Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: HOMY_DEMIO ที่ มกราคม 13, 2010, 12:33:32
-
ยอดขายเฉลี่ยของ mitsubishi ต่อเดือนคือ 2.2 พัน
ยอดขายเฉลี่ยของ ford เดือนละประมาณ 600 คัน
ภายใน 2-3 ปีนี้ มาดูรถใหม่กัน
Mitsubishi
- Triton Big minorchange 2011
-ส่วน ecocar น่าจะออกมาปลาย 2012
Ford ออกรถใหม่ถึง 3 รุ่น
- Fiesta ทั้งซีดานและ 5 ประตู
- กระบะใหม่ T6
- Ford Focus ใหม่
ผมว่าถึงปี 2012 นี่น่าจะมีลุ้นกับ Ford นะว่าคงมีโอกาสทำยอดขายได้เทียบเท่า Mitsubishi
หรืออาจจะมีโอกาสแซงหน้าขึ้นมาได้
เพื่อน ๆ คิดว่ายังไงครับ
-
น่าจะเป็นไปได้นะ
ถ้าตัวผลิตภัณต์น่าสนใจ บวกกับราคาที่ดึงดูด ผมคิดเช่นนั้นนะ
-
วัดกันที่ Product ล้วนๆ มีโอกาส
แต่มันมีเรื่องการบริการมาคิดด้วยนี่ Ford ยังมีงานรออีกเยอะครับ
-
ผมก็ภาวนาให้เป็นเช่นนั้นนะ ... ขึ้นมาสูสีกันก็ยังดี ... มาแชร์ตลาดและความนิยมจากค่ายยักษ์ใหญ่กันไม่ใช่มากินกันเอง ทั้ง Ford Mitsu. Nissan Mazda เหนื่อยกันมานานมาก ... คุณสมบัติและคุณภาพของรถก็ไม่ได้ด้อยกว่า เผลอๆ จะดีกว่าด้วยซ้ำ ... คุ้มค่าราคาที่จ่ายไปเพื่อเป็นเจ้าของ และที่สำคัญคือค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาที่เป็นเจ้าของใช้งานอยู่ (low cost to drive)
ติดอยู่ที่คนไทยเรามักจะมองราคาขายต่อและหน้าตาของแบรนด์ (ซึ่งต่อเนื่องไปถึงหน้าตาของตนเอง เวลาขับมันดูเท่กว่า) เป็นหลัก
ผู้บริหาร Ford วันนี้ ก็เคยทำงานให้ Mitsu. มาแล้ว ตั้งแต่ยังเป็น Rookie (ภาษานักกีฬาแปลว่า-เข้ามาเล่นเป็นมืออาชีพปีแรก) แล้วก็ย้ายมา Ford อยู่พักนึง ... ต่อมาก็ถูกดึงตัวกลับไปช่วย Mitsu. จนถึงวันที่ Mitsu. เปลี่ยนแปลงระบบบริหาร ก็ถูก Ford จีบให้กลับมาอีก ... น่าจะพอรู้ตับไตใส้พุงกันดีพอสมควร ... ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวสินค้าและการตลาดแล้วล่ะครับ
-
ผมว่านะครับ
ศูนย์บริการนี่เป็นตัวสำัคัญมากเลยครับ
อย่าง Ford เนี่ย
ก่อนซื้อรถ ผมอยากดู Focus ดีเซล ใจจะขาด
แต่ก็ไม่มีศูนย์อยู่ใกล้บ้านเลย
ไปถึงศูนย์ ก็ไม่มีรถให้ดู ไม่มีรถให้ลองขับอีกต่างหาก
แถมศูนย์ก็ไม่เปิดแอร์ ไม่เปิดไฟด้วย
(มันจะลดต้นทุนกันเกินไปหน่อยมั้ง)
ถ้า Ford พัฒนาศูนย์บริการให้ดีได้นะครับ
จะแซงมิตซู ก็ไม่น่าจะยาก
-
เอ่อ เห็นความเห็นข้างบน เลย นึกขึ้นได้ ว่า
ทั้ง มิตซู และ ฟอร์ด (มาสด้า ด้วย) ต่างก็มี เครื่อยนตากิจเป็น ดีลเลอร์อยู่นะ
-
ผมว่าทำได้ ถ้าFord นำเสนอรถตัวเองให้ดีกว่านี้
-
ทั้ง Ford และ Mitsubishi มีดีที่ตัวรถ
แต่ 0 บริการดีๆหายากทั้งคู่
ถ้าปรับปรุงเรื่องนี้ได้ก็มันหยดละครับ
เพราะรถใหม่ที่ทั้งคู่จะเอาเข้ามาขายอยู่ในกลุ่มที่มียอดขายสูงทั้งนั้น
-
ดูจากกระทู้นี้ http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=4039.new#new (http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=4039.new#new)
ฟอร์ดแซงได้ไม่ยาก ;D
-
ผมว่ายากเรื่องของศูนย์บริการที่หาทำดีๆน้อยเป็นเรื่องใหญ่ ไหนจะการตลาดที่ไม่รู้จักเอาจุดเด่นมาโฆษณาแต่ดันเอาเงินไปจ้างพรีเซ็นเตอร์ค่าตัวแพงอีก ต่อให้รุ่นที่มี ecoboost คุณภาพร้อนแรงมาขายคนก็ไม่สนใจยี่ห้อฟออร์ดมากกว่าเดิมนัก
-
ถ้าตราบใด ที่ฟอร์ด เร่งปรับปรุง งานบริการหลังการขาย สร้างความเชื่อมั่นกับลูกค้าให้ต่อเนื่อง
รวมทั้ง ปรับปรุงภายในองค์กรของตัวเองให้ดีๆ อยู่ด้วยกันได้ยาวๆ ไม่ใช่เป็นอย่างที่เป็นมาเมื่อก่อนนี้
(จนแม้แต่ตอนนี้ น้องในทม The Coup ของเรา คนหนึ่ง ก็เพิ่งถอย Focus TDCi 5 ประตู ออกมาเรียบร้อยแล้ว)
และถ้ามิตซูบิชิ ยังคงมีคนญี่ปุ่น ที่ทำตัวอย่างที่เป็นทุกวันนี้
ผมว่า ฟอร์ด อาจแซงมิตซูบิชิ ได้แน่ ภายในปีนี้ ครับ
-
ถ้าจะให้ Ford แซงได้ ก็ต้องก่อนที่ Mitsu จะออก Ecocar นะ
เพราะโดยปกติ รถรุ่นที่ทำยอดขายได้เยอะๆ มักจะเป็นรถรุ่นที่ราคาถูกกว่าเสมอ
ช่วงที่ Ford ออก Fiesta 4 Dr - 5 Dr จะเป็นช่วงที่โกยยอด ขึ้นมาเทียบ Mitsu
ดังนั้น ถ้าแซงช่วงนี้ไม่ได้ จนกระทั่ง Mitsu ออก Ecocar แล้วล่ะก็ คงหมดหวัง
ปล. อย่าลืมว่า ยอดขายปัจจุบัน Ford ตามหลัง Mitsu ห่างถึง 3.5 เท่า
-
::) ::) นิสสัน ช่วงหลังก็มาเเรง ไช้ได้เลย
-
ขอตอบว่ายากครับ...
และถ้า Mitsu สามารถปรับบริการหลังการขายให้ดีกว่าเดิมได้
นั่นยิ่งทิ้งห่างครับ........
Ford ยังมีการบ้านที่เยอะกว่ามากครับ
แต่ถ้าโอกาสเบียดเข้าใกล้ มีมากครับ
-
พัฒนาการของรถ พอๆกัน
แต่พัฒนาการของบริการ มิตซูเริ่มดีขึ้น แต่ฟอร์ดยังย่ำอยู่กับที่
-
มันก็มีสิทธิ์ทั้งเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้
ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ทางการตลาด การบริการหลังการขาย และตัวรถเอง
รอดู EVP ใหม่ มิตซูก่อนว่าจะวางนโยบายยังไง
-
สำหรับฟอร์ดเอาเป็นว่านำเข้า Focus TDCi มาให้ทันความต้องการลูกค้า และมีรถให้ดูตามโชว์รูมซะก่อนเถอะฮะ
โอกาสของฟอร์ดที่จะแซงมิตซู มีอยู่แล้ว มีอยู่มากด้วย
เพราะ Product ที่จะออกแต่ละชิ้น อย่างน้อยที่เห็นๆก็ 2 ใน 3
ต่างเป็น Product ที่น่าจับตามองในอันดับต้นๆเลย ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
ไม่น่าน่าเบื่อ น่าง่วง หาวเรอ แบบที่ผ่านๆมา ทั้งเรนเจอร์เอย
เอสเคปเอย ที่ลากขายยาวกันเกินกว่าที่ควรจะเป็น
ต่างกับมิตซูบิชิ ที่วิธีการทำงานก็ยังเดิมๆ คิดมาก คิดยาว กันจนนำรถมาป้อนสู้กับตลาดไม่ทัน
ซึ่งขนาดตอน Lancer EX ผมถึงกับ อึ้ง ทึ่ง เสียว(เรื่องยอดขาย) แทนมากๆ! เพราะพี่แกใจเด็ด
ยังอุตส่าห์เก็บสีขาวไว้ไม่ยอมทำออกมาตอนเปิดตัว! เฮ้ย มาทีหลังชาวบ้าน แล้วยังไม่ยอมทุ่มทวงเอายอดขายคืน
แล้ว Triton ที่ไมเนอร์เชนจ์ที่ผ่านมา ก็เล่นทำเอาผู้ใช้งง เพราะไมเนอร์เป็นระลอกๆ ก็ยิ่งงงกับการตลาดของเขา
ไม่รู้จะยังไงกัน
สุดท้ายก็เลยต้องฝากความหวังไว้กับ Ecocar ของมิตซูบิชิ ที่ดูจะเป็นกุญแจตัวสำคัญในการ
เพิ่มยอดขายและคืนสีสันสู่แบรนด์นี้หลังจากเงียบเหงามานานเกือบจะสิบปีแล้วมั้งฮะ
เฮ้ออออ ในคำตอบของคำถาม ก็เห็นด้วยกับพี่จิมว่าถ้ามิตซุยังเป็นแบบนี้ และฟอร์ดมีการปรับตัวในเรื่อง
การตลาดและศูนย์บริการ ภายในปีนี้ก็อาจจะแซงหน้ามิตซูไปแล้วก็ได้..
-
ผมว่ายากนะ ยกเว้นว่าเฟียสต้ามา แล้วจะฟีเวอร์แบบ มาสด้า 2 อันนั้นคงได้
จุดสำคัญอยู่ที่แบรนด์ล่ะนะ ความเชื่อมั่น ยังไม่ค่อยมีเท่าไหร่ ;D ;D ;D
-
Mitsubishi
- Triton Big minorchange 2011 ----- ยอดน่าจะคงตัว เพิ่มเล็กน้อยในตอนต้นที่ออก
- ecocar น่าจะออกมาปลาย 2012 ----- ออกพร้อมฮอนด้า ยอดคงไม่หวือหวา
- lancer ----- ด้วยราคา ในปีสองปีนี้ ก็ยังน่าจะขายดีในระดับเดิม
- lancer ex ----- ต้องดูว่าปัญหาของล็อตแรก จะแก้ไขได้เร็วแค่ไหน
Ford ออกรถใหม่ถึง 3 รุ่น
- Fiesta ทั้งซีดานและ 5 ประตู ----- ระยะเวลาใกล้กับมาร์ช + 2ซีดาน ไม่น่าได้ยอดมาก
- กระบะใหม่ T6 ----- ไม่แน่ใจ ไม่ค่อยรู้ตลาดรถกระบะ แต่ถ้าคิดว่ามันเป็นรถเพื่อการพาณิชย์ เถ้าแก่ส่วนใหญ่ ก็ยังน่าไว้ใจค่ายญี่ปุ่นมากกว่านะ
- Ford Focus ใหม่ ----- อันนี้แหละ น่าทำยอดได้
ส่วนตัวแล้ว ยังเห็นว่าไม่น่าแซงได้ใน 2 ปีนี้
-
ผมคิดว่าเป็นไปได้นะ ปีนี้คงจะไล่บี้ขึ้นมาได้พอสมควร ปีหน้าอาจจะถึงขึ้นแซงได้ ยกเว้น มิตซูฯจะกระทำการบางอย่าง เช่น
1. ผู้ใหญ่ที่เป็นคนไทย งัดข้อกับฝั่งญี่ปุ่นบ้าง อย่าไปตามความคิดของคนญี่ปุ่นให้มากนักเลย กล้าคิดกล้าตัดสินใจลงทุนกันหน่อย ตั้งไลน์รถที่ดูแล้วน่าจะติดกระแสได้ เช่น colt ก็ได้ ไลน์ประกอบ EX ก็เพิ่มกำลังการผลิตเถอะ มัวแต่กลัวขาดทุน จนเสียโอกาสในการทำกำไรไปเยอะเลย คิดแต่ว่าพอใจที่รถตัวเองส่งออกได้เยอะ ตลาดในประเทศเลยไม่ค่อยสนใจ ว่างั้น
2. เปลี่ยนฝ่ายการตลาดทั้งแผงเลย ผมอยากจะบอกว่า โฆษณาที่มิตซูฯ ลงทุนไป มันไม่ได้สื่ออะไรออกมาถึงตัวรถคุณเลย EX คุณคิดได้ไงว่ากลุ่มลูกค้าหลักเป็นผู้หญิง ลองเปิด internet ดู หรือหาหนังสือเปิดดูก็ยังได้ ว่าคนที่รอ EX น่ะผู้ชายเกือบทั้งนั้น, triton โฆษณาออกมาก็ไม่ได้ดีเด่ไปกว่ากันเท่าไหร่ เสียงบประมาณโดยใช่เหตุ จุดเด่นรถของมิตซูฯคืออะไร ตีโจทย์ให้แตกก่อน แล้วค่อยทำโฆษณาดีไหม (ดูอย่างมาสดาเป็นต้น ตีโจทย์ผลิตภํณฑ์ ได้ดีมากๆ ผมขอชมเชย)
ส่วนฟอร์ด ถ้าอยากแซงมิตซูฯ ที่ควรทำอย่างแรกเลย คือ
1. ยกระดับศูนย์บริการให้ดีขึ้นกว่านี้ ผมมองว่านี่เป็นจุดบอดหลักของฟอร์ดเลย รวมถึงพยายามกดราคา อะไหล่ให้ต่ำที่สุด เพื่อลบภาพอะไหล่แพงออกไปจากหัวคนไทย
2. ทำยังไงก็ได้ให้เครื่องดีเซล เข้ามาในเฟียสต้า หรือ ส่งมอบเจ้าโฟกัส tdci ให้เร็วกว่านี้ ผมมองว่าตลาดรถเก๋งเครื่องดีเซล ในบ้านเรากำลังจะมาแล้ว ขึ้นแต่ว่าใครจะก้าวเข้ามาหยิบชิ้นปลามันไปได้ก่อน
3. เร่งโฆษณาให้มากกว่าปัจจุบัน โหมโรงจัดกิจกรรมต่างๆ ให้มากขึ้น จ้างพรีเซ็นเตอร์ที่เหมาะสมกับตัวผลิตภัณฑ์ ถ้าสร้างกระแสได้เหมือนมาสดา 2 นี่ โอกาสสดใสเลยทีเดียว