Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Dr.Shank ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2010, 12:51:41
-
มีเทคนิคล้างรถและรักษาสีรถด้วยตัวเองกันอย่างไร...
ทำให้รถมันเงาด้วยวิธีไหน..
เข้ามาเสนอแนะกันครับ
p.s. อยากให้รถเราเงาๆ ใช้วิธีอะไรกันบ้างครับ?
:)
-
ผมล้างด้วยแชมพูแอมเวย์
แล้วก็ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ด แค่นี้ก็เงาแล้วครับ
รถผมสีทองนะครับ เลยล้างง่ายหน่อย
-
ล้างเองจนกลายเป็นพนักงานล้างรถประจำบ้านไปซะแล้วค่ะ..55
ก้อล้างด้วยแชมพูล้างรถที่มีขายตามห้างอ่ะค่ะ
เช็ดแห้งด้วยผ้าชามัวส์ ตามด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์
แล้วถ้ามีเวลาว่างพอและยังมีแรงเหลือ ก้อลงแวกซ์ รอให้แห้งเป็นฝ้า
แล้วเช็ดออกด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ เท่านี้สีรถก้อจะลื่นและเงาแว๊บๆ แล้วล่ะค่ะ ^^
-
ผ้าไมโครไฟเบอร์
เป็นยังไงหรอครับ??
:)
-
ผม ใช้ยาสระผมบีบใส่ฟองน้ำแล้วแล้วขัดสะ
ล้างน้ำและใช้ผ้าขนหนูหนาๆเช็ด
-
ผม ใช้ยาสระผมบีบใส่ฟองน้ำแล้วแล้วขัดสะ
ล้างน้ำและใช้ผ้าขนหนูหนาๆเช็ด
โอ้!!!น้ำยาสระผมเลยหรอครับ!!!
แปลกดีครับ^^~
-
ของผมมีเครืื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ก็ฉีดล้างเบื้องต้นที่ล้อก่อน แล้วปรับหัวแรงดันให้อ่อนสุดแล้วล้างสีตัวถัง จากนั้นก็ใช้ผ้าดิบชุบน้ำผสมแชมพูล้างรถ ขัดคราบโคลนที่ติดฝังแน่นออก แต่หากรถยังสะอาดดีก็จะข้ามขั้นตอนนี้
จากนั้นก็ใช้ผ้าดิบชุบน้ำล้างทำความสะอาดล้างคราบแชมพูอีกที ได้ที่เสร็จสรรพ ก็เตรียมแปรงซักผ้านี่ล่ะ เข้าไปขัดตรงซุ้มล้อ, บังโคลน, ยาง, ล้อแม็ก ตามลำดับ
ต่อมาก็ขั้นตอนเช็ดรถล่ะ (อยากได้รูปบรรยายเหลือเกิน)
ผมจะใช้ผ้าหนังชาร์มัวเช็ดออก เทคนิคก็ทำการเช็ดหยาบ 1 ครั้ง แล้วเช็ดละเอียดอีก 1 ครั้ง เพราะคุณสมบัติผ้าชาร์มัวนี่ดูดซับน้ำได้ดียิ่งกว่าฟองน้ำซะอีก สาเหตุที่ลูบหยาบก่อน ก็เพราะว่าจะได้ไล่น้ำออกปริมาณมากออกไปก่อน ทำให้ประหยัดเวลากว่าเช็ดทีละจุดให้แห้ง แล้วค่อยมาเก็บละเอียดอีกที
พอเช็ดตัวถังเสร็จ ก็จะมาเช็ดตรงธรณีประตู ซึ่งคนส่วนใหญ่เวลาล้างรถ(โดยเฉพาะแฟนผม) มักจะลืม แล้วก็ต้องเช็ดตรงกรอบในประตูด้วยนะครับไม่งั้นปิดประตูไปน้ำก็จะย้อยออกตามมา
ขั้นตอนต่อไป ผมก็เอาหัวเป่าลมออกมาเป่า เป่าตรงซอกที่ผ้าเช็ดเข้าไปไม่ถึงครับ
ต่อมาก็เช็ดล้อแม็ก ใช้ผ้าธรรมดาก็พอ แล้วก็ใส่น้ำยาทายางดำ เป็นอันเสร็จพิธี ใช้เวลารวมทั้งสิ้น ประมาณ 3 ชั่วโมง
หากต้องลงเงา ใช้น้ำยาแอมเวย์ลงเงาทั่วคัน โดยหลีกเลี่ยงพลาสติกที่ไม่ใช่สีพ่น ไม่งั้น...(ไม่อยากจะนึก) แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดออก ใช้เวลาอีกร่วม 2 ชม.(รวมเวลาชื่นชมรถด้วย) โดยรวมก็ล้างทั้งวันล่ะครับ ก็เลยล้างได้แต่วันอาทิตย์วันเดียว วันอื่นไม่ว่าง
-
ของผมมีเครืื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ก็ฉีดล้างเบื้องต้นที่ล้อก่อน แล้วปรับหัวแรงดันให้อ่อนสุดแล้วล้างสีตัวถัง จากนั้นก็ใช้ผ้าดิบชุบน้ำผสมแชมพูล้างรถ ขัดคราบโคลนที่ติดฝังแน่นออก แต่หากรถยังสะอาดดีก็จะข้ามขั้นตอนนี้
จากนั้นก็ใช้ผ้าดิบชุบน้ำล้างทำความสะอาดล้างคราบแชมพูอีกที ได้ที่เสร็จสรรพ ก็เตรียมแปรงซักผ้านี่ล่ะ เข้าไปขัดตรงซุ้มล้อ, บังโคลน, ยาง, ล้อแม็ก ตามลำดับ
ต่อมาก็ขั้นตอนเช็ดรถล่ะ (อยากได้รูปบรรยายเหลือเกิน)
ผมจะใช้ผ้าหนังชาร์มัวเช็ดออก เทคนิคก็ทำการเช็ดหยาบ 1 ครั้ง แล้วเช็ดละเอียดอีก 1 ครั้ง เพราะคุณสมบัติผ้าชาร์มัวนี่ดูดซับน้ำได้ดียิ่งกว่าฟองน้ำซะอีก สาเหตุที่ลูบหยาบก่อน ก็เพราะว่าจะได้ไล่น้ำออกปริมาณมากออกไปก่อน ทำให้ประหยัดเวลากว่าเช็ดทีละจุดให้แห้ง แล้วค่อยมาเก็บละเอียดอีกที
พอเช็ดตัวถังเสร็จ ก็จะมาเช็ดตรงธรณีประตู ซึ่งคนส่วนใหญ่เวลาล้างรถ(โดยเฉพาะแฟนผม) มักจะลืม แล้วก็ต้องเช็ดตรงกรอบในประตูด้วยนะครับไม่งั้นปิดประตูไปน้ำก็จะย้อยออกตามมา
ขั้นตอนต่อไป ผมก็เอาหัวเป่าลมออกมาเป่า เป่าตรงซอกที่ผ้าเช็ดเข้าไปไม่ถึงครับ
ต่อมาก็เช็ดล้อแม็ก ใช้ผ้าธรรมดาก็พอ แล้วก็ใส่น้ำยาทายางดำ เป็นอันเสร็จพิธี ใช้เวลารวมทั้งสิ้น ประมาณ 3 ชั่วโมง
หากต้องลงเงา ใช้น้ำยาแอมเวย์ลงเงาทั่วคัน โดยหลีกเลี่ยงพลาสติกที่ไม่ใช่สีพ่น ไม่งั้น...(ไม่อยากจะนึก) แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดออก ใช้เวลาอีกร่วม 2 ชม.(รวมเวลาชื่นชมรถด้วย) โดยรวมก็ล้างทั้งวันล่ะครับ ก็เลยล้างได้แต่วันอาทิตย์วันเดียว วันอื่นไม่ว่าง
ขอบคุณมากครับ คุณkemjc ลองครั้งต่อไปเอารูปมาลงให้สมาชิกดูด้วยนะครับ
บอกขั้นตอนได้ละเอียดมากๆ ขอบคุณครับ
-
ของผมมีเครืื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ก็ฉีดล้างเบื้องต้นที่ล้อก่อน แล้วปรับหัวแรงดันให้อ่อนสุดแล้วล้างสีตัวถัง จากนั้นก็ใช้ผ้าดิบชุบน้ำผสมแชมพูล้างรถ ขัดคราบโคลนที่ติดฝังแน่นออก แต่หากรถยังสะอาดดีก็จะข้ามขั้นตอนนี้
จากนั้นก็ใช้ผ้าดิบชุบน้ำล้างทำความสะอาดล้างคราบแชมพูอีกที ได้ที่เสร็จสรรพ ก็เตรียมแปรงซักผ้านี่ล่ะ เข้าไปขัดตรงซุ้มล้อ, บังโคลน, ยาง, ล้อแม็ก ตามลำดับ
ต่อมาก็ขั้นตอนเช็ดรถล่ะ (อยากได้รูปบรรยายเหลือเกิน)
ผมจะใช้ผ้าหนังชาร์มัวเช็ดออก เทคนิคก็ทำการเช็ดหยาบ 1 ครั้ง แล้วเช็ดละเอียดอีก 1 ครั้ง เพราะคุณสมบัติผ้าชาร์มัวนี่ดูดซับน้ำได้ดียิ่งกว่าฟองน้ำซะอีก สาเหตุที่ลูบหยาบก่อน ก็เพราะว่าจะได้ไล่น้ำออกปริมาณมากออกไปก่อน ทำให้ประหยัดเวลากว่าเช็ดทีละจุดให้แห้ง แล้วค่อยมาเก็บละเอียดอีกที
พอเช็ดตัวถังเสร็จ ก็จะมาเช็ดตรงธรณีประตู ซึ่งคนส่วนใหญ่เวลาล้างรถ(โดยเฉพาะแฟนผม) มักจะลืม แล้วก็ต้องเช็ดตรงกรอบในประตูด้วยนะครับไม่งั้นปิดประตูไปน้ำก็จะย้อยออกตามมา
ขั้นตอนต่อไป ผมก็เอาหัวเป่าลมออกมาเป่า เป่าตรงซอกที่ผ้าเช็ดเข้าไปไม่ถึงครับ
ต่อมาก็เช็ดล้อแม็ก ใช้ผ้าธรรมดาก็พอ แล้วก็ใส่น้ำยาทายางดำ เป็นอันเสร็จพิธี ใช้เวลารวมทั้งสิ้น ประมาณ 3 ชั่วโมง
หากต้องลงเงา ใช้น้ำยาแอมเวย์ลงเงาทั่วคัน โดยหลีกเลี่ยงพลาสติกที่ไม่ใช่สีพ่น ไม่งั้น...(ไม่อยากจะนึก) แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดออก ใช้เวลาอีกร่วม 2 ชม.(รวมเวลาชื่นชมรถด้วย) โดยรวมก็ล้างทั้งวันล่ะครับ ก็เลยล้างได้แต่วันอาทิตย์วันเดียว วันอื่นไม่ว่าง
ขอบคุณมากครับ คุณkemjc ลองครั้งต่อไปเอารูปมาลงให้สมาชิกดูด้วยนะครับ
บอกขั้นตอนได้ละเอียดมากๆ ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ เดี๋ยววันหลังจะลองทำรีวิวดูครับ
-
แนะนำ เว็ป
www.thaiwashercarclub.com ครับ
-
ผมใช้เครื่องฉีดน้ำแรงสูงซื้อบิ้กซีหรือโลตัสก็มีขายครับ2พันกว่าบาท ฉีดตามล้อคราบดินออกดีครับ แชมพูก็เอาแบบที่ผสมแว๊กด้วยครับ ลดการเกาะของหยดน้ำ ผ้าที่ใช้เช็ดมี2แบบครับ อันแรกเป็นผ้าสีเหลืองผมซื้อร้อยกว่าบาทราคาตามขนาดผ้าครับ ตัวผ้าเป็นคล้ายๆยางพาราเช็ดแล้วบิดน้ำออกใช้ง่ายดีครับ พอรอบนี้ทั่วคันก็เอาเสื้อยืดเนื้อดีเก่าๆที่ไม่ใช้ครับ(ผมใช้เสื้อยืดตราห่าน) เช็ดรอบนี้รถแห้งเลยครับไม่มีคราบ แล้วพวกยางมะตอยติดตามรถผมใช้น้ำมันสนชุบผ้าครับไม่ก็สเปร์ครอบจักรวาลฉีดตามคราบยางมะตอยทิ้งไว้ซักพักมันจะละลายแล้วใช้ผ้าเช็ดออก ส่วนแว็กผมใช้แอมเวย์ครับ นานๆแว็กทีนึง เหนื่อย (-..-")
-
ใช้ยาล้างรถก็ได้ครับ ราคาไม่หนีจากแชมพูสระผมสักเท่าไหร่ แต่ถ้าจะใช้แชมพู ก็เอาแค่ยี่ห้อถูกๆก็พอ ไม่ต้องเป็นสูตรผสมครีมนวด เดี๋ยวตัวถังมันจะนิ่ม ข้อสำคัญ กรุณาอย่าใช้ยาล้างจ้านหรือผงซักฟอกล้าง เพราะล้างแล้วสีจะด้าน ล้างเสร็จก็เอาผ้าชามัวร์สีเหลืองๆเช็ดให้แห้ง แล้วใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์มาเช็ดให้เงางามอีกทีหนึ่ง
ทุกๆ2-3เดือน ให้เอาน้ำมันชักแห้ง1ฝาผสมน้ำครึ่งถัง แล้วเอาผ้าชุบน้ำบิดให้หมาดๆไปเช็ดรถที่เพิ่งล้างเสร็จ(ยังไม่ต้องเอาผ้าเช็ดให้แห้ง) เท่านี้สีก็จะเงางามแล้วครับ
ส่วนปั๊มแรงดันสูง จำได้ว่าโลตัสเคยขายเครื่องละพันนึงหรือพันกว่าบาทนี่แหละครับ ถ้าขี้เกียจเช็ด จะเอาโบลว์เวอร์มาเป่าให้แห้งก็ได้
-
ใช้ยาล้างรถก็ได้ครับ ราคาไม่หนีจากแชมพูสระผมสักเท่าไหร่ แต่ถ้าจะใช้แชมพู ก็เอาแค่ยี่ห้อถูกๆก็พอ ไม่ต้องเป็นสูตรผสมครีมนวด เดี๋ยวตัวถังมันจะนิ่ม ข้อสำคัญ กรุณาอย่าใช้ยาล้างจ้านหรือผงซักฟอกล้าง เพราะล้างแล้วสีจะด้าน ล้างเสร็จก็เอาผ้าชามัวร์สีเหลืองๆเช็ดให้แห้ง แล้วใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์มาเช็ดให้เงางามอีกทีหนึ่ง
ทุกๆ2-3เดือน ให้เอาน้ำมันชักแห้ง1ฝาผสมน้ำครึ่งถัง แล้วเอาผ้าชุบน้ำบิดให้หมาดๆไปเช็ดรถที่เพิ่งล้างเสร็จ(ยังไม่ต้องเอาผ้าเช็ดให้แห้ง) เท่านี้สีก็จะเงางามแล้วครับ
ส่วนปั๊มแรงดันสูง จำได้ว่าโลตัสเคยขายเครื่องละพันนึงหรือพันกว่าบาทนี่แหละครับ ถ้าขี้เกียจเช็ด จะเอาโบลว์เวอร์มาเป่าให้แห้งก็ได้
แชมพูสระผม สามารถใช้ได้ใช่มั้ยครับ ผมไม่เคยล้างรถเองอย่างจริงๆจังๆเลยครับ แหะๆเลยไม่รู้มาก่อน :)
-
เข้ามา้เก็บเกี่ยวความรู้ ;D
-
ผมว่าผ้าดิบ มันแข็งเกินไปนะครับ
-
แชมพูสระผม สามารถใช้ได้ใช่มั้ยครับ ผมไม่เคยล้างรถเองอย่างจริงๆจังๆเลยครับ แหะๆเลยไม่รู้มาก่อน :)
ใช้ได้แน่นอนครับ ยี่ห้ออะไรก็ได้ แต่คงไม่ต้องถึงกับเป็นยี่ห้อพวก นิวโทรจีน่า / เฮดแอนด์โชลเดอร์ นั่นแพงไป เอาแค่ แฟซ่า หรือ ซันซิลก์ ก็เหลือแหล่แล้วครับ
-
สำหรับรถสีด้านๆ แลคเกอร์ลอกหมดแล้วอย่างผม ก็เอาแฟ้บที่แถมมาจากปั๊มแก๊สนั่นแหละครับ
ผสมน้ำ ชะโลมให้ทั่วรถ ขัดสิ่งสกปรกออก แล้วใช้น้ำราดให้คราบหลุดออก แต่แฟ้บไม่จำเป็นต้องหลุดออกหมดนะครับ !!
เอารถไปตากแดดให้แห้ง แฟ้บพวกนี้จะมีแป้งเยอะ เวลาแห้งแล้วมันจะโผล่คราบแป้งจะโผล่ออกมา
เอาผ้าเนื้อละเอียดเช็ดลวกๆ หรือใช้ไม้ขนไก่ปัด ก็ออกแล้ว ประหยัดน้ำล้าง ไม่แปลืองแรงขัด สีรถช่างมาน... 55
-
โอ้ผมก็พึ่งรู้เลยนะครับ ยาสระผมเนี่ย ขอบคุณครับ เด๊วไปลองใช้ดู
;D
-
สำหรับรถสีด้านๆ แลคเกอร์ลอกหมดแล้วอย่างผม ก็เอาแฟ้บที่แถมมาจากปั๊มแก๊สนั่นแหละครับ
ผสมน้ำ ชะโลมให้ทั่วรถ ขัดสิ่งสกปรกออก แล้วใช้น้ำราดให้คราบหลุดออก แต่แฟ้บไม่จำเป็นต้องหลุดออกหมดนะครับ !!
เอารถไปตากแดดให้แห้ง แฟ้บพวกนี้จะมีแป้งเยอะ เวลาแห้งแล้วมันจะโผล่คราบแป้งจะโผล่ออกมา
เอาผ้าเนื้อละเอียดเช็ดลวกๆ หรือใช้ไม้ขนไก่ปัด ก็ออกแล้ว ประหยัดน้ำล้าง ไม่แปลืองแรงขัด สีรถช่างมาน... 55
ไม่ลองทำเป็น Rust Rod ดูล่ะครับ
-
ของผม ใช้ ของ amway ครับ ขัดและล้างครับ ทั้งคุ๋ครัล เงาดีครับ ที่ใช้เพราะ พ่อผมทำอยู่เลยใช้ครับ ;D ;D 55
-
ผ้าไมโครไฟเบอร์
เป็นยังไงหรอครับ??
:)
ผ้าไมโครไฟเบอร์จะคล้าย ๆ ผ้าเช็ดกระจก (บางทีโผล่เป็นผ้าเช็ดแว่น)
มีลักษณะเนื้อผ้าเป็นตาราง ๆ ครับ
คุณสมบัติคือมันจะเก็บผุ่นไว้ที่ตัวผ้า และไม่ทำให้รถเป็นรอยครับ
หาซื้อได้ตามห้างทั่วไป
-
ผ้าไมโครไฟเบอร์
เป็นยังไงหรอครับ??
:)
ผ้าไมโครไฟเบอร์จะคล้าย ๆ ผ้าเช็ดกระจก (บางทีโผล่เป็นผ้าเช็ดแว่น)
มีลักษณะเนื้อผ้าเป็นตาราง ๆ ครับ
คุณสมบัติคือมันจะเก็บผุ่นไว้ที่ตัวผ้า และไม่ทำให้รถเป็นรอยครับ
หาซื้อได้ตามห้างทั่วไป
อ่อขอบคุณครับ ;)
-
ผมใช้โฟมล้างรถที่ผสมแว็กซ์ในตัวของ carrytex ครับ ผสม2ฝา+น้ำ1ถังล้างปกติ แต่โฟมแบบผสมแว๊กซ์จะไม่ค่อยมีฟองนะครับ เวลาล้างอาจจะไม่ค่อยสะใจเพราะไม่ค่อยมีฟอง แต่ล้างเสร็จรถก็เงางามดี แล้วเช็ดแห้งด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ แต่ถ้าให้เงาวิ้งๆ ต้องมีขั้นตอนขัดเคลือบต่ออีกครับ
-
โอ้......มีคลับสำหรับคนล้างรถเองด้วย เยี่ยมเลย
ผมก็ล้างเองตลอดครับ ถ้าไม่เอาไปลุยจนรถหาสีเดิมไม่เจอก็ไม่เข้าร้านล้างครับ
-
ผมล้างเองครับ ล้างทีก็เกือบครึ่งวันเข้าไปละ
ผมใช้แชมพูล้างรถแบบที่มีส่วนผสมของยาเคลือบสีในตัวครับ
ส่วนถ้าขยันหน่อยก็จะเคลือบสีทับอีกนิดให้เงาๆ
>>> แต่ถ้าขี้เกียจ ผมไปเมกไกวส์โลดดครับ
-
ผมก็ล้างเอง ครับ ซื้อนำยาล้างทั่วไปครับ แต่ที่อยากรู้คือ เราครวขัด-เคลือบสี ปี นึงกี่ครับ้งครับ และมีร้านไหน แนะนำไหมครับ
-
ล้างเองใช้แชมพูเหมือนกันครับ :D
-
Rust Rod หรือ Rat Look มันเหมาะกับรถบางคันเท่านั้นแหละครับ บางคันทำออกมาแล้วตะเลิดเปิดเปิงเลย
ยกเว้นว่าคนมันชอบจริงๆ ต่อให้มันขับอัลติสก็ทำ rat look ให้ได้ ::) :P
-
ใช้ยาล้างรถก็ได้ครับ ราคาไม่หนีจากแชมพูสระผมสักเท่าไหร่ แต่ถ้าจะใช้แชมพู ก็เอาแค่ยี่ห้อถูกๆก็พอ ไม่ต้องเป็นสูตรผสมครีมนวด เดี๋ยวตัวถังมันจะนิ่ม ข้อสำคัญ กรุณาอย่าใช้ยาล้างจ้านหรือผงซักฟอกล้าง เพราะล้างแล้วสีจะด้าน ล้างเสร็จก็เอาผ้าชามัวร์สีเหลืองๆเช็ดให้แห้ง แล้วใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์มาเช็ดให้เงางามอีกทีหนึ่ง
ทุกๆ2-3เดือน ให้เอาน้ำมันชักแห้ง1ฝาผสมน้ำครึ่งถัง แล้วเอาผ้าชุบน้ำบิดให้หมาดๆไปเช็ดรถที่เพิ่งล้างเสร็จ(ยังไม่ต้องเอาผ้าเช็ดให้แห้ง) เท่านี้สีก็จะเงางามแล้วครับ
ส่วนปั๊มแรงดันสูง จำได้ว่าโลตัสเคยขายเครื่องละพันนึงหรือพันกว่าบาทนี่แหละครับ ถ้าขี้เกียจเช็ด จะเอาโบลว์เวอร์มาเป่าให้แห้งก็ได้
เครื่องโบลว์เวอร์ ราคาประมาณเท่าไหร่ครับ หาซื้อได้ที่ไหนบ้างผมอยากเอามาใช้กับรถที่บ้านอะครับ :)
-
ใช้ยาล้างรถก็ได้ครับ ราคาไม่หนีจากแชมพูสระผมสักเท่าไหร่ แต่ถ้าจะใช้แชมพู ก็เอาแค่ยี่ห้อถูกๆก็พอ ไม่ต้องเป็นสูตรผสมครีมนวด เดี๋ยวตัวถังมันจะนิ่ม ข้อสำคัญ กรุณาอย่าใช้ยาล้างจ้านหรือผงซักฟอกล้าง เพราะล้างแล้วสีจะด้าน ล้างเสร็จก็เอาผ้าชามัวร์สีเหลืองๆเช็ดให้แห้ง แล้วใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์มาเช็ดให้เงางามอีกทีหนึ่ง
ทุกๆ2-3เดือน ให้เอาน้ำมันชักแห้ง1ฝาผสมน้ำครึ่งถัง แล้วเอาผ้าชุบน้ำบิดให้หมาดๆไปเช็ดรถที่เพิ่งล้างเสร็จ(ยังไม่ต้องเอาผ้าเช็ดให้แห้ง) เท่านี้สีก็จะเงางามแล้วครับ
ส่วนปั๊มแรงดันสูง จำได้ว่าโลตัสเคยขายเครื่องละพันนึงหรือพันกว่าบาทนี่แหละครับ ถ้าขี้เกียจเช็ด จะเอาโบลว์เวอร์มาเป่าให้แห้งก็ได้
เครื่องโบลว์เวอร์ ราคาประมาณเท่าไหร่ครับ หาซื้อได้ที่ไหนบ้างผมอยากเอามาใช้กับรถที่บ้านอะครับ :)
ยี่ห้อถูกๆแบงค์พันมีทอนครับ แต่ แนะนำให้ซื้อยี่ห้อพวก makita หรือ black&decker ดีกว่า ราคาก็พันกว่าบาทครับ หาได้ตามโลตัส คาร์ฟูร์ หรือพวก โฮมโปรก็มีครับ ถ้าขี้เกียจไปจริงๆ ในห้างแผนกเครื่องไฟฟ้า(ตรงที่ขายหลอดไฟ) น่าจะมีขายครับ
-
ใช้ยาล้างรถก็ได้ครับ ราคาไม่หนีจากแชมพูสระผมสักเท่าไหร่ แต่ถ้าจะใช้แชมพู ก็เอาแค่ยี่ห้อถูกๆก็พอ ไม่ต้องเป็นสูตรผสมครีมนวด เดี๋ยวตัวถังมันจะนิ่ม ข้อสำคัญ กรุณาอย่าใช้ยาล้างจ้านหรือผงซักฟอกล้าง เพราะล้างแล้วสีจะด้าน ล้างเสร็จก็เอาผ้าชามัวร์สีเหลืองๆเช็ดให้แห้ง แล้วใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์มาเช็ดให้เงางามอีกทีหนึ่ง
ทุกๆ2-3เดือน ให้เอาน้ำมันชักแห้ง1ฝาผสมน้ำครึ่งถัง แล้วเอาผ้าชุบน้ำบิดให้หมาดๆไปเช็ดรถที่เพิ่งล้างเสร็จ(ยังไม่ต้องเอาผ้าเช็ดให้แห้ง) เท่านี้สีก็จะเงางามแล้วครับ
ส่วนปั๊มแรงดันสูง จำได้ว่าโลตัสเคยขายเครื่องละพันนึงหรือพันกว่าบาทนี่แหละครับ ถ้าขี้เกียจเช็ด จะเอาโบลว์เวอร์มาเป่าให้แห้งก็ได้
เครื่องโบลว์เวอร์ ราคาประมาณเท่าไหร่ครับ หาซื้อได้ที่ไหนบ้างผมอยากเอามาใช้กับรถที่บ้านอะครับ :)
ยี่ห้อถูกๆแบงค์พันมีทอนครับ แต่ แนะนำให้ซื้อยี่ห้อพวก makita หรือ black&decker ดีกว่า ราคาก็พันกว่าบาทครับ หาได้ตามโลตัส คาร์ฟูร์ หรือพวก โฮมโปรก็มีครับ ถ้าขี้เกียจไปจริงๆ ในห้างแผนกเครื่องไฟฟ้า(ตรงที่ขายหลอดไฟ) น่าจะมีขายครับ
ขอบคุณครับ ;D
-
ล้างรถเองเหมือนกันครับ ถ้าไม่สกปรกมากก็จะล้างน้ำเปล่า นานๆ(ขี้เกียจ)ทีก็จะล้างกับน้ำยาล้างรถ และนานๆๆๆ(ขี้เกียจสุดๆ)ทีก็ลงน้ำยาเคลือบสีรถสักที เป็นน้ำยาแบบรอแห้งแล้วค่อยเช็ดออก (แบบนี้ ทำทีนึงเช็ด ขัดน้ำยาที่แห้งออก จนกล้ามเนื้อแขนอักเสบกันเลยทีเดียว เหนื่อยโครต) แต่ตอนนี้ใช้ คาเนาบาแว็กซ์ แทน เพราะเช็ดออกง่ายกว่าเยอะมาก แต่แพงกว่า