Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: KAKASHII ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 14:03:05

หัวข้อ: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: KAKASHII ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 14:03:05
  กลุ่ม ปตท.กำไร 9 เดือนแตะ 1.68 แสนล้านบาท PTT กำไร 7.9 หมื่นล้าน รายได้ขาย 2 ล้านล้านบาท “ปตท.สผ.” กำไร 4.8 หมื่นล้าน จากราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยเพิ่มขึ้น ด้าน PTTGC โกยรายได้ 3.9 แสนล้าน “บางจาก” ยอดขายรวม 1.3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% ขณะที่ IRPC พลิกจากขาดทุน กลับมามีกำไร 42 ล้านบาท
       
       บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยผลดำเนินงานในช่วง 9 เดือนว่า บริษัท และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายรวม 2.09 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แม้ว่าราคาน้ำมันดูไบเฉลี่ยปรับลดลงจาก 109.6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 105.1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่กำไรก่อนรายการดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา หรือ EBITDA ลดลง 2.6% มาอยู่ที่ระดับ 1.69 แสนล้านบาท เนื่องจากผลประกอบการที่ลดลงของหน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ โดย PTT มีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 2.19 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามผลดำเนินงานที่ดีขึ้นเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 7.92 หมื่นล้านบาท ลดลงจากช่วงดียวกันปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 8.19 หมื่นล้านบาท
       
       ด้าน บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ได้รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 3 ว่า มีกำไรสุทธิ เท่ากับ 1.78 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 3 ปี 2555 จำนวน 1.75 หมื่นล้านบาท โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 5.79 หมื่นล้านบาท สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่อยู่ระดับ 5.70 หมื่นล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น เช่น ราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยที่เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ ของไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นเป็น 65.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล สำหรับงวด 9 เดือนสิ้นสุดเดือนกันยายนปี 2556 เปรียบเทียบกับปี 2555 ทำให้ ปตท.สผ. มีกำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือน รวม 4.87 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 210 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 15% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2555 ซึ่งมี 4.35 หมื่นล้านบาท
       
       ขณะที่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 3 มี EBITDA รวม 1.63 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 9.6 พันล้านบาท ส่วนภาพรวมงวด 9 เดือนแรกปีนี้ มี  EBITDA รวม 4.42 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2.58 หมื่นล้านบาท ขณะที่ภาพรวมงวดปี 2555 มี EBITDA รวม 5.58 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3.40 หมื่นล้านบาท โดยในงวดปีนี้ถึงแม้บริษัทจะมีรายได้รวมงวด 9 เดือนแรกเพียง 3.9 แสนล้านบาท ต่ำกว่างวดปีก่อนที่ได้ 4.1 แสนล้านบาท แต่กลับมามี EBITDA และกำไรสุทธิสูงขึ้น เป็นเพราะได้รับประโยชน์จากการควบรวมธุรกิจ ซึ่งทำให้เกิดการต่อยอด และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ได้สูงขึ้นกว่าเดิม
       
       ด้าน บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP มีกำไรสุทธิไตรมาส 3/56 ที่  7.60 พันล้านบาท จาก   1 หมื่นล้านบาท เมื่อไตรมาส 3/55 และมีกำไรสุทธิในรอบ 9 เดือนแรกที่ 1.04 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1.03 หมื่นล้านบาท ในงวด 9 เดือนแรกปี 2555
       
       สำหรับ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) มีผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกในปีนี้ กำไรสุทธิ 42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 747 ล้านบาท โดยมีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน 1.64 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 695 ล้านบาท
       สุดท้าย บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 มีรายได้รวม 4.60หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 1.35 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ผลการดำเนินงานใน 9 เดือนแรก มีรายได้รวม 1.38 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 3.96 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%
       
        ทั้งนี้  เมื่อนำผลกำไรสุทธิของทั้งกลุ่ม ปตท. มารวมกันพบว่า ทั้งกลุ่มมีกำไรสุทธิงวด 9 เดือนประมาณ รวม 1.68 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน




ปล.  ปีหน้าคงกำไรแตะ 2 แสนกว่าล้าน และราคาน้ำมันบ้านเราคง 60บาท/ลิตร หุหุ
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: -Anonymous- ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 14:19:08
ไม่เป็นไรครับ หนีไปe85 ไม่ก็ดีเซล อิอิ ;D
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: dht_tubes ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 14:47:35
แต่ดอกหุ้นกู้ไม่เห็นขึ้นตามกำไรเลย  ;D ;D
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: AkE ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 14:48:49
ไม่เป็นไรครับ หนีไปe85 ไม่ก็ดีเซล อิอิ ;D
ถูกต้องที่สุดคับ 555
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: rut191 ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 15:15:53
แสดงว่า 7-11 ของปตท.ขายดี เพราะเห็นมีแต่คนไปเข้า7-11กับเข้าห้องน้ำ555
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: LimitedEdition ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 15:20:05
มีใครทราบมั้ยครับ ว่ารายได้จากการขายปลีกน้ำมันผ่านปั๊ม ปตท. ถูกบันทึกเข้าที่บริษัทไหน
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: i-din ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 15:37:48
รายได้ 2.09 ล้านล้านบาท กำไร 0.169 ล้านล้านบาท คิดเป็นกำไร 8.09% กำไรก่อนหักภาษีด้วยนะ ถ้าไม่เป็น บจม นี่ คงไม่รู้กันเลยเนี้ยะ ว่ากำไรขาดทุนกันเท่าไหร่ แล้วไปไหนมั่ง

จำได้ว่า

มีใครทราบมั้ยครับ ว่ารายได้จากการขายปลีกน้ำมันผ่านปั๊ม ปตท. ถูกบันทึกเข้าที่บริษัทไหน

อันนี้ไม่ทราบเหมือนกันครับ "เดา" ว่า ไม่รวม เพราะว่าเหมือนปั้มจะซื้อขาดจาก ปตท
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 15:38:47
ไม่เป็นไรครับ กำไรเยอะ คิดซะว่ากำไรเข้า กบข สปส เข้ากระทรวงการคลังที่ถือหุ้นเยอะๆ เป็นกำไรกลับมาบริหารประเทศ จะได้ไม่ต้องคิดไรมาก
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: mick ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 15:49:47
  กลุ่ม ปตท.กำไร 9 เดือนแตะ 1.68 แสนล้านบาท PTT กำไร 7.9 หมื่นล้าน รายได้ขาย 2 ล้านล้านบาท “ปตท.สผ.” กำไร 4.8 หมื่นล้าน จากราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยเพิ่มขึ้น ด้าน PTTGC โกยรายได้ 3.9 แสนล้าน “บางจาก” ยอดขายรวม 1.3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% ขณะที่ IRPC พลิกจากขาดทุน กลับมามีกำไร 42 ล้านบาท
       
       บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยผลดำเนินงานในช่วง 9 เดือนว่า บริษัท และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายรวม 2.09 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แม้ว่าราคาน้ำมันดูไบเฉลี่ยปรับลดลงจาก 109.6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 105.1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่กำไรก่อนรายการดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา หรือ EBITDA ลดลง 2.6% มาอยู่ที่ระดับ 1.69 แสนล้านบาท เนื่องจากผลประกอบการที่ลดลงของหน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ โดย PTT มีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 2.19 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามผลดำเนินงานที่ดีขึ้นเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 7.92 หมื่นล้านบาท ลดลงจากช่วงดียวกันปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 8.19 หมื่นล้านบาท
       
       ด้าน บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ได้รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 3 ว่า มีกำไรสุทธิ เท่ากับ 1.78 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 3 ปี 2555 จำนวน 1.75 หมื่นล้านบาท โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 5.79 หมื่นล้านบาท สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่อยู่ระดับ 5.70 หมื่นล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้น เช่น ราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยที่เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ ของไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นเป็น 65.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล สำหรับงวด 9 เดือนสิ้นสุดเดือนกันยายนปี 2556 เปรียบเทียบกับปี 2555 ทำให้ ปตท.สผ. มีกำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือน รวม 4.87 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 210 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 15% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2555 ซึ่งมี 4.35 หมื่นล้านบาท
       
       ขณะที่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 3 มี EBITDA รวม 1.63 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 9.6 พันล้านบาท ส่วนภาพรวมงวด 9 เดือนแรกปีนี้ มี  EBITDA รวม 4.42 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2.58 หมื่นล้านบาท ขณะที่ภาพรวมงวดปี 2555 มี EBITDA รวม 5.58 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3.40 หมื่นล้านบาท โดยในงวดปีนี้ถึงแม้บริษัทจะมีรายได้รวมงวด 9 เดือนแรกเพียง 3.9 แสนล้านบาท ต่ำกว่างวดปีก่อนที่ได้ 4.1 แสนล้านบาท แต่กลับมามี EBITDA และกำไรสุทธิสูงขึ้น เป็นเพราะได้รับประโยชน์จากการควบรวมธุรกิจ ซึ่งทำให้เกิดการต่อยอด และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ได้สูงขึ้นกว่าเดิม
       
       ด้าน บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP มีกำไรสุทธิไตรมาส 3/56 ที่  7.60 พันล้านบาท จาก   1 หมื่นล้านบาท เมื่อไตรมาส 3/55 และมีกำไรสุทธิในรอบ 9 เดือนแรกที่ 1.04 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1.03 หมื่นล้านบาท ในงวด 9 เดือนแรกปี 2555
       
       สำหรับ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) มีผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกในปีนี้ กำไรสุทธิ 42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 747 ล้านบาท โดยมีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน 1.64 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 695 ล้านบาท
       สุดท้าย บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 มีรายได้รวม 4.60หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 1.35 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ผลการดำเนินงานใน 9 เดือนแรก มีรายได้รวม 1.38 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 3.96 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%
       
        ทั้งนี้  เมื่อนำผลกำไรสุทธิของทั้งกลุ่ม ปตท. มารวมกันพบว่า ทั้งกลุ่มมีกำไรสุทธิงวด 9 เดือนประมาณ รวม 1.68 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน




ปล.  ปีหน้าคงกำไรแตะ 2 แสนกว่าล้าน และราคาน้ำมันบ้านเราคง 60บาท/ลิตร หุหุ
ดูบ้างหรือเปล่าครับ ว่ากำไรส่วนใหญ่มากจากไหน น้ำมันที่เติมกันหรือไม่ ถ้าดีมาก ทำไม Petronas และ Jet ถึงเจ๊งไป

น้ำมันแพงเป็นเพราะภาษีต่างๆและกองทุน  ถ้าจะด่า ก็ด่าให้ถูกจุดด้วยครับ
ถ้าคิดว่าเอากำไรมาก ก็ไปซื้อหุ้นเขาสิครับ จะได้กำไรมากๆ ไม่มีใครว่า

หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: Night_Angel ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 15:52:11
สรุปได้แค่ว่า  คนมันจะเชื่อว่ากำไรมาจากน้ำมันอย่างเดียว

ก็ปล่อยมันเหอะครับ  อธิบายไปก็เชื่อแบบเดิม ไม่หาข้อมูลเพิ่มบ้างเลย
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: jacky933 ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 15:54:50
เลิกเอาเงินไปอุดหนุน LPG  ปล่อยลอยตัว ตามตลาดโลกไปเลย หรือ ยกเลิกให้ใช้ แต่ NGV พอ ผู้บริโภค ได้สบายขึ้น เดือดร้อนไปทั้ง ภาคครัวเรือนรวมพ่อค้าแม่ค้าเลย
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: LimitedEdition ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 16:58:48
รายได้ 2.09 ล้านล้านบาท กำไร 0.169 ล้านล้านบาท คิดเป็นกำไร 8.09% กำไรก่อนหักภาษีด้วยนะ ถ้าไม่เป็น บจม นี่ คงไม่รู้กันเลยเนี้ยะ ว่ากำไรขาดทุนกันเท่าไหร่ แล้วไปไหนมั่ง

จำได้ว่า

มีใครทราบมั้ยครับ ว่ารายได้จากการขายปลีกน้ำมันผ่านปั๊ม ปตท. ถูกบันทึกเข้าที่บริษัทไหน

อันนี้ไม่ทราบเหมือนกันครับ "เดา" ว่า ไม่รวม เพราะว่าเหมือนปั้มจะซื้อขาดจาก ปตท

คุณ i-din พูดมาตรงประเด็นผมเป๊ะเลยครับ

สิ่งที่คนก่นด่า ปตท. มีเรื่องหลักอยู่เรื่องเดียว "น้ำมันแพง" และพองบการเงินออก
คนก็ออกมาด่า ปตท. ว่าเพราะขายน้ำมันแพงนี่ไงล่ะ กำไรเยอะเชียว เจียดมาลดราคาน้ำมันหน่อยก็ได้

แต่ไม่มีใครสักคนที่ทราบว่า กำไรจากการขายน้ำมันเข้าปั๊ม ปตท. ถูกบันทึกเข้าบริษัทไหน
และไม่มีใครสนใจว่า กำไรส่วนหลักที่เกิดขึ้นนั้น มาจาการขายน้ำมันที่เราเติมเติมทุกวันหรือไม่

อีกประเด็นหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ลืมมอง หรือเลือกที่จะไม่มอง ก็คือ % ผลตอบแทนของการลงทุน
แต่เลือกที่จะไปมองยอดเงินเต็ม เพราะง่ายกว่า และสร้างประเด็น จุดกระแสได้ดีกว่า

ลองมองดูสิครับ การทำธุรกิจใหญ่ขนาดนี้ แต่ EBITDA คิดเป็นแค่ 8.09% ของยอดขาย
แล้วทุกวันนี้ เงินฝากประจำระยะยาว ในธนาคารพาณิชย์ ได้ดอกเบี้ยที่อัตราเท่าไหร่หรือครับ?

ถ้าจะให้กำไรมันต่ำไปกว่านี้ 1-2% ผมว่า ปตท.เลิกกิจการ ขายทรัพย์สิน แล้วเอาเงินที่ได้ไป
ฝากธนาคารดีแทนจะดีกว่ามั้ยครับ ไม่ต้องมีความเสี่ยง ไม่ต้องปวดหัวเรื่องการดำเนินการ
นั่งอยู่ไปวันวันแล้วเอาดอกเบี้ยเงินฝากแจกผู้ถือหุ้นแทน

ลองพิจารณาดูก็แล้วกันครับ ว่าที่ฟังเค้ามา รู้สึกมา พอมาดูข้อมูลจริงเปรียบเทียบแล้ว
มันใช่อย่างที่คุณคิดกันหรือเปล่า?
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 17:07:54
รวยเอารวยเอาเนอะ
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: raygun ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 17:31:33
.
.
.
ผมสังเกตหลายทีละ
ส่วนใหญ่พวกที่ด่า ปตท. มีอยู่แค่ 2 พวก คือ

1.พวกไม่หาข้อมูล
2.โง่

มีอยู่แค่นี้จริงๆ
ซึ่งก็คงทำอะไรไม่ได้ครับปล่อยมันโง่ต่อไป
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: Volta ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 17:34:04
คุยกันใจเย็นๆนะครับ คนที่รู้ก็ช่วยชี้แนะคนที่ไม่รู้ จะได้ทราบข้อเท็จจริงกัน
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: -Anonymous- ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 17:37:10
ใช่ครับใจเย็นๆกันครับเรื่องแค่นี้เอง เรื่องด่าคนอื่นกฎของเว็บห้ามชัดเจนนะครับ
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: KAKASHII ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 17:50:20
แต่โทษทีนะครับผมไม่ได้ว่าปตท ผมแค่แขวะขำๆ

บอร์ดนี้เก่งกันจริงๆครับ...  อารมณ์ล้วนๆ   ;D
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: armuay ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 18:06:03
คนไม่รู้ไม่ผิด ทำไมต้องด่าโง่ด่ากันแรงๆไม่ใช่เหตุผลชี้แจง ด่าสั้นๆได้อารมณ์แต่ไม่เอาความจริงมายันกันก็ทะเลาะกันเปล่าๆ  ผมว่าเอาเหตุผลมาชี้แจงกันจะดีกว่าครับ   
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 18:11:09
กำไร 8% นี่น้อยมากเลยครับ บริษัทนอกตลาด ที่เก่าผมกำไร 100% เท่าทุนจดเลยครับ เทรดดิ้ง

ดังนั้น ทุกอย่างมีต้นทุน คนซื้อหุ้นทุน หุ้นกู้ก็ต้องมีกำไร ดอกเบี้ย ครับ
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: Nyquist ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 18:14:37
มาเต็ม อารมณ์ล้วนๆ  ;D

อย่าด่า ปตท. เลยครับ

ที่น้ำมันแพงเพราะภาษีและกองทุนต่างๆอีกนาๆชนิด ราคาหน้าโรงกลั่น 20 กว่าบาทเองครับ

คุณเชื่อผมมะ ว่ามีแต่คนจ้องจะเอาผลประโยชน์จาก ปตท.

ตั้งแต่นโยบายรัฐ กระทวงต่างๆ นักการเมือง ตำรวจ(ล่าสุดเมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมาเพิ่งแจกกรวยให้ตำรวจ)

ทหาร หน่วยงานต่างๆแทบจะทุกหน่วยงาน หรือแม่แต่ชาวบ้าน
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: shikimaru ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 18:17:38
รู้สึกจะเริ่มมีหลายกระทู้แล้วแฮะ ผมว่านะ คนที่ไม่รู้รบกวนไปลองหาข้อมูลอ่านก่อนก็ดีนะครับ สมัยก่อนผมก็หลงด่านี่แหละเชื่อตามคนบอก จนสงสัยว่ามันจริงรึเปล่าถึงเริ่มหาข้อมูลมาอ่าน แล้วก็เห็นละว่าน้ำมันที่ขายน่ะ เป็นแค่ส่วนเสี้ยวของกำไร ปตท

    แต่คนที่ชอบด่าส่วนมากเลยมีคนแย้ง กลับไม่ยอมหาข้อมูลเพื่อแก้ความเข้าใจ แต่คิดเอาเองว่าเชื่อตามที่ได้ยินมา คนบอกมา แต่ไม่เคยจะยอมหาข้อมูลซะมากกว่า ไม่ก็ลองดูราคาหุ้น ptt ก็ได้ครับ ไม่ว่าน้ำมันจะแพงขึ้นหรือลดลง ราคามันแทบไม่ได้ไปไหน

สาเหตุจริงๆที่น้ำมันแพง เพราะ ว่ากองทุน+โครงสร้างทางภาษีบ้านเราต่างหากที่เก็บสูงมาก + ไปเลย 10 บาทกว่าๆ พวกเบนซิน แก๊ส 95 แก๊ส 91 เนี่ย ที่ดีเซลกับ lpg มันถูกเพราะว่ากองทุนน้ำมันนำเงินไปอุดหนุนยันจนราคามันเหลือเท่าที่เห็นจากตลาดโลก ดีเซลประมาณ 40 บาท lpg 18 บาทกว่า
          
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: ballbadm ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 18:24:00
คนไม่รู้ไม่ผิด ทำไมต้องด่าโง่ด่ากันแรงๆไม่ใช่เหตุผลชี้แจง ด่าสั้นๆได้อารมณ์แต่ไม่เอาความจริงมายันกันก็ทะเลาะกันเปล่าๆ  ผมว่าเอาเหตุผลมาชี้แจงกันจะดีกว่าครับ   

เห็นด้วยครับ ว่าคนไม่รู้ไม่ผิด โดนด่าว่าโง่ก็แรงเกิ๊น...

ปัญหาคือ ไม่รู้แล้วแทนที่จะหาข้อมูลเพิ่มเติม...จะได้รู้ คิด วิเคราะห์ อภิปรายด้วยเหตุด้วยผล
แต่บางคนกลับมาผสมโรง...ด่าและตามน้ำโดยอาศัยคำว่า "ไม่รู้ไม่ผิด"

บ้านเมืองมันเลยวุ่นวายจนถึงทุกวันนี้ไงครับ...บอกตรงๆว่า..."เศร้า"
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: wanarat7777 ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 18:39:37
ขอเลยนะครับ อย่าเอ่ยคำว่า โง่ ใส่กันเลยครับ เอาข้อมูลมาแชร์กันดีแล้วครับ หลายๆคนไม่ได้มีเวลาว่างมาศึกษามาก มีอะไรก็มาช่วยๆกันถกกันครับ คำว่าโง่นี่ ขอเลยครับ
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: baddream11 ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 19:25:23
    รายได้ขายปลีกน่ะไม่เท่าไร แต่รายได้จากการกลั่นน่ะ มหาศาล
เพราะคิดเป็น%จากราคา อยากให้ยืดหยุ่นตรงนี้หน่อย เพราะเมื่อไร
ราคาน้ำมันตลาดโลกแพง มันยิ่งซ้ำเติมหนักเข้าไปอีก
     เรื่องที่มันแพงเพราะภาษีหรือกองทุนน้ำมัน มันก็จะเก็บไปเป็นงบ
ประมาณ ถ้าภาษีถูกลง เค้าก็ต้องไปเก็บตัวอื่นมาทดแทน เราก็เสียอยู่ดี
พัฒนาชาติคงเอามาคิดไม่ได้หรอก ส่วนกองทุนก็บริหารกันไป
    เรื่องโง่เรื่องฉลาด เราคุยกันอย่างสร้างสรรค์ดีกว่าไหม นำข้อมูลมาถกกัน
ผมเคยดูผู้บริหาร ปตท มาออกรายการหลายรายการ ก็ไม่เคยมีคนไหน
ชี้แจงอย่างกระจ่างชัดซักที ถ้าใครมีข้อมูลที่แท้จริง ถูกต้องก็นำออกมาเถอะ
อย่างน้อยก็ลดการทะเลาะกันได้
   สุดท้าย ครั้งหนึ่งเคยมีคนฟ้อง(จำไม่ได้ว่าฟ้องใคร)ต่อศาลปกครองเรื่อง
ที่ดินเวนคืนที่ใช้วางท่อก๊าซ จนในที่สุดต้องคืนที่ดินนั้นให้กับรัฐ และ
ปตท ต้องจ่ายเป็นค่าเช่า ก่อนหน้านั้นคนฉลาดไปอยู่ที่ไหน?
   
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: Nyquist ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 20:32:07
^
||

เรื่องท่อก๊าซ

ตอนแปรรูป ปตท. มีปัญหาเรื่องท่อก๊าซว่าจะให้เป็นทรัพย์สินของรัฐหรือของ ปตท. ครับ

สุดท้ายศาลตัดสินให้เป็นของรัฐครับ

....เป็น คำฟ้องในประเด็นการโอนที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เนื้อที่ประมาณ 32 ไร่ ทรัพย์สินและสิทธิการใช้ที่ดินในระบบการขนส่งปิโตรเลียมทางท่อ

รวมทั้งอำนาจและสิทธิในส่วนที่เป็นอำนาจมหาชนของรัฐที่โอนให้แก่ บมจ. ปตท. ซึ่งเป็นการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย...

ผู้ที่กระทำความผิดในครั้งนี้ก็คือรัฐบาลยุคที่ขาย ปตท นั่นแหละ  :)
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: กบทอดกระเทียม ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 20:42:09
มันไม่มีวิธีสื่อสาร ที่ดีกว่าการ"ด่ากันออนไลน์"แล้วหรือครับ
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: Eddy5659 ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 20:51:42
เรียนทุกท่าน

อย่าทำบอร์ด HLM เป็นเหมือนพันดิฟ

พูดคุยกันดีๆ หากไม่พอใจอย่าพึ่งโพสข้อความ ให้มันเสียบรรยากาศครับ
ข้างนอกมันวุ้นวายพอแล้ว
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: LimitedEdition ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 22:53:15
คุณ Raygun รบกวนเบาอารมณ์และภาษาลงด้วยครับ

อันที่จริง ผมก็หงุดหงิดแบบคุณแหละครับ แต่ผมคิดว่าการให้ข้อมูลถูกต้องต่อไปเรื่อยเรื่อย
น่าจะดีกว่าการด่ากันแล้วก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ซึ่งสำหรับผมแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากการแวะเข้ามา
ด่า ปตท. ลอยลอย แล้วก็หายไปเช่นกัน

ขอให้กระทู้นี้ เป็นการคุยบนเนื้อหาสาระของ ปตท. ตามที่ จขกท. ตั้งมา
และงดการด่ากันเอง หรือว่าเข้ามาด่า ปตท. ตามกระแส เอามันส์ลอยลอย
แต่เป็นกระทู้ทีแชร์ข้อมูลความรู้กันนะครับ

ถ้ามีด่าลอย ด่ากันเองอีก ผมจะล็อคกระทู้นี้ทันที และแบนคนที่ทำกิริยาดังกล่าวทุกคนทั้งหมด 7 วันครับ

================================

ส่วนคุณ KAKASHII

อย่านึกว่าผมไม่ทราบนะครับ ว่าคุณตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะอะไร

กระทู้ที่แล้วคุณก็คุยอยู่ด้วย ถ้ามีอะไรที่ไม่เห็นด้วย หรืออยากถกประเด็นเพิ่มเติม ก็คุยกันในกระทู้เดิมคงจะดีกว่าครับ
ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า มันเพิ่งจะดราม่าเรื่องนี้กันไปหยกหยก แล้วคุณจะตั้งกระทู้แบบนี้ขึ้นมาอีกทำไมกัน

คุณเป็นสมาชิกมานาน ร่วมพูดคุยกับเราก็ตั้งมาก น่าจะเข้าใจดีนะครับว่าที่นี่เป็นอย่างไร ขอเถิดครับ
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: raygun ที่ พฤศจิกายน 16, 2013, 01:22:08
คุณ Raygun รบกวนเบาอารมณ์และภาษาลงด้วยครับ

อันที่จริง ผมก็หงุดหงิดแบบคุณแหละครับ แต่ผมคิดว่าการให้ข้อมูลถูกต้องต่อไปเรื่อยเรื่อย
น่าจะดีกว่าการด่ากันแล้วก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ซึ่งสำหรับผมแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากการแวะเข้ามา
ด่า ปตท. ลอยลอย แล้วก็หายไปเช่นกัน

ขอให้กระทู้นี้ เป็นการคุยบนเนื้อหาสาระของ ปตท. ตามที่ จขกท. ตั้งมา
และงดการด่ากันเอง หรือว่าเข้ามาด่า ปตท. ตามกระแส เอามันส์ลอยลอย
แต่เป็นกระทู้ทีแชร์ข้อมูลความรู้กันนะครับ

ถ้ามีด่าลอย ด่ากันเองอีก ผมจะล็อคกระทู้นี้ทันที และแบนคนที่ทำกิริยาดังกล่าวทุกคนทั้งหมด 7 วันครับ

================================

ส่วนคุณ KAKASHII

อย่านึกว่าผมไม่ทราบนะครับ ว่าคุณตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะอะไร

กระทู้ที่แล้วคุณก็คุยอยู่ด้วย ถ้ามีอะไรที่ไม่เห็นด้วย หรืออยากถกประเด็นเพิ่มเติม ก็คุยกันในกระทู้เดิมคงจะดีกว่าครับ
ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า มันเพิ่งจะดราม่าเรื่องนี้กันไปหยกหยก แล้วคุณจะตั้งกระทู้แบบนี้ขึ้นมาอีกทำไมกัน

คุณเป็นสมาชิกมานาน ร่วมพูดคุยกับเราก็ตั้งมาก น่าจะเข้าใจดีนะครับว่าที่นี่เป็นอย่างไร ขอเถิดครับ

รับทราบครับ
แต่ผมสังเกตว่าพักนี้เรื่อง ปตท. มาบ่อยเกินไป หลายๆคนพยายามอธิบายก็แล้ว
ให้ข้อมูลก็แล้ว แต่ผมรู้สึกว่าไม่ค่อยจะมีคนอ่านกันเลย ยังคงมีกระทู้แบบนี้อยู่
การอ่านหนังสือหลายๆบรรทัดมันคงจะเป็นเรื่องที่ยากเกินไป

เรื่อง ปตท. ผมเองก็คอยอธิบายมานานหลายปีแล้วในที่อื่นๆ
ทั้งเรื่องหุ้น เรื่องกำไร เรื่องโครงสร้างภาษี เรื่องกองทุนน้ำมัน
แต่ดูเหมือนไม่มีอะไรดีขึ้นสำหรับคนบางประเภทครับ

หลังๆเลยรู้สึกว่าอยากด่าเอามันส์งั้นก็เจอด่าเอามันส์กลับไปละกัน
แต่ตอนนี้จะใช้วิธีไม่เข้ามาอ่านกระทู้แบบนี้แทนน่าจะดีกว่าครับ  ;)


หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: Disk™ ที่ พฤศจิกายน 16, 2013, 02:00:14
ส่วนตัวผมไม่สนับสนุนการแปรรัฐวิสาหกิจซึ่งถ้ากำไรประชาชนก็กำไร ขาดทุนประชาชนก็กำไร เป็นเอกชนหวังผลกำไร(ที่ผู้ถือหุ้นกำไรกลุ่มเดียว) รวมถึงปตท. ด้วย ถ้าจะอ้างว่า ไม่แปรรูปก็ไม่พัฒนา ผมว่ามันเป็นปัญหาที่คนครับ จะหาว่าโลกสวยก็ได้ครับ มีตัวอย่างที่แปรรูปไปก็ไม่เจริญอย่างปตท. เช่น การบินไทย เพราะฉะนั้นการแปรรูปไม่ใช่การแก้ปัญหา และที่สำคัญทำให้สมบัติชาติที่เป็นของส่วนรวม 100% เป็นของชาติแค่ไม่ถึง 70% (ที่ชอบอ้างว่าคลังกับกองทุนวายุอะไรซักอย่าง) และอีกกว่า 30% (ราวสามหมื่นล้านต่อปี) อยู่ในมือใครบ้าง?

ที่ผมคลิกๆดูในรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ปตท จะเป็นแนว NVDR กับ Nominee  ซึ่งเป็นใครก็ไม่ทราบจริงๆ แต่ที่รู้แน่ๆคือ คงไม่ได้เอาเงินมาพัฒนาประเทศแน่ๆ เสียดายสมบัติชาติครับ ดังเพลง...

หวงรัก - ม.ร.ว. ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ (http://www.youtube.com/watch?v=6CLbwuMijf4#)

ในเรื่องของกำไรจากการขายน้ำมันตาม common sense แล้ว ถ้าทำธุรกิจต้นน้ำถึงปลายน้ำ ยากที่จะขาดทุนครับ (อ้างจากหลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นที่เคยเรียน และ หลัก marketing ที่มีแนวให้ขยายธุรกิจให้ครอบคลุมทั้งต้นน้ำปลายน้ำ)  เจ้าอื่นๆยังขายอยู่ได้ ถึงแม้หลายเจ้าจะซื้อน้ำมันจากปตทก็ตาม


ปล. ผมมีหุ้นปตท เติมปตท เติมบางจากที่ปตทถือหุ้น เพราะ อยากให้เงินอยู่ในประเทศครับ
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: Saladin ที่ พฤศจิกายน 16, 2013, 07:44:17
บริษัท ลูกที่บริหารปั๊มน้ำมัน น่าจะเป็น PTTRM ก่ะ PTTRB ล่ะมั้งครับนะครับ ค่าใช้จ่าย-รายได้ น่าจะรวมกับ ปตท.ใหญ่ (มั้งครับ)



นอกเรื่องครับ เรื่องการแปรรูป ปตท. สมัยก่อน ผมเห็นด้วย สุดลิ่มทิ่มประตูเลยนะครับ เพราะจะว่าไป หากไม่แปรรูป เมื่อหลายปีก่อน
ตอนนี้ ปตท.ก็ยังคงมีแค่ สผ. / โรงแยกแก๊ส / ปั๊มน้ำมัน(ห้องน้ำเน่า ๆ ) แค่นั้น เพราะรัฐวิสาหกิจ+ราชการ การบริหาร เป็นอย่างไร
คงพอนึกกันออก ...... เทียบง่าย ๆ หากใครนึกปั๊ม ปตท.สมัยก่อนออก ผมเชื่อว่า ไม่มีใครอยากแวะปั๊ม ปตท.หรอก เพราะ บริการห่วย
ปั๊มเก่า ห้องน้ำเน่า


พอแปรรูปปุ๊ม เปลี่ยน องคาพยพ กันใหม่หมดเลย ทั้งนโนบาย การบริหาร ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ๆ เลย ตอนนี้ปั๊ม ปตท. ก็เป็นปั๊มที่น่า
เข้า กว่าปั๊มอื่น(ร้านขายของกินเยอะ อิอิอิ...ผมเติมน้ำมันปั๊มบางจาก+เอสโซ่ เพราะแถมน้ำครับ) ส่วนนโยบายก็เปลี่ยนไป คือ ปตท.จะ
เป็น ผู้เล่นรายใหญ่ในอุหกรรม Oil & Gas จะเห็นได้ว่า หลังแปรรูป ปตท.ไปไล่ ซื้อบริษัท Oil & Gas อีกบานตะเกียงเลย ง่าย ๆ ที่นึกออก
ก็ TPI(ฝั่งปิโตรเคมี+โรงกลั่น) , Thai Oil , Aromatic, RRC(โรงกลั่นน้ำมันระยอง),ROC(ระยองโฮลิฟิน), NPC(เนชั่นแนลปิโตรเคมิคอล)
วินิไทย , HMC polymer , โรงกลั่น SPRC, Thai Lube และอีก เยอะที่นึกไม่ออก

นอกจากจะซื้อ แล้วก็ยังสร้างโรงงาน และธุรกิจใหม่อีก บานตะเกียงเหมือนกัน ที่นึกออกก็ PTT โลจิสติก, PTT Tank Terminal, PTT. Ethan Cracker
PTT.UT(ผลิตไฟฟ้า+ไอน้ำ) , PTT ASAHI , PTT Phenol,PTT LNG และ อีกบานตะเกียง และ บริษัทในเครือที่ทำธุรกิจอื่นอีกเยอะแยะ
 (ผมนึกออกเฉพาะ Plant ที่เคยไป service งานครับ)


จะเห็นได้ว่า รายชื่อบริษัทที่เขียนมาข้างต้น คือกลุ่ม ธุรกิจ ที่ ปตท. ได้สร้าง+ซื้อ มาหลังจากที่ แปรรูปแล้ว ...... ดังนั้น รายได้และผลประกอบการ
ผมว่า เกินครึ่ง มาจาก ธุรกิจที่ได้มาใหม่ หลังจากการแปรรูป............ผมเชื่อว่า หากยังไม่แปรรูป ปตท.ก็ยังจะย่ำอยูกับที่คือมี ธุรกิจแค่ 3 อย่างคือ

1.ปตท.สำรวจและผลิต
2.ปตท.ใหญ่(โรงแยกก๊าซ)
3.ปั๊ม ปตท.

และปตท.ก็จะเป็นแค่ รัฐวิสหกิจ บ้าน ๆ ไม่หวือหวา แบบนี้หรอกครับ เชื่อไอ้เรืองซิครับ

หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: decptt ที่ พฤศจิกายน 16, 2013, 07:59:37
ปตท. ตอนนี้ (ไม่รวมบริษัทลูกนะ)
แบ่งธุรกิจ ใหญ่ๆ เป็น 4สาย
1. สายต่างประเทศ
2. สายน้ำมันใส +LPG (น้ำมันใสคือ น้ำมันเติมรถที่เราใช้กันครับ รวมถึงน้ำมันเตาด้วย) + Non-Oil (พวก 7-11 JET ampm)
3. สายน้ำมันหล่อลื่น
4. สายก๊าซธรรมชาติ

ปตท. ได้กำไร ในส่วน ก๊าซธรรมชาิติ ที่ขายให้โรงไฟฟ้า พอสมควร (ตัวนี้น่าจะเป็นตัวสุดๆของปตท.นะ 555+ ข้อมูลเก่านะครับ ข้อมูลใหม่ ไม่ทราบ)
น้ำมันหล่อลื่น ตอนนี้ Market Share พอๆกับเชลล์ (33-34%แข่งกันเป็นที่ 1) กำไรตั้งเป้าประมาณ พันล้าน (ถ้าจำไม่ผิด) แต่เชลล์ ได้กำไรมากกว่าเยอะครับ โมบิล กำไรใกล้ ปตท. แต่Market Share ต่ำกว่าเยอะมาก   (หล่อลื่น เป็นตัวกำไรของน้ำมันหลายบริษัท แต่เขา "เงียบ" ครับ จะได้ไม่โดนโจมตี)
พวก non-oil เริ่มได้กำไรมากขึ้นครับ
สายต่างประัเทศ เขาเริ่มลงทุนมานานแล้ว กำไรเิริ่มนำกลับมาประเทศไทย

ปตท. มีบริษัทลูก หลายร้อยบริษัท พวกผลิตภัณฑ์กลุ่มปิโตรเคมี ก็เป็นหนึ่งในกำไรที่มากๆของ ปตท.นะครับ

กำไร ปตท. ที่พูดสวยหรูในตลาดหลักทรัพย์ นั้น มันมียอดคงค้างที่ รัฐบาล ไม่มีเงินจ่ายให้ ปตท.นะครับ
เช่น
เงินค้างจ่ายน้ำมันดีเซล ขสมก., หน่วยงานราชการ เป็นต้น
เงินค้างจ่ายกองทุนน้ำมันดีเซล กองทุนCNG ด้วยครับ (ต้นทุน CNG ตอนผมรับฟังมาอยู่ 16บาทต่อลิตร แล้ว รัฐให้ขายที่ 8.5 บาทต่อลิตร ที่เหลือรัฐชดเชยให้)
พวกนี้ บางส่วนได้แค่ทยอยจ่ายเงิน มันอยู่ในบัญชีงบดุล ลองเช็คให้ละเอียดดูครับ

ปตท. โดยตัวของมันเอง ถ้ารัฐบาลไม่มีหุ้น ผมบอกเลย เจ๊งนานแล้ว
ไปดูข้อมูลกันอีกทีนะครับ
อย่าเชื่อผม แต่ไปศึกษาเอง 555+
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: decptt ที่ พฤศจิกายน 16, 2013, 08:04:59
ลืมอีกกลุ่มครับ
กลุ่มน้ำมันอากาศยาน (น้ำมันใส่เครื่องบิน)  ยึดหัวหาดอยู่รายเดียวนะครับ ตามต่างจังหวัด ส่วน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ ผมไม่ทราบ

ในกลุ่มน้ำมันใส มีกลุ่มย่อยคือ ขายพวกโรงงานอุตสาหกรรม มีผลิตภัณฑ์ พวกน้ำมันเตา ยางมะตอย LPG น้ำมันหล่อลื่น(เป็นขนาดบรรจุ 200ลิตร 1000ลิตร 3000 ลิตรฯลฯ ไม่ใช่มีแค่เป็นกระป๋อง เป็นถัง18ลิตรเท่านั้นนะครับ) กลุ่มอุตสาหกรรม พวกนี้ ก็มีเนื้อกำไรเยอะนะครับ


ย้ำอีกที กลุ่มปั๊มน้ำมัน (ธุรกิจน้ำมันใส) กำไรน้อย มีไว้สร้างภาพครับ ตัวเนื้อกำไร อยู่ในธุรกิจอื่นๆที่ผมได้กล่าวเอาไว้

ย้ำสุดท้าย โปรดอย่าเชื่อ แต่ขอให้ไปตรวจสอบและศึกษาอย่างจริงๆอีกทีครับ
เพราะตัวผมเอง เทหุ้นปตท. ทิ้งแล้วครับ ไปซื้อตัวอื่นดีกว่า อิอิอิ
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ พฤศจิกายน 16, 2013, 08:23:11
แพงที่ภาษีครับเก็บซ้ำซ้อนหลายชั้น ปตท.เป็นแค่ตัวหลอกให้คนมาด่ามาระบายแค่นั้นเองแหละ ส่วนตัวแล้วเติมปตทมากกว่าเต้าอื่นเพราะใกล้บ้าน หาง่าย แล้วก็ทั้งห้องน้ำและของกินของใช้พร้อมสะดวกมากกว่าเจ้าอื่น ถ้าจะด่าก็น่าด่ารัฐบาลมากกว่าแต่ก่อนด่าก็หาข้อมูลกันหน่อยด่าลอยๆไม่มีหลักฐานมันไม่มีประโยชน์ต่อตัวเองและสังคมเลย เอาโครงสร้างภาษีของต่างประเทศมาเทียบกันให้เห็นๆไป
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ พฤศจิกายน 16, 2013, 09:16:05
แพงที่ภาษีครับเก็บซ้ำซ้อนหลายชั้น ปตท.เป็นแค่ตัวหลอกให้คนมาด่ามาระบายแค่นั้นเองแหละ ส่วนตัวแล้วเติมปตทมากกว่าเต้าอื่นเพราะใกล้บ้าน หาง่าย แล้วก็ทั้งห้องน้ำและของกินของใช้พร้อมสะดวกมากกว่าเจ้าอื่น ถ้าจะด่าก็น่าด่ารัฐบาลมากกว่าแต่ก่อนด่าก็หาข้อมูลกันหน่อยด่าลอยๆไม่มีหลักฐานมันไม่มีประโยชน์ต่อตัวเองและสังคมเลย เอาโครงสร้างภาษีของต่างประเทศมาเทียบกันให้เห็นๆไป

+1 ครับ :D
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: ichok ที่ พฤศจิกายน 16, 2013, 09:23:31
งั้นผมขอพูดในฐานะคนไม่มีข้อมูลอะไรเลย แล้วถ้าเราหาข้อมูลมาเราจะทราบได้อย่างไรว่าอันไหนจริงไม่จริงครับ ทุกวันนี้ข้อมูลข่าวสารมันฉาบเคลือบด้วยอะไร ผลประโยชน์ คนรับข้อมูลผมบอกเลยเรื่องปตทมีทั้งเข้าข้างและด่าทอ ผมจะเลือกเชื่ออันไหน ขอเถอะครับในเมื่อจริงๆแล้วคุณอาจจะไม่รู้ข้อมูลจริงๆก็ได้ อย่าไปว่าหรือใครโง่หรือฉลาดเลย
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: dht_tubes ที่ พฤศจิกายน 16, 2013, 09:53:14
ผมอยากออกความเห็นว่า จริงอยู่คนส่วนมากอาจจะฉลาดน้อย แบบที่หลายๆท่านว่ามา

แต่ลองมองอีกมุม เรามีความอดทนเพิ่มซักนิด เวลาเจอคอมเมนท์ที่ไม่รอบคอบ หรือไม่หาข้อมูล
คิดซะว่าตัวท่านเองเป็นครู สอนเด็กที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว ได้มองหลายๆมุม คงจะช่วยให้เบาลงได้นะครับ  ช่วยๆกัน อดทนกันเพิ่มซักนิด

อีกอย่างผมว่าสังคมเราตอนนี้ อะไรจริง อะไรโกหก มันดูยากขึ้นมาก มีแต่คนจ้องจะหลอกกัน หาผลประโยชน์.......
ไว้ใจกันไม่ค่อยได้ มันก็เลยสะท้อนออกมาเป็นอย่างที่เห็นๆกันอยู่

คนโง่ โดนด่าอย่างเดียว ไม่ทำให้ฉลาดขึ้นหรอกครับ
ต้องสอนเค้า เค้าถึงจะฉลาดขึ้น

ถือว่าช่วยๆกันนะครับพี่น้อง
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ พฤศจิกายน 16, 2013, 10:20:17
คำตอบเรื่องนี้อยู่ที่พันดิฟ อ่านแล้วก็จบ เรื่องนี้ผมเข้าใจไม่ด่า ปตท ครับกำไรแค่ 8% จากหลายกลุ่มธุรกิจ ราคาน้ำมันดูหน้าโรงกลั่นแค่นั้นพอนั่นแหละกำไรแล้วจบ ที่แพงเพราะภาษี

ขี้เกียจพูดเพราะความเกลียดไร้เหตุผลแค่ที่ว่าบริษัทไทยแพงกว่ามาเลเซียทั้งๆที่นู่นเค้าอุ้มกันตาแตก
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: LimitedEdition ที่ พฤศจิกายน 16, 2013, 10:50:51
งั้นผมขอพูดในฐานะคนไม่มีข้อมูลอะไรเลย แล้วถ้าเราหาข้อมูลมาเราจะทราบได้อย่างไรว่าอันไหนจริงไม่จริงครับ ทุกวันนี้ข้อมูลข่าวสารมันฉาบเคลือบด้วยอะไร ผลประโยชน์ คนรับข้อมูลผมบอกเลยเรื่องปตทมีทั้งเข้าข้างและด่าทอ ผมจะเลือกเชื่ออันไหน ขอเถอะครับในเมื่อจริงๆแล้วคุณอาจจะไม่รู้ข้อมูลจริงๆก็ได้ อย่าไปว่าหรือใครโง่หรือฉลาดเลย

พูดแบบนี้ไม่ได้หรอกครับ ถ้าคุณพูดแบบนี้แสดงว่าคุณให้เลิกเชื่อถือทุกกระบวนการในประเทศไทย
ทั้งกระบวนการควบคุมธุรกิจ การให้แจ้งผลประกอบการ การเปิดเผยงบการเงิน การบังคับใช้กฎหมาย ฯลฯ

ถ้าจะเริ่มต้นแบบนี้ ผมไม่คุยต่อด้วยครับ เพราะไม่ว่าจะยกข้อมูลหรือข้อเท็จจริง จากหน่วยงานไหนมา
คุณก็จะบอกว่า มันเชื่อไม่ได้ มันบิดเบือน ถ้าอย่างนั้นก็จบครับ คุยอะไรไปก็ไม่ฟัง ปิดหมดทุกอย่างแล้ว
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: Disk™ ที่ พฤศจิกายน 16, 2013, 20:39:39
ลืมอีกกลุ่มครับ
กลุ่มน้ำมันอากาศยาน (น้ำมันใส่เครื่องบิน)  ยึดหัวหาดอยู่รายเดียวนะครับ ตามต่างจังหวัด ส่วน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ ผมไม่ทราบ

ในกลุ่มน้ำมันใส มีกลุ่มย่อยคือ ขายพวกโรงงานอุตสาหกรรม มีผลิตภัณฑ์ พวกน้ำมันเตา ยางมะตอย LPG น้ำมันหล่อลื่น(เป็นขนาดบรรจุ 200ลิตร 1000ลิตร 3000 ลิตรฯลฯ ไม่ใช่มีแค่เป็นกระป๋อง เป็นถัง18ลิตรเท่านั้นนะครับ) กลุ่มอุตสาหกรรม พวกนี้ ก็มีเนื้อกำไรเยอะนะครับ


ย้ำอีกที กลุ่มปั๊มน้ำมัน (ธุรกิจน้ำมันใส) กำไรน้อย มีไว้สร้างภาพครับ ตัวเนื้อกำไร อยู่ในธุรกิจอื่นๆที่ผมได้กล่าวเอาไว้

ย้ำสุดท้าย โปรดอย่าเชื่อ แต่ขอให้ไปตรวจสอบและศึกษาอย่างจริงๆอีกทีครับ
เพราะตัวผมเอง เทหุ้นปตท. ทิ้งแล้วครับ ไปซื้อตัวอื่นดีกว่า อิอิอิ

ผมคิดว่า BAFS : บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ซะอีกนะครับที่ยึดหัวหาดในน้ำมันเติมเครื่องบิน

http://www.set.or.th/set/companyholder.do?symbol=BAFS&language=th&country=TH (http://www.set.or.th/set/companyholder.do?symbol=BAFS&language=th&country=TH)
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: jones ที่ พฤศจิกายน 16, 2013, 21:00:00
ดีใจที่เลิกเติมปตท.ไปนานละ แต่เข้าไปใช้ห้องน้ำในปตท.ตลอด  ;D ;D
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ พฤศจิกายน 17, 2013, 14:32:00
ขออนุญาต copied มาให้อ่านครับเพืีอความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

การดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันต้องใช้เงินลงทุนนับแสนล้านบาทและมีความเสี่ยงที่สูง เนื่องจากอุตสาหกรรมน้ำมันมีรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างจากธุรกิจทั่วไป กล่าวคือ ณ วันที่ตัดสินใจสั่งซื้อน้ำมันดิบมากลั่นเป็นน้ำมันสำเร็จรูปเพื่อจำหน่ายนั้น ก็เกิดความเสี่ยงเกิดขึ้นแล้ว เพราะไม่ทราบว่าจะมีกำไรหรือขาดทุน เนื่องจากการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศมากลั่น ต้องสั่งซื้อล่วงหน้าประมาณ 1 - 2 เดือนก่อนการส่งมอบ โดยการตกลงซื้อขายจะระบุเพียงปริมาณเท่านั้น ส่วนราคาจะอ้างอิงกับราคาน้ำมันตลาดโลกในเดือนส่งมอบ ขณะเดียวกันในด้านการจำหน่าย โรงกลั่นมีการตกลงกับผู้ค้าน้ำมันล่วงหน้าว่าจะมีการซื้อขายในปริมาณเท่าไหร่ในเดือนข้างหน้าโดยมีสูตรราคาที่อิงกับตลาดซื้อขายที่สิงคโปร์ในช่วงวันส่งมอบ
 
อีกทั้ง วงจรของธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันมีความผันผวนสูง ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงขาลงของธุรกิจ โรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ในประเทศไทยแทบทุกแห่งต่างประสบกับการขาดทุนเป็นจำนวนมากจนไม่สามารถชำระหนี้สินได้ ต้องปรับโครงสร้างหนี้ และเพิ่มทุนเป็นจำนวนมากเพื่อให้มีเงินทุนเพียงพอในการดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เพิ่งจะเริ่มมีกำไรเมื่อ 2- 3 ปี ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ถือว่าอยู่ในช่วงขาขึ้น เนื่องจากมีค่าการกลั่นสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยปกติ ผลกำไรที่เกิดขึ้นบริษัทนำไปลดขาดทุนสะสมในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่าภาวะเช่นนี้จะอยู่ได้นานเพียงใด
 
ค่าการกลั่นเกิดจาก ราคา ณ โรงกลั่น ของน้ำมันสำเร็จรูปที่โรงกลั่นผลิตได้เฉลี่ยตามสัดส่วนปริมาณการผลิตของน้ำมันสำเร็จรูปชนิดต่างๆ ที่กลั่นได้ หักด้วยต้นทุนวัตถุดิบ คือ ราคาน้ำมันดิบรวมกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการนำเข้า เช่น ค่าขนส่ง แต่รายได้จากค่าการกลั่นนี้ยังไม่ได้หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า สารเคมี ค่าซ่อมบำรุง และค่าแรงต่างๆ เป็นต้น ซึ่งโรงกลั่นน้ำมันแต่ละแห่งจะมีค่าการกลั่นที่ไม่เท่ากัน เนื่องจากมีกระบวนการผลิตที่แตกต่างกันทำให้ได้ผลผลิตน้ำมันสำเร็จรูปชนิดต่างๆ ในสัดส่วนที่ไม่เท่ากัน แม้จะใช้น้ำมันดิบประเภทเดียวกันก็ตาม
 
สำหรับ ราคา ณ โรงกลั่น ของประเทศไทยนั้น เป็นสูตรราคาที่กำหนดขึ้นเพื่อให้สามารถแข่งขันได้กับราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่นำเข้าจากตลาดสิงคโปร์ ซึ่งเป็นต้นทุนการนำเข้าที่ต่ำสุด เพราะสิงคโปร์เป็นประเทศผู้ส่งออกที่ใกล้ประเทศไทยมากที่สุด ถ้าหากโรงกลั่นน้ำมันในประเทศกำหนดราคาแพงกว่า ผู้ค้าน้ำมันก็จะหันไปนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปจากสิงคโปร์แทน อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันกำลังการกลั่นในประเทศไทยมีเกินปริมาณความต้องการใช้ ทำให้ต้องส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป ซึ่งราคาส่งออกนั้นถูกกว่าราคานำเข้า ดังนั้นโรงกลั่นต่างๆ จึงให้ส่วนลดแก่ผู้ค้าน้ำมันเพื่อจูงใจให้ซื้อน้ำมันจากโรงกลั่นในประเทศ ซึ่งการกำหนดราคาดังกล่าว ใช้มานานนับสิบปีแล้ว
 
ปัจจุบันค่าการกลั่นของโรงกลั่นต่างๆ ในประเทศอยู่ระหว่าง 2 - 7 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาเรล โดยโรงกลั่นที่มีการกลั่นหลายขั้นตอน (Complex Refinery) จะมีค่าการกลั่นในระดับสูง ในขณะที่โรงกลั่นที่มีการกลั่นแบบง่ายๆ (Simple Refinery) จะมีค่าการกลั่นที่ต่ำกว่าเนื่องจากมีผลผลิตของน้ำมันใส คือ น้ำมันเบนซิน และดีเซล ซึ่งเป็นน้ำมันที่มีราคาแพง อยู่ในสัดส่วนที่ต่ำกว่า
 
การดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน ไม่แตกต่างจากวัฏจักรเศรษฐกิจ ที่มีทั้งขาขึ้นและขาลง บางช่วงขาดทุนมาก บางช่วงก็มีกำไรสูง ผู้ลงทุนในธุรกิจนี้นอกจากจะต้องใช้เงินลงทุนที่สูงแล้ว ยังต้องสามารถรับความเสี่ยงในช่วงธุรกิจขาลงได้ด้วย ซึ่งต้องมีสายป่านของเงินทุนที่ยาวพอ และปัจจัยที่มีความสำคัญอีกประการหนึ่งในการตัดสินใจสร้างโรงกลั่นแห่งใหม่ คือ นักลงทุนต้องการความมั่นใจในนโยบายของรัฐที่จะปล่อยให้มีการแข่งขันเสรีอย่างแท้จริง
 

ค่าการกลั่นน้ำมัน: เรื่องที่ควรรู้ ปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยจัดให้ วิธีคำนวณโปร่งใส..ไม่ซ่อนเร้น

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม คุณหญิง ทองทิพ รัตนะรัต ที่ปรึกษาสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย บรรยายพิเศษเรื่อง "ค่าการกลั่นน้ำมัน: เรื่องที่ควรรู้" เพื่อให้ความรู้เรื่องค่าการกลั่นให้กับกลุ่มคนที่สนใจ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่จัดบรรยายให้ความรู้เรื่องดังกล่าวนับจากที่นายโสภณ สุภาพงษ์ สว.กทม. ผู้คร่ำหวอดในวงการน้ำมันจากที่เคยนั่งบริหารที่บริษัทบางจาก ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ออกมาเปิดเผยว่าโครงสร้างการคิดค่าการกลั่นในประเทศไม่เป็นธรรม มีการตั้งราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้ประชาชนต้องใช้ในราคาแพง "มติชน" จึงได้สรุปเรียบเรียงคำบรรยายมานำเสนอ
หลักที่จะนำไปสู่ความเข้าใจเรื่องราคาน้ำมัน ต้องเข้าใจว่ารัฐบาลมีนโยบายที่สร้างราคาน้ำมันด้วยปัจจัยสำคัญคือ ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ส่วนเรื่องค่าการกลั่นน้ำมันนั้นจะต้องทำความเข้าใจกับโครงสร้างราคาน้ำมันสำเร็จรูปก่อน ซึ่งประกอบด้วย โครงสร้างราคาหน้าปั๊ม และโครงสร้างราคาหน้าโรงกลั่น เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เข้าใจยากแต่มีตัวแปรมาก เวลาคนพูดก็พูดถึงไม่หมด และต้องเข้าใจด้วยว่าราคาน้ำมันดิบกับราคาน้ำมันสำเร็จรูปไม่จำเป็นต้องไปในทิศทางเดียวกันเสมอเพราะ
ปัจจัยที่เป็นตัวผลักดันเป็นคนละตัว
หากราคาน้ำมันดิบปรับราคา ไม่จำเป็นต้องปรับราคาน้ำมันสำเร็จรูปในสัดส่วนที่เท่ากัน เพราะทั้ง 2 ชนิด ไม่ได้อยู่ในตลาดเดียวกัน แต่สำหรับธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันเป็นธุรกิจที่อยู่ตรงกลางระหว่างน้ำมันดิบกับน้ำมันสำเร็จรูป เป็นธุรกิจที่ถูกบีบมากที่สุด เพราะรับทั้งปัจจัยของทั้ง 2 ตลาด
เราต้องมีการนำเข้าน้ำมันดิบกว่า 99% ซึ่งเป็นการนำเข้าน้ำมันจากหลายประเทศ ไม่ใช่ประเทศเดียว เพราะน้ำมันแต่ละแหล่งที่นำเข้ามาสามารถกลั่นน้ำมันชนิดต่างๆ ได้ในสัดส่วนที่ไม่เท่ากัน ในขณะที่เราต้องการใช้น้ำมันในสัดส่วนที่ไม่เท่ากัน เราต้องการใช้น้ำมันดีเซลมากกว่าน้ำมันเบนซิน นอกจากนี้แต่ละโรงกลั่นน้ำมันก็ได้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น แต่ละแห่งจึงต้องซื้อมาจากหลายประเทศมาผสมกัน เพื่อให้สามารถกลั่นน้ำมันสำเร็จรูปได้ตามที่ต้องการ หรือได้ในส่วนที่ผู้บริโภคต้องการใช้มากที่สุด ซึ่งจะได้ในสัดส่วนเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยคือ น้ำมันดิบที่นำเข้ามา และชนิดของโรงกลั่นน้ำมัน
 
โครงสร้างราคาน้ำมันหน้าปั๊ม
เพื่อให้เห็นความแตกต่างจะแบ่งเป็น 3 ยุค
ช่วงที่รัฐควบคุมราคาก่อนเปิดเสรี ปี 2534 สภาวะตลาดในช่วงนี้ ต้องมีการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปทุกชนิด และมีเพียงโรงกลั่นน้ำมันในประเทศเพียง 3 แห่ง คือ ไทยออยล์, เอสโซ่, บางจาก ส่วนการตั้งราคานั้นรัฐบาลเป็นผู้ตั้งราคาหน้าปั๊มและกำหนดค่าการตลาด โดยอยู่บนหลักการให้ราคาอยู่ในระดับที่ประชาชนกินดีอยู่ดีและพัฒนาประเทศได้ สูตรราคาหน้าปั๊ม คือ = (P) ราคา ณ โรงกลั่น +ภาษีต่างๆ + กองทุนต่างๆ + ค่าการตลาด โดยการปรับราคาหน้าปั๊มในระยะแรก รัฐปรับทุก 15 วัน ต่อมาปรับทุก 7 วัน
ช่วงเปิดเสรีตั้งแต่ปลายปี 2534 สภาวะตลาดต้องนำเข้าน้ำมันในช่วงแรก และต้องส่งออกตั้งแต่ปี 2538 เพราะกำลังการผลิตในประเทศเกินความต้องการ มีโรงกลั่นน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นเป็น 7 แห่ง ประกอบด้วย ไทยออยล์, เอสโซ่, บางจาก, SPRC, RRC, TPI, RPC โดยการตั้งราคานั้นผู้ค้าปลีกเป็นผู้กำหนดราคาให้เป็นไปตามกลไกของการแข่งขันในธุรกิจขายปลีก โดยหลักในการตั้งราคานั้นผู้ค้าปลีกใช้การที่โรงกลั่นต้องส่งออกเป็นข้อต่อรองราคาซื้อจากโรงกลั่น แสดงให้เห็นถึงการเป็นตลาดเสรี มีสูตรราคาหน้าปั๊ม คือ = (P) ราคา ณ โรงกลั่น + ภาษีต่างๆ + กองทุนต่างๆ + ค่าการตลาด สำหรับการปรับราคาหน้าปั๊ม ผู้ค้าปลีกปรับตามสภาวะตลาด
ช่วงที่รัฐแทรกแซงชั่วคราวครั้งล่าสุด ตั้งแต่ 10 มกราคม 2547 สภาวะตลาดภายในปี 2549 คาดว่าตลาดจะสมดุล ดังนั้น ช่วงนี้เมื่อมีบางโรงกลั่นปิดซ่อมแซมก็จะต้องมีการนำเข้า เช่นเริ่มมีการนำเข้าดีเซลเดือนมกราคม และ กุมภาพันธ์ 2547 การตั้งราคา ณ วันนี้รัฐบาลตรึงราคาดีเซลไว้ที่ 18.19 บาท/ลิตร ผลิตภัณฑ์อื่นลอยตัว นอกจาก LPG เป็นกึ่งลอยตัว โดยใช้หลักการรัฐตั้งให้ราคาดีเซลอยู่ในระดับที่ประชาชนกินดีอยู่ดีและพัฒนาประเทศได้ ส่วนผลิตภัณฑ์อื่นเป็นไปตามกลไกตลาด สูตรราคาหน้าปั๊ม คือ = (P) ราคา ณ โรงกลั่น + ภาษีต่างๆ + กองทุนต่างๆ + ค่าการตลาด การปรับราคา ผู้ค้าปลีกปรับตามสภาวะตลาด นอกจากดีเซลซึ่งรัฐบาลปรับเมื่อเห็นเหมาะสม
โครงสร้างราคาหน้าโรงกลั่น ถ้าเป็นแบบตลาดเสรี แต่ละแห่งก็ต้องสู้เพื่อให้ลูกค้ามาซื้อของตน ซึ่งตามปกติก็จะต้องสู้กับโรงกลั่นแห่งอื่นเพื่อขายในประเทศให้ได้มาก ที่เหลือจึงจะส่งออกและสู้กับการนำเข้า แต่ถ้าโรงกลั่นไม่พอแล้วต้องมีการนำเข้าทุกชนิด โรงกลั่นก็ต้องสู้โดยตั้งราคาแข่งกับราคานำเข้า ส่วนธุรกิจค้าปลีกนั้นก็ต้องมาดูกันว่ามีคู่แข่งหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องสู้กับคู่แข่ง แต่ในกรณีที่รัฐบาลเข้าไปควบคุมราคารัฐบาลก็จะดูแลกำไรให้ ซึ่งเป็นส่วนต่างระหว่างราคาหน้าโรงกลั่นบวกกับภาษีกองทุน ภาษีสรรพสามิตกับราคาขาย ที่เหลือก็เป็นค่าการตลาด ซึ่งค่าการตลาดนี้ก็ต้องไปหักค่าดำเนินการปั๊ม ทั้งค่าน้ำ ไฟฟ้า และค่าจ้างเด็กปั๊ม
 
สรุปในการกำหนดราคาหน้าโรงกลั่นจะใช้ราคาน้ำมันนำเข้าเป็นตัวตั้งแล้วใช้กองทุนน้ำมันเป็นตัวปรับราคาให้สมน้ำสมเนื้อกับราคานำเข้า
 
"มีคนชอบถามว่าทำไมเราต้องอิงราคาน้ำมันในตลาดสิงคโปร์ ความจริงเราไม่ได้อิงราคาสิงค์โปร์ แต่เราอิงราคาตลาดโลกที่อยู่ในสิงคโปร์ เพราะที่สิงคโปร์มีการซื้อขายน้ำมันกันมาก แต่ถ้าเมื่อใดที่เรามีการซื้อขายน้ำมันในประเทศมาก เราก็สามารถกำหนดราคาเป็นไทยแลนด์ไพรซ์ได้ ซึ่งเราก็พยายามให้มีการซื้อขายกัน"
 
ค่าการกลั่น ความจริงแล้วค่าการกลั่นมีทั้งค่าการกลั่นรวม และค่าการกลั่นสุทธิ ซึ่งเวลามีการพูดถึงค่าการกลั่น ไม่มีใครพูดว่าเป็นตัวไหนแต่เข้าใจว่าจะเป็นค่าการกลั่นรวม หรือที่เรียกว่า GRM เพราะค่าการกลั่นสุทธิซึ่งเป็นกำไรสุทธิของโรงกลั่นจริงๆ ไม่มีใครรู้ ซึ่งโครงสร้างค่าการกลั่นรวมนี้จะขึ้นอยู่กับส่วนต่างมูลค่าของทุกผลิตภัณฑ์รวมกัน และมูลค่าน้ำมันดิบผสมที่ใช้การกลั่นรวม ไม่ใช่การนำน้ำมันสำเร็จรูปมาลบออกจากน้ำมันดิบดูไบเลย เพราะในการกลั่นน้ำมันของแต่ละโรงกลั่นจะได้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ด้วย นอกจากน้ำมันเบนซินและดีเซล เช่นน้ำมันเตาซึ่งมีราคาถูก และแต่ละโรงกลั่นก็ได้ผลิตภัณฑ์ไม่เท่ากัน
 
"ในการกลั่นไม่ได้ใช้น้ำมันดิบดูไบเพียงอย่างเดียว แต่ที่ต้องอ้างอิงราคาดูไบเพื่อให้ง่ายขึ้น เช่นถ้ามีการซื้อน้ำมันที่มีคุณภาพดีกว่าน้ำมันดูไบราคาที่นำเข้าก็แพงกว่าดูไบ แต่ถ้าคุณภาพแย่กว่าราคาก็ต้องถูกลง ซึ่งก็ต้องมีต้นทุนในการจัดหา ก็มีคำถามมาอีกว่าทำไมค่ากลั่นในช่วงนี้มันสูงนัก ความจริงสูงแล้วก็น่าจะดี เพราะประเทศจะได้เก็บภาษีได้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งค่าการกลั่นจะสูงหรือต่ำนั้นขึ้นอยู่กับราคาของผลิตภัณฑ์ แต่ก็มีตัวแปรหลายตัวที่จะทำให้เปลี่ยน เช่นสเปคของน้ำมัน ถ้าสเปคสูงมากราคาก็จะสูงมากตามไปด้วย"
 
นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับดีมานด์และซัพพลายของน้ำมัน ซึ่งขณะนี้ดีมานด์ในภูมิภาคมีสูง โดยเฉพาะจากจีนและอินเดียที่มีความต้องการใช้น้ำมันมาก ขณะที่ปริมาณการกลั่นของโรงกลั่นใกล้จะเต็ม ภายใน 2-3 ปีข้างหน้านี้ หรือแม้แต่ไทยดีมานด์ก็สูงโดยเฉพาะน้ำมันดีเซล จะเดินเต็มที่ในปี 2548-2549 แต่ยังไม่มีใครกล้าที่จะลงทุนสร้างโรงกลั่นแห่งใหม่ เพราะต้องใช้เงินลงทุนสูงเป็นแสนล้านบาท จึงยังไม่มีใครกล้าเสี่ยง กลัวว่าจะประสบปัญหากำลังการกลั่นเกินความต้องการเหมือนที่ผ่านมา จึงคาดการณ์ได้ว่าราคาน้ำมันสำเร็จรูปแพงแน่
 
สรุปได้ว่า ราคาน้ำมันหน้าปั๊มขึ้นอยู่กับราคาหน้าโรงกลั่น และถ้าเป็นตลาดเสรีก็ต้องขึ้นอยู่กับการแข่งขันด้วย ส่วนราคาหน้าโรงกลั่นก็ต้องขึ้นอยู่กับภาวการณ์แข่งขันและราคานำเข้าน้ำมัน ซึ่งสูตรในการคิดไม่มีอะไรพิสดาร อิงราคาตลาดโลกที่อยู่ในตลาดจรสิงคโปร์ ส่วนค่าการกลั่นนั้นเป็นรายได้รวมจากหลายผลิตภัณฑ์ ทั้งน้ำมันเบนซิน ดีเซล น้ำมันเตา เป็นต้น มาลบออกจากต้นทุนในการกลั่นทั้งของโรงกลั่นและจากราคาน้ำมันดิบผสมที่ซื้อมากลั่น ซึ่งจะสูงหรือต่ำก็ขึ้นอยู่กับตลาด ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์และดีมานด์ของผู้ซื้อรายใหญ่อย่างจีน อินเดีย สหรัฐอเมริกา แต่พอมีการพูดถึงเรื่องนี้ก็พูดกันคนละที 2 ที จึงสร้างความสับสนให้กับสังคม
 
อุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมัน
หลักพื้นฐานของการกลั่นน้ำมัน - ภาพรวมของกระบวนการกลั่นน้ำมัน
กระบวนการกลั่นน้ำมัน คือกระบวนการการแยกโมเลกุลสารไฮโดรคาร์บอนที่อยู่ในน้ำมันดิบ และแปรสภาพสสารดังกล่าวให้เป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปที่มีมูลค่าสูงกว่า
 
โรงกลั่นน้ำมันได้รับการออกแบบให้สามารถกลั่นน้ำมันดิบหลายประเภทรวมถึงวัตถุดิบอื่น ๆ ให้เป็นผลิตภัณฑ์ชนิดต่าง ๆ ตามความต้องการของตลาด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กำไรในการกลั่นน้ำมัน (Refinery Margin) สูงสุด โดยทั่วไปแล้ว หน่วยผลิตแต่ละหน่วยภายในโรงกลั่นน้ำมันจะทำหน้าที่ได้อย่างน้อยอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้
กลั่นแยกสารไฮโดรคาร์บอนหลาย ๆ ประเภทที่อยู่ในน้ำมันดิบตามจุดเดือดที่ต่างกัน
แปรสภาพไฮโดรคาร์บอนให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่ามากขึ้น
ปรับปรุงผลิตภัณฑ์โดยการแยกสารปนเปื้อนออก
ผสมผลิตภัณฑ์ชั้นกลาง (Intermediate Streams) เป็นน้ำมันสำเร็จรูป
น้ำมันดิบเป็นวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการกลั่นน้ำมัน คุณภาพของน้ำมันดิบและชนิดหน่วยกลั่นต่าง ๆ ในโรงกลั่นน้ำมันจะกำหนดวิธีการกลั่นน้ำมัน และระดับความสามารถในการเปลี่ยนน้ำมันดิบ เป็นน้ำมันสำเร็จรูปชนิดต่าง ๆ ที่เหมาะสม โดยทั่วไป การแบ่งประเภทของน้ำมันดิบจะแบ่งตามความหนาแน่น (Density) จากต่ำไปสูง (Light to Heavy) และปริมาณกำมะถัน จากต่ำไปสูง (Sweet to Sour) น้ำมันดิบประเภทที่มีความหนาแน่นและกำมะถันต่ำ (Light Sweet Crude Oil) จะมีราคาสูงกว่าน้ำมันดิบประเภทที่มีความหนาแน่นและกำมะถันสูง (Heavy Sour Crude Oil) ทั้งนี้ เพราะกระบวนการกลั่นและกระบวนการกำจัดสารปนเปื้อนที่มีขั้นตอนน้อยกว่า และให้ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่มีราคาสูงในปริมาณมากกว่า เช่น น้ำมันเบนซิน น้ำมันก๊าดและ น้ำมันดีเซล
 
โดยปกติน้ำมันดิบประเภทที่มีความหนาแน่นสูงและกำมะถันสูงจะขายในราคาถูกกว่าน้ำมันดิบประเภทที่มีความหนาแน่นต่ำหรือมีกำมะถันต่ำเพราะจะให้ผลิตภัณฑ์มูลค่าต่ำและต้องใช้กระบวนการผลิตเพิ่มเติมเพื่อให้ได้น้ำมันชนิดเบาที่มีมูลค่าสูง ผลที่ตามมาคือ โรงกลั่นน้ำมันพยายามที่จะมีการกลั่นน้ำมันดิบและวัตถุดิบอื่น ๆ เพื่อให้ผลประโยชน์สูงสุด โดยคำนึงถึงหน่วยเปลี่ยนแปลงสภาพโมเลกุล (Conversion Unit) และหน่วยกำจัดสารปนเปื้อน (Treating Unit) ของแต่ละโรงกลั่นราคาของสินค้าในปัจจุบันและที่คาดการณ์ในอนาคต ชนิดของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ และราคาน้ำมันดิบและวัตถุดิบอื่น
 
กระบวนการกลั่นน้ำมันแบบคอมเพล็กซ์เป็นกระบวนการที่สามารถแปลงสภาพวัตถุดิบที่มีราคาต่ำ เช่น น้ำมันดิบที่มีความหนาแน่นสูงและกำมะถันสูงให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่ามากขึ้น โดยทั่วไปแล้ว ระดับความซับซ้อน(Complex) ของโรงกลั่นน้ำมันขึ้นอยู่กับจำนวน และชนิดหน่วยเปลี่ยนแปลงสภาพโมเลกุล (Conversion Unit) ที่มี และความยืดหยุ่นและความสามารถในการเลือกใช้วัตถุดิบต่าง ๆ ที่มี จะทำให้โรงกลั่นน้ำมันอยู่ในฐานะที่ได้เปรียบที่จะใช้ประโยชน์จากน้ำมันดิบที่ราคาถูก ซึ่งจะทำให้บริษัทได้รับกำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น
 
ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปที่สำคัญ
ผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้เป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปหลักที่ได้จากโรงกลั่นน้ำมัน
ก๊าซปิโตรเลียมเหลว
น้ำมันเบนซิน
สารทำละลาย (Solvent)
ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี
น้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน/น้ำมันก๊าด
น้ำมันดีเซล
น้ำมันเตา
ยางมะตอย
ถ่านโค้ก
เศรษฐศาสตร์การกลั่นน้ำมัน (Economics of Refining)
โดยหลักแล้วการกลั่นน้ำมันเป็นธุรกิจที่อยู่บนฐานกำไร (Margin) โดยเป้าหมายของผู้กลั่นน้ำมันคือ การทำให้กระบวนการกลั่นน้ำมันมีประสิทธิภาพสูงสุดและได้ผลิตภัณฑ์ที่มีผลตอบแทนดีที่สุดจากวัตถุดิบที่ใช้ ในโรงกลั่นน้ำมันแบบพื้นฐาน (Simple Refinery) ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปส่วนใหญ่ จะเป็นน้ำมันชนิดหนัก (Heavy Products) และมีมูลค่าน้อย เช่น น้ำมันเตาและผลผลิตส่วนน้อยอันได้แก่ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว น้ำมันเบนซิน น้ำมันก๊าด และน้ำมันดีเซล ทั้งนี้ ปริมาณผลิตภัณฑ์จะขึ้นอยู่กับชนิดน้ำมันดิบ และวัตถุดิบที่ใช้ กำไรจากการกลั่นน้ำมัน (Refinery Margin) คำนวณโดยการนำมูลค่าทั้งหมดของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้หักด้วยต้นทุนราคาน้ำมันดิบและวัตถุดิบอื่น และสาธารณูปโภคที่ซื้อจากภายนอก
 
กำไรการกลั่นของโรงกลั่นน้ำมันแบบคอมเพล็กซ์ (Complex Refining Margin) ต่างจากกำไรของโรงกลั่นน้ำมันแบบพื้นฐาน (Simple Refining Margin) ตรงที่การกลั่นน้ำมันแบบคอมเพล็กซ์ จะได้น้ำมันชนิดหนัก (Heavy Products) เป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าเพราะโรงกลั่นน้ำมันแบบคอมเพล็กซ์ (Complex Refinery) จะมีหน่วยกลั่นที่สามารถแปรสภาพน้ำมันชนิดหนักที่มีมูลค่าต่ำให้เป็นน้ำมันชนิดเบา (Light Products) ที่มีมูลค่าสูงกว่าได้
 
โรงกลั่นน้ำมันที่มีระบบที่คอมเพล็กซ์กว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนการผลิตที่สูงกว่าเนื่องด้วยความสามารถในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง โดยใช้น้ำมันดิบหรือวัตถุดิบอื่นที่มีต้นทุนต่ำกว่า ผลที่ตามมาก็คือกำไรการกลั่นแบบคอมเพล็กซ์ (Complex Margin) จะสูงกว่ากำไรการกลั่นแบบพื้นฐาน โรงกลั่นน้ำมันที่มีหน่วยเพิ่มคุณค่าผลิตภัณฑ์ (Upgrading Unit) จะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำมันเบนซิน น้ำมันก๊าดและน้ำมันดีเซล น้ำมันเหล่านี้ จะมีมูลค่ามากกว่าน้ำมันเตา
 
http://www.marinerthai.net/sara/viewsara1115.php (http://www.marinerthai.net/sara/viewsara1115.php)
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: moderndoc ที่ พฤศจิกายน 18, 2013, 00:25:59
ผมฟังแล้ว ก้อดูมีเหตุผลทุกฝ่าย แล้วแต่ใครอ้างอะไรมา การที่เรารู้ไม่จริงทำให้ถูกจูงไปเรื่อยๆ แบบไร้ทิศทาง เอาข้อมูลมากางทีหรือ อ่านตามท่านที่เขียนมาก้อพยักหน้าหงึกๆ เชื่อตามไปเนื่องจากเชื่อคนง่าย อันนี้คงเรียกว่า_โง่_ตามที่หลายๆท่านว่ามา แต่หลายๆครั้ง ยุคนี้เป็นยุคข้อมูลข่าวสารแล้ว ก้อน่าจะเปิดใจรับฟัง กบในกะลาอย่างพวกผมดูบ้าง ผมก้อไม่ใช่เจ้าพ่อระดับ รับรู้ข้อมูลอย่างหลายๆท่าน แต่ผมไม่เข้าใจที่ ปตท บอกว่าไม่สามารถคำนวนค่าการกลั่นน้ำมันออกมาได้ เนื่องจากน้ำมันแต่ละที่ราคาไม่เท่ากัน แต่ทำไมไม่เคยบอกว่าน้ำมันแต่ละลอต ราคาเท่าไหร่ใช้เงินไปเท่าไหร่ในการนำน้ำมันเข้าว่ามาจากไหน หรือ ว่าซื้อจากบริษัทลูกแล้วนำมาแปลงราคาเป็นต้นทุนที่สูงขึ้น หรืออ้างว่า ราคาน้ำมันแพง ปตท  ไม่ใช่ร้าน โชว์ห่วยนะครับที่จะ ซื้อน้ำมันมาขายทีละไม่กี่วันต้อง. ซื้อทีละล็อตใหญ่ๆ นอกจากว่า น้ำมันที่มีในหลายๆหลุมในไทย ส่งมา ทำให้มีหลายแบบในการแตกต่างในการกลั่น โดยแต่ละหลุมได้น้ำมันไม่มากถึงจะใช้เป็นการคำนวนลำบาก แต่พยายามสร้าง บริ ษัทลูก เพื่อแปลงราคา จากหลุม เมืองไทย.  คำนวนค่าการกลั่นออกมาหน่อยได้ไหม
แล้วขอให้เปรียบเทียบค่าการกลั่น เป็นลิตร ต่อบาท ในตอนนี้กับปี 47 ก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ อย่าเอาราคาการกลั่นเป็น ดอลลาร์ ต่อ บาเรล แล้วช่วยกรุณาหารมาทีเถอะครับ ว่า ต่างประเทศ มีค่าการกลั่น ลิตรละกี่บาท อย่าเอาดอลล่าร์ต่อบาเรล มาให้งงเล่นเลยครับ ผมคนโง่
ลองแจงมาว่าต่อ 1 ลิตร มีค่าอะไรบ้าง แล้วค่าการตลาดคืออะไร ต่างประเทศเขาคิดกันเท่าไหร่ เอาเป็นบาท ต่อ ลิตรนะครับน้ำมันเมืองไทยซื้อเป็นบาท คงแจงได้แต่ไม่เห็นมีใครมาแจกแจงเลย ภาษีอะไรเก็บลิตรละเท่าไหร่ หักเข้ากองทุนเท่าไหร่ต่อลิตร ผมว่าแจงได้นะ อย่าอ้างเลยว่าคิดไม่ได้ ถ้าหาค่านี้ไม่ได้ ปตท ตั้งราคาน้ำมันมาได้ไง หรือว่าเดาเอา แล้ว ผม ไม่เห็นเดือนไหน ปตท ขาดทุนเลยนะครับ jet ไม่ได้เจ๊ง แต่เป็น ปตท บีบ ซื้อ โดยรัฐใช้มาตรการภาษี และการส่งจ่ายน้ำมันมากกว่าครับ
ที่กล่าวมาข้างต้น ผมฟังเขามาอีกที ถ้าผู้รู้มาไขข้อกระจ่างก้อดีนะครับ ผมคนเชื่อคนง่าย หรืออาจเรียกง่ายๆว่าคนฉลาดน้อย _โง่_5555
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: moderndoc ที่ พฤศจิกายน 18, 2013, 00:31:57
ลืมไปครับ ทำไมบอร์ด ปตท ไม่กล้าออกมาดีเบต ครับ
นี่อีกเหตุผลที่ผม ไม่เชื่อ ปตท ตามด้านล่างครับ
หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ประกาศท้า รมว.พลังงาน "พงษ์ศักดิ์" และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. "ไพรินทร์" ขึ้นเวทีดีเบตข้อมูลพลังงานใครพูดจริง ใครโกหก
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: LimitedEdition ที่ พฤศจิกายน 18, 2013, 10:13:50
ผมฟังแล้ว ก้อดูมีเหตุผลทุกฝ่าย แล้วแต่ใครอ้างอะไรมา การที่เรารู้ไม่จริงทำให้ถูกจูงไปเรื่อยๆ แบบไร้ทิศทาง เอาข้อมูลมากางทีหรือ อ่านตามท่านที่เขียนมาก้อพยักหน้าหงึกๆ เชื่อตามไปเนื่องจากเชื่อคนง่าย อันนี้คงเรียกว่า_โง่_ตามที่หลายๆท่านว่ามา แต่หลายๆครั้ง ยุคนี้เป็นยุคข้อมูลข่าวสารแล้ว ก้อน่าจะเปิดใจรับฟัง กบในกะลาอย่างพวกผมดูบ้าง ผมก้อไม่ใช่เจ้าพ่อระดับ รับรู้ข้อมูลอย่างหลายๆท่าน แต่ผมไม่เข้าใจที่ ปตท บอกว่าไม่สามารถคำนวนค่าการกลั่นน้ำมันออกมาได้ เนื่องจากน้ำมันแต่ละที่ราคาไม่เท่ากัน แต่ทำไมไม่เคยบอกว่าน้ำมันแต่ละลอต ราคาเท่าไหร่ใช้เงินไปเท่าไหร่ในการนำน้ำมันเข้าว่ามาจากไหน หรือ ว่าซื้อจากบริษัทลูกแล้วนำมาแปลงราคาเป็นต้นทุนที่สูงขึ้น หรืออ้างว่า ราคาน้ำมันแพง ปตท  ไม่ใช่ร้าน โชว์ห่วยนะครับที่จะ ซื้อน้ำมันมาขายทีละไม่กี่วันต้อง. ซื้อทีละล็อตใหญ่ๆ นอกจากว่า น้ำมันที่มีในหลายๆหลุมในไทย ส่งมา ทำให้มีหลายแบบในการแตกต่างในการกลั่น โดยแต่ละหลุมได้น้ำมันไม่มากถึงจะใช้เป็นการคำนวนลำบาก แต่พยายามสร้าง บริ ษัทลูก เพื่อแปลงราคา จากหลุม เมืองไทย.  คำนวนค่าการกลั่นออกมาหน่อยได้ไหม
แล้วขอให้เปรียบเทียบค่าการกลั่น เป็นลิตร ต่อบาท ในตอนนี้กับปี 47 ก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ อย่าเอาราคาการกลั่นเป็น ดอลลาร์ ต่อ บาเรล แล้วช่วยกรุณาหารมาทีเถอะครับ ว่า ต่างประเทศ มีค่าการกลั่น ลิตรละกี่บาท อย่าเอาดอลล่าร์ต่อบาเรล มาให้งงเล่นเลยครับ ผมคนโง่
ลองแจงมาว่าต่อ 1 ลิตร มีค่าอะไรบ้าง แล้วค่าการตลาดคืออะไร ต่างประเทศเขาคิดกันเท่าไหร่ เอาเป็นบาท ต่อ ลิตรนะครับน้ำมันเมืองไทยซื้อเป็นบาท คงแจงได้แต่ไม่เห็นมีใครมาแจกแจงเลย ภาษีอะไรเก็บลิตรละเท่าไหร่ หักเข้ากองทุนเท่าไหร่ต่อลิตร ผมว่าแจงได้นะ อย่าอ้างเลยว่าคิดไม่ได้ ถ้าหาค่านี้ไม่ได้ ปตท ตั้งราคาน้ำมันมาได้ไง หรือว่าเดาเอา แล้ว ผม ไม่เห็นเดือนไหน ปตท ขาดทุนเลยนะครับ jet ไม่ได้เจ๊ง แต่เป็น ปตท บีบ ซื้อ โดยรัฐใช้มาตรการภาษี และการส่งจ่ายน้ำมันมากกว่าครับ
ที่กล่าวมาข้างต้น ผมฟังเขามาอีกที ถ้าผู้รู้มาไขข้อกระจ่างก้อดีนะครับ ผมคนเชื่อคนง่าย หรืออาจเรียกง่ายๆว่าคนฉลาดน้อย _โง่_5555
ขอบคุณล่วงหน้าครับ


ผมไม่แน่ใจว่า "ค่าการกลั่น" หมายถึงอะไรครับ ถ้าหมายถึง กำไรของการกลั่นน้ำมันแต่ละชนิด และโครงสร้างราคาน้ำมัน
ตั้งแต่ออกจากหน้าโรงกลั่นถึงหน้าปั๊มเข้าไปดูได้ที่นี่ครับ ลำบาก download ไฟล์ทีละวันหน่อยนึง จะเห็นว่าอะไรที่เปลี่ยน อะไรที่ไม่เปลี่ยน

http://www.eppo.go.th/petro/price/index.html (http://www.eppo.go.th/petro/price/index.html)

ส่วนถ้าจะให้เทียบเป็น ลิตร ต่อ บาท ผมคิดว่าคงลำบาก เพราะน้ำมันดิบที่ขุดขึ้นมานับเป็นบาร์เรล แล้วเวลากลั่นออกมาใน 1 บาร์เรลของน้ำมันดิบ
มันออกมาเป็นน้ำมันแต่ละประเภทจำนวนไม่เท่ากัน มันถึงต้องมีหน่วยการแปลงจากบาร์เรลเป็นลิตรเฉพาะเจาะจงลงไปในน้ำมันแต่ละประเภทครับ
เวลาดูมักจะดูภาพรวมว่า กำไรจากการกลั่น หรือ Refinery Margin เฉลี่ยจากทั้งโรงกลั่นต่อหน่วยเป็นเท่าไหร่ อันนี้มีครับ ดูในลิงค์อีกเช่นกัน
ตารางด้านล่างที่เขียนว่า Gross Refinery Margin นั่นล่ะครับ ภาพที่แนบมาด้วยนี้ เป็นของ 15 พ.ย. 2556

หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: arzulga ที่ พฤศจิกายน 18, 2013, 16:11:45
ไม่ได้อ่านทุกคอมเม้นท์น่ะครับ

แต่ก็อยากให้บางท่านที่อาจจะเชื่อและมองแต่ตัวเลขอย่างเดียวว่า..ปตท. ไม่ได้มีกำไรมากมายเหมือนอย่างที่เข้าใจ
และเมื่อดูตัวเลขผลตอบแทนจากการลงทุนแล้ว..ถือว่าน้อย

แต่อีกมุมหนึ่งที่อยากให้คิดคือ...ทำไม ปตท. ขายน้ำมันได้เยอะ
ก็ปั้มเขาทำน่าเข้า ห้องน้ำก็สะอาด พื้นที่จอดรถก็เยอะกว่า อาหารก็หากินได้หลากหลาย
ปั้มก็มีเยอะ คนก็เข้ากันเยอะ ยอดขายก็เยอะตาม

ถามจริงๆปั้มอื่นๆ..มันน่าเข้าไหมละครับ

อย่างบางจาก ถึงจะเป็นของไทย แต่ปั้มก็ไม่ได้มีเยอะ ปั้มที่หาใหญ่ๆ พื้นที่จอดรถเยอะ อาหารหากินเยอะก็หายาก

แล้วที่ผ่านมา..ก่อนที่ ปตท. จะทำได้ถึงจุดนี้  ...ถ้าพวกผู้บริหารอย่างปั้มเชลล์ คาล์เท็ก ทำอย่าง ปตท. ทำทุกวันนี้ ยอดขายก็คงเยอะ ยอดขายก็คงเยอะ

มีคนเคยถามผมว่า..ทำไมเลือกเข้าแต่ปั้ม ปตท.. ผมตอบเลยว่าก็มันเข้าแล้วจบ..ได้ทุกอย่างที่ต้องการสำหรับคนเดินทาง
กำไรที่ได้ก็ตกกับประเทศซะส่วนใหญ่  แล้วผมจะไปเข้าเชลล์ คาร์เท็ก หรือปั้มอื่นๆทำไม

ปั้มก็หายาก ห้องน้ำก็ไม่สะอาด ที่จอดรถก็น้อย ของกินก็หายาก
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: หลวงบอล ที่ พฤศจิกายน 19, 2013, 01:41:17
ทำไมน้ำมัน มันถึงได้แพงเช่นนี้ วะ
ในน้ำมัน 1 ลิตรเราจ่ายอะไรไปบ้าง

79 % = ต้นทุนของเค้า

17 % = ค่าภาษีและกองทุนชดเชย

4 %  = ค่าการตลาด


 ข้อมูลจาก ปตท
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: moderndoc ที่ พฤศจิกายน 19, 2013, 02:21:40
ผมฟังแล้ว ก้อดูมีเหตุผลทุกฝ่าย แล้วแต่ใครอ้างอะไรมา การที่เรารู้ไม่จริงทำให้ถูกจูงไปเรื่อยๆ แบบไร้ทิศทาง เอาข้อมูลมากางทีหรือ อ่านตามท่านที่เขียนมาก้อพยักหน้าหงึกๆ เชื่อตามไปเนื่องจากเชื่อคนง่าย อันนี้คงเรียกว่า_โง่_ตามที่หลายๆท่านว่ามา แต่หลายๆครั้ง ยุคนี้เป็นยุคข้อมูลข่าวสารแล้ว ก้อน่าจะเปิดใจรับฟัง กบในกะลาอย่างพวกผมดูบ้าง ผมก้อไม่ใช่เจ้าพ่อระดับ รับรู้ข้อมูลอย่างหลายๆท่าน แต่ผมไม่เข้าใจที่ ปตท บอกว่าไม่สามารถคำนวนค่าการกลั่นน้ำมันออกมาได้ เนื่องจากน้ำมันแต่ละที่ราคาไม่เท่ากัน แต่ทำไมไม่เคยบอกว่าน้ำมันแต่ละลอต ราคาเท่าไหร่ใช้เงินไปเท่าไหร่ในการนำน้ำมันเข้าว่ามาจากไหน หรือ ว่าซื้อจากบริษัทลูกแล้วนำมาแปลงราคาเป็นต้นทุนที่สูงขึ้น หรืออ้างว่า ราคาน้ำมันแพง ปตท  ไม่ใช่ร้าน โชว์ห่วยนะครับที่จะ ซื้อน้ำมันมาขายทีละไม่กี่วันต้อง. ซื้อทีละล็อตใหญ่ๆ นอกจากว่า น้ำมันที่มีในหลายๆหลุมในไทย ส่งมา ทำให้มีหลายแบบในการแตกต่างในการกลั่น โดยแต่ละหลุมได้น้ำมันไม่มากถึงจะใช้เป็นการคำนวนลำบาก แต่พยายามสร้าง บริ ษัทลูก เพื่อแปลงราคา จากหลุม เมืองไทย.  คำนวนค่าการกลั่นออกมาหน่อยได้ไหม
แล้วขอให้เปรียบเทียบค่าการกลั่น เป็นลิตร ต่อบาท ในตอนนี้กับปี 47 ก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ อย่าเอาราคาการกลั่นเป็น ดอลลาร์ ต่อ บาเรล แล้วช่วยกรุณาหารมาทีเถอะครับ ว่า ต่างประเทศ มีค่าการกลั่น ลิตรละกี่บาท อย่าเอาดอลล่าร์ต่อบาเรล มาให้งงเล่นเลยครับ ผมคนโง่
ลองแจงมาว่าต่อ 1 ลิตร มีค่าอะไรบ้าง แล้วค่าการตลาดคืออะไร ต่างประเทศเขาคิดกันเท่าไหร่ เอาเป็นบาท ต่อ ลิตรนะครับน้ำมันเมืองไทยซื้อเป็นบาท คงแจงได้แต่ไม่เห็นมีใครมาแจกแจงเลย ภาษีอะไรเก็บลิตรละเท่าไหร่ หักเข้ากองทุนเท่าไหร่ต่อลิตร ผมว่าแจงได้นะ อย่าอ้างเลยว่าคิดไม่ได้ ถ้าหาค่านี้ไม่ได้ ปตท ตั้งราคาน้ำมันมาได้ไง หรือว่าเดาเอา แล้ว ผม ไม่เห็นเดือนไหน ปตท ขาดทุนเลยนะครับ jet ไม่ได้เจ๊ง แต่เป็น ปตท บีบ ซื้อ โดยรัฐใช้มาตรการภาษี และการส่งจ่ายน้ำมันมากกว่าครับ
ที่กล่าวมาข้างต้น ผมฟังเขามาอีกที ถ้าผู้รู้มาไขข้อกระจ่างก้อดีนะครับ ผมคนเชื่อคนง่าย หรืออาจเรียกง่ายๆว่าคนฉลาดน้อย _โง่_5555
ขอบคุณล่วงหน้าครับ


ผมไม่แน่ใจว่า "ค่าการกลั่น" หมายถึงอะไรครับ ถ้าหมายถึง กำไรของการกลั่นน้ำมันแต่ละชนิด และโครงสร้างราคาน้ำมัน
ตั้งแต่ออกจากหน้าโรงกลั่นถึงหน้าปั๊มเข้าไปดูได้ที่นี่ครับ ลำบาก download ไฟล์ทีละวันหน่อยนึง จะเห็นว่าอะไรที่เปลี่ยน อะไรที่ไม่เปลี่ยน

http://www.eppo.go.th/petro/price/index.html (http://www.eppo.go.th/petro/price/index.html)

ส่วนถ้าจะให้เทียบเป็น ลิตร ต่อ บาท ผมคิดว่าคงลำบาก เพราะน้ำมันดิบที่ขุดขึ้นมานับเป็นบาร์เรล แล้วเวลากลั่นออกมาใน 1 บาร์เรลของน้ำมันดิบ
มันออกมาเป็นน้ำมันแต่ละประเภทจำนวนไม่เท่ากัน มันถึงต้องมีหน่วยการแปลงจากบาร์เรลเป็นลิตรเฉพาะเจาะจงลงไปในน้ำมันแต่ละประเภทครับ
เวลาดูมักจะดูภาพรวมว่า กำไรจากการกลั่น หรือ Refinery Margin เฉลี่ยจากทั้งโรงกลั่นต่อหน่วยเป็นเท่าไหร่ อันนี้มีครับ ดูในลิงค์อีกเช่นกัน
ตารางด้านล่างที่เขียนว่า Gross Refinery Margin นั่นล่ะครับ ภาพที่แนบมาด้วยนี้ เป็นของ 15 พ.ย. 2556


หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: moderndoc ที่ พฤศจิกายน 19, 2013, 02:39:28
จากตารางราคา ก้อ น่าสงสัยปตทแล้ว ต้มราคาเราไหม
ethanol ลิตรละ 27.34 แพงกว่าน้ำมัน อีก แบบนี้ใช้น้ำมันเพรียวๆดีกว่าไหม หรือว่าผมอ่านผิด ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง
ดูช่องว่างความแตกต่างราคา ระหว่าง e10 E20 ไม่ต่างกันเลย
e85 คงพิมผิด บริษัทมหาชนขนาดใหญ่ปล่อยข้อมูลออกมาขนาดนี้ไม่น่าพลาดหรือว่าจงใจ
ลองเปิดใจหน่อยครับ
ขอขอบคุณที่หาข้อมูลมาให้ครับ

จากเด็กโง่หัวดื้อ
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: decptt ที่ พฤศจิกายน 19, 2013, 05:37:36
จากตารางราคา ก้อ น่าสงสัยปตทแล้ว ต้มราคาเราไหม
ethanol ลิตรละ 27.34 แพงกว่าน้ำมัน อีก แบบนี้ใช้น้ำมันเพรียวๆดีกว่าไหม หรือว่าผมอ่านผิด ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง
ดูช่องว่างความแตกต่างราคา ระหว่าง e10 E20 ไม่ต่างกันเลย
e85 คงพิมผิด บริษัทมหาชนขนาดใหญ่ปล่อยข้อมูลออกมาขนาดนี้ไม่น่าพลาดหรือว่าจงใจ
ลองเปิดใจหน่อยครับ
ขอขอบคุณที่หาข้อมูลมาให้ครับ

จากเด็กโง่หัวดื้อ

รัฐบาลสนับสนุน Ethanol และ NGV ครับ
ค่าส่วนต่า รัฐบาลเป็นผู้จ่ายชดเชยให้ครับ
ต้นทุนNGV ประมาณ 16บาท/ลิตร แต่ขายที่ 8.5บาทต่อลิตร ส่วนต่าง ก็รัฐบาลที่ใช้กองทุนมาชดเชยครับ

พวก E10 E20 E85 ก็แบบเดียวกันครับ
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: decptt ที่ พฤศจิกายน 19, 2013, 05:47:30
ผมอยากให้มองอีกมุมหนึ่งนะครับ
ปตท. รัฐบาลถือหุ้นใหญ่อยู่ 51%
บางจาก ปตท.ถือหุ้นใหญ่อยู่ 27% รัฐบาลถือ 10%

ดังนั้น กำไรส่วนใหญ่ ยังไงก็กลับมาอยู่ในประเทศ

แต่
เชลล์ เอสโซ่ คาลเท็กซ์(เชพรอน) ปิโตรนัส เจ้าของหลักเป็นต่างประเทศ แล้วกำไรมันก็ออกนอกประเทศ นะครับ อย่าลืมในจุดนี้
เวลาขึ้นราคาน้ำมัน
พวกบริษัทพวกนี้ก็ขึ้นนะครับ แต่ไม่พูด ไม่ประกาศให้ดังๆ ปล่อย ปตท. เป็นผู้ประกาศ รับกระดูกไปแขวนคอคนเดียว

ผมขายน้ำมันหล่อลื่น หลายยี่ห้อ ก็พอทราบต้นทุนในระดับดีลเลอร์อยู่ พอจะทราบว่ากำไรขนาดไหน ทำไมคนถึงเชียร์ Mobil, Shell, Castrol กันครับ
ขนาดน้ำมันเครื่อง ยี่ห้อที่ไม่ใช่Brand ใหญ่ๆเช่น วาโวลีน เอลฟ์ โมตุล ราคาระดับไหน
ผมเป็นร้านเล็กๆที่ไม่เชียร์ ปตท.ครับ เพราะกำไรน้อยที่สุด เชียร์ยี่ห้อดังๆดีกว่า ขายแกลลอนเดียว เท่ากับขาย ปตท.ได้เกือบ 4-5แกลลอน สบายกว่าครับ 555+
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: Equcha ที่ พฤศจิกายน 19, 2013, 07:50:06
กำไรจาก NG ก็อยู่ได้แล้วครับ เป็น Sole  Provider ส่งให้โรงไฟฟ้า โรงงานต่างๆ ซื้อมาขายไป เป็นพ่อค้าคนกลางรวยยย
ก๊าซอ่าว ร่อยหรอ ก็เอา LNG เข้ามาแทน แต่ก็ไม่ได้กระทบตัวเองมากมายอยู่ดี เพราะค่าก๊าซก็ขึ่นไป ผลสุดท้ายไปลงที่ FT ประชาชนจ่ายอยู่ดี :D
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: LimitedEdition ที่ พฤศจิกายน 19, 2013, 08:16:54
จากตารางราคา ก้อ น่าสงสัยปตทแล้ว ต้มราคาเราไหม
ethanol ลิตรละ 27.34 แพงกว่าน้ำมัน อีก แบบนี้ใช้น้ำมันเพรียวๆดีกว่าไหม หรือว่าผมอ่านผิด ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง
ดูช่องว่างความแตกต่างราคา ระหว่าง e10 E20 ไม่ต่างกันเลย
e85 คงพิมผิด บริษัทมหาชนขนาดใหญ่ปล่อยข้อมูลออกมาขนาดนี้ไม่น่าพลาดหรือว่าจงใจ
ลองเปิดใจหน่อยครับ
ขอขอบคุณที่หาข้อมูลมาให้ครับ

จากเด็กโง่หัวดื้อ

แล้วจะนั่งให้ผมหาข้อมูลมาป้อนให้อ่านอย่างเดียวเลยหรือครับ? ลิงค์ที่ให้ได้กดเข้าไปดูบ้างรึเปล่า
ถ้าดูน่าจะทราบว่ามันไม่ใช่ข้อมูลจาก ปตท. แต่เป็นจากกระทรวงพลังงาน

Reported by Petroleum and Petrochemical Policy Bureau
Energy Policy and Planning Office
Ministry of Energy, Bangkok, Thailand
Revision : 11/19/2013 01:07:33


แล้ว E85 ผิดตรงไหน บอกมาสิครับ?

และขอเรียนให้ทราบนะครับ ว่า Ethanol ไม่เคยถูกกว่าน้ำมัน อยากให้ทราบไว้เลยว่าพลังงานทางเลือกที่ถูกกว่าน้ำมัน
แทบจะไม่มีครับ แต่ที่เราต้องหามาทดแทนเพราะก่อนหน้านี้ ทั่วโลกมองว่าปริมาณน้ำมันดิบที่ยังขุดเจาะมาใช้ได้อยู่จะไม่พอแล้ว
เลยต้องหาอะไรก็ได้ที่มาทดแทน ชะลออัตราการใช้ หรือลดการพึ่งพาผลิตภัณฑ์จากน้ำมันดิบกัน Ethanol ก็เป็นทางหนึ่ง
แต่รัฐบาลส่วนใหญ่ทั่วโลกก็ออกมาชดเชยเพราะต้องการให้หันไปใช้พลังงานทางเลือก

ถ้าคุณยังพอจำได้เมื่อก่อน Gasohol ราคาต่างจากเบนซินล้วนแค่ 80 สตางค์ ต่อมารัฐช่วยเพิ่มขยับเป็น 1.50 บาท -> 2.00 บาท ไปเรื่อย

ผมว่าคุณไม่ใช่หัวดื้อธรรมดา แต่คุณน่ะหัวรั้นครับ เพราะไม่ยอมศึกษาต้องรอให้คนมาป้อนข้อมูลถึงหน้าตักอย่างเดียว
แทนที่จะมานั่งพิมพ์บอกให้คนอื่นเปิดใจ ตัวคุณเองนั่นแหละครับที่ควรจะเปิดใจบ้าง
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ พฤศจิกายน 19, 2013, 08:19:44
ผมอยากให้มองอีกมุมหนึ่งนะครับ
ปตท. รัฐบาลถือหุ้นใหญ่อยู่ 51%
บางจาก ปตท.ถือหุ้นใหญ่อยู่ 27% รัฐบาลถือ 10%

ดังนั้น กำไรส่วนใหญ่ ยังไงก็กลับมาอยู่ในประเทศ

แต่
เชลล์ เอสโซ่ คาลเท็กซ์(เชพรอน) ปิโตรนัส เจ้าของหลักเป็นต่างประเทศ แล้วกำไรมันก็ออกนอกประเทศ นะครับ อย่าลืมในจุดนี้
เวลาขึ้นราคาน้ำมัน
พวกบริษัทพวกนี้ก็ขึ้นนะครับ แต่ไม่พูด ไม่ประกาศให้ดังๆ ปล่อย ปตท. เป็นผู้ประกาศ รับกระดูกไปแขวนคอคนเดียว

ผมขายน้ำมันหล่อลื่น หลายยี่ห้อ ก็พอทราบต้นทุนในระดับดีลเลอร์อยู่ พอจะทราบว่ากำไรขนาดไหน ทำไมคนถึงเชียร์ Mobil, Shell, Castrol กันครับ
ขนาดน้ำมันเครื่อง ยี่ห้อที่ไม่ใช่Brand ใหญ่ๆเช่น วาโวลีน เอลฟ์ โมตุล ราคาระดับไหน
ผมเป็นร้านเล็กๆที่ไม่เชียร์ ปตท.ครับ เพราะกำไรน้อยที่สุด เชียร์ยี่ห้อดังๆดีกว่า ขายแกลลอนเดียว เท่ากับขาย ปตท.ได้เกือบ 4-5แกลลอน สบายกว่าครับ 555+
ถูกๆ
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ พฤศจิกายน 19, 2013, 08:40:00
สงสัยเรื่องราคาเอทานอลครับทำไมตั้งลิตรละ 27.34 หากเป็นเพราะภาษีที่เก็บซ้ำซ้อนซ่อนเงื่อนเหลือเกินก็น่าจะยกเว้นได้เพราะสามารถผลิตในประเทศได้ไม่ควรเก็บเท่ากับน้ำมันที่ต้องนำเข้า ถ้าไม่เป็นอย่างนี้แสดงว่าเราด้อยศักยภาพในการผลิตมากๆเลยทำให้ต้องอุ้มเยอะหรือไม่ก็มีการเล่นกับตัวเลขจะได้ขายได้แพงๆกำไรเยอะๆ


ป.ล. เคยคุยกับเพื่อนที่ทำงานอยู่โรงงานผลิตเอทานอลนานมาแล้วบอกว่าถ้าผลิตเต็มกำลังสามารถลดต้นทุนให้ต่ำกว่านี้ได้แต่ด้วยความไม่แน่นอนของรัฐและยอดการใช้ไม่สูงพอทำให้ต้นทุนยังสูงอยู่  ไม่ทราบว่าตอนนี้เป็นไงแล้ว
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: -nu- ที่ พฤศจิกายน 19, 2013, 09:32:33
ผมฟังแล้ว ก้อดูมีเหตุผลทุกฝ่าย แล้วแต่ใครอ้างอะไรมา การที่เรารู้ไม่จริงทำให้ถูกจูงไปเรื่อยๆ แบบไร้ทิศทาง เอาข้อมูลมากางทีหรือ อ่านตามท่านที่เขียนมาก้อพยักหน้าหงึกๆ เชื่อตามไปเนื่องจากเชื่อคนง่าย อันนี้คงเรียกว่า_โง่_ตามที่หลายๆท่านว่ามา แต่หลายๆครั้ง ยุคนี้เป็นยุคข้อมูลข่าวสารแล้ว ก้อน่าจะเปิดใจรับฟัง กบในกะลาอย่างพวกผมดูบ้าง ผมก้อไม่ใช่เจ้าพ่อระดับ รับรู้ข้อมูลอย่างหลายๆท่าน แต่ผมไม่เข้าใจที่ ปตท บอกว่าไม่สามารถคำนวนค่าการกลั่นน้ำมันออกมาได้ เนื่องจากน้ำมันแต่ละที่ราคาไม่เท่ากัน แต่ทำไมไม่เคยบอกว่าน้ำมันแต่ละลอต ราคาเท่าไหร่ใช้เงินไปเท่าไหร่ในการนำน้ำมันเข้าว่ามาจากไหน หรือ ว่าซื้อจากบริษัทลูกแล้วนำมาแปลงราคาเป็นต้นทุนที่สูงขึ้น หรืออ้างว่า ราคาน้ำมันแพง ปตท  ไม่ใช่ร้าน โชว์ห่วยนะครับที่จะ ซื้อน้ำมันมาขายทีละไม่กี่วันต้อง. ซื้อทีละล็อตใหญ่ๆ นอกจากว่า น้ำมันที่มีในหลายๆหลุมในไทย ส่งมา ทำให้มีหลายแบบในการแตกต่างในการกลั่น โดยแต่ละหลุมได้น้ำมันไม่มากถึงจะใช้เป็นการคำนวนลำบาก แต่พยายามสร้าง บริ ษัทลูก เพื่อแปลงราคา จากหลุม เมืองไทย.  คำนวนค่าการกลั่นออกมาหน่อยได้ไหม
แล้วขอให้เปรียบเทียบค่าการกลั่น เป็นลิตร ต่อบาท ในตอนนี้กับปี 47 ก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ อย่าเอาราคาการกลั่นเป็น ดอลลาร์ ต่อ บาเรล แล้วช่วยกรุณาหารมาทีเถอะครับ ว่า ต่างประเทศ มีค่าการกลั่น ลิตรละกี่บาท อย่าเอาดอลล่าร์ต่อบาเรล มาให้งงเล่นเลยครับ ผมคนโง่
ลองแจงมาว่าต่อ 1 ลิตร มีค่าอะไรบ้าง แล้วค่าการตลาดคืออะไร ต่างประเทศเขาคิดกันเท่าไหร่ เอาเป็นบาท ต่อ ลิตรนะครับน้ำมันเมืองไทยซื้อเป็นบาท คงแจงได้แต่ไม่เห็นมีใครมาแจกแจงเลย ภาษีอะไรเก็บลิตรละเท่าไหร่ หักเข้ากองทุนเท่าไหร่ต่อลิตร ผมว่าแจงได้นะ อย่าอ้างเลยว่าคิดไม่ได้ ถ้าหาค่านี้ไม่ได้ ปตท ตั้งราคาน้ำมันมาได้ไง หรือว่าเดาเอา แล้ว ผม ไม่เห็นเดือนไหน ปตท ขาดทุนเลยนะครับ jet ไม่ได้เจ๊ง แต่เป็น ปตท บีบ ซื้อ โดยรัฐใช้มาตรการภาษี และการส่งจ่ายน้ำมันมากกว่าครับ
ที่กล่าวมาข้างต้น ผมฟังเขามาอีกที ถ้าผู้รู้มาไขข้อกระจ่างก้อดีนะครับ ผมคนเชื่อคนง่าย หรืออาจเรียกง่ายๆว่าคนฉลาดน้อย _โง่_5555
ขอบคุณล่วงหน้าครับ


มีคีย์บอร์ดอยู่ในมือ  Google ได้จากหน้าจอตัวเอง ก็ลองออกแรงซักหน่อย ไอ้ที่คุณขอน่ะมีหน่วยงานทำข้อมูลให้พร้อมเสริฟอยู่แล้ว

ค่าการกลั่น ให้หาคำว่า rifinery margin ข้อมูลมีเป็นกระบุง ในคอมพ์คุณก็น่าจะมี Excel ก็น่าจะใช้คำนวนดูเองก็ได้

อย่าเอาแ่ต่ขอให้คนโน้นคนนี้หาให้เลยครับ  ลองขวนขวายทำอะไรเองบ้าง จะได้ไม่ "ฉลาดน้อย _โง่" อย่างที่คุณว่า เดี๋ยวมันจะ ดักดาน

หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: i-din ที่ พฤศจิกายน 19, 2013, 13:06:51
เหมือนเคยเห็นจากที่ไหนไม่รุ้ สักพักนี่แหล่ะ ราคาหน้าโรงกลั่นของไทย แพงกว่าที่สิงคโปร์ 1 - 2 บาทเท่านั้นเอง เมื่อเทียบเป็นน้ำมันสำเร็จรุปแล้วนะครับ ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก



 
สงสัยเรื่องราคาเอทานอลครับทำไมตั้งลิตรละ 27.34 หากเป็นเพราะภาษีที่เก็บซ้ำซ้อนซ่อนเงื่อนเหลือเกินก็น่าจะยกเว้นได้เพราะสามารถผลิตในประเทศได้ไม่ควรเก็บเท่ากับน้ำมันที่ต้องนำเข้า ถ้าไม่เป็นอย่างนี้แสดงว่าเราด้อยศักยภาพในการผลิตมากๆเลยทำให้ต้องอุ้มเยอะหรือไม่ก็มีการเล่นกับตัวเลขจะได้ขายได้แพงๆกำไรเยอะๆ


ป.ล. เคยคุยกับเพื่อนที่ทำงานอยู่โรงงานผลิตเอทานอลนานมาแล้วบอกว่าถ้าผลิตเต็มกำลังสามารถลดต้นทุนให้ต่ำกว่านี้ได้แต่ด้วยความไม่แน่นอนของรัฐและยอดการใช้ไม่สูงพอทำให้ต้นทุนยังสูงอยู่  ไม่ทราบว่าตอนนี้เป็นไงแล้ว

ส่วนพลังงานทดแทน เชื่อหรือเปล่าว่า ผมซื้อน้ำมันสบู่ดำดิบมาทดลอง ราคาลิตรละ 150 บาท ปาล์มดิบ ลิตรละ 25 บาท เลยครับ ถ้ามาผ่านเป็นไบโอดีเซล ก็มีอีกประมาณลิตรละ 5 - 10 บาท ส่วนเอทานอล ราคานั้นผมว่าโอเคอยู่แล้วนะ โดยรวมแล้ว ต้นทุนเอทานอลมันแพงที่การทำให้บริสุทธน่ะครับ โดยเเฉพาะจากความบริสุทธ 10% ไล่ไปถึง 90% กว่า ที่สำคัญ ทำยากด้วย ต้มก็ลำบากเพราะว่าจุดเดือดมันใกล้กันมาก เลยระเหยปนกันออกมาเลยระหว่างน้ำกับอัลกอฮอล์ แล้วที่สำคัญ เอทานอลที่ใช้ผสมน้ำมันต้องมีความบริสุทธิ 99.5% ขึ้นไปน่ะครับ

ข้อมูลอันนี้ผมทำเอง ประมาณปี 50  ราคาวัตถุดิบน่าจะเปลี่ยนไปเยอะแล้ว

ต้นทุนวัตถุดิบต่อลิตร
มันสัมปะหลัง (15 บาท/kg)    คิดที่ 6.5 kg = 1 litre ethano รวมแล้วต้นทุนวัตถุดิบ   9.75 บาทต่อลิตร   
ราคามันเส้น (4 บาท/kg) คิดที่ 2.5 kg = 1 litre ethanol รวมแล้วต้นทุนวัตถุดิบ    10.8 บาทต่อลิตร      
กากน้ำตาล (   3.8บาท/ลิตร)   คิดที่ 4 kg = 1 litre ethanolแล้วแล้วต้นทุนวัตถุดิบ 15.2 บาทต่อลิตร

ตอนนั้นราคาเอทานอลประมาณไม่เกิน 20 บาทนะครับ แล้วน้ำมันก็ยังไม่เกิน 30 บาทด้วยสำหรับเบนซินนะ ปี 56 นี้ราคาน่าจะเปลี่ยนไปเยอะแล้ว

ราคาพลังงานทดแทน แพงทุกตัวครับ ไม่มีตัวไหนถูกเลย เลยต้องมีการเอาเงินอุดหนุนไงครับ อย่างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ รัฐยังอุดหนุนยูนิตละ 6 - 8 บาทเลย แล้วแต่สัญญา
 

      
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: i-din ที่ พฤศจิกายน 19, 2013, 22:40:59
ทำไมน้ำมัน มันถึงได้แพงเช่นนี้ วะ
ในน้ำมัน 1 ลิตรเราจ่ายอะไรไปบ้าง

79 % = ต้นทุนของเค้า

17 % = ค่าภาษีและกองทุนชดเชย

4 %  = ค่าการตลาด


 ข้อมูลจาก ปตท

ข้อมูลนี้น่าจะไม่ใช่นะครับ ข้อมูลจากคุณ Nuay Pual R. โพสต์เป็นรูปไว้ละเอียดชัดเจนมากครับ ต้นทุนเค้าประมาณครึ่งเดียว หรือ 2/3 ตามชนิดน้ำมันเอง ส่วนค่าการตลาดประมาณบาทกว่าๆ จาก 30 - 40 บาท น่าจะอยู่ประมาณ 2 - 3% เท่านั้นเอง
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: moderndoc ที่ พฤศจิกายน 20, 2013, 19:05:02
จากตารางราคา ก้อ น่าสงสัยปตทแล้ว ต้มราคาเราไหม
ethanol ลิตรละ 27.34 แพงกว่าน้ำมัน อีก แบบนี้ใช้น้ำมันเพรียวๆดีกว่าไหม หรือว่าผมอ่านผิด ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง
ดูช่องว่างความแตกต่างราคา ระหว่าง e10 E20 ไม่ต่างกันเลย
e85 คงพิมผิด บริษัทมหาชนขนาดใหญ่ปล่อยข้อมูลออกมาขนาดนี้ไม่น่าพลาดหรือว่าจงใจ
ลองเปิดใจหน่อยครับ
ขอขอบคุณที่หาข้อมูลมาให้ครับ

จากเด็กโง่หัวดื้อ

แล้วจะนั่งให้ผมหาข้อมูลมาป้อนให้อ่านอย่างเดียวเลยหรือครับ? ลิงค์ที่ให้ได้กดเข้าไปดูบ้างรึเปล่า
ถ้าดูน่าจะทราบว่ามันไม่ใช่ข้อมูลจาก ปตท. แต่เป็นจากกระทรวงพลังงาน

Reported by Petroleum and Petrochemical Policy Bureau
Energy Policy and Planning Office
Ministry of Energy, Bangkok, Thailand
Revision : 11/19/2013 01:07:33


แล้ว E85 ผิดตรงไหน บอกมาสิครับ?

และขอเรียนให้ทราบนะครับ ว่า Ethanol ไม่เคยถูกกว่าน้ำมัน อยากให้ทราบไว้เลยว่าพลังงานทางเลือกที่ถูกกว่าน้ำมัน
แทบจะไม่มีครับ แต่ที่เราต้องหามาทดแทนเพราะก่อนหน้านี้ ทั่วโลกมองว่าปริมาณน้ำมันดิบที่ยังขุดเจาะมาใช้ได้อยู่จะไม่พอแล้ว
เลยต้องหาอะไรก็ได้ที่มาทดแทน ชะลออัตราการใช้ หรือลดการพึ่งพาผลิตภัณฑ์จากน้ำมันดิบกัน Ethanol ก็เป็นทางหนึ่ง
แต่รัฐบาลส่วนใหญ่ทั่วโลกก็ออกมาชดเชยเพราะต้องการให้หันไปใช้พลังงานทางเลือก

ถ้าคุณยังพอจำได้เมื่อก่อน Gasohol ราคาต่างจากเบนซินล้วนแค่ 80 สตางค์ ต่อมารัฐช่วยเพิ่มขยับเป็น 1.50 บาท -> 2.00 บาท ไปเรื่อย

ผมว่าคุณไม่ใช่หัวดื้อธรรมดา แต่คุณน่ะหัวรั้นครับ เพราะไม่ยอมศึกษาต้องรอให้คนมาป้อนข้อมูลถึงหน้าตักอย่างเดียว
แทนที่จะมานั่งพิมพ์บอกให้คนอื่นเปิดใจ ตัวคุณเองนั่นแหละครับที่ควรจะเปิดใจบ้าง
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: moderndoc ที่ พฤศจิกายน 20, 2013, 19:29:53
ผมอยากให้มองอีกมุมหนึ่งนะครับ
ปตท. รัฐบาลถือหุ้นใหญ่อยู่ 51%
บางจาก ปตท.ถือหุ้นใหญ่อยู่ 27% รัฐบาลถือ 10%

ดังนั้น กำไรส่วนใหญ่ ยังไงก็กลับมาอยู่ในประเทศ

แต่
เชลล์ เอสโซ่ คาลเท็กซ์(เชพรอน) ปิโตรนัส เจ้าของหลักเป็นต่างประเทศ แล้วกำไรมันก็ออกนอกประเทศ นะครับ อย่าลืมในจุดนี้
เวลาขึ้นราคาน้ำมัน
พวกบริษัทพวกนี้ก็ขึ้นนะครับ แต่ไม่พูด ไม่ประกาศให้ดังๆ ปล่อย ปตท. เป็นผู้ประกาศ รับกระดูกไปแขวนคอคนเดียว

ผมขายน้ำมันหล่อลื่น หลายยี่ห้อ ก็พอทราบต้นทุนในระดับดีลเลอร์อยู่ พอจะทราบว่ากำไรขนาดไหน ทำไมคนถึงเชียร์ Mobil, Shell, Castrol กันครับ
ขนาดน้ำมันเครื่อง ยี่ห้อที่ไม่ใช่Brand ใหญ่ๆเช่น วาโวลีน เอลฟ์ โมตุล ราคาระดับไหน
ผมเป็นร้านเล็กๆที่ไม่เชียร์ ปตท.ครับ เพราะกำไรน้อยที่สุด เชียร์ยี่ห้อดังๆดีกว่า ขายแกลลอนเดียว เท่ากับขาย ปตท.ได้เกือบ 4-5แกลลอน สบายกว่าครับ 555+
ผมว่ากำไรออกนอกประเทศอยู่ดี ใครเป็นผู้ถือหุ้นใน ปตท ต่างชาติหรือไทยครับ
เงินที่ ปตท กำไร คืนเป็นภาษีหรือกำไรเข้ารัฐ แต่เงินที่รั่วไหล เพียบ
สงสารประเทศสงสารคนไทย
หัวข้อ: Re: 9 เดือนกลุ่ม ปตท.กำไร 1.68 แสนล. PTT โกยรายได้การขาย 2 ล้านล.
เริ่มหัวข้อโดย: i-din ที่ พฤศจิกายน 20, 2013, 22:10:24
กำไรของบริษัทมหาชนจะปันผลคืนผุ้ถือหุ้นครับ ซึ่ง กระทรวงการคลังจะบันทึกเป็นรายได้ ทั้งจากที่คลังถือหุ้นโดยตรง แล้วก็ถือผ่านกองทุนวายุพักต์ ส่วนที่ไม่ใช่เป็นปันผลก็ไปเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัท เช่น โบนัสพนักงาน ฯลฯ โอนออกไปนอกประเทศโดยตรงไมได้หรอกครับ

 
ผมอยากให้มองอีกมุมหนึ่งนะครับ
ปตท. รัฐบาลถือหุ้นใหญ่อยู่ 51%
บางจาก ปตท.ถือหุ้นใหญ่อยู่ 27% รัฐบาลถือ 10%

ดังนั้น กำไรส่วนใหญ่ ยังไงก็กลับมาอยู่ในประเทศ

แต่
เชลล์ เอสโซ่ คาลเท็กซ์(เชพรอน) ปิโตรนัส เจ้าของหลักเป็นต่างประเทศ แล้วกำไรมันก็ออกนอกประเทศ นะครับ อย่าลืมในจุดนี้
เวลาขึ้นราคาน้ำมัน
พวกบริษัทพวกนี้ก็ขึ้นนะครับ แต่ไม่พูด ไม่ประกาศให้ดังๆ ปล่อย ปตท. เป็นผู้ประกาศ รับกระดูกไปแขวนคอคนเดียว

ผมขายน้ำมันหล่อลื่น หลายยี่ห้อ ก็พอทราบต้นทุนในระดับดีลเลอร์อยู่ พอจะทราบว่ากำไรขนาดไหน ทำไมคนถึงเชียร์ Mobil, Shell, Castrol กันครับ
ขนาดน้ำมันเครื่อง ยี่ห้อที่ไม่ใช่Brand ใหญ่ๆเช่น วาโวลีน เอลฟ์ โมตุล ราคาระดับไหน
ผมเป็นร้านเล็กๆที่ไม่เชียร์ ปตท.ครับ เพราะกำไรน้อยที่สุด เชียร์ยี่ห้อดังๆดีกว่า ขายแกลลอนเดียว เท่ากับขาย ปตท.ได้เกือบ 4-5แกลลอน สบายกว่าครับ 555+
ผมว่ากำไรออกนอกประเทศอยู่ดี ใครเป็นผู้ถือหุ้นใน ปตท ต่างชาติหรือไทยครับ
เงินที่ ปตท กำไร คืนเป็นภาษีหรือกำไรเข้ารัฐ แต่เงินที่รั่วไหล เพียบ
สงสารประเทศสงสารคนไทย