Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MacH1 ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 16:40:22

หัวข้อ: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 16:40:22
เจอกระทู้นี้เข้าไป เลยทำให้คิดว่า รถสเปคส่งนอกกับสเปคขายในประเทศนี่ทำไมมันต่างกันเหลือเกิน

http://community.headlightmag.com/index.php?topic=45449.0

ผมคิดว่าอาจสรุปรวมๆคือ คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า ตัวอย่างง่ายๆก็ พวก กระบะที่ส่งขายต่างประเทศในปัจจุบัน ยกเว้น Ranger WT 

ฉะนั้น ตรรกะประเภท คนไทยใช้รถคุณภาพไม่แพ้ชาติใดในโลก ที่พวก nationalist, protectionist พยายามยกมาอ้างจึงเป็น myth ผิดๆครับ

เชิญชวน discuss ครับ 
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 16:44:11
ถ้าท่านไม่รับฟังผู้อื่นก็ไม่อยากแสดงความเห็น
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: nonp ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 16:48:36
กระบะเมืองนอกเค้าขายไม่ดีเหมือนเมืองไทย
ดังนั้น ต้องมี option เป็นจุดขาย เอาไว้ดึงดูดคนซื้อ
เมืองไทยขายดีขนาดนี้ จะใส่มาให้เปลืองทำไมครับ 555
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Elestra ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 16:49:57
จะบอกว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อเมริกาอย่าง p&G ก็ทำแบบนี้
ผมไปเที่ยวอเมริกาในร้านขายย ขาย Olay Regenerist Made in Thailand
แต่ปริมาณความเข้มข้นของสารลดริ้วรอย Palmitoy Pentapeptide อยู่อันดับที่ 3 ในรายการส่วนผสม

แต่พอมาอ่านที่ขายในไทย แพกเกจภายนอกเดียวกันแต่ตัวยาที่ลดรอยราคาแพงนี้อยู่ลำดับสุดท้าย

คือปะเทศของเรา เจตนาให้ไม่พัฒนาอะคับ (คือเจตนา ทำให้รถติด ไม่พัฒนารถเมล์ ทำให้ไม่สะอาด ไม่คุมพวกความสะอาดเหมือนประเทศอื่นๆ  ทำให้ไม่น่าอยู่)
เพราะเหมือนกับว่า ไม่ต้องการให้คนจากประเทศศิวิไลซ์มาอยู่ เพราะกลุ่มอำนาจเดิม เป็นพวกกลัวคนคิดไม่เหมือนตน


เรื่อง เสาไฟฟ้าระเนระนาด
กับ เรื่อง คนพิการขายล็อตเตอรี่ มีความคล้ายกันคือ
โรงงานปูน กับ คนพิการไม่ยอมเสียรายได้ คนเลยต้องทนดูสายไฟระเนระนาด  คนไม่มีหวยให้ซื้อได้ออนไลเหมือนประเทศอื่นๆ (เช่นเวียดนาม ที่ตอนนี้ สะอาด น่าอยู่ กว่าไทยแล้ว และมีค่าครองชีพต่ำกว่า)

ทีทุ่มเงินหมื่นล้าน แสนล้าน ให้ ชการช่าง กับ อิตาเลียนไทย สร้างทางยกระดับให้รถยนต์ได้

แต่ลงทุนทำป้ายรถเมล์ให้ละเอียดว่า สายนี้ ชมนคึงมากี่คัน ลงที่ไหนบ้าง ไม่ยอมทำ ปล่อยให้รถเมล์แดง รถตุ๊กๆ มอร์ไซค์ ระเนระนาดกันต่อไป ทั้งๆ ที่ปท อื่นทั่วโลกใช้ตั๋วเดือนร่วมกันเดือนละ 2-3 พันขึ้นได้ทุกอย่างไม่จำกัดกันทั้งนั้น เปนการบังคับคนให้ซื้อรถ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Lovecar ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 16:51:20
ท่านครับ ท่านไม่เปรียบเทียบตัวอื่นๆบ้างละ อย่างcamry ประกอบไทย ออฟชั่นและวัสดุ ดีงามกว่าต่างประเทศเยอะนะท่าน
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: xman2029 ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 16:51:33
น่าคิดเหมือนกันนะครับ ถ้าเทียบ ranger wt กับพวก กระบะเจ้าตลาด  ที่ราคาพอๆกับ  wt ยัด ออฟชั่นมาตั้งเยอะ ford ยังได้กำไร แล้วพวก เจ้าตลาดจะกำไรขนาดไหนเพราะออฟชั่น น้อยมาก
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 16:56:35
จะบอกว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อเมริกาอย่าง p&G ก็ทำแบบนี้
ผมไปเที่ยวอเมริกาในร้านขายย ขาย Olay Regenerist Made in Thailand
แต่ปริมาณความเข้มข้นของสารลดริ้วรอย Palmitoy Pentapeptide อยู่อันดับที่ 3 ในรายการส่วนผสม

แต่พอมาอ่านที่ขายในไทย แพกเกจภายนอกเดียวกันแต่ตัวยาที่ลดรอยราคาแพงนี้อยู่ลำดับสุดท้าย

คือปะเทศของเรา เจตนาให้ไม่พัฒนาอะคับ (คือเจตนา ทำให้รถติด ไม่พัฒนารถเมล์ ทำให้ไม่สะอาด ไม่คุมพวกความสะอาดเหมือนประเทศอื่นๆ  ทำให้ไม่น่าอยู่)
เพราะเหมือนกับว่า ไม่ต้องการให้คนจากประเทศศิวิไลซ์มาอยู่ เพราะกลุ่มอำนาจเดิม เป็นพวกกลัวคนคิดไม่เหมือนตน


เรื่อง เสาไฟฟ้าระเนระนาด
กับ เรื่อง คนพิการขายล็อตเตอรี่ มีความคล้ายกันคือ
โรงงานปูน กับ คนพิการไม่ยอมเสียรายได้ คนเลยต้องทนดูสายไฟระเนระนาด  คนไม่มีหวยให้ซื้อได้ออนไลเหมือนประเทศอื่นๆ (เช่นเวียดนาม ที่ตอนนี้ สะอาด น่าอยู่ กว่าไทยแล้ว และมีค่าครองชีพต่ำกว่า)

ทีทุ่มเงินหมื่นล้าน แสนล้าน ให้ ชการช่าง กับ อิตาเลียนไทย สร้างทางยกระดับให้รถยนต์ได้

แต่ลงทุนทำป้ายรถเมล์ให้ละเอียดว่า สายนี้ ชมนคึงมากี่คัน ลงที่ไหนบ้าง ไม่ยอมทำ ปล่อยให้รถเมล์แดง รถตุ๊กๆ มอร์ไซค์ ระเนระนาดกันต่อไป ทั้งๆ ที่ปท อื่นทั่วโลกใช้ตั๋วเดือนร่วมกันเดือนละ 2-3 พันขึ้นได้ทุกอย่างไม่จำกัดกันทั้งนั้น เปนการบังคับคนให้ซื้อรถ

น่าอนาจที่ประชาชนผู้บริโภคถูกมัดมือชกเอาเปรียบได้ตลอดเวลา ทั้งสินค้าและบริการที่พวกเค้าสมควรได้รับ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 16:59:09
ท่านครับ ท่านไม่เปรียบเทียบตัวอื่นๆบ้างละ อย่างcamry ประกอบไทย ออฟชั่นและวัสดุ ดีงามกว่าต่างประเทศเยอะนะท่าน

ถ้าจะเทียบให้ถูกต้องเทียบ Camry ขายในไทย กับ Aurion ที่ขายที่ออสครับ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: xman2029 ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 17:05:37
โรงงานในไทยแทบทุกบริษัทคุณภาพการประกอบติดอันดันต้นๆของโลกเลยนะครับ เคยได้ยิน คุณ จิมมี่ พูดในรายการวิทยุอยู่
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: fernando ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 17:27:23
ไม่แปลกครับ เราเป็นแค่แรงงานรับจ้างผลิต เจ้าของสินค้าเขาอยากขายอะไรก็เป็นสิทธิ์ของเขา เขาแบ่งระดับของสินค้าไว้อยู่แล้ว
เราไม่ได้เป็นเจ้าของนะครับ เจ้าของจริงๆเป็นคนกำหนดทิศทางทั้งหมด




หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 17:29:50
โรงงานในไทยแทบทุกบริษัทคุณภาพการประกอบติดอันดันต้นๆของโลกเลยนะครับ เคยได้ยิน คุณ จิมมี่ พูดในรายการวิทยุอยู่

มันมีประเด็นว่า ไอ้คุณภาพที่เราภูมิใจโฆษณากันมากนะ  ผู้บริโภคในประเทศนี้เข้าถึงได้หรือเปล่าครับ หรือผู้บริโภคในต่างประเทศได้
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Eddy5659 ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 17:34:47
ไม่ยากเลยนะครับที่จะเทียบ spect รถยนต์ที่ขายในประเทศ และนอกประเทศ บริษัทีถยนต์บ้านเราเทคโนโลยีไม่ได้ด้อยเพียงแต่ ในเมื่อของเดิมๆ ต้นทุนน้อยๆมันขายได้ เขาจะใส่มาให้ทำไม

เกียร์ เครื่อง อ๊อปชั่นความปลอดภัย และอื่นๆ มันต่างกันอยู่แล้ว ขึ้นกับว่าค่ายไหนกั๊กมาก หรือน้อย

บางบริษัท ให้อ๊อปชั่น ปรับเซ็ปการขับขี่ ช่วงล่าง แตกต่างกันในแต่ละตลาด ซึ่งไทยคือตลาดที่ได้ของห่วยสุด
บางบริษัท ต้องการทำรถให้แตกต่างกันน้อยที่สุด แตกต่างแค่อุปกรณ์บางรายการ

แล้วลูกค้าคนไทยหละจะเลือกอะไร คุณอย่าไปโทษเขา ในเมื่อทำอะไรมาคุณก็ซื้ออยู่แล้ว เขาจะลงทุนไปทำไม
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: SETTHASART ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 17:39:50
ถ้ามองตามความจริงก็คงเพราะเราเป็นประเทศโลกที่ 3 มั้งครับ หรือเรียกแบบปลอบใจตัวเองว่าประเทศกำลังพัฒนา การจัดออฟชั่นเลยออกมาแบบนี้
ในส่วนตลาดกระบะโดยรวม ผมว่ามีแนวโน้มการจัดออฟชั่นที่ดีขึ้นน่ะ อย่าง Revo Cab รุ่นกลางๆ(ล้อ17 3airbag ABSทุกรุ่น) ไปจนถึง Revo รุ่นล่างๆ(3airbag ABS ไฟเบรกดวงที่3 ทุกรุ่น) คิดว่าดีกว่าหลายเจ้า
ส่วนกระบะ 4 ประตู ถ้า Ford ยังจัด Ranger Wildtrak Double Cab 2.2 Hi-Rider 6M/T ในราคาแค่ 925,000 อย่างนี้ต่อไป อะไรๆมันก็ไม่แน่ครับ ภาพรวมการจัดออฟชั่นในรถ 4 ประตูของเจ้าอื่นๆอาจจะดีขึ้นกว่าทุกวันนี้ก็ได้(ที่พูดนี่ไม่ใช่ฟอร์ดไม่กั๊กออฟชั่นน่ะครับ)
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ty ESC ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 17:42:49
เห็นด้วยทุกประการ

แต่ขี้เกียจพิมพ์
คนคิดก็คิด. คนไม่สนก็ไม่สนอยู่ดี
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: View ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 17:44:17
คือเขาก็อยากจะใส่มาให้คุณนะครับ แต่สิ่งที่เขาต้องทำให้ได้คือ "ราคา" อย่าง NAVARA ถ้าเขาจัดเต็มให้คุณ

ใส่ช่วงล่าง Coil Spring มา
ใส่ Sunroof มา
ใส่ Diff Lock มา
ใส่เครื่อง 2.3 โบคู่มา
ให้ AIRBAG 7 ใบมา

สรุปราคาไปจบที่ 1.5 ล้านคุณจะซื้อมั้ยหละครับ เดี๋ยวก็บอก 1.5 ล้านฉันไปซื้อ CAMRY ACCORD ขับดีกว่า ขอโทษนะครับลองไปดูราคากระบะที่นั้นซะก่อนครับ 1.5 -1.6 ล้านนะครับ

ก็เหมือนกรณี PULSAR TURBO อะครับเขายังของดีมาให้คุณ พอยัดมาราคาก็เพิ่มแล้วซื้อกันมั้ยครับ คุณก็ไม่ซื้อขายได้ไม่ถึงร้อยคัน

ก็เหมือนที่พี่จิมมี่พูดใน The Clip ซักคลิปนึงว่า "ถ้าคุณไม่มีผัวหรือเมีย ญาติ พ่อ แม่ พี่น้อง ทำงานอยู่ในบริษัทคุณไม่เข้าใจเขาหรอก"
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: somrans ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 18:14:48
ตอนนี้ให้มาเยอะแล้วแต่ยังไม่เท่า
ตัวส่งออกนอก
แต่ตัวส่งออกแถวบ้านเราเช่นลาว
ก็ไม่ต่างน่ะจะใด้น้อยกว่าเราบางอย่าง
ด้วย
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Sencha ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 18:58:59
คือเขาก็อยากจะใส่มาให้คุณนะครับ แต่สิ่งที่เขาต้องทำให้ได้คือ "ราคา" อย่าง NAVARA ถ้าเขาจัดเต็มให้คุณ

ใส่ช่วงล่าง Coil Spring มา
ใส่ Sunroof มา
ใส่ Diff Lock มา
ใส่เครื่อง 2.3 โบคู่มา
ให้ AIRBAG 7 ใบมา

สรุปราคาไปจบที่ 1.5 ล้านคุณจะซื้อมั้ยหละครับ เดี๋ยวก็บอก 1.5 ล้านฉันไปซื้อ CAMRY ACCORD ขับดีกว่า ขอโทษนะครับลองไปดูราคากระบะที่นั้นซะก่อนครับ 1.5 -1.6 ล้านนะครับ

ก็เหมือนกรณี PULSAR TURBO อะครับเขายังของดีมาให้คุณ พอยัดมาราคาก็เพิ่มแล้วซื้อกันมั้ยครับ คุณก็ไม่ซื้อขายได้ไม่ถึงร้อยคัน

ก็เหมือนที่พี่จิมมี่พูดใน The Clip ซักคลิปนึงว่า "ถ้าคุณไม่มีผัวหรือเมีย ญาติ พ่อ แม่ พี่น้อง ทำงานอยู่ในบริษัทคุณไม่เข้าใจเขาหรอก"

เห็นด้วย
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: carenaruk ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 19:14:58
เข้ายืนยันคับ มีชิ้นส่วนบางอย่าง ตัวส่งนอกดีกว่าเมืองไทยแน่นอนคับ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Eddy5659 ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 19:42:34
คือเขาก็อยากจะใส่มาให้คุณนะครับ แต่สิ่งที่เขาต้องทำให้ได้คือ "ราคา" อย่าง NAVARA ถ้าเขาจัดเต็มให้คุณ

ใส่ช่วงล่าง Coil Spring มา
ใส่ Sunroof มา
ใส่ Diff Lock มา
ใส่เครื่อง 2.3 โบคู่มา
ให้ AIRBAG 7 ใบมา

สรุปราคาไปจบที่ 1.5 ล้านคุณจะซื้อมั้ยหละครับ เดี๋ยวก็บอก 1.5 ล้านฉันไปซื้อ CAMRY ACCORD ขับดีกว่า ขอโทษนะครับลองไปดูราคากระบะที่นั้นซะก่อนครับ 1.5 -1.6 ล้านนะครับ

ก็เหมือนกรณี PULSAR TURBO อะครับเขายังของดีมาให้คุณ พอยัดมาราคาก็เพิ่มแล้วซื้อกันมั้ยครับ คุณก็ไม่ซื้อขายได้ไม่ถึงร้อยคัน

ก็เหมือนที่พี่จิมมี่พูดใน The Clip ซักคลิปนึงว่า "ถ้าคุณไม่มีผัวหรือเมีย ญาติ พ่อ แม่ พี่น้อง ทำงานอยู่ในบริษัทคุณไม่เข้าใจเขาหรอก"

มันไม่ใช่แค่ไม่ใส่หนะสิครับ

บางเจ้าชิ้นส่วนตัวส่งออกกับตัวขายในประเทศมันไม่เหมือนกันนะครับ ชิ้นส่วนสำคัญด้วย มาลดต้นทุนโง่ๆเลยแทบกระอักเลือดกับยอดขายตอนนี้
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: carenaruk ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 19:49:49
คือเขาก็อยากจะใส่มาให้คุณนะครับ แต่สิ่งที่เขาต้องทำให้ได้คือ "ราคา" อย่าง NAVARA ถ้าเขาจัดเต็มให้คุณ

ใส่ช่วงล่าง Coil Spring มา
ใส่ Sunroof มา
ใส่ Diff Lock มา
ใส่เครื่อง 2.3 โบคู่มา
ให้ AIRBAG 7 ใบมา

สรุปราคาไปจบที่ 1.5 ล้านคุณจะซื้อมั้ยหละครับ เดี๋ยวก็บอก 1.5 ล้านฉันไปซื้อ CAMRY ACCORD ขับดีกว่า ขอโทษนะครับลองไปดูราคากระบะที่นั้นซะก่อนครับ 1.5 -1.6 ล้านนะครับ

ก็เหมือนกรณี PULSAR TURBO อะครับเขายังของดีมาให้คุณ พอยัดมาราคาก็เพิ่มแล้วซื้อกันมั้ยครับ คุณก็ไม่ซื้อขายได้ไม่ถึงร้อยคัน

ก็เหมือนที่พี่จิมมี่พูดใน The Clip ซักคลิปนึงว่า "ถ้าคุณไม่มีผัวหรือเมีย ญาติ พ่อ แม่ พี่น้อง ทำงานอยู่ในบริษัทคุณไม่เข้าใจเขาหรอก"

มันไม่ใช่แค่ไม่ใส่หนะสิครับ

บางเจ้าชิ้นส่วนตัวส่งออกกับตัวขายในประเทศมันไม่เหมือนกันนะครับ ชิ้นส่วนสำคัญด้วย มาลดต้นทุนโง่ๆเลยแทบกระอักเลือดกับยอดขายตอนนี้
+1 ใช่เรย ตามที่คุนเอ็ดดี้บอกเลยครับ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Elestra ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 20:07:58
รถเมล์แดงซอมซ่อ 30 กว่าปี รัฐบาลน่าจะจัดงบประมูล ทำใหม่นะคับ
แบบว่า ร่วมกันทำ ให้มันเล็กคล่องตัวจุคนได้เยอะ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: MUK ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 20:57:20
แล้วเราผู้บริโภค ผู้ซื้อต้องทำไงครับ  ถึงจะได้ของเกรดดีครับ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Stroke8 ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 21:04:48
น่าสนใจดีครับ หัวข้อที่คุณ Ivy Modernist เสนอมา

คุณภาพที่หลายๆคนกล่าวมา หมายถึงอะไรครับ? คุณภาพการประกอบ? หรือว่าอุปกรณ์เสริมที่ใส่มาให้? ทั้งสองไม่ใช่สิ่งเดียวกัน มีเหตุผลที่ต่างกัน และมีที่มาที่ไปจากคนละจุดนะครับ

คุณภาพการประกอบ อันนี้จากที่หลายๆคนเคยได้สัมผัสกันมา รถยนต์ที่ประกอบในประเทศมีคุณภาพการประกอบ ถ้าเกิดไม่เทียบเท่า ก็ดีกว่ารถยนต์ที่ส่งออก หรือว่ารถที่มีการประกอบในต่างประเทศเสียอีก ผมไม่แน่ใจว่าพวกคุณเคยได้สัมผัสรถ ฮอนด้า ซีวิค ที่ประกอบในบราซิลกันบ้างหรือเปล่า? ครับ ผมรู้ ผมก็ไม่เคยหรอก ผมไม่เคยไปบราซิล แล้วก็ไม่เคยคิดที่จะไปบราซิลด้วย แม้แต่คนที่อยู่ในบราซิลเองก็บอกว่ามันเป็นประเทศที่แย่ เช่นเดียวกับรถฮอนด้า ซีวิค ที่ประกอบในบราซิลครับ แม้กระทั่งในมาตรฐานคนบราซิล ซึ่งใช้รถอย่าง โฟล์กสวาเกน โกล ซึ่งเป็นรถที่แซยิดมานานพอๆกับกฎหมายขนส่งบ้านเรา หรือว่ารถเชฟโรเลท เซลต้า ซึ่งเช่นกัน พื้นฐานนั้นมาจากโอเปิ้ล คอร์ซ่า รุ่นที่เคยมีการขายในบ้านเรา ซึ่งถ้าจำไม่ผิดหมอบรัดเลย์เคยใช้อยู่คันนึง รถพวกนั้นถูกผลิตขึ้นจากทูลลิ่งที่ถ้ามีคนขุดเจอใต้ดิน คนก็คงจะนึกว่ามันถูกสร้างขึ้นจากไดโนเสาร์ คนบราซิลที่คุ้นเคยกับรถพวกนี้ บอกว่ารถฮอนด้า ซีวิค ที่ชาวบราซิลประกอบ คุณภาพนั้น งั้นๆมาก เหมือนกับการที่คนไทยทุกคนบอกว่า คุณภาพรถฮอนด้าซีวิคที่ประกอบในประเทศไทย งั้นๆมาก แต่ว่าคนไทยในปัจจุบันยังต้องใช้รถอย่าง โอเปิ้ล คอร์ซ่า อยู่ไหมครับ?

ครับ ลองคิดดูนะครับ ถ้าเกิดพวกเขาประหยัดได้กับชิ้นส่วนบางส่วน ชิ้นละ ไม่รู้สิ พันนึง? สองพัน? แต่ว่าพวกเขาจะต้องจัดตั้งทูลลิ่งใหม่ ซึ่งใช้เงินเป็นจำนวนหลายพันล้าน พวกเขาจะทำไหมครับ? และอีกอย่าง คุณภาพมันแย่กว่าจริงๆเหรอครับ? แล้วรถเก่าที่ยังวิ่งได้ดีอยู่บนถนนทุกวันนี้ล่ะ? มันควรจะพังไปนานแล้วไม่ใช่เหรอถ้าคุณภาพการประกอบ และชิ้นส่วน มันห่วยแตก? ถ้าเกิดมันห่วยแตกจริง มันก็ไม่ได้เพิ่งมาห่วยแตกกันตอนนี้หรอกครับ ยิ่งในอดีตที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต ข่าวสารมันกระจายไปได้ในอัตราที่ช้ากว่าในปัจจุบันมาก บริษัทรถยนต์ไม่ได้โง่นะครับ คิดเหรอครับว่าพวกเขาจะยิงขาตัวเองทิ้งข้างหนึ่ง? บริษัทอย่างจีเอ็มอาจจะไม่ทำเช่นนั้นครับ พวกเขายิงขาตัวเองทิ้งทั้งสองข้าง แต่อันนั้นมันเรื่องเอาไว้ให้พูดกันในวันอื่นเพราะมันเป็นกรณีพิเศษ

งั้นเรามาพูดถึงเรื่องอุปกรณ์เสริมกัน ถ้าเกิดคุณภาพของรถที่ประกอบในประเทศไทยนั้นมันเทียบเท่ากับรถที่ประกอบในประเทศอื่นๆ ถ้า ไม่ดีกว่าเสียด้วยซ้ำ สิ่งที่ทุกคนกำลังพูดถึงก็คงจะเป็น อุปกรณ์ต่างๆที่ให้มากับรถยนต์ซักหนึ่งคัน เอาละครับ ผมได้เห็นกระทู้ที่มีคนเรียกร้องหา ดิฟล็อก ซึ่งไม่มีมาใส่ให้กับฟอร์จูเนอร์ใหม่ ซึ่งผมก็ยังไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรกันแน่นะครับ แต่ผมขอถามอะไรเล็กน้อยซักนิดนึง พวกคุณคิดว่าจะมีลูกค้าที่จะคิดซื้อรถฟอร์จูเนอร์ใหม่ซักกี่คนครับ ที่เข้าใจความแตกต่างระหว่าง วิสคัส ดิฟ, ทอร์เซน ดิฟ, ล็อกกิ้ง ดิฟ, เฮลิคัล ดิฟ, ฮัลเด็กซ์ แล้วก็ คลัช ดิฟ สังเกตอะไรบางอย่างไหมครับ? ทอร์เซน ดิฟ กับ เฮลิคัล ดิฟ มันเป็นสิ่งเดียวกัน ถ้าเกิดคุณไม่รู้ความแตกต่าง คุณก็ไม่ต้องใช้มันหรอกครับ เพราะว่าคนที่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้พวกมัน พวกเขาต้องศึกษาความแตกต่างมาก่อนหน้านี้แล้ว

ประเด็นที่ผมอยากจะบอกคือ หลายๆคนเรียกร้อง อยากจะได้นั่น ได้นี่ โดยที่ยังไม่รู้เสียด้วยซ้ำครับว่ามันคืออะไร มีประโยชน์อะไร เอาไปใช้ทำอะไรได้ แน่นอนว่าต้องมีคนที่รู้ แล้วก็จะมาเถียงผมว่า นี่ผมรู้นะนี่คืออะไร แต่คนที่ไม่รู้คือคนส่วนมากครับ คนหลายคนไม่สนใจ คนหลายคนไม่ได้ใช้ก็ไม่เรียกร้อง อันนั้นผมไม่ว่าอะไรหรอก แต่คนที่รู้ว่าตัวเองจะไม่ได้ใช้ แล้วก็ยังเรียกร้องอยู่ ลองคิดดูอีกทีนะครับ ว่ามีเหตุผลที่บริษัทรถไม่ใส่อะไรบางอย่างมาให้คุณ ผู้ซึ่งไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ตนเองกำลังเรียกร้องนั้นคืออะไร ไก่ได้พลอย มีคนกล่าวไว้ ในทางกลับกัน ถ้าเกิดมีใครอยากเอาฟอร์จูนเนอร์ไปขับเข้าป่า อ็อฟโร้ดจริงจัง พวกเขาจ่ายเงินซื้อล็อกกิ้ง ดิฟ Aftermarket ดีๆ มาใส่เองอยู่แล้วครับ ในขณะที่มันจะไม่มีความจำเป็นสำหรับแม่บ้านที่ซื้อมารับส่งลูกเลย

ผมไม่ได้กำลังเถียงนะครับ แค่เสนอมุมมองของผม

เมื่อลองในมุมมองแบบเดียวกับคนที่ติดตามเรื่องรถ รู้ว่ารถบางคันถูกถอดคานกันชนออกไป ผมก็เข้าใจดีครับ ความรู้สึก สิ่งที่ควรจะมีให้ กลับไม่มีให้ แต่อย่าคิดว่ามันเป็นปัญหาแค่ของคนในประเทศไทยเท่านั้นนะครับ ผมไม่แน่ใจว่ามีใครซักกี่คนจำได้ว่า เมื่อสหรัฐฯประกาศกฎหมายกันชน 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นมา มุมมองของผู้ซื้อรถนั้นมีไว้อย่างไร แต่ผมจำได้ครับ พวกเขาบอกว่ามันเป็นกฎหมายที่งี่เง่าสิ้นดี เพราะว่าเมื่อสหรัฐฯตั้งกฎหมายว่า รถทุกคันที่จำหน่ายจะต้องมีกันชนที่สามารถรับแรงกระแทกที่ความเร็ว 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยที่ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นกับตัวเนื้อเหล็กเลย ทางออกของบริษัทรถคือการเอาเครื่องกระทุ้งขนาดใหญ่ไปแปะไว้ที่หน้ารถและหลังรถ ซึ่งมันก็ดูสวยงามอย่างที่คิดนั่นแหละครับ แล้วมันก็ได้ผลด้วยนะ สำหรับรถหลายๆคัน มันได้ผลดีเกินกว่า 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่กำหนดมาเสียอีก จนในที่สุดรัฐบาลก็ทนคำเรียกร้องไม่ไหว ลดกำหนดลงมาเหลือ 4 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง อะไรคือประเด็นครับ? ผมก็ไม่รู้หรอก มันมีอยู่ตอนผมเริ่มย่อหน้านี้ แต่ตอนนี้มันบอกว่าลาก่อนไปแล้ว

อ่า ใช่ครับ ประเด็น เหตุผลที่ประเทศสหรัฐอเมริกาประกาศใช้กันชน 8 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ก็เพราะว่ามีกลุ่มคนบางกลุ่ม ต้องการที่จะให้ค่าซ่อมรถเมื่อถูกชนนั้นถูกลง ผมไม่ทราบหรอกนะครับว่าคนกลุ่มนั้นคือใคร แต่ผมรู้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะว่าประกันภัยรถยนต์ในสหรัฐฯนั้น มีมูลค่าสูงมากเมื่อเทียบกับมูลค่ารถ และมันมักจะเป็นไปตาม รุ่น "ย่อย" ของรถทุกรุ่น เหตุผลมีหลายอย่าง แต่เมื่อลูกค้าที่ใช้รถทนค่าใช้จ่ายส่วนนั้นไม่ไหว ก็ย่อมที่จะมีคนเรียกร้องออกมา ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ประกันรถบ้านเรานั้นค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับมูลค่าของรถ และผมไม่ได้เข้าใจธุรกิจประกันมากหรอกนะครับ แต่ที่ผมเข้าใจคือ ประกันรถในบ้านเรานั้นค่อนข้างที่จะล้าหลัง และไม่มีความสำคัญเท่าประเทศอื่นๆ ที่อาจจะมีการกำหนดไว้ว่า ประกันรถ เป็นของบังคับ รถทุกคันต้องมี นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้บ้านเราโดนตัดคานกันชนออกไป บริษัทรถยนต์ไม่ได้กำลังทำการกุศล และถ้าบางสิ่งมันไม่จำเป็น จะใส่มาทำไม? และคานกันชนมันก็จะไม่มีความจำเป็นครับ ถ้าเกิดประกันรถบ้านเรายังมีราคาถูกอยู่ มันเป็นเรื่องของการบัญชี เพราะว่าคานกันชนมันไม่ได้เพิ่มความปลอดภัยอะไรให้กับผู้โดยสารมากขนาดนั้นหรอกครับ ตราบใดที่ไม่มีกฎหมายกำหนดไว้ คานกันชนของรถที่ขายในยุโรปส่วนมาก ก็รองรับการกระแทกได้ไม่ดีพอที่จะสร้างความแตกต่างระหว่างความเป็นกับความตาย ไม่เหมือนกับคานกันชน 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมงของสหรัฐฯ ซึ่งนั่นสร้างความแตกต่างได้อย่างเห็นได้ชัด นั่นทำให้ผมนึกอะไรบางอย่างออกนะ ในยุคหนึ่งสมัยหนึ่งประเทศไทยก็นิยมกันชนสไตล์เครื่องกระทุ้งกับเขาเหมือนกันนี่หว่า ในยุคสมัยที่คนอเมริกันทุกคนบอกว่า ไร้สาระ ไม่จำเป็น ทำให้รถหนักแล้วก็เปลืองน้ำมัน

อุตสาหกรรมรถยนต์เป็นอุตสาหกรรมที่ขึ้นอยู่กับการประณีประนอมครับ ผู้ใช้ บริษัทประกัน รัฐบาล ฯลฯ และหลายๆครั้งพวกเขาก็ไม่สามารถทำให้ทุกๆคนพอใจได้

แต่ว่าเรื่องอุปกรณ์ของเล่นอื่นๆ หรืออุปกรณ์ความปลอดภัย ผมไม่กล่าวถึงแล้วกันนะครับ ผมรู้ว่าทุกคนคงจะรู้ว่าเป็นเพราะว่าอะไร ทำไมถึงมีมาให้น้อยกว่า ไม่ต้องไปคิดเรื่องนั้นมากหรอกครับ ที่นี่คือประเทศไทย และความเปลี่ยนแปลงจะไม่เกิดขึ้นได้ข้ามวันข้ามคืนหรอกนะ ไม่ใช่แต่อุตสาหกรรมรถยนต์ แต่ว่าเป็นปัญหาของทั้งประเทศ ผมไม่สามารถพูดเรื่องนี้มากได้เพราะมันอาจจะไปเกี่ยวกับเรื่องการเมือง ผมบอกได้แค่ว่า ในมุมมองของผม มันก็เกี่ยวข้องกันอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกี่ยวข้องกันอยู่นั่นแหละครับ

นั่นแหละครับ ความเห็นของผม มันอาจจะไม่ชัดเจน ไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรมากมายกับคนอ่าน แต่ผมอยากให้ทุกคนมีประเด็นได้พูดคุยกันมากขึ้น เพราะว่ากระทู้นี้ ผมก็เห็นด้วยกับหลายๆจุดที่มีคนว่ามาเลยนะ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: whoami ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 21:08:00
คนไทยที่เสพข้อมูลในเน็ต จนรู้ว่าออฟชั่นต่างกัน มีกี่คนครับ

คิดเป็นกี่ % ของกลุ่มลูกค้าทั้งประเทศ

พวกออฟชั่นความปลอดภัย ระบบช่วยทรงตัว ถุงลมหลายๆใบ ถึงใส่มาครบ

ลูกค้าคนไทยก็ไม่รู้ครับว่ามันมีประโยชน์ยังไง

สู้ทำรุ่นพิเศษใส่ชุดแต่งสวยๆมาจากโรงงานแล้วอัพราคาขึ้นให้แพงกว่ารุ่นปกติดีกว่า

โดยที่ระบบความปลอดภัย vsc traction. control อะไรทั้งหลายไม่ต้องใส่ ถุงลมยัดมาสองใบพอ

ลูกค้าคนไทย  ชอบ ยอดขายตรึม

ถ้านึกไม่ออก ก้อพวก espor....  tr...   

แล้วกฎหมาย มาตรการในประเทศก็ไ่ได้บังคับอะไรเลย

แล้วผู้ผลิตเค้าจะทำออกมาให้เปลืองต้นทุนทำไมละครับ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: werawit ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 21:12:48
ไม่แปลกครับ เราเป็นแค่แรงงานรับจ้างผลิต เจ้าของสินค้าเขาอยากขายอะไรก็เป็นสิทธิ์ของเขา เขาแบ่งระดับของสินค้าไว้อยู่แล้ว
เราไม่ได้เป็นเจ้าของนะครับ เจ้าของจริงๆเป็นคนกำหนดทิศทางทั้งหมด

เห็นด้วยกับความเห็นนี้นะครับ....

เราเป็นแค่ประเทศแรงงานรับจ้างผลิต เจ้าของ brand เขามีอำนาจในการกำหนด class ของ product และ แผนการตลาดให้เหมาะสมกับ ตลาดของแต่ละประเทศ
ดังนั้น ก็ป่วยการที่จะมาเรียกร้องความเป็นธรรมอะไรนะครับ  ....... เขาจ้างแรงงานเรา เขาจ่ายตังค่าแรง เราก็มีหน้าที่ทำตามคำสั่ง มันก็แค่นั้นเอง

ถึงแม้ รถที่ไม่ได้ผลิตในไทยคนไทยก็ได้ใช้รถเกรดนี้อยู่ดีละครับ มันคนละประเด็นกัน
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: tozmania ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 21:18:34
น่าสนใจดีครับ หัวข้อที่คุณ Ivy Modernist เสนอมา

คุณภาพที่หลายๆคนกล่าวมา หมายถึงอะไรครับ? คุณภาพการประกอบ? หรือว่าอุปกรณ์เสริมที่ใส่มาให้? ทั้งสองไม่ใช่สิ่งเดียวกัน มีเหตุผลที่ต่างกัน และมีที่มาที่ไปจากคนละจุดนะครับ

คุณภาพการประกอบ อันนี้จากที่หลายๆคนเคยได้สัมผัสกันมา รถยนต์ที่ประกอบในประเทศมีคุณภาพการประกอบ ถ้าเกิดไม่เทียบเท่า ก็ดีกว่ารถยนต์ที่ส่งออก หรือว่ารถที่มีการประกอบในต่างประเทศเสียอีก ผมไม่แน่ใจว่าพวกคุณเคยได้สัมผัสรถ ฮอนด้า ซีวิค ที่ประกอบในบราซิลกันบ้างหรือเปล่า? ครับ ผมรู้ ผมก็ไม่เคยหรอก ผมไม่เคยไปบราซิล แล้วก็ไม่เคยคิดที่จะไปบราซิลด้วย แม้แต่คนที่อยู่ในบราซิลเองก็บอกว่ามันเป็นประเทศที่แย่ เช่นเดียวกับรถฮอนด้า ซีวิค ที่ประกอบในบราซิลครับ แม้กระทั่งในมาตรฐานคนบราซิล ซึ่งใช้รถอย่าง โฟล์กสวาเกน โกล ซึ่งเป็นรถที่แซยิดมานานพอๆกับกฎหมายขนส่งบ้านเรา หรือว่ารถเชฟโรเลท เซลต้า ซึ่งเช่นกัน พื้นฐานนั้นมาจากโอเปิ้ล คอร์ซ่า รุ่นที่เคยมีการขายในบ้านเรา ซึ่งถ้าจำไม่ผิดหมอบรัดเลย์เคยใช้อยู่คันนึง รถพวกนั้นถูกผลิตขึ้นจากทูลลิ่งที่ถ้ามีคนขุดเจอใต้ดิน คนก็คงจะนึกว่ามันถูกสร้างขึ้นจากไดโนเสาร์ คนบราซิลที่คุ้นเคยกับรถพวกนี้ บอกว่ารถฮอนด้า ซีวิค ที่ชาวบราซิลประกอบ คุณภาพนั้น งั้นๆมาก เหมือนกับการที่คนไทยทุกคนบอกว่า คุณภาพรถฮอนด้าซีวิคที่ประกอบในประเทศไทย งั้นๆมาก แต่ว่าคนไทยในปัจจุบันยังต้องใช้รถอย่าง โอเปิ้ล คอร์ซ่า อยู่ไหมครับ?

ครับ ลองคิดดูนะครับ ถ้าเกิดพวกเขาประหยัดได้กับชิ้นส่วนบางส่วน ชิ้นละ ไม่รู้สิ พันนึง? สองพัน? แต่ว่าพวกเขาจะต้องจัดตั้งทูลลิ่งใหม่ ซึ่งใช้เงินเป็นจำนวนหลายพันล้าน พวกเขาจะทำไหมครับ? และอีกอย่าง คุณภาพมันแย่กว่าจริงๆเหรอครับ? แล้วรถเก่าที่ยังวิ่งได้ดีอยู่บนถนนทุกวันนี้ล่ะ? มันควรจะพังไปนานแล้วไม่ใช่เหรอถ้าคุณภาพการประกอบ และชิ้นส่วน มันห่วยแตก? ถ้าเกิดมันห่วยแตกจริง มันก็ไม่ได้เพิ่งมาห่วยแตกกันตอนนี้หรอกครับ ยิ่งในอดีตที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต ข่าวสารมันกระจายไปได้ในอัตราที่ช้ากว่าในปัจจุบันมาก บริษัทรถยนต์ไม่ได้โง่นะครับ คิดเหรอครับว่าพวกเขาจะยิงขาตัวเองทิ้งข้างหนึ่ง? บริษัทอย่างจีเอ็มอาจจะไม่ทำเช่นนั้นครับ พวกเขายิงขาตัวเองทิ้งทั้งสองข้าง แต่อันนั้นมันเรื่องเอาไว้ให้พูดกันในวันอื่นเพราะมันเป็นกรณีพิเศษ

งั้นเรามาพูดถึงเรื่องอุปกรณ์เสริมกัน ถ้าเกิดคุณภาพของรถที่ประกอบในประเทศไทยนั้นมันเทียบเท่ากับรถที่ประกอบในประเทศอื่นๆ ถ้า ไม่ดีกว่าเสียด้วยซ้ำ สิ่งที่ทุกคนกำลังพูดถึงก็คงจะเป็น อุปกรณ์ต่างๆที่ให้มากับรถยนต์ซักหนึ่งคัน เอาละครับ ผมได้เห็นกระทู้ที่มีคนเรียกร้องหา ดิฟล็อก ซึ่งไม่มีมาใส่ให้กับฟอร์จูเนอร์ใหม่ ซึ่งผมก็ยังไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรกันแน่นะครับ แต่ผมขอถามอะไรเล็กน้อยซักนิดนึง พวกคุณคิดว่าจะมีลูกค้าที่จะคิดซื้อรถฟอร์จูเนอร์ใหม่ซักกี่คนครับ ที่เข้าใจความแตกต่างระหว่าง วิสคัส ดิฟ, ทอร์เซน ดิฟ, ล็อกกิ้ง ดิฟ, เฮลิคัล ดิฟ, ฮัลเด็กซ์ แล้วก็ คลัช ดิฟ สังเกตอะไรบางอย่างไหมครับ? ทอร์เซน ดิฟ กับ เฮลิคัล ดิฟ มันเป็นสิ่งเดียวกัน ถ้าเกิดคุณไม่รู้ความแตกต่าง คุณก็ไม่ต้องใช้มันหรอกครับ เพราะว่าคนที่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้พวกมัน พวกเขาต้องศึกษาความแตกต่างมาก่อนหน้านี้แล้ว

ประเด็นที่ผมอยากจะบอกคือ หลายๆคนเรียกร้อง อยากจะได้นั่น ได้นี่ โดยที่ยังไม่รู้เสียด้วยซ้ำครับว่ามันคืออะไร มีประโยชน์อะไร เอาไปใช้ทำอะไรได้ แน่นอนว่าต้องมีคนที่รู้ แล้วก็จะมาเถียงผมว่า นี่ผมรู้นะนี่คืออะไร แต่คนที่ไม่รู้คือคนส่วนมากครับ คนหลายคนไม่สนใจ คนหลายคนไม่ได้ใช้ก็ไม่เรียกร้อง อันนั้นผมไม่ว่าอะไรหรอก แต่คนที่รู้ว่าตัวเองจะไม่ได้ใช้ แล้วก็ยังเรียกร้องอยู่ ลองคิดดูอีกทีนะครับ ว่ามีเหตุผลที่บริษัทรถไม่ใส่อะไรบางอย่างมาให้คุณ ผู้ซึ่งไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ตนเองกำลังเรียกร้องนั้นคืออะไร ไก่ได้พลอย มีคนกล่าวไว้ ในทางกลับกัน ถ้าเกิดมีใครอยากเอาฟอร์จูนเนอร์ไปขับเข้าป่า อ็อฟโร้ดจริงจัง พวกเขาจ่ายเงินซื้อล็อกกิ้ง ดิฟ Aftermarket ดีๆ มาใส่เองอยู่แล้วครับ ในขณะที่มันจะไม่มีความจำเป็นสำหรับแม่บ้านที่ซื้อมารับส่งลูกเลย

ผมไม่ได้กำลังเถียงนะครับ แค่เสนอมุมมองของผม

เมื่อลองในมุมมองแบบเดียวกับคนที่ติดตามเรื่องรถ รู้ว่ารถบางคันถูกถอดคานกันชนออกไป ผมก็เข้าใจดีครับ ความรู้สึก สิ่งที่ควรจะมีให้ กลับไม่มีให้ แต่อย่าคิดว่ามันเป็นปัญหาแค่ของคนในประเทศไทยเท่านั้นนะครับ ผมไม่แน่ใจว่ามีใครซักกี่คนจำได้ว่า เมื่อสหรัฐฯประกาศกฎหมายกันชน 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นมา มุมมองของผู้ซื้อรถนั้นมีไว้อย่างไร แต่ผมจำได้ครับ พวกเขาบอกว่ามันเป็นกฎหมายที่งี่เง่าสิ้นดี เพราะว่าเมื่อสหรัฐฯตั้งกฎหมายว่า รถทุกคันที่จำหน่ายจะต้องมีกันชนที่สามารถรับแรงกระแทกที่ความเร็ว 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยที่ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นกับตัวเนื้อเหล็กเลย ทางออกของบริษัทรถคือการเอาเครื่องกระทุ้งขนาดใหญ่ไปแปะไว้ที่หน้ารถและหลังรถ ซึ่งมันก็ดูสวยงามอย่างที่คิดนั่นแหละครับ แล้วมันก็ได้ผลด้วยนะ สำหรับรถหลายๆคัน มันได้ผลดีเกินกว่า 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่กำหนดมาเสียอีก จนในที่สุดรัฐบาลก็ทนคำเรียกร้องไม่ไหว ลดกำหนดลงมาเหลือ 4 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง อะไรคือประเด็นครับ? ผมก็ไม่รู้หรอก มันมีอยู่ตอนผมเริ่มย่อหน้านี้ แต่ตอนนี้มันบอกว่าลาก่อนไปแล้ว

อ่า ใช่ครับ ประเด็น เหตุผลที่ประเทศสหรัฐอเมริกาประกาศใช้กันชน 8 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ก็เพราะว่ามีกลุ่มคนบางกลุ่ม ต้องการที่จะให้ค่าซ่อมรถเมื่อถูกชนนั้นถูกลง ผมไม่ทราบหรอกนะครับว่าคนกลุ่มนั้นคือใคร แต่ผมรู้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะว่าประกันภัยรถยนต์ในสหรัฐฯนั้น มีมูลค่าสูงมากเมื่อเทียบกับมูลค่ารถ และมันมักจะเป็นไปตาม รุ่น "ย่อย" ของรถทุกรุ่น เหตุผลมีหลายอย่าง แต่เมื่อลูกค้าที่ใช้รถทนค่าใช้จ่ายส่วนนั้นไม่ไหว ก็ย่อมที่จะมีคนเรียกร้องออกมา ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ประกันรถบ้านเรานั้นค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับมูลค่าของรถ และผมไม่ได้เข้าใจธุรกิจประกันมากหรอกนะครับ แต่ที่ผมเข้าใจคือ ประกันรถในบ้านเรานั้นค่อนข้างที่จะล้าหลัง และไม่มีความสำคัญเท่าประเทศอื่นๆ ที่อาจจะมีการกำหนดไว้ว่า ประกันรถ เป็นของบังคับ รถทุกคันต้องมี นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้บ้านเราโดนตัดคานกันชนออกไป บริษัทรถยนต์ไม่ได้กำลังทำการกุศล และถ้าบางสิ่งมันไม่จำเป็น จะใส่มาทำไม? และคานกันชนมันก็จะไม่มีความจำเป็นครับ ถ้าเกิดประกันรถบ้านเรายังมีราคาถูกอยู่ มันเป็นเรื่องของการบัญชี เพราะว่าคานกันชนมันไม่ได้เพิ่มความปลอดภัยอะไรให้กับผู้โดยสารมากขนาดนั้นหรอกครับ ตราบใดที่ไม่มีกฎหมายกำหนดไว้ คานกันชนของรถที่ขายในยุโรปส่วนมาก ก็รองรับการกระแทกได้ไม่ดีพอที่จะสร้างความแตกต่างระหว่างความเป็นกับความตาย ไม่เหมือนกับคานกันชน 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมงของสหรัฐฯ ซึ่งนั่นสร้างความแตกต่างได้อย่างเห็นได้ชัด นั่นทำให้ผมนึกอะไรบางอย่างออกนะ ในยุคหนึ่งสมัยหนึ่งประเทศไทยก็นิยมกันชนสไตล์เครื่องกระทุ้งกับเขาเหมือนกันนี่หว่า ในยุคสมัยที่คนอเมริกันทุกคนบอกว่า ไร้สาระ ไม่จำเป็น ทำให้รถหนักแล้วก็เปลืองน้ำมัน

อุตสาหกรรมรถยนต์เป็นอุตสาหกรรมที่ขึ้นอยู่กับการประณีประนอมครับ ผู้ใช้ บริษัทประกัน รัฐบาล ฯลฯ และหลายๆครั้งพวกเขาก็ไม่สามารถทำให้ทุกๆคนพอใจได้

แต่ว่าเรื่องอุปกรณ์ของเล่นอื่นๆ หรืออุปกรณ์ความปลอดภัย ผมไม่กล่าวถึงแล้วกันนะครับ ผมรู้ว่าทุกคนคงจะรู้ว่าเป็นเพราะว่าอะไร ทำไมถึงมีมาให้น้อยกว่า ไม่ต้องไปคิดเรื่องนั้นมากหรอกครับ ที่นี่คือประเทศไทย และความเปลี่ยนแปลงจะไม่เกิดขึ้นได้ข้ามวันข้ามคืนหรอกนะ ไม่ใช่แต่อุตสาหกรรมรถยนต์ แต่ว่าเป็นปัญหาของทั้งประเทศ ผมไม่สามารถพูดเรื่องนี้มากได้เพราะมันอาจจะไปเกี่ยวกับเรื่องการเมือง ผมบอกได้แค่ว่า ในมุมมองของผม มันก็เกี่ยวข้องกันอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกี่ยวข้องกันอยู่นั่นแหละครับ

นั่นแหละครับ ความเห็นของผม มันอาจจะไม่ชัดเจน ไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรมากมายกับคนอ่าน แต่ผมอยากให้ทุกคนมีประเด็นได้พูดคุยกันมากขึ้น เพราะว่ากระทู้นี้ ผมก็เห็นด้วยกับหลายๆจุดที่มีคนว่ามาเลยนะ

พี่มาเน้นๆเลย เกินจากที่ผมคิดจะพิมพ์ไปเยอะมาก เห็นด้วยตามนี้ครับ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: localgame ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 21:28:23
เห็นด้วยกับคุณStroke8 นะครับ

คนไทยเราอยากได้ออพชั่นเยอะๆ ทนๆ แรงๆ ประหยัดน้ำมัน ซ่อมง่าย อะไหล่หาง่าย ไม่จุกจิก ที่สำคัญราคาถูกๆๆๆๆ

ซึ่งผลก็ออกมาแบบที่ขายอยู่ทุกวันนี้หละครับคือมันไม่สามารถทำให้เด่นได้ในทุกด้านต้องมีดีอย่างเสียงอย่างสลับกันไปครับ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: chinjung ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 21:45:52
เอาที่พอดีพองามละกันเนอะ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ กรกฎาคม 24, 2015, 23:20:42
"แล้วเราผู้บริโภค ผู้ซื้อต้องทำไงครับ ถึงจะได้ของเกรดดีครับ"ที่กำลังเป็นอยู่ในตอนนี้นี่แหละครับที่คนซื้อกำลังค่อยๆบีบให้ผู้ค้ารถต้องปรับตัวเข้าหาคนซื้อยอมใส่อุปกรณ์ต่างๆเข้ามาให้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน ลองดูแอคคอร์ดที่หลายๆคนชื่นชอบกันในแง่ของอุปกรณ์ต่างๆที่ใส่มาให้ในรุ่นเครื่อง2000ก็ได้ แอคคอร์ดนี้จะไม่มีอุปกรณ์ต่างๆใส่มาให้เลยถ้าในรุ่นก่อนหน้าไม่เสียท่าให้นิสสันเทียน่าแซงยอดขายติดต่อกันหลายๆเดือนจนต้องยัดออพชั่นมาให้ในโฉมใหม่ ซิตี้เองก็ด้วย กี่รุ่นที่ผ่านมาไม่เคยมีอะไรมากไปกว่าเอบีเอสแอร์แบกสองลูกในรถขนาดเล็ก จนมาเฟียสต้าที่เกิดใจกล้าใส่espมาให้ เรียกความสนใจจากคนไทยไปได้เยอะจนซิตี้รุ่นใหม่ต้องสู้ใส่espมาให้ด้วยเช่นกัน แล้วกระแสนี้ก็ลามมาจนถึงแคมรี่รุ่นใหม่ที่ราคาเครื่อง2500เกินล้านไปเยอะแต่ไม่มีออพชั่นความปลอดภัยที่เหมาะสมกัลรถขนาดซีดานใหญ่เลยแล้วก็โดนด่ากระจายยอดขายไม่ถึงเป้าเพราะคนแห่ไปเลือกแอคคอร์ดที่ออพชั่นให้มาเต็ม กว่ามากแทน จะยอมรับหรือไม่ก็ตามแต่การที่เราได้ใช้รถหลากหลายรุ่นหลากหลายออพชั่นในตอนนี้ก็มาจากการที่คนซื้อกำหนดทิศทางตลาดนี่แหละ เรากำลังบีบให้ผู้ขายยอมลดกำไรมาสู้กันเพื่อเอาใจเรา   :-X
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: bompuriku ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 00:18:47
ถ้าเอาตามสเป็คกระบะต่างประเทศ เข้าไทยคงเกือบ 2 ล้าน แถวบ้านผมทำอาชีพค้าขายกันเยอะ พวกเค้าเอาแค่เกียร์ MT ไม่สนออฟชั่นแค่นั้นล่ะครับ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: J!MMY ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 00:46:11
ถ้าคิดจะปิดกั้น ไม่รับฟังความเห็นของคนอื่น
ถ้าคิดว่า ยังไงๆ คนไทย ก็ซวย และเป็นเบี้ยล่างอยู่ร่ำไป

ผมของดแสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้ครับ

ิเบื่อมาก กระทู้แบบนี้  5 ปีผ่านไป ก็ยังคงมีกระทู้แบบนี้เหมือนเดิม
ไม่เห็นจะมีพัฒนาการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ไอ้คนทำงาน แม่งก็พยายามแทบตาย
แต่สุดท้าย มุมมองผู้บริโภค ก็ยังไมยอมเปลี่ยน

ตกลง บริาษัทรถไม่ยอมเปลี่ยน หรือวิธีคิดผู้บริโภค มันไม่เปลี่ยนกันแน่???
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: arya ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 07:13:23
ผมว่าสังคมไทย ตอนนี้มัน ป่วย มากก เลยคับ

ยิ่งบนออนไลน์แล้ว คนเราสามารถแสดงตัวตน เค้าออกมาโดยไม่แคร์ ถึงสิ่งที่ตามมา

พวกโลกแคบ มองโลกในแง่ร้ายตลอด ช่างจับผิด กลัวคนอื่นเอาเปรียบ ว่าคนอื่นไม่ดี กลัวเค้าได้ดีจนขี้อิจฉา อยากอวดรู้ อยากทำตัวเป็นพวกตะวันตกรักษาสิทธิ์ตัวเองจนเลยขอบเขต

เรามาช่วยกัน ทำให้สังคม มีแต่คนที่รู้จัก มองโลกในแง่ดี  ถ้อยทีถ้อยอาศัย แบ่งปัน เอื้อเฟื้อ กันมากๆขึ้นดีไหมคับ ซึ่ง สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งดีของประเทศเรามานาน แต่มันกำลัง หายไป เนื่องจาก เรารับ แต่สิ่งที่คิดว่าดี ทั้งๆที่ มันไม่ดีเข้ามา โดยขาดการไตร่ตรอง ใช้ปัญญา

การชื่นชมคนอื่น ไม่ทำให้คุณตายหรอกครับ มันมีแต่จะจรรโลงให้โลกใบนี้ น่าอยู่ขึ้น การที่คุณบ่นถึงแต่สิ่งไม่ดีของตัวเอง และคนอื่น ทั้งหมด มันจะกลับมาหาตัวคุณเองนั่นล่ะครับ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 08:11:50
ลองดู ราคา กะบะ ต่างประเทศแล้วยังครับผม

ทำไมคุณ มีความคิดเช่นนี้

รถ spec เดียวกับตัวนอกมีครับ

ว่าแต่ พอมีแล้ว คุณจะซื้อไหม เค้าไม่ได้ห้ามซื้อครับ

ซื้อ สิ ซื้อเข้าไป ตัว Top

คุณ ภาพ นะไม่ได้ต่างหรอก
ที่ต่างนะคือ Option



หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: reyeshenry ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 08:41:08
ปัญหาคือ คนควบคุมราคา และอ๊อฟชั่น คือ ผู้ประเทศเทศผู้ให้กำหนดแบรนด์ครับ
ประเทศเราเป็นแค่ฐานการผลิต เราไม่มีอำนาจไปกำหนดราคารถได้
คนที่จะกำหนด โน่นครับ บริษัทแม่..... คุณต้องไปถามเขาดูครับ

หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Direct ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 09:39:45
เข้ามาเห็นด้วยกับ จขกท.ครับ
ถ้าใครเคยสัมผัสรถยนต์รุ่นเดียวกันเมื่อเทียบใน ประเทศไทย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สเปน ฯลฯ จะได้เห็นตั้งแต่ความแตกต่างตอนที่
รถมันประกอบออกมาเป็นคันๆ ระบบช่วงล่าง เครื่องยนต์ เกียร์ ออปชั่นต่างๆ แตกต่างอย่างชัดเจน

พอมองให้ลึกเข้าไปก็จะเป็นเรื่องของความซีเรียสในการประกอบ รถไทยไม่ได้ซีเรียสมาก เมื่อเทียบกับ ตปท. ที่มีกฏหมายในการควบคุม
อย่าว่าแต่การประกอบเพียงอย่างเดียวเลยครับ การทำสี การเชื่อมโลหะ แม้กระทั่งตัว Material ที่เอามาทำรถยนต์ก็ต่างกันมากมาย

ผมจะยกตัวอย่างแค่การเชื่อมแล้วกันนะครับ : ในบางประเทศ เขาจะมีกฏหมายควบคุมการเชื่อมโลหะว่า จุดไหนที่ "จำเป็น" ต้องมีบ้าง
รู้ไหมครับ รถนอกการเชื่อมประตู ตัวถัง จุดที่จำเป็นบางจุดมีมากกว่า 4 จุดขึ้นไป ขณะที่ประเทศไทยมีแค่ 1 หรือ 2 เท่านั้น
แต่ผู้บริโภคจะรู้หรือไม่? เพราะสุดท้ายแล้วรถออกมาเป็นคัน ไม่มีใครเห็นรอยเชื่อมหรอกครับ หลายๆครั้งที่เกิดปัญหาของเสียงดังบ้าง
เอาเข้าศูนย์ช่างแก้ไม่หายบ้าง เป็นปัญหาเรื้อรังระยะยาว ไม่ใช่เพราะการประกอบเพียงอย่างเดียวนะครับ จุดเชื่อมต่างๆก็ส่งผล
แล้วเวลามีปัญหาขึ้นมา การตรวจสอบมันไม่ครบหรอกครับ รถบางคันหลุดออกไปขายเยอะแยะแล้ว แต่ผู้บริโภคเข้าใจกันเองว่า
รถมันผ่านการตรวจสอบมาทุกๆคัน อย่าลืมนะครับว่า เราผลิตรถส่งขายในประเทศ และนอกประเทศ ยิ่งประเทศไหนขายยาก
เรายิ่งต้องเอากำลังคนไปตรวจสอบในประเทศนั้นๆ เยอะกว่าประเทศที่ขายได้ง่ายกว่า จริงมั๊ยครับ?

และอีกหลายๆเรื่องที่ ตปท. ใช้อุปกรณ์ต่างๆมาเป็นพื้นฐานของรถทุกรุ่น ขณะที่บ้านเรายังด้อยเรื่องนี้ครับ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: rapee001 ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 10:09:41
ผมว่าจริงๆแล้วอำนาจทั้งหมดมันอยู่ที่มือผู้บริโภคครับ

ถ้าไม่พอใจก็ไม่ต้องซื้อ เงินทั้งหมดอยู่ในมือของท่าน

ว่ากันต่อ

ลูกค้าทางยุโรป,อเมริกา ทางนั้นเงินเค้าหนา เค้าไม่มาสนรถถูกๆเหล็กบางๆหรอกครับ เค้าสามารถซื้อรถดีๆตั้งสองสามคันได้

ส่วนลูกค้าทางประเทศที่ 3 ที่เกินครึ่งยังใช้เดือนชนเดือนอยู่นั้น เค้าต้องการใช้รถที่ประหยัดทุกอย่างตั้งแต่ค่าซื้อยันค่าซ่อม
ดังนั้น ทางผู้ผลิตก็เลยต้องลดต้นทุนลงมาให้ได้มากที่สุดโดยไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกโดนเอาเปรียบ  ดังนั้นรถบ้านเราจึงได้รู้สึกขาดๆเกินๆ
ิอย่างที่เว็บ headlight เห็นเนี่ยล่ะครับ

สรุปแล้ว "เงินอยู่ในมือของท่าน ไม่พอใจก็ไม่ต้องซื้อ"
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Tui_PSG ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 10:12:44
สำหรับประเทศไทย ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อย่าหวังเลยครับกับมาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Tee+...Lek ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 10:16:30
ถ้าคิดจะปิดกั้น ไม่รับฟังความเห็นของคนอื่น
ถ้าคิดว่า ยังไงๆ คนไทย ก็ซวย และเป็นเบี้ยล่างอยู่ร่ำไป

ผมของดแสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้ครับ

ิเบื่อมาก กระทู้แบบนี้  5 ปีผ่านไป ก็ยังคงมีกระทู้แบบนี้เหมือนเดิม
ไม่เห็นจะมีพัฒนาการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ไอ้คนทำงาน แม่งก็พยายามแทบตาย
แต่สุดท้าย มุมมองผู้บริโภค ก็ยังไมยอมเปลี่ยน

ตกลง บริาษัทรถไม่ยอมเปลี่ยน หรือวิธีคิดผู้บริโภค มันไม่เปลี่ยนกันแน่???


ผมเห็นด้วยกับคุณ J!MMY เรื่องนี้เลยครับ

โดยส่วนตัวแล้ว เมื่อเทียบกับ 10 ปีที่ผ่านมา เรื่องความปลอดภัยในรถยนต์ เรามาไกลมากแล้วนะครับ

ปัจจุปัน ABS ถือเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของกระบะทุกรุ่น และเริ่มจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถขนาดเล็กแล้ว

สำหรับคนที่บ่นๆ เรื่องความเท่าเทียมกัน ลองมองในมุมของ "ผู้ผลิต" บ้างนะครับ เอาง่ายๆ แค่เรื่องความปลอดภัยในรถ มีกี่ครั้งที่ระบบเบรค ระบบการทรงตัว ช่วยให้รอดพ้นจากอุบัติเหตุ หรือมีแล้วคงไม่เกิดเรื่อง แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังคงคำนึงเรื่องราคาและความสวยงามภายนอกเป็นหลัก แล้วจะให้เค้าอัดระบบความปลอดภัยมาเต็ม แต่ราคาขึ้นก็โดนด่าอีก อย่างที่คุณ J!MMY เคยบอกในรายการวิทยุ Drive by J!MMY เมื่อเสาร์ที่แล้ว

"ไม่รู้จะเอาใจลูกค้ายังไงให้พอใจ"

ส่วนเรื่อง QC โดยส่วนตัวแล้ว ต้องมองเป็นรายๆ ไปครับ อย่าเหมารวมเข่งทั้งตลาด

อ๋อ สุดท้าย ที่บ้านตัดสินใจเลือก Camry HV Premier เพราะเรื่องความสะดวกสบาย และอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ให้มาครับ ซึ่งแน่นอนว่าต้องจ่ายเพิ่มกว่าปรกติ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ipong ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 10:51:38
ผมมองว่าเราคงต้องดูที่ราคาก่อนภาษีครับ. แล้วถึงจะบอกได้ว่าบ้านเราขายแพงกว่า. ตปท จริงไหม

ส่วนตัวผมเห็นด้วยกับเจ้าของกระทุ้ครับ. แต่สำหรับบางเจ้าเท่านั้น เพราะเราจะเห็นได้ว่ารถบางยี่ห้อใส่ออปชั่นต่างๆๆได้มากกว่าในราคาเท่าๆๆกันกับรถตลาดในบ้านเรา

แต่รถยี่ห้อดังในบ้านเรากลับมีออปชั่นใกล้เคียงกับเจ้าอื่นๆ(หรือถูกกว่า) ในต่างประเทศ

คำถาม เราโดนเขาเอาเปรียบ. จริงไหมครับ. หรือแค่คิดไปเอง

ป.ล. อย่าตอบเลยครับ ว่าผู้บริโภคเลือกเอง. ทำให้รถค่ายดังๆๆไม่ยอมใส่ออปชั่นดีๆๆมา มันเรียกธรรมมาภิบาลครับ. ทำไม iPhone. ที่เมกา. หรือประเทศอื่นๆๆถึงมีราคาใกล้เคียงกัน แต่ไม่เห็นต้องตัดออปชั่นอะไรไปเลยครับ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: GoatGoat ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 10:59:47
เปิดใจก่อนกับคำว่าคุณภาพของคุณอาจไม่ใช่คุณภาพของคนส่วนใหญ่หรือเปล่าครับ
พื้นฐานและมุมมองผู้บริโภคในการซื้อรถยนต์ของคนไทยส่วนใหญ่กับพวกตะวันตกต่างกันครับ แล้วเราจะคาดหวังว่า spec รถยนต์มันจะเท่ากันได้อย่างไร ถ้าต้องการ spec นอก ระบบจัดเต็ม ในตลาดเค้าก็มีตัวเลือก Ford มี Volvo ไงครับ ใช้ 3-5 ปีแล้วขาย ราคามือ 2 ช่างมันแบบที่ฝรั่งเค้าทำกัน

เงินอยู่ในมือเราที่เป็นผู้บริโภคครับ รถยนต์คันไหนไม่ตอบโจทย์ ก็ไม่ต้องซื้อครับ
ที่ตลาดมันเป็นแบบนี้เพราะสินค้าของเจ้าตลาดเค้าตอบโจทย์และขายได้สำหรับคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ครับ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: 6162002 ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 11:39:16
ถ้าอยากได้ออพชั่นเยอะๆ

ไม่ยากครับ คนทั้งประเทศไปซื้อ ฟอร์ด ให้หมดเลย แล้วช่วยๆกันเน้นด้วย ว่าซื้อฟอร์ดเพราะออพชั่นเยอะกว่ารถระดับเดียวกัน

เดี๋ยวรายอื่น ปรับออพชั่นให้เองแหละครับ

ของอย่างนี้มันจะได้มา ก็ด้วยการแข่งขันกับคู่แข่ง ไม่ใช่เสียงผู้บริโภคครับ  การขายรถมันเป็น Business ไม่ใช่การกุศล

ดู HONDA เดี๋ยวนี้ Safety พื้นฐานครบ มี E85 อีก   พวกนี้เขาไม่ได้ติดมาเพราะมีใครไปเรียกร้อง  แต่มันมาเพราะบริษัทเขาต้องการอำนาจในการแข่งขันที่เหนือกว่าครับ


ส่วนตัวผมเห็นด้วยแค่บางส่วนกับที่พี่ Jimmy พูด ว่าคนทำงานพยายามกันเต็มที่แล้ว  อาจจะพยายามให้ระดับบนๆยอม แต่สุดท้าย ระดับสูงมันยอมเพราะคู่แข่ง ไม่ได้ยอมเพราะคนทำงานที่คุณ Jimmy พูดถึงหรอกครับ

หลายปีก่อน ผมจำได้ว่า คุณ Jimmy เคยพยายามบอกว่า การติดพวก ESC มันเป็นต้นทุนที่สูงเกินไป Toyota ในสมัยนั้น ก็ทำไม่ได้ รถมันจะแพงเว่อๆๆๆๆ
หลังจากนั้นไม่กี่เดือน Fiesta เปิดมา มีทุกอย่างเลยครับ..... (คนที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ คงรู้ดีนะครับ ว่าถ้า Toyota จะซื้อ หรือทำอะไร มันจะมีต้นทุนสักแค่ไหน?? ในเมื่อเขาบีบให้ Supplier ลดราคาตลอดเวลา)
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: muza ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 11:45:12
555
ไม่รู้เอาตัว Top ออฟชั่นหนักๆ มาทำไม
สุดท้ายตัว ขายดีสุดมักเป็นตัว เริ่มต้น

ออฟชั่นเทพ ๆ มีประโยชน์ แค่เขียนอวดใบโบรชัวร์

ปล โดน มากนะไม่ใช่ทุกรุ่นอะครับ^^"
 ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 11:52:34
นั่นไงคุณ Jimmy ก็เข้ามาแล้ว ถ้าไม่เปิดใจยอมรับความเห็นของคนอื่นบ้างก็ไม่ได้แสดงความเห็นกันดีดีหรอก
นิยามความหมายของบริษัท  หลายคนทำงานตามบริษัทนะเข้าใจ
-คุณภาพคืออะไรคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการ  ลุกค้ากลุ่มใดกลุ่มไหน ที่เขาต้องการซื้อรถ
-  Option  ตลาดต้องการแบบไหน DVD GPS เบาะหนัง  อย่างอื่น เขาไม่ต้องการ
- วัสดุที่ใช้ในการผลิตมันจะแตกต่างกันไปตามกฎหมายของประเทศนั้น ๆ 
- สุดท้ายคือราคาที่แข่งขันได้

   ================================
   รถสเปกนอกทั้งคันคนไทยซื้อไหม

   1.  Fortuner 2.7 4x4 fulltime ปี 2005-2007 
  คำตอบคนไทยต้องการรถ 2wd  จึงต้องมีการปรับเสปกใหม่หมด  ออกรุ่นแพนเค้กออกมา    ทำให้รถด้อยกว่าเดิมแต่ตลาดประเทศไทยต้องการ

   2. Nissan Pulsar Turbo  สเปกนอกแทบทั้งหมด 
   คำตอบคนไทยซื้อเพียง 45  คัน  1 ในนั้นคือพนักงาน Nissan ที่ซื้อไป

   3. Vigo สเปกยุโรป
   มีทั้งฉีดน้ำล้างไฟหน้า  แอร์ออโต   ไฟตัดหมอกหลัง Diff lock 
คำตอบ  คนไทย ไม่อาแอร์ออโต  Heater ไม่เอา  4wd  ไม่เอา  ไฟตัดหมอกหลังเดี๋ยวมาด่ากันอีก ไม่เอา     แต่จะเอาเบาะหนัง DVD   

  4.  Ford Wildtrack  3.2  AT 4x4 
  คำตอบคนไทยเลือก 2.2 MT Hirider  อย่างอื่นไม่เอา

  5. Ford EV   New Fortuner   
  ผมว่าคนไทยเลือก 2.2 เลือกรุ่นล่าง  ก็เยอะ    Option ไม่ค่อยมองหรอก 4wd  ระบบช่วยเหลือ คงไม่เอาหรอก

   6. Hilux ตอนเดียว 4x4    Triton ตอนเดียว 4x4     Ford  ตอนเดียว 4x4
  รถเสปกต่างประเทศโดยตรง     คนไทยซื้อกี่คนครับ  คนส่วนใหญ่ยังงงว่าใครจะซื้อ  ไม่ได้รู้จักรถเล้ย

*************************************************************************
  ราคารถวีโก้ในต่างประเทศ คันล่ะ 1.5 ล้านมานานแล้ว    บ้านเรา  Hilux Revo  ออกอ๊อพชั่นมาราคาขนาดนี้คนด่าเพียบ    ถ้าขายกระบะเริ่มต้นคันล่ะล้าน  ราคาปลายที่ 2 ล้านสงสัยต้องปิดกิจการไปตั้งประเทศอื่น
  คำตอบมันก็อยุ่ที่กล่าวมานั้นแหละ   เจ้าของกระทู้คุณ Ivy   จะยอมรับมันได้หรือไม่    หรือจะใช้ตรรกะของตัวเองอีกว่าบริษัทรถต้องเพิ่ม Value   แบบนั้นแบบนี้    โอเวอร์ตัวเองจนล้น เพื่อให้แข่งขันได้ในราคาเท่าเดิม


  ผมไม่ใช่พวกองุ่นเปรี้ยวหรือเฮตามเนต      ผมเขียนบทความลงเวปในเนตกลุ่ม       ผมเลือกรถก็พิจารณารถในประเทศ option ที่คุ้มกับเราจริงและยินดีจ่ายที่จ่ายไหว    คือผมต้องการและจ่ายได้ไม่ใช่ซื้อตัวล่าง กระบะพรีรันเนอร์  ผมจึงกล้าพูดได้ว่าต้องการอะไร แบบไหนจึงคุ้มถ้าจ่ายไม่ไหวก็ไม่ซื้อ   แค่นั้นเอง
คนมีเงินเค้าก็ซื้อรถสเปกต่างประเทศหรือรถนำเข้าไปก็มีเยอะเพราะไม่พอใจ option รถขายไทยแล้วแต่จะเลือก
หรือไม่ก็เลือกตัว Top ไปเลย แต่คนส่วนใหญ่เขาไม่เห็ปนระโยชน์เพราะคนบ้านเรามีรถแค่พอขับได้   ไม่สนใจ option
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: sith(สิทธิ์) ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 11:55:14
นั่นไงคุณ Jimmy ก็เข้ามาแล้ว ถ้าไม่เปิดใจยอมรับความเห็นของคนอื่นบ้างก็ไม่ได้แสดงความเห็นกันดีดีหรอก
นิยามความหมายของบริษัท  หลายคนทำงานตามบริษัทนะเข้าใจ
-คุณภาพคืออะไรคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการ  ลุกค้ากลุ่มใดกลุ่มไหน ที่เขาต้องการซื้อรถ
-  Option  ตลาดต้องการแบบไหน DVD GPS เบาะหนัง  อย่างอื่น เขาไม่ต้องการ
- วัสดุที่ใช้ในการผลิตมันจะแตกต่างกันไปตามกฎหมายของประเทศนั้น ๆ 
- สุดท้ายคือราคาที่แข่งขันได้

   ================================
   รถสเปกนอกทั้งคันคนไทยซื้อไหม

   1.  Fortuner 2.7 4x4 fulltime ปี 2005-2007 
  คำตอบคนไทยต้องการรถ 2wd  จึงต้องมีการปรับเสปกใหม่หมด  ออกรุ่นแพนเค้กออกมา    ทำให้รถด้อยกว่าเดิมแต่ตลาดประเทศไทยต้องการ

   2. Nissan Pulsar Turbo  สเปกนอกแทบทั้งหมด 
   คำตอบคนไทยซื้อเพียง 45  คัน  1 ในนั้นคือพนักงาน Nissan ที่ซื้อไป

   3. Vigo สเปกยุโรป
   มีทั้งฉีดน้ำล้างไฟหน้า  แอร์ออโต   ไฟตัดหมอกหลัง Diff lock 
คำตอบ  คนไทย ไม่อาแอร์ออโต  Heater ไม่เอา  4wd  ไม่เอา  ไฟตัดหมอกหลังเดี๋ยวมาด่ากันอีก ไม่เอา     แต่จะเอาเบาะหนัง DVD   

  4.  Ford Wildtrack  3.2  AT 4x4 
  คำตอบคนไทยเลือก 2.2 MT Hirider  อย่างอื่นไม่เอา

  5. Ford EV   New Fortuner   
  ผมว่าคนไทยเลือก 2.2 เลือกรุ่นล่าง  ก็เยอะ    Option ไม่ค่อยมองหรอก 4wd  ระบบช่วยเหลือ คงไม่เอาหรอก

   6. Hilux ตอนเดียว 4x4    Triton ตอนเดียว 4x4     Ford  ตอนเดียว 4x4
  รถเสปกต่างประเทศโดยตรง     คนไทยซื้อกี่คนครับ  คนส่วนใหญ่ยังงงว่าใครจะซื้อ  ไม่ได้รู้จักรถเล้ย

*************************************************************************
  ราคารถวีโก้ในต่างประเทศ คันล่ะ 1.5 ล้านมานานแล้ว    บ้านเรา  Hilux Revo  ออกอ๊อพชั่นมาราคาขนาดนี้คนด่าเพียบ    ถ้าขายกระบะเริ่มต้นคันล่ะล้าน  ราคาปลายที่ 2 ล้านสงสัยต้องปิดกิจการไปตั้งประเทศอื่น
  คำตอบมันก็อยุ่ที่กล่าวมานั้นแหละ   เจ้าของกระทู้คุณ Ivy   จะยอมรับมันได้หรือไม่    หรือจะใช้ตรรกะของตัวเองอีกว่าบริษัทรถต้องเพิ่ม Value   แบบนั้นแบบนี้    โอเวอร์ตัวเองจนล้น เพื่อให้แข่งขันได้ในราคาเท่าเดิม


  ผมไม่ใช่พวกองุ่นเปรี้ยวหรือเฮตามเนต      ผมเขียนบทความลงเวปในเนตกลุ่ม       ผมเลือกรถก็พิจารณารถในประเทศ option ที่คุ้มกับเราจริงและยินดีจ่ายที่จ่ายไหว    คือผมต้องการและจ่ายได้ไม่ใช่ซื้อตัวล่าง กระบะพรีรันเนอร์  ผมจึงกล้าพูดได้ว่าต้องการอะไร แบบไหนจึงคุ้มถ้าจ่ายไม่ไหวก็ไม่ซื้อ   แค่นั้นเอง
คนมีเงินเค้าก็ซื้อรถสเปกต่างประเทศหรือรถนำเข้าไปก็มีเยอะเพราะไม่พอใจ option รถขายไทยแล้วแต่จะเลือก
หรือไม่ก็เลือกตัว Top ไปเลย แต่คนส่วนใหญ่เขาไม่เห็ปนระโยชน์เพราะคนบ้านเรามีรถแค่พอขับได้   ไม่สนใจ option
ผมก็ว่าตามนี้
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 11:56:07
555
ไม่รู้เอาตัว Top ออฟชั่นหนักๆ มาทำไม
สุดท้ายตัว ขายดีสุดมักเป็นตัว เริ่มต้น

ออฟชั่นเทพ ๆ มีประโยชน์ แค่เขียนอวดใบโบรชัวร์

ปล โดน มากนะไม่ใช่ทุกรุ่นอะครับ^^"
 ;D ;D ;D
  ออฟชั่นเทพ ๆ มีประโยชน์ แค่เขียนอวดใบโบรชัวร์  

ผมว่าท่านก็กล่าวเกินไป   ถ้ามันมีแค่นั้นจริงผมคงโง่มาตลอด ที่ยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อสิ่งที่มีประโยชน์แค่กระดาษ 
คือรถที่ไม่มี Option เลยมันก็ขับได้  แต่ฟิลลิ่งหรือ ลูกเล่นความสบายมันก้สู้รถระดับบน ๆ ไม่ได้  ไม่งั้นรถมันจะแยก Segment กันทำไม
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 12:04:23
ผมว่าสิ่งที่บริษัทรถยนต์บ้านเราอาจทำพลาดไปหน่อยก็คือ    การให้รถที่มีเสปกและระดับราคา Option  เหมาะกับคนไทยเพียงอย่างเดียว
แต่ไม่ได้ให้รถที่ขายต่างประเทศในโซนออสเตรเลียและยุโรปมาให้บ้านเราใช้เป็นทางเลือกด้วย

  อย่างเช่น Fortuner  Top มาราคา 1.599 ล้านบาท
ถ้าจะเปลี่ยนใหม่ดีไหม     แยกอีกกลุ่มนึงเป็น  Vip Top  ไปอีกเกรดนึง คือสเปกเดียวกับที่ขายออสเตรเลียมาด้วย ไม่หวังยอดขายมากนักราคาอาจนำโด่งไปเลย 1.7-1.8 ล้านบาท   แยกกับลูกค้ากลุ่มในประเทศส่วนใหญ่ที่ต้องการรถแค่พอขับได้ หน้าตาฟอร์จูเนอร์
  รถยี่ห้ออื่น ๆ  ก็เหมือนกัน ทำอย่าง Pulsar Turbo ราคา1ล้าน  คือให้มีทางเลือกกับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสเปกต่างประเทศไปเลยโดยไม่หวังยอดขายมากนัก       

 ==========================================
ถ้าทำแบบนี้กลุ่มลูก้าที่ต้องการทางเลือกที่ดีกว่าหรือแตกต่างจากรถตลาดทั่ว ๆ ไปที่เห็นกันอยู่จะได้จ่ายเงินซื้อได้ ไม่ต้องซื้อรถนำเข้า
 แต่เชื่อสิทำแบบนี้คนต้องด่าว่าแพง  อีกทั้งบริษัทรถก็ไม่แฮปปี้กับยอดขายเท่าไหร่  ที่ดูเหมือนทำมาเพื่อขาดทุนมากกว่าในการออกรุ่นพิเศษเข้ามา
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Yangyang ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 12:07:59
อย่าว่าแต่ต่างประเทศเลยครับ
ในไทยเอง รถ segment เดียวกันราคาพอๆกัน บางยี่ห้อยังด้อยกว่ากันชัดเจน ทั้งคุณภาพของวัสดุ การขับขี่ แม้แต่ option
ทำไมยี่ห้อที่ให้เยอะกว่าถึงยังมีกำไรอยู่ แสดงว่ายี่ห้อที่ให้น้อยกว่าลดต้นทุนจนเกินเหตุ? หรือคิดว่าตัวเองได้เปรียบเรื่องแบรนด์? ทำมายังไงก็ขายได้?
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 12:36:40
เข้ามาเห็นด้วยกับ จขกท.ครับ
ถ้าใครเคยสัมผัสรถยนต์รุ่นเดียวกันเมื่อเทียบใน ประเทศไทย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สเปน ฯลฯ จะได้เห็นตั้งแต่ความแตกต่างตอนที่
รถมันประกอบออกมาเป็นคันๆ ระบบช่วงล่าง เครื่องยนต์ เกียร์ ออปชั่นต่างๆ แตกต่างอย่างชัดเจน

พอมองให้ลึกเข้าไปก็จะเป็นเรื่องของความซีเรียสในการประกอบ รถไทยไม่ได้ซีเรียสมาก เมื่อเทียบกับ ตปท. ที่มีกฏหมายในการควบคุม
อย่าว่าแต่การประกอบเพียงอย่างเดียวเลยครับ การทำสี การเชื่อมโลหะ แม้กระทั่งตัว Material ที่เอามาทำรถยนต์ก็ต่างกันมากมาย

ผมจะยกตัวอย่างแค่การเชื่อมแล้วกันนะครับ : ในบางประเทศ เขาจะมีกฏหมายควบคุมการเชื่อมโลหะว่า จุดไหนที่ "จำเป็น" ต้องมีบ้าง
รู้ไหมครับ รถนอกการเชื่อมประตู ตัวถัง จุดที่จำเป็นบางจุดมีมากกว่า 4 จุดขึ้นไป ขณะที่ประเทศไทยมีแค่ 1 หรือ 2 เท่านั้น
แต่ผู้บริโภคจะรู้หรือไม่? เพราะสุดท้ายแล้วรถออกมาเป็นคัน ไม่มีใครเห็นรอยเชื่อมหรอกครับ หลายๆครั้งที่เกิดปัญหาของเสียงดังบ้าง
เอาเข้าศูนย์ช่างแก้ไม่หายบ้าง เป็นปัญหาเรื้อรังระยะยาว ไม่ใช่เพราะการประกอบเพียงอย่างเดียวนะครับ จุดเชื่อมต่างๆก็ส่งผล
แล้วเวลามีปัญหาขึ้นมา การตรวจสอบมันไม่ครบหรอกครับ รถบางคันหลุดออกไปขายเยอะแยะแล้ว แต่ผู้บริโภคเข้าใจกันเองว่า
รถมันผ่านการตรวจสอบมาทุกๆคัน อย่าลืมนะครับว่า เราผลิตรถส่งขายในประเทศ และนอกประเทศ ยิ่งประเทศไหนขายยาก
เรายิ่งต้องเอากำลังคนไปตรวจสอบในประเทศนั้นๆ เยอะกว่าประเทศที่ขายได้ง่ายกว่า จริงมั๊ยครับ?

และอีกหลายๆเรื่องที่ ตปท. ใช้อุปกรณ์ต่างๆมาเป็นพื้นฐานของรถทุกรุ่น ขณะที่บ้านเรายังด้อยเรื่องนี้ครับ

เข้ามาตอบในฐานะคนที่ทำงาน อยู่ ในอุตสหกรรม ยานยนต์
ข้อมูล คุณ มั่วหน้า ด้านๆๆ มากครับ
รถยนต์ผลิต ตามแบบ แบบ มันก็เหมือนกันหมด ไม่ว่าจะ ขายประเทศไหน
ไม่มี หรอกครับ ลดจุดเชื่อม
เค้าผลิตงาน ตาม ข้อกำหนด จาก OEM ไม่ได้นึกอยากลดหรือเพิ่มได้คุณพูดแบบนี้ คุณเอาหลักฐานมาครับ
เค้าไม่เขียนแบบ ออกมาเพื่อ ลดจุดเชื่อม เฉพาะ บ้านเราหรอกครับ
รถที่คุณ พูดถึง นี่ รถซาเล้งรึเปลาครับ มาลดจุดเชื่อม เฉพาะขายประเทศไทยนี่

เท่าที่ผมเห็น วัสดุอุปกรณ์ ทุกอย่าง ทำตามแบบ หมด
สิ่งที่ต่างคือ Option

รถหนึ่งคัน มี รหัส รุ่น มากเป็น 10 เป็นร้อย แบ่ง ตาม สี option ประเทศที่จำหน่าย
ทั้งที่ ผลิต จากโรงงานเดียวกัน

ตลอดเวลา ที่ทำงานมา สิ่งที่ต่างมีแค่ Option ไม่ใช่ คุณภาพ ครับ

หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ไทบ้าน ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 12:48:42
รถบางยี่ห้อทำบางๆ กระป๋องกระแป๋ง แต่อาศัยดีไซน์สวยกลับขายดีกว่ารถที่ไม่ลดต้นทุน ในเมื่อยังขายได้แล้วจะไปเพิ่มคุณภาพทำไม (ประเทศด้วยพัฒนาก็งี้แหละ..คนศึกษาน้อย)
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 12:54:15
รถบางยี่ห้อทำบางๆ กระป๋องกระแป๋ง แต่อาศัยดีไซน์สวยกลับขายดีกว่ารถที่ไม่ลดต้นทุน ในเมื่อยังขายได้แล้วจะไปเพิ่มคุณภาพทำไม (ประเทศด้วยพัฒนาก็งี้แหละ..คนศึกษาน้อย)

ใช่เลยครับ
นี่ละคนไทย
เคาะรถ ก็รู้แล้วว่า รถมันห่วย 555555

ต่างประเทศ เค้าศึกษาเยอะ นี่ เค้าจะเคาะรถ แล้วบอก คันนั้นมันไร้คุณภาพด้วยป่าวครับ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 13:08:06
เห็นมาการยกตัวอย่างถึงพัลซ่าร์เทอร์โบว่ารถเทคโนโลยีทันโลกใส่ออพชั่นมาให้ครบแต่ไม่น่าซื้อ งั้นเรามาดูกันว่าถึงวันที่ซีวิคเทอร์โบฉีดตรงวางขายคำพูดแนวนี้จะยังคงอยู่ไหม  :-X ผมว่าอีกปัญหาหนึ่งของคนไทยคือการไม่ยอมรับความแตกต่างจากสิ่งที่ตัวเองคุ้นเคยครับ นานมาแล้วตอนนิสสันหันมาใช้CVTใหม่ๆใครๆก็ก่นด่าว่าพังง่ายไร้อารมณ์ แต่พออัลติสใส่CVTมาบ้างเสียงก่นด่ากลายเป็นชื่นชมว่าCVTมันให้แรงบิดต่อเนื่องดีนะ ที่ใส่ในHRVยาริสอีโคคาร์ก็ไม่มีการก่นด่าเหมือนในคราวนิสสันเลย กาลายเป็นยัมรับได้โดยง่ายซะงั้นทั้งที่CVTของนิสสันมีประวัติดีกว่าไม่เคยสร้างชื่อเสียงว่าเปราะบางพังง่ายเหมือนคราวที่เคยใส่ในแจ๊สรุ่นแรก  :-\ ฟอร์ดเอาESPกับแอร์แบกครบครัยใส่มาให้เป็นรายแรกในรถขนาดเล็ก สังคมเมิน....อืมเหรองั้นๆอ่ะ แต่พอซิตี้ใส่มาบ้างเป็นที่ฮือฮากลายเป็นพูดกันว่าฮอนด้าดีงามที่กล้าใส่ระบบพวกนี้มาให้เป็นรายแรกในรถขนาดเล็ก....อ้าวฟอร์ดหายไปไหนฟพ? ถัดมาหน่อยพอฟอร์ดเอาเครื่องecoboostมาใส่ในเฟียสต้ากระแสมาเลยจ้ะใส่มาทำไมล้ำเกินไปใครมันจะซ่อมได้ บ้างก็ว่าคนไทยไม่ต้องการเครื่องล้ำขนาดนี้ใส่มาทำไมให้รถแพงเอาเครื่องเดิมๆซ่อมง่ายๆอะไหล่มือสองเยอะๆแบบในอัลติสยังดีซะกว่า พอมีข่าวว่าซีวิครุ่นใหม่จะใส่เครื่องเล็กฉีดตรงบ้างกลายเป็นฮือฮา เจ๋งว่ะอยากได้ นี่แหละที่ใจปราถนา อ้าวววววทำไมยอมรับง่ายกันอีกแล้ว ตอนในพัลซ่าร์ก็มีมาก่อนนะแล้วแรงจี๊ดจ๊าดด้วย แต่กลับโดดนด่าว่าCVTไร้อารมณ์.....แต่พอซีวิคใหม่จะมาพร้อมCVTกลับไม่มีใครด่าเลย  :'(

รถที่วางขายในปัจจุบันนี้เป็นรถในอุดมคติที่เมื่อสิบปีก่อนเคยอยากได้และต่างพูดกันว่าทำไม่ได้ไม่มีอยู่จริง อยากได้ไปอยู่เมืองนอกนู่น แต่ตอนนี้มันแล่นตรงหน้ากันแล้วครับ  :-X กลายเป็นว่าค่ายรองห้ามยัดออพชั่นมาให้เยอะเกินหน้าเกินตาค่ายรถขายดีนะไม่มีประโยชน์หรอก ต้องรอให้เจ้าตลาดออกนำหน้ามาก่อนเท่านั้นเทคโนโลยิ/ออพชั่นนั้นๆถึงจะเป็นที่ยอมรับได้ เดี๋ยวคอยดูเกียร์8ระดับในปาเจโร่แล้วกัน ตอนนี้ยังมีพูดถึงเลยว่าเกินตัวใส่มาทำไมไม่จำเป็น  ???
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 16:33:47
เห็นมาการยกตัวอย่างถึงพัลซ่าร์เทอร์โบว่ารถเทคโนโลยีทันโลกใส่ออพชั่นมาให้ครบแต่ไม่น่าซื้อ งั้นเรามาดูกันว่าถึงวันที่ซีวิคเทอร์โบฉีดตรงวางขายคำพูดแนวนี้จะยังคงอยู่ไหม  :-X ผมว่าอีกปัญหาหนึ่งของคนไทยคือการไม่ยอมรับความแตกต่างจากสิ่งที่ตัวเองคุ้นเคยครับ นานมาแล้วตอนนิสสันหันมาใช้CVTใหม่ๆใครๆก็ก่นด่าว่าพังง่ายไร้อารมณ์ แต่พออัลติสใส่CVTมาบ้างเสียงก่นด่ากลายเป็นชื่นชมว่าCVTมันให้แรงบิดต่อเนื่องดีนะ ที่ใส่ในHRVยาริสอีโคคาร์ก็ไม่มีการก่นด่าเหมือนในคราวนิสสันเลย กาลายเป็นยัมรับได้โดยง่ายซะงั้นทั้งที่CVTของนิสสันมีประวัติดีกว่าไม่เคยสร้างชื่อเสียงว่าเปราะบางพังง่ายเหมือนคราวที่เคยใส่ในแจ๊สรุ่นแรก  :-\ ฟอร์ดเอาESPกับแอร์แบกครบครัยใส่มาให้เป็นรายแรกในรถขนาดเล็ก สังคมเมิน....อืมเหรองั้นๆอ่ะ แต่พอซิตี้ใส่มาบ้างเป็นที่ฮือฮากลายเป็นพูดกันว่าฮอนด้าดีงามที่กล้าใส่ระบบพวกนี้มาให้เป็นรายแรกในรถขนาดเล็ก....อ้าวฟอร์ดหายไปไหนฟพ? ถัดมาหน่อยพอฟอร์ดเอาเครื่องecoboostมาใส่ในเฟียสต้ากระแสมาเลยจ้ะใส่มาทำไมล้ำเกินไปใครมันจะซ่อมได้ บ้างก็ว่าคนไทยไม่ต้องการเครื่องล้ำขนาดนี้ใส่มาทำไมให้รถแพงเอาเครื่องเดิมๆซ่อมง่ายๆอะไหล่มือสองเยอะๆแบบในอัลติสยังดีซะกว่า พอมีข่าวว่าซีวิครุ่นใหม่จะใส่เครื่องเล็กฉีดตรงบ้างกลายเป็นฮือฮา เจ๋งว่ะอยากได้ นี่แหละที่ใจปราถนา อ้าวววววทำไมยอมรับง่ายกันอีกแล้ว ตอนในพัลซ่าร์ก็มีมาก่อนนะแล้วแรงจี๊ดจ๊าดด้วย แต่กลับโดดนด่าว่าCVTไร้อารมณ์.....แต่พอซีวิคใหม่จะมาพร้อมCVTกลับไม่มีใครด่าเลย  :'(

รถที่วางขายในปัจจุบันนี้เป็นรถในอุดมคติที่เมื่อสิบปีก่อนเคยอยากได้และต่างพูดกันว่าทำไม่ได้ไม่มีอยู่จริง อยากได้ไปอยู่เมืองนอกนู่น แต่ตอนนี้มันแล่นตรงหน้ากันแล้วครับ  :-X กลายเป็นว่าค่ายรองห้ามยัดออพชั่นมาให้เยอะเกินหน้าเกินตาค่ายรถขายดีนะไม่มีประโยชน์หรอก ต้องรอให้เจ้าตลาดออกนำหน้ามาก่อนเท่านั้นเทคโนโลยิ/ออพชั่นนั้นๆถึงจะเป็นที่ยอมรับได้ เดี๋ยวคอยดูเกียร์8ระดับในปาเจโร่แล้วกัน ตอนนี้ยังมีพูดถึงเลยว่าเกินตัวใส่มาทำไมไม่จำเป็น  ???

ผมว่า CVT มีชื่อเสีย มากจาก Jazz ไม่ใช่ นิสสันนะครับ  Honda นี่ละ ทำ CVT เสียชื่อ
และเท่าที่ผมเข้าใจ CVT คันแรกๆ ในบ้านเราก็ไม่ใช่ นิสสัน ? เข้าใจว่า Lancer รุ่นก่อนรึเปล่า

หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: localgame ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 16:39:42
555
ไม่รู้เอาตัว Top ออฟชั่นหนักๆ มาทำไม
สุดท้ายตัว ขายดีสุดมักเป็นตัว เริ่มต้น

ออฟชั่นเทพ ๆ มีประโยชน์ แค่เขียนอวดใบโบรชัวร์

ปล โดน มากนะไม่ใช่ทุกรุ่นอะครับ^^"
 ;D ;D ;D
  ออฟชั่นเทพ ๆ มีประโยชน์ แค่เขียนอวดใบโบรชัวร์  

ผมว่าท่านก็กล่าวเกินไป   ถ้ามันมีแค่นั้นจริงผมคงโง่มาตลอด ที่ยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อสิ่งที่มีประโยชน์แค่กระดาษ 
คือรถที่ไม่มี Option เลยมันก็ขับได้  แต่ฟิลลิ่งหรือ ลูกเล่นความสบายมันก้สู้รถระดับบน ๆ ไม่ได้  ไม่งั้นรถมันจะแยก Segment กันทำไม

http://community.headlightmag.com/index.php?topic=42749.0

honda hrv รุ่นขายดีสุดคือตัวท็อปครับ ตามที่คุณAuto บอกมามีเหตุผลนะครับ คนเราซื้อของดูจากราคาและคุณภาพ รถราคาหลายแสน บางคันแตะหลักล้าน
จะมาคิด5-10นาทีคงไม่พอ บางคนนั่งคิดกันเป็นเดือน วางแผนเลือกรุ่นย่อย ยกเว้นเงินเหลือจริงๆซื้อตัวท็อปไปเลยแบบไม่คิดมาก

ส่วนตัวผมมองต่าง ผมกลับมองว่ารุ่นกลางคือรุ่นที่ขายดีสุด
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: AkE ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 16:47:43
ซื้อคันที่สบายใจ คิดไรมากคับ ประเทศเราก้ไม่ได้แฟร์ไรกันมากมายอยู่แล้ว ซื้อคันที่ซื้อไหว ไม่ไหวก้เก็บตังไปก่อน อย่าไปซี
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: NeoZeLon ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 17:54:05
ผมมองว่า 80% ของคนที่เป็นสมาชิกเว็บบอร์ดนี้ เป็นผู้มีความรู้เรื่องออฟชั่น และสเปครถกันทั้งนั้น เลยทำให้มีความเห็นตรงกันว่า รถที่ผลิตขายในประเทศไทยด้อยกว่าเมืองนอก แต่สมาชิกในเว็บเป็นเป็นกี่เปอร์เซนต์ของสังคมไทยละครับ ? ผู้ผลิครถเขาก็คือผู้ผลิต ผลิตเพื่อขาย และต้องการกำไร ซึ่งก็เป็นสิทธิของเจ้าของกิจการ ซึ่งเขาคงได้ทำการสำรวจตลาดแล้วว่า รถแบบไหนเหมาะสมกับประเทศไทย ผมเชื่อว่าในอนาคตอีกไม่นาน วันที่ผู้คนส่วนใหญ่เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย (ปัจุบันนี้ก็ง่ายขึ้นกว่าสมัยก่อนมาก) ก็น่าจะทำให้ผู้บริโภคกดดันโดยการไม่ซื้อ เพื่อนผลักดันให้ผู้ผลิตทำรถที่ดีขึ้นได้เองแหละครับ ผิดพลาดประการได้ ขออภัยครับ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Mike ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 21:13:23
เห็นมาการยกตัวอย่างถึงพัลซ่าร์เทอร์โบว่ารถเทคโนโลยีทันโลกใส่ออพชั่นมาให้ครบแต่ไม่น่าซื้อ งั้นเรามาดูกันว่าถึงวันที่ซีวิคเทอร์โบฉีดตรงวางขายคำพูดแนวนี้จะยังคงอยู่ไหม  :-X ผมว่าอีกปัญหาหนึ่งของคนไทยคือการไม่ยอมรับความแตกต่างจากสิ่งที่ตัวเองคุ้นเคยครับ นานมาแล้วตอนนิสสันหันมาใช้CVTใหม่ๆใครๆก็ก่นด่าว่าพังง่ายไร้อารมณ์ แต่พออัลติสใส่CVTมาบ้างเสียงก่นด่ากลายเป็นชื่นชมว่าCVTมันให้แรงบิดต่อเนื่องดีนะ ที่ใส่ในHRVยาริสอีโคคาร์ก็ไม่มีการก่นด่าเหมือนในคราวนิสสันเลย กาลายเป็นยัมรับได้โดยง่ายซะงั้นทั้งที่CVTของนิสสันมีประวัติดีกว่าไม่เคยสร้างชื่อเสียงว่าเปราะบางพังง่ายเหมือนคราวที่เคยใส่ในแจ๊สรุ่นแรก  :-\ ฟอร์ดเอาESPกับแอร์แบกครบครัยใส่มาให้เป็นรายแรกในรถขนาดเล็ก สังคมเมิน....อืมเหรองั้นๆอ่ะ แต่พอซิตี้ใส่มาบ้างเป็นที่ฮือฮากลายเป็นพูดกันว่าฮอนด้าดีงามที่กล้าใส่ระบบพวกนี้มาให้เป็นรายแรกในรถขนาดเล็ก....อ้าวฟอร์ดหายไปไหนฟพ? ถัดมาหน่อยพอฟอร์ดเอาเครื่องecoboostมาใส่ในเฟียสต้ากระแสมาเลยจ้ะใส่มาทำไมล้ำเกินไปใครมันจะซ่อมได้ บ้างก็ว่าคนไทยไม่ต้องการเครื่องล้ำขนาดนี้ใส่มาทำไมให้รถแพงเอาเครื่องเดิมๆซ่อมง่ายๆอะไหล่มือสองเยอะๆแบบในอัลติสยังดีซะกว่า พอมีข่าวว่าซีวิครุ่นใหม่จะใส่เครื่องเล็กฉีดตรงบ้างกลายเป็นฮือฮา เจ๋งว่ะอยากได้ นี่แหละที่ใจปราถนา อ้าวววววทำไมยอมรับง่ายกันอีกแล้ว ตอนในพัลซ่าร์ก็มีมาก่อนนะแล้วแรงจี๊ดจ๊าดด้วย แต่กลับโดดนด่าว่าCVTไร้อารมณ์.....แต่พอซีวิคใหม่จะมาพร้อมCVTกลับไม่มีใครด่าเลย  :'(

รถที่วางขายในปัจจุบันนี้เป็นรถในอุดมคติที่เมื่อสิบปีก่อนเคยอยากได้และต่างพูดกันว่าทำไม่ได้ไม่มีอยู่จริง อยากได้ไปอยู่เมืองนอกนู่น แต่ตอนนี้มันแล่นตรงหน้ากันแล้วครับ  :-X กลายเป็นว่าค่ายรองห้ามยัดออพชั่นมาให้เยอะเกินหน้าเกินตาค่ายรถขายดีนะไม่มีประโยชน์หรอก ต้องรอให้เจ้าตลาดออกนำหน้ามาก่อนเท่านั้นเทคโนโลยิ/ออพชั่นนั้นๆถึงจะเป็นที่ยอมรับได้ เดี๋ยวคอยดูเกียร์8ระดับในปาเจโร่แล้วกัน ตอนนี้ยังมีพูดถึงเลยว่าเกินตัวใส่มาทำไมไม่จำเป็น  ???



ใช่เลย เอาไป10ล้านlike
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 21:21:33

ผมว่าเปลี่ยนหัวข้อมาเล่น Toyota อย่างเดียวก็พอ
เพราะค่ายอื่น รถเค้า ไม่กั๊ก นะครับ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Arado_kung ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 21:55:30
เห็นมาการยกตัวอย่างถึงพัลซ่าร์เทอร์โบว่ารถเทคโนโลยีทันโลกใส่ออพชั่นมาให้ครบแต่ไม่น่าซื้อ งั้นเรามาดูกันว่าถึงวันที่ซีวิคเทอร์โบฉีดตรงวางขายคำพูดแนวนี้จะยังคงอยู่ไหม  :-X ผมว่าอีกปัญหาหนึ่งของคนไทยคือการไม่ยอมรับความแตกต่างจากสิ่งที่ตัวเองคุ้นเคยครับ นานมาแล้วตอนนิสสันหันมาใช้CVTใหม่ๆใครๆก็ก่นด่าว่าพังง่ายไร้อารมณ์ แต่พออัลติสใส่CVTมาบ้างเสียงก่นด่ากลายเป็นชื่นชมว่าCVTมันให้แรงบิดต่อเนื่องดีนะ ที่ใส่ในHRVยาริสอีโคคาร์ก็ไม่มีการก่นด่าเหมือนในคราวนิสสันเลย กาลายเป็นยัมรับได้โดยง่ายซะงั้นทั้งที่CVTของนิสสันมีประวัติดีกว่าไม่เคยสร้างชื่อเสียงว่าเปราะบางพังง่ายเหมือนคราวที่เคยใส่ในแจ๊สรุ่นแรก  :-\ ฟอร์ดเอาESPกับแอร์แบกครบครัยใส่มาให้เป็นรายแรกในรถขนาดเล็ก สังคมเมิน....อืมเหรองั้นๆอ่ะ แต่พอซิตี้ใส่มาบ้างเป็นที่ฮือฮากลายเป็นพูดกันว่าฮอนด้าดีงามที่กล้าใส่ระบบพวกนี้มาให้เป็นรายแรกในรถขนาดเล็ก....อ้าวฟอร์ดหายไปไหนฟพ? ถัดมาหน่อยพอฟอร์ดเอาเครื่องecoboostมาใส่ในเฟียสต้ากระแสมาเลยจ้ะใส่มาทำไมล้ำเกินไปใครมันจะซ่อมได้ บ้างก็ว่าคนไทยไม่ต้องการเครื่องล้ำขนาดนี้ใส่มาทำไมให้รถแพงเอาเครื่องเดิมๆซ่อมง่ายๆอะไหล่มือสองเยอะๆแบบในอัลติสยังดีซะกว่า พอมีข่าวว่าซีวิครุ่นใหม่จะใส่เครื่องเล็กฉีดตรงบ้างกลายเป็นฮือฮา เจ๋งว่ะอยากได้ นี่แหละที่ใจปราถนา อ้าวววววทำไมยอมรับง่ายกันอีกแล้ว ตอนในพัลซ่าร์ก็มีมาก่อนนะแล้วแรงจี๊ดจ๊าดด้วย แต่กลับโดดนด่าว่าCVTไร้อารมณ์.....แต่พอซีวิคใหม่จะมาพร้อมCVTกลับไม่มีใครด่าเลย  :'(

รถที่วางขายในปัจจุบันนี้เป็นรถในอุดมคติที่เมื่อสิบปีก่อนเคยอยากได้และต่างพูดกันว่าทำไม่ได้ไม่มีอยู่จริง อยากได้ไปอยู่เมืองนอกนู่น แต่ตอนนี้มันแล่นตรงหน้ากันแล้วครับ  :-X กลายเป็นว่าค่ายรองห้ามยัดออพชั่นมาให้เยอะเกินหน้าเกินตาค่ายรถขายดีนะไม่มีประโยชน์หรอก ต้องรอให้เจ้าตลาดออกนำหน้ามาก่อนเท่านั้นเทคโนโลยิ/ออพชั่นนั้นๆถึงจะเป็นที่ยอมรับได้ เดี๋ยวคอยดูเกียร์8ระดับในปาเจโร่แล้วกัน ตอนนี้ยังมีพูดถึงเลยว่าเกินตัวใส่มาทำไมไม่จำเป็น  ???

City ESP เค้าใส่มาให้ตั้งแต่รุ่นล่างนะครับ คนถึงฮือฮากันว่าใจป้ำมาก ส่วน Fiesta ที่ตอนนั้นใส่เฉพาะรุ่นท็อปคนก็ฮือฮากันอยู่ดีนะ ยอดขายช่วงแรกก็ออกจะดีมาตายเอาเพราะปัญหาตัวรถทั้งนั้น เหมือน Chevy Cruze มาตายเพราะปัญหาที่แก้ไม่จบของรถตัวเองเช่นกัน
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: NONT4477 ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 22:01:47

ผมว่าเปลี่ยนหัวข้อมาเล่น Toyota อย่างเดียวก็พอ
เพราะค่ายอื่น รถเค้า ไม่กั๊ก นะครับ
ถ้าค่ายโตเค้าจัดเต็มเหมือน Ford แต่ราคาเท่าเดิม
ค่ายอื่นๆ จะขายยังไงละครับนี่ :P
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Abitan ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 22:07:39
ประชากรไทยมีประมาณ 65-70ล้านคน  สมาชิกHLM มีประมาณ 26,500 คนเอง เราเป็นคนส่วนน้อยของกลุ่มลูกค้าเค้าครับ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 22:42:52
ผมว่าสังคมไทย ตอนนี้มัน ป่วย มากก เลยคับ

ยิ่งบนออนไลน์แล้ว คนเราสามารถแสดงตัวตน เค้าออกมาโดยไม่แคร์ ถึงสิ่งที่ตามมา

พวกโลกแคบ มองโลกในแง่ร้ายตลอด ช่างจับผิด กลัวคนอื่นเอาเปรียบ ว่าคนอื่นไม่ดี กลัวเค้าได้ดีจนขี้อิจฉา อยากอวดรู้ อยากทำตัวเป็นพวกตะวันตกรักษาสิทธิ์ตัวเองจนเลยขอบเขต

เรามาช่วยกัน ทำให้สังคม มีแต่คนที่รู้จัก มองโลกในแง่ดี  ถ้อยทีถ้อยอาศัย แบ่งปัน เอื้อเฟื้อ กันมากๆขึ้นดีไหมคับ ซึ่ง สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งดีของประเทศเรามานาน แต่มันกำลัง หายไป เนื่องจาก เรารับ แต่สิ่งที่คิดว่าดี ทั้งๆที่ มันไม่ดีเข้ามา โดยขาดการไตร่ตรอง ใช้ปัญญา

การชื่นชมคนอื่น ไม่ทำให้คุณตายหรอกครับ มันมีแต่จะจรรโลงให้โลกใบนี้ น่าอยู่ขึ้น การที่คุณบ่นถึงแต่สิ่งไม่ดีของตัวเอง และคนอื่น ทั้งหมด มันจะกลับมาหาตัวคุณเองนั่นล่ะครับ

ถ้าคุณเลี่ยงไม่กล้า พูดวิจารณ์แสดงความเห็นแบบhard truth มัวแต่เลี่ยงหาแต่ คำพูดสวยๆงามๆ จรรโลงใจ หวานเลี่ยน ฟังแล้วสบายหู อยากอยู่ในแต่โลก fantasy มันไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์การพัฒนาขึ้นหรอกนะครับ  สิ่งที่ประชาชนในประเทศนี้ ต้องรับรู้และควรทำคือ hard truth ซึ่งหลายเรื่องอาจจะ harsh และควรรับรู้บ่อยครั้งด้วย   

การกล้าแสดงออกความเห็น จุดยืนของตนเองเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าการสุภาพมองโลกในแง่ดีเข้าไว้ ประเภท อะไรก็"ไม่เป็นไร"
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 22:47:40
เข้ามาเห็นด้วยกับ จขกท.ครับ
ถ้าใครเคยสัมผัสรถยนต์รุ่นเดียวกันเมื่อเทียบใน ประเทศไทย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สเปน ฯลฯ จะได้เห็นตั้งแต่ความแตกต่างตอนที่
รถมันประกอบออกมาเป็นคันๆ ระบบช่วงล่าง เครื่องยนต์ เกียร์ ออปชั่นต่างๆ แตกต่างอย่างชัดเจน

พอมองให้ลึกเข้าไปก็จะเป็นเรื่องของความซีเรียสในการประกอบ รถไทยไม่ได้ซีเรียสมาก เมื่อเทียบกับ ตปท. ที่มีกฏหมายในการควบคุม
อย่าว่าแต่การประกอบเพียงอย่างเดียวเลยครับ การทำสี การเชื่อมโลหะ แม้กระทั่งตัว Material ที่เอามาทำรถยนต์ก็ต่างกันมากมาย

ผมจะยกตัวอย่างแค่การเชื่อมแล้วกันนะครับ : ในบางประเทศ เขาจะมีกฏหมายควบคุมการเชื่อมโลหะว่า จุดไหนที่ "จำเป็น" ต้องมีบ้าง
รู้ไหมครับ รถนอกการเชื่อมประตู ตัวถัง จุดที่จำเป็นบางจุดมีมากกว่า 4 จุดขึ้นไป ขณะที่ประเทศไทยมีแค่ 1 หรือ 2 เท่านั้น
แต่ผู้บริโภคจะรู้หรือไม่? เพราะสุดท้ายแล้วรถออกมาเป็นคัน ไม่มีใครเห็นรอยเชื่อมหรอกครับ หลายๆครั้งที่เกิดปัญหาของเสียงดังบ้าง
เอาเข้าศูนย์ช่างแก้ไม่หายบ้าง เป็นปัญหาเรื้อรังระยะยาว ไม่ใช่เพราะการประกอบเพียงอย่างเดียวนะครับ จุดเชื่อมต่างๆก็ส่งผล
แล้วเวลามีปัญหาขึ้นมา การตรวจสอบมันไม่ครบหรอกครับ รถบางคันหลุดออกไปขายเยอะแยะแล้ว แต่ผู้บริโภคเข้าใจกันเองว่า
รถมันผ่านการตรวจสอบมาทุกๆคัน อย่าลืมนะครับว่า เราผลิตรถส่งขายในประเทศ และนอกประเทศ ยิ่งประเทศไหนขายยาก
เรายิ่งต้องเอากำลังคนไปตรวจสอบในประเทศนั้นๆ เยอะกว่าประเทศที่ขายได้ง่ายกว่า จริงมั๊ยครับ?

และอีกหลายๆเรื่องที่ ตปท. ใช้อุปกรณ์ต่างๆมาเป็นพื้นฐานของรถทุกรุ่น ขณะที่บ้านเรายังด้อยเรื่องนี้ครับ

เข้ามาตอบในฐานะคนที่ทำงาน อยู่ ในอุตสหกรรม ยานยนต์
ข้อมูล คุณ มั่วหน้า ด้านๆๆ มากครับ
รถยนต์ผลิต ตามแบบ แบบ มันก็เหมือนกันหมด ไม่ว่าจะ ขายประเทศไหน
ไม่มี หรอกครับ ลดจุดเชื่อม
เค้าผลิตงาน ตาม ข้อกำหนด จาก OEM ไม่ได้นึกอยากลดหรือเพิ่มได้คุณพูดแบบนี้ คุณเอาหลักฐานมาครับ
เค้าไม่เขียนแบบ ออกมาเพื่อ ลดจุดเชื่อม เฉพาะ บ้านเราหรอกครับ
รถที่คุณ พูดถึง นี่ รถซาเล้งรึเปลาครับ มาลดจุดเชื่อม เฉพาะขายประเทศไทยนี่

เท่าที่ผมเห็น วัสดุอุปกรณ์ ทุกอย่าง ทำตามแบบ หมด
สิ่งที่ต่างคือ Option

รถหนึ่งคัน มี รหัส รุ่น มากเป็น 10 เป็นร้อย แบ่ง ตาม สี option ประเทศที่จำหน่าย
ทั้งที่ ผลิต จากโรงงานเดียวกัน

ตลอดเวลา ที่ทำงานมา สิ่งที่ต่างมีแค่ Option ไม่ใช่ คุณภาพ ครับ

case ย้อนกลับไปในอดีต ลองไปดู Lancer E-car ประกอบไทยดูครับ ไปดูใต้รถให้ละเอียด จะพบส่วนประกอบของ chassis ทำด้วยสังกะสีหรืออะไรสักอย่างประมาณนั้น

case ใกล้เข้ามาอีกหน่อย เอ๋อะไรนะ ผมได้ยินแว่วๆ เกี่ยวกับ ฟิวเจอร์บอร์ด 

อีกอันคือ ที่สมาชิกท่านนึงพูดเกี่ยวกับการชุบกันสนิม รถขายในประเทศเทียบกับรถส่งนอก
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: 6162002 ที่ กรกฎาคม 25, 2015, 22:51:44
เห็นมาการยกตัวอย่างถึงพัลซ่าร์เทอร์โบว่ารถเทคโนโลยีทันโลกใส่ออพชั่นมาให้ครบแต่ไม่น่าซื้อ งั้นเรามาดูกันว่าถึงวันที่ซีวิคเทอร์โบฉีดตรงวางขายคำพูดแนวนี้จะยังคงอยู่ไหม  :-X ผมว่าอีกปัญหาหนึ่งของคนไทยคือการไม่ยอมรับความแตกต่างจากสิ่งที่ตัวเองคุ้นเคยครับ นานมาแล้วตอนนิสสันหันมาใช้CVTใหม่ๆใครๆก็ก่นด่าว่าพังง่ายไร้อารมณ์ แต่พออัลติสใส่CVTมาบ้างเสียงก่นด่ากลายเป็นชื่นชมว่าCVTมันให้แรงบิดต่อเนื่องดีนะ ที่ใส่ในHRVยาริสอีโคคาร์ก็ไม่มีการก่นด่าเหมือนในคราวนิสสันเลย กาลายเป็นยัมรับได้โดยง่ายซะงั้นทั้งที่CVTของนิสสันมีประวัติดีกว่าไม่เคยสร้างชื่อเสียงว่าเปราะบางพังง่ายเหมือนคราวที่เคยใส่ในแจ๊สรุ่นแรก  :-\ ฟอร์ดเอาESPกับแอร์แบกครบครัยใส่มาให้เป็นรายแรกในรถขนาดเล็ก สังคมเมิน....อืมเหรองั้นๆอ่ะ แต่พอซิตี้ใส่มาบ้างเป็นที่ฮือฮากลายเป็นพูดกันว่าฮอนด้าดีงามที่กล้าใส่ระบบพวกนี้มาให้เป็นรายแรกในรถขนาดเล็ก....อ้าวฟอร์ดหายไปไหนฟพ? ถัดมาหน่อยพอฟอร์ดเอาเครื่องecoboostมาใส่ในเฟียสต้ากระแสมาเลยจ้ะใส่มาทำไมล้ำเกินไปใครมันจะซ่อมได้ บ้างก็ว่าคนไทยไม่ต้องการเครื่องล้ำขนาดนี้ใส่มาทำไมให้รถแพงเอาเครื่องเดิมๆซ่อมง่ายๆอะไหล่มือสองเยอะๆแบบในอัลติสยังดีซะกว่า พอมีข่าวว่าซีวิครุ่นใหม่จะใส่เครื่องเล็กฉีดตรงบ้างกลายเป็นฮือฮา เจ๋งว่ะอยากได้ นี่แหละที่ใจปราถนา อ้าวววววทำไมยอมรับง่ายกันอีกแล้ว ตอนในพัลซ่าร์ก็มีมาก่อนนะแล้วแรงจี๊ดจ๊าดด้วย แต่กลับโดดนด่าว่าCVTไร้อารมณ์.....แต่พอซีวิคใหม่จะมาพร้อมCVTกลับไม่มีใครด่าเลย  :'(

รถที่วางขายในปัจจุบันนี้เป็นรถในอุดมคติที่เมื่อสิบปีก่อนเคยอยากได้และต่างพูดกันว่าทำไม่ได้ไม่มีอยู่จริง อยากได้ไปอยู่เมืองนอกนู่น แต่ตอนนี้มันแล่นตรงหน้ากันแล้วครับ  :-X กลายเป็นว่าค่ายรองห้ามยัดออพชั่นมาให้เยอะเกินหน้าเกินตาค่ายรถขายดีนะไม่มีประโยชน์หรอก ต้องรอให้เจ้าตลาดออกนำหน้ามาก่อนเท่านั้นเทคโนโลยิ/ออพชั่นนั้นๆถึงจะเป็นที่ยอมรับได้ เดี๋ยวคอยดูเกียร์8ระดับในปาเจโร่แล้วกัน ตอนนี้ยังมีพูดถึงเลยว่าเกินตัวใส่มาทำไมไม่จำเป็น  ???

ชอบประโยคนี้ครับ >_<
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Stroke8 ที่ กรกฎาคม 26, 2015, 01:02:56

case ย้อนกลับไปในอดีต ลองไปดู Lancer E-car ประกอบไทยดูครับ ไปดูใต้รถให้ละเอียด จะพบส่วนประกอบของ chassis ทำด้วยสังกะสีหรืออะไรสักอย่างประมาณนั้น


ผมจะเดาว่า คุณเคยเห็นใต้รถ E-Car ที่ประกอบในต่างประเทศนะครับ แต่ผมว่าคุณไม่เคย ผมเคย แล้วผมยืนยันได้ว่ามันไม่ได้ต่างไปจาก E-Car ที่ประกอบในประเทศไทยเลยแม้แต่นิดเดียว ความห่วยแตกของมิตซูบิชิที่ประกอบ ไม่ว่าจะในญี่ปุ่นหรือว่าไทย ไม่แตกต่างกันเลย เน่าเหมือนกัน ให้เครดิตมิตซูบิชิดีเกินไปหรือเปล่าครับ? เมื่อเอาจำนวนรถที่มีอยู่มาคิดดู ผมว่าตอนนี้ผมก็เห็นจำนวน GTi ประกอบญี่ปุ่นพอๆกับจำนวน GLXi ประกอบไทยนะ ต่อให้เอาสัดส่วนมาคิดด้วยก็เถอะ ถ้าเกิดรถมันดีกว่ามาก ผมว่าทุกวันนี้คงไม่มีใครนั่งตามหา นั่งน้ำลายไหลเวลาเจอ GTi สภาพดีๆ หรอกนะครับ หรือว่าคุณจะบอกว่ามันเป็นทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดของคนในแหลมฉบังที่ไม่ออกอะไหล่ให้กับคนที่ใช้ GTi ทำให้ทุกวันนี้จำนวนลดลงไปจนไม่เหลืออะไร? แล้วก็น้ำมันเจ็ทละลายคานเหล็กกล้าไม่ได้?


case ใกล้เข้ามาอีกหน่อย เอ๋อะไรนะ ผมได้ยินแว่วๆ เกี่ยวกับ ฟิวเจอร์บอร์ด 


ผมจะเดาอีกอย่างว่า คุณเคยเห็นท้ายรถ Toyota Yaris Sedan ตัวที่ประกอบในญี่ปุ่นนะครับ แต่ผมว่าคุณไม่เคยเช่นกันนั่นแหละ ผมยอมรับนะว่า Toyota Yaris Sedan ที่ขายในอเมริกา เขาให้เบาะพับได้มาตั้งแต่รุ่นถูกสุดจนถึงรุ่นแพงสุด แล้วก็เหมือนตัวที่ประกอบในไทย คือรุ่นที่เบาะพับได้ ไม่มีฟิวเจอร์บอร์ดอยู่ท้ายรถ งั้นเราก็คงต้องไปดูรถที่ใกล้เคียงที่สุด ที่เบาะไม่สามารถพับได้ นั่นก็คือ Toyota Echo ซึ่งไม่เคยมีการประกอบในประเทศไทย แต่มันเป็นรถที่ประกอบในญี่ปุ่นและส่งออกไปขายที่สหรัฐ เพราะฉะนั้นก็เข้าข่ายรถที่ประกอบในต่างประเทศใช่ไหมครับ? รู้ไหมที่ท้ายรถ Toyota Echo มีอะไรซ่อนอยู่? ฟิวเจอร์บอร์ด

แล้วเพื่อนชาวเดนมาร์กคนหนึ่งของผม ผู้ซึ่งเคยได้เห็นรถที่ประกอบในแต่ละที่มามาก รวมทั้งท้ายรถโตโยต้าที่มีฟิวเจอร์บอร์ด เขาได้กล่าวไว้ว่า "แล้วจะทำไม? ในเมื่อมันทำหน้าที่ของมัน ซึ่งก็คือการปิดบังและป้องกันแผ่นเหล็กที่อยู่ด้านหลัง ได้ดีอยู่แล้ว?" ครับ คนต่างชาติที่คุณดูเหมือนจะกำลังเชิดชูว่าชาญฉลาดกว่าคนไทยมาก เขาไม่สนใจหรอกไอ้วัสดุแผ่นปิดในท้ายรถมันทำมาจากอะไร มีหน้าตาเป็นอย่างไร และมีราคาเท่าไหร่ ตราบใดที่มันสามารถทำหน้าที่ของมันได้ดี

คุณอาจจะมีหัวข้อที่น่าสนใจ แต่ถ้าเกิดคนอ่านไม่สามารถขึ้นเช็ครับการเสนอประเด็นที่เกี่ยวข้อง ชัดเจน และถูกต้อง ได้ ก็จบนะครับ เขาเรียกว่า Fallacy และมันสามารถทำให้คุณแพ้การโต้วาทีได้อย่างง่ายดายเลยล่ะ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: a601970 ที่ กรกฎาคม 26, 2015, 01:33:20
นี่คือกระทู้ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในวงการยานยนต์ไทยเลยทีเดียว  ???
ผมคิดว่าควรปักหมุดกระทู้นี้นะครับ   ???
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Elestra ที่ กรกฎาคม 26, 2015, 08:34:28
คุณเปิดเว็บ Toyota America ก็ได้
Altis ราคาถูกกว่าบ้านเรา แต่ยัด AirBag 6 ลูกให้ตั้งแต่ตัวถูกที่สุดเลย
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: localgame ที่ กรกฎาคม 26, 2015, 09:27:50
คุณเปิดเว็บ Toyota America ก็ได้
Altis ราคาถูกกว่าบ้านเรา แต่ยัด AirBag 6 ลูกให้ตั้งแต่ตัวถูกที่สุดเลย
ราคามันเกี่ยวข้องกับภาษีรถครับ ภาษีบ้านเราแพงกว่าที่อเมริกาอยู่เล็กน้อยประมาน10-20%
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: HIGHSEA ที่ กรกฎาคม 26, 2015, 09:56:01
จากหัวข้อกระทู้  สิ่งที่ผมพอจะคิดออกได้คือ  " นโยบาย " ครับ หลายอย่างในบ้านเรามันน่าจะก้าวไปไกลและมีมาตราฐานทัดเทียมหรือดีกว่าต่างชาติ เพราะบุคคลากรของบ้านเราก็ไม่ด้อยกว่าใคร แต่ไม่รู้ทำไมว่ามันติดขัดที่ตรงใหน .
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ กรกฎาคม 26, 2015, 12:11:21
คุณเปิดเว็บ Toyota America ก็ได้
Altis ราคาถูกกว่าบ้านเรา แต่ยัด AirBag 6 ลูกให้ตั้งแต่ตัวถูกที่สุดเลย
ราคามันเกี่ยวข้องกับภาษีรถครับ ภาษีบ้านเราแพงกว่าที่อเมริกาอยู่เล็กน้อยประมาน10-20%

อาจรวมถึง ความอยากได้ margin เยอะด้วยครับ เป็นข้ออ้างอีกอันที่ค่ายรถพยายามแก้ตัวว่า อัดคุณภาพ อ๊อฟชั่นต่างๆมาให้เท่ากับข้อส่งนอกไม่ได้ 

ผมไม่เข้าใจ ข้อโต้แย้งแก้ตัวแทนค่ายรถประมาณ "ไม่ได้อยู่วงการไม่รู้เรื่อง" เป็นวิธีแก้ตัวแบบหักดิบ ไม่กล้าแสดงความเห็นโต้ตอบมากกว่า อีกอย่างผมสงสัยว่านักแก้ตัวแทนทั้งหลาย มีเจตนาอวยเข้าข้างค่ายรถ อยากให้ค่ายรถมีกำไรเยอะๆ  หรือ เห็นแก่ผู้บริโภค ประชาชนในประเทศให้ได้ใช้ของที่ตนเองผลิตเองมีคุณภาพดี ตัวเลือกอ๊อฟชันดี มากกว่ากันครับ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ กรกฎาคม 26, 2015, 12:38:15
 ผมก็อยากปกป้องสิทธิ์ของผุ้บริโภค   ถึงแม้ผมจะอยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมรถมาโดยตลอด     
แต่ผู้บริโภคเขาไม่ปกป้องสิทธิ์ของตัวเองนี่ครับ   ใครจะไปช่วยได้ บริษัทรถทำความต้องการของลูกค้านะครับเพราะเขาผลิตมาขายไม่ได้ผลิตมาตั้งโชว์เอาไว้แล้วบอกว่ารถคันนี้ดีมาตรฐานสูง 
ข้อมูลจากการสุ่มสำรวจการตลาดงานวิจัยที่ผมเคยทำ   ลูกค้าส่วนใหญ่เขาตอบคำถามออกมาบริษัทรถก็เอาไปออกแบบผลิตรถตามแต่ละเซกเม้น

ถ้าท่านอยากได้รถดีมีคุณภาพสูงท่านก็เลือกรุ่นนั้นสิครับ
 Ford Everest 3.2 
Nissan Pulsar Turbo 
Mitsu ตอนเดียว 4x4 AT 
Ford 3.2 AT 4x4   
หรือรถเก่าอย่าง  Hilux LN 106
Fortuner 2.7 4X4  Vigo 2.7 4x4 
หรือรถที่ TOYOTA  นำเข้ามาเองอย่าง Landcruiser Prado  FT86 
 
พวกนี้แหละสเปกมาตรฐานส่งต่างประเทศทั่วโลก      ไม่ทราบว่าคุณ Ivy Modernist  ได้ลองเลือกมาใช้สักรุ่นหรือยังครับ 
คนส่วนใหญ่ได้กล้าซื้อมาใช้ กันสักรุ่นหรือยังครับ หรือว่ายัง
ผมเห้นตลาดปิคอัพคนส่วนใหญ่ยังขับกระบะ พรีรันเนอร์  ไฮแลนเดอร์ ไฮไรเดอร์  คาลิเบอร์กันอยุ่เลย   นั่นละเสปกไทยชัดเจน   ถ้าขับแบบนั้นแล้วมาเรียกร้องสเปกต่างประเทศผมว่ามันก็เกินไป  เพราะตัวเองก็ไม่ได้ซื้อ

หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กรกฎาคม 26, 2015, 19:14:46


ทุกคนกรุณา อ่านหัวข้อกระทู้ครับ

คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า

ไม่ใช่ เอารถผลิตต่างประเทศนอก มาเทียบ กับรถไทยครับ มันคนละประเด็นครับ
เอา รถตลาดอเมริ มาเทียบ บ้านเรา มีรถ ส่งออกไปอเมริกา กี่คัน ครับ
เอา รถที่ ผลิตบ้านเราแล้วส่งไปขายต่างประเทศ มาเทียบ กับตัวที ขายในไทยสิครับ

ยังยืนยัน ผมก็เห็นการผลิตมาเยอะ ยืนยันว่าคุณภาพนะมันเท่ากัน ต่างแค่ option
คำว่า spec ห่วย นี่ ทำไมคุณไปซื้อคัวห่วยละครับ
ของดีมีเทียบเท่าต่างประเทศ ก็มี ทำไมไม่ซื้อ

ถ้าจะโทษไปโทษ รัฐบาล ที่บิดเบื่อนราคา รถเองเถอะครับ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กรกฎาคม 26, 2015, 19:16:58

case ย้อนกลับไปในอดีต ลองไปดู Lancer E-car ประกอบไทยดูครับ ไปดูใต้รถให้ละเอียด จะพบส่วนประกอบของ chassis ทำด้วยสังกะสีหรืออะไรสักอย่างประมาณนั้น


ผมจะเดาว่า คุณเคยเห็นใต้รถ E-Car ที่ประกอบในต่างประเทศนะครับ แต่ผมว่าคุณไม่เคย ผมเคย แล้วผมยืนยันได้ว่ามันไม่ได้ต่างไปจาก E-Car ที่ประกอบในประเทศไทยเลยแม้แต่นิดเดียว ความห่วยแตกของมิตซูบิชิที่ประกอบ ไม่ว่าจะในญี่ปุ่นหรือว่าไทย ไม่แตกต่างกันเลย เน่าเหมือนกัน ให้เครดิตมิตซูบิชิดีเกินไปหรือเปล่าครับ? เมื่อเอาจำนวนรถที่มีอยู่มาคิดดู ผมว่าตอนนี้ผมก็เห็นจำนวน GTi ประกอบญี่ปุ่นพอๆกับจำนวน GLXi ประกอบไทยนะ ต่อให้เอาสัดส่วนมาคิดด้วยก็เถอะ ถ้าเกิดรถมันดีกว่ามาก ผมว่าทุกวันนี้คงไม่มีใครนั่งตามหา นั่งน้ำลายไหลเวลาเจอ GTi สภาพดีๆ หรอกนะครับ หรือว่าคุณจะบอกว่ามันเป็นทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดของคนในแหลมฉบังที่ไม่ออกอะไหล่ให้กับคนที่ใช้ GTi ทำให้ทุกวันนี้จำนวนลดลงไปจนไม่เหลืออะไร? แล้วก็น้ำมันเจ็ทละลายคานเหล็กกล้าไม่ได้?


case ใกล้เข้ามาอีกหน่อย เอ๋อะไรนะ ผมได้ยินแว่วๆ เกี่ยวกับ ฟิวเจอร์บอร์ด 


ผมจะเดาอีกอย่างว่า คุณเคยเห็นท้ายรถ Toyota Yaris Sedan ตัวที่ประกอบในญี่ปุ่นนะครับ แต่ผมว่าคุณไม่เคยเช่นกันนั่นแหละ ผมยอมรับนะว่า Toyota Yaris Sedan ที่ขายในอเมริกา เขาให้เบาะพับได้มาตั้งแต่รุ่นถูกสุดจนถึงรุ่นแพงสุด แล้วก็เหมือนตัวที่ประกอบในไทย คือรุ่นที่เบาะพับได้ ไม่มีฟิวเจอร์บอร์ดอยู่ท้ายรถ งั้นเราก็คงต้องไปดูรถที่ใกล้เคียงที่สุด ที่เบาะไม่สามารถพับได้ นั่นก็คือ Toyota Echo ซึ่งไม่เคยมีการประกอบในประเทศไทย แต่มันเป็นรถที่ประกอบในญี่ปุ่นและส่งออกไปขายที่สหรัฐ เพราะฉะนั้นก็เข้าข่ายรถที่ประกอบในต่างประเทศใช่ไหมครับ? รู้ไหมที่ท้ายรถ Toyota Echo มีอะไรซ่อนอยู่? ฟิวเจอร์บอร์ด

แล้วเพื่อนชาวเดนมาร์กคนหนึ่งของผม ผู้ซึ่งเคยได้เห็นรถที่ประกอบในแต่ละที่มามาก รวมทั้งท้ายรถโตโยต้าที่มีฟิวเจอร์บอร์ด เขาได้กล่าวไว้ว่า "แล้วจะทำไม? ในเมื่อมันทำหน้าที่ของมัน ซึ่งก็คือการปิดบังและป้องกันแผ่นเหล็กที่อยู่ด้านหลัง ได้ดีอยู่แล้ว?" ครับ คนต่างชาติที่คุณดูเหมือนจะกำลังเชิดชูว่าชาญฉลาดกว่าคนไทยมาก เขาไม่สนใจหรอกไอ้วัสดุแผ่นปิดในท้ายรถมันทำมาจากอะไร มีหน้าตาเป็นอย่างไร และมีราคาเท่าไหร่ ตราบใดที่มันสามารถทำหน้าที่ของมันได้ดี

คุณอาจจะมีหัวข้อที่น่าสนใจ แต่ถ้าเกิดคนอ่านไม่สามารถขึ้นเช็ครับการเสนอประเด็นที่เกี่ยวข้อง ชัดเจน และถูกต้อง ได้ ก็จบนะครับ เขาเรียกว่า Fallacy และมันสามารถทำให้คุณแพ้การโต้วาทีได้อย่างง่ายดายเลยล่ะ

ผมมายืนยันความห่วยแตกของวัสดุ Mitsubishi นี่ เทียบเท่ากันทั้งโลกครับ
กรณีประกอบที่เดียวกันนะครับ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กรกฎาคม 26, 2015, 19:26:45
เข้ามาเห็นด้วยกับ จขกท.ครับ
ถ้าใครเคยสัมผัสรถยนต์รุ่นเดียวกันเมื่อเทียบใน ประเทศไทย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สเปน ฯลฯ จะได้เห็นตั้งแต่ความแตกต่างตอนที่
รถมันประกอบออกมาเป็นคันๆ ระบบช่วงล่าง เครื่องยนต์ เกียร์ ออปชั่นต่างๆ แตกต่างอย่างชัดเจน

พอมองให้ลึกเข้าไปก็จะเป็นเรื่องของความซีเรียสในการประกอบ รถไทยไม่ได้ซีเรียสมาก เมื่อเทียบกับ ตปท. ที่มีกฏหมายในการควบคุม
อย่าว่าแต่การประกอบเพียงอย่างเดียวเลยครับ การทำสี การเชื่อมโลหะ แม้กระทั่งตัว Material ที่เอามาทำรถยนต์ก็ต่างกันมากมาย

ผมจะยกตัวอย่างแค่การเชื่อมแล้วกันนะครับ : ในบางประเทศ เขาจะมีกฏหมายควบคุมการเชื่อมโลหะว่า จุดไหนที่ "จำเป็น" ต้องมีบ้าง
รู้ไหมครับ รถนอกการเชื่อมประตู ตัวถัง จุดที่จำเป็นบางจุดมีมากกว่า 4 จุดขึ้นไป ขณะที่ประเทศไทยมีแค่ 1 หรือ 2 เท่านั้น
แต่ผู้บริโภคจะรู้หรือไม่? เพราะสุดท้ายแล้วรถออกมาเป็นคัน ไม่มีใครเห็นรอยเชื่อมหรอกครับ หลายๆครั้งที่เกิดปัญหาของเสียงดังบ้าง
เอาเข้าศูนย์ช่างแก้ไม่หายบ้าง เป็นปัญหาเรื้อรังระยะยาว ไม่ใช่เพราะการประกอบเพียงอย่างเดียวนะครับ จุดเชื่อมต่างๆก็ส่งผล
แล้วเวลามีปัญหาขึ้นมา การตรวจสอบมันไม่ครบหรอกครับ รถบางคันหลุดออกไปขายเยอะแยะแล้ว แต่ผู้บริโภคเข้าใจกันเองว่า
รถมันผ่านการตรวจสอบมาทุกๆคัน อย่าลืมนะครับว่า เราผลิตรถส่งขายในประเทศ และนอกประเทศ ยิ่งประเทศไหนขายยาก
เรายิ่งต้องเอากำลังคนไปตรวจสอบในประเทศนั้นๆ เยอะกว่าประเทศที่ขายได้ง่ายกว่า จริงมั๊ยครับ?

และอีกหลายๆเรื่องที่ ตปท. ใช้อุปกรณ์ต่างๆมาเป็นพื้นฐานของรถทุกรุ่น ขณะที่บ้านเรายังด้อยเรื่องนี้ครับ

เข้ามาตอบในฐานะคนที่ทำงาน อยู่ ในอุตสหกรรม ยานยนต์
ข้อมูล คุณ มั่วหน้า ด้านๆๆ มากครับ
รถยนต์ผลิต ตามแบบ แบบ มันก็เหมือนกันหมด ไม่ว่าจะ ขายประเทศไหน
ไม่มี หรอกครับ ลดจุดเชื่อม
เค้าผลิตงาน ตาม ข้อกำหนด จาก OEM ไม่ได้นึกอยากลดหรือเพิ่มได้คุณพูดแบบนี้ คุณเอาหลักฐานมาครับ
เค้าไม่เขียนแบบ ออกมาเพื่อ ลดจุดเชื่อม เฉพาะ บ้านเราหรอกครับ
รถที่คุณ พูดถึง นี่ รถซาเล้งรึเปลาครับ มาลดจุดเชื่อม เฉพาะขายประเทศไทยนี่

เท่าที่ผมเห็น วัสดุอุปกรณ์ ทุกอย่าง ทำตามแบบ หมด
สิ่งที่ต่างคือ Option

รถหนึ่งคัน มี รหัส รุ่น มากเป็น 10 เป็นร้อย แบ่ง ตาม สี option ประเทศที่จำหน่าย
ทั้งที่ ผลิต จากโรงงานเดียวกัน

ตลอดเวลา ที่ทำงานมา สิ่งที่ต่างมีแค่ Option ไม่ใช่ คุณภาพ ครับ

case ย้อนกลับไปในอดีต ลองไปดู Lancer E-car ประกอบไทยดูครับ ไปดูใต้รถให้ละเอียด จะพบส่วนประกอบของ chassis ทำด้วยสังกะสีหรืออะไรสักอย่างประมาณนั้น

case ใกล้เข้ามาอีกหน่อย เอ๋อะไรนะ ผมได้ยินแว่วๆ เกี่ยวกับ ฟิวเจอร์บอร์ด 

อีกอันคือ ที่สมาชิกท่านนึงพูดเกี่ยวกับการชุบกันสนิม รถขายในประเทศเทียบกับรถส่งนอก

mitsubishi เท่าที่ผ่านตาผมมา หากผลิตบ้านเรา ทำเหมือนกันหมดทั้งส่งออกและภายในประเทศนะครับ ยืนยันเรื่องความห่วยของวัสดุเท่ากันทั้งโลก
แต่ถ้า ผลิตต่างประเทศ มันย่อมมีความแตกต่างแน่นอน แต่อย่าลืมเราคุยกันเรื่องรถผลิตบ้านเราส่งออกนะครับ

ส่วนเรื่อง ฟิวเจอร์บอร์ด  นี่ ถามผู้บริโภคเถอะครับ มันคือ option ไม่ใช่ คุณภาพ พวกคุณรับได้กันเอง แถมยังสนับสนุน แล้วมันคือความเลวร้ายเฉพาะค่ายรถไม่กี่ค่ายคือ  Mitsu และ toyota
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ กรกฎาคม 26, 2015, 21:50:41
เข้ามาเห็นด้วยกับ จขกท.ครับ
ถ้าใครเคยสัมผัสรถยนต์รุ่นเดียวกันเมื่อเทียบใน ประเทศไทย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สเปน ฯลฯ จะได้เห็นตั้งแต่ความแตกต่างตอนที่
รถมันประกอบออกมาเป็นคันๆ ระบบช่วงล่าง เครื่องยนต์ เกียร์ ออปชั่นต่างๆ แตกต่างอย่างชัดเจน

พอมองให้ลึกเข้าไปก็จะเป็นเรื่องของความซีเรียสในการประกอบ รถไทยไม่ได้ซีเรียสมาก เมื่อเทียบกับ ตปท. ที่มีกฏหมายในการควบคุม
อย่าว่าแต่การประกอบเพียงอย่างเดียวเลยครับ การทำสี การเชื่อมโลหะ แม้กระทั่งตัว Material ที่เอามาทำรถยนต์ก็ต่างกันมากมาย

ผมจะยกตัวอย่างแค่การเชื่อมแล้วกันนะครับ : ในบางประเทศ เขาจะมีกฏหมายควบคุมการเชื่อมโลหะว่า จุดไหนที่ "จำเป็น" ต้องมีบ้าง
รู้ไหมครับ รถนอกการเชื่อมประตู ตัวถัง จุดที่จำเป็นบางจุดมีมากกว่า 4 จุดขึ้นไป ขณะที่ประเทศไทยมีแค่ 1 หรือ 2 เท่านั้น
แต่ผู้บริโภคจะรู้หรือไม่? เพราะสุดท้ายแล้วรถออกมาเป็นคัน ไม่มีใครเห็นรอยเชื่อมหรอกครับ หลายๆครั้งที่เกิดปัญหาของเสียงดังบ้าง
เอาเข้าศูนย์ช่างแก้ไม่หายบ้าง เป็นปัญหาเรื้อรังระยะยาว ไม่ใช่เพราะการประกอบเพียงอย่างเดียวนะครับ จุดเชื่อมต่างๆก็ส่งผล
แล้วเวลามีปัญหาขึ้นมา การตรวจสอบมันไม่ครบหรอกครับ รถบางคันหลุดออกไปขายเยอะแยะแล้ว แต่ผู้บริโภคเข้าใจกันเองว่า
รถมันผ่านการตรวจสอบมาทุกๆคัน อย่าลืมนะครับว่า เราผลิตรถส่งขายในประเทศ และนอกประเทศ ยิ่งประเทศไหนขายยาก
เรายิ่งต้องเอากำลังคนไปตรวจสอบในประเทศนั้นๆ เยอะกว่าประเทศที่ขายได้ง่ายกว่า จริงมั๊ยครับ?

และอีกหลายๆเรื่องที่ ตปท. ใช้อุปกรณ์ต่างๆมาเป็นพื้นฐานของรถทุกรุ่น ขณะที่บ้านเรายังด้อยเรื่องนี้ครับ

เข้ามาตอบในฐานะคนที่ทำงาน อยู่ ในอุตสหกรรม ยานยนต์
ข้อมูล คุณ มั่วหน้า ด้านๆๆ มากครับ
รถยนต์ผลิต ตามแบบ แบบ มันก็เหมือนกันหมด ไม่ว่าจะ ขายประเทศไหน
ไม่มี หรอกครับ ลดจุดเชื่อม
เค้าผลิตงาน ตาม ข้อกำหนด จาก OEM ไม่ได้นึกอยากลดหรือเพิ่มได้คุณพูดแบบนี้ คุณเอาหลักฐานมาครับ
เค้าไม่เขียนแบบ ออกมาเพื่อ ลดจุดเชื่อม เฉพาะ บ้านเราหรอกครับ
รถที่คุณ พูดถึง นี่ รถซาเล้งรึเปลาครับ มาลดจุดเชื่อม เฉพาะขายประเทศไทยนี่

เท่าที่ผมเห็น วัสดุอุปกรณ์ ทุกอย่าง ทำตามแบบ หมด
สิ่งที่ต่างคือ Option

รถหนึ่งคัน มี รหัส รุ่น มากเป็น 10 เป็นร้อย แบ่ง ตาม สี option ประเทศที่จำหน่าย
ทั้งที่ ผลิต จากโรงงานเดียวกัน

ตลอดเวลา ที่ทำงานมา สิ่งที่ต่างมีแค่ Option ไม่ใช่ คุณภาพ ครับ

case ย้อนกลับไปในอดีต ลองไปดู Lancer E-car ประกอบไทยดูครับ ไปดูใต้รถให้ละเอียด จะพบส่วนประกอบของ chassis ทำด้วยสังกะสีหรืออะไรสักอย่างประมาณนั้น

case ใกล้เข้ามาอีกหน่อย เอ๋อะไรนะ ผมได้ยินแว่วๆ เกี่ยวกับ ฟิวเจอร์บอร์ด 

อีกอันคือ ที่สมาชิกท่านนึงพูดเกี่ยวกับการชุบกันสนิม รถขายในประเทศเทียบกับรถส่งนอก

mitsubishi เท่าที่ผ่านตาผมมา หากผลิตบ้านเรา ทำเหมือนกันหมดทั้งส่งออกและภายในประเทศนะครับ ยืนยันเรื่องความห่วยของวัสดุเท่ากันทั้งโลก
แต่ถ้า ผลิตต่างประเทศ มันย่อมมีความแตกต่างแน่นอน แต่อย่าลืมเราคุยกันเรื่องรถผลิตบ้านเราส่งออกนะครับ

ส่วนเรื่อง ฟิวเจอร์บอร์ด  นี่ ถามผู้บริโภคเถอะครับ มันคือ option ไม่ใช่ คุณภาพ พวกคุณรับได้กันเอง แถมยังสนับสนุน แล้วมันคือความเลวร้ายเฉพาะค่ายรถไม่กี่ค่ายคือ  Mitsu และ toyota

ฟิวเจอร์บอร์ดคือ ความน่าทุเรศ ไร้ซึ่ง morality ของบริษัทไอ้ยุ่นพวกนั่น มีเจตนาจ้องจะเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างชัดเจน

คำถามคือ ผู้บริโภคเค้า รับได้กันเองหรือ พวกเค้าไม่รู้เรื่อง? 

ปล. นโยบาย over-protectionism ที่เริ่มทำกันในยุค 70s เริ่มจากห้ามนำเข้ารถจากนอก  ทำให้ไอ้ยุ่นขายอยู่คนเดียว  ก็มีส่วนทำให้เกิดความทุเรศอย่างทุกวันนี้ 
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: veturilo ที่ กรกฎาคม 26, 2015, 22:12:07
ผมเป็นอีกเสียงที่ยืนยันว่ารถประกอบไทยคุณภาพดีกว่าประกอบในอเมริกา ออสเตรเลีย ยุโรป และหลายๆโรงงานในญี่ปุ่นครับ
ดูได้จากอัตราการเกิดปัญหาของรถในท้องตลาดจากรถที่ประกอบจากโรงงานต่างๆได้ครับ ของไทยน้อยมากจริงๆ
จนค่ายรถหลายๆค่ายมาเปิดโรงงานในไทย ทั้งๆที่มีตัวเลือกประเทศค่าแรงถูกกว่าไทยมากมาย
ทั้งอินโดนีเซีย เวียดนาม อินเดีย ฟิลิปปินส์ ฯลฯ เค้าจะเลือกผลิตในประเทศพวกนั้นแล้วส่งมาขายในไทย
โดยโดนภาษีนำเข้าแค่ 7% ก็ได้ แต่เลือกให้ไทยผลิต ทำไมล่ะครับ???
มันมีเหตุผลครับ คนไทยประกอบรถได้คุณภาพดีจริงๆครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราควรจะภูมิใจนะครับ

ผลกระทบจากปัญหาคุณภาพมันมากกว่ากำไรหลายเท่าตัวจนถึงขั้นอาจปิดบริษัท

แต่ผมก็เป็นอีกเสียงที่เซ็งๆที่คนไทยได้ใช้รถ option น้อยกว่าในราคาที่แพงกว่า
(ยกเว้ณรถกระบะที่ต่างประเทศราคามันพุ่งไปไกลกว่าบ้านเรามานานมากแล้ว)
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากการบิดเบือนต้นทุนและราคาขายด้วยอัตราภาษีในบ้านเราครับ

จริงๆอาการเดียวกันมันเกิดขึ้นกับประเทศอื่นด้วย เช่น สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฯลฯ ไม่ใช่แค่ที่ไทย แต่ก็ด้วยเหตุผลต่างๆกันไป

อธิบายแบบง่ายๆ ภาษีที่ส่งผลกระทบต่อราคารถผลิตในประเทศมากที่สุดคือสรรพสามิตครับ
จัดกันตั้งแต่ 30%-50% ในรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ถ้า Eco Car ก็ 17% ตามด้วย VAT อีก 7% รวมกันแล้วเท่าไหร่แล้วล่ะ

เทียบกับญี่ปุ่นจะมีแค่ VAT 8% กับภาษีการครอบครองรถ (Acquisition Tax) อีกประมาณ 3%
รวมๆกันก็แค่ 11% เองครับ ถูกกว่าภาษีสรรพสามิต Eco Car บ้านเราซะอีก

ผมขอยกตัวอย่างเป็น Honda Freed ละกันเพราะไทยกับญี่ปุ่นน่าเอาของมาขายจากอินโดฯเหมือนกัน
ขอเดาตัวเลขต้นทุน+ค่าขนส่งจนถึงท่าเรือที่ไทย/ญี่ปุ่นตีกลมๆว่า 400,000 บาทละกัน
(ของจริงญี่ปุ่นน่าจะแพงกว่าด้วยเพราะไกลกว่า แต่เอาเถอะ เล็กๆน้อยๆหลักหมื่นบาท ไม่เอามาคิดละกัน ต่อให้)
- ไทยจะโดน = (400,000+ภาษีนำเข้า 7%+กำไร)+สรรพสามิต 30%+VAT 7% <-- ภาษีนำเข้าใน ASEAN=7% ครับ
- ญี่ปุ่นจะโดน = (400,000+ภาษีนำเข้า 0%+กำไร)+VAT 8%+ภาษีการครอบครอง 3% <-- ไม่ผิดครับ ภาษีนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปของญี่ปุ่น=0% ครับ
(ราคารถใน website ญี่ปุ่นจะรวม VAT แล้ว แต่ยังไม่รวม Acquisition Tax นะครับ อันนี้ต้องไปจ่ายแยกต่างหาก)
ดังนั้น ถ้าสมมติ Honda อยากขาย Freed ให้ให้ได้กำไร 150,000 บาทเท่ากันทั้งในไทยและญี่ปุ่น
ที่ไทยต้องขายที่ราคาประมาณ 800,000 บาท แต่ที่ญี่ปุ่นขายที่ราคา 600,000 บาทก็พอ

ชัดรึยังครับว่าภาษีมันมีผลขนาดไหน ผมล่ะเซ็ง...

ตราบใดที่ภาษีนำเข้าชิ้นส่วน ภาษีนำเข้ารถสำเร็จรูป ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ยังคงเป็นแบบนี้
เราคนไทยก็จะได้ใช้รถ option น้อยกว่าในราคาที่แพงกว่าต่อไปชั่วลูกชั่วหลานอย่างแน่นอนครับ

PS: Toyota Belta ที่ญี่ปุ่น หรือ Vios ที่รู้จักในบ้านเรา
ถ้าเป็นรุ่นเบาะหลังแบบพับ 60-40 ไม่ได้ก็ใช้ฟิวเจอร์บอร์ดครับ อย่าอิจฉาญี่ปุ่นเลย...
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: veturilo ที่ กรกฎาคม 26, 2015, 22:33:52
เอากันอีกตัวอย่างละกัน MB E-Class นำเข้า ทำไมมันต้องราคาหลายล้านด้วย ไม่เข้าใจ ที่ US หรือ JP แค่ล้านเดียวเอง
ราคาต้นทุนจากประเทศผุ้ผลิตถึงท่าเรือที่ไทย เอากลมๆที่ 1 ล้านบาทละกัน
ไทยจะโดน= (1 ล้าน+ภาษีนำเข้า 80%+กำไร)+ภาษีสรรพสามิต 30%+VAT 7%
ดังนั้น ถ้าอยากได้กำไรซัก 5 แสน ราคาขายมันต้องประมาณ 3.2 ล้านบาทครับ

เซ็งมั้ยล่ะ...ทำยังไงกันดีครับคนไทยที่รัก ภาษีทำพิษเราซะขนาดนี้
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กรกฎาคม 27, 2015, 08:31:49
เข้ามาเห็นด้วยกับ จขกท.ครับ
ถ้าใครเคยสัมผัสรถยนต์รุ่นเดียวกันเมื่อเทียบใน ประเทศไทย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สเปน ฯลฯ จะได้เห็นตั้งแต่ความแตกต่างตอนที่
รถมันประกอบออกมาเป็นคันๆ ระบบช่วงล่าง เครื่องยนต์ เกียร์ ออปชั่นต่างๆ แตกต่างอย่างชัดเจน

พอมองให้ลึกเข้าไปก็จะเป็นเรื่องของความซีเรียสในการประกอบ รถไทยไม่ได้ซีเรียสมาก เมื่อเทียบกับ ตปท. ที่มีกฏหมายในการควบคุม
อย่าว่าแต่การประกอบเพียงอย่างเดียวเลยครับ การทำสี การเชื่อมโลหะ แม้กระทั่งตัว Material ที่เอามาทำรถยนต์ก็ต่างกันมากมาย

ผมจะยกตัวอย่างแค่การเชื่อมแล้วกันนะครับ : ในบางประเทศ เขาจะมีกฏหมายควบคุมการเชื่อมโลหะว่า จุดไหนที่ "จำเป็น" ต้องมีบ้าง
รู้ไหมครับ รถนอกการเชื่อมประตู ตัวถัง จุดที่จำเป็นบางจุดมีมากกว่า 4 จุดขึ้นไป ขณะที่ประเทศไทยมีแค่ 1 หรือ 2 เท่านั้น
แต่ผู้บริโภคจะรู้หรือไม่? เพราะสุดท้ายแล้วรถออกมาเป็นคัน ไม่มีใครเห็นรอยเชื่อมหรอกครับ หลายๆครั้งที่เกิดปัญหาของเสียงดังบ้าง
เอาเข้าศูนย์ช่างแก้ไม่หายบ้าง เป็นปัญหาเรื้อรังระยะยาว ไม่ใช่เพราะการประกอบเพียงอย่างเดียวนะครับ จุดเชื่อมต่างๆก็ส่งผล
แล้วเวลามีปัญหาขึ้นมา การตรวจสอบมันไม่ครบหรอกครับ รถบางคันหลุดออกไปขายเยอะแยะแล้ว แต่ผู้บริโภคเข้าใจกันเองว่า
รถมันผ่านการตรวจสอบมาทุกๆคัน อย่าลืมนะครับว่า เราผลิตรถส่งขายในประเทศ และนอกประเทศ ยิ่งประเทศไหนขายยาก
เรายิ่งต้องเอากำลังคนไปตรวจสอบในประเทศนั้นๆ เยอะกว่าประเทศที่ขายได้ง่ายกว่า จริงมั๊ยครับ?

และอีกหลายๆเรื่องที่ ตปท. ใช้อุปกรณ์ต่างๆมาเป็นพื้นฐานของรถทุกรุ่น ขณะที่บ้านเรายังด้อยเรื่องนี้ครับ

เข้ามาตอบในฐานะคนที่ทำงาน อยู่ ในอุตสหกรรม ยานยนต์
ข้อมูล คุณ มั่วหน้า ด้านๆๆ มากครับ
รถยนต์ผลิต ตามแบบ แบบ มันก็เหมือนกันหมด ไม่ว่าจะ ขายประเทศไหน
ไม่มี หรอกครับ ลดจุดเชื่อม
เค้าผลิตงาน ตาม ข้อกำหนด จาก OEM ไม่ได้นึกอยากลดหรือเพิ่มได้คุณพูดแบบนี้ คุณเอาหลักฐานมาครับ
เค้าไม่เขียนแบบ ออกมาเพื่อ ลดจุดเชื่อม เฉพาะ บ้านเราหรอกครับ
รถที่คุณ พูดถึง นี่ รถซาเล้งรึเปลาครับ มาลดจุดเชื่อม เฉพาะขายประเทศไทยนี่

เท่าที่ผมเห็น วัสดุอุปกรณ์ ทุกอย่าง ทำตามแบบ หมด
สิ่งที่ต่างคือ Option

รถหนึ่งคัน มี รหัส รุ่น มากเป็น 10 เป็นร้อย แบ่ง ตาม สี option ประเทศที่จำหน่าย
ทั้งที่ ผลิต จากโรงงานเดียวกัน

ตลอดเวลา ที่ทำงานมา สิ่งที่ต่างมีแค่ Option ไม่ใช่ คุณภาพ ครับ

case ย้อนกลับไปในอดีต ลองไปดู Lancer E-car ประกอบไทยดูครับ ไปดูใต้รถให้ละเอียด จะพบส่วนประกอบของ chassis ทำด้วยสังกะสีหรืออะไรสักอย่างประมาณนั้น

case ใกล้เข้ามาอีกหน่อย เอ๋อะไรนะ ผมได้ยินแว่วๆ เกี่ยวกับ ฟิวเจอร์บอร์ด 

อีกอันคือ ที่สมาชิกท่านนึงพูดเกี่ยวกับการชุบกันสนิม รถขายในประเทศเทียบกับรถส่งนอก

mitsubishi เท่าที่ผ่านตาผมมา หากผลิตบ้านเรา ทำเหมือนกันหมดทั้งส่งออกและภายในประเทศนะครับ ยืนยันเรื่องความห่วยของวัสดุเท่ากันทั้งโลก
แต่ถ้า ผลิตต่างประเทศ มันย่อมมีความแตกต่างแน่นอน แต่อย่าลืมเราคุยกันเรื่องรถผลิตบ้านเราส่งออกนะครับ

ส่วนเรื่อง ฟิวเจอร์บอร์ด  นี่ ถามผู้บริโภคเถอะครับ มันคือ option ไม่ใช่ คุณภาพ พวกคุณรับได้กันเอง แถมยังสนับสนุน แล้วมันคือความเลวร้ายเฉพาะค่ายรถไม่กี่ค่ายคือ  Mitsu และ toyota

ฟิวเจอร์บอร์ดคือ ความน่าทุเรศ ไร้ซึ่ง morality ของบริษัทไอ้ยุ่นพวกนั่น มีเจตนาจ้องจะเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างชัดเจน

คำถามคือ ผู้บริโภคเค้า รับได้กันเองหรือ พวกเค้าไม่รู้เรื่อง? 

ปล. นโยบาย over-protectionism ที่เริ่มทำกันในยุค 70s เริ่มจากห้ามนำเข้ารถจากนอก  ทำให้ไอ้ยุ่นขายอยู่คนเดียว  ก็มีส่วนทำให้เกิดความทุเรศอย่างทุกวันนี้

รับไม่ได้ กับ ไม่รู้เรื่อง มันก็ความหมายเดียวกันนะครับ
เพราะสุดท้ายคือ คุณก็ซื้อ คือคุณรับได้

รถหลายค่าย เค้าไม่เลวร้ายขนาดเอา ฟิวเจอร์บอร์ดมา ก็มีครับ ไปซื้อเถอะครับ
แล้วไอ้ Toyota รุ่นฟิวเจอร์บอร์ดที่ผลิบ้านเรามันก็ไม่ได้สงไปขาย ตลาดต่างประเทศนะครับ
เต็มที่ก็แค่ภูมิภาคนี้ ซึงก็รับฟิวเจอร์บอร์ดไปเต็มๆเหมือนกัน

ยังมีญี่ปุ่นอีกหลายค่ายที่ไม่มีฟิวเจอร์บอร์ดก็มีนะครับ แต่ถามว่า สุดท้าย เราเอากันไหม ?

ดังนั้นหากจะโจมตี เล่นเพาะค่ายดีกว่าครับเพราะเหมารวมไม่ได้  หลักๆก็สองค่ายเกรียนนั่นละ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กรกฎาคม 27, 2015, 08:34:47
เอากันอีกตัวอย่างละกัน MB E-Class นำเข้า ทำไมมันต้องราคาหลายล้านด้วย ไม่เข้าใจ ที่ US หรือ JP แค่ล้านเดียวเอง
ราคาต้นทุนจากประเทศผุ้ผลิตถึงท่าเรือที่ไทย เอากลมๆที่ 1 ล้านบาทละกัน
ไทยจะโดน= (1 ล้าน+ภาษีนำเข้า 80%+กำไร)+ภาษีสรรพสามิต 30%+VAT 7%
ดังนั้น ถ้าอยากได้กำไรซัก 5 แสน ราคาขายมันต้องประมาณ 3.2 ล้านบาทครับ

เซ็งมั้ยล่ะ...ทำยังไงกันดีครับคนไทยที่รัก ภาษีทำพิษเราซะขนาดนี้

ลองดูดีๆครับ  E-Class  ประกอบในไทยก็มีนะครับ
พาร์ทส่วนใหญ๋ นำเข้าได้ BOI เพราะได้เงือนไข ตามกำหนด
แต่ขายราคาตามที่เห็น
จริงๆ รถ CKD นำเข้ามาประกอบ ราคา ค่าดำเนินการมันทำให้ราคารถขึ้นมาสูงแน่นอน
แต่แน่นอน มันต้องถูกกว่านำเข้าทั้งคัน ? ไม่งั้น ไม่คุ้ม
แต่มาฟันเอาราคาขาย นีละ กำไรจริงๆ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ipong ที่ กรกฎาคม 27, 2015, 09:04:06
ผมเป็นอีกเสียงที่ยืนยันว่ารถประกอบไทยคุณภาพดีกว่าประกอบในอเมริกา ออสเตรเลีย ยุโรป และหลายๆโรงงานในญี่ปุ่นครับ
ดูได้จากอัตราการเกิดปัญหาของรถในท้องตลาดจากรถที่ประกอบจากโรงงานต่างๆได้ครับ ของไทยน้อยมากจริงๆ
จนค่ายรถหลายๆค่ายมาเปิดโรงงานในไทย ทั้งๆที่มีตัวเลือกประเทศค่าแรงถูกกว่าไทยมากมาย
ทั้งอินโดนีเซีย เวียดนาม อินเดีย ฟิลิปปินส์ ฯลฯ เค้าจะเลือกผลิตในประเทศพวกนั้นแล้วส่งมาขายในไทย
โดยโดนภาษีนำเข้าแค่ 7% ก็ได้ แต่เลือกให้ไทยผลิต ทำไมล่ะครับ???
มันมีเหตุผลครับ คนไทยประกอบรถได้คุณภาพดีจริงๆครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราควรจะภูมิใจนะครับ

ผลกระทบจากปัญหาคุณภาพมันมากกว่ากำไรหลายเท่าตัวจนถึงขั้นอาจปิดบริษัท

แต่ผมก็เป็นอีกเสียงที่เซ็งๆที่คนไทยได้ใช้รถ option น้อยกว่าในราคาที่แพงกว่า
(ยกเว้ณรถกระบะที่ต่างประเทศราคามันพุ่งไปไกลกว่าบ้านเรามานานมากแล้ว)
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากการบิดเบือนต้นทุนและราคาขายด้วยอัตราภาษีในบ้านเราครับ

จริงๆอาการเดียวกันมันเกิดขึ้นกับประเทศอื่นด้วย เช่น สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฯลฯ ไม่ใช่แค่ที่ไทย แต่ก็ด้วยเหตุผลต่างๆกันไป

อธิบายแบบง่ายๆ ภาษีที่ส่งผลกระทบต่อราคารถผลิตในประเทศมากที่สุดคือสรรพสามิตครับ
จัดกันตั้งแต่ 30%-50% ในรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ถ้า Eco Car ก็ 17% ตามด้วย VAT อีก 7% รวมกันแล้วเท่าไหร่แล้วล่ะ

เทียบกับญี่ปุ่นจะมีแค่ VAT 8% กับภาษีการครอบครองรถ (Acquisition Tax) อีกประมาณ 3%
รวมๆกันก็แค่ 11% เองครับ ถูกกว่าภาษีสรรพสามิต Eco Car บ้านเราซะอีก

ผมขอยกตัวอย่างเป็น Honda Freed ละกันเพราะไทยกับญี่ปุ่นน่าเอาของมาขายจากอินโดฯเหมือนกัน
ขอเดาตัวเลขต้นทุน+ค่าขนส่งจนถึงท่าเรือที่ไทย/ญี่ปุ่นตีกลมๆว่า 400,000 บาทละกัน
(ของจริงญี่ปุ่นน่าจะแพงกว่าด้วยเพราะไกลกว่า แต่เอาเถอะ เล็กๆน้อยๆหลักหมื่นบาท ไม่เอามาคิดละกัน ต่อให้)
- ไทยจะโดน = (400,000+ภาษีนำเข้า 7%+กำไร)+สรรพสามิต 30%+VAT 7% <-- ภาษีนำเข้าใน ASEAN=7% ครับ
- ญี่ปุ่นจะโดน = (400,000+ภาษีนำเข้า 0%+กำไร)+VAT 8%+ภาษีการครอบครอง 3% <-- ไม่ผิดครับ ภาษีนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปของญี่ปุ่น=0% ครับ
(ราคารถใน website ญี่ปุ่นจะรวม VAT แล้ว แต่ยังไม่รวม Acquisition Tax นะครับ อันนี้ต้องไปจ่ายแยกต่างหาก)
ดังนั้น ถ้าสมมติ Honda อยากขาย Freed ให้ให้ได้กำไร 150,000 บาทเท่ากันทั้งในไทยและญี่ปุ่น
ที่ไทยต้องขายที่ราคาประมาณ 800,000 บาท แต่ที่ญี่ปุ่นขายที่ราคา 600,000 บาทก็พอ

ชัดรึยังครับว่าภาษีมันมีผลขนาดไหน ผมล่ะเซ็ง...

ตราบใดที่ภาษีนำเข้าชิ้นส่วน ภาษีนำเข้ารถสำเร็จรูป ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ยังคงเป็นแบบนี้
เราคนไทยก็จะได้ใช้รถ option น้อยกว่าในราคาที่แพงกว่าต่อไปชั่วลูกชั่วหลานอย่างแน่นอนครับ

PS: Toyota Belta ที่ญี่ปุ่น หรือ Vios ที่รู้จักในบ้านเรา
ถ้าเป็นรุ่นเบาะหลังแบบพับ 60-40 ไม่ได้ก็ใช้ฟิวเจอร์บอร์ดครับ อย่าอิจฉาญี่ปุ่นเลย...

ได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากเลยครับ ขอบคุณครับ จริงๆแล้วเราน่าจะเอาภาษีพวกนี้มาคิดกลับ จะได้เห็นว่า ราคาก่อนภาษีจะเป็นเท่าไหร่ ทำให้เราพอจะทราบต้นทุน+กำไร คร่าวๆ ในแต่ละประเทศครับ จะได้รู้กันเสียทีว่าเราได้รถที่มีออปชั่นเหมาะสมกับราคา หรือ น้อยกว่าราคา

ภาษีเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราใช้รถราคาแพงกว่าบางประเทศครับ แต่ในส่วนของรถที่ผลิตในประเทศ ผมยังมีข้อสงสัยครับว่าทำไมบางค่ายให้ออปชั่นมาในราคาใกล้เคียงกันที่ราคาเท่ากัน (ในบ้านเรา)  แต่รถยนต์รุ่นนั้นๆๆถ้าไปขายต่างประเทศ ออปชั่นก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน ในราคาใกล้เคียงกัน

ผมว่าช่วงนี้มีเรื่องประเภทนี้เพราะค่าย T เพิ่งเปิดตัวรถ + ราคาที่โดดไปเมื่อเทียบกับออปชั่นที่ควรจะได้ เลยมีประเด็นนี้ให้เห็นเยอะครับ

ปล. บ้านผมใช้ค่าย T, H มาตลอดครับ ส่วนตัวก็อยากใช้ต่อใน PPV or Pick up แต่ค่อนข้างผิดหวังกับราคาเปิดตัว กับออปชั่นมากครับ เลยต้องตัดใจไปใช้ค่ายอื่นแทน (คหสต. ล้วนๆๆครับ)
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กรกฎาคม 27, 2015, 11:15:46

case ย้อนกลับไปในอดีต ลองไปดู Lancer E-car ประกอบไทยดูครับ ไปดูใต้รถให้ละเอียด จะพบส่วนประกอบของ chassis ทำด้วยสังกะสีหรืออะไรสักอย่างประมาณนั้น


ผมจะเดาว่า คุณเคยเห็นใต้รถ E-Car ที่ประกอบในต่างประเทศนะครับ แต่ผมว่าคุณไม่เคย ผมเคย แล้วผมยืนยันได้ว่ามันไม่ได้ต่างไปจาก E-Car ที่ประกอบในประเทศไทยเลยแม้แต่นิดเดียว ความห่วยแตกของมิตซูบิชิที่ประกอบ ไม่ว่าจะในญี่ปุ่นหรือว่าไทย ไม่แตกต่างกันเลย เน่าเหมือนกัน ให้เครดิตมิตซูบิชิดีเกินไปหรือเปล่าครับ? เมื่อเอาจำนวนรถที่มีอยู่มาคิดดู ผมว่าตอนนี้ผมก็เห็นจำนวน GTi ประกอบญี่ปุ่นพอๆกับจำนวน GLXi ประกอบไทยนะ ต่อให้เอาสัดส่วนมาคิดด้วยก็เถอะ ถ้าเกิดรถมันดีกว่ามาก ผมว่าทุกวันนี้คงไม่มีใครนั่งตามหา นั่งน้ำลายไหลเวลาเจอ GTi สภาพดีๆ หรอกนะครับ หรือว่าคุณจะบอกว่ามันเป็นทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดของคนในแหลมฉบังที่ไม่ออกอะไหล่ให้กับคนที่ใช้ GTi ทำให้ทุกวันนี้จำนวนลดลงไปจนไม่เหลืออะไร? แล้วก็น้ำมันเจ็ทละลายคานเหล็กกล้าไม่ได้?


case ใกล้เข้ามาอีกหน่อย เอ๋อะไรนะ ผมได้ยินแว่วๆ เกี่ยวกับ ฟิวเจอร์บอร์ด 


ผมจะเดาอีกอย่างว่า คุณเคยเห็นท้ายรถ Toyota Yaris Sedan ตัวที่ประกอบในญี่ปุ่นนะครับ แต่ผมว่าคุณไม่เคยเช่นกันนั่นแหละ ผมยอมรับนะว่า Toyota Yaris Sedan ที่ขายในอเมริกา เขาให้เบาะพับได้มาตั้งแต่รุ่นถูกสุดจนถึงรุ่นแพงสุด แล้วก็เหมือนตัวที่ประกอบในไทย คือรุ่นที่เบาะพับได้ ไม่มีฟิวเจอร์บอร์ดอยู่ท้ายรถ งั้นเราก็คงต้องไปดูรถที่ใกล้เคียงที่สุด ที่เบาะไม่สามารถพับได้ นั่นก็คือ Toyota Echo ซึ่งไม่เคยมีการประกอบในประเทศไทย แต่มันเป็นรถที่ประกอบในญี่ปุ่นและส่งออกไปขายที่สหรัฐ เพราะฉะนั้นก็เข้าข่ายรถที่ประกอบในต่างประเทศใช่ไหมครับ? รู้ไหมที่ท้ายรถ Toyota Echo มีอะไรซ่อนอยู่? ฟิวเจอร์บอร์ด

แล้วเพื่อนชาวเดนมาร์กคนหนึ่งของผม ผู้ซึ่งเคยได้เห็นรถที่ประกอบในแต่ละที่มามาก รวมทั้งท้ายรถโตโยต้าที่มีฟิวเจอร์บอร์ด เขาได้กล่าวไว้ว่า "แล้วจะทำไม? ในเมื่อมันทำหน้าที่ของมัน ซึ่งก็คือการปิดบังและป้องกันแผ่นเหล็กที่อยู่ด้านหลัง ได้ดีอยู่แล้ว?" ครับ คนต่างชาติที่คุณดูเหมือนจะกำลังเชิดชูว่าชาญฉลาดกว่าคนไทยมาก เขาไม่สนใจหรอกไอ้วัสดุแผ่นปิดในท้ายรถมันทำมาจากอะไร มีหน้าตาเป็นอย่างไร และมีราคาเท่าไหร่ ตราบใดที่มันสามารถทำหน้าที่ของมันได้ดี

คุณอาจจะมีหัวข้อที่น่าสนใจ แต่ถ้าเกิดคนอ่านไม่สามารถขึ้นเช็ครับการเสนอประเด็นที่เกี่ยวข้อง ชัดเจน และถูกต้อง ได้ ก็จบนะครับ เขาเรียกว่า Fallacy และมันสามารถทำให้คุณแพ้การโต้วาทีได้อย่างง่ายดายเลยล่ะ

พูดได้โดนครับ
หน้าที่ฟีเจอร์บอร์ด ก็ตามนั้น ปกบิดโครงสร้างกันอุจาด อีกหนึ่ง option ของเบาะรถ ซึง รถบ้านเราที่ใส่มาก็เป็นรุ่นต่ำสุดๆ และก็ไม่ได้ส่งไปขายที่ประเทศใหญ่ๆ ดังนั้นก็เทียบไม่ได้ครับ และไม่มีผลเรื่อง การขับขี่ หรือ คุณภาพหลักและประสิทธิภาพหลักของตัวรถแต่อย่างใด
และคุณจะเห็นมันแค่ ตอนเก้บของหลังรถเท่านั้น
ซึ่ง หนึ่งปี คุณจะมองเห็นมันกี่ครั้ง ? เป็นเวลา กี่ วินาที ?
และรถที่ใช้ ฟีเจอร์บอร์ด ก็เป็นพวก sedan  เท่านั้นเพราะ ท้ายหลังไม่ใช่ห้องโดยสาร
บางค่ายอาจดีหน่อย เอา พรมดำแปะทับฟีเจอร์บอร์ดอีกที
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ กรกฎาคม 27, 2015, 11:56:57
ผมเป็นอีกเสียงที่ยืนยันว่ารถประกอบไทยคุณภาพดีกว่าประกอบในอเมริกา ออสเตรเลีย ยุโรป และหลายๆโรงงานในญี่ปุ่นครับ
ดูได้จากอัตราการเกิดปัญหาของรถในท้องตลาดจากรถที่ประกอบจากโรงงานต่างๆได้ครับ ของไทยน้อยมากจริงๆ
จนค่ายรถหลายๆค่ายมาเปิดโรงงานในไทย ทั้งๆที่มีตัวเลือกประเทศค่าแรงถูกกว่าไทยมากมาย
ทั้งอินโดนีเซีย เวียดนาม อินเดีย ฟิลิปปินส์ ฯลฯ เค้าจะเลือกผลิตในประเทศพวกนั้นแล้วส่งมาขายในไทย
โดยโดนภาษีนำเข้าแค่ 7% ก็ได้ แต่เลือกให้ไทยผลิต ทำไมล่ะครับ???
มันมีเหตุผลครับ คนไทยประกอบรถได้คุณภาพดีจริงๆครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราควรจะภูมิใจนะครับ

ผลกระทบจากปัญหาคุณภาพมันมากกว่ากำไรหลายเท่าตัวจนถึงขั้นอาจปิดบริษัท

แต่ผมก็เป็นอีกเสียงที่เซ็งๆที่คนไทยได้ใช้รถ option น้อยกว่าในราคาที่แพงกว่า
(ยกเว้ณรถกระบะที่ต่างประเทศราคามันพุ่งไปไกลกว่าบ้านเรามานานมากแล้ว)
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากการบิดเบือนต้นทุนและราคาขายด้วยอัตราภาษีในบ้านเราครับ

จริงๆอาการเดียวกันมันเกิดขึ้นกับประเทศอื่นด้วย เช่น สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฯลฯ ไม่ใช่แค่ที่ไทย แต่ก็ด้วยเหตุผลต่างๆกันไป

อธิบายแบบง่ายๆ ภาษีที่ส่งผลกระทบต่อราคารถผลิตในประเทศมากที่สุดคือสรรพสามิตครับ
จัดกันตั้งแต่ 30%-50% ในรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ถ้า Eco Car ก็ 17% ตามด้วย VAT อีก 7% รวมกันแล้วเท่าไหร่แล้วล่ะ

เทียบกับญี่ปุ่นจะมีแค่ VAT 8% กับภาษีการครอบครองรถ (Acquisition Tax) อีกประมาณ 3%
รวมๆกันก็แค่ 11% เองครับ ถูกกว่าภาษีสรรพสามิต Eco Car บ้านเราซะอีก

ผมขอยกตัวอย่างเป็น Honda Freed ละกันเพราะไทยกับญี่ปุ่นน่าเอาของมาขายจากอินโดฯเหมือนกัน
ขอเดาตัวเลขต้นทุน+ค่าขนส่งจนถึงท่าเรือที่ไทย/ญี่ปุ่นตีกลมๆว่า 400,000 บาทละกัน
(ของจริงญี่ปุ่นน่าจะแพงกว่าด้วยเพราะไกลกว่า แต่เอาเถอะ เล็กๆน้อยๆหลักหมื่นบาท ไม่เอามาคิดละกัน ต่อให้)
- ไทยจะโดน = (400,000+ภาษีนำเข้า 7%+กำไร)+สรรพสามิต 30%+VAT 7% <-- ภาษีนำเข้าใน ASEAN=7% ครับ
- ญี่ปุ่นจะโดน = (400,000+ภาษีนำเข้า 0%+กำไร)+VAT 8%+ภาษีการครอบครอง 3% <-- ไม่ผิดครับ ภาษีนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปของญี่ปุ่น=0% ครับ
(ราคารถใน website ญี่ปุ่นจะรวม VAT แล้ว แต่ยังไม่รวม Acquisition Tax นะครับ อันนี้ต้องไปจ่ายแยกต่างหาก)
ดังนั้น ถ้าสมมติ Honda อยากขาย Freed ให้ให้ได้กำไร 150,000 บาทเท่ากันทั้งในไทยและญี่ปุ่น
ที่ไทยต้องขายที่ราคาประมาณ 800,000 บาท แต่ที่ญี่ปุ่นขายที่ราคา 600,000 บาทก็พอ

ชัดรึยังครับว่าภาษีมันมีผลขนาดไหน ผมล่ะเซ็ง...

ตราบใดที่ภาษีนำเข้าชิ้นส่วน ภาษีนำเข้ารถสำเร็จรูป ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ยังคงเป็นแบบนี้
เราคนไทยก็จะได้ใช้รถ option น้อยกว่าในราคาที่แพงกว่าต่อไปชั่วลูกชั่วหลานอย่างแน่นอนครับ

PS: Toyota Belta ที่ญี่ปุ่น หรือ Vios ที่รู้จักในบ้านเรา
ถ้าเป็นรุ่นเบาะหลังแบบพับ 60-40 ไม่ได้ก็ใช้ฟิวเจอร์บอร์ดครับ อย่าอิจฉาญี่ปุ่นเลย...

ได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากเลยครับ ขอบคุณครับ จริงๆแล้วเราน่าจะเอาภาษีพวกนี้มาคิดกลับ จะได้เห็นว่า ราคาก่อนภาษีจะเป็นเท่าไหร่ ทำให้เราพอจะทราบต้นทุน+กำไร คร่าวๆ ในแต่ละประเทศครับ จะได้รู้กันเสียทีว่าเราได้รถที่มีออปชั่นเหมาะสมกับราคา หรือ น้อยกว่าราคา

ภาษีเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราใช้รถราคาแพงกว่าบางประเทศครับ แต่ในส่วนของรถที่ผลิตในประเทศ ผมยังมีข้อสงสัยครับว่าทำไมบางค่ายให้ออปชั่นมาในราคาใกล้เคียงกันที่ราคาเท่ากัน (ในบ้านเรา)  แต่รถยนต์รุ่นนั้นๆๆถ้าไปขายต่างประเทศ ออปชั่นก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน ในราคาใกล้เคียงกัน

ผมว่าช่วงนี้มีเรื่องประเภทนี้เพราะค่าย T เพิ่งเปิดตัวรถ + ราคาที่โดดไปเมื่อเทียบกับออปชั่นที่ควรจะได้ เลยมีประเด็นนี้ให้เห็นเยอะครับ

ปล. บ้านผมใช้ค่าย T, H มาตลอดครับ ส่วนตัวก็อยากใช้ต่อใน PPV or Pick up แต่ค่อนข้างผิดหวังกับราคาเปิดตัว กับออปชั่นมากครับ เลยต้องตัดใจไปใช้ค่ายอื่นแทน (คหสต. ล้วนๆๆครับ)

ข้ออ้างของพวกค่ายรถกับพวกกองเชียร์อยากให้ค่ายรถกำไรเยอะๆ ประมาณว่า ใส่ออฟชันเต็มแล้วราคาแพง คนไม่ซื้อหรอก ยังฟังไม่ขึ้นอยู่ดี เพราะความจริงคือค่ายรถเค้า greedy อยากได้ margin เยอะๆ ซะมากกว่า   

ส่วนที่อ้างว่า คนไทยรับกันได้เอง  ซื้อเอง ช่วยไม่ได้ นี่เป้นการแก้ตัวแทนค่ารถแบบทื่อๆสุดโต่งเช่นกัน  ยังคงวกกลับไปที่เรื่องเดิมคือ มีคนไทยกี่คนที่รู้เรื่องถูกโกงออฟชั่น สเปคต่างๆ ในบอร์ดนี่ assume ว่า สมาชิกส่วนใหญ่รู้เรื่อง แต่คนไทยนอกบอร์ด?  คำถามคือถ้าคนส่วนมากรู้เรื่อง แล้ว จะเกิดอะไร? รับได้ ซาบซึ้ง ยังไงก็ซื้อ ไม่บ่น? ชอบให้ถูกมัดมือชก? 

คำอ้างของพวกอวยค่ายรถ มีข้อสรุปประมาณนี้ครับ

ทำไมสเปคออฟชั่นหายไปเยอะ เทียบกับของส่งนอก?
ใส่มาแล้วราคาโดดไปไกล คนไม่ซื้อ

แล้วทำไม บางแบรนด์อีดมาเพียบ ขายในราคาใกล้ๆกัน? จริงหรือเปล่าที่พวกกั๊กออฟชั่นอยากได้ margin เยอะๆ แต่เอาเรื่องราคาขายแพงมาเป็นข้ออ้าง?
........... ก็ผู้บริโภคไทยรับกันได้เอง ยอมซื้อเอง!


สรุปง่ายๆ ผมว่า พวกอวยเข้าข้างค่ายรถทั้งหลาย (คาดว่าเป็นพวกเดียวกันกับ เหล่า protectionist, nationalist) พวกคุณคือพวกที่กำลังสนับสนุนให้ ค่ายรถ (บริษัทต่างชาติ) ได้กำไรเยอะๆ ผู้บริโภคคนไทยช่างมัน มันโง่ มันไม่รู้ มันรับได้กับของด้อยๆ ยังไงก็ซื้อต่างหากละครับ     
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กรกฎาคม 27, 2015, 12:16:42
ผมเป็นอีกเสียงที่ยืนยันว่ารถประกอบไทยคุณภาพดีกว่าประกอบในอเมริกา ออสเตรเลีย ยุโรป และหลายๆโรงงานในญี่ปุ่นครับ
ดูได้จากอัตราการเกิดปัญหาของรถในท้องตลาดจากรถที่ประกอบจากโรงงานต่างๆได้ครับ ของไทยน้อยมากจริงๆ
จนค่ายรถหลายๆค่ายมาเปิดโรงงานในไทย ทั้งๆที่มีตัวเลือกประเทศค่าแรงถูกกว่าไทยมากมาย
ทั้งอินโดนีเซีย เวียดนาม อินเดีย ฟิลิปปินส์ ฯลฯ เค้าจะเลือกผลิตในประเทศพวกนั้นแล้วส่งมาขายในไทย
โดยโดนภาษีนำเข้าแค่ 7% ก็ได้ แต่เลือกให้ไทยผลิต ทำไมล่ะครับ???
มันมีเหตุผลครับ คนไทยประกอบรถได้คุณภาพดีจริงๆครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราควรจะภูมิใจนะครับ

ผลกระทบจากปัญหาคุณภาพมันมากกว่ากำไรหลายเท่าตัวจนถึงขั้นอาจปิดบริษัท

แต่ผมก็เป็นอีกเสียงที่เซ็งๆที่คนไทยได้ใช้รถ option น้อยกว่าในราคาที่แพงกว่า
(ยกเว้ณรถกระบะที่ต่างประเทศราคามันพุ่งไปไกลกว่าบ้านเรามานานมากแล้ว)
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากการบิดเบือนต้นทุนและราคาขายด้วยอัตราภาษีในบ้านเราครับ

จริงๆอาการเดียวกันมันเกิดขึ้นกับประเทศอื่นด้วย เช่น สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฯลฯ ไม่ใช่แค่ที่ไทย แต่ก็ด้วยเหตุผลต่างๆกันไป

อธิบายแบบง่ายๆ ภาษีที่ส่งผลกระทบต่อราคารถผลิตในประเทศมากที่สุดคือสรรพสามิตครับ
จัดกันตั้งแต่ 30%-50% ในรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ถ้า Eco Car ก็ 17% ตามด้วย VAT อีก 7% รวมกันแล้วเท่าไหร่แล้วล่ะ

เทียบกับญี่ปุ่นจะมีแค่ VAT 8% กับภาษีการครอบครองรถ (Acquisition Tax) อีกประมาณ 3%
รวมๆกันก็แค่ 11% เองครับ ถูกกว่าภาษีสรรพสามิต Eco Car บ้านเราซะอีก

ผมขอยกตัวอย่างเป็น Honda Freed ละกันเพราะไทยกับญี่ปุ่นน่าเอาของมาขายจากอินโดฯเหมือนกัน
ขอเดาตัวเลขต้นทุน+ค่าขนส่งจนถึงท่าเรือที่ไทย/ญี่ปุ่นตีกลมๆว่า 400,000 บาทละกัน
(ของจริงญี่ปุ่นน่าจะแพงกว่าด้วยเพราะไกลกว่า แต่เอาเถอะ เล็กๆน้อยๆหลักหมื่นบาท ไม่เอามาคิดละกัน ต่อให้)
- ไทยจะโดน = (400,000+ภาษีนำเข้า 7%+กำไร)+สรรพสามิต 30%+VAT 7% <-- ภาษีนำเข้าใน ASEAN=7% ครับ
- ญี่ปุ่นจะโดน = (400,000+ภาษีนำเข้า 0%+กำไร)+VAT 8%+ภาษีการครอบครอง 3% <-- ไม่ผิดครับ ภาษีนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปของญี่ปุ่น=0% ครับ
(ราคารถใน website ญี่ปุ่นจะรวม VAT แล้ว แต่ยังไม่รวม Acquisition Tax นะครับ อันนี้ต้องไปจ่ายแยกต่างหาก)
ดังนั้น ถ้าสมมติ Honda อยากขาย Freed ให้ให้ได้กำไร 150,000 บาทเท่ากันทั้งในไทยและญี่ปุ่น
ที่ไทยต้องขายที่ราคาประมาณ 800,000 บาท แต่ที่ญี่ปุ่นขายที่ราคา 600,000 บาทก็พอ

ชัดรึยังครับว่าภาษีมันมีผลขนาดไหน ผมล่ะเซ็ง...

ตราบใดที่ภาษีนำเข้าชิ้นส่วน ภาษีนำเข้ารถสำเร็จรูป ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ยังคงเป็นแบบนี้
เราคนไทยก็จะได้ใช้รถ option น้อยกว่าในราคาที่แพงกว่าต่อไปชั่วลูกชั่วหลานอย่างแน่นอนครับ

PS: Toyota Belta ที่ญี่ปุ่น หรือ Vios ที่รู้จักในบ้านเรา
ถ้าเป็นรุ่นเบาะหลังแบบพับ 60-40 ไม่ได้ก็ใช้ฟิวเจอร์บอร์ดครับ อย่าอิจฉาญี่ปุ่นเลย...

ได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากเลยครับ ขอบคุณครับ จริงๆแล้วเราน่าจะเอาภาษีพวกนี้มาคิดกลับ จะได้เห็นว่า ราคาก่อนภาษีจะเป็นเท่าไหร่ ทำให้เราพอจะทราบต้นทุน+กำไร คร่าวๆ ในแต่ละประเทศครับ จะได้รู้กันเสียทีว่าเราได้รถที่มีออปชั่นเหมาะสมกับราคา หรือ น้อยกว่าราคา

ภาษีเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราใช้รถราคาแพงกว่าบางประเทศครับ แต่ในส่วนของรถที่ผลิตในประเทศ ผมยังมีข้อสงสัยครับว่าทำไมบางค่ายให้ออปชั่นมาในราคาใกล้เคียงกันที่ราคาเท่ากัน (ในบ้านเรา)  แต่รถยนต์รุ่นนั้นๆๆถ้าไปขายต่างประเทศ ออปชั่นก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน ในราคาใกล้เคียงกัน

ผมว่าช่วงนี้มีเรื่องประเภทนี้เพราะค่าย T เพิ่งเปิดตัวรถ + ราคาที่โดดไปเมื่อเทียบกับออปชั่นที่ควรจะได้ เลยมีประเด็นนี้ให้เห็นเยอะครับ

ปล. บ้านผมใช้ค่าย T, H มาตลอดครับ ส่วนตัวก็อยากใช้ต่อใน PPV or Pick up แต่ค่อนข้างผิดหวังกับราคาเปิดตัว กับออปชั่นมากครับ เลยต้องตัดใจไปใช้ค่ายอื่นแทน (คหสต. ล้วนๆๆครับ)

ข้ออ้างของพวกค่ายรถกับพวกกองเชียร์อยากให้ค่ายรถกำไรเยอะๆ ประมาณว่า ใส่ออฟชันเต็มแล้วราคาแพง คนไม่ซื้อหรอก ยังฟังไม่ขึ้นอยู่ดี เพราะความจริงคือค่ายรถเค้า greedy อยากได้ margin เยอะๆ ซะมากกว่า   

ส่วนที่อ้างว่า คนไทยรับกันได้เอง  ซื้อเอง ช่วยไม่ได้ นี่เป้นการแก้ตัวแทนค่ารถแบบทื่อๆสุดโต่งเช่นกัน  ยังคงวกกลับไปที่เรื่องเดิมคือ มีคนไทยกี่คนที่รู้เรื่องถูกโกงออฟชั่น สเปคต่างๆ ในบอร์ดนี่ assume ว่า สมาชิกส่วนใหญ่รู้เรื่อง แต่คนไทยนอกบอร์ด?  คำถามคือถ้าคนส่วนมากรู้เรื่อง แล้ว จะเกิดอะไร? รับได้ ซาบซึ้ง ยังไงก็ซื้อ ไม่บ่น? ชอบให้ถูกมัดมือชก? 

คำอ้างของพวกอวยค่ายรถ มีข้อสรุปประมาณนี้ครับ

ทำไมสเปคออฟชั่นหายไปเยอะ เทียบกับของส่งนอก?
ใส่มาแล้วราคาโดดไปไกล คนไม่ซื้อ

แล้วทำไม บางแบรนด์อีดมาเพียบ ขายในราคาใกล้ๆกัน? จริงหรือเปล่าที่พวกกั๊กออฟชั่นอยากได้ margin เยอะๆ แต่เอาเรื่องราคาขายแพงมาเป็นข้ออ้าง?
........... ก็ผู้บริโภคไทยรับกันได้เอง ยอมซื้อเอง!


สรุปง่ายๆ ผมว่า พวกอวยเข้าข้างค่ายรถทั้งหลาย (คาดว่าเป็นพวกเดียวกันกับ เหล่า protectionist, nationalist) พวกคุณคือพวกที่กำลังสนับสนุนให้ ค่ายรถ (บริษัทต่างชาติ) ได้กำไรเยอะๆ ผู้บริโภคคนไทยช่างมัน มันโง่ มันไม่รู้ มันรับได้กับของด้อยๆ ยังไงก็ซื้อต่างหากละครับ   

ก็นั่นไงครับ
OEM เค้าขายรถให้คนทั้งประเทศครับ เค้าไม่ได้ขายให้คนฉลาดอย่างคุณ
เค้าไม่ได้ขายคนในบอร์ดนี้
คุณไม่มีสิทธิ ตัดสินคนอื่นโง่หรือไม่โง่ครับ
แล้วพวกผมก็ไม่เคยดูถูกใคร เพียงแต่กำลังพูดความจริง กับสิ่งที่มันเกิดขึ้น

มีแต่คุณนั่นละ ที่ใช้ วาจา ถ่อยๆ ต่ำๆ โง่มั่งละ ด่าโจม ตี OEM แบบไม่ลืมหูลืมตามั่งละ

ผมกำลังบอกว่าค่ายอื่น รถ spec เดียวกันกับนอกมันก็มีครับ
หากมันตอบโจทย์คุณ คุณ ก็ไปซื้อครับ

สุดท้ายรถมันจะขายได้หรือไม่ได้ มันก็อยู่ที่ผู้ซื้อครับ
ความต้องการ และ ความเข้าใจของคนไม่เหมือนกัน

ยืนยันไม่มีใครโง่ครับ ใครซื้อมันก็เป็นสิทธิของเค้า ก่อนซื้อ ทุกคนมีสิทธิเลือก เค้าไม่ได้ไปบังคับใครซื้อรถครับ
ทุกวันนี้รถมันพัฒนามาเยอะ อุปกรณ์ขั้นต่ำ เรื่องความปลอดภัยก็จัดเต็มแล้ว ก็เลือกกันเอาตามสบายใจครับ

ยืนยันไม่ได้ปกต้อง และก็ไม่ได้ ปิดตาโจมตีข้างเดียว
กรุณา กลับ วกกลับมาที่ รถที่ผลิตภายในปะรเทศด้วยครับ

รถ ทุุกค่ายในบ้านเรา มีรถที่ spec เดียวกับต่างประขาย ครับ
แล้วก็มีรถที่ตัด option ออก ซึง เค้าก็ไม่ได้ปกปิดว่าตัดอะไรออกไป มันมีอยู่แล้วในโบชัวร์


นั่นอยู่ที่ สิทธิของผู้บริดภคที่จะเลือกแล้ว





หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: ipong ที่ กรกฎาคม 27, 2015, 13:35:53
ผมกลับมองว่า ผู้บริโภค อาจจะไม่ได้รับรู้ก็ได้ครับ ว่าส่วนที่ต่างกันมันช่วยอะไรขึ้นบ้าง คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก จนคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัย คุณสมบัติของรถ มากกว่ายี่ห้อ ถึงตอนนั้น เราอาจจะเห็นยอดขายเป็นไปตามกลไกของมัน

การที่บอกว่าเราลดต้นทุนได้ โดยลดประสิทธิภาพลง แต่โฆษณาว่าดีขึ้นเพราะลูกค้าเค้าไม่สนใจเนี่ย ผมมองว่าค่ายรถทำไม่ถูกนะครับ ซึ่งผมมองว่าเป็นการเอาเปรียบคนซื้อนะครับ (แม้คนซื้อไม่ได้สนใจ เพราะเชื่อชื่อเสียงของสินค้าก็ตาม)

เอาเปรียบก็คือเอาเปรียบครับ เอาเปรียบเพราะคนซื้อไม่รู้ หรือไม่สนใจ ก็เรียกเอาเปรียบครับ (ความเห็นส่วนตัวนะครับ)
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ กรกฎาคม 27, 2015, 14:13:08
ผมกลับมองว่า ผู้บริโภค อาจจะไม่ได้รับรู้ก็ได้ครับ ว่าส่วนที่ต่างกันมันช่วยอะไรขึ้นบ้าง คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก จนคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัย คุณสมบัติของรถ มากกว่ายี่ห้อ ถึงตอนนั้น เราอาจจะเห็นยอดขายเป็นไปตามกลไกของมัน

การที่บอกว่าเราลดต้นทุนได้ โดยลดประสิทธิภาพลง แต่โฆษณาว่าดีขึ้นเพราะลูกค้าเค้าไม่สนใจเนี่ย ผมมองว่าค่ายรถทำไม่ถูกนะครับ ซึ่งผมมองว่าเป็นการเอาเปรียบคนซื้อนะครับ (แม้คนซื้อไม่ได้สนใจ เพราะเชื่อชื่อเสียงของสินค้าก็ตาม)

เอาเปรียบก็คือเอาเปรียบครับ เอาเปรียบเพราะคนซื้อไม่รู้ หรือไม่สนใจ ก็เรียกเอาเปรียบครับ (ความเห็นส่วนตัวนะครับ)

+1 ตามนั่นครับ 
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Ty ESC ที่ กรกฎาคม 27, 2015, 18:25:22
เมื่อไหร่ก็ตามที่เรายังทะเลาะกันแบบนี้

ก็แปลว่าค่ายรถก็ยัง ฉวยโอกาส  ได้เสมอ

ถ้าแค่เลิกทะเลาะกันแบ่งค่ายนั้นค่ายนี้
เมื่อผู้บริโภครวมตัวกันกดดันผู้ประกอบการณ์ รู้จักใช้กฎหมายอย่างถูกวิธี

เราถึงจะขยับเข้าใกล้สิ่งที่เราเรียกร้อง คือคุณภาพและความคุ้มค่ารวมถึงการแข่งขันการค้าที่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค

แต่จากที่เห็น คงยาก เพราะเรายังสนุกที่จะตีกันต่อไป อย่างนี้พ่อค้าเค้ายิ้มรอเชือดอย่างเดียว
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Tee+...Lek ที่ กรกฎาคม 27, 2015, 22:02:57
เกือบๆ จะต้มมาม่ากันอยู่แล้ว ฮ่า ฮ่า

เรื่องราคากับ Option นี่มันขึ้นกับหลายปัจจัยจริงๆ ครับ ทั้งการแข่งขันในตลาด ต้นทุนของรถเอง และอื่นๆ ที่หลายอย่างที่เรายังไม่รู้

ที่ผมเห็นชัดที่สุดตอนนี้เลยคือกรณีของ Camry MC 2015 ตอนแรกก่อน MC พี่โตแกกั๊กเหลือเกิน พอ Accord G9 ออกเท่านั้นแหละ ผลมันก็ออกมาที่ยอดขายที่เห็นกันอยู่ในช่วงก่อนหน้า พอ MC ออกมามีของตรง Option โดน ยอดขายใน D Segment ในปัจจุปันมันก็อย่างที่เห็น

จุดมุ่งหมายของการทำธุรกิจ ส่วนนึงคือการแสวงหากำไร แน่นอนว่าการลดต้นทุนเป็นการเพิ่มกำไรอย่างนึงที่เห็นผลได้ชัด ซึ่งในตลาดที่ไม่มีการแข่งขันที่สูง การลดต้นทุนก็จะมีรูปแบบที่ท่านยกตัวอย่างมาให้เห็น คือลดมาก กำไรก็มาก

ดังนั้นการแข่งขันจะทำยกระดับคุณภาพของสินค้าเช่นกัน ก็อย่างที่หลายๆ ท่านกล่าว ถ้าไม่มีคนซื้อ คนขายก็ต้องปรับปรุง

แต่สิ่งนึงที่อยากจะฝากไว้ครับ...

ต้นทุนนึงที่หลายๆ คนที่อยู่ในประเทศเราไม่ค่อยคิดถึงคือ ต้นทุนด้าน "ความคิด" แม้ว่าท่านจะมองว่ารถหนึ่งคันควรจะมีราคาเท่านี้ อะไหล่ราคาเท่านี้ แต่สิ่งนึงที่ในต่างประเทศต่างกับเราคือ เค้าให้คุณค่ากับการ "ออกแบบ" นั่นเองครับ อย่าลืมครับว่า รถหนึ่งรุ่นจะออกมา บริษัทต้องลงทุนด้านการ "ออกแบบ" โดยจ้างทีมงานใช้เวลาออกแบบเป็นปีๆ ขึ้นรูป มีการทดลองขับ มีการทดสอบอัตราสิ้นเปลือง ตรงนี้เป็น "เงิน" ทั้งนั้นนะครับ เป็นต้นทุนที่มองไม่เห็น และลูกค้าไม่ได้รู้เลยว่ารถยนต์ 1 รุ่นมีค่าใช้จ่ายตรงนี้มากแค่ไหน

ไม่งั้น Honda คงถอดใจกับ Brio ไปแล้ว

ไม่งั้น Vigo ถึงไม่ลากยาวถึง 10 ปี ทั้งที่ควรจะเปลี่ยนรุ่นตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว

นี่ยังไม่รวมถึงค่าแรงของพนักงานที่ทำงานในบริษัทเหล่านั้นนะครับ ซึ่งค่าใข้จ่ายต่อปีของบริษัทระดับโลกมันสูงมากนะครับ

สุดท้ายนี้ ผมว่าการตำหนิเพื่อเรียกร้องสิทธิผู้บริโภคเป็นสิ่งที่พึงกระทำได้ครับ แต่บางครั้งอย่าเอาคำว่า "อคติ" มาบังตาจนพาลทำให้ทุกคนที่เห็นไม่เหมือนท่านเป็นคนที่เป็น "สาวก" หรือ "แฟน" ของค่ายไหนเลยครับ อย่างที่ท่าน Ty ESC ว่าแหละครับ
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Siamtech ที่ กรกฎาคม 27, 2015, 22:41:04
คุณอย่าเอา แคมรี่ตัวออส มา เทียบกับเราสิครับ เพราะ แคมรี้ออสตลาดมันแค่ชิวิคในไทยเรานี่แหละ

หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: veturilo ที่ กรกฎาคม 28, 2015, 02:40:47
เอากันอีกตัวอย่างละกัน MB E-Class นำเข้า ทำไมมันต้องราคาหลายล้านด้วย ไม่เข้าใจ ที่ US หรือ JP แค่ล้านเดียวเอง
ราคาต้นทุนจากประเทศผุ้ผลิตถึงท่าเรือที่ไทย เอากลมๆที่ 1 ล้านบาทละกัน
ไทยจะโดน= (1 ล้าน+ภาษีนำเข้า 80%+กำไร)+ภาษีสรรพสามิต 30%+VAT 7%
ดังนั้น ถ้าอยากได้กำไรซัก 5 แสน ราคาขายมันต้องประมาณ 3.2 ล้านบาทครับ

เซ็งมั้ยล่ะ...ทำยังไงกันดีครับคนไทยที่รัก ภาษีทำพิษเราซะขนาดนี้

ลองดูดีๆครับ  E-Class  ประกอบในไทยก็มีนะครับ
พาร์ทส่วนใหญ๋ นำเข้าได้ BOI เพราะได้เงือนไข ตามกำหนด
แต่ขายราคาตามที่เห็น
จริงๆ รถ CKD นำเข้ามาประกอบ ราคา ค่าดำเนินการมันทำให้ราคารถขึ้นมาสูงแน่นอน
แต่แน่นอน มันต้องถูกกว่านำเข้าทั้งคัน ? ไม่งั้น ไม่คุ้ม
แต่มาฟันเอาราคาขาย นีละ กำไรจริงๆ

E-Class ประกอบไทยนี่ฟันกันเต็มๆครับ ไม่ต้องคิดมาก :-p
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: Direct ที่ กรกฎาคม 31, 2015, 20:38:59
เข้ามาเห็นด้วยกับ จขกท.ครับ
ถ้าใครเคยสัมผัสรถยนต์รุ่นเดียวกันเมื่อเทียบใน ประเทศไทย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สเปน ฯลฯ จะได้เห็นตั้งแต่ความแตกต่างตอนที่
รถมันประกอบออกมาเป็นคันๆ ระบบช่วงล่าง เครื่องยนต์ เกียร์ ออปชั่นต่างๆ แตกต่างอย่างชัดเจน

พอมองให้ลึกเข้าไปก็จะเป็นเรื่องของความซีเรียสในการประกอบ รถไทยไม่ได้ซีเรียสมาก เมื่อเทียบกับ ตปท. ที่มีกฏหมายในการควบคุม
อย่าว่าแต่การประกอบเพียงอย่างเดียวเลยครับ การทำสี การเชื่อมโลหะ แม้กระทั่งตัว Material ที่เอามาทำรถยนต์ก็ต่างกันมากมาย

ผมจะยกตัวอย่างแค่การเชื่อมแล้วกันนะครับ : ในบางประเทศ เขาจะมีกฏหมายควบคุมการเชื่อมโลหะว่า จุดไหนที่ "จำเป็น" ต้องมีบ้าง
รู้ไหมครับ รถนอกการเชื่อมประตู ตัวถัง จุดที่จำเป็นบางจุดมีมากกว่า 4 จุดขึ้นไป ขณะที่ประเทศไทยมีแค่ 1 หรือ 2 เท่านั้น
แต่ผู้บริโภคจะรู้หรือไม่? เพราะสุดท้ายแล้วรถออกมาเป็นคัน ไม่มีใครเห็นรอยเชื่อมหรอกครับ หลายๆครั้งที่เกิดปัญหาของเสียงดังบ้าง
เอาเข้าศูนย์ช่างแก้ไม่หายบ้าง เป็นปัญหาเรื้อรังระยะยาว ไม่ใช่เพราะการประกอบเพียงอย่างเดียวนะครับ จุดเชื่อมต่างๆก็ส่งผล
แล้วเวลามีปัญหาขึ้นมา การตรวจสอบมันไม่ครบหรอกครับ รถบางคันหลุดออกไปขายเยอะแยะแล้ว แต่ผู้บริโภคเข้าใจกันเองว่า
รถมันผ่านการตรวจสอบมาทุกๆคัน อย่าลืมนะครับว่า เราผลิตรถส่งขายในประเทศ และนอกประเทศ ยิ่งประเทศไหนขายยาก
เรายิ่งต้องเอากำลังคนไปตรวจสอบในประเทศนั้นๆ เยอะกว่าประเทศที่ขายได้ง่ายกว่า จริงมั๊ยครับ?

และอีกหลายๆเรื่องที่ ตปท. ใช้อุปกรณ์ต่างๆมาเป็นพื้นฐานของรถทุกรุ่น ขณะที่บ้านเรายังด้อยเรื่องนี้ครับ

เข้ามาตอบในฐานะคนที่ทำงาน อยู่ ในอุตสหกรรม ยานยนต์
ข้อมูล คุณ มั่วหน้า ด้านๆๆ มากครับ
รถยนต์ผลิต ตามแบบ แบบ มันก็เหมือนกันหมด ไม่ว่าจะ ขายประเทศไหน
ไม่มี หรอกครับ ลดจุดเชื่อม
เค้าผลิตงาน ตาม ข้อกำหนด จาก OEM ไม่ได้นึกอยากลดหรือเพิ่มได้คุณพูดแบบนี้ คุณเอาหลักฐานมาครับ
เค้าไม่เขียนแบบ ออกมาเพื่อ ลดจุดเชื่อม เฉพาะ บ้านเราหรอกครับ
รถที่คุณ พูดถึง นี่ รถซาเล้งรึเปลาครับ มาลดจุดเชื่อม เฉพาะขายประเทศไทยนี่

เท่าที่ผมเห็น วัสดุอุปกรณ์ ทุกอย่าง ทำตามแบบ หมด
สิ่งที่ต่างคือ Option

รถหนึ่งคัน มี รหัส รุ่น มากเป็น 10 เป็นร้อย แบ่ง ตาม สี option ประเทศที่จำหน่าย
ทั้งที่ ผลิต จากโรงงานเดียวกัน

ตลอดเวลา ที่ทำงานมา สิ่งที่ต่างมีแค่ Option ไม่ใช่ คุณภาพ ครับ

แค่คุณเริ่มต้นด้วยการด่า ผมก้อไม่อยากจะพูดอะไรกับคุณมากแล้วล่ะครับ
คุณจะว่าข้อมูลผมมั่วหรืออะไรก้อตามแต่ใจคุณคิด
แต่ผมจะบอกคุณว่า ถ้าคุณมีข้อมูล มีหลักฐานที่เป็นความลับ คุณจะกล้าเปิดเผยไหมครับ?

คุณเคยทำรถรุ่นเดียวกันส่งขายทั้งในไทย และต่างประเทศไหมครับ?
ถ้าคุณเคย ผมเชื่อว่าอย่างน้อยคุณต้องเคยเห็นแบบมันมาบ้าง ไม่มากก็น้อย
คุณจะรู้ถึงความแตกต่างอย่างที่ผมพูด

ผมเดาว่าถ้าคุณไม่ได้อยู่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ
คุณคงเป็นหัวหน้าของคนทำงาน ที่"ไม่"ได้ลงมา"ตรวจ"อย่าง"ละเอียด"จริงๆว่า
Product ที่ออกมาเป็นอย่างไร เพียงแค่ดูยอดขายเท่านั้น

อีกอย่างนะครับ ผมไม่ได้พูดว่ารถยนต์ไม่ทำตามแบบ
รถทุกคันต้องทำตามแบบหมดอยู่แล้วครับ
แต่สิ่งที่ผมกำลังสื่อสาร ผมกำลังบอกว่า รถในแต่ละประเทศมันก็มีแบบเป็นของประเทศนั้นๆ
ถึงแม้ว่าจะเป็นขนาดเดียวกัน รุ่นเดียวกัน สเปคเดียวกัน จาก supplier ที่เดียวกัน
คุณคิดว่า มันมีจำนวนเท่ากันทุกประเทศหรอครับ?

ปล.ผมลองถามคุณเล่นๆ สมมติคุณมีชิ้นส่วน 1 ชิ้น ยาวสัก 60 ซม. คุณเชื่อม หัว กลาง ท้าย
3 - 5 จุด มันก็อยู่แล้วครับ คุณจะเชื่อมเพิ่มให้มันเป็น 6 - 10 จุดอีกทำไม?
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: onbit40 ที่ กรกฎาคม 31, 2015, 20:43:19
ให้บ้านเราทำ option แบบอินโดน่ะ ลูกค้าสามารถตัดออกได้แทบทุกอย่าง 555+ ไม่เว้นแม้แต่ abs / air bag / กระจกมือหมุน
หัวข้อ: Re: คนไทยผลิตรถคุณภาพดีส่งขายประเทศอื่น ส่วนตัวเองได้ใช้แต่ของด้อยสเปคห่วยกว่า
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ สิงหาคม 03, 2015, 16:17:19
เข้ามาเห็นด้วยกับ จขกท.ครับ
ถ้าใครเคยสัมผัสรถยนต์รุ่นเดียวกันเมื่อเทียบใน ประเทศไทย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย สเปน ฯลฯ จะได้เห็นตั้งแต่ความแตกต่างตอนที่
รถมันประกอบออกมาเป็นคันๆ ระบบช่วงล่าง เครื่องยนต์ เกียร์ ออปชั่นต่างๆ แตกต่างอย่างชัดเจน

พอมองให้ลึกเข้าไปก็จะเป็นเรื่องของความซีเรียสในการประกอบ รถไทยไม่ได้ซีเรียสมาก เมื่อเทียบกับ ตปท. ที่มีกฏหมายในการควบคุม
อย่าว่าแต่การประกอบเพียงอย่างเดียวเลยครับ การทำสี การเชื่อมโลหะ แม้กระทั่งตัว Material ที่เอามาทำรถยนต์ก็ต่างกันมากมาย

ผมจะยกตัวอย่างแค่การเชื่อมแล้วกันนะครับ : ในบางประเทศ เขาจะมีกฏหมายควบคุมการเชื่อมโลหะว่า จุดไหนที่ "จำเป็น" ต้องมีบ้าง
รู้ไหมครับ รถนอกการเชื่อมประตู ตัวถัง จุดที่จำเป็นบางจุดมีมากกว่า 4 จุดขึ้นไป ขณะที่ประเทศไทยมีแค่ 1 หรือ 2 เท่านั้น
แต่ผู้บริโภคจะรู้หรือไม่? เพราะสุดท้ายแล้วรถออกมาเป็นคัน ไม่มีใครเห็นรอยเชื่อมหรอกครับ หลายๆครั้งที่เกิดปัญหาของเสียงดังบ้าง
เอาเข้าศูนย์ช่างแก้ไม่หายบ้าง เป็นปัญหาเรื้อรังระยะยาว ไม่ใช่เพราะการประกอบเพียงอย่างเดียวนะครับ จุดเชื่อมต่างๆก็ส่งผล
แล้วเวลามีปัญหาขึ้นมา การตรวจสอบมันไม่ครบหรอกครับ รถบางคันหลุดออกไปขายเยอะแยะแล้ว แต่ผู้บริโภคเข้าใจกันเองว่า
รถมันผ่านการตรวจสอบมาทุกๆคัน อย่าลืมนะครับว่า เราผลิตรถส่งขายในประเทศ และนอกประเทศ ยิ่งประเทศไหนขายยาก
เรายิ่งต้องเอากำลังคนไปตรวจสอบในประเทศนั้นๆ เยอะกว่าประเทศที่ขายได้ง่ายกว่า จริงมั๊ยครับ?

และอีกหลายๆเรื่องที่ ตปท. ใช้อุปกรณ์ต่างๆมาเป็นพื้นฐานของรถทุกรุ่น ขณะที่บ้านเรายังด้อยเรื่องนี้ครับ

เข้ามาตอบในฐานะคนที่ทำงาน อยู่ ในอุตสหกรรม ยานยนต์
ข้อมูล คุณ มั่วหน้า ด้านๆๆ มากครับ
รถยนต์ผลิต ตามแบบ แบบ มันก็เหมือนกันหมด ไม่ว่าจะ ขายประเทศไหน
ไม่มี หรอกครับ ลดจุดเชื่อม
เค้าผลิตงาน ตาม ข้อกำหนด จาก OEM ไม่ได้นึกอยากลดหรือเพิ่มได้คุณพูดแบบนี้ คุณเอาหลักฐานมาครับ
เค้าไม่เขียนแบบ ออกมาเพื่อ ลดจุดเชื่อม เฉพาะ บ้านเราหรอกครับ
รถที่คุณ พูดถึง นี่ รถซาเล้งรึเปลาครับ มาลดจุดเชื่อม เฉพาะขายประเทศไทยนี่

เท่าที่ผมเห็น วัสดุอุปกรณ์ ทุกอย่าง ทำตามแบบ หมด
สิ่งที่ต่างคือ Option

รถหนึ่งคัน มี รหัส รุ่น มากเป็น 10 เป็นร้อย แบ่ง ตาม สี option ประเทศที่จำหน่าย
ทั้งที่ ผลิต จากโรงงานเดียวกัน

ตลอดเวลา ที่ทำงานมา สิ่งที่ต่างมีแค่ Option ไม่ใช่ คุณภาพ ครับ

แค่คุณเริ่มต้นด้วยการด่า ผมก้อไม่อยากจะพูดอะไรกับคุณมากแล้วล่ะครับ
คุณจะว่าข้อมูลผมมั่วหรืออะไรก้อตามแต่ใจคุณคิด
แต่ผมจะบอกคุณว่า ถ้าคุณมีข้อมูล มีหลักฐานที่เป็นความลับ คุณจะกล้าเปิดเผยไหมครับ?

คุณเคยทำรถรุ่นเดียวกันส่งขายทั้งในไทย และต่างประเทศไหมครับ?
ถ้าคุณเคย ผมเชื่อว่าอย่างน้อยคุณต้องเคยเห็นแบบมันมาบ้าง ไม่มากก็น้อย
คุณจะรู้ถึงความแตกต่างอย่างที่ผมพูด

ผมเดาว่าถ้าคุณไม่ได้อยู่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ
คุณคงเป็นหัวหน้าของคนทำงาน ที่"ไม่"ได้ลงมา"ตรวจ"อย่าง"ละเอียด"จริงๆว่า
Product ที่ออกมาเป็นอย่างไร เพียงแค่ดูยอดขายเท่านั้น

อีกอย่างนะครับ ผมไม่ได้พูดว่ารถยนต์ไม่ทำตามแบบ
รถทุกคันต้องทำตามแบบหมดอยู่แล้วครับ
แต่สิ่งที่ผมกำลังสื่อสาร ผมกำลังบอกว่า รถในแต่ละประเทศมันก็มีแบบเป็นของประเทศนั้นๆ
ถึงแม้ว่าจะเป็นขนาดเดียวกัน รุ่นเดียวกัน สเปคเดียวกัน จาก supplier ที่เดียวกัน
คุณคิดว่า มันมีจำนวนเท่ากันทุกประเทศหรอครับ?

ปล.ผมลองถามคุณเล่นๆ สมมติคุณมีชิ้นส่วน 1 ชิ้น ยาวสัก 60 ซม. คุณเชื่อม หัว กลาง ท้าย
3 - 5 จุด มันก็อยู่แล้วครับ คุณจะเชื่อมเพิ่มให้มันเป็น 6 - 10 จุดอีกทำไม?

ผมก็ไม่จำเป็นต้องบอกหรอกครับว่าอยู่ส่วนไหน
รถมันผลิตตามแบบ แบบออกจากวิศวกร วิศวกรออกแบบตามความต้องการลูกค้า ความต้องการลูกค้ากำหนดตาม กฏหมาย
วัดผลสินค้าจาก ทดสอบ ไม่ใช่เอาตามความรู้สึก
เค้าไม่บ้าออกแบบ จุดเชื่อม ประเทศ นั้น สองจุด ระเทศนี้ สามจุดครับ
เพราะ ข้อกำหนด หรือ ตาม drawing มีเพีงข้อเดียว
ยกเว้นแต่ รถขายแยกประเทศ ก็จะใส่ option ที่แตกต่างกัน

ผมก็ตอบคุณเล่นๆ ครับ
จะเชื่อมกี่จุด ตามใจคุณไม่ได้ครับ ต้องเชื่อมตาม แบบที่สั่งทำครับ
ทำไม่ตามแบบ คือผิด
และจะเชื่อมกี่จุดมันไม่สำคัญ
กฏหมายไม่สนใจว่าเชื่อมกี่จุด
สนใจแค่ว่า สำเร็จเป็นชิ้นงานแล้ว ผ่านมาตราฐานการดสอบไหม ถ้าผ่านและทำตามแบบคือ จบครับ

คุณอ้าง กฏหมาย กำหนดจุดเชื่อม เหรอ
กฏหมาย ข้อไหน หมวดไหนเอามาโชว์ผมครับ

ผมไม่ชอบพวกพูดพล่อยๆ ผมจะด่าครับถ้าคุณมั่วมา

แล้วคำนี้นะครับ พูดมาได้ไงครับ
ความซีเรียสในการประกอบ รถไทยไม่ได้ซีเรียสมาก
เค้าทำงานตามแบบ ครับ ตาม วิธีการปฎิบัติงาน มีมาตราฐาน มีวิธีการตรวจสอบครับ
ไม่มีใครประกอบรถ ความซีเรียส ครับ ไม่งั้น เค้าจะกำหนดให้ ผู้ผลิตรถยนต์ทำตามมาตราฐาน TS ทำไม

คุณ รู้จริงป่าวครับ
หรือคุณทำงานตาม ความ รู้สึกครับ