Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: coolcarrera ที่ มีนาคม 24, 2014, 19:22:48
-
สวัสดีครับเพื่อนๆ
เป็นธรรมดาของคนบ้ารถ บ้าเครื่อง ใช่มั้ยครับที่แทบจะทุกครั้งที่รถรุ่นไหนเปิดตัว แล้วมีติด Turbo มาจากโรงงาน บวกกับตัวเลขแรงม้าขึ้นไปแตะถึงระดับ 190 (PS) จะดึงดูดความสนใจพวกเราได้ ไม่มากก็น้อยล่ะ
ยอมรับว่า ผมสนใจ Pulsar ตัวนี้มาตั้งแต่ประมาณปี 2012 ที่เปิดตัวที่ออสเตรเลียแล้ว ยังจำได้เลยในวันเปิดตัว ที่ออสเตรเลียจะเปิดตัว Sedan ก่อน ผมก็เฝ้ารอแล้วรออีก จะมีเครื่อง Turbo MR16DDT กับเขามั้ย ก็ ไม่มีครับ ในช่วงแรก
จวบจนมาเปิดตัวที่บ้านเรา ก็เปิด Sedan ก่อนเหมือนกันคือ sylphy แล้วค่อยเปิดตัว Hatchback ตามออกมา แต่ก็เหมือนเดิม ไร้เงาตัว Turbo อีกตามเคย (ตอนรอนี่มันทรมานเนอะ)
จนผมได้มาอ่านสรุปรถใหม่ ปี 2014 ของเว็บนี้แหละครับ ว่า Pulsar Turbo จะมาเปิดตัวในบ้านเรา ช่วงมอเตอร์โชว์ มีนาคม 2014 นี่ ผมดีใจมาก และเมื่อดูข้อมูล อะไรต่ออะไรแล้ว ก็ตอบโจทย์ผมทุกอย่าง มี VDC TCS airbags หน้า ข้าง และม่าน ครบ เอาล่ะ ผมตั้งโจทย์ไว้ในใจแล้วว่า ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เราจะซื้อมันมาขับ 1 คัน
Fast Forward ไปที่สนามทดสอบรถที่ impact เมืองทองธานีครับ
ใช่แล้ว สนามนี้มันเล็ก ให้ขับสลาลม และเร่งได้อย่างมากก็ไม่เกิน 80 เพราะสุดทางซะก่อน แต่ก็ ยังดีกว่าเราไปตัดสินใจเซ็นใบจองโดยไม่ได้ลองอะไรเลย จริงมั้ยครับ
แว็บแรกที่เข้าไปในรถ ลองนั่ง ก็รู้สึกกว้างดี ไม่อึดอัด แอร์ เย็นเร็วใช้ได้ ท่ามกลางแดดเปรี้ยงขนาดนี้
เข้าไปนั่ง ปรับเบาะ ปรับพวงมาลัย ปรับกระจกเรียบร้อย ก็ออกรถ ความรู้สึกแรกคือ พวงมาลัย เบามากๆถ้าผมจะบอกว่า มันเบากว่า Vios ตัวปี 07-13 นี่ จะเชื่อกันมั้ยครับ (จริงๆนะ)
เลยสอบถามเจ้าหน้าที่ประจำรถ ซึ่งก็ยืนยันว่า เติมลมยางตาม Spec รถครับ (จุดนี้ผมขอแปะไว้ก่อนครับ เรื่องลมยาง ถ้ามีท่านใดมีโอกาสเช็ค หรือถ้ามี Full Review เมื่อไร น่าจะแม่นยำกว่านี้)
ซึ่งพวงมาลัยที่เบา หมุนง่ายมากในเมืองแบบนี้ ขับทางไกล ผมว่า มีเหนื่อยนะเพราะต้องประคอง และแก้อาการกันแทบจะตลอดเวลา
ทดลองกดคันเร่งสุด จากจุดออกตัว กดสุดไปเถอะครับ ไม่มีเสียงล้อยางหมุนฟรีทิ้งให้ได้ยินสักนิด ไม่ใช่เพราะมี VDC นะ แต่คิดว่ายางติดรถ Continential ชุดนี้ มีการยึดเกาะที่ค่อนข้างโอเคอยู่ทีเดียว
กดมิด รถเหมือนค่อยๆพุ่ง (นึกถึงเด็กมัธยมเพิ่มตื่นนอน ของคุณแพนนะ) หวืออ แล้วค่อยดึง และพอรอบไปถึงราวๆ 4000-4500 เมื่อไร ถึงเริ่มสนุกครับ Boost มาเต็มๆ บวกกับวาล์วแปรผันคู่ด้วย แต่เสียงเครื่องนั้น เงียบมากนะครับ ไม่มีเสียงเร่งเร้าใจแบบที่รถกลุ่ม warm hatch ควรจะมี เงียบ เป็นเป่าสากเลย (ขัดกับตัวเลข spec ในกระดาษอยู่ ที่บอกว่า torque มา 240nm ตั้งแต่ 2000 หรือ 2400 rpm (thai spec) และมายาวต่อเนื่องเป็น Flat torque ยัน 5 พันกว่าๆ rpm)
ช่วงถอนคันเร่ง และต้องการเร่งส่งกลับขึ้นไป ประหนึ่งว่า จะเร่งแซง จังหวะนี้ถ้ากดมิด มันดูเอ๋อๆครับ เหมือนไม่ตามเท้าเรา คิดไม่ทันเรา ต้องถอนคันเร่งออก แล้วค่อยๆกดครึ่งนึง แล้วมันจะพุ่งไปไวกว่าเดิม ??
เบรก ผมไม่มีข้อกังขา ใช้ได้ดีทีเดียว หน่วงความเร็วได้พอสมควร
ช่วงล่าง set มาค่อนข้างนุ่มสำหรับผม ไม่รู้สึกกระด้างอะไร แต่พอเข้าโค้งแรงๆ ก็มีเอน (Body roll) เยอะพอสมควร
และพอดีวันนี้มี Veloster Turbo จอดอยู่ใกล้ๆ ผมเลยถือโอกาสลองขับมาด้วย
ตอนแรกอ่าน spec ผมก็มโนเอาเองนะครับว่า 1.6 Turbo เหมือนๆกัน ก็น่าจะสมรรถนะไม่หนีกันมาก ความจริงไม่ใช่เลยครับ Veloster Turbo นี่ขับสนุกกว่ากันมากๆ มากขนาดไหน ขนาดที่ผมกล้าทำให้มัน understeer ในโค้ง แล้วแก้อาการกลับมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นล่ะครับ แต่กับ Pulsar Turbo นี่ ผมไม่กล้าอัดขนาดนั้นแฮะ อาจจะเพราะพวงมาลัยที่เบา ไม่ได้รู้สึกมั่นใจที่จะเล่นกับโค้งเท่าไรเลย
ดูแล้ว 2 คันนี้ถ้าเข้าโค้งเดียวกันความเร็วเท่าๆกัน ผมว่า อาการของ veloster turbo จะออกก่อน คือ เหมือนจะ understeer ได้ง่ายกว่า แต่ก็กลับกลายเป็นความสนุกในการขับขี่ที่มากกว่ากันไป
น้ำมัน เติมได้เต็มที่คือ E10 95 นะครับ ไม่รองรับ E20 , E85 แต่อย่างใด
ราคา ท่านใดทราบ รบกวนบอกผมทีครับ ;D
-
ขอบคุณครับ
เรื่องพวงมาลัย Sylphy, Pulsar เดิมก็เบามากอยู่แล้ว มันเบากว่า Vios ตัวเก่านั่นละ ถ้าเค้าไม่ปรับปรุงในตัว Pulsar Turbo ผมว่ามันคงขับไม่สนุกแน่
ว่าแต่ถ้าลองเหยียบสุดแล้วปล่อยมือออกจากพวงมาลัย มี Torque steer มั๊ยครับเนี่ย
-
torque steer นี่ ถ้าหมายถึงเหยียบสุดแล้ว มันดิ้นๆๆ ที่พวงมาลัย (คือ torque steer ใช่มั้ยครับ) คันนี้ไม่เจอครับ นิ่งเลย พื้นปูนเรียบนะครับ แต่ถ้าพื้นทรายนี่ไม่แน่เหมือนกัน
-
อ่านดูแล้วเหมือนจะขับไม่สนุกเท่าไหร่สินะครับ :-\
-
ท่าทางจะเป็นรถที่บันเทิงในทางตรง แต่ค่อยๆบรรจงในทางโค้ง แล้วมันจะสนุกรึ
-
ไอ๋หย๋า ถ้าเป็นตามที่คุณ coolcarrera กล่าวมา แสดงว่าเค้าแทบไม่ได้เซทข่วงล่าง อัตราน้ำหนักทดพวงมาลัย ให้ต่างจากเดิมมากมาย แบบนี้ก็ขับไม่สนุกแหงๆ
เอาเป็นว่า ผมใจชื่นที่มีรถเทส ถึงจะสั้นๆ ก็ยังดีครับ แต่ถ้าแรงแต่เครื่อง เกียร์เกอเอ๋อแดก ผมคงได้คำตอบแล้วครับว่าจะไปคันไหน :D
-
torque steer นี่ ถ้าหมายถึงเหยียบสุดแล้ว มันดิ้นๆๆ ที่พวงมาลัย (คือ torque steer ใช่มั้ยครับ) คันนี้ไม่เจอครับ นิ่งเลย พื้นปูนเรียบนะครับ แต่ถ้าพื้นทรายนี่ไม่แน่เหมือนกัน
ใช่ครับ ดิ้นๆที่พวงมาลัย บางคันหักเลี้ยวเองเลย (เห็นแรงบิดเพิ่มมาเยอะ)
ถ้าเจ้านี่ไม่มีก็น่าจะโอในระดับหนึ่ง ><
-
คาดเอาเองว่าพวงมาลัยน่าจะปรับหนืดตามความเร็วมังครับ แต่นี่ขับได้หน่อยก็ต้องยก ยังไม่ทันได้ปรับหนืดให้ดูเลย ส่วนอีกเรื่องคือรถเทอร์โบ น่าจะทำทางวิ่งยาวๆให้ได้ลิ้มรสบู้สซ๊ะหน่อย มีของดี แต่ไม่ได้โชว์ก็ตกม้าตายละสิครับ
-
แอบเห็นราคาจากเว็บคลับอยู่ที่ 1.07 ล้านบาทน่ะครับ
-
แอบเห็นราคาจากเว็บคลับอยู่ที่ 1.07 ล้านบาทน่ะครับ
หา...จริงหรีอครับราคาล้าน7หมึ่นบาทเพิ่มเงินจากตัวท็อปแค่ไม่กีหมีนครับเดียวต้องลองขับครับเพราะตัวเองไม่เคยลอง Pulsarเลยครับ
-
อ่านแล้วผิดหวังกับ handling กับ performance ที่ไม่สปอร์ตเท่าไหรนัก คาดหวังไส้เยอะกว่านี้
-
เหมือนจะแรงแต่เครื่องแต่ไม่เซ็ทช่วงล่าง มันจะเวิคมั๊ยเนี่ย
-
ผมตอนไปลอง อารมณ์ประมาณว่า จะเซ็นต์ใบจองแล้วแหละครับ แต่ก็ เอ้อ ไหนขอลองขับสักหน่อยละกัน เซลล์เองยังถามเลย คุณลุกค้าไม่สนใจ Juke หรอคะ (แหม่ ถ้า Juke ยัด MR16DDT ก็คงสนล่ะครับ ;D)
พอลองเสร็จ ประมาณว่า ผมคงคาดหวังกับมันไว้พอสมควร เซลล์เห็นท่าทีผมแล้ว "ถ้าอย่างไร ดูเป็น Teana ไปเลยดีมั้ยคะ" หน้าผมมันคงฟ้องละครับ ^^
กลายเป็นว่า วันนี้ผมไปถูกใจรถที่ขับพาไปสนามลองขับ คือ Nissan Livina เนี่ยแหละครับ ผมว่าแถว 2 มันนั่งได้สบายกว่าที่คิดเลยทีเดียว
อ้อ ผมยังไม่เคยขับ Pulsar Sylphy ตัวธรรมดา non-turbo เลยครับ จึงไม่ทราบเลยว่า นิสัยเกียร์ CVT ช่วงล่าง และพวงมาลัยมันต่างกับคันนี้มากน้อยแค่ไหน
-
ประมาณว่าแรงแต่ไม่มันส์ใช่มั้ยครับ
-
แอบเห็นราคาจากเว็บคลับอยู่ที่ 1.07 ล้านบาทน่ะครับ
ไม่แพงนะครับ ถ้ามองว่ามันคือรถ โบ
-
น่าจะประมาณนั้นครับ แรง เร็ว แต่ไม่มัน
เท่าที่จับๆอาการดูผมว่า 0-100 น่าจะมีเลข 8 ด้วยซ้ำครับ 80-120 ผมว่าน่าจะอยู่ที่ 6.xx - 7.ต้นๆ ได้อยู่ (แค่คาดการณ์ แปะโป้งไว้ให้ Full Review นะครับผม) ;D
เร็วน่ะเร็วแน่นอนครับ ผมว่า วิ่งทางไกล ไหลๆ ไป 160 -180 ไม่รู้ตัวได้สบายๆ
-
เหมือนจะแรงนะครับแต่ช่วงล่างไม่พร้อมซะงั้น ว่าแต่ manual mode ช่วยอะไรได้ไหมครับ
-
น่าไปลองบ้างจัง ด้วยกำลังเครื่องน่าจะเป็นรถที่ขับสนุกคันนึงเลย
-
เอาตรงๆนะ รถนิสสันที่ขายในไทยตอนนี้ มีแค่เทียน่า ที่รู้สึกว่าเค้าตั้งใจทำ นอกนั้นมองเค้าเค้าไม่ค่อยแคร์อะไรเท่าไหร่
เหมือนที่รู้สึกกับรถฟอร์ด รู้สึกถึงความตั้งใจ ว่ามันต้องเกาะ ช่วงล่างต้องดี
-
เอาตรงๆนะ รถนิสสันที่ขายในไทยตอนนี้ มีแค่เทียน่า ที่รู้สึกว่าเค้าตั้งใจทำ นอกนั้นมองเค้าเค้าไม่ค่อยแคร์อะไรเท่าไหร่
เหมือนที่รู้สึกกับรถฟอร์ด รู้สึกถึงความตั้งใจ ว่ามันต้องเกาะ ช่วงล่างต้องดี
แต่ยอดขายสวนทางมาก
แม้จะเอาของเด็ดดวงมาขาย
แต่ยอดขายห่างจากแบรนด์ญี่ปุ่นพอสมควร
-
อ่าน ๆ ดูแล้วพอรู้ชะตากรรมเลย อีกสักแปปคงจะไปเจอลูกอ๊อตโบที่ทางช้างเผือก... ;D
-
ผมยังไม่ได้ขับนะ..แต่ถ้าคุณเจ้าของกระทู้บอกมาแบบนั้น ผมเองกลับไม่แปลกใจ
แม้จะมีคนคอยยั่วประหนึ่งกลิ่นปลาทูทอดว่าคันนี้มันใช่แน่ๆ ใช่รถสไตล์Commander Chengแน่ๆ
นั่นก็เตรียมหน้าแตกได้...การเซ็ตรถบางทีมันไม่ใช่แค่เครื่องแรงนะ พวงมาลัย ช่วงล่าง
ตรงนี้สำคัญ แรงหนืดต้องพอดี การควบคุมตัวถังต้องพอดี เบรก ระยะการกด น้ำหนักการกด
รถ 1 คันจะทำให้สนุก คุณมององค์ประกอบเป็นสิบอย่างเลย..ของ Pulsar นี้แม้อัตราเร่งจริง
จะไว (ผมคิดว่าน่าจะได้ 8 วิปลายๆ) แต่มันไม่สนุกอ่ะครับ ถ้ามันเป็น Auto 6,7 หรือคลัตช์คู่ดีๆแบบVW
ผมว่ามีเฮ..คำว่า CVT นั้นถ้าจะสนุกผมว่ายากครับ เวลามันได้ แต่อารมณ์มันไม่มา ..ถ้า BRZเป็นเกียร์CVT
คุณจะยังอยากขับมันอยู่ไหม ต่อให้มันไวกว่า 6ATด้วย?
ตั้งแต่เปิดเว็บมา รถCVTคันเดียวที่ผมขับแล้วสนุกคือ GS450h และนั่นก็สนุกเพราะพลังถีบมันมหาศาล
ส่วนที่สนุกในระดับบ้านๆเห็นจะเป็น CVT ของ Altis ที่นิสัยน่าคบ ส่วน CVT ตระกูลนิสสันนั้น
ต้องยกให้ Teana 2.5CVT ซึ่งถ้ากดโหมดS เมื่อไหร่ มันก็ทำตัวน่ารักใช้ได้เลย ดีกว่า Sylphyในแง่ความพร้อมรบ
แต่สนุกมั้ย ก็คงไม่มากเท่่าอรรถรสจากออโต้แบบดั้งเดิม ซึ่งยังเอาไปโมดิฟายต่อได้โดยไม่ต้องกลัวเกียร์ติงต๊องไป
ถ้าผมต้องจ่ายเงิน 1.07 ล้านเพื่อซื้อ Pulsar Turbo..ไม่รู้สิ ผมว่ามันแค่เป็นทางเลือกที่ผมชอบมากกว่า 1.8Vธรรมดา
แต่ถ้าต้องใช้เงินขนาดนี้ ผมอาจจะไปดู Mazda3 4Dr 2.0S หรือ Altis 1.8ESport ซึ่งไม่แรงเท่า แต่แรงพอสำหรับ
ใช้งานได้ในไทยทั่วทิศแล้ว ..
-
วันนี้ เกือบจะได้ลองแล้ว...
แต่มัวแต่ไปเดินในงาน ดู Live Tweet กันอยู่
เลยไม่ได้ลองขับ
ผมยังไม่ได้ลอง จึงยังบอกไม่ได้ว่าเป็นยังไง
เดี๋ยวขอลองก่อน เดี๋ยวจะเอามาแฉ....
เพราะผมก็อยากรู้เหมือนกันละว่า
สิ่งที่คนใน Nissan พยายาม อยากจะให้คนไทยได้ใช้กันหนะ
มันสมค่าการรอคอยหรือเปล่า?
เพราะผมก็เป็นคนหนึ่งที่อยากให้รถคันนี้มันมีขายในเมืองไทย ลุ้นตัวแทบแตก!
-
อยากเห็นรีวิวจังครับ
-
อยากทราบว่า ของบ้านเราเป็น Spec เดียวกันกับตัวที่ส่งออก (ตัว SSS) ทุกประการเลยหรือเปล่าครับ?
-
ทำไมผมไปลองขับแล้วชอบหว่า
หรือผมตั้งความหวังน้อยเกินไป
ผมว่า มันผิดหูผิดตานิสสันที่เป็นรถบ้านอย่างสิ้นเชิงอ่ะครับ
สำหรับผม เกียร์ CVT ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ยอมรับได้เพราะเวลาอารมณ์ไม่ได้รีบอะไร อย่างขับเรื่อยๆ ชิวๆ มันก็ไปเรื่อยๆ ของมัน
แต่พอไปเค้นมันแล้ว เครื่องยนต์ก็พร้อมตอบสนองทันที
จะติดแค่เรื่องโหมดเกียร์ Manual ตอบสนองช้าเกินไป เปลี่ยนเกียร์แล้ว มีการคิดก่อน ประมาณ 2 วินาที ทำให้รถมันขับสนุกน้อยลง
ถ้าถามว่าขับสนุกไหม ผมว่า ก็พอตัวนะครับ ไม่สนุกถึงขั้น Zoom zoom แต่ก็ทำให้ผมยิ้มได้ตอนทดลองขับที่ข้างทะเลสาบเมืองทอง (พอดีผมไปไม่มีคน เลยวนซะหลายรอบ)
เมื่อวานผมเกือบจองแล้ว
ติดอย่างเดียวตรงที่ ไม่มี ซันรูฟ นี่หละครับ
จะตัดออกทำไม
เติมน้ำมันได้เฉพาะ ออกเทน 95 (E10) ก็เข้าใจและยอมรับได้
หน้าตาเหมือนตัวธรรมดายิ่งชอบ ถ้าซื้อมาผมจะแกะสติ๊กเกอร์คำว่า Turbo ที่ติดข้างรถเป็นอย่างแรก
แต่ตัดซันรูฟออกนี่ ผมกลับมาคิดทบทวนอีกรอบเลยหละครับ
-
ทำไมผมไปลองขับแล้วชอบหว่า
หรือผมตั้งความหวังน้อยเกินไป
ผมว่า มันผิดหูผิดตานิสสันที่เป็นรถบ้านอย่างสิ้นเชิงอ่ะครับ
สำหรับผม เกียร์ CVT ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ยอมรับได้เพราะเวลาอารมณ์ไม่ได้รีบอะไร อย่างขับเรื่อยๆ ชิวๆ มันก็ไปเรื่อยๆ ของมัน
แต่พอไปเค้นมันแล้ว เครื่องยนต์ก็พร้อมตอบสนองทันที
จะติดแค่เรื่องโหมดเกียร์ Manual ตอบสนองช้าเกินไป เปลี่ยนเกียร์แล้ว มีการคิดก่อน ประมาณ 2 วินาที ทำให้รถมันขับสนุกน้อยลง
ถ้าถามว่าขับสนุกไหม ผมว่า ก็พอตัวนะครับ ไม่สนุกถึงขั้น Zoom zoom แต่ก็ทำให้ผมยิ้มได้ตอนทดลองขับที่ข้างทะเลสาบเมืองทอง (พอดีผมไปไม่มีคน เลยวนซะหลายรอบ)
เมื่อวานผมเกือบจองแล้ว
ติดอย่างเดียวตรงที่ ไม่มี ซันรูฟ นี่หละครับ
จะตัดออกทำไม
เติมน้ำมันได้เฉพาะ ออกเทน 95 (E10) ก็เข้าใจและยอมรับได้
หน้าตาเหมือนตัวธรรมดายิ่งชอบ ถ้าซื้อมาผมจะแกะสติ๊กเกอร์คำว่า Turbo ที่ติดข้างรถเป็นอย่างแรก
แต่ตัดซันรูฟออกนี่ ผมกลับมาคิดทบทวนอีกรอบเลยหละครับ
เค้าไม่ได้ตัดออกหรอกครับ เวอร์ชั่นออสมันไม่มีซันรูฟอยู่แล้ว ผมก็เพิ่งทราบตอนโหลดโบรชัวร์ พัลซ่าร์ ออสเตรเลียนี่แหละ หาคลิปตามยูทูปดูได้ครับ ไม่มีแน่นอน ;)
-
วันนี้ เกือบจะได้ลองแล้ว...
แต่มัวแต่ไปเดินในงาน ดู Live Tweet กันอยู่
เลยไม่ได้ลองขับ
ผมยังไม่ได้ลอง จึงยังบอกไม่ได้ว่าเป็นยังไง
เดี๋ยวขอลองก่อน เดี๋ยวจะเอามาแฉ....
เพราะผมก็อยากรู้เหมือนกันละว่า
สิ่งที่คนใน Nissan พยายาม อยากจะให้คนไทยได้ใช้กันหนะ
มันสมค่าการรอคอยหรือเปล่า?
เพราะผมก็เป็นคนหนึ่งที่อยากให้รถคันนี้มันมีขายในเมืองไทย ลุ้นตัวแทบแตก!
ใช่ครับพีจิมผมคนหนึ่งครับทีอยากได้เจ้า Pulsar Turbo อยู่แล้วไงช่วยแฉหน่อยครับผมอยากรู้ครับบบ
-
เท่าที่ดู Spec เหมือนกับตัว SSS (ตัว top) ของออสเตรเลีย แต่จะตัด Aero Parts รอบคันออกไปแค่นั้นเองครับ
-
จริงๆผมชอบนะครับ รุ่นนี้ แต่พอลองขับแล้ว ก็อย่างที่ว่าล่ะครับ รู้สึก Feeling มันยังไม่ใช่ ไม่ connected กันเท่าที่ควรระหว่าง ตัวเรา-รถ เครื่อง เกียร์ และถนน คือผมรู้สึกแบบว่า กำลังขับรถที่มันไปเป็นก้อน ก้อนนึง ประมาณนั้นน่ะครับ
แบบนี้ ต้องลองเองเลยครับ เพราะอย่างไรแล้ว taste ของแต่ละคนไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
และผมมองว่า อนาคตมันอาจไม่เหมือน vios turbo เมื่อราวๆสิบปีก่อนก็ได้ เพราะ ระดับราคาของ Vios ตัวธรรมดาตอนนั้น อยู่ที่ 5-6 แสนบาท พอออกตัวTurbo มา ราคาโดดไป 899 ? หรือเปล่า จำไม่ได้จริงๆ รถระดับนั้น ราคาเพิ่มมา 2 แสนนี่มีผลมากครับ
แต่สำหรับเคสPulsar นี่ ถ้าราคา 1.07 ล้าน ผมว่ามันอาจจะหมดเร็วกว่าที่คิดก็ได้ 350 คันนี้ เพราะเพิ่มจากตัว 1.8V navi sunroof มาแค่ 89,000 บาท ซึ่งเอาจริงๆแล้ว รถคันปัจจุบันผม มี sunroof ปีนึงใช้ได้แค่ 3 วันล่ะครับ ครั้งล่าสุดที่เปิดก็แทบปิดไม่ทันเพราะกลิ่นปลาร้าข้างทางที่โชยเข้ามานี่เอง :D รถคันต่อไปของผมเลยไม่ได้ให้ความสำคัญกับซันรูฟเลย แต่ถ้าจะใส่มาให้ก็ยินดี
เพราะฉะนั้น ผมว่าถ้าคุณชอบ และรับมันได้ ก็น่าซื้อนะ เพราะคุณงามความดีของเครื่องตัวนี้มันก็น่าจับจองมาเป็นเจ้าของจริงๆ ขาดไปแค่ซันรูฟอย่างเดียว แต่ได้ VDC TCS abs airbags คู่หน้า ด้านข้าง และม่าน แบบตัวออสเตรเลียเป๊ะ ผมว่า คุ้มอยู่นะ
-
อ่านหลายๆ คอมเม้นท์แล้วไม่แปลกใจ เจ้าดิ๊กเทอร์โบนี่ ยังคงความเป็น Pulsar ตัวธรรมดาอยู่เต็มแม็ก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แบบเดิม แถมยังมีระบบ TRC+VDC มาสกัดกั้นความแรงไว้อีก ต่อให้มีโหมดล็อคจังหวะเกียร์ ยังไงก็ยังไม่ฟินครับ
อย่างเจ้า Pulsar ตัวธรรมดานี่เวลาออกตัว ขนาดเปลี่ยนจาก N ไป D แล้วกระทืบคันเร่ง (ซึ่งไม่ควรทำ) มันยังหน่วงเพื่อเซฟเกียร์ไว้ขนาดนี้ ซึ่งเป็นในทุกๆ ครั้ง
ถ้าใช้เป็นประจำ จะสังเกตพบว่าไม่ได้เป็นเพราะระบบมันต่อกำลังช้า หรือคันเร่งหน่วง แต่มันมีบางอย่างป้องกันไว้ แต่มันก็มีวิธีแก้ อิอิ
ความสนุกของ Pulsar Turbo
คงหมายความถึงการมีพลกำลังที่รุนแรงและกระฉับกระเฉงกว่าเดิมเพียงเท่านั้น ไม่ได้หมายความถึงขับสนุกสนานกระชากกระชั้นอย่าง Golf GTi หรือแม้แต่ Fabia RS
ส่วนหนึ่งที่มีผลมาก ก็คงเป็นเรื่องเกียร์ และอย่าลืมว่า Pulsar Turbo มันก็คือ Pulsar ที่ติดหอยมาเพื่อความแรงเพียงเท่านั้น ไม่ใช่รถที่เกิดมาเพื่อแว้นซ์ ขับมันส์สุโค่ยแต่ประการใด
ปล. คนที่ได้ลองมา ล้วนแต่ถอนหายใจ เฮ่อออออออ ;D