Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Wayfarer-R ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2014, 16:53:04
-
(ข่าวนะครับ)
ค่ายรถยนต์ประกาศยุติโครงการรถคันแรก หลังพบว่าลูกค้าทิ้งใบจองกว่า 100,000 คัน วอนอย่าใช้เป็นนโยบายการหาเสียงทางการเมืองอีก
กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. สรุปจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการรถยนต์คันแรกจำนวนทั้งสิ้น 1.13 ล้านคัน และมียอดตกค้างจากการทิ้งใบจองกว่า 100,000 คัน โดยค่ายรถยนต์ต่างๆได้แจ้งขอยุติการเข้าร่วมโครงการกับภาครัฐ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ค่ายรถยนต์ต่างเร่งกำลังการผลิตรถยนต์คันแรก เพื่อส่งมอบให้เอเย่นต์หรือผู้แทนจำหน่าย แต่เมื่อมีการทิ้งใบจอง ส่งผลให้รถยนต์ในโครงการ 130,000 คันไปตกค้างอยู่ในสต็อกของโชว์รูมรถยนต์ ในขณะที่บางโชว์รูมต้องเสียค่าเช่าที่จอดรถยนต์เพิ่มขึ้น รวมถึงเสียดอกเบี้ยให้ไฟแนนซ์ ทำให้ค่ายรถยนต์ต้องเปลี่ยนแผนหันไปผลิตเพื่อการส่งออกเพิ่มมากขึ้น
ด้านนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒน์พงษ์ รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ เปิดเผยว่าถึงกรณีได้รับแจ้งจากผู้ที่ถือใบจอง ทั้งการขอทิ้งใบจองและทิ้งเงินมัดจำ ขณะที่บางรายแจ้งว่าได้ซื้อรถยนต์รุ่นอื่นและยี่ห้อใหม่แล้วเพราะข้อเสนอที่ดีกว่าโครงการรถคันแรก ทำให้ไม่มีปัญหาการฟ้องร้องของลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการ โดยภาคเอกชนร้องขอไม่ให้พรรคการเมืองนำมาใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงอีก เนื่องจากส่งผลให้แผนการผลิตรถยนต์ของประเทศไทยเกิดการปั่นป่วน ถึงแม้กระทรวงการคลังจะสามารถจัดสรรงบประมาณมาจ่ายคืนภาษีรถยนต์ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการได้ก็ตาม
ขอบคุณข่าวจากแนวหน้า และไทยพีบีเอส
http://www.naewna.com/business/90007 (http://www.naewna.com/business/90007)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากอ่านข่าวนี้ คือ ใครที่จองไว้ ตามระยะเวลาที่ระบุไว้ ในเงื่อนไขโครงการรถคันแรก แต่ยังไม่ได้รถ อันนี้ถูกยกเลิกไปด้วยใช่มั้ยครับ
-
ตอนโครงการนี่มันออกมาแรก ทั้งค่ายรถ ทั้งคนซื้อก็ดีใจกันใหญ่แหละครับ เพราะว่าตอนนั้นทางค่ายเองก็แบบนะได้ขายรถเยอะขึ้นไงครับ ลูกค้าก็ได้รถที่ราคาถูกลงแต่พอมาตอนนี่กลับกลายเป็นว่าคนที่เคยจ้องไว้กลับทิ้งใบจองเพราะว่า รถบางรุ่นเนี่ยลดเงินสด 1 แสนบาทเลยทิ้งใบจองกัน ส่วนค่ายรถเหรอก็รถล้นสต๊อก
-
แล้ว eco car เฟส 2 ไม่มีแล้ว ??? ::) ::)
-
แล้ว eco car เฟส 2 ไม่มีแล้ว ??? ::) ::)
ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้นครับ แต่ลองคิดอีกที มันคนละโครงการรึเปล่า อันหนึ่งโครงการลดภาษี ไม่เกิน 1 แสน สำหรับคนที่ยังไม่เคยมีรถ กับโครงการรถยนต์ปล่อยมลภาวะต่ำ
-
เป็นไงละว่าแล้ว มันก็แค่โครงการหาเสียงเท่านั้นเอง ผู้ที่หนักสุดคงเป็นค่ายรถยนต์
และราคารถมือ 2 คงตกมากแน่ๆ เพราะจะมีคนผ่อนไม่ไหวอีกบาน 55+
-
ผมมองว่าความผิดพลาดน่าจะเกิดจากค่ายรถเอง พอหมดโครงการปรับ พี่แกรีบดันรถรุ่นใำม่ลงตลาดกลัวตลาดหาย รีบอัดโปรโมชั่น แถมได้รถเร็วอีก ผู้บริโภคหักบยคูณหารส่วนลดแล้ว แทบไม่ต่งมาก เขาก็ไม่มารอสิ จะให้รอนานๆแถมราคาต่างไม่เ่ท่า
-
ผมมองว่าความผิดพลาดน่าจะเกิดจากค่ายรถเอง พอหมดโครงการปรับ พี่แกรีบดันรถรุ่นใำม่ลงตลาดกลัวตลาดหาย รีบอัดโปรโมชั่น แถมได้รถเร็วอีก ผู้บริโภคหักบยคูณหารส่วนลดแล้ว แทบไม่ต่งมาก เขาก็ไม่มารอสิ จะให้รอนานๆแถมราคาต่างไม่เ่ท่า
ผมว่าจะโทษค่ายรถก็ไม่ถูกครับ
ผมเข้าใจค่ายรถวางแผนนโยบายไว้เป็นปีๆกว่าจะนำสินค้ามาขาย แล้วถ้าตอนนั้น คุณไม่ลด สต๊อกเดิมก็เต็ม ซักวันมีเจ้าที่อยู่ไม่ได้ เพราะ Dead Stock เกิน ค่าการรักษาสินค้าค่อยๆสูง ก็ต้องขายลดอยู่ดี พอเป็นแบบนี้แทนที่จะรอมีคนไม่ไหวสู้ลดซะเอง ออกรุ่นใหม่เอง เลยไม่ดีกว่า ?
-
1. เค้าไม่ได้บังคับให้ซื้อ
2. เค้าไม่ได้บังคับให้ขาย ไม่ได้มีใครมาบังคับว่าพวกคุณต้องผลิตรถออกมาเยอะๆ นโยบายคือคืนภาษี
สรุปว่า ต้องโทษคนที่ไม่เจียม เงินไม่พอดันไปออกรถ แสดงถึงวุฒิภาวะและการตัดสินใจของคนพวกนี้ได้เป็นอย่างดี
อย่าหาว่าด่าเลยนะ แต่การจะซื้อ รถ 1 คัน เนี่ย องค์ประกอบมันเยอะมากๆเลยนะ นอกจากราคา ที่จอด การบำรุงรักษา
ไม่ใชตื่นตูม เฮ้ย ได้ คืน 1 แสน ซื้อรถกันๆ
แล้วเงิน 1 แสน ความจริงๆแล้ว ไม่ได้เยอะขนาดนั้นนะ ไม่ได้มีใครบังคับให้ซื้อ
สำหรับผมโครงการมีประโยชน์ในหลายแง่เช่น
1. คนที่จำเป็นต้องเดินทางจริงๆ แต่ไม่ต้องการรถที่มีเลิศหรูอะไร หรือ นศ. พ่อแม่ซื้อรถคันแรกให้ ก็ช่วยลดค่าใช้จ่าย
2. พวกอะไหล่ ยาง ของแต่ง ธุรกิจเกี่ยวกับรถก็โตไปด้วย ล้างรถ พลาสติก ยาง การท่องเที่ยว etc.
-
ถ้าผู้ซื้อรู้จักประเมินตนเอง มีศักยภาพพอ มีความจำเป็นและความพร้อมที่จะซื้อจริง ผมว่าโครงการนี่มีประโยชน์และจะไม่failแบบนี้แน่ๆ
-
ผมว่า ส่วนหนึงไม่ได้มาจาก คนซื้อไม่เจียม หรือ เงินไม่พอหรอกครับ (คงไม่ใช่ปัจจัยหลัก)
กรณีเพื่อนผมครับ จอง H city ได้ ลด 100K จาก นโยบาย 2 เดือนก่อนถึงกำหนด รับรถ T Altis ลด 100K + ของแถม เพื่อนผมก็เลยไปจัด T เพราะรับรถได้เลย ของแถมเพียบ ไม่ต้องไปรอ 1 ปีแล้วรับ 100K
สรุปเลยนะครับ ค่ายรถยนต์เค้าทำโปรออกมา แย้งตลาดกัน ผู้ซื้อย่อม หาของที่ถูกที่สุด ดีนิดๆ ได้เยอะที่สุด เป็นธรรมดา ใครบ้างไม่อยากได้ของ เร็ว+ดี+ถูก
-
1. เค้าไม่ได้บังคับให้ซื้อ
2. เค้าไม่ได้บังคับให้ขาย ไม่ได้มีใครมาบังคับว่าพวกคุณต้องผลิตรถออกมาเยอะๆ นโยบายคือคืนภาษี
สรุปว่า ต้องโทษคนที่ไม่เจียม เงินไม่พอดันไปออกรถ แสดงถึงวุฒิภาวะและการตัดสินใจของคนพวกนี้ได้เป็นอย่างดี
อย่าหาว่าด่าเลยนะ แต่การจะซื้อ รถ 1 คัน เนี่ย องค์ประกอบมันเยอะมากๆเลยนะ นอกจากราคา ที่จอด การบำรุงรักษา
ไม่ใชตื่นตูม เฮ้ย ได้ คืน 1 แสน ซื้อรถกันๆ
แล้วเงิน 1 แสน ความจริงๆแล้ว ไม่ได้เยอะขนาดนั้นนะ ไม่ได้มีใครบังคับให้ซื้อ
สำหรับผมโครงการมีประโยชน์ในหลายแง่เช่น
1. คนที่จำเป็นต้องเดินทางจริงๆ แต่ไม่ต้องการรถที่มีเลิศหรูอะไร หรือ นศ. พ่อแม่ซื้อรถคันแรกให้ ก็ช่วยลดค่าใช้จ่าย
2. พวกอะไหล่ ยาง ของแต่ง ธุรกิจเกี่ยวกับรถก็โตไปด้วย ล้างรถ พลาสติก ยาง การท่องเที่ยว etc.
1. คนพวกนี้ ชีวิตตอนนี้เขาดีขึ้นไหม
2. มันจริงหรือเปล่า เพราะเท่าที่ดูมันแย่ลงหมดน่ะ
ผมว่าถ้าเราไม่สร้างสิ่งที่มันผิดจากความเป็นจริง เราอาจจะมีความสุขกับชีวิตตอนนี้มากกว่าปัจจุบันเยอะ
-
คนมันโลภ ไม่ดูตัวเองว่า ไหวไหม อยากได้ไปหมด แล้วสุดท้ายก็เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์
คนที่มีเงินซื้อรถ ผมว่า เค้าไม่ซื้อรถที่ได้ลด1แสนบาทหรอก เค้าไปซื้อรถที่เหมาะกับฐานะตัวเองมากกว่า
บางคนมีเงินพอตัว เหลือไว้ผ่อนสบายๆ เค้าก็อาจจะซื้อรถที่พอตัว ได้ลด1แสนก็เป็นผลพลอยได้ไป
แต่ก็อย่างว่า
คนขับรถที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน เงินเดือน 9พัน มีลูกเมียต้องดูแล ก็ไปซื้อรถที่ร่วมโครงการรถคันแรกมาใช้ ตอนนี้ก็คงลำบากน่าดู
ถึงจะบอกว่าผ่อนเริ่มต้นเดือนล่ะ 3,xxx ก็เหอะ หลังจากปีที่2นั้น เหลืออีกก้อนที่ต้องผ่อน ด้วยดอกที่แพง ยังไงก็ไม่ไหว
-
ผมว่า นโยบายนี้มันทำให้กลไกราคา มั่วไปหมดเลยครับ
ราคารถมือสอง ราคารถมือ 1 กลุ่ม อื่นๆ
แถมยังมี พวกลักไก่ เอาชื่อตาสีตาสา คนใช้ มาออกรถด้วย ที่ผมรู้จักออกไป 2 คัน
Mirage City CNG
แย่มากครับ
ส่วนเรื่องคนผ่อนไม่ไหว ผมมองว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของเขาครับ
ก็ต้องดูให้ดีเวลาจะปล่อยครับ
-
ผมด่าและไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้เลย ตั้งแต่ออกมาโชว์หรา
เหตุผลง่ายๆ รถยนต์มันเป็นเรื่องของคนมีตังค์ซื้อ ( จะอ้างว่าจำเป็นอะไรก็แล้วแต่ แต่มันไม่ใช่ปัจจัย 4 ที่ไม่มีแล้วจะตาย หรือไม่ก็รถมือสองราคาถูกๆเยอะแย่ )
และที่สำคัญคือ มันเป็นเงินภาษีที่ควรจะเข้ารัฐเพื่อใช้บริหารประเทศ เป็นเงินของเราทุกๆคนที่ควรจะได้ ไม่ใช่ เอามาคืนให้กับคนบางกลุ่มที่ซื้อรถแบบนี้
ประเทศไทยจะเจริญได้อย่างไร ถ้ารัฐบาลเอาเงินภาษีที่ควรจะได้ มาคืนให้กับคนมีเงิน รถคันแรก ออกสู่ตลาด 1.3 ล้านคัน คิดเป็นเงินง่ายๆ คืนคันละ 70,000 พอ ไม่ต้องถึง 1 แสน
เป็นเงิน 91,000 ล้านบาท
แล้วดูทุกวันนี้สิครับ รัฐบาลไม่มีเงินให้ชาวนา
คนที่สบายอยู่แล้ว รัฐบาลให้เงิน แต่คนลำบากอยู่แล้ว เอาของมาขาย แต่กลับไม่มีเงินให้เขา
ผมดูข่าว กรุงเทพธุรกิจ หากวันที่ 20 นี้ ไม่มีเงินบางส่วนให้ชาวนา ๆ ภาคเหนือ อีก 20 จังหวัดจะรวมตัวมากดดันรัฐบาลอีก
บอกตรงๆครับ ปวดใจจริงๆกับการเป็นคนไทย ที่กินข้าว ทุกเช้าเย็น แล้วมาเจอเห็นการแบบทุกวันนี้ อยากจะช่วยก็ไม่รู้จะช่วยยังไง
-
ลานจอดรถ ริมถนนบางนา-ตราดหลายจุด นิสสันจองไว้จอดตากฝุ่น ตากแดด ตากลม หลายจุดเลยครับ ;D
-
อย่าไปสับสนกันครับ
โครงการรถยนต์คันแรก กับ รถยนต์อีโคคาร์ (เฟสสอง)
ไม่ใช่อันเดียวกันน่ะครับ
-
ใครที่บอกรัฐคืนคืนภาษีแล้วเสียรายได้เข้ารัฐไปผมล่ะอยากจะขำ เขาคืนภาษีก็จริงแต่ภาษีไม่ได้มีแค่ที่ลดไปอย่างเดียว มึvatอีกอะไรอีกผมว่าเหมือนยอมลดราคาภาษีเพื่อเพิ่มยอดภาษีชัดๆแถมยังได้เงินไปหมุนก่อน1ปีอีก และเรื่องไม่มีตังจ่ายชาวนาก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับรถคันแรกนะครับงบมันคนล่ะส่วนกัน
ปล.ผมอยากให้รถราคาถูกลงเพื่อให้คนทุกคนมีโอกาศเข้าถึงมากขึ้นทุกคนครับ
-
ผมด่าและไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้เลย ตั้งแต่ออกมาโชว์หรา
เหตุผลง่ายๆ รถยนต์มันเป็นเรื่องของคนมีตังค์ซื้อ ( จะอ้างว่าจำเป็นอะไรก็แล้วแต่ แต่มันไม่ใช่ปัจจัย 4 ที่ไม่มีแล้วจะตาย หรือไม่ก็รถมือสองราคาถูกๆเยอะแย่ )
และที่สำคัญคือ มันเป็นเงินภาษีที่ควรจะเข้ารัฐเพื่อใช้บริหารประเทศ เป็นเงินของเราทุกๆคนที่ควรจะได้ ไม่ใช่ เอามาคืนให้กับคนบางกลุ่มที่ซื้อรถแบบนี้
ประเทศไทยจะเจริญได้อย่างไร ถ้ารัฐบาลเอาเงินภาษีที่ควรจะได้ มาคืนให้กับคนมีเงิน รถคันแรก ออกสู่ตลาด 1.3 ล้านคัน คิดเป็นเงินง่ายๆ คืนคันละ 70,000 พอ ไม่ต้องถึง 1 แสน
เป็นเงิน 91,000 ล้านบาท
แล้วดูทุกวันนี้สิครับ รัฐบาลไม่มีเงินให้ชาวนา
คนที่สบายอยู่แล้ว รัฐบาลให้เงิน แต่คนลำบากอยู่แล้ว เอาของมาขาย แต่กลับไม่มีเงินให้เขา
ผมดูข่าว กรุงเทพธุรกิจ หากวันที่ 20 นี้ ไม่มีเงินบางส่วนให้ชาวนา ๆ ภาคเหนือ อีก 20 จังหวัดจะรวมตัวมากดดันรัฐบาลอีก
บอกตรงๆครับ ปวดใจจริงๆกับการเป็นคนไทย ที่กินข้าว ทุกเช้าเย็น แล้วมาเจอเห็นการแบบทุกวันนี้ อยากจะช่วยก็ไม่รู้จะช่วยยังไง
+1 ครับ
-
เค้าก้อเตือนกันแล้ว ก่อนมีโครงการว่าจะมีผลเสียมากกว่าผลดี ตอนนี้ตลาดรถมือ 2 ปั่นป่วน แถมมือ 1 ยังจะมีปัญหาเพิ่มอีก เฮ้อออ
ปล ทุกคนอยากมีรถเหมือนกันหมดแหละคับ ว่าใครไม่ได้หรอก ไม่ว่าคุณหรือผม เงินเค้าไม่ใช่เงินเรา นะ
-
โครงการนี้ผมมองว่าห่วย รายได้หายไปกี่หมื่นกี่แสนล้านล่ะ เอาเงินนั่นมาทำระบบขนส่งมวลชนให้ดีได้ตั้งหลายโครงการ
-
ทุกอย่างมีข้อดีและข้อเสียนะครับ ไม่มีอะไรสมบูรณ์
อยู่ที่ว่าเราจะเอาข้อดีหรือข้อเสียมันมาใช้
สำหรับผมซื้อรถคันแรกเพราะโครงการนี้ ได้เงินคืนมาแล้วด้วย
เพราะรถคันนี้ ทำเงินให้ผมมากมายเลย
ภายในไม่ถึงสองปี ทำให้ผมมีเงินซื้อ Pajero V6 มาต่อยอดอีกคัน
ข้อดีของโครงการนี้คือการให้โอกาสคนจน ๆ ได้มีรถเหมือนคนรวยบ้าง
ส่วนข้อเสียก็คือกระตุ้นกิเลสให้คนอีกจำนวนมากใช่จ่ายฟุ่มเฟือย ซึ่งอันนี้ผมว่ามันอยุ่ที่คนซื้อด้วยแหล่ะครับ
สำหรับผมแล้ว ผมขอโอกาสในการทำมาหากิน ดีกว่าเอาเงินมาแจกผมเฉย ๆ เหมือนผมเป็นขอทานดี ๆ นี่เอง
-
ใครที่บอกรัฐคืนคืนภาษีแล้วเสียรายได้เข้ารัฐไปผมล่ะอยากจะขำ เขาคืนภาษีก็จริงแต่ภาษีไม่ได้มีแค่ที่ลดไปอย่างเดียว มึvatอีกอะไรอีกผมว่าเหมือนยอมลดราคาภาษีเพื่อเพิ่มยอดภาษีชัดๆแถมยังได้เงินไปหมุนก่อน1ปีอีก และเรื่องไม่มีตังจ่ายชาวนาก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับรถคันแรกนะครับงบมันคนล่ะส่วนกัน
ปล.ผมอยากให้รถราคาถูกลงเพื่อให้คนทุกคนมีโอกาศเข้าถึงมากขึ้นทุกคนครับ
ผมสิครับต้องขำ ที่ยังมีคนไม่เข้าใจระบบคงคลังของประเทศ ( จริงๆไม่อยากจะขำ )
รัฐเก็บภาษีสรรพสามิตร จากโครงการนี้มาแล้ว 1.2-1.3 แสนล้านมาก่อนแล้ว แต่ต้องนำมาใช้คืน ให้กับคนซื้อรถในโครงการนี้ 9 .1 หมื่นล้าน
เหลือเงินเท่าไหร่ไปคำนวนเอา
แล้วเงินที่จะจ่ายให้ชาวนา ถ้ารัฐมีเงินในคงคลังก็เอามาใช้ก่อนได้ แต่ลองไปย้อนดู เงินคงคลังตั้งแต่ปี 54 สิครับ ตอนนั้นมีเท่าไหร่ มันหายไปไหนหรือป่าว ตอนนี้รัฐถึงได้ วิ่งหาแต่แบงค์จะเอาเงินกู้มาให้เขาอย่างเดียว
ไม่ได้ต้องการจะดึงมาเรื่องการเมืองเลยนะครับ
แต่โครงการนี้ ข้อเสียมันเยอะกว่าข้อดีมากมาย ผมถึงไม่ชอบตั้งแต่แรก คนไม่มีความพร้อมที่จะมีรถเลย แต่ต้องมาติดกับนโยบายประชานิยมแบบนี้
สุดท้าย เวลามันก็พิสูจน์ได้ทุกอย่าง ว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนถูกผิด
หลังกลางปีนี้ ก็จะเกิดอีกหลายปัญหา คนซื้อรถคันแรกผ่อนไม่ไหว รถก็ไม่คืน ใช้แบบแอบๆซ่อนๆ แบบที่รู้ๆกัน แบงค์ก็เก็บค่างวดไม่ได้ ปัญหาตามกันเป็นดินพอกหางหมู
ใน กทม รถติด ตั้งแต่ยังไม่มีโครงการรถคันแรกอยู่แล้ว ก็ยังปล่อยให้โครงการนี้ผ่านมา โดยไม่คำนึงถึงเรื่องนี้เลย ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แล้วว่า ยอดส่วนใหญ่มันต้องมาจากกทมแน่นอน
แล้วเป็นไงหล่ะครับ ทุกวันนี้ เมื่อก่อนในกทม กลางวันยังพอวิ่งได้ เดี๋ยวนี้ ติดมันตั้งแต่เช้ายันเย็น หลายคนได้รถมา ยังไม่อยากจะใช้เลยด้วยซ้ำ
-
ที่ผมได้ยินมาตอนออกโครงการนี้ค่ายรถกุมขมับ ไม่ค่อยชอบโครงการนี้กันเท่าไหร่นะครับ สงสัยคาดผลที่จะเกิดตามมาได้ ว่าแต่สงสัยเราคงได้แหล่งข่าวจากคนละที่กัน เห็นบางท่านออกค่ายรถดีใจ
-
เค้าก็รู้กัน คาดกันแต่แรกตั้งแต่ออกโครงการแล้วว่ามันมีปัญหา และมันไม่ได้ช่วย ให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังทำให้การจับจ่ายใช้สอยระยะยาวลดลงเพราะเอาเงินมาผ่อนรถกันหมด รถติด สิ่งแวดล้อมอีก ขัดต่อนโยบายที่ควรให้คนลดใช้รถยนต์ สุดท้ายพอมันเสียหายค่อยมาหลั่งน้ำตา
แต่ก็ทำไรไม่ได้แล้ว เพราะรัฐบาลไม่เคยรับฟัง หาเสียงอย่างเดียว สรุปรับกรรมกันไปทั้งบริษัทและคนไทย
-
ใครที่บอกรัฐคืนคืนภาษีแล้วเสียรายได้เข้ารัฐไปผมล่ะอยากจะขำ เขาคืนภาษีก็จริงแต่ภาษีไม่ได้มีแค่ที่ลดไปอย่างเดียว มึvatอีกอะไรอีกผมว่าเหมือนยอมลดราคาภาษีเพื่อเพิ่มยอดภาษีชัดๆแถมยังได้เงินไปหมุนก่อน1ปีอีก และเรื่องไม่มีตังจ่ายชาวนาก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับรถคันแรกนะครับงบมันคนล่ะส่วนกัน
ปล.ผมอยากให้รถราคาถูกลงเพื่อให้คนทุกคนมีโอกาศเข้าถึงมากขึ้นทุกคนครับ
ผมสิครับต้องขำ ที่ยังมีคนไม่เข้าใจระบบคงคลังของประเทศ ( จริงๆไม่อยากจะขำ )
รัฐเก็บภาษีสรรพสามิตร จากโครงการนี้มาแล้ว 1.2-1.3 แสนล้านมาก่อนแล้ว แต่ต้องนำมาใช้คืน ให้กับคนซื้อรถในโครงการนี้ 9 .1 หมื่นล้าน
เหลือเงินเท่าไหร่ไปคำนวนเอา
แล้วเงินที่จะจ่ายให้ชาวนา ถ้ารัฐมีเงินในคงคลังก็เอามาใช้ก่อนได้ แต่ลองไปย้อนดู เงินคงคลังตั้งแต่ปี 54 สิครับ ตอนนั้นมีเท่าไหร่ มันหายไปไหนหรือป่าว ตอนนี้รัฐถึงได้ วิ่งหาแต่แบงค์จะเอาเงินกู้มาให้เขาอย่างเดียว
ไม่ได้ต้องการจะดึงมาเรื่องการเมืองเลยนะครับ
แต่โครงการนี้ ข้อเสียมันเยอะกว่าข้อดีมากมาย ผมถึงไม่ชอบตั้งแต่แรก คนไม่มีความพร้อมที่จะมีรถเลย แต่ต้องมาติดกับนโยบายประชานิยมแบบนี้
สุดท้าย เวลามันก็พิสูจน์ได้ทุกอย่าง ว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนถูกผิด
หลังกลางปีนี้ ก็จะเกิดอีกหลายปัญหา คนซื้อรถคันแรกผ่อนไม่ไหว รถก็ไม่คืน ใช้แบบแอบๆซ่อนๆ แบบที่รู้ๆกัน แบงค์ก็เก็บค่างวดไม่ได้ ปัญหาตามกันเป็นดินพอกหางหมู
ใน กทม รถติด ตั้งแต่ยังไม่มีโครงการรถคันแรกอยู่แล้ว ก็ยังปล่อยให้โครงการนี้ผ่านมา โดยไม่คำนึงถึงเรื่องนี้เลย ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แล้วว่า ยอดส่วนใหญ่มันต้องมาจากกทมแน่นอน
แล้วเป็นไงหล่ะครับ ทุกวันนี้ เมื่อก่อนในกทม กลางวันยังพอวิ่งได้ เดี๋ยวนี้ ติดมันตั้งแต่เช้ายันเย็น หลายคนได้รถมา ยังไม่อยากจะใช้เลยด้วยซ้ำ
เรื่องตัวเลขการจัดเก็บภาษีจะให้มองแค่นี้ก็ไม่ถูกครับ เพราะรัฐยังเก็บส่วนอื่นที่เกี่ยวกับธุรกิจรถยนต์ได้เพิ่มอีก ผมแค่อยากให้มองถึงภาพรวมเฉยๆครับ
-
สำหรับผม ไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ครับ ตั้งแต่แรก อาจเป็นเพราะ ช่วงออก โครงการใหม่ๆ ผมเพิ่งจบได้ 2 ปี. เพราะฉะนั้น บรรดาเพื่อนฝูง ผม จึงอยู่ในวัย เพิ่งเริ่มทำงาน เงินเดือนตั้งแต่ 10kต้นๆ ยัน 20k หลายคน ชอบรถเป็นทุนเดิม คิดแต่ว่ารอพร้อมก่อน รอมีเงินจ่ายสบายๆ ค่อยซื้อ แต่นับจากโครงการนี้ออก หลายๆ ดิ้น ทุรนทุราย อยากได้รถ ขอพ่อ แม่ เพื่อดาวน์ บางคน ถึงกับยอม กู้สวัสดิการ มาดาวน์ เพียงเพราะ "คืนภาษี 1 แสน" ทำให้รถยิ่งถูก หลายๆคน ถึงกับหลอกตัวเอง ว่าพร้อมแล้ว ที่จะมีรถ มองข้ามช๊อต รีบออก ทุกวันนี้ อดมื้อกินมื้อกัน ไม่เที่ยว ไม่จับจ่ายใช้สอย เหมือนเดิม เศรษฐกิจก็ซบเซา เป็นห่วงโซ่ เงินหมุนในตลาดน้อย
ปล.สำหรับผู้ได้ประโยชน์ แล้วไม่ขัดสน ก็ดีใจด้วยครับ อย่างเช่นพ่อแฟผม สอย มา. 2 คัน วิ่งหาชื่อกันวุ่น 555
-
นโยบายรถคันเเรก ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย ปัญหาที่เกิดขึ้น มันอยู่ที่ผู้ปฏิบัติ ผู้หาช่อง
คนไทยส่วนใหญ่มักตีความกฎหมายเข้าข้างตนเอง มักหาช่องว่างเพื่อผลประโยชน์ให้ตน
รถคันเเรกที่นำสิทธิ์ ของผู้อื่นมาสวมเรียกว่าขี้โกงหรือป่าว? มีรถคันเเรกสักกี่คันที่เป็นของผู้ใช้จริงที่ไม่เคยมีรถ
บางทีถ้าเราจะไปโทษผู้อื่น หันกลับมาตนเองสักนิด เราทำถูกต้องหรือยัง?
ผู้ไม่เคยมีรถ ต้องการใช้รถ ไม่ใช้สิทธิ์ ญาติพี่น้องลุงป้าน้าอามาสวม จำนวนผู้เข้าร่วมโครงการรถคันเเรกจะไม่เยอะแบบนี้ครับ
-
จริงๆคนในเวปนี้ส่วนมาก ผมอ่านตั้งแต่แรกแล้ว แทบทุกคนรู้ว่าวันนี้ต้องเกิด คนที่เดาไม่ออกคือคนซื้อ ว่าเจ้าของแบรนจะใช้โปรแบบนี้ออกมากระตุ้นตลาด เลยยอมทิ้งจอง เพราะยังไงตอนนี้โปรก็ดีกว่าหลายๆญี่ห้อ อีกหลายปีกว่าตลาดจะกลับคืนสภาพที่โดนหนักๆคือมือสอง สู้ๆครับทุกท่าน เป็นกำลังใจให้ทุกคนในสภาวะแบบนี้นะครับ
-
ดีแล้วครับที่จริงน่าจะพ่วงนโยบายประชานิยมทุกอย่างไปด้วยเลย สำหรับโครงการนี้ทำให้เต้นท์ที่บ้านผมเจ๊งไปแล้วเหลืออยู่ก็มีแต่พวกสายป่านยาวๆกับฟอกเงิน แล้วไม่ต้องบอกนะครับว่าเต้นท์กอบโกยมาเยอะแล้วเพราะเต้นท์ทำธุรกิจนะครับไม่ได้ทำการกุศลและเท่าที่เห็นพ่อผมซื่อสัตย์กับลูกค้ามาตลอดไม่ว่าทำธุรกิจอะไรก็มีแต่คนเชื่อใจไว้ใจ บางทีเห็นว่าลูกค้าไม่น่าผ่อนไหวหรือน่าจะโดนโกง (ญาติหรือคนรู้จักใช้ชื่อซื้อดูแล้วน่าจะชิ่ง) ก็พยายามหาทางไม่ขายให้ด้วยซ้ำ
รถในเต้นท์มีของผมอยู่ 2 คันก็ต้องตัดใจขายขาดทุน รถที่ตัวเองใช้อยู่ก็ราคาร่วงซื้อมา 3.6 แสนขายไปได้ 2 แสนเพราะครอบครัวใหญ่ขึ้นความต้องการเปลี่ยนไป ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามกระแสโลกและกลไกการตลาดผมจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่เป็นการบิดเบือนโครงสร้างอย่างร้ายกาจ ใครที่อวยเพราะได้ผลประโยชน์เลยมองแค่ด้านเดียวก็ช่วยมองรอบๆด้านหน่อย วิธีช่วยให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมีเยอะแยะหลากหลายแนวทาง คนระดับต้องมาบริหารประเทศแล้วผมไม่เชื่อเด็ดขาดว่าจะไม่มีวิธีที่ทำให้คุณภาพประชากรดีขึ้นมีแต่จะไม่ทำเพราะเรื่องผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง
-
การให้เป็นสิ่งที่ดีถ้าทำอย่างพอเหมาะ ยุติธรรม ไม่มุ่งหวังผลประโยชน์แฝง แต่อะไรก็ตามที่พยายามฝืนธรรมชาติ ฝืนโลก และกลไกตลาดมันจะไม่ยั่งยืนในระยะยาวอยู่แล้ว เช่น
ไม่อยากให้น้ำท่วม แต่ตัดไม้กันจัง แล้วแก้ด้วยการสร้างเขื่อน ประตูกั้นน้ำ สุดท้าย หนีไม่รอดท่วมสาหัส เพียงแต่จะผลักให้มันไปท่วมไหนเท่านั้นเอง
จำนำเข้าก็ใช่ รับซื้อแพงเพื่อจะขายแพง คิดจะกำหนดราคาโลก สุดท้ายอย่างที่เห็น
ค่าแรง 300 ก็ใช่ สุดท้ายโรงงานเล็กๆ ต่างจังหวัดปิดตัว ย้ายฐาน หรือปลดคนงานเพื่อลดค่าใช้จ่าย คนที่อยู่ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อคนน้อยลง
รถคันแรก ก็ใช่ เอาเงินรัฐไปละลายเล่นปล่าวๆ ไม่ได้อะไรเลย
สิ่งที่อยากให้ทุกรัฐบาลทำโดยเร่งด่วนและจำเป็นที่สุดโดยต้องต่อเนื่อง คือ การพัฒนาคุณภาพของคน แต่ไม่เห็นมีใครทำจริงๆ จังๆ คงเพราะเห็นผลช้ามั้ง ไม่โดนใจ แต่ว่ามันยั่งยืนชั่วลูกชั่วหลานนะจ๊ะเจ้านายยยยยย ;D ;D
-
** คุณ fishfinger , คุณ secrecyguy
ที่คุณกล่าวมา นี่แหล่ะครับ คือความผิดพลาดของนโยบาย
นโยบายระดับมหภาค ต้องคำนึงถึงผลกระทบ ผลดี ผลเสีย
ในทุกๆ ด้านที่จะตามมา ทั้งระยะสั้น และ ระยะยาว
การสวมสิทธิ , ประสิทธิภาพในการผลิต , กำลังซื้อ ,
การรองรับของถนนหนทาง , การทำลายกลไลตลาด ,
หนี้สินนอกระบบ , เศรษฐกิจชะงัก
มองยังไง ก็คือ นโยบายที่เหมือนจะดี แต่มีความผิดพลาดมากครับ
-
ผมว่า จริง ๆ ค่ายรถ เค้าน่าจะอยากรักษายอดขายในลักษณะที่ เป็นเส้นกราฟ ค่อย ๆ เพิ่มความชันไปเรื่อย ๆ ในแต่ละปี
แต่พอนโยบายนี้ออกมา ทำให้กราฟกระโดดสูง และลดฮวบลง
ทีนี้พอบริษัทแม่ที่ต่างประเทศ บังคับให้รักษายอดขาย ทำไงหละ
ก็ต้องมาออกโปร ลด กระหน่ำ เพื่อมาต่อยอดกราฟ ของโครงการรถคันแรก
ก็แค่เดา ๆ นะครับ
ส่วนสมาชิกที่โฟสเรื่องจำนำข้าว ผมเข้าใจว่า เขาไม่ได้ต้องการโยงว่า เพราะจ่ายค่ารถคันแรก จึงไม่มีเงินจ่ายชาวนา
แต่เขาหมายถึง การบริหารเงินที่ไม่ถูกต้องมากกว่า
และเงินคืนรถคันแรกจำนวนมหาศาลนั้น ผมว่า น่าจะเอาไปสรา้งสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ได้ประโยชน์ต่อคนส่วนมาก จะดีกว่า เพราะ ไฟฟ้า ประปา ถนน ตามต่างจังหวัด ยังไม่พร้อมอีกมาก
-
ผมไม่เห็นด้วยตั้งแต่รู้เรื่องโครงการนี้แล้ว
ระบบที่มันควรจะเป็นตามกลไลก็ควรปล่อยให้มันเป็นไป
พอถูกการแทรกแทรงโดยนโยบายหาเสียง รู้ทั้งรู้ว่าผลเสียมัน
จะตามมาและมากกว่าผลดี แต่ก็ยังฝืนทำ เพราะพูดไปแล้ว หาเสียงไปแล้ว
ทั้งเรื่อง ลด 1 แสน ทั้งเรื่อง ค่าแรงขั้นต่ำ 300/วัน สุดท้ายมันก็พาระบบร่วงกันหมด
ตอนนี้เป็นอยู่ หากิน ลำบากกว่ามากเลย
-
ค่ายรถพูดเอาแต่ได้ครับ
ตอนขายดี เป็นเทน้ำเทท่า ไม่เห็นบ่น
แต่พอขายไม่ได้ บ่น ซ้ำยังเข็นรถรุ่นอื่นมาขายแบบซัดโปรกันนัว
แล้วเป็นไงล่ะครับ
ผมว่ามีแค่บางเจ้านะที่ได้รับผลกระทบ
ที่เห็นๆ กันแน่ๆ คือ NISSAN ครับ
สต๊อก บานเลย จอดอยู่ตรงข้ามออฟฟิส หลายร้อยคันครับ
-
รัฐบาลหาเสียง คนซื้อก็โลภ นี่แหละการเมืองไทย ถ้าตัดโลภคงไม่มีคนเข้าข้าง ...........
-
นโยบายรัฐบาลมันห่วยมาก คิดไว้แล้วว่าจะต้องมีปัญหาตามมาอีกเยอะ ตอนนี้เป็นไงละครับ ผลกระทบเพียบมากกว่าผลดีเยอะมากๆ
ส่วนค่ายรถก็อย่าพูดเลยครับตอนได้ก็ได้เยอะแล้วแล้วเงียบๆสักปีสองปีจะเป็นไรไป เอาเข้าจริงมันแทบไม่กระทบอะไรกับค่ายรถเลยด้วยซ้ำ
แล้วส่วนเงินทีรัฐจ่ายคืนให้คนไปประมาณเกือบ9หมื่นล้านบ้าน มันช่วยประชาชนส่วนรวมได้ไหมครับ
รัฐควรช่วยเกษตรกรไทยมากกว่าช่วย...
-
ผมด่าและไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้เลย ตั้งแต่ออกมาโชว์หรา
เหตุผลง่ายๆ รถยนต์มันเป็นเรื่องของคนมีตังค์ซื้อ ( จะอ้างว่าจำเป็นอะไรก็แล้วแต่ แต่มันไม่ใช่ปัจจัย 4 ที่ไม่มีแล้วจะตาย หรือไม่ก็รถมือสองราคาถูกๆเยอะแย่ )
และที่สำคัญคือ มันเป็นเงินภาษีที่ควรจะเข้ารัฐเพื่อใช้บริหารประเทศ เป็นเงินของเราทุกๆคนที่ควรจะได้ ไม่ใช่ เอามาคืนให้กับคนบางกลุ่มที่ซื้อรถแบบนี้
ประเทศไทยจะเจริญได้อย่างไร ถ้ารัฐบาลเอาเงินภาษีที่ควรจะได้ มาคืนให้กับคนมีเงิน รถคันแรก ออกสู่ตลาด 1.3 ล้านคัน คิดเป็นเงินง่ายๆ คืนคันละ 70,000 พอ ไม่ต้องถึง 1 แสน
เป็นเงิน 91,000 ล้านบาท
แล้วดูทุกวันนี้สิครับ รัฐบาลไม่มีเงินให้ชาวนา
คนที่สบายอยู่แล้ว รัฐบาลให้เงิน แต่คนลำบากอยู่แล้ว เอาของมาขาย แต่กลับไม่มีเงินให้เขา
ผมดูข่าว กรุงเทพธุรกิจ หากวันที่ 20 นี้ ไม่มีเงินบางส่วนให้ชาวนา ๆ ภาคเหนือ อีก 20 จังหวัดจะรวมตัวมากดดันรัฐบาลอีก
บอกตรงๆครับ ปวดใจจริงๆกับการเป็นคนไทย ที่กินข้าว ทุกเช้าเย็น แล้วมาเจอเห็นการแบบทุกวันนี้ อยากจะช่วยก็ไม่รู้จะช่วยยังไง
+1 ครับ
ความเห็นคล้ายๆผมเลยครับ
คนที่จะซื้อรถได้ คือ คนที่มีตัง มีฐานะพอสมควร จะเอาเงินคืนไปให้เค้าใช้ทำไมครับ
เอาเงินมาพัฒนาด้านอื่นๆดีกว่ากันเยอะ
ผมรอออกโครงการ คืนภาษี Benz กับ BMW คันแรกอยู่ครับ ;D
-
เริ่มสงสัยว่า เงินที่คืนภาษี ถ้าไม่คืน จะเอาเงินไปทำอะไรได้บ้าง
9 หมื่นกว่าล้าน นี้ สร้างถนน 10 เลน พร้อมระบบน้ำ ได้กี่ กม น่ะ :-\
-
เงินคืนภาษี ให้คิดถึงสินค้า VAT Refund นะครับ
รัฐเขาถึงให้เฉพาะกับคนที่ไม่เคยซื้อรถ
นั่นคือคนที่ไม่เคยจ่าย VAT เกี่ยวกับซื้อรถ มาก่อน
สิ่งที่รัฐจะได้คือ
1.สมมติว่ารถ 535,000 รัฐเก็บ vat 35,000
2.ไม่ให้โอนเลย 5 ปี สมมติภาษีปี 1,500x 5= 7,500
3.สรรพสามิต (ผมไม่รู้เท่าไร) ประมาณ 20,000
4.ภาษี ค่าน้ำมัน 5 ปี ๆละ 10000 กิโล ว่ากันไป
5.ภาษี vat ประกัน พรบ
ส่วนพวกนี้กับคนที่ไม่เคยจ่าย ก็จะมาจ่ายให้ รัฐ ซึ่ง รัฐ ก็จะให้คืนเป็นเงิน
แต่ ทีนี้ มันเกิดการบิดเบือนรายได้ของรัฐ จาก
1.คนที่เคยมีรถแล้ว ก็ไป ให้ คนใกล้ตัว ซื้อ
2.พนง เงินเดือน รายได้เท่าเดิม หรือเพิ่มขึ้น 10% จากที่เคยจ่ายค่า taxi ค่ารถเมล์ หรือใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น ซื้อมือถือ ไปเที่ยว
ก็จะประหยัดเงิน มาผ่อนรถแทน เหมือนโยกเงินมาด้านนี้ ทำให้
สินค้าด้านอื่นๆ ซบเซาลง ภาษีที่เคยเก็บได้จากสินค้าฟุ่มเฟือย ก็ลดลง กระทบรัฐเองอีก
3.รถมือสอง ปกติถ้าขายจัดไฟแนนซ์ ก็โดนบวก vat 7 ตัวนี้ ก็กระทบอีก
สิ่งที่รัฐ มอง ผมเดาว่า เขาต้องการดึงเงินให้ออกจาก ธนาคารมากๆ เข้าระบบหมุนเวียน
ให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น และช่วยเหลือ ผู้ผลิตรถยนต์จากเหตุน้ำท่วม ด้วยมั้งครับ
แต่นโยบายนี้ ห่วยครับ กระทบทุกด้านจริงๆ
-
รถคันแรก G9 เสียดายเงินแสนนึงจัง...
รู้งี้ออก City ดีกว่า ;D
-
ปัญหา : คาดคะเนยอดจองผิด
แก้ไข : กำหนดให้จองรถยนต์ด้วยจำนวนเงินมากขึ้น DEALER รับหน้าที่ไป
ปัญหา : ลูกค้าผ่อนค่างวดไม่ไหว
แก้ไข : กำหนดดาวน์ให้เยอะๆ มีคนค้ำประกัน ไฟแนนท์รับหน้าที่ไป
.
.
.
.
.
.
ปัญหา : ผู้ประกอบการบ้าน คอนโด ขายไม่ออก
แก้ไข : ยกเลิกโครงการรถคันแรก (แป่ว)
-
เงินคืนภาษี ให้คิดถึงสินค้า VAT Refund นะครับ
รัฐเขาถึงให้เฉพาะกับคนที่ไม่เคยซื้อรถ
นั่นคือคนที่ไม่เคยจ่าย VAT เกี่ยวกับซื้อรถ มาก่อน
สิ่งที่รัฐจะได้คือ
1.สมมติว่ารถ 535,000 รัฐเก็บ vat 35,000
2.ไม่ให้โอนเลย 5 ปี สมมติภาษีปี 1,500x 5= 7,500
3.สรรพสามิต (ผมไม่รู้เท่าไร) ประมาณ 20,000
4.ภาษี ค่าน้ำมัน 5 ปี ๆละ 10000 กิโล ว่ากันไป
5.ภาษี vat ประกัน พรบ
ส่วนพวกนี้กับคนที่ไม่เคยจ่าย ก็จะมาจ่ายให้ รัฐ ซึ่ง รัฐ ก็จะให้คืนเป็นเงิน
แต่ ทีนี้ มันเกิดการบิดเบือนรายได้ของรัฐ จาก
1.คนที่เคยมีรถแล้ว ก็ไป ให้ คนใกล้ตัว ซื้อ
2.พนง เงินเดือน รายได้เท่าเดิม หรือเพิ่มขึ้น 10% จากที่เคยจ่ายค่า taxi ค่ารถเมล์ หรือใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น ซื้อมือถือ ไปเที่ยว
ก็จะประหยัดเงิน มาผ่อนรถแทน เหมือนโยกเงินมาด้านนี้ ทำให้
สินค้าด้านอื่นๆ ซบเซาลง ภาษีที่เคยเก็บได้จากสินค้าฟุ่มเฟือย ก็ลดลง กระทบรัฐเองอีก
3.รถมือสอง ปกติถ้าขายจัดไฟแนนซ์ ก็โดนบวก vat 7 ตัวนี้ ก็กระทบอีก
สิ่งที่รัฐ มอง ผมเดาว่า เขาต้องการดึงเงินให้ออกจาก ธนาคารมากๆ เข้าระบบหมุนเวียน
ให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น และช่วยเหลือ ผู้ผลิตรถยนต์จากเหตุน้ำท่วม ด้วยมั้งครับ
แต่นโยบายนี้ ห่วยครับ กระทบทุกด้านจริงๆ
รู้สึกว่านโยบายนี้ออกมาก่อนน้ำท่วมนะครับ แต่ต่ออายุตอนน้ำท่วม คิดในแง่นักการเมือง คือ หาเสียงแค่นั้นแหละ เค้าไม่คิดอะไรมากเหมือนที่เราวิเคราะหํกันหรอกครับ
เพราะเงินภาษีไม่ใช่เงินเค้า เจ๊งเท่าไหร่ ขาดทุน ใช้เงินไร้สาระ เท่าไหร่ก็ไม่สำนึกหรอก
-
เงินคืนภาษี ให้คิดถึงสินค้า VAT Refund นะครับ
รัฐเขาถึงให้เฉพาะกับคนที่ไม่เคยซื้อรถ
นั่นคือคนที่ไม่เคยจ่าย VAT เกี่ยวกับซื้อรถ มาก่อน
สิ่งที่รัฐจะได้คือ
1.สมมติว่ารถ 535,000 รัฐเก็บ vat 35,000
2.ไม่ให้โอนเลย 5 ปี สมมติภาษีปี 1,500x 5= 7,500
3.สรรพสามิต (ผมไม่รู้เท่าไร) ประมาณ 20,000
4.ภาษี ค่าน้ำมัน 5 ปี ๆละ 10000 กิโล ว่ากันไป
5.ภาษี vat ประกัน พรบ
ส่วนพวกนี้กับคนที่ไม่เคยจ่าย ก็จะมาจ่ายให้ รัฐ ซึ่ง รัฐ ก็จะให้คืนเป็นเงิน
แต่ ทีนี้ มันเกิดการบิดเบือนรายได้ของรัฐ จาก
1.คนที่เคยมีรถแล้ว ก็ไป ให้ คนใกล้ตัว ซื้อ
2.พนง เงินเดือน รายได้เท่าเดิม หรือเพิ่มขึ้น 10% จากที่เคยจ่ายค่า taxi ค่ารถเมล์ หรือใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น ซื้อมือถือ ไปเที่ยว
ก็จะประหยัดเงิน มาผ่อนรถแทน เหมือนโยกเงินมาด้านนี้ ทำให้
สินค้าด้านอื่นๆ ซบเซาลง ภาษีที่เคยเก็บได้จากสินค้าฟุ่มเฟือย ก็ลดลง กระทบรัฐเองอีก
3.รถมือสอง ปกติถ้าขายจัดไฟแนนซ์ ก็โดนบวก vat 7 ตัวนี้ ก็กระทบอีก
สิ่งที่รัฐ มอง ผมเดาว่า เขาต้องการดึงเงินให้ออกจาก ธนาคารมากๆ เข้าระบบหมุนเวียน
ให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น และช่วยเหลือ ผู้ผลิตรถยนต์จากเหตุน้ำท่วม ด้วยมั้งครับ
แต่นโยบายนี้ ห่วยครับ กระทบทุกด้านจริงๆ
สิ่งที่รัฐมอง ผมเดาว่า รัฐต้องการความนิยมจาก ประชาชนในกลุ่มชนชั้นกลางล่าง ไปถึงล่าง เพราะรากหญ้ามีจำนำข้าวแล้ว แล้วสองกลุ่มนี้คิดเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ ++ ในประเทศ
เพราะยังไง๊ ยังไงเงินที่ใช้ก็เงินภาษีพวกเราอยู่ดี ไม่ใช่เงินเค้า เค้าเลยคิดนโยบายอุบาทว์ออกมาได้ไม่จำกัดไงฮะ - -a
-
ประเทศที่เจริญแล้ว คนรวยขึ้นขนส่งมวลชน
ประเทศล้าหลัง คนจนใช้รถยนต์ส่วนตัว..
ตรงนี้ผมว่านโยบายผิดนะ คนที่ซื้อโดยไม่ดูตัวเองเนี่ย ผมว่าเป็นธรรมชาติของคนที่ต้องมีความโลภเป็นธรรมดา แต่คุณไม่จำเป็นต้องออกนโยบายมากระตุ้นความโลภของคน หรืออะไรที่มันฉาบฉวยแบบนี้นะ ถ้าอยากพัฒนาเนี่ย บ้านเรามันมีอะไรให้ทำอีกเยอะครับ ไม่ใช่คืนภาษีรถยนต์
-
อืม กระทู้นี้จะถูกเบรคมั้ยครับเนี่ย
บางความเห็นเหมือนมีเรื่องการเมืองเข้ามาปนนิดๆ
สรุปโครงการนี้มีผลเสียมากกว่าผลดีครับ
-
ลูกค้าผมที่ทำชิ้นส่วนรถยนตร์ ไม่ได้จะแฮปปี้นะครับ
เพราะทุกคนรู้ดีว่า ยอดมันเพิ่มระยะสั้น เพราะฉะนั้น ปัญหาคือ ต้องเพิ่มกำลังการผลิต โดยต้องลงทุนให้น้อยที่สุด เพราะว่า ถ้าลงทุนเยอะ มันจะขาดทุนเอาตอนหลัง
ที่ว่าค่ายรถไม่บ่น อันที่จริง เขาบ่นมาตั้งแต่ต้นแล้วครับ ถ้าตามข่าวกันจริงๆ เพราะทุกคนรู้ดีว่า ยอดขายที่ได้ มันไม่ใช่ยอดขายที่ควรจะเป็น แต่เป็นยอดขายที่รัฐบาลจัดโปรโมชั่นให้
ส่วนที่บอกว่า ช่วยเรื่องเศรษฐกิจหลังน้ำท่วม อย่าลืมว่านโยบายนี้ออกมาก่อนเรื่องน้ำท่วมนะครับ เพราะฉะนั้น ไม่เกี่ยวกันเลย
-
ผมไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ตั้งแต่แรกแล้ว รวมทั้งนโยบายประชานิยมทุกโครงการนั่นแหละ
เห็นๆอยู่ว่ามีผลเสียมากกว่าผลดี ตอนนี้ก็เริ่มโผล่มาให้เห็นเรื่อยๆ
-
ใครที่บอกรัฐคืนคืนภาษีแล้วเสียรายได้เข้ารัฐไปผมล่ะอยากจะขำ เขาคืนภาษีก็จริงแต่ภาษีไม่ได้มีแค่ที่ลดไปอย่างเดียว มึvatอีกอะไรอีกผมว่าเหมือนยอมลดราคาภาษีเพื่อเพิ่มยอดภาษีชัดๆแถมยังได้เงินไปหมุนก่อน1ปีอีก และเรื่องไม่มีตังจ่ายชาวนาก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับรถคันแรกนะครับงบมันคนล่ะส่วนกัน
ปล.ผมอยากให้รถราคาถูกลงเพื่อให้คนทุกคนมีโอกาศเข้าถึงมากขึ้นทุกคนครับ
ขอขำด้วยครับ ผมว่ามองมุมไหนรัฐก็เสียรายได้ครับ คืนภาษีให้รัฐเสียรายได้เห็นๆ ที่รัฐเก็บภาษีได้มากขึ้นในหนึ่งปี มันเป็นการเอาเงินภาษีที่ควรจะเก็บได้ในอนาคตมาใช้
นโยบายรถคันแรกที่ออกมา ไปเร่งความต้องการในการซื้อรถของคนควรจะเกิดขึ้นในปีถัดๆไป ให้เกิดเร็วขึ้น ผลก็คือในปีที่ออกนโยบายคนซื้อรถถล่มทลาย
แต่ปีต่อๆมา ตลาดรถแทบพังรถขายไม่ออก ยอดตก ยิ่งไปกว่านั้นปีที่ออกนโยบายรถขายดีมากๆ บางบริษัทจ้างคนเพิ่ม ขยายไลน์การผลิต เร่งอัตราการผลิต
แล้วตอนนี้เป็นไงหล่ะครับ ผลก็อย่างที่เห็น
การจะให้คนมีโอกาสเข้าถึงรถยนต์มากขึ้นมันไม่ควรใช้วิธีนี้หรอกครับ ถ้าคนไม่มีเงิน แต่มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้รถซักคัน
รถจากโครงการรถคันแรก กับรถมือสอง อะไรราคาถูกกว่ากัน เข้าถึงง่ายกว่ากันหล่ะครับ ความเห็นผมยังไงโครงการนี้ก็ได้ไม่คุ้มเสียเลย
-
มหาลัยผม ที่จอดรถไม่พอจอดแล้วครับ ทั้งๆ ที่ปีก่อนหน้านี้คือ มันมีพอดีๆ ไม่มากไม่น้อยไป
ตอนนี้คือซ้อนคันแล้วซ้อนคันอีกหลังจากไอ้โครงการบ้าๆ นี่ออกมา :P
-
แสดงว่าค่ายรถทำรถราคาถูกๆ และดีพอใช้ มาขายก็ได้ จึงกล้าผลิตจำนวนมหาศาล และมองเห็นกำไร
รัฐบาลก็สามารถเก็บภาษีซื้อรถน้อยลงก็ได้
แต่ก็คงเป็นการทำลายกลไกการตลาดไปพอสมควร
ซึ่งผมมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นบทเรียนสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อดีนะ เพราะเราไม่ค่อยเห็นบริษัทรถผลิตรถที่ ประหยัดน้ำมัน ราคาถูก ใช้งานได้จริง
ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ทำรถแรง ราคาแพงเกินไป ถ้าประหยัดน้ำมันก็ ต้องมีระบบขับด้วยมอเตอร์มาร่วม ซึ่งราคาใช่ว่าจะถูกซะเมื่อไหร่
อย่าด่าคนซื้อเลยครับ ใครๆ ก็อยากได้รถ
ท่านลองพิจารณาให้ดีๆ ครับ จากทีเคยไปส่งลูกไปโรงเรียน พาพ่อแม่ไปทำบุญ ด้วยรถจักรยานยนต์ ทุกวันนี้สามารถมีรถที่ช่วยให้ปลอดภัยขึ้น พาครอบครัวมีความสุขได้มากขึ้นคนซื้อจะผิดตรงไหนครับ ลูกไม่ตกฝน พ่อแม่นั่งสบายขึ้น ผมว่าดีครับ
ภรรยาผมเคยใช้รถขนาดกลาง ขับไปทำงานทุกวัน(มันจำเป็นครับ ต่างจังหวัดเราไม่ได้มีระบบขนส่งดีเหมือนเมืองกรุง) ค่าน้ำมันแต่ละเดือนบานเลย แต่พอเปลี่ยนมาเป็น Eco Car ประหยัดตังค์ได้เยอะเลย และเยอะมากๆด้วย
แต่ผมยืนยันอยากให้มี Eco car แต่ไม่ต้องคืนภาษีก็ได้ เพราะอยากได้รถที่ประหยัดน้ำมันไว้ใช้งานครับ
:)
ส่วนบริษัทจะโดนทิ้งใบจองบ้างนั้น ผมว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะการแข่งขัน และความต้องการของคนเปลี่ยนแปลงได้เสมอครับ
ก็ท่านเล่นให้จองข้ามปี บางทีใครจะไปรอไหวหละครับ ทีอยากได้ไม่ผลิตให้ทัน 5555
อย่าเครียดเลยครับ เดี๋ยวก็เข้าสู่สภาวะปกติ คนไทยใจดี ลืมง่ายครับผม
:)
-
มีข้อดีอย่างนึงนะ คือนใอนาคตข้างหน้า เกิดทีรัฐบาลไหนเกิด(บ้า)กล้าทำโครงการแบบนี้อีก
ให้เรารอหลังหมดโครงการ อีก1ปี เราก็จะได้ซื้อรถราคาถูก ออปชั่นเต็ม
จากความป่นปี้ของระบบ แบบปัจจุบันนี้ไงครับ ;D ;D ;D
-
ขอพูดตามประสาชาวบ้านนะครับ ผมว่าถึงมันจะไม่ดีเสียเยอะ แต่มันก็มีดีอยุ่บ้าง ยกตัวอย่างจากครอบครัวผมเอง ตัดสินใจซื้อเพราะที่บ้านไม่เคยมีรถยนต์ใช้ จากโครงการดังกล่าวมันก็เปนผลพลอยได้ที่ทำให้ครอบครัวของผมมีเงินมาใช้อีกก้อนนึง โดยขณะเดียวกันเงินนั้นยังสามารถเอามาผ่อนชำระค่างวดได้อีก ยามขัดสนได้อีก หากพูดถึงกำลังในการส่งรถแน่นอน ทุกคนต้องคิดว่ายังไงถึงมีโครงการอยุ่แน่นอนก็ต้องคิดถึงกำลังส่งค่างวดด้วย แน่นอนว่าครอบครัวผมก็คิด เพราะถึงจะมีเงินที่ได้คืนมาแต่ลองคิดว่าถ้าเกิดเงินนั้นหมดขึ้นมา ต่อไปเงินที่ต้องใช้ส่งผ่อนต้องหามาจากการทำงานแน่นอน แล้วอีกอย่างรถหนึ่งคันต้องครอบครองถึงห้าปี ซึ่งค่าใช้จ่ายมันไม่ใช่น้อยๆ หากปกติทำงานได้เงินมาไม่พอกับค่าผ่อนรถ มันก็ถึงคราวลำบากแน่นอน แต่ผมก็เชื่อว่าทุกคนที่คิดซื้อรถแล้วเอาเข้ากับโครงการนี้เค้าก็คงคิดแล้วแหละครับ ยกเว้นคนที่ไม่รุ้จักการประมานตนเอง ถือว่าได้คืนภาษีไปเอารถที่เกินกำลังตัวเองจะส่งผ่อน อันนั้นก็คงเปนเรื่องของเขา แต่จะว่าไปครอบครัวผมสามารถตัดสินใจซื้อรถง่ายขึ้นก็เพราะโครงการนี้ แต่ถึงไม่มีโครงการนี้ยังไงมันก็ต้องซื้ออย่างแน่นอนครับ อิอิ
-
ผมสนับสนุนและเห็นด้วยกับเกือบทุกโครงการณ์ของรัฐบาลนี้นะครับ
อย่างน้อยเขาก็ทำหน้าที่รัฐที่ดี เห็นหัวของประชาชน ให้ความสำคัญกับนโยบายในตอนหาเสียง ไม่ใช่เป็นเด็กเลี้ยงแกะขายฝันหลอกกันทุกครั้งในช่วงเลือกตั้ง
ยังไงโครงการณ์นี้จุดประสงค์ก็เพื่อความเป็นอยู่ของประชาชนที่ดีขึ้น มีประโยชน์กับคนทั่วไปครับ ซึ่งทุกโครงการณ์มีทั้งดีและเสียบ้างอันนี้เป็นเรื่องธรรมดา
อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเอาเงินภาษีของทุกๆคนในชาติ ไปแจกกันฟรีๆเล่นๆ และเจาะจงจ่ายเป็นเช็คที่มาจากธนาคารของเอกชน
-
ผมสนับสนุนและเห็นด้วยกับเกือบทุกโครงการณ์ของรัฐบาลนี้นะครับ
อย่างน้อยเขาก็ทำหน้าที่รัฐที่ดี เห็นหัวของประชาชน ให้ความสำคัญกับนโยบายในตอนหาเสียง ไม่ใช่เป็นเด็กเลี้ยงแกะขายฝันหลอกกันทุกครั้งในช่วงเลือกตั้ง
ยังไงโครงการณ์นี้จุดประสงค์ก็เพื่อความเป็นอยู่ของประชาชนที่ดีขึ้น มีประโยชน์กับคนทั่วไปครับ ซึ่งทุกโครงการณ์มีทั้งดีและเสียบ้างอันนี้เป็นเรื่องธรรมดา
อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเอาเงินภาษีของทุกๆคนในชาติ ไปแจกกันฟรีๆเล่นๆ และเจาะจงจ่ายเป็นเช็คที่มาจากธนาคารของเอกชน
ว่าจะไม่ยุ่งกับกระทู้นี้แล้วนะครับ
เช็คเค้าประมูลนะครับ
http://www2.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9520000025871 (http://www2.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9520000025871)
พอดี ต้นฉบับไม่ได้ครับ
-
^^'
-
นโยบายรถคันแรกดี กับคนชนบทและคนเมืองเล็กๆ
-
ผมสนับสนุนและเห็นด้วยกับเกือบทุกโครงการณ์ของรัฐบาลนี้นะครับ
อย่างน้อยเขาก็ทำหน้าที่รัฐที่ดี เห็นหัวของประชาชน ให้ความสำคัญกับนโยบายในตอนหาเสียง ไม่ใช่เป็นเด็กเลี้ยงแกะขายฝันหลอกกันทุกครั้งในช่วงเลือกตั้ง
ยังไงโครงการณ์นี้จุดประสงค์ก็เพื่อความเป็นอยู่ของประชาชนที่ดีขึ้น มีประโยชน์กับคนทั่วไปครับ ซึ่งทุกโครงการณ์มีทั้งดีและเสียบ้างอันนี้เป็นเรื่องธรรมดา
อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเอาเงินภาษีของทุกๆคนในชาติ ไปแจกกันฟรีๆเล่นๆ และเจาะจงจ่ายเป็นเช็คที่มาจากธนาคารของเอกชน
ว่าจะไม่ยุ่งกับกระทู้นี้แล้วนะครับ
เช็คเค้าประมูลนะครับ
http://www2.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9520000025871 (http://www2.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9520000025871)
พอดี ต้นฉบับไม่ได้ครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
แต่ยังไงโครงการณ์แบบนี้เป็นรูปธรรมและมีประโยชน์กว่าการที่นำเอาเงินไปแจกกันเล่นๆแบบนี้ที่เรียกว่านโยบายประชานิยมชัดๆครับ