Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Lookkaew ที่ ธันวาคม 10, 2009, 16:50:59
-
หลายคนที่กำลังเล็งรถเล็ก 1.5 ในตลาดตอนนี้ คงมองคู่กัดนอกสังเวียนคู่นี้อยู่ Suzuki Swift vs Mazda 2
วันนี้ว่างๆ เลยแวะไปดูสวิฟท์ตัวจริงซักหน่อย เพราะผมก็เป็นอีกคนนึงที่เล็งรถเล็ก sub compact อยู่เหมือนกัน
เอาเป็นว่า รูปน้องวิป คงดูกันมาเยอะแล้ว มาดูภาพภายในกันบ้างดีกว่าครับ
-
ท้ายรถ อีกหนึ่งจุดขายของสวิฟท์ ดูๆ แล้วมันเหมือนเอาห้องเก็บของท้ายรถ Yaris+Mazda 2 เลย
คือช่องเก็บของท้ายรถจะมีสองชั้น ทำด้วยพลาสติกบุสักหลาด ชั้นบนสามารถเปิดพับครึ่งเพื่อใส่ของด้านล่างได้ แต่ด้านล่างก็บุสักหลาดเหมือนกัน ไม่สามารถใส่ของเปียกอย่างที่คิดไว้ และถ้าจะใส่ของมีกลิ่นก็คงไม่ได้อีก เพราะมีช่องระบายอากาศไว้สองช่องครับ
-
ขณะปิดครับ
-
มีเรื่องน่าประหลาดใจอย่างนึง ไม่ถือว่าเป็นข้อติละกัน แผงคอนโซลด้านหลัง ที่เป็นพลาสติกวางของที่สามารถกระดกได้นั้น มันไม่มีเชือก!!! คือเวลาที่เราเปิดท้ายรถ เจ้าแผ่นนี้ก็มิได้กระดกอ้าตามไปด้วย จะวางตัวขนานกับตัวรถอยู่อย่างเงียบเชียบ ซึ่งเราสามารถพลิกให้ตั้งฉากขึ้นกรณีที่ต้องการเปิดช่องทางการใส่ของท้ายรถให้สะดวกขึ้น หรือจะถอดออกทั้งชิ้นเลยก็สามารถทำได้ครับ สำหรับไฟส่องห้องสัมภาระด้านท้าย มีสวิทช์ปิด-เปิดตามต้องการได้เหมือนมาสด้า 2 เป๊ะครับ
-
มุมมองจากฝาท้ายรถครับ ระบบกลอนฝาท้ายเหมือน Yaris/Tiidaเลย คือจะเป็นปุ่มปลดล็อคฝาท้ายแยกออกมาอีกปุ่ม ส่วนปุ่มที่ใช้ปลดกลอนเวลาต้องการเปิดฝาท้ายรถนั้นอยู่ด้านใน ต้องสอดมือเข้าไปกด ต่างกับมาสด้าสองที่สามารถกดปุ่มเปิดฝาท้ายได้ในทันทีเมื่อกุญแจอยู่ในรัศมีด้านท้ายรถ เวลาปิดฝาท้ายก็เหมือน Yaris/Tiida คือต้องเอื้อมมือไปดึงที่จับแล้วเหนี่ยวลงมาก่อน ค่อยเอาอีกมือกดฝาท้ายจากที่จับด้านนอก ถึงจะปิดได้สนิท ต่างกับมาสด้า 2 ที่สามารถกระชากฝาท้ายจากมือจับด้านในและปล่อยให้มันทิ้งตัวลงมาปิดได้เองในทันที
-
มาดูที่ภายในกันบ้างครับ สวยเรียบจริงๆ ครับ คอนโซลหน้าตาเรียบร้อยมากกกกก ไฟเก๋งถูกย้ายมาตรงไฟส่องแผนที่ แบบเดียวกับมาสด้า 2 เป๊ะเลย
-
ตำแหน่งคนขับครับ
-
ตำแหน่งคนนั่งหน้ากันบ้าง เบาะแบนๆ ที่เห็นในรูป เอาเข้าจริงนั่งสบายและกระชับมากกว่าที่คิดครับ ผมว่าวัสดุมันนุ่มมือและมีซัพพอร์ทข้างแน่นหนากว่ามาสด้า 2 นะ
-
F5 รัวๆ 555
เอ๊ะเอามาจากไหน
-
มาที่เบาะหลังกันบ้าง ไม่น่าเชื่อว่ารถที่มีฐานล้อสั้นแค่ 2,390 มม. แต่มีพื้นที่สำหรับผู้โดยสารตอนหลังมากกว่าที่คิด ทางเข้า-ออก อาจะจะแคบไปสักหน่อย ต้องเบี่ยงเท้าหลบเสา B เวลาออกจากรถ แต่เมื่อเข้าไปนั่งได้แล้ว นั่งสบายกว่ามาสด้า 2 แบบชัดเจน เพราะขนาดเบาะที่โตกว่า ส่วนรองนั่งมากกว่า พื้นที่เหนือศีรษะที่เหลือเยอะอย่างที่คาด ส่วนพื้นที่ว่างช่วงเข่านั้นพอๆ กันกับมาสด้า 2 ครับ
-
เอาเป็นว่า Test Drive กันเลยดีกว่าครับ เดี๋ยวโดนขัดจังหวะอีก
-
ขอสรุปเน้นๆ ด้วยนะครับ เอาแบบไม่ต้องเกรงใจใครเลยครับ
-
รีโมทแยกส่วนได้ครับ เวลาจะขึ้นรถ ปลดล็อคครั้งแรก จะเป็นการปลดล็อคเฉพาะประตูคนขับครับ ต้องกดปลดล็อคอีกครั้งหนึ่ง ถึงจะเป็นการปลดล็อครอบคัน ตรงนี้ผมว่าเป็นไอเดียที่ดีมากครับ ยุโรปมาเชียว
-
ด้านหลัง (ดอกกุญแจใหญ่มากกกก)
-
คันบิดสตาร์ท หน้าตาน่ากลัวและใหญ่ยักษ์พอสมควรครับ ไม่มีตัวครอบปิดรูเสียบกุญแจแบบมาสด้า 2 ครับ สภาพพลาสติกคอพวงมาลัยเ้ยินไม่ต่างจากมาสด้า 2 คันที่ไปทดลองขับเลยทีเดียว
-
หน้าปัดครับ มีมาแค่ 180 เท่านั้น หน้าตาดูเรียบมากๆ ครับ
โปรดสังเกตมุมบนซ้ายของภาพ จอแสดงข้อมูลรถ มีอัตราการกินน้ำมันและอุณภูมิภายนอก บอกตรงๆ ตรงนี้ด้อยกว่ามาสด้า 2 มากตรงที่เวลากด set เปลี่ยนโหมด ต้องเอื้อมไปสุดแขน เพราะปุ่มมันอยู๋บนหน้าจอ ราวกับว่าไม่ต้องการให้ไปยุ่งอะไรกับหน้าจอขณะขับรถ นึกซะว่าเป็นมาตรการเพื่อความปลอดภัยก็แล้วกันครับ
ซึ่งของน้อง 2 ควบคุมด้วยปุ่มบนพวงมาลัย หน้าจอ multi-info ก็อยู่ใกล้กว่า และปรับค่าได้หลากหลายกว่า ซึ่งรวมถึงระบบเตือนเมื่อวิ่งด้วยความเร็วเกินกำหนดด้วย
-
รูปแบบปิดแฟลชถ่าย สีไฟหน้าปัดจะเป็นสีขาว-แดงครับ
-
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ลังเลกันได้ง่ายๆ ราคาแค่ 649,000 ให้แอร์อัตโนมัติหน้าจอดิจิตอล!!! แถมอุณหภูมิยังปรับได้ละเอียดเป็น .5 องศาเซลเซียสซะด้วย จากที่ลองเปิดใช้ดู แอร์เย็นช้าไปสักหน่อย แม้กดอุณหภูมิไปขนาดนั้นแล้วก็ตาม
-
คันเกียร์แบบ gate type การทำงานและการตัดต่อเกียร์นุ่มนวลใช้ได้ แต่ตรงนี้ผมว่ามาสด้า 2 มีจังหวะตัด-ต่อเกียร์ที่เนียนกว่า
-
ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่มีหน้าตาคล้าย Mazda 3 เลย วงพวงมาลัยอวบกระชับจับถนัดมือ หุ้มหนังมาพร้อม แถมมีกริปล็อคนิ้วโป้ง ดูสปอร์ตขึ้นอีกหน่อย
-
สำหรับช่องเก็บของในส่วนอื่น มีไม่มากมายครับ ช่องเสียบ USB, AUX-in ไม่มีมาให้ครับ เสียดายไม่ได้พกแผ่นซีดีไปด้วย เพราะไม่ได้ตั้งใจจะไปทดลองขับเลย เสียงจากวิทยุเมื่อปรับ Bass/Treble เยอะๆ ใช้ได้ครับ แต่ผมว่ามันแห้งจัง อาจเป็นที่การฟังวิทยุก็ได้ครับ
-
แผงประตูคนขับครับ ไม่มีที่ใส่ขวดน้ำ ใส่ได้แต่หนังสือหรือสิ่งของนิดหน่อย ปุ่มปรับกระจกมองขับไฟฟ้าแบบ joystick พร้อมปุ่มพับกระจกมองข้าง นอกเหนือจากนั้นยังมีปุ่มล็อค/ปลดล็อคประตูเสริมแบบ Yaris ด้วยครับ ซึ่งตรงนี้ Jazz/Mazda 2 ไม่มีให้
-
ออกรถกันเลยดีกว่า คราวนี้ขอสรุปสั้นๆ แล้วกันนะครับ ขอยกไปเทียบกับ Mazda 2 Maxx Sport ที่เคยทดลองขับสักหน่อย
- พวงมาลัย น้ำหนักดีครับ คมกระชับ ในพื้นที่ๆ ทดลองขับนั้นมีการตั้งกรวยซิกแซก ผมมีความรู้สึกว่าชอบพวงมาลัยของน้อง 2 มากกว่า เพราะมีรอบการหมุนที่สั้น และเบามือกว่า หรือจะเรียกว่าพวงมาลัยสวิฟท์นั้นหนักมือกว่า มุดไม่สนุกเท่าน้อง 2 ก็ไม่ผิด
- เบรค ผมไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ ระยะการทำงานยาว แต่ไม่ใช่เบรคลึกนะครับ แต่มันไหลๆ ยังไงชอบกล จังหวะเบรคกระทันหัน แทบไม่รู้สึกว่าแป้นเบรคมันตีเท้าเลย เสียงยางร้องชัดเจนมากๆ ต่างกับมาสด้า 2 ที่ตอนนั้นผมกระืทืบเบรคจากความเร็ว 60 บนพื้นคอนกรีต แป้นเบรคตีเท้าถี่ๆ อย่างชัดเจน และไม่มีเสียงยางร้องสักแอะ ระยะเหยียบก็ไม่ลึกมาก ระยะเบรคก็สั้น
- ระบบรองรับ กันสะเทือน ทำได้ดีครับ นุ่มนวล ยางติดรถเป็น Bridgestone Potenza RE080 ขนาด 185/60R15 หรือก็คือยางรุ่นเดียวกับยาริส/วิออสนั่นล่ะครับ ช่วงล่างโดยรวมไม่แข็งสปอร์ตจ๋าแบบ 2 Maxx Sport แต่ก็ไม่แน่ใจครับว่าถ้าเทียบกับรุ่น Spirit Sport ที่ให้ยาง Dunlop Sport ขนาด 185/55R15 ใกล้เคียงกันนั้น จะเป็นอย่างไร
อีกอย่างนึงที่ผมไม่ชอบเลยจริงๆ กระจกมองข้างครับ มันเล็กมาก ผมว่าแย่กว่ามาสด้า 2 อีกนะ กระจกมองข้างมาสด้าสองมันมีส่วนสูงน้อยไปและมีกรอบบังกระจกก็จริง แต่ในสวิฟท์นี้ คงต้องขับกันจนชินมือเลย ถึงรู้สึกว่าปกติครับ
-
รูปภาพเพิ่มเติมนะครับ
-
ไฟท้ายสวยดีเหมือนกันนะนี่
-
ของที่ระลึก น่ารักมากๆ
-
เป็นรูบิคครับ
-
สีรถทั้ง 7 ครับ บอกตรงๆ สีแดงไม่สวยเลย สีที่ผู้คนให้ความสนใจมากๆ จะเป็นสีแดง Bergundy ครับ สีจริงจะคล้ายม่วงเปลือกมังคุด แต่เวลาโดนแสงจะมีประกายแดงผสมอยู่เยอะหน่อย
-
นี่ครับ Burgundy Red Pearl หรือสีม่วงเข้มที่เซลล์เรียก หรือใครจะมองว่าเป็นน้ำตาลแก่ก็คล้ายครับ
-
เห็นรูบิคแล้วกรี๊ดสลบ อยากได้ครับ ><
ไม่รู้เอามาอัดแฮโค๊ตแล้วลืนหัวแตกหรือป่าว
-
สรุปว่าการทดลองขับครั้งนี้ ทำให้ผมต้องเครียดอีกครั้ง เพราะเล็งมาสด้า 2 Maxx Sport สีแดงไว้
Suzuki Swift GL 649,000
- เซลล์ใจเย็นมากๆ เหมือนไม่ค่อยอยากขายรถ :( จนต้องเดินไปหาเซลล์คนอื่นๆ อย่างคนที่พาไปทดลองขับนี่ค่อยดีขึ้นหน่อย ไม่บีบบัีงคับปิดยอดเลย เหมือนว่า อยากรู้อะไรถามมา ;) จองตอนนี้ เลยปีใหม่ไปหน่อยก็ได้รถแล้ว
- รูปลักษณ์สวิฟท์โดยรวม ดูไม่สปอร์ตเลย ดูเรียบหรู คลาสสิค เกือบทุกสีไม่โดนใจ สีขาวที่ดูยังไงๆ ก็ไม่เห็นว่ามันจะมุกเลย ต้องเพิ่มเงิน 5,000 แต่ช่วงนี้ยังไม่ต้องเพิ่มครับ
- บุคลิกในการขับขี่: ผมรู้สึกว่าเครื่องมันไม่ได้แรงกว่ามาสด้า 2 เลยครับ บางจังหวะที่คิกดาวน์ มีการงงๆ เล็กน้อย ตัวรถมีอาการ understeer ชัดเจนเวลาเลี้ยวมุมแคบที่ความเร็วต่ำ แต่ไม่ถึงกับรุนแรงอะไร
Mazda 2 Maxx Sport 690,000
- เซลล์แย่งกันจิกลูกค้าสุดฤทธิ์ เร่งการจองชนิดสุดยอด จองวันนี้ได้รถ มี.ค.-เม.ย. โหหหหหหหห!!! ขายดีขนาด มีการขู่ด้วย ว่าถ้าจองกุมภาฯ ได้รถโน่นนนน พฤษภา-มิถุนา โดยเฉพาะสีแดงและสีเขียว
- รูปลักษณ์ 2 โดยรวม สปอร์ตมาก เปรี้ยวมาก จนในบางมุม มันดูเป็นรถการ์ตูนไปเลย สวยทุกสี แต่สีฟ้าจืดไปนิดนึง ลูกค้าให้ความสนใจมากจริงๆ เซลล์แย่งกันขายราวกับแย่งกันช้อนปลานิลในบ่อเลย
- บุคลิกในการขับขี่: ผมชอบไปหมดทุกจุด เป็นรถที่เหมาะกับการขับในเมืองจริงๆ พอรถเริ่มเคลื่อนตัวไปแล้ว เหยียบ-มุด-เบรค สนุกมากๆ แต่เมื่อความเร็วเริ่มเกิน 80 ความเหี่ยวก็เริ่มถามหาครับ ความเร็วหลังจากนั้นไป ก็คงอย่างที่พี่จิมมี่บอกน่ะครับ ตีนปลายไปจุกอยู่แค่ 165 จะเอาอะไรมาก เนอะ
สิ่งที่ผมสงสัย
- สเป็คในกระดาษ สวิฟท์หนักแค่ 1,000 กิโลกรับ ซึ่งเบากว่า 2 ถึง 60 โล แต่เวลาขับขี่ ผมกลับรู้สึกว่ามาสด้า 2 เบา พริ้วไหวกว่า แต่สวิฟท์มันดูหนักๆ เหมือนขับรถยุโรปยังไงชอบกล (น้ำหนักบรรทุกประมาณ 200 โลเท่ากัน)
- อัตราทดเกียร์และเฟืองท้าย Swift&2 ใกล้เคียงกันมาก โดยเฉพาะเกียร์ 3 และ 4 เหมือนกันเป๊ะ แต่ถ้ายึดตามโบรชัวร์ Swift จะมีแรงบิดแค่ 133 Nm ซึ่งน้อยกว่ามาสด้า 2 เสียอีก แรงม้าก็ 74 KW ซึ่งก็น้อยกว่ามาสด้า 2 อีก (76 KW) สอดคล้องกับที่ผมรู้สึกตอนทดลองขับว่ารู้สึกรถมันหนักๆ ไม่ปรู๊ดปร๊าดเลย แถมบางช่วงที่คิกดาวน์ มีอาการคิดนานอีก
- พวงมาลัยสวิฟท์ที่หลายคนไปลองมา ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าดีกว่ามาสด้า 2 แต่เอาเข้าจริงผมรู้สึกว่าระยะหมุนสุดมันเหมือนจะเยอะกว่า ทั้งๆ ที่วงเลี้ยวแคบสุดก็แคบกว่าเขา ล้อก็วงเล็กกว่าเขา แต่ทำไมรู้สึกพวงมาลัยมันไม่ฉับไวเลย ดีตรงน้ำหนักและความแม่นยำ
สรุปว่าคิดกันต่อไปครับ เฮ้อ... :o รออ่าน Full Review ของพี่ J!MMY กันครับ คงอีกไม่นาน
-
รีวิวนี้ดีครับ ได้หลายแง่มุมที่รีวิวอื่นของรุ่นนี้ยังไม่มีให้
ลูกเล่นที่ห้องเก็บของ มีประโยชน์มากเลยทีเดียว น่าใช้
ปล.ยังไงบริษัทสีจะขายรถ ช่วยเอามาขายหลายๆสีหน่อยได้มัยครับ
ที่บ้านอยากได้สีชมพูมากๆเลย จะมีโอกาสบ้างมัยเนี๊ยะ
-
จากความรู้สึกที่ลอง 2 แล้วไปลอง swift นะครับ
ผมว่าพวงมาลัย swift เบากว่า 2 นะครับ แต่ไม่เบาเหมือน jazz
ขับ swift คล่องกว่า 2 ครับ swift
อัตราเร่งดีกว่า 2 พอควรเลย แต่ เกียร์ 1 จะไม่จิ๊ดมาก จะไปจิ๊ดตอนเกียร์ 2-3 ครับ
-
จากความรู้สึกที่ลอง 2 แล้วไปลอง swift นะครับ
ผมว่าพวงมาลัย swift เบากว่า 2 นะครับ แต่ไม่เบาเหมือน jazz
ขับ swift คล่องกว่า 2 ครับ swift
อัตราเร่งดีกว่า 2 พอควรเลย แต่ เกียร์ 1 จะไม่จิ๊ดมาก จะไปจิ๊ดตอนเกียร์ 2-3 ครับ
ที่ว่าจี๊ดตอนเกียร์ 2-3 หมายถึงกดมิืดคันเร่งรึเปล่าครับ คือความเร็ว 100-140
ผมทดลองในงานอะครับ ใช้ความเร็วได้แค่ประมาณ 60 เอง
เอ...หรือว่า Swift คันที่ผมลองมันจะแปลกๆ มันหนักๆ หนืดๆ ช้าๆ ยังไงชอบกล ทั้งๆ ที่น้อง 2 คันที่ผมลองใส่ล้อโตกว่า รถก็วิ่งมาแค่ร้อยกว่ากิโลเมตรเอง พื้นผิวทดสอบก็เหมือนๆ กัน
-
ลมยางอ่อนรึเปล่าครับ
คันที่พี่ไปลองมา
เบรคแล้วยางร้อง
รถหนักๆ
อาจจะเป็นไปได้นะครับ
-
ลมยางอ่อนรึเปล่าครับ
คันที่พี่ไปลองมา
เบรคแล้วยางร้อง
รถหนักๆ
อาจจะเป็นไปได้นะครับ
คิดอยู่เหมือนกันครับ ว่าลมยางอ่อนไปมั้ย แต่มันก็ไม่น่าส่งผลมากขนาดนี้เลย ผมก็ไม่มีที่วัดลมยางซะด้วยสิ
ส่วนเรื่องยางร้อง มันร้องเหมือน ABS ไม่อยากทำงานน่ะครับ เทียบกับมาสด้า 2 แล้ว รายนั้นไม่ร้องสักแอะ แต่ ABS ทำงานไวมาก กระทืบมิดแป๊บเดียว ทำงานสู้เท้าจึ้กๆๆ ใหญ่เลย
-
ผมลองทั้ง 2 คันมาแล้ว
ถ้าเลือกคงเลือก Swift ครับ ทั้งๆที่ทีแรกตั้งป้อมจะถอย Mazda2 แล้ว
แต่หลังจากไปทดลองนั่ง Mazda2 นั่งแล้วดูอึดอัดกว่า Headroom เหลือน้อย
ส่วนเรื่องเครื่องยนต์ ช่วงล่าง ผมคิดว่า Swift ด้อยกว่า Mazda2 เล็กน้อยครับ แต่ผมกลับชอบพวงมาลัย Swift มากกว่า
การทรงตัว ช่วงล่างผมมีความรู้สึกดีกว่า Yaris Jazz เพราะ ทั้ง Mazda2 & Swift มีความฉับไว มั่นคง กระฉับกระเฉง นุ่มหนึบกำลังดีครับ
Yaris ตัว S-Ltd ที่เคยลอง ออกแนวกระด้างเกินไป
Jazz ก็ช่วงล่าง ใช้ได้ แต่ไม่หนักแน่นเท่าครับ
-
jazz & Yaris มีสั่นกันบ้างระว้า ทั้ง 2 และ น้องจิ้งจก มาเขย่าบัลลังค์ ละงานนี้
-
เสริมนิดให้แฟนๆ Swift ครับ
ก่อนปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ พวงมาลัยน้อง Swift มีปุ่ม Multifunction สองข้างเต็มๆ ครับ ไปหาซื้อในญี่ปุ่นได้
โดย Function หลังไมเนอร์ก็ไม่ได้มีอะไรแต่งต่างครับ แค่ยุบลงมาให้เหลือเพียงข้างเดียว คาดว่า
คงเตรียมไว้สำหรับ Bluetooth ให้อยู่ด้านขวาตามสมัยนิยม แต่เท่าที่เห็นไมเนอร์แล้วก็ยังไม่มีนะ
ต้องเปลี่ยนสเป็ควิทยุด้วยอาจจะไม่คุ้มลงทุน แต่ถ้าวิทยุเท่าที่มีอยู่ เปลี่ยนแค่ปุ่มกดให้เต็มๆ สองข้าง
สวยขึ้นเยอะนะครับ ก็ลองแนะนำดูน่ะครับ ;)
(http://k41.pbase.com/v3/08/353108/2/49071346.Steeringwheelwithaudiocontrols.jpg)
http://k41.pbase.com/v3/08/353108/2/49071346.Steeringwheelwithaudiocontrols.jpg
รูปอาจจะไม่ติดนะ ต้องก๊อปไปแปะเอง
-
ขอบคุณที่รีวิวมาให้อ่านนะครับ เดี๋ยวไว้รอรับและขับจริงๆจังๆวันที่25นี้ละครับ
-
ที่ swift ไม่ฉับไวเท่า อาจเป็นเพราะ ยังใช่ พาวเวอร์แบบไฮโดรลิกละมั้งครับ แต่ใน MZ2 นี่เป็น ไฟฟ้า แล้ว เลยน่าจะฉับไวกว่า อันนี้ผมเดานะครับไม่เคยลองตัวรถ
-
ขอบคุณครับ
-
ผมว่าข้อเสียอย่างเดียวของ Swift คือ เล็กไปหน่อย
ความจริงมันเล็กสุดในกลุ่มนี้เลยนะครับ แต่ผมว่าเบาะหลังกลับนั่งสบายกว่า Mazda2
ถ้าจะซื้อมาสด้า2 ผมว่า Swift นี่น่าสนใจมากครับ (และผมก็ชอบ Swift มากกว่าด้วย)
-
ผมว่าข้อเสียอย่างเดียวของ Swift คือ เล็กไปหน่อย
ความจริงมันเล็กสุดในกลุ่มนี้เลยนะครับ แต่ผมว่าเบาะหลังกลับนั่งสบายกว่า Mazda2
ถ้าจะซื้อมาสด้า2 ผมว่า Swift นี่น่าสนใจมากครับ (และผมก็ชอบ Swift มากกว่าด้วย)
ใช่เลยครับ แต่ดีไซน์ภายนอก-ภายใน ทำไมมันเรียบร้อยขนาดนี้ก็ไม่รู้