Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: AVANTGARDe' ที่ มกราคม 19, 2010, 21:52:05
-
ปัจจุบันนี้เห็นทางการเริ่มจริงจังกับการขับรถเร็วเกินกำหนดแล้วอ่ะครับ
มีการติดป้ายจำกัดอัตราเร็วไว้ตามถนน บ้างก็110 บ้างก็90
ผมเลยคิดได้ว่าเมื่อมีการกำหนดไม่ให้เราขับรถเร็ว ก็จะส่งผลที่ตามมาก็คือแต่ละคันไม่สามารถขับรถได้เร็ว เป็นผลให้เกิดการจราจรติดขัดได้
เลยเกิดความสงสัยว่า แล้วมีที่ไหนในโลกบ้างครับ ที่รณรงค์ให้ขับรถเร็วเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการระบายการจราจรบ้างอ่ะครับ ??
ปล. การจำกัดอัตราเร็วบนทางหลวงนี่ตกลงว่า 90 หรือ 110 กันแน่อ่ะครับ ?
ขอบคุณครับ ^____^
-
เคยได้ยินว่า autobahn เมืองนอกขับช้ากว่ากำหนดโดนจับนะคับ
-
เคยได้ยินว่า autobahn เมืองนอกขับช้ากว่ากำหนดโดนจับนะคับ
ที่เยอรมันด้วยครับ ถนนไรก็ไม่รุ้ ห้ามขับช้ากว่า 120 กม./ชม. เพราะถือว่าต้องเป็นเกียรติแก่ถนน เพราะถนนนี้ใช้ทดสอบรถซูเปอร์คาร์มามากมาย
-
ทางหลวงเคยถามตำรวจบางท่านบอก110บางท่านบอกอนุโลมถึง120ไม่รู้เอาอันไหนกันแน่งงเหมือนกันครับ
-
ทางหลวงเคยถามตำรวจบางท่านบอก110บางท่านบอกอนุโลมถึง120ไม่รู้เอาอันไหนกันแน่งงเหมือนกันครับ
แล้วเอาสมรรถนสูงๆ และแรงม้าสูงๆ ไว้เพื่ออะไรครับ[quote author=st_citroen
เห็นแข่งกันพัฒนาเหลือเกิน
-
แต่ในมุมของผม คิดว่าที่รถติดเพราะทุกวันนี้ เราไม่ค่อยเคารพกฎจราจรกันครับ
ที่ที่ไม่ให้เลี้ยวก็จะเลี้ยว ,ย้อนศร ,ฝ่าไฟแดง ,ไม่มีน้ำใจให้กัน มากกว่าครับ
ที่ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเดือดร้อนกันมากขึ้น รถติดมากขึ้นครับ :)
-
แล้วเอาสมรรถนสูงๆ และแรงม้าสูงๆ ไว้เพื่ออะไรครับ
เห็นแข่งกันพัฒนาเหลือเกิน
ผมว่าประโยชน์ที่เค้าตั้งใจพัฒนาตรงนั้น น่าจะอยู่ที่เรื่องอัตราเร่งเป็นหลัก
ส่วนความเร็วสูงสุดเนี่ยเป็นผลพลอยได้ครับ
-
แต่ในมุมของผม คิดว่าที่รถติดเพราะทุกวันนี้ เราไม่ค่อยเคารพกฎจราจรกันครับ
ที่ที่ไม่ให้เลี้ยวก็จะเลี้ยว ,ย้อนศร ,ฝ่าไฟแดง ,ไม่มีน้ำใจให้กัน มากกว่าครับ
ที่ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเดือดร้อนกันมากขึ้น รถติดมากขึ้นครับ :)
น่าจะเป็นเพราะเหตุนี้ ที่ทำให้รถติด
-
ปัญหาจริงๆอยู่ที่การขับรถครับ การขับที่ไม่ถูกต้องตามกฏจราจร อย่างที่บางท่านได้โพสไปแล้วนั่นเอง
จะว่าไปบ้านเราได้ใบขับขี่กันง่ายมากๆ อย่างบางประเทศ ในยุโรป เค้าต้องใช้เวลาและเงินจำนวนมาก
ในการที่จะได้ใบขับขี่ สักใบ ไม่ว่าคุณจะขับรถเป็นมาก่อนหรือไม่ ต้องไปโรงเรียนครับ ให้เค้าการันตี
ทั้งข้อเขียน การปฎิบัติ และยังต้องขับรถออกไปสอบกัน บนถนนจริงๆ กับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้รู้ว่า ......
คุณมีความสามารถ และทักษะเพียงพอ ที่จะใช้รถบนท้องถนนร่วมกับผู้อื่น แม้กระทั่ง หลังจากได้ใบขับขี่มาแล้ว
ยังต้องรักษามันไว้โดยการเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้ถูกตัดแต้ม หรือโดนยึดใบขับขี่
ถ้าเลวร้ายกว่านั้น คุณอาจจะไม่ได้ขับรถ อีกเลยตลอดกาล .....
.... ที่กล่าวมาเป็นมาตรการ ที่ประเทศอื่นเค้าใช้กัน .....
แต่พอเหลียวดูบ้านเราครับ ถ้าคุณเพิ่งหัดขับ พอไปได้ ก็แค่ ขับเดินหน้า ขับถอยหลัง เลี้ยวๆ วนๆ
บวกกับขีดๆเขียนๆ อีกนิดหน่อย ก็ได้ใบขับขี่มาเชยชม ..... โดยที่เจ้าตัวขาดทักษะที่สำคัญๆไป
บางท่านไม่ทราบแม้แต่ว่า ไฟสัญญาณต่างๆในรถ คืออะไร และใช้ทำอะไรได้บ้าง คุณว่ามันอันตรายไหมครับ
ถ้าจะต้องเจอคนประเภทนี้ใช้ถนนร่วมกับคุณ เกิดเค้าจะเหยียบเบรค แล้วดันไปเหยียบคันเร่ง เรื่องจะเป็นยังไงครับ
อีกอย่าง กฎหมายบ้านเรา ก็ไม่ค่อยบังคับใช้จริงๆจัง จับพอเป็นพิธี กิ๊บเก๋ หรือทำนอกกฏหมายไปเลย เช่น ซุ่มโป่งเพื่อหาค่าเหล้า
ถ้าเรื่องพื้นฐานอย่างนี้ยังไม่ได้แก้ อย่าไปรณรงค์เรื่องอื่น ให้เปลืองน้ำลายและเวลาดีกว่าครับ ท่านผู้มีอำนาจ...!!
-
ผมว่าคนที่ขับ 100 ประหยัดน้ำมัน พวกนี้อะ เวลาถนนซ้ายว่างก็ควรจะหลบบ้าง
แบบตอนปีใหม่ ถนน ตรงอยุธยา ก็มี8เลนส์ แล้วเจอรถช้าวิ่งขวานี่เซงๆมาก
จนทำให้เห็นว่าคันไหน แว็นๆ แซงซ้าย ทีนึงยิงยาวเลย เพราะรถสวนใหญ่อยู่เลนกลางและเลนส์ขวาหมด
-
หลาย ๆ ประเทศมีทั้ง Maximum Speed Limit และ Minimum Speed Limit ครับ บางที่ก็จะมีการแบ่งปลีกย่อยลงไปมากกว่านั้น เช่น นอกเหนือจาก speed limit แยกตามประเภทของรถและประเภทของถนนแล้ว ยังมี speed limit สำหรับตอนกลางวันและตอนกลางคืนด้วย เท่าที่ทราบมีแค่ Autobahn ในประเทศเยอรมันที่ไม่มี speed limit บังคับตายตัว แต่เค้ามี "อัตราความเร็วสูงสุดที่แนะนำ" หรือ "Advisory Speed Limit; Richtgeschwindigkeit" ซึ่งถูกกำหนดอยู่ที่ 130 กม./ชม. หมายความว่าคุณอยากขับเร็วแค่ไหนคุณขับไป ตราบเท่าที่สภาพถนนอำนวย สภาพรถที่คุณกำลังขับอำนวย และสภาพร่างกายและจิตใจคุณยังแข็งแรงดีพร้อมวิจารณญาณที่เหมาะสม ที่สำคัญคือคุณไม่ได้กำลังสร้างความเดือดร้อนอันตรายให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามที่เกิดอุบัติเหตุเมื่อคุณขับเร็วเกินกว่าอัตราความเร็วสูงสุดที่แนะนำ ศาลก็จะใช้ความเร็วที่คุณขับเป็นปัจจัยประกอบการตัดสินคดีความว่าคุณมีความผิดหรือไม่อย่างไรด้วย
ประเด็นเรื่องอัตราความเร็วที่กฎหมายกำหนดของประเทศไทยที่รักนี่จะให้พูดยังไงก็คงจะหาทางจบยาก ถ้าผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนใหญ่ยังถือว่าสิทธิในการใช้ถนนมีอยู่อย่างเท่าเทียมกันโดยไม่ต้องคำนึงถึงมารยาทและการใช้ถนนร่วมกับคนอื่น และตราบเท่าที่ข้าราชการนักการเมืองยังกินหิน กินปูน กิินทราย กินยางมะตอยกันอย่างอิ่มหมีพีมัน ทำให้คนขับรถบนทางหลวงมีข้ออ้างว่าขับชิดซ้ายไม่ได้เพราะถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ (ถึงแม้มันจะซ่อมกันได้ทั้งปี แต่มันก็จะกลับมาพังได้ในอีกไม่นาน) อาจจะเริ่มปลูกฝังนิสัยการขับขี่ที่ดีบนทางด่วนกันก่อนดีมั๊ยครับ เลิกเบียดกันตามเลนส์ 4 เลนส์ 5 (รู้สึกว่าเค้าจะออกแบบมาให้วิ่งแค่ข้างละ 3 เลนส์ อีกเลนส์เป็นเลนส์ฉุกเฉิน) เปลี่ยนทัศนคติที่ว่า รถช้าขับชิดซ้าย เป็น รถช้ากว่าคันอื่นกรุณาขับชิดซ้าย เพราะต่างประเทศเค้าใช้คำว่า "Slower Traffic Keep Left" เพราะบางท่านรู้สึกว่าในขณะที่ตัวเองกำลังขับ 60-70-80 บนทางด่วนในขณะที่โล่ง ๆ ก็ถือว่าขับเร็วแล้ว โดยหารู้ไม่ว่าข้างหลังท่านมีรถตามหลังอยู่เป็นขบวนด้วยความรู้สึกว่าอยากจะให้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยยกรถท่านให้หลบไปช่องซ้ายสุด และอีกอย่างคือ ช่วยล่วงรู้ัอนาคตของท่านนิดนึงว่าท่านกำลังจะขับไปไหน จะตรงไป จะไปทางขวา หรือจะมาทางซ้าย โปรดมีสติซักนิดในขณะขับรถ ไม่ใช่มาแทรกคันอื่นในระยะกระชั้นชิด หรือเพิ่งรู้สึกตัวว่าต้องเบี่ยงขวาในขณะที่รถกำลังจะชนกำแพงกั้นทาง เคยรู้สึกกันมั๊ยครับว่า ไอ้ที่เมื่อกี้กรูติดอยู่ตั้งนานเนี่ย มันติดอะไรของมันฟะ ทั้ง ๆ ที่พอเลยมาก็ไม่เห็นมันจะมีอะไรให้น่าติดเลย ลองเอา ฮ. บินขึ้นไปดูในมุม plan view สิครับ หรือติด cctv ดูก็ได้ มันติดกันเพราะเบียดกันไปมา เปลี่ยนเลนส์กันไปมา ทั้ง ๆ ที่ข้างหน้าไม่มีอะไรติดเลย ถ้าพวกคุณรู้ตัวว่าจะไปทางไหนแล้วขับตามช่องทางที่ถูกต้องตามกันมาเรื่อย ๆ ปัญหาเหล่านี้อาจจะทุเลาเบาบางลงไปได้บ้างครับ
สรุปกลายเป็นความเห็นแบบเก็บกดซะ ขอให้ขับรถโดยปลอดภัยและสนุกสนานกับการขับรถอย่างมีความสุขทุกท่านครับ
-
เห็นด้วยครับ
-
ปัญหาจริงๆอยู่ที่การขับรถครับ การขับที่ไม่ถูกต้องตามกฏจราจร อย่างที่บางท่านได้โพสไปแล้วนั่นเอง
จะว่าไปบ้านเราได้ใบขับขี่กันง่ายมากๆ อย่างบางประเทศ ในยุโรป เค้าต้องใช้เวลาและเงินจำนวนมาก
ในการที่จะได้ใบขับขี่ สักใบ ไม่ว่าคุณจะขับรถเป็นมาก่อนหรือไม่ ต้องไปโรงเรียนครับ ให้เค้าการันตี
ทั้งข้อเขียน การปฎิบัติ และยังต้องขับรถออกไปสอบกัน บนถนนจริงๆ กับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้รู้ว่า ......
คุณมีความสามารถ และทักษะเพียงพอ ที่จะใช้รถบนท้องถนนร่วมกับผู้อื่น แม้กระทั่ง หลังจากได้ใบขับขี่มาแล้ว
ยังต้องรักษามันไว้โดยการเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้ถูกตัดแต้ม หรือโดนยึดใบขับขี่
ถ้าเลวร้ายกว่านั้น คุณอาจจะไม่ได้ขับรถ อีกเลยตลอดกาล .....
.... ที่กล่าวมาเป็นมาตรการ ที่ประเทศอื่นเค้าใช้กัน .....
แต่พอเหลียวดูบ้านเราครับ ถ้าคุณเพิ่งหัดขับ พอไปได้ ก็แค่ ขับเดินหน้า ขับถอยหลัง เลี้ยวๆ วนๆ
บวกกับขีดๆเขียนๆ อีกนิดหน่อย ก็ได้ใบขับขี่มาเชยชม ..... โดยที่เจ้าตัวขาดทักษะที่สำคัญๆไป
บางท่านไม่ทราบแม้แต่ว่า ไฟสัญญาณต่างๆในรถ คืออะไร และใช้ทำอะไรได้บ้าง คุณว่ามันอันตรายไหมครับ
ถ้าจะต้องเจอคนประเภทนี้ใช้ถนนร่วมกับคุณ เกิดเค้าจะเหยียบเบรค แล้วดันไปเหยียบคันเร่ง เรื่องจะเป็นยังไงครับ
อีกอย่าง กฎหมายบ้านเรา ก็ไม่ค่อยบังคับใช้จริงๆจัง จับพอเป็นพิธี กิ๊บเก๋ หรือทำนอกกฏหมายไปเลย เช่น ซุ่มโป่งเพื่อหาค่าเหล้า
ถ้าเรื่องพื้นฐานอย่างนี้ยังไม่ได้แก้ อย่าไปรณรงค์เรื่องอื่น ให้เปลืองน้ำลายและเวลาดีกว่าครับ ท่านผู้มีอำนาจ...!!
เห็นด้วย +10 ปล.รำคาญมากพวกขับไม่เป็นแล้วเกะกะ เมืองนอกเขาต้องขับกันเป็นหมด
-
ขับรถ เมืองไทย ฝนตกหนักเมื่อไร รถชนกันยาว
ขับรถ ที่ อินโด ฝนตกหนักมาก รถแทบจะไม่ชนกันเลย
คนอินโด ขับรถ มรรยาทแย่กว่าคนไทย เยอะ ฝ่าไฟแดงกลางเมือง อยู่ขวาสุดเลี้ยวซ้าย อยู่ซ้ายสุดเลี้ยวขวา ตัดเลน สี่เลนเลย ปาดกันไปมา เฉียด สองนิ้ว นิ้วเดียว กันบ่อยๆ
ใครเคยไปยุโรป เดิน ข้างถนน ทางโค้ง ลองสังเกตุ รถที่วิ่งไปมาครับ
คุณจะได้ยิน เสียง เปลี่ยนเกียร์ต่ำ ก่อนถึง โค้ง และ เบรค ก่อนถึงโค้ง
และ แทบ จะไม่ได้เห็น ไฟเบรค แดง กลางโค้ง กันเลย
แต่ เมืองไทย ภาพจะแตกต่าง
เบรค กับ กลางโค้ง เห็น กันชินตา
ขับรถได้ กับ ขับ รถเป็น ต่างกัน มากนะครับ
ที่ อเมริกา สอบขับรถ คนขับ ต้อง มองกระจก มองหลัง บ่อยๆ ถ้าไม่ทำ สอบตกครับ
ถอยรถ ต้อง หันหน้า กลับมามอง ข้างหลัง โดยหันหัว เข้ามา ด้านกว้าง ในห้องโดยสารครับ
เขา ไม่อวดเก่ง ถอยรถ มองกระจกข้าง กระจกมองหลัง แบบ คนไทย หัดกัน เพื่อดูเท่ห์ แต่ ไม่ปลอดภัยครับ
ABS EBD VSC เขามีไว้ ช่วยยามฉุกเฉิน
แต่นิสัย เบรคกลางโค้ง ต้อง แก้ให้หาย จาก นิสัย คนขับรถคนไทย ให้ได้ก่อน
แล้วจึง จะ มาคุยกัน เรื่อง ความเร็ว ตาม กฎหมาย ว่าควรเป็น เท่าไร ครับ
-
น่าจะกฏหมายอนุโลมถึงแค่ 110 นะครับ
เดือนก่อนโดนใบสั่งไป ครับ
วิ่ง 114กม/ชม ตอนนี้่ยังไม่ได้ไปจ่ายเลยครับ
ฮ่าๆๆๆๆ
-
ขับรถ เมืองไทย ฝนตกหนักเมื่อไร รถชนกันยาว
ขับรถ ที่ อินโด ฝนตกหนักมาก รถแทบจะไม่ชนกันเลย
คนอินโด ขับรถ มรรยาทแย่กว่าคนไทย เยอะ ฝ่าไฟแดงกลางเมือง อยู่ขวาสุดเลี้ยวซ้าย อยู่ซ้ายสุดเลี้ยวขวา ตัดเลน สี่เลนเลย ปาดกันไปมา เฉียด สองนิ้ว นิ้วเดียว กันบ่อยๆ
ใครเคยไปยุโรป เดิน ข้างถนน ทางโค้ง ลองสังเกตุ รถที่วิ่งไปมาครับ
คุณจะได้ยิน เสียง เปลี่ยนเกียร์ต่ำ ก่อนถึง โค้ง และ เบรค ก่อนถึงโค้ง
และ แทบ จะไม่ได้เห็น ไฟเบรค แดง กลางโค้ง กันเลย
แต่ เมืองไทย ภาพจะแตกต่าง
เบรค กับ กลางโค้ง เห็น กันชินตา
ขับรถได้ กับ ขับ รถเป็น ต่างกัน มากนะครับ
ที่ อเมริกา สอบขับรถ คนขับ ต้อง มองกระจก มองหลัง บ่อยๆ ถ้าไม่ทำ สอบตกครับ
ถอยรถ ต้อง หันหน้า กลับมามอง ข้างหลัง โดยหันหัว เข้ามา ด้านกว้าง ในห้องโดยสารครับ
เขา ไม่อวดเก่ง ถอยรถ มองกระจกข้าง กระจกมองหลัง แบบ คนไทย หัดกัน เพื่อดูเท่ห์ แต่ ไม่ปลอดภัยครับ
ABS EBD VSC เขามีไว้ ช่วยยามฉุกเฉิน
แต่นิสัย เบรคกลางโค้ง ต้อง แก้ให้หาย จาก นิสัย คนขับรถคนไทย ให้ได้ก่อน
แล้วจึง จะ มาคุยกัน เรื่อง ความเร็ว ตาม กฎหมาย ว่าควรเป็น เท่าไร ครับ
เห็นด้วยอย่างที่สุด
เบรกกลางโค้ง หมุนพวงมาลัวมั่วๆ ซั่วๆ กระทืบคันเร่งในจังหวะที่ไม่ควร ฯลฯ
ทำให้เกิดอุบัติเหตุทั้งนั้น
-
บางคนขับรถไม่เก่งบางที่ขับรถดีมาก พอเก่งเข้าหน่อยปาดซ้ายปาดขวา กล้าแซงเลย กล้าลุยว่างั้น
-
การขับรถ ผมว่าก็แล้วแต่ประสบการณ์น่ะครับ
คนที่ไม่เคยนั่งรถเร็วๆ เลย เวลาเขามาขับ จะกล้าขับเร็วได้ไง?
คนที่นั่งรถเร็วๆ จนชิน ขับช้า ก็คงหลับก่อนป่ะ?
พอขับเร็วแล้วชน ตู้มมมม!!! สมองจูนใหม่ทันที...เวลาเจออย่างงี้ต้องอย่างงี้ๆๆๆ นะ หรือไม่ก็ ต่อไปนี้กูจะไม่ขับรถเร็วอีกแล้ว
พอขับช้า แล้วยังชน ตุ้ม... หลังจากนั้นก็คงขับช้ากว่าเดิมได้อีก!!
พวกขับรถผิดเลนนี่ก็น่าหมั่นไส้เหมือนกันนะครับ เวลาวิ่งต่างจังหวัดนี่น่าเบื่อมาก แล้วยังพวกหัวขบวนทั้งหลาย โอ้ยยย...บร๊ะเจ้าโจ๊กก!!
เลนซ้ายทำไมไม่วิ่งกัน ห๊ะ!? ถนนไม่ดี กลัวช่วงล่างพัง? อย่าใช้รถเลยดีกว่าพี่
ผมว่าถนนแต่ละที่ แต่ละเลน มันควรจะมีความเร็วที่เหมาะสมของมัน และคนขับควรจะรู้ได้ด้วยจิตสำนึก เช่นมองกระจกหลัง พอเห็นรถเร็วมาก็ต้องหลบ ไม่ใช่ขับอยู่อย่างงั้น...อยากไป ก็แซงเอาสิ. นี่แน่ะ พอแซง ก็หาว่าขับรถซิ่ง มุดไปมุดมา โอ้ว ก็พวกคุณนั่นแหละไม่ยอมหลบ...
หรือ มีสามเลน ขับมันเท่ากันสามเลนเลย หรือ ขับตามกันอยู่ดีๆ แล้วเปลี่ยนเลนมาทำท่าจะแซง แต่เปล่า!! มาขับตีคู่กันอีก แล้วพวกกระผมจะเอาที่ไหนแซงล่ะเนี่ย...สุดท้ายถ้าไม่เปิดไฟไล่พวกคุณ จี้พวกคุณ...ซึ่งก็จะมาหาว่าพวกนี้ขับรถหยาบคาย แล้วผมจะไปได้ยังไง?
ทางด่วนสุดท้ายของคนที่ขับรถเร็วกว่าคนอื่น ก็คงจะเป็นเลนนอก ที่รถวิ่งน้อยๆ หน่อย....หรือไม่ก็ไหล่ทางซ้ายสุด...ซึ่งพวกคุณก็คงมาหาว่าผมวิ่งบนไหล่ทางอีกใช่มะ คิดในใจว่า อิพวกนี้จะรีบไปไหน? ชิส์.
ชัดๆ เลยคือตอนปีใหม่ เส้นมิตรภาพ ถนนสี่เลนกว้างๆๆๆๆ เลนขวาสุดวิ่งไม่เกิน 80!! รถที่มุดไปมุดมา สุดท้ายก็มาอยู่ไหล่ทาง ไม่ก็เลนนอก วิ่งกันได้ 110+ (ก็ไม่ได้เร็วมากเลยนะเนี่ย พ่อผมขับ คิกดาวน์ก็บ่อย ไปถึงเขาใหญ่ใช้น้ำมันไม่ถึง 10 ลิตร (วีออส))
การเข้าโค้ง อีกนั่นแหละครับ คนขับรถเร็ว คราวนี้ดูได้เลยว่าใครมีความสามารถที่จะขับรถเร็วได้จริงแค่ไหน ประมาณความเร็วก่อนเข้าโค้งยังไง ไลน์โค้งยังไง ฯลฯ
บางคนขับมาเร็วโพดๆ พอถึงโค้งนี่เบรกตัวโก่งก่อนเข้าโค้ง ถ้าไม่อยู่ก็เข้ามันอย่างงั้นแหละ ค่อยมาเบรกๆ เอา ไม่กลัวแถไปชนรถชาวบ้านเค้าเลยรึไง?
ส่วนคนที่ขับช้าอยู่แล้ว อันนี้ก็ไม่ว่ากัน..คงจะปลอดภัยดี
บ่นมาซะยาว...สุดท้าย ขับรถ ก็ขอให้มีสติ มีน้ำใจแก่ผู้ใช้ถนนคนอื่น และอย่าประมาทนะครับ แม้ว่าคุณจะมั่นใจว่าคุณขับเก่งแค่ไหน อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ (ไม่จำเป็นต้องมีปาปรีก้าด้วย)
-
ผมถือว่ามีเท่าไหร่ต้องใส่ให้หมดครับ แต่ไม่เกิน 90 ในเมือง 130 บนทางด่วน และ 110 บนทางหลวงครับ
แต่อาจจะมีเลยจากนี้เวลาเร่งด่วน หรือจังหวะแซงครับ
-
ที่รถมันติดทุกวันนี้ก็เพราะคนใช้รถใช้ถนนไม่มีระเบียบวินัย มารยาทในการใช้รถใช้ถนนไม่ดีพอ ไม่ทำตามกฏจราจร
อย่างญี่ปุ่นรถเขามากกว่าเราถนนส่วนใหญ่จะแคบกว่าบ้านเรา ความเร็วกำหนดที่ไม่เกิน 100km/h
แต่รถเขาไม่ไตดแบบบ้านเราเพราะเขามีระเบียบวินัย มีมารยาทในการใช้รถ และเคารพกฏจราจร