Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: xenon ที่ กรกฎาคม 18, 2014, 20:32:12
-
รถยนต์ A : 250แรงม้า@5,500 แรงบิด 350Nm.@2,500 นน. 1,2xx Kg เกียร์ mt ขับเคลื่อนล้อหน้า
รถยนต์ B : 210แรงม้า@5,000 แรงบิด280Nm.@1,700-5,000 นน. 1,300 Kg เกียร์ออโต้ Dual Clutch ขับเคลื่อนล้อหน้า
วิ่งประกบตั้งแต่ออกตัว
รถยนต์ A ขึ้นได้หนึ่งคันรถช่วง 0-100 km/h
รถยนต์ B ลดช่องว่างขึ้นมาเหลือครึ่งคันรถ แต่ยังขึ้นไม่ได้ถึงช่วง 180 kh/h
หลัง 180 km/h รถยนต์ B ขึ้นหน้าแล้วยืดออกได้มากขึ้นๆ
จนแถวๆ 220km/h ระยะห่างจะคงที่ ไม่ลดไม่เพิ่ม
ลอง2 รอบ เหมือนเดิม ทั้งวิ่งตามลมทั้งวิ่งย้อนครับ
รถยนต์ B ป้ายแดง รถยนต์ A วิ่งมา 60,000 Km. สภาพสมบูรณ์ครับ
-
น้ำหนัก
-
ระบบส่งกำลังต่างๆ, แอร์โร่ไดนามิก, ช่วงล่าง การกระจายน้ำหนัก
รถบางคันม้าเยอะแต่ตอนออกตัวฟรีทิ้งไปเยอะ
น้ำหนักรถ คิดออกแค่นี้ครับ ;D
-
-น้ำหนัก
-ขนาดตัวถัง ลู่ลม ต้านลม
-อัตราทดของเกียร์
-ขนาดล้อ ขนาดยาง
-
อัตราทดเกียร์มีส่วนในเรื่องความเร็วปลายมากๆครับ
-
น้ำหนัก
น้ำหนักเหรอ??? ผมอ่านดู A มันเบากว่าบนม้าและแรงบิดที่เยอะกว่านะครับ
แต่เท่าที่ดู เดาได้ว่า B เป็น Turbo แบบ flat torque แต่ A ไม่ใช่
1. เพราะ Flat Torque มันลากแรงบิดให้ตั้งแต่ รอบต่ำยันสูง แต่รถ A มันบิดรถให้พุ่งออกที่รอบ 2500 แล้วแรงบิดมันก็ค่อยๆหดหายลง ดังนั้นเลข 350nm. มันเลยมาแค่แวปเดียวเท่านั้น
2. เกียร์ครับ เพราะ เกียร์ Auto สมัยนี้ยุคนี้มันดีมากๆ มันฉลาดและเร็วกว่ามือของคนเยอะ ยังไงเมื่อเทคโนโลยีมันมาสูงๆ คนเราก็ไม่มีมทางสู้ได้หรอกครับ
3. Aerodynamic ครับ..... แต่... ผมเดาว่าคุณคงไม่เอารถกระบะมาแข่งกับรถเก๋งหรอกมั้งครับ
-
1.แรงบิดรถ บี แม้จะน้อย แต่ได้ช่วงกว้างกว่า
2.รถ เอ เกียร์ ธรรมดากี่สปีด เอาเกียร์สุดท้าย หรือรองสุดท้ายในการทำสปีด
3.คนขับ MT ต้อง"เป็น"ระดับนึง ไม่ใช่แค่ยัดเกียร์แล้วกดคันเร่งรอแน่ๆ
-
คนขับคันแรก ลืมตัวดันไปสับเกียร์สุดท้าย ที่เป็นโอเวอร์ไดร์ฟ ปลายเลยหาย
ปล. คัน B ตัวเลขไม่ถูก
แรงม้า@5,000rpm เท่ากับ 210 PS
แรงบิด@ 5,000 rpm ต้องเท่ากับ 300 N-m นะครับ ไม่ใช่ 280 N-m
-
1. ขับเก่งไม่เท่ากัน
2. ขนาดล้อยางต่างกันเยอะมั้ย
3. ม้าที่เเจ้ง เป็นม้ายุ่น กับ ม้ายุโรป
ผิดถูกชี้แนะด้วยนะครับ
-
ไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องมาสามปี
-
จากที่อ่าน
ข้อ 1 รถ B เขา Flat toque นิครับ ตั้งแต่รอบต่ำ พันเจ็ด ยัน ห้าพันรอบ (เกือบ red line ป่ะเนี่ย)
turbo แปรผันชัดๆ
ข้อ 2 รถ B เขา Dual clutch มันเปลี่ยนเกียร์เร็วมากนะครับ ยกตัวอย่าง Powershift(หาย) ของ Ford
อีกเกียร์มันมารออยู่ตรงหน้าแล้ว 0.14-0.2 milli sec เขาว่าไวกว่ากระพริบตาอีก
เกียร์ MT กว่าจะสับลง ก็ต้องย้ายมาเกียร์ว่างก่อน เขาไปไกลแล้ว
-
คิดจะสับ MT ให้ full performance
1.ต้องศึกษามาก่อนว่าเครื่องมีแรงม้า แรงบิด ที่รอบเท่าไร
2.ต้องหาอัตราทดเกียร์ของรถ และเทียบว่าห่างกี่%
3.พลอตกราฟดูว่า ต้องเปลี่ยนเกียร์ที่รอบเท่าไร แล้วรอบจะตกมาที่รอบแรงบิดสูงสุดพอดี
4.ทดลองขับจริง จับเวลาว่า สับเกียร์แต่ละครั้งเสียเวลาเท่าใด
ยกตัวอย่าง รถผมเครื่อง SR20DE 160ม้าที่ 6400 แรงบิด 188ที่ 4400
เกียร์1-2 ผมตัดที่7000รอบ เพราะเสียเวลาเข้าเกียร์นาน
2-3 ตัดที่ 6400
3-4ตัดที่ 6000-6400 เพราะใช้เวลาไม่นาน
สุดเกียร์4ที่ 6800รอบ ดันต่อไม่ไหวแล้ว
-
รถ A ล้อ 17 รถ B ล้อ18 ครับ
รถยนต์ A เกียร์ 5mt ครับ Top speed เกียร์สุดท้ายครับ
เกียร์1-4 รถยนต์ B ขึ้นไม่ได้ครับ
ตั้งแต่ 180 ไปแล้วก็ใช้เกียร์สุดท้ายอย่างเดียวครับ
เครื่อง 2.0t ทั้งคู่ครับ
ผมสงสัยเรื่องแอร์โร่ไดนามิคว่าน่าจะมีผลเยอะช่วงความเร็วสูง
เพราะรถยนต์ B เป็นรถสปอร์ต ส่วนรถยนต์ A รูปร่างออกแบบมาใช้ซื้อกับข้าวปากซอย
-
คนขับ ใจไม่สู้ ;D
-
เหตุผลคือแรงบิดล้วนๆครับจริงอยู่ที่รถaม้ามากกว่าแต่ในการออกตัวนั้นแรงบิดสำคัญกว่า อย่างในรอบต้นที่รถaไวกว่าเพราะแรงบิดสูงสุดมากกว่าแต่พอเลยรอบแรงบิดรถaก็แรงบิดตกแล้วกว่าจะถึงรอบม้าสูงสุดก็สู้bไม่ได้ bแม้แรงบิดน้อยกว่าแต่ดึงยาวตั้งแต่รอบต้นยันรอบปลายพอแรงบิดหมดปุบถึงรอบแรงม้าพอดีแถมแรงม้ามารอบต่ำกว่าด้วย
ส่วนอย่างอื่นน้ำหนักรถแทบไม่มีผลเพราะต่างกันน้อย ส่วนเกียร์แทบจะไม่ต่างแล้วเพราะเกียร์dualclutchการทำงานเท่าเกียร์ธรรมดาเผลอไวกว่าด้วยแล้ว แต่รอบต้นเกียร์ธรรมดาอาจได้เปรียบเล็กน้อย
-
รถ A ล้อ 17 รถ B ล้อ18 ครับ
รถยนต์ A เกียร์ 5mt ครับ Top speed เกียร์สุดท้ายครับ
เกียร์1-4 รถยนต์ B ขึ้นไม่ได้ครับ
ตั้งแต่ 180 ไปแล้วก็ใช้เกียร์สุดท้ายอย่างเดียวครับ
เครื่อง 2.0t ทั้งคู่ครับ
ผมสงสัยเรื่องแอร์โร่ไดนามิคว่าน่าจะมีผลเยอะช่วงความเร็วสูง
เพราะรถยนต์ B เป็นรถสปอร์ต ส่วนรถยนต์ A รูปร่างออกแบบมาใช้ซื้อกับข้าวปากซอย
ตอนที่เร็ว 180 รอบมันแตะ เรดไลน์แล้วเหรอครับ ถึงต้องใช้เกียร์สุดท้ายดันความเร็วต่อ คงจะแพ้ตรงนี้แหละ ถ้ายังไม่ถึง เรดไลน์ให้เอาเกียร์รองสุดท้าย ส่งไปจนสุดรอบแรงม้าและ+ไปอีกราวๆ 1000 รอบ (แรงม้ามาสุด5000 เร่งไป6000 วาล์วคงไม่กระเด็นหรอกนะ)
-
2.อ่ะเครื่องตะ TSI ของ VW แน่นอนเลย เกียร์ DSG เท่าที่ดูจากสเปคใช่เลย
แต่ข้อแรกนี่ผมเดาไม่ออกแฮะ เป็นรถวางโบทีหลังป่ะครับ ;D ไม่ใช่เครื่อง เทอร์โบจากโรงงาน
-
2.อ่ะเครื่องตะ TSI ของ VW แน่นอนเลย เกียร์ DSG เท่าที่ดูจากสเปคใช่เลย
แต่ข้อแรกนี่ผมเดาไม่ออกแฮะ เป็นรถวางโบทีหลังป่ะครับ ;D ไม่ใช่เครื่อง เทอร์โบจากโรงงาน
ถ้าเป็น Scirocco 2.0TSI อย่างท่านว่า
แรงม้ามัน 200 แรงม้า @ 5,100 -6,000 รอบ/นาที
แรงบิดมัน 280 N-m @ 1,700 - 5,000 รอบ/นาที
จากโจทย์ที่ จขกท เขียนมา 210 แรงม้า และ 280 N-m @ 5,000 รอบ/นาที่
จขกท กำลังแหกกฎฟิสิกส์นะครับ
เรื่องแรงต้านทานอากาศ คันนี้ค่า CD สูงกว่ารถเก๋งบ้านๆ อีกนะครับ
ผลจากอัตราทดเกียร์น่าจะมีผลต่อเหตุการณ์ข้างบนมากกว่า
-
ผมคิดว่าความต่างมาจากเกียร์แน่เลย เพราะมีคนรู้จักเอา 991 carrera s pdk + ของแต่งแรงนิดๆ น่าจะประมาณ 420 ม้า
ไปวิ่งเล่นกับ f430 เกือบ 500 ม้า f430 หนีไม่ออกเลยตั่งแต่ต้นยันปลาย (น้ำหนักรถน่าจะพอๆกัน+เปลี่ยนท่อมาทั้ง 2คัน)
-
2.อ่ะเครื่องตะ TSI ของ VW แน่นอนเลย เกียร์ DSG เท่าที่ดูจากสเปคใช่เลย
แต่ข้อแรกนี่ผมเดาไม่ออกแฮะ เป็นรถวางโบทีหลังป่ะครับ ;D ไม่ใช่เครื่อง เทอร์โบจากโรงงาน
ของเดาต่อว่ารถ A คือ Ford Focus ST 2.0 Ecoboost 250 ม้าครัชชชชชชช
-
2.อ่ะเครื่องตะ TSI ของ VW แน่นอนเลย เกียร์ DSG เท่าที่ดูจากสเปคใช่เลย
แต่ข้อแรกนี่ผมเดาไม่ออกแฮะ เป็นรถวางโบทีหลังป่ะครับ ;D ไม่ใช่เครื่อง เทอร์โบจากโรงงาน
ถ้าเป็น Scirocco 2.0TSI อย่างท่านว่า
แรงม้ามัน 200 แรงม้า @ 5,100 -6,000 รอบ/นาที
แรงบิดมัน 280 N-m @ 1,700 - 5,000 รอบ/นาที
จากโจทย์ที่ จขกท เขียนมา 210 แรงม้า และ 280 N-m @ 5,000 รอบ/นาที่
จขกท กำลังแหกกฎฟิสิกส์นะครับ
เรื่องแรงต้านทานอากาศ คันนี้ค่า CD สูงกว่ารถเก๋งบ้านๆ อีกนะครับ
ผลจากอัตราทดเกียร์น่าจะมีผลต่อเหตุการณ์ข้างบนมากกว่า
รถยนต์ B : 210แรงม้า@5,000 แรงบิด280Nm.@1,700-5,000 นน. 1,300 Kg เกียร์ออโต้ Dual Clutch ขับเคลื่อนล้อหน้า
ผมงงว่ามันต่างจากที่ผมเขียนยังไงอ่ะครับ
-
แซงที่ความเร็วปลาย มี อัตราทดเกียร์-เฟืองท้าย
และ แรงม้าที่ถ่ายลงมาสู่ล้อ แรงม้าของรถ A อาจจะหายไปเยอะ แรงม้าของรถ B ลงล้อได้มากกว่า
-
http://www.volvomania.com/forum/index.php?topic=15790.0 (http://www.volvomania.com/forum/index.php?topic=15790.0)
ลองอ่านดูครับ แล้วคำนวณด้วยนะ แน่นอนว่าเข้าใจ
แต่ผมสงสัยจริง แรงบิดสูงสุดที่ 2500 รอบ
แรงม้าสูงสุดที่ 5500 รอบ
ทำไมไม่จูนให้แรงบิดสูดสุดอยู่ซัก 4000 รอบ
จูนแบบนี้นึกว่ากระบะแต่งที่จูนไม่เป็น(ซึ่งแมร่งวิ่งเต็มถนนเมืองไทย) ดึงกราฟให้สูงเป็นรูปภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งบ้ามากเพราะมันขับยาก และ แรงไม่จริง
เพราะที่ 5500 รอบมันเหลือแรงบิดนิดเดียว
-
ม้าลงล้อไม่ครบหรือเปล่า ลองหายางแท่นเครื่องซิ่งมาใส่ดูครับช่วยได้เยอะอยู่ ขนาดหน้ายาง แรงเฉื่อยจากจุดหยุดนิ่ง
-
จากที่เคยเล่นเกมส์มา เดาว่าอยู่ที่อัตราทดแต่ละเกียร์และอัตราทดเฟืองท้ายครับ
แล้วแต่ว่าจะทดให้เน้นช่วงออกตัว เร่งแซง ในระยะสั้น รอบมาเร็วหมดเร็ว เกียร์สุดท้ายก็สุดเร็วกว่า
หรือจะเน้นความเร็วปลาย แต่ช่วงแรกรอบจะขึ้นช้ากว่าหน่อย อาศัยแรงบิดช่วงกว้างมาชดเชยเกียร์ แต่เน้นปลายไหล เกียร์สุดท้ายก็จะลากได้ยาวกว่า ยิ่งแรงบิดเป็น flat torque จะช่วยลากตรงเกียร์สุดท้ายได้ดีกว่าด้วย
เดาล้วนๆครับ แหะ แหะ
-
2.อ่ะเครื่องตะ TSI ของ VW แน่นอนเลย เกียร์ DSG เท่าที่ดูจากสเปคใช่เลย
แต่ข้อแรกนี่ผมเดาไม่ออกแฮะ เป็นรถวางโบทีหลังป่ะครับ ;D ไม่ใช่เครื่อง เทอร์โบจากโรงงาน
ถ้าเป็น Scirocco 2.0TSI อย่างท่านว่า
แรงม้ามัน 200 แรงม้า @ 5,100 -6,000 รอบ/นาที
แรงบิดมัน 280 N-m @ 1,700 - 5,000 รอบ/นาที
จากโจทย์ที่ จขกท เขียนมา 210 แรงม้า และ 280 N-m @ 5,000 รอบ/นาที่
จขกท กำลังแหกกฎฟิสิกส์นะครับ
เรื่องแรงต้านทานอากาศ คันนี้ค่า CD สูงกว่ารถเก๋งบ้านๆ อีกนะครับ
ผลจากอัตราทดเกียร์น่าจะมีผลต่อเหตุการณ์ข้างบนมากกว่า
รถยนต์ B : 210แรงม้า@5,000 แรงบิด280Nm.@1,700-5,000 นน. 1,300 Kg เกียร์ออโต้ Dual Clutch ขับเคลื่อนล้อหน้า
ผมงงว่ามันต่างจากที่ผมเขียนยังไงอ่ะครับ
ที่ 5000 rpm ถ้ามีแรงบิด 280 Nm จริง มันจะมีแรงม้าแค่ 199.3 ps หรือ 196.3 hp ที่ 5000 rpm
ที่นี้ถ้าต้องการให้ได้ 210 แรงม้า (ps) ที่ 5000 rpm มันต้องมีแรงบิด 295 Nm ที่ 5000 rpm
หรืออีกความเป็นไปได้คือ 210 แรงม้าก็ต้องไปเกิดที่รอบสูงกว่านี้ครับ
ดังนั้นข้อมูลรถยนต์ B ที่ให้มา มันไม่ถูกต้องครับ
และถ้าแก้ข้อมูลให้ถูกแล้ว
รถยนต์ A จะแพ้ก็เพราะความเสียดทาน
ไม่ว่าจะเป็นความเสียดทานในระบบส่งกำลัง
หรือความเสียดทานกับสิ่งแวดล้อมภายนอก
เช่น ยางกับถนน หรือ ตัวถังกับอากาศ
ความเป็นไปได้ต่อมาคือ อัตราทดเกียร์
เช่น ทดไว้ห่างมาก เปลี่ยนเกียร์แล้วรอบตกเยอะ
ทำให้รอบเครื่อง A ไม่อยู่ในช่วงที่มีแรงม้าต่อน้ำหนักสูงกว่า B
หรือไม่ก็ คนขับ A เงิบครับ
-
ประสิทธิภาพการจับม้าลงบนพื้น
ประสิทธิภาพของระบบส่งกำลัง
ประสิทธิภาพของเกียร์
การ SETTING อัตราทดเกียร์
AERO DYNAMIC
ความมั่นใจของผู้ขับขี่
-
ปัจจัยคือ
มีเมียนั่งคุม
รถอะไรก็เร่งไม่ขึ้น
-
2.อ่ะเครื่องตะ TSI ของ VW แน่นอนเลย เกียร์ DSG เท่าที่ดูจากสเปคใช่เลย
แต่ข้อแรกนี่ผมเดาไม่ออกแฮะ เป็นรถวางโบทีหลังป่ะครับ ;D ไม่ใช่เครื่อง เทอร์โบจากโรงงาน
ถ้าเป็น Scirocco 2.0TSI อย่างท่านว่า
แรงม้ามัน 200 แรงม้า @ 5,100 -6,000 รอบ/นาที
แรงบิดมัน 280 N-m @ 1,700 - 5,000 รอบ/นาที
จากโจทย์ที่ จขกท เขียนมา 210 แรงม้า และ 280 N-m @ 5,000 รอบ/นาที่
จขกท กำลังแหกกฎฟิสิกส์นะครับ
เรื่องแรงต้านทานอากาศ คันนี้ค่า CD สูงกว่ารถเก๋งบ้านๆ อีกนะครับ
ผลจากอัตราทดเกียร์น่าจะมีผลต่อเหตุการณ์ข้างบนมากกว่า
ตะกูล TSI มันมีหลายเวอร์ชั่นครับ แต่ตัวหลังๆล่าสุด ม้ามันเป็น 210ม้าแล้วครับ scirocco ก็ 210 ม้าเหมือน GTI มาประมาณ 2-3 ปีแล้วครับ ส่วนแรงบิดเนี่ย ผมเข้าใจว่ามันเป็นเทอร์โบ มันมาแบบแฟลตทอร์ดแหละครับ เทอร์โบนะครับ ถ้า NA ผมไม่เถียง แต่บอกไว้ ณ ที่นี้เลยครับว่า VW เค้าชอบเคลมแรงม้าต่ำกว่าความเป็นจริงพอสมควรครับ ทั้งแรงม้าและแรงบิด พอมาวัดไดโน่จิงๆม้าเยอะกว่าที่โรงงานเคลมครับ
ปล.อีกอย่าง จขกท แหกกฏ ฟิสิก ตรงไหนครับ ผมก็เห็นตัวเลขก็ถูกต้องนะ ขอ งง ด้วย คน
-
********** รายละเอียดทางวิศวกรรม และการทดลองขับ **********
เครื่องยนต์ ที่นอนสงบนิ่งอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้า ของ Golf GTi มีรหัสรุ่น EA888
เป็นบล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,984 ซีซี ฝาสูบทำจาก Alminum Alloy เสื้อสูบทำจาก
เหล็กหล่อ กระบอกสูบ x ช่วงชัก 82.5 x 92.8 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 9.6 : 1
จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ ฉีดตรงเข้าห้องเผาไหม้ Direct Fuel Injection
เรียงลำดับการจุดระเบิด 1-3-4-2
ดูจากหน้าตา ก็เหมือนกับเครื่องยนต์ของรถบ้านๆทั่วๆไป ไม่ได้ส่อเค้าว่าจะแรงเอาเสียเลย
อยากจะบอกว่า เครื่องยนต์หน้าตาบ้านๆ ดูไม่มีพิษภัยอย่างนี้ นี่แหละ คือ เครื่องยนต์
EA888 บล็อกเดียวกับที่เคยประจำการมาแล้ว ใน Golf GTi Mk-V ที่เพิ่งตกรุ่นไปนั่นเอง!!
ก่อนหน้านี้ ในเวอร์ชันมาตรฐาน ของ Golf Mk-V รุ่นเดิม จะมีพละกำลังสูงสุด 200 แรงม้า (PS)
และ ถ้าเป็นรุ่นพิเศษ Golf GTi Edition 30 อันเป็นรุ่นฉลองครบรอบ 30 ปี ของการทำตลาด
Golf GTi รวมทั้งรุ่นพิเศษ Pirelli GTI เครื่องยนต์บล็อกนี้ จะถูกปรับแต่งจนแรงขึ้นไปถึง
230 แรงม้า (PS) ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ในช่วงเดือนมีนาคม 2008 (ก่อนรุ่นใหม่คันสีแดงนี้จะเปิดตัว)
แต่สำหรับ Golf GTi รุ่นปัจจุบัน สิ่งที่ทำให้เครื่องยนต์ EA888 เวอร์ชันนี้แตกต่างออกไป
ก็คือ เพิ่มระบบอัดอากาศ Turbocharge ของ Borg-Warner รุ่น K03 โปรดอย่าเพิ่งถามว่า
บูสต์ อยู่ที่เท่าไหร่ เพราะเท่าที่นั่งหาข้อมูลจนตาลาย ก็ยังหาไม่เจอ รู้แต่ว่า มาพร้อม
ระบบช่วยลดความร้อนของไอดี Intercooler วางไว้ด้านหน้ารถ อีกทั้งยังมีการปรับปรุง
ไส้ในของเครื่องยนต์ เพื่อเพิ่มสมรรถนะ ให้ร้อนแรงยิ่งกว่าเดิม ทั้งการเปลี่ยนลูกสูบ
กับแหวนลูกสูบแบบใหม่ ปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงแบบใหม่ Vacuum Pump ตัวใหม่
ปั้มเชื้อเพลิงแรงดันสูงแบบใหม่ และ Airflow Sensor ชิ้นใหม่ มีระบบแปรผันวาล์วไอดี
พร้อมกระเดื่องวาล์วแบบ Roller Rocker (แบบที่เคยพบได้ใน Mitsubishi บางรุ่น นั่นละ)
พละกำลังสูงสุด ของ Golf GTi MK-VI อยู่ที่ 210 แรงม้า (BHP) ที่ 5,300 - 6,200 รอบ/นาที
ฟังดูยังไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่โปรดดูแรงบิดสูงสุดเสียก่อน 280 นิวตันเมตร (28.53 กก.-ม.)
ที่รอบเครื่องยนต์ 1,700 - 5,200 รอบ/นาที
แม้ว่าแรงบิดจะดูเหมือนเพียง 280 นิวตันเมตร แต่อย่าลืมว่า แรงบิดสูงสุดนั้น
มันโผล่มาพบปะกับเท้าขวาคุณได้ ตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ ที่ต่ำมาก เพียง 1,700 รอบ/นาที
แถมคุณยังสามารถเรียกใช้งานได้ทุกเมื่อ ในแทบทุกย่านความเร็วที่ต้องการ ต่อเนื่อง
ไปจนถึง 5,200 รอบ/นาที กันเลย!! แถมยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ ต่ำเพียง
ปล. ชัดเจนนะครับ ผมว่าน่าจะถูกต้องแล้วนะ ตามหลักฟิสิก ทั้งแรงบิดและแรงม้า ที่ จขกท บอกมา ผมมองว่าไม่มีข้อไหนแหกกฏ ฟิสิก ซักนิด สำหรับรถข้อ 2 นะครับ ข้อแรกผมไม่รู้ว่าเครื่องอะไร ยี่ห้ออะไร
-
คัน B เป็น Sciroccoc นะครับ ตัวเลขแรงบิด แรงม้าอาจจะไม่เป๊ะนะครับ เนื่องจากเจ้าของรถบอกมาเลขนึง
ผมหาข้อมูลจาก google มันก็จะมีค่าแตกต่างกันอยู่ 2-3ค่า และผมไม่ได้เล่่นรถยุโรปจึงไม่รู้ว่ามันมีกี่เวอร์ชั่น
จึงลงตัวเลขใกล้เคียงไปให้ครับ จุดประสงค์คือแรงบิด แรงม้าต่างกันพอสมควร แต่วิ่งหนีกันไม่ออก ของเค้าดีจริงๆครับ
รถยนต์ A มีการ reflash กล่องมาครับ แต่ตัวเลขที่แรงบิดแรงม้าที่แจ้งไว้เป็นค่าตามสเปคโรงงานครับ ซึ่ง refhash แล้วอาจจะห่วยลงก็ได้ครับ 555
ส่วนคัน B เดิมๆโรงงานครับ
2คันนี้วิ่งเล่นกันประจำครับ คนขับเป็นเพื่อนกันครับ ไม่เคยวิ่งประกบยาวๆแบบนี้ เพราะวิ่งปกติถ้าคัน A วิ่งนำ ถ้ากดออกก่อนจะไปยาวเลยครับ
ถ้าคัน B วิ่งนำ ถ้ากดออกก่อนจะหนีไม่ออกครับ แต่ส่วนใหญ่วิ่งกันไม่เกิน 180 เลยไม่รู้ว่า ช่วงปลายๆ คัน A ก็โดนมิใช่น้อยครับ
-
เราพูดกันโดยม้าตามสเป็ค..แต่เราไม่รู้ว่าจริงๆมันเท่าไหร่กันแน่ อยากรู้ก็จับขึ้นไดโน่ได้แล้วอาจจะเห็นอะไรที่คาดไม่ถึง
คัน B น่ะ เห็นม้าโบรชัวร์ 210 คิดว่าม้าที่ล้อน่าจะ 180 ใช่มั้ย ..ในการคาดการณ์ส่วนใหญ่มันควรจะเป็นอย่างนั้น แต่บังเอิญเคยเห็นพวกรถ B ไดโน่มาแล้ว ม้าลงพื้นเดิมๆโรงงานก็ 200 ตัวแล้วครับ มากกว่านั้นด้วยซ้ำ
ถ้าสมมติรถ A เป็นเกียร์ธรรมดา 5-6 จังหวะ มีม้า 250 มันก็มีความเป็นไปได้ที่เวลาเอาไปวัดม้าอาจจะลงพื้นแล้วหายไปประมาณ 15-20% ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็เท่ากับว่าจับลงพื้นได้ 200 ทีนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับรถ Bแล้วใช่มะ เหลือแค่น้ำหนักเป็นตัวสร้างความได้เปรียบ แต่เรื่องเกียร์นั้น ถ้าคัน A เป็นธรรมดา 5 สปีดทดแบบรถบ้านๆก็ไม่น่าแปลกใจที่จะโดนคัน B สอยหลัง 180 ครับ เพราะอัตราทดคัน B มีความต่อเนื่อง ช่วยให้รถรักษาแรงบิดลงพื้นเพื่อวิ่งฝ่าลมได้ดีกว่า
แต่ถ้าความเร็วต่ำๆเกียร์ 1-2 รถน้ำหนักเบามากๆกับการออกตัวที่ดีจะมีส่วนช่วยให้ดีดออกได้ก่อนครับ
อย่าง NX ผม ม้าลงพื้น 180 เจอกับ 328i M Sport รถผมเบากว่ามาก เกียร์ 1-2-3 ผมยันได้ไม่มีปัญหา แต่พอหลัง 160 ไป ผมไหลสู้ไม่ได้เพราะผมใช้เกียร์ 4 จบที่ 200 เกียร์ 5 รับต่อยาวๆ สู้ 8 จังหวะของ 328i ไม่ได้และพละกำลังแรงบิดไม่ได้
-
ตามนั้นครับ VW underclaim สเปครถตัวเอง เพื่อเหตุผลทางการตลาด
-
ชอบๆกระทู้แบบนี้ได้ความรู้เพียบ อย่างซู พวก spec RA 280ps เดิมๆ กดสุดเกียร์หมดที่ 180 พอดี เขาเซตอัตราทดมาแค่นั้นจริงๆ แต่ต้นจัดมากๆ
รอบสูงปรี๊ด
-
คนขับ รถ250 ม้า อ่อน
-
มาอัพเดทให้นะครับ วันเสาร์รถคัน Aไปขึ้น Dyno มาครับ
รถคัน A ม้าเหลือ 170 แรงบิดเหลือ 230 นะครับ แต่ก็น่าแปลกที่ม้าเหลือเท่านี้แต่วิ่งเกาะกันถึง 180 ได้ จริงๆน่าโดนยาวๆตั้งแต่ต้น
สรุปว่ารถ A น่าจะมีปัญหาครับ เพราะคนที่ Dyno เห็นเครื่องก็รู้ว่าม้า200กว่าแน่ๆแต่ไม่รู้เท่าไหร่ โมมาก็ว่ากันที่300กว่าทั้งนั้น
ค่อยหาสาเหตุกันอีกทีครับ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาออกความเห็นครับ
-
2.อ่ะเครื่องตะ TSI ของ VW แน่นอนเลย เกียร์ DSG เท่าที่ดูจากสเปคใช่เลย
แต่ข้อแรกนี่ผมเดาไม่ออกแฮะ เป็นรถวางโบทีหลังป่ะครับ ;D ไม่ใช่เครื่อง เทอร์โบจากโรงงาน
ถ้าเป็น Scirocco 2.0TSI อย่างท่านว่า
แรงม้ามัน 200 แรงม้า @ 5,100 -6,000 รอบ/นาที
แรงบิดมัน 280 N-m @ 1,700 - 5,000 รอบ/นาที
จากโจทย์ที่ จขกท เขียนมา 210 แรงม้า และ 280 N-m @ 5,000 รอบ/นาที่
จขกท กำลังแหกกฎฟิสิกส์นะครับ
เรื่องแรงต้านทานอากาศ คันนี้ค่า CD สูงกว่ารถเก๋งบ้านๆ อีกนะครับ
ผลจากอัตราทดเกียร์น่าจะมีผลต่อเหตุการณ์ข้างบนมากกว่า
ตะกูล TSI มันมีหลายเวอร์ชั่นครับ แต่ตัวหลังๆล่าสุด ม้ามันเป็น 210ม้าแล้วครับ scirocco ก็ 210 ม้าเหมือน GTI มาประมาณ 2-3 ปีแล้วครับ ส่วนแรงบิดเนี่ย ผมเข้าใจว่ามันเป็นเทอร์โบ มันมาแบบแฟลตทอร์ดแหละครับ เทอร์โบนะครับ ถ้า NA ผมไม่เถียง แต่บอกไว้ ณ ที่นี้เลยครับว่า VW เค้าชอบเคลมแรงม้าต่ำกว่าความเป็นจริงพอสมควรครับ ทั้งแรงม้าและแรงบิด พอมาวัดไดโน่จิงๆม้าเยอะกว่าที่โรงงานเคลมครับ
ปล.อีกอย่าง จขกท แหกกฏ ฟิสิก ตรงไหนครับ ผมก็เห็นตัวเลขก็ถูกต้องนะ ขอ งง ด้วย คน
คุณ penalty ควาเห็นที่ 25 อธิบายไว้ครบครันแล้วครับ ลองกลับไปอ่านดู