Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Siemens ที่ มีนาคม 11, 2014, 12:44:46

หัวข้อ: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Siemens ที่ มีนาคม 11, 2014, 12:44:46
รบกวนสอบถามเพื่อนๆ ว่าในปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของเทคโนโลยีทางด้านวิศวกรรมยานยนต์นั้น
รถยนต์บ้านๆ ทุกยี่ห้อไม่ว่าของทางยุโรป เมกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน คิดว่าเทคโนโลยีคงไม่ต่างกันมากในแง่ของทั้งด้าน
รูปทรง เครื่องยนต์ ช่วงล่าง การขับขี่รวมถึงออฟชั่นต่างๆที่มีให้มา ส่วนใหญ่ก็ไม่ทิ้งกันเท่าไร เพราะก็ซื้อมาจากบริษัทที่
วิจัยและนำออกมาขายให้กับทางค่ายรถยนต์พวกนี้
 แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้ค้นในสังคมไทย ชอบแบ่งแยกกัน ผมมองว่าน่าจะเป็นภาพลักษณ์ทางสังคมมากกว่าว่า ถ้าฉันขับ MB BMW มันคงต้องดีกว่า
Lexus Toyota Honda แต่สำหรับความคิดผม ผมว่าไม่ใช่ รถมันเป็นแค่วัถตุที่พอผ่านไปทุกๆปี มลูค่ามันก็ลดลงเรื่อยๆ
โดยเฉพาะทางฝั่งยุโรปและเมกา หรือพวกบ้าออฟชั่นที่จัดกันมาเยอะแต่ใช้ไม่เป็น ไม่เคยใช้ ยิ่งไม่มีประโยชน์ไปกันใหญ่เลย
ตัวผมเองยังต้องมาค่อยใช้ออฟชั่นต่างที่ติดรถมาบ้างเลย ผมเลยคิดว่ามันคงไม่ใช้เหตุผลที่รถยนต์จะเป็นตัวสะท้อนทางภาพลักษรณ์
ในสังคมได้ และการที่คนๆ หนึ่งจะขับรถยี่ห้อ MB BMW ก็ไม่ใช่ว่าจะดีกว่าพวกที่ขับ T H
หรืออย่างคนที่ขับ Hyundai ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีตัง รถถูก คุณภาพไม่ดี ผมว่าคงไม่ใช้ มันอยู่ทีึ่เหตุผลของผู้ใช้ และก็คิดว่า ณ ปัจจุบันคงไปดูถูก
Hyundai ไม่ได้แล้ว แบร์นเข้าไปใกล้มากแล้วมีเทคโนโยีเป็นของตัวเองแล้ว รถยนต์จีนก็คิดว่าต้องดีขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนและก็เริ่มพัฒนามากขึ้นด้วย
ก็มีแต่ประเทศไทยเรานี่  ที่ไม่มีอะไรพัฒนาเลยจริงๆ ทั้งเรื่องจิตใจคนและเรื่องเทคโนโยลี มีแต่ซื้อ และก็มีแต่ใช้ ฟุ่มเฟืองจริงๆๆ โดนเขาลอกไปวันๆๆๆ

หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: H. ที่ มีนาคม 11, 2014, 12:54:32
มันเป็นเรื่องนานาจิตพังครับ คนที่ยึดติดแบรนด์ก็ยังมี
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: localgame ที่ มีนาคม 11, 2014, 13:07:35
อันนี้ก็แล้วแต่มุมมอง
1. เทคโนโลยีต่างแน่นอน ออพชั่นอาจจะคล้ายๆกันแต่การขับขี่นี่ถ้าได้ขับจะรู้เลย รถยุโรปทั่วไป กับ รถญี่ปุ่นทั่วไป กับ รถจีนทั่วไป เอามาขับดู เครื่องยนตร์ ช่วงล่าง

ถ้าได้ขับก็จะรู้ว่าต่าง แต่ถ้าคุณคิดแค่ขับไปให้ถึงที่หมาย ไม่ขับเร็ว เน้นซ่อมง่าย ก็คงจะไม่เห็นถึงความต่างของสิ่งนี้

2. จริงอยู่ที่ว่าคนขับ MB BMW ไม่ได้ดูดีกว่า Toyota Honda แต่ถ้าคุณลองดูมูลค่าของรถแล้ว 2แบรนด์จากยุโรปราคามันแพงกว่า มันแสดงถึงภาพลักษณ์การงาน

ที่มั่นคง ถึงกล้าที่จะซื้อ2แบรนด์นี้ อย่างน้อยก็ต้องเป็นระดับหัวหน้าที่มีรายได้มั่นคงพอสมควรแล้วถึงจะมีเงินไปซื้อได้ ถ้าพึ่งจบใหม่ยังผ่อนรถอยู่ไม่ได้ขอเงินพ่อแม่มา

จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อ bmw หรือ benz หละครับ แล้วการจะทำธุรกิจ คนส่วนใหญ่ก็อยากจะทำกับคนที่ไว้ใจได้ รถก็เลยเหมือนเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความมั่นคงของคนๆนั้น

ทุกคนมีเหตุผลในการซื้อรถครับ ก่อนจะมี benz bmw คนส่วนใหญ่ก็เคยขับ toyota หรือ honda มาแล้วทั้งนั้น บางคนมี benzคันใหญ่ ไว้ขับไปทำงาน

แต่เค้าก็อาจจะมี brio คันเล็กๆไว้ไปจ่ายตลาดก็ได้ มันอยู่ที่การใช้งานมากกว่าครับ

3. Hyundai แต่ก่อนมาทำตลาดในไทยแล้วทำชื่อเสียไว้เยอะ การจะเปลี่ยนความคิดคนมันไม่ใช่แค่วันสองวันนะครับ แล้วกลับมาทำตลาดคราวนี้

ราคาก็ไม่ได้ถูกกว่าคู่แข่งเลย ออพชั่นก็พอๆกัน
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Monn ที่ มีนาคม 11, 2014, 14:08:55
ผมว่า พูดยังไงก็ไม่จบ ถูกของ จขกท เพราะคุณคิดแบบนี้ แต่อีกหลายคนก็ไม่ได้คิดเหมือนคุณ ก็ไม่ได้มีใครผิดนะ
ผมชอบความเห็นคุณ localgame เพราะหากมองผิวๆ รถมันก็เหมือนกัน แต่พอคุณได้ลอง ได้สัมผัสวัสดุ โดยรวมๆ ก็จะพอทราบว่าทำไมราคามันถึงแพงกว่า ถูกกว่า ไรงี้ครับ

ของแฟชั้น นาฬิกา กระเป๋า ก็เหมือนกันหมด บางทีมันไม่ได้บอกว่า แพงจะดีกว่าเสมอ แต่ในทางกลับกัน หากเราซื้อของ เรามีโอกาสได้ใช้ของแพง ย่อมดีกว่าใช้ของที่ถูกกว่า โอกาสเสีย โอกาสพัง อันถูกย่อมมีมากกว่าจากราคา วัสดุ ผมก็คิดประมาณนี้นะ

แต่จริงๆแล้ว ขับรถอะไรก็ไม่มีประโยชน์หากเป็นคนเลวในสังคมอะคับ รถไม่ได้บอกหรอกว่าคนนี้ดีไม่ดีครับ
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: ichok ที่ มีนาคม 11, 2014, 14:15:06
ภาพพจน์ก็ส่วนนึง คุณภาพรถก็ส่วนนึง แยกประเด็นครับ ถามว่าถ้าคุณมีเงินระดับสิบล้าน คุณจะไม่อยากขับรถที่ช่วงล่างดีนุ่ม เกาะถนน ระบบความปลอดภัยดีๆเหรอครับ แล้วถามว่าในรถราคาถูกมันให้ได้ไหม ก็ได้แต่มันไม่สุด แล้วถามว่ารถราคาสามสี่ล้านใครจะเป็นคนซื้อก็ต้องคนมีเงินซื้อ สรุปภาพลักษณ์มันก็ตามมาทีหลังครับ
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: almondba ที่ มีนาคม 11, 2014, 14:18:39
มันเป็นความสุขทางใจและความรู้สึกของแต่ละคนครับ
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: 7777777 ที่ มีนาคม 11, 2014, 15:11:38
จขกท. เอาหลายเรื่องมารวมกันเยอะมาก

ส่วนตัวเห็นด้วย 10% เรื่องภาพลักษณ์บ้าๆบอๆในประเทศนี้

ประเทศนี้สอนให้คนดูถูกกันเองมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แบ่งวรรณะโดยสัมผัสไม่ได้ แต่เข้าใจได้

แต่ที่จขกท.มาพูด ซื้อแล้ว มูลค่าลดลงเรื่อยๆ อันนี้ผมว่าไม่เกี่ยวกับรถหรือภาพลักษณ์แล้วหละครับ


ยังไงคำว่าประวัติศาสตร์มันก็มีค่าที่ตีราคาไม่ได้เหมือนกันครับ กับผลิตภัณฑ์หนึ่งชิ้น ความดีความงามไม่โดนลบไปง่ายๆหรอกครับ
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ มีนาคม 11, 2014, 15:13:34
ผมเฉยๆ นะครับ

ถ้าจะขับรถดีๆ ต้องมีไม่น้อยกว่า 50 ล้านครับ

เพราะค่าใช้จ่ายรถยิ่งแพง ค่าดูแลก็แพงครับ
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ มีนาคม 11, 2014, 15:30:31
ถ้าใครบอกว่าภาพลักษณ์ทางสังคมของรถไม่สำคัญ

นั่นแปลว่า เวลาลูกสาวคุณนัดผู้ชายมาแนะนำตัวคุณสองคน คนนึงขับ Vios คนนึงขับ 730Ld
แต่งตัวสุภาพเท่ากัน พูดจาฉะฉานเท่ากัน..คุณย่อมต้องรู้สึกกับทั้งสองคนเหมือนกันในแว่บแรก
แม้ว่าตอนหลังพอรู้มากเข้าอาจจะเปลี่ยนทัศนคติไป ลบหรือบวกช่างมัน

ถ้าคนขับ BMW ทำให้คุณเกรงใจเขามากกว่า เชื่อเหอะ แปลว่ายังไงรถที่ขับก็ยังเป็นสิ่งที่มีผลต่อภาพลักษณ์
เพียงแค่ว่าพอคนอื่นทำ คุณด่ากัน แต่ในใจตัวเองก็แอ๊บแคร์เหมือนกัน

ผมแคร์นะ ถ้ามีลูกสาวแล้วใครมาจีบ ผมดูทั้งนั้น ขับ Altis แต่ใส่ล้อ Mugen แปะสติกเกอร์ STi อะไรงี้ผมไล่กลับบ้าน
ไปทำรถให้เข้าท่าก่อนค่อยมาจีบลูกกรู

ผมพูดขวานผ่าซากอย่าว่ากันนะ ผมเจอน้อยคนมากครับที่เงินถุงถัง ขับรถตั้งแต่คันละแสนไปจนถึงคันละหลายสิบล้าน
แล้วค่อยพูดว่ารถยุโรปมันก็แค่นั้น..ส่วนมากมันเป็นเรื่องของคนที่ยังไม่เคยสัมผัสรถยุโรป แต่ต้องการพูด
เพื่อให้กำลังใจตัวเองว่ารถญี่ปุ่นก็ไม่ได้ต่าง ..เหมือนกับคนที่ใช้รถยุโรปที่ไม่เคยกังวลเรื่องค่าซ่อม ก็รู้สึกดีกับรถตัวเอง
แต่ไม่มีเวลามานั่งดูหรอกว่ารถยุโรปแบรนด์ดังเก็บสายไฟห่วย วัสดุที่ตาเห็นดี แต่วัสดุที่ห่างไกลตาเจ้าของห่วยสิ้นดี แต่คนใช้รถยุโรปบางคนก็บอกว่าไม่เป็นไร รถมันดีกว่า เขาไม่ห่วงซ่อมเพราะเขามีเงิน ต่างคนต่างหาเรื่องให้ตัวเองรู้สึกดีกับสิ่งที่ตัวเองมีครับ

น้อยคนจะไม่อยากมีรถที่ดีที่สุดในอุดมคติ ดูดีในสายตาคนที่ตัวเองอยู่ด้วย ผมเองก็ชอบรถยุโรป ใครจะบอกว่าเห็นผมขับแต่นิสสัน ฮอนด้า สมัยก่อนตอนพ่อยังรวยบ้านเรามีมาหมดแล้วทั้ง BMW, VW และ Benz แต่ตอนนี้จน ขายยุโรปหมดและอยู่อย่างสบายใจกับรถญี่ปุ่นตามฐานะน่ะครับ..ผมเข้าใจข้อดีข้อเสียของรถแต่ละคัน จนท้ายสุดผมบอกได้คำเดียว การยึดติดกับฐานะทางสังคมของรถน่ะพอเข้าใจนะ แต่อย่ายึดติดในคุณสมบัติของตัวรถแล้วกัน ไม่มีค่ายไหนที่สร้างแต่รถที่เป็นผู้ชนะหรอกครับ
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ มีนาคม 11, 2014, 15:35:37

ผมแคร์นะ ถ้ามีลูกสาวแล้วใครมาจีบ ผมดูทั้งนั้น ขับ Altis แต่ใส่ล้อ Mugen แปะสติกเกอร์ STi อะไรงี้ผมไล่กลับบ้าน
ไปทำรถให้เข้าท่าก่อนค่อยมาจีบลูกกรู


 ;D ชอบตรงนี้ครับ ;D
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: กด9เพื่อกลับสู่เมนูหลัก ที่ มีนาคม 11, 2014, 15:37:17
ผมต้องถามคุณก่อนว่า คำว่าภาพลักษณ์ มันคืออะไร
สำหรับผม ภาพลักษณ์ ก็คือ ภาพที่คนอื่นมันมองเรา

ไอ้สิ่งที่คุณพูดมา มันก็ถูก เพราะ คุณคือคนที่ไม่แคร์ภาพลักษณ์ไงครับ ไม่แคร์ว่าคนอื่นจะมองคุณยังไง
คุณจะใส่ขาสั้นเน่าๆ รองเท้าหูคีบเก่าๆ ขับอีซูซุมังกรทอง ไปพาราก้อน คุณคงทำได้ เพราะ คุณไม่แคร์ว่าใครจะมองยังไง

ซึ่งนั่นมันก็ไม่ผิดเลย

แต่คนไทยส่วนมาก ไม่ใช่แบบคุณไงครับ ประเทศไทยตัดสินคนที่ภาพลักษณ์ภายนอกที่มองเห็น

อ่ะ สมมตว่าคุณเห็นคน2คน  คนนึงขับวีออส อีกคนขับอีคลาส
ให้คุณตอบแบบแมนๆเลยว่า คุณว่าใครรวยกว่ากัน  
แน่นอนว่า เราไม่มีทางรู้ยอดเงินในบัญชีพวกมันแน่
แต่ถ้าให้คุณเดา คุณก็ต้องเดาว่าคนขับอีคลาสรวยกว่า

สรุปง่ายๆคือ คนส่วนใหญ่อ่ะ อยากให้คนอื่นมองว่าเรารวย เราไฮโซไงครับ
ถ้าผมมีเงินซื้อปอเช่ได้ ผมก็ซื้อครับ ไม่ใช่ว่าผมชอบรถสปอร์ตนะครับ ผมซื้อมาก็เอามาขับในเมือง ขับได้ไม่เกิน80
แต่มันเท่ไงครับ เวลาลงจากรถแล้วมันมีความมั่นใจแบบสุดขีดครับ ว่ากูรวยสุดล่ะในบริเวณ10ลี้นี้

หลายคนบอกว่าภาพลักษณ์ไม่สำคัญ ผมเถียงเลยครับ ว่าในไทยอ่ะแม่งภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าเงินสดจริงๆในบัญชีคุณอีก

ขับปอเช่ คุณจอดชั้นล่างที่พารากอนได้
ขับปอเช่ โอกาสที่คุณจีบสาวติดจะเพิ่มเป็น 99.98%
ขับปอเช่ เพื่อนๆและคนรอบตัวคุณ จะต้องประเมินค่าคุณใหม่ ว่าคุณแม่งไม่ใช่ธรรมดา
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: 5ume7h ที่ มีนาคม 11, 2014, 15:40:31

ผมแคร์นะ ถ้ามีลูกสาวแล้วใครมาจีบ ผมดูทั้งนั้น ขับ Altis แต่ใส่ล้อ Mugen แปะสติกเกอร์ STi อะไรงี้ผมไล่กลับบ้าน
ไปทำรถให้เข้าท่าก่อนค่อยมาจีบลูกกรู


 ;D ชอบตรงนี้ครับ ;D

ชอบตรงนี้เหมือนกัน

แล้วถ้า Altis แต่ใส่แค่กรอบทะเบียน RALLIART ละครับ
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: unconsent ที่ มีนาคม 11, 2014, 15:45:12
เบื่อกระทู้แบบนี้มากๆ

ต่างเยอะครับ ทั้งเทคโนโลยี การขับขี่ ความสบาย ความมั่นคง อัตราเร่ง ความปลอดภัย

สำหรับประเด็นอื่นๆที่ว่ามา

ขอพูดตรงๆนะไอที่ชอบบอกทำไมคนอื่นต้องมองเหยียด ทำไมต้องแบ่งชนชั้น อันนี้คิดกันไปเองทั้งนั้นครับ คนเราพอมีอะไรไม่เท่าคนอื่นจนเก็บมาคิดเป็นปมด้อย มันจะถูกกระตุ้นได้ง่ายครับ เอะอะอะไรก็คิดว่าคนนู้นดูถูก คนนี้ดูถูก ทั้งๆที่คนที่เค้าเหนือกว่าเค้าไม่เคยมองหรอกครับ หรือถ้าจะมีก็ส่วนน้อยแหละ ยอมรับนะครับ โลกเรา ไม่มีความเท่าเทียมครับ คนรวยกว่าได้รับการปฏิบัติดีกว่า ได้รับการบริการดีกว่าเป็น "เรื่องปกติ" ครับ

สำหรับรถที่คุณยกตัวอย่างมา toyota honda hyundai ราคาอย่างเก่งก็ ล้านปลายๆ ถ้ามือสองนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่ benz bmw มันมีตั้งแต่สองล้านต้นๆ ไปถึงสิบกว่าล้านนะครับ คนซื้อมันก็พอบ่งบอกฐานะได้ระดับหนึ่งแหละครับ

อีกอย่างนะครับ ผมขับเบ้นซ์คันละสี่ล้านตั้งแต่อายุยี่สิบ ไม่เคยคิดจะดูถูกใคร เพราะก่อนนี้ก็ขับรถญี่ปุ่นมา ที่พ่อซื้อเบ้นให้เพราะ มันปลอดภัย สะดวกสบาย ออพชั่นดี และที่สำคัญ "ไม่ได้เดือดร้อนที่จะซื้อครับ" และไม่เคยคิดว่าเหนือกว่าใคร เพื่อนผมอีกหลายคนขับ porsche ferrari อีกหลายคนขับ chevrolette honda toyota ก็อยู่ในกลุ่มเดียวกันได้ไม่เคยคิดเล็กคิดน้อยกัน

คุณยอมรับเถอะครับ โลกนี้มันไม่ใช้โลกในอุดมคติ ที่ทุกคนเท่าเทียมกัน ทุกคนเสมอภาคกัน ไปดูเมืองนอกสิครับ คนรวยใช้เงินหนักกว่าบ้านเราอีก เด็กอายุ 18 ได้มรดก เป็น billion USD วันเสาร์อาทิตย์นั่งเครื่องบินส่วนตัว ไปซื้อเรือยอร์ชใหม่ที่ฮาวาย ก็มี ไปดูได้เลยครับ miami นี่แบ่งโซนชัดเจน คนรวย คนปานกลาง คนยากจน มีครบครับ แค่สาธารณูปโภค การขนส่งบ้านเค้าดีกว่าเราเยอะ คนฐานะปานกลางกับ ล่างๆจึงไม่ต้องดิ้นรนมากเหมือนบ้านเราเท่านั้นเอง แล้วไปดูเลยครับ มหาวิทยาลัยเมืองนอก harvard MIT ไม่รวยเรียนไม่ได้นะครับ อยากเรียนหมอกำเงินไปอย่างต่ำ 4 แสน USD ครับ อย่างนี้ไม่เรียกเหยียดชนชั้นหรอครับ??

**** คุณถามตัวเองดีไหมถ้าวันนี้มีเงินเย็นๆห้าร้อยล้าน จะซื้ออะไรระหว่าง เบ้นซ์ บีเอ็ม กับ hyundai มือ2?

ปล. โลกเรามันหมุนไปแล้วครับ ถ้าคุณโตขนาดนี้แล้วยังร้องงอแงว่า "สังคมห่วย", "ค่านิยมแย่ๆ เหยียดชนชั้น" คุณก็ย่ำอยู่แค่นี้ตลอดไปแหละครับ วันไหนที่คุณรับกับสังคมได้ว่า มันมีความเหลื่อมล้ำทางฐานะจริงๆนะ คนรวยกว่ามีโอกาสมากกว่าจริงๆ แล้วพยายามถีบตัวเองขึ้น โดยที่ไม่ลืมทางที่เราเคยเดินผ่านมา ไม่ดูถูกคนที่ด้อยกว่า สักวันหนึ่ง คุณก็จะมาอยู่ในกลุ่มคนที่คุณด่าว่า "แบ่งแยกชนชั้น" น่ะแหละครับ เราเปลี่ยนโลก เปลี่ยนสังคมไม่ได้ แต่เราทำตัวเองให้ดีขึ้นได้ครับ

ปล2. ความรวยไม่ใช่ข้ออ้างในการดูถูกคนอื่น แต่ความจนก็ไม่ใช่ข้ออ้างในการกล่าวหาว่าคนอื่น "ไม่ดี" เช่นกันครับ
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: unconsent ที่ มีนาคม 11, 2014, 15:48:17


ผมพูดขวานผ่าซากอย่าว่ากันนะ ผมเจอน้อยคนมากครับที่เงินถุงถัง ขับรถตั้งแต่คันละแสนไปจนถึงคันละหลายสิบล้าน
แล้วค่อยพูดว่ารถยุโรปมันก็แค่นั้น..ส่วนมากมันเป็นเรื่องของคนที่ยังไม่เคยสัมผัสรถยุโรป แต่ต้องการพูด
เพื่อให้กำลังใจตัวเองว่ารถญี่ปุ่นก็ไม่ได้ต่าง ..เหมือนกับคนที่ใช้รถยุโรปที่ไม่เคยกังวลเรื่องค่าซ่อม ก็รู้สึกดีกับรถตัวเอง
แต่ไม่มีเวลามานั่งดูหรอกว่ารถยุโรปแบรนด์ดังเก็บสายไฟห่วย วัสดุที่ตาเห็นดี แต่วัสดุที่ห่างไกลตาเจ้าของห่วยสิ้นดี แต่คนใช้รถยุโรปบางคนก็บอกว่าไม่เป็นไร รถมันดีกว่า เขาไม่ห่วงซ่อมเพราะเขามีเงิน ต่างคนต่างหาเรื่องให้ตัวเองรู้สึกดีกับสิ่งที่ตัวเองมีครับ


เห็นด้วยกับอันนี้มากครับ หมู่บ้านที่ผมอยู่ยังไม่เคยเห็นสักคนที่ใช้สามห่วงจนถึงทุกวันนี้ หลายๆบ้านราคาเฉียดร้อยล้าน มีตั้งแต่ เฟอร์ยัน วีออสให้แม่บ้านจ่ายตลาด หรือ A classให้ลูกหัดขับรถ ครับ
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Buffy ที่ มีนาคม 11, 2014, 16:08:15
ถ้าใครบอกว่าภาพลักษณ์ทางสังคมของรถไม่สำคัญ

นั่นแปลว่า เวลาลูกสาวคุณนัดผู้ชายมาแนะนำตัวคุณสองคน คนนึงขับ Vios คนนึงขับ 730Ld
แต่งตัวสุภาพเท่ากัน พูดจาฉะฉานเท่ากัน..คุณย่อมต้องรู้สึกกับทั้งสองคนเหมือนกันในแว่บแรก
แม้ว่าตอนหลังพอรู้มากเข้าอาจจะเปลี่ยนทัศนคติไป ลบหรือบวกช่างมัน

ถ้าคนขับ BMW ทำให้คุณเกรงใจเขามากกว่า เชื่อเหอะ แปลว่ายังไงรถที่ขับก็ยังเป็นสิ่งที่มีผลต่อภาพลักษณ์
เพียงแค่ว่าพอคนอื่นทำ คุณด่ากัน แต่ในใจตัวเองก็แอ๊บแคร์เหมือนกัน

ผมแคร์นะ ถ้ามีลูกสาวแล้วใครมาจีบ ผมดูทั้งนั้น ขับ Altis แต่ใส่ล้อ Mugen แปะสติกเกอร์ STi อะไรงี้ผมไล่กลับบ้าน
ไปทำรถให้เข้าท่าก่อนค่อยมาจีบลูกกรู

ผมพูดขวานผ่าซากอย่าว่ากันนะ ผมเจอน้อยคนมากครับที่เงินถุงถัง ขับรถตั้งแต่คันละแสนไปจนถึงคันละหลายสิบล้าน
แล้วค่อยพูดว่ารถยุโรปมันก็แค่นั้น..ส่วนมากมันเป็นเรื่องของคนที่ยังไม่เคยสัมผัสรถยุโรป แต่ต้องการพูด
เพื่อให้กำลังใจตัวเองว่ารถญี่ปุ่นก็ไม่ได้ต่าง ..เหมือนกับคนที่ใช้รถยุโรปที่ไม่เคยกังวลเรื่องค่าซ่อม ก็รู้สึกดีกับรถตัวเอง
แต่ไม่มีเวลามานั่งดูหรอกว่ารถยุโรปแบรนด์ดังเก็บสายไฟห่วย วัสดุที่ตาเห็นดี แต่วัสดุที่ห่างไกลตาเจ้าของห่วยสิ้นดี แต่คนใช้รถยุโรปบางคนก็บอกว่าไม่เป็นไร รถมันดีกว่า เขาไม่ห่วงซ่อมเพราะเขามีเงิน ต่างคนต่างหาเรื่องให้ตัวเองรู้สึกดีกับสิ่งที่ตัวเองมีครับ

น้อยคนจะไม่อยากมีรถที่ดีที่สุดในอุดมคติ ดูดีในสายตาคนที่ตัวเองอยู่ด้วย ผมเองก็ชอบรถยุโรป ใครจะบอกว่าเห็นผมขับแต่นิสสัน ฮอนด้า สมัยก่อนตอนพ่อยังรวยบ้านเรามีมาหมดแล้วทั้ง BMW, VW และ Benz แต่ตอนนี้จน ขายยุโรปหมดและอยู่อย่างสบายใจกับรถญี่ปุ่นตามฐานะน่ะครับ..ผมเข้าใจข้อดีข้อเสียของรถแต่ละคัน จนท้ายสุดผมบอกได้คำเดียว การยึดติดกับฐานะทางสังคมของรถน่ะพอเข้าใจนะ แต่อย่ายึดติดในคุณสมบัติของตัวรถแล้วกัน ไม่มีค่ายไหนที่สร้างแต่รถที่เป็นผู้ชนะหรอกครับ

ขอคุณ Jimmy ให้เวปบอร์ดนี้ มีปุ่มกด like  หรือ ถูกใจ ได้ไหม

คุณ Commander Cheng  กล่าวมา ตรงใจผมอย่างแรง
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Siemens ที่ มีนาคม 11, 2014, 16:29:41
เบื่อกระทู้แบบนี้มากๆ

ต่างเยอะครับ ทั้งเทคโนโลยี การขับขี่ ความสบาย ความมั่นคง อัตราเร่ง ความปลอดภัย

สำหรับประเด็นอื่นๆที่ว่ามา

ขอพูดตรงๆนะไอที่ชอบบอกทำไมคนอื่นต้องมองเหยียด ทำไมต้องแบ่งชนชั้น อันนี้คิดกันไปเองทั้งนั้นครับ คนเราพอมีอะไรไม่เท่าคนอื่นจนเก็บมาคิดเป็นปมด้อย มันจะถูกกระตุ้นได้ง่ายครับ เอะอะอะไรก็คิดว่าคนนู้นดูถูก คนนี้ดูถูก ทั้งๆที่คนที่เค้าเหนือกว่าเค้าไม่เคยมองหรอกครับ หรือถ้าจะมีก็ส่วนน้อยแหละ ยอมรับนะครับ โลกเรา ไม่มีความเท่าเทียมครับ คนรวยกว่าได้รับการปฏิบัติดีกว่า ได้รับการบริการดีกว่าเป็น "เรื่องปกติ" ครับ

สำหรับรถที่คุณยกตัวอย่างมา toyota honda hyundai ราคาอย่างเก่งก็ ล้านปลายๆ ถ้ามือสองนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แต่ benz bmw มันมีตั้งแต่สองล้านต้นๆ ไปถึงสิบกว่าล้านนะครับ คนซื้อมันก็พอบ่งบอกฐานะได้ระดับหนึ่งแหละครับ

อีกอย่างนะครับ ผมขับเบ้นซ์คันละสี่ล้านตั้งแต่อายุยี่สิบ ไม่เคยคิดจะดูถูกใคร เพราะก่อนนี้ก็ขับรถญี่ปุ่นมา ที่พ่อซื้อเบ้นให้เพราะ มันปลอดภัย สะดวกสบาย ออพชั่นดี และที่สำคัญ "ไม่ได้เดือดร้อนที่จะซื้อครับ" และไม่เคยคิดว่าเหนือกว่าใคร เพื่อนผมอีกหลายคนขับ porsche ferrari อีกหลายคนขับ chevrolette honda toyota ก็อยู่ในกลุ่มเดียวกันได้ไม่เคยคิดเล็กคิดน้อยกัน

คุณยอมรับเถอะครับ โลกนี้มันไม่ใช้โลกในอุดมคติ ที่ทุกคนเท่าเทียมกัน ทุกคนเสมอภาคกัน ไปดูเมืองนอกสิครับ คนรวยใช้เงินหนักกว่าบ้านเราอีก เด็กอายุ 18 ได้มรดก เป็น billion USD วันเสาร์อาทิตย์นั่งเครื่องบินส่วนตัว ไปซื้อเรือยอร์ชใหม่ที่ฮาวาย ก็มี ไปดูได้เลยครับ miami นี่แบ่งโซนชัดเจน คนรวย คนปานกลาง คนยากจน มีครบครับ แค่สาธารณูปโภค การขนส่งบ้านเค้าดีกว่าเราเยอะ คนฐานะปานกลางกับ ล่างๆจึงไม่ต้องดิ้นรนมากเหมือนบ้านเราเท่านั้นเอง แล้วไปดูเลยครับ มหาวิทยาลัยเมืองนอก harvard MIT ไม่รวยเรียนไม่ได้นะครับ อยากเรียนหมอกำเงินไปอย่างต่ำ 4 แสน USD ครับ อย่างนี้ไม่เรียกเหยียดชนชั้นหรอครับ??

**** คุณถามตัวเองดีไหมถ้าวันนี้มีเงินเย็นๆห้าร้อยล้าน จะซื้ออะไรระหว่าง เบ้นซ์ บีเอ็ม กับ hyundai มือ2?

ปล. โลกเรามันหมุนไปแล้วครับ ถ้าคุณโตขนาดนี้แล้วยังร้องงอแงว่า "สังคมห่วย", "ค่านิยมแย่ๆ เหยียดชนชั้น" คุณก็ย่ำอยู่แค่นี้ตลอดไปแหละครับ วันไหนที่คุณรับกับสังคมได้ว่า มันมีความเหลื่อมล้ำทางฐานะจริงๆนะ คนรวยกว่ามีโอกาสมากกว่าจริงๆ แล้วพยายามถีบตัวเองขึ้น โดยที่ไม่ลืมทางที่เราเคยเดินผ่านมา ไม่ดูถูกคนที่ด้อยกว่า สักวันหนึ่ง คุณก็จะมาอยู่ในกลุ่มคนที่คุณด่าว่า "แบ่งแยกชนชั้น" น่ะแหละครับ เราเปลี่ยนโลก เปลี่ยนสังคมไม่ได้ แต่เราทำตัวเองให้ดีขึ้นได้ครับ

ปล2. ความรวยไม่ใช่ข้ออ้างในการดูถูกคนอื่น แต่ความจนก็ไม่ใช่ข้ออ้างในการกล่าวหาว่าคนอื่น "ไม่ดี" เช่นกันครับ
ด้วยลำแข้งและฝีมือไม่ว่ากัน
และประเภทที่ขับ BMW MB
แล้วทุจริต โกงกิน ทำผิดกฎหมาย อย่างนี้เอาไหม
แต่ภาพลักษณ์ทางสังคมดีมากนะ
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: raygun ที่ มีนาคม 11, 2014, 16:33:18
.
.
.
ได้กลิ่นองุ่นเปรี้ยวๆมาแต่ไกล  ;D

เอาเป็นว่าตั้งแต่เกิดมาจากประสบการณ์ส่วนตัว
ผมยังไม่เคยผิดหวังกับการซื้อของแพงเลย อย่างเมื่อก่อนซื้อนาฬิกา
เรือนละหมื่น ซื้อมาเบื่อก็ซื้อใหม่ สุดท้ายนาฬิกากองเต็มบ้าน ขายก็ไม่ได้
ตอนหลังเปลี่ยนมาซื้อแบบดีๆไปเลย ปรากฏว่าราคาขึ้นเอาๆ ขึ้นยิ่งกว่าทอง
กลายเป็นการเก็บตังค์ไปในตัว

รถแพงๆก็เหมือนกัน มันให้อะไรมากกว่าภาพลักษณ์เยอะ
ของแบบนี้อธิบายไปก็เท่านั้นล่ะครับ คนไม่เข้าใจก็คือไม่เข้าใจ
แต่สำหรับผม ผมว่ามันต่างมากๆ  ;D
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: เกมส์'พิดโลก ที่ มีนาคม 11, 2014, 16:43:28
ชอบคอมเมนต์ของพี่ๆแต่ละท่านมากๆ อ่านแล้วเห็นมุมมองหลายๆด้านดีครับ
 :)
ส่วนตัว ถ้าไม่รู้จักใครเป็นการส่วนตัว แว๊บแรกที่มอง ก็รถที่ขับนี่หล่ะครับ บ่งบอกได้ระดับนึง...
แต่ถ้ารู้จักคนคนนั้น เป็นการส่วนตัว หรือจากคำบอกเล่า ผมก็จะมองที่ กิจการ รายได้ ของเขามากกว่ารถ
อย่างเถ้าแก่โรงสีที่ผมรู้จักจากพ่อ มีเงินระดับพันล้าน ขับแคมรี่ตาเหยี่ยวเก่าๆก็มีครับ  หรือบางท่านมีแค่ระดับสิบล้าน แต่ขับ E Class ก็มี
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: joe560-4 ที่ มีนาคม 11, 2014, 16:45:50
เมืองไทยผมว่า รถยนต์มีผลกับภาพลักษณ์ทางสังคมมากครับ

ยกตัวอย่าง ภาพลักษณ์บนถนน

ส่วนมากวันทำงานผมจะใช้ pajero jr กับ bmw E92 สลับกัน

ตอนขับ pajero jr จะมีคนรังแกตลอดเวลา เช่น เจอปาดหน้า เจอจี้ตูด ขอทางแล้วเจอบีบแตรไม่ให้ทาง

ส่วน bmw E92 จะไม่ค่อยเจอคนรังแกเลย

และถ้าเป็น lambo แค่เปิดไฟขอทางคันข้างๆส่วนมากจะชลอให้เราไปเลย
 
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: mick ที่ มีนาคม 11, 2014, 16:58:06
ผมก็สงสัยมาก
ผมมีคนขับรถ แต่รถอายุเยอะมาก สภาพดี เงาแว้บ benz w210 คนจะมองว่าอะไร ราคาตลาดเหลือไม่ถึง 7 แสน ถูกกว่า อัลติสใหม่อีก
จะมองว่ารวย หรือจนจัง รถรุ่นเก่ามาก
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: seeeee ที่ มีนาคม 11, 2014, 17:01:11
นานาจิตตังครับ อย่างที่ท่านข้างบนบอก ถ้ามีเงินเย็นเป็นหลักร้อยล้าน ผมก็ซื้อรถแพงๆ มันอยู่ที่ความพอใจมากว่าครับ
แต่ต้องยอมรับว่าสังคมบ้านเรา ส่วนใหญ่ มองรถเป็นสิ่งบ่งบอกฐานะทางสังคม  
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: PapaRo@ch~* ที่ มีนาคม 11, 2014, 17:02:35
ขับเบนซ์เก่าๆ ราคามือสองตอนนี้ถูกกว่าวีออสป้ายแดงอีก
แต่ยังได้จอดที่จอด VIP ตามห้าง

คิดว่าภาพลักษณ์คืออะไรจ๊ะ
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: goldsfirm ที่ มีนาคม 11, 2014, 17:30:56
ภรรเมียพ้มนี่ล่ะคับ ! หลังจากแต่งงานอยู่กินกันแล้ว เทอเล่าว่า "วันแรกที่เทอขับ Camry มารับชั้นกับเพื่อนๆไปทานข้าวน่ะ ประทับใจมากก .. ชั้นเลยตัดสินใจ คบหาดูใจกับเทอ"
ผม : ถ้าวันนั้นชั้นขับ Jazz ไปรับอะ
เมีย : ... ก็ คง เป็นเพื่อนกันไปก่อนน ดูกันยาวๆ

ผมล่ะฮาก๊ากกเลย ในความแสบของเมียผม 555555

ทุกวันนี้ เทอเตรียมสอนลูกสาว " เรามี Z4 แล้วนะลูก ใครจะมาจีบนู๋ มาเป็นแฟนกะนู๋ อย่างต่ำๆ ต้อง Porsche ขึ้นนะลูกก ,,, เลิศศศศศศ ค่ะ! ขุ่นแม่! "
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ มีนาคม 11, 2014, 17:31:27
คือที่ผมตอบๆไปนั่น ตอบตามที่ใจคิดนะ แต่พยายามอิงกับความต้องการของคนเราจริงๆ
และผมตอบในหัวข้อที่ว่า รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม ซึ่งไม่ได้พูดถึง คุณภาพของคน จริยธรรม และภาพลักษณ์ทางสังคม
ถ้าใครจะคุยเชิงนี้ คำตอบมันก็รู้อยู่แล้วว่าทุกคนก็อยากได้คนที่ดี มีจริยธรรม ผมไม่บ้าพอให้ลูกสาวผมขึ้นรถไปกับผู้ชาย
ที่ขับรถคันละ 20 ล้านแต่มีประวัติทำร้ายร่างกายผู้หญิง ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมก็ไม่เอา ใครเอา? บ้า?

ภาพลักษณ์ และรสนิยม ไม่ได้มีจำกัดแค่คนไทยหรอกครับ ฝรั่งก็มีคำว่า Social cred, public cred, street cred
เพียงแต่ว่าแต่ละที่ก็จะมีการมองคนที่ใช้รถแต่ละรุ่นต่างกันไป ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าดีไปซะทุกอย่าง ที่อังกฤษ บางเมือง การขับรถ
SUV โตๆ พวก Cayenne หรือ X5 หรือ Range Rover นี่เขามองว่าคุณรวย อาจจะเป็นนักฟุตบอลหรือเป็นญาตินักฟุตบอล
แต่ไปที่อีกเมืองนึงเขาอาจมองคุณเป็นพวกพ่อค้ายาเสพติดก็ได้ ที่อเมริกานี่ยิ่งตลก..ตอนผมอยู่ Kansas ผมบอกเพื่อนว่า
ถ้าอยู่อเมริกาผมอยากซื้อ Camaro Z28 ใช้ เพื่อนคนอเมริกันบอกมึงรสนิยมเจ๋งมาก เพื่อนคนเอเชียบอกว่าไอ้บ้า มึงต้องใช้
Lexus, Acura อย่างนี้สิถึงใช่ ..ผมว่าบางส่วนของเขาก็เหมือนเรา..ญี่ปุ่นก็เหมือน ลงจากแท็กซี่เดินเข้าโรงแรมฝ่าฝูงชน คนเดินแทบจะชนผมตาย
แต่พอมากับเพื่อนพ่อ ใน S600L สีดำ ก้าวลงจากรถ ทำตาขวางๆหน่อย สถานที่เดิม ต่างวัน..คนเดินหลบยังกะผมเป็นช้างป่า

ดังนั้นอย่าไปคิดมากถ้าจะแค่บอกว่า เออ รถยนต์ก็สำคัญนะในเรื่องการสร้างภาพลักษณ์ ผมมองว่าความเชื่อก็ไม่เห็นจะเป็นไร
ทุกคนต้องการมันนี่ครับ และถ้าความต้องการนั้นมันส่งเสริมด้วยจริยธรรม ยิ่งดี แต่เราก็สามารถยอมรับในทัศนคติตัวเอง
โดยไม่ต้องไปข่มคนอื่นได้ไงครับ ผมถึงปฏิบัติกับคนขับรถยุโรปและญี่ปุ่นเหมือนๆกัน..คือถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็ไปซะ
แต่ถ้าคุยกันแล้วชอบ คุณจะขับอะไรผมไม่สนอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: localgame ที่ มีนาคม 11, 2014, 17:37:14
ด้วยลำแข้งและฝีมือไม่ว่ากัน
และประเภทที่ขับ BMW MB
แล้วทุจริต โกงกิน ทำผิดกฎหมาย อย่างนี้เอาไหม
แต่ภาพลักษณ์ทางสังคมดีมากนะ

คนที่ทุจริต โกงกิน อาจจะขับรถญี่ปุ่นทั่วไปก็ได้นะครับ เราไม่สามารถตัดสินได้ว่าใครโกงไม่โกงจากรถยนตร์ที่ใช้

แต่ถ้าเรามองหน้าที่การงาน รายได้ ทรัพย์สิน อาจจะตัดสินใจได้ว่าคนคนนี้เค้าโกง หรือ ทุจริตมาหรือเปล่า

รถยนตร์บ่งบอกภาพลักษณ์ทางสังคมได้ แต่บอกเกี่ยวกับนิสัยของคนๆนั้นไม่ได้ครับ

ผมก็สงสัยมาก
ผมมีคนขับรถ แต่รถอายุเยอะมาก สภาพดี เงาแว้บ benz w210 คนจะมองว่าอะไร ราคาตลาดเหลือไม่ถึง 7 แสน ถูกกว่า อัลติสใหม่อีก
จะมองว่ารวย หรือจนจัง รถรุ่นเก่ามาก

เคยมีคนบอกผมว่า เวลาขับเบนซ์เก่าๆเนี๊ยบแล้วมองเหมือนเป็นผู้ดีเก่า ถ้ามีคนขับรถให้อีกก็ใช่เลย

เพราะส่วนใหญ่ถ้าขับเบนซ์เก่าแล้วโทรมๆ จะเหมือนเป็นคนที่ซื้อมือ2มา งบน้อยเลยไม่ค่อยดูแล

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมคิดว่าไม่ใช่ทุกคนที่คิดแบบนั้น ผมกลับคิดว่าถ้ารถเก่าแล้วสภาพดี รถเนียนๆ มันบ่งบอกว่าเป็นคนสะอาด และเอาใจใส่มากกว่า



หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Noom_mtb ที่ มีนาคม 11, 2014, 18:13:09
ชีวิตนี้ผมผ่านรถมาไม่เยอะเหมือนใครหลายๆคนในนี้
dodge (จำรุ่นไม่ได้)
bmw 750il
opel astra
volvo 940
isuzu มังกรทอง
toyota mighty x
honda crv
toyota fortuner
honda stream
honda accord
หลายๆคันก็ยังใช้อยู่ถึงทุกวันนี้ เก่าใหม่ถูกแพงไม่สำคัญสำหรับผม ต้องไว้ใจได้และไม่งอแงบ่อยเพราะไม่งั้นดีแค่ไหนผมก็ไม่ปลื้ม 5555
(3คันแรกใน list นี่แหละ ไม่ปลื้มซักคัน)

สุดท้าย คันที่ใช้แล้วมีความสุขที่สุดหาใช่รถยนต์ไม่ มอเตอร์ไซด์ครับ ใครจะมองว่าผมแว็นซ์ก็ช่าง(เบื่อรถติด + อารมณ์บน 2 ล้อ มันอธิบายยากอะต้องลองเอง บางคนชอบ บางคนเกลียด)
รถในฝันผมก็มี แต่คงไม่ดิ้นรนทำฝันให้เป็นจริงมากเกินไป เพราะมันอาจจะทำให้ผมเครียด
ผมเลือกที่จะใช้ชีวิตให้มีความสุขกับสิ่งที่หาได้ตามกำลัง ณ เวลานั้นๆ แพลนเผื่ออนาคตหน่อยๆ
ไม่ตึงหรือหย่อนจนเกินไป รถไม่ใช่หน้าตา แต่อาจเป็นเครื่องแสดงสถานะบางอย่างทางภาพลักษณ์หรือสังคมก็แล้วแต่
มันก็แล้วแต่การปลูกฝังใส่หัวกะบาลกันมาแหละครับ

หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: IS2000 ที่ มีนาคม 11, 2014, 19:00:08
ผมว่ารถยนต์เป็นสิ่งบ่งบอกภาพลักษณ์ที่สำคัญมากในสังคมไทยนะครับ อย่างแค่ขับรถไปจอดที่พารากอนวันที่คนเยอะๆ รถคันนึงอาจต้องวนหาที่จอดเองใช้เวลาเกือบชั่วโมงกับอีกคันเข้าไปแล้ว รปภ โบกให้จอดได้เลย
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ มีนาคม 11, 2014, 19:09:56
พูดถึงสาวๆ สมัยนี้รักสบายนะครับ

ผู้ชายถ้ามีรถนี่ ไม่หล่อ ก็ทำให้ดูดีได้ ยิ่งขับรถหรูๆ เนี่ยเทพไปเลยละ :D


แต่คนแบบนี้ จ้างให้ก็ไม่เอามาเป็นแม่ของลูกหรอกครับ เหมาะกับเป็นตุ๊กตา ไว้ควงมากกว่า 5555 >:(
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Mortred ที่ มีนาคม 11, 2014, 19:22:59
พูดถึงสาวๆ สมัยนี้รักสบายนะครับ

ผู้ชายถ้ามีรถนี่ ไม่หล่อ ก็ทำให้ดูดีได้ ยิ่งขับรถหรูๆ เนี่ยเทพไปเลยละ :D


แต่คนแบบนี้ จ้างให้ก็ไม่เอามาเป็นแม่ของลูกหรอกครับ เหมาะกับเป็นตุ๊กตา ไว้ควงมากกว่า 5555 >:(

+1
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: kimhalua ที่ มีนาคม 11, 2014, 20:40:54
ที่คุณพูดมา มันคือค่านิยมครับ ไม่ใช่ภาพลักษณ์

รถยุโรป กับ รถญี๋ปุ่นมันต่างกันจริงครับ ถึงความแข็งแรงตัวถังอาจจะมาตรฐานใกล้เคียงกัน แต่ช่วงล่าง  และฟิลลิ่งมันต่างกัน ไม่ต้องเทียบกับรถญี๋ปุ่นหรอก แค่เอา a class มาเทียบกับ ฟอร์ดโฟกัส ถึงช่วงล่างจะใกล้เคียงกัน แต่ฟิลตอนที่ขับมันต่างกันพอสมควร ถึงจะไม่มากนัก แต่ก้คือสัมผัสได้

และอีกอย่าง ผมว่ารถยนต์มันสะท้อนความเป็นตัวเราครับ เทียบง่ายๆ มาสด้า3 คับ ฟอร์ดโฟกัส แค่ตัวถัง 4 ประตู กับ 5 ประตู ยังให้บุคลิกที่ต่างกันเลยครับ
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Nismo De Alpina ที่ มีนาคม 11, 2014, 20:56:18
พูดถึงที่จอดรถโซนซุเปอร์คาร์ที่ไร แล้วอารมณ์ขึ้นทุกที พับผ่าซิ!! 
ไม่ไปมันล่ะพารากงพารากอนอ่ะ ไปเดินเซ็งท่านก็ล่ายยย  :D
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: mike77 ที่ มีนาคม 11, 2014, 22:43:09
มันเป็นความภูมิใจที่ได้ครอบครองแบรนด์นั้นๆ ของแต่ละคนนะผมว่า MB BM เขาสร้างแบรนด์มาตั้งเท่าไหร่ เผื่อจะให้คนรู้สึกภาคภูมิใจกับแบรนด์เขา
คุณมาคิดเรือ่งเทคโนโลยี่ การออกแบบนั้นนี้ คิดแค่ว่ามันใกล้เคียงกัน พูดยังไงก็ไม่จบหรอกคับ
เอาง่ายๆ ทำไมกระเป๋าแอร์เมส ใบเป็นล้านขายได้ ทั้งที่บางทีหนังมันก็เท่าๆกับกระเป๋าใบละพัน อาจจะมาจากจรเข้ตัวเดียวกันก็ได้
ผมว่าตามทฤษฏีพฤติกรรมผู้บริโภค มันก็ไม่ได้แปลกอะไรนะคับ คนไทยก็เหมือนๆคนอื่นๆทั่วโลกนั่นแหละ เพียงแต่ความชื่นชอบในแต่ละสินค้าไม่เหมือนกันเท่านั้น
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Impulse ที่ มีนาคม 11, 2014, 22:55:37
คนที่รู้ว่า BMW เป็นยังไง รู้ว่า Toyota เป็นยังไง
แต่สามารถมอง
BMW = รถ
Toyota = รถ
รถ = รถ
ได้จริงๆโดยไม่ตะขวิดตะขวางใจ และไม่ใช่การพูดปลอบใจตัวเอง
ผมว่ามี แต่มีน้อยมากๆ และผมว่าคนแบบนี้น่าฟังที่เขาพูด
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Nong05 ที่ มีนาคม 11, 2014, 23:18:17
แล้วหินกรวดสะท้อนแสงแว๊บๆ ที่เรียกว่าเพชรน่ะ
เอามาห้อยคอแล้วทำให้ดูดีขึ้นมาอ๊ะป่าวหว่า?

ชะแว๊บ ไม่เกี่ยวเผ่นดีฝ่า
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ มีนาคม 12, 2014, 00:16:30
พูดถึงที่จอดรถโซนซุเปอร์คาร์ที่ไร แล้วอารมณ์ขึ้นทุกที พับผ่าซิ!! 
ไม่ไปมันล่ะพารากงพารากอนอ่ะ ไปเดินเซ็งท่านก็ล่ายยย  :D


เข้าใจครับ ภาพลักษณ์ทางสังคมเจ้าก็อตมันสู็เค้าไม่ได้

 :( :( :(
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Noctis Lucis Caelum ที่ มีนาคม 12, 2014, 01:10:55
ของพวกนี้มันขึ้นอยุ่กับความพอใจครับ
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: windrum31 ที่ มีนาคม 12, 2014, 06:59:08
เรื่องนี้มันอยู่ที่ค่านิยม ด้วยครับไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์อย่างเดียว ก็อย่างที่หลายๆท่านเข้าใจกัน ว่าต้องทำใจยอมรับกับลักษณะทางสังคมไทยให้ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณธรรมจริยธรรม สำคัญที่สุด

มีประสบการณ์จริงตลกๆจากคุณพ่อมาหมาดๆ (ขับ Benz W211) ในวงเหล้าหลังจากที่ตีกอลฟเสร็จ พ่อบอกเพื่อนๆในก๊วนว่า นาฬิกา Rolexที่ใส่อยู่เนี่ย ของปลอม ปรากฎว่าบอกเท่าไหร่ก็ไม่มีใครเชื่อสักคนเลยครับ 55555
ปล.เป็นของปลอมจริงๆนะ ^^
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: balliblue ที่ มีนาคม 12, 2014, 07:18:33
ผมละหน่ายกับ คำว่าภาพลักษณ์ กับโลกสวยว่า มันแค่เปลือก แล้วคนไทยกันเองที่ชอบด่าว่าดูถูกกัน ประเทศไหนในโลกมันก็เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา อังกฤษ หรือที่ไหน มันก็มีย่าน คนจน คนรวยอยู่แล้ว  แล้วคนเราจะทำตัวให้คนอื่นดูถูกทำไมละ ไม่ใช่ว่าจะบอกให้ฟุ้งเฟ่อนะครับ แต่เรามีเงินเท่าไหร่ก็ใช้ตามฐานะครับ
เพราะโลกนี้เรามองกันที่เปลืกอยู่แล้วในแว่บแรก ที่จะรู้จักกัน อย่างที่ คุณแพนว่า  พ่อแม่ที่ไหนก็อยากให้ลูกสาวได้คนที่ดูแล ลูกเค้าได้ ถ้าคุณแต่งตัวห่วยๆ ขับรถเก่าๆ ใครจะอยากให้ลูกสาวไปอยู่กะคุณ (ยกเว้นว่าดีเทพและรักกัน) เพราะเค้าคงไม่รู้หรอกว่าคุณมีเงินในบัญชี 10 ล้าน หรือถึงรู้ก็คงบอกว่า มัน งก มาก อนาคต ลูกสาวจะขอไรก็คงยาก

แต่ผมไม่ได้บอกนะว่าคนขับรถแพงจะดี อย่างนักการเมืองโกงชาติเป็นต้น พวกนี้อยากตื้บให้จมดิน โกงแล้วรวยยังลอยหน้าลอยตา  ผมละชอบโฆษณาอย่าปล่อยให้คนโกงมีที่ยื่นจริงๆ (แอบนอกเรื่อง 55)
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Ty ESC ที่ มีนาคม 12, 2014, 08:55:32
พี่แพนครับ

ถ้ามีหนุ่มต่อไปนี้มาจีบลูกสาวพี่แพน คนไหนผ่านไม่ผ่าน

1. MG-B
2. S2000
3. BRZ
4. TTs
5. Forester Xti
6. A45 amg
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: boneshiro ที่ มีนาคม 12, 2014, 09:05:53
ชอบกระทู้แบบนี้จัง มีอะไรให้อ่านเยอะดี หุๆๆๆ 
กด like หมื่นครั้งให้ Commander Cheng ครับ ตรงใจมาก 
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Tiger3539 ที่ มีนาคม 12, 2014, 09:43:00
จขกท. เอาหลายเรื่องมารวมกันเยอะมาก

ส่วนตัวเห็นด้วย 10% เรื่องภาพลักษณ์บ้าๆบอๆในประเทศนี้

ประเทศนี้สอนให้คนดูถูกกันเองมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แบ่งวรรณะโดยสัมผัสไม่ได้ แต่เข้าใจได้

แต่ที่จขกท.มาพูด ซื้อแล้ว มูลค่าลดลงเรื่อยๆ อันนี้ผมว่าไม่เกี่ยวกับรถหรือภาพลักษณ์แล้วหละครับ


ยังไงคำว่าประวัติศาสตร์มันก็มีค่าที่ตีราคาไม่ได้เหมือนกันครับ กับผลิตภัณฑ์หนึ่งชิ้น ความดีความงามไม่โดนลบไปง่ายๆหรอกครับ


ถูกใจมาก :-*
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: mxmx ที่ มีนาคม 12, 2014, 10:22:42
อย่าคิดมากเลยคับ มีเงินชื้อก็ชื้อ ไม่มีเงินก็ไม่ต้องชื้อแพงคับ ไม่ต้องสนใจหรอกคับว่าโลกจะมองคุณยังไง เพราะคนเป็นล้านจะให้คิดเหมือน หรือเห็นด้วยกับคุณคงยากแต่มาสนใจที่ตัวคุณเอง มองตัวเองต่อโลกยังไงดีกว่าคับ รับได้ไหมขับรถเก่าๆไปห้าง ยามพูดจาไม่ดีไล่ไปจอดที่อื่นแต่กลับคนที่ขับรถแพงๆมายามโค้งให้จนหัวจะโขกพื้นอยู้แล้วแถมหาที่จอดให้อีก บางคนก็รับได้บางคนก็ไม่ ถ้ามีเงินเก็บหลายสิบล้านแต่ขับรถเก่าๆมีคนดูถูกแต่คุณไม่สนใจเพราะคุณมีความสุขดีกับรถคันนี้อันนี้เป็นสิ่งที่ดีคับ แต่ไม่มีเงินดันไปชื้อรถแพงเพื่อภาพลักษณ์แล้วมามีปัญหาทีหลัง อันนี้ก็แย่คับ เคยเจอคนขับรถราคาหลายล้านแต่ใส่นากากับรองเท้าปลอม กับอีกคนขับ crv แต่ใส่นากาเรือนเกือบสองล้านคับ
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ มีนาคม 12, 2014, 10:37:11
พี่แพนครับ

ถ้ามีหนุ่มต่อไปนี้มาจีบลูกสาวพี่แพน คนไหนผ่านไม่ผ่าน

1. MG-B
2. S2000
3. BRZ
4. TTs
5. Forester Xti
6. A45 amg

ผมตอบง่ายครับ คนที่ 5 นี่กลับบ้านก่อนคนแรกเลยครับ ขนาดชื่อรุ่นรถมันยังเขียนผิดเลยครับ

ล้อเล่นนะ แต่ให้ตอบจริงๆผมคิดหนักนะ เอาแบบว่าถ้าสมมติว่าทั้ง 6 คนนี้เป็นคนที่ผมไม่รู้จักมาก่อนเลย ทุกคนแต่งตัวสุภาพ
มีสัมมาคารวะ ดูแว่บแรกแล้วนิสัยดีทุกคน สมตติว่าเป็นอย่างนั้นแล้วให้ผมมองแค่รถ นี่คือสิ่งที่ผมจะ "มโน"ไปเองสำหรับแต่ละคน


1. MGB - เดี๋ยวไปดูรถมันหน่อยดีกว่า ..เห้ สภาพดีนี่ MGBนี่แม้แต่คันที่ใหม่ที่สุดก็อายุ34ปี ถ้ารักษาสภาพ
ดีขนาดนี้ได้ แปลว่ามันเป็นคนมีวินัยนะ อดทน ใจเย็น..ตูกลัวแค่อย่างเดียว มันจะรักรถมากกว่าลูกตูป่าววะ

2. S2000 - ไอ้นี่ดูท่าจะเพลย์บอย แต่น่าจะเป็นพวกตีนหนักที่ไม่ได้ยึดติดกับภาพลักษณ์ทางสังคม
ไอ้นี่มีเงิน..แต่ดูท่ามันจะบ้ารถมากกว่าบ้าเงิน ยังไงต้องเตือนๆมันหน่อย ลูกตูนั่งเมื่อไหร่ห้ามดริฟท์โชว์
ไม่งั้นนิ้วตีนไปทันที

3. BRZ - ไอ้นี่ใช้ได้นะ อินดี้ดี เป็นตัวของตัวเองดี ไหนเปิดกระโปรงดูหน่อยซิ โมอะไรไปบ้าง? อ้อ NA เดิม
แคมเดิม ทำแค่กล่อง..โอเค ยางเปลี่ยนมาหรือยัง โอเค..ชอบเล่นกล้องใช่มั้ยเราน่ะ ไหนเอาภาพมาโชว์บ้างซิ

4. TTs - ท่าทางพ่อมันรวย..ทำอาชีพอะไรวะหนุ่ม? อ๋อ ขายสาหร่ายเหรอ อืม ใช้ได้นี่หว่า ก่อร่างสร้างตัวมาจนได้
ขนาดนี้ อายุแค่นี้ ไม่เลวนะเรา Reflash กล่องหรือยัง ? อืม? เปลี่ยนโบมาด้วยหรือ? โอเค ขับระวังๆล่ะ ขับสี่น่ะมันมั่น
แต่เวลาหลุดมันไปทั้งคันนะ พ่อห่วง ..ไม่ได้ห่วงมึงนะ ห่วงลูกตู

5. Forester (any Forester with Turbo) - เคยแต่งงานมาก่อนหรือเปล่าเราน่ะ..อะไรนะ ไม่เคยหรือ? นี่รถพ่อ
หรือรถตัวเอง? รถตัวเองหรือ? รสนิยมแปลกดีนะ พ่อไม่ค่อยเห็นคนอายุ 2x ขับรถประมาณนี้ ..อะไรนะ..อายุ
38 แล้วเหรอ..อืม..ลูกเอ้ย..(กระซิบ) ไม่คิดว่าเขาแก่ไปหน่อยสำหรับลูกเหรอ?

6. A45AMG - เอากุญแจมา ..เออ ใช่..ได้ยินไม่ผิดหรอก เอากุญแจรถมึงมา ..แล้วนี่จะไปเดทกับน้องแพรใช่มั้ย
ไปที่ไหน? อ๋อ ..อืมๆ นั่นแหละเอากุญแจรถมึงมา  หือ? จะไปยังไง? ถามทำไม จะพาน้องแพรไปเดทก็เอา CRV ตูไปซิ
เอ้านี่กุญแจรถ! หยุดถามมากมายแล้วเอากุญแจรถเธอมาได้แล้ว โอป่ะ? ไม่โอกลับบ้านได้นะ? โอป่ะ? โอป่ะ?
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Activehybrid ที่ มีนาคม 12, 2014, 10:55:25
555 ฮาคุณแพนอีกแล้ว สุดยอดเสมอ อ่านเพลินมากครับ ชอบมากเลย " เอากุญแจมา"

ทันทีทีได้มารู้เลย   เช็ค -  เช็ค - เอ้าท์!!!! 360 แรงม้าของ Benz วู้วววววว
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Monn ที่ มีนาคม 12, 2014, 10:59:37
ฮาคุณแพนมากมาย  คิดด้ายยยยย  ;D ;D ;D

เอากุญแจมา แล้วเดี๋ยวขอลองด้วยนะครับ   :D
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ มีนาคม 12, 2014, 11:06:01
ให้ตายเหอะคิดเล่นๆแต่แอบปวดหัวจริงๆ คือตัวเลือกที่บอกมา 6 ข้อผมก็อยากจะให้ผ่านในระดับนึงล่ะนะ
แต่ถ้าถามว่าในบรรดารถทั้งหมด ผมรู้สึกดีกับใครมากที่สุด ก็มีสองคัน คือ MGB กับ Subaru
เหตุผล?

ถ้าคุณไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆแล้วแพลนว่าคืนนี้ฉันจะกลับบ้านพร้อมสาวสักคน
หรือไปตามคาร์มีตติ้ง หรือสนามแล้วพยายามจะจีบสาวสักคน คุณคิดว่าใน 6 คันนี้น่ะ มีคันไหนบ้างที่สาวๆไม่มอง?
BRZ, S2000, TTs รถพวกนี้ดึงดูดผู้หญิงได้มากกว่ารถบ้านทั่วไป ส่วน A45 นั้นทรงไม่ได้ดึงดูด แต่โลโก้มันดึงดูด

ส่วน MGB นั้นเก่าไปในสายตาของคนที่ไม่รู้เรื่องรถ และ Forester ก็ดูไม่เซ็กซี่ ไม่ดึงดูด และดูเหมือนคนที่มีครอบครัวแล้วด้วยซ้ำ
ถ้าคนประเภทขับรถอย่างว่านี้มาจีบลูกสาวผม ผมมองไว้ก่อนว่ามันสองคนนี้ไม่ได้ใช้เวลาว่างไปกับการเกี้ยวพาราสีสาวๆ
ตามสถานที่ท่องเที่ยวชุมนุมต่างๆแน่ๆ

แต่โน้ตไว้นิดนึงว่านี่คือแค่ความรู้สึกแรกพบนะ...ผมอาจจะโง่ก่อนแล้วฉลาดทีหลังก็ได้ ..ถ้ามีผู้ชายมาจีบลูกผมจริง
ผมไม่ดูแค่รถหรอกครับ ..ผมจะค้นมันทั้งคัน ในลิ้นชักมีถุงยางไหม ใต้เบาะมีปืนมั้ย ผมจะสั่งให้ลูกสาวย้อมสีผมให้แปลกๆ
อยู่ช่วงนึง หลังจากนั้นผ่านไปสักเดือนผมก็แอบขอกุญแจรถชายหนุ่มแล้วขับไปหาที่ลับๆ ไล่คีบเอาบรรดาขนและผมในรถ
มีผมยาวๆที่ไม่ใช่สีสันแบบผมของลูกตูอยู่บ้างมั้ย นั่นแหละ..ถ้ามีผมแปลกปลอม ผมอาจจะขอนัดกินข้าวกับครอบครัวฝ่ายชาย
แล้วถือโอกาสดูหน่อย ว่านี่ใช่ผมลักษณะความยาวสีสันเท่าของน้องสาว ของแม่มันมั้ย ถ้าไม่ใช่ เรามีเรื่องต้องคุยกัน
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: 5thAvenue ที่ มีนาคม 12, 2014, 11:30:54
ขนมดี ไม่จำเป็นต้องใส่เปลือกสวย แกะกิน ยังไงก็อร่อย

จริง ... แต่

จะดีกว่าไหม ถ้าเปลือกก็สวย ข้างในก็อร่อย

มันเป็นเรื่องของการตลาด ในชีวิตประจำวัน

คุณพยายามสร้างภาพให้ทุกคนประทับใจคุณแต่แรก

ส่วนเรื่องที่ว่า ตัวตนจริงๆ คุณจะดีหรือไม่ มันก็คือตัวตนข้างใน

ฉะนั้น ไม่ผิดหรอกครับ ที่ใครหลายๆ คน จะเลือกให้เปลือกนอกดูดีไว้ก่อน

จะมีสักกี่คนครับ ที่หยิบขนม ที่เปลือกดูไม่น่ากิน มาชิม แล้วประทับใจภายหลัง

นอกเสียจากว่า วันนั้น คุณจะไม่มีอะไรกิน จึงเผอิญไปได้กินขนมชิ้นนั้นเข้า
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: PravitPP ที่ มีนาคม 12, 2014, 13:11:55
ในแง่ของการตลาด ต้องใช้วัตถุนิยมมากระตุ้นความต้องการซื้อครับ
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: nirvanapoint ที่ มีนาคม 12, 2014, 13:34:06
ให้ตายเหอะคิดเล่นๆแต่แอบปวดหัวจริงๆ คือตัวเลือกที่บอกมา 6 ข้อผมก็อยากจะให้ผ่านในระดับนึงล่ะนะ
แต่ถ้าถามว่าในบรรดารถทั้งหมด ผมรู้สึกดีกับใครมากที่สุด ก็มีสองคัน คือ MGB กับ Subaru
เหตุผล?

ถ้าคุณไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆแล้วแพลนว่าคืนนี้ฉันจะกลับบ้านพร้อมสาวสักคน
หรือไปตามคาร์มีตติ้ง หรือสนามแล้วพยายามจะจีบสาวสักคน คุณคิดว่าใน 6 คันนี้น่ะ มีคันไหนบ้างที่สาวๆไม่มอง?
BRZ, S2000, TTs รถพวกนี้ดึงดูดผู้หญิงได้มากกว่ารถบ้านทั่วไป ส่วน A45 นั้นทรงไม่ได้ดึงดูด แต่โลโก้มันดึงดูด

ส่วน MGB นั้นเก่าไปในสายตาของคนที่ไม่รู้เรื่องรถ และ Forester ก็ดูไม่เซ็กซี่ ไม่ดึงดูด และดูเหมือนคนที่มีครอบครัวแล้วด้วยซ้ำ
ถ้าคนประเภทขับรถอย่างว่านี้มาจีบลูกสาวผม ผมมองไว้ก่อนว่ามันสองคนนี้ไม่ได้ใช้เวลาว่างไปกับการเกี้ยวพาราสีสาวๆ
ตามสถานที่ท่องเที่ยวชุมนุมต่างๆแน่ๆ

แต่โน้ตไว้นิดนึงว่านี่คือแค่ความรู้สึกแรกพบนะ...ผมอาจจะโง่ก่อนแล้วฉลาดทีหลังก็ได้ ..ถ้ามีผู้ชายมาจีบลูกผมจริง
ผมไม่ดูแค่รถหรอกครับ ..ผมจะค้นมันทั้งคัน ในลิ้นชักมีถุงยางไหม ใต้เบาะมีปืนมั้ย ผมจะสั่งให้ลูกสาวย้อมสีผมให้แปลกๆ
อยู่ช่วงนึง หลังจากนั้นผ่านไปสักเดือนผมก็แอบขอกุญแจรถชายหนุ่มแล้วขับไปหาที่ลับๆ ไล่คีบเอาบรรดาขนและผมในรถ
มีผมยาวๆที่ไม่ใช่สีสันแบบผมของลูกตูอยู่บ้างมั้ย นั่นแหละ..ถ้ามีผมแปลกปลอม ผมอาจจะขอนัดกินข้าวกับครอบครัวฝ่ายชาย
แล้วถือโอกาสดูหน่อย ว่านี่ใช่ผมลักษณะความยาวสีสันเท่าของน้องสาว ของแม่มันมั้ย ถ้าไม่ใช่ เรามีเรื่องต้องคุยกัน

โห อ่านอันนี้ เนี่ย จะจีบลูกสาวพี่แพนนี่ ต้องเป็นคนดีจริงๆ
หรืออีกทางนึง ก็ต้องเนียนจริงๆ ครับ ไม่งั้นรอดยาก
แซวนะครับ อิอิ  ;D
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: XL_SiZe ที่ มีนาคม 12, 2014, 15:04:29
ของแพงยังไงก็ดีกว่าแทบจะแน่นอน นอนนิ่งอยู่แล้วครับ
กับบางกระทู้ที่เคยผ่าน ๆ ตาแบบคนรวยจริง บางคนยังขับรถเก่า ๆ ไม่เห็นต้องแคร์เลย

มันก็จริงครับ เป็นเพราะอะไร เพราะคนรวยคนนั้น เขาไม่สนใจรถมากกว่าครับ
ขับอะไรก็ได้ แต่...

คนเราเมื่อมีเงินล้น ๆ มันจะมีที่ลงกับอะไรซักอย่างทุกคนครับ รถก็เป็นอย่างหนึ่ง แต่ไม่ใช่อย่างเดียว
คนรวยคนนั้นอาจจะขับรถเก่า ๆ แต่บ้าพระเครื่อง องค์เป็น 10 ล้าน 20 ล้านก็ซื้อ ห้อยคอโชว์
หรือบ้าทอง ซื้อทีเป็นล้าน ใส่เต็มตัว

คืออยากจะบอกว่า ถ้าเขาบ้ารถแล้วรวย คน ๆ นั้นย่อมซื้อรถราคาแพงมาขับแน่นอนอยู่แล้วครับ
เพราะบ่งบอกฐานะ สร้างได้ มากทีเดียว
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: dusitmon123 ที่ มีนาคม 12, 2014, 15:27:16
ที่บอกว่ารถสมัยนี้เทคโนโลยีแทบไม่ต่างกันแล้วนี่ ไม่ทราบใช้รุ่นอะไรอยู่บ้างเหรอครับ

บอกตรงๆว่า Accord G9 2.4 Tech ใหม่ป้ายแดงตอนนี้ เทียบ E60 แทบไม่ติดฝุ่นเลยนะครับ ถ้าไม่นับของเล่นอย่างกล้องหรือ Lane Watch

คุณมีรถยุโรปขับมั่งหรือป่าวครับถึงมาบอกแบบนี้

ผมว่าคนที่ขับรถยุโรปอยู่ เค้าแยกออกนะครับ ว่าดีกว่าญี่ปุ่นยังไง

มันดีกว่าทุกด้านอ่าครับ ในฐานะของรถยนตร์ ไม่ใช่ในฐานะของเล่น รถญี่ปุ่นปีใหม่ๆของเล่นอาจจะเริ่มเยอะ แต่สมรรถนะในฐานะรถยนตร์ก็ยังห่างไกลมากครับ
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ มีนาคม 12, 2014, 16:17:21
ผมว่าไม่ใช่แต่เมืองไทยเท่านั้นครับ ในยุโรปรถหรูๆก็เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่สามารถมีไว้ครอบครองเช่นกันนะครับ
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ มีนาคม 12, 2014, 16:18:55
อย่างมอนติคาร์โลก็จะเห็นรถระดับธงเยอะมาก
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ มีนาคม 12, 2014, 16:19:47
รถพวกนี้ขายดี
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Nismo De Alpina ที่ มีนาคม 12, 2014, 21:04:38
พูดถึงที่จอดรถโซนซุเปอร์คาร์ที่ไร แล้วอารมณ์ขึ้นทุกที พับผ่าซิ!! 
ไม่ไปมันล่ะพารากงพารากอนอ่ะ ไปเดินเซ็งท่านก็ล่ายยย  :D


เข้าใจครับ ภาพลักษณ์ทางสังคมเจ้าก็อตมันสู็เค้าไม่ได้

 :( :( :(

แต่ผมเฉยๆนะครับ เพราะชินซะแล้ว  :D
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: pimmy ที่ มีนาคม 15, 2014, 21:30:14
เราว่าแล้วแต่คนนะคะ รถมันก็บอกอะไรหลายอย่าง แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่างค่ะ อย่างใจเราชอบรถอีกคัน แต่ออกจริงก็เป็นอีกคัน
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Thinkpad ที่ มีนาคม 16, 2014, 23:32:44
ผมว่าคนไทยมองจุดนี้มากๆ โดยเฉพาะภาพ ผมแอบสงสัยมาก คนไม่มีรถกายเป็นคนทีโดนมองอีกแบบไปเลย
หัวข้อ: Re: รถยนต์กับภาพลักษณ์ทางสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: NPS ที่ มีนาคม 22, 2014, 14:59:48
ผมไม่ได้สนใจเลยครับเรื่องภาพลักษณ์ ไม่รู้ว่าคนอื่นเขาคิดยังไง แต่คิดยังไงก็ช่าง ผมไม่ค่อยแคร์คนอื่นอยู่แล้ว ซื้อรถเพราะชอบ แค่นั้นจริงๆ