Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: the kit ที่ สิงหาคม 31, 2015, 11:23:26
-
เมื่อวานผมได้ไปลองนั่งดูจริงๆ จังๆ แบบเต็มๆ สำหรับ FTN 2.4V 1.369ล. กับ PJS 2.4 4wd GT premium 1.399ล.
1 ชม.สำหรับ FTN ที่ dealer แห่งหนึ่ง และอีกเกือบ 2 ชม.สำหรับ PJS ที่มิตซู สนง.ใหญ่ เนื่องจากงาน big ดูได้ไม่เต็มจากการแย่งกันดู
เริ่มกันด้วยข้อสงสัยของ PJS ก่อน
1.มือจับประตูด้านในคู่หน้า อึดอัดจริงๆ วางแขนตามยาวไม่ได้ ได้แค่เอาข้อศอกผิง ส่วนประตูหลัง ตามรถปกติที่ควรจะเป็น
2.คอนโซลกลางติดเข่าไหม วางเข่าแนบได้พอดี ไม่อึดอัด อันนี้คือปรับเบาะในตำแหน่งขับขี่แล้ว (ผมสูง 180cm. หนัก 82kg.)
3.จอเพดาน 9" ให้ความรู้สึกเหมือนดูจอ บน 737 ยังไงยังงั้น รวมทั้งคุณภาพของภาพด้วย แต่ก็มีข้อดีคือ เมื่อเปิดลงมาแล้วไม่บังกระจกมองหลัง
4.ช่องอากาศของตู้แอร์ด้านหลัง ดูโบราณมาก เหมือน G-wagon ยังไงยังงั้น
5.มือจับเหนือหัว, มือจับขึ้นรถ ดูล้าสมัยไปนิด
มาเข้าเรื่อง FTN 2.4V ขับสอง 1.369ล. กับ PJS 2.4 4wd GT premium 1.399ล.
ภาพรวมภายใน
สำหรับ FTN ผมดูว่า หน้าตาของปุ่มกด รูปแบบของอุปกรณ์ ที่วางแก้วน้ำ ที่วางแขน ดูดีดูล้ำกว่า ดูสบายตากว่า คือ เป็นมิตรมากกว่า
เสียงเครื่องยนต์ ที่รอบเดินเบา ค่อนข้างเงียบ แต่สถานที่ลองเป็นลานจอดของ dealer แห่งหนึ่ง
แต่ส่วน PJS ดูเรียบๆ ออกจะไปทางแข็ง ไม่หวือหวา แต่จริงๆ มีครบและลูกเล่นมีมากกว่า FTN คุณภาพหนังที่ใช้ไม่ต่างกัน
เสียงเครื่องยนต์ ที่รอบเดินเบา ดังกว่า FTN อยู่หน่อย แต่สถานที่ลอง คือ บน showroom ติดแอร์ด้านหน้าของมิตซู สนง.ใหญ่!!
ภาพรวมภายนอก
FTN หน้าสวย-ท้าย ดูกว้าง,เส้นสายด้านข้างไม่แย่ แต่ไม่เด่น แต่งานประกอบทำได้ดี
PJS หน้าสวยเหมือนรถนำเข้า daylight โดดเด่น โลโก้ Tri-diamonds เป็นเรดาร์ แอบซ่อนกล้องหน้าไว้แนบเนียน
ท้ายแล้วแต่คนชอบ แต่ Spectrum LED นี่แจ่มจริงๆ เพียงแต่ดูห่างๆ มันเป็นลักษณะ tall boy กันชนท้ายสั้นไปนิด
ผมว่าออกมาอีกซัก 1-2cm กำลังสวย แต่ก็ Nobody perfect
ภาพรวมด้านเทคนิค
เปรียบเทียบจาก specification จากแผ่นพับของแต่ละยี่ห้อ โดยรวม PJS เป็นต่อ ทั้งเกียร์, แรงม้า, แรงบิด, ดิสค์เบรคหลัง,
ระบบช่วยเบรดจากการชน, กล้องรอบทิศทาง, เบาคู่หน้าปรับไฟฟ้า
ขอเข้าคำถามผมนะ
สำหรับ 10 ปี ระหว่าง 2 คันนี้เลือกคันไหนดี เพราะอะไรครับ
-
รถผมใช้ไม่รู้กี่ปีนะครับ ในอนาคตไม่ขอกล่าวถึง
ตอนนี้ผมจองปาเจโร่ท็อปไปละ นั่งไม่มีปัญหา พวงมาลัยดึงเข้าออกได้ ปรับได้
มือจับประตูดูขัดๆจริงๆ แต่ผมวางแขนได้ สบาย
ภายในผมเฉยๆ เพราะรุ่นที่แล้วผมก็รับได้ แต่เบาะถ้าเปลี่ยนเป็นสีอื่นบ้างคงจะดี
สีดำมันดูยังไงไม่รู้ :(
รถได้ พ.ย ปีนี้
-
ถ้าใช้ยาวคงต้องถามใจคุณเองครับว่าโดยรวมพอใจคันไหนมากที่สุด นั่นแหละครับคือคำตอบที่ใช่
-
จากที่อ่าน น่าจะเอนไปทาง ftn
ดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่ชอบ มันก็ ไม่ใช่
ถ้าตอบด้วย option pjr
Life time 10 year ftn
ปรึกษาทางบ้านร่วมด้วยจะดีมากสุด เพราะคนใกล้ตัว จะเข้าใจมากสุด
-
ถ้าใช้ยาวคงต้องถามใจคุณเองครับว่าโดยรวมพอใจคันไหนมากที่สุด นั่นแหละครับคือคำตอบที่ใช่
ยังตัดสินใจไม่ได้ครับ ชอบเหมือนกัน 50:50
PJS เหมือนคน จบ ป.เอก ม.เอกชน ทำงานเก่ง เอาใจเก่ง ลูกล่อลูกชนเพียบ แต่ดูเหมือนเป็นคนแข็งๆ แต่งตัวเนี้ยบ
แต่งยังไม่ค่อยเรียบร้อย
FTN จบ ป.ตรี ม.รัฐชั้นนำของ ปท. ทำงานเก่ง เอาใจเก่ง นิสัย friendly แต่งตัวเนี้ยบเน้นราคาแพง
-
จากที่อ่าน น่าจะเอนไปทาง ftn
ดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่ชอบ มันก็ ไม่ใช่
ถ้าตอบด้วย option pjr
Life time 10 year ftn
ปรึกษาทางบ้านร่วมด้วยจะดีมากสุด เพราะคนใกล้ตัว จะเข้าใจมากสุด
ใจยังไม่เอนไปข้างไหน ดีทั้งคู่ แต่แตกต่าง ที่บ้านก็ช่วยคิดยังปวดหัวกันอยู่เลย
แต่จองแน่ก่อนสิ้น กย58 นี้
-
ยังไม่ไดีไปดูเลยสักคัน เห็นฟอบนถนนบ้าง คืออยากบอกว่าถ้าอยากตกรุ่นไวเลือกฟอ เพราะเปลี่ยนภายนอกบ่อยกว่าไวกว่าดูเทียบกับปารุ่นเดิม แต่าปาจะเล่นเปลี่ยนนุ่นเพิ่มนี่แต่หน้า ท้ายไม่เปลี่ยน คิดดูครับ
-
เลือก PJS เพราะด้านเทคนิค มีผลระยะยาวแน่ๆครับ
ประเด็นด้านความสวยงาม มันหวือหวาแค่ช่วงแรกๆของรถยนต์ทุกค่าย ที่เปิดตัวmodelใหม่ครับ (mu-x เป็นตัวอย่าง)
-
ผมคิดกลับไปกลับมา 188ตลบ เสี่ยงทายเอาPJSครับ
มันเหมือนรักสามเส้า นาทีที่สาวน้อยไม่สามารถเลือกใครได้
-
เอาตามที่คุณคิดละครับ ผมว่าคุณเลือกเเล้ว แต่รอแค่เสียงสนับสนุน เป็นผมก็เลือกอันนั้นเเหละ
-
คหสต. เป็นผมผมจะเลือกแบบนี้
-ถ้าเป็นครอบครัวที่ใช้เบาะแถว3บ่อย และขับแต่ในเมืองจะไปfortuner
-ถ้าเป็นคนที่ขับต่างจังหวัดบ่อย มีลุยบ้าง ครอบครัว5คน ใช้เบาะแถวสามน้อย ต้องการความปลอดภัยไปPJS
-ถ้าจะเอาคุ้ม แน่นอนไปPJS
-เบาะคนขับตำแหน่งดี นั่งสบาย รู้สึกน่าขับ ไปPJS
-น่านั่งกว่าทั้งคัน บรรยากาศดูดีกว่า ไปfortuner
-ดูได้นานกว่า ไปPJS(minor changeของมิตซูต่างกันน้อยมากแทบไม่เปลี่ยน)
-ขนของบ่อย ขนของใหญ่ๆ ไป PJS
สุดท้ายผมว่าลองขับบนถนนทั้ง2คันอีกทีดีกว่าครับ เพราะที่อ่านมาผมตีความว่าจขกท.แค่สตาร์เครื่องและนั่งดูรายละเอียดต่างๆในรถ ลองซัดบนถนน ถ้าตัดสินใจยังไม่ได้เลือกอันที่ขับดูแล้วมั่นใจสุดดีกว่าครับ
-
1. FTN 1,369,000 VS PJS 1,399,000 ราคาต่างกัน 30000 ถือว่าใกล้เคียงกัน
2. สิ่งที่ต่างกันชัดเจนก็ตรงนี้ 2.4 6AT 2WD VS 2.4 8AT 4WD คุณคิดว่า ขับสี่มันจำเป็นต่อการใช้งานรึป่าว ลองหาข้อมูลเพิ่มจากคนเคยใช้รถขับสี่ครับว่ามันมีประโยชน์ยังงัย อย่าไปถามคนขับ2 ไม่เคยใช้ขับ4 เพราะเค้าจะตอบว่ามีทำมัย มันไม่ได้ใช้ไม่จำเป็น
3. หน้าตา รูปร่าง การออกแบบของตัวรถ มันดูดีทั้งคู่ครับ ต้องถามใจตัวเองเลย อันนี้ขอไม่ออกความเห็น
4. ออปชั่น PJS มันคือตัวท็อบ ให้มามากว่าอยู่แล้ว ถ้าเทียบสเปคดู อยู่ที่ว่าจะใช้ครบหรือป่าว (ผมหมายถึงอุปกรณ์พวกเทคโนโลยีของรถนะครับ ไม่ใช่ช่องวางแก้ว มือจับ หรือที่พักแขนอะไรพวกนี้)
ณ.จุดนี้ผมเลือก PJS ครับไม่ต้องสงสัย.. ** ที่สำคัญที่สุดคนที่บ้านต้องแฮปปี้ด้วยน่ะครับ เพราะมันคือรถขนาดครอบครัว...
-
ไปลอง TestDrive เลยครับ PJS น่าจะเดือนหน้าถึงมีรถให้ TestDrive แล้วค่อยตัดสินใจครับ เงินไม่ใช่น้อยๆ ตัดสินใจเองดีที่สุด เลือกที่คิดว่าใช่สำหรับตัวเองดีที่สุดครับ อย่างเช่น : ถ้าถามผม ผมมีใจให้ค่าย Mitsu (เฉพาะ กะบะ และ PPV.) ผมก็จะเชียร์ PJS. ไปทดลองทั้งสองค่ายแล้วตัดสินใจที่ตัวเองคิดว่าใช่เลยครับ
-
ถ้าใช้ยาวคงต้องถามใจคุณเองครับว่าโดยรวมพอใจคันไหนมากที่สุด นั่นแหละครับคือคำตอบที่ใช่
ยังตัดสินใจไม่ได้ครับ ชอบเหมือนกัน 50:50
PJS เหมือนคน จบ ป.เอก ม.เอกชน ทำงานเก่ง เอาใจเก่ง ลูกล่อลูกชนเพียบ แต่ดูเหมือนเป็นคนแข็งๆ แต่งตัวเนี้ยบ
แต่งยังไม่ค่อยเรียบร้อย
FTN จบ ป.ตรี ม.รัฐชั้นนำของ ปท. ทำงานเก่ง เอาใจเก่ง นิสัย friendly แต่งตัวเนี้ยบเน้นราคาแพง
ขอนอกเรื่องนิดๆครับพี่ แล้ว EV,MU-X,เทรล เปรียบได้ประมาณไหนครับ ;)
-
ออฟชั่น ไป ปาเจโร่
บรรยากาศและวัสดุ ประกอบ ใช้ ประกอบ ห้องโดยสาร ไป ฟอร์จูนเนอร์
ส่วนตัว ผม ใช้ออฟชั่นน้อยครับ
ผมคงFTN เพราะ อีก ราย นอก จากเบาะ ที่เหลือแทบจะ พลาสติกทั้งหมด
-
ผมคิดกลับไปกลับมา 188ตลบ เสี่ยงทายเอาPJSครับ
มันเหมือนรักสามเส้า นาทีที่สาวน้อยไม่สามารถเลือกใครได้
ยังคิดหนักอยู่เลย ขนาดเมื่อคืนยังเก็บเอาไปฝัน อยากจะจอง PJS แต่เป็นห่วงเรื่อง brand
อยากจะจอง FTN แต่ options สู้ PJS ไม่ได้เลย :(
-
เอาตามที่คุณคิดละครับ ผมว่าคุณเลือกเเล้ว แต่รอแค่เสียงสนับสนุน เป็นผมก็เลือกอันนั้นเเหละ
ณ นาทีนี้ สาบานได้เลยว่า ยังเลือกไม่ได้จริงๆ
จะโยนหัวก้อย มันก็เกินไป ราคาตั้ง 1.4ล. :'(
-
คหสต. เป็นผมผมจะเลือกแบบนี้
-ถ้าเป็นครอบครัวที่ใช้เบาะแถว3บ่อย และขับแต่ในเมืองจะไปfortuner
-ถ้าเป็นคนที่ขับต่างจังหวัดบ่อย มีลุยบ้าง ครอบครัว5คน ใช้เบาะแถวสามน้อย ต้องการความปลอดภัยไปPJS
-ถ้าจะเอาคุ้ม แน่นอนไปPJS
-เบาะคนขับตำแหน่งดี นั่งสบาย รู้สึกน่าขับ ไปPJS
-น่านั่งกว่าทั้งคัน บรรยากาศดูดีกว่า ไปfortuner
-ดูได้นานกว่า ไปPJS(minor changeของมิตซูต่างกันน้อยมากแทบไม่เปลี่ยน)
-ขนของบ่อย ขนของใหญ่ๆ ไป PJS
สุดท้ายผมว่าลองขับบนถนนทั้ง2คันอีกทีดีกว่าครับ เพราะที่อ่านมาผมตีความว่าจขกท.แค่สตาร์เครื่องและนั่งดูรายละเอียดต่างๆในรถ ลองซัดบนถนน ถ้าตัดสินใจยังไม่ได้เลือกอันที่ขับดูแล้วมั่นใจสุดดีกว่าครับ
ใช่ครับ แค่นั่งในรถสตาร์ทเครื่องยังไม่ได้ลองขับ ถึง FTN 2.8 Top มี test drive แต่ก็ไม่อยาก test
เพราะถ้าเกิดมันดีขึ้นมา กลัวจะลำเอียงในการเลือกครับ
ถ้าได้ลองขับทั้งคู่ มันก็ดีซิครับ เคยลอง X1 2.0d 8speeds มา อัตราเร่ง ความต่อเนื่องมันเยี่ยมมาก
ถ้า FTN หรือ PJS ได้ซัก 70% ก็โอเคแล้ว
-
1. FTN 1,369,000 VS PJS 1,399,000 ราคาต่างกัน 30000 ถือว่าใกล้เคียงกัน
2. สิ่งที่ต่างกันชัดเจนก็ตรงนี้ 2.4 6AT 2WD VS 2.4 8AT 4WD คุณคิดว่า ขับสี่มันจำเป็นต่อการใช้งานรึป่าว ลองหาข้อมูลเพิ่มจากคนเคยใช้รถขับสี่ครับว่ามันมีประโยชน์ยังงัย อย่าไปถามคนขับ2 ไม่เคยใช้ขับ4 เพราะเค้าจะตอบว่ามีทำมัย มันไม่ได้ใช้ไม่จำเป็น
3. หน้าตา รูปร่าง การออกแบบของตัวรถ มันดูดีทั้งคู่ครับ ต้องถามใจตัวเองเลย อันนี้ขอไม่ออกความเห็น
4. ออปชั่น PJS มันคือตัวท็อบ ให้มามากว่าอยู่แล้ว ถ้าเทียบสเปคดู อยู่ที่ว่าจะใช้ครบหรือป่าว (ผมหมายถึงอุปกรณ์พวกเทคโนโลยีของรถนะครับ ไม่ใช่ช่องวางแก้ว มือจับ หรือที่พักแขนอะไรพวกนี้)
ณ.จุดนี้ผมเลือก PJS ครับไม่ต้องสงสัย.. ** ที่สำคัญที่สุดคนที่บ้านต้องแฮปปี้ด้วยน่ะครับ เพราะมันคือรถขนาดครอบครัว...
1. จริงๆ ราคารวมอะไรต่างๆ แล้ว FTN กับ PJS ห่างกันไม่เกิน 4 พันบาท
2. ขับสี่มีดีกว่าแน่ แต่ค่าบำรุงรักษาก็มากกว่า แต่เวลาจำเป็นใช้มันก็ได้ใช้จริงๆ ผมอยู่ ตจว.ด้วย
3. จริงครับ
4. options มันก็เหมือนขับสอง ขับสี่น่ะแหละครับ มีดีกว่าไม่มี แต่เสียมาก็คงหลายตังค์
-
ไปลอง TestDrive เลยครับ PJS น่าจะเดือนหน้าถึงมีรถให้ TestDrive แล้วค่อยตัดสินใจครับ เงินไม่ใช่น้อยๆ ตัดสินใจเองดีที่สุด เลือกที่คิดว่าใช่สำหรับตัวเองดีที่สุดครับ อย่างเช่น : ถ้าถามผม ผมมีใจให้ค่าย Mitsu (เฉพาะ กะบะ และ PPV.) ผมก็จะเชียร์ PJS. ไปทดลองทั้งสองค่ายแล้วตัดสินใจที่ตัวเองคิดว่าใช่เลยครับ
อยาก testdrive ก่อนเหมือนกัน
แต่อีกใจก็กลัวว่า ถ้าเลือก FTN แต่ไม่ได้จอง PJS ก่อนสิ้นเดือน กย.ราคา PJS จะไปเป็น 1.45ล.
แต่อีกใจก็กลัวว่า ถ้าเลือก PJS หน้าตาทางสังคมทางบ้านนอกที่ผมอยู่ อาจจะไม่เท่า FTN
-
ถ้าใช้ยาวคงต้องถามใจคุณเองครับว่าโดยรวมพอใจคันไหนมากที่สุด นั่นแหละครับคือคำตอบที่ใช่
ยังตัดสินใจไม่ได้ครับ ชอบเหมือนกัน 50:50
PJS เหมือนคน จบ ป.เอก ม.เอกชน ทำงานเก่ง เอาใจเก่ง ลูกล่อลูกชนเพียบ แต่ดูเหมือนเป็นคนแข็งๆ แต่งตัวเนี้ยบ
แต่งยังไม่ค่อยเรียบร้อย
FTN จบ ป.ตรี ม.รัฐชั้นนำของ ปท. ทำงานเก่ง เอาใจเก่ง นิสัย friendly แต่งตัวเนี้ยบเน้นราคาแพง
ขอนอกเรื่องนิดๆครับพี่ แล้ว EV,MU-X,เทรล เปรียบได้ประมาณไหนครับ ;)
จัดให้ครับ
EV เหมือนคน จบ ป.เอก ม.เอกชน ทำงานเก่ง เอาใจเก่ง ลูกล่อลูกชนเพียบ แต่ดูเหมือนเป็นคนแข็งๆ แนวนักบู้
แต่งตัวเนี้ยบแต่งยังไม่ค่อยเรียบร้อย เมื่อออกจากบ้านมาแล้ว ทางบ้านคล้ายๆ จะตัดหางปล่อยวัด ปล่อยให้สู้ชีวิตเอาเอง
Trail โดน retire จาก ป.ตรี ม.รัฐชั้นนำของ ปท. มาจบ ป.ตรี ม.เอกชน ที่ชื่อชั้น กลางๆ ทำงานกลางๆ แต่รวดเร็ว
เอาใจไม่เก่งนัก นิสัยพอใช้ได้ แต่งตัวปกติ ที่บ้านไม่รักมากกว่า EV
Mu X จบ ป.ตรี ม.รัฐชั้นนำ ทำงานกลางๆ ไม่เร็วไม่ช้า แต่เชื่อใจได้ว่าสำเร็จ เอาใจไม่เก่งนัก นิสัยดีคุยรู้เรื่อง
ที่บ้านรักมาก มี ปห.กลับมาปรึกษากันได้ มักมีทางออกที่ดีให้ ออกแนวไม่เด่น แต่คน ตจว. ชอบนักคนแบบนี้
-
ผมคิดกลับไปกลับมา 188ตลบ เสี่ยงทายเอาPJSครับ
มันเหมือนรักสามเส้า นาทีที่สาวน้อยไม่สามารถเลือกใครได้
ยังคิดหนักอยู่เลย ขนาดเมื่อคืนยังเก็บเอาไปฝัน อยากจะจอง PJS แต่เป็นห่วงเรื่อง brand
อยากจะจอง FTN แต่ options สู้ PJS ไม่ได้เลย :(
ผมรักสองเศร้า เทือกเขากับปา โตต้าตัดออกเพราะข้อหาหมั่นใส้ 555
นั่งคิด นอนคิด ปวดหัวมากกับสองรุ่นนี้
สุดท้ายเอาปาเจโร่ดีกว่า เพราะสำหรับผม เครื่องระดับ 3.2ลิตร มันเยอะไป
แม้จะเครื่องใหญ่แต่อัตราเร่งคิดว่า น่าจะสู้ปาเจโร่ไม่ได้ (ดูจากกระบะ แรนเจอเทียบไททั่น)
ใช้ในเมืองเป็นหลัก ปีนึงออกเที่ยวไกลๆ 2 ครั้ง และสุดท้าย ราคา1,399,000 กับสิ่งของที่ได้มา ::) มันคุ้มแล้วสำหรับผม
โดยที่ไม่ต้องจ่ายถึง 1,599,000 บาท ประหยัดไปสองแสน :P
-
ถ้าใช้รถ 10 ผมว่าสองค่ายนี้ไว้ใจได้ไม่ต่างกันครับ อะไหล่ ราคาไม่ต่างกันมาก มีถูกกว่า แพงกว่าบ้าง
เรื่องศูนย์ ผมว่าไว้ใจได้ทั้งสองยี่ห้อครับ
สำหรับ for 2.4 ก็พอใช้งานแล้วนะครับ ครบๆ ด้วย เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วๆ ประตูท้ายไฟฟ้าด้วย
แต่ pa ต้องเปิดเองนะครับ Option ตัวนี้แหละครับที่ ทำให้ผม ไม่อยากจะเลือก pa อันเดียวจริงๆ
ส่วน pa ได้ ระบบขับเคลื่อน นี่ได้มาครบๆ เลยนะครับ และสำหรับผม ระบบ ขับสี่ ของ Pa ไว้ใจได้เลย(แบบไม่ใช่ไปลุยหนักๆนะครับ เอาแบบว่า มันสามารถพาเราผ่านอุปสรรค ที่ขับสองไปไม่ได้เลย ดีมากๆ แต่ให้ลุยแบบโหดๆ ๆๆ นี่ก็คงต้องแต่งเพิ่ม และถ้าเป็นผม ผมจะไม่เอารถประเภทนี้ไปลุยหนักแบบนั้นครับ)
ส่วนอื่นๆ คงต้องตามใจคนซื้อหละครับผม
-
ผมคิดกลับไปกลับมา 188ตลบ เสี่ยงทายเอาPJSครับ
มันเหมือนรักสามเส้า นาทีที่สาวน้อยไม่สามารถเลือกใครได้
ยังคิดหนักอยู่เลย ขนาดเมื่อคืนยังเก็บเอาไปฝัน อยากจะจอง PJS แต่เป็นห่วงเรื่อง brand
อยากจะจอง FTN แต่ options สู้ PJS ไม่ได้เลย :(
ผมรักสองเศร้า เทือกเขากับปา โตต้าตัดออกเพราะข้อหาหมั่นใส้ 555
นั่งคิด นอนคิด ปวดหัวมากกับสองรุ่นนี้
สุดท้ายเอาปาเจโร่ดีกว่า เพราะสำหรับผม เครื่องระดับ 3.2ลิตร มันเยอะไป
แม้จะเครื่องใหญ่แต่อัตราเร่งคิดว่า น่าจะสู้ปาเจโร่ไม่ได้ (ดูจากกระบะ แรนเจอเทียบไททั่น)
ใช้ในเมืองเป็นหลัก ปีนึงออกเที่ยวไกลๆ 2 ครั้ง และสุดท้าย ราคา1,399,000 กับสิ่งของที่ได้มา ::) มันคุ้มแล้วสำหรับผม
โดยที่ไม่ต้องจ่ายถึง 1,599,000 บาท ประหยัดไปสองแสน :P
สาเหตุที่ผมเสี่ยงทายPJSไปเพราะผมลองเอาตัวแรงที่สุดของทั้ง3ค่ายมาดู(ในเวอร์ชั่นกระบะ) PJSทำเวลาได้ดีที่สุด
ประหยัดน้ำมันกว่า FTNอยู่10% และประหยัดน้ำมันกว่าEVEอยู่15-20% กว่าจะจากกันประหยัดได้ราวๆ100,000
แต่ก็อย่างว่าทั้งEVEและFTNก็มีจุดเด่นของตัวเองที่ทำให้ตัดใจลำบากสุดแสนจะสับสน ว่าแล้วก็กลายเป็น189ตลบ
-
ถ้าเครื่องกับเกียร์ใหม่ของ PJSทนทาน ไม่มีปัญหา ละถ้าประหยัดน้ำมันพอๆกับคู่แข่งได้ ส่วนช่วงล่างผมไม่สน ปรับเปลี่ยนได้ เปนผม ผมไปPJS กับการเปรียบเทียบในครั้งนี้
-
เอาตามที่คุณคิดละครับ ผมว่าคุณเลือกเเล้ว แต่รอแค่เสียงสนับสนุน เป็นผมก็เลือกอันนั้นเเหละ
ณ นาทีนี้ สาบานได้เลยว่า ยังเลือกไม่ได้จริงๆ
จะโยนหัวก้อย มันก็เกินไป ราคาตั้ง 1.4ล. :'(
งั้นเลือก FTN ให้ครับ
ปา ไปดูตัวจริงมาเฉยๆครับ เงิน 1.5 ล้าน เยอะครับ ค่อยๆเลือกเอาให้ตรงใจที่สุด
-
1.ผมมีปัญหาเหมือนกัน ไม่ชอบเลย
2.ไม่แน่ใจนะครับจำไม่ได้
3.ถ้าไม่มีคนนั่งหลังประจำก็ไม่จำเป็น แต่มีดีกว่าไม่มี
4.ผมเฉยๆนะ ไม่ได้ซีเรียส
5.เหตุผลเดียวกับข้อ4
ส่วนเรื่องภายในภายนอก วัสดุ นนจต. แล้วแต่ชอบ แล้วแต่ความพึงพอใจ
เป็นผมลือก PJS เพราะออฟชั่นต่างๆและกำลังของเครื่องยนต์ ขับสี่ตลอดเวลา นั่งคนเดียวตลอด เบาะหลังพับเพียบไว้ขนได้สะดวกๆ
แต่ถ้ามีครอบครัวจริงๆ ใช้เบาะแถวสามบ่อย ฟอร์เป็นคำตอบที่ดีนะครับ เพราะเบาะแถวสองเลื่อนขึ้นได้ ทำให้คนนั่งแถวสามนั่งได้สบายขึ้นเยอะ
-
ลองดูประเด็นเรื่องเครื่องยนต์ประกอบไปด้วยครับ
ถ้าเป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว หรือเน้นอัตราเร่งแซง
ขับทางไกลบ่อย หรือในเมืองค่อนข้างมุด
ระหว่าง 2 คันนี้ Pajero Sport 2.4 กับ Fortuner 2.4
เรียกได้ว่าค่อนข้างต่างกันมากครับเรื่องพละกำลัง
-
ของผมคิดหนักระหว่าง EV กะปา ไปลองEV มารู้สึกชอบ เพราะมันไม่โยนเหมือนกะบะ4 ประตูที่เคยได้ขับ
ถ้าปาทำได้สัก80% ของEV. เรื่องนี้ ผมคงเอาปาแน่นอนครับ เพราะ EV. ส่งรถไม่ทัน
ป.ล. เสียดายปาอีกอันคือไม่มี หลังคากระจก
-
นาทีนี้ SUV เลือกยากจริงๆ ยอมรับเลย
-
ลองดูประเด็นเรื่องเครื่องยนต์ประกอบไปด้วยครับ
ถ้าเป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว หรือเน้นอัตราเร่งแซง
ขับทางไกลบ่อย หรือในเมืองค่อนข้างมุด
ระหว่าง 2 คันนี้ Pajero Sport 2.4 กับ Fortuner 2.4
เรียกได้ว่าค่อนข้างต่างกันมากครับเรื่องพละกำลัง
คันไหนได้เปรียบหรอคับ?
-
เอาตามที่คุณคิดละครับ ผมว่าคุณเลือกเเล้ว แต่รอแค่เสียงสนับสนุน เป็นผมก็เลือกอันนั้นเเหละ
ณ นาทีนี้ สาบานได้เลยว่า ยังเลือกไม่ได้จริงๆ
จะโยนหัวก้อย มันก็เกินไป ราคาตั้ง 1.4ล. :'(
งั้นเลือก FTN ให้ครับ
ปา ไปดูตัวจริงมาเฉยๆครับ เงิน 1.5 ล้าน เยอะครับ ค่อยๆเลือกเอาให้ตรงใจที่สุด
เพราะอะไรจึงเลือกFTNครับ
-
1.ผมมีปัญหาเหมือนกัน ไม่ชอบเลย
2.ไม่แน่ใจนะครับจำไม่ได้
3.ถ้าไม่มีคนนั่งหลังประจำก็ไม่จำเป็น แต่มีดีกว่าไม่มี
4.ผมเฉยๆนะ ไม่ได้ซีเรียส
5.เหตุผลเดียวกับข้อ4
ส่วนเรื่องภายในภายนอก วัสดุ นนจต. แล้วแต่ชอบ แล้วแต่ความพึงพอใจ
เป็นผมลือก PJS เพราะออฟชั่นต่างๆและกำลังของเครื่องยนต์ ขับสี่ตลอดเวลา นั่งคนเดียวตลอด เบาะหลังพับเพียบไว้ขนได้สะดวกๆ
แต่ถ้ามีครอบครัวจริงๆ ใช้เบาะแถวสามบ่อย ฟอร์เป็นคำตอบที่ดีนะครับ เพราะเบาะแถวสองเลื่อนขึ้นได้ ทำให้คนนั่งแถวสามนั่งได้สบายขึ้นเยอะ
แถวที่3FTN ไม่ได้ดีกว่า PJS นะครับปรับเบาะแถว 2 เอนเท่ากัน ยืดหัวหมอนแถว 3 ให้สุดเพื่อจะไม่ดันหลัง
สำหรับ FTN เข่าผมยันหลังเบาะแถวสอง ส่วน PJS นั่งแบบเดียวกัน เอียงเท่ากัน เข่าห่างเกือบ 10 cm
-
ลองดูประเด็นเรื่องเครื่องยนต์ประกอบไปด้วยครับ
ถ้าเป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว หรือเน้นอัตราเร่งแซง
ขับทางไกลบ่อย หรือในเมืองค่อนข้างมุด
ระหว่าง 2 คันนี้ Pajero Sport 2.4 กับ Fortuner 2.4
เรียกได้ว่าค่อนข้างต่างกันมากครับเรื่องพละกำลัง
จริงๆผมขับรถไม่ค่อยเร็วครับ เดินทางตามปกติ 100-120 บางครั้งอาจจะถึง 140 แต่ไม่เกินนั้น
ส่วนใหญ่ขับทางไกล ไม่มุด ไม่เบรคกระชั้น ยกคันเร่ง สุดๆแล้วค่อยเบรค
คันไหนดีกว่าเรื่องพละกำลังครับ และต่างกันช่วงไหนบ้าง
0-100, 80-120, 100-140 อะไรประมาณนี้น่ะครับ
-
ลองดูประเด็นเรื่องเครื่องยนต์ประกอบไปด้วยครับ
ถ้าเป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว หรือเน้นอัตราเร่งแซง
ขับทางไกลบ่อย หรือในเมืองค่อนข้างมุด
ระหว่าง 2 คันนี้ Pajero Sport 2.4 กับ Fortuner 2.4
เรียกได้ว่าค่อนข้างต่างกันมากครับเรื่องพละกำลัง
คันไหนได้เปรียบหรอคับ?
ถ้าสูตรผม ผมดูจากตารางอัตราเร่งตัวนี้ครับ
(http://upic.me/i/m7/008_pickup4dr.jpg)
โดยทั่วไป รถ PPV จะช้าลงไปประมาณ 1วิ (โดยประมาณ)ถ้าตามตารางนี้ ก็พอเดาได้ว่าจะเป็นยังไง
แต่ปาเจโร่ เกียร์มี8สปีด ไม่รู้จะออกมาแนวไหน ยังไงคงโค่นเทรลยากในเรื่องอัตราเร่ง
แต่ความสุนทรีของรถประเภทนี้คือการเปลี่ยนเกียร์ที่ต่อเนื่องไหม สะดุดไหม
เพราะรถราคานี้ เป็นรถครอบครัวแบบนี้ ถ้าเปลี่ยนเกียร์ทีสะดุด กึกๆกักๆ นี่จบเลย
ถ้าจะเปรียบกัน คงต้องเอา ฟอจูน2.8 กับปาเจโร่2.4 ขับ4เทียบขับ4 ขับ2เทียบขับ2
รอลองขับปาเจโร่เทียบก็ได้ครับ รถเข้าศูนย์ตุลาคม (เค้าว่างั้น)จะได้เทียบฟอจูนได้ชัดเจนหน่อย
-
ลองดูประเด็นเรื่องเครื่องยนต์ประกอบไปด้วยครับ
ถ้าเป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว หรือเน้นอัตราเร่งแซง
ขับทางไกลบ่อย หรือในเมืองค่อนข้างมุด
ระหว่าง 2 คันนี้ Pajero Sport 2.4 กับ Fortuner 2.4
เรียกได้ว่าค่อนข้างต่างกันมากครับเรื่องพละกำลัง
จริงๆผมขับรถไม่ค่อยเร็วครับ เดินทางตามปกติ 100-120 บางครั้งอาจจะถึง 140 แต่ไม่เกินนั้น
ส่วนใหญ่ขับทางไกล ไม่มุด ไม่เบรคกระชั้น ยกคันเร่ง สุดๆแล้วค่อยเบรค
คันไหนดีกว่าเรื่องพละกำลังครับ และต่างกันช่วงไหนบ้าง
0-100, 80-120, 100-140 อะไรประมาณนี้น่ะครับ
ที่พอจะเห็นทดสอบอัตราเร่งกัน เครื่อง GD ของโตโยต้าเซ็ทมาให้แรงบิดในรอบต่ำ ช่วง 0-80 นี่พละกำลังมาดีทีเดียว แต่หลัง 80 -100 ขึ้นไปเรี่ยวแรงเหมือนจะหมดเร็วไปหน่อย
-
ถ้าข้างหน้าเป็น pjs หลังได้ FTN ภายในได้ EV นี่จะperfect มากสำหรับผม
-
มีข่าวว่าช่วง พย.-ธค. EV 3.2+ จะมีการส่งมอบดั่งน้ำหลากเพราะสั่งมูนรูฟเพิ่ม น่าจะมาช่วงนั้น (มูนรูฟมาจากเยอรมันนะครับ ไม่ใช่จากจีน)
ใครที่ได้คิวต้นปีหน้า อาจจะได้ตอนสิ้นปีก็ได้ครับ
-
มีข่าวว่าช่วง พย.-ธค. EV 3.2+ จะมีการส่งมอบดั่งน้ำหลากเพราะสั่งมูนรูฟเพิ่ม น่าจะมาช่วงนั้น (มูนรูฟมาจากเยอรมันนะครับ ไม่ใช่จากจีน)
ใครที่ได้คิวต้นปีหน้า อาจจะได้ตอนสิ้นปีก็ได้ครับ
ได้ยินเช่นนี้มีลุ้นกันเลยทีเดียว
ป.ล. แม้ว่าปาจะมีอัตราเร่งดีกว่า แต่ทำไมซดน้ำมันพอๆๆกับ3.2 ของฟอร์ดเลยครับ แปลกมาก
-
ถ้าใช้ยาวคงต้องถามใจคุณเองครับว่าโดยรวมพอใจคันไหนมากที่สุด นั่นแหละครับคือคำตอบที่ใช่
ยังตัดสินใจไม่ได้ครับ ชอบเหมือนกัน 50:50
PJS เหมือนคน จบ ป.เอก ม.เอกชน ทำงานเก่ง เอาใจเก่ง ลูกล่อลูกชนเพียบ แต่ดูเหมือนเป็นคนแข็งๆ แต่งตัวเนี้ยบ
แต่งยังไม่ค่อยเรียบร้อย
FTN จบ ป.ตรี ม.รัฐชั้นนำของ ปท. ทำงานเก่ง เอาใจเก่ง นิสัย friendly แต่งตัวเนี้ยบเน้นราคาแพง
ขอนอกเรื่องนิดๆครับพี่ แล้ว EV,MU-X,เทรล เปรียบได้ประมาณไหนครับ ;)
จัดให้ครับ
EV เหมือนคน จบ ป.เอก ม.เอกชน ทำงานเก่ง เอาใจเก่ง ลูกล่อลูกชนเพียบ แต่ดูเหมือนเป็นคนแข็งๆ แนวนักบู้
แต่งตัวเนี้ยบแต่งยังไม่ค่อยเรียบร้อย เมื่อออกจากบ้านมาแล้ว ทางบ้านคล้ายๆ จะตัดหางปล่อยวัด ปล่อยให้สู้ชีวิตเอาเอง
Trail โดน retire จาก ป.ตรี ม.รัฐชั้นนำของ ปท. มาจบ ป.ตรี ม.เอกชน ที่ชื่อชั้น กลางๆ ทำงานกลางๆ แต่รวดเร็ว
เอาใจไม่เก่งนัก นิสัยพอใช้ได้ แต่งตัวปกติ ที่บ้านไม่รักมากกว่า EV
Mu X จบ ป.ตรี ม.รัฐชั้นนำ ทำงานกลางๆ ไม่เร็วไม่ช้า แต่เชื่อใจได้ว่าสำเร็จ เอาใจไม่เก่งนัก นิสัยดีคุยรู้เรื่อง
ที่บ้านรักมาก มี ปห.กลับมาปรึกษากันได้ มักมีทางออกที่ดีให้ ออกแนวไม่เด่น แต่คน ตจว. ชอบนักคนแบบนี้
แสดงว่า จขกท. รู้แจ้งแล้วเกี่ยวกับบุคลิคของรถทุกรุ่นของ ppv ที่นี้ก็อยู่ที่ว่าจะเลือกละครับว่าอยากทำงานกับคนแบบไหน :-X :-Xขำๆนะครับ
ปล.เห็นใจคนเลือก ppv ช่วงนี้จริงๆ
-
มีข่าวว่าช่วง พย.-ธค. EV 3.2+ จะมีการส่งมอบดั่งน้ำหลากเพราะสั่งมูนรูฟเพิ่ม น่าจะมาช่วงนั้น (มูนรูฟมาจากเยอรมันนะครับ ไม่ใช่จากจีน)
ใครที่ได้คิวต้นปีหน้า อาจจะได้ตอนสิ้นปีก็ได้ครับ
ขอให้ได้ซัก 4-5 พันคันก็ยังดี 8) แต่ก็นะ มูนรูฟนี่อย่าให้ได้มีปัญหานะเพราะอะไหล่มาไกลมาก :-X
-
ลองดูประเด็นเรื่องเครื่องยนต์ประกอบไปด้วยครับ
ถ้าเป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว หรือเน้นอัตราเร่งแซง
ขับทางไกลบ่อย หรือในเมืองค่อนข้างมุด
ระหว่าง 2 คันนี้ Pajero Sport 2.4 กับ Fortuner 2.4
เรียกได้ว่าค่อนข้างต่างกันมากครับเรื่องพละกำลัง
จริงๆผมขับรถไม่ค่อยเร็วครับ เดินทางตามปกติ 100-120 บางครั้งอาจจะถึง 140 แต่ไม่เกินนั้น
ส่วนใหญ่ขับทางไกล ไม่มุด ไม่เบรคกระชั้น ยกคันเร่ง สุดๆแล้วค่อยเบรค
คันไหนดีกว่าเรื่องพละกำลังครับ และต่างกันช่วงไหนบ้าง
0-100, 80-120, 100-140 อะไรประมาณนี้น่ะครับ
Revo 2.8 0-100 ได้ 11.63 / 80-120 ได้ 8.55
ตีแบบง่ายๆเพิ่มขึ้นอย่างละ 1 วินาทีเมื่อมาอยู่ใน Fortuner
Fortuner 2.8 0-100 ได้ 12.63 วินาที / 80-120 ได้ 9.55 วินาที
แต่.....นั่น 2.8 ครับ
พอมาเป็น Fortuner 2.4 ตีง่ายๆ บวกไปอย่างละ 0.5 วินาที ทำให้
Fortuner 2.4 0-100 ได้ 13.13 วินาที / 80-120 ได้ 10.05 วินาที
Triton 0-100 ได้ 10.84 / 80-120 ได้ 7.57
ตีแบบง่ายๆเพิ่มขึ้นอย่างละ 1 วินาทีเมื่อมาอยู่ใน Pajero Sport
Pajero Sport 2.4 0-100 ได้ 11.84 วินาที / 80-120 ได้ 8.57 วินาที
น่าจะพอเห็นภาพนะครับ 2.4 ทั้งใน Revo/Fortuner ผมยังไม่เคยขับ
แต่ 2.8 เคยขับแล้วทั้งคู่ 2.8 ใน Revo ผมค่อนข้างโอเค
แต่พอมาอยู่ใน Fortuner ผมกลับมองว่ามันช้าไปหน่อย
ช่วง 0-60 โอเค ใช้ได้ ออกตัวไว แต่พอหลัง 60 ไปผมว่า
ค่อนข้างที่จะต้องเค้นกำลังพอสมควรเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
(ตอนผมขับนั่งกัน 3 คน)
Pajero Sport 2.4 4WD เคยขับแล้ว แต่แค่ช่วงความเร็วไม่เกิน 80 km/h
(นั่งกัน 4 คน) ช่วงออกตัว 0-60 และการเร่งแซงพุ่งไวกว่า Fortuner 2.8
การเก็บเสียงลมตามขอบประตูต่างๆ ผมว่า Fortuner แอบทำได้ดีกว่า
Pajero Sport อยู่นิดหน่อย รวมถึง Vibration ที่ส่งเข้ามาในตัวรถ
Fortuner ก็ทำได้ดีกว่านิดหน่อยเช่นกัน แต่ช่วงล่าง การเก็บรอยต่อถนน
หลุมบ่อต่างๆ การซับแรงสะเทือน Pajero Sport จะทำได้ดีกว่า
แต่ยังไงผมก็แนะนำว่าให้ไปลองขับลองนั่งด้วยตัวเองก่อนดีกว่า
บางทีความชอบ ความรู้สึกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
-
คู่นี้ผมมอง FTN แบบไม่คิด เหตุผลหลักคือ
1. มองย้อนไปเจนก่อนภาพจำในหัวคือ PJS ราคาประมาน 9 แสน กระบะดัดแปลงชัดๆ / FTN ต่ำๆต้องมีล้านสอง เออเหมือน SUV. (ภาพในหัวสมอง FTN ดูดีกว่าทุกประตู)
2. มองในเจนปัจจุบัน มอง PJS ทำไมนึกถึง sport rider แบบยาวๆโย่งๆ คืออารมกระบะใส่หลังคาท้าย ประมาณรถของไทยรุ่ง (แม้หน้าจะสวยหยด ท้ายริวจะไม่พูด) ลูกเล่นเยอะ แต่ภาพรวมคือธรรมดามากสำหรับจิตใจผม / FTN ออกแบบมา โหว เล็กซัสชัดๆ หรูสวยมาก (ถึงจะออฟชั่นโล้นๆ+แพง)
ปล. ผมเลือกซื้อรถที่ขับแล้วเสริมภาพลักษณ์ผมด้วย จะมีกี่คนที่มองแล้วรู้ว่ารถคันนี้มีออฟชั่นอะไรบ้าง คนทั่วไปรู้เพียงแค่เราขับรถรุ่นอะไรสวยมั้ย หรูมั้ยเท่านั้นเอง
-
ปวดหัวจริงๆครับ เลือกรถตอนนี้ ผมก็เลือกไม่ได้ เลยจะไปเอา Ranger WT3.2 มาใช้ลองดูก่อน ทดสอบศูนย์
ว่าศูนย์ที่ชลบุรีจะเป็นไง ถ้าพอทนได้ ก็เอา EV เลย ราคาขึ้นก็ยอมละ ถ้าทนไม่ได้รอ FTN ใส่ดิสหลังมา
ถ้าไม่ให้มาไป PJS แน่ๆ ตอนนี้ถ้าเอา PJS เลย H1 คงเป็นหม้าย ไม่ได้ใช้อีก
ผมว่าจะไม่ดูกระทู้เกี่ยวกับรถประเภทนี้แล้วน้า ... มันกระตุกต่อมอยากทุกทีเลย :)
-
ลองดูประเด็นเรื่องเครื่องยนต์ประกอบไปด้วยครับ
ถ้าเป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว หรือเน้นอัตราเร่งแซง
ขับทางไกลบ่อย หรือในเมืองค่อนข้างมุด
ระหว่าง 2 คันนี้ Pajero Sport 2.4 กับ Fortuner 2.4
เรียกได้ว่าค่อนข้างต่างกันมากครับเรื่องพละกำลัง
คันไหนได้เปรียบหรอคับ?
ถ้าสูตรผม ผมดูจากตารางอัตราเร่งตัวนี้ครับ
(http://upic.me/i/m7/008_pickup4dr.jpg)
โดยทั่วไป รถ PPV จะช้าลงไปประมาณ 1วิ (โดยประมาณ)ถ้าตามตารางนี้ ก็พอเดาได้ว่าจะเป็นยังไง
แต่ปาเจโร่ เกียร์มี8สปีด ไม่รู้จะออกมาแนวไหน ยังไงคงโค่นเทรลยากในเรื่องอัตราเร่ง
แต่ความสุนทรีของรถประเภทนี้คือการเปลี่ยนเกียร์ที่ต่อเนื่องไหม สะดุดไหม
เพราะรถราคานี้ เป็นรถครอบครัวแบบนี้ ถ้าเปลี่ยนเกียร์ทีสะดุด กึกๆกักๆ นี่จบเลย
ถ้าจะเปรียบกัน คงต้องเอา ฟอจูน2.8 กับปาเจโร่2.4 ขับ4เทียบขับ4 ขับ2เทียบขับ2
รอลองขับปาเจโร่เทียบก็ได้ครับ รถเข้าศูนย์ตุลาคม (เค้าว่างั้น)จะได้เทียบฟอจูนได้ชัดเจนหน่อย
ใช่รถเข้า 0 ช่วงต้นตุลา แต่ถ้าจะเอา PJS จริงต้องจองก่อนสิ้น กย58 ไม่งั้นเพิ่มอีก 5หมื่น เฮ้อ....
-
ลองดูประเด็นเรื่องเครื่องยนต์ประกอบไปด้วยครับ
ถ้าเป็นคนขับรถค่อนข้างเร็ว หรือเน้นอัตราเร่งแซง
ขับทางไกลบ่อย หรือในเมืองค่อนข้างมุด
ระหว่าง 2 คันนี้ Pajero Sport 2.4 กับ Fortuner 2.4
เรียกได้ว่าค่อนข้างต่างกันมากครับเรื่องพละกำลัง
จริงๆผมขับรถไม่ค่อยเร็วครับ เดินทางตามปกติ 100-120 บางครั้งอาจจะถึง 140 แต่ไม่เกินนั้น
ส่วนใหญ่ขับทางไกล ไม่มุด ไม่เบรคกระชั้น ยกคันเร่ง สุดๆแล้วค่อยเบรค
คันไหนดีกว่าเรื่องพละกำลังครับ และต่างกันช่วงไหนบ้าง
0-100, 80-120, 100-140 อะไรประมาณนี้น่ะครับ
Revo 2.8 0-100 ได้ 11.63 / 80-120 ได้ 8.55
ตีแบบง่ายๆเพิ่มขึ้นอย่างละ 1 วินาทีเมื่อมาอยู่ใน Fortuner
Fortuner 2.8 0-100 ได้ 12.63 วินาที / 80-120 ได้ 9.55 วินาที
แต่.....นั่น 2.8 ครับ
พอมาเป็น Fortuner 2.4 ตีง่ายๆ บวกไปอย่างละ 0.5 วินาที ทำให้
Fortuner 2.4 0-100 ได้ 13.13 วินาที / 80-120 ได้ 10.05 วินาที
Triton 0-100 ได้ 10.84 / 80-120 ได้ 7.57
ตีแบบง่ายๆเพิ่มขึ้นอย่างละ 1 วินาทีเมื่อมาอยู่ใน Pajero Sport
Pajero Sport 2.4 0-100 ได้ 11.84 วินาที / 80-120 ได้ 8.57 วินาที
น่าจะพอเห็นภาพนะครับ 2.4 ทั้งใน Revo/Fortuner ผมยังไม่เคยขับ
แต่ 2.8 เคยขับแล้วทั้งคู่ 2.8 ใน Revo ผมค่อนข้างโอเค
แต่พอมาอยู่ใน Fortuner ผมกลับมองว่ามันช้าไปหน่อย
ช่วง 0-60 โอเค ใช้ได้ ออกตัวไว แต่พอหลัง 60 ไปผมว่า
ค่อนข้างที่จะต้องเค้นกำลังพอสมควรเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
(ตอนผมขับนั่งกัน 3 คน)
Pajero Sport 2.4 4WD เคยขับแล้ว แต่แค่ช่วงความเร็วไม่เกิน 80 km/h
(นั่งกัน 4 คน) ช่วงออกตัว 0-60 และการเร่งแซงพุ่งไวกว่า Fortuner 2.8
การเก็บเสียงลมตามขอบประตูต่างๆ ผมว่า Fortuner แอบทำได้ดีกว่า
Pajero Sport อยู่นิดหน่อย รวมถึง Vibration ที่ส่งเข้ามาในตัวรถ
Fortuner ก็ทำได้ดีกว่านิดหน่อยเช่นกัน แต่ช่วงล่าง การเก็บรอยต่อถนน
หลุมบ่อต่างๆ การซับแรงสะเทือน Pajero Sport จะทำได้ดีกว่า
แต่ยังไงผมก็แนะนำว่าให้ไปลองขับลองนั่งด้วยตัวเองก่อนดีกว่า
บางทีความชอบ ความรู้สึกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ใช่ครับ จะให้ดีต้องลองขับ แต่ตัว PJS. ติดเรื่อง 30กย
ไม่ทราบว่าการเปลี่ยนเกียร์ 8 speeds ของ PJS เป็นยังไงบ้างครับ เมื่อเทียบ 6 speeds ของ FTN
ทั้งความต่อเนื่อง และความราบรื่น
จริงๆ ตอนนี้ผมและครอบครัว กำลังชั่งใจมากระหว่าง options กับ image มากกว่า
คือ ไอ้ตัวหนึ่งก็จัด options ซะคู่แข่งในราคานี้แทบหมดความหมาย
แต่อีกตัวก็ brand image แข็งโป้กจนทำให้คุณค่าของ options PJS ลดลงไปพอควรทีเดียว
คือถ้าตัดสินใจได้แล้ว การขับขี่ก็ไม่มีปห. เพราะถึงตอนนั้นซื้อมาแล้วยังไงก็ต้องปรับตัวเข้าหาได้แน่นอนครับ
คือ ถ้าใครมายืน ณ จุดๆนี้ เป็นรถสำหรับ 10ปี นี่ ตัดสินใจยากเสียจริงๆครับ
-
คู่นี้ผมมอง FTN แบบไม่คิด เหตุผลหลักคือ
1. มองย้อนไปเจนก่อนภาพจำในหัวคือ PJS ราคาประมาน 9 แสน กระบะดัดแปลงชัดๆ / FTN ต่ำๆต้องมีล้านสอง เออเหมือน SUV. (ภาพในหัวสมอง FTN ดูดีกว่าทุกประตู)
2. มองในเจนปัจจุบัน มอง PJS ทำไมนึกถึง sport rider แบบยาวๆโย่งๆ คืออารมกระบะใส่หลังคาท้าย ประมาณรถของไทยรุ่ง (แม้หน้าจะสวยหยด ท้ายริวจะไม่พูด) ลูกเล่นเยอะ แต่ภาพรวมคือธรรมดามากสำหรับจิตใจผม / FTN ออกแบบมา โหว เล็กซัสชัดๆ หรูสวยมาก (ถึงจะออฟชั่นโล้นๆ+แพง)
ปล. ผมเลือกซื้อรถที่ขับแล้วเสริมภาพลักษณ์ผมด้วย จะมีกี่คนที่มองแล้วรู้ว่ารถคันนี้มีออฟชั่นอะไรบ้าง คนทั่วไปรู้เพียงแค่เราขับรถรุ่นอะไรสวยมั้ย หรูมั้ยเท่านั้นเอง
ไม่ขอพูดถึงข้อ1-2 ที่คุณกล่าวมา
แต่เห็นด้วยกับ ปล.ที่คุณว่า "จะมีกี่คนที่มองแล้วรู้ว่ารถคันนี้มีออฟชั่นอะไรบ้าง คนทั่วไปรู้เพียงแค่เราขับรถรุ่นอะไรสวยมั้ย หรูมั้ยเท่านั้นเอง"
คำพูดนี้ล่ะ ที่ทำให้ผมตัดสินใจลำบากระหว่าง options กับ image
-
ถ้ากลัวไม่ได้ราคา โปร 1.399 ก็จองไปก่อนครับ ให้เซลลง ในใบจองว่าถ้า ลองแล้วไม่ชอบขอเงินคืน ผมจองไปแล้ว ที่งาน BIC เผื่อ Everest ไม่ได้ก่อน สิ้นปี
ปล. ผมจอง ไป 3 ใบ ครับ 1 pjs 2 eve
-
อย่าลืมความแรงนะครับ
เพราะอัตราเร่งเราใช้ตลอด
Fortuner 2.4 น่าจะอืดกว่า pajeri sport พอสมควร
-
1.ผมมีปัญหาเหมือนกัน ไม่ชอบเลย
2.ไม่แน่ใจนะครับจำไม่ได้
3.ถ้าไม่มีคนนั่งหลังประจำก็ไม่จำเป็น แต่มีดีกว่าไม่มี
4.ผมเฉยๆนะ ไม่ได้ซีเรียส
5.เหตุผลเดียวกับข้อ4
ส่วนเรื่องภายในภายนอก วัสดุ นนจต. แล้วแต่ชอบ แล้วแต่ความพึงพอใจ
เป็นผมลือก PJS เพราะออฟชั่นต่างๆและกำลังของเครื่องยนต์ ขับสี่ตลอดเวลา นั่งคนเดียวตลอด เบาะหลังพับเพียบไว้ขนได้สะดวกๆ
แต่ถ้ามีครอบครัวจริงๆ ใช้เบาะแถวสามบ่อย ฟอร์เป็นคำตอบที่ดีนะครับ เพราะเบาะแถวสองเลื่อนขึ้นได้ ทำให้คนนั่งแถวสามนั่งได้สบายขึ้นเยอะ
แถวที่3FTN ไม่ได้ดีกว่า PJS นะครับปรับเบาะแถว 2 เอนเท่ากัน ยืดหัวหมอนแถว 3 ให้สุดเพื่อจะไม่ดันหลัง
สำหรับ FTN เข่าผมยันหลังเบาะแถวสอง ส่วน PJS นั่งแบบเดียวกัน เอียงเท่ากัน เข่าห่างเกือบ 10 cm
เบาะแถวสองฟอร์ปรับขึ้นมาได้มากกว่า 10cm แน่นอนครับ ยังไงก็สบายกว่า
-
เหมือนจขกท ใจเอนเอียงไปทาง FTN นะ
FTN ก็คงเด่นตามที่ว่าแต่ด้อยตรงที่อ๊อพชั่นน้อยกว่าราคาแพงกว่า อีกข้อนึงที่เด่นกว่าก็คือ ฝาท้ายไฟฟ้าที่ PJS ไม่มีให้
PJS อ๊อพชั่นเหนือกว่าแต่เบาะนังไม่สบายเท่า แถมสีดำผมล่ะโคตรเกลียดเบาะดำเลย คนส่วนใหญ่ก็ไม่ชอบแต่ก่อนหน้านี้มีคนบอกชอบเบาะดำกัน ผมก็งงเหมือนกัน แต่เอาเป็นว่า PJS อ๊อพชั่นแพรวพราวกว่ามาก ที่ราคาเท่ากันถือว่าคุ้มสุด ๆ
หน้าตาอย่าไปวิจารณ์เพราะคนเราต่างใจ ศุนย์บริการถ้าอยู่ ตจว อย่าเอามาเทียบกันเลยว่า TOYOTA ดีกว่า ผมอยุ่แปดริ้วฉะเชิงเทรา บางครั้งแต่ผมไม่เคยใช้บริการศุนย์ TOYOTA ที่นั่นมา 10 ปีได้แล้วมั้งห่วยมาก ต้องขับรถเข้ามากรุงเทพ สป เพื่อใช้ศูนย์ในเขตนี้แทน
ถ้าเลือกนะครับ คงมองตามตัวเลือกการใช้งานมากกว่า
ถ้าใช้ในเมืองหมายถึงในกรุงเทพ รถติด ๆ ผมเลือก FTN เพราะประหยัดน้ำมันกว่า นั่งสบายกว่า
แต่ถ้าวิ่ง ตจว คงเลือก PJS หรือ FTN 2.8 4x4 แต่FTN ต้องรอไมเนอร์อ๊อพชั่นครบก่อนถึงเลือก FTN ได้ถ้าซื้อตอนนี้ไม่ซื้อ
ถ้าไม่ได้มีรถคันเดียวในบ้าน EV 3.2 + คือคำตอบสุดท้าย
-
มีแค่สองตัวเลือกนี้ ผมว่าเลือกง่ายครับ
ไป PJS เลยครับ เหนือกว่าเกือบทุกด้าน ทั้งภาพรวมด้านเทคนิคและ option
-
PJS 2.4GT 4wd ดีกว่าครับ option ดีกว่า
-
เหมือนจขกท ใจเอนเอียงไปทาง FTN นะ
FTN ก็คงเด่นตามที่ว่าแต่ด้อยตรงที่อ๊อพชั่นน้อยกว่าราคาแพงกว่า อีกข้อนึงที่เด่นกว่าก็คือ ฝาท้ายไฟฟ้าที่ PJS ไม่มีให้
PJS อ๊อพชั่นเหนือกว่าแต่เบาะนังไม่สบายเท่า แถมสีดำผมล่ะโคตรเกลียดเบาะดำเลย คนส่วนใหญ่ก็ไม่ชอบแต่ก่อนหน้านี้มีคนบอกชอบเบาะดำกัน ผมก็งงเหมือนกัน แต่เอาเป็นว่า PJS อ๊อพชั่นแพรวพราวกว่ามาก ที่ราคาเท่ากันถือว่าคุ้มสุด ๆ
หน้าตาอย่าไปวิจารณ์เพราะคนเราต่างใจ ศุนย์บริการถ้าอยู่ ตจว อย่าเอามาเทียบกันเลยว่า TOYOTA ดีกว่า ผมอยุ่แปดริ้วฉะเชิงเทรา บางครั้งแต่ผมไม่เคยใช้บริการศุนย์ TOYOTA ที่นั่นมา 10 ปีได้แล้วมั้งห่วยมาก ต้องขับรถเข้ามากรุงเทพ สป เพื่อใช้ศูนย์ในเขตนี้แทน
ถ้าเลือกนะครับ คงมองตามตัวเลือกการใช้งานมากกว่า
ถ้าใช้ในเมืองหมายถึงในกรุงเทพ รถติด ๆ ผมเลือก FTN เพราะประหยัดน้ำมันกว่า นั่งสบายกว่า
แต่ถ้าวิ่ง ตจว คงเลือก PJS หรือ FTN 2.8 4x4 แต่FTN ต้องรอไมเนอร์อ๊อพชั่นครบก่อนถึงเลือก FTN ได้ถ้าซื้อตอนนี้ไม่ซื้อ
ถ้าไม่ได้มีรถคันเดียวในบ้าน EV 3.2 + คือคำตอบสุดท้าย
ใจไม่เอียงด้านใดเป็นพิเศษครับ
โดยส่วนตัว FTN ไม่ได้มีอะไรเด่นเลย นอกจาก brand, ภายใน, ศูนย์บริการ, ความไว้ใจได้
แต่ PJS technology ที่อัดมาให้ นี่อีก 10 ปี ผมว่ายังไม่น่าเป็นรองเลย
ส่วนเรื่องการประหยัดน้ำมัน ผมว่าไม่หนีกันนะ
และถ้าจะเลือก FTN รอไมเนอร์นี่ราคาไม่รู้จะไปที่เท่าไรสำหรับตัว 2.4V แค่หลังปีใหม่นี้น่าจะ 1.45ล.
ถ้าไมเนอร์ ยัด ดิสค์เบรคหลัง, เบาะหน้าปรับไฟฟ้า, cruise + ค่าเงินเฟ้อ ราคาสำหรับ 2 ปีข้างหน้า
น่าจะประมาณ 1.55ล.
คันนี้ไม่ใช่รถคันเดียวของบ้านซื้อเพิ่ม แต่ไม่อยากเปลี่ยนบ่อยครับ
ส่วน EV ไม่ใช่ spec ไม่ขอพูดถึงครับ
-
FTN 2.4 น่าจะประหยัดกว่าจริงครับเพราะเซทมาเน้นประหยัด เห็นเค้าขับกันได้ 14-16 km/l แต่ PJS ถึงแม้จะเครื่อง 2.4 เหมือนกันแต่ไมได้เซทมาแบบเดียวกันแน่นอน
FTN ถ้าคุณจะซื้อ 2.4 หรือใครรอจะซื้อตัว 2.4 ผมเคยพูดหลายครั้งแล้วว่าซื้อไปได้เลย เพราะอ๊อพชั่นมันให้มาครบแล้ว ไมเนอร์ไม่น่าจะใส่อะไรมาให้มากกว่านี้อีกแล้ว ตัวนี้ถือว่าให้มาเยอะนะครับถือว่าน่าเล่น
แต่ที่ผมเขียนน่ะหมายถึง FTN 2.8 4X4 ถ้าตัวนั้นยังมีอะไรใส่มาให้อีกเพียบ ถ้าจะซื้อน่ารอดีกว่าเพราะราคาแพงไปเทียบกับอ๊อพชั่นที่ให้มา
-
ภาพ
คู่นี้ผมมอง FTN แบบไม่คิด เหตุผลหลักคือ
1. มองย้อนไปเจนก่อนภาพจำในหัวคือ PJS ราคาประมาน 9 แสน กระบะดัดแปลงชัดๆ / FTN ต่ำๆต้องมีล้านสอง เออเหมือน SUV. (ภาพในหัวสมอง FTN ดูดีกว่าทุกประตู)
2. มองในเจนปัจจุบัน มอง PJS ทำไมนึกถึง sport rider แบบยาวๆโย่งๆ คืออารมกระบะใส่หลังคาท้าย ประมาณรถของไทยรุ่ง (แม้หน้าจะสวยหยด ท้ายริวจะไม่พูด) ลูกเล่นเยอะ แต่ภาพรวมคือธรรมดามากสำหรับจิตใจผม / FTN ออกแบบมา โหว เล็กซัสชัดๆ หรูสวยมาก (ถึงจะออฟชั่นโล้นๆ+แพง)
ปล. ผมเลือกซื้อรถที่ขับแล้วเสริมภาพลักษณ์ผมด้วย จะมีกี่คนที่มองแล้วรู้ว่ารถคันนี้มีออฟชั่นอะไรบ้าง คนทั่วไปรู้เพียงแค่เราขับรถรุ่นอะไรสวยมั้ย หรูมั้ยเท่านั้นเอง
ไม่ขอพูดถึงข้อ1-2 ที่คุณกล่าวมา
แต่เห็นด้วยกับ ปล.ที่คุณว่า "จะมีกี่คนที่มองแล้วรู้ว่ารถคันนี้มีออฟชั่นอะไรบ้าง คนทั่วไปรู้เพียงแค่เราขับรถรุ่นอะไรสวยมั้ย หรูมั้ยเท่านั้นเอง"
คำพูดนี้ล่ะ ที่ทำให้ผมตัดสินใจลำบากระหว่าง options กับ image
ภาพลักษณ์ของคน 10 ปีที่แล้ว กับปัจจุบันไม่เหมือนเดิมแล้วน่ะครับ เมื่อก่อนผู้ใหญ่เลือกใช้รถด้วยเหตุผลจากข้อมูลและปัจจัยหลายอย่างจำกัด จำเป็นต้องเลือกเจ้าตลาดไว้ก่อน และก็ถ่ายทอดให้คนรุ่นลูกๆมาเหมือน DNA ว่ารถแบบไหนดีขับแล้วดูดี ขายต่อได้ราคา มันถูกซึมซับมาแบบนี้
แต่วันนี้ ภาพลักษณ์ ผมมองว่า อะไรที่ทำให้คนมองเห็นภาพแล้วดูดียังไม่พอ ต้องให้เค้าได้สัมผัสด้วย คนทุกวันนี้ไม่เชื่อแล้วชื่นชอบอะไรง่ายๆแล้ว เพราะมีให้เลือกเยอะ ที่สำคัญหาข้อมูลง่ายมาก
โดยส่วนตัวผม เห็นว่ารถสวยไม่พอ ต้องได้มานั่งหรือสัมรสเราแล้วบอกว่า ว้าว.. มากกว่าสวยดี ... ก็โอเคน่ะ ...อะไรทำนองนี้ แล้วเราก็จะรู้สึกดีมากกว่า
-
มีข่าวว่าช่วง พย.-ธค. EV 3.2+ จะมีการส่งมอบดั่งน้ำหลากเพราะสั่งมูนรูฟเพิ่ม น่าจะมาช่วงนั้น (มูนรูฟมาจากเยอรมันนะครับ ไม่ใช่จากจีน)
ใครที่ได้คิวต้นปีหน้า อาจจะได้ตอนสิ้นปีก็ได้ครับ
ขอให้ได้ซัก 4-5 พันคันก็ยังดี 8) แต่ก็นะ มูนรูฟนี่อย่าให้ได้มีปัญหานะเพราะอะไหล่มาไกลมาก :-X
นั่นหนะสิครับ แต่ถ้ามาจากจีนก็จะนอยด์อีกแหละว่าจะไม่ทน 555+
-
ภาพคู่นี้ผมมอง FTN แบบไม่คิด เหตุผลหลักคือ
1. มองย้อนไปเจนก่อนภาพจำในหัวคือ PJS ราคาประมาน 9 แสน กระบะดัดแปลงชัดๆ / FTN ต่ำๆต้องมีล้านสอง เออเหมือน SUV. (ภาพในหัวสมอง FTN ดูดีกว่าทุกประตู)
2. มองในเจนปัจจุบัน มอง PJS ทำไมนึกถึง sport rider แบบยาวๆโย่งๆ คืออารมกระบะใส่หลังคาท้าย ประมาณรถของไทยรุ่ง (แม้หน้าจะสวยหยด ท้ายริวจะไม่พูด) ลูกเล่นเยอะ แต่ภาพรวมคือธรรมดามากสำหรับจิตใจผม / FTN ออกแบบมา โหว เล็กซัสชัดๆ หรูสวยมาก (ถึงจะออฟชั่นโล้นๆ+แพง)
ปล. ผมเลือกซื้อรถที่ขับแล้วเสริมภาพลักษณ์ผมด้วย จะมีกี่คนที่มองแล้วรู้ว่ารถคันนี้มีออฟชั่นอะไรบ้าง คนทั่วไปรู้เพียงแค่เราขับรถรุ่นอะไรสวยมั้ย หรูมั้ยเท่านั้นเอง
ไม่ขอพูดถึงข้อ1-2 ที่คุณกล่าวมา
แต่เห็นด้วยกับ ปล.ที่คุณว่า "จะมีกี่คนที่มองแล้วรู้ว่ารถคันนี้มีออฟชั่นอะไรบ้าง คนทั่วไปรู้เพียงแค่เราขับรถรุ่นอะไรสวยมั้ย หรูมั้ยเท่านั้นเอง"
คำพูดนี้ล่ะ ที่ทำให้ผมตัดสินใจลำบากระหว่าง options กับ image
ภาพลักษณ์ของคน 10 ปีที่แล้ว กับปัจจุบันไม่เหมือนเดิมแล้วน่ะครับ เมื่อก่อนผู้ใหญ่เลือกใช้รถด้วยเหตุผลจากข้อมูลและปัจจัยหลายอย่างจำกัด จำเป็นต้องเลือกเจ้าตลาดไว้ก่อน และก็ถ่ายทอดให้คนรุ่นลูกๆมาเหมือน DNA ว่ารถแบบไหนดีขับแล้วดูดี ขายต่อได้ราคา มันถูกซึมซับมาแบบนี้
แต่วันนี้ ภาพลักษณ์ ผมมองว่า อะไรที่ทำให้คนมองเห็นภาพแล้วดูดียังไม่พอ ต้องให้เค้าได้สัมผัสด้วย คนทุกวันนี้ไม่เชื่อแล้วชื่นชอบอะไรง่ายๆแล้ว เพราะมีให้เลือกเยอะ ที่สำคัญหาข้อมูลง่ายมาก
โดยส่วนตัวผม เห็นว่ารถสวยไม่พอ ต้องได้มานั่งหรือสัมรสเราแล้วบอกว่า ว้าว.. มากกว่าสวยดี ... ก็โอเคน่ะ ...อะไรทำนองนี้ แล้วเราก็จะรู้สึกดีมากกว่า
+1 อีกเสียงครับ รถกลุ่มเดียวกันแบร์นก็ระดับเดียวกัน ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะหรูกว่ากันถึงขนาดแตกต่างขนาดนั้น
-
เข้ามาเก็บข้อมูลด้วยครับ
ผมก็อยู่ในช่วงเลือกรถใหม่อยากได้รถขนาด SUV (ตั้งใจจะใช้ประมาณ 10 ปี เหมือนกัน)
โดยส่วนตัวชอบ everest > PJS > FTN
แต่ตอนนี้ผมกำลังจะตัดสินใจเอา FTN (ขัดใจตัวเอง :'( )
สาเหตุ รถคันปัจจุบันผมใช้ Ford Fiesta ชอบมากเรื่องสมรรถนะและหน้าตา(ความเห็นส่วนตัว ผมไม่มีความรู้เรื่องรถ) ก่อนซื้อคันนี้พ่อเตือนเรื่องศูนย์บริการ อะไหล่ ปัญหาจุกจิง ราคาขายต่อ ผมก็ไม่สนใจ อารมณ์อยากได้จัดมาโดยให้เหตุผลที่บ้านว่า "รถซื้อมาใช้ไม่ได้ซื้อมาขาย ไม่ได้เอามาซ่อม" พอใช้ๆไปเอารถเข้าศูนย์ เช็คระยะก็เจอกับบริการที่ "เฮ้อ....." แล้วปัญหาของรถก็เป็นซ้ำๆเปลี่ยนอะไหล่ได้ซักพักก็เป็นอีกเปลี่ยนอีก (อนึ่ง น่าจะเป็นความซวยส่วนตัวด้วย) พอจะเอารถไปเทรินเพื่อมาซื้อรถใหม่ก็ ช๊อค!! เป็นเหตุให้ผมขยาดกับยี่ห้อนี้(แต่ก็ชอบ Everest มากๆแต่ทำใจเรื่องศูนย์บริการไม่ได้จริงๆ) รถคันใหม่ก็เลยให้ที่บ้านมีส่วนในการเลือกด้วยจึงมาลงที่ FTN ส่วน PJS ที่บ้านก็ไม่ให้ความไว้ใจเรื่องศูนย์บริการ การรออะไหล่ ค่าบำรุงรักษา ถ้าใครบอกว่า FTN สมรรถนะสู้ยี่ห้ออื่นไม่ได้อันนี้ผมได้แต่ก้มหน้ายอมรับความจริงครับ เพราะรถคันนี้ผมไม่ได้เอา "สมรรถนะ option" มาเป็น priority ต้นๆ เอาแบบพอใช้ไม่แย่จนน่าเกียจ
-
คู่นี้ Fortuner ครับ วัสดุภายในโอเคกว่า เครื่องยนต์คงแรงสู้ไม่ได้แต่ผมว่าสมรรถนะโดยรวมคงไม่แพ้ครับ ถ้า pjs ยังไม่เลิกนิสัยทดพวงมาลัย
เยอะขนาดนั้นยังไงก้ไม่น่าขับครับ
-
ภาพคู่นี้ผมมอง FTN แบบไม่คิด เหตุผลหลักคือ
1. มองย้อนไปเจนก่อนภาพจำในหัวคือ PJS ราคาประมาน 9 แสน กระบะดัดแปลงชัดๆ / FTN ต่ำๆต้องมีล้านสอง เออเหมือน SUV. (ภาพในหัวสมอง FTN ดูดีกว่าทุกประตู)
2. มองในเจนปัจจุบัน มอง PJS ทำไมนึกถึง sport rider แบบยาวๆโย่งๆ คืออารมกระบะใส่หลังคาท้าย ประมาณรถของไทยรุ่ง (แม้หน้าจะสวยหยด ท้ายริวจะไม่พูด) ลูกเล่นเยอะ แต่ภาพรวมคือธรรมดามากสำหรับจิตใจผม / FTN ออกแบบมา โหว เล็กซัสชัดๆ หรูสวยมาก (ถึงจะออฟชั่นโล้นๆ+แพง)
ปล. ผมเลือกซื้อรถที่ขับแล้วเสริมภาพลักษณ์ผมด้วย จะมีกี่คนที่มองแล้วรู้ว่ารถคันนี้มีออฟชั่นอะไรบ้าง คนทั่วไปรู้เพียงแค่เราขับรถรุ่นอะไรสวยมั้ย หรูมั้ยเท่านั้นเอง
ไม่ขอพูดถึงข้อ1-2 ที่คุณกล่าวมา
แต่เห็นด้วยกับ ปล.ที่คุณว่า "จะมีกี่คนที่มองแล้วรู้ว่ารถคันนี้มีออฟชั่นอะไรบ้าง คนทั่วไปรู้เพียงแค่เราขับรถรุ่นอะไรสวยมั้ย หรูมั้ยเท่านั้นเอง"
คำพูดนี้ล่ะ ที่ทำให้ผมตัดสินใจลำบากระหว่าง options กับ image
ภาพลักษณ์ของคน 10 ปีที่แล้ว กับปัจจุบันไม่เหมือนเดิมแล้วน่ะครับ เมื่อก่อนผู้ใหญ่เลือกใช้รถด้วยเหตุผลจากข้อมูลและปัจจัยหลายอย่างจำกัด จำเป็นต้องเลือกเจ้าตลาดไว้ก่อน และก็ถ่ายทอดให้คนรุ่นลูกๆมาเหมือน DNA ว่ารถแบบไหนดีขับแล้วดูดี ขายต่อได้ราคา มันถูกซึมซับมาแบบนี้
แต่วันนี้ ภาพลักษณ์ ผมมองว่า อะไรที่ทำให้คนมองเห็นภาพแล้วดูดียังไม่พอ ต้องให้เค้าได้สัมผัสด้วย คนทุกวันนี้ไม่เชื่อแล้วชื่นชอบอะไรง่ายๆแล้ว เพราะมีให้เลือกเยอะ ที่สำคัญหาข้อมูลง่ายมาก
โดยส่วนตัวผม เห็นว่ารถสวยไม่พอ ต้องได้มานั่งหรือสัมรสเราแล้วบอกว่า ว้าว.. มากกว่าสวยดี ... ก็โอเคน่ะ ...อะไรทำนองนี้ แล้วเราก็จะรู้สึกดีมากกว่า
+1 อีกเสียงครับ รถกลุ่มเดียวกันแบร์นก็ระดับเดียวกัน ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะหรูกว่ากันถึงขนาดแตกต่างขนาดนั้น
เพราะคุณศึกษามาเป็นอย่างดีครับ มีความชื่นชอบในเรื่องยานยนต์ ลองไปถามสาวๆออฟฟิศดูสิครับ ถามคนขายข้าวแกงก็ได้ คุณจะได้คำตอบครับ
-
ผมว่าไปทดสอบให้มันเห็นตัวเลขจริงๆดีกว่าไหม ไม่ใช่มามโนอัตราเร่งอะไรแบบนี้
-
ภาพคู่นี้ผมมอง FTN แบบไม่คิด เหตุผลหลักคือ
1. มองย้อนไปเจนก่อนภาพจำในหัวคือ PJS ราคาประมาน 9 แสน กระบะดัดแปลงชัดๆ / FTN ต่ำๆต้องมีล้านสอง เออเหมือน SUV. (ภาพในหัวสมอง FTN ดูดีกว่าทุกประตู)
2. มองในเจนปัจจุบัน มอง PJS ทำไมนึกถึง sport rider แบบยาวๆโย่งๆ คืออารมกระบะใส่หลังคาท้าย ประมาณรถของไทยรุ่ง (แม้หน้าจะสวยหยด ท้ายริวจะไม่พูด) ลูกเล่นเยอะ แต่ภาพรวมคือธรรมดามากสำหรับจิตใจผม / FTN ออกแบบมา โหว เล็กซัสชัดๆ หรูสวยมาก (ถึงจะออฟชั่นโล้นๆ+แพง)
ปล. ผมเลือกซื้อรถที่ขับแล้วเสริมภาพลักษณ์ผมด้วย จะมีกี่คนที่มองแล้วรู้ว่ารถคันนี้มีออฟชั่นอะไรบ้าง คนทั่วไปรู้เพียงแค่เราขับรถรุ่นอะไรสวยมั้ย หรูมั้ยเท่านั้นเอง
ไม่ขอพูดถึงข้อ1-2 ที่คุณกล่าวมา
แต่เห็นด้วยกับ ปล.ที่คุณว่า "จะมีกี่คนที่มองแล้วรู้ว่ารถคันนี้มีออฟชั่นอะไรบ้าง คนทั่วไปรู้เพียงแค่เราขับรถรุ่นอะไรสวยมั้ย หรูมั้ยเท่านั้นเอง"
คำพูดนี้ล่ะ ที่ทำให้ผมตัดสินใจลำบากระหว่าง options กับ image
ภาพลักษณ์ของคน 10 ปีที่แล้ว กับปัจจุบันไม่เหมือนเดิมแล้วน่ะครับ เมื่อก่อนผู้ใหญ่เลือกใช้รถด้วยเหตุผลจากข้อมูลและปัจจัยหลายอย่างจำกัด จำเป็นต้องเลือกเจ้าตลาดไว้ก่อน และก็ถ่ายทอดให้คนรุ่นลูกๆมาเหมือน DNA ว่ารถแบบไหนดีขับแล้วดูดี ขายต่อได้ราคา มันถูกซึมซับมาแบบนี้
แต่วันนี้ ภาพลักษณ์ ผมมองว่า อะไรที่ทำให้คนมองเห็นภาพแล้วดูดียังไม่พอ ต้องให้เค้าได้สัมผัสด้วย คนทุกวันนี้ไม่เชื่อแล้วชื่นชอบอะไรง่ายๆแล้ว เพราะมีให้เลือกเยอะ ที่สำคัญหาข้อมูลง่ายมาก
โดยส่วนตัวผม เห็นว่ารถสวยไม่พอ ต้องได้มานั่งหรือสัมรสเราแล้วบอกว่า ว้าว.. มากกว่าสวยดี ... ก็โอเคน่ะ ...อะไรทำนองนี้ แล้วเราก็จะรู้สึกดีมากกว่า
+1 อีกเสียงครับ รถกลุ่มเดียวกันแบร์นก็ระดับเดียวกัน ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะหรูกว่ากันถึงขนาดแตกต่างขนาดนั้น
เพราะคุณศึกษามาเป็นอย่างดีครับ มีความชื่นชอบในเรื่องยานยนต์ ลองไปถามสาวๆออฟฟิศดูสิครับ ถามคนขายข้าวแกงก็ได้ คุณจะได้คำตอบครับ
ใช่ บางครั้งรู้เยอะก็ไม่ดีครับ
-
ผม จขกท.นะ
ผมได้ปรึกษากับที่บ้านอย่างละเอียดเลย ทั้งภายนอก-ภายใน แต่ไม่เอาเรื่อง Technology มาคุย โดยทำแบบสอบถาม (แบบง่ายๆ)
โดยแบ่งเป็น 2 ชุด ชุดแรกถามจากการดูโบรชัวร์ของทั้ง 2 รุ่น ชุดสองคำถามเดียวกันโดยเปิดภาพเคลื่อนไหวจาก Youtube ให้ดู
และสุดท้ายคือสรุปจากคำพูดว่าจะเลือกอะไร
โดยคำถามเกี่ยวกับความพึงพอใจมีคร่าวๆ ดังนี้
1.ด้านหน้า
2.ด้านข้าง
3.ด้านท้าย
4.สีภายใน
5.หน้าตาของคอนโซล-เรือนไมล์-ของตกแต่งเท่าที่เห็นจากภาพ
กลุ่มตัวอย่างในบ้านรวมถึงตัวผมเอง 8-74ปี จำนวน 6 คน(การตอบแบบสอบถามเป็นไปด้วยความสนุก)
ถึงคนอายุ 8, 72 และ 74 ปี การศึกษาไม่สูงมาก แต่ก็นั่งรถ เห็นรถมาเยอะมาก
แบบสอบถามชุดแรกถามจากการดูโบรชัวร์ของทั้ง 2 รุ่น ให้ นน.ไปที่ FTN ส่วนใหญ่มาจากข้อ 1,3 และ 5
แบบสอบถามชุดสองคำถามเดียวกันโดยเปิดภาพเคลื่อนไหวจาก Youtube ให้ นน. ไปที่ PJS มาจาก 1,2,3,4และ5
สุดท้ายคือสรุปจากคำพูด สมาชิกในบ้าน
ลูกผมอายุ 8 ปี เลือก PJS --> ดูหน้ามันสวย มันไม่มี ขีดๆ ตรงด้านหน้า, ท้ายแดงๆยาวๆดูเหมือนเสาไฟ christmas,
เบาะสีดำเผื่อหนูเขียนอะไรไปแล้วป่าป๊าจะมองไม่ค่อยเห็น, มี TV กลางเหมือน estima
ป้า แม่ อายุ 72-74 ปี เลือก PJS --> ชอบหน้ามัน ดูมันมนๆ, ไม่ชอบสองขีดด้านหน้าและขีดๆ 3เส้น (FTN),
ด้านข้างเส้นมันทำไมต้องขยึกๆ (ขดไป-ขดมาFTN), ท้ายอันนี้มันเหมือน Volvo (PJS), ด้านในสีดำมันเปื้อนยากดี (PJS),
หน้าปัทม์ (ทั้งคอนโซลหน้า)ไฟมันเยอะไป (สีสัน) แล้วก็มีอะไรแปะข้างส้มๆ มันดูไม่สวย (FTN)
ผบทบ.เลือก PJS --> ชอบรูปลักษณะโดยรวม, สีภายใน, สีไฟของเรือนไมล์และคอนโซลกลาง, เบาะนั่งคู่หน้าที่ปรับไฟฟ้า,
กล้องรอบทิศทาง น่าจะทำให้ขับง่ายขึ้น เพราะเธอใช้ estima อยู่มีเฉพาะกล้องหลัง บางครั้งก็ทำให้กะลำบากเวลาเข้าที่จอด,
มีจอกลางไม่ต้องติดเพิ่ม ประหยัดไปอีกเกือบหมื่น
โดยส่วนตัวผมที่ยังตัดสินใจลำบากในตอนแรก คือเหมือนรักพี่เสียดายน้อง เพราะ
PJS มี options และ technology ทุกอย่างสำหรับระยะ 10 ปีข้างหน้า คืออีก 10ปีก็ยังร่วมรุ่น
ผมชอบ 8เกียร์, เบรคไฟฟ้า (ที่บ้านยังไม่เคยมี), เบาะไฟฟ้าคู่หน้า, ดิสค์หลัง, ระบบ pre safe ต่างๆ,
คอนโซลหน้า, ภายในสีดำ ประมาณนี้
ส่วน FTN ก็ใช่จะขี้ริ้วขี้เหล่ หน้าตาก็สวยไม่เป็นรอง แม้ option จะน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับค่าตัว
แต่ชื่อชั้น toyota ก็เบอร์หนึ่งของรถญี่ปุ่นอยู่แล้ว ศูนย์บริการหายห่วง
แต่คิดโดยรวมในทุกด้านๆแล้ว
ครอบครัวผมเลือก PJS GT-Premium ครับ
จบมหากาพย์ FTN กับ PJS สำหรับครอบครัวผมครับ...
(ไม่เคยคิดและเลือกซื้อรถอะไรที่นานขนาดนี้มาก่อนเลย ในชีวิต)
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นครับ
-
อ่านแล้วเป็นครอบครัวที่น่ารักดี :)
เบาะสีดำดูเปื้อนยากจริงครับ แต่มันก็ทำให้อึดอัด (จริงๆไม่ได้อึดอัดไรหรอก เพราะโทนสี)
บีเอ็มพี่สาว เบาะครีม เปื้อนง่ายมาก ยิ่งมีเด็ก ยิ่งขนของเล็กๆน้อยๆ เป็นดวงๆเลย น่าเกลียด
ทุกอย่างล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขอให้ได้รถที่โดนใจครับ โดยไม่มีปัญหาอะไรครับ
-
โห สุดยอดครับ ทึ่งกับวิธีวิเคราะห์และนำเสนอให้ทุกคนในครอบครัวช่วยกันเลือก ขอให้มีความสุขกับรถคันใหม่เร็วๆนะครับ เห็นยอดจองพุ่งพรวดๆเลย
-
ชอบการทำแบบสอบถามของจขกท. น่ารักดี :)
-
ยินดีด้วยครับ
-
ยินดีด้วยครับ
ตอนผมจะซื้อผมก็ไม่ได้เปรียบเทียบละเอียดขนาดนี้ สุดยอดขริงๆ
ผมว่าเป็นทริกของ จขกท.ด้วยแหละ ถ้าเกิดรถที่เลือกมามีปัญหาอะไร จะได้แชร์ความผิดให้คนที่ร่วมเลือกด้วย ขำขำนะครับ ;D ;D ;D
-
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกๆ คำตอบครับ :D