Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: DoNg ที่ กันยายน 17, 2013, 22:21:20
-
ไม่รู้ว่าใครเคยมีความคิดเหมือนกันป่าว
ตามกระทู้... จะซื้อรถ BMW จะซื้อ Benz จะ Volvo
แล้วก็บอกว่า เอานี่ นู่น นั่นดีกว่า "ขายต่อราคาไม่ตก"
คือ บางคนมีเงิน เรื่องของมันเหอะ จะเอาอะไรก็ได้
แต่บางคนก็ไม่ใช่ว่าจะมีเยอะ คือถ้ามันมีเงินเยอะ
คงไม่ตั้งกระทู้ถามไปมาหรอก มันกำเงินไปซื้อแล้ว
เลยมีความคิดว่า ถ้าใช้รถระยะแค่นี้ ระแวงเรื่องขายต่อ
จะซื้อรถแพงไปทำเพื่อออออออออ
รสนิยมเหรอ? ความอยากเหรอ?
ถ้าการใช้เงินกับเรื่องขายต่อเป็นประเด็นหลัก
ทำไมไม่เลือกรถที่ราคาพอสมควร ใช้งานได้ดี
ขายต่อราคาตกไม่มาก ไม่ต้องยุโรปจ๋าก็ได้
ขับถึงที่หมายเหมือนกัน
ยังไงขับห้าปีก็ขายต่อซื้อใหม่อยู่ละ
เคยมีความคิดแว๊บๆ แบบนี้มั่งป่าวครับ
-
ความคิดเห็นของ จขกท.ถูกต้องครับถ้าใช้หลักเศรษฐศาสตร์มาจับประเด็น แต่ในเวปนี้เป็นเวปคนเล่นรถที่ต้องการความสุขในการใช้รถครับจุดนี้แหละถึงต้องมีกระทู้ขอความคิดเห็นอยู่เรื่อย ๆ ครับ
ผมว่าเจ้าของกระทู้ก็บ้ารถเหมือนกันละน่าไม่งั้นคงไม่สมัครเป็นสมาชิกหรอกครับ อิ..อิ๊ :)
-
ถ้า จขกท ผมคงบ้าล่ะครับ ฮ๋าๆๆๆ
"ซื้อรถมาซ่อมเพื่อ ซื้อซากรถมาทำเพื่ออะไร ทั้งๆ ที่ทำเสร็จแล้ว ราคามันก็ไม่ต่างกับรถป้ายแดงเลย ทำไมไม่เอาป้ายแดงมาตั้งแต่ต้นล่ะ"
คำตอบคือ "ความสุขทางใจ" ครับ
-
คนคิดแบบนี้เยอะนะครับ โตโยต้าเลยขายดี :)
แต่ทั้งนี้ อยู่ที่ตังในกระเป๋าครับ อย่าซื้อรถให้ตัวเองเดือดร้อนเป็นพอครับ
-
เรื่องนี้ ก็แล้วแต่คนนะ แต่บางคนและส่วนมาก ก็ใช้เกิน 5 ปี ครับ คือผมว่าใครมีเงินซื้อและไม่เดือดร้อนก็ไม่อะไรหรอกครับ แต่บางคนใช้ออกรถเกินเงินตัวเอง ทำให้เป็นหนี้ ชักหน้าไม่ถึงหลัง
ปล.ส่วนมาก สมัยนี้และประเทศไทย รถคือการบอกความรวยอย่างนึงครับ
-
ของที่แพง คือของที่ ราคาสูงกว่าความต้องการที่พร้อมจะจ่าย
ต่างคนต่าง Passion (อากู๋ แปลว่า กิเลส ;D) ในเมื่อยอมรับสิ่งที่จะได้มาก็ต้องยอมรับสิ่งที่จ่ายไปด้วย
หมายเหตุ.ส่วนตัวผมก็คิดแบบ จขกท. นะ
-
เอาง่ายๆครับ...ท่าน จขกท
1.ภาพลักษณ์มั้งครับ
2.เงินไงครับ สำหรับผม5ปีขาย คิดๆง่าย เเคมรี่ตัวที่เเล้วผมขายได้700000 ตัวใหม่1700000 ภายใน5ปีผมสามารภเก็บเงินได้โดยไม่เดือดร้อนเงินส่วนอื่นโดยนำรถคันเก่าไปรวมก็เท่ากับซื้อคันใหม่เเค่ 1ล้าน
3.ข้อนี้สำคัญสุด...กิเลศ..ไงครับ มนุษย์ไม่มีวันพอครับ ^^
-
ไม่รู้ว่าใครเคยมีความคิดเหมือนกันป่าว
ตามกระทู้... จะซื้อรถ BMW จะซื้อ Benz จะ Volvo
แล้วก็บอกว่า เอานี่ นู่น นั่นดีกว่า "ขายต่อราคาไม่ตก"
คือ บางคนมีเงิน เรื่องของมันเหอะ จะเอาอะไรก็ได้
แต่บางคนก็ไม่ใช่ว่าจะมีเยอะ คือถ้ามันมีเงินเยอะ
คงไม่ตั้งกระทู้ถามไปมาหรอก มันกำเงินไปซื้อแล้ว
เลยมีความคิดว่า ถ้าใช้รถระยะแค่นี้ ระแวงเรื่องขายต่อ
จะซื้อรถแพงไปทำเพื่อออออออออ
รสนิยมเหรอ? ความอยากเหรอ?
ถ้าการใช้เงินกับเรื่องขายต่อเป็นประเด็นหลัก
ทำไมไม่เลือกรถที่ราคาพอสมควร ใช้งานได้ดี
ขายต่อราคาตกไม่มาก ไม่ต้องยุโรปจ๋าก็ได้
ขับถึงที่หมายเหมือนกัน
ยังไงขับห้าปีก็ขายต่อซื้อใหม่อยู่ละ
เคยมีความคิดแว๊บๆ แบบนี้มั่งป่าวครับ
ถามนิด ถ้ารวยแล้วแปลว่าต้องไม่สนใจค่าเสื่อมหรอคับ ยิ่งใช้ระยะสั้น ค่าเสื่อมต่อปียิ่งมาก ถึงยิ่งต้องคิด
-
5555 เคยสงสัยเหมือนกันครับ แต่ จขกท ต้องเข้าใจครับว่าสังคมเรามีคนหลายประเภท บางคนมีปัญหานิดหน่อยแต่ก็ทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตก็เยอะ บางคนอยากซื้อรถยี่ห้อนั่นนู่นนี่ แต่ไม่หาข้อมูลก่อนก็มีเยอะ พอซื้อมาแบบไม่มีข้อมูลแล้วมีปัญหา ก็โทษนั่นนู่นนี่ ก็มีเยอะ แค่เราอย่าไปใส่ใจมากปล่อยผ่านไปก็โอเคละครับ ผมซื้อ VW ก็เคยเจอถามเหมือนกัน ไม่กลัวเจอปัญหานั่นนู่นนี่เหรอ ผมบอกเลย ไม่กลัวเพราะหาข้อมูลมาหมดละ ถ้าอันไหนเสียก็เข้าใจว่าเพราะอะไรและไม่ใช่เราที่เสียคนเดียว ปัญหาคือส่วนใหญ่ไม่มีข้อมูลแล้วพูดต่อๆกันไปทำให้ข้อมูลผิดพลาดไปเรื่อยๆ ที่เหลือก็อยู่อกะตัวเราแล้วว่าจะพิจารณาไปในทิศทางใด
-
ผมว่าถ้าจะเอารถหรูเป็นหน้าตา แต่ในทางกลับกันจะต้องใช้งานทุกวัน ทั้งๆ ที่กลัวรถเสื่อม
ผมว่าถนนเมืองไทยโดยเฉพาะ กทม เนี่ย ถ้าใช้ทุกวันเสื่อมเร็วแน่นอนครับ ทางที่ดีถ้าอยากได้หน้าตา และอยากใช้งานทุกวัน
ผมว่าควรจะมีรถสองคันครับ กล่าวคือ รถหลัก กับ รถรอง ครับ
รถหลัก คือ รถที่เราใช้งานเพื่อไปทำงาน ไปธุระเป็นหลัก ไม่ต้องแพง แต่ขอแค่ไว้ใจได้ ขีดข่วนไม่ต้องเสียดายมาก
รถรอง คือ รถที่ใช้ออกงานสังคม หรือ ใช้เพื่อสนองความสนุกของการขับขี่ส่วนตัว ครับ จริงๆ แล้วจะเก็บรักษาไว้นาน ก็ท่าจะดี
-
คนที่มีเงินเหลือ ก็ใช่ว่าจะต้องใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายทุกคนนะครับ ถ้าเขาเงินเยอะ แต่ก็ยังมีตั้งกระทู้ถาม นั่นก็เป็นสิทธิของเขาครับ
เอาเข้าจริงแล้ว พวกที่ซื้อรถใหม่ห่วงราคาขายต่อ ผมก็ไม่เข้าใจจริงๆครับ ว่าจะห่วงไปทำไม คุณซื้อรถใหม่ มูลค่าของมันตั้งแต่คุณขับออกจากโชว์รูมมันก็หายไปเพียบแล้ว (ยกเว้นในบางกรณี ซึ่งอุปสงค์นั้นสูงกว่าอุปทานมาก) คุณซื้อรถใหม่มา ขับเท่ๆ ดมกลิ่นรถใหม่ไป มีความสุข ถ้าเกิดคุณไม่เดือดร้อนกระเป๋าสตางค์ของตัวคุณเอง นั่นมันก็เป็นสิทธิของคุณครับ แต่ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ? กำไร? มันก็ไม่ได้ดีที่สุด แต่จะมีซักกี่คนครับ ซื้อรถเพื่อเก็งกำไร? มีเฉพาะพวกรวยๆรถหรูหายากเทพจริงๆเท่านั้นแหละครับ คนบางคนอาจจะไม่ชื่นชมรถ (คนส่วนมากในสังคมนั่นแหละ ถ้าพวกเขาฉลาดนิดนึง รถยนต์มันก็แค่ภาพลักษณ์ภายนอกครับ ถ้าเกิดคุณไร้ความสามารถ โลกนี้ก็ไม่ให้อภัยคุณเหมือนกัน) หรือการใช้จ่ายเงิน (คนส่วนน้อยในสังคม ผมเป็นหนึ่งในนั้น) ของคุณ แต่นั่นมันก็เงินของคุณครับ คุณจะใช้จ่ายยังไงก็ได้ มันเป็นสิทธิของคุณ
ผมเคยเป็นคนที่มีความคิดขวางโลกครับ แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนไปแล้ว การห้ามจำหน่ายสุราในอเมริกายุค 20-30 นอกจากจำไม่ลดอัตราการดื่มของประชากรแล้ว ยังทำให้อาชญากรหลายๆกลุ่ม ทำกำไรจากมันอีกต่างหาก บางสิ่งบางอย่างในชีวิต เราเปลี่ยนมันไม่ได้ครับ กิเลสของมนุษย์เป็นหนึ่งในนั้น สิ่งที่เราทำได้ ก็คงจะเป็นการนำพาตัวเราเองไม่ให้ไปอยู่ในจุดจุดนั้นเอง
ท้ายนี้ เอาแบบเบาๆนิดนึง ถ้าเกิดไม่มีเจ้าของคนแรกที่ซื้อรถมาใช้แค่แปปเดียว แล้วขายต่อไปให้กับเจ้าของคนที่สอง ที่อาจจะเก็บมันไว้จนราคาตกไม่เหลืออะไรแล้ว ผมจะกลายมาเป็นเจ้าของรถเกือบจะคลาสสิคเกือบจะเจ๋งในยุคที่ไม่มีใครเหลียวแลรถของผมได้ยังไงครับ? ;D
-
ผมมีแนวคิดครับ
ผมจะต้องมีรถสองคัน
คันแรกเป็นรถที่ใช้งานทั่วไป ผมเน้นราคาถูกๆ ซ่อมง่าย ขายต่อดี ขับห่วยก็ช่างมัน แต่ต้องมีถุงลมใบนึงอย่างต่ำจะกระจกหมุนก็ช่างมัน ไม่สน วิทยุไม่มีผมหามือสองตรงรุ่น หรือของใหม่เล่น USB ได้มาใส่แทน เช่น March E ที่ขับอยู่ Yaris J Eco หรือ Brio amaze S ครับ
แต่คันที่สอง ถ้าพอจะมีได้ ต้องมีครับเพราะนอกจากเป็นรถสำรองคันแรกกรณีเสียแล้ว มันต้องตอบโจทก์ได้ เช่น หรูหรา พวก Camry 2.0 หรือ A180 หรือถูกหน่อยก็ Sylphy 1.6 หรือ Camry 2.0E มือสอง มันแพงจริงๆ แต่มันตอบโจทก์ได้ คนเราไม่ใช่ว่าจะขับรถถูกๆไปตลอดชีวิต ต้องมีอะไรให้กับตนเองบ้าง
โดยรวมผมเห็นด้วยกับจขกท แต่ไม่ทั้งหมดครับ ;)
-
โลกใบนี้ยังมีคำว่า "หน้าตาในสังคม" อยู่ครับ
รถยนต์ มีผลไม่มากก็น้อย ต่อ ลักษณะงาน ที่คุณทำ คล้ายๆ เครื่องประดับ อย่าง นาฬิกา
คุณเป็นพนักงานตัวน้อยๆ แต่พ่อรวย เลยซื้อ E class ขับเข้าไปทำงานในกระทรวงที่
คนส่วนใหญ่ ใช้ Camry และ Accord หรือลูกน้องทั่วไปยังขึ้นรถเมล์
ก็จะดูข้ามหน้าข้ามตาเจ้านายเกินไป อาจจะโดนหมั่นไส้ได้
หรือเป็นระดับผู้จัดการ หัวหน้าฝ่าย หรือ ตำแหน่งใหญ่โตขึ้น
การขับ Honda Jazz หรือ Mazda 2 ไปติดต่องานระดับใหญ่
(คุณอาจจะบอกว่า จอดลานจอดรถ มองไม่เห็น แต่บางงาน เราจอดหน้าร้านกาแฟ
ซึ่งคนที่อยู่ภายในก็คือ ผู้ที่เราติดต่องานด้วย)
ก็ดูไม่มีความน่าเชื่อถือ หรือเรียกง่ายๆ "มันไม่เสริมฐานะ"
เพราะมันบ่งบอกถึงสภาวะการเงินของบริษัทของคุณ ที่เข้าไปติดต่อกับอีกบริษัทได้อีกด้วย
ไม่มีกฏตายตัว
แต่เชื่อสิ คุณ และ ใครๆ ก็คิด ;D ;D
-
คนมีตัง ขี้ตระหนี่มีอยู่ถมไปครับ
-
เปรียบแบบนี้มั่งได้มั๊ยครับ
กินข้าวที่บ้านให้เมียทำ มันก็อิ่ม สะอาด มีประโยชน์ มีคุณค่าทางอาหารได้ถ้าทำเป็น รู้จักเลือก
ออกไปกินเหลา มันก็อิ่ม สะอาด มีประโยขน์ มีคุณค่าทางอาหารได้เหมือนกัน และก็อาจจะไม่มีประโยชน์ได้เช่นกัน
แต่พอเราเอาตัวเงินตั้ง ทั้งที่มันต่างกันตรงที่ว่าราคาไม่เท่ากันเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับคุณค่าที่ได้ ......................
เราก็คงเคยเห็น คนมีเงินมากๆ ไม่ชอบกินเหลา ....... เสียดายเงิน......หรือกินจนเบื่อ (เราจะไปรู้เค้าได้ไง) ชอบกินข้าวบ้าน
และเราก็คงเคยเห็น คนกินเงินเดือน ต้องกินดีๆ แพงๆ ..........แต่ชักหน้าไม่ถึงหลัง ...... แต่ต้ัองออกไปกิน เพราะบอกตัวเองว่าหาความสุขใส่ตัวไว้ ไม่เดือดร้อนใคร (ถ้าไม่จริงๆนะ)
ความคิดผมนะ กล้าใช้เงิน กลับใช้เงินเป็น ไม่เหมือนกันครับ
ผมเห็นมาไม่น้อยนะที่ ต้องใช้ให้คนเห็นว่า ฉันกล้าใช้ ............... เพื่อ ??????
ก็แค่ความคิดต่าง อีกทางหนึ่ง ถือว่ามาแชร์กันละกันนะครับ
-
ผมว่า มันก็ทุกอย่างแหละครับ ถ้ามองมุมเดียวกับ จขกท ว่ารถก็ไปถึงที่หมายเหมือนกัน
ทำไมต้อง แฮเมส ถุงผ้าก็ใส่ของได้เหมือนกัน หรือกระเป๋าหนัง 1000 นึงก็ใช้ได้เหมือนกัน
ทำไมต้อง iphone ใช้ samsung hero ก็โทรได้เหมือนกัน
ทำไมต้อง ipad ของจีน ดูได้เหมือนกันเยอะแยะ
มันเป็นความชอบส่วนตัวหนะครับ ของแพง โดยปกติ ก็จะทนกว่าอยู่แล้ว ในความรู้สึก เลยยอมจ่าย
บางคนที่เขาถาม ก็เพราะอาจจะไม่ทราบว่าตลาดมองยังไง คุ้มหรือไม่คุ้ม มีใครเคยใช้ไหม เป็นไงบ้าง
หรือ มันมีตัวเลือกอื่นที่ลืมไปไหม จะได้ไปดู เพราะบางทีเราก็มีความรู้แค่กรอบที่เรารู้ ถามคนเยอะๆ จะได้ idea เพิ่มเติม
ส่วน ทำไมต้องซื้อรถแพง ผมคนนึง ตอนนี้กำลังอัพรถที่บ้านหมด เพราะกำลังซื้อมีมากขึ้น แล้วก็ "ชอบ" เป็นทุน
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด สำหรับผมคือ ผมมั่นใจในความปลอดภัยของรถที่ราคาแพงขึ้น ความแข็งแรง อุปกรณ์ป้องกันต่างๆ
ผมเคยเฉียดตายมาแล้ว จากการขับรถ รู้ว่าอุปกรณ์ที่มันจะช่วยชีวิตเราได้ มันสำคัญแค่ไหน
ผมมีลูกแล้ว บอกตรงๆ ตอนนี้รถที่ไม่มีม่านถุงลม ผมไม่มองเลย เพราะลูกนั่งหลัง มันเซฟได้แน่ๆ หากเกิดไรขึ้น
แล้วเราห้ามได้ไหม เราป้องกันดีกว่า มีเกินดีกว่าขาด เราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นได้ อันนี้สำหรับผมนะ
-
ในความคิดของผมนะครับ
อยู่ในคำถามที่ จขกท. ถามแหละครับ รสนิยม ความอยาก
เพราะความต้องการ สนอง need ตนเอง เมื่อตนเองมีกำลังจ่ายพอ
ถามว่าถ้าผมอยากได้ ไอโฟน แล้วผมมีเงินพอที่จะซื้อ แต่รู้ว่า ยังไงๆ ก็จะมีรุ่นใหม่ ทุกปีๆ
ผมจะต้องรุ่นที่ถูกกว่าไอโฟนเยอะๆ เพื่อที่จะไม่ขาดทุนเพราะ เปลี่ยนรุ่นทุกปี อย่างงี้หรือไม่
ก็คงไม่ใช่ ผมก็ซื้อไอโฟนเช่นเดิม เพราะกำลังซื้อผมมันถึง
พอจะเปลี่ยนเครื่องแล้วต้องขายเครื่องเก่าออกไป ผมก็คงโอเคกับราคาที่ตกไป เพราะ มีความสุขกับช่วงเวลาที่ได้ใช้ สิ่งที่อยากได้
ความอยาก และความต้องการ มันแรงกว่า หลักเศรษฐศาสตร์ เหตุและผล เพราะงี้คนส่วนใหญ่ถึงเลือกที่จะผ่อนส่งหลายๆอย่างแหละครับ
ทำไมถึงมีผ่อนบอลูน ทำไมถึงมีดาวน้อย ผ่อนนาน และก็ไม่แปลกที่ว่าทำไม ถึงมีการพูดถึงว่าจะเพิ่มเงินอัพขึ้นไปเล่นรถสัญชาติยุโรป
-
ในประเทศเราความแพงของรถ บ่งบอกความรวย ครับ แต่ก็มีหลายคนนะที่รวยรวยมากด้วย แต่ก็ขับแค่ รถคันไม่ถึงล้าน ถามว่าคนนับถือมั้ยก็นับถือ มันอยู่ที่การวางตัวด้วยครับ ถ้าขับรถแพงแต่วางตัวไม่ได้ก็ไม่ส่งผลอะไรครับ
ปล.คหสต (ไม่แปลว่า ความเห็น.....Tีน) นะ :D
-
ได้รถดีๆ แพงๆ ..... สิ่งดีๆจะตามมาในชีวิต
-
รถไม่จำเปนต้องแพงเลยครับถ้าเราพอเพียงในสิ่งทีมีดีกว่าครับขนาดมีอถึอผมยังใช่bbอยู่เลยครับแต่คนส่วนใหญ่เค้าใช่แต่ไอโฟนครับผมเองอยากได้นะครับแต่ต้องดูว่าเราจำเปนหรีอเปล่าถ้าจำเปนชีอเลยครับถ้าพอใจในbbก็ใช้ไปครับจนกว่าจะพังคามีอครับถึงชีอใหม่ครับ
-
คำตอบคือ ความคุ้มค่าในทุกเรื่องที่ได้จากรถ เทียบกับเงินที่จ่าย ครับ ถ้าผมจ่ายเงินเท่านี้ แล้วได้สิ่งที่ต้องการครบก็จบครับ
บางคนไม่แน่ใจว่ามันเป็นงั้นเป็นงี้ไหม เลยมาถามเพื่อขอความเห็น ก็แค่นี้แหละครับ
อีกอย่างคนรวยมีแบบใช้เงินโง่ๆกับไม่โง่น่ะครับ ผมมีโอกาสได้รู้จักคนรวยระดับประเทศหลายท่าน
อยากจะบอกว่าประหยัดกันสุดๆ ใช้เงินคุ้มทุกบาทจริงๆ เรียกว่าเงินไม่กระเด็นเลย
-
เห็นด้วยกับ จขกทครับ คนมีจะออกอะไรก็ออกไปเถอะ ถือว่าไม่ลำบาก แต่เคยเห็นบางคน จบเอแบค ทำงานบริษัทหลักทรัพย์แต่กลับคิดไม่ได้ว่าจะทำยังไงกับเงินดี คือจริงๆ เค้าไม่ค่อยมีเงินหรอก แต่อยากจะได้ BMW มานั่งถามจะเอา X1 หรือ X3 ดี ใจจริงเค้าก็อยากได้ X3 น่ะครับ ใหญ่กว่า แพงกว่า หรูกว่า ติดตรงไม่มีเงิน ตัวเองก็เพิ่งออก F30 ไปคันยังติดผ่อนเลย เพือนๆ ก็ทักบอกว่าใช้ CR-V ก็พอ เค้าก็บอกว่าห่วงลูกห่วงเมีย อยากให้ได้ใช้รถดีๆ ฟังดูก็ดีนะ แต่ติดที่ความต้องการมากกว่าเงินในกระเป๋านี่สิ งงเหมือนกัน ออกรถแพงๆ ผ่อน 3 ปี ใช้ได้ 5 ปี ก็ต้องดิ้นรนเปลี่ยนใหม่อีก มีเงินจะไม่ว่าสักคำ เจอกันกินเหล้าทีไร ถามทุกที X1 ดีไหม X3 ดีไหม ฮ่วย
ผิดกับอีกคน มีเงิน อยากได้อะไรก็ออกเลย ไม่เคยมาถาม หรือไม่ก็ถามง่ายๆ ว่า E300 ดีไหม ทุกคนว่าดี ก็เห็นอีกสองวันไปจอง อันนั้นเค้าสบายๆ ก็ว่ากันไปนะ
-
ซื้อรถแพงเพราะมันให้อะไรที่มากกว่า ระบบความปลอดภัย ภาพลักษณ์ สมรรถณะ ฟิลลิ่งในการขับ อัตราเร่ง สิ่งอำนวยความสะดวก ราคาขายต่อ
พวกที่มีเงินซื้อรถแพงๆถ้าไม่รู้จักใช้เงินจะมีเงินไปซื้อรถได้หรอ เพราะฉะนั้นราคาขายต่อก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ
สมมุติซื้อรถล้านนึง ใช้ไป2ปี คันนึงขายต่อได้700,000 กับอีกคันขายได้ 500,000 ส่วนต่าง200,000นี่เติมน้ำมันได้3-5ปีเลยนะ
คนที่มีเงินก็ต้องรู้จักวางแผนการเงินเป็นธรรมดา ถ้าใช้แบบไม่คิดก็หมดกัน
-
เรื่องราคาตกใครๆก็รู้ครับว่าซื้อรถมาราคาตกทุกวัน แต่อันไหนล่ะที่ตกน้อยสุด คุ้มสุด ก็แค่นั้นแหละครับ
การเปลื่ยนรถบ่อยๆมันก็เป็นการซื้อความเสี่ยงในเรื่องค่าดูแลรักษา ที่บ้านผมก็เพิ่งขายรถอายุ7ปีไปยี่ห้อตลาดด้วย ปกติที่บ้านจะใช้รถ10ปี+แต่ที่ขายเพราะโอเวอร์ฮอลเครื่องรอบที่2ในรอบ2ปีซ่อมไม่จบพ่อผมเลยบอกต่อไปนี้จะใช้รถ5ปีพอ ผ่อนรถใหม่สบายใจกว่า
-
ผมชอบกระทู้นี้นะ เอาคนบ้ารถมามองต่างมุมกันในเรื่องความคุ้มค่าของตัวรถ ได้รับความเห็นที่หลากหลายดี
ส่วนของผม เมื่อก่อนมองแต่รถมือสองเพราะอยากได้รถเกินฐานะที่จะซื้อป้ายแดง ก็ต้องทำใจเรื่องการบำรุงรักษาหน่อย แลกกับการได้ขับรถที่แฮปปี้
ส่วนปัจจุบันเริ่มบ้ารถน้อยลง เริ่มขี้เกียจดูแลรถ จากนี้ไปคงมองไปที่รถป้ายแดงที่ราคาเอื้อมได้สบายมากกว่า ไว้เดี๋ยวบ้าใหม่ค่อยว่ากัน
-
ผมว่าถ้าจะเอารถหรูเป็นหน้าตา แต่ในทางกลับกันจะต้องใช้งานทุกวัน ทั้งๆ ที่กลัวรถเสื่อม
ผมว่าถนนเมืองไทยโดยเฉพาะ กทม เนี่ย ถ้าใช้ทุกวันเสื่อมเร็วแน่นอนครับ ทางที่ดีถ้าอยากได้หน้าตา และอยากใช้งานทุกวัน
ผมว่าควรจะมีรถสองคันครับ กล่าวคือ รถหลัก กับ รถรอง ครับ
รถหลัก คือ รถที่เราใช้งานเพื่อไปทำงาน ไปธุระเป็นหลัก ไม่ต้องแพง แต่ขอแค่ไว้ใจได้ ขีดข่วนไม่ต้องเสียดายมาก
รถรอง คือ รถที่ใช้ออกงานสังคม หรือ ใช้เพื่อสนองความสนุกของการขับขี่ส่วนตัว ครับ จริงๆ แล้วจะเก็บรักษาไว้นาน ก็ท่าจะดี
อันนี่้ผมเห็นด้วยน่ะ คือ การที่คนคนหนึ่งชอบรถ มีรถในฝันอยากจะได้แต่อะไรๆก็ไม่อำนวย แต่เมื่อถึง ณ จุดๆหนึ่งเค้ามีเงินพอทีจะซื้อ แต่ มันแค่พอซื้อ ไม่ใช่เหลือเฟือมากมาย แน่นอนเมื่อตัดสินใจจะซื้อก็ต้องมีห่วงนู้นห่วงนี้ตามประสาคนไม่เคยเป็นธรรมดาครับ แล้วผมวาา โดยส่วนมากน่าจะเป็นอย่างที่คุณคนนี้พูดมีรถหลักรถรอง อย่างที่บ้านผมรถหลักๆที่ใช้ก็ ฮอนด้า ซีวิค แล้วก็มีเบนซ์ไว้ออกงานนิดนึงตามประสาคนชอบรถล่ะครับ
-
ดังนั้นถ้าซื้อแพงก็คงจะต้องใช้ให้คุ้มครับ
-
คิดเหมือนผมเลยครับ ซื้อคันนี้สิ ขายต่อดี งง ??? ???
คือตกลงซื้อมาใช้หรือว่าซื้อมารอขายครับเนี่ย
แต่ก็นะแล้วแต่ความคิดของแต่ละคน แตกต่างกันได้
สำหรับผมตอนซื้อ ไม่ได้คิดถึงเรื่องที่จะเอาไปขายเลยครับ
ตอนนี้ผมใช้ Almera V-CVT เอาไปติดแก๊ส ก่อนติดคนรอบข้างบอกอย่าติด ปัญหาเยอะ ขายต่อไม่ดี
พอติดมาสรุป ไม่ได้มีปัญาหาอะไร แถมประหยัดอีก จากค่าเชื้อเพลิงเดือนละ 7-8 พันบาท เหลือ 3-4 พันบาท รู้งี้ผมติดนานแล้ว
และผมยืนพื้นคันนี้แหล่ะคุ้มที่สุดแล้ว ราคาถูก กว้าง ประหยัด
ออฟชั่นก็พอตัวเลยครับของจำเป็นมีครบ แถมเพิ่งได้คืนเงินภาษีอีก 79,000 บาท
ถึงจะไม่ได้แรงอะไรมากมาย ไม่รู้จะแรงทำไมขับในกรุงเทพ ผมก็แซงพวกรถแพง ๆ รถแรงแต่ขับช้าแช่ว่าตลอด
-
นานาจิตตังจริงๆครับเรื่องนี้ ตัวอย่างคุณพ่อผมก็เสียดายตังค์ซื้อแค่S350 Bluetecทั้งๆที่จะซื้อBentleyหรือRRหลายๆคันก็ได้แต่ไม่ซื้อ ลูกๆบอกให้ซื้อS500ไปเลยก็บ่นขาดทุนเยอะ S350ขับไปก็บ่นไปว่าไม่พุ่งเหมือน500 ส่วนน้องเขยผมบ้านหลังเล็กนิดเดียวแต่มีทั้งLamborghini Gallardo Ferrari 599 Porsche Cayenne Panamera 911 Range Rover ไม่มีที่จอดต้องไปจอดที่อื่น
-
อย่าไปคิดแทนเขาเลยครับ
-
อย่างที่หลายๆท่านได้กล่าวไปแล้วผมคิดว่าคนที่ซื้อรถแพงแล้วเปลี่ยนรถบ่อยคือ
1. ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินสามารถหาเงินได้มากกว่าราคารถที่จะขายและซื้อคันใหม่
2. หลังจากใช้ไป 5 ปี คงจะเกิน 100,000 km น่าจะจุกจิกเรื่องการซ่อมมากขึ้น เปลี่ยนรถใหม่เลยดีกว่า
3. หน้าตาในสังคมก็อีกครับมันก็มีผลระดับหนึ่ง
4. ความปลอดภัย คนที่เคยมีประสบการณ์เรื่องอุบัติเหตุน่าจะเข้าใจดีว่าส่วนนี้สำคัญขนาดไหน
-
ต่างคนต่างความคิดครับ
คนเดียวกัน แต่ละช่วงเวลายังคิดไม่เหมือนกันเลย
ยกตย.ตัวผมเองก็ได้ ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจะซื้อพวกรถยุโรป รู้สึกไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายไป
ตอนนี้พอหาเงินได้มากขึ้น รู้เรื่องรถเยอะขึ้น ถ้ามีเงินเย็นช่วง 2 ล้าน ก็คงซื้อล่ะครับ สักครั้งในชีวิต
-
อยากบอกว่า ชาตินี้ไม่อยากขับ Eco car ไปตลอดชาติครับ อยากมีอีกคันที่หรูๆ แสดงว่าเราก็เก่งพอจะซื่อได้
ประสบความสำเร็จในชีวิต
Camry 2.0G
สีทอง
(http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php?action=dlattach;topic=24178.0;attach=28317;image)
-
(http://2.bp.blogspot.com/-e1zR8pZlrG8/UHA572wlycI/AAAAAAAAAJY/2Xcw5CK_sMU/s1600/maslow.png)
เอามาให้ดูครับ ทฤษฎีของมาสโลว์ มนุษย์เรามีขั้นๆ ครับ ไม่มีใครอยากอยู่ชั้น 1-2 ไปตลอด(ขับรถธรรมดา)
คงต้องมีสักวันที่เราต้องขยับไปอะไรที่มันคือตัวตนของเรา ตามนี้ครับ
-
มันคือ. Snob effect ครับ
-
ซื้อรถแพงๆคือ ซื้อเทคโนโลยี และความปลอดภัย :)
-
..พูดกันง่ายๆ ก็คือเอาเงินซื้อความสุข ในระยะเวลา 5-6 ปี เผลอๆต่อไปอีก
-
ต่างคนต่างความคิดครับ
แต่ผมว่าเราไม่ควรเรียกใครว่า "มัน"
-
ต่างคนต่างความคิดครับ
แต่ผมว่าเราไม่ควรเรียกใครว่า "มัน"
+1 ครับ คิดอยู่จะบอก จขกท ดีไหม
อยากให้แก้นิดหน่อยนะครับ ต่างความคิดได้ครับ ไม่มีปัญหา
-
ต่างคนต่างความคิดครับ
แต่ผมว่าเราไม่ควรเรียกใครว่า "มัน"
+1 ครับ คิดอยู่จะบอก จขกท ดีไหม
อยากให้แก้นิดหน่อยนะครับ ต่างความคิดได้ครับ ไม่มีปัญหา
ตามนี้ครับ..
-
ซื้อรถแพงๆคือ ซื้อเทคโนโลยี และความปลอดภัย :)
ผมก็มองเรื่องความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่งเพราะเคยมีประสบการณ์มาแล้ว ถึงขั้นต้องคืนทุนประกัน ระบบความปลอดภัยช่วยได้มากจริงๆครับ ใครไม่เคยไม่รู้
-
ซื้อรถแพงๆคือ ซื้อเทคโนโลยี และความปลอดภัย :)
ผมก็มองเรื่องความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่งเพราะเคยมีประสบการณ์มาแล้ว ถึงขั้นต้องคืนทุนประกัน ระบบความปลอดภัยช่วยได้มากจริงๆครับ ใครไม่เคยไม่รู้
ใช่ครับ Safety First ครับ
ถุงลม ผมว่ามีไว้ดีที่สุด ดีกว่ากระจกไฟฟ้าซะอีก ;D
-
กดLike ให้ทุกความคิดเห็นครับ คนเรามีความคิดที่แตกต่างกันได้ แต่ไม่แตกแยกนำมาซึ่งการทะเลาะเบาะแว้งกัน ซึ่งในบ้านHLM ถือเป็นตัวอย่างที่ดีมากครับ โดยสมาชิกแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ในหลากหลายมุมมอง เป็นประโยชน์ทึ่เข้ามาอ่านมากครับ
ปล. ในหัวข้อ จขกท ในความเห็นของผม ว่าน่าจะเกี่ยวเนื่องมาจาก เงิน กับ ความสุข ครับ
-
น้าผมทำบริษัทรับเหมาก่อสร้าง เค้าบอกว่าจำเป็นต้องใช้เบนซ์เท่านั้นครับ เพราะเพื่อความน่าเชื่อถือ กับเคยกลิ้งตกคูน้ำข้างทางแล้วเด้งข้ามมาอีกเลนนึง . . . แค่คอเคล็ด เป็นยี่ห้ออื่นน่าจะเจ็บกว่านี้ (MB E-class)
-
ผมว่ามันเป็นความคิดของคนที่ใช้เงินเป็น
คหสต. ครับ
-
แถวบ้านผม มีลุงแก่ๆท่านหนึ่งตระกูลเขาเป็นเจ้าของบริษัทน้ำตาลชื่อดังแต่ขายหุ้นใหญ่ไปนานแล้วแบ่งกันพี่น้องได้แต่ละคนหลักร้อยล้านขึ้น
พี่คนโตนำเงินมาลงทุนสร้างตลาดเกือบ 20 ล้าน ใช้เงินประหยัดมาก ขับรถอีซุซุกีะบะเก่าๆเกือบยี่สิบปี ตอนสร้่งตลาด ปน ทราย ยังไปหาซื้อเอง แบกเอง
ที่เล่าให้ฟังคร่าวๆ เพราะคนรวยบ้างคนเขาก็ไม่ได้ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย ไปทุกคนนะครับ
-
คิดเหมือนผมเลยครับ ซื้อคันนี้สิ ขายต่อดี งง ??? ???
คือตกลงซื้อมาใช้หรือว่าซื้อมารอขายครับเนี่ย
คือคนซื้อเค้าอาจจะงบน้อย อยากได้รถประหยัดน้ำมัน + เวลาขายต่อราคาดี จะได้ประหยัดเงินให้มากที่สุด คิดราคาค่าเสื่อมต่อปีแล้วถูกกว่า ไม่แคร์เรื่องการขับขี่มาก ขอแค่ถึงที่
หมาย อาจจะไม่ได้ซื้อมารอขาย แต่ก็เผื่อขายจะได้มีทุนไปซื้อคันใหม่มากขึ้นเวลาเปลี่ยนรถ
-
ความสุขของเค้าครับ
-
คำคำเดียวอาจบอกแทนได้ทุกความหมายครับ
นานาจิตตัง
คนทุกคนล้วนมีความคิดที่แตกกต่างกันออกไปครับ
เพราะฉะนั้นความคิดใครก็ความผิดมัน เงินใครเงินมัน
คน 2 คนมีเงิน 5 ล้านเหมือนกัน
แต่...คนที่ 1 ทำด้วยน้ำพักน้ำแรงกว่าจะหาได้
แต่...คนที่ 2 แบมือก็ได้แล้ว
หลักการ ความคิดมันย่อมต่างกันแน่นอนครับ
-
แล้วแต่คนครับ ขึ้นกับความชอบและความคิด
ตัวผมยังเรียนอยู่ ได้รถใหม่ๆมาขับก็เวอร์แล้ว
น้าผมเป็นหมอเช้าอยู่โรงบาลเย็นเปิดคลินิก ไม่อยากนึกถึงรายได้
ขับ Adventure เก่าๆ
ถ้ามีใครสักคนยอมเป็นหนี้เพื่อสิ่งที่เค้าชอบก็โอเคครับ
:)
-
รถยนต์ ถ้าคิดแค่ความคุ้มเงิน ไม่สนใจการขับขี่
สนใจแต่ความคุ้มเงิน ผมว่ามันผิดทั้งหมดแหละครับ
เพราะรถเป็นสิ่งที่ ไม่ใช่การซื้อเพื่อลงทุนครับ
มันซื้อมาเพื่อตอบสนองความต้องการของคนขับ
รถเปรียบเสมือนสิ่งที่แสดงตัวตนของผู้ใช้ แสดงถึงบุคลิก แสดงถึงความคิด และอีกมากมาย
ดังนั้น คนที่ซื้อรถมาเพื่อจะเอาความคุ้ม มันไม่คุ้มตั้งแต่ซื้อแล้วครับ
ประเด็นคือ ความชอบ การแสดงตัวตน และความรู้สึกร่วมมากกว่าจะมานั่งแคร์เรื่องเงิน
คนมีเงินอยากได้รถดีๆขับ มันคือความสุข ที่เค้าไม่เคยต้องการความคุ้มนะผมว่า
ความคุ้ม คือ เราได้ครองในสิ่งที่เราชอบต่างหาก
-
ถ้ามีรถราคาถูกๆที่ขับแล้วสนุกและมั่นใจปลอดภัยเหมือนรถแพงๆละก็.....
-
ผมว่ามันคงจะเป็นเรื่อง ความพึงพอใจมากกว่าครับ
จริงอย่างที่หลายๆท่านว่า เอาง่ายๆแค่เรื่องมือถือ ค่ายหนึ่ง คนยังทะเลาะกันไม่เลิกเลย
เรื่องความคุ้มค่าและความสิ้นเปลือง ซึ้งในใจผมนะ หากซื้อมาแล้วมันคุ้มค่าทางใจก็ซื้อไปเถอะ
บ้านผมมี Ford ทั้งบ้าน 3 คัน มีแต่คนว่าซื้อมาทำไม ขายราคาตกไอ้เราก็ยิ้ม ก็ความพึงพอใจนิครับ
-
ผมใช้คำว่า " คุณภาพชีวิต " แล้วกันครับ
ทำงานมา หาเงินมา คนเราหาความสุขไม่เหมือนกัน คิดก็ไม่เหมือนกัน
กินข้าวแกงข้างทางก็อิ่มเหมือนกัน แล้วจะเข้าห้าง เข้าภัตตาคาร เข้าโรงแรมไปกินเพื่ออะไร ก็อิ่มเหมือนกัน
รถก็ใช้ได้เหมือนกัน จะถูกจะแพงก็วิ่งได้เหมือนกัน แต่คุณภาพชีวิตที่ได้มันต่างกันครับ
ส่วนตัวมองว่า ซื้อเป็นรางวัลให้ตัวเองที่เหนื่อยมาตลอด อายุ 40 ไม่เอาตอนนี้ แล้วจะใช้ตอนไหน
ไม่อยากขับแบบที่ลูกหลานส่งไปให้ตอนสวดน่ะครับ
ต่างความคิดนะครับ ไม่ได้บอกว่าถูกหรือผิด เพราะเราหาเอง ใช้เอง ไม่ได้เดือดร้อนหรือขอใคร ดังนั้นเราเลือกเองและก็ไม่สนว่าใครจะว่าอะไร
-
ในความแพงมันมีอะไรที่แฝงอยู่มากมายนะครับ
อันนี้แนะนำว่าต้องลอง แล้วจะเข้าใจว่าทำไมมันถึงแพง :D
-
ผมเคยคิดแบบเจ้าของกระทู้ครับ
แต่
ผมก็ ออก TEANA J32 ขับอยู่ปีกว่าๆ ขับรถน้องเป็น Vigo ด้วย
ประมาณวันจันทร์ที่ 16 ที่ผ่านมา เข้ากรุงเทพฯ พยากรณ์อากาศ บอกพายุเข้า ผมก็เลยนั่งรถทัวร์ไป
ผมได้ขึ้นแท็กซี่ จากหมอชิต กลับบ้านที่พระราม2 ขึ้นทางด่วน ฝนตกโปรยปราย นั่งด้านหลังกับน้องชาย แท็กซี่ก็ขับดีครับ เพราะแอบดูไมล์ ขับแค่ 90-100 เองครับ
ในความรู้สึกผม เหมือนกับเขากับที่ 140-160 เลยครับ นั่งแล้วก็เบาๆ โหวงๆ ทั้งมีเสียงมาทางซุ้มล้อ รีดน้ำกันอย่างสนุกสนาน
มันทำให้ผมตรัสรู้แจ้งเลยครับ ว่า ทำไม คนถึงใช้รถยุโรป รถใหญ่ๆ ช่วงล่างดีๆ ทำไมคนถึงเลือกรถที่ดีขึ้นตามความเป็นอยู่
ราคารถ กับคุณภาพรถ มันไปตามๆกันครับ ถึงแม้ผม คิดว่าจะเปลี่ยนรถอีก 5 ปี ผมก็คงไม่ลงมาเล่นรถที่ช่วงล่างร่อนแน่นอนครับ
กระทู้นี้ มีสิทธิ์ ดราม่า ผมไม่อยากพูดอะไร ที่ไปกระทบกระเทือนท่านเข้าของกระทู้ครับ
แต่กรุณา อย่าพิมพ์คำว่า "มัน" นะครับ
ท่านมีเงินแล้วท่านจะรู้เองครับว่า "ทำไม"
สิ่งเหล่านี้ ต้องรู้ได้ด้วยตนเองเท่านั้น เมื่อท่านได้มันมา
-
รถไม่ใช่ของฟุ่มเฟือยนะครับ ถ้ามีเงินพอที่จะซื้อได้ ซื้อไปเถอะครับ เวลาเกิดอะไรขึ้น โอกาสรอดก็สูงกว่า
รถบางคนบอกมีแต่ลดราคาลง แต่รถช่วยให้คุณมีงานเพิ่มขึ้น เงินเพิ่มขึ้นนะครับ
ปล. อย่าใช้เลยครับ เรียกใครๆว่า "มัน"
-
จุ๊ๆๆๆอย่าพูดเสียงดังสิคุณ!!!! ::) รุ่นแพงๆเครื่องความจุสูงๆเวลาขายต่อในเวลา5ปีราคาร่วงมหาศาล คนนิยมของใช้แล้วสภาพดีอย่างผมช๊อบบบชอบ รถยังสภาพดีมากขายทิ้งซะแล้ว ไหนจะแนวคิดทึ่เครืีิ่องยิ่งโตยิ่งกินน้ำมันราคาหายเยอะกว่าเครืี่องเล็กๆอีก ใหัคนซื้อแพงๆขายทิ้งไวๆมีเยอะๆนี่แหละดีแล้วววว :-*
-
รถผมออกมาป้ายแดง3.2 ไปตีมา1.9 วิ่งแค่ปีเดียว
น้ำตาจะล่วงวันหลังผมเล่นมือสองปีใหม่ๆหน่อยดีกว่า เพราะชอบเปลี่ยนรถ
-
รถผมออกมาป้ายแดง3.2 ไปตีมา1.9 วิ่งแค่ปีเดียว
น้ำตาจะล่วงวันหลังผมเล่นมือสองปีใหม่ๆหน่อยดีกว่า เพราะชอบเปลี่ยนรถ
แรงมาก :D
-
เศรษฐกิจพอเพียงครับ หมายความว่าถ้ามีเงินพอที่จะซื้อและเลี้ยงดูไม่เดือดร้อนบวกใจชอบซื้อเลยครับต่อให้เป็นเฟอร์หรือลัมโบก็ได้
ข้อสำคัญซื้อแล้วไม่เดือดร้อนเป็นใช้ได้
-
ผมชอบนะ พวกซื้อรถแพง ๆ ใช้ แค่ไม่กี่ปีขายทิ้ง เปลี่ยนคันใหม่เนี่ย โดยเฉพาะพวกกลุ่ม Super Car เนี่ยถ้ามีแบบนี้เยอะ ๆ ยิ่งดีเลย
ผมเองก็กำลังดูอยู่ว่า รอลูกโตอีกหน่อย จะหา Ferrari มือสอง สภาพสวย ๆ มาเป็นรางวัลชีวิตให้ตัวเองสักคันเหมือนกัน (ถ้าตอนนั้นยังมีแรงขับไหวนะ)
ผมจะได้รอสอยจากคนพวกนี้เนี่ยล่ะ
ซื้อรถใช้ 5 ปี แล้วจะซื้อแพงๆ เพื่อ?? --> กิเลสใด ๆ ที่ตอบสนองได้ด้วยเงิน มันเป็นเรื่องที่ไม่ต้องการเหตุผลครับ
และไม่มีเหตุผล ทางวิทยาศาสตร์ หรือตรรกะ ใด ๆ จะตอบได้ซะด้วยสิครับ
-
คิดเหมือนผมเลยครับ ซื้อคันนี้สิ ขายต่อดี งง ??? ???
คือตกลงซื้อมาใช้หรือว่าซื้อมารอขายครับเนี่ย
แต่ก็นะแล้วแต่ความคิดของแต่ละคน แตกต่างกันได้
สำหรับผมตอนซื้อ ไม่ได้คิดถึงเรื่องที่จะเอาไปขายเลยครับ
ตอนนี้ผมใช้ Almera V-CVT เอาไปติดแก๊ส ก่อนติดคนรอบข้างบอกอย่าติด ปัญหาเยอะ ขายต่อไม่ดี
พอติดมาสรุป ไม่ได้มีปัญาหาอะไร แถมประหยัดอีก จากค่าเชื้อเพลิงเดือนละ 7-8 พันบาท เหลือ 3-4 พันบาท รู้งี้ผมติดนานแล้ว
และผมยืนพื้นคันนี้แหล่ะคุ้มที่สุดแล้ว ราคาถูก กว้าง ประหยัด
ออฟชั่นก็พอตัวเลยครับของจำเป็นมีครบ แถมเพิ่งได้คืนเงินภาษีอีก 79,000 บาท
ถึงจะไม่ได้แรงอะไรมากมาย ไม่รู้จะแรงทำไมขับในกรุงเทพ ผมก็แซงพวกรถแพง ๆ รถแรงแต่ขับช้าแช่ว่าตลอด
.
.
.
ในที่สุดผมก็เจอคนที่คิดตรงข้ามกับผมทุกอย่างเลย 555
ถือว่าแลกเปลี่ยนกันนะครับ
1/ อย่างแรก ผมเป็นคนนึงที่เวลาซื้อรถคำนึงถึงเวลาขายต่อครับ
แต่ไม่ใช่ว่าไม่นึกถึงตอนที่ใช้งานนะครับ แต่เรื่องนี้มันเป็นเหตุเป็นผลกันนะครับ
รถที่ราคาขายต่อดีส่วนมากคือรถที่อะไหล่ไม่แพง ซ่อมง่าย เป็นที่นิยม
ซึ่งผมยังไม่เห็นมันจะมีข้อเสียอะไรเลย ที่สำคัญผมนึกถึงอนาคตครับ
เวลาที่เราจะเปลี่ยนรถ เราจะได้พอมี "ทุน" ไปต่อยอดรถที่เราอยากได้ต่อไป
ไม่ใช่เงินมันละลายไปกับรถคันที่ใช้อยู่หมดแล้ว
2/ Almera สำหรับผม เป็นรถที่ผมจะไม่ซื้อเลย เพราะในความเห็นส่วนตัวมัน
ค่อนข้างไม่สวยครับ ซึ่งอันนี้ต่อให้ราคาขายต่อมันเทพขนาดไหน ผมก็ไม่เอา
เพราะผมนึกถึงเวลาที่ผมต้องขับไปไหนมาไหนด้วย ไม่ได้นึกถึงแต่ตอนขายต่ออย่างเดียว
3/ ผมจะไม่ติดแก๊ส เพราะอะไรก็ตามที่ไปดัดแปลงมัน ถึงวันนี้มันจะไม่มีปัญหา
แต่ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มีตลอดไป และผมก็งงว่า คุณไม่สนใจเรื่องราคาขายต่อ
แต่กลับมาสนใจประหยัดในเรื่องเชื้อเพลิง ซึ่งอันนี้ผมก็ งง เหมือนที่คุณ งง
คนที่เค้าสนใจเรื่องราคาขายต่อล่ะครับ เพราะรถซื้อมาใช้ สำหรับผมค่าน้ำมัน
ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงของรถ ผมก็มีปัญญาจ่ายครับ ไม่ชอบดัดแปลงรถ
4/ เรื่องไม่รู้จะขับแรงทำไมในกรุงเทพ สำหรับผม เหลือไว้ดีกว่าขาดครับ
เวลาฉุกเฉินต้องเร่งแซง มีไว้ดีกว่าไม่มี แล้วอีกอย่าง บางทีก็ต้องเอารถ
ไปต่างจังหวัดบ้าง อัตราเร่ง ช่วยเรื่องความปลอดภัยเต็มๆ ส่วนเรื่องขับแซง
รถแรงๆแพงๆ ผมเดาเอาเองว่าเค้าไม่อยากเล่นด้วยครับ ;)
-
คิดเหมือนผมเลยครับ ซื้อคันนี้สิ ขายต่อดี งง ??? ???
คือตกลงซื้อมาใช้หรือว่าซื้อมารอขายครับเนี่ย
แต่ก็นะแล้วแต่ความคิดของแต่ละคน แตกต่างกันได้
สำหรับผมตอนซื้อ ไม่ได้คิดถึงเรื่องที่จะเอาไปขายเลยครับ
ตอนนี้ผมใช้ Almera V-CVT เอาไปติดแก๊ส ก่อนติดคนรอบข้างบอกอย่าติด ปัญหาเยอะ ขายต่อไม่ดี
พอติดมาสรุป ไม่ได้มีปัญาหาอะไร แถมประหยัดอีก จากค่าเชื้อเพลิงเดือนละ 7-8 พันบาท เหลือ 3-4 พันบาท รู้งี้ผมติดนานแล้ว
และผมยืนพื้นคันนี้แหล่ะคุ้มที่สุดแล้ว ราคาถูก กว้าง ประหยัด
ออฟชั่นก็พอตัวเลยครับของจำเป็นมีครบ แถมเพิ่งได้คืนเงินภาษีอีก 79,000 บาท
ถึงจะไม่ได้แรงอะไรมากมาย ไม่รู้จะแรงทำไมขับในกรุงเทพ ผมก็แซงพวกรถแพง ๆ รถแรงแต่ขับช้าแช่ว่าตลอด
.
.
.
ในที่สุดผมก็เจอคนที่คิดตรงข้ามกับผมทุกอย่างเลย 555
ถือว่าแลกเปลี่ยนกันนะครับ
1/ อย่างแรก ผมเป็นคนนึงที่เวลาซื้อรถคำนึงถึงเวลาขายต่อครับ
แต่ไม่ใช่ว่าไม่นึกถึงตอนที่ใช้งานนะครับ แต่เรื่องนี้มันเป็นเหตุเป็นผลกันนะครับ
รถที่ราคาขายต่อดีส่วนมากคือรถที่อะไหล่ไม่แพง ซ่อมง่าย เป็นที่นิยม
ซึ่งผมยังไม่เห็นมันจะมีข้อเสียอะไรเลย ที่สำคัญผมนึกถึงอนาคตครับ
เวลาที่เราจะเปลี่ยนรถ เราจะได้พอมี "ทุน" ไปต่อยอดรถที่เราอยากได้ต่อไป
ไม่ใช่เงินมันละลายไปกับรถคันที่ใช้อยู่หมดแล้ว
2/ Almera สำหรับผม เป็นรถที่ผมจะไม่ซื้อเลย เพราะในความเห็นส่วนตัวมัน
ค่อนข้างไม่สวยครับ ซึ่งอันนี้ต่อให้ราคาขายต่อมันเทพขนาดไหน ผมก็ไม่เอา
เพราะผมนึกถึงเวลาที่ผมต้องขับไปไหนมาไหนด้วย ไม่ได้นึกถึงแต่ตอนขายต่ออย่างเดียว
3/ ผมจะไม่ติดแก๊ส เพราะอะไรก็ตามที่ไปดัดแปลงมัน ถึงวันนี้มันจะไม่มีปัญหา
แต่ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มีตลอดไป และผมก็งงว่า คุณไม่สนใจเรื่องราคาขายต่อ
แต่กลับมาสนใจประหยัดในเรื่องเชื้อเพลิง ซึ่งอันนี้ผมก็ งง เหมือนที่คุณ งง
คนที่เค้าสนใจเรื่องราคาขายต่อล่ะครับ เพราะรถซื้อมาใช้ สำหรับผมค่าน้ำมัน
ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงของรถ ผมก็มีปัญญาจ่ายครับ ไม่ชอบดัดแปลงรถ
4/ เรื่องไม่รู้จะขับแรงทำไมในกรุงเทพ สำหรับผม เหลือไว้ดีกว่าขาดครับ
เวลาฉุกเฉินต้องเร่งแซง มีไว้ดีกว่าไม่มี แล้วอีกอย่าง บางทีก็ต้องเอารถ
ไปต่างจังหวัดบ้าง อัตราเร่ง ช่วยเรื่องความปลอดภัยเต็มๆ ส่วนเรื่องขับแซง
รถแรงๆแพงๆ ผมเดาเอาเองว่าเค้าไม่อยากเล่นด้วยครับ ;)
ประทานโทษนะครับคุณพี่ ผมคิดว่าคอมเมนท์ของคุณพี่มันจะทำให้คนที่คุณพี่อ้างอิง คนอื่นๆและเจ้าตัวเขาจะไม่ชอบใจเอานะครับ เรามาคุยกันให้เบาๆกว่านี้ดีกว่าแน่นอนครับ
-
[/quote]ประทานโทษนะครับคุณพี่ ผมคิดว่าคอมเมนท์ของคุณพี่มันจะทำให้คนที่คุณพี่อ้างอิง คนอื่นๆและเจ้าตัวเขาจะไม่ชอบใจเอานะครับ เรามาคุยกันให้เบาๆกว่านี้ดีกว่าแน่นอนครับ
[/quote]
ยังไงหรอครับ?? ผมแค่เจอคนที่คิดไม่เหมือนกัน เลยอยากจะแชร์อีกมุมนึง
ว่าคนที่เค้าคิดอีกแบบนึงเค้าคิดยังไงแค่นั้นเอง มันมีอะไรรุนแรงหรอครับ?
อันนี้ไม่เข้าใจจริงๆครับ
แต่ถ้าแรง หรือทำอะไรให้มีใครไม่พอใจ ขออภัยล่วงหน้าเลยครับ
-
ผมไม่ได้ซีเรียสว่ารถแพง...แต่ผมขอรถแรงไว้ก่อนละกัน
เกี่ยวมั๊ย? กลัวเครียด
ถามจริงๆเหอะ รถมันบ่งบอกฐานะได้จริงๆหรือ ผมว่า เราไม่ควรเอารถมาตัดสินคนนะ
และควรเลิกคิดแบบนี้สักทีเหอะครับ รถมันแค่เปลือกครับ
-
เข้ามาดูอย่าทะเลาะกันเลยครับ
ต่างคนต่างคิด
อย่างผมมี สอง คน ในร่างเดียว
1. คือ Eco car :)
2. คือ รถที่แสดงฐานะ อยากมีความภาคภูมิใจ ว่าเราก็ทำได้ :D
-
ซื้อรถใช้ 5 ปี แล้วจะซื้อแพงๆ เพื่อ?? --> กิเลสใด ๆ ที่ตอบสนองได้ด้วยเงิน มันเป็นเรื่องที่ไม่ต้องการเหตุผลครับ
และไม่มีเหตุผล ทางวิทยาศาสตร์ หรือตรรกะ ใด ๆ จะตอบได้ซะด้วยสิครับ
จริง...รถผมบางคันอยู่ไม่ถึงปีด้วยซ้ำก็เปลี่ยนแล้ว เพราะคำว่า เบื่อ ผมว่ามันไม่เป็นเหตุเป็นผลเอาซะเลย
อารมณ์ล้วนๆ ถึงบอกว่าเราไม่ควรตัดสินใคร จากมุมมองของเราคนเดียว และควรเลิกเอารถมาเป็นดัชนีชี้วัดอะไรต่างๆ
มันไม่เกี่ยวอีกเช่นกัน เอาง่ายๆ
ผมมี
นิสสันมาร์ช 1 คัน
อิมเพรสซ่า 1 คัน
สามประตู 1 คัน
คุณจะตัดสินผมว่าไงหล่ะ? เป็นคนรักษ์โลกหรือ เป็นคนประหยัดหรือเปล่า เป็นพวกบ้าพลัง เป็นพวกชอบอนุรักษ์ของเก่า...
มันไม่ใช่ไง....
-
รถแพงก็น่าเบื่อได้ พอรุ่นใหม่มา ส่วนตัวใช้รถคันนึงไม่เกิน2ปี
-
ผมว่าเหตุผล จขกท. เขาฟังได้อยู่นะ อย่างคนในเนี่ยบ้ารถ ซื้อรถมาแต่ง ซื้อซากมาทำ ชอบรถไม่เหมือนใคร อันนั้นผมโอเคนะ มันเป็นความสุข ทุ่มเงินมากมาย
แต่ไอ้ตรรกะ ซื้อรถไหม่มาขายเนี่ย คืออะไรวะ ยังไงรถมันก็ขายราคาจกเหมือนกันหมดอะ แล้วจะมานั่งห่วงราคาขายต่อทำไม บางคนรถไม่ชอบภายในรถคันนั้นเลยขัดหูขัดตาไปหมด ช่วงล่างไม่ชอบเลยนั่งแล้วยวบยาบซิ่งไม่สนุก ระบบความปลอดภัยก็ให้มาน้อยหน้าอีกแบรนด์ แต่ซื้อเพราะคิดว่าอีก 5 ปีมันน่าจะขายได้ราคาดีกว่าไม่กี่แสนบาท
ห่วงความสุขในการใช้งานรถมันจนครบวาระดีกว่ามั้ย ตอนขายรถมันขายไม่กี่วันหรอก แต่ตอนใช้รถนะอย่างน้อยๆก็ต้องมี 6 เดือนใน 1 ปีละวะ
-
คุณ raygun
ครับผม ไม่ว่ากันครับ แตกต่างได้ ไม่แตกแยกครับ
มุมมองแต่ละคน มาแลกเปลี่ยนกันก็ดีครับ
ปล.ผมสมัครมาเพื่อนตอนกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกเลยนะเนี่ย หลังจากเข้ามาอ่านอย่างเดียว
-
ถ้าไม่ถึงกับเดือดร้อนก็ซื้อแบบที่ชอบดีที่สุดครับ เมื่อวานเพื่อนเพิ่งบ่นว่ารถเยอะไปแล้วพี่วี ใช้อยู่3คนมีทั้ง Volk Caravelle Citroen C8 Benz W211 5คัน E200NGT E350 E500 E55AMG E63AMG Audi TT MTM BMW 730LI 745LI Porsche Cayman ไม่รวมรถภรรยาและลูกๆอีกต่างหาก จอดนานๆจนเสีย ฝุ่นเขรอะ ชักรู้สึกเป็นภาระ ผมบอกว่างั้นก็ขายไปบ้่างสิ คนน้องก็กลัวขาดทุน คงเป็นข้ออ้างมากกว่า 555เพราะทิ้งไว้ก็ราคาไม่ขึ้น ขนาดขายE200Komไปแล้วนะ
-
สิ่งที่แปลก คือ การทีมีคนเอาความคิดตัวเองเป็นที่ตั้งโดยตัดสินว่าคนที่คิดไม่เหมือนตัวเองผิด สังคมอยู่ได้ เพราะ ความแตกต่าง ต่างคนต่างจิตต่างใจ ต่างรสนิยม แล้วจะมานั่งตัดสินความคิดคนอื่นเพื่อสิ่งใด มีน้อยใช้น้อย มีมากใช้มาก หรือ จะมีน้อยใช้มาก มีมากใช้น้อย มันก็สุดแท้แต่การตัดสินใจของเจ้าตัว เงินของเค้าชีวิตของเค้า หากในเมื่อผลของการกระทำไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นและส่วนรวม ก็ไม่เห็นมีความจำเป็นอะไรที่ต้องมานั่งเป็นเดือดเป็นร้อนแทนผู้อื่น
ปล. พ่อแม่ผมสอนไว้ทำอะไรที่เราชอบ ไม่ผิดกฎหมายไม่เดือดร้อนคนอื่นเป็นพอ เราไม่ได้ขอเค้ากินก็อย่าไปสนใจมัน
-
ถ้าไม่ถึงกับเดือดร้อนก็ซื้อแบบที่ชอบดีที่สุดครับ เมื่อวานเพื่อนเพิ่งบ่นว่ารถเยอะไปแล้วพี่วี ใช้อยู่3คนมีทั้ง Volk Caravelle Citroen C8 Benz W211 5คัน E200NGT E350 E500 E55AMG E63AMG Audi TT MTM BMW 730LI 745LI Porsche Cayman ไม่รวมรถภรรยาและลูกๆอีกต่างหาก จอดนานๆจนเสีย ฝุ่นเขรอะ ชักรู้สึกเป็นภาระ ผมบอกว่างั้นก็ขายไปบ้่างสิ คนน้องก็กลัวขาดทุน คงเป็นข้ออ้างมากกว่า 555เพราะทิ้งไว้ก็ราคาไม่ขึ้น ขนาดขายE200Komไปแล้วนะ
เยอะมากครับ ;)
-
คุณ raygun
ครับผม ไม่ว่ากันครับ แตกต่างได้ ไม่แตกแยกครับ
มุมมองแต่ละคน มาแลกเปลี่ยนกันก็ดีครับ
ปล.ผมสมัครมาเพื่อนตอนกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกเลยนะเนี่ย หลังจากเข้ามาอ่านอย่างเดียว
.
.
.
น่ารักมากเลยครับ ยินดีต้อนรับ นะครับ
ผมชอบคุยกับคนที่คิดไม่เหมือนกัน
แต่รับฟังความเห็นที่แตกต่างได้ เพราะผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน
ว่าคนที่เค้าคิดไม่เหมือนเรา
เค้ามีเหตุผล หรือวิธีคิดยังไง เยี่ยมมากครับ
เข้ามาตอบบ่อยๆนะครับ
-
ต่างคนต่างความคิดครับ
บางคนคิดเยอะเพราะเรื่องเงินในกระเป๋ามีจำกัดแต่อยากได้รถดีๆซักคัน...อันนี้คืออารมณ์ แต่พอจะซื้อมันก็มีเหตุผลหลายอย่างที่ต้องคิดเลยหาตัวช่วย
บางคนรวยมากแต่ใช้รถยังไงก็ได้...อันนี้คนรู้จัก
ในขณะที่บางคนตั้งกระทู้ถามนู่น นี่ นั่น...เพียงเพราะต้องการแสดงให้คนอื่นรู้ว่าตัวเองกำลังจะซื้อรถยุโรปราคาหลักล้านนะฮ๊าฟฟฟ ;D ;D ;D
-
เรื่องนี้เพราะในสังคมมีคนหลายประเภท รวย ประหยัด
รวย ใช้ตามสมควร
รวย เกินตัว
ปานกลาง ประหยัด
ปานกลาง ใช้ตามสมควร
ปานกลาง เกินตัว
จน ประหยัด
จน ใช้ตามสมควร
จน เกินตัว
คนแต่ละกลุ่มจะคิดใช้จ่ายสำหรับเรื่องต่างๆ ไม่เท่ากันอยู่แล้ว
เรื่องการเลือกใช้รถก็เช่นกัน จึงไม่มีสูตรสำเร็จหรือกฎตายตัวสำหรับตัดสินว่าดี หรือไม่ดี แต่เราอาจคิดว่าเหมาะหรือไม่เหมาะเท่านั้นเอง
-
ผมชอบกระทู้นี้แฮะ ;D
-
อยู่ด้วยกันต้อง 5 ปีนะ ถ้ากำลังถึงซื้อรถแพงๆที่ชอบก็ไม่ผิดนะ
-
อยู่ที่ "เงิน" เท่านั้นครับ
-
ผมชอบกระทู้นี้แฮะ ;D
ใช่ครับ ชอบๆ
-
ซื้อรถ 5 ปีเปลี่ยน แม่มต้องรวยมาก
อาจะเป็นกลุ่มคนระดับบนของสังคม 5 % ของประเทศ
บอร์ดนี้รวมคนรวยอยู่ละครับ
-
ซื้อรถ 5 ปีเปลี่ยน แม่มต้องรวยมาก
อาจะเป็นกลุ่มคนระดับบนของสังคม 5 % ของประเทศ
บอร์ดนี้รวมคนรวยอยู่ละครับ
ไม่ได้รวยมากคับ แต่ชอบขับรถใหม่เฉยๆ ผมว่ารถเหมือนเช่าแหละ ไม่ได้มาดูมูลค่าอะไรเท่าไหร่ ผ่อนหมด ก็เอาไปดาวน์ต่อ แล้วก็ผ่อนต่อ แบบนี้ไปเรื่อยหนะครับ รถ 5 คันล่าสุดไม่มีคันไหนเกิน 5 ปีครับ ทั้งผมและแฟน รายได้พอประมาณ ไม่ใช้ 5% แรกของประเทศแน่ๆ ครับ
-
เพื่อ ----> คนที่เรารัก ^^
-
หน้าตาครับๆ :D