Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Tig ที่ มกราคม 15, 2015, 02:03:43
-
ผมอ่านกระทู้เกี่ยวกับ mazda2 ต่างๆ รู้สึกไม่ค่อยสบายเลย ทั้งที่ไม่ได้เป็นเจ้าของรถยี่ห้อนี้ แต่ว่าเคยขับของเพื่อนบ่อยๆ ก็รู้สึกว่าเป็นที่ดีคันหนึ่งทีเดียว และช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ mazda 2 ใหม่กำลัง ออกสู่ตลาดบ้านเรา ผมรู้สึกสงสารเจ้าดีเซลน้อยคันนี้มาตะกิตครับ เพราะโดนพวกสวดเละเรื่องราคาขายและอุปกรณ์ เลยอยากแสดงความเห็นครับ
1 ราคารถและรายการอุปกรณ์ทางบริษัทยังไม่แจ้งเป็นทางการ - แท้จริงเรายังไม่รู้ราคาจริงๆ แพง/ไม่แพง ยิ่งซ้ำต้องพิจารณาควบคู่กับ สมรรถนะ การขับขี่ คุณภาพของวัสดุ และก็ลองขับขี่ตัวเป็นๆก่อน เอาอะไรมาวัด จึงจะพอบอกได้ว่า แพง/ไม่แพง เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป ถ้าสมมุติว่า รถmini เรายังไม่เคยมีคนเห็น ไม่เคยขับ ไม่เคยรู้ค่านิยม ในบ้านเรามาก่อน เราจะบอกว่าแพงไหม ราคาเป็นล้าน คันนิดเดียว แต่ความเป็นจริง ผมเห็นคนซื้อขับกันเกลื่อนถนน หยั่งงี้แสดงว่าไม่แพงไปสำหรับคนซื้อ(แค่ราคาสูง) จึงได้รับความนิยม
2 ขนาดรถ (กรณีของmazda นี้คือที่ระยะ/ขนาด ที่นั่งหลัง) ก็ไม่ได้เป็นตัวตัดสินว่า นั่งสบาย comfort หรือไม่ จะเห็นว่ารถบางคันที่นั่งกว้าง เหลือเฟือ กลับนั่งไม่สบาย เพราะวัสดุของเบาะ ช่วงล่างด้านหลัง ระยะเอน แม้กระทั่ง headroom เคสนี้ผมนั่งหลัง xv ที่เพื่อนชาวเวปชอบบอกว่าแคบ กลับนั่งสบาย แบบ smooth อาจเพราะawd ในขณะที่นั่งหลัง crv ที่กว้างกว่ามาก แต่กระเดี๋ยง ไปมา นั่งไม่สบายเท่า ขอวกกลับมาที่ mazda2 ตัวปัจจุบัน ผม(สูง174) นั่งหลังก็รู้สึกดี พอใจครับ (เคยนั่งหลัง camry avc30 บอกเลยว่าเครียดครับ ทัั้งที่ใหญ่กว่แยะ แต่ท้ายมันดิ้น)
3 รถบางคัน spec ไม่ได้เลย แต่พอเอาจริงๆแล้ว ขับมับ ขับสบาย พลิวกว่ากันเยะเลย แบบคนว่ารู้ไม่เคยขับ คนเคยขับจึงรู้จริง
4 ก่อนหน้านี้ พวกดัน mazda 2 ดีเซล upกันจนเฝืิอ แล้วแค่เพียงได้ยินเสียงลือ เสียงเล่าอ้าง พวกกลับสวดสร้างกระแสต้าน ผมมองว่าไม่เป็นธรรมเลย เพราะสังคมยังไม่ได้เอาตัวจริง ตัวเป็นๆมาลองเลย ดีไม่ดี ใครรู้? แล้วหยั่งงี้ที่พวกเราต้องการ รถcompact ดีเซล ให้เกิดในบ้านเรา หากสวดกันเสียก่อน มันจะเกิดได้ไหมล่ะ เหมือนครั้งนึงที่คนชอบคาร์บิวสวดเครื่องหัวฉีด คนใช้เครื่อง 2.0 สวดพวกใช้เครื่องไฮบริด ท้ายที่สุดต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง ของอย่างนี้สังคมต้องให้โอกาสครับ
4 นานมาแล้วที่เมืองไทยมีแต่รถกระบะดีเซล กับเก๋งดีเซลหรูราคาแพง ลองให้โอกาสเก๋งเล็กอย่างmazda2 ได้เกิด นำร่องไปก่อน เชื่อว่าเจ้าตลาดอื่นๆ ก็จะตามครับ เมื่อถึงเวลานั้น กลไกลตลาดจะบอกเองครับว่า คุ้ม/ไม่คุ้ม แพง/ไม่แพง ถ้าเก๋งเล็ก เครื่องดีเซลไม่ตอบโจทย์ก็จบเองครับ แต่หากสังคมสวดกันก่อน งานนี้คงตายก่อนเกิด
5 ไม่ได้อคติ ไม่ได้สวนกระแส ไม่อยากดราม่า เพียงแค่อยากให้สังคมให้โอกาสของใหม่ ๆครับ เมืองไทยจะได้มีทางเลือกมากกว่านี้
-
ความคิดของผมนะ ถ้าเจ้า2ทำราคาเท่าๆกับตัวท๊อปของค่ายอื่นๆ ประมาน7.5แสน ผมว่ามันน่าจะขายได้ดีพอสมควร คือของเล่นอาจจะน้อยกว่าเจ้าอื่น แต่ได้เครื่องดีเซล
-
แอบหวังว่าราคาเปิดวันนี้จะลดลงจากที่เคยเห็น
-
เห็นด้วยกับคุณ Tig ทุกประการครับ ;)
-
ผมอ่านกระทู้เกี่ยวกับ mazda2 ต่างๆ รู้สึกไม่ค่อยสบายเลย ทั้งที่ไม่ได้เป็นเจ้าของรถยี่ห้อนี้ แต่ว่าเคยขับของเพื่อนบ่อยๆ ก็รู้สึกว่าเป็นที่ดีคันหนึ่งทีเดียว และช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ mazda 2 ใหม่กำลัง ออกสู่ตลาดบ้านเรา ผมรู้สึกสงสารเจ้าดีเซลน้อยคันนี้มาตะกิตครับ เพราะโดนพวกสวดเละเรื่องราคาขายและอุปกรณ์ เลยอยากแสดงความเห็นครับ
1 ราคารถและรายการอุปกรณ์ทางบริษัทยังไม่แจ้งเป็นทางการ - แท้จริงเรายังไม่รู้ราคาจริงๆ แพง/ไม่แพง ยิ่งซ้ำต้องพิจารณาควบคู่กับ สมรรถนะ การขับขี่ คุณภาพของวัสดุ และก็ลองขับขี่ตัวเป็นๆก่อน เอาอะไรมาวัด จึงจะพอบอกได้ว่า แพง/ไม่แพง เมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป ถ้าสมมุติว่า รถmini เรายังไม่เคยมีคนเห็น ไม่เคยขับ ไม่เคยรู้ค่านิยม ในบ้านเรามาก่อน เราจะบอกว่าแพงไหม ราคาเป็นล้าน คันนิดเดียว แต่ความเป็นจริง ผมเห็นคนซื้อขับกันเกลื่อนถนน หยั่งงี้แสดงว่าไม่แพงไปสำหรับคนซื้อ(แค่ราคาสูง) จึงได้รับความนิยม
2 ขนาดรถ (กรณีของmazda นี้คือที่ระยะ/ขนาด ที่นั่งหลัง) ก็ไม่ได้เป็นตัวตัดสินว่า นั่งสบาย comfort หรือไม่ จะเห็นว่ารถบางคันที่นั่งกว้าง เหลือเฟือ กลับนั่งไม่สบาย เพราะวัสดุของเบาะ ช่วงล่างด้านหลัง ระยะเอน แม้กระทั่ง headroom เคสนี้ผมนั่งหลัง xv ที่เพื่อนชาวเวปชอบบอกว่าแคบ กลับนั่งสบาย แบบ smooth อาจเพราะawd ในขณะที่นั่งหลัง crv ที่กว้างกว่ามาก แต่กระเดี๋ยง ไปมา นั่งไม่สบายเท่า ขอวกกลับมาที่ mazda2 ตัวปัจจุบัน ผม(สูง174) นั่งหลังก็รู้สึกดี พอใจครับ (เคยนั่งหลัง camry avc30 บอกเลยว่าเครียดครับ ทัั้งที่ใหญ่กว่แยะ แต่ท้ายมันดิ้น)
3 รถบางคัน spec ไม่ได้เลย แต่พอเอาจริงๆแล้ว ขับมับ ขับสบาย พลิวกว่ากันเยะเลย แบบคนว่ารู้ไม่เคยขับ คนเคยขับจึงรู้จริง
4 ก่อนหน้านี้ พวกดัน mazda 2 ดีเซล upกันจนเฝืิอ แล้วแค่เพียงได้ยินเสียงลือ เสียงเล่าอ้าง พวกกลับสวดสร้างกระแสต้าน ผมมองว่าไม่เป็นธรรมเลย เพราะสังคมยังไม่ได้เอาตัวจริง ตัวเป็นๆมาลองเลย ดีไม่ดี ใครรู้? แล้วหยั่งงี้ที่พวกเราต้องการ รถcompact ดีเซล ให้เกิดในบ้านเรา หากสวดกันเสียก่อน มันจะเกิดได้ไหมล่ะ เหมือนครั้งนึงที่คนชอบคาร์บิวสวดเครื่องหัวฉีด คนใช้เครื่อง 2.0 สวดพวกใช้เครื่องไฮบริด ท้ายที่สุดต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง ของอย่างนี้สังคมต้องให้โอกาสครับ
4 นานมาแล้วที่เมืองไทยมีแต่รถกระบะดีเซล กับเก๋งดีเซลหรูราคาแพง ลองให้โอกาสเก๋งเล็กอย่างmazda2 ได้เกิด นำร่องไปก่อน เชื่อว่าเจ้าตลาดอื่นๆ ก็จะตามครับ เมื่อถึงเวลานั้น กลไกลตลาดจะบอกเองครับว่า คุ้ม/ไม่คุ้ม แพง/ไม่แพง ถ้าเก๋งเล็ก เครื่องดีเซลไม่ตอบโจทย์ก็จบเองครับ แต่หากสังคมสวดกันก่อน งานนี้คงตายก่อนเกิด
5 ไม่ได้อคติ ไม่ได้สวนกระแส ไม่อยากดราม่า เพียงแค่อยากให้สังคมให้โอกาสของใหม่ ๆครับ เมืองไทยจะได้มีทางเลือกมากกว่านี้
100 100 100
เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยคับ และชอบไอเดียคุณ จขกท. มากเลยฮะ มันถูกใจมากเลยคับ ก่อนหน้านี้ผมก้เห็นชาวไซเบอร์เชียร์กันจังไอ่เครื่องดีเซลในเก๋งเล็กเนี่ย แต่พอเห็นราคามา เงิบเลยยย อิอิ แต่ก็อย่างว่าเนอะมันก็แพงตรงเทคโนโลยีแหละคับ เหมือนกรณ๊เฟียสตา อีโคบูสท์ แต่นั่นก้ไม่ค่อยมีคนบ่นไรมากนัก เดี๋ยววันนี้รอดูการเปิดตัวอย่างเป็นทางการดีกว่านะคับ แล้วรอดูสถานการณ์ต่อไปว่าจะเกิดไรขึ้นหลังจากนี้ ผมคิดว่าในที่สุดแล้ว ความดีหรือจุดเด่นของรถจะเป็นจุดขายของตัวมันเองคับโดยไม่ต้องดูเรื่องราคาเลย ในฐานะรุ่นพี่สองผมก็ดีใจกับรุ่นน้องสองด้วยนะค้าบบบบบ หวังว่าคงแจ้งเกิดได้เหมือนพี่นะน้อง 555555 ;)
-
เห็นด้วยครับ มากๆด้วย
ผมว่านะที่คนบ่นเพราะไปเทียบกับพวกที่เคยขายมาก่อนมั้ง อย่าง Focus TDCi ราคา ได้ล้านนิดๆ แต่ก็นะ มันก็ตามที่ จขกท พูดนั่นแหละ
-
คนซื้อไม่บ่น คนบ่นไม่ซื้อ ตามนั้นน่ะครัช
เดี๋ยววั้นนี้ก้อรู้แล้ว อิอิ
-
กระแสในเน็ทมันก็แค่ไฟลามทุ่งครับ โหมแรงๆ แล้วหาย สุดท้ายก็ไม่ใช่ตัวบ่งชี้อะไรได้
รถกี่คันแล้วที่กระแสวนเน็ทดีมาก แต่ยอดขายแป๊ก
รถกี่คันแล้วที่โดนด่า เสียดสีสารพัด แต่กลับขายดี
-
+1
-
ผมเห็นด้วยนะ แต่วันนี้ก็รู้กันแล้วว และผมจะลองพิสูจน์คำตอบว่ามันดีจริงคุ้มกับราคาหรือเปล่า
-
ของงี้มันต้องลองครับ
ผมเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ทุกประการ :)
-
เห็นด้วยครับ เหมือนกรณีของ Ecoboost ที่คนมักจะสวดเรื่องราคา กับขนาดและคุณภาพของรถอยู่เรื่อยๆ หรือเรื่องเครื่องยนต์ขนาด 1.0 ลิตร และเกียร์กระตุกที่เป็นที่เลื่องลือมาจากรุ่นก่อน ฯลฯ ทั้งๆ ที่ อาจจะไม่เคยไปขับจริง ผมได้ไปลองขับมาถึงสองรอบ พบว่ามันคือรถที่ดีคันหนึ่งเลยทีเดียว โดยเฉพาะอัตราเร่งที่พอกับเครื่อง 1.6-2.0L การบังคับควบคุม ออพชั่นและอีกหลายอย่าง จนผมตัดสินใจซื้อในราคา 779,000 บาท ตอนนี้ก็ใกล้สองหมื่นโลล่ะยังไม่มีปัญหาอะไรเลย ตอนขับตอนกลางคืนนี่ชวนให้นึกถึงรถหรูอย่าง BMW 1 series หรือ MB A class อยู่ไม่น้อย ตรงที่มีไฟ Ambient light แต่ข้อเสียก็ยังมีให้เห็น เช่นเบาะที่ยังนั่งไม่สบายเท่าที่ควร ห้องโดยสารด้านหลังแคบไปหน่อย ออกแนว eco car แต่ก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมของผู้ใช้ด้วยครับ บางคนออกจะเกลียด แต่พอไปลองขับแล้วหลงรักเลยก็มี
-
4.นานมาแล้วที่เมืองไทยมีแต่รถกระบะดีเซล กับเก๋งดีเซลหรูราคาแพง ลองให้โอกาสเก๋งเล็กอย่างmazda2 ได้เกิด นำร่องไปก่อน เชื่อว่าเจ้าตลาดอื่นๆ ก็จะตามครับ เมื่อถึงเวลานั้น กลไกลตลาดจะบอกเองครับว่า คุ้ม/ไม่คุ้ม แพง/ไม่แพง ถ้าเก๋งเล็ก เครื่องดีเซลไม่ตอบโจทย์ก็จบเองครับ แต่หากสังคมสวดกันก่อน งานนี้คงตายก่อนเกิด
ผมห่วงเรื่องนี้แหละครับถ้าไม่ให้โอกาสเครื่องดีเซลราคาต่ำกว่า 8 แสนได้แจ้งเกิด อนาคตดับวูบกันทั้งระบบแน่นอน
-
เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ สังคมไม่ค่อยให้โอกาสรถรุ่นใหม่ ๆหรืออะไรที่แตกต่างไปจากวิถีชีวิตเดิมๆ สมมุติ 2 ตัวนี้ไม่ได้รับการตอบรับ เจ้าอื่นก้อไม่กล้าลงทุน โอกาสที่ขับเก๋งดีเซลขนาดเล็กในราคาไม่เกินล้านก็ริบหรี่
-
เห็นด้วยตาม เจ้าของกระทู้ทุกประการครับ รถรุ่นนีตามที่ผมคาดใว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าราคา อาจจะสูงกว่าปกติประมานสี่หมื่นในความรู้สึกส่วนตัวผมเองก็คงไม่น่าแปลกใจ เราต้องแยกด้วยระหว่างเครื่องเบนชินกับดีเซล ถึงจะได้ส่วนลดอีโค่คาร์แต่ไม่รู้ว่าลดเยอะแค่ไหน
-
ถ้ารุ่นท็อบราคาไม่เกิน 7.5 แสนผมว่ามันน่าจะใจนะ แต่ถ้าแพงกว่านี้ผมว่าข้ามไปเล่น Mazda 3 รุ่นล่างดีกว่า หรือถ้าเล่นก็เล่นรุ่นล่างสุดราคา 6 แสนกว่าๆเนื่องจาก Option ที่เคยได้ยินมาก้เพียงพอสำหรับการใช้งานแล้วล่ะครับ
-
เห๊ะๆ ดีใจนะครับ มีคนที่คิดในแง่ดีแบบ จขกท และ ผมก็เห็นด้วยทุกประการทุกข้อครับผม
ปล.อย่างกรณี Ecoboot ผมมองว่ามันก็สมราคามันนะครับ
-
เห็นด้วยกับ จขกท ครับ ผมว่ายอดขายน่าจะดีนะครับ โลกข้างนอกกับในเว็บมันคนละเรื่องครับ
อยากได้เครื่องดีเซลดีๆ แต่ขอราคายาริส มันคงไม่มีทางเป็นจริงหรอกครับ
-
ไม่ลองคิดมุมกลับอีกนิดด้านราคา
ทั้งๆที่ได้เข้าเงื่อนไขอีโดคาร์เฟส 2 ภาษีเหลือ 14(ถูกต้องใช่ไหมครับ ถ้าผิดช่วยแย้งด้วยนะครับ)
จากเดิมที่ต้องเสีย 25%
มันก็น่าแปลกใจว่า ทำไมยังทำราคาลงมาอีกไม่ได้
และสังคมบ้านเรา เปรียบรถโดยดูจากราคาครับ (ลองไล่ดูกระทู้ มีมาสด้า 3 เทียบกับ HRV เพียบเลย)
การตลาดมาสด้า จะมองข้ามกลุ่มคนที่ยึดติดกับราคา ผมว่าคงไม่ใช่มั้งครับ
นึกถึงตอน อีโคบูสต์ออกมา ราคา 765,000 ป่ะ ก็โดนถล่มไม่น้อย
ตอนนี้กลายเป็นคุ้มราคาไปเลยเมื่อเทียบกับ เจ้า 2
ถ้าอยากให้สังคมมองมุมใหม่ คงต้องไล่รื้อฐานภาษีใหม่ไปเลยครับ ให้มันเป็นธรรม
-
มันขายดีแน่ครับไม่ต้องห่วงหรอก
เพียงแต่ส่วนใหญ่คงขายได้แต่รุ่นล่างหรือกลาง
กระแสที่ด่าตอนนี้คือต่อต้านราคาของรุ่นท็อป ซึ้งจริงๆมันไม่ได้ขายแค่รุ่นท็อปสะหน่อย
-
+1 ด้วย ก็ของหลักๆเครื่องเกียร์มันแพงกว่ากันเปผ็นหลายแสน ขายแพงกว่าเค้า 5หมื่นจะเป็นไร
ใครจะไปรู้นักหนาว่าได้ลดภาษีมากเท่าไหร่
-
ไม่ลองคิดมุมกลับอีกนิดด้านราคา
ทั้งๆที่ได้เข้าเงื่อนไขอีโดคาร์เฟส 2 ภาษีเหลือ 14(ถูกต้องใช่ไหมครับ ถ้าผิดช่วยแย้งด้วยนะครับ)
จากเดิมที่ต้องเสีย 25%
มันก็น่าแปลกใจว่า ทำไมยังทำราคาลงมาอีกไม่ได้
และสังคมบ้านเรา เปรียบรถโดยดูจากราคาครับ (ลองไล่ดูกระทู้ มีมาสด้า 3 เทียบกับ HRV เพียบเลย)
การตลาดมาสด้า จะมองข้ามกลุ่มคนที่ยึดติดกับราคา ผมว่าคงไม่ใช่มั้งครับ
นึกถึงตอน อีโคบูสต์ออกมา ราคา 765,000 ป่ะ ก็โดนถล่มไม่น้อย
ตอนนี้กลายเป็นคุ้มราคาไปเลยเมื่อเทียบกับ เจ้า 2
ถ้าอยากให้สังคมมองมุมใหม่ คงต้องไล่รื้อฐานภาษีใหม่ไปเลยครับ ให้มันเป็นธรรม
ตอนนี้ได้แค่ 17% อยู่น่ะครับถ้าจำไม่ผิด ต้องรอปีหน้าถึงจะได้ 14% ครับ ตอนนี้เห็นราคาแล้ว ปีหน้าคงจะมีลดเท่าๆ ecoboots แน่ๆครับ ผมว่างานนี้มาสด้าน่าจะเกิด ไม่น่าดับแบบ ecoboots เพราะมีตัวต่ำสุดให้เลือกซื้อครับ
-
เห็นด้วยครับ
ตอนนี้ พวกที่เลือกดีเซลเพราะประหยัดค่าน้ำมัน คงเลือกเบนซินกันหมด เพราะเครื่องดีเซล ถ้าจะวิ่งให้คุ้มค่าน้ำมันและบำรุงรักษา เพื่อชดเชยกับราคารถที่สูงขึ้น คงต้องวิ่งให้ได้ ปีละเกิน 6-70,000 กม ถึงจะคุ้มละ
-
ขายได้ไม่ได้ เกิดหรือไม่เกิด เป็นปัญหาคนผลิตคนขายครับ
ว่าจี้ถูกจุดผู้บริโภครึเปล่า
เรื่องราคาแพงหรือถูก หรือราคาเท่ากันไปเทียบต่างรุ่นต่างขนาด
เป็นเรื่องส่วนตัวที่มีสิทธิ์คิดมีสิทธิ์เทียบครับ
ไม่ต้องไปคิดแทนว่าอันไหนคือความคิดถูกผิด
รถดีไม่ได้เกิด รถที่เกิดไม่ได้ดีเด่น เรื่องนี้เกิดมาก่อนผมเกิดอีก
บางแบนด์ถึงขนาดล้มหายตายจาก
ในมุมมองของผู้บริหารที่ดี ไม่มานั่งด่าผู้บริโภคหรอกครับว่ามีแต่พวกโง่ๆ
ทำไมไม่ใช้สินค้าตูกันฟร๊ะ
ผมไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนกับการอวยหรือตำหนิรถรุ่นนี้เลย
เพราะไม่ได้สนใจจะซื้อรถกลุ่มนี้ แต่ก็ดีใจที่วงการรถยนต์เมืองไทยเอาดีเซลมาใช้ในรถกลุ่มนี้
ราคาตัวท๊อปผมก็เดาว่าจะออกมาแบบนี้แน่ๆ มันเป็นเรื่องปกติของต้นทุนสินค้า
จะขายถูกกว่านี้สิครับผมถึงแปลกใจ
ส่วนตัวมองว่า รุ่นนี้ก็จะขายได้ในระดับที่มาสด้าจะขายได้
ไอ้ครั้นจะขายดีเทน้ำเทท่าข้ามหน้าข้ามตารุ่นอื่นไม่ใช่นิสัยของรถประเภทนี้อยู่แล้ว
กลุ่มลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะมันประหยัดแน่ๆ ครับ อันนี้เป็นแค่ผลพลอยได้ และเป็นข้อดี
คนซื้อรถเพราะประหยัดคุ้มค่าเงิน ไม่ซื้อ b-sec ราคา 7 กว่าแน่ๆ ครับ
ซึ่งประเด็นนี้คนขายก็รู้อยู่แล้วครับ ว่าเอามาขายใคร
.................
เพิ่มเติมนะครับ เพิ่งเห็นกระทู้ล่าสุดเรื่องราคาอย่างเป็นทางการ เปิดเริ่มต้นมา 675
ถือว่าสวยมากๆ คนรอซื้อ b-sec มีเอียงแน่ๆ กลุ่มลูกค้าที่ไม่ใช่ประเภทขับไปเถอะมี 4 ล้อ มีพวงมาลัยเหมือนกันสนใจแน่
พวกที่สนใจโซนิคเพราะช่วงล่างและพวงมาลัย สนใจเฟียสต้า ยอดรถพวกนี้ระวังให้ดี
ทีนี้อยู่ที่แผนกขาย โชว์รูม แล้วนะครับ ว่าจะจับลูกค้าอยู่หรือเปล่า
-
มันขายดีแน่ครับไม่ต้องห่วงหรอก
เพียงแต่ส่วนใหญ่คงขายได้แต่รุ่นล่างหรือกลาง
กระแสที่ด่าตอนนี้คือต่อต้านราคาของรุ่นท็อป ซึ้งจริงๆมันไม่ได้ขายแค่รุ่นท็อปสะหน่อย
+1
-
มาสด้า 2 สปอร์ต เอ็กซ์ดี แฮชท์แบ็ค ราคาจำหน่าย 6.75 แสนบาท
มาสด้า 2 สปอร์ต เอ็กซ์ดี ไฮ แฮชท์แบ็ค ราคาจำหน่าย 7.35 แสนบาท
มาสด้า 2 สปอร์ต เอ็กซ์ดี ไฮ พลัส แฮชท์แบ็ค ราคาจำหน่าย 7.90 แสนบาท
มาสด้า 2 สปอร์ต เอ็กซ์ดี ซีดาน ราคาจำหน่าย 6.75 แสนบาท
มาสด้า 2 สปอร์ต เอ็กซ์ดี ไฮ ซีดาน ราคาจำหน่าย 7.35 แสนบาท
มาสด้า 2 สปอร์ต เอ็กซ์ดี ไฮ พลัส ซีดาน ราคาจำหน่าย 7.90 แสนบาท
-
มันขายดีแน่ครับไม่ต้องห่วงหรอก
เพียงแต่ส่วนใหญ่คงขายได้แต่รุ่นล่างหรือกลาง
กระแสที่ด่าตอนนี้คือต่อต้านราคาของรุ่นท็อป ซึ้งจริงๆมันไม่ได้ขายแค่รุ่นท็อปสะหน่อย
คงมีหลายท่านผิดหวังกับรุ่นท็อปที่อ็อพชั่นหายไปหลายตัวด้วยกระมังครับ
-
อาจจะต้องบอกว่าต้องพยายามหน่อยสำหรับ Mazda 2 Diesel
การฉีกจากอะไรเดิมๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายครับ ต้องอาศัยเวลาให้คนได้เรียนรู้เสียก่อน
ผมว่าการที่ Mazda เลือกเปิดตัว Diesel ก่อนเป็นการวางแผนที่ดีนะครับ
เขาอาจต้องการสื่อว่า รุ่นนี้มันแรงและประหยัดน้ำมันนะ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
เพื่อล้างภาพความอืดของรุ่นที่แล้ว แล้วค่อยส่งตัว Benzine ลงมาเล่นเรื่องราคาต่อ
ซึ่งผมว่าราคาน่าจะต่ำกว่าอย่างน้อย 50,000฿
ผมเชื่อว่าเมื่อถึงเวลาที่ 1.3 Benzine เปิดตัว คงแข่งกันสนุกแน่นอน
แต่ก็จะมีคนบ่นว่าเครื่องเล็กจะไหวเหรอ อยู่ดี 55
-
เขากล้าทำนะครับ เป็นกำลังใจให้ Mazda เน้อ
ขอให้ cx3 มี ดีเซลบ้าง :)
-
ขายได้ไม่ได้ เกิดหรือไม่เกิด เป็นปัญหาคนผลิตคนขายครับ
ว่าจี้ถูกจุดผู้บริโภครึเปล่า
เรื่องราคาแพงหรือถูก หรือราคาเท่ากันไปเทียบต่างรุ่นต่างขนาด
เป็นเรื่องส่วนตัวที่มีสิทธิ์คิดมีสิทธิ์เทียบครับ
ไม่ต้องไปคิดแทนว่าอันไหนคือความคิดถูกผิด
รถดีไม่ได้เกิด รถที่เกิดไม่ได้ดีเด่น เรื่องนี้เกิดมาก่อนผมเกิดอีก
บางแบนด์ถึงขนาดล้มหายตายจาก
ในมุมมองของผู้บริหารที่ดี ไม่มานั่งด่าผู้บริโภคหรอกครับว่ามีแต่พวกโง่ๆ
ทำไมไม่ใช้สินค้าตูกันฟร๊ะ
ผมไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนกับการอวยหรือตำหนิรถรุ่นนี้เลย
เพราะไม่ได้สนใจจะซื้อรถกลุ่มนี้ แต่ก็ดีใจที่วงการรถยนต์เมืองไทยเอาดีเซลมาใช้ในรถกลุ่มนี้
ราคาตัวท๊อปผมก็เดาว่าจะออกมาแบบนี้แน่ๆ มันเป็นเรื่องปกติของต้นทุนสินค้า
จะขายถูกกว่านี้สิครับผมถึงแปลกใจ
ส่วนตัวมองว่า รุ่นนี้ก็จะขายได้ในระดับที่มาสด้าจะขายได้
ไอ้ครั้นจะขายดีเทน้ำเทท่าข้ามหน้าข้ามตารุ่นอื่นไม่ใช่นิสัยของรถประเภทนี้อยู่แล้ว
กลุ่มลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะมันประหยัดแน่ๆ ครับ อันนี้เป็นแค่ผลพลอยได้ และเป็นข้อดี
คนซื้อรถเพราะประหยัดคุ้มค่าเงิน ไม่ซื้อ b-sec ราคา 7 กว่าแน่ๆ ครับ
ซึ่งประเด็นนี้คนขายก็รู้อยู่แล้วครับ ว่าเอามาขายใคร
.................
เพิ่มเติมนะครับ เพิ่งเห็นกระทู้ล่าสุดเรื่องราคาอย่างเป็นทางการ เปิดเริ่มต้นมา 675
ถือว่าสวยมากๆ คนรอซื้อ b-sec มีเอียงแน่ๆ กลุ่มลูกค้าที่ไม่ใช่ประเภทขับไปเถอะมี 4 ล้อ มีพวงมาลัยเหมือนกันสนใจแน่
พวกที่สนใจโซนิคเพราะช่วงล่างและพวงมาลัย สนใจเฟียสต้า ยอดรถพวกนี้ระวังให้ดี
ทีนี้อยู่ที่แผนกขาย โชว์รูม แล้วนะครับ ว่าจะจับลูกค้าอยู่หรือเปล่า
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ "ไม่ต้องไปคิดแทน ไม่มาโทษผู้บริโภค"
-
เพิ่มเติม
แม้ว่าจะพอทราบระดับราคาขายแล้ว ก็ยังเป็นห่วงวงการรถยนต์อยู่ดี เพราะความเห็นของสังคมยังออกมาทล่ม MAZDA2 เพิ่มมากขึ้นอยู่ดี ในเรื่องความแพง ผมเองไม่ได้ออกมาปกป้องรถคันนี้ หรือ CHEER UP หรือ LOOK DOWN แต่ขอทำหน้าที่เป็นกลาง ให้สังคมรถยนต์ได้อะไรใหม่ๆ อะไรดีๆ เข้ามาเป็นทางเลือกบ้าง ในท้ายที่สุดตัวรถจะบอกเอง อาจจะไม่คุ้มราคาก็ได้ หรืออาจจบที่เป็นยอดนิยมแห่งปีไปเลยก็ได้ ผมว่ารถออกมาขับจริงๆในถนนสักพัก คุณภาพ ราคา การบำรุงรักษา ความดีงาม ความบกพร่อง ของตัวรถเอง จะออกมาให้เห็นด้วยตาเนื้อจริงๆ ดีกว่าไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ได้ใช้ ไม่ได้ขับ แล้วติชม ด้วยอารมณ์ล้วนๆ
-
ผมว่าคนส่วนใหญ๋ที่ด่า ไม่ได้ไม่ชอบเทคโนโลยีใหม่หรอกครับ
แต่ แต่ เทคโนโลยีใหม่ต้องมาในราคาที่สมเหตุสมผล
ไม่ใช้หาโอกาสค่ากำไร ตากคำว่าเทคโนโลยีใหม่
ผมรู้ว่าเครื่องดีเซลมันมีต้นทุนสูง แต่คงไม่สูงไปกว่าเครื่องเบนซิลเจ้าตลาดอื่นๆ ถึง แสนห้าหรอกครับ
พวกต้นทุนมันเป็นงานที่ทำอยู่ รู้ๆ ตัวเลขกันอยู่ครับ
ถ้ามาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ ในราคาที่เหมาะสม จะมีใครว่าไหม ถ้าราคาพอๆกับรถ B segment อื่นๆ ผมว่ามันขายได้ครับ เข้าใจนะครับ
-
ผมว่าคนส่วนใหญ๋ที่ด่า ไม่ได้ไม่ชอบเทคโนโลยีใหม่หรอกครับ
แต่ แต่ เทคโนโลยีใหม่ต้องมาในราคาที่สมเหตุสมผล
ไม่ใช้หาโอกาสค่ากำไร ตากคำว่าเทคโนโลยีใหม่
ผมรู้ว่าเครื่องดีเซลมันมีต้นทุนสูง แต่คงไม่สูงไปกว่าเครื่องเบนซิลเจ้าตลาดอื่นๆ ถึง แสนห้าหรอกครับ
พวกต้นทุนมันเป็นงานที่ทำอยู่ รู้ๆ ตัวเลขกันอยู่ครับ
ถ้ามาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ ในราคาที่เหมาะสม จะมีใครว่าไหม ถ้าราคาพอๆกับรถ B segment อื่นๆ ผมว่ามันขายได้ครับ เข้าใจนะครับ
ต้นทุนดีเซลกับเบนซินราคาแพงต่างกันเกิน 1.5 แสนจริงครับ ผมไม่อาจแจกแจงราคาได้หมดหรอก
แต่ต้องเข้าใจว่าราคาต่างกันเกิน 1.5 แสนบาทแน่นอนครับ เครื่องตัวนี้มีเทอร์โบ ขณะที่เบนซิน1.3 ไม่มีโบ เฉพาะตัวโบที่เพิ่มขึ้นมาก็ 1 แสนบาทบวกลบ แล้วครับ สำหรับราคาที่เอามาตั้งขาย
ถ้าเป็นรถตระกูลนำเข้าไมได้ผลิตชิ้นส่วนในนี้ มีภาษีชัดเจน ราคาเครื่องดีเซลกับเบนซินต่างกันประมาณ 4 แสนบาทขึ้นไปครับ
ส่วนจะถูกหรือแพงคงห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้
-
ผมว่าคนส่วนใหญ๋ที่ด่า ไม่ได้ไม่ชอบเทคโนโลยีใหม่หรอกครับ
แต่ แต่ เทคโนโลยีใหม่ต้องมาในราคาที่สมเหตุสมผล
ไม่ใช้หาโอกาสค่ากำไร ตากคำว่าเทคโนโลยีใหม่
ผมรู้ว่าเครื่องดีเซลมันมีต้นทุนสูง แต่คงไม่สูงไปกว่าเครื่องเบนซิลเจ้าตลาดอื่นๆ ถึง แสนห้าหรอกครับ
พวกต้นทุนมันเป็นงานที่ทำอยู่ รู้ๆ ตัวเลขกันอยู่ครับ
ถ้ามาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ ในราคาที่เหมาะสม จะมีใครว่าไหม ถ้าราคาพอๆกับรถ B segment อื่นๆ ผมว่ามันขายได้ครับ เข้าใจนะครับ
ต้นทุนดีเซลกับเบนซินราคาแพงต่างกันเกิน 1.5 แสนจริงครับ ผมไม่อาจแจกแจงราคาได้หมดหรอก
แต่ต้องเข้าใจว่าราคาต่างกันเกิน 1.5 แสนบาทแน่นอนครับ เครื่องตัวนี้มีเทอร์โบ ขณะที่เบนซิน1.3 ไม่มีโบ เฉพาะตัวโบที่เพิ่มขึ้นมาก็ 1 แสนบาทบวกลบ แล้วครับ สำหรับราคาที่เอามาตั้งขาย
ถ้าเป็นรถตระกูลนำเข้าไมได้ผลิตชิ้นส่วนในนี้ มีภาษีชัดเจน ราคาเครื่องดีเซลกับเบนซินต่างกันประมาณ 4 แสนบาทขึ้นไปครับ
ส่วนจะถูกหรือแพงคงห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้
+1
-
สังคมมนุษย์ไม่ได้เป็นไปตามตรรกหรือความเป็นเหตุเป็นผลทั้งหมดหรอก แต่มันเป็นไปตามกระแสสังคมมากกว่า iPhone 6 แพงโครตแต่ขายดีมากทำไม ต่อคิวซื้อกันตั้งแต่ยังไม่เปิดตัว Nissan Teana วัสดุต่างๆ ตัวรถ การขับขี่ ออปชั่นต่างๆ ดีกว่าอีก 2 เจ้า แต่ขายไม่ออกทำไม? Vios ที่ว่าเครื่องเดิมเกียร์เดิม ยังขายมากกว่า City ซะอีก Ford Fiesta Ecoboost ตั้งราคาตอนออกใหม่ๆ เกือบๆตัวท๊อปของ Mazda 2 ขายไม่ออกต้องลดราคา หรือ แม้แต่ Mazda 3 เอง เครื่อง 2.0 แต่ทำราคาได้ต่ำมากประมาณ 83,xxx บาท แต่ยังขายสู้ Altis 1.8 ไม่ได้ เพราะ ? ดังนั้นต่อให้เครื่องดีเซลดีแค่ไหน มันก็ไม่ได้หมายความว่าสังคมจะเห็นดีไปแนวทางเดียวกันหมด
-
ผมว่าคนส่วนใหญ๋ที่ด่า ไม่ได้ไม่ชอบเทคโนโลยีใหม่หรอกครับ
แต่ แต่ เทคโนโลยีใหม่ต้องมาในราคาที่สมเหตุสมผล
ไม่ใช้หาโอกาสค่ากำไร ตากคำว่าเทคโนโลยีใหม่
ผมรู้ว่าเครื่องดีเซลมันมีต้นทุนสูง แต่คงไม่สูงไปกว่าเครื่องเบนซิลเจ้าตลาดอื่นๆ ถึง แสนห้าหรอกครับ
พวกต้นทุนมันเป็นงานที่ทำอยู่ รู้ๆ ตัวเลขกันอยู่ครับ
ถ้ามาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ ในราคาที่เหมาะสม จะมีใครว่าไหม ถ้าราคาพอๆกับรถ B segment อื่นๆ ผมว่ามันขายได้ครับ เข้าใจนะครับ
ต้นทุนดีเซลกับเบนซินราคาแพงต่างกันเกิน 1.5 แสนจริงครับ ผมไม่อาจแจกแจงราคาได้หมดหรอก
แต่ต้องเข้าใจว่าราคาต่างกันเกิน 1.5 แสนบาทแน่นอนครับ เครื่องตัวนี้มีเทอร์โบ ขณะที่เบนซิน1.3 ไม่มีโบ เฉพาะตัวโบที่เพิ่มขึ้นมาก็ 1 แสนบาทบวกลบ แล้วครับ สำหรับราคาที่เอามาตั้งขาย
ถ้าเป็นรถตระกูลนำเข้าไมได้ผลิตชิ้นส่วนในนี้ มีภาษีชัดเจน ราคาเครื่องดีเซลกับเบนซินต่างกันประมาณ 4 แสนบาทขึ้นไปครับ
ส่วนจะถูกหรือแพงคงห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้
ราคาที่อ้างอิงคือตัวเก่า ที่เป็นเครื่อง 1.5 เดิมครับ และไม่มีทางที่ราคาส่วนต่างจะถึง 4 แสนบาทครับ นั้นมันราคารถทั้งคันหรีือเปล่าครับ
เทอร์โบคงเทพมากเลยนะครับราคาตั้งขายเป็นแสนเนี่ย อย่าลืมนะครับนี่ราคา OEM มันถูกกว่านั้นเยอะครับ
-
ผมว่าคนส่วนใหญ๋ที่ด่า ไม่ได้ไม่ชอบเทคโนโลยีใหม่หรอกครับ
แต่ แต่ เทคโนโลยีใหม่ต้องมาในราคาที่สมเหตุสมผล
ไม่ใช้หาโอกาสค่ากำไร ตากคำว่าเทคโนโลยีใหม่
ผมรู้ว่าเครื่องดีเซลมันมีต้นทุนสูง แต่คงไม่สูงไปกว่าเครื่องเบนซิลเจ้าตลาดอื่นๆ ถึง แสนห้าหรอกครับ
พวกต้นทุนมันเป็นงานที่ทำอยู่ รู้ๆ ตัวเลขกันอยู่ครับ
ถ้ามาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ ในราคาที่เหมาะสม จะมีใครว่าไหม ถ้าราคาพอๆกับรถ B segment อื่นๆ ผมว่ามันขายได้ครับ เข้าใจนะครับ
ต้นทุนดีเซลกับเบนซินราคาแพงต่างกันเกิน 1.5 แสนจริงครับ ผมไม่อาจแจกแจงราคาได้หมดหรอก
แต่ต้องเข้าใจว่าราคาต่างกันเกิน 1.5 แสนบาทแน่นอนครับ เครื่องตัวนี้มีเทอร์โบ ขณะที่เบนซิน1.3 ไม่มีโบ เฉพาะตัวโบที่เพิ่มขึ้นมาก็ 1 แสนบาทบวกลบ แล้วครับ สำหรับราคาที่เอามาตั้งขาย
ถ้าเป็นรถตระกูลนำเข้าไมได้ผลิตชิ้นส่วนในนี้ มีภาษีชัดเจน ราคาเครื่องดีเซลกับเบนซินต่างกันประมาณ 4 แสนบาทขึ้นไปครับ
ส่วนจะถูกหรือแพงคงห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้
ราคาที่อ้างอิงคือตัวเก่า ที่เป็นเครื่อง 1.5 เดิมครับ และไม่มีทางที่ราคาส่วนต่างจะถึง 4 แสนบาทครับ นั้นมันราคารถทั้งคันหรีือเปล่าครับ
เทอร์โบคงเทพมากเลยนะครับราคาตั้งขายเป็นแสนเนี่ย อย่าลืมนะครับนี่ราคา OEM มันถูกกว่านั้นเยอะครับ
เทียบกับตัวเก่าที่รุ่นเดียวกัน เอาง่ายๆครับ groove at ราคาเริ่มต้นน่าจะ 570k-580k ถ้าจำไม่ผิด ต่างกันแสนนึงแต่ได้ดีเซล+เทอโบ แถมประหยัดกว่าแน่ๆ ผมว่าสมเหตุสมผล(ลองเอา groove ไปทำโบ แสนนึงจะจบหรือเปล่า จะได้ม้าได้แรงบิดเพิ่มมาเท่าไหร่ แถมกินน้ำมันขึ้นกว่าเดิมเสียอีก)
หรือลองเอาไปเทียบกับแบรนด์อื่นๆดูซิครับที่ราคา 675k รุ่นอื่นได้อะไรบ้าง
-
ผมว่าคนส่วนใหญ๋ที่ด่า ไม่ได้ไม่ชอบเทคโนโลยีใหม่หรอกครับ
แต่ แต่ เทคโนโลยีใหม่ต้องมาในราคาที่สมเหตุสมผล
ไม่ใช้หาโอกาสค่ากำไร ตากคำว่าเทคโนโลยีใหม่
ผมรู้ว่าเครื่องดีเซลมันมีต้นทุนสูง แต่คงไม่สูงไปกว่าเครื่องเบนซิลเจ้าตลาดอื่นๆ ถึง แสนห้าหรอกครับ
พวกต้นทุนมันเป็นงานที่ทำอยู่ รู้ๆ ตัวเลขกันอยู่ครับ
ถ้ามาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ ในราคาที่เหมาะสม จะมีใครว่าไหม ถ้าราคาพอๆกับรถ B segment อื่นๆ ผมว่ามันขายได้ครับ เข้าใจนะครับ
ต้นทุนดีเซลกับเบนซินราคาแพงต่างกันเกิน 1.5 แสนจริงครับ ผมไม่อาจแจกแจงราคาได้หมดหรอก
แต่ต้องเข้าใจว่าราคาต่างกันเกิน 1.5 แสนบาทแน่นอนครับ เครื่องตัวนี้มีเทอร์โบ ขณะที่เบนซิน1.3 ไม่มีโบ เฉพาะตัวโบที่เพิ่มขึ้นมาก็ 1 แสนบาทบวกลบ แล้วครับ สำหรับราคาที่เอามาตั้งขาย
ถ้าเป็นรถตระกูลนำเข้าไมได้ผลิตชิ้นส่วนในนี้ มีภาษีชัดเจน ราคาเครื่องดีเซลกับเบนซินต่างกันประมาณ 4 แสนบาทขึ้นไปครับ
ส่วนจะถูกหรือแพงคงห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้
ราคาที่อ้างอิงคือตัวเก่า ที่เป็นเครื่อง 1.5 เดิมครับ และไม่มีทางที่ราคาส่วนต่างจะถึง 4 แสนบาทครับ นั้นมันราคารถทั้งคันหรีือเปล่าครับ
เทอร์โบคงเทพมากเลยนะครับราคาตั้งขายเป็นแสนเนี่ย อย่าลืมนะครับนี่ราคา OEM มันถูกกว่านั้นเยอะครับ
ท่านอ่านข้อความผิดแล้วท่าน ผมบอกว่าถ้าเป็นตัวรถนำเข้าความแตกต่างมันจะกลายเป็น 4 แสนบาทสำหรับรถที่มีภาษีชัดเจน ส่วนรถที่ทำในประเทศในส่วนเครื่องดีเซล (แต่ก็ต้องมีวงเล็บชิ้นส่วนเครื่องยนต์ต้องผลิตในประเทศด้วย ไม่ใช่นำเข้าอะไหล่มาประกอบ ) ราคาต้นทุนจะแตกต่างกันมากกว่า 1 แสนบาทจริง
ในส่วนของแหวนกับ ลูกสูบอันนี้ก็นำเข้าแน่ ๆ แล้วไม่ใช่ชิ้นส่วนในประเทศแน่นอน มาจากโรงงานนึงในญี่ปุ่นจำชื่อเมืองไม่ได้ ถามว่าจะให้ต้นทุนมันถูกไปได้ยังไง
-
ผมว่าคนส่วนใหญ๋ที่ด่า ไม่ได้ไม่ชอบเทคโนโลยีใหม่หรอกครับ
แต่ แต่ เทคโนโลยีใหม่ต้องมาในราคาที่สมเหตุสมผล
ไม่ใช้หาโอกาสค่ากำไร ตากคำว่าเทคโนโลยีใหม่
ผมรู้ว่าเครื่องดีเซลมันมีต้นทุนสูง แต่คงไม่สูงไปกว่าเครื่องเบนซิลเจ้าตลาดอื่นๆ ถึง แสนห้าหรอกครับ
พวกต้นทุนมันเป็นงานที่ทำอยู่ รู้ๆ ตัวเลขกันอยู่ครับ
ถ้ามาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ ในราคาที่เหมาะสม จะมีใครว่าไหม ถ้าราคาพอๆกับรถ B segment อื่นๆ ผมว่ามันขายได้ครับ เข้าใจนะครับ
ต้นทุนดีเซลกับเบนซินราคาแพงต่างกันเกิน 1.5 แสนจริงครับ ผมไม่อาจแจกแจงราคาได้หมดหรอก
แต่ต้องเข้าใจว่าราคาต่างกันเกิน 1.5 แสนบาทแน่นอนครับ เครื่องตัวนี้มีเทอร์โบ ขณะที่เบนซิน1.3 ไม่มีโบ เฉพาะตัวโบที่เพิ่มขึ้นมาก็ 1 แสนบาทบวกลบ แล้วครับ สำหรับราคาที่เอามาตั้งขาย
ถ้าเป็นรถตระกูลนำเข้าไมได้ผลิตชิ้นส่วนในนี้ มีภาษีชัดเจน ราคาเครื่องดีเซลกับเบนซินต่างกันประมาณ 4 แสนบาทขึ้นไปครับ
ส่วนจะถูกหรือแพงคงห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้
ราคาที่อ้างอิงคือตัวเก่า ที่เป็นเครื่อง 1.5 เดิมครับ และไม่มีทางที่ราคาส่วนต่างจะถึง 4 แสนบาทครับ นั้นมันราคารถทั้งคันหรีือเปล่าครับ
เทอร์โบคงเทพมากเลยนะครับราคาตั้งขายเป็นแสนเนี่ย อย่าลืมนะครับนี่ราคา OEM มันถูกกว่านั้นเยอะครับ
เทียบกับตัวเก่าที่รุ่นเดียวกัน เอาง่ายๆครับ groove at ราคาเริ่มต้นน่าจะ 570k-580k ถ้าจำไม่ผิด ต่างกันแสนนึงแต่ได้ดีเซล+เทอโบ แถมประหยัดกว่าแน่ๆ ผมว่าสมเหตุสมผล(ลองเอา groove ไปทำโบ แสนนึงจะจบหรือเปล่า จะได้ม้าได้แรงบิดเพิ่มมาเท่าไหร่ แถมกินน้ำมันขึ้นกว่าเดิมเสียอีก)
หรือลองเอาไปเทียบกับแบรนด์อื่นๆดูซิครับที่ราคา 675k รุ่นอื่นได้อะไรบ้าง
ใช่ครับมันต้องเอาเหตุผลมาคิด สมมุติรุ่นเดิมราคา 6 แสนบาท ถ้าเป็นดีเซล ราคาต้องแพงกว่ารุ่นเดิมอย่างน้อย 1 แสนบาท คือราคาขายมันต้องเพิ่มอีก 1 แสน กลายเป็น 7 แสนบาท ผมใช้คำว่าอย่างน้อยนะครับ เพราะไม่มีทางที่ต้นทุนเครื่องดีเซลในรถเก๋ง จะแพงกว่า 1 แสนบาทไปได้มันต้องมากกว่านั้นอีก แต่อยู่ที่ค่ายรถพยายามกดราคาให้ได้มากแค่ไหน ด้วยการลดอ๊อพชั่นอื่นลงไปเพื่อทำราคาออกมาได้
รถอย่าง Altis Civic ถ้าเป็นดีเซลราคาจะประมาณ 1.0-1.1 ล้านบาท เป็นราคาที่ถูกเคาะมานานแล้วว่าถ้าเอาดีเซลลงในเก๋งรุ่นประมาณนี้ นำมาขายจริง ราคาจะอยู่เท่านี้ซึ่งไม่มีทางที่ลูกค้าจะซื้อ แม้ว่าในขณะนั้นราคาน้ำมันเบนซินจะอยู่ที่ 30 กว่า - 40 กว่าบาทก็ตาม ค่ายรถยนต์ในไทยไม่มองเรื่องเก๋งดีเซลเลย มีแต่รถนำเข้าทั้งนั้น
ผมเดา ๆ ใจ ตอนนี้คนทั่วไปพยายามจะให้ Mazda 2 แพงกว่ารุ่นเดิมประมาณ 50,000 -80,000 บาท ซึ่งลองทบทวนดูดีดี ไม่เข้าข้างตัวเองก็จะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้
-
ย้อนหลังไปหลายปีตั้งแต่เฟียสต้าทำตลาดแรก ๆ โดยไม่ส่งเครื่องดีเซลขายในไทย ผมก็เคยเจอคำถามเก๋งดีเซลพอสมควร ทั้งจากตัวเองหรือฟังผ่านรายการวิทยุคลื่นรถยนต์ที่มีคนมักถามเสมอในเครื่องดีเซลรถเก๋งทำไมไม่เอามาขาย บ้าง
ผมมักสวนกลับด้วยคำตอบที่ว่า ถ้าราคาแพงกว่ารุ่นเดิมที่คุณจะซื้อประมาณ 1 แสนกว่า หรือ 2 แสนกว่าบาทโดยที่อ๊อพชั่นอาจจะน้อยลงหรือได้แค่เกียร์ธรรมดา MT คุณจะซื้อหรือไม่ เพื่อแลกกับเครื่องดีเซล แน่นอนว่าที่ผ่านมาผมไม่ได้คิดผิดและค่ายรถยนต์ก็ไม่มีใครกล้าแหวกแนวเหมือน Mazda คือทุกคนรู้ดีว่าราคาที่เพิ่มขึ้นไม่อาจแข่งขันหรือทำยอดขายในตลาดได้ โดยเฉพาะค่ายที่ต้องการ Mass production สูง ๆ อย่าง TOYOTA HONDA จะไม่มีทางเอาเก๋งดีเซลมาลงตลาดอย่างแน่นอน
เพิ่มเติม เวลานั้นเฟียสต้ามีเฉพาะดีเซลที่ใช้เกียร์ธรรมดาทำตลาดส่งไปยุโรปเท่านั้น ถ้าขายในไทยไม่มีทางที่ลูกค้าจะซื้อเกียร์ธรรมดา แต่ถ้าเอาเกียร์ AT เข้ามา ราคาก็ทะลุเกิน 9 แสนบาท ถ้า รถเฟียสต้าราคาเกิน 9 แสน สู้เลิกไม่ทำตลาดในไทยดีกว่าเป็นอันจบ ไม่โดนด่าแบบนี้ด้วย
-
รายละเอียดเพิ่มเติมมีใน web แล้วครับ
http://www.mazda.co.th/cars/all-new-mazda2-sedan/features/interior/ (http://www.mazda.co.th/cars/all-new-mazda2-sedan/features/interior/)
-
เป็นผม ผมกลับไม่ห่วงนะ
คนเราสมัยนี้ฉลาดเลือกมากๆครับ
จริงอยู่กระแสต่อต้านอาจจะแรง แต่สุดท้าย
ดูอย่าง benz กะ bmw สิครับ
ตอนนี้มองไปทางไหน ก็มีแต่ตัว d...
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ มีแต่คนร้อง ยี้.... เสียงดังอย่างกะกระบะ
-
ขอปรบมือให้คนที่กล้าทำสิ่งที่แตกต่างครับ
ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่อย่างน้อยก็กล้าที่จะทำครับ ขอยกย่องในใจ
เรื่องเสียงตอบรับก็ธรรมดาครับ ถ้าอะไรมันประหลาดมากมันก็มีเเรงเสียดทานเยอะ
ยังไงก็ต้องมีคนด่าหมดและครับ มีคนชอบก็ต้องมีคนชัง
คนชมยังไงก็ชม คนด่าดีแค่ไหนก็ด่า
คนที่ไม่ทำอะไรวันๆเอาแต่ด่านั่นก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนครับ
แต่ก็ต้องมองต่อละครับว่าแค่ต่างอย่างเดียวไม่ได้มันดีหรือไม่ดีด้วย
ไม่ใช่แค่ทำตัวแตกต่างแล้วถือว่าดีกว่าเค้าแค่นั้นไม่พอ ก็ติชมกันตามสะดวก
ความเสี่ยงของเครื่องดีเซลตัวนี้ก็คงมีบ้างเรายังไม่ได้ใช้กันยาวๆในเมืองไทยยังไม่มีอะไรพิสูจน์
ก็คงต้องรอมองกันต่อไป
ส่วนเรื่องราคา จะถูกจะแพงเกินไปก็แล้วแต่จะมองเลยครับ
ผมว่าถูกก็ดีครับแพงก็ยิ่งดีถ้าขายได้ ถ้าคิดว่าเกินไปก็ไม่ต้องสนับสนุนตามจริตของแต่ละคน
ราคาจริงเปิดละ รอดูยอดขายจริงเอาละกัน
ถ้าเสียงตอบรับแป๊ก มาสด้าคงลดราคาเอง
-
เดี๋ยวก็รู้ครับ ว่าใครจะน่าเป็นห่วงมากกว่ากัน
-
อยากจะพูดเหมือนพี่ข้างบนครับ เดี๋ยวรู้เลย 555
-
เครื่องดีเซลได้ราคานี้ผมว่าโอเคแล้วเทคโนโลยีเดิมๆ 2 เจ้าผู้นำตลาดก็ไม่ได้ถูกกว่านี้เท่าไหร่ลองอะไรใหม่ๆกันบ้างผมว่าขายได้นะ
-
เอาเถอะ ถ้าขายดี ก็เป็นคนแรก
ถ้า ไม่ดี ก็จบ
ขาดทุน เสมอตัว หรือดีเยี่ยม มาสด้าได้เลือกทางของ 2 แล้ววันนี้