Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: w_th ที่ กรกฎาคม 04, 2015, 20:51:54
-
วันนี้ขับเจ้า L33 ลงดอยอินทนนท์ รถแทบไม่มีเอนจิ้นเบรคช่วยเลยครับ ทั้ง D หรือ Ds แทบไม่ต่างกัน
ค่อยๆ เบรคปล่อย เท่าที่จะทำได้ เบรคก็ยังเหม็นมาก
ไม่ทราบว่า รถเกียร์ CVT ที่ไม่มีโหมด +/- มีเทคนิคขับลงเขาชันๆ โหดๆ กันยังไงครับ
กรณีนี้ผมนึกติดใจเกียร์ A/T แบบปรกติเลย มันช่วยรับภาระเบรคได้มาก
ขอบคุณครับ
-
เอ....... ผมไม่เคยขับL33. แบบยาวๆด้วยนะครับ
ส่วนตัวใช้j32 250 v6 ขาขึ้นเหลือๆ กดsport modeบางครั้งเช่นช่วงพระมหานภเมธินีดล แซงชาวบ้านเขากระจุยกระจายแป้ปๆถึงยอดดอยอินทนนท์
ขาลง ดึงมาL แล้วเบรกให้รถหยุดเกือบสนิท แล้วปล่อยไหลลงมา สลับกันไปแบบนี้ครับ โดยไม่เลียเบรค
ถ้าเลียเบรคเมื่อไร ไม่ว่าจะMT,AT semi AT, power shift เบรคมีสิทธิ์ไหม้ได้ครับ
CVT ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับการขึ้นลงทางชันมากๆ แน่นอนครับ
-
new lancer 1.6 cvt เวลาขับลงเนิน ในเกียร์D เกียร์ก็เปลี่ยนลงให้เครื่องช่วยเบรกนะครับ ไม่เคยต้องเยียบเบรกยาวๆ ยิ่งลงDs ยิ่งลากเกียร์ แต่เจอทางชันมากๆ ผมเบรกตั้งแต่เริ่มลงให้ช้าๆไว้ก่อนรอบเครื่องจะได้ไม่สูงมาก เครื่องเคยช่วยดึงมากสุดตอนลงทางชันรอบเกือบ 4พันRPM กลัวเกียร์ร้อนจัดเหมือนกันนะครับ :)
-
ผมเคยใช้รถเกียร์ CVT แค่คันนี้คันเดียวครับ
ปรกติขับระหว่างจังหวัด สามารถใช้ความเร็วได้ ประกอบกับไม่มีลงเขายาวๆ เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร
วันนี้ลงดอยอินทนนท์ ทั้ง D และ Dsมันแทบไม่ต่างจาก N เลยครับ
ไม่ลดเกียร์ให้ ส่วนเกียร์ L นั้น L33 ดันไม่ให้มาอีก
ภาระเลยไปลงที่เบรคเต็มๆ
แต่เวลาขับ A/T ปรกติ อย่าง Altis 4A/T โฉมสุดท้าย ลงเขายังไม่ทันแตะเบรค ก้อลดเกียร์ให้ 1-2 เกียร์แล้ว
หรือ Optra เวลากดเบรค ก็ลดให้ 1-2 จังหวะเหมือนกันครับ
เลยแอบกังวล ว่าเซ็นเซอร์บางตัวมันเพี้ยนไปรึเปล่า
-
มันไม่มีเกียร์ S หรือ L เหรอครับ
ผมเคยขับรถพ่อผมนิสสัน มาร์ช ขึ้นเส้นหางดง-สะเมิง-แม่ริม ขึ้นลงเขาตลอดทาง ยอมรับเลยว่าเอ็นจิ้นเบรกน้อยกว่าสวิฟท์เห็นๆครับ ทั้งๆที่เกียร์เดียวกัน ความจุน้อยกว่าไม่น่าเกี่ยว น่าจะเกี่ยวกับการจูนเกียร์ของรถแต่ละรุ่น
ผมใส่ Ds เป็นหลักครับ ยกเว้นช่วงชันๆ ลงเขายาวๆ ถึงจะใส่ L แล้วถ้ารอบเครื่องมันสูงก็กดเบรกแบบเหบียบปล่อยๆ เป็นช่วงๆ ไม่เหยียบแช่ครับ มันก็หน่วงนะครับ
-
รู้สึกว่า L33 จะไม่มีครับ ผมเคยตั้งข้อสงสัยมันมานานแล้ว ลองมาก็หลายครั้ง สรุปว่า รถรุ่นนี้ ไม่สามารถใช้เกียร์ช่วยลดความเร็วเวลาลงทางชันๆได้ครับ (รู้สึกจะต่างกับ ของตัว ตปท .ที่มี mode + - และ paddle shift ที่ทำหน้าที่นี้ได้ แต่ของไทยถูกตัดออกไป)แต่ มีข้อสังเกตอย่างหนึ่ง คือ ถ้ากดปุ่ม sport รอบเครื่องมันจะตื้อขึ้นมาเล็กน้อย แต่ ก็ยังไม่สามารถ ทำหน้าที่ แทน เกียร ์ 2 กับ L ได้อยู่ดี (ความรู้สึกมันแค่ประมาณ กดปุ่มปิด overdrive ในเกียร์ ออโตทั่วไป) ครับ ส่วน Ds เลิกคุยเลยครับ ยิ่ง เชนจ์ ยิ่งพุ่ง อันตรายมาก
ปล. 1.เคยได้ยิน Nissan อ้างว่า เหตุผลที่ CVT L33 ไม่จำเป็นต้องมี L เพราะ เกียร์ เขาฉลาดมากขึ้นกว่าก่อนมาก ซึ่งเพียงพอ ที่มันจะสามารถปรับเปลี่ยนตามสถาณการ์การขับได้อย่างชาญฉลาด (ซึ่งไม่จริง)
2. แต่ผมว่าของ J32 กลับดีกว่า ที่มี L คอยช่วย ในขณะที่ ตำแหน่ง L ของ J32 จะถูกแทนที่โดย Ds ใน L33 แต่ทำหน้าที่ไม่เหมือนกันเลย (มันคือ Sport mode ของแท้) ขับลงทางชันต้องระวังให้ดีครับ
-
กดปุ่ม sport ครับที่ข้างด้ามเกียร์
-
EX มีเอนจิ้นเบรคช่วยครับ แค่ทางลงห้างปล่อยไหลเครื่องยังดึงเลยครับ
ผมว่าไม่ได้อยู่ที่เกียร์ CVT หรอกครับ แต่อยู่ที่คนโปรแกรมเกียร์มากกว่า
-
กด sport mode ครับ มันจะล็อคอัตราทดไว้ครับ ช่วยได้เยอะ แต่จะช่วยที่ความเร็วซัก 60-80 นะครับ ช้ากว่านี้ไม่มีค่อยเอนจิ้นเบรคครับ
-
Sport mode ครับ ช่วยได้เยอะ ยังไม่ลองที่ดอยอินทนนท์ เคยใช้ยาวๆ ที่เส้น 109 ทางระหว่างฝาง - แม่สรวย อีกอย่างประหยัดน้ำมันด้วย
Ds เป็นแค่โหมดจำลองจังหวะเกียร์ ดึงรอบสูงกว่า D น้อยมาก
-
ช่วงนี้ผมขึ้นดอยดอยอินทนนท์ ทุกอาทิตย์เลย ผมใช้ Prius ใช้เกียร์ D ลง สบายๆ พอเยียบเบรกนิด มันก็รู้สึกว่ารถจะใช้เครืองช่วยแล้ว ถ้ารถขางหน้ารถ ก็มาเกียร์ B ครับ เบรคไม่มีกลิ่นไหม้ แต่ถ้าไปดอยอ่างขาง ต้องลงแต่เกียร์ B ครับ ไม่งั้นเบรก ควั่นออก
-
แจ๊สใหม่ก็ไม่ค่อยมีเอนจิ้นเบรค ใช้Lก็ช่วยได้น้อย ต้องเบรกให้รถหยุดเกือบสนิท แล้วปล่อยไหลลงมา สลับกันไป โดยไม่เลียเบรค ขึ้น-ลงภูทับเบิกประจำไม่เคยมีกลิ่นไหม้ครับ ต้องไม่เลียครับ จังหวะใกล้ถึงหัวโค้ง เบรคลึกๆแล้วปล่อย
-
ผมใฃ้อัลมีร่า ลงภูหินร่องกล้า ทางลง 10 กม.รวด
ขาขึ้นก็ขึ้นได้ ขาลงก็ลงได้นะครับ
ผมก็คาเกียร์ไว้แบบนี้แหละ เบรคทางตรง ปล่อยไหลทางโค้ง
ลงแรกๆเบรคความเร็วลดน้อยไป ทำให้ต้องไปเลียในโค้ง
โค้งต่อไปก็จะเบรคให้ลดลงไปอีก เพื่อจะได้ไม่ต้องไปเลียเบรคในโค้ง ขับไปศึกษา วิเคราะห์ เก็บข้อมูลไปเรื่อย
-
วันนี้ขับเจ้า L33 ลงดอยอินทนนท์ รถแทบไม่มีเอนจิ้นเบรคช่วยเลยครับ ทั้ง D หรือ Ds แทบไม่ต่างกัน
ค่อยๆ เบรคปล่อย เท่าที่จะทำได้ เบรคก็ยังเหม็นมาก
ไม่ทราบว่า รถเกียร์ CVT ที่ไม่มีโหมด +/- มีเทคนิคขับลงเขาชันๆ โหดๆ กันยังไงครับ
กรณีนี้ผมนึกติดใจเกียร์ A/T แบบปรกติเลย มันช่วยรับภาระเบรคได้มาก
ขอบคุณครับ
ผมว่าคุณใช้รถยังไม่เป็น รถพวกนี้เมื่อเข้าเกียร์ D มันไม่มีเอ็นจินอยู่แล้วครับ แต่อีกโหมดหนึ่ง ที่มันโชว์ตัวเลข 1-6 นั่นคือโหมดที่คุณเปลี่ยนเกียร์เอง มีเอนจิ้นเบรคแน่นอน...การ + - ก็ทำที่คันเกียร์ สนุกออก...ลองหาดู คูมือมีครับ
-
CVT ของ Teana L33 มีแค่ P R N D Ds ครับ ไม่มี L หรือ 3 2 1 มาให้เหมือนรถอื่นๆ
จริงๆแล้ว ถ้าไม่มี L มาให้ เกียร์ควรจะฉลาดกว่านี้นะครับ เช่น หากความเร็วรถเพิ่มโดยที่คนขับไม่ได้แตะคันเร่งเลย แสดงว่ารถกำลังลงเขาอยู่ เกียร์ก็สามารถตีความได้ว่าควรจะเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำให้ เหมือนระบบ Grade-logic control ของ Honda (Accord G9 tech ก็ไม่มีเกียร์ L มีแต่ P R N D S) อาจจะเอาปัจจัยอื่นๆมาคำนวณด้วยเช่น ความกดอากาศ/ความหนาแน่นของ Oxygen ที่แสดงว่าอยู่ในพื้นที่สูง+ขึ้นเขา
แต่เกียร์ CVT ของ Teana ตัวนี้เหมือนจะไปเน้นที่อัตราเร่งแซงมากกว่าจนลืมเรื่องการขับลงเขาและ Engine break ไป สังเกตจากการที่ใส่อะไรมาเยอะแยะ เช่น มี Ds แล้วก็ยังมีปุ่ม Sport mode ให้กดอีก ถ้าเป็นอาเสี่ย คุณหญิงคุณนาย หรือคนที่ขับอย่างเดียวมาขับ คงใช้ไม่เป็น เพราะงงว่า จะต้องกดแค่ Ds หรือ แค่ Sport mode อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือต้องใช้พร้อมๆกันทั้ง 2 ซึ่งไม่ค่อย User friendly เท่าไหร่
-
วันนี้ขับเจ้า L33 ลงดอยอินทนนท์ รถแทบไม่มีเอนจิ้นเบรคช่วยเลยครับ ทั้ง D หรือ Ds แทบไม่ต่างกัน
ค่อยๆ เบรคปล่อย เท่าที่จะทำได้ เบรคก็ยังเหม็นมาก
ไม่ทราบว่า รถเกียร์ CVT ที่ไม่มีโหมด +/- มีเทคนิคขับลงเขาชันๆ โหดๆ กันยังไงครับ
กรณีนี้ผมนึกติดใจเกียร์ A/T แบบปรกติเลย มันช่วยรับภาระเบรคได้มาก
ขอบคุณครับ
ผมว่าคุณใช้รถยังไม่เป็น รถพวกนี้เมื่อเข้าเกียร์ D มันไม่มีเอ็นจินอยู่แล้วครับ แต่อีกโหมดหนึ่ง ที่มันโชว์ตัวเลข 1-6 นั่นคือโหมดที่คุณเปลี่ยนเกียร์เอง มีเอนจิ้นเบรคแน่นอน...การ + - ก็ทำที่คันเกียร์ สนุกออก...ลองหาดู คูมือมีครับ
คุณรู้ไหมว่ารุ่นนี้ไม่มี + - ที่คันเกียร์ :-\
-
ไม่เคยขับ l33 แต่ใช้ j32 v6 ไม่เป็นแบบที่ว่าครับ
แต่เป็นอาการอื่นแทน
ยิ่งเจอการลอยแพของนิสสันด้วย ผมล่ะเข็ดนิสสันเลย
-
ผมขับ อัลติส TRD CVT มหัศจรรย์ 7 จังหวะรุ่นพี่โฬม ขึ้น-ลงเขาที่เชียงใหม่บ่อยๆครับ บางทีไม่ได้ใช้โหมด M +- ใช้ D ปกติ เครื่องมันก็ช่วยเบรกตลอดนะครับ ยังนึกอยู่ว่า เอ้อ เกียร์พี่โตมันได้ดังใจจริงๆ แต่ลืมสังเกตว่าก่อนมันเปลี่ยนเกียร์ลงให้ 2-3 เกียร์ ผมเบรกลึกๆ ก่อนรึเปล่านะ
-
ผมเช่าอัลติส 2014 ขึ้นดอยที่เชียงใหม่
เกียรมันโครตฉลาดเลยนะครับ เรียนรู้เอง ไม่ต้องเล่นโหมด M ก็ขึ้นได้สบายๆ
จังหวะขึ้น เกียร CVT ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ลาก 3 พันรอบ รถวิ่งฉิว
แทบไม่ต้องกดคันเร่งลึกๆ เกียรมันคาอยู่ที่แรงบิดสูงสุด แรงไม่ตก ขับไม่เหนื่อย
จังหวะลง ปล่อยมันไหลๆลง พอเบรคก็กดเบรคหนักๆหน่อย เกียรมันทดรอบให้เอง
ผมขับไหลๆ ปล่อยรถไหลลงเรื่อยๆ เกียรมันลากรอบให้ราว 2-3 พันรอบเอง ขับสบายมาก
ขนาดนั่ง 4 คนรวมคนขับ สัมภาระเพียบ รถยังวิ่งฉิวเลย
เทียบกับตอนขับรถตัวเองไป แคมรี่ 2.4 เอาขึ้นเขา ผมว่าขับ CVT สบายกว่ากันมาก
-
วันนี้ขับเจ้า L33 ลงดอยอินทนนท์ รถแทบไม่มีเอนจิ้นเบรคช่วยเลยครับ ทั้ง D หรือ Ds แทบไม่ต่างกัน
ค่อยๆ เบรคปล่อย เท่าที่จะทำได้ เบรคก็ยังเหม็นมาก
ไม่ทราบว่า รถเกียร์ CVT ที่ไม่มีโหมด +/- มีเทคนิคขับลงเขาชันๆ โหดๆ กันยังไงครับ
กรณีนี้ผมนึกติดใจเกียร์ A/T แบบปรกติเลย มันช่วยรับภาระเบรคได้มาก
ขอบคุณครับ
ผมว่าคุณใช้รถยังไม่เป็น รถพวกนี้เมื่อเข้าเกียร์ D มันไม่มีเอ็นจินอยู่แล้วครับ แต่อีกโหมดหนึ่ง ที่มันโชว์ตัวเลข 1-6 นั่นคือโหมดที่คุณเปลี่ยนเกียร์เอง มีเอนจิ้นเบรคแน่นอน...การ + - ก็ทำที่คันเกียร์ สนุกออก...ลองหาดู คูมือมีครับ
คุณครับ L33 ไม่มี +- ไม่มี paddle shift และไม่มี 2 ไม่มี L ครับ
-
วันนี้ขับเจ้า L33 ลงดอยอินทนนท์ รถแทบไม่มีเอนจิ้นเบรคช่วยเลยครับ ทั้ง D หรือ Ds แทบไม่ต่างกัน
ค่อยๆ เบรคปล่อย เท่าที่จะทำได้ เบรคก็ยังเหม็นมาก
ไม่ทราบว่า รถเกียร์ CVT ที่ไม่มีโหมด +/- มีเทคนิคขับลงเขาชันๆ โหดๆ กันยังไงครับ
กรณีนี้ผมนึกติดใจเกียร์ A/T แบบปรกติเลย มันช่วยรับภาระเบรคได้มาก
ขอบคุณครับ
ผมว่าคุณใช้รถยังไม่เป็น รถพวกนี้เมื่อเข้าเกียร์ D มันไม่มีเอ็นจินอยู่แล้วครับ แต่อีกโหมดหนึ่ง ที่มันโชว์ตัวเลข 1-6 นั่นคือโหมดที่คุณเปลี่ยนเกียร์เอง มีเอนจิ้นเบรคแน่นอน...การ + - ก็ทำที่คันเกียร์ สนุกออก...ลองหาดู คูมือมีครับ
คุณครับ L33 ไม่มี +- ไม่มี paddle shift และไม่มี 2 ไม่มี L ครับ
ผมไม่เคยขับ รถรุ่นนี้ แต่ สิ่งที่ผมบอกไปคือ อย่าละเลยคู่มือ ไปดูการลงทางลาดชัน มันจะบอกให้แน่นอน
แต่หากจะให้ผมอธิบาย ...... ดันคันเกียร์มาที่ ds กดโหมด s บนคันเกียร์ ...ปล่อยคันเร่งให้สุด ดูตำแหน่งการเปลี่ยนเกียร์ว่ารอบที่เท่าไร จากนั้นใช้เบรคช่วย เมื่อรอบใกล้ ๆ จะเปลี่ยนเกียร์........แค่นี้ก็น่าจะลงทางลาดชันได้ครับ
-
วันนี้ขับเจ้า L33 ลงดอยอินทนนท์ รถแทบไม่มีเอนจิ้นเบรคช่วยเลยครับ ทั้ง D หรือ Ds แทบไม่ต่างกัน
ค่อยๆ เบรคปล่อย เท่าที่จะทำได้ เบรคก็ยังเหม็นมาก
ไม่ทราบว่า รถเกียร์ CVT ที่ไม่มีโหมด +/- มีเทคนิคขับลงเขาชันๆ โหดๆ กันยังไงครับ
กรณีนี้ผมนึกติดใจเกียร์ A/T แบบปรกติเลย มันช่วยรับภาระเบรคได้มาก
ขอบคุณครับ
ผมว่าคุณใช้รถยังไม่เป็น รถพวกนี้เมื่อเข้าเกียร์ D มันไม่มีเอ็นจินอยู่แล้วครับ แต่อีกโหมดหนึ่ง ที่มันโชว์ตัวเลข 1-6 นั่นคือโหมดที่คุณเปลี่ยนเกียร์เอง มีเอนจิ้นเบรคแน่นอน...การ + - ก็ทำที่คันเกียร์ สนุกออก...ลองหาดู คูมือมีครับ
คุณครับ L33 ไม่มี +- ไม่มี paddle shift และไม่มี 2 ไม่มี L ครับ
ผมไม่เคยขับ รถรุ่นนี้ แต่ สิ่งที่ผมบอกไปคือ อย่าละเลยคู่มือ ไปดูการลงทางลาดชัน มันจะบอกให้แน่นอน
แต่หากจะให้ผมอธิบาย ...... ดันคันเกียร์มาที่ ds กดโหมด s บนคันเกียร์ ...ปล่อยคันเร่งให้สุด ดูตำแหน่งการเปลี่ยนเกียร์ว่ารอบที่เท่าไร จากนั้นใช้เบรคช่วย เมื่อรอบใกล้ ๆ จะเปลี่ยนเกียร์........แค่นี้ก็น่าจะลงทางลาดชันได้ครับ
CVT มันไม่มีรอบเปลี่ยนเกียร์ครับพีี่ มันเป็นสายพานบีบคลายไปเรื่อย ไม่มีการล๊อคอัตราทดใดๆ มีอัตราทดบอกแค่ต่ำสุดกับสูงสุด
ขนาด อัลติส คุยโวโบรชัวร์ว่า7สปีด พอกางสเปค ก็ไม่บอกอัตราทด บอกแค่ ต้นและท้าย
-
ต้องบอกเลยว่า เกียร์ออโต้ธรรมดา เข้าใจง่ายกว่า และ สร้างความมั่นใจในการขับลงเขาชัน ๆ ได้ดีกว่า เพราะอัตราทดมันชัดเจน ใส่ 1 หรือ L มันทดต่ำสุดแล้ว ถ้าไม่พอก็ต้องเบรคช่วย ส่วน CVT มันจะช่วยดึงขนาดไหนมันคาดเดายาก ก่อให้เกิดอันตรายได้เหมือนกัน
-
ต่อจากข้างบน
ดังนั้นรถ CVT ควรจะให้เบรค ABS กระจายแรงเบรค EBD เสริมแรงเบรค BA และยางดีๆ
ผมใช้ CVT และได้ระบบช่วยเบรคพวกนี้ ขับสบายครับ
-
ขอบคุณทุก คห. ครับ
วันนี้ขับรถกลับบ้าน ลองจับอาการเมื่อลงเนินไม่ชันมากนัก
บางครั้ง มีเอนจิ้นเบรคช่วยบ้าง แต่เบาบางมากครับ
สังเกตตอนยกคันเร่งลงเนิน(ไม่ชันมาก) รอบจาก 1,xxx จะขึ้นไปที่ สามพันต้นๆ ด้วยแรงดึงที่เบาบางมาก เมื่อเที่ยบกับ A/T ที่เคยขับ
ส่วนการเข้า sport mode ข้างๆ คันเกียร์ (L33)นั้น รอบจะค้างรอที่ 3,000 รอบครับ นอกจากไม่สร้างแรงดึงแล้ว ยังอันตรายมากขณะขับรถลงเขา เผลอโดยคันเร่งนิดหน่อยมีแหกโค้งครับ มันพุ่งแรงกว่า D หรือ Ds ปรกติ ยิ่งมีแรงส่งขาลงเขาบวกไปด้วย ยิ่งอันตรายเข้าไปอีก
ส่วนเวลาลงเขาชันๆ ยาวๆ ลองจับอาการกี่ทีก้อแทบไม่ดึง คาดว่าเซทมาให้มีแรงดึงมาน้อยอยู่แล้ว(รึเปล่า?) เจอชันๆ เลยไม่ช่วย
อะไร
ขอบคุณอีกครั้งครับ
-
ใช้L33มาปีกว่า รู้แล้วว่าทำไมให้ระบบความปลอดภัยมาเพียบ
เพราะรถมันจ้องแต่จะไปข้างหน้าอย่างเดียว ขนาดยกคันเร่งแล้ว มันพุ่งไปข้างหน้าได้อีกไกล โดยความเร็ว
เหมือนจะคงที่แป๊บนึงแล้วลดอย่างช้าๆ ส่วนเบรคจะมีช่วงเหยียบเบรคสั้น ถ้าไม่ชิน จะลดความเร็วแบบค่อยๆชลอ
ลำบากหน่อย
เคยมีการคุยกันใน webของteanaครับ แต่ก็ยังไม่มีคำตอบเรื่องนี้แบบฟันธงได้ว่าต้องขับลงเขาอย่างไร
แต่จากที่ลองมาหลายๆแบบพอสรุปได้คือ
- คู่มือและช่างประจำศูนย์ ช่วยอะไรไม่ได้เลย
- mode Ds พอมีแรงดีงบ้างแต่น้อยมาก ไม่ช่วยเท่าไหร่
- ปุ่ม sport ไม่ว่าที่ D หรือ Ds แรงดึงเพิ่มมาอีกนิดนึง แต่อย่าเผลอไปแตะคันเร่ง มันจะพุ่งไปทันที ผมว่าอันตราย
- ที่พอจะเห็นว่าเกียร์มันจะช่วยได้ คือ เหยียบเบรดลงไปแรงๆ แล้วปล่อย แล้วเหยียบไปอีกที ความเร็วจะลดลง
พร้อมกับมีแรงดึงพอรู้สึกได้ พอความเร็วเริ่มนิ่งก็ทำแบบนี้ซ้ำ แต่สุดท้ายมันก็จะลดความเร็วแบบค่อยๆคลาน
ด้วยเกียร์1 ไม่ได้นะครับ พอถึงจุดที่ความเร็วไม่ลดแล้วก็ต้องใช้เบรคช่วยเป็นระยะ
-
รถผมมีครับ เคยขับไปสังขละบุรีลงเขาชันๆ เกียร์ CVT-i จัดให้เลยครับ
-
รถเกียร์ CVT ที่ผมเคยใช้เยอะๆ ก็ City iDSI ครับ
ขับลงดอยสุเทพ มี engine brake ครับ โดยที่ไม่ต้องใช้โหมด +-
-
ขอบคุณทุก คห. ครับ
วันนี้ขับรถกลับบ้าน ลองจับอาการเมื่อลงเนินไม่ชันมากนัก
บางครั้ง มีเอนจิ้นเบรคช่วยบ้าง แต่เบาบางมากครับ
สังเกตตอนยกคันเร่งลงเนิน(ไม่ชันมาก) รอบจาก 1,xxx จะขึ้นไปที่ สามพันต้นๆ ด้วยแรงดึงที่เบาบางมาก เมื่อเที่ยบกับ A/T ที่เคยขับ
ส่วนการเข้า sport mode ข้างๆ คันเกียร์ (L33)นั้น รอบจะค้างรอที่ 3,000 รอบครับ นอกจากไม่สร้างแรงดึงแล้ว ยังอันตรายมากขณะขับรถลงเขา เผลอโดยคันเร่งนิดหน่อยมีแหกโค้งครับ มันพุ่งแรงกว่า D หรือ Ds ปรกติ ยิ่งมีแรงส่งขาลงเขาบวกไปด้วย ยิ่งอันตรายเข้าไปอีก
ส่วนเวลาลงเขาชันๆ ยาวๆ ลองจับอาการกี่ทีก้อแทบไม่ดึง คาดว่าเซทมาให้มีแรงดึงมาน้อยอยู่แล้ว(รึเปล่า?) เจอชันๆ เลยไม่ช่วย
อะไร
ขอบคุณอีกครั้งครับ
ตอนลงเขานี่ต้องเหยียบเพิ่มอีกหรอครับ
อันนี้ไปเจอมาครับ https://www.facebook.com/nissanGTautocar/photos/pcb.843896182369788/843894659036607/?type=1&theater
-
วันนี้ขับเจ้า L33 ลงดอยอินทนนท์ รถแทบไม่มีเอนจิ้นเบรคช่วยเลยครับ ทั้ง D หรือ Ds แทบไม่ต่างกัน
ค่อยๆ เบรคปล่อย เท่าที่จะทำได้ เบรคก็ยังเหม็นมาก
ไม่ทราบว่า รถเกียร์ CVT ที่ไม่มีโหมด +/- มีเทคนิคขับลงเขาชันๆ โหดๆ กันยังไงครับ
กรณีนี้ผมนึกติดใจเกียร์ A/T แบบปรกติเลย มันช่วยรับภาระเบรคได้มาก
ขอบคุณครับ
ผมว่าคุณใช้รถยังไม่เป็น รถพวกนี้เมื่อเข้าเกียร์ D มันไม่มีเอ็นจินอยู่แล้วครับ แต่อีกโหมดหนึ่ง ที่มันโชว์ตัวเลข 1-6 นั่นคือโหมดที่คุณเปลี่ยนเกียร์เอง มีเอนจิ้นเบรคแน่นอน...การ + - ก็ทำที่คันเกียร์ สนุกออก...ลองหาดู คูมือมีครับ
คุณครับ L33 ไม่มี +- ไม่มี paddle shift และไม่มี 2 ไม่มี L ครับ
ผมไม่เคยขับ รถรุ่นนี้ แต่ สิ่งที่ผมบอกไปคือ อย่าละเลยคู่มือ ไปดูการลงทางลาดชัน มันจะบอกให้แน่นอน
แต่หากจะให้ผมอธิบาย ...... ดันคันเกียร์มาที่ ds กดโหมด s บนคันเกียร์ ...ปล่อยคันเร่งให้สุด ดูตำแหน่งการเปลี่ยนเกียร์ว่ารอบที่เท่าไร จากนั้นใช้เบรคช่วย เมื่อรอบใกล้ ๆ จะเปลี่ยนเกียร์........แค่นี้ก็น่าจะลงทางลาดชันได้ครับ
CVT มันไม่มีรอบเปลี่ยนเกียร์ครับพีี่ มันเป็นสายพานบีบคลายไปเรื่อย ไม่มีการล๊อคอัตราทดใดๆ มีอัตราทดบอกแค่ต่ำสุดกับสูงสุด
ขนาด อัลติส คุยโวโบรชัวร์ว่า7สปีด พอกางสเปค ก็ไม่บอกอัตราทด บอกแค่ ต้นและท้าย
ที่คุณอธิบาย ผมเข้าใจครับ ผมใช้เกียร์ตัวนี้มาห้าปี แต่คันของผมมี +/-
แต่สิ่งที่ผมบอกไป นั่นคือการใช้งานสำหรับรถที่ไม่มี ต้องใช้แบบนั้น
ลองเปิดใจดูนะครับ
ทดสอง วิ่งที่ความเร็ว 100 ทุกโหมด หากรอบเครื่องเท่ากันทุกโหมด ผมผิด หากรอบที่โหมด ds / s รอบสูงกว่า นั่นแสดงว่าผมถูก....
แม้ว่าเกียร์ cvt จะเป็นสายพานกับพู่เล่ ก็ตาม
อีกอย่าง อย่าไปกลัวเรื่องการใช้โหมดพวกนี้ เวลาขึ้นลงเขา ผมเองใช้โหมดพวกนี้ตลอด เวลาลงเขา เท้าอยู่ที่เบรค รอเบรคเมื่อรอบสูงเกินไป เมื่อใกล้จุดต่ำสุดที่จะต้องส่ง ขึ้นเนิน เรียกแรงได้ดีกว่าเยอะ
คันที่ใช้ประจำ ผมใช้โหมด s ตั้งแต่ ออกจากบ้าน ทุกครั้งที่ใช้....ผมไม่เคยลงที่นั่น ที่เคยก็ลงเขาใหญ่ไปทางเหวนรก หรือ ลงจากวังน้ำเขียว ซึ่งผมก็ใช้โหมด s แถมยังวิ่งเกียร์ d ตลอดด้วยซ้ำไป ความลาดชันอาจไม่มากเท่ากับที่คุณวิ่ง....ประหยัดเชื้อเพลิงดีซ้ำ คันเร่งแทบไม่ได้แตะ......
-
อืม รับทราบๆ
-
วันนี้ขับเจ้า L33 ลงดอยอินทนนท์ รถแทบไม่มีเอนจิ้นเบรคช่วยเลยครับ ทั้ง D หรือ Ds แทบไม่ต่างกัน
ค่อยๆ เบรคปล่อย เท่าที่จะทำได้ เบรคก็ยังเหม็นมาก
ไม่ทราบว่า รถเกียร์ CVT ที่ไม่มีโหมด +/- มีเทคนิคขับลงเขาชันๆ โหดๆ กันยังไงครับ
กรณีนี้ผมนึกติดใจเกียร์ A/T แบบปรกติเลย มันช่วยรับภาระเบรคได้มาก
ขอบคุณครับ
ผมว่าคุณใช้รถยังไม่เป็น รถพวกนี้เมื่อเข้าเกียร์ D มันไม่มีเอ็นจินอยู่แล้วครับ แต่อีกโหมดหนึ่ง ที่มันโชว์ตัวเลข 1-6 นั่นคือโหมดที่คุณเปลี่ยนเกียร์เอง มีเอนจิ้นเบรคแน่นอน...การ + - ก็ทำที่คันเกียร์ สนุกออก...ลองหาดู คูมือมีครับ
คุณครับ L33 ไม่มี +- ไม่มี paddle shift และไม่มี 2 ไม่มี L ครับ
ผมไม่เคยขับ รถรุ่นนี้ แต่ สิ่งที่ผมบอกไปคือ อย่าละเลยคู่มือ ไปดูการลงทางลาดชัน มันจะบอกให้แน่นอน
แต่หากจะให้ผมอธิบาย ...... ดันคันเกียร์มาที่ ds กดโหมด s บนคันเกียร์ ...ปล่อยคันเร่งให้สุด ดูตำแหน่งการเปลี่ยนเกียร์ว่ารอบที่เท่าไร จากนั้นใช้เบรคช่วย เมื่อรอบใกล้ ๆ จะเปลี่ยนเกียร์........แค่นี้ก็น่าจะลงทางลาดชันได้ครับ
CVT มันไม่มีรอบเปลี่ยนเกียร์ครับพีี่ มันเป็นสายพานบีบคลายไปเรื่อย ไม่มีการล๊อคอัตราทดใดๆ มีอัตราทดบอกแค่ต่ำสุดกับสูงสุด
ขนาด อัลติส คุยโวโบรชัวร์ว่า7สปีด พอกางสเปค ก็ไม่บอกอัตราทด บอกแค่ ต้นและท้าย
ที่คุณอธิบาย ผมเข้าใจครับ ผมใช้เกียร์ตัวนี้มาห้าปี แต่คันของผมมี +/-
แต่สิ่งที่ผมบอกไป นั่นคือการใช้งานสำหรับรถที่ไม่มี ต้องใช้แบบนั้น
ลองเปิดใจดูนะครับ
ทดสอง วิ่งที่ความเร็ว 100 ทุกโหมด หากรอบเครื่องเท่ากันทุกโหมด ผมผิด หากรอบที่โหมด ds / s รอบสูงกว่า นั่นแสดงว่าผมถูก....
แม้ว่าเกียร์ cvt จะเป็นสายพานกับพู่เล่ ก็ตาม
อีกอย่าง อย่าไปกลัวเรื่องการใช้โหมดพวกนี้ เวลาขึ้นลงเขา ผมเองใช้โหมดพวกนี้ตลอด เวลาลงเขา เท้าอยู่ที่เบรค รอเบรคเมื่อรอบสูงเกินไป เมื่อใกล้จุดต่ำสุดที่จะต้องส่ง ขึ้นเนิน เรียกแรงได้ดีกว่าเยอะ
คันที่ใช้ประจำ ผมใช้โหมด s ตั้งแต่ ออกจากบ้าน ทุกครั้งที่ใช้....ผมไม่เคยลงที่นั่น ที่เคยก็ลงเขาใหญ่ไปทางเหวนรก หรือ ลงจากวังน้ำเขียว ซึ่งผมก็ใช้โหมด s แถมยังวิ่งเกียร์ d ตลอดด้วยซ้ำไป ความลาดชันอาจไม่มากเท่ากับที่คุณวิ่ง....ประหยัดเชื้อเพลิงดีซ้ำ คันเร่งแทบไม่ได้แตะ......
ผมว่าลองเปิดตาแล้วอ่านความเห็น จขกท. ให้ครบก่อนมั้ยครับ
วันนี้ขับเจ้า L33 ลงดอยอินทนนท์ รถแทบไม่มีเอนจิ้นเบรคช่วยเลยครับ ทั้ง D หรือ Ds แทบไม่ต่างกัน
ค่อยๆ เบรคปล่อย เท่าที่จะทำได้ เบรคก็ยังเหม็นมาก
ไม่ทราบว่า รถเกียร์ CVT ที่ไม่มีโหมด +/- มีเทคนิคขับลงเขาชันๆ โหดๆ กันยังไงครับ
กรณีนี้ผมนึกติดใจเกียร์ A/T แบบปรกติเลย มันช่วยรับภาระเบรคได้มาก
ขอบคุณครับ
-
วันนี้ขับเจ้า L33 ลงดอยอินทนนท์ รถแทบไม่มีเอนจิ้นเบรคช่วยเลยครับ ทั้ง D หรือ Ds แทบไม่ต่างกัน
ค่อยๆ เบรคปล่อย เท่าที่จะทำได้ เบรคก็ยังเหม็นมาก
ไม่ทราบว่า รถเกียร์ CVT ที่ไม่มีโหมด +/- มีเทคนิคขับลงเขาชันๆ โหดๆ กันยังไงครับ
กรณีนี้ผมนึกติดใจเกียร์ A/T แบบปรกติเลย มันช่วยรับภาระเบรคได้มาก
ขอบคุณครับ
ผมว่าคุณใช้รถยังไม่เป็น รถพวกนี้เมื่อเข้าเกียร์ D มันไม่มีเอ็นจินอยู่แล้วครับ แต่อีกโหมดหนึ่ง ที่มันโชว์ตัวเลข 1-6 นั่นคือโหมดที่คุณเปลี่ยนเกียร์เอง มีเอนจิ้นเบรคแน่นอน...การ + - ก็ทำที่คันเกียร์ สนุกออก...ลองหาดู คูมือมีครับ
คุณครับ L33 ไม่มี +- ไม่มี paddle shift และไม่มี 2 ไม่มี L ครับ
ผมไม่เคยขับ รถรุ่นนี้ แต่ สิ่งที่ผมบอกไปคือ อย่าละเลยคู่มือ ไปดูการลงทางลาดชัน มันจะบอกให้แน่นอน
แต่หากจะให้ผมอธิบาย ...... ดันคันเกียร์มาที่ ds กดโหมด s บนคันเกียร์ ...ปล่อยคันเร่งให้สุด ดูตำแหน่งการเปลี่ยนเกียร์ว่ารอบที่เท่าไร จากนั้นใช้เบรคช่วย เมื่อรอบใกล้ ๆ จะเปลี่ยนเกียร์........แค่นี้ก็น่าจะลงทางลาดชันได้ครับ
CVT มันไม่มีรอบเปลี่ยนเกียร์ครับพีี่ มันเป็นสายพานบีบคลายไปเรื่อย ไม่มีการล๊อคอัตราทดใดๆ มีอัตราทดบอกแค่ต่ำสุดกับสูงสุด
ขนาด อัลติส คุยโวโบรชัวร์ว่า7สปีด พอกางสเปค ก็ไม่บอกอัตราทด บอกแค่ ต้นและท้าย
ที่คุณอธิบาย ผมเข้าใจครับ ผมใช้เกียร์ตัวนี้มาห้าปี แต่คันของผมมี +/-
แต่สิ่งที่ผมบอกไป นั่นคือการใช้งานสำหรับรถที่ไม่มี ต้องใช้แบบนั้น
ลองเปิดใจดูนะครับ
ทดสอง วิ่งที่ความเร็ว 100 ทุกโหมด หากรอบเครื่องเท่ากันทุกโหมด ผมผิด หากรอบที่โหมด ds / s รอบสูงกว่า นั่นแสดงว่าผมถูก....
แม้ว่าเกียร์ cvt จะเป็นสายพานกับพู่เล่ ก็ตาม
อีกอย่าง อย่าไปกลัวเรื่องการใช้โหมดพวกนี้ เวลาขึ้นลงเขา ผมเองใช้โหมดพวกนี้ตลอด เวลาลงเขา เท้าอยู่ที่เบรค รอเบรคเมื่อรอบสูงเกินไป เมื่อใกล้จุดต่ำสุดที่จะต้องส่ง ขึ้นเนิน เรียกแรงได้ดีกว่าเยอะ
คันที่ใช้ประจำ ผมใช้โหมด s ตั้งแต่ ออกจากบ้าน ทุกครั้งที่ใช้....ผมไม่เคยลงที่นั่น ที่เคยก็ลงเขาใหญ่ไปทางเหวนรก หรือ ลงจากวังน้ำเขียว ซึ่งผมก็ใช้โหมด s แถมยังวิ่งเกียร์ d ตลอดด้วยซ้ำไป ความลาดชันอาจไม่มากเท่ากับที่คุณวิ่ง....ประหยัดเชื้อเพลิงดีซ้ำ คันเร่งแทบไม่ได้แตะ......
ผมว่าลองเปิดตาแล้วอ่านความเห็น จขกท. ให้ครบก่อนมั้ยครับ
วันนี้ขับเจ้า L33 ลงดอยอินทนนท์ รถแทบไม่มีเอนจิ้นเบรคช่วยเลยครับ ทั้ง D หรือ Ds แทบไม่ต่างกัน
ค่อยๆ เบรคปล่อย เท่าที่จะทำได้ เบรคก็ยังเหม็นมาก
ไม่ทราบว่า รถเกียร์ CVT ที่ไม่มีโหมด +/- มีเทคนิคขับลงเขาชันๆ โหดๆ กันยังไงครับ
กรณีนี้ผมนึกติดใจเกียร์ A/T แบบปรกติเลย มันช่วยรับภาระเบรคได้มาก
ขอบคุณครับ
s ของคุณ sukhontha น่าจะหมายถึง sport mode นะครับ ซึ่ง จขกท ยังไม่เคยกดขณะลงดอยอินทนนท์ แต่ลองบนเนินสักแห่ง
-
ขอบคุณทุก คห. ครับ
วันนี้ขับรถกลับบ้าน ลองจับอาการเมื่อลงเนินไม่ชันมากนัก
บางครั้ง มีเอนจิ้นเบรคช่วยบ้าง แต่เบาบางมากครับ
สังเกตตอนยกคันเร่งลงเนิน(ไม่ชันมาก) รอบจาก 1,xxx จะขึ้นไปที่ สามพันต้นๆ ด้วยแรงดึงที่เบาบางมาก เมื่อเที่ยบกับ A/T ที่เคยขับ
ส่วนการเข้า sport mode ข้างๆ คันเกียร์ (L33)นั้น รอบจะค้างรอที่ 3,000 รอบครับ นอกจากไม่สร้างแรงดึงแล้ว ยังอันตรายมากขณะขับรถลงเขา เผลอโดยคันเร่งนิดหน่อยมีแหกโค้งครับ มันพุ่งแรงกว่า D หรือ Ds ปรกติ ยิ่งมีแรงส่งขาลงเขาบวกไปด้วย ยิ่งอันตรายเข้าไปอีก
ส่วนเวลาลงเขาชันๆ ยาวๆ ลองจับอาการกี่ทีก้อแทบไม่ดึง คาดว่าเซทมาให้มีแรงดึงมาน้อยอยู่แล้ว(รึเปล่า?) เจอชันๆ เลยไม่ช่วย
อะไร
ขอบคุณอีกครั้งครับ
ผมว่า sport mode มันดึงนะครับ ดึงกว่า D พอสมควร ถ้าไม่แตะคันเร่ง เพิ่มมากเกินไป
บางครั้งผมเห็นไฟแดงไกลๆ วิ่งมา 100+ ลองกด sport mode ดู พบว่าใช้เบรคน้อยลงเยอะเลยครับ
-
คงต้องเผื่อระยะไว้เยอะหน่อยล่ะมั้งครับ เบรกหนักไปก่อนเลย ค่อยๆลงไปช้าๆใครรีบให้เค้าแซงไปเอาปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าครับ ;)
-
สปอร์ต กดคันเร่งมาเร็วกว่า ให้ลองดูรอบเครื่อง เวลาวิ่งโหมดนี้ลงเนิน และไม่แตะคันเร่ง เท้าคอยเหยียบเบรค....
อีกโหมด หนึ่งก็คือ ds หากคู่มือไม่อธิบาย ลองซิครับ ลงเนิน ปล่อยคันเร่งสุด เท้ารอแตะเบรค
ลองดูว่ารอบเครื่องมันกวาดขึ้นไหม? หากกวาดขึ้น นั่นแหละ เอนจิ้นเบรค ทำงาน...อย่าให้รอบเกิน 3000 รอบ เลี้ยงเบรคไว้ เพราะเวลามันเปลี่ยนเกียร์ มันจะไม่รู้สึก จะเห็นเฉพาะรอบเครื่องตีกลับ กับเสียงเครื่องเปลี่ยน..แต่จะให้แรงแบบเกียร์ออโต้ทั่วไป นั่นอาจจะไม่เท่า
ผมเองไม่มีรถรุ่นนี้ แต่หากไม่เป็นไปตามที่ผมอธิบาย ผมก็คิดผิด ....
อย่างนั้นต้องด่าบริษัทรถครับ....
-
วันนี้ขับเจ้า L33 ลงดอยอินทนนท์ รถแทบไม่มีเอนจิ้นเบรคช่วยเลยครับ ทั้ง D หรือ Ds แทบไม่ต่างกัน
ค่อยๆ เบรคปล่อย เท่าที่จะทำได้ เบรคก็ยังเหม็นมาก
ไม่ทราบว่า รถเกียร์ CVT ที่ไม่มีโหมด +/- มีเทคนิคขับลงเขาชันๆ โหดๆ กันยังไงครับ
กรณีนี้ผมนึกติดใจเกียร์ A/T แบบปรกติเลย มันช่วยรับภาระเบรคได้มาก
ขอบคุณครับ
ผมว่าคุณใช้รถยังไม่เป็น รถพวกนี้เมื่อเข้าเกียร์ D มันไม่มีเอ็นจินอยู่แล้วครับ แต่อีกโหมดหนึ่ง ที่มันโชว์ตัวเลข 1-6 นั่นคือโหมดที่คุณเปลี่ยนเกียร์เอง มีเอนจิ้นเบรคแน่นอน...การ + - ก็ทำที่คันเกียร์ สนุกออก...ลองหาดู คูมือมีครับ
คุณครับ L33 ไม่มี +- ไม่มี paddle shift และไม่มี 2 ไม่มี L ครับ
ผมไม่เคยขับ รถรุ่นนี้ แต่ สิ่งที่ผมบอกไปคือ อย่าละเลยคู่มือ ไปดูการลงทางลาดชัน มันจะบอกให้แน่นอน
แต่หากจะให้ผมอธิบาย ...... ดันคันเกียร์มาที่ ds กดโหมด s บนคันเกียร์ ...ปล่อยคันเร่งให้สุด ดูตำแหน่งการเปลี่ยนเกียร์ว่ารอบที่เท่าไร จากนั้นใช้เบรคช่วย เมื่อรอบใกล้ ๆ จะเปลี่ยนเกียร์........แค่นี้ก็น่าจะลงทางลาดชันได้ครับ
CVT มันไม่มีรอบเปลี่ยนเกียร์ครับพีี่ มันเป็นสายพานบีบคลายไปเรื่อย ไม่มีการล๊อคอัตราทดใดๆ มีอัตราทดบอกแค่ต่ำสุดกับสูงสุด
ขนาด อัลติส คุยโวโบรชัวร์ว่า7สปีด พอกางสเปค ก็ไม่บอกอัตราทด บอกแค่ ต้นและท้าย
ที่คุณอธิบาย ผมเข้าใจครับ ผมใช้เกียร์ตัวนี้มาห้าปี แต่คันของผมมี +/-
แต่สิ่งที่ผมบอกไป นั่นคือการใช้งานสำหรับรถที่ไม่มี ต้องใช้แบบนั้น
ลองเปิดใจดูนะครับ
ทดสอง วิ่งที่ความเร็ว 100 ทุกโหมด หากรอบเครื่องเท่ากันทุกโหมด ผมผิด หากรอบที่โหมด ds / s รอบสูงกว่า นั่นแสดงว่าผมถูก....
แม้ว่าเกียร์ cvt จะเป็นสายพานกับพู่เล่ ก็ตาม
อีกอย่าง อย่าไปกลัวเรื่องการใช้โหมดพวกนี้ เวลาขึ้นลงเขา ผมเองใช้โหมดพวกนี้ตลอด เวลาลงเขา เท้าอยู่ที่เบรค รอเบรคเมื่อรอบสูงเกินไป เมื่อใกล้จุดต่ำสุดที่จะต้องส่ง ขึ้นเนิน เรียกแรงได้ดีกว่าเยอะ
คันที่ใช้ประจำ ผมใช้โหมด s ตั้งแต่ ออกจากบ้าน ทุกครั้งที่ใช้....ผมไม่เคยลงที่นั่น ที่เคยก็ลงเขาใหญ่ไปทางเหวนรก หรือ ลงจากวังน้ำเขียว ซึ่งผมก็ใช้โหมด s แถมยังวิ่งเกียร์ d ตลอดด้วยซ้ำไป ความลาดชันอาจไม่มากเท่ากับที่คุณวิ่ง....ประหยัดเชื้อเพลิงดีซ้ำ คันเร่งแทบไม่ได้แตะ......
ผมว่าลองเปิดตาแล้วอ่านความเห็น จขกท. ให้ครบก่อนมั้ยครับ
วันนี้ขับเจ้า L33 ลงดอยอินทนนท์ รถแทบไม่มีเอนจิ้นเบรคช่วยเลยครับ ทั้ง D หรือ Ds แทบไม่ต่างกัน
ค่อยๆ เบรคปล่อย เท่าที่จะทำได้ เบรคก็ยังเหม็นมาก
ไม่ทราบว่า รถเกียร์ CVT ที่ไม่มีโหมด +/- มีเทคนิคขับลงเขาชันๆ โหดๆ กันยังไงครับ
กรณีนี้ผมนึกติดใจเกียร์ A/T แบบปรกติเลย มันช่วยรับภาระเบรคได้มาก
ขอบคุณครับ
s ของคุณ sukhontha น่าจะหมายถึง sport mode นะครับ ซึ่ง จขกท ยังไม่เคยกดขณะลงดอยอินทนนท์ แต่ลองบนเนินสักแห่ง
Teana ผมว่ามา 380,000 โลแล้วครับ J32 นะ ของผมมี L แต่เวลาลงเขาถ้าไม่ชันมาก L นี่รอบเครื่องจะสูงมาก สูงคนส่งสารรถ อันนี้ผมเลยเก็บไว้เวลาชันมากๆและหน่วงมากๆ แต่ตอนลงเขายาวๆผมไปวัดแถวๆเพชรบูรมาครับที่อยู่กลางหุบเขาอะครับกด mode sport (ปุ่มข้างๆคันเกียร์) จริงอยู่ที่มันจะค้างรอบไว้ที่ 3000 รอบช่วงความเร็วต่ำ แต่พอความเร็วเริ่มสูง มันเหมือนจะล็อคอัตราทดสูงสุดไว้แค่ 1:1 เหมือนกด OD/off ในรถบ้านปกติแหละครับ ตอนลงเขามันหน่วงได้กำลังดีครับ ดีมากๆด้วยอยากให้ลองดูครับ
ส่วนพี่ด้านบนเกียร์ตัวไหนรถรุ่นไหนหรอครับที่พี่บอกว่าใช้มา 5 ปี คือผมจะบอกว่ารถมันไม่เหมือนกันถึงเกียร์ลูกเดียวกันมันก็ไม่เหมือนกันครับ J32 ใช้เกียร์ลูกเดียวกับ Lancer EX ครับ แต่ต่างกันเยอะนะครับ
-
ของคุณ sukhontha น่าจะ X-Trail T31 มั้ง
เกียร์ลูกเดียวกันล่ะครับ แต่เป็น +/- ไม่มี S มีแต่ M
-
CVTของนิสสันเหมือนกัน ทำไมของผมมันฉลาดจังหว่า
ถ้าใช้Sport Modeลงเขามันจะดึงหนักจนความเร็วลดทั้งๆที่เป็นทางลงเขา จนบางทีต้องแตะคันเร่งให้มันปรับเกียร์ให้ไหลเร็วขึ้นด้วยซ้ำ
หรือว่าCVTมันเรียนรู้นิสัยการขับรถของคนขับแต่ละคนครับ นิสัยเกียร์เลยไม่เหมือนกัน
-
ของคุณ sukhontha น่าจะ X-Trail T31 มั้ง
เกียร์ลูกเดียวกันล่ะครับ แต่เป็น +/- ไม่มี S มีแต่ M
ถูกต้องครับ ของผม มี +/- ของผมไม่มีปัญหา
แต่ผมออกความเห็นตัว L 33 ว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น..และก็บอกไว้แล้วว่าผมไม่เคยขี่ L33 ..
เพราะถ้าไม่ล็อคเลย หากลงชันมาก เบรคไหม้แน่ ประกอบกับผมยังไม่เชื่อว่า รถจะละเลยจุดนี้.......(ทั้งหมดผมมโนเอา แล้วให้เจ้าของทดลองตาม)
ส่วนคันที่ผมใช้ประจำ แหละใช้โหมด สปอร์ต ตลอด เป็น saab 95 2.3T 220 ม้า ครับ