Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: กด9เพื่อกลับสู่เมนูหลัก ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 10:28:33

หัวข้อ: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: กด9เพื่อกลับสู่เมนูหลัก ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 10:28:33
ผมมาลองย้อนนึกดูไปสักช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
รู้สึกว่าเหตุผลในการเลือกรถของคนไทย ดูเหมือนว่าเรื่อง คุณภาพการขับขี่จะไม่ใช่เหตุผลแรกๆเลย
ดูจะให้น้ำหนักไปเรื่อง ศูนย์บริการ มากกว่า รองมาน่าจะราคาขายต่อ และ รูปทรงมาเป็นอันดับ3 ออฟชั่นมาเป็นอันดับ4
ส่วนคุณภาพการขับขี่ เหมือนจะไม่ค่อยได้รับการสนใจเท่าไรนัก น่าจะเป็นเหตุผลท้ายๆ หรืออาจจะไม่เป็นเหตุผลของใครหลายๆคนเลย

เอารถยุโรปก่อน
E Class กับ ซี่รี่5  ไม่มีสื่อสำนักไหนในโลกบอกว่า E class ขับดีกว่าเลย แต่ในเมืองไทยซีรี่ย์ 5 ผมเรียกว่าขายแทบไม่ได้เลย ในขณะที่ E Class เกลื่อนไปหมด

รถญี่ปุ่น และ อเมริกัน

Camry avc 30 , 40  ขับสู้ accord G 7-8 ไม่ได้เลย แต่แคมรี่กลับขายดีกว่าแบบถล่มทลาย ยิ่ง avc40 ขายมากกว่า แอคคอร์ดกับเทียน่ารวมกันอีก
แต่พอมา  Avc 50 ขับดีกว่า G9 แต่ออฟชั่นน่าเกลียดก็สมควรแล้ว

Vios ขายดีกว่า City มาตลอดถ้านับยอดขายรวมทั้งโมเดล อย่าไปดูเปนเดือน
แต่ vios ขับแย่มากในความคิดผม  อันนี้เทียบจาก Gen ที่ผ่านมานะ

Altis ขับสู้ Civic ไม่ได้ทุกกรณี แต่ขายชนะซีวิค ยิ่งรุ่นหน้าหมู ยิ่งขายถล่มทลาย 
แต่อัลติส2014ขับดีกว่าซีวิคนะ

Focus ขับดีสุดของรถราคาไม่เกิน 1ล้านแล้ว เปนรถขายดีสุดในโลก แต่ในไทยขายได้บ๊วยเลย

Teana 2014 ขับดีสุดในกลุ่ม แต่กลับขายได้ที่โหล่ 


นี่จึงเปนเหตุผลรึป่าวว่า ถ้าจะทำรถขายในไทย ผู้ผลิตไม่จำเป็นต้องเน้นไปที่การขับขี่มาก

เพราะ ออฟชั่น รูปทรง ราคาขายต่อ ศูนย์บริการ น่าจะเป็น 4เหตุผลแรกมากกว่าการขับขี่


หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: power_on ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 10:46:42
 อืม..ผมว่าส่วนนึงคงเป็นเพราะราคารถบ้านเราเมื่อเทียบกับค่าครองชีพแล้วถือว่าสูงกว่าต่างชาติ (เมกา/ยุโรป) พอสมควร

เวลาซื้อเลยต้องมองภาพรวมของตัวรถมากกว่าเฉพาะส่วนใดส่วนนึงครับ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: HOMY_DEMIO ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 10:50:46
เป็นมานานมากแล้วครับ

ปัจจัยการขับขี่ไม่ใช่เหตุผลในการซื้อ
แต่ก็เป็นเหตุผลหลักในการโปรโมตของรถบางค่ายได้
(ไม่งั้น Vigo Champ จะกล้านำคุณ กีกี้ มาใช้รึ  ;D)


โดยส่วนตัว ปัจจัยด้านรูปทรงก็มี่ส่วนมากไม่น้อยนะครับ
ผมว่าคนไทยยังชอบรถที่ออกสปอร์ต ค่อนไปทางเฉี่ยว
แต่ต้องไม่ดุดันมาก

แม้แบรนด์จะเป็นรอง แต่การออกแบบก็ช่วยได้เยอะเหมือนกัน



หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: nonp ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 10:55:47
ผมมีความเห็นว่าในภาพรวมของประเทศเป็นแบบที่เจ้าของกระทู้กล่าวครับ
แต่ตลาดก็มีการเปลี่ยนแปลง จะเห็นว่ารถอย่าง Cruise , Mazda3 , Focus , CX5 , XV
ที่ชูจุดเด่นเรื่องการขับขี่ มันก็ขายได้มากขึ้นกว่าอดีต
ผมเห็นว่าปัจจุบันสื่อ internet เข้าถึงง่าย กดแล้วรอ 2 วินาที ข้อมูลออกมาเพียบ
ทำให้ผู้บริโภคเปิดใจยอมรับแบรนด์ที่เน้นเรื่องการขับขี่มากขึ้น

อย่างไรก็ดี ความเชื่อเดิมๆ ของคนเก่าคนแก่ก็เป็นสิ่งที่ลบล้างยากมาก
ที่สำคัญคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อการซื้อรถเป็นอย่างยิ่ง

... ทำไมไม่เอาโต ฮอน อีสุ ไปซื้อทำไม ยี่ห้อ... มันกินน้ำมัน ราคาตก
.... เห็นมั้ยบอกแล้วว่าให้ซื้อโต ฮอน จะได้ไม่มีปัญหา บลาๆๆๆๆๆ


ประโยคสนทนาข้างต้นเจอได้บ่อยมากๆ ในสังคมไทย
จากมนุษย์พ่อ มนุษย์ลุง มนุษย์เมียครับ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: beercs ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 11:07:38
คนที่ขับรถไม่เร็ว  คุณภาพการขับขี่ไม่ใช่สิ่งสำคัญ  เพราะขับคันไหนก็ไม่ต่างกันมาก
แต่ความประหยัด  ความทนทาน  ศูนย์บริการ  ภาพลักษณ์  นี่มันต่างกันเห็น ๆ  ไม่ว่าใครจะมาขับ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: AkE ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 11:08:46
ถูกต้องนะคับ มันเป็นแบบนี้ล่ะ ออปโหดๆ หน้าตาสวยจบ ลองดู Vios คับตั้งแต่เปน vios เคยเปลี่ยนเครื่องกับเกียร์ยังเถอะ 5555 แต่รุ่นนี้ผมให้

ผ่านเพราะ เต้ย จรินพร น่ารักคับ 555
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: mongolias ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 11:24:03
ผมว่าจุดที่คนไทยส่วนมาก เอามาตัดสินใจในการเลือกรถคือ ค่านิยมครับ เป็นประเภท ปากต่อปากกัน
เช่นรถเก๋งต้องโตโยต้าสิ กระบะก็ต้องอีซูสุ
อาจจะด้วยอะไรหลายๆอย่าง ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ เวลาจะเลือกรถ จะมองรถที่ ทน เป็นหลัก เน้น ซ่อมบำรุงง่ายๆ ยิ่งมีศูนย์บริการดีๆ ยิ่งเป็นอีกปัจจัยในการตัดสินใจได้ดี

ตัวผมก็เป็นหนึ่งในนั้นนะ ปัจจัยในการเลือกรถ ของผม ไม่ใช่ว่ารถต้องขับดีที่สุด นั่งสบายที่สุด แต่ต้องเป็นรถที่ผมใช้แล้วสบายใจ สบายกระเป๋า มากกว่าครับ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: pisaa ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 11:35:04
 :-[ ผมแค่ต้องการการดูแลรักษาที่ดีจากศูนย์ฯ เวลารถมีปัญหา นั่งสบาย อ๊อฟชั่นครบๆ ส่วนเรื่องขับดี ผมแค่ต้องการให้มันขับสบายไม่เหนื่อย ไม่ได้ขับซิ่งมาก เน้นสบายใจมากกว่า ไม่อยากจิตตกตอนรถมีปัญหาแล้วแก้ไม่จบ หลายๆยี่ห้อ

ไม่ใช่แค่รถนะครับ พวกโทรศัพท์ หรืออย่างอื่นผมก็คิดแบบนี้ครับ เพราะว่าต้องทำอย่างอื่นไปด้วย คงไม่มีเวลามาเสียให้กับหลายๆอย่าง  :P
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: Jaewrimdor ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 11:36:47
การที่จะบอกว่า คุณภาพการขับขี่ของรถคันนึงดีกว่าอีกคันนึง วัดจากอะไร อะไรเป็นตัวชี้วัด หรือวัดจากความรู้สึก

มันดีมากพอที่จะทำให้รถคันนั้นบินได้เลยเหรอ

ในการใช้รถบนถนนทุกวันนี้ ความได้เปรียบของรถที่บอกว่าคุณภาพการขับขี่ดีกว่านั้น แทบจะไม่แสดงผลให้เห็นชัดเจนเหมือนกันคุณสมบัติที่ได้กล้าวอ้างเลย
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: redtopup ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 11:44:30
ดาราใน การโฆษณา ก็ มีอธิพลมากๆเหมือนกัน กับ วัยรุ่นในการเลือกซื้อรถ รึอาจมีอธิพลแค่ให้สนใจในแว๊บแรกๆ  แต่แค่ เชิญชวนให้ดูหนังโฆษณา เพื่อ ให้สนใจแล้ว ค้นในรายละเอียดปลีกย่อยอีกที ก่อนตัดสินใจ รึ ให้เก็บเอาไว้ในใจก่อน เวลา สมองคิดจะได้ นึกถึง ยี่ห้อรุ่นของตรูได้ไวขึ้น
การวางแผนการตลาด สำคัญที่สุด สำหรับ ผู้ผลิต จะเจาะกลุ่มไหน
แต่ที่แน่ๆ เกือบทุกโฆษณารถ  จะตบ ท้ายด้วย คำพูดเป็น ภาษา อังกร ตรา งู โดยเฉพาะกับการโฆษณากับ รถเก๋ง  
เหตุผลในการเลือกซื้อรถของคนไทย ผมว่าอยู่ในใจของทุกคน อยู่ในมุมมองของแต่ล๊ะคน
ซึ่งผู้ผลิตนั้น มองออกทุกฉ๊อต แต่จะจับใจความเอาเฉพาะคนกลุ่มใหญ่ๆก่อน  ในรถแต่ล๊ะรุ่น ว่าคนกลุ่มไหน จะชอบ และ ออกแบบมา ให้ครอบคลุมเข้าไว้  
มันเหมือนกับการเซ๊ท ช่วงล่างต่างๆ การเซ๊ทอุปกรณ์ต่างๆ เซ๊ทให้มา เหมาะกับคนกลุ่มใหญ่ๆ เอาไว้ก่อน
ถ้าดาวสามแฉกเซ๊ทช่วงล่างมาให้แข็ง มันก็คงจะขายลำบากขึ้น ถ้าใบพัดฟ้าขาวเซ๊ทช่วงล่างมาให้ นิ่ม เซ๊ทพวงมาลัยมาให้ เบา มันก็คงขายยากเช่นกัน  ผู้ผลิตรถนั้น มองกลุ่มเอาไว้ในใจอยู่แล้ว
ถ้าขาย ซิตี้คาร์ แล้ว เอาม้ามากๆ มันก็คงขายได้ยากขึ้น
กระแสมายังไง ผู้ผลิต อันไหนปั้น เม็ดเงินได้ ทำทุกอย่าง แม้แต่ ศูนย์บริการยังต้องอยู่ในกรอบ

ชอบ ก๋วยเตี๋ยว น้ำข้น น้ำใส น้ำตก ตลอดจน ร้านที่ ขาย ผมว่า ตัวตนของแต่ล๊ะคนไม่เหมือนกัน
มุม มอง ของการขับ รถ ไม่เหมือนกัน  ดังนั้น เวลาเลือกซื้อรถ ต้องเอาตามใจตัวเอง อย่าเชื่อพวกนักทดสอบรถมากนัก เพราะ มันเป็นแค่การขับในช่วงระยะเวลาที่สั้นๆ ยังไม่ได้ใจความที่แท้จริง  และที่สำคัยเลย เพราะ ความชอบส่วนตัวไม่เหมือนกัน ครับ

 




หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: soklong ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 11:48:31
แล้วคิดว่ามีกี่คน ที่ซื้อรถแล้วได้ลองขับ เห็นๆแต่ขึ้นไปลองๆนั่งๆ กดนู้นกดนี้ๆ แล้วก็จอง  :-\ :-\ :-\

แล้วก็เรื่องศูนย์บริการ เคยถามคนแก่ๆ ที่ออกรถพวกเจ้าตลอด เค้าบอกพวกศูนย์เยอะๆ มันทำให้รถดูมีราคากว่า เหมื่อนๆบริษัทมันใหญ่กว่า
โดยเฉพาะ คนที่อยู่ต่างจังหวัด แบร์นเจ้าตลาดดูดีกว่า
ไอ้เรา ออกรถ แบบไม่ค่อยมีคนออก มันน่าดูดีกว่า เทห์กว่า แต่โดนว่าเละ....งงเลย
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: IS2000 ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 11:55:35
ไม่ใช่แต่คนไทยหรอกครับ หลายๆประเทศคนซื้อรถไม่ได้ตัดสินตรงที่รถขับดีแค่ไหนแต่อาจจะดูรวมๆทั้งหมด รวมไปถึงค่านิยมอื่นๆ
แต่บางประเทศอาจจะมีกลุ่มคนที่ชอบรถเป็นพิเศษมากหน่อยรวมไปถึงราคาที่เอื้อมได้ของรถรุ่นนั้นๆ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: Mizuihisachi ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 12:03:08
บ้านผมเป็นครอบครัวนึงที่เมื่อสมัย 20 ปี นิยมรถตลาดมาก่อน จนเมื่อเกือบๆสิบปีที่แล้วอินเตอร์เน็ตเข้ามา ได้หาข้อมูล ตัดสืนใจซื้อรถที่ใครๆก็เชียร์ว่าคุ้มค่า ความปลอดภัยครบ ขับดี คนซื้อไม่โง่

แต่ปัจจุบัน กลับมาโง่ซื้อรถตลาดอีกครั้ง และลาขาดรถขับดีทั้งหลายเนื่องจาก

รถตลาดเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ยังขับได้เรื่อยๆ ไม่เคยเสีย แอร์ยังเย็น ดูแลง่าย
รถที่เค้าว่าดี มีปัญหาตั้งแต่ปีแรกเล็กๆน้อยๆ เคยไปเสียระหว่างทางในปีแรกๆ หาอู่ยาก อุปกรณ์ที่บอกว่ายี่ห้ออื่นควรเอาอย่าง แม่งเสียตั้งแต่แรกๆค่าซ่อมก็แพง ปีนั้นลางานเอารถเข้าศูนย์บ่อยจนเอือมระอา
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: templeboy ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 12:05:54
เฉพาะรถยุโรป ที่ว่า

"ในเมืองไทยซีรี่ย์ 5 ผมเรียกว่าขายแทบไม่ได้เลย ในขณะที่ E Class เกลื่อนไปหมด"

คงไม่ใช่แล้วมั้งครับ มันก็เยอะทั้งสองรุ่นหละ ลองดูบนถนนใน กทม. ผมก็เห็นพอๆกัน

ซี่รี่ย์ 5 ขายดีมากสำหรับรถฟลีทของบริษัทหรือโรงแรม....ใช้กันเยอะมาก
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: raygun ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 12:10:27
.
.
.
คุณภาพการขับขี่คืออะไร? วัดจากใคร? คนซื้อหรือสื่อ?

เพราะต่อให้มันขับดีมากกก แต่เสียกลางทางตลอด ก็ไม่มีใครซื้อ
หรือต่อให้ขับดีมากก แต่เสียแล้วไม่มีหมาที่ไหนมาสนใจ ใครจะซื้อ

แล้วเรื่องที่ขับดีกว่าไม่ดีกว่า ผมว่าแต่ละคัน
มันก็ไม่ได้ห่างกับเป็นฟ้ากับเหวขนาดนั้น ขับรถแบบชาวบ้านปกติ
ขับแค่ไม่เกิน 120 ยิ่งขับในเมือง ประมาณ 20กม. ต่อชั่วโมง
ไม่ได้เอาไปซัดเข้าโค้งที่ 180 แบบที่เค้าทดสอบกันเลย

และท้ายที่สุดที่สำคัญที่สุดคือ..

มนุษย์โลกทุกคนซื้อรถที่ตัวเองอยากได้ครับ





 
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: holahola66 ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 12:25:54
"คนไทย" มีหลายกลุ่มนะครับ แยกเป็น เพศ วัย การศึกษา ,ถิ่นฐาน คร่าวๆ แค่นี้ความคิดก้อต่างกันค่อนข้างเยอะนะครับ

คุณภาพการขับขี่ของแต่ละคน มันก้อไม่เหมือนกันอีก เลยพูดยาก

หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: LimitedEdition ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 12:26:05
การที่จะบอกว่า คุณภาพการขับขี่ของรถคันนึงดีกว่าอีกคันนึง วัดจากอะไร อะไรเป็นตัวชี้วัด หรือวัดจากความรู้สึก

มันดีมากพอที่จะทำให้รถคันนั้นบินได้เลยเหรอ

ในการใช้รถบนถนนทุกวันนี้ ความได้เปรียบของรถที่บอกว่าคุณภาพการขับขี่ดีกว่านั้น แทบจะไม่แสดงผลให้เห็นชัดเจนเหมือนกันคุณสมบัติที่ได้กล้าวอ้างเลย

เริ่มต้นมาแบบนี้ สื่อทดสอบรถยนต์ไปไม่เป็นกันเลยทีเดียวครับ 555

วัดได้สิครับ อัตราเร่ง อัตราสิ้นเปลือง แรงยึดเกาะถนน มีอุปกรณ์วัดได้หมด ส่วนสุดท้ายก็ความรู้สึกผู้ขับที่ค่อนข้าง subjective แต่ก็ไม่ใช่วัดไม่ได้

ส่วนการใช้งานผมว่าในชีวิตทุกคนคงต้องขับรถออกต่างจังหวัด ขึ้นทางด่วน หรือถนนโล่งๆ ที่ได้ใช้ความเร็วระดับ 100 กม./ชม. ขึ้นไปกันบ้าง อย่างน้อยก็อาทิตย์ละครั้ง ดังนั้น สมรรถนะรถมีส่วนเกี่ยวข้องและจะแสดงให้เห็นผลชัดเจนในความเร็วระดับนั้นแน่อนครับ วิ่งปกติคงไม่เท่าไหร่ แต่เวลาเจอเหตุการณ์คับขันแล้วจะพอเข้าใจว่ารถที่ขับดีกว่า มันดีกว่าอย่างไร
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 12:33:13
ต้องไปขอสถิติจากพวกแบบสอบถามของผู้จำหน่ายแล้วล่ะว่าทำไมครับ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: f1rstgot ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 12:35:52
ผมมาลองย้อนนึกดูไปสักช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
รู้สึกว่าเหตุผลในการเลือกรถของคนไทย ดูเหมือนว่าเรื่อง คุณภาพการขับขี่จะไม่ใช่เหตุผลแรกๆเลย
ดูจะให้น้ำหนักไปเรื่อง ศูนย์บริการ มากกว่า รองมาน่าจะราคาขายต่อ และ รูปทรงมาเป็นอันดับ3 ออฟชั่นมาเป็นอันดับ4
ส่วนคุณภาพการขับขี่ เหมือนจะไม่ค่อยได้รับการสนใจเท่าไรนัก น่าจะเป็นเหตุผลท้ายๆ หรืออาจจะไม่เป็นเหตุผลของใครหลายๆคนเลย

เอารถยุโรปก่อน
E Class กับ ซี่รี่5  ไม่มีสื่อสำนักไหนในโลกบอกว่า E class ขับดีกว่าเลย แต่ในเมืองไทยซีรี่ย์ 5 ผมเรียกว่าขายแทบไม่ได้เลย ในขณะที่ E Class เกลื่อนไปหมด

รถญี่ปุ่น และ อเมริกัน

Camry avc 30 , 40  ขับสู้ accord G 7-8 ไม่ได้เลย แต่แคมรี่กลับขายดีกว่าแบบถล่มทลาย ยิ่ง avc40 ขายมากกว่า แอคคอร์ดกับเทียน่ารวมกันอีก
แต่พอมา  Avc 50 ขับดีกว่า G9 แต่ออฟชั่นน่าเกลียดก็สมควรแล้ว

Vios ขายดีกว่า City มาตลอดถ้านับยอดขายรวมทั้งโมเดล อย่าไปดูเปนเดือน
แต่ vios ขับแย่มากในความคิดผม  อันนี้เทียบจาก Gen ที่ผ่านมานะ

Altis ขับสู้ Civic ไม่ได้ทุกกรณี แต่ขายชนะซีวิค ยิ่งรุ่นหน้าหมู ยิ่งขายถล่มทลาย 
แต่อัลติส2014ขับดีกว่าซีวิคนะ

Focus ขับดีสุดของรถราคาไม่เกิน 1ล้านแล้ว เปนรถขายดีสุดในโลก แต่ในไทยขายได้บ๊วยเลย

Teana 2014 ขับดีสุดในกลุ่ม แต่กลับขายได้ที่โหล่ 


นี่จึงเปนเหตุผลรึป่าวว่า ถ้าจะทำรถขายในไทย ผู้ผลิตไม่จำเป็นต้องเน้นไปที่การขับขี่มาก

เพราะ ออฟชั่น รูปทรง ราคาขายต่อ ศูนย์บริการ น่าจะเป็น 4เหตุผลแรกมากกว่าการขับขี่



คัมรี่ใหม่ ขับดีกว่า G9 หรอครับ ผมขับมาแต่G9 2.0ท๊อป เพื่อนผมขับแล้วทั้ง2คัน แต่คัมรี่เป็นไฮบริดท๊อป ถ้าพูดถึงแง่ช่วงล่าง เพื่อนผมบอก G9 ขับดีกว่าอีก
อันนี้ก็ไม่ทราบนะครับ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: Noctis Lucis Caelum ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 12:49:59
ความต้องการของคนเราไม่เหมือนกันครับ เหมือนกับความพอใจ ที่ไม่มีใครเข้าใจเหตุผลในการเลือกรถดีเท่าเราเหมือนกัน

ยังไงมนุษย์ทุกคนก็เลือกรถที่ตัวเองอยากได้ครับ เรื่องอื่นๆก็มาเป็นเหตุผลรองอยุ่แล้ว
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 12:51:33
:-[ ผมแค่ต้องการการดูแลรักษาที่ดีจากศูนย์ฯ เวลารถมีปัญหา นั่งสบาย อ๊อฟชั่นครบๆ ส่วนเรื่องขับดี ผมแค่ต้องการให้มันขับสบายไม่เหนื่อย ไม่ได้ขับซิ่งมาก เน้นสบายใจมากกว่า ไม่อยากจิตตกตอนรถมีปัญหาแล้วแก้ไม่จบ หลายๆยี่ห้อ

ไม่ใช่แค่รถนะครับ พวกโทรศัพท์ หรืออย่างอื่นผมก็คิดแบบนี้ครับ เพราะว่าต้องทำอย่างอื่นไปด้วย คงไม่มีเวลามาเสียให้กับหลายๆอย่าง  :P

+1 ครับ

ให้ผมมาทนๆ กับศูนย์บริการ เข้าๆ ออกๆ เพราะรถเสียบ่อย ผมก็ไม่เอาด้วยครับ รำคาญ  >:(
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: Ty ESC ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 12:57:39
แค่ในแง่การตัดสินว่ารถคันไหนขับขี่ ดีไม่ดี ยังยากเลยครับ

0-100 เอาให้ใกล้เคียงกัน

อย่างผมไปลองCX5 2.5 / 2.2 เทียบกับ Forester Xt

จากความรู้สึก Forester - cx5 2.2 - 2.5
แต่ในทางตัวเลขกลับกลายเป็นCx5 2.5 - Forester - 2.2

แล้วเอาเข้าจริง อัตราเร่ง หยุดหรือฟิลลิ่งต่างๆ บางคนแทบไม่ใช้ หรือไม่สนใจ อาจจะไม่ชอบด้วยซ้ำ

อย่างแม่ผม นั่ง Teana J32 บอกว่านุ่มดี พอมานั่ง W204 บอกว่าเบนส์นุ่มกว่า ทั้งๆที่ผมขับเองทุกวันรู้เลยว่าW204 แข็งกว่า
แต่คนแก่บางคนไม่ชอบการโยนตัวของช่วงล่าง ที่มันยวบยาบไปก็มี นั่งแข็งๆนิดๆหยุดการให้ตัวได้ดีกว่า เค้าชอบแบบนั้น

พี่สาวผม ขับHarrier 240 ชอบมากบอกนุ่มนวล อัตราเร่งต่อเนื่องดีขับสบาย ผมไปขับจะอ้วกเอาช่วงล่างโยนยังกะเรือ เร่งท่ือเพราะเกียรเหมือนCVT
แต่พี่สาวผม ขับรถเหมือนแห่ขันหมาก ไปเรื่อยๆไม่เร่งไม่เหยียบอะไรทั้งสิ้น ขับร้อยเดียวไม่เปลี่ยนเลน อยู่เลนกลางไปเรื่อยๆ ให้ไปขับ E class ไม่เอาบอกมันกระชากเวียนหัวช่วงล่างแข็ง

แฟนผมขับCivic FD  พอมาขับ W204 บ่นว่ารถเร่งไม่ออก จริงๆแล้วเป็นเพราะคันเร่งมันช้า ส่วนเรื่องอื่นๆ ชีสนใจแค่เปิด 106.5 ดังกับมีไฟแต่งหน้าที่บังแดดก็พอ นอกนั้นไม่รู้อะไรทั้งสิ้น ให้ขับ FD /Vios / Yaris ชีได้หมด  เพียงพอ ขับจากบ้านไปออฟฟิศ ไปกลับ 5 กิโล นั่งแต่งหน้ารถติดไป 60% ของเวลาที่อยู๋บนรถ

ผมว่า ถ้าบอกในแง่ว่า คนไทยซื้อรถไม่เหมาะกับการใช้งาน เป็นการซื้อเผื่อสำหรับอะไรที่ไม่จำเป็นหรือ โดนภาษีบิดเบือนจนผิดไป จะตรงกว่าครับ

เรื่องศูนย์บริการ และการขายต่อมีผลนะครับ โดยเฉพาะกับผู้หญิง ที่ไม่รู้จักการซ่อมอะไรเลย
ไปถึงไม่เก็บรถด้วย ส้นสูงเต็มรถ ตุ๊กตาเต็มกระจก ทิ้งกุญแจให้ช่าง บอกว่าเปลี่ยนน้ำมัน เช็คหมื่นโล ช่างถามอะไรก็ตอบไม่ได้ไม่รู้ทั้งสิ้นแค่มีไฟอะไรไม่รู้ขึ้นมาบอก แล้วบอกด้วยว่าจะไปทำผมให้เวลาช่างถึง ห้าโมงเยนจะมารับ
มีแค่ ยี่ห้อญี่ปุ่นเท่านั้นที่ทำได้ ลองไปถามรถยุโรปสักยี่ห้อที่เข้าศูนย์ไม่ต้องจองแล้วทำเสร็จในวันเดียว ผมว่าแทบไม่มี ส่วนใหญ่ทิ้งรถคิวยาวเลื่อนไปเรื่อยๆ แถมออกมาอาการไม่หายด้วย ถ้าเป็นรถญี่ปุ่น เสร็จจริงจนงง ว่าซ่อมจริงหรือเปล่าวะ รายการจะมั่วบิลมั่ง ยังไงก็ไม่เกินห้าพัน เจอรถยุโรปหรือยี่ห้อขับดี มีห้าหกพัน งง งง เค้าก็บ่นๆว่าทำไมแพง แต่อ่านไม่ออกหรอกว่าเปลี่ยนอะไรไปมั่ง

ถึงตอนจะขายรถเจอญี่ห้อเด็กแนว ขายไม่ออกขายยากยุ่งยาก ไม่รู้อะไรก็เลยให้เตนตีราคากดไปอีก เลยยิ่งเจ็บใจไม่ใช้แล้วรถยี่ห้ออะไรไม่รู้

มันเป็นแบบนี้ครับ และผมเชื่อว่าหลายๆคนแม้แต่ไม่ใช่สุภาพสตรี ก็เคยเจอแบบนี้เลยเลือกอะไรที่รู้สึกว่ามันสบายใจไม่ต้องคิดมาก อย่างน้อยก็มีคนร่วมชะตากรรมอีกเยอะบนถนน


หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: Sammy_ ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 13:04:54

... ทำไมไม่เอาโต ฮอน อีสุ ไปซื้อทำไม ยี่ห้อ... มันกินน้ำมัน ราคาตก
.... เห็นมั้ยบอกแล้วว่าให้ซื้อโต ฮอน จะได้ไม่มีปัญหา บลาๆๆๆๆๆ


ประโยคสนทนาข้างต้นเจอได้บ่อยมากๆ ในสังคมไทย
จากมนุษย์พ่อ มนุษย์ลุง มนุษย์เมียครับ
ผมเพิ่งเจอมา ตอนออก Proton Preve โดนด่ายับยังกับไปฆ่าใครตาย ท้ายที่สุดพอมาอยู่กับเรา มีความสุขครับ รถแรง ช่วงล่างดี Option ครบ รถราคาถูก ที่สำคัญ โจนไม่ขโมยด้วย 5555
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: kibrain ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 13:11:06
เงินในกระเป๋าเรามีไม่เท่ากัน  ดังนั้น คนซื้อรถ เค้าดูความคุ้มค่า ดูบริการหลังการขาย ดูภาพรวมๆ

คนซื้อ 100ละ 99.99% เค้าแยกไม่ออกหรอกครับว่า รถยี่ห้อไหน เกาะถนน ต่างกันยังไง พวงมาลัยคมกว่ายังไง เค้าซื้อเพราะเงินในกระเป๋าเค้ามีแค่นี้ ศูนย์บริการมีรองรับ รถทนทานใช้งานได้ พอแล้ว
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: Activehybrid ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 13:12:11
ทุกอย่างค่อยๆเปลี่ยนไปครับ มวยรองกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ

ผมคนนึงที่เลือกการขับขี่มาก่อนเป็นหลัก ไม่งั้นคงไม่เลือกFocus ที่ขับดีกว่าคู่แข่งทุกด้านโดยเฉพาะช่วงล่าง ไม่เว้นแม้พรีเมรียมคอมแพคยังต้องยอมให้

แต่สิ่งที่เปลี่ยนใจคนไทยยากคือความเชื่อและค่านิยมรถตลาด

ถ้าราคาเท่ากันผมเรียงลำดับความสำคัญ 9ข้อหลักๆตามนี้ครับ
1. 0-100 / 80-120 / Top Speed
2. ความสามารถประหยัดน้ำมัน
3. การเก็บเสียงตัวรถ ช่วงล่างนุ่มหนึบและพวงมาลัยแม่นยำ
4. ขนาดที่ใหญ่คุ้มค่า กว้างขวางกว่าน้ำหนักมากกว่าปลอดภัยกว่าเมื่อเกิดการปะทะ
5. ดีเเฟกส์ของตัวรถรุ่นนั้นๆ ศูนย์และการซ่อม
6. ความเป็นตลาดและราคาขายต่อ
7. ความหรูหรา และหน้าบาน
8. ความสวยระดับเทพ(ข้อนี้ยกให้Mazda3 2014)
9. ออฟชั่นลูกเล่นตกแต่ง

แต่ในขณะที่สังเกตุดูคนไทยทั่วไปเลือกแบบนี้
1. ขนาดที่ใหญ่คุ้มค่า กว้างขวางกว่าน้ำหนักมากกว่าปลอดภัยกว่าเมื่อเกิดการปะทะ
2. ออฟชั่นลูกเล่นตกแต่ง
3. ความเป็นตลาดและราคาขายต่อ
4. ดีเเฟกส์ของตัวรถรุ่นนั้นๆ ศูนย์และการซ่อม
5. ความหรูหรา และหน้าบาน
6. ความสวยระดับเทพ(ข้อนี้ยกให้Mazda3 2014)
7. ความสามารถประหยัดน้ำมัน
8. 0-100 / 80-120 / Top Speed
9. การเก็บเสียงตัวรถ ช่วงล่างนุ่มหนึบและพวงมาลัยแม่นยำ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: Highway Star ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 13:18:40
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ แต่ขอเถียงตรงซีรีส์5ก็ไม่น้อยกว่าอีคลาสมากนะครับ กับg9กับacv50ผมว่าg9ดีกว่าทุกอย่างยกเว้นอัตราเร่ง
คนไทยส่วนมากที่ไม่ได้บ้ารถเท่าชาวเราในเว็บนี้ มักดูหน้าตา ภาพลักษณ์ ออฟชัน ศูนย์บริการ ของแถมส่วนลดมากกว่าดูสมรรถนะ
สังเกตเจ้าตลาดสิมักเป็นรถที่คนส่วนมากมักนึกถึงอย่างกลุ่มรถหรู คนมักนึกถึงเบนซ์มากกว่าบีเอมทั้งๆที่ส่วนใหญ่สื่อมวลชนทั้งในไทยและนอกมักบอกว่าบีเอมขับดีกว่า ราคาก็ดูคุ้มกว่าตั้งเยอะเมื่อเทียบออฟชันต่อราคาในรุ่นที่เท่ากัน
โตโยต้ากับฮอนด้าคนมักนึกถึงโตโยต้าก่อนทั้งๆที่ฮอนด้าหลายรุ่นขับดีกว่าอีก ส่วนฟอร์ด มาสด้า เชฟโรเลต ขับดีกว่าเจ้าตลาดอีกคนส่วนมากมักบอกว่าไม่ดี ซ่อมแพง ไม่ดีๆ ซึ่งก็จริงแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดและคนที่บอกส่วนมากก็ไม่ได้ใช้ยี่ห้อเหล่านี้
ส่วนกระบะ เอาโตโยต้าหรืออีซูซุ ยี่ห้ออื่นไม่ดีศูนย์ห่วย ราคาตก อย่าเอาๆ กระบะวีโก้อย่างนี้เก่าจะแย่อยู่แล้วออฟชันก็งก แต่ก็ขายดีกว่าดีแมคซ์ที่ใหม่กว่าสดกว่าสวยกว่าขับดีกว่าเพราะแบรนด์กับโปรลดสุดๆ

จะเลือกอะไรก็อยู่ที่ความชอบและความต้องการของเราครับอย่าได้แคร์ รถเจ้าตลาดก็ไม่ได้ดีหมด แต่แบรนด์รองก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: 1212312121 ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 13:22:52
คนเรามีตังค์ การศึกษา ประสบการณ์การขับรถ ความรู้สึก ไม่เท่ากัน แค่นั้นเอง ถามว่าเด็กจบใหม่เงินเดือน 15000 อยากได้รถสักคัน ที่ขับดีช่วงล่างเยี่ยม เค้าจะไปลอง พวก BMW(สมมติ) หรือเปล่าคับ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: BestHuafoo ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 13:37:08

ตั้งแต่ผมเด็ก ยันโตทำงาน
รถที่มีการอวดอ้างโฆษณา หรือคำวิจารณ์ด้านช่วงล่าง การขับขี่ไว้ดีมากๆ
มักจะสวนทางกับปัจจัยความต้องการอื่นๆ ที่สำคัญพอๆ กัน เช่น ความสบายในห้องโดยสาร
ประโยชน์ใช้สอยด้านพื้นที่ เครื่องยนต์ที่ดีดแรงตั้งแต่ออกตัว น้ำหนักรถกำลังดีไม่หนักเกินจนกินน้ำมัน

ผู้ซื้อเลยมองไปที่ประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก แล้วการขับขี่ค่อยดูรองๆ ลงมา
เน้นให้้ทุกคนในบ้านได้ใช้ได้สัมผัส ไม่ใช่ไว้สนองนี้ดเราคนเดียว

ผมก็ 1 ในนั้น รถที่ขับมีพื้นที่เยอะ ใช้งานได้หลากหลาย
เครื่องยนต์พอเร่งแซงรถบรรทุกได้หายห่วง
แต่ช่วงล่างไม่มีอะไรเป็นพิเศษ พวงมาลัยเซ็ตมากลางๆ
สุดท้ายก็เอาไปโหลดกับใส่ยางกว้างจนเทโค้งยาวๆ ได้ เสียตังเพิ่มไม่มาก
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: kibrain ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 13:41:46
ทุกอย่างค่อยๆเปลี่ยนไปครับ มวยรองกำลังดีขึ้นเรื่อยๆ

ผมคนนึงที่เลือกการขับขี่มาก่อนเป็นหลัก ไม่งั้นคงไม่เลือกFocus ที่ขับดีกว่าคู่แข่งทุกด้านโดยเฉพาะช่วงล่าง ไม่เว้นแม้พรีเมรียมคอมแพคยังต้องยอมให้

แต่สิ่งที่เปลี่ยนใจคนไทยยากคือความเชื่อและค่านิยมรถตลาด

ถ้าราคาเท่ากันผมเรียงลำดับความสำคัญ 9ข้อหลักๆตามนี้ครับ
1. 0-100 / 80-120 / Top Speed
2. ความสามารถประหยัดน้ำมัน
3. การเก็บเสียงตัวรถ ช่วงล่างนุ่มหนึบและพวงมาลัยแม่นยำ
4. ขนาดที่ใหญ่คุ้มค่า กว้างขวางกว่าน้ำหนักมากกว่าปลอดภัยกว่าเมื่อเกิดการปะทะ
5. ดีเเฟกส์ของตัวรถรุ่นนั้นๆ ศูนย์และการซ่อม
6. ความเป็นตลาดและราคาขายต่อ
7. ความหรูหรา และหน้าบาน
8. ความสวยระดับเทพ(ข้อนี้ยกให้Mazda3 2014)
9. ออฟชั่นลูกเล่นตกแต่ง

แต่ในขณะที่สังเกตุดูคนไทยทั่วไปเลือกแบบนี้
1. ขนาดที่ใหญ่คุ้มค่า กว้างขวางกว่าน้ำหนักมากกว่าปลอดภัยกว่าเมื่อเกิดการปะทะ
2. ออฟชั่นลูกเล่นตกแต่ง
3. ความเป็นตลาดและราคาขายต่อ

4. ดีเเฟกส์ของตัวรถรุ่นนั้นๆ ศูนย์และการซ่อม
5. ความหรูหรา และหน้าบาน
6. ความสวยระดับเทพ(ข้อนี้ยกให้Mazda3 2014)
7. ความสามารถประหยัดน้ำมัน
8. 0-100 / 80-120 / Top Speed
9. การเก็บเสียงตัวรถ ช่วงล่างนุ่มหนึบและพวงมาลัยแม่นยำ

นี่แหละ  ผมบอกไงว่าเงินในกระเป๋าคนเรามีไม่เท่ากัน คนส่วนใหญ่เงินมีแค่นี้ ไม่สามารถซื้อรถมาลอง ไม่ชอบก็ขายไป มันทำไม่ได้ คนไทยซื้อรถ ต้องดูองค์ประกอบ หลายๆส่วน
1.ราคาขายต่อ ราคาอะไหล่
2.คุณภาพ
3.รถที่ตัวเองชอบ
4.ศูนย์บริการ
5.หน้าบาน ดูดี
6. บลาๆๆ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: mozart ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 14:04:40
ขับดีเข้าโค้งมันแบบ ครูซ  ผมไม่เอานะ ผมขอแอลติสหน้าหมูดีกว่า นี่คือเหตุผลของผมเลยครับ ต้องทนไม่พาไปกินข้าวลิง
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: kris-lack ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 14:10:59
ผมมีความเห็นว่าในภาพรวมของประเทศเป็นแบบที่เจ้าของกระทู้กล่าวครับ
แต่ตลาดก็มีการเปลี่ยนแปลง จะเห็นว่ารถอย่าง Cruise , Mazda3 , Focus , CX5 , XV
ที่ชูจุดเด่นเรื่องการขับขี่ มันก็ขายได้มากขึ้นกว่าอดีต
ผมเห็นว่าปัจจุบันสื่อ internet เข้าถึงง่าย กดแล้วรอ 2 วินาที ข้อมูลออกมาเพียบ
ทำให้ผู้บริโภคเปิดใจยอมรับแบรนด์ที่เน้นเรื่องการขับขี่มากขึ้น

อย่างไรก็ดี ความเชื่อเดิมๆ ของคนเก่าคนแก่ก็เป็นสิ่งที่ลบล้างยากมาก
ที่สำคัญคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อการซื้อรถเป็นอย่างยิ่ง

... ทำไมไม่เอาโต ฮอน อีสุ ไปซื้อทำไม ยี่ห้อ... มันกินน้ำมัน ราคาตก
.... เห็นมั้ยบอกแล้วว่าให้ซื้อโต ฮอน จะได้ไม่มีปัญหา บลาๆๆๆๆๆ


ประโยคสนทนาข้างต้นเจอได้บ่อยมากๆ ในสังคมไทย
จากมนุษย์พ่อ มนุษย์ลุง มนุษย์เมียครับ
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ
ขนาดพี่ชายเราแท้ๆ ใชีวีโก้
แต่พอจะไปใกลๆ โดยเฉพาะไปเที่ยวที่ต้องขึ้นเขา ภาคเหนือนี่ มาเอารถนาวาร่าเราตลอด
แต่พอเอามาส่งทุกครั้งก็จะบ่น กินน้ำมันบ้างล่ะ ช่วงล่างแข็งบ้างล่ะ
ค่าน้ำมันเครื่องแพงบ้างล่ะ (ทั้งๆที่ก็จ่ายเท่าๆกันกับวีโก้) ฟังแล้วเพลีย
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: madboy ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 14:17:50
ต่างคน ต่างความคิดครับ มีหลายปัจจัย และปัจจัยหนึ่งที่ Honda เองขายไม่ได้มากในรถขนาดใหญ่อย่าง accord คือ เค้าไม่มีลีสซิ่งแบบโตต้า ต้องไปผ่านคนอื่น  ;D
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: pladaek ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 14:29:02
ปัจจัยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผลมันก็เลยต่างกัน..
และอย่าเอาบรรทัดฐานของตัวเองไปตัดสินคนอื่นว่าใครถูกผิด..
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: chamanow88 ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 14:43:46
ทุกวันนี้ต่อให้มีข้อมูลเยอะขึ้นให้ไปศึกษาความดีงามของตัวรถ พอจะซื้อเข้าจริงๆก็มีไม่กี่เหตุผลเช่นภาพลักษณ์แบรนด์  ราคาขายต่อ ค่าซ่อมบำรุง ศูนย์บริการ...สุดท้ายสมรรถนะรถกลายเป็นตัวเลือกกลางๆอยู่ดี
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: MoO Cnoe ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 14:52:15
มาตรฐานคุณภาพการขับขี่ของแต่ละคนไม่เท่ากันครับ
ไม่ได้หมายถึงว่าวัดไม่ได้นะครับ วัดได้แต่....

มาตรฐานการขับขี่-โดยสารที่ดีของแต่ละคน ไม่เหมือนกัน
เช่น

นาย A บอกว่า Vios คันใหม่ของเค้า ขับดีมากๆ
เพราะคันเก่าเค้าคือ Lancer E-car อายุ 20 ปี

นางสาว B บอกว่า Accord G9 ช่วงล่างแย่มากๆ แข็ง กระเทือน
เพราะคันเก่าของเธอคือ Teana J32

หรือ แม้กระทั่งปัจจัยหรือเหตุผลการซื้อของแต่ละคนก็เช่นกัน
เช่น ทำไมบางคนต้องมานั่งห่วงราคาขายต่อ หรือ ศูนย์บริการ

เพราะ เค้าอาจจะเป็นพ่อค้าขายผลไม้ที่ตลาดไท
เค้าใช้รถทุกวัน เค้าฐานะไม่ได้ดีมาก ปีๆนึงเค้าขับรถส่งผลไม้
หลายๆตลาดในกทม. ทุกๆวันปีละ 50,000-60,000 กิโลเมตร

ถามว่าระหว่าง BT50Pro ขับดีมากๆ ช่วงล่างดีที่สุดในกลุ่ม วัสดุสัมผัสดี
แต่...เข้าศูนย์เช็คระยะครั้งละร่วม 4,000 บาท Defectมีประมาณนึง
กินน้ำมันพอสมควร ศูนย์บริการที่บางครั้งต้องรออะไหล่
หรือเคลมแก้ปัญหาต่างๆยังไม่ดีและเร็วพอ
พอเค้าขายรถราคาร่วงหายไปเยอะ จะซื้อคันใหม่ต้องหาเงินมาเพิ่มอีกมาก

กับ Vigo Champ ที่ขับก็งั้นๆ ช่วงล่างธรรมดาๆ รถก็ลากขายมานาน
วัสดุก็ไม่ได้ดีอะไร แต่...เช็คระยะครั้งละ 1,000 กว่าบาท Defect ไม่ค่อยมีให้เห็น
ประหยัดน้ำมันกว่า ศูนย์บริการเคลมเร็วอะไหล่รอไม่นาน ขายต่อราคาตกไม่มาก
อะไหล่แท้เทียมมีให้เลือกมากมาย

เคสนี้ พ่อค้าควรเลือกคันไหนที่จะเหมาะกับเค้ามากกว่ากัน

สำหรับประเด็น ราคาขายต่อ ทำไมหลายๆคนยังมาสนใจหรือเป็นประเด็นหลักในการซื้อรถ
รถสองคันขายได้ราคาต่างกันแค่ 50,000 บาท
สำหรับบางคนเงินก้อนนี้ ไม่ถึงเดือนหรือเดือนเดียวก็หาได้
แต่สำหรับบางคนต้องเก็บหลายๆเดือนกว่าจะได้เงินจำนวนนี้มา

สุดท้ายนี้ผมก็ไม่ได้จะมาบอกว่า ห้ามมาพูดถึงเรื่องนี้อีกนะ ห้ามมาแสดงความคิดเห็น
เปล่าเลยครับ เรามาแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ วิจารณ์ประเด็นกันได้
แต่อย่าออกมาในลักษณะเชิงดูถูกการตัดสินใจ หรือเลือกซื้อของคนอื่น
(ผมไม่ได้ว่าใครนะครับ แต่พูดโดยรวมเท่าที่พบเจอมา)

ผมว่าบางครั้งก็ไม่แฟร์นะถ้าจะบอกว่า คนซื้อรถเจ้าตลาด เป็นคนหัวโบราณ
เป็นคนเก่าๆแก่ๆ ที่ไม่เปิดใจ เปลี่ยนใจยาก ความเชื่อเก่าๆ
หรือบางคนอาจบอกว่า โง่ เลยด้วยซ้ำ ส่วนหนึ่งอาจจะใช่ ที่ยังคิดแบบนั้น
แต่ก็ไม่ใช่ไปหมดซะทุกคน เพราะเรื่องนี้มันเป็นความต้องการที่แตกต่างกัน

เพราะลึกๆแล้ว ทุกคนก็น่าจะอยากได้สิ่งที่ดีที่สุดไม่ใช่หรอครับ
ใครกันที่อยากได้ของที่ด้อยกว่า ในราคาที่เท่ากันหรือแพงกว่า?

แต่เป็นเพราะบางครั้งสิ่งที่ดีที่สุด ก็อาจจะไม่เหมาะกับเราที่สุดก็ได้ครับ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: ferero000 ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 15:01:43
มันอาจขับไม่ดีเท่า แต่มันก็ไม่ได้ซื้อมาขับแล้ว เสียหลัก ตกข้างทางไปได้ง่ายๆหนิครับ มีโคตรรถ แต่ขับประมาท ผมว่ามันก็ไม่ต่างกันนะ รถยนหนึ่งคัน มันมีมากกว่าคุณภาพขับขี่ครับ  อยู่ที่ความพอใจว่าเราพอใจกับข้อดีข้อเสียของสิ่งที่เราจ่ายเงินไปรึเปล่า



ผมฝากไว้อีกเรื่อง จะซื้อรถอย่าเอาแต่อ่านรีวิว หรือเพื่อนเล่าแล้วไปซื้อเลยครับ ไปลองเองเหอะ  รถเราเราซื้อเอง เอาที่พอใจที่สุดคับ จะเน้นสบาย เน้นฟังก์ชั่น เน้นขับ เน้นดีไซน์ ก็แล้วแต่เลย
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: suksan4 ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 15:04:15
การตัดสินใจซื้อรถป้ายแดง แต่ละท่านมีทัศนคติที่ต่างกัน  ราคา และการตลาด มีส่วนในการตัดสินใจด้วย

ส่วนตัวอยากได้รถที่ทรงตัวดี เบรกดี เคยเลือกรถยุโรป แต่เดี๋ยวนี้จำเป็นต้องใช้รถญี่ปุ่น

เลือกศูนย์บริการเป็นลำดับแรก  เลือกประเภท ขนาดเครื่องยนต์ ชนิดเชื้อเพลิง เกียร์อัตโนมัติ และรถที่ใช้ได้นาน...
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: Aek_CM ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 15:12:48
สำหรับผมปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อรถคือ
เลือกรถที่มี ระบบความปลอดภัยที่สุด เท่าที่ผมจะสามารถซื้อได้ครับ ยี่ห้อ 0 บริการ ราคาขายต่อไม่ค่อยสนใจครับ
ชีวิตมีค่ามากกว่า  ยี่ห้อ 0 บริการ และราคาขายต่อ ครับ เพราะถ้ามีอะไรเกิดขึ้น คุณอาจไม่มีโอกาศได้ขายรถคันนั้น
ก็ได้นะครับ ...ฉลาดเลือกฉลาดใช้ แล้วชีวิตจะปลอดภัยและมีความสุขขึ้นครับ...
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: emblem111 ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 15:13:40
รถที่ขับดี (นิยามตามแต่ละคนกำหนด) กับรถที่วางใจได้ (มี defect น้อย ซ่อมไม่บ่อย ขับไม่ดับกลางทาง) มักจะไม่ได้เป็นคันเดียวกันเสมอไป.
ซึ่ง ผมเลือกอย่างหลังครับ.
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: Zephyrs ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 15:35:07
มันแล้วแต่ช่วงวัย + ความต้องการของคนขับด้วยครับ

อย่างตอนเป็นวัยรุ่นหรือ30 ต้นๆ เราจะมองที่เรื่องการขับขี่ก่อน เพราะอย่างน้อยคือเรายังมีความสนุกที่ได้ขับอยู่
มีกำลังพอที่จะเย่อกับรถได้อยู่

เพียงแต่ว่าพอพ้นวัยความสนุกตรงนี้แล้ว เราจะมองว่ารถคือพาหนะที่พาเราจากจุด A ไปจุด B ได้ และถ้ามีครอบครัว คือต้องพาไปไหนๆแล้วปลอดภัย แค่นั้นจริงๆ

ความสำคัญของคุณภาพการขับขี่ก็จะลดลงเรื่อยๆ เราจะมองไปที่จุดอื่นแทน เช่นความ Reliable ค่า Maintainace

ถามว่ามันมีไหมที่ยังสนใจคุณภาพอยู่ มันก็มีครับ อย่างที่เราเห็นคนมีอายุขับ 3,5,7 Series บางทีเคยเจอขับ Z4 อายุ 60 กว่าๆก็มี แต่มันไม่เยอะแบบช่วงวัยรุ่น/ทำงานต้นๆ
อายุราวๆ 40 ปลายๆ ก็ต้องมองความสบายแล้ว ไม่มีอารมณ์หรือแรงมาเย่อกับรถอีกแล้ว จะมาอัดแข่งกับคันอื่นบนทางด่วนงี้ก็ไม่ไหวแล้ว ใจไม่ถึง


อีกอย่างคือคนไทยมองที่เรื่องออปชั่น ค่าซ่อมแซม ศูนย์เยอะมั้ย รูปลักษณ์ภายนอกน่าสนใจมากมั้ย เรื่องการขับขี่มันเป็นเรื่องท้ายๆเลยนะครับถ้าไม่ได้สนใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 15:36:35
ผมมีความเห็นว่าในภาพรวมของประเทศเป็นแบบที่เจ้าของกระทู้กล่าวครับ
แต่ตลาดก็มีการเปลี่ยนแปลง จะเห็นว่ารถอย่าง Cruise , Mazda3 , Focus , CX5 , XV
ที่ชูจุดเด่นเรื่องการขับขี่ มันก็ขายได้มากขึ้นกว่าอดีต
ผมเห็นว่าปัจจุบันสื่อ internet เข้าถึงง่าย กดแล้วรอ 2 วินาที ข้อมูลออกมาเพียบ
ทำให้ผู้บริโภคเปิดใจยอมรับแบรนด์ที่เน้นเรื่องการขับขี่มากขึ้น

อย่างไรก็ดี ความเชื่อเดิมๆ ของคนเก่าคนแก่ก็เป็นสิ่งที่ลบล้างยากมาก
ที่สำคัญคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อการซื้อรถเป็นอย่างยิ่ง

... ทำไมไม่เอาโต ฮอน อีสุ ไปซื้อทำไม ยี่ห้อ... มันกินน้ำมัน ราคาตก
.... เห็นมั้ยบอกแล้วว่าให้ซื้อโต ฮอน จะได้ไม่มีปัญหา บลาๆๆๆๆๆ


ประโยคสนทนาข้างต้นเจอได้บ่อยมากๆ ในสังคมไทย
จากมนุษย์พ่อ มนุษย์ลุง มนุษย์เมียครับ

ตอบอย่างที่ผมคิดเล้ยยยย  :P แถมอีกเรืีองคือโตโยต้าพรีอุสที่มีดีกรีประหยัดอันดับหนึ่งของโลกในฐานะรถไฮบริด ออพชั่นความปลอดภัยมีครบไม่มีตัดออกคุณภาพระดับเดียวกับที่ขายในต่างประเทศ แต่คนไทยไม่ชอบเพราะคิดว่าอะไหล่แพงราคาขายต่อตกไม่น่าซื้อ ปั๊ดโธ่!!! แล้วแบบนี้ใครมันจะกล้าลงทุนเอารถดีๆสมราคามาขายอีกล่ะ? ขนาดแปะตราโตโยต้ายังไม่วายพ่ายค่านิยมจ่ายน้อยๆได้มากๆ  :-[  ส่วนตัวผมมองว่าโตโยต้ามีรถดีๆในมือเยอะมากกกกกก แต่เลือกเอาแต่รถในกลุ่มทำกำไรมากๆมาขายแทนเพราะว่าคนไทยไม่ซื้อจากคุณภาพแต่ซื้อจากความประหยัดเงินนี่แหละ  :P
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: NONT4477 ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 16:30:25
ถ้าเทียบระหว่าง Accord g9 กับ Teana L33
จริงอยู่ Teana ขับดีสุดในคลาส Acc แย่สุดในคลาส
แต่ที่ Accord ขายดีอันดับ1 เพราะมันไม่ได้ขับห่วยจนเหมือนขับเกวียนครับ
ถ้าเป็นเด็ก ป.ตรี Teana อาจได้เกรด A วิชาการขับขี่ Accord อาจได้ B
ซึ่วไม่ได้เลวร้ายเลยในการใช้งาน  ;)
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: rakchatb ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 17:10:15
ผมว่าเพื่อการยอมรับ มักเป็นไปตามค่านิยม และกระแสสังคมนิยมส่วนใหญ่ที่เน้นด้านภาพลักษณ์.เป็นหลัก  เป็นกับทุกๆผลิตภัณฑ์ครับ .
น้อยมากที่จะเน้นคุณภาพการขับขี่...เพราะในความรู้สึกของผู้ซื้อรถแล้ว ภาพนอกของรถมันเป็นสิ่งที่แสดงเอกลักษณ์ด้วยตาชัดเจนที่สุด
และบ่งบอก สถานะทางสังคมได้มากสุดน่ะครับ.
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: DoNg ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 17:29:26
ตอบตามตรงด้วยความเคารพ

รู้สึกไหมว่า

หลายๆ กระทู้ของ จขกท ออกแนวอยากดราม่า

หรือผมรู้สึกไปเองครับ

เรื่องแบบนี้ หลากเหตุผลครับ

เราไม่ได้เป็นคนไทยที่ไปตกอยู่ในถิ่นต่างๆ ถึงจะได้เข้าใจเหตุผลไปทุกเรื่อง

ว่าทำไมคนบ้านนอกต้องเอารถนั้นรถนี้ คนในเมืองรถนั้นรถนี้

เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดแทนเลย ว่าคนไทยอย่างโน้นอย่างนี้อีกเลย

ผมว่าเรื่องแบบนี้ คนอเมริกาก็เป็นครับ

ต่างประเทศ เค้าก็เป็นกันครับ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: f1rstgot ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 17:37:54
งงที่ ซีรีส์5ขายแทบไม่ได้เลย E เกลื่อนไปหมด ทั้งๆที่ยอดขายของคู่นี้มันก็ไม่ได้ต่างกันมาก แถมในชีวิตประจำวันผมยังเจอ F10 เยอะกว่า E อีก
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: kati348 ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 17:44:58
ความชอบเป็นเหตุผลหลัก ตอนพ่อผมต้องการออกกระบะ ผมลิสมาให้ทุกรุ่นที่พอหาได้ บอกข้อดีข้อเสีย ออฟชั่น พร้อมราคา

สุดท้ายท่านก็เลือกวีโก้อยู่ดี ...อย่าไปโทษเจ้าตลาดกับผู้บริโภคเลยครับ ต้องถามคู่แข่งดีกว่า ว่าดีพอจะท้าชิงเจ้าตลาดหรือยัง
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: despinaauto lci ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 17:55:06
     ไม่แปลกครับ เพราะราคาใกล้ๆกัน การขับขี่ไม่ต่างกันมาก แต่เรื่องศูนย์บริการ ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

     เหมือนไปรพ.โรงเรียนแพทย์ เก่ง แต่คนก็เลือกไปรพ.เอกชน เพราะเรื่องการบริการนี่เอง

     ..........ส่วน series 5 อยากบอกว่า ซื้อมาใช้แรกๆ เอ มันดีกว่า E class นะ ตามที่สื่อบอก  ชอบมาก ผมเลยไม่แปลกใจ  ว่าทำไมสื่อถึงบอกเช่นนั้น เพราะไม่ได้ใช้นานเป็นปี แบบสลับกันขับในสองยี่ห้อ

             พอใช้ทุกวัน นานเข้าๆ ภายใต้สภาวะแวดล้อมเดียวกัน มันสู้ E class ไม่ได้ครับ แต่ก็ดีกว่ารถญี่ปุ่นมาก

            ไม่เช่นนั้น ผมคงไม่ซื้อมา 2 คันครับ ..........
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 18:30:24
ไม่หรอก ทุกคนต้องการรถ  "คุณภาพการขับขี่" ทั้งนั้น แต่ความต้องการแต่ละคนไม่เหมือนกัน

เพือ่นผมคนนึงชอบรถที่ขับมันส์ แต่ไม่ชอบ BMW มันก็ใช้เบนซ์ของมันไป แต่ก็เอาไปแต่งจนขับดีกว่า BMW  หรือหลายคนที่ชอบแต่งรถซื้อบางคันไม่ได้ขับดีหรอก แต่แต่งต่อจนขับดีกว่า  หรืออีกหลายคนต้องการรถที่ขับดีตั้งแต่แรก แต่ขอแค่นั้นแหละ ไม่ไปไหนแล้วไม่แต่ง ไม่ยุ่ง

ดังนั้นเชื่อว่าทุกคนของการขับดี แต่ต้องการไม่เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: raygun ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 18:43:39
ตอบตามตรงด้วยความเคารพ

รู้สึกไหมว่า

หลายๆ กระทู้ของ จขกท ออกแนวอยากดราม่า

หรือผมรู้สึกไปเองครับ

เรื่องแบบนี้ หลากเหตุผลครับ

เราไม่ได้เป็นคนไทยที่ไปตกอยู่ในถิ่นต่างๆ ถึงจะได้เข้าใจเหตุผลไปทุกเรื่อง

ว่าทำไมคนบ้านนอกต้องเอารถนั้นรถนี้ คนในเมืองรถนั้นรถนี้

เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดแทนเลย ว่าคนไทยอย่างโน้นอย่างนี้อีกเลย

ผมว่าเรื่องแบบนี้ คนอเมริกาก็เป็นครับ

ต่างประเทศ เค้าก็เป็นกันครับ



+100 ครับ
เรื่องเลือกซื้อรถมันเป็นเรื่องเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล
แล้วมันไม่ได้เป็นเฉพาะคนไทย มันก็เป็นกันทั่วโลก
เพราะถ้าทุกคนชอบเหมือนกันหมด มันจะมีรถหลายๆยี่ห้อไว้ทำไม

อย่างบางคนบอกทำไมคนไทยไม่ซื้อพรีอุส ผมบอกได้เลยว่า
ต่อให้มันคันละ 3 แสนผมก็ไม่ซื้อ เพราะหน้าตามันน่าเกลียด
ผมไม่อยากขับรถที่คนอื่นบอกกันว่าดี แต่ผมต้องเห็นมันทุกวัน
และผมรู้สึกว่าหน้าตามันน่าเกลียด

แต่ละคนก็มีเหตุผลในการซื้อรถของตัวเอง และที่สำคัญมันเงินเค้า
คุณไม่ควรไปตัดสินเรื่องแบบนี้แทนคนอื่นเลย

ps. เรื่องซีรีย์ 5 กับ E ต้องถามคนที่ใช้สลับกันทั้งสองรุ่น
ซึ่งส่วนใหญ่ถามมาบอกชอบ E มากกว่าทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: tennessee ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 19:04:53
ต้องถามก่อนว่าคุณภาพการขับขี่ ride ในความความหมายคุณคืออะไรเป็นหลัก  คุณภาพในการขับขี่ในความเห็นส่วนตัวผม ส่วนใหญ่คะแนนที่ได้เยอะกระเดียดไปทางรถใหญ่ที่ช่วงล่างซับแรงสะเทือนได้ดี นั่งนิ่มก้น ไม่สะเทือน พวกนี้จะมีคุณภาพการขับขี่สูง ต้องแยกกับคำว่า handling กับ rideให้ออก แฮนลิ่งดี ก็ไม่จำเป็นต้องมีคุณภาพการขับขี่ที่ดี มันจะไม่เดินไปตามเส้นขนานกันไปซะส่วนใหญ่ เพราะรถที่มี handling ดี ส่วนใหญ่ช่วงล่างกระชับ แข็ง ช่วงล่างมีความกระด้าง จะได้คะแนนไปทางในส่วนของ fun to drive มากกว่าด้วย  ในส่วนนี้ก็ถือว่าคุณภาพการขับขี่ ride เป็นรอง รถที่ยั่งนิ่มก้นมากๆ ซับแรงสะเทือนดีๆ พวกนี้ถือว่าคุณภาพการขับขี่ดี แต่ส่วนใหญ่แลกด้วย handling เป็นรอง เหตุปัจจัยนี่จึงมีผลทำให้ความต้องการของลูกค้าแตกต่างกันครับ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: Arado_kung ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 20:23:52
คนแต่ละคนใช้ปัจจัยในการเลือกรถไม่เหมือนกันครับ เยอรมันเพื่อนผมคนนึงมันใช้ Toyota Avensis ผมถามว่าทำไมไม่ใช้ Series3,C-Class หรือ A4 ฟระ รถเยอรมันที่บ้านเอ็งถูกจะตายชักแพงกว่ารถญี่ปุ่นนิดเดียวเอง คุณเพื่อนบอกใช้รถเยอรมันแล้วเบื่อมีซ่อมจุกจิกเยอะ โตโยต้าขับดีสู้่รถเยอรมันไม่ได้แต่มันไม่ค่อยงอแง เวลาเสียก็ไม่ค่อยซับซ้อน ซ่อมง่ายกว่ารถเยอรมัน ไอ้เราฟังแล้วรู้สึกมันคล้ายๆประเทศตัวเองดีจังเลย  :D  :D  :D
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: whoami ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 20:37:11
ขับทั่วๆไป ไม่เกิน 120 ผมก็ไม่เคยเห็นว่ารถที่การขับขี่ไม่ดี มันจะไม่เกาะจนบินได้นะครับ

บางคนรถเป็นแค่ยานพาหนะ พาเค้าไปถึงที่หมายได้ ไม่เสียกลางทาง ถ้ามีปัญหาก็ซ่อมง่ายซ่อมจบ เบื่อก็ขายต่อง่าย แค่นี้ก็แฮปปี้แล้ว

แต่บางคนชอบการขับขี่ เสพความรู้สึกในการขับขี่ ต้องเกาะถนนหนึบๆ จะเร่งจะแซงต้องทันใจสุดๆ เรื่องอื่นไม่สน

นานาจิตตังครับ

หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: 0% ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 20:48:34
รถดี ไม่มีปัญหา ซ่อมถูก

นี่แหละ ขายได้ สำหรับคนไทย

รองๆลงมา คือ ความสวยงาม การออกแบบ

รองลงมาอีก คือ เครื่องยนต์ พละกำลัง

เพื่อนผมเล่นรถด้วยกัน ชอบขับรถมาก มีเงินออก bm มาคันนึง ใช้คันเดียว บอกพอจบ เลิกกัน ไปซื้อเบนซ์ขับสองคัน สบายใจ

ตัวผม เมื่อก่อน พ่อดูแค่รถตลาด toyota honda isuzu ผมละหงุดหงิดมาก หลังๆโตขึ้นหน่อย ค่อยจะพอเข้าใจ คือ ซื้อรถด้วยเงินตัวเอง ลองมาหลายรุ่น หลายยี่ห้อ ที่มันขายได้ดี

คือความทน รถใช้ไปนานๆมันต้องทน เรามีความผุกพัน ไม่ใช่มาทรยศ ให้เราเสียตังค์เรื่อยๆ ใช้แล้ว สบายใจ ไม่ใช่เพิ่มความกังวล

ฉะนั้นพวก toyota benz ทำคะแนนพวกนี้ไว้กับประสบการณ์ขอผู้ซื้อ ในระยะยาว ไว้ดีมากๆ

ถึงตอนนี้ผมอายุ 23 จะซ์้อรถก็ดูถึงลึกไปถึง การซ่อม ความจุกจิกของรุ่นนั้นๆ อะไหล่เซียงกง มีรึเปล่า หายากไหม คนเล่นเยอะขนาดไหน ปัจจัยเหล่านี้เป็นอันดับต้นๆของผมเลยในการเลือกซ์้อ

รถขับดี ดีไซน์สวย วัสดุแจ่มแบบ cruze ผมก็ไม่เอานะ

เรื่องความทนทาน คุณภาพ qc ผมเรียงลำดับสามอันดับแบบนี้

isuzu
toyota
honda

ของภายในอาจจะไม่แพรวพราว แต่ใช้ระยะยาว แล้วสบายใจ  ;D
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: fishfinger ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 21:09:01
ผมว่าเหตุผลเป็น3ข้อหลักๆ

1. คุณภาพคน เมืองไทยได้ใบขับขี่ง่ายเกินครับ ทำให้คนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องทั้งตัวรถ และ กฏจราจร มีเป็นจำนวนมาก แล้วด้วยคนพวกนี้ไม่คิดอะไรมาก ก็เลยไปซื้อรถจากเจ้าตลาด ที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก ใช้อย่างเดียว ซ่อมง่าย ศูนย์เยอะ

2. เงิน คนคิดมากเรื่องราคาขายต่อ แบบผมใช้Mazda3 ใครๆก็บอกว่าราคาตก แต่ผมยอมรับได้ ไม่เสียดายตังที่ราคามันตกตอนที่จะขายมือ2 ก็เหมือนกับว่าคนใช้ยี่ห้อรองๆ ต้องจ่ายตังเพิ่ม ถ้าจะซื้อรถคันใหม่ ซึ่่งบางคนงบไม่ถึงการเงินตึง เลยต้องใช้ที่มันขายต่อได้ราคาดีๆ อะไหล่ถูกๆ เข้าว่า

3. ศูนย์บริการ อันนี้ขี้เกียจพิมพ์

ผมว่า 90% ไม่มีใครสนใจหรอกว่า ขับดีขับไม่ดี วัยรุ่นงบน้อยอยากแว้นก็ออก Vios วัยรุ่นอยากเท่ ก็ Civic ผู้ใหญ่ ก็ Camry Accord  มันง่ายๆอยู่แค่นี่แหละ

หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: Impulse ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 21:21:47
ก็ไม่ถูกซะทีเดียวครับ ผมเคยเห็นยอดขายกลุ่ม CUV ที่ อเมริกา จากเว็บไหนซักเว็บ ข้อมูลชุดนั้นเขียนว่า
CR-V ขายดีที่สุด เราๆท่านๆก็คงรู้กันแล้วว่าถ้าแข่งกับ Cx-5,Forester,Tucson ถ้านับเฉพาะคุณภาพการขับขี่ CR-V ไม่น่าสู้ใครได้เลย
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: decptt ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 21:29:50
ส่วนตัวผม จัดมาก็หลายยี่ห้อ
TT Mighty-X (รถพี่ ขายแล้ว)
NS Altima (ขายแล้วใช้ Accord)
HD Accord'95 (ขายก่อนกลับ)
TT Vigo (น้องชาย ใช้อยู่)
Ford Ranger (ขายแล้ว)
TT VIOS (น้องชาย ใช้อยู่)
IS DMax (ใช้อยู่ 4.5ปีแล้ว)
Mitsu Triton 2.4LPG (ใช้อยู่ 3ปีแล้ว)
NS J32 (ภรรยาใช้ 2ปีแล้ว)
Suzuki Carry Pickup (ป้ายแดง)

ผมไม่ยึดกับยี่ห้อ และผมได้ลองใช้มาหลายรุ่น และบางรุ่นต้องการเอามาลองเรื่องศูนย์บริการ
เช่น Suzuki (ลอง1000กิโลแรกแล้ว), Mitsubishi (เข้าทุกครั้ง 88000กิโลแล้ว)

ลองเพื่อแนะนำเพื่อนฝูง และลูกค้า ซึ่ง มันก็จริงอย่างที่เขาพูดมา TT IS สุดยอดของศูนย์จริงๆ NS รองลงมา Mitsu Ford ผมไม่แนะนำสำหรับคนที่ซื้อรถแล้วไม่อยากจะเสียเวลา
มันไม่เกี่ยวกับการขับขี่ดีไม่ดีขนาดนั้นครับ เพราะคนทั่วไป ขอจากจุด A ไปจุดB ที่พอดีกับเงินในกระเป๋า และ "ไม่เสียเวลาทำกิน" แค่นั้นครับ
ผมอ่านHLMเยอะ ซื้อ J32 ก็เพราะเวปนี้ แต่ผมก็ยังทำใจเลือก Ford, Mazda ยังไม่ได้ ถึงแม้จะ "ขับขี่" ดีกว่า
ผมมี รถ"คันเดียว"นะครับ แค่แฟนผมบังคับ เอาไปซ่อมสี นาน 5 วัน ผมก็บ่นเป็นหมีกินผึ้งแล้วครับ คนจะใช้งาน ไม่ได้ต้องการรถสวยงามชนะเลิศ ถลอกนิดหน่อยช่างมันเถอะ
รถมีไว้ใช้ ใช้ให้พังคาเท้าครับ แต่ผมก็ไม่ได้ขับเร็วมากมาย ถึงจะเอาขับขี่ดีเลิศ ขับขี่ใช้ทำเงินให้มากกว่า ค่าตัวของรถมันเองครับ ใช้แค่พัง แล้วซื้อใหม่ ก็เท่านั้นเองครับ

ความคิดเห็นส่วนตัว ด้วยความเคารพ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: SP ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 21:44:18
กล้าพูดได้เต็มปากว่าที่บ้านผมไม่เคยซื้อรถมาใช้งานเพราะคิดแค่ราคาขายต่อครับ ใครจะว่าไงก็ช่างเขาครับ

เงินเรา เราจ่าย ซื้อที่เราสบายใจ อีกอย่าง ความคิดของหลายคนไม่ตรงกัน มองต่างกันต่างมุมมอง  ;D
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: cloud ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 21:48:34
ส่วนผมเลือกรูปทรง ออพชั่น มาอันดับแรกครับ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: JAZZ2416 ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 21:54:13
ผมชอบ commetn ของคุณ Ty ESC ครับโดนมากๆ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: tosa ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 22:03:33
ผมก็ไม่ได้เลือกซื้อรถจากการขับขี่เป็นโจทย์แรกและ ออฟชั่น รูปทรง ราคาขายต่อ ศูนย์บริการ ก็ไมได้เป็นเหตุผลหลักด้วย...ผมให้ความสำคัญกับประเภทของรถที่ต้องใช้ ความปลอดภัยของคนในรถ และเงินในกระเป๋าก่อนเสมอ ที่เหลือก็ใช่ว่าไม่สำคัญแต่ไม่ใช่หลักเท่านั้น
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: shikima ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 22:09:55
ก่อนจะเอาเรื่องการขับขี่ ผมว่าทุกคนมองกระเป๋าตังตัวเองก่อนตลอด
บางคนบอกคันนั้นดี คันนี้ดี แต่เขาไม่ได้ช่วยผ่อน ถ้าไปเชื่อทั้งหมดแล้วตามเขา ก็อาจจะจ่ายไม่ไหว
รถดีๆ อย่าง อิม หรือ wrx ขนาดมันไม่ได้ใหญ่ไปกว่า ซีวิค เลย แต่ราคามันซื้อ แอคคอร์ด หรือ ซีวิคคัน แถม ซิตี้ อีกคัน ยังได้เลย
ในเมื่อราคามันเป็นปัจจัยหลัก รถดีแค่ไหน ถ้าเงินคือปัญหา อยากได้แค่ไหนมันก็ซื้อไม่ได้หรอกครับ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: beerrl ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 22:29:39
ราคาค่าตัวของรถในเมืองไทย สูงมากๆเมื่อเทียบกับเงินเดือน หรือ รายได้เฉลี่ยของประเทศ
ดังนั้น ความที่ว่ารถแพง ราคาขายต่อจึงสำคัญ รวมถึงค่าดูแลที่ต่ำก็เป็นสิ่งที่สำคัญพอๆกัน

รถบางคันขับดีมาก แต่ เป็นรถที่ขายต่อยาก ศูนย์น้อย อะไหล่น้อย คนส่วนใหญ่ก็เมินครับ

ลองคิดง่ายๆอย่างเมืองนอก รถเขาราคาไม่แพง รายได้เขาก็สูง เขาก็เลือกรถตามใจได้โดยเรื่องราคาตก เรื่องซ่อม ไม่ใช่สิ่งหลักที่จะมาพิจารณา
แต่กับเมืองไทย คงใช้ได้กับคนส่วนน้อยที่รายได้ดีๆเท่านั้นครับ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: Pat.Lee ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 22:30:44
ขอเสนอมุมมองของรถในเชิงพาณิชย์เพิ่มครับ
รถส่งของที่บริษัทเลือกใช้แต่ Toyota กับ Isuzu เพราะรถส่งของต้องใช้ประจำทุกวัน จะเข้าศูนย์ก็ต้องวางแผนกันล่วงหน้าเป็นสัปดาห์จัดตารางส่งของให้เรียบร้อย ดังนั้นรถพวกนี้จะจุกจิกเดี๋ยวซ่อมเดี๋ยวเสียไม่ได้เด็ดขาดครับ ถ้าเสียซ่อมแล้วต้องเร็วและต้องจบด้วยนั้นคือเหตุผลว่าทำไม รถเชิงพาณิชย์ส่วนใหญ่ถึงได้เป็น 2 ยี่ห้อนี้ครับ เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นต้องมองที่รถแท็กซี่เลยครับ ทำไมต้อง Altis ก็เพราะมันทนไม่จุกจิกเสีย 1 วัน รายได้ก็หายไป 1 วันครับ

นอกจากนั้นผมก็เห็นด้วยกับของคุณ Ty Esc ด้วยคนครับ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: AMG GT ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 22:32:57
ถ้าสำหรับผมนะ  ถ้าจะซื้อรถสักคนนะ(ตอนนี้เรียนอยู่) 
1.ศูนย์เป็นไงบ้าง
2.option ความปลอดภัยเป็นยังไง
3.น่าตาถูกใจมั้ย
4.defect  ที่เจอกันในรุ่นนี้มันใช้ปัญหาใหญ่หรือไม่
5.สุดท้ายเงินครับ  ซื้อตามที่เราจ่ายได้อ่ะนะ

อันนี้ คหสต. นะครับ   คนไทยหลายๆคนนะครับซื้อรถที่  ภาพลักษณ์    เชื่อผมมั้ยครับถึง benz bm  รถแพงๆหน่อยมันขับได้ดีเท่ากันๆ  ความปลอดภัยเท่ากันๆ   แต่สำหรับบางคนแค่มันมีตรา benz  bm  แปะอยู่ก็ซื้อเพราะ ภาพลักษณ์  ไงครับ      ความเห็นส่วนบุคคลนะครับ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: panerai ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 22:40:32
อย่าว่าแต่คนไทยเลย ฝรั่งก็ด้วย เป็นกันทุกประเทศล่ะครับ
 มันขึ้นอยู่กับปัจจัยที่เอื้ออำนวยต่อความน่าใช้ของยี่ห้อรถต่างๆในแต่ละประเทศมากกว่าครับ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: HYDE-- ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 22:59:30
ถ้าถามผม แน่นอนว่า ผมให้ความสำคัญกับคุณภาพการขับขี่ เป็นอันดับต้นๆ แต่ก็ยังไม่ใช่อันดับ 1

แต่ถ้าคนทั่วไป โดยเฉพาะ คนที่ไม่รู้เรื่องรถ คนขับรถไม่เร็ว คนใช้รถแต่ในเมือง
ประเด็นหลักๆ คงจะเป็น ภาพลักษณ์ ศูนย์บริการ ราคาขายต่อ การใช้งาน ความสวย
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 23:24:01
เพราะรถหนึ่งคัน ต้องตอบโจทย์ทุกด้านสำหรับคนไทยครับ เพราะราคารถของเรา สวนทางกับค่าครองชีพมาก

จริงๆ ผมไม่ชอบ Vios โฉมที่แล้วเท่าไรนัก ผมอยากได้ Lancer CNG ด้วยซ้ำ แต่ผมมาลงเอย เพราะเรื่อง cost of ownership ในระยะยาว เพราะในความเป็นจริง สำหรับผมที่ขับรถในเมือง จะหนึบแบบ Fiesta หรือย้วยแบบ Vios มันก็พาผมจากบ้านไปที่ทำงานได้เหมือนกัน อาจจะต่างกันเรื่องรายละเอียดปลีกย่อยบ้าง เช่น ความเร็วที่ใช้ หรือความสบาย แต่เมื่อตีออกมาเป็นมูลค่าทางการเงินแล้ว สุดท้าย Vios มันก็ชนะ เพราะเรื่องศูนย์บริการ กับราคาขายต่อ เพราะสุดท้าย มันเป็นมูลค่าที่ชัดเจนกว่าสำหรับผมครับ

ปล. จริงๆ ผมก็เจ็บใจนะ ว่าทำไมไม่เอารถที่เป็น All round performer แบบ City ดันกลัวเรื่อง LPG ไปหน่อย ตอนนั้น สุดท้ายก็ลาออกมาเรียนต่อไม่ได้ติด LPG T-T
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: ferero000 ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 23:32:05
เอาจริงๆ จากใจเลยน่ะครับ นิสัยคนไทยซื้อรถเนี้ย คนทั่วโลกเค้าก็เป็นกันครับ ผมเห็นพูดแต่คนไทยยังงั้นยังงี้ ซื้อรถสนราคาขายต่อบ้าง ซื้อรถเจ้าตลาดบ้าง อะไรบ้าง เอาจริงๆ ผมว่ามนุษย์คนหนึงเค้ามีเหตุผลในการเลือกซื้อของแตกต่างกันออกไปครับ อย่าเอาบรรทัดฐานของตัวเองไปตัดสินคนหรือมองคนจากรถเลย ผมว่ามันคิดสั้นไปหน่อยหนึงนะ  :)
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: aobness ที่ พฤษภาคม 12, 2014, 23:36:53
ผมคนนึงไม่ใช่ครับล่าสุดลองนั่ง volvo ชอบ เลยลองขับชอบ เลยจัดเรียบร้อย
ความคุ้ม สมรรถนะ  แต่มีแต่คนบ่นบลาๆๆๆ ในตัวแบรนด์แต่เอาเถอะ
คิดมากชาตนี้ผมคงอยู่กับ honda , toyota
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: ^Yimm@^ ที่ พฤษภาคม 13, 2014, 00:50:22
สำหรับผม E กับ5 ผมเห็นพอๆกันนะ ในกทม.5ป้ายแดงว่อนเลยนะ
สำหรับพวก Ford Mazda Chev Subaru เอาจริงๆยี่ห้อพวกนี้รถดี น่าใช้ แต่หลังการขายมันสู้เจ้าตลาดไม่ได้จริงๆ
รถดีขับแล้วชอบ แต่ถ้ามีปัญหาอะไรจุกจิกนิดหน่อยก็เซ็งเหมือนกัน เช่นรอทำสีนาน อะไหล่นาน บลาๆๆ
แต่สำหรับผม ผมเลือกรถที่ขับแล้วชอบมาก่อนตลอดนะ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ พฤษภาคม 13, 2014, 03:46:34
มันก็คือความแตกต่างไงครับ

และมันไม่จำเป็นเสมอไปนะที่คนซื้อรถเจ้าตลาดจะต้องคิดถึง ราคาขายต่อ 0บริการ อะไหล่

และก็ไม่จำเป็นอีกเช่นกันว่าคนซื้อรถไม่ใช่เจ้าตลาดจะต้องคิดถึง การขับดี การเกาะถนน วัสดุ

หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: Cleaner ที่ พฤษภาคม 13, 2014, 07:08:17
ก็มีทั้งจริงและไม่จริงในตัวเพราะคนเราให้ความใส่ใจในแต่ละจุดไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น
เรื่องรถยนต์ บางคนเน้นความปลอดภัย บางคนเน้นการขับขี่ บางคนเน้นง่ายๆสบายๆมีอะไรก็เข้าศูนย์ทีเดียวจบ  หลายคนชอบ AT และหลายคนเลือกที่จะขับ MT
การแต่งกาย บางคนต้องเนี้ยบ บางคนชิลๆ
อุปนิสัยส่วนตัว หลายคนสนุกสนานเฮฮา หลายคนจริงจังตลอดเวลา 
การเลือกซื้อบ้าน บางคนชอบโมเดิร์น บางคนชอบวินเทจ บ้างก็ชอบบ้านไม้
การเลือกเมีย บางคนชอบเมียเด็ก บางคนชอบรุ่นใหญ่ ปะปนกันไป

ไม่มีใครผิด ดีหรือไม่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับกระเป๋าตังทั้งสิ้น  ;D
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: blade ที่ พฤษภาคม 13, 2014, 09:19:50
ซื้อรถ ก็เหมือนกับการเลือกผู้หญิงครับ อยู่กับใครสบายใจก้ออยู่กับคนนั้น ขับคันใหนแล้วเข้ามือ ก็ควรขับคันนั้นครับ
เหมือน ผญ สองคนที่คนหนึ่ง ตาสวยกว่านิดหน่อย ปากสวยกว่านิดหน่อย ผิวขาวกว่านิดหน่อย
แต่สุดท้ายเราอาจจะเลือกคนที่นมใหญ่กว่าก็ได้นะครับ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: XL_SiZe ที่ พฤษภาคม 13, 2014, 12:57:38
ส่วนผมมีเหตุในการเลือกซื้อรถ 10 ข้อครับ

1.รูปร่าง หน้าตา
2.รูปร่าง หน้าตา
3.รูปร่าง หน้าตา
4.รูปร่าง หน้าตา
5.รูปร่าง หน้าตา
6.รูปร่าง หน้าตา
7.รูปร่าง หน้าตา
8.รูปร่าง หน้าตา
9.รูปร่าง หน้าตา
10.รูปร่าง หน้าตา

ครับ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: THEKHAM ที่ พฤษภาคม 13, 2014, 13:20:39
ผมใช้ b- segment ยี่ห้อชื่อเสียๆหายๆ
ชอบหน้าตา
ออฟชั่น
ความแข็งแกร่งเรื่องความปลอดภัย
ประหยัดน้ำมัน
การขับขี่
ใช้มานานจุกจิกแค่ไหน ผมเอามาขับก็ลืมความยุ่งยากหมด
ผิดกับยี่ห้อเจ้าตลาด b- segment ขับง่ายในเมืองสบายกว่า
แต่เหนหน้าตาชอบไม่ลงจริงๆ ของแฟน ผมขับให้บ่อยๆ
สรุปหน้าตามาอันดับต้นๆเลย

หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: ball.design ที่ พฤษภาคม 13, 2014, 14:19:23
ก็แล้วแต่คนชอบ ชอบสิ่งไหนก็ซื้อสิ่งนั้น เงินผมไม่ได้ขอใครมาซื้อ ผมใช้โตต้าคนว่าอย่างโน้นอย่างนี้ บอกว่า อีซุ ฮอนด้า ดีกว่าอย่างโน้นอย่างนี้ ใช้แล้วบินได้ก็ว่าอย่าง
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: Thuvachit ที่ พฤษภาคม 13, 2014, 14:31:53
เจ้าของกระทู้ลืมไปหรือเปล่าครับ ว่าประเทศไทยเราเข้าสู่ยุค BABY BOOM แบบเต็มตัวแล้ว
คนที่กำเงินซื้อรถคือ ปู่ย่า ตายาย ลุง ป้า ทั้งหลาย ที่วัยรุ่นชอบซิ่งได้แค่ขับรถให้นั่ง
ไม่ได้ตัดสินใจเลือกรถเอง

ส่วนผม ถึงเป็นคนรุ่นใหม่ เข้า internet สืบค้นข้อมูลรถเป็นอาจิณ
และได้ซื้อรถใช้เองมาหลายยี่ห้อแล้วจะรู้

ว่าสุดท้ายก็ต้องรถตลาด ที่คุณภาพการขับฟรุ๊งฟริ๊ง แต่มันมี reliability สูง
ไม่เหมือนรถที่ขับเมพขิงๆ แต่ทำคุณเสียการเสียงานธุระสำคัญ เข้าศูนย์เคลมอุปกรณ์เป็นว่าเล่น
กินข้าวลิงข้างทาง ตากแดดเป็นไก่อบรอรถลาก หรือต้องไปนั่ง taxi เพราะรออะไหล่เทพ

FEDFE จริงๆ  ;D
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: balliblue ที่ พฤษภาคม 13, 2014, 19:16:12
เห็นด้วยแหละครับ โดยรวม ผมว่าคนซื้อคนซื้อที่ความคุ้มค่าที่เค้าคิดว่าพอใจกับความชอบครับ
ซึ่งผมก็เป็นเเบบนั้น ผมจะดูจาก ดีไซน์ก่อนเลยว่าชอบอันไหน ออฟชั่นคุ้มค่า กว่าคุ่แข่งหรือใกล้เคียงกันหรือไม่ ซึ้อแล้วดูไม่โง่ใช่ไหม ว่าแพงชิหายแต่ออฟชั่นกุด
อีกยี่ห้อออฟชั่นเต็มราคาเท่ากัน เป็นต้น

ปล ยกเว้นว่าชอบดีไซน์มันโคตรๆ ก็จะตัดทุกสิ่งออกไป ผมเป็นคนเลือกรถด้วยสมองซีกขวามากกว่า 555  ;D
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: MaiSki ที่ พฤษภาคม 13, 2014, 20:33:07
1. รูปร่างหน้าตา
2. cc เครื่อง
3.ศูนย์บริการ

3ข้อพอละที่เหลือเดินหน้าถอยหลังแอร์เย็นมีเพลงฟัง ได้เหมือนกันหมด
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: prysakol ที่ พฤษภาคม 13, 2014, 23:13:42
ผญ นิสัยดี แม่พระใจบุญ แต่ไม่สวยเลย

กับ

ผญ นิสัยกลางๆ หน้าตากลาง

กับ

ผญ นิสัยแย่หน่อย แต่สวยเอกซ์เซกส์ระเบิด

จะเลือกแบบไหนครับ

ต่างคนต่างเหตุผล จะมาบังคับว่าต้องชอบคนดีเท่านั้น ไม่ได้หรอกครับ

ปล ไม่ได้ลบหลู่เรื่อง ผญ นะครับ แต่คิดว่าคงเห็นภาพชัดเจนดีครับ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: shando ที่ พฤษภาคม 14, 2014, 00:04:12
คือสำหรับคนส่วนใหญ่ รถเป็นแค่พาหนะพาจากจุดAไปจุดBแค่นั้น
ดังนั้นรถที่ดีคือรถที่พาเค้าไปยังที่หมายได้ โดยไม่เสียกลางทาง ไม่ต้องลงเงินกับมันมากไป จะได้เอาเวลาเอาความคิดไปลงกับอย่างอื่น ไม่แปลกที่เค้าจะเลือกรถที่ศูนย์ดี ซ่อมถูก
ส่วนสำหรับผม ปกติขับรถในกทม.ด้วยความเร็วเฉลี่ย20กม./ชม. เวลาส่วนใหญ่จอดติดมากกว่าวิ่ง เลยไม่รู้ว่าจะเอารถที่คุณภาพการขับขี่ดีไปทำไมในเมื่อไม่เห็นความแตกต่างในชีวิตประจำวัน
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: Volta ที่ พฤษภาคม 14, 2014, 01:20:11
ยี่ห้อที่ผมใช้อยู่ตอนนี้ คุณภาพการขับขี่ถือว่าดีเยี่ยม แต่ความไว้ใจได้ของตัวรถไม่ดีนัก
คันต่อไปของผม ผมยอมเลือกคุณภาพการขับขี่รองลงมา แต่ความไว้ใจได้ของตัวรถต้องดีกว่ายี่ห้อเก่า
เพราะผมใช้รถทำงาน  หากรถผมเสีย นั่นหมายถึงรายได้ที่หายไป

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมก็ยังยึดถือคุณภาพการขับขี่เป็นอันดับรองลงมา
เพราะหากที่รถยี่ห้อที่ไว้ใจได้ แต่คุณภาพการขับขี่แย่ ผมคงไม่เอา  เพราะผมขับรถเยอะ
อาทิตย์นึงใช้รถเกือบทุกวัน หากคุณภาพการขับขี่ไม่ดี พวงมาลัยไม่นิ่ง เบาะนั่งนั่งไม่สบาย คงทรมาณน่าดูครับ
จะกลายเป็นสบายใจ แต่ไม่สบายกายเปล่าๆ

ผมเองก็เอาใจช่วยยี่ห้อที่ผมใช้อยู่ ให้เขาเร่งปรับปรุงคุณภาพตัวรถ ให้ดีขึ้น ไว้วางใจได้มากขึ้น
พูดง่ายๆคือไห้โอกาส ยังไม่ตัดออกจากลิสของรถในอนาคตที่จะซื้อ ถ้าเขาสามารถทำได้ ผมก็พร้อมจะกลับไปซื้อเขาอีก
แต่ตอนนี้คงต้องพักไว้ก่อน เพราะยังได้เห็นปัญหาไห้ได้ยินอยู่เนืองๆ

หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: Mark_UK ที่ พฤษภาคม 14, 2014, 03:19:42
ผม ตัวคนเดียว ตอนนี้เรียนอยู่บ้านนอก ตปท. จบไปทำงาน รถไม่ใช่ปัจจัยหลักในชีวิต ผมสามารถนั่งรถอะไรไปทำงานก็ได้ในกรณีรถต้องจอด หรือในอนาคตผมต้องทำธุรกิจควบกับงานประจำ ก็วางแผนมีรถสำรองในธุรกิจไว้ใช้แล้ว และผมมั่นใจว่า จะสามารถดูแลรถเองได้โดยไม่ต้องพึ่งศูนย์บริการมากนัก

ดังนั้นรถที่ผมจะซื้อ จึงเป็นวัตถุที่ให้คุณค่าทางจิตใจ สังคม และตอบสนองกิเลสความสุขที่เกิดจาการขับขี่ของปุถุชนกิเลสยังหน้าอยู่ล้วนๆ จึงต้องเรียงลำดับความสำคัญในการซื้อดังนี้
1. คุณภาพการขับขี่และความปลอดภัย - ผมคงไม่มีความสุขกับรถที่ไม่ตอบสนองความอยากของผม
2. ภาพลักษณ์และความสวยงาม(ตามความชอบ) - เห็นทุกครั้งต้องชอบและไม่มีวันเบื่อ
3. ความประหยัดน้ำมัน - ชอบขับรถเล่น กินลมชมวิว ถ้าเหยียบไปซดไป คงจ๋อยตอนเข้าปั๊ม
4. ออปชัน - เอาที่ชาวบ้านๆเขามีและสะดวกสบายหน่อย เพราะจ่ายตังค์ซื้อมาแล้วก็อยากได้ความสบายบ้าง
5. ศูนย์บริการและราคาขายต่อ - ไม่ค่อยซีเรียสครับ ถ้าไม่ห่วยขั้นเทพจริงๆ

ถ้ามีเงินเยอะ ผมไป premium ป้ายแดงแน่นอน คงไม่สนเรื่องราคาขายต่อ
ถ้ามีเงินน้อยกว่า ผมก็ยังไป premium ด้วยเหตุผลด้านการขับขี่และภาพลักษณ์ แต่คงเป็นมือสองเพราะมูลค่าจะได้ต่ำและคุณค่ายังสูงอยู่
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: tinypiglet ที่ พฤษภาคม 14, 2014, 09:26:00
เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของบุคคลครับ แต่ก่อนผมก็ซื้อรถที่ขับดีที่สุด แต่ถ้าคันต่อไปผมจะเลือกที่โดยรวมเข้ากับ life style ของผมนะ ผมคิดว่าขับตามถนนเมืองไทยแบบปกติรถคลาสเดียวกันถ้าคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องรถมันไม่ต่างกัน หรือ เค้าแยกความแตกต่างไม่ออกอ่ะ แล้วจะเลือกที่ขับดีไปทำไมถ้าไม่รู้สึกว่าต่างกัน ต้องเข้าใจว่าคนส่วนใหญ่เค้าไม่ได้ขับซิ่งขนาดเค้นสมรรถนะของรถออกมาได้หมด ยอดขายมันก็เป็นไปตามแบบนั้นแหละครับ

แต่ก่อนผมเลือกรถดู 0-100 ก่อนเลยกี่วิ 555555
ตอนใช้จริงกี่ครั้งที่เหยียบมิด กลัวเปลือง แล้วถ้าไม่ได้ดูตัวเลขถามว่ารู้สึกไหมว่าเร็วกว่า ตอบเลยว่าไม่ 5555
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ พฤษภาคม 14, 2014, 09:50:52
รถบ้านเราแพงครับคนส่วนใหญ่ในประเทศเลยทั้งชีวิตๆนึงสามารถซื้อรถได้กี่คันกันเชียวตอนซื้อเลยต้องคิดเยอะๆไว้อีกอย่างสมรรถนะและประสิทธิภาพจะมีกี่คนเชียวที่ใช้ได้อย่างเต็มที่ตลอด วิ่งสูงสุด 200 แล้วไงจะขับแค่ 110 ประหยัดน้ำมันกับปลอดภัยกว่า อัตราเร่ง 0-100 ต่ำ 10 วิแล้วไงถ้าไม่ได้ติดไฟแดงหน้าสุดก็ต่อท้ายคันหน้าอยู่ดีหรือต่อให้หน้าสุดก็กั๊กๆกลัวพรรคพวกที่เพิ่งไฟแดงไหลฝ่าไฟแดงจะชนข้างกันเอา ซึ่งเอาเข้าจริงรถที่ว่านี่ก็ไม่ได้แย่อะไรนักด้วยซ้ำ (ยกเว้นบางรุ่น) มีเพียงพอให้กับคนทั่วๆไปได้ใช้งานเท่ากับว่าจุดเด่นในด้านนี้ไม่ค่อยมีผลนัก พอเป็นด้านอื่นอย่างอะไหล่เยอะ ช่างซ่อมง่าย อู่เพียบ ศูนย์เยอะ ขายง่ายได้ราคา อันนี้ผมว่าจัดต้องได้อย่าเป็นรูปธรรมเลย


โดยเฉพาะเรื่องหลังการขายนะอย่างผลิตภัณฑ์ของ Ford นี่ผมว่าเยี่ยมยอดอยากให้ศึกษา Isuzu ให้ดีถ้าทำได้หล่ะก็จะเป็นเจ้าตลาดได้เลยนะ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: CarameLon ที่ พฤษภาคม 14, 2014, 10:17:18
ผมว่าคุณภาพการขับขี่มันจะเริ่มมีแนวโน้มได้รับความนิยมมากขึ้นแล้วนะครับ
เพราะรถใหม่ๆสร้างออกมาให้คุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเรื่องสมรรถนะและรูปร่าง
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: blade ที่ พฤษภาคม 14, 2014, 14:49:36
เพราะ สคบ. ครับ
หัวข้อ: Re: รู้สึกไหมว่า คนไทยซื้อรถ "คุณภาพการขับขี่" ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เริ่มหัวข้อโดย: CJ. ที่ พฤษภาคม 14, 2014, 15:27:31
ในความคิดของผมนะครับ

ผมซื้อรถ premium ไม่คิดอะไรมากครับ เลือกรูปร่างหน้าตาที่ชอบเลยอะครับ ผมคิดว่ารถระดับนี้ของแต่ละค่าย เรื่อง performance หรือ option อื่นๆ คงไม่ต่างกันมากจนรับไม่ได้ คืออย่างน้อยต้องค่อนข้างสมราคาแหละ

ส่วนรถทั่วๆไป เช่น d-seg ที่ญี่ปุ่นผมซื้อ เลือกดูที่ option ความสะดวกสบายเป็นหลัก แล้ว performance ซักหน่อย เพราะค่อนข้างอยู่แต่ในเมืองไม่มีโอกาสได้ขับเร็วมาก

นอกนั้นถ้ามีงานไกลๆ หรือไปต่างจังหวัดกันทั้งครอบครัว ใช้ premium วิ่งทางไกลความเร็วสูงวางใจได้ ถ้าไปเที่ยวคุณแม่คุณยายนั่งสบายอีกด้วยครับ  :D