Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: Richmanarmmz ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2015, 12:10:21
-
นับตั้งแต่ Honda jazz เข้ามาเปิดตัวในไทยครั้งแรก เมื่อเดือน พฤษจิกายน 2003 และได้สร้างปรากฏการณ์ ทำให้รถแฮตช์แบคเกิดการแข่งขันสูงขึ้นในบ้านเรา นับจากวันนั้นนี่ก็รุ่นที่สามแล้ว Honda jazz ที่ เปิดตัวในบ้านเรา เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2014
-
หลังจากวันนั้นบนถนนของกรุงเทพและต่างจังหวัดก็มีรถรุ่นนี้มากขึ้น หนาตาขึ้น ยอดขายเฉลี่ยระดับพันปลายๆ ต่อเดือน น่าจะเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของรถรุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี
และ สำหรับวันนี้ที่จะมารีวิว เป็นรุ่นย่อย V ซึ่งจะมีอะไรให้มาบ้างกับราคา 647,000 นั้น โปรดติดตามอ่านต่อในรีวิวนี้ได้เลยครับ
-
Jazz generation ที่ 3 นี้มี ความยาวทั้งคัน 3,955 มิลลิเมตร กว้าง 1,695 มิลลิเมตร สูง 1,525
มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,530 มิลลิเมตร มาพร้อมกับเส้นสายตัวถังภายนอกแบบ Exciting H Design ที่พบได้ในรถ Honda รุ่นใหม่ๆ หลายรุ่นในปัจจุบัน โคมไฟหน้าแบบมัลติรีเฟกเตอร์ขนาดใหญ่ กระจังหน้าดำเงาแบบ Piano Black
-
ด้านท้ายมากับไฟท้าย LED พร้อมแผงทับทิมที่ยาวขึ้นไปยันขอบบนของกระจกหลัง พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ที่ปัดน้ำฝนหลัง และคาดหลังโครเมี่ยม
-
รุ่น V ขึ้นไปจะติดตั้ง ระบบกุญแจรีโมท Honda Smart Key มีรีโมท หน้าตาเหมือน Honda City ใหม่แต่ไม่มีปุ่มเปิดฝาท้ายมาให้ การใช้งานก็แค่เดินมาใกล้ๆ เอามือสอดเข้าไปในมือจับเพื่อทำการปลดล็อค หากจะล็อคก็แค่กดปุ่มสีดำแล้วรถจะล็อค พร้อมเสียง ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด สามที (แต่ขอติหน่อยเหอะตรงนี้ รูเสียบกุญแจนี่จะทำใหม่มันไปอยู่ตำแหน่งที่ดีกว่านี้ไม่ได้หรือ ทำไมต้องทำให้มันอยู่ตำแหน่งน่าเกลียดแบบนี้ด้วย ขอให้ปรับปรุงในรุ่นต่อไปนะครับ )
-
การเข้า ออกจากห้องโดยสารไม่มีปัญหาอะไร ประตูบานใหญ่แล้วเปิดได้กว้างพอสมควร ตัวเบาะคู่หน้านั่งสบายกว่าเบาะของ Nissan Almera สัมผัสได้จากการขับไปกลับ กรุงเทพ อุบล ตัวเบาะสังเกตุได้ชัดว่านิ่มกว่าเบาะของ City ปี 2013 รุ่นสุดท้ายก่อนเปลี่ยนโฉมของที่บ้าน แต่ตำแหน่งก็ยังใกล้เคียง
-
การเข้า - ออก จากบานประตูคู่หลังก็ไม่เป็นปัญหา เบาะหลังนั่งสบายพอสมควร Headroom เหลือๆพิสูจน์โดยเพื่อนผมเอง มันสูง 180 กว่า แล้วหัวไม่ติด พนักพิงศรีษะแบบ ตัว L คว่ำตามมาหลอกหลอนตามสมัยนิยม พอใช้ได้ แต่ไม่ถึงกับสบายนัก
-
ความเอนกประสงค์จากเบาะ Ultra Seat ที่มีมาในรุ่นก่อนๆ ก็ยังมีมาให้ในรุ่นนี้ทั้งแบบพับเบาะรองนั่งขึ้นแบบโรงหนัง แยกพับแบบ 60:40 หรือจะพับราบเรียบไปเลยก็แล้วแต่อัธยาศัย
-
แผงหน้าปัดคล้ายกันกับHonda City ใหม่ มีจุดต่างกันนิดหน่อย แต่โดยรวมน่าจะใช้ร่วมกันได้หลายชิ้น
พวงมาลัย 3 ก้าน ปรับระดับได้สี่ทิศทาง สูง ต่ำ - ใกล้ ห่าง และ Airbag คู่หน้าตามมาตรฐาน Honda แถมแผงบังแดดมีกระจกแต่งหน้ามาให้ทั้งสองฝั่งเอาใจสาวๆ มาให้ด้วย
-
มาตรวัดเรืองแสงสีน้ำเงินพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แสดงอัตราการใช้เชื้อเพลิงเฉลี่ย ระยะทางที่เหลือวิ่งได้ trip A B และอุณหภูมิภายนอก และไม่มีมาตรวัดอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นมาให้เหมือนเดิม
-
ด้านขวามีปุ่มใบกัญชา (Econ Mode) และด้านล่างเป็นปุ่มเปิด ปิด ระบบ VSA
และนี่คือสิ่งที่ City ไม่มีครับ ช่องวางขวดน้ำ 7 บาท ได้สบายๆ แต่ถ้าเป็นกระป๋องน้ำอัดลมจะพอดีมากกว่า
-
แผงข้างประตูมีช่องวางขวดน้ำมาให้หนึ่งช่องทั้งสี่ประตู ที่ท้าวแขนบุผ้าสากๆมาให้ ตำแหน่งวางแขนสำหรับผมแล้วพอดี สวิตช์ควบคุมกระจกมองข้างปรับไฟฟ้า ปุ่มเซนทรัลล็อค และกระจกด้านคนขับเลื่อนขึ้นลงออโต้ได้
-
ด้านซ้ายมีปุ่ม Start Engine
-
คอนโซลแบบ Piano Black เครื่องปรับอากาศเป็นแบบมือหมุน มีไล่ฝ้าหน้า-หลัง และมีปุ่ม a/c มาให้ด้วย
เครื่องเสียงแบบปุ่มกดธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา ภาครับวิทยุโอเค ต่อ Bluetooth เล่นเพลงหรือโทรศัพท์ได้ ต่อสาย Aux ได้ เล่น CD Mp3 ได้ 1 แผ่น แถมยังต่อ Usb ได้อีกเอ้า ! เหมาะกับวัยรุ่นยุคดิจิตอลจริงๆ
คุณภาพเสียงจากชุดเครื่องเสียงถือว่าพอฟังได้ แต่ยังไม่ครบเท่าที่ควร
-
ด้านล่างชุดควบคุมเครื่องปรับอากาศเป็นที่อยู่ของปลั๊กชารจ์ไฟและช่องเสียบ Usb
-
ข้างลำตัวเป็นที่อยู่ของเบรคมือและช่องต่างๆ เห็นช่องข้างหลังนั่นมั้ยครับ ใส่ขวดน้ำ 1.5 ที่แถมจากปั้มได้พอดิบพอดีเลยล่ะ
-
เครื่องยนต์รหัส L15Z1 บล็อก 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว 1,497 ซีซี 117 แรงม้า (PS) ที่รอบ 6,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด146 นิวตันเมตร (14.87 กก.-ม.) ที่ 4,700 รอบ/นาที
พ่วงด้วยเกียร์ Cvt
อัตราทดเกียร์ .2.562-0.408
อัตราทดเกียร์ถอยหลัง 2.706-1.382
อัตราทดเฟืองท้าย .4.992
-
ใต้ฝากระโปรงหน้าบุชนวนกันความร้อนมาให้ด้วยนะครับนะ
-
ความรู้สึกหลังอยู่ร่วมกันมาหนึ่งเดือน
มันยังคงเป็นรถที่ขับง่ายเหมือนกับรุ่นพี่มันที่ผ่านๆมา ความเอนกประสงค์ยังมีให้ใช้เต็มไปหมด เครื่องยนต์ให้การตอบสนองดี ยังไม่เคยทำความเร็วสูงสุดแต่เคยวิ่ง 170 บนทางด่วนสายอุดรรัถยา แล้วยังเหลือ ช่วงล่างที่เอาอยู่สังเกตุได้จากหลายๆโค้ง ยกตัวอย่างเช่นโค้งที่วิ่งจากทางด่วนมาลงพระราม 2 หน้าโรงพยาบาลบางกอก 9 โค้งนั้นผมใช้ความเร็วได้ถึง 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมงโดยไม่ต้องแตะเบรค !!
-
การเก็บเสียงจากพื้นถนนดี จากการที่ใส่วัสดุซับเสียงมาให้ที่ซุ้มล้อทั้งสี่ แต่วิ่งเกิน 110 ไปแล้วเสียงลมจากกระจกบานหน้าจะดังเข้ามาอย่างได้ยินชัด
-
ความประหยัดระดับ 13 กิโลเมตรต่อลิตรเป็นอย่างน้อย ล่าสุดวิ่งไป 463 กิโล เหลือในถังอีก 50 โล เติมน้ำมันไป 900 บาท ตกแล้วโลละไม่ถึงสองบาท อยู่ในเกณฑ์ที่ประหยัดใช้ได้เลยทีเดียว โดยถังนึงน่าจะมี 450 500 โลให้เห็น
-
แล้วมีอะไรบ้างที่คุณจะได้เพิ่มจาก รุ่น S a/t ที่ถูกกว่า 70,000 บาท
1.กระจังหน้าแบบเงา
2.ล้อแม๊ก 15 นิ้ว
3.ระบบ Keyless Smart Entry
4.Push start
5.หน้าปัดเรืองแสงพร้อมจอ Mid
6.คาดหลังแบบโครเมี่ยม
หรือถ้าคุณอยากได้แอร์ออโต้ เครื่องเสียงแบบสัมผัส กล้องหลัง ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย ช่อง HDmi คุณเพิ่มเงินอีก 40,000 ไปเล่นรุ่น v+ เลยครับ
-
ยังไงก็ตาม สิ่งที่ผมยังกังวลอยู่กับรถคันนี้ก็คือเกียร์ Cvt ของมันเนี่ยแหละ ว่ามันจะอยู่กับเราได้นานมั้ย จะกลับบ้านเก่าก่อนวัยอันควรรึเปล่า เป็นคำตอบที่ต้องรอดูกัน แต่ทางที่ดี อย่าเป็นอะไรเลย หรือถ้าเป็น ช่วยอยู่ในระยะประกันด้วยเถิด สาธุ !!!
-
ขอขอบคุณ
พื้นที่สำหรับการรีวิว WWW.Headlightmag.com (http://WWW.Headlightmag.com)
ข้อมูลสำหรับทำรีวิวจาก รีวิว first impression ของพี่จิมมี่
และขอบคุณคลิป Headlightmag TheClip ที่เป็นส่วนช่วยในการตัดสินใจออกรถคันนี้ด้วยครับ
-
ขอบคุณครับ
เสียดายอย่างเดียวในcity+jazz
รุ่นs-v ทำไมไม่ยอมให้กระจกมองข้างพับไฟฟ้ามา
ที่เหลือถือว่าจัดออพชั่นได้เหมาะสมตามเกรดแล้วครับ
-
ขออนุญาติเกาะกระทู้นะครับ (ทำรีวิวเองไม่เป็น) ในฐานะที่ใช้รุ่น SV+ มาได้ประมาณ 4 เดือน เป็นรถป้ายคันแรกในชีวิต และผมเป็นผู้ใช้คนหนึ่งซื้งไม่มีความรู้เรื่องรถอะไรเลย ขอเริ่มเลยนะครับ
- จะบอกว่าความรู้สึกผมใกล้เคียงกับพี่ Richmanarmmz คับ ต่างกันก็ตรงเรื่องการเข้าโค้ง และเป็นโค้งเดียวกันด้วยคับ ส่วนตัวรู้สึกว่าตัวมันโยนๆ ทำให้รู้สึกเหมือนรถจะหลุดโค้งมากๆเลย หรือผมอาจคิดไปเอง แต่เวลาลงหลุม(ฝาท่อตามถนนหรือหลุมเล็ก) รวมถึงลูกระนาดเล้กๆ และเวลาผ่านสะพานต่างๆ รถสะเทือนเยอะเหมือนกัน อาจเพราะผมไม่เคยลองคันอื่นมั่งคับ
- ห้องโดยสาร โปร่งโล่ง เข้าออกง่าย แต่ที่พักแขนฝั่งขวา รู้สึกว่ามันสั้นไปหน่อย แต่อันนี้อาจเพราะผมปรับเบาะมาด้านหน้าเยอะไปรึป่าว ที่วางแก้วเยอะมาก เบาะผ้าตัว SV+ ให้สัมผัสทนทาน ไม่เลอะง่าย แต่ถ้าเลอะแล้วน่าจะสำความสะอาดยาก และประตูปิดยาก ต้องออกแรงนิดนึงถึงจะปิดสนิท
- แอร์เย็นดีมากคับ ปกตืจะขับเปิดพัดลมเบอร์ 1 แอร์ 27-28 องศา แต่ช่วงหน้าหนาวที่ผ่านมา แอร์มีปัญหาเรื่องกลิ่นอับ (มีพี่คนนึงที่ใช้ civic fb เขาบอกว่าฮอนด้ามีปัญหาเรื่องท่อแอร์เล็ก) ขนาดเปิดไล่ลมแล้วก็ยังไม่ค่อยจะดีขึ้น แต่ตอนนี้หน้าร้อนกลับมา อาการไม่มีแล้วคับ และแอบกังวลแผงทัสกรีนแอร์ว่าอนาคตเวลาเสีย ค่าซ่อมจะแพงรึป่าว และมันจะเสียงทั้งแผงหรือเฉพาะปุ่ม
- เรื่องความประหยัด ถือว่าทำได้ดี แต่ถ้ารถติด หรือขับในเมืองปกติ ส่วนตัวผมปิดโหมด ECON เนื่องจากตัวเองเผลอดีกว่า แถบรถไม่อืด (อืดมากจริงๆโหมดนี้ ปิดแล้วนึกว่าขับคนละคันเลย) ติดแบบขยับเบรกๆ 8-10 km/l ถ้าวิ่งออกนอกเมือง ความเร็วคงที 90-110 km/hr โซฮอล์ 95 ไปได้ถึง 22 km/l
- เครื่องเสียง ลำโพงที่ให้มาดี แต่ต้องเล่นเพลงกับ Poweramp ในมือแล้วปรับ EQ เสียงที่ได้ถือว่าดีมาก เบส กลาง แหลมมาครบ แต่ถ้าฟังกับแผ่น หรือ usb เสียงถือว่าธรรมดา ปรับ เบส หรือแหลมก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ เรื่องเชื่อมต่อบลูทูชโทรศัพท์ ทำได้ดี โทรศัพท์คุยกันเสียงดังฟังชัดทั้งต้นทาง ปลายทาง
- เกียร์ ถ้าเปิดโหมด ECON การเปลี่ยนเกรียร์สมูทตามสไตล์ CVT แต่พอปิดโหมดนี้ ช่วงที่รถจะต้องออกจากไฟแดงแล้วไปติดรถคันหน้าต่อ ประมาณ 1 ไป 2 แล้วกลับมา 1 มีอาการกระตุกนิดๆ อาจเพราะยังเป็น torque converter (เคยอ่าน เห็นคนบอกว่าระบบนี้จะให้ฟิวเหมือนเกรียร์อัตโนมัติปกติ)
- ใบปัดน้ำฝนที่ติดมากับรถเป็นแบบโครงเหล็ก กะโหลกกะลามาก ว่าจะเปลี่ยนแต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนสักที
- ติดใจเรื่องกระจกพับไฟฟ้าเหมือนกันคับ ต้องกดปุ่มเองถึงจะพับ อยากได้แบบดับเครื่องแล้วพับให้อัตโนมัติ
สุดท้าย ขอปรึกษาหน่อยครับ ถ้าอยากให้รถมีช่วงล่างเวลาเลี้ยวแล้วไม่เสียว ไม่ออกอาการโยนเหมือนล้ออีกด้านพร้อมจะลอยต้องทำไงบ้างครับ (แบบลงทุนน้อย แต่เห็นผล)
-
เปลี่ยนยางครับ รับรองว่าเหมือนได้รถใหม่เลย 5555
-
ขอบคุณสำหรับรีวิว
ไม่ชอบทรงวิทยุเอาสะเลย :-\
แต่ว่าเวสป้าสวย ;D ;D ;D ;D
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ อ่านเพลินเลย
-
ขอบคุณครับ สำหรับผมแล้ว Jazz GE สวยและลงตัวกว่าตัวใหม่นี้ครับ
-
ขออนุญาติเกาะกระทู้นะครับ (ทำรีวิวเองไม่เป็น) ในฐานะที่ใช้รุ่น SV+ มาได้ประมาณ 4 เดือน เป็นรถป้ายคันแรกในชีวิต และผมเป็นผู้ใช้คนหนึ่งซื้งไม่มีความรู้เรื่องรถอะไรเลย ขอเริ่มเลยนะครับ
- จะบอกว่าความรู้สึกผมใกล้เคียงกับพี่ Richmanarmmz คับ ต่างกันก็ตรงเรื่องการเข้าโค้ง และเป็นโค้งเดียวกันด้วยคับ ส่วนตัวรู้สึกว่าตัวมันโยนๆ ทำให้รู้สึกเหมือนรถจะหลุดโค้งมากๆเลย หรือผมอาจคิดไปเอง แต่เวลาลงหลุม(ฝาท่อตามถนนหรือหลุมเล็ก) รวมถึงลูกระนาดเล้กๆ และเวลาผ่านสะพานต่างๆ รถสะเทือนเยอะเหมือนกัน อาจเพราะผมไม่เคยลองคันอื่นมั่งคับ
- ห้องโดยสาร โปร่งโล่ง เข้าออกง่าย แต่ที่พักแขนฝั่งขวา รู้สึกว่ามันสั้นไปหน่อย แต่อันนี้อาจเพราะผมปรับเบาะมาด้านหน้าเยอะไปรึป่าว ที่วางแก้วเยอะมาก เบาะผ้าตัว SV+ ให้สัมผัสทนทาน ไม่เลอะง่าย แต่ถ้าเลอะแล้วน่าจะสำความสะอาดยาก และประตูปิดยาก ต้องออกแรงนิดนึงถึงจะปิดสนิท
- แอร์เย็นดีมากคับ ปกตืจะขับเปิดพัดลมเบอร์ 1 แอร์ 27-28 องศา แต่ช่วงหน้าหนาวที่ผ่านมา แอร์มีปัญหาเรื่องกลิ่นอับ (มีพี่คนนึงที่ใช้ civic fb เขาบอกว่าฮอนด้ามีปัญหาเรื่องท่อแอร์เล็ก) ขนาดเปิดไล่ลมแล้วก็ยังไม่ค่อยจะดีขึ้น แต่ตอนนี้หน้าร้อนกลับมา อาการไม่มีแล้วคับ และแอบกังวลแผงทัสกรีนแอร์ว่าอนาคตเวลาเสีย ค่าซ่อมจะแพงรึป่าว และมันจะเสียงทั้งแผงหรือเฉพาะปุ่ม
- เรื่องความประหยัด ถือว่าทำได้ดี แต่ถ้ารถติด หรือขับในเมืองปกติ ส่วนตัวผมปิดโหมด ECON เนื่องจากตัวเองเผลอดีกว่า แถบรถไม่อืด (อืดมากจริงๆโหมดนี้ ปิดแล้วนึกว่าขับคนละคันเลย) ติดแบบขยับเบรกๆ 8-10 km/l ถ้าวิ่งออกนอกเมือง ความเร็วคงที 90-110 km/hr โซฮอล์ 95 ไปได้ถึง 22 km/l
- เครื่องเสียง ลำโพงที่ให้มาดี แต่ต้องเล่นเพลงกับ Poweramp ในมือแล้วปรับ EQ เสียงที่ได้ถือว่าดีมาก เบส กลาง แหลมมาครบ แต่ถ้าฟังกับแผ่น หรือ usb เสียงถือว่าธรรมดา ปรับ เบส หรือแหลมก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ เรื่องเชื่อมต่อบลูทูชโทรศัพท์ ทำได้ดี โทรศัพท์คุยกันเสียงดังฟังชัดทั้งต้นทาง ปลายทาง
- เกียร์ ถ้าเปิดโหมด ECON การเปลี่ยนเกรียร์สมูทตามสไตล์ CVT แต่พอปิดโหมดนี้ ช่วงที่รถจะต้องออกจากไฟแดงแล้วไปติดรถคันหน้าต่อ ประมาณ 1 ไป 2 แล้วกลับมา 1 มีอาการกระตุกนิดๆ อาจเพราะยังเป็น torque converter (เคยอ่าน เห็นคนบอกว่าระบบนี้จะให้ฟิวเหมือนเกรียร์อัตโนมัติปกติ)
- ใบปัดน้ำฝนที่ติดมากับรถเป็นแบบโครงเหล็ก กะโหลกกะลามาก ว่าจะเปลี่ยนแต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนสักที
- ติดใจเรื่องกระจกพับไฟฟ้าเหมือนกันคับ ต้องกดปุ่มเองถึงจะพับ อยากได้แบบดับเครื่องแล้วพับให้อัตโนมัติ
สุดท้าย ขอปรึกษาหน่อยครับ ถ้าอยากให้รถมีช่วงล่างเวลาเลี้ยวแล้วไม่เสียว ไม่ออกอาการโยนเหมือนล้ออีกด้านพร้อมจะลอยต้องทำไงบ้างครับ (แบบลงทุนน้อย แต่เห็นผล)
ขับเก่ง และใจเย็นมากครับ ได้ตั้ง 22km/l ;D ;D
-
ขอบคุณครับสำหรับรีวิว
-
ขอบคุณครับ ผมก็จะไปจัดคันนี้แหละครับ งานโชว์รถที่กำลังจะถึงเนีย
-
ขออนุญาติเกาะกระทู้นะครับ (ทำรีวิวเองไม่เป็น) ในฐานะที่ใช้รุ่น SV+ มาได้ประมาณ 4 เดือน เป็นรถป้ายคันแรกในชีวิต และผมเป็นผู้ใช้คนหนึ่งซื้งไม่มีความรู้เรื่องรถอะไรเลย ขอเริ่มเลยนะครับ
- จะบอกว่าความรู้สึกผมใกล้เคียงกับพี่ Richmanarmmz คับ ต่างกันก็ตรงเรื่องการเข้าโค้ง และเป็นโค้งเดียวกันด้วยคับ ส่วนตัวรู้สึกว่าตัวมันโยนๆ ทำให้รู้สึกเหมือนรถจะหลุดโค้งมากๆเลย หรือผมอาจคิดไปเอง แต่เวลาลงหลุม(ฝาท่อตามถนนหรือหลุมเล็ก) รวมถึงลูกระนาดเล้กๆ และเวลาผ่านสะพานต่างๆ รถสะเทือนเยอะเหมือนกัน อาจเพราะผมไม่เคยลองคันอื่นมั่งคับ
- ห้องโดยสาร โปร่งโล่ง เข้าออกง่าย แต่ที่พักแขนฝั่งขวา รู้สึกว่ามันสั้นไปหน่อย แต่อันนี้อาจเพราะผมปรับเบาะมาด้านหน้าเยอะไปรึป่าว ที่วางแก้วเยอะมาก เบาะผ้าตัว SV+ ให้สัมผัสทนทาน ไม่เลอะง่าย แต่ถ้าเลอะแล้วน่าจะสำความสะอาดยาก และประตูปิดยาก ต้องออกแรงนิดนึงถึงจะปิดสนิท
- แอร์เย็นดีมากคับ ปกตืจะขับเปิดพัดลมเบอร์ 1 แอร์ 27-28 องศา แต่ช่วงหน้าหนาวที่ผ่านมา แอร์มีปัญหาเรื่องกลิ่นอับ (มีพี่คนนึงที่ใช้ civic fb เขาบอกว่าฮอนด้ามีปัญหาเรื่องท่อแอร์เล็ก) ขนาดเปิดไล่ลมแล้วก็ยังไม่ค่อยจะดีขึ้น แต่ตอนนี้หน้าร้อนกลับมา อาการไม่มีแล้วคับ และแอบกังวลแผงทัสกรีนแอร์ว่าอนาคตเวลาเสีย ค่าซ่อมจะแพงรึป่าว และมันจะเสียงทั้งแผงหรือเฉพาะปุ่ม
- เรื่องความประหยัด ถือว่าทำได้ดี แต่ถ้ารถติด หรือขับในเมืองปกติ ส่วนตัวผมปิดโหมด ECON เนื่องจากตัวเองเผลอดีกว่า แถบรถไม่อืด (อืดมากจริงๆโหมดนี้ ปิดแล้วนึกว่าขับคนละคันเลย) ติดแบบขยับเบรกๆ 8-10 km/l ถ้าวิ่งออกนอกเมือง ความเร็วคงที 90-110 km/hr โซฮอล์ 95 ไปได้ถึง 22 km/l
- เครื่องเสียง ลำโพงที่ให้มาดี แต่ต้องเล่นเพลงกับ Poweramp ในมือแล้วปรับ EQ เสียงที่ได้ถือว่าดีมาก เบส กลาง แหลมมาครบ แต่ถ้าฟังกับแผ่น หรือ usb เสียงถือว่าธรรมดา ปรับ เบส หรือแหลมก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ เรื่องเชื่อมต่อบลูทูชโทรศัพท์ ทำได้ดี โทรศัพท์คุยกันเสียงดังฟังชัดทั้งต้นทาง ปลายทาง
- เกียร์ ถ้าเปิดโหมด ECON การเปลี่ยนเกรียร์สมูทตามสไตล์ CVT แต่พอปิดโหมดนี้ ช่วงที่รถจะต้องออกจากไฟแดงแล้วไปติดรถคันหน้าต่อ ประมาณ 1 ไป 2 แล้วกลับมา 1 มีอาการกระตุกนิดๆ อาจเพราะยังเป็น torque converter (เคยอ่าน เห็นคนบอกว่าระบบนี้จะให้ฟิวเหมือนเกรียร์อัตโนมัติปกติ)
- ใบปัดน้ำฝนที่ติดมากับรถเป็นแบบโครงเหล็ก กะโหลกกะลามาก ว่าจะเปลี่ยนแต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนสักที
- ติดใจเรื่องกระจกพับไฟฟ้าเหมือนกันคับ ต้องกดปุ่มเองถึงจะพับ อยากได้แบบดับเครื่องแล้วพับให้อัตโนมัติ
สุดท้าย ขอปรึกษาหน่อยครับ ถ้าอยากให้รถมีช่วงล่างเวลาเลี้ยวแล้วไม่เสียว ไม่ออกอาการโยนเหมือนล้ออีกด้านพร้อมจะลอยต้องทำไงบ้างครับ (แบบลงทุนน้อย แต่เห็นผล)
ขออนุญาติแนะนำเรื่องการทำช่วงล่างให้ดีขึ้นนะครับ
ผมเองเคยใช้มาทั้ง GD จนถึง GE แล้วจึงกระโดดมา FB กับ E90 (เด๋วเร็วๆนี้จะมีตัวแรงมาอีกคัน ถ้ามาจะมาทำรีวิวเพิ่มมั่ง)
ทั้ง GD และ GE ผมเปลี่ยนล้อให้หน้ากว้างขึ้นครับ ไม่ได้ใส่ขนาดใหญ่ขึ้นนะครับ เพราะไม่ต้องการให้อัตตราเร่งมันแย่ลง โดยใน GD ผมใส่ 15 ส่วน GE ผมใส่ 16 เหมือนสเปกโรงงานแต่ความกว้างล้อมากขึ้นทำให้ใส่ยางหน้ากว้างขึ้นได้ดี ส่งผลอย่างมากในการเกาะถนนครับ (ตามมาด้วยอัตตราการกินน้ำมันที่มากขึ้นด้วย :P :P :P)
อย่างที่ 2 ผมเป็นคนขับแบบไม่ระวังหลุมบ่อที่มีอยู่ทั่วไปในประเทศนี้ ผมจึงเป็นคนนึงที่ไม่โหลดรถครับ (แต่ปัจจุบัน FB ใส่ Tein ไปแล้ว เพราะแฟนบอกว่ามันยังหนึบไม่พอ ก็แหงล่ะเล่นขับไม่ต่ำกว่า 160) รถทุกคันที่อยู่กับผมจะใส่ค้ำโช็คอย่างน้อย 3 ตัวครับคือ หน้าบน หน้าล่างและหลังล่าง จริงๆก็อยากใส่หลังบนด้วยแต่ผมมีการบบรรทุกของบ่อยๆ ถ้าใส่ก็บรรทุกของไม่สะดวกจึงไม่ใส่ดีกว่าครับ :P :P :P
สิ่งที่ได้คือ รถจะแข็งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เข้าโค้งอาการโยนตัวจะน้อยลงมาก มีความมั่นใจในการเข้าโค้งมากขึ้น เข้าโค้งด้วยความเร็วที่สูงขึ้นได้ดี แต่อย่าได้ใจมากไปนะครับ เพราะถ้าบทมันจะหลุดก็ไม่ค่อยมีอาการบอกให้เห็นครับ เพราะมันแข็งเกิน ;D ;D ;D
สำหรับงบเรื่องล้อแล้วแต่งบของท่านครับ ส่วนค้ำต่างๆผมหาใน Jazz Club ที่ผมเคยอยู่ไม่เกินชิ้นละ 1500 ครับ แพงกว่านั้นก็ไม่ช่วยอะไร หล่อกว่าอย่างเดียว ผมเน้นของไทยทำ ประสิทธิภาพพอกันครับ ;D ;D ;D