?) แล้วถ้าไม่มีเอกสารก็จะโดนอีกว่าวันหลังไม่มีหลักฐานอย่ามาพูดลอย ๆ มั่ว ๆ ซึ่งถ้าผมเป็น จขกท. โดนแบบนี้วันหลังผมจะอยากมาแชร์หรือเตือนอะไรกับเว็บนี้อีกหรือ!?

ขอแชร์เพียงเท่านี้ล่ะครับ
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: john ที่ กันยายน 15, 2013, 00:01:07
ที่น่าสนใจคือคุยกันแบบไหนถึงขนาดผู้จัดการต้อง "ผลัก" กันแบบนี้ครับ เพราะโดยปกติไม่น่าจะใช่เรื่องปกติที่พึงกระทำ
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: bump_F10_525d ที่ กันยายน 15, 2013, 00:07:05
ก่อนอื่นขอแจ้งก่อนว่าที่เขียนนี่เพื่อให้เป็นการแบ่งปันประสบการณ์ที่เจอเท่านั้นครับ จะไม่อ้างอิงถึงบุคคล หรือยี่ห้อใดๆ แบบเฉพาะเจาะจงเด็ดขาด

เริ่มจากผมหา eco car มาใช้เพิ่มซักคัน เมื่อประมาณเดือนเมษาที่ผ่านมาจึงได้ลองหาท่านที่ประกาศขายใบจองในเนต โดยเน้นที่ว่าต้องไม่โดนคิดกำไรเพิ่มซึ่งก็หาได้ในไม่นาน เพื่อความชัวร์จึงได้นัดผู้ขายไปทำเรื่องกันที่ศูนย์โดยมีเซลล์เป็นผู้ดำเนินการให้ โดนทางเซลล์แจ้งว่าปกติไม่ให้มีการขายใบจองกัน ถ้าจะทำจริงผู้จัดการขอให้มัดจำเพิ่มอีก 5,000 (รวมกับที่ผู้ขายชำระไว้แล้ว5,000 เป็น10,000) ซึ่งผมก็ยินดีจ่าย แต่เพื่อเป็นหลักฐานผมจึงชำระด้วยบัตรเครดิต และให้เซลล์ลงไว้ในใบจองว่าได้มีการชำระเพิ่ม ทุกอย่างเรียบร้อยดี เอกสารที่เซลล์ให้มาเป็นใบจองของผมคู่มากับสำเนาใบจองของผู้ขายโดยมีกำหนดรับรถเดือน พค-มิย

ความที่ไม่ได้มีความจำเป็นต้องรีบใช้รถ และหงุดหงิดที่เซลล์หายไปทั้งๆ ที่ส่ง sms ไปติดตามหลายครั้ง ผมปล่อยเวลาผ่านไปจนเดือน สค จึงได้รับการติดต่อจากศูนย์ จริงๆ ผมคิดที่จะถอนจองนะครับ แต่เห็นว่ายังไงก็เป็นศูนย์ใกล้บ้าน ยังไงก็คงต้องได้ใช้บริการกันอยู่ดี จึงนัดรับรถวันนี้ โดยแวะไปคุยเรื่องฟิล์มและของแถมอื่นๆ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วพร้อมด้วยเอกสารจองทั้งชุดและได้ย้ำด้วยว่าผมมัดจำไว้แล้ว 10,000 นะ แต่พอไปถึงวันออกรถกลับเจอเหตุการณ์แบบนี้

เซลล์ (คนใหม่...คนเดิมออกไปแล้ว): เอ่อ เอกสารของคนเก่าที่ให้มาใช้ไม่ได้ครับ จึงหักเงินได้แค่ 5,000
ผู้จัดการ (คนเดียวกันกับตอนที่ผมมาจัดการเรื่องใบจอง): เอกสารคุณไม่ถูกต้อง คุณเอาเอกสารใครมาแนบกับใบจองของคุณแบบนี้ไม่ได้ ชื่อก็ไม่ใช่ชื่อคุณ
ผม (หงุดหงิดแน่นอน มาเจอปัญหางี่เง่าหน้างานแบบนี้): ผมมาทำเรื่องที่ศูนย์คุณ เซลล์คุณบอกแบบนี้และจัดเอกสารให้มาทั้งชุดอย่างนี้ ลูกค้าก็ต้องคิดว่าเอกสารพร้อมและถูกต้อง ทำไมคุณไม่โทรไปหาเซลล์คนเก่าคุณแล้วสอบถามให้รู้เรื่อง
ผู้จัดการ (ขึ้นเสียงเพื่อข่มผมกลับ): ไม่ใช่เรื่องอะไรที่ผมต้องโทร เอกสารคุณไม่ถูกต้อง
ผม: จะมาพูดได้ยังไงว่าจะหักเงินผม 5,000 อย่างงี้ผมถอนจองดีกว่า
ผู้จัดการ (หันไปสั่งลูกน้องให้เอาเงินมาคืนผม 5,000)
ผม: แบบนี้คุยกันไม่รู้เรื่องแล้วมั๊ง เรื่องอะไรคุณมาหักเงินผม มากล่าวหาว่าผมถือเอกสารของคนอื่นจะมาโกงเงินคุณ 5,000 ช่วยหันไปดูหน่อย (ชี้ไปที่รถ) รถที่ผมขับมาแพงกว่ารถทุกคันในศูนย์คุณด้วยซ้ำ จะมานั่งเสียเวลาโกงคุณเพื่อเงิน 5,000 ทำไม
ผู้จัดการ: คุณเอาเอกสารใครมาก็ไม่รู้ อย่างนี้เรียกตำรวจมาดีกว่า ...และผลักอกผม!!!

ขอเรียนตามตรงอย่างนี้ครับว่าพื้นฐานครอบครัวผมเป็นคนในแวดวงราชการชั้นผู้ใหญ่ แต่ไม่เคยถูกสอนให้คิดว่ามีเส้นและเอาเปรียบผู้อื่น ผมถึงซื้อใบจองเอง ดีลเองแต่แรกทั้งหมด แต่ถึงจุดนี้รู้สึกว่าจำเป็นต้อง "แผลงฤทธิ์" บ้าง  จึงแจ้งที่บ้านขอให้มีการส่งเจ้าหน้าที่มาที่ศูนย์ (ตั้งแต่เกิดมาจนครึ่งอายุคนแล้วยังไม่เคยทำแบบนี้เลยซักครั้ง!!)

...แน่นอนครับ เมื่อเจ้าหน้าที่มาจริงทุกอย่างเรียบร้อย และทุกคนในศูนย์ "ขอโทษ" ผมโดยพยายามบอกว่าเป็นความผิดพลาดเรื่องเอกสาร

สำหรับผม เรื่องเอกสารคือเรื่องนึง แต่เรื่องคุณภาพการบริการคืออีกเรื่อง การที่จะมีการกล่าวหาลูกค้าว่าโกงและปฏิเสธที่จะทำการสืบเรื่องราวภายในกันเองก่อนรวมไปถึงการเข้าถึงตัวลูกค้า แบบนี้ใช้ไม่ได้ครับ (ลืมบอกไปว่าตอนทีเรื่องพนักงานชายที่ศูนย์หลายคนพยายามล้อมผมไม่ให้เข้าถึงตัวผู้จัดการด้วย...ล้อมในลักษณะ "พร้อมรุม") ถามตรงๆ ว่าถ้าผมไม่ใช่ผมล่ะ ก็คงโดนรุม หรือไม่ก็ยอมขาดทุนไป 5,000 อย่างนั้นเหรอ

ที่เล่ามาซะยาวก็แค่อยากบอกให้ทุกท่านทำเอกสารทุกอย่างเกี่ยวกับการจองรถอย่างระมัดระวัง บางครั้งแม้จะเป็นศูนย์บริการก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่พยายามเอาเปรียบคุณ!!






เชื่อครับ ว่าเป็นจริง

เคยเห็นบ่อยๆเลย
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Niti ที่ กันยายน 15, 2013, 00:10:09
ที่น่าสนใจคือคุยกันแบบไหนถึงขนาดผู้จัดการต้อง "ผลัก" กันแบบนี้ครับ เพราะโดยปกติไม่น่าจะใช่เรื่องปกติที่พึงกระทำ

ก็คุยประมาณที่เล่านั่นแหล่ะครับ ผมเว้นรายละเอียดไม่จำเป็นประเภทที่ผู้จัดการเปรยๆ หลังจากที่ผมเรียก จนท มา ว่าคิดว่าจะใหญ่จริงเคลียร์ได้เหรอ ประมาณนั้น เพราะไม่ได้คิดว่ามีประโยชน์อะไร

@ k. Klang  MRS ขอบคุณมากครับ  ;D
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ADS ที่ กันยายน 15, 2013, 01:15:38
ผมก็อายุพอๆ กับเจ้าของกระทู้ อ่านแล้วก็เข้าใจวัตถุประสงค์ของเจ้าของกระทู้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นการเตือนที่รอบคอบมากครับ และต้องขอบคุณที่เตือนมาเพราะเรื่อง
แบบนี้เกิดได้กับการค้าขายทุกประเภท ถ้ามีพนักงานขายประเภทนี้อยู่ 
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: noobs ที่ กันยายน 15, 2013, 02:27:22
ขอแชร์ความเห็นนิดหน่อยนะครับ

รู้สึกเห็นใจเจ้าของกระทู้จริง ๆ ครับ คิดว่าน่าจะเป็นเพราะมีประสบการณ์โดนอะไรมาไม่ดีเลยอยากจะเล่าให้สมาชิกฟัง ให้ระวังตัวกันไว้กรณีเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งก็ไม่น่าจะมีอะไรมากมายเลยนะครับ ใจความก็มีแค่ "เวลาจะซื้อใบจองเพื่อลัดคิวจากคนอื่น ให้ตรวจสอบเอกสารให้แน่ใจหรือเป็นไปได้ก็หลีกเลี่ยงซะ" ก็แค่นั้น ไม่เห็นมีอะไรซับซ้อน

แต่กลับกลายเป็นว่าหลาย ๆ ท่านบอกให้เอ่ยชื่อยี่ห้อรถ ชื่อศูนย์ (เพื่ออะไรก็ไม่ทราบ!?) หลังจากนั้นถ้า จขกท. เอ่ยชื่อมาก็ต้องมีถามตามอีกว่า ไหนล่ะเอกสาร!? ไหนล่ะหลักฐาน!? จขกท. พูดมาลอย ๆ มั่วเปล่าเนี่ย (อุตส่าห์มาเตือนกลับโดนด่า โดนดูถูก!?) แล้วถ้าไม่มีเอกสารก็จะโดนอีกว่าวันหลังไม่มีหลักฐานอย่ามาพูดลอย ๆ มั่ว ๆ ซึ่งถ้าผมเป็น จขกท. โดนแบบนี้วันหลังผมจะอยากมาแชร์หรือเตือนอะไรกับเว็บนี้อีกหรือ!?

ขอแชร์เพียงเท่านี้ล่ะครับ
+1 เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ

หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: 0% ที่ กันยายน 15, 2013, 03:32:21
ขอบคุณใน คำเตือน

ผมมองถึงเจตนา จขกท นะครับ

พี่ จขกท พิมพ์มานี่ ไม่ได้กล่าวหาใคร นั่งเสียเวลา พิมพ์ร่ายซะยาว เพื่อสังคมดีๆ


อ่านบาง คห แล้วเห็นใจ คนแชร์ ให้ฟังนะ

หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: pee1818 ที่ กันยายน 15, 2013, 03:46:12
ขอแชร์ความเห็นนิดหน่อยนะครับ

รู้สึกเห็นใจเจ้าของกระทู้จริง ๆ ครับ คิดว่าน่าจะเป็นเพราะมีประสบการณ์โดนอะไรมาไม่ดีเลยอยากจะเล่าให้สมาชิกฟัง ให้ระวังตัวกันไว้กรณีเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งก็ไม่น่าจะมีอะไรมากมายเลยนะครับ ใจความก็มีแค่ "เวลาจะซื้อใบจองเพื่อลัดคิวจากคนอื่น ให้ตรวจสอบเอกสารให้แน่ใจหรือเป็นไปได้ก็หลีกเลี่ยงซะ" ก็แค่นั้น ไม่เห็นมีอะไรซับซ้อน

แต่กลับกลายเป็นว่าหลาย ๆ ท่านบอกให้เอ่ยชื่อยี่ห้อรถ ชื่อศูนย์ (เพื่ออะไรก็ไม่ทราบ!?) หลังจากนั้นถ้า จขกท. เอ่ยชื่อมาก็ต้องมีถามตามอีกว่า ไหนล่ะเอกสาร!? ไหนล่ะหลักฐาน!? จขกท. พูดมาลอย ๆ มั่วเปล่าเนี่ย (อุตส่าห์มาเตือนกลับโดนด่า โดนดูถูก!?) แล้วถ้าไม่มีเอกสารก็จะโดนอีกว่าวันหลังไม่มีหลักฐานอย่ามาพูดลอย ๆ มั่ว ๆ ซึ่งถ้าผมเป็น จขกท. โดนแบบนี้วันหลังผมจะอยากมาแชร์หรือเตือนอะไรกับเว็บนี้อีกหรือ!?

ขอแชร์เพียงเท่านี้ล่ะครับ

ถ้าผมสื่ออะไรผิดผมขอโทษด้วยนะครับ ผมเข้าใจความหวังดีของ จขกท.ครับ แต่เหตุผลที่ส่วนตัวอยากให้บอกว่าศูนย์ไหนเพราะขนาดทำร้ายร่างกายลูกค้า
คงจะไม่แค่กรณีซื้อขายใบจองครับ อาจจะมีเรื่องอื่นๆ อีกที่เกิดขึ้นกับศูนย์นี้ จึงอยากให้เตือนเพื่อนที่มีความจำเป็นต้องใช้บริการหรืออยู่ใกล้บ้านต้องเข้าเช็คระยะ
หรือจะออกรถกับศูนย์นี้ต้องรอบคอบเป็นพิเศษครับ เพราะผมคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าทำไมเป็นถึงผู้จัดการแล้วยังทำเรื่องแบบนี้ได้ในที่ทำงานของตัวเองด้วย
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: decptt ที่ กันยายน 15, 2013, 06:13:49
ขอบคุณครับ สำหรับประสบการณ์แบบนี้ จะได้ให้ช่วยกันระวังไม่ตกเป็นเหยื่อได้ครับ
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กันยายน 15, 2013, 07:43:38
บอกศูนย์มาเลยได้ไหม

ผมอยากให้ร้องเรียนเรื่องนี้ไปทาง ผู้ผลิตรถยนต์ครับ ผ่านทาง Call Center ครับ
รวมถึงเอาเรื่องผู้จัดการให้ถึงที่สุด
แจ้งไปทาง เจ้าของ ศูนย์เลยก็ได้นะครับ
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กันยายน 15, 2013, 07:47:00
ที่น่าสนใจคือคุยกันแบบไหนถึงขนาดผู้จัดการต้อง "ผลัก" กันแบบนี้ครับ เพราะโดยปกติไม่น่าจะใช่เรื่องปกติที่พึงกระทำ

ก็คุยประมาณที่เล่านั่นแหล่ะครับ ผมเว้นรายละเอียดไม่จำเป็นประเภทที่ผู้จัดการเปรยๆ หลังจากที่ผมเรียก จนท มา ว่าคิดว่าจะใหญ่จริงเคลียร์ได้เหรอ ประมาณนั้น เพราะไม่ได้คิดว่ามีประโยชน์อะไร

@ k. Klang  MRS ขอบคุณมากครับ  ;D

ผมอยากไปเตะ ปากผู้จัดการคนนั้นแล้วอะ
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: diow_1991 ที่ กันยายน 15, 2013, 08:45:41
ขอแชร์ความเห็นนิดหน่อยนะครับ

รู้สึกเห็นใจเจ้าของกระทู้จริง ๆ ครับ คิดว่าน่าจะเป็นเพราะมีประสบการณ์โดนอะไรมาไม่ดีเลยอยากจะเล่าให้สมาชิกฟัง ให้ระวังตัวกันไว้กรณีเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งก็ไม่น่าจะมีอะไรมากมายเลยนะครับ ใจความก็มีแค่ "เวลาจะซื้อใบจองเพื่อลัดคิวจากคนอื่น ให้ตรวจสอบเอกสารให้แน่ใจหรือเป็นไปได้ก็หลีกเลี่ยงซะ" ก็แค่นั้น ไม่เห็นมีอะไรซับซ้อน

แต่กลับกลายเป็นว่าหลาย ๆ ท่านบอกให้เอ่ยชื่อยี่ห้อรถ ชื่อศูนย์ (เพื่ออะไรก็ไม่ทราบ!?) หลังจากนั้นถ้า จขกท. เอ่ยชื่อมาก็ต้องมีถามตามอีกว่า ไหนล่ะเอกสาร!? ไหนล่ะหลักฐาน!? จขกท. พูดมาลอย ๆ มั่วเปล่าเนี่ย (อุตส่าห์มาเตือนกลับโดนด่า โดนดูถูก!?) แล้วถ้าไม่มีเอกสารก็จะโดนอีกว่าวันหลังไม่มีหลักฐานอย่ามาพูดลอย ๆ มั่ว ๆ ซึ่งถ้าผมเป็น จขกท. โดนแบบนี้วันหลังผมจะอยากมาแชร์หรือเตือนอะไรกับเว็บนี้อีกหรือ!?

ขอแชร์เพียงเท่านี้ล่ะครับ
+1 เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ


+1 เห็นด้วยเช่นกัน หากมั่วแต่คิดว่าเรื่องจริงไม่จริง จนไม่มีสมาชิกกล้าที่จะนำเรื่องอื่นๆมาแชร์กัน คนที่ตกเป็นเหยื่ออาจจะเป็นเราก็ได้
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กันยายน 15, 2013, 09:06:48
ขอแชร์ความเห็นนิดหน่อยนะครับ

รู้สึกเห็นใจเจ้าของกระทู้จริง ๆ ครับ คิดว่าน่าจะเป็นเพราะมีประสบการณ์โดนอะไรมาไม่ดีเลยอยากจะเล่าให้สมาชิกฟัง ให้ระวังตัวกันไว้กรณีเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งก็ไม่น่าจะมีอะไรมากมายเลยนะครับ ใจความก็มีแค่ "เวลาจะซื้อใบจองเพื่อลัดคิวจากคนอื่น ให้ตรวจสอบเอกสารให้แน่ใจหรือเป็นไปได้ก็หลีกเลี่ยงซะ" ก็แค่นั้น ไม่เห็นมีอะไรซับซ้อน

แต่กลับกลายเป็นว่าหลาย ๆ ท่านบอกให้เอ่ยชื่อยี่ห้อรถ ชื่อศูนย์ (เพื่ออะไรก็ไม่ทราบ!?) หลังจากนั้นถ้า จขกท. เอ่ยชื่อมาก็ต้องมีถามตามอีกว่า ไหนล่ะเอกสาร!? ไหนล่ะหลักฐาน!? จขกท. พูดมาลอย ๆ มั่วเปล่าเนี่ย (อุตส่าห์มาเตือนกลับโดนด่า โดนดูถูก!?) แล้วถ้าไม่มีเอกสารก็จะโดนอีกว่าวันหลังไม่มีหลักฐานอย่ามาพูดลอย ๆ มั่ว ๆ ซึ่งถ้าผมเป็น จขกท. โดนแบบนี้วันหลังผมจะอยากมาแชร์หรือเตือนอะไรกับเว็บนี้อีกหรือ!?

ขอแชร์เพียงเท่านี้ล่ะครับ

คิดลบไปหรือเปล่าครับ

ที่เค้าบอก ให้บอกชื่อศูนย์เพื่อที่จะได้ระวังตัว
ไม่ใช่ ว่าเค้าไม่เชื่อครับ
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: secrecyguy ที่ กันยายน 15, 2013, 09:24:33
ศูนย์รถที่ไม่ใช่ยี่ห้อหลัก ผจ เซลล์มันหาช่องโกงตลอดครับ ยิ่งเป็นรถที่ต้องรอนาน ไว้อาลัย
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: NS ที่ กันยายน 15, 2013, 09:30:40
   เรื่องเคสนี้เราจะทำอะไรได้อีกบ้างครับ ถือเป็นการลงโทษทางวินัยที่ทำไม่ถูกต้อง (อันนี้ผมคิดเองนะ ว่าถึงแม้พนักงานที่ทำเรื่องให้จะออกไปแล้ว แต่ตอนทำเรื่อง ทำเอกสาร ก็ถือว่าเป็นพนักงาน เป็นตัวแทนของบริษัท การโทรไปเพื่อเคลียร์เรื่องไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่งั้นคนที่ทำผิด พอลาออกจากตำแหน่ง เหมือนนักการเมาบ้านเรา พอทำผิด ให้ออก เรื่องจบ ไม่มีการรับผิดชอบ ไม่ลงโทษหรือลงโทษแบบตัวหนังสือ แบบนี้มันมักง่าย)
   ความจริงก็คือความจริง จะบอกหรือไม่บอกว่าเป็นใคร ที่ไหน ทำอะไรไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือเขาได้รับโทษยังไง เหมาะสมไหม แล้วเคสนี้ทำอะไรต่อครับ หรือให้เงียบไปดี (โมโหแทน จขกท)
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mick ที่ กันยายน 15, 2013, 10:16:30
อยากรู้ยี่ห้อ ศูนย์ไหนด้วยครับ เอาให้มันเจ๊งไปเลย โดนไล่ออกไปเลย

หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Iamautomagwheel ที่ กันยายน 15, 2013, 10:30:43
ขอบคุณสำหรับประสบการ์ณที่เอามาแบ่งปันกันครับ
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mooo ที่ กันยายน 15, 2013, 10:35:23
เดี๋ยวนี้สังคมทุกๆด้านเสื่อมลง คนเห็นแก่ตัว ผลประโยชน์มาก่อน

สงสัยอีกหน่อยเวลาออกจากบ้านต้องมีกล้องแนบกับตัวเหมือนสายลับ บันทึกเหตุการณ์

ประจำวันว่าเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง  เพื่อจะได้เป็นหลักฐานไว้ร้องเรียนสิ่งที่ไม่ถูกต้อง  :D
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: EvilArt ที่ กันยายน 15, 2013, 10:39:23
ได้ลงประจำวันไว้ไหมครับ
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: EvilArt ที่ กันยายน 15, 2013, 10:52:18
ถ้าจะให้ดีไปสถานีตำรวจลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานตามตัวเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเหตุการณ์มาเซ็นต์ในประจำวันฐานะพยานด้วยครับ

ลงประจำวันให้ลงให้ละเอียดระบุชื่อบุคคลสำคัญในเหตุการณ์ให้เรียบร้อย ;) ;)
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nikle_pk ที่ กันยายน 15, 2013, 11:14:48
สรุปจขกท.ไม่บอก

ก็เปล่าประโยชน์ครับ ได้แค่รู้และตระหนักไว้แก่ตัวเอง
ว่ามีเคสแบบนี้เกิดขึ้น ต้องระวังกันเอาเอง

ผมก็ยังยืนยันอยากให้บอกนะ เพราะไม่เห็นจะมีข้อเสียเลย
ยิ่งรู้ยิ่งดี จะได้ระวังถูกจุด ว่าศูนย์ไหน รถยี่ห้ออะไร
ผจก.คนที่มาผลักอกลูกค้า ก็จะได้รับการจัดการ รับการลงโทษ
ที่เหมาะสมมากกว่าการกล่าวคำว่าขอโทษ

เป็นถึงระดับนี้ ผลักอกลูกค้า เอาลูกน้องมาเตรียมรุม
แค่คำว่า ขอโทษ แล้วจบ มันน้อยไปครับ คนที่แค้นสุด
น่าจะเป็นจขกท.ครับ ที่ถูกกล่าวหา ถูกทำร้ายร่างกาย
ถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรี กะเงินแค่ 5,000 เป็นผมยิ่งถ้ารู้จัก
กับผู้ใหญ่หลายๆคน ไม่จบแค่นี้แน่
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: tjsajja ที่ กันยายน 15, 2013, 11:18:48
เจ้าของกระทู้เขียนด้วยความสุภาพและเนื้อหาน่าเชื่อถือครับ

เพราะปกติแล้ว ไม่เกิดเหตุแบบนี้ คงไม่ได้จะมาใส่ความอะไรกันง่ายๆ หรอก

แต่หลายคนก็คงอยากรู้ชื่อศูนย์ และผู้จัดการเช่นเดียวกับผมเหมือนกัน จะได้ออกห่างจากบุคคลพรรค์นี้

หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: KLANG MR-S ที่ กันยายน 15, 2013, 11:41:54
ผมถึงหนักใจแทนเจ้าของกระทู้จริง ๆ ไงครับ เพราะผมเคยโดนมาเองกับตัวเรื่องนี้ในเรื่องที่ผมเตือนเพื่อน ๆ Mr-s เกี่ยวกับความโกงของอู่ ๆ นึงซึ่งตอนแรก ผมไม่กะจะบอกชื่ออู่นั้น แค่เตือนให้ระวังด้วยความหวังดีจากคนที่ใช้ Mr-s ด้วยกัน ปรากฏว่ามาแนวนี้เลยครับ เฮโลกันถามใหญ่ว่าอู่ไหน บอก(แกมบังคับ)ให้เปิดโปงชื่ออู่จนถึงขนาดผู้ดูแลบอร์ดแก้ข้อความของผมใส่ชื่ออู่ลงไปด้วย สุดท้ายกลายเป็นเรื่องขึ้นมา

ผมโดนหมายเรียกจากตำรวจให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา ต้องเสียเวลาไกล่เกลี่ยอยู่พักใหญ่กว่าเรื่องจะจบลง ถามว่ามีใครมาสนใจในสิ่งที่ผมโดนมั๊ย พวกที่เชียร์มีใครไปเสียเวลาเสียเงินเสียทองให้ผมมั๊ย ไม่มีเลยซักคนเดียว

ถ้าใครอยากรู้ อยากลงโทษผู้จัดการอู่อย่างเป็นจริงเป็นจัง เสนอตัวออกมาสิครับว่าอาสาไปโรงพัก อาสาหาข้อมูลเอกสารร่วมกับเจ้าของกระทู้รวมถึงร่วมรับผิดชอบด้วยหาเกิดเรื่องการฟ้องร้องเรื่องต่าง ๆ นานาด้วย ถ้าเจ็บแค้นแทนกรุณาอย่าเอาแต่พูดเลยครับ แสดงความรับผิดชอบด้วยการกระทำด้วย

ส่วนผมยอมรับว่าเข็ดไปจนตายครับ เรื่องแบบนี้ใครไม่เจอไม่รู้หรอก เดี๋ยวนี้เลยกลายเป็นแอนตี้พวกเฮโลให้เปิดเผยโดยไม่คิดถึงผลกระทบและไม่คิดจะรับผิดชอบอะไรไปเลย
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: EvilArt ที่ กันยายน 15, 2013, 12:03:43
ผมถึงหนักใจแทนเจ้าของกระทู้จริง ๆ ไงครับ เพราะผมเคยโดนมาเองกับตัวเรื่องนี้ในเรื่องที่ผมเตือนเพื่อน ๆ Mr-s เกี่ยวกับความโกงของอู่ ๆ นึงซึ่งตอนแรก ผมไม่กะจะบอกชื่ออู่นั้น แค่เตือนให้ระวังด้วยความหวังดีจากคนที่ใช้ Mr-s ด้วยกัน ปรากฏว่ามาแนวนี้เลยครับ เฮโลกันถามใหญ่ว่าอู่ไหน บอก(แกมบังคับ)ให้เปิดโปงชื่ออู่จนถึงขนาดผู้ดูแลบอร์ดแก้ข้อความของผมใส่ชื่ออู่ลงไปด้วย สุดท้ายกลายเป็นเรื่องขึ้นมา

ผมโดนหมายเรียกจากตำรวจให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา ต้องเสียเวลาไกล่เกลี่ยอยู่พักใหญ่กว่าเรื่องจะจบลง ถามว่ามีใครมาสนใจในสิ่งที่ผมโดนมั๊ย พวกที่เชียร์มีใครไปเสียเวลาเสียเงินเสียทองให้ผมมั๊ย ไม่มีเลยซักคนเดียว

ถ้าใครอยากรู้ อยากลงโทษผู้จัดการอู่อย่างเป็นจริงเป็นจัง เสนอตัวออกมาสิครับว่าอาสาไปโรงพัก อาสาหาข้อมูลเอกสารร่วมกับเจ้าของกระทู้รวมถึงร่วมรับผิดชอบด้วยหาเกิดเรื่องการฟ้องร้องเรื่องต่าง ๆ นานาด้วย ถ้าเจ็บแค้นแทนกรุณาอย่าเอาแต่พูดเลยครับ แสดงความรับผิดชอบด้วยการกระทำด้วย

ส่วนผมยอมรับว่าเข็ดไปจนตายครับ เรื่องแบบนี้ใครไม่เจอไม่รู้หรอก เดี๋ยวนี้เลยกลายเป็นแอนตี้พวกเฮโลให้เปิดเผยโดยไม่คิดถึงผลกระทบและไม่คิดจะรับผิดชอบอะไรไปเลย
ข้อแรกการที่ผู้ดูแลบอร์ดแก้ไขข้อความที่คุณโพสโดยคุณเป็นผู้เสียหายคุณก็ฟ้องผู้ดูแลบอร์ดสิครับ

เจ้าหน้าที่จะเอาหลักฐานโดยทำหนังสือถึงผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตขอข้อมูลจราจรบนอินเตอร์เน็ตซึ่งมีกฎหมายให้เก็บข้อมูลไว้ถึงสามเดือน

ข้อสอง  ถ้าหลักฐานแน่น ข้อมูลแน่น 

 ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 326   ระบุถึงการกระทำความผิด
ฐานหมิ่นประมาทไว้ว่า    “ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามโดยประการ
ที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้น  เสียชื่อเสียงถูก  ดูหมิ่น   หรือถูกเกลียดชัง
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี
หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

ใส่ความคือเรื่องไม่จริงครับ

เขากล่าวหาคุณข้อหาอะไรครับ
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ae_iou ที่ กันยายน 15, 2013, 12:24:19
คุณรู้จัก สำนวน" ยิ่งจริงยิ่งเจ็บ" มั้ยครับ



แค่เหตุการณ์ ที่ จขกท ลงมันเกิดได้ทุกศูนย์ ทุกยี่ห้อ เพราะฉะนั้น ไม่มีเหตุผลที่จะมาบอกยี่ห้อ ให้พวกนี้มาฟ้องเลย
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: KLANG MR-S ที่ กันยายน 15, 2013, 12:32:44

ข้อแรกการที่ผู้ดูแลบอร์ดแก้ไขข้อความที่คุณโพสโดยคุณเป็นผู้เสียหายคุณก็ฟ้องผู้ดูแลบอร์ดสิครับ

เจ้าหน้าที่จะเอาหลักฐานโดยทำหนังสือถึงผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตขอข้อมูลจราจรบนอินเตอร์เน็ตซึ่งมีกฎหมายให้เก็บข้อมูลไว้ถึงสามเดือน

ข้อสอง  ถ้าหลักฐานแน่น ข้อมูลแน่น 

 ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 326   ระบุถึงการกระทำความผิด
ฐานหมิ่นประมาทไว้ว่า    “ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามโดยประการ
ที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้น  เสียชื่อเสียงถูก  ดูหมิ่น   หรือถูกเกลียดชัง
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี
หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

ใส่ความคือเรื่องไม่จริงครับ

เขากล่าวหาคุณข้อหาอะไรครับ

ข้อแรก ผู้ดูแลบอร์ดซึ่งก็คือ Siamspeed ห้อง Mr-s เป็นเพื่อนผมครับ ซึ่งหลังจากจบคดีก็มีการปรับความเข้าใจกันแล้วครับ ผมไม่คิดจะไปฟ้องเค้าหรอกครับ เพราะเค้าก็ทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการเหมือนกัน (ไม่เข้าใจเอะอะอะไรก็ให้ฟ้องกัน การฟ้องในเรื่องจริง ๆ ผมว่าไม่ได้ง่ายแบบที่พิมพ์ ๆ กันนะครับ แล้วฟ้องไปแล้วส่วนใหญ่จะได้ไม่คุ้มเสียด้วยซ้ำ เสียเวลา เสียเงิน เสียความรู้สึก)

ส่วนข้อหาที่ผมโดนก็คือหมิ่นประมาทครับ แน่นอนเรื่องที่ผมพูดเป็นเรื่องจริงมีหลักฐานที่หากเอาเข้าจริงก็ต้องไปพิสูจน์กันที่ศาล แต่ไอ้ที่ผมโดนมันไม่เกี่ยวกับจริงไม่จริง แต่มันทำให้เค้าเสื่อมเสีย คดีแบบนี้มันเทียบเคียงได้กับคดีที่ว่าเราไปแฉว่าดาราคนนึงเป็นเมียน้อย ซึ่งข้อเท็จจริงคือดาราคนนั้นเป็นเมียน้อยจริง ๆ มีพยานหลักฐาน แต่เราก็ผิดที่เราไปแฉทำให้เค้าเสื่อมเสียนั่นล่ะครับ

ดังนั้นไหน ๆ ก็ไหน ๆ ผมขอเตือนผู้ที่หวังดีต่อสังคม ยังไงก็ระวังเรื่องพวกนี้ไว้บ้างก็ดีนะครับ ในแง่ตัวบทกฏหมาย บางครั้งสิ่งที่เราคิดว่าถูกต้อง เวลาตีความแล้วกลายเป็นว่าเราผิดมหันตก็มีนะครับ
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: EvilArt ที่ กันยายน 15, 2013, 12:47:28
ผมรู้สึกว่าจะมีข้อกฎหมายเว้นไว้ให้ว่า "เพื่อประโยชน์แห่งสาธารณะ" จะไม่มีความผิดนะครับ 

ตอนนี้พอดีผมไม่มีประมวลติดตัวด้วย  เน็ตก็ช้า  เลยหาข้อมูลอ้างอิงไม่ได้  ขอโทษด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ae_iou ที่ กันยายน 15, 2013, 13:02:36
ผมรู้สึกว่าจะมีข้อกฎหมายเว้นไว้ให้ว่า "เพื่อประโยชน์แห่งสาธารณะ" จะไม่มีความผิดนะครับ 

ตอนนี้พอดีผมไม่มีประมวลติดตัวด้วย  เน็ตก็ช้า  เลยหาข้อมูลอ้างอิงไม่ได้  ขอโทษด้วยครับ

ม330 ถึงพิสูจน์ได้ว่าสื่งที่พูดเป็นความจริง ก็แค่ "ไม่ต้องรับโทษ" ไม่ใช่ "ไม่มีความผิด"
 แต่โดน จำกัดด้วยข้อ กฏหมาย ในวรรคสอง
ม329 ถึงจะ"ไม่มีความผิด"
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: oak7070 ที่ กันยายน 15, 2013, 13:18:08
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆนะครับ  คุณไปแจ้งความใว้ก่อนครับถ้าคุณมีสัญญาซื้อขายกับคนเดิมแล้วละก็  เล่นใด้เลยครับกลัวต่ว่าจะเป็นเรื่องไม่จริงมากกว่างานนี้แจ้งอาญาใด้เลยแถมร้องเรียนไปทางศูนย์ใหญ่กับร้องไปทางคุ้มครองผู้บริโภคด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nikle_pk ที่ กันยายน 15, 2013, 13:25:42
สุดยอดความรู้เลยครับ
ได้ความรู้ในเรื่องกฏหมายเพิ่มเติมด้วย
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ongszaa ที่ กันยายน 15, 2013, 13:45:34
ผมแนะนำนะคับ
ถ้าจะบอกไม่ต้องบอกเต็ม
ยี่ห้อ T M S N     H(อันนี้ไม่น่าจะรอ 555)
ส่วนชื่อหลังศูนย์ก็ แถวๆ... หรือเขต...

อันนี้เอาผิดเราไม่ได้ เพราะไม่ใช่ข้อความสมบูรณ์ จะสื่อถึงอะไรก็ได้
T อาจจะย่อมากจาก ทาทา  M อาจจะย่อมาจากมิสูโอกะ  S อาจจะย่อมากจาก Skoda  H อาจจะย่ออมาจาก Hyundai

ซึ่งทุกๆท่านก็คงรู้กันเองว่าคือยี่ห้ออะไร เพราะ Eco car มันมีแค่ไหน
เว็บเรารู้อยู่แล้วใช่มั้ยครับ

หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gundam126 ที่ กันยายน 15, 2013, 13:59:43
เจ้าของกระทู้คงแค่อยากเตือนกันนั่นแหละครับว่าเรื่องเอกสารมันเป็นปัญหาได้ และคงให้อภัยศูนย์แห่งนี้แล้ว จึงไม่อยากให้เกิดเรื่องราวต่อไป  แต่ก็อาจมีคนที่อยากให้เปิดเผยเพราะในฐานะคนซื้อรถ คงไม่อยากไปซื้อกับศูนย์บริการที่ขายและดูแลผู้ซื้อแบบนี้ อาจมองได้หลายมุมมอง เหมือนผมเจอศูนย์ยี่ห้อF...สาขาลำลูกกา ที่มาเปิดบู๊ทที่ไอที สแควร์(เจอนานแล้ว) ผมไปดูรถแต่เซลล์กลับดูถูกว่าผมไม่มีเงินแบบนั้นแบบนี้(คุยกันเองแต่คุยเสียงดังให้ผมได้ยิน) ถามรายละเอียดก็ไม่ตอบ ทำเมินใส่ ขอโบรชัวร์ก็ไม่ให้บอกว่าหมด แต่พอมีลุงคนหนึ่งมากลับดูแลดีและให้โบรชัวร์ทันที ผมก็โมโห โทรทำเรื่องแจ้งไปทางF...สาขานี้ แต่ผู้รับเรื่องกลับช่วยเหลือพนักงานด้วยกันเอง พูดแก้ตัวแทนกัน บอกว่าปกติเซลล์คนนี้ไม่ใช่คนแบบนี้ ผมไปทำอะไรให้เซลล์คนนี้โมโหหรือเปล่า ผมเจ็บและมีอคติทันทีกับศูนย์F...นี้เลย สุดท้ายพอไปเจอบู๊ทM...ที่เปิดบู๊ทติดกัน คุยกันถูกคอกับเซลล์ เซลล์ดูแลดีมาก ให้ส่วนลดกับของแถมok ก็ทำเรื่องจองตามปกติ(แต่ผมก็แอบจิกกัดแบบว่าคุยเสียงดังกับเซลล์M...ให้เซลล์F...ได้ยินบ้าง ผมถามว่าผมแต่งตัวสกปรกๆ เสื้อกล้าม รองเท้าแตะหนีบ ถือมือถือnokiaรุ่นเก่า ทำไมยังบริการดีไม่มีรังเกียจผมเลย ไม่ดูถูกผมเหมือนเซลล์F... เซลล์คนนี้ตอบมาว่า เพราะผมทำอาชีพเซลล์ขายรถ ผมไม่รู้หรอกว่าใครจะซื้อหรือไม่ซื้อ แต่ผมทำอาชีพนี้ อาชีพเซลล์เป็นอาชีพที่ต้องบริการลูกค้า ผมบริการลูกค้าดี ลูกค้าก็จะดีตอบและการขายมันก็ง่ายขึ้น)นี่สิสุดยอดเซลล์ที่ผมเจอ
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Niti ที่ กันยายน 15, 2013, 15:34:42
สิ่งที่อยากหลึกเลี่ยงคือสถานการณ์อย่างที่คุณ Klang ยกมาครับ ก่อนหน้าที่จะโพสต์ผมเองก็ตรองแล้วเช่นกันว่าจะใช้พวกชื่อย่อดีไหม พอดีบริเวณแถวๆ นั้นมันมีที่นี่ที่เดียวครับ ถ้าบอกชื่อย่อ+บริเวณก็คงไปถึงตัวแน่ๆ

เอาเป็นว่าอยากให้เพื่อนสมาชิกทุกท่านใช้ความระมัดระวังในการทำเอกสารซื้อรถครับ จะให้ดีทำทุกอย่างตรงไปตรงมา ใส่รายละเอียดให้ครบในเอกสาร จะได้ไม่เจอพวกนิสัยไม่ดีอย่างที่ผมเจอ

สำหรับท่านที่ไม่เชื่อ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ จะคิดว่าเป็นเรื่องแต่งขึ้นก็ได้ แค่เอาข้างบนไปใช้เวลาที่ท่านซื้อรถก็แล้วกันครับ  ;D
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: keamglad ที่ กันยายน 15, 2013, 16:47:12
ประเด็นนึงคือ เรื่องความระวังในเรื่องเอกสารจองรถครับ

เพียงแต่อีกประเด็นที่หลายคนในนี้สนใจคือ คงไม่มีใครอยากไปอุดหนุน ผู้จัดการศูนย์ที่มีพฤติกรรมผผลักอกลูกค้าแบบนั้น
เพราะยิ่งเราไปอุดหนุนเค้า เค้าก็ยิ่งคิดว่าจะทำยังไงกับลูกค้าก็ได้ ไม่มีผลกระทบกับตัวเอง เดี๋ยวก็มีเหยื่อรายใหม่มาให้เอาเปรียบ มาให้ผลักอกใหม่


ปล ยังไงก็ต้องเคารพความเห็นของ จขกท ครับ ว่าจะบอกแค่ไหนยังไง เพราะเราในแง่มุมคนฟังก็อยากปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองไม่อยากไปอุดหนุนศูนย์แบบนั้น
ส่วน จขกท ก็ต้องปกป้องผลประโยชน์ตัวเอง เพราะอาจมีข้อตกลงกับศูนย์ไว้ หรือไม่อยากมีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลได้ครับ
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Niti ที่ กันยายน 15, 2013, 17:11:08
ประเด็นนึงคือ เรื่องความระวังในเรื่องเอกสารจองรถครับ

เพียงแต่อีกประเด็นที่หลายคนในนี้สนใจคือ คงไม่มีใครอยากไปอุดหนุน ผู้จัดการศูนย์ที่มีพฤติกรรมผผลักอกลูกค้าแบบนั้น
เพราะยิ่งเราไปอุดหนุนเค้า เค้าก็ยิ่งคิดว่าจะทำยังไงกับลูกค้าก็ได้ ไม่มีผลกระทบกับตัวเอง เดี๋ยวก็มีเหยื่อรายใหม่มาให้เอาเปรียบ มาให้ผลักอกใหม่


ปล ยังไงก็ต้องเคารพความเห็นของ จขกท ครับ ว่าจะบอกแค่ไหนยังไง เพราะเราในแง่มุมคนฟังก็อยากปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองไม่อยากไปอุดหนุนศูนย์แบบนั้น
ส่วน จขกท ก็ต้องปกป้องผลประโยชน์ตัวเอง เพราะอาจมีข้อตกลงกับศูนย์ไว้ หรือไม่อยากมีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลได้ครับ

ข้อตกลงไม่มีแน่ครับ ไม่อยากจะมองหน้าอยู่แล้ว และไม่คิดจะกลับไปใช้บริการด้วยซ้ำ รถแฟนครับ เดี๋ยวโดนวางยามาไม่คุ้ม  >:(

ไม่อยากเสียเวลาด้วย ส่วนนึงเพราะให้คนไปสืบมาเค๊าว่าผู้จัดการนี้เป็นเจ้าของศูนย์เอง (จริงหรือไม่ไม่ทราบนะครับ) จึงไม่คิดว่าจะไปเปลี่ยนอะไรเค๊าได้  :( :(
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kimhalua ที่ กันยายน 15, 2013, 21:20:42
รู้ไว้ใช่ว่าครับ ขอบคุณเจ้าของกระทู้ครับที่มาแชร์เรื่องราวให้ฟัง
 ส่วนคนที่พยายามอยากรู้ว่ายี้ห้อไหน เค้าก้คงอยากเก็บเรื่องไว้เล่นงานยี้ห้อรถนั้น
 หรือมีเหตุผลอื่น ๆ ที่ผมคิดว่า เหตุผลคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่

ปล. แต่ถ้า รอรอนานถึงกับต้องซื้อใบจอง ผมว่าถ้าจะให้ผมเดาผมคงเดาไม่ผิดหรอก  :D ;)
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: golf8023 ที่ กันยายน 15, 2013, 22:27:10
ไม่บอกยี่ห้อน่ะดีแล้วครับ
ชืนบอกยี่ห้อ ต่อให้เป็นอักษรย่อ เวบที่เป็นสื่อกลางจะพลอยซวยไปด้วยนะครับ พี่ิจิมมี่ก็เตือนเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ
แล้วคิดว่าปัญหาน่าจะเคลียร์จบไปแล้ว จขกท.เองก็ค่อนข้างสุภาพมากๆ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวครับ
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: LimitedEdition ที่ กันยายน 16, 2013, 08:43:31
ผมเป็นคนล็อคกระทู้นี้เอง กระทู้ไม่ได้ผิดกฎอะไรครับ แต่ผมเห็นว่าความคิดเห็นที่หลายท่านแสดงออกมาในกระทู้
สุดท้ายแล้วอาจจะทำให้มานั่งทะเลาะกันเองได้ ตัวผมเองเมื่อวานไม่ได้นั่งหน้าคอม จึงไม่สะดวกที่จะเข้ามาชี้แจงในทันที
เลยขอถือวิสาสะล็อคไว้ก่อน แล้วผมจะได้อธิบายให้เข้าใจกันทุกฝ่าย หวังว่าจะเข้าใจครับ

============================

ในมุมของคุณ Niti เจ้าของกระทู้ ขอบคุณครับที่นำมาแจ้งกันให้ระแวดระวัง
ผมเข้าใจในเจตนาที่ดี และผมไม่ได้มีข้อสงสัยว่าเป็นเรื่องกุมาหลอกลวง
เพราะถ้าจะหลอกลวงหรือใส่ร้ายก็น่าจะใส่ชื่อบริษัทรถมา ไม่งั้นจะมาตั้งเพื่อให้ได้อะไร

ส่วนในทางท่านอื่นอื่นเอง ก็คงอยากจะให้บอกชื่อศูนย์บริการ ยี่ห้อ เพื่อจะได้ระวังหรือเลือกไม่ใช้บริการ
เพราะมิฉะนั้นแล้ว ก็อาจจะป้องกันได้ยาก อย่างที่คุณ​ Niti เล่ามาเอง ขนาดมีการตกลงกันเรียบร้อย
ทำการทุกอย่างในดีลเลอร์และมีผู้จัดการดีลเลอร์ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ยังเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้
คำถามในใจหลายท่าน ก็น่าจะเป็นว่า แล้วเราจะป้องกันตัวเองได้อย่างไร ซึ่งขอยอมรับว่าผมก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ

กรณีแบบนี้เอง ผมค่อนข้างกังวลกับพฤติกรรมที่ทางดีลเลอร์รายนั้นแสดงออกมา เพราะมันไม่ใช่การโกง
หรือขาดจรรยาบรรณในการประกอบธุรกิจอย่างเดียว แต่ยังพร้อมจะทำร้ายลูกค้าได้ทุกเมื่อ
พฤติกรรมข่มขู่แบบนี้ ผมมองว่าเราน่าจะช่วยกันป้องกัน หรือทำให้คนเหล่านี้ไม่มาประกอบอาชีพแบบนี้หรือเปล่า
เหตุผลเดียวก็คือ จะได้ไม่มาสร้างความเสียหาย หรือทำร้ายผู้อื่นได้อีก มันเป็นคนละเรื่องกับการพยายามโกงเงินทั่วไปครับ

หวังว่าจะเข้าใจ ในที่มาและที่ไป ของทั้งสองฝ่ายนะครับ
ผมไม่เห็นว่านี่เป็นเรื่องที่เราควรจะนำมาทะเลาะกันเลยแม้แต่น้อย เพราะต่างคนก็ต่างมีเจตนาที่ดีทั้งคู่

ส่วนคุณ Klang MR-S ตอนแรกที่ตอบมา ผมก็สงสัยว่าพวกผมไปแก้ข้อความคุณตั้งแต่เมื่อไหร่
แล้วถ้ามีปัญหากล่าวชื่อ/บริษัทรถยนต์ออกมาแล้วถูกฟ้องร้องขู่ทำร้าย ทำไมไม่มาบอกพวกผม
แต่ก็มาปรากฏเอาภายหลังว่าที่คุณพูดถึงมันไม่ใช่เวบแห่งนี้ คราวหน้ากรุณาบอกให้ชัดเจนหน่อยก็ดีครับ
มิฉะนั้น กลายเป็นว่าที่ Headlightmag.com นี่ admin แก้ข้อความ แล้วพอมีคดีความก็ปัดความรับผิดชอบแบบไม่ใยดี

ผมเรียนให้ทราบตรงนี้ว่า ที่นี่ ที่ขอให้แจ้งชื่อและดีลเลอร์ให้ชัดเจน จะได้มีการประสานงานตรวจสอบและช่วยเหลือได้
ตามกำลังที่เราสามารถจะทำได้ และให้ได้รับข้อมูลจากทั้งสองฝ่าย หาทางออกร่วมกันและจบลงได้ดี
(ซึ่งก็จะรับเฉพาะเคสที่มีปัญหาจริงจังและไม่สามารถเคลียร์ได้ ไม่ใช่เดินเข้าไปแล้วพนักงานเหวี่ยงใส่
แล้วก็ต้องมาขอให้พวกผมไปประสานงานมาขอโทษ อะไรแบบนี้ คงไม่ไหวครับ ไม่งั้นคงไม่ต้องทำเว็บกันแล้ว)
และบอกได้เลยว่า ถ้าการแจ้งชื่อ/บริษัทซึ่งเป็นการแจ้งตามข้อเท็จจริงแล้วมีการถูกฟ้องร้อง ก็ขอให้บอกพวกผมครับ
พวกผมไม่ปล่อยคุณลอยแพ และพร้อมจะให้การช่วยเหลือ สนับสนุน อย่างเต็มที่ เผื่อหลายหลายท่านอาจจะยังไม่ทราบ
Headlightmag.com เคยมีกรณีจะถูกฟ้องดำเนินคดีมามากมาย จากหลายองค์กรต่างกรรมต่างวาระ ด้วยความที่เรานำเสนอ
ข้อมูลใหม่เป็นที่แรกแรก ทำให้มีปัญหาอยู่เนืองเนืองมาเสมอ ดังนั้น ไม่ต้องห่วงว่าเราจะกลัวการดำเนินคดีหรือทิ้งสมาชิกเราครับ
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ กันยายน 16, 2013, 16:11:18
จริงๆการซื้อใบจองมันก็ผิดอยู่แล้ว ก็รู้อยู่

แต่โดนผลักอก นี่ ถ่อย สถุน สุดๆ

ผจก. ? เนี่ย
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: KLANG MR-S ที่ กันยายน 16, 2013, 20:01:21
ได้ยินแบบนี้ก็เบาใจระดับนึงครับ เพราะทาง Headlightmag ถึงกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ทอดทิ้งและช่วยกันเต็มที่ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงอย่างน้อยทางเว็บก็ให้ใจกันแบบนี้ผมถือว่าโอเคมาก ๆ แล้วครับ

ส่วนเรื่องที่ผมพูดไม่เคลียร์และทำให้สับสน ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นหรอกครับ แต่พอคุณเนยทักแล้วไปอ่านดูอีกทีก็คิดว่ามันก็อาจแปลความหมายอีกแบบได้เหมือนกัน ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: archian ที่ กันยายน 16, 2013, 20:48:12
เป็นผมนะมี บาทาไร้เงาแน่นอน   ฮาๆๆ
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: yoyomadz ที่ กันยายน 17, 2013, 08:20:09
เคยได้ยินเรื่องลักษณะนี้มาเยอะมาก โดยเฉพาะการจองรถ eco car บางศูนย์เค้าอาจจะไม่ได้สนใจว่า ลูกค้าเป็นใคร ขับรถอะไร มาซื้อ eco car เพื่ออะไร รู้แต่ว่ารถเค้ามันราคาถูกแค่นั้น ผมเคยเห็นบ้านระดับคฤหาสน์แต่มี eco car ที่ผมไม่เคยคิดจะซื้อเลยจอดอยู่สองคัน มาคิดอีกที ผมเองมากกว่าที่ใช้เงินเกินตัวซื้อรถที่ราคาแพงกว่าฐานะ ...

สรุป .. ผมไม่สนว่าเรื่องที่เล่ามาเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เรื่องถูกล้อมถูกผลักอกผมก็ไม่ได้สนใจเพราะผมเองก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ไม่ได้ยินการสนทนากันในศูนย์ รู้แต่เมื่ออ่านจบแล้วได้ใจว่า
## จะซื้อใบจองให้ระวังการเล่นแง่ของศูนย์บริการ หรือถ้าเป็นไปได้เลี่ยงไปเลยได้ก็ยิ่งดี ##
..ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เอามาแชร์ครับ..
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: S6 ที่ กันยายน 17, 2013, 09:19:38
ขอบคุณมากครับ เป็นกระทู้ที่มีประโยชน์มากๆเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Sinplug ที่ กันยายน 17, 2013, 10:05:54
ขอบคุณมากครับที่นำมาแชร์กัน
หัวข้อ: Re: ขอแชร์บทเรียน(ที่ไม่ดี)กับรับรถที่ซื้อใบจองมาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chaiz ที่ กันยายน 17, 2013, 15:41:55
ขอบคุณครับ ข้อคิดนี้เอาไปใช้กับการทำสัญญา ข้อตกลงอื่นๆได้ด้วยครับ
คือต้องให้ชัดเจน มีลายเซนต์ของผู้มีอำนาจตัดสินใจ หรือถ่ายรูป ถ่ายคลิปไว้เลยก็ได้

เชื่อว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ไม่เคยมี แต่มีแล้วเอาผิดอะไรไม่ได้ ต้องยอมๆไป หรือถอนจอง ขาดทุน 5000 อยู่ดี แต่ไม่อุดหนุนศูนย์ที่ไม่จริงใจ

ผมว่าไม่ต้องบอกยี่ห้อหรือศูนย์หรอกครับ ไม่งั้นจะเกิดอคติได้ จะได้ระวังในทุกๆครั้งที่ทำธุรกรรมด้วย