Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: NineKlao ที่ กรกฎาคม 02, 2014, 18:35:43
-
ก็น่าจะพอเกี่ยวกันน่ะ
พอดีเดือนที่ผ่านมาจ่ายค่ารถช้า เพราะว่าร้านขายไม่ดีมากก เลยโดนโทรตามถึงค่างวด
ที่ปกติจ่ายทุก 15 ของเดือน ก็เลยบอกไปว่าขอสิ้นเดือนไปจ่ายให้ และถึง สิ้นเดือนพี่กรุงก็โทรมาอีก บอกว่า
ช่วยไปจ่ายเงินค่างวดพร้อมค่าทวง 200 และดอกเบี้ยอีกร้อยกว่าบาท
ผมก็เลยจ่ายแต่ค่างวด 15,299 ที่กรุงศรี แต่ไม่จ่ายค่าทวง กับดอกเบี้ย
เลยอยากถามว่า สามารถทำได้หรือเปล่า เพราะเคยได้ยิ้นว่า เราจ่ายช้าสุดได้เดือนนึง(ตามกฏหมายน่ะไม่ตามกฏกรุงศรีเขา)
วันนี้พี่กรุงโทรมาตามอีก บอกช่วยไปจ่ายค่าทวงกับดอกเบี้ยรวม สามร้อยกว่าบาท เราก็เลยถามกลับว่า
ผมจ่ายค่างวดแล้ว (15,299.-) ส่วนค่าทวงกับดอกเบี้ยขอไปถามทางสคบ. กับพี่ทนายก่อนว่าจำเป็นต้องจ่ายตามนั้นไหม
พี่กรุงตอบว่า ไม่ได้ครับ เราให้ช้าได้แค่ 5 วัน ในระบบคุณยังชำระค่างวดไม่ครบ( รวมค่าทวง กับดอกเบี้ย) ที่เกินจาก 15,299 บาท
เพื่อนๆ มีความเห็นว่าอย่างไรดีครับ
-
เดาว่าน่าจะต่อรองกันได้หากเพิ่งทำเป็นครั้งแรก เหมือนกรณีบัตรเครดิตอะครับ ขอ waive เค้าแต่คงต้องพูดทำนองขอร้อง
-
ต้องกลับไปดูในสัญญากู้ ครับ .. ค่อนข้างผูกมัดเลยทีเดียว
ส่วนเรื่องกฎหมาย หยวนได้ 1 เดือนนั้น .. ไม่ทราบจริง ๆ ครับ รอท่านอื่นตอบอีกครั้งครับ
-
ผมเคยเจอครับ ธนชาต บัตรเครดิต คือ ผมเปลี่ยนประเภทบัตร และปกติผมทำตัดบัญชี
จนท แจ้งผมว่า เปลี่ยนประเภทบัตรแล้ว แต่บัตรเดิมจะตัด
ผมปรากฎว่า บัตรไม่ตัดบัญชีครับ และแถมโอนหนี้เดิม พร้อมดอกเบี้ย จำนวน 10 กว่าบาทมาบัญชีใหม่เรียกเก็บผม ผมเลยโทรด่าเลยครับ บอก อ้าว ผมตัดบัญชีไป มาเก็บได้ไงดอกเบี้ย เพราะผมกลัวเสียประวัติครับ
สุดท้าย จนท ยอมครับ ว่า ให้เวฟได้
ผมว่าน่าจะทำได้นะครับ ขนาดบัตรเครดิตเคี่ยวๆ ยังทำได้เลย :D
ลองคุยดูครับ ขอเวฟ
-
เท่าที่ทราบจากเจ้าหน้าที่แบงค์ทุกเจ้า หากเราขอยืดการจ่ายล่าช้า เราควรรับค่าดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น ส่วนค่าทวงถาม ของดได้เพราะเราเป็นคนแจ้งเองว่าเราจะจ่ายเมื่อไร ซึ่งเราก็ปฎิบัติตามคำพูดของเรา แต่อย่างไรเราควรเจรจาขอน้องเขาช่วยทำเรื่องของดทั้งดอกเบี้ยกับค่าทวงถามกับผู้ใหญ่ให้หน่อย พูดคุยให้แบงค์เอ็นดูเราดีกว่าจะเล่นแง่ทางกฏหมาย อย่างไรเสียเป็นหนี้เราต้องจ่ายอยู่ดี มันจะเป็นเครดิตของเราต่อแบงค์ต่อไปอนาคต พวกแบงค์เขาลิงค์กันหมด เพียงแต่จะเช็คหรือเปล่าอีกเรื่อง ในความคิดเห็นอย่างน้อยที่สุดเราควรจ่ายดอกเบี้ย เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ส่วนเรื่องจ่ายช้าได้ 1 เดือนคงเป็น จ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิตหรือเปล่า แบบจ่ายปีต่อปี เรื่องนี้จริงในทางปฏิบัติ หากจ่ายเป็นงวดๆละ3เดือนหรือจ่ายทุกเดือนไม่ทราบได้ ต้องรอผู้รู้มาตอบ
-
ที่เคยเจอมา ส่วนใหญ่จะให้ไม่เกิน 1สัปดาห์ เกินนั้นต้องจ่ายครับ
ผมจ่ายตลอดถ้าโดน ถือว่าผิดเอง
-
เบี้ยประกันชีวิต ของ กรุงเทพได้ 60 วัน. ส่วน เมืองไทยประกัน 85 วันครับ (ผมทำอยู่)
แต่ที่แปลกคือ เป็นกรุงศรีนี่แหละครับ
เคยใช้ ไทยพานิช. ธนชาติ ฮอนด้าลิส นิสสันลิส ทุกเจ้าไม่ติดใจค่าทวง ขอแค่เราจ่าย และทุกเจ้าไม่เคยคิดดอกครับ
คือ กรุงศรีนี้เป็นครั้งที่สองที่มีเรื่องแบบนี้
ครั้งแรกแฟนผม เคยถือบัตรกรุงศรีแล้วปิดยกเลิกไปปีนึงแล้ว
อยู่วันนึง บูพาโทรมาคุยเรื่องประกัน แฟนยังไม่ได้ตกลงอะไร เอกสารก็ไม่ได้เซน กลับถูกคิดค่าประกันตัดจากบัตรที่ปิดไปแล้วปีนึง
พอโทรไปบอกว่าไม่ได้เอา พี่กรุงเล่นบอกว่าจะยกเลิกให้ แต่ให้จ่าย 1 เดือน เราก็บอกไปว่า ไม่ได้เซนเอกสารแค่โทรมา แต่กลับสมัครให้
และยิ่งกว่าคือพี่กรุงตัดยอดจากบัตรของตัวที่ปิดไปนานแล้วด้วย เลยปล่อยมันจนบัดนี้ครับ
สรุป สงสัย กรุงศรี คงไม่ได้เข้ามาในชีวิตผมอีกแล้ว และคงไม่แนะนำใครใช้ด้วย >:(
-
พอดีเคยอ่านสัญญาแบบผ่านหูผ่านตามา(ไม่ใช่รถผม)
จำได้ว่า ธนชาต ช้าได้ 7 วัน กรุงศรีฯ 5 วัน เกียรตินาคิน 5 วัน นอกจากนี้ไม่ทราบครับ
สัญญาพวกนี้ระบุไว้ไม่ชัดเจนครับ(ตัวหนังสือแม่มเล็กมาก) ทำให้เราไม่สังเกตุ
และจะระบุด้วยนะว่าปรับว่าเท่าไหร่ ออกหนังสือทวงค่าทวงอีกเท่าไหร่ ประมาณนี้ล่ะมั้ง
ส่วนเรื่องทางกฏหมาย ต้องบอกเลยว่า ฟ้อง สคบ.ไปก็เท่านั้น ต้องรอให้ถึงชั้นศาลถึงจะจบด้วยการไกล่เกลี่ยอยู่ดี
อย่างมากถ้าไม่จ่าย มันก็ดอง ขึ้นไปเรื่อย ๆ ศาลก็จะพิจารณาได้แค่ลดยอด แต่ยังไงก็ต้องจ่าย คุ้มไหมล่ะ ?
ทั้งนี้จ่าย ๆ ไปเถอะครับ เสียค่าโง่แค่นี้ ดีกว่าบานปลายแล้วกลายเป็นหมื่นนะ ;D
อ่อ อีกอย่าง เคยได้ยินว่า พวกบริษัทที่รับทวงหนี้ของสถาบันการเงินนี่โหดมาก ยอดแค่ไม่ถึงพันก็จัดหนักกันน่าดู
-
เอาตรงๆ นะครับ ไม่ได้ครับ สัญญาเขาเขียนไว้ชัดเจน แต่เวลาเราจ่ายงวดปกติ แล้วก็ค้างดอกกับค่าทวงถามไปเรื่อยๆ ก็เหมือนจะพอได้ แต่หากมีโอกาส ก็จะตามเก็บเราไปเรื่อยๆ ที่สำคัญที่สุด ที่ผมคิดว่า เราไม่จำเป็นก็คงต้องยอม เพราะหากมีปัญหาแบบนี้ พวกออโต้นี่แหละตัวดี จะส่งเรื่องไปที่เครดิตบูโร แล้วเราจะเดือดร้อนมากกว่า ผมเคยเจอเคสงี่เง่ากว่านี้อีก แบงค์มันส่งเข้าบูโรเลย กลายเป็นว่าผมประวัติเสีย เลยเลิกทำธุรกรรมกับแบงค์นั้นไป ซึ่งจริงๆ แล้วอย่างบัตรเครติด เรารวม 2-3 เดือนจ่าย ก็ได้ โดยเรายอมเสียดอกกับเบี้ยปรับ แต่ค้างเดือนเดียว มันส่งเข้าเลย และแจ้งผมว่า ส่งไปแล้วแก้ไม่ได้ ถามว่า ส่งทำไม เขาบอกจังหวะแบงค์ชาติมาตรวจไรไม่รู้ สรุป ประวัติผมเสียจากเงินไม่กี่ร้อย แล้วพอแบงค์อื่นเขาเห็น มันก็ไม่มาถามหาเรื่องราวหรอกครับ เขาก็ดูที่นี่ กว่าจะเคลียร์ออกไป ทำบัตร ขอสินเชื่อไรเพิ่มเติม ต้องเงินเดือนกระโดดอีกขั้นกับผ่านไปเป็นปีๆ เลย
-
เคยเจอแต่บัตรเครดิตธนชาติครับ ลืมจ่าย เกินไปประมาณ 10 วันได้มารู้อีกที่รูดไม่ผ่าน
เลยโทรไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น จึงรู้ว่าลืมจ่ายเงิน แต่ก็ไม่เจอค่าปรับนะครับ
-
ผมว่า จขกท สับสน เรื่องจ่ายช้า ได้ 1-3 เดือน ก่อนรถโดนยึด
ไม่ใช่ ยืดจ่าย แล้วไม่เสียดอก กับ ค่าทวงนะ
-
ไม่ได้ครับ
-
ผมมองเป็นสองประเด็นครับ
1.เรื่องจ่ายช้า คือคุณก็จ่ายช้าจริงนี่ครับ ถ้าพวกสินเชื่ออยากจ่ายเมื่อไรก็ได้คงไม่ต้องมีกำหนดชำระหนี้แล้วแหละ ฉะนั้นเขาคิดดอกคุณเนื่องจากเลยกำหนดชำระไม่น่าผิดครับ ตรงนี้คุณผิดเต็มๆ
2.เรื่องค่าทวง อันนี้เป็นความเขี้ยวของธนาคารครับ ผมเพิ่งรู้ว่าจ่ายช้ามีค่าทวงแถมแพงด้วย ไม่รู้ตรงนี้เขาระบุไว้ในสัญญารึเปล่า แต่เวลาผ่านไปแค่ครึ่งเดือนทวงขนาดนี้นี่เขี้ยวได้ระดับเลยครับ เหมือนคุณเพิ่งเลยกำหนดชำระครั้งแรกรึเปล่า แต่ทวงซะยิกเลย
-
กรณีนี้ไม่ต้องไปถามทนายหรอกครับ อ่านดูในสัญญาได้เลย ถือว่าเป็นข้อตกลงร่วมกัน ละเมิดสัญญายังไงก็ผิด
-
ผมว่ามันต้องจ่ายนะครับ
ธนาคารก็รู้ๆกันอยู่ เคี่ยวจะตาย - -*
-
มองในมุมกลับกันหน่อยสิครับ บ้านผมเปิดร้านทอง ปล่อยกู้ อยู่ได้เพราะดอกเบี้ย
ถ้าลูกค้ามาจำนำทอง แล้วครบกำหนดชำระ มาจ่ายดอกเบี้ยช้าไป 15 วัน ผมก็ต้องคิดดอกเพิ่มแน่นอน ถ้าแค่ 1-2วันยังพอหยวนๆกันได้
ซึ่ง ธนาคารก็เหมือนกัน เค้าอยู่ได้เพราะดอกเบี้ย คุณเล่นลากไม่ไปจ่ายครึ่งเดือน โดนคิดดอก+ค่าปรับ ก็ถูกต้องแล้ว จะโวยวายทำไม
-
ผมเคยจ่ายขาดไป7บาท เพราะพนักงาน7กดผิด ไฟแนนท์ยังโทรมาทวงเลยครับ
-
ตามสัญญาสิครับ เซ็นไปเท่ากับยอมรับข้อตกลงทั้งหมด ถ้าละเมิดข้อตกลงก็จ่าย ไม่งั้นคงไม่ต้องเซ็นสัญญากัน
-
ผิดสัญญาจริง จ่ายค่างวดช้าจริง ....มีเหตุผลอะไรที่จะไม่จ่ายค่าทวงถาม + ดอกเบี้ยเค้าครับ ถ้าไม่อยากจ่ายส่วนนี้ งวดหน้าก็จ่ายให้ตรงก็จบครับ
-
รับทราบครับ กรุงศรีเขี้ยว กำลังจะออกรถใหม่ปลายปีพอดี :)
กรุงศรีออโต้ - ท่าจะคุยยากครับ เพราะ ดบ.ได้คิดไปแล้ว ถึงโป๊ะให้หมดเค้าก็ไม่เดือดร้อน กลับดีซะอีก
-
ผมก็กรุงศรีครับ ที่ไม่ได้ไปจ่ายเพราะ บิลค่าชำระมันไม่มาซักที
ผมเลยโทรไปคอลเซนเตอร์ กว่าจะได้คุยให้กดนั่นกดนี่ กด ๆ ๆ ๆ ไม่ถึงคนรับซักที ผมวางแมร่งเลย ทวงเอาเองละกัน
10 กว่าวัน โทรมาทวง เค้าบอกให้ใช้บัตรประชาชนไปจ่ายได้เลย
ต้องเสียค่าทวงกับค่าอะไรซักอย่างผมจำไม่ได้ละ รวม ๆ 200 กว่าบาท
ก็จ่าย ๆ ไป เพราะเราผิดที่เราจ่ายช้าจริง ๆ
-
คือเข้าใจว่าผิดในสัญญาที่ทำกับเขา แต่ในนั้นไม่มีระบุค่าทวงถาม ซึ่งคนที่โทรมาไม่ใช้คนกรุงออโต้ครับ
สรุป ผมจ่ายดอกเบี้ย แต่ไม่จ่ายค่าทวงถามครับ และคงเลิกสมาคมกับธนาคารเจ้านี้ตลอด
ในกฎหมายระบุไว้ว่าสัญญาที่ไม่เป็นธรรมเราสามารถร้องเรียนได้ครับ
>:(
เรื่องเครดิตบูโร รู้ดีครับ เพราะผมเคยเข้าไปทำให้ธนาคารเขียวครับ ซึ่งมันแปลกดี
ธนาคารเหมือนกัน แค่ผู้ส่งชื่อเราเข้าบูโรบางที่ไม่ใช้เจ้าหน้าที่ธนาคารครับ ;D
-
คือเข้าใจว่าผิดในสัญญาที่ทำกับเขา แต่ในนั้นไม่มีระบุค่าทวงถาม ซึ่งคนที่โทรมาไม่ใช้คนกรุงออโต้ครับ
สรุป ผมจ่ายดอกเบี้ย แต่ไม่จ่ายค่าทวงถามครับ และคงเลิกสมาคมกับธนาคารเจ้านี้ตลอด
ในกฎหมายระบุไว้ว่าสัญญาที่ไม่เป็นธรรมเราสามารถร้องเรียนได้ครับ
>:(
เรื่องเครดิตบูโร รู้ดีครับ เพราะผมเคยเข้าไปทำให้ธนาคารเขียวครับ ซึ่งมันแปลกดี
ธนาคารเหมือนกัน แค่ผู้ส่งชื่อเราเข้าบูโรบางที่ไม่ใช้เจ้าหน้าที่ธนาคารครับ ;D
คนโทรมาทวงถามจะเป็น out source อีกทีครับ ธนาคารไม่ทำเอง(จะได้เรียกค่าบริการแพงๆได้ไงครับ)
สัญญาไม่เป็นธรรมไปฟ้องได้ครับ
-
ต้องจ่ายครับ ;)
-
สัญญาไม่เป็นธรรมควรจะร้องเรียนตั้งแต่ก่อนเซ็นสัญญารึเปล่าครับ ไม่ใช่พอเราละเมิดสัญญาแล้วเค้าจะดำเนินการถึงได้ค่อยมาร้องเรียน อีกหน่อยจะให้ใครเซ็นสัญญาคงต้องระวัง ตอนอยากได้ก็เซ็นๆ ไป พอมีปัญหาก็มาร้องเรียนว่าเราไม่เป็นธรรม
-
ดีนะที่โทรมาเชิญทำบัตรเครดิตกับผมแล้วผมไม่ทำ กรุงศรีเอ๋ย
-
ผมไม่รู้นะว่ากฎหมายเขากำหนดไว้อย่างไร แต่เห็นหลายคนตอบโดยไม่ได้อิงตามข้อกฎหมายเลย ถ้าข้อสัญญาขัดกับกฎหมายที่บัญญัติไว้ เราสามารถเรียกร้องและปฏิเสธที่จะจ่ายได้ครับ (ถ้าไม่ขัดก็ต้องปฎิบัติตามข้อสัญญาที่ตกลงกันไว้)
เหมือนกับบริการจอดรถล่ะครับ แม้ว่าในบัตรจะระบุไว้ว่าจะไม่รับผิดชอบทรัพย์สินที่หายไป แต่สุดท้ายก็ต้องรับผิดชอบ เนื่องจากเราได้ขอเข้าใช้บริการรับฝากรถของเขา นั่นคือเขาต้องรับผิดชอบดูแลทรัพย์สินที่เราใช้บริการรับฝากทรัพย์ของเขาเอง ปัจจุบันห้างหลายที่จะไม่แจกบัตรรับฝากรถ และไม่คิดค่าบริการ เพราะหมายถึงว่าทางห้างไม่ได้ให้บริการรับฝากรถ แต่อนุญาตให้นำรถมาจอดได้เพื่อความสะดวกเท่านั้น รถหายหรือของหายจึงไม่ถือว่าเป็นการรับผิดชอบของทางห้างครับ
-
ขออนุญาตนะครับ
ผมขออธิบายแบบนี้ สำหรับกรณีของ จขกท นั้นจ่ายหลังวัน Due Date โดยปกติแต่ละแบงค์จะมีช่วง ผ่อนผันไม่เท่ากันนะครับ 3วัน 5วัน
เช่น ถ้า 5 วัน due 15 มาจ่าย 20 ถือว่าไม่ Over due ครับ ซึ่งหากมาจ่ายหลังจากนี้ จะมีค่าใช้จ่ายต่างๆเกิดขึ้นครับ เช่นค่าติดตามทวงถาม, ค่าเบี้ยปรับล่าช้า
และดอกเบี้ยจะไม่ได้คำนวณจาก ค่างวดอย่าเดียวนะครับ มันจะเอา ค่างวด+ค่าเบี้ยปรับ+ค่าติดตามทวงถาม มาคำนวณดอกเบี้ย ทำให้ยอดหนี้คงเหลือของคุณเพิ่มขึ้นครับ
และถ้าจ่ายแบบที่ จขกท แจ้งมา ค่างวดจะยังตัดไม่ครบนะครับ เพราะ เงินมันจะไปตัดค่าเบี้ยปรับ ค่าติดตามทวงถามก่อน แล้วจึงมาตัดค่างวด
เช่น ค่างวด 1,000 ค่าเบี้ยปรับล่าช้า 50 ค่าติดตามทวงถาม 100 แต่จ่ายมา 1,000 เท่ากับงวดนี้คุณจะค้างค่างวดอีก 150 บาท นะครับ
ซึ่งรายละเอียดแตกต่างกันไปแต่ละแบงค์อันนี้ผมอธิบายคร่าวๆครับ ดังนั้น หากแบงค์ไม่ยอม Waive ให้ ด้วยจำนวนเงิน ณ ตอนนี้ 2-3ร้อยบาท
ผมว่าจ่ายไปเถอะครับ เพราะรายละเอียดค่าปรับต่างๆ มันน่าจะมีอยู่ในจดหมาย welcome letter นะ ที่จะแนบบัตร Payment card ด้วย ไม่รู้ จขกท ได้รับหรือเปล่า ลองหาดูครับ น่าจะมีชี้แจงไว้
และมันจะกระทบไปยัง NCB ด้วยนะครับ หากยังยื้อไปแบบนี้ จนถึงรอบส่งในแต่ละเดือน ข้อมูลของคุณก็จะถูกมองว่า ผิดนัดชำระในงวดนี้นะ ซึ่งตรงนี้ จขกท น่าจะทราบดีอยู่แล้ว เพราะเคยทำ NCB ให้แบงค์เขียว
ปล. กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกอ่านแล้วอยากแชร์เพราะผมพอจะมีความรู้อยู่บ้างครับ ก็เลยสมัครแล้วเข้ามาตอบ ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ ;D
-
โห...แบบนี้มันไม่น่าให้เลยครับ
อย่างคุณนี่ไม่น่าให้กู้เลย แหม่...สัญญามันเขียนไว้ยังไง คุณไปทำสัญญากู้กับเขามันก็ต้องตามนั้นครับ
นี่จ่ายช้าแล้วยังจะมามีหัวหมอไม่จ่ายค่าทวงถาม+ดอกเบี้ยอีกต่างหาก ยังจะไปคุยกับทนายอีก คุยทำไมครับ? มันก็ต้องจ่ายอยู่ดี
-
โห...แบบนี้มันไม่น่าให้เลยครับ
อย่างคุณนี่ไม่น่าให้กู้เลย แหม่...สัญญามันเขียนไว้ยังไง คุณไปทำสัญญากู้กับเขามันก็ต้องตามนั้นครับ
นี่จ่ายช้าแล้วยังจะมามีหัวหมอไม่จ่ายค่าทวงถาม+ดอกเบี้ยอีกต่างหาก ยังจะไปคุยกับทนายอีก คุยทำไมครับ? มันก็ต้องจ่ายอยู่ดี
เสียดายไม่มีให้กด like
-
;D ;D นั้นซิครับ ผมก็งง เขาให้ได้ไง
คือผมบอกไปตัวแต่ตั้งกระทู้แล้วครับ ว่าเจอเจ้านี้เป็นเจ้าแรกครับในชีวิตที่ผ่อนรถมา 7 คันครับ ;D
-
สัญญาไม่เป็นธรรมควรจะร้องเรียนตั้งแต่ก่อนเซ็นสัญญารึเปล่าครับ ไม่ใช่พอเราละเมิดสัญญาแล้วเค้าจะดำเนินการถึงได้ค่อยมาร้องเรียน อีกหน่อยจะให้ใครเซ็นสัญญาคงต้องระวัง ตอนอยากได้ก็เซ็นๆ ไป พอมีปัญหาก็มาร้องเรียนว่าเราไม่เป็นธรรม
ลองไปดูเรื่องนักแสดงเซ็นต์สัญญานะครับ มีบ่อยๆครับ
ศาลฎีกาตัดสินให้ผู้กู้เงินชนะถมเถไปครับ กู้กับแบงค์นี่แหละ
ไอ้พวกนี้มันเขี้ยวลากดิน กฎหมายไม่ให้คิดดอกเบี้ยเกิน 15% มันก็ไปเขียนให้เป็นค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน
สรุปดอกเบี้ยรวม เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไปบาน คสช น่าจะมาดูพวกบัตรเงินสดพวกนี้ด้วย ปลิงเกาะกินสังคมดีๆนี่เอง
-
;D ;D นั้นซิครับ ผมก็งง เขาให้ได้ไง
คือผมบอกไปตัวแต่ตั้งกระทู้แล้วครับ ว่าเจอเจ้านี้เป็นเจ้าแรกครับในชีวิตที่ผ่อนรถมา 7 คันครับ ;D
โห เคยจ่ายช้าทั้งหมด 7 คันเลยเหรอครับ แล้วเบี้ยวค่าทวงสำเร็จทั้งหมดเลยเหรอครับ ราชาเงินผ่อนจริงๆครับ นับถือ
สงสัยว่าเดี๋ยวนี้เป็นเรื่องปรกติแล้วเหรอครับ ที่เราจ่ายเงินเจ้าหนี้ช้า แล้วเอามาคุยได้อย่างภูมิใจอ่ะครับ
-
สัญญาไม่เป็นธรรมควรจะร้องเรียนตั้งแต่ก่อนเซ็นสัญญารึเปล่าครับ ไม่ใช่พอเราละเมิดสัญญาแล้วเค้าจะดำเนินการถึงได้ค่อยมาร้องเรียน อีกหน่อยจะให้ใครเซ็นสัญญาคงต้องระวัง ตอนอยากได้ก็เซ็นๆ ไป พอมีปัญหาก็มาร้องเรียนว่าเราไม่เป็นธรรม
ลองไปดูเรื่องนักแสดงเซ็นต์สัญญานะครับ มีบ่อยๆครับ
ศาลฎีกาตัดสินให้ผู้กู้เงินชนะถมเถไปครับ กู้กับแบงค์นี่แหละ
ไอ้พวกนี้มันเขี้ยวลากดิน กฎหมายไม่ให้คิดดอกเบี้ยเกิน 15% มันก็ไปเขียนให้เป็นค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน
สรุปดอกเบี้ยรวม เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไปบาน คสช น่าจะมาดูพวกบัตรเงินสดพวกนี้ด้วย ปลิงเกาะกินสังคมดีๆนี่เอง
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล อยากให้ จขกท ไปฟ้องศาลเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะคุ้มกันไหมกับเงินไม่กี่ร้อย แต่อย่างว่าครับ เห็นจขกทบอกว่าร้านขายไม่ค่อยดี เงินไม่กี่ร้อยก็คงจะมีค่ามาก ถึงได้พยายามไม่ยอมจ่าย