Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: xtrarach ที่ มิถุนายน 01, 2014, 17:02:25
-
ตอนนี้ผมใช้ focus tdci อยู่ เพิ่งได้มาไม่กี่เดือน รู้สึกไม่ค่อยถูกใจเลยอยากเปลี่ยนรถอีกแล้ว
สิ่งที่ไม่ชอบมากๆตอนใช้ tdci คือ สำหรับผมแล้วมัน boring มากทีเดียว
ดีไซน์อันแสนจืดชืด เป็นรถคันแรกที่คนรอบข้างเห็นหลายครั้งแล้ว นั่งก็แล้วยังจำรถผมมะได้เลย
รถแรงดึงดี แต่เกียร์ฉลาดไปหน่อย มี+-ให้ใช้ แต่บอกได้คำเดียว ไม่เวิร์ค ต้องขับ D อย่างเดียวดีกว่า รู้สึกไม่ดิบเลย
ผมคงกำลังหาจุดลงตัวให้ตัวเองอยู่ คันก่อนใช้ mt สับเองถูกใจ แต่หลังๆใช้รถในเมืองมากขึ้น และรถติดขึ้นมากกกก เลยต้องเปลี่ยน
แต่ก็ไม่ชอบ auto แบบเบื่อๆอีก สำหรับ tdci powershift นึกว่าจะขับสนุกมาก แต่กลายเป็นว่า mazda3 2.0 genแรกที่ผมเคยใช้ยังสนุกกว่าอีก รู้สึกcontrolรถด้วยตัวเองได้มากกว่าเยอะ
เข้าเรื่อง
ตอนนี้เลยหารถใหม่ มาเล็งเจอที่ 156 เคยอยากได้มากอยู่
ดีไซน์ยังต้องเหลียวคอมองถ้ารถสภาพดี เห็นเค้าว่าเรื่องความดิบ ขับสนุกไม่เป็นรองใคร
เรื่องซ่อมและค่าซ่อมก็เข้าใจอยู่กับรถแบบนี้ แต่ก็หวั่นนิดๆ ไม่เคยเล่นรถยุโรป รถ4คันที่ผ่านมาก็เป็นรถบ้านๆ ไม่เคยใช้รถอายุเกิน5 ปีเลย
อู่หลักที่เค้าเข้ากันก็อยู่คนละฟากเมืองอีก อาจจะมีอู่อื่นอีก ต้องหาก่อน
ถึงแม้จะเป็นรถคันเดียวก็อาจจะพอไหว ช่วงที่พ่อผมเอารถเข้าอู่เลยพบว่าเดี๋ยวนี้ตัวเองใช้รถน้อยมาก มีbigbike อีกคัน พ่อเอาไปใช้ซะอาทิตย์ละ6วันก็ยังไม่เดือดร้อนอะไร ถ้าไม่ใช่ฝนตกหรือไปรับแฟนไม่ต้องใช้รถก็ได้ งานที่ต้องออกไปทำนอกบ้านมีแค่วันเดียวต่อสัปดาห์
เรื่องกังวลใจหลักคือ กลัวเซ็งๆมีรถที่เหมาะจะวิ่งยาวๆ แต่ดันไม่ค่อยมีโอกาสพาไปวิ่งแบบนั้น กลับต้องมาขับในเมืองบ่อยๆ เกียร์มันช่างเป็น pain in the ass สำหรับในเมืองอีกตะหาก แถมยังเป็นรถที่อาจจะจุกจิกและซ่อมแพงอีก (ปัญหาเดียวกับ tdci คงจะหนักกว่าด้วย จริงๆไม่กลัวซ่อมแพงหรอก แต่มันจะเซ็งๆเวลาขับในเมืองตลอด จะอารมณ์แบบว่าซื้อคันนี้มาทำไมวะ)
ตอนนี้ราคาตกลงมาจนจะติดพื้นละ อายุอานามก็พอสมควร ถ้าไม่เล่นตอนนี้ก็อาจไม่มีวาสนากันแล้ว
ช่วยกันออกความเห็นหน่อยครับว่า 156 มันเหมาะกับผมมั๊ย
ขอบคุณทุกท่านล่วงหน้าครับ 8)
-
เข้ามางง 156 คืออะไร พอค้นหาใน Google ถึงรู้ว่า 156 คือ Alfa Romeo 156 จริงๆวงเล็บรุ่นไว้สักหน่อยก็ได้นะครับ ฮาๆ ผมอ่านแล้ว งง ;)
-
คุณคนเดียวที่จะตอบคำถามนี้ได้ Alfa Romeo 156 มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมือนผู้หญิงที่เปรี้ยวและเอาแต่ใจตัวเอง คูณรักเธอและทนเธอได้ แม้นต้องประคบประงม พาเข้าโรงซ่อม พบหมอเก่งๆ เฉพาะทาง ก็สุดแล้วแต่
กลับมาที่ตัวรถ ผมมีเพื่อนสนิทที่ทำงานเดียวกัน อายุประมาณ 40 ปี ใช้มาร่วม 10 ปีแล้ว ก็ยังไม่เปลี่ยนใจ มี Camry 2013 เป็นรถประจำตำแหน่งก็ทิ้งให้แม่ แฟนขับ ตัวเองยังขับ 156 มาทำงานตลอด เติม Gasohol E10 เท่านั้น จุดอ่อนอยู่ที่เกียร์ มีช่างประจำที่ชำนาญก็โอเค เขารักของเขา ถ้าไม่รัก ป่านนี้คงไปขับอย่างอื่นแล้ว
-
เคยจะซื้อเหมือนกัน ทุกวันนี้ถ้าเจอยังมองคอแทบเคล็ด
เท่าที่หาข้อมูลจุดอ่อนน่าจะอยู่ที่เกียร์ selespeed ที่อาจจะต้องเน้นหน่อย แต่ค่าซ่อมเดี๋ยวนี้ก็ถูกกว่าแต่ก่อนเยอะ
ถ้าไม่ได้ใช้รถทุกวันมีรถสำรองน่าสนใจครับ ส่วนผมที่ไม่ได้เอามาเพราะต้องใช้เป็นคันหลักถ้าซ่อมบ่อยคงไม่สนุกนัก
-
พูดถึง 156
เมื่อวาน เจอตัว wagon อย่างสวย งามหยดย้อย
-
มีอีกคันที่อยากแนะนำ 406Coupe. ครับ สวยจนมองกันคอเครดเลย ถึงจะไม่ดิบเท่า 156 แต่ Fn ออกแบบสวยจนป่านนี้
-
กลัวว่า มันจะทำให้ประทับใจไม่รู้ลืม 55
156 เป็นหนึ่งในรถในดวงใจจริงๆ ไม่กล้าแนะนำตัวรถ เพราะอาจจะเจอเนื้อคู่ ไม่งอแงก็ได้ แต่การใช้รถรุ่นเดอะแบบนี้ ยี่ห้อแบบนี้ ทำใจจริงๆ ต้องหาอู่ไว้ก่อน ไว้ใจได้ ไม่ฟันดะ เคยมีคนซื้อ BM รุ่นเก่า แสนกว่า ซ่อม สามแสน ก็มี นี่ alfa ไม่รู้เรื่องอะไหล่รอนานแค่ไหน ไม่รู้จะซ่อมได้จริงไหม เพราะรถค่อนข้างเก่าแล้ว เกินสิบปี เป็นผมอาจจะซื้อมาสำรองก่อน ค่อยๆ บำรุง แล้วใช้ focus ไปพลางๆ หากมันโดนใจจริงๆ ก็ค่อยปล่อย focus เพราะการมี 156 เป็นรถ คันเดียว ถึงจะใช้น้อย แต่พอจะใช้ มันใช้ไม่ได้ ก็ไม่น่าสนุกนะครับ มีรถไม่ได้ใช้ กับมีรถใช้ไม่ได้ มันต่างกันเลยนะ
-
ชอบมากเลยรุ่นนี้ หล่อสุดๆ เกือบจะได้เป็นเจ้าของแล้ว และเคยคุยกับคนใช้ 156 ถ้ามีช่างที่รู้จริง ซ่อมจบ
ใช้งานสบายเลย ค่าซ่อมไม่โหดมาก
-
ค้องหาแหล่งอะไหล่และอู่ที่ซ่อมเป็นได้ก็เอาเลยครับแต่ถ้ายังไม่ได้ก็อย่าเล่นเลย
-
ถ้าได้รถเก่ามา แล้ว restoration
ทำสีทำเครื่องทำภายใน ก็ใช้เงินหลายครับ
งบที่ตั้งมักจะเกินครับ
ผมเอารถ bm แฟนมาทำ ทำไปทำมาสนุก
เปลี่ยนแมกซ์เปลี่ยนยาง ลงเครื่องใหม่
งบบานจนซื้อ ecocar ได้คันนึงแล้วครับ :'(
-
ชอบมากเลยรุ่นนี้ หล่อสุดๆ เกือบจะได้เป็นเจ้าของแล้ว และเคยคุยกับคนใช้ 156 ถ้ามีช่างที่รู้จริง ซ่อมจบ
ใช้งานสบายเลย ค่าซ่อมไม่โหดมาก
กลัวว่า มันจะทำให้ประทับใจไม่รู้ลืม 55
156 เป็นหนึ่งในรถในดวงใจจริงๆ ไม่กล้าแนะนำตัวรถ เพราะอาจจะเจอเนื้อคู่ ไม่งอแงก็ได้ แต่การใช้รถรุ่นเดอะแบบนี้ ยี่ห้อแบบนี้ ทำใจจริงๆ ต้องหาอู่ไว้ก่อน ไว้ใจได้ ไม่ฟันดะ เคยมีคนซื้อ BM รุ่นเก่า แสนกว่า ซ่อม สามแสน ก็มี นี่ alfa ไม่รู้เรื่องอะไหล่รอนานแค่ไหน ไม่รู้จะซ่อมได้จริงไหม เพราะรถค่อนข้างเก่าแล้ว เกินสิบปี เป็นผมอาจจะซื้อมาสำรองก่อน ค่อยๆ บำรุง แล้วใช้ focus ไปพลางๆ หากมันโดนใจจริงๆ ก็ค่อยปล่อย focus เพราะการมี 156 เป็นรถ คันเดียว ถึงจะใช้น้อย แต่พอจะใช้ มันใช้ไม่ได้ ก็ไม่น่าสนุกนะครับ มีรถไม่ได้ใช้ กับมีรถใช้ไม่ได้ มันต่างกันเลยนะ
เคยจะซื้อเหมือนกัน ทุกวันนี้ถ้าเจอยังมองคอแทบเคล็ด
เท่าที่หาข้อมูลจุดอ่อนน่าจะอยู่ที่เกียร์ selespeed ที่อาจจะต้องเน้นหน่อย แต่ค่าซ่อมเดี๋ยวนี้ก็ถูกกว่าแต่ก่อนเยอะ
ถ้าไม่ได้ใช้รถทุกวันมีรถสำรองน่าสนใจครับ ส่วนผมที่ไม่ได้เอามาเพราะต้องใช้เป็นคันหลักถ้าซ่อมบ่อยคงไม่สนุกนัก
คุณคนเดียวที่จะตอบคำถามนี้ได้ Alfa Romeo 156 มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เหมือนผู้หญิงที่เปรี้ยวและเอาแต่ใจตัวเอง คูณรักเธอและทนเธอได้ แม้นต้องประคบประงม พาเข้าโรงซ่อม พบหมอเก่งๆ เฉพาะทาง ก็สุดแล้วแต่
กลับมาที่ตัวรถ ผมมีเพื่อนสนิทที่ทำงานเดียวกัน อายุประมาณ 40 ปี ใช้มาร่วม 10 ปีแล้ว ก็ยังไม่เปลี่ยนใจ มี Camry 2013 เป็นรถประจำตำแหน่งก็ทิ้งให้แม่ แฟนขับ ตัวเองยังขับ 156 มาทำงานตลอด เติม Gasohol E10 เท่านั้น จุดอ่อนอยู่ที่เกียร์ มีช่างประจำที่ชำนาญก็โอเค เขารักของเขา ถ้าไม่รัก ป่านนี้คงไปขับอย่างอื่นแล้ว
มีคนออกแนวเชียร์เยอะแฮะ หุหุ ชักมีกำลังใจ
-
ผมไม่สนับสนุน 1 คนครับ เพราะของเพื่อนผม ไม่จบครับ ลาเจ้างูไปแล้ว
ผมว่า กัดฟัน เอา Mazda3 skyactive ไปเลยครับ ผมว่าไม่ขี้เหร่นะ เรื่องการขับขี่ ส่วนความสวยงาม คนทั่วไป80% ชอบแน่นอน
-
ถ้าได้รถเก่ามา แล้ว restoration
ทำสีทำเครื่องทำภายใน ก็ใช้เงินหลายครับ
งบที่ตั้งมักจะเกินครับ
ผมเอารถ bm แฟนมาทำ ทำไปทำมาสนุก
เปลี่ยนแมกซ์เปลี่ยนยาง ลงเครื่องใหม่
งบบานจนซื้อ ecocar ได้คันนึงแล้วครับ :'(
กะจะซื้อแบบเจ้าของเดิมทำมาแล้วสภาพดีๆน่ะครับ ยอมซื้อราคาสูงขึ้นหน่อย
แถมคนที่เล่นรุ่นนี้จริงๆมักจะเก็บประวัติการซ่อมอย่างละเอียด เพราะจะมีผลต่อการคำนวนระยะอะไหล่รถตัวเอง กับราคาขายต่อค่อนข้างมาก
ที่เก็บกันเพราะสิ่งที่มีปัญหาพังจริงๆ มีไม่กี่อย่าง แต่ราคาโครตแพง
-
ดูแล้วจะชอบแนวหล่อๆไม่ซ้ำใครนะ
ถามว่าเล่นได้ไหม เล่นได้ ขึ้นกับสภาพรถที่ได้มา
ผมใช้อยู่สิบปี ออกรถคนแรกๆของตัวประกอบในเลย มันก็ทนดีนะ
แต่ต้องมีวินัยในการเปลี่ยนอะไหล่ตามระยะมากๆ ไม่ลากยาว ไม่ผลัดวัน
ราคาอะไหล่ไม่แพงครับถ้าเทียบกับรถยุโรปเกรดเดียวกัน E46 อีกคัน ราคาสูงกว่าพอควรเมื่อเทียบชิ้นต่อชิ้น
เพียงแต่เจ้านั้นเขาหาของก็อปใช้ได้
เกียร์ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร จริงๆอายุมันสั้น 80000 โลก็ไปแล้ว แต่ถ้าจะเอาจบๆ ยกใหม่ทั้งระบบ. ไม่กี่หมื่นบาทเอง
ตอนนั้นจำได้ ผมซื้อปั้ม sele ที่ศูนย์ 22000 บาท ตุ้มเก็บแรงดัน 6500 บาท ค่าเปลี่ยนพันกว่าบาท
น้ำมัน sele พันนึง แค่นี้ก็ได้เกียร์ใหม่ยกชุด ถ้าชุดเกียร์ล่างรั่วก็มีชุดซ่อม
คุณเก็บชุดเกียร์ได้ เปลี่ยนสายพานไทม์มิ่งอีกชุดสองหมื่นกว่าบาท นอกนั้นมันก็รถทั่วไป
ยิ่งถ้าเจ้าของเก่าดูแลมาดีดี คุณใช้ต่อได้อีกยาว
ตอนผมขายยังน้ำตาคลอๆอยู่เลย แต่รถมันเต็มบ้าน แถมต้องย้ายมาทำงาน ตจว ดูแลมันไม่ไหวจริงๆ
อู่มีแต่ใน กทม ตัวรถผมแทบกางมุ้งให้นอน รอยตำหนิสักนิด ขีดข่วนสักหน่อยแทบไม่มี
คนซื้อมาส่องอยู่นานจะมองหารอยถลอก เจอขนแมวเข้าหน่อยรีบชี้ให้ดู ผมบอก พี่... นี่รถมือสองนะ
ลองชั่งใจดูครับ คนทำจบก็มี ชีช้ำไปก็เยอะ แต่สำหรับผม ผม happy กับมันมากครับ
ดีที่สุด มันส์ที่สุด หล่อที่สุด ที่ราคาขนาดนั้น ณ ตอนนั้นแล้ว
-
ดูแล้วจะชอบแนวหล่อๆไม่ซ้ำใครนะ
ถามว่าเล่นได้ไหม เล่นได้ ขึ้นกับสภาพรถที่ได้มา
ผมใช้อยู่สิบปี ออกรถคนแรกๆของตัวประกอบในเลย มันก็ทนดีนะ
แต่ต้องมีวินัยในการเปลี่ยนอะไหล่ตามระยะมากๆ ไม่ลากยาว ไม่ผลัดวัน
ราคาอะไหล่ไม่แพงครับถ้าเทียบกับรถยุโรปเกรดเดียวกัน E46 อีกคัน ราคาสูงกว่าพอควรเมื่อเทียบชิ้นต่อชิ้น
เพียงแต่เจ้านั้นเขาหาของก็อปใช้ได้
เกียร์ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร จริงๆอายุมันสั้น 80000 โลก็ไปแล้ว แต่ถ้าจะเอาจบๆ ยกใหม่ทั้งระบบ. ไม่กี่หมื่นบาทเอง
ตอนนั้นจำได้ ผมซื้อปั้ม sele ที่ศูนย์ 22000 บาท ตุ้มเก็บแรงดัน 6500 บาท ค่าเปลี่ยนพันกว่าบาท
น้ำมัน sele พันนึง แค่นี้ก็ได้เกียร์ใหม่ยกชุด ถ้าชุดเกียร์ล่างรั่วก็มีชุดซ่อม
คุณเก็บชุดเกียร์ได้ เปลี่ยนสายพานไทม์มิ่งอีกชุดสองหมื่นกว่าบาท นอกนั้นมันก็รถทั่วไป
ยิ่งถ้าเจ้าของเก่าดูแลมาดีดี คุณใช้ต่อได้อีกยาว
ตอนผมขายยังน้ำตาคลอๆอยู่เลย แต่รถมันเต็มบ้าน แถมต้องย้ายมาทำงาน ตจว ดูแลมันไม่ไหวจริงๆ
อู่มีแต่ใน กทม ตัวรถผมแทบกางมุ้งให้นอน รอยตำหนิสักนิด ขีดข่วนสักหน่อยแทบไม่มี
คนซื้อมาส่องอยู่นานจะมองหารอยถลอก เจอขนแมวเข้าหน่อยรีบชี้ให้ดู ผมบอก พี่... นี่รถมือสองนะ
ลองชั่งใจดูครับ คนทำจบก็มี ชีช้ำไปก็เยอะ แต่สำหรับผม ผม happy กับมันมากครับ
ดีที่สุด มันส์ที่สุด หล่อที่สุด ที่ราคาขนาดนั้น ณ ตอนนั้นแล้ว
น่าอิจฉาคนที่ได้รถคุณ kamphola ไปจัง
-
เอารถใหม่ดีกว่าครับ
แต่ยอมรับเลย เวลาเจอรถเก่าๆแต่สีเนียนๆ ล้อสวยๆ ผมชอบมากนะ
-
ญาติผมเค้าใช้อยู่ที่เชียงใหม่ น่าจะใช้เป็นประจำ ตอนไปเยี่ยมเค้าผมก็ได้นั่งประจำ คุยกับเค้าบอกว่าหากได้อู่ซ่อมดีๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไรมากนัก ใช้งานได้ตามปรกติ มีเรื่องเกียร์กระตุกที่เป็นปัญหา และก็กินน้ำมันเครื่องค่อนข้างมาก แต่เค้าเล่นกันมานาน (หมายถึงกลุ่ม Alfa Romeo) ก็เลยมักจะรู้วิธีแก้ไขปัญหาต่างๆได้ อะไหล่เค้าสั่งเองทางอิเทอร์เนต ทั้งนี้ออกตัวก่อนว่าญาติผมเป็นคนคลั่งไค้ลรถมาก คุยเรื่องรถ ค้นคว้าเรื่องรถทุกวัน ทั้งวัน มีใจรักในการศึกษา ซ่อมรถ หาอะไหล่ ไปอู่ เค้าก็เลยแฮ้ปปี้กับการใช้รถประเภทนี้
ส่วนตัวผม ผมคิดว่ามันเป็นรถที่ดี ดีไซจน์สวยทั้งข้างนอกและข้างใน ตอนมันออกมาใหม่ๆก็เกือบจะซื้อละ แต่มานั่งๆคิดว่ารถแบบนี้คงงอแงพอสมควร ก็เลยยกเลิกโครงการ ส่วนที่ผมจะติก็มีบ้างตามภาษารถยุโรปมีอายุนั่นคือ แอร์ไม่เย็น แม้ไปเยี่ยมเค้าที่เชียงใหม่ตอนเดือนมกรา กลางวันนั่งรถเค้าก็ยังแอร์ไม่ค่อยเย็น และพวกพลาสติคตามคอนโซลมันเริ่มกรอบ บิดตัว แตก แต่เรื่องพวกนี้อาจเป็นเรื่องเล็กสำหรับคนอื่นก็เป็นได้
สรุป ขึ้นกับใจ ถ้าใจพร้อม ก็ลุยครับ
-
รูป เสียง สัมผัส
ถ้าชอบให้ใจเย็นๆ ครับ หารถ "ตัวถัง" กับ "สี" ดีๆ
ระบบเครื่อง มีอู่ alfa จัดการให้ได้ครับ ยกใหม่หมด ทุกสิ่งอัน ไม่เกินแสน หรือถ้าอยากแรง รอ GTA กำไว้ สองแสน
ปราบทุกคันในถนนได้เกือบหมดครับ (ในพวก NA กับไม่ได้โมสุดๆ นะครับ)
....
ที่ต้องปรับตัวกับรถคันนี้ คือ ระบบเกียร์ครับ โหมด city จะไม่ค่อยฉลาด ต้องสับเอง แต่พอสับเอง ก็จะเจอปัญหา ความช้าของตัวครัช บางทีก็ไม่ทันใจเรา
แต่พอมันจับเกียร์ได้ปั้บ ลากไปเลยครับ redline แล้วตบ บวกต่อ โอย ... ฟินครับ เสียงมันหวานมาก ....
อ้อ มีเบรคด้วยครับ ทื่อๆ ดีแท้ วงเลี้ยวพอๆ กับกระบะครับ แต่มุดมันครับ
....
สรุป
รถรุ่นนี้ต้องดูแลเยอะครับ กว่าจะไว้วางใจว่าเป็นรถคันแรกได้ ต้องผ่านกาลเวลาพิสูจน์ว่ามันไม่จุกจิกจริง ควรจะเป็นรถคันที่ 2 หรือ 3 ในบ้านไปก่อน
ถ้าเปรียบกับ TDCI ผมว่า ford ก็ทำรถดีนะครับ "แต่ไม่มีอารมณ์" อิอิ
-
ตอนผมจะเลือกเล่นรถเมื่อ ห้าปีที่แล้ว ก็มีเจ้านี่ด้วย พยายามศึกษาอ่านในคลับเปรียบเทียบ สุดท้ายตัดใจ หาอู่ใกล้ ๆ บ้านไม่ได้ แถมต้องเติมน้ำมันเครื่องด้วย ก็เลยเลือก saab ซึ่งถูกกว่า ไม่สวยเท่า แต่ ก็สนุกดีเช่นกัน อู่อยู่ใกล้บ้าน เลยเลือกครับ
-
ถ้าจะเล่นรถให้สนุก โดยเฉพาะอัลฟ่า คุณต้อง ไม่สำอางค์และล้วง รื้อ รถเป็นนะครับ ตามนี้เลย
-
ถ้าคิดจะเลี้ยงงู 156 ต้องระวังให้มากๆและต้องรู้จักกับหมองูเก่งๆด้วย เพราะงูตัวนี้มันชอบกินเด็ก ระวังมันจะกินคุณด้วยนะ แต่ถ้าคิดว่าเอามันอยู่ได้ คุณอาจจะไม่หันไปมองรถญี่ปุ่นอีกเลยจริงๆ
-
ผมขอแชร์เรื่องที่ปีก่อนเคยสนใจอยากหารถคันที่ 3 มาใช้เหมือนกัน
1. Alfa Romeo 156 จะหาซื้อรถราคาถูกที่สุดและเอา GTA เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ พวงมาลัยขวา ตัดครึ่งมาทั้งคัน นำมาสลับใส่
ปัญหา คือ GTA พวงมาลัยขวา 6MT ไม่มีขายที่ญี่ปุ่น ดังนั้นจึงต้องดูที่อังกฤษเท่านั้น ซึ่งการจัดการและขนส่งลำบากกว่าญี่ปุ่นมาก ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นมาก
2. Saab 9-5 หาราคาถูกๆเหมือนกัน และเอาตัว Aero 6MT มาวาง
ปัญหาเดียวกับ 156 เลย คือ ญี่ปุ่นไม่มีเกียร์ธรรมดา ก็ต้องเอาจากอังกฤษเหมือนกัน
ส่วนเรื่องอะไหล่ ผมจะเลือกใช้วิธีสั่งรถทั้งคัน ตัดครึ่ง เข้ามาเป้นอะไหล่สำรองอีกคัน เพราะราคาไม่แพง อะไหล่ตัวไหนที่ต้องเปลี่ยนของใหม่ก็ต้องสั่งใหม่ครับ
แต่จังหวะไม่ค่อยดีไม่ได้ซื้อซักทีจนถึงตอนนี้
-
ถ้าชอบรถสวย เด่น ขับสนุก รับได้กับเรื่องซ่อม ผมว่าก็เหมาะนะ
แต่ก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำว่า ไปหามาลองขับก่อนครับ หายืมใครสักคน เพราะเกรงว่า ซื้อมาแล้ว จะมีปัญหาเหมือน Focus รึป่าว
หรือถ้าจะดูรถตลาดอีกนิด ก็คงจะเป็น Mazda 3 ป้ายแดง ไม่ก็ 325i 330i E46 / E90 ครับ
-
ถ้าชอบรถสวย เด่น ขับสนุก รับได้กับเรื่องซ่อม ผมว่าก็เหมาะนะ
แต่ก่อนตัดสินใจซื้อ แนะนำว่า ไปหามาลองขับก่อนครับ หายืมใครสักคน เพราะเกรงว่า ซื้อมาแล้ว จะมีปัญหาเหมือน Focus รึป่าว
หรือถ้าจะดูรถตลาดอีกนิด ก็คงจะเป็น Mazda 3 ป้ายแดง ไม่ก็ 325i 330i E46 / E90 ครับ
ถ้าหายืมมาลองขับได้สักพัก คงจะสุโค่ยมาก
แต่จะหายืมรถแบบนี้ได้นั้นดูจะยากสุดๆใน 3โลกเลยครับ :'(
-
เคยอยากได้มากๆช่วงนึง แต่ดันจะต้องเป็นรถคันแรกของผมที่ต้องซื้อด้วยตัวเองเลยตัดใจไปครับ ;D
-
ถ้าเงิน(สำหรับการซ่อมบำรุง)ถึง มีอู่ที่คิดว่าดูแลมันได้ดีและมีรถใช้ประจำอยู่อย่างน้อยสักคันอยู่แล้วก็เล่นได้ครับ เป็นhobby car ขับเล่นวันหยุดชิลๆผมว่าโอเคเลย แต่ถ้าจะเอามาใช้ประจำวันอย่าเลยดีกว่า จะเสียงานเสียการเอาครับ เพราะงูตัวนี้นอกจากมันจะมีเขี้ยวที่แหลมคมแล้ว มันยังมีพิษที่รุนแรงอีกด้วย แต่ถ้าอยากจะเล่นกับงูจริงๆต้องทำการบ้านมาพอสมควรครับ เพราะผมก็เคยอยากเล่นกับงู(แต่เป็นตัว164)เหมือนกัน 156มีหลายจุดที่เป็นจุดอ่อนและหาช่างทำจบยาก หรือค่าใช้จ่ายต่อจุดมันสูงมากจนอยากจะขายทิ้งกันก็มีเยอะครับ สมัยผมเรียนเพื่อนผมเคยใช้อยู่สักพักก็เปลี่ยนไปขับมินิแทน เพราะทนไม่ไหวกับเรื่องซ่อมบำรุงนี่แหละ