Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ พฤษภาคม 22, 2015, 22:29:24

หัวข้อ: รถ BMW หรือ MB รุ่นใหม่ๆ จุกจิกมั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ พฤษภาคม 22, 2015, 22:29:24
คิดว่าอีก 2 ปีอยากจะถอยรถแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งใน 2 แบรนด์นี้ คิดว่าจะถอย Series 1 ไม่ก็ A-Class แต่กังวลเรื่อง

1. อะไหล่ต้องรอนานมั้ยครับ เห็นมีคนบอกว่าบางเคสต้องหลายเดือนกว่าอะไหล่จะมา

2. เห็นว่าไฮเทคเกิน เดี๋ยวนู่นเสีย นี่เสีย ต้องเข้าศูนย์บ่อยๆ

3. ค่าแรงศูนย์โหด เข้าทีหมดหลายหมื่น

ไม่ทราบว่าที่กล่าวถึงมีความจริงอย่างไรบ้างครับ
หัวข้อ: Re: รถ BMW หรือ MB รุ่นใหม่ๆ จุกจิกมั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: atc40 ที่ พฤษภาคม 23, 2015, 06:56:12
ไม่ได้ใช้นะครับ แต่เห็นรถเพื่อน A-Class ดับเครื่องแล้วไฟDRL ติดค้าง1ข้างตลอด
ยังแอบคิด แบตมันจะหมดมั้ยยย ? ให้ไว้เป็นข้อมูลครับ รอคนใช้จริงมารีวิวอีกทีครับ  ;D
หัวข้อ: Re: รถ BMW หรือ MB รุ่นใหม่ๆ จุกจิกมั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: reyeshenry ที่ พฤษภาคม 23, 2015, 07:41:59
ไม่ได้ใช้นะครับ แต่เห็นรถเพื่อน A-Class ดับเครื่องแล้วไฟDRL ติดค้าง1ข้างตลอด
ยังแอบคิด แบตมันจะหมดมั้ยยย ? ให้ไว้เป็นข้อมูลครับ รอคนใช้จริงมารีวิวอีกทีครับ  ;D

ปกติมันต้องติดค้าง เป็นคู่ไม่ใช่หรอครับ  ไหงมา หลอดเดียวได้ไงหนอ
หัวข้อ: Re: รถ BMW หรือ MB รุ่นใหม่ๆ จุกจิกมั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: berm ที่ พฤษภาคม 23, 2015, 07:52:58
ที่ไฟติดค้างนี่สงสัยไปโดนปุ่มเปิดไฟจอด มันเลือกได้ว่าจะให้ติดข้างซ้ายหรือข้างขวา
หัวข้อ: Re: รถ BMW หรือ MB รุ่นใหม่ๆ จุกจิกมั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: crucifixzz ที่ พฤษภาคม 23, 2015, 08:00:29
ไม่ได้ใช้นะครับ แต่เห็นรถเพื่อน A-Class ดับเครื่องแล้วไฟDRL ติดค้าง1ข้างตลอด
ยังแอบคิด แบตมันจะหมดมั้ยยย ? ให้ไว้เป็นข้อมูลครับ รอคนใช้จริงมารีวิวอีกทีครับ  ;D
Parking Light!
หัวข้อ: Re: รถ BMW หรือ MB รุ่นใหม่ๆ จุกจิกมั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ พฤษภาคม 23, 2015, 08:16:21
คิดว่าอีก 2 ปีอยากจะถอยรถแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งใน 2 แบรนด์นี้ คิดว่าจะถอย Series 1 ไม่ก็ A-Class แต่กังวลเรื่อง

1. อะไหล่ต้องรอนานมั้ยครับ เห็นมีคนบอกว่าบางเคสต้องหลายเดือนกว่าอะไหล่จะมา

2. เห็นว่าไฮเทคเกิน เดี๋ยวนู่นเสีย นี่เสีย ต้องเข้าศูนย์บ่อยๆ

3. ค่าแรงศูนย์โหด เข้าทีหมดหลายหมื่น

ไม่ทราบว่าที่กล่าวถึงมีความจริงอย่างไรบ้างครับ
ไม่เคยใช้ A Class แต่ที่ประสบการณ์จาก S E และ C อะไหล่บางชิ้นรอเป็นเดือนก็มีแต่ไม่บ่อยเพราะ Benz Thailand จะส่งทาง Air Freight มาส่วนมากเพราะเค้าคิดเราแพงอยู่แล้วครับ ไฮเทคก็มีบ้างถ้าโชคดีเจอบางคัน ระบบไฟฟ้ามากก็มีโอกาสเกเรมากตามครับ แต่ที่ใช้มาก็แก้ไขจบตลอดครับ ส่วนค่าแรงแพงนั้นจริงและแพงทั้งค่าแรงและอะไหล่ด้วย ครั้งหลังสุดรถตู้ Vito ผมเจอคอยล์ร้อนกับตู้แอร์2ตู้ 0แจ้งราคาแสนต้นๆผมเลยให้ประกอบกลับแล้วเอาไปให้ช่าง Denso เก่าเปลี่ยนให้ราคาไม่ถึงครึ่งเดียว เย็นสบายแล้วครับ เลยให้ลูกน้องรวมค่าซ่อมไม่รวมค่าเปลี่ยนยางทั้งหมดใช้ไปตั้งแต่ป้ายแดงมา6ปีทั้งหมด7แสนบาทครับ
หัวข้อ: Re: รถ BMW หรือ MB รุ่นใหม่ๆ จุกจิกมั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ พฤษภาคม 23, 2015, 08:44:44
คิดว่าอีก 2 ปีอยากจะถอยรถแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งใน 2 แบรนด์นี้ คิดว่าจะถอย Series 1 ไม่ก็ A-Class แต่กังวลเรื่อง

1. อะไหล่ต้องรอนานมั้ยครับ เห็นมีคนบอกว่าบางเคสต้องหลายเดือนกว่าอะไหล่จะมา

2. เห็นว่าไฮเทคเกิน เดี๋ยวนู่นเสีย นี่เสีย ต้องเข้าศูนย์บ่อยๆ

3. ค่าแรงศูนย์โหด เข้าทีหมดหลายหมื่น

ไม่ทราบว่าที่กล่าวถึงมีความจริงอย่างไรบ้างครับ
ไม่เคยใช้ A Class แต่ที่ประสบการณ์จาก S E และ C อะไหล่บางชิ้นรอเป็นเดือนก็มีแต่ไม่บ่อยเพราะ Benz Thailand จะส่งทาง Air Freight มาส่วนมากเพราะเค้าคิดเราแพงอยู่แล้วครับ ไฮเทคก็มีบ้างถ้าโชคดีเจอบางคัน ระบบไฟฟ้ามากก็มีโอกาสเกเรมากตามครับ แต่ที่ใช้มาก็แก้ไขจบตลอดครับ ส่วนค่าแรงแพงนั้นจริงและแพงทั้งค่าแรงและอะไหล่ด้วย ครั้งหลังสุดรถตู้ Vito ผมเจอคอยล์ร้อนกับตู้แอร์2ตู้ 0แจ้งราคาแสนต้นๆผมเลยให้ประกอบกลับแล้วเอาไปให้ช่าง Denso เก่าเปลี่ยนให้ราคาไม่ถึงครึ่งเดียว เย็นสบายแล้วครับ เลยให้ลูกน้องรวมค่าซ่อมไม่รวมค่าเปลี่ยนยางทั้งหมดใช้ไปตั้งแต่ป้ายแดงมา6ปีทั้งหมด7แสนบาทครับ

เห็นค่าซ่อมแล้วท้อเลยครับ เกือบเป็นครึ่งนึงของราคารถแล้ว แค่ 6 ปีเอง
หัวข้อ: Re: รถ BMW หรือ MB รุ่นใหม่ๆ จุกจิกมั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dazetos ที่ พฤษภาคม 23, 2015, 10:08:19
ใช้ a class มาปีครึ่ง วิ่งไป เกือบ 20,000 โล ไม่มากไปหรือน้อยไป วิ่งทุกวัน ไม่มีปัญหาอะไรครับ เข้า service  ปกติก็ 4 พันกว่าบาท

อะไหล่ไม่น่าหวง อีกหน่อย a class ก็จะประกอบในแล้วครับ
หัวข้อ: Re: รถ BMW หรือ MB รุ่นใหม่ๆ จุกจิกมั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: firstime911 ที่ พฤษภาคม 23, 2015, 10:15:22
จุกจิกส่วนให่ญ มันมา หา หลัง 3-5 ปี ตามการใช้งานอะคับ
แต่หลังๆ ผมว่า ระบบมันออกแบบมา ให้เปลี่ยน และ พร้อมเสีย มากๆ
ไฟฟ้า electronic เยอะ พอถึงอายุก็ต้องเปลี่ยน ช่วงล่าง ตัวแพงๆ ก็เป็น ถุงลม เสียที ร้องไห้เลย

ถ้าไม่ติดว่าต้องเอาหน้าไปนั่งอยู่ในรถ ไม่ซื้อหรอก benz/bmw
 รถ พวก PPV ดีสุดแล้ว ใช้ 5 ปี ขายทิ้งซื้อใหม่ ไม่เสียดายเลย
หัวข้อ: Re: รถ BMW หรือ MB รุ่นใหม่ๆ จุกจิกมั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: atc40 ที่ พฤษภาคม 23, 2015, 11:59:25
ที่ไฟติดค้างนี่สงสัยไปโดนปุ่มเปิดไฟจอด มันเลือกได้ว่าจะให้ติดข้างซ้ายหรือข้างขวา

ครับ พึ่งรู้ครับ มันเป็นอย่างงี้นี่เอง   :D ;D ;D คืองงเพราะเห็นติดข้างเดียวครับ 555
แต่ที่เห็นคือเค้าเปิดไว้ตั้งแต่เที่ยง ยัน4โมงเย็นยังติดอยู่ แถมจอดเข้าซองเรียบร้อย เลยงงครับ 555

https://m.youtube.com/watch?v=d1s1L2cy1Vo

ไม่เคยใช้รถยุโรปครับ  ;D
หัวข้อ: Re: รถ BMW หรือ MB รุ่นใหม่ๆ จุกจิกมั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: localgame ที่ พฤษภาคม 23, 2015, 20:11:45
E200 CGIใช้มา5ปี 3ปีแรกผ่อนกับเบนซ์ค่าซ่อมทุกอย่างรวมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องไม่เสียสักกะบาท มีแค่ค่ายางเท่านั้น 2ปีต่อมาโดนซ่อมแอร์กับเปลี่ยนถ่ายของเหลวรวมๆ ประมาณ30,000 บาท แต่เห็นในกลุ่มเค้าว่ากันว่าE250 CGI 7G มีปัญหาเรื่องสมองเกียร์กันหลายคันซ่อมทีประมาณ50000 +/- ของงี้ผมว่าแล้วแต่รุ่นซื้อแล้วสบายใจอยากได้สมรรถณะก็ขับไป ซื้อแล้วมาคิดมากอยากได้รถญี่ปุ่นเพื่อความคุ้มค่าก็อย่าซื้อรถยุโรป
หัวข้อ: Re: รถ BMW หรือ MB รุ่นใหม่ๆ จุกจิกมั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Monn ที่ พฤษภาคม 23, 2015, 22:49:33
คิดว่าอีก 2 ปีอยากจะถอยรถแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งใน 2 แบรนด์นี้ คิดว่าจะถอย Series 1 ไม่ก็ A-Class แต่กังวลเรื่อง

1. อะไหล่ต้องรอนานมั้ยครับ เห็นมีคนบอกว่าบางเคสต้องหลายเดือนกว่าอะไหล่จะมา

2. เห็นว่าไฮเทคเกิน เดี๋ยวนู่นเสีย นี่เสีย ต้องเข้าศูนย์บ่อยๆ

3. ค่าแรงศูนย์โหด เข้าทีหมดหลายหมื่น

ไม่ทราบว่าที่กล่าวถึงมีความจริงอย่างไรบ้างครับ

ไม่เคยใช้ Benz นะครับ ขอตอบมุม BMW มั่ง  หาก S1 จะจุกจิกน้อยกว่า เพราะระบบน้อยกว่ารุ่นอื่น

1. อะไหล่ เบิกจาก BM thailand หมด เพราะมี BSI ทุกอย่างต้องเบิก 0 เพราะฟรี หากซวย บางชิ้น 2-3 เดือน มีเพื่อนเจอมา โดยเฉพาะหากชนหนัก เคยมีเคสคนรู้จัก จอด 0 รอซ่อม กว่าจะครบ 12 เดือนพอดี แต่ต้องรอ เพราะประกัน และอะไหล่ขอแท้เท่านั้น

2. hi tech แน่นอน มันเหมือนคอมวิ่งได้แล้วครับ คำนวนทุกอย่าง สายไฟ ระบบ ไม่ต้องพูดถึง อย่าง S1 ที่ว่าน้อยแล้ว ผมเชื่อว่า รื้อกันจริง ecu เพียบ มันจำทุกอย่าง จุกจิกแน่ BM ตั้งแต่ไหนแล้ว พอมีไรเพี้ยน มันตัดเข้า safe mode ล้วนๆ วิ่งประคองถึง 0 ได้ ยิ่งรุ่นใหม่ๆ บางคันหยุดเลย เพราะกลัวขับไปจะเป็นอันตราย แล้วด้วยที่มันมี BSI ยังไงก็ต้องเข้า 0 และ BMW เป็นไฟฟ้าเยอะ ต้อง slide ล้วนๆ ซึ่งทาง BM มี service ฟรี ทั่วประเทศ ลากเข้า 0 ที่ใกล้ที่สุด ก็พอช่วยอุ่นใจได้ รู้สึก ปีละ 2 ครั้งมั้งครับ ในช่วง BSI มีเพื่อนใช้บริการหลายคนละ แต่ผมยังไม่เคย เคยแต่ไฟขึ้น รถเร่งไม่ได้ ต้องประคองรถเข้า 0 เลย

3. BSI 5 ปี หรือแสนโล ตอนนี้ผมใช้มา 2 ปีครึ่ง 65000 ยังไม่เคยจ่ายตังค์สักบาท ที่เข้า 0 ทุกอย่างฟรี หมด นี่คือจุดที่ทำให้ผมซื้อ BM เพราะสบายกระเป๋าช่วงแรก พอเลยไป จะใช้ต่อไม่ใช้ต่อว่ากันอีกที แต่รถยุโรป ยังไง 4-5 ปีขึ้น ก็ต้องมีเสียบ้าง ปกติ แพงมั้ย แพงครับ จากราคาอะไหล่ที่เขาเอาบิลมาให้เซนต์ตอนรับรถ แพงครับ ที่จำได้คือ เบรค ใน BSI เปลี่ยนฟรี พอผ้าเบรคหมด 0 เปลี่ยนให้ ทั้งจาน ทั้งผ้าเบรคเลย หน้า 36xxx หลัง 3xxxx ถ้ารถญี่ปุ่น ก็หมื่นกว่าๆ คำนวนตามราคารถแหละครับ ญี่ปุ่น ล้านนึง นี่เกือบสามล้าน ก็แพงกว่ากัน 2-3 เท่าแทบทุกอย่าง  หากหมด BSI หาอู่นอกเลย ประหยัดไปแน่ๆ มากกว่า 50% ครับ ผมก็เตรียมไว้แล้ว

ประมาณนี้ครับ แต่ S1 คำบำรุงก็ถูกสุดอะครับ ตามรถ หากไต่ซีรี่ย์ไป ก็ราคาอัพเป็นลำดับ เคยได้ยินค่าซ่อม S7 ยอมแพ้ มีเงินก็ซื้อไม่ไหวจริงๆ

หัวข้อ: Re: รถ BMW หรือ MB รุ่นใหม่ๆ จุกจิกมั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: เกมส์'พิดโลก ที่ พฤษภาคม 23, 2015, 23:13:32
อาทิตย์ที่แล้ว เอา F30 320d ไปเปลี่ยนผ้าเบรค เพราะระบบขึ้นให้เปลี่ยนระบบเบรค(ใช้มา 1 ปี 40,000 กว่าโล)
ไปถึง ศูนย์จับเปลี่ยนทั้งผ้าเบรคและจานเบรค ผมก็งง เปลี่ยนจานทำไม ศูนย์ให้คำตอบว่า จานเบรคเป็นแบบอ่อนถูกออกแบบมาให้เปลี่ยนพร้อมกับผ้าเบรค... ห๊ะ!!! มีงี้ด้วย
ยิ่งตอนเซ็นเอกสาร เหลือบไปดูค่าใช้จ่ายทั้งหมด 4 หมื่นกว่าบาท!!! แต่ทั้งหมดนี้ฟรี เพราะ BSI
กลับมาถึงบ้าน ถึงกับต้องประชุมกันแบบครบองค์ ถ้าหมด BSI คือ แสนโล คาดว่าอีกปีกว่าๆ ก็หมดแน่ๆ! เพราะใช้งานปีละ 4 หมื่นโล+ (ขนาดคันนี้ใช้น้อยสุดแล้ว) หลังจากนี้เราจะทำยังไงกันดี เช็คระยะทีนึง ได้มอไซคัน ได้ iMac เครื่องนึง!!!
หัวข้อ: Re: รถ BMW หรือ MB รุ่นใหม่ๆ จุกจิกมั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Fong ที่ พฤษภาคม 24, 2015, 11:00:40
ผมว่ารถญี่ปุ่นก็กำลังตามมานะครับ

Hi TECH ระบบ Electronics ช่วยการขับและอำนวยความสะดวกมากขึ้น

อีกหน่อยค่าดูแลรถญี่ปุ่นก็คงแพงขึ้นตามครับ

และคงจะบีบบังคับให้เราใช้รถแล้วทิ้งใน 5-7 ปีแบบในต่างประเทศ เพราะค่าซ่อมจะเริ่มไม่คุ้ม ซื้อใหม่ดีกว่า

 ;D ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: รถ BMW หรือ MB รุ่นใหม่ๆ จุกจิกมั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Arte三六九 ที่ พฤษภาคม 24, 2015, 13:28:31
ที่ไฟติดค้างนี่สงสัยไปโดนปุ่มเปิดไฟจอด มันเลือกได้ว่าจะให้ติดข้างซ้ายหรือข้างขวา

ครับ พึ่งรู้ครับ มันเป็นอย่างงี้นี่เอง   :D ;D ;D คืองงเพราะเห็นติดข้างเดียวครับ 555
แต่ที่เห็นคือเค้าเปิดไว้ตั้งแต่เที่ยง ยัน4โมงเย็นยังติดอยู่ แถมจอดเข้าซองเรียบร้อย เลยงงครับ 555

https://m.youtube.com/watch?v=d1s1L2cy1Vo

ไม่เคยใช้รถยุโรปครับ  ;D

Parking light ตอนแรกผมก็ไม่รู้ บิดสวิทช์ไฟไปจนสุดฝั่งซ้าย มันก็ติดข้างเดียวอย่างนั้นละครับ จนพี่ยามมาทัก ดับเครื่องแล้วทำไมไฟหน้าหลังติดข้างเดียว
ต้องตั้งบิดไปที่ auto ครับ
หัวข้อ: Re: รถ BMW หรือ MB รุ่นใหม่ๆ จุกจิกมั้ยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: keng ที่ พฤษภาคม 24, 2015, 15:13:17
ใช้ a class มาปีครึ่ง วิ่งไป เกือบ 20,000 โล ไม่มากไปหรือน้อยไป วิ่งทุกวัน ไม่มีปัญหาอะไรครับ เข้า service  ปกติก็ 4 พันกว่าบาท

อะไหล่ไม่น่าหวง อีกหน่อย a class ก็จะประกอบในแล้วครับ

ทำไมค่าเซอร์วิสถึงต่างจากรถผมตั้งเยอะจัง
ของผม CLA 250 เข้าเซอร์วิส A ตอนหมื่นโล ทำไมค่าใช้จ่ายหมื่นกว่าบาท
ตอนนี้จะวิ่งจะสองหมื่นแล้ว ใกล้เข้าเซอร์วิส B ไม่รู้จะแพงกว่าครั้งแรกรึเปล่า