Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: kris-lack ที่ ตุลาคม 06, 2013, 21:47:20
-
พอดีนั่งอ่าน ไทยรัฐ อยู่
ที่หน้ากลางมีโฆษณา เรนเจอร์ เขียนเป็นตัวหนังสือสีแดงว่า มีรถพร้อมส่ง
แล้วที่เขาบ่นๆในเว็บกันนี่คืออะไร ที่รอนานๆ
สรุป ใครโกหคใครกันแน่นี่ งง
ถ้าโฆษณานี้เป็นเท็จ ขอประนาม ฟอร์ดเลยนะคะ
-
มีรถพร้อมส่งเฉพาะตัว 2.2 ครับ ส่วนที่บ่นรอนานกันจนรากงอกคือตัว 3.2 ล่าสุดไปถามมาเซลล์ฟอร์ดบอกไวขึ้นเยอะแล้วพี่ ตอนนี้รอแค่6เดือน :o :o :o
-
มีรถพร้อมส่งเฉพาะตัว 2.2 ครับ ส่วนที่บ่นรอนานกันจนรากงอกคือตัว 3.2 ล่าสุดไปถามมาเซลล์ฟอร์ดบอกไวขึ้นเยอะแล้วพี่ ตอนนี้รอแค่6เดือน :o :o :o
เอ่อออออ แค่ 6 เดิอนนนน
-
ต้องทำใจครับ
กะบะ Ford กับ mazda ขึ้นไลน์เดียวกัน
เค้ากำหนดกำลังการผลิต สูงสุดไว้ตั้งแต่ วางแผนแล้วครับ
ผลิตแบบ ตามคาดการณ์ ตาม การสั่ง
ตลาดหลัก ที่ ออสเตรเลีย ก็ ทำแทบไม่ทันครับ บ้านเราเค้าไม่เน้น ทำใจ
-
ต้องทำใจครับ
กะบะ Ford กับ mazda ขึ้นไลน์เดียวกัน
เค้ากำหนดกำลังการผลิต สูงสุดไว้ตั้งแต่ วางแผนแล้วครับ
ผลิตแบบ ตามคาดการณ์ ตาม การสั่ง
ตลาดหลัก ที่ ออสเตรเลีย ก็ ทำแทบไม่ทันครับ บ้านเราเค้าไม่เน้น ทำใจ
ตอนนี้ปัญหารอรถจนหลับมีเฉพาะตัว 3.2 เท่านั้นครับ ฝรั่งนึกไม่ถึงว่ามันจะขายได้ดีขนาดนี้เพราะราคามันสูงโควต้าเลยได้มาน้อยกะว่าขายได้ไม่กี่คันแต่ดันกลายเป็น backorder เยอะสุด ปัจจุบันได้โควต้าเพิ่มขึ้นมาแล้วก็ยังไม่พอกับความต้องการอยู่ดี
-
เท่าที่ผมได้ยินมานะครับ
กระบะ ตัว 3.2 ที่ขายในเมืองไทยนั้น "ขาดทุน" ครับ เนื่องจาก สเปคของวัสดุนั้น ดีมากและต้นทุนสูง
นโยบายฟอร์ด จึงให้คงอัตราการขาย ไว้ในระดับเดิม ตัว 3.2 จึงทำส่งนอกเยอะ (ราคาขายในต่างประเทศ สามารถขายได้แพงกว่าเมืองไทย)
ในเมื่่อขาดทุน ดังนั้น การคงอัตราการผลิตที่ไว้ขายในประเทศ จึงต้องเท่าเดิม มีรถส่งให้ แต่ไม่มาก เพื่อให้ขาดทุนน้อยที่สุด ครับ
ผมก็พอเข้าใจในระบบธุรกิจนะครับ ภาพลักษณ์ ก็ต้องมี ขาดทุน ต้องไม่ให้มี ในเมื่อมีแล้ว ต้องให้ขาดทุนน้อยที่สุด โดยภาพลักษณ์ไม่เสียมาก
ศูนย์ต่างจังหวัด ผมได้ยินข่าว ตัว 3.2 เดือนละคันเท่านั้นเอง ฝากผู้รู้มาแถลงไขอีกครั้งนะครับ
ส่วนตัว 2.2 คงจะล้นกำลังการผลิตแล้วล่ะ หุหุหุ
-
เท่าที่ผมได้ยินมานะครับ
กระบะ ตัว 3.2 ที่ขายในเมืองไทยนั้น "ขาดทุน" ครับ เนื่องจาก สเปคของวัสดุนั้น ดีมากและต้นทุนสูง
นโยบายฟอร์ด จึงให้คงอัตราการขาย ไว้ในระดับเดิม ตัว 3.2 จึงทำส่งนอกเยอะ (ราคาขายในต่างประเทศ สามารถขายได้แพงกว่าเมืองไทย)
ในเมื่่อขาดทุน ดังนั้น การคงอัตราการผลิตที่ไว้ขายในประเทศ จึงต้องเท่าเดิม มีรถส่งให้ แต่ไม่มาก เพื่อให้ขาดทุนน้อยที่สุด ครับ
ผมก็พอเข้าใจในระบบธุรกิจนะครับ ภาพลักษณ์ ก็ต้องมี ขาดทุน ต้องไม่ให้มี ในเมื่อมีแล้ว ต้องให้ขาดทุนน้อยที่สุด โดยภาพลักษณ์ไม่เสียมาก
ศูนย์ต่างจังหวัด ผมได้ยินข่าว ตัว 3.2 เดือนละคันเท่านั้นเอง ฝากผู้รู้มาแถลงไขอีกครั้งนะครับ
ส่วนตัว 2.2 คงจะล้นกำลังการผลิตแล้วล่ะ หุหุหุ
ผมว่าไม่ใช่หรอกครับ
เพราะตอนนี้ กำลังการผลิตมันสูงสุดมานานแล้ว มันผลิตเท่าเดิมมาตลอดสองปีตั้งแต่เปิดตัวเลยนะครับ ไม่ได้ลดไม่ได้เพิ่มแต่อย่างใด
แล้ว บ้านเราดันเป็นฐานการผลิตส่งออกไปทั่ว ภูมิภาค รวมถึง ออสเตเลีย
เข้าใจว่ารุ่น 3.2 เป็น Wild track รุ่น Top ซึ่งเท่าที่ดูการผลิตรุ่นนี้ไม่ได้มาก แต่ผลิตเป็น Lot ๆ ไปครับ อาจต้องรอให้ครบจำนวนถึงผลิตทีเดียว lot เล็กๆ หรือยังไงไม่แน่ใจ
จริงๆ รุ่น 3.2 มีผลิตไม่เยอะนะครับ เลยได้ช้านั่นเอง
นโยบาย Ford เค้ามาแบบนี้นะผมว่า
ตอนนี้เท่าที่ดูยอดผลิต เต็มที่ 12000 คันต่อเดือน คงที่มาตลอด ได้แค่นี้และไม่สามารถเพิ่มได้ มา สองปีตั้งแต่เปิดตัวแล้วครับ
12000 คันนี่ รวมบ้านเราและส่งออกนะครับ
ฐานผลิต เรนเจอร์ ส่งภูมิภาคนี้และใกล้เคียงอยู่ที่ประเทศไทย
ส่วนสำหรับส่งยุโรษและประเทศผู้ร่ำรวย ผลิตที่ แอฟริกาใต้ ( คุณภาพ ดีกว่าบ้านเราเยอะมากครับ ใช้ของคนละเกรดเลยมั้ง )
แล้วก็มี ตลาด อเมริกาใต้ ผลิต ที่ อาร์เจนติน่า ( อันนี้ ห่วยกว่าบ้านเรา )
ล่าสุด พี่รู้จักกันออก Wild track 3.2 มา รอแค่ สามเดือนเองนะครับ
เคสนี้เหมือน สวิฟนะเหลาะครับ
OEM ลงทุน Line ผลิตไว้ที่ระดับนึงเท่านั้น เพื่อการลงทุนที่เหมาะสมไว้แล้ว
แต่ ยอดขายกลับ ดีเกินคาด ก็เลยต้อง รอกันไป
ไม่มีทางที่ OEM จะเพิ่มกำลังการผลิตของรถ ได้ง่าย เหมือน งานฉีดพลาสติก นะครับ สรุปคือ รอกันต่อไปครับ รอได้ก็รอ
-
3.2 ผมว่าคงไม่ขาดทุนหรอกครับ เอาให้ขั้นแย่ที่สุดถึงแย่มากๆ ก็แค่ขาดทุนกำไร
เพราะยังไงราคาขาย + Vat ทุกๆอย่างจนงถึงราคาายปลีกก็ยังห่างจากราคาต้นทุนที่ผลิต ณ โรงานอยู่ประมาณราวๆ 50%
-
ไม่ใช่ตัว 2.2 ทุกตัวนะ ต้องเกียร์ธรรมดาด้วย
-
เพื่อนผมพึ่งออก 2.2 wildtrak double cab 4X2
รอเดือนเดียวครับ สีส้ม
-
3.2 WT ไม่มีส่งครับ ยอดจองเกินคาด
-
ขาดทุน?? ใครจะขายล่ะครับ ต้องเรียกว่ากำไรน้อยกว่าตัว 2.2 น่าจะถูกต้องกว่า
ผลิต 5 บาท ขาย 3 บาท ไม่มีใครทำหรอกครับ
-
อยากบอกว่า ลักษณะบุคคลิกการทำธุรกิจของฝรั่ง ถ้าตลาดดูแล้วไม่ค่อยมีอนาคต มันพร้อมทิ้งลูกค้าทันที ตย.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ M และถ้าทิ้งแล้ว อะไหล่ที่จะซ่อมให้ยังไม่มีบริการด้วยครับ คิดว่า รถยนต์คงไม่ต่างกัืมิ
-
หน้าจะเป็นฌฉพาะรุ่นไวล์แทรค....ที่ต้องรอนาน.....ผมจอง wt2.2 hr ไว้รอมาครบปีแล้วยังไม่มีกำหนดรับรถเลยครับ.....คิดแล้วเศร้า...T_T
-
ขาดทุน?? ใครจะขายล่ะครับ ต้องเรียกว่ากำไรน้อยกว่าตัว 2.2 น่าจะถูกต้องกว่า
ผลิต 5 บาท ขาย 3 บาท ไม่มีใครทำหรอกครับ
มีครับ
http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=6634: (http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=6634:)เฉลยความจริงของรถรุ่นขาดทุนในยุโรปที่คุณจะต้องตะลึง&catid=47:worlds-news&Itemid=160
ในไทยนี้ถ้าจำไม่ผิดคุณจิมมี่เคยกล่าวไว้ที่ขายขาดทุนระยะแรกคันละประมาณ 20,000 บาท คือ นาวารา
-
ผมฟังจากวงใน (มีเพื่อนอยู่ในโรงงานคับ)
และอีกเรื่อง คือ ศักดิ์ศรี ที่บางครั้ง ขาดทุนรุ่นนี้ แต่รุ่นอื่นพอมีกำไรไปถัว ครับ (หรือเอาของที่ส่งต่างประเทศ มาถัวครับ)
ดูก๊าซ ปตท. ก็ได้ ขายในประเทศ แพงกว่า นอกประเทศ 555+
อีกเรื่องคือ โรงงาน ทำเครื่องยนต์ให้โตโยต้า ได้โบนัส 10 เดือน แล้ว โตโยต้ามอเตอร์ ได้ 10 เดือน ท่านคิดว่า แต่ละจุดนั้น เขากำไรกันเท่าไหร่ ไม่ใช่กำไรที่ขายรถนะครับ กำไรตอนประกอบเครื่องยนต์อีกครับ (คนละโรงงานนะ ถือเป็นคนละบริษัทด้วยนะเออ ^_^ )
ถามว่า ทำไมขาดทุนถึงขาย
ผมมีสินค้าบางรายการที่ขายออกไป และขาดทุนกว่า 50% ครับ ถึงเวลามันจำเป็นต้องขาย ก็ต้องขายครับ การค้า กำไรอย่างเดียว ธุรกิจอาจจะทำไม่ได้ครับ ^_^ มันมีเหตุผลอื่นมาประกอบด้วย
-
ตาม link ที่บอกว่าขาดทุนนั่น
เท่าที่ดู มันพวกรถที่ขายไม่ออก หรือ ขายไม่ได้นี่ครับ
เลยขาดทุนเพราะ ลงทุนรถ model หนึ่งใช้งบหลายพันล้าน
เท่าที่เห็นมันพวก super ขายที่ยอดขาย มีแค่ไม่กี่คัน หรือรถ Indy ที่คนเค้าไม่ซื้อกัน
แต่ Ford นี่ มันขายไม่ทันนะ
อย่าง นาวาร่า นี่ ทำยอดได้ก็ไม่ขาดทุนหรอกครับ
แต่ ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าก็ขาดทุน ไปตามระเบียบ
-
คนเมืองนี่แย่งซื้อกันเยอะจริงๆ..
มาดูที่เมืองเล็กๆอย่างบ้านผมสิครับ..
เรนเจอร์จอดรอในศูนย์เต็มเลย ถ้าสีตรงรุ่นตรงพร้อมออกรถได้ทันที..
วันที่ 19 ก.ย. เพิ่งเอารถไปเช็คระยะ.. มี wildtrak 2.2 auto hi-rider สีขาว 1 คันยังไม่มีคนจอง (ตอนนี้น่าจะโดนไปแล้ว)
อีกคันก็ 2.2 wildtrak สีบรอนซ์เงิน 4x4 ก็ยังไม่มีคนเอา จอดตากฝนอยู่ที่ศูนย์..
wildtrak 3.2 สีส้มก็จอดรอส่งลูกค้าพอดี..
ตัว 3.2 เท่าที่ผมจำได้ ศูนย์บ้านผมได้โควต้าน้อยมาก...
WT 3.2 หนึ่งคัน ต้องพ่วงเฟียสต้า 4-5 คัน โฟกัสอีก 3-4 คัน จึงจะได้ WT 3.2 ซักหนึ่งคัน
นึกถึงสมัยออกเฟียสต้า อยากได้เรนเจอร์ใจจะขาด แต่ไม่มีรถให้ ไม่มีกำหนดรับรถ
มาตอนนี้สิ รถจอดรอเพียบ.. (เฉพาะ 2.2 นะ) >:( >:( >:(
-
ประเด็น คือ คนที่ได้รถเร็ว ๆ ไม่ได้มาบ่น นะครับ
คนบ่น นะส่วนน้อยมากกว่า
คือ ปกติ ซื้อรถ มันผลิตตาม order เพราะรถมันราคาแพง
ผมว่ามันก็ไม่น่าเกลียดนะ รอเดือน สองเดือน เองนะ บางศูนย์รถก็มี
แต่ไอ้รุ่น 3.2 นี่เค้าก็ผลิตตาม Order
คุณสั่งวันนี้ อย่างเร็วก็อีก 3 เดือน
สรุปให้ จขกท คือ ตอนนี้ ford มีรถพร้อมส่ง แต่ต้องเป็นรุ่นที่มีใน stock
แต่ เราชอบคิดกันไปเองว่ารถมันเหมือน ของกิน ที่เดินไป จ่ายเงินแล้ว เอารถมาเลย มันไม่ช่ายน้า