Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: iambon ที่ ธันวาคม 17, 2014, 16:03:33
-
สวัสดีครับ
แปะไว้ก่อนครับ รับรถมาเช้านี้ครับ ขับไปแล้ว 100 กว่าโล
กำลังเขียนรีวิวครับรอแบ็บ
-
รอชมครับ ;D
-
รอชมด้วยคนครับ
-
wow
จะรอชมนะครับ
-
รอด้วยคนครับ
-
รอติดตามครับ
-
อยากเห็นรถในโรงจอดทุกคันพร้อมกันเลยอ่ะครับ รอชมคันนี้น่ะครับ
-
รอชมครับผม
-
สวยมากครับ รอชมครับ
-
Teaser ครับ
เขียนไปได้ 50% แลัวครับ อดใจรอกันอีกนิด
-
ปูเสื่อรอเลยครับ ^^
-
ทะเบียน 911
ผมนี่ ร้องเลย
-
ว๊าว สีน้ำเงินด้วย
-
รอชมด้วยคนครับ ;D
-
โอ่ว 911 ตัว Limited 50 ปี ด้วย ;D
-
รถ AAS ซะด้วย ติดตามครับ ชอบสีน้ำเงินนี้ของ Porsche มาก :)
-
ว่าด้วยเรื่องกุญแจของ porsche ครับ
ตั้งแต่รถรุ่นปี 2011 ก็เปลี่ยนเป็นกุญแจแบบ electronic ครับ
ออกแบบให้มีรูปทรงคล้าย iconic 911 ครับ
Macan คันนี้ไม่มี Keyless ครับ
เพื่อนๆสามารถเลือกสีของกรอบกูญแจให้เหมือนกับสีตัวรถได้โดยสั่งเป็น option พิเศษ
กุญแจสามารถสั่งงานได้คือ
1) เปิด-ปิด lock
2) เปิด-ปิด lock ฝากระโปรงท้ายรถ
3) กดปุ่ม lock รถค้างไว้ประมาณ 3 วินาทีเพื่อสั่งให้พับกระจกข้าง
-
เห็นแล้วโรคมือเท้าสั่นกำเริบบบบ!!!! ;D
-
รอชมอย่างใจจดใจจ่อ สีน้ำเงินนี่สวยจริงๆ
-
ขอเริ่มต้นด้วยประวัติของ Macan ครับ
หลังจากที่ได้รับความสำเร็จมากมายจากยอดขาย SUV รุ่นใหญ่อย่าง Cayenne ทาง Porsche จึงต้องการพัฒนา SUV ขนาดกลางเพื่อขายในตลาดเดี่ยวกับ BMW X3, AUDI Q5, EVOQUE.
ระหว่างที่ได้ทำการได้ทำการซุ่มพัฒนารถอยู่อย่างลับๆทาง Porsche ได้ตั้งชื่อโปรเจ็คนี้ว่า Cajun โดยการยืม Chassis ของรถ AUDI Q5 มาเป็นพื้นฐานในพัฒนา เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุนและย่นระยะเวลาในการพัฒนารถใหม่ เช่นเดียวกับที่เคยพัฒนา Cayenne ร่วมกับ VW Touareg และต่อมาประมาณกลางปี 2012 Porsche ได้ทำการประกาศอย่างเป็นทางการต่อสื่อมวลชนว่าจะผลิตรถสปอร์ตอเนกประสงค์ขนาดกลางออกมาขายและได้เปลี่ยนชื่อจาก Cajun มาเป็น Macan พร้อมปล่อย ภาพ sketch concept แรกออกมา
Macan มาจากภาษาท้องถิ่นของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นชื่อเรียกของเสือ สายพันธ์หนึ่ง นั้นก็เป็นการตอกย้ำว่าการออกแบบ Macan จะต้องว่องไวมีเขี้ยวเล็บที่แหลมคมดุจดั่งเสือสายพันธ์ดังกล่าว
โดย Porsche แจ้งว่าได้พัฒนาชิ้นส่วนหรือ parts ที่เป็นของตัวเองมากกว่า 70% และอีก 30% มาจาก VW Group และ AUDI ทั้งนี้ Porsche ต้องการให้ SUV ตัวใหม่นี้มีความแตกต่างจาก SUV ทั่วไปคือ มีความเป็นรถสปอร์ต ในการขับขี่ เช่นเดียวกับ รถสปอร์ตร่วมค่ายอย่าง Boxster, Cayman หรือ 911 ดังนั้นวิศวกรของ Porsche จึงใช้เวลาในการออกแบบ พัฒนา ช่วงล่าง ระบบเกียร์ และเครื่องยนต์ เพื่อให้มั่นใจว่ารถ Macan จะมีความเป็นรถสปอร์ตมากกว่าที่จะเป็นรถ SUV
-
Macan ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งาน Los Angeles Auto show เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2013 และได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมมีลูกค้าสนใจทำการจองล่วงหน้าอย่างล้นหลาม
ผมสนใจตัวนี้มานานมากและก็คอยลุ้นอยู่ว่าราคาจะเปิดตัวในไทยเท่าไหร่และเมื่อทาง AAS ได้เปิดตัว Macan S ในงานมหกรรมยานยนต์ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35 เมื่อทราบราคาเปิดขายก็อี้งไปพักใหญ่เพราะแพงกว่า Cayenne รุ่นพี่เสียอีก
ตอนนั้นก็เลยตัดใจว่าคงไม่ได้เป็นเจ้าของแล้ว แต่หลังจากนั้นไม่นานโชคก็เข้าข้าง เมื่อ Porsche ได้เปิดตัวรุ่นธรรมดา โดยใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 4 สูบที่หยิบยืมมาจาก Golf GTI ตัวแรง เพื่อมาทำตลาดในตลาดแถบ ASIA เพื่อลดอัตราภาษีการนำเข้า และก็ทำให้ AAS สามารถเปิดตัว ที่ราคา 5.99 ล้านบาท ทำให้ตลาดในบ้านเรากลับมาดูคึกคักขึ้นมาทันที
-
หลายๆคนอาจมองว่ารถคันใหญ่เครื่องเล็กจะทำให้ Porsche Macan ไม่แรงและไม่เหมาะสมกับแบรนด์รถสปอร์ต อย่าง Porsche แต่อย่าลืมว่าเครื่องยนต์ที่หยิบยืมมานั้นแม้จะมีความจุแค่ 2.0 ลิตร แต่มันก็ได้รับการปรับแต่งโดยวิศวกรของทาง Porsche เพื่อให้มีสมรรถนะที่ดีและตอบสนองได้ดีในแบบฉบับของ Porsche โดยมีพละกำลังอยู่ที่
237 แรงม้า @ 5,0006,800
แรงบิดอยู่ที่ 350 NM @ 1,5004,500
อัตราเร่ง 0-100 = 6.9 s
อีกอย่างมันคือเครื่องยนต์ที่ได้รับการยอมรับในวงการว่า เป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงและสามารถปรับแต่งให้แรงขึ้นได้มาก โดยล่าสุด ตัว GOLF R400 ก็สามารถลากไปได้ถึง 400 แรงม้า
ทั้งนี้ก่อนจะตัดสินใจจองก็ได้รับเชิญไปทดลองขับที่ AAS จึงได้รู้ว่าเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ตัวนี้มันไม่ธรรมดาจริงๆ และยิ่งเมื่อได้ประกบกับเกียร์คลัชคู่อย่าง PDK 7-Speed (Porsche Doppelkupplung) อันเลื่องชื่อว่ามันหนึ่งในเป็นเกียร์ที่ดีที่สุดในขณะนี้ ยิ่งทำให้การตอบสนองดีขึ้นไปอีกขั้น
บางท่านอาจยังเข้าใจว่าเกียร์คลัชคู่ ของ VW, AUDI หรือ Porsche เป็นเกียร์ตัวๆเดียวกันแต่แค่เรียกชื่อให้ต่างกัน แต่อันที่จริงแล้วมันไม่ใช้ตัวเดียวกัน
เกียร์คลัชคู่ของ VW เรียกว่า DSG เป็นระบบเกียร์คลัชคู่แบบแห้งและได้รับการพัฒนาโดยบริษัท BorgWarner แต่เกียร์คลัชคู่ของ Porsche เรียกว่า PDK เป็นระบบเกียร์คลัชคู่แบบเปียกที่ได้รับการพัฒนาโดยตรงจากทาง Porsche โดยอันที่จริงแล้ว Porsche เป็นเจ้าแรกในโลกที่ออกแบบและผลิตเกียร์คลัชคู่ เพื่อมาใช้ในรถแข่งรุ่น 956 ตั้งแต่ยุค 80 แต่เพิ่งได้รับการพัฒนาเพื่อที่มาใช้ในรถยนต์ sport ที่ผลิตขายในปี 2009
-
ก่อนหน้านี้รถ Porsche ที่ผมใช้งานจะเป็นรถสปอร์ต 2 ประตูและไม่ได้ใช้งานทุกวัน จึงไม่ได้กังวลเกี่ยวกับการดูแลรักษามากนักและอู่นอกที่ใช้บริการอยู่ก็สามารถรับผิดชอบได้ดีเพราะที่ผ่านมาภายในระยะเวลา 1 ปีให้พยายามหาเวลาใช้งานช่วงเสาร์-อาทิตย์หรือวันหยุด อย่างเก่งผมก็ไม่เคยใช้งานเกินปีละ 5,000กม. ยิ่งช่วงนี้งานยุ่งและต้องดูแลลูกๆ ปีหนึ่งๆวิ่งไปไม่ถึง 2,000โล เสียดายมากครับเพราะรถดีๆต้องใช้งานเยอะๆ
ต่างจาก Macan ซึ่งสามารถใช้งานได้ทุกวัน หนึ่งปีอาจได้เห็น 20,000 โล จึงทำให้ผมตัดสินใจซื้อกับทาง AAS เพราะทาง AAS รับประกัน 9 ปีซึ่งเป็นการรับประกันมากที่สุดของรถยนต์ จริงๆแล้วทาง Porsche เยอรมันนีรับประกันอยู่ที่ 2 ปี และ AAS เพิ่มเองให้อีก 7 ปีรวมเป็น 9 ปีแต่ก็ไม่ได้รับประกันทุกอย่างนะครับ ผมจำไม่ได้แล้วว่าไม่รวมอะไรบ้าง แต่อย่างน้อยมีการรับประกันในส่วนของ เครื่องยนต์และเกียร์
เป็นสิ่งที่น่าสนใจครับเพราะว่าราคาไม่ได้สูงกว่าราคาของเกร์ยมาเก็ตมากนัก และถึงแม้ว่า option ต่างๆจะมีให้หน่อยว่ากว่ารถเกร์ย แต่สิ่งที่ได้มากกว่าคือความสบายใจในการขับขี่และใช้งาน
ผมชอบและเลือกสีนำ้เงินที่เรียกว่า Sapphire Blue แต่เป็นสิ่งที่น่าแปลกคือลูกค้ายังไม่สามารถจองหรือสั่งสีนี้ได้ในช่วงแรกของการผลิต ทั้งที่เป็นสีที่ทาง Porsche ใช้ในการเปิดตัวและโปรโมทรถรุ่นนี้ในสื่อต่างๆ เมื่อผมได้สอบถามทาง AAS และทาง AAS แจ้งว่า Porsche จะเปิด line การผลิตสี sapphire blue ในช่วง ไตรมาสที่ 3-4 ของปี 2014 ผมจึงตัดสินใจรอเพราะว่าปกติแล้วการสั่งผลิตรถ Porsche จะไม่มีการสั่ง stock เพราะทาง Porsche จะผลิตตามคำสั่งการขายของแต่และลูกค้าเท่านั้น นั้นก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของรถยี่ห้อนี้ ที่รถแต่ละคันจะมี option ที่ไม่เหมือนกันเลย และทำให้การซื้อรถมือสอง ก็เป็นเรื่องสนุกหรืออาจจะทำให้ปวดหัวเพราะหา option ที่ต้องการให้ตรงกับสีรถที่ชอบไม่ได้ อาจจะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
ผมสั่ง option พิเศษคือตัว air suspension มาด้วย ผมจองไปตั้งแต่ช่วงต้นปี 2014 และกำหนดส่งคือช่วงต้นปี 2015 ทั้งนี้เมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมาได้รับโทรศัพท์จากฝ่ายขาย ว่ารถจะถึงเร็วก่อนกำหนดสามารถรับรถได้เลยช่วงเดือนธันวาคมนี้ ผมก็แอบดีใจจะได้นำไปใช้งานช่วงปีใหม่ กำลังแพลนว่าจะไปเที่ยวหัวหินกับครอบครัวครับ ก็จะได้ทดสอบสมรรถนะในการขับขี่ทางไกล
ก่อนไปรับรถก็ให้ทาง Autoskinz ไปทำการติดตั้ง film กันรอยที่ AAS สะดวกมาก
เมื่อตอนไปรับรถที่ AAS ก็ได้สัมผัส Showroom ใหม่ที่ทาง AAS เพิ่งสร้างใหม่และเปิดตัวไปได้ไม่นานนี้ สวยงามและดูดีมากครับ อันนี้ต้องบอกเพื่อนๆไว้ก่อนว่าถึงแม้จะไม่ใช้รถ Porsche คันแรกของผมแต่ก็เป็นคันแรกที่ได้ซื้อกับทางตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ตื่นเต้นครับ
ขั้นตอนการรับรถก็ไม่มีอะไรมาก ก่อนอื่นก็ตรวจสอบสภาพรถทั่วๆไป จากนั้นทางผู้จัดการฝ่ายขายจะมาอธิบายเกี่ยวกับการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ จากนั้นทีม after sales service หรือทีมช่างก็จะมาอธิบายเกี่ยวกับการดูแลรักษารถเกี่ยวกับขั้นตอนเมื่อเวลานำรถมา service เป็นการแบ่งหน้าที่ความรับุได้ดีมากครับ ประทับใจ
-
ระหว่างรอเซ็นเอกสารก็ได้ไปดู Cayenne facelift ตัวไหม่ e hybrid สุดๆครับ ราคาเริ่มที่ 7.99 ล้าน ผมว่ามันสวยกว่าตัวเดิมเยอะเลย แต่ยังไง Macan ก็ดูสดกว่าครับ
-
การออกแบบภายนอก
Porsche เคยให้สัมภาษณ์ว่าต้องการให้ Macan ดูเด่นและดุดัน เพราะเห็นจากความสำเร็จของ evoque
ด้านหน้ายังคงสไตล์การออกแบบของรถตระกูลนี้คือ ด้านแก้มซ้ายหน้าและขวาหน้าจะยกขึ้นสูงและสามารถมองเห็นได้จากการขับขี่ภายใน ทำให้สามารถกะระยะของรถเวลาเลี้ยวได้ดี
การออกแบบฝากระโปรงด้านหน้าให้ครอบในส่วนของไฟหน้าเหมือนรถมินิคูเปอร์
ซึ่งเป็นการออกแบบที่ดูแปลกตาและทำให้ไม่มีรอยต่อเลยในส่วนของฝากระโปรงพร้อมเพิ่มส่วนเว้าและนูนบนฝากระโปรงด้านหน้าให้มีความดุดันมากขึ้น
ด้านหน้ามีช่องดักอากาศขนาดใหญ่มาก แถมด้านในช่องดักอากาศยังมี Grill พลาสติกซึ่งสามารถเปิดและปิดได้ จะเปิดเพื่อระบายความร้อน และจะปิดเมื่อขับด้วยความเร็วสูงเพื่อลดแรงต้านลมคล้ายๆกับ Mercedes new C Class รุ่น Exclusive
การออกแบบเส้นสายต่างๆออกแบบให้มีความใกล้เคียงกับรถสปอร์ตของ Porsche เช่นไฟหน้า LED day light 4 จุด รอบๆไฟหน้าเหมือนรุ่นท็อปอย่าง 918 ส่วนด้านสะโพกจะคล้ายๆกับ 911 คือมีสะโพกที่ใหญ่ออกมาจากตัวรถและหลังคาออกแบบมีความลาดโค้งแบบรถสปอร์ต
การออกแบบไฟท้ายถือว่าเป็นจุดเด่นที่มีความยาวคล้ายรุ่นพี่อย่าง 991 แต่เพิ่มได้ความเป็น 3 มิติเข้าไป เคยเห็นแต่ในรูปแต่เมื่อได้มาเห็นของจริงแล้วต้องบอกว่าสวยเด่นกว่าเป็นเอกลักษณ์
-
ปลายท่อคู่ Stainless สวยและดุดัน การออกแบบไฟท้ายถือว่าเป็นจุดเด่นที่มีลักษณะคล้าย 991 แต่เพิ่ม ความเป็น 3 มิติเข้าไป
-
รถสวยมากครับ
-
ด้านหน้ามีช่องดักลมขนาดใหญ่มาก ด้านในช่องดักอากาศยังมี Grill พลาสติกซึ่งสามารถเปิดและปิดได้ จะเปิดเพื่อระบายความร้อน และจะปิดเมื่อขับด้วยความเร็วสูงเพื่อลดแรงต้านลมคล้ายๆกับ Mercedes new C Class รุ่น Exclusive
-
การออกแบบภายใน
สีที่สั่งมาจะเป็นสีเทาเข้มเรียกว่า Agate grey ตอนแรกจองสีเบสไปแต่พอไปเห็นรถ Cayenne ของเพื่อนที่มีเบาะสีเบสแล้วดูโทรมเร็วและมีปัญหาว่าสะท้อนกระจกหน้าเวลาขับขี่ จึงขอทาง AAS เปลี่ยนเป็นสี Agate grey และโชคดีว่ารถยังไม่ได้ขึ้นลายผลิตจึงสามารถเปลี่ยนได้
ภายในสีเทาเข้มทำออกมาได้สวยงามและดูทนทานครับ
แม้จะเป็นรถขนาดกลางแต่ว่ามิติภายในกว้างขวาง ไม่ได้รู้สึกอึดอัด เบาะหนังแท้ผสม Alcantara ปรับอะไรไม่ได้มากแต่มาพร้อมระบบ memory package บางคนอาจจะชอบเพราะเดี๋ยวนี้ super car ก็นิยมที่จะหุ้มด้วย alcantara เพื่อลดน้ำหนักของตัวรถ.
บริเวณคอนโซลกลางยกมาจาก 991 พร้อมด้วยปุ่มจำนวนมาก บางท่านอาจไม่ชอบเพราะปุ่มดูเยอะไป แต่พอเวลาจริงใช้งานแล้วค่อนข้างสะดวกมากเพราะสามารถสั่งงานได้เลยไม่ต้องเข้า menu หรือ sub-menu ต่างๆให้ยุ่งยาก อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลครับ
ส่วนประกอบภายในต่างๆที่สามารถสัมผัสได้ด้วยมือก็จะหุ้มด้วยหนังแท้อย่างดี ส่วนอื่นๆจะเป็นวัสดุที่สัมผัสนุ่ม
-
เกจ์หน้าปัด 3 วงเหมือน boxster and cayman เกจ์ตรงกลางเป็น odometer วัดรอบซึ่งเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของ Porsche ส่วนเกจ์ด้านซ้ายจะเป็นมาตรวัดความเร็วส่วนเกจ์ด้านขวาเป็นจอ digital ความละเอียดสูงซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนหน้าจอเพื่อแสดงข้อมูลต่างๆของตัวรถได้ตามความต้องการโดยสามารถบังคับได้จากปุ่มที่พวงมาลัย ซึ่งถ้าเป็นรถที่ตระกูลสูงกว่าอย่าง Cayenne หรือ 911 เกจ์หน้าปัดจะเป็นแบบ 5 วง
พวงมาลัยหนังแท้รุ่นใหม่พร้อม multi function และ paddle shifts ยกมาจาก 918 อิ่มอวบจับแล้วกระชับมือดี การออกแบบจะดูเหลี่ยมๆมากกว่าตัวเก่า
-
- ระบบไฟ auto
- สามารถตั้งให้เปิดอัตโนมัติได้ทั้งไฟภายในและไฟภายนอก
-
- แผงข้างประตู พร้อมระบบ memory seat position
- กระจกข้างปรับไฟฟ้า สามารถพับเก็บได้
- ปุ่มเปิดฝากระโปรงหลังไฟฟ้า
- ปุ่ม central lock
-
- แสดงข้อมูลการเดินทาง , การกินน้ำมัน
- แสดงการกระจายแรงสำหรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
- แสดงเกี่ยวกับ multi media
- แสดงเกี่ยวกับสถานะเครื่องยนต์เช่น ความร้อน
- แสดงข้อมูลโทรศัพท์
- แสดงผล navigation
-
เห็นแล้วต้องขอชมว่าสีรถคันนี้สวยงามจริงๆค่ะ
กิเลสเกิดอีกแล้ว55....
-
สวยมากครับ รอรีวิวอีกนะครับ
-
ยังไม่อิ่มครับ....ปูเสื่อตั้งแต่เมื่อวาน(คนที่สี่) ขอบคุณมาก ๆ เดี๋ยวถูกแจ็คพอร์ต ซื้อแน่ ๆ
-
รถสวยมากครับทั้งภายในภายนอก ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
-
ไล่จากปุ่มบนลงล่าง
- ปุ่ม "sport" กดแล้วจะทำให้การขับขี่เร้าใจ เครื่องยนต์จ่ายนั้ามันมากขึ้น คันเร่งไฟฟ้าไวขึ้น เกียร์เปลี่ยนไวขึ้น พวงมาลัยหนืดขึ้น ช่วงล่างแข็งขึ้น
- ปุ่ม "ปรับความหนืดของช่วงล่าง" มีสามระดับ Comfort, Sport, Sport Plus
- ปุ่ม "ระดับความสูง" ความสูงของตัว air suspension จะเตี้ยกว่าตัวธรรมดาอยู่ -15 mm และสามารถความสูงของรถ ให้เตี้ยลงได้อีก -10 mm รวมเป็น -15 - 10 = -25 mm เมื่อเทียบกับช่วงล่าง coil spring แบบธรรมดา
- ปุ่ม "traction control" เปิด/ปิด
ส่วนตัว (P) คือ parking brake ไฟฟ้า
-
ปุ่ม "off road" ปรับ ระบบ all wheel drive และตัวรถจะยกสูงขึ้นอีก 40 mm จากความสูงปกติ
ปุ่ม "auto start/stop" เปิด/ปิด
-
ปุ่มด้านบนจะควบคุมระบบต่างๆเช่น
- ระบบปรับอากาศ
- ระบบควบคุมความเร็วเมื่อขับลงเนินที่ลาดชัน
- ระบบไล่ฝ้า
- ปุ่มไฟฉุกเฉิน
- ระบบตัดกลิ่นจากภายนอก
-
ระบบปรับอุณหภูมิสามารถปรับความเย็น/ร้อน แยกได้ 3 ส่วน คือ
1) ผู้ขับขี่
2) ผู้โดยสารด้านหน้า
3) ผู้โดยสารด้านหลัง
ยังมีปุ่มอีกบริเวณเพดาน ปุ่มมันเยอะจริงๆ
-
ยังมีปุ่มเปิดฝากระโปรงไฟฟ้าแอบซ่อนอยู่บริเวณที่ปัดน้ำฝน ฮึๆ
ที่เก็บของด้านหลังขนาด 500 ลิตรเท่ากับ BMW X3 สามารถไส่ Golf bag แนวขวางได้สองถุงสบายๆโดยไม่ต้องพับเบาะหลัง
สามารถพับเบาะหลังแยก 40:20:40 เพื่อเพิ่มความจุได้อีกเยอะ
-
การประกอบภายในดีมากถึงมากที่สุด ปกติ Porsche คันก่อนๆแม้จะประกอบที่เยอรมันเหมือนกันแต่จะมีบ้างที่เจอเสียงก็อกๆกิ้กๆเป็นธรรมดาของรถสปอร์ตก็ต้องแก้กันไปตามอาการ แต่สำหรับ Macan คันนี้มันแน่นไปหมด คอนโซลกลาง แผงประตู เบาะหนังไม่มีเสียงให้รำคาญใจ เวลาขับบนถนนขรุขระหรือลูกระนาดก็ไม่มีเสียง รู้สึกดีมากๆสมราคา
ที่เก็บสำภาระก็ทั่วไปมีช่องเก็บด้านข้างคนขับ บริเวณที่วางแขน แผงข้างประตู ที่ชอบมากๆคือมีช่องเสียบไฟเยอะดี
ส่วนตรงกลางเป็นช่องใส่ DVD และซิมมือถือ มีฝาปิดอย่างเรียบร้อยสวยงาม
ระบบหน้าจอความทัชสกีนละเอียดสูงขนาด ไม่มี navigator ครับ ถ้าสั่ง navigator ระบบ PCM จะต้องเพิ่มอีก 500,000฿ ถูกต้องครับราคาแค่ Eco car 1 คันนอกนั้น Function อื่นๆแทบจะไม่ต่างกัน
ไม่สามารถดู TV ได้ครับแต่สามารถ stream Bluetooth เพื่อใช้งานสำหรับโทรศัพท์และฟังเพลงได้การเซ็ตค่าเริ่มต้าต่างๆก็ควบคุมและสั่งงานโดยใช้ทัชสกีนได้เลย
-
สมรรถนะการขับขี่
PDK เป็นคลัชคู่แบบเปียก ที่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็ว และผมก็เป็นคนหนึ่งซึ่งได้มีโอกาสสัมผัสมันในยุคแรกๆ เพราะแต่ก่อนผมเคยใช้ Cayman S 987.2 PDK และมันเป็น Porsche คันแรกในชีวิตของผมครับ ผมจึงสังเกตุว่าการทำงานของเกียร์ PDK 7-Speed สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพดีกว่าเกียร์ของรถรุ่นอื่นๆที่เคยขับมา
แต่ PDK ในยุคแรกยังมีปัญหาเช่นอาจจะไม่ได้มีการออกตัวหรือมีการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลมากนัก และบางครั้งอาจจะมีอาการการกระตุกบ้างในการขับขี่ความเร็วต่ำ
โดยปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขใน PDK รุ่นต่อๆมาใน 991 และ Macan ผมประทับใจที่ปัจจุบันเกียร์ PDK สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวลมากในโหมด comfort หรือ normal mode บ้างครั้งอาจไม่รู้สึกเลยว่ามี่การเปลี่ยนเกียร์ แต่เมื่อปรับเปลี่ยนเป็นโหมด Sport ก็จะสามารถเปลี่ยนได้รวดเร็วและแรงต่อเนื่อง กระชากรอบได้มันมากๆ
ความจริงที่ทำให้ผมต้องทึ่งคือระบบช่วงล่างครับ จริงๆแล้วก่อน Test Drive ก็ไม่ได้หวังมาก เพราะส่วนตัวใช้ X3 อยู่ก็พอใจระดับหนึ่งในการขับขี่และคิดว่าเพราะเป็นรถยกสูง SUV ยังไงๆก็คงไม่สามารถเทียบการขับขี่กับรถสปอร์ตได้ เมื่อได้อ่านจากรีวิวเมืองนอกเค้าก็อวยกันว่ามันหนึบและนิ่งแบบเรียกได้ว่าน้องๆ Cayman มันก็ยิ่งทำให้ผมอยากสัมผัสมากขึ้น และหลังจากได้ทำการทดสอบ test drive แล้วก็อึ้งกับทึ่งว่า Porsche เค้าสามารถทำได้จริงๆ การขับขี่ใกล้เคียงรถสปอร์ตมากๆ แม้แต่ตัวที่ AAS นำมาให้ทดสอบนั้นเป็นช่วงล่างมาตราฐานแบบ coil spring และไม่ได้มีระบบ PASM (ปรับความหนืดของช่วงล่างได้) หรือเป็นระบบ option พิเศษ อย่าง air suspension ก็ยังสามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจ และนี่ก็เหตูผลหลักที่ทำให้ผมได้ทำการตัดสินใจจองทันทีหลังจากที่ได้ Test Drive ก็คือความประทับใจในระบบช่วงล่าง
ระบบช่วงล่างหลักๆได้พัฒนามาจาก AUDI Q5 โดย Porsche ได้ทำการปรับเปลี่ยนค่า spring, anti-roll bar และโช็คอัพใหม่ทั้งหมด รวมถึงปรับเปลี่ยนระบบเบรค และระบบพวงมาลัยไฟฟ้า
Macan จะขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ซึ่งระบบจะส่งกำลังไปล้อหลัง 80% และล้อหน้า 20% ในการขับขี่ปกติ และมันจะสามารถกระจายแรงไปล้อหน้าได้มากถึง 100% เมื่อเวลาที่ระบบตรวจสอบว่าล้อหลังมีอาการหมุนฟรี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนน โดย Porsche เรียกระบบใหม่นี้ว่า Hang on system ทำให้ความรู้สึกเหมือนเราขับรถที่ขับเคลื่อนล้อหลังครับ
ผมชั่งใจอยู่นานว่าจะสั่ง air suspension ดีไหมประกอบกับราคาที่ต้องจ่ายเพิ่ม สุดท้ายตัดสินใจสั่ง air suspension มาด้วย โดยผมคิดว่าจากที่เคยใช้งานระบบ air suspension ใน Mercedes S300 hybrid ข้อดีคือความนุ่มนวล แต่ข้อด้อยคือมีอาการ body roll เวลาเข้าโค้งแรงๆ
แต่เท่าที่อ่านรีวิวเมืองนอกเค้าบอกว่าระบบ air suspension ใน Macan ไม่ได้ set มาเพื่อความนุ่มนวลเป็นหลักแต่จะออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนนจะแข็งกว่าแต่ก็ไม่ได้แข็งกระด้าง เป็นความหนึบในสไตล์สปอร์ตที่ยังคงการนั่งสบายและยังสามารถสัมผัสความนุ่มนวลได้ แต่สิ่งที่ต่างจากทาง air suspension ของ Mercedes คือ ไม่มีอาการ body roll หรือถ้ามีก็น้อยมากๆในเวลาเข้าโค้งแรงๆ สุดยอด
การขับขี่ในเมืองทำได้ดี เนื่องจากเครื่องยนต์ให้แรงบิดสูงที่รอบค่อนข้างต่ำ ระบบเกียร์สามารถเปลี่ยนได้อย่างนุ่มนวล
ช่วงล่างถุงลมช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น
ทัศนวิสัยในการขับขี่ถือว่าดีตามแบบฉบับของรถเอสยูวี เบาะที่นั่งมีขนาดใหญ่หนุ่มและนั่งสบายถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดูเหมือนรถสปอร์ตแต่ก็กระชับเข้ากับสรีระได้ดี เวลานั่งนานๆก็ไม่รู้สึกเมื่อยล้าแต่อย่างใด
เวลากดปุ่มสปอร์ต รถ Macan จะเปลี่ยนบุคลิกทันที จากเสือที่ดูนิ่งๆกลายร่างเป็นเสือที่ดุร้าย กระโชกโฮกฮาก ช่วงล่างจะปรับแข็งขึ้นเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเกาะถนน ยิ่งถ้าเป็นโหมดสปอร์ตพลัสช่วงล่างก็จะแข็งขึ้นอีกมาก เด้งพอๆกับรถสปอร์ต
เวลาขับรอบเกิน 5,000 รอบจากมีเสียงดังมาจากท่อไอเสียเล็ดลอดเข้ามาได้ในห้องโดยสารเพื่อกระตุ้นอารมณ์การขับขี่มากขึ้น
สรุปจะต้องใช้รอบสูงมากกว่า 4,000 รอบเป็นต้นไปเพื่อที่จะม้าให้มาวิ่ง
ลักษณะจะเหมือนเคย์แมนหรือ 911 เมื่อต้องการขับซิ่งจะใช้รอบสูงที่ 6,000 ถึง 8,000rpm
แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่ติดเทอร์โบแต่รอบเครื่องยนต์สามารถตวัดไปได้สูงอย่างเร็วไม่ได้รู้สึกหน่วงแต่อย่างใด อาการรอบเทอร์โบอาจจะมีให้สัมผัสได้บ้างในรอบต่ำๆทั้งนี้ผมจะต้องใช้เวลาในการขับขี่มากกว่านี้ถึงจะให้ความเห็นเพิ่มเติมได้ โดยรวมถือว่าแรงพอตัวครับ
-
อยากเห็นสีน้ำเงิน เทียบกับ 116i อ่ะครับ ขอบคุณมากครับ
-
อยากเห็นสีน้ำเงิน เทียบกับ 116i อ่ะครับ ขอบคุณมากครับ
จัดไปครับ สี BMW จะออกฟ้ากว่า
Macan ออกสีสดๆและเฉดจะเปลี่ยนไปมากเมื่อเวลากระทบแสง ดูออกแนว Candy
-
ลองเทียบความสูงในโหมด off road (+40mm) เทียบกับโหมดสปอร์ต (-10mm) ดูครับ
อีกหนึ่งข้อดีของระบบ air suspension
-
ฝากระโปรงหน้าออกแบบมาเพื่อครอบไฟหน้า
-
มีปุ่มกดเพื่อให้ด้านหลังเอนต่ำลงมาได้อีก 40.00 mm ทำให้ยกของขึ้นได้สะดวกมากขึ้น
-
Light up
-
ขอบคุณรีวิวครับ รถสวยมาก
-
เกียร์ DSG ใช้คลัชต์แบบเปียกครับอันนี้จากที่คุณjimmyรีวิวไว้
ถ้าจำไม่ผิดคลัชต์แห้งมีแค่ในfordถ้าจำไม่ผิด
-
เกียร์ DSG ใช้คลัชต์แบบเปียกครับอันนี้จากที่คุณjimmyรีวิวไว้
ถ้าจำไม่ผิดคลัชต์แห้งมีแค่ในfordถ้าจำไม่ผิด
ขอบคุณครับ ทราบว่าช่วงแรกเป็นแบบแห้งต่อมาพัฒนาเป็นแบบเปียกครับ
http://en.m.wikipedia.org/wiki/Direct-shift_gearbox (http://en.m.wikipedia.org/wiki/Direct-shift_gearbox)
-
ขอบคุณที่เขียนมาให้อ่านครับ
รถสวยมากครับ
-
รถสวย เท่ สีแจ่มมากๆ ยินดีกับรถใหม่แจ๋วๆครับ
-
ขอบคุณ จขกท มากครับ อย่างแรกที่ผมเห็นคือการติดไฟในโรงรถ ผมคิดว่าจะติดประมาณนี้เหมือนกันน่าจะช่วยได้เยอะหวังว่ามันจะมาชุมนุมข้างๆ กันหมด ;D Macan ผมไปดูตอนเปิดตัวราคาค่อนข้างโดดไปไกลเลย เลยไม่ได้สนใจ พองานปีนี้เดินผ่านๆดู พอเห็นราคาแล้วค่อยน่าสนใจขึ้นมาหน่อย รุ่นนี้เซลบอกว่าเบากว่ารุ่นพี่มันค่อนข้างเยอะเลย แต่เซลก็บอกได้ไม่ละเอียดครับ พอเห็นรีวิว จขกท เลยอ่านละเอียดหน่อย ไม่งั้นผมไม่ทราบอะไรเลย ในรีวิวช่วยผมได้เยอะเลยครับ มันมีผลว่าจะไปเอาเงินจองจากยี่ห้ออื่นคืนเลยล่ะครับ ;D แต่ไม่ทราบว่าหลังปี 59 จะมีผลต่อราคามากน้อยแค่ใหน
-
เอารูปมาฝากครับ
-
วันนี้เห็นแว๊บๆ ว่าแวะไปดู BMW i8 รึเปล่าครับ
-
ท้ายออกแบบเรียบๆแต่โดดเด่น
-
ขอบคุณมากครับ
รถเด่น + สีเด่น แจ่มมากๆ
-
ขอบคุณครับ ;D ;D ;D
-
ข้อดีของการมีปุ่มเยอะคือ เด็กๆจะชอบมากครับ
-
โดยรวม เทียบกับ X3 แล้วเป็นไงบ้างครับ
ความพึงพอใจ ความคุ้มค่า การใช้งาน ...
:)
-
ข้อดีของการมีปุ่มเยอะคือ เด็กๆจะชอบมากครับ
สนุกน่าดูเลย :D :D :D
-
โดยรวม เทียบกับ X3 แล้วเป็นไงบ้างครับ
ความพึงพอใจ ความคุ้มค่า การใช้งาน ...
:)
ถ้าเทียบ Macan กับ X3 หรือ SUV ตัวอื่นอาจจะลำบากครับเนื่องจากราคาต่างกันเกือบครึ่งหนึ่ง ถ้าพูดถึงความคุ้มค่าคงไม่คุ้มครับ คงต้องใจรัก Porsche จริงๆ ส่วนด้านอื่นๆผมได้เปรียบเทียบให้ดูด้านล่างครับ
การดีไซน์ภายนอก
- Macan จะดูมีความเป็น Sport SUV มากกว่า ดูเป็นหนุ่มเจ้าสำอางมากกว่า
- X3 จะดูลุยและบึกบึนกว่า
โดยรวมผมชอบ Macan มากกว่าครับ
การดีไซน์ภายใน
- Macan จะหรูหรากว่า แม้จะเป็นรุ่นเล็ก แต่ก็ไม่ได้ดูด้อยกว่ารุ่นพี่อย่าง Cayenne หรือ 911 การประกอบและวัสดุถือว่าดีมาก made in Germany. คุณภาพของหนังแท้เวลาสัมผัสจะรู้สึกเนียนกว่า
- X3 ดูหรูเรียบ พร้อมลายไม้ คุณภาพวัสดุไม่ได้ด้อยไปกว่า Macan มากนักเพียงแต่ภายในออกแบบสไตล์ BMW เลยดูไม่ค่อยแปลกตา
ระบบ infotainment
- อันนี้ต้องยกให้ BMW ครับ I drive ดูดีกว่า, จอใหญ่กว่าและมีลูกเล่นมากกว่าพร้อมมี navigation มาให้พร้อม ส่วน Macan จะมีดีที่เป็นระบบทัชสกรีน ใช้งานแต่ไม่มี navigation ถ้าจะติดตั้งเพิ่มต้องจ่าย 500,000฿
ระบบเครื่องยนต์และเกียร์
- Macan แรงกว่าแต่ต้องขับแบบรถสปอร์ตจริงๆ คือลากรอบได้ยาว
วิ่งได้จัดทั้งต้นและปลาย ไหลได้เรื่อยๆ
เกียร์เปลี่ยนได้รวดเร็วเพราะเป็นแบบ dual clutch 7 speed
- X3 แรงบิดเยอะไม่ต้องใช้รอบสูงเพราะเป็นเครื่องดีเซล ความเร็วต้นกระชากดีแต่ปลายจะหด วิ่งเกิน 160 km/hr จะหืดกว่า
เกียร์ 8 speed เปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวลแต่จะไม่ว่องไวเท่า Macan
สิ่งที่ชอบมากกว่าใน Macan คือเมื่อใช้เกียร์ paddle shift แล้วสามารถลากรอบเปลี่ยนเกียร์ได้ยาวกว่าเนื่องจากเป็นเครื่องเบนซินที่ใช้รอบได้ถึง 7,500 รอบก่อนถึง Redline สรุปสั้นๆคือ Macan แรงกว่าและขับสนุกกว่า X3 ประหยัดนำ้มันมากกว่า
ระบบช่วงล่าง
ทั้ง 2 คันสามารถปรับความแข็งของช่วงล่างได้
- Macan ปรับได้ 3 ระดับเพราะเป็นระบบถุงลม
- X3 ปรับได้ 2 ระดับ comfort, sport
โดยรวมช่วงล่าง Macan กินขาด นุ่มหนึบ เข้าโค้งมั่นใจเหมือนรถสปอร์ต อาการโคลงน้อยมากๆ ไม่ใช่ X3 แย่ X3 จริงๆแล้วขับดีมากแต่ Macan มันเทพมาก
ความสะดวกสบาย
เบาะ Macan จะนั่งได้สบายกว่า support มากกว่าแต่ X3 จะมีความกว้างบริเวณเบาะด้านหลังมากกว่า
พื้นที่การจัดเก็บสัมภาระมีขนาด 500 ลิตร พอๆกันและสามารถพับเบาะหลังได้เหมือนกัน สามารถใส่ถุง golf แบบวางเฉียงได้สบาย บรรทุกของได้พอๆกัน
การดูแลรักษา
- AAS รับประกัน 9 ปีแต่ไม่รวม maintenance & service
- BMW รับประกัน BSI 5 ปี
ที่ผ่านมาได้เคลมผ่านการรับประกันและ BSI ไปก็หลายรายการเช่น
- รางกระจกดัง
- sensor ความเร็วล้อหลัง
- transfer gear รอของเกือบเดือนแต่ก็มีรถสำรองมาให้ใช้ระหว่างรออะไหล่
- เปลี่ยนเทอร์โบลูกใหม่
ถึงแม้อาจจะดูว่ามีปัญหามากแต่ก็ได้รับการแก้ไขทุกปัญหาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายดังนั้น BMW ยังดูดีกว่า
-
ท่องเที่ยววังน้ำเขียว
-
mode off road = 7.5 cm higher ride height than normal mode
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ ;)
-
โอยยย...รถสวย สุดยอด ถ้าเป็นงานศิลปะคือต้องเรียกว่า "งามคอดๆ" เขียนได้ดี..อ่านแล้วเหมือนได้ลองขับ...จนรู้สึกอยากจะลองขับตัวจริง
ขอบคุณมากๆสำหรับรีวิวดีๆนะครับ..สร้างกิเลสเก็บตังค์สานฝันกันต่อ :D
-
ขอบคุณสำหรับ Review ครับ จขกท. แฟน Porsche เลยนะครับ เห็นตัว 50thปีทีผมนี่เคลิ้มเลยครับ
รถสวยมากๆครับผม สีนี้นี่ทำให้ MACAN เด่นขึ้นมากๆเลยครับ
รักกันยาวๆครับ :)
Porsche SUV เป็นรถที่ค่อนข้างสมบุกสมบันดีครับ
Cayenne ของที่บ้านตอนนี้ไปเกือบทุกจังหวัดเลยครับ ขาดแต่จังหวัดภาคใต้แถวชายแดนครับ
@ภูลมโล จ.เลย ดงพญาเสือโคร่ง
(https://farm9.staticflickr.com/8587/16548910861_d63143c526_b.jpg) (https://flic.kr/p/rdnuDk) (https://flic.kr/p/rdnuDk)
-
ว้าว สุดยอดเลยครับ โดยเฉพาะ 911 50 ปี อิอิ อยากได้ฝุดๆ ตอนแรกคุณแม่จะเอาอยู่เหมือนกัน ไปไปมามาไป Ghibli
ส่วนเจ้ากบม่วงยักษ์ของผมนี่ไม่ยอมลุยดินเลยครับ เป็นโรคกลับดิน กลัวสีถลอก เหอเหอ
-
ข้างบนไม่เนียนเลย ทำไมไม่ทำตัวดำ
"กาก" (http://google.com)
-
โดยรวม เทียบกับ X3 แล้วเป็นไงบ้างครับ
ความพึงพอใจ ความคุ้มค่า การใช้งาน ...
:)
ถ้าเทียบ Macan กับ X3 หรือ SUV ตัวอื่นอาจจะลำบากครับเนื่องจากราคาต่างกันเกือบครึ่งหนึ่ง ถ้าพูดถึงความคุ้มค่าคงไม่คุ้มครับ คงต้องใจรัก Porsche จริงๆ ส่วนด้านอื่นๆผมได้เปรียบเทียบให้ดูด้านล่างครับ
การดีไซน์ภายนอก
- Macan จะดูมีความเป็น Sport SUV มากกว่า ดูเป็นหนุ่มเจ้าสำอางมากกว่า
- X3 จะดูลุยและบึกบึนกว่า
โดยรวมผมชอบ Macan มากกว่าครับ
การดีไซน์ภายใน
- Macan จะหรูหรากว่า แม้จะเป็นรุ่นเล็ก แต่ก็ไม่ได้ดูด้อยกว่ารุ่นพี่อย่าง Cayenne หรือ 911 การประกอบและวัสดุถือว่าดีมาก made in Germany. คุณภาพของหนังแท้เวลาสัมผัสจะรู้สึกเนียนกว่า
- X3 ดูหรูเรียบ พร้อมลายไม้ คุณภาพวัสดุไม่ได้ด้อยไปกว่า Macan มากนักเพียงแต่ภายในออกแบบสไตล์ BMW เลยดูไม่ค่อยแปลกตา
ระบบ infotainment
- อันนี้ต้องยกให้ BMW ครับ I drive ดูดีกว่า, จอใหญ่กว่าและมีลูกเล่นมากกว่าพร้อมมี navigation มาให้พร้อม ส่วน Macan จะมีดีที่เป็นระบบทัชสกรีน ใช้งานแต่ไม่มี navigation ถ้าจะติดตั้งเพิ่มต้องจ่าย 500,000฿
ระบบเครื่องยนต์และเกียร์
- Macan แรงกว่าแต่ต้องขับแบบรถสปอร์ตจริงๆ คือลากรอบได้ยาว
วิ่งได้จัดทั้งต้นและปลาย ไหลได้เรื่อยๆ
เกียร์เปลี่ยนได้รวดเร็วเพราะเป็นแบบ dual clutch 7 speed
- X3 แรงบิดเยอะไม่ต้องใช้รอบสูงเพราะเป็นเครื่องดีเซล ความเร็วต้นกระชากดีแต่ปลายจะหด วิ่งเกิน 160 km/hr จะหืดกว่า
เกียร์ 8 speed เปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวลแต่จะไม่ว่องไวเท่า Macan
สิ่งที่ชอบมากกว่าใน Macan คือเมื่อใช้เกียร์ paddle shift แล้วสามารถลากรอบเปลี่ยนเกียร์ได้ยาวกว่าเนื่องจากเป็นเครื่องเบนซินที่ใช้รอบได้ถึง 7,500 รอบก่อนถึง Redline สรุปสั้นๆคือ Macan แรงกว่าและขับสนุกกว่า X3 ประหยัดนำ้มันมากกว่า
ระบบช่วงล่าง
ทั้ง 2 คันสามารถปรับความแข็งของช่วงล่างได้
- Macan ปรับได้ 3 ระดับเพราะเป็นระบบถุงลม
- X3 ปรับได้ 2 ระดับ comfort, sport
โดยรวมช่วงล่าง Macan กินขาด นุ่มหนึบ เข้าโค้งมั่นใจเหมือนรถสปอร์ต อาการโคลงน้อยมากๆ ไม่ใช่ X3 แย่ X3 จริงๆแล้วขับดีมากแต่ Macan มันเทพมาก
ความสะดวกสบาย
เบาะ Macan จะนั่งได้สบายกว่า support มากกว่าแต่ X3 จะมีความกว้างบริเวณเบาะด้านหลังมากกว่า
พื้นที่การจัดเก็บสัมภาระมีขนาด 500 ลิตร พอๆกันและสามารถพับเบาะหลังได้เหมือนกัน สามารถใส่ถุง golf แบบวางเฉียงได้สบาย บรรทุกของได้พอๆกัน
การดูแลรักษา
- AAS รับประกัน 9 ปีแต่ไม่รวม maintenance & service
- BMW รับประกัน BSI 5 ปี
ที่ผ่านมาได้เคลมผ่านการรับประกันและ BSI ไปก็หลายรายการเช่น
- รางกระจกดัง
- sensor ความเร็วล้อหลัง
- transfer gear รอของเกือบเดือนแต่ก็มีรถสำรองมาให้ใช้ระหว่างรออะไหล่
- เปลี่ยนเทอร์โบลูกใหม่
ถึงแม้อาจจะดูว่ามีปัญหามากแต่ก็ได้รับการแก้ไขทุกปัญหาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายดังนั้น BMW ยังดูดีกว่า
ตรงส่วนที่บอกว่า "สรุปสั้นๆคือ Macan แรงกว่าและขับสนุกกว่า X3 ประหยัดนำ้มันมากกว่า" คือ macan แรงกว่าขับสนุกกว่า ประหยัดน้ำมันกว่า X3 หรือว่า X3 ประหยัดน้ำมันกว่าอะครับ