Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Pranhirun ที่ กันยายน 08, 2015, 18:55:05

หัวข้อ: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: Pranhirun ที่ กันยายน 08, 2015, 18:55:05
วันนี้มีโอกาสได้ไป Test Drive Ford Everest 2.2 มาครับ

เครื่องแรงเพียงพอครับ พวงมาลัยเบาเหลือเชื่อ ช่วงล่างซับแรงสะเทือนได้ดีในระดับนึง แต่!!!

ตัวรถมีอาการโยน ขับไปเด้งไปครับ ขับแล้วเวียนหัวมาก แฟนผมที่ไปด้วยกันบอกเมารถจะเป็นลม เซลล์ยังบอกว่าลูกค้าที่มาลองก่อนหน้าก็บอกงี้ ตัวเค้าก็คิดว่าเด้งไปหน่อย

รวมๆผมว่าดีกว่า Fortuner ตัวเก่าที่เคยขับ แต่ยังไม่ถึงขั้น SUV พื้นฐานเก๋งครับ

จากที่อ่านใน First Impression คุณ Moo รีวิวว่า 3.2+ จะเก็บอาการได้ดีกว่าเนื่องด้วยตัวรถที่หนักกว่าพอสมควร
เลยอยากสอบถามด้วยว่า ศูนย์ไหนมี 3.2+ ให้ Test บ้างครับ ไปมา 2 ศูนย์แล้ว พูดเหมือนกัน รถไม่ทันโชว์ลูกค้ามาเอาไปแล้ว
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ กันยายน 08, 2015, 19:03:24
 :o :o :o มันเด้งหรอครับ แปลกแฮะ ลมยางศูนย์ไม่ได้ลดป่าว มันไม่น่าเด้งขนาดเวียนหัวเลยต่อให้ลมยางแข็ง ปกติผมขับตลอดไปลองมันโอเคนะ แล้วไปนั่งเบาะหลัง อีกรอบมันโอเคเลยถนนเส้นลำลูกกา ที่สะเทือนๆ คอสะพานสูงๆ

ผมว่าเรื่องลมยางมั้ยหว่า
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: mozart ที่ กันยายน 08, 2015, 19:34:38
ผมว่าโอเคเลยนะ  ดีเกือบหมดทุกอย่าง กระทั้งเครื่อง 2.2ที่เคยคิดว่าอื่ดแน่ แต่ไปลองแล้วไม่เลวร้ายเลยครับ พอใช้ในชีวิตประจำ พวงมาลับนี้เบาไปครับไม่เหมาะกับรถคันใหญ่แบบนี้เลย สิ่งที่ผมเกลียดที่สุดคือจอสองจอที่หน้าปัดครับ เหมือนจะดีแต่สำหรับผมมันนรกเลย ไม่ชอบอย่างแรง สวยนะครับแต่อ่านยาก ยิ่งตัววัดรอบนี้ ไม่ชอบอย่างแรงครับ
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: MoO Cnoe ที่ กันยายน 08, 2015, 19:42:46
น่าจะต้องให้เซลล์เช็คลมยางดูครับ บางทีเรื่องง่ายๆแบบนี้
เค้าก็ไม่ได้เช็ค เพราะรถที่มาจากโรงงาน ลงจากเทรลเลอร์
ส่วนมากลมยางจะอัดมา 50 กว่าๆ

ส่วนตัวรถเท่าที่ขับมา 2.2 กับ 3.2 Plus ต่างกัน
แต่ไม่ได้มากขนาดนั้นครับ ยังไงผมว่าลองอีกรอบ
แล้วให้เค้าเช็คลมยาง หรือเปลี่ยนศูนย์เลยก็ได้ครับ

ลมยางที่เหมาะสมคือ 32-35 ครับ สำหรับรถประเภทนี้
หัวข้อ: Re: ไปลองEverest 2.2มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ(อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: Pranhirun ที่ กันยายน 08, 2015, 19:57:30
น่าจะต้องให้เซลล์เช็คลมยางดูครับ บางทีเรื่องง่ายๆแบบนี้
เค้าก็ไม่ได้เช็ค เพราะรถที่มาจากโรงงาน ลงจากเทรลเลอร์
ส่วนมากลมยางจะอัดมา 50 กว่าๆ

ส่วนตัวรถเท่าที่ขับมา 2.2 กับ 3.2 Plus ต่างกัน
แต่ไม่ได้มากขนาดนั้นครับ ยังไงผมว่าลองอีกรอบ
แล้วให้เค้าเช็คลมยาง หรือเปลี่ยนศูนย์เลยก็ได้ครับ

ลมยางที่เหมาะสมคือ 32-35 ครับ สำหรับรถประเภทนี้

เรื่องลมยาง ผมสอบถามเซลล์แล้วครับ เค้าว่าลมยางอยู่ที่ 35 ครับ
เส้นทางที่ลองจาก รามอินทรา กม.7- กลับรถแฟชั่นไอส์แลนด์ - กลับรถเลียบด่วนฯครับ

ขอบคุณ comment ทุกๆท่านด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ กันยายน 08, 2015, 20:00:22
35 นี่ถือว่าค่อนข้างปกตินะครับ

วิ่งเส้นรามอินทรานั่นก็ดี ผมว่าถนนมันขรุขระชนิดเป็นตัวแทนของถนนแย่ๆในประเทศไทยได้ดี
เคยลองวิ่ง Fortuner เส้นนี้บ้างมั้ยครับว่าอาการต่างกันอย่างไร อันนี้ผมถามเฉยๆ
ไม่มีประเด็นแอบแฝงไม่มีเน้นผิดถูก อยากทราบความเห็นแบบส่วนตัวเลย
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Pranhirun ที่ กันยายน 08, 2015, 20:10:32
35 นี่ถือว่าค่อนข้างปกตินะครับ

วิ่งเส้นรามอินทรานั่นก็ดี ผมว่าถนนมันขรุขระชนิดเป็นตัวแทนของถนนแย่ๆในประเทศไทยได้ดี
เคยลองวิ่ง Fortuner เส้นนี้บ้างมั้ยครับว่าอาการต่างกันอย่างไร อันนี้ผมถามเฉยๆ
ไม่มีประเด็นแอบแฝงไม่มีเน้นผิดถูก อยากทราบความเห็นแบบส่วนตัวเลย

Fortuner(ตัวเก่า) ผมเคยขับเส้นเกษตรนวมินทร์ครับ นานแล้วเหมือนกัน น่าจะประมาณ 3 ปีมาแล้ว แต่คิดว่ายังจำความรู้สึกกระเด้งกระดอนได้ดี
พอมาลอง Everest 2.2 ความรู้สึกผมมันดีกว่า Fortuner ครับ ตัวผมอาจจะคาดหวังสูงเกินไปก็ได้ครับ จากหลายๆเสียงที่บอกว่า Everest ช่วงล่างนิ่งแน่น เลยเกิดอาการคันอยากซื้อรถเพิ่มครับ มีโอกาสไปลองแล้ว ส่วนตัวคิดว่ามันยังไม่นิ่งเท่า SUV พื้นฐานเก๋งครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม : ปัจจุบันขับ Civic FD2.0 และ X-Trail T32 2.5V ครับ

ในความเห็นพี่แพนคิดว่า ผมคาดหวังกับ Everest สูงไปรึเปล่าครับ
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: legion ที่ กันยายน 08, 2015, 20:22:31
ไปลองขับมาเหมือนกัน
ผมว่าช่วงล่างมันนุ่ม แน่น เนียน มากๆ ปิดตานั่งหลังนึกว่านั่ง เก๋ง d seg ครับ
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: arya ที่ กันยายน 08, 2015, 20:39:57
ลองขับมาแล้วเหมือนกันครับ ความรู้สึกก้อคล้ายๆกับ จขกท.
 แต่ผมไม่ได้คาดหวังสูงเลยเฉยๆ

หากเทียบ ev กับ ppv ด้วยกัน ใช่คับ มันถือว่า สะเทือนน้อยที่สุด (แต่มีการอาการ เด้งนิดๆ ให้รู้สึก ตลอดเวลาในการขับ) เก็บเสียงได้ดี พวงมาลัยเบาดีในความเร็วต่ำ ทำให้ สบายเวลาขับ เข้าที่จอด หรือ กลับรถ พวงมาลัย ในความเร็วสูงให้ความรู้สึก ถึงความนิ่งดี

แต่ถ้าเทียบกับ รถเก๋ง d segment แล้ว ยังถือว่า เทียบไม่ได้ในเรื่องการสะเทือน ยิ่งบางความเห็นได้ยินมาบ้างว่าเท่ารถ ยุโรป ผมว่ายังห่างกันพอสมควร

สรุป ถ้าจะซื้อ ppv ผมเห็นว่า มันขับดีสุด จิงคับ

แต่อย่า นำมันไปเปรียบเทียบ กับ รถ segment อื่น ดีกว่าคับ เพราะ ยังไง ผมว่า มันก้อไม่มีทางทำได้ดีกว่า ด้วยตัวพื้นฐานรถคับ

ขับลุยได้ ลุยน้ำท่วมได้ แข็งแรง ทนทาน และนิ่มดุจแพรไหมมม

โอ้ววว พระเจ้าจอร์จ อะไรจะขนาดน้านนน
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างคร
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa ที่ กันยายน 08, 2015, 21:06:17
เมื่อวานผมก็ไปทดลองขับมา เป็นตัว 2.2 เหมือนกันครับ ที่ศูนย์ปทุมธานี
- สัมผัสแรก พวงมาลัยน้ำหนักเบาสบายจริงๆ ขับในเมืองคงสบาย แต่ช่วงความเร็ว 120- 140 ผมได้ขับแค่ระยะสั้นๆ ยังไม่ค่อยรู้สึกได้ว่ามันดีหรือป่าว
- ช่วงล่าง คงเป็นเพราะคาดหวังกับ everest มันมากไป เพราะก่อนหน้านี้เคยไปลอง ranger 3.2 รู้สึกดีมากๆ แต่พอมาเป็น ev 2.2 มันยังมีอาการกระเด้งๆ อยู่ แต่ ev ทำได้ดีกว่า fortuner เก่า
- การเก็บเสียง อันนี้ดีมากครับ ดีกว่า fortuner ทั้งตัวเก่า ตัวใหม่ ชัดเจน
- อัตราเร่ง เซลล์พยายามให้ผมทดลองสมรรถนะของรถ ให้คลิ๊กดาวน์ ข้อนี้ผมลองแล้ว ให้ ev 2.2 สอบตกครับ เหยียบจนคันเร่งติดพื้น แต่รถเหมือนมันขับไปเรื่อยๆ ไม่มีกระชาก ไม่มีหลังติดเบาะ แบบนี้เวลาจะเร่งแซง ต้องลุ้น มันสู้ fortuner 3.0 หรือ 2.7 ไม่ได้
- เบรค เซลล์บอกให้ลองเบรคแรงๆ ... ข้อนี้ผมไม่ลอง ไม่ทดสอบ
- สลาลม ... อันนี้ผมก็ไม่ลอง เพราะมีรถคันอื่นบนถนนอยู่ด้วย อันตราย
- การตกแต่งภายในของ ev 2.2 คันจริง ผมว่ามันสวยกว่าที่เคยดูในรูป
- หน้าปัด ไม่รู้ว่าปรับความสว่างของจอได้มั้ย เพราะกลางคืนอาจแสบตา... ลืมถามเซลล์
- จอกลาง ไม่รู้ปิดให้มืดสนิทได้มั้ย... ลืมถามเซลล์


เป็นความเห็นจากการทดลองขับ ev 2.2 สั้นๆเท่านั้น ลองแล้วเกิดความคาใจ อยากจะหาโอกาสไปทดลองขับใหม่ ทั้ง ev 2.2 และอยากลอง ev 3.2 ด้วย เพราะตอนลอง ranger 3.2 ผมว่ามันดีมาก แบบว่า โอ้โห กระบะมันทำได้ขนาดนี้เลยหรือ ดีกว่า fortuner เก่าของผมอีก จากความคาใจนี้   
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: mothsan ที่ กันยายน 08, 2015, 21:18:16
อารมณ์เดียวกับผมตอนไปลอง ranger 2.2 double cab เห็นใครๆ ก็บอกว่าขับดี ใกล้เคียงเก๋ง
พอไปลองเท่านั้นแหละ มันก็กระบะ ดีๆนี้เอง แค่นิ่มขึ้น แต่ก็ยังหลังเด้งเหมือนเดิม ไม่ค่อบต่างจากกระบะที่ไม่ได้ขับมาหลายปีแล้ว

เผลอๆ Dmax ตอนเดียว 2.5 ใส่หลังคา กระบะสแตนเลส เสริมแหนบ ยังขับแรงกว่า นิ่มกว่าเลยครับ
สรุปคือ ไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวังไว้ครับ ขับเก๋งเหมือนเดิมดีกว่า
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ กันยายน 08, 2015, 21:22:20
พอเข้าใจแล้วว่าทำไม คนนึงดี คนนึงไม่ดี  เข้าใจว่าอยู่ที่รถที่ตัวเองขับมาก่อนหน้าแล้วมาขับคงจะแบบนั้นครับ

ไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: Samart ที่ กันยายน 08, 2015, 21:31:35
ไปลองพร้อมเพื่อน2คนครับ เครื่อง2.2
ประเด็นที่สำคัญคือ ไม่ว่าสำนักไหน ให้ช่วงล่าง Everest นุ่ม หนึบ ที่สุดในบรรดา PPV ทำให้คาดหวังไว้เยอะ

ผลการทดลองขับ ผิดหวังครับ มันก็กระเด้ง กระดอน ตามนิสัย ของรถที่มีพื้นฐานจากรถกระบะ ที่เป็นคานแข็ง แต่ Everest มันมีจุดยึดที่เยอะมากกว่า คนอื่นเป็นจุดขาย ลงความเห็นกันว่า ซื้อได้ทุกยี่ห้อถ้าเอาจุดนี้มาตัดสินใจ

การวิ่งทางเรียบ การเข้าโค้ง ทำได้ดีกว่า FTN ใหม่ครับ

การวิ่งทางขรุขระ ทางเดียวกับที่ทดสอบ New  FTN ทุกคนลงความเห็นว่า ไม่แตกต่างกันเลย

ลมยาง พวกผมได้เน้นกับเซลแล้ว ว่าให้เช็คตามสเปค ซึ่งเซลยืนยันว่าช่างเพิ่งเช็คมา

ภายใน เนื่องจากสีครีม มีใช้ในรถญี่ปุ่นเกือบ 10 ปีแล้ว ทำให้ดูไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ ผิดกับ NEW FTN ที่ใช้โทนสีไปทางรถยุโรปเหมือน BMW อาจจะเป็นเพราะ เป็นรุ่น 2.2 ไม่มีหนังหุ้ม พร้อมเดินด้ายบนคอนโซล

รูปลักษณ์ ภายนอก แล้วแต่ชอบครับ แต่ผมชอบ Wildtrak มากกว่า

อัตราเร่ง 2.2 ก็ไม่ขี้เหล่เท่าไหร่ สำหรับ NEW FTN 2.8 มันพุ่ง ช่วงเเรกแล้วตื้อๆ ต้องรอผลทดสอบอีกทีครับ

หมายเหตุ ไม่มีอคติกับยี่ห้อใดน่ะครับ ความเห็นล้วนๆ

3 คนที่ไปทดสอบ มีประสบการณ์ในการใช้รถหลากหลายครับ เผื่อมีคำถามว่าเคยลองรุ่นอื่นรึเปล่า ตัวอย่างครับ Harrier 2.4, Benz W212 E250 2 คัน, Benz ML250 W166, Toyota Vellfire 2.4, กระบะ Vigo DMAX, Fortuner ตัวเก่า, Benz 220 Cdi W211, Honda CRV, BMW 520D F10, BMW 323i E36, Suzuki Swift, Honda Jazz
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: Nut_K ที่ กันยายน 08, 2015, 21:49:28
ผมว่าน่าจะอยู่ที่ลมยางด้วยนะ เพราะผมนั่งเบาะหลังแล้วขับผ่านทางขรุขระก็เก็บอาการได้ค่อนข้างดี แต่อาจจะมีเด้งๆบ้างถ้าถนนมันแย่จริงๆ
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: JAAP01 ที่ กันยายน 08, 2015, 22:14:39
แปลกเหมือนกันนะ รถที่ให้สือเทสกับรถที่ให้เทสตามโชว์รูมทำไมต่างกัน ??
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ กันยายน 08, 2015, 22:18:18
พื้นฐานกระบะคงประมาณนี้ครับ
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: Eddy5659 ที่ กันยายน 08, 2015, 22:21:35
เช็คลมยางดีๆครับ อย่าไปเชื่อเซลมันก็ตอบไปเรื่อยเปื่อย
ผมรับรถมา กำชับดิบดีว่าเช็คลมยางด้วย หลังจาก pdi รถแล้ว ใบส่งมอบรายการก็ยังมีระบุตรวจเช็คลมยาง 35 psi ผมก็สะบายใจไป พอขับรู้สึกกระด้างจังวะ ตัวที่ลองใน big มันนิ่มกว่านี้
เลยเลี้ยวเข้าร้านยาง เปลี่ยนเป็นลมไนโตร้จนด้วย และลองเช็คลมยางดู มันมา 44-46 psi ทุกล้อเลย

และผมก็ลองไปดูรถเทสที่ 0 มา 3 ที่เซลก็ยืนยัน 35 psi คะพี่ทั้งนั่นครับ เอาที่วัดลมยางไปเสียแค่นั่นหละ 40 ขึ้นทุกคัน มันน่าตบกระบาลช่างมี่ศูนย์และเซลจริงๆ มึงจะใส่ใจรายละเอียดบ้างไม่ได้หรือยังไง
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: AuNaraKa ที่ กันยายน 08, 2015, 22:22:49
เพิ่งได้ไปลองเมื่อวันอาทิตย์ ไม่กล้ามา comment อะไรจนเจอกระทู้นี้หล่ะครับ ไม่เคยลอง PPV ยี่ห้ออื่นเลย มุ่งหน้ามาที่ EV อย่างเดียวเพราะที่อ่านๆ ฟังๆ มาคือช่วงล่างนิ่มหนึบนี่หล่ะครับ ปรากฏว่าผิดหวังมาก นั่งแล้วรู้สึกไม่สบายเลย นอกจากว่ามันเด้งแล้วมันเหมือนคลอนไปมา นั่งแล้วหัวเหวี่ยงซ้ายที ขวาที ลองเส้นพระราม 3 นะครับ แบบวิ่งไปได้ขาเดียว แฟนนั่งหลังสะกิดให้จอดรถพักก่อนเลย บอกว่าเวียนหัวมึน ไม่ผ่านอย่างแรงครับ ส่วนตัวขับ E300 hybrid กับ X3 อยู่ครับ
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: pikkylover ที่ กันยายน 08, 2015, 22:23:49
ลองขับมาแล้วเหมือนกันครับeverest 2.2
ที่ไปลองเพราะอยากได้ไอโฟนครับ555 ส่วนตัวซื้อmu-xมาแล้วเมื่อปีที่แล้ว ก็เลยอยากไปลองเทียบเล่นๆ หลังจากได้ลองก็แทบจะขายmu-x เลย รถเค้าดีกว่าทุกด้านT_T
พวงมาลัยเบาและนิ่งดี
อัตราเร่งพอใช้ได้
เก็บเสียงดีมาก
ช่วงล่างก็ซับแรงสะเทือนได้ดี
ถ้านั่งeverestแล้วยังเมา มานั่งรถผมคงอ๊วกแตกแน่เลยครับ :(
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: AuNaraKa ที่ กันยายน 08, 2015, 22:28:56
ลองขับมาแล้วเหมือนกันครับeverest 2.2
ที่ไปลองเพราะอยากได้ไอโฟนครับ555 ส่วนตัวซื้อmu-xมาแล้วเมื่อปีที่แล้ว ก็เลยอยากไปลองเทียบเล่นๆ หลังจากได้ลองก็แทบจะขายmu-x เลย รถเค้าดีกว่าทุกด้านT_T
พวงมาลัยเบาและนิ่งดี
อัตราเร่งพอใช้ได้
เก็บเสียงดีมาก
ช่วงล่างก็ซับแรงสะเทือนได้ดี
ถ้านั่งeverestแล้วยังเมา มานั่งรถผมคงอ๊วกแตกแน่เลยครับ :(

เคยนั่ง limo ของ AOT จากสนามบินไม่ทราบว่ารุ่นเดียวกันรึเปล่า คันที่นั่งนั่นนั่งแล้วหวิวมากยิ่งเส้นที่ออกจากสุวรรณภูมิมาพระราม 9 คนขับยังบอกเลยว่านั่งน่ากลัวหน่อยนะ ถ้าเทียบกับคันนั้น EV ดีกว่าจริงๆ ครับ
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: JAAP01 ที่ กันยายน 08, 2015, 22:39:20
ผมว่าปัญหานี้น่าจะเกิดจากแขนลิงค์มันสั้นนะครับ การเซ็ทน่าจะทำได้ยากจะให้นุ่มหนึบด้วยนี่คงยาก เพราะจะให้หนึบก็ต้องเซ็ทไปทางแข็งๆหน่อยแต่จะให้ออกนุ่มด้วยมันก็จะย้วยๆเหมือน MU-X เรื่องแขนลิงค์สั้นสังเกตุจาก FTN ตัวเก่าละซึ่งจะต่างจาก 3 ลิงค์ใน PJS ที่มี่แขนลิงค์ยาวมากเกือบถึงครึ่งคัน รวมถึงตำแหน่งการวางขดสปริงด้วยครับ ลองไปนั่ง PJS ดูครับเก่าหรือใหม่ก็ได้ จะรู้ว่าการซับแรงเด้งด้านหลังแบบเด้งแล้วหายเลยไม่แกว่งไม่โยนมันเป็นยังไง 
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: kritcc ที่ กันยายน 08, 2015, 22:46:57
เช็คลมยางดีๆครับ อย่าไปเชื่อเซลมันก็ตอบไปเรื่อยเปื่อย
ผมรับรถมา กำชับดิบดีว่าเช็คลมยางด้วย หลังจาก pdi รถแล้ว ใบส่งมอบรายการก็ยังมีระบุตรวจเช็คลมยาง 35 psi ผมก็สะบายใจไป พอขับรู้สึกกระด้างจังวะ ตัวที่ลองใน big มันนิ่มกว่านี้
เลยเลี้ยวเข้าร้านยาง เปลี่ยนเป็นลมไนโตร้จนด้วย และลองเช็คลมยางดู มันมา 44-46 psi ทุกล้อเลย

และผมก็ลองไปดูรถเทสที่ 0 มา 3 ที่เซลก็ยืนยัน 35 psi คะพี่ทั้งนั่นครับ เอาที่วัดลมยางไปเสียแค่นั่นหละ 40 ขึ้นทุกคัน มันน่าตบกระบาลช่างมี่ศูนย์และเซลจริงๆ มึงจะใส่ใจรายละเอียดบ้างไม่ได้หรือยังไง

แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานของความเอาใจใส่ ของศูนย์บริการได้เหมือนกันนะครับ ขนาดเรื่องเล็กๆง่ายๆ ที่จะทำให้ตัวเองขายของได้ยังไม่ใส่ใจเลย ผมก็สนใจ EV มากเหมือนกัน แต่ไม่เคยไปลองขับ ลึกๆในใจก็ยังแอบหวั่นใจกับศูนย์บริการ Ford เหมือนกัน

ถ้าท่านใดสนใจจริงๆ ผมว่าควรลงทุนพกที่วัดลมยางไปลองวัดเองให้เห็นกับตาตัวเอง จะได้ไม่ต้องคาใจว่ามันเด้งเพราะรถออกแบบมาได้เท่านี้จริงๆ ไม่ได้เด้งเพราะเติมลมยางสูงเกินไป
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ กันยายน 08, 2015, 22:50:22
ไม่ว้าวตรงหน้าจอนี่แหละครับ ต่างกับตัว 3.2+ ชัดเจน พอเห็นของ 3.2+ แล้ว อยากได้จอแบบนั้นบ้างเลย
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: kritcc ที่ กันยายน 08, 2015, 22:57:13
เคยนั่ง limo ของ AOT จากสนามบินไม่ทราบว่ารุ่นเดียวกันรึเปล่า คันที่นั่งนั่นนั่งแล้วหวิวมากยิ่งเส้นที่ออกจากสุวรรณภูมิมาพระราม 9 คนขับยังบอกเลยว่านั่งน่ากลัวหน่อยนะ ถ้าเทียบกับคันนั้น EV ดีกว่าจริงๆ ครับ

Limo ของ AOT รู้สึกจะเป็น Isuzu Mu7 ซึ่งปัญหาจะตรงกันข้ามคือ ช่วงล่างนิ่มเกินไป ความเร็วต่ำอาจจะนิ่มสบาย แต่พอเกินร้อยจะย้วยมาก แกว่งไปแกว่งมา จนรู้สึกหวิวอย่างที่ท่านว่านะครับ
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: AkE ที่ กันยายน 08, 2015, 23:17:25
ผมว่ายังนิ่งกว่าคู่แข่งนะครับ ผมจะรอลองขับ pjs ใหม่ดู ว่าจะได้แค่ไหนรุ่นเก่าโคดจะไม่นิ่งคับ
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: Eddy5659 ที่ กันยายน 08, 2015, 23:38:24
เช็คลมยางดีๆครับ อย่าไปเชื่อเซลมันก็ตอบไปเรื่อยเปื่อย
ผมรับรถมา กำชับดิบดีว่าเช็คลมยางด้วย หลังจาก pdi รถแล้ว ใบส่งมอบรายการก็ยังมีระบุตรวจเช็คลมยาง 35 psi ผมก็สะบายใจไป พอขับรู้สึกกระด้างจังวะ ตัวที่ลองใน big มันนิ่มกว่านี้
เลยเลี้ยวเข้าร้านยาง เปลี่ยนเป็นลมไนโตร้จนด้วย และลองเช็คลมยางดู มันมา 44-46 psi ทุกล้อเลย

และผมก็ลองไปดูรถเทสที่ 0 มา 3 ที่เซลก็ยืนยัน 35 psi คะพี่ทั้งนั่นครับ เอาที่วัดลมยางไปเสียแค่นั่นหละ 40 ขึ้นทุกคัน มันน่าตบกระบาลช่างมี่ศูนย์และเซลจริงๆ มึงจะใส่ใจรายละเอียดบ้างไม่ได้หรือยังไง

แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานของความเอาใจใส่ ของศูนย์บริการได้เหมือนกันนะครับ ขนาดเรื่องเล็กๆง่ายๆ ที่จะทำให้ตัวเองขายของได้ยังไม่ใส่ใจเลย ผมก็สนใจ EV มากเหมือนกัน แต่ไม่เคยไปลองขับ ลึกๆในใจก็ยังแอบหวั่นใจกับศูนย์บริการ Ford เหมือนกัน

ถ้าท่านใดสนใจจริงๆ ผมว่าควรลงทุนพกที่วัดลมยางไปลองวัดเองให้เห็นกับตาตัวเอง จะได้ไม่ต้องคาใจว่ามันเด้งเพราะรถออกแบบมาได้เท่านี้จริงๆ ไม่ได้เด้งเพราะเติมลมยางสูงเกินไป

เพื่อนๆในกลุ่มที่ได้ตัวท๊อปกันมาหลายคัน แทบทุกคันครับที่ช่างมันไม่เช็คลมยางให้ ตื่นตระหนกมาคุยกัน ทำไมมันเด้งจัง แต่พอเช็คลมยางแค่นั่นแหละ โอละพ่อ 555+
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: JAAP01 ที่ กันยายน 09, 2015, 00:55:07
เช็คลมยางดีๆครับ อย่าไปเชื่อเซลมันก็ตอบไปเรื่อยเปื่อย
ผมรับรถมา กำชับดิบดีว่าเช็คลมยางด้วย หลังจาก pdi รถแล้ว ใบส่งมอบรายการก็ยังมีระบุตรวจเช็คลมยาง 35 psi ผมก็สะบายใจไป พอขับรู้สึกกระด้างจังวะ ตัวที่ลองใน big มันนิ่มกว่านี้
เลยเลี้ยวเข้าร้านยาง เปลี่ยนเป็นลมไนโตร้จนด้วย และลองเช็คลมยางดู มันมา 44-46 psi ทุกล้อเลย

และผมก็ลองไปดูรถเทสที่ 0 มา 3 ที่เซลก็ยืนยัน 35 psi คะพี่ทั้งนั่นครับ เอาที่วัดลมยางไปเสียแค่นั่นหละ 40 ขึ้นทุกคัน มันน่าตบกระบาลช่างมี่ศูนย์และเซลจริงๆ มึงจะใส่ใจรายละเอียดบ้างไม่ได้หรือยังไง

แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานของความเอาใจใส่ ของศูนย์บริการได้เหมือนกันนะครับ ขนาดเรื่องเล็กๆง่ายๆ ที่จะทำให้ตัวเองขายของได้ยังไม่ใส่ใจเลย ผมก็สนใจ EV มากเหมือนกัน แต่ไม่เคยไปลองขับ ลึกๆในใจก็ยังแอบหวั่นใจกับศูนย์บริการ Ford เหมือนกัน

ถ้าท่านใดสนใจจริงๆ ผมว่าควรลงทุนพกที่วัดลมยางไปลองวัดเองให้เห็นกับตาตัวเอง จะได้ไม่ต้องคาใจว่ามันเด้งเพราะรถออกแบบมาได้เท่านี้จริงๆ ไม่ได้เด้งเพราะเติมลมยางสูงเกินไป

เพื่อนๆในกลุ่มที่ได้ตัวท๊อปกันมาหลายคัน แทบทุกคันครับที่ช่างมันไม่เช็คลมยางให้ ตื่นตระหนกมาคุยกัน ทำไมมันเด้งจัง แต่พอเช็คลมยางแค่นั่นแหละ โอละพ่อ 555+

แต่การพึ่งลมยางให้อ่อนเพื่อให้ช่วงล่างตอบสนองเรื่องการช่วยซับแรงดีดโยนไปมาก็ไม่ใช่ซะทีเดียวนะครับ มันต้องอยู่ที่การเซ็ท การวางจุดลิงค์ให้เหมาะสม การวางตำแหน่งของสปริง โช้ค รวมถึงค่าความแข็งของสปริงด้วย การใส่ลมยางอ่อนทำให้การขับรถในย่านความเร็วสูงรวมถึงการเข้าโค้งอัดโค้งได้ไม่ดีนัก อย่างนิวฟอร์ ยังเซ็ทมาให้นุ่มหนึบได้เลยคนไปลองก็ไม่ได้สนใจเรื่องลมยางเท่าไร
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: Nonlamer ที่ กันยายน 09, 2015, 01:00:47
เคยดู PPV ไว้เป็นตัวเลือกเหมือนกันคับ แต่ไม่เคยนั่งรถประเภทนี้มาก่อน

ออฟชั่นที่ให้ ความอเนกประสงค์ในห้องโดยสาร คันใหญ่ยกสูงลุยน้ำได้ ขนของดี ลองนั่งดูก็นั่งสบาย โดยเฉพาะเจ้ายอดเขานี่ชอบมาก เลยกะเอามาเป็นตัวเลือกเทียบกับ D-Segment ที่ตั้งใจไว้ตอนแรก

พอมีโอกาสได้ลองนั่ง X5 ตัวล่าสุดของเพื่อน นั่งแถวหน้ายังโอเค ขับสนุกมองได้ไกลดี แต่พอไปนั่งแถวสองเท่านั้นล่ะ แทบตายคับ เมารถเอามากๆ ตอนนี้เลิกคิดจะซื้อรถยกสูงละคับ (ผมไม่แน่ใจนะว่า X5 มัน PPV หรือเปล่า แต่ตอนนี้ขยาดรถยกสูงทั้งหมดเลยคับ)
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: unseen ที่ กันยายน 09, 2015, 01:34:44
ลมยางก็มีผลมากเหมือนกันนะครับ   เคยลองอยู่ครับ อัด 40+-5 เเข็งอย่างเห็นได้ชัดเลยผ่านรอยต่อถนนจะได้ยินเสียงยางบด ตับๆเลย

พอเปลี่ยนมาเหลือ30+-5  นุ่มขึ้นรู้สึกชัดเจน 

หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: Anvers30 ที่ กันยายน 09, 2015, 01:36:44
ส่วนตัวไม่เคยลองขับ ppv แต่เคยเป็นคนนั่งมาหลายครั้ง บอกเลยว่าเวียนหัวชวนอาเจียนทุกครั้งไป เข็ดขยาดกับรถประเภทนี้ไปเลย ผมยิ่งเป็นคนเซ็นซิทิฟเรื่องเมาด้วย :(

เอาเป็นว่าผมขอแชร์ ประเภทที่เคยลองขับจะเป็น suv พื้นฐานเก๋ง อย่าง CX-5 X-Trail หรือแม้แต่ NX ความรู้สึกที่ยังมีอยู่ และคงขจัดได้ยากคือการโยนตัวของรถ ที่มากกว่าพวก saloon ร่วมค่ายตัวเอง ซึ่งมันแน่ล่ะ ground clearance ก็เยอะกว่า ทรงรถก็ต้านลมกว่า ค่าสปริง ตัวโช้คเซ๊ทมาเพื่อยกสูง มันจะมาขับดี ขับมั่น หนึบเท่าเพื่อนร่วมค่ายที่เป็นเก๋ง คงยากอยู่ แต่ก็ดีกว่า ppv แน่ๆ

ที่ประทับใจมากหน่อยจะเป็น CX-5 ถึงจะไม่เท่า 3 เพราะเล่นโค้งมันก็ยังโยนๆ นิดๆ แต่ผมก็ยังชอบฟีลรถที่มั่นๆ ตอบสนองดี พวงมาลัยเซ๊ทมาดี ขับสนุกชวนบู๊ได้ ส่วน NX ตัวท้อป ขับ 4 ขนาดปรับเป็นโหมด sport+ ผมก็ว่ามันย้วยๆ โยนๆ แต่ดันกระเทือนจนเกินงาม พวงมาลัยฟีลลิ่งโตโยต้ามาเอง เบาโหวงเลย แต่ผมสังเกต tpm ของรถที่จอดิสเพลย์ค่าลมยางอยู่ 41 ปอนด์ก็น่าจะมีส่วนบ้าง กระนั้นมันทำให้ความอยากได้เพราะสวย จบเพียงเท่านี้
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: Eddy5659 ที่ กันยายน 09, 2015, 06:26:02
เช็คลมยางดีๆครับ อย่าไปเชื่อเซลมันก็ตอบไปเรื่อยเปื่อย
ผมรับรถมา กำชับดิบดีว่าเช็คลมยางด้วย หลังจาก pdi รถแล้ว ใบส่งมอบรายการก็ยังมีระบุตรวจเช็คลมยาง 35 psi ผมก็สะบายใจไป พอขับรู้สึกกระด้างจังวะ ตัวที่ลองใน big มันนิ่มกว่านี้
เลยเลี้ยวเข้าร้านยาง เปลี่ยนเป็นลมไนโตร้จนด้วย และลองเช็คลมยางดู มันมา 44-46 psi ทุกล้อเลย

และผมก็ลองไปดูรถเทสที่ 0 มา 3 ที่เซลก็ยืนยัน 35 psi คะพี่ทั้งนั่นครับ เอาที่วัดลมยางไปเสียแค่นั่นหละ 40 ขึ้นทุกคัน มันน่าตบกระบาลช่างมี่ศูนย์และเซลจริงๆ มึงจะใส่ใจรายละเอียดบ้างไม่ได้หรือยังไง

แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานของความเอาใจใส่ ของศูนย์บริการได้เหมือนกันนะครับ ขนาดเรื่องเล็กๆง่ายๆ ที่จะทำให้ตัวเองขายของได้ยังไม่ใส่ใจเลย ผมก็สนใจ EV มากเหมือนกัน แต่ไม่เคยไปลองขับ ลึกๆในใจก็ยังแอบหวั่นใจกับศูนย์บริการ Ford เหมือนกัน

ถ้าท่านใดสนใจจริงๆ ผมว่าควรลงทุนพกที่วัดลมยางไปลองวัดเองให้เห็นกับตาตัวเอง จะได้ไม่ต้องคาใจว่ามันเด้งเพราะรถออกแบบมาได้เท่านี้จริงๆ ไม่ได้เด้งเพราะเติมลมยางสูงเกินไป

เพื่อนๆในกลุ่มที่ได้ตัวท๊อปกันมาหลายคัน แทบทุกคันครับที่ช่างมันไม่เช็คลมยางให้ ตื่นตระหนกมาคุยกัน ทำไมมันเด้งจัง แต่พอเช็คลมยางแค่นั่นแหละ โอละพ่อ 555+

แต่การพึ่งลมยางให้อ่อนเพื่อให้ช่วงล่างตอบสนองเรื่องการช่วยซับแรงดีดโยนไปมาก็ไม่ใช่ซะทีเดียวนะครับ มันต้องอยู่ที่การเซ็ท การวางจุดลิงค์ให้เหมาะสม การวางตำแหน่งของสปริง โช้ค รวมถึงค่าความแข็งของสปริงด้วย การใส่ลมยางอ่อนทำให้การขับรถในย่านความเร็วสูงรวมถึงการเข้าโค้งอัดโค้งได้ไม่ดีนัก อย่างนิวฟอร์ ยังเซ็ทมาให้นุ่มหนึบได้เลยคนไปลองก็ไม่ได้สนใจเรื่องลมยางเท่าไร

พึ่งตรงไหนเหรอครับลมยางเนี่ย แค่เติมตามเสปกที่ โรงงาน เขียนกำกับไว้เท่านั้นเอง เพราะช่างที่ 0 มันไม่ปรับให้ ไม่ใช่ว่าอยากให้นุ่มแล้วลดลมยางซะหน่อย ผมก็แค่มาแชรข้อมูลให้ฟังเรื่องลมยางแข็งกว่าเสปก

ผมไม่ได้เถียงว่าคันนี้จะดีกว่าคันนั่น ผมแค่สงสัยคอมเม้นต์ของคุณ ต้องการอะไรครับ
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: nl2br ที่ กันยายน 09, 2015, 08:19:30
เรื่องลมยางผมเพิ่งเจอกับตัวเลยครับ ถามเซลว่าเติมลมยางให้ตามคู่มือแล้วใช่มั๊ย เซลบอกว่าตามคู่มือเลย
ยางผม 185/65/15 คู่มือบอกใ้ห้เติม 36/33 ขับออกจา 0 ขึ้นทางด่วน ปรากฏว่าขับๆแล้วย้วยครับ อาการเหมือนขับรถบนทางด่วนตอนลมแรงๆช่วงฤดูหนาว
ลงทางด่วนแวะเข้าปั๊ม เช็คลมยังปรากฏว่า 0เติมให้ หน้า32 หลัง34 ฉะนั้นอย่าไปเชื่อเซลครับ บางทีก็ตอบไปงั้นๆ ขี้เกียจเติมใหม่
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: azx001 ที่ กันยายน 09, 2015, 11:51:37
Everest  ต้อง 3.2 ครับ 
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กันยายน 09, 2015, 17:11:58
หากมีอาการมึนหัว ...เมา....แสดงว่านุ่ม และย้วยเกินไป  มันเลยทำให้หัวโยก ด็อกแด็ก ๆ  เมาเลย....
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: Doctorpook ที่ กันยายน 09, 2015, 18:15:02
อ่านcommentของแต่ละคนทำไมมันไม่เหมือนผมเลย
ปรกติผมจะเมารถที่มีอาการโยนมากหรือเครื่องบินที่นุ่มคล้ายhydrolic เคยลองใช้CRV genแรกและgen2 ซึ่งภรรยาผมเขาใช้ลักษณะนี้บ่อย
แต่ผมไม่เคยชอบเลยไม่สามารถปรับตัวเข้ากับรถได้ จะกลัวทุกครั้งที่ต้องขับ มันรู้สึกสูงและไม่มั่นคง
เวลาไปสุวรรณภูมิต้องเช่ารถจากAOTตั้งแต่Mu7จนมาMuX ก็ไม่ชอบแต่มันนั่งระยะใกล้ๆ
ตอนนี้อยากได้PPVมาใช้งานจึงได้จองEverestไป2แห่งเพราะติดตามอ่านข่าวคราวมาตลอดแต่ไม่เคยเห็นตัวจริง สุดท้ายไปดูที่Central บางนา ก่อนจะได้ลองขับที่งานBIG1รอบ ภรรยาขับ1รอบและผมเป็นคนนั่ง
คันที่ได้ทดลองขับเป็นรุ่น3.2Titanium plus สีแดงsunsetรุ่นเดียวกับที่จองไว้ ทั้งผมและภรรยาประทับใจมากทั้งความสวยของตัวรถและการง่ายต่อการบังคับควบคุม
ตอนลองผมใช้sport modeและแม้เพียง1รอบแต่ผมก็อัดเต็มที่ช่วงสลาลอมและบั้มพ์เนิน จนคนควบคุมที่นั่งมาด้วยถูกว.มาเตือนให้ขับช้าลง พอดีผมก็กลายเป็นผู้โดยสาร ความเงียบสบายแอร์เย็นทำให้อยากจะหลับไปเลยถ้าทำได้

จากนั้นไม่นาน 2อาทิตย์ที่แล้วได้ไปรับรถ ภรรยาขอเป็นคนขับกลับบ้านผมก็ตกลงเพราะเธอชอบคันนี้มาก ผมกะจะลองขับในหมู่บ้านเมื่อมาถึงพอดีฝนตกก็เลยอดขับ
วันรุ่งขึ้นก็ตื่นมาตี3เพื่อเตรียมตัวไปเที่ยวสังชละบุรี ผมแวะเติมน้ำมันและเพิ่มลมยางเป็น40จากที่เดิม37ปอนด์(ยางเย็นน่าจะลบออก2ปอนด์ครับ) แทบไม่ต้องปรับตัวเลยผมก็ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจและดูGoogle mapsนำทางไป
ได้ทดลองใช้ทุกระบบที่รถมี เพราะเส้นทางมันก็เอื้ออำนวยพอควรยกเว้นไม่ได้ลองMode Terrain Management Systemเพราะทางไม่ได้เลยร้ายขนาดนั้น ใช้HDCกับBrake assist
ผมเดินทางกลับในวันเดียวกันเพราะต้องกลับมาทานข้าวกับลูกชายเพราะนัดกันไว้6โมงครึ่งตอนเย็นที่กรุงเทพชานเมืองแถวบรมสายสอง
สรุปผมขับรถครั้งแรกวันแรกประมาณ700กิโล ภรรยาผมเป็นคนนั่ง ไม่มีใครเวียนหัว จะหน้ามืดเป็นลมหรืออาเจียนใดๆทั้งสิ้น อาการดีดเด้งมีบ้างเล็กน้อยไม่ได้เป็นปัญหาใดๆทั้งสิ้น
Option Moon Roof ซึ่งปรกติผมไม่เคยให้ความสนใจแม้เคยมีใช้ในรถBenzคันก่อนๆนี้ เพราะรถsedanเปิดแล้วผมไม่ค่อยเห็นประโยชน์ของมัน แต่สำหรับEverestมันช่วยให้โปร่งมากๆด้วยความที่รถมันคันใหญ่และสูง สีของเบาะเป็นสีโทนสว่างทำให้มันรู้สึกอิสระและการเดินทางท่องเที่ยวสนุกสนานขึ้นมาก ระยะยาวยังห่วงว่าจะเกิดเสียงดังก๊อกแก๊กจากหลังคาเหมือนที่เคยเจอกับBenzมาหลายคันหรือไม่
ปรกติรถที่ผมใช้ตอนนี้มีBenz E komW211,E coupe 250CDI,C coupe180และHonda Civic FDปี2006ซึ่งได้ขายHondaไปก่อนจะมาซื้อEverestเพราะผมไม่ชอบFDในเรื่องการขับขี่เลย
กลับมาผมอ่านคู่มือแล้วไปลดลมยางออกเหลือ36ก็ไม่เห็นมีอาการที่จะแตกต่างอะไรมาก ที่ผมเติมลมมากตอนแรกเพราะยังไม่มีเวลาอ่านคู่มือเลย ตอนใช้E Coupeล้อมัน19นิ้วเติม40ก็เลยเข้าใจว่า
Everestล้อ20น่าจะเติมไม่น้อยกว่านี้
ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์จริงจากผู้ที่ใช้จริง ไม่ได้ลองขับกันแค่ไม่กี่กิโล ตอนนี้วิ่งไปประมาณ1500กม.แล้วประทับใจทุกครั้งที่ได้ขับ จนคันอื่นๆจอดโรงรถเฝ้าบ้านเลย รถสูงๆแต่มั่นคงทำให้รู้สึกว่าขับง่ายเพราะทัศนวิสัยมันดีกว่ารถเตี้ยๆ
ข้อที่เปรียบไม่ได้กับรถที่ผมขับก่อนหน้าซึ่งส่วนใหญ่คือE Coupe CDIคือแม้ว่าแรงม้าจะมากกว่าEverestเพียง4ตัว แรงบิดมากกว่าเพียง30นิวตัน แต่เพราะขนาดและน้ำหนักที่น้อยกว่าย่อมจะไม่สามารถได้อัตราเร่งที่ดีเท่่าได้
แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่ามันช้าแต่อย่างใด และความเร็วเดินทางปรกติคอยจะเผลอเร็วไปด้วยซ้ำเพราะมันเงียบเก็บเสียงได้ดี ตอนเร่งออกตัวจากหยุดนิ่งหรือความเร็วต่ำๆเสียงจะเงียบกว่าE Coupeด้วย
แต่เสียงลมประทะจะดังกว่าเล็กน้อย
รอบเดินเบามีสะดุดนานๆครั้งไม่นิ่งเหมือนBenz และเมื่อพัดลมไฟฟ้าทำงานเต็มSpeedเวลารถติดๆ ความสะท้านจากตัวรถBenzจะทำได้ดีกว่าเล็กน้อย
ผมไม่ได้ลองขับFTNเพราะเคยขับตัวเก่ามันแย่มาก พอมาตัวใหม่การออกแบบไม่ตรงรสนิยมของผมและภรรยา(ย้ำว่าของผมและภรรยา) ก็เลยผ่านเลย

หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: NS ที่ กันยายน 09, 2015, 18:56:02
อ่านcommentของแต่ละคนทำไมมันไม่เหมือนผมเลย
ปรกติผมจะเมารถที่มีอาการโยนมากหรือเครื่องบินที่นุ่มคล้ายhydrolic เคยลองใช้CRV genแรกและgen2 ซึ่งภรรยาผมเขาใช้ลักษณะนี้บ่อย
แต่ผมไม่เคยชอบเลยไม่สามารถปรับตัวเข้ากับรถได้ จะกลัวทุกครั้งที่ต้องขับ มันรู้สึกสูงและไม่มั่นคง
เวลาไปสุวรรณภูมิต้องเช่ารถจากAOTตั้งแต่Mu7จนมาMuX ก็ไม่ชอบแต่มันนั่งระยะใกล้ๆ
ตอนนี้อยากได้PPVมาใช้งานจึงได้จองEverestไป2แห่งเพราะติดตามอ่านข่าวคราวมาตลอดแต่ไม่เคยเห็นตัวจริง สุดท้ายไปดูที่Central บางนา ก่อนจะได้ลองขับที่งานBIG1รอบ ภรรยาขับ1รอบและผมเป็นคนนั่ง
คันที่ได้ทดลองขับเป็นรุ่น3.2Titanium plus สีแดงsunsetรุ่นเดียวกับที่จองไว้ ทั้งผมและภรรยาประทับใจมากทั้งความสวยของตัวรถและการง่ายต่อการบังคับควบคุม
ตอนลองผมใช้sport modeและแม้เพียง1รอบแต่ผมก็อัดเต็มที่ช่วงสลาลอมและบั้มพ์เนิน จนคนควบคุมที่นั่งมาด้วยถูกว.มาเตือนให้ขับช้าลง พอดีผมก็กลายเป็นผู้โดยสาร ความเงียบสบายแอร์เย็นทำให้อยากจะหลับไปเลยถ้าทำได้

จากนั้นไม่นาน 2อาทิตย์ที่แล้วได้ไปรับรถ ภรรยาขอเป็นคนขับกลับบ้านผมก็ตกลงเพราะเธอชอบคันนี้มาก ผมกะจะลองขับในหมู่บ้านเมื่อมาถึงพอดีฝนตกก็เลยอดขับ
วันรุ่งขึ้นก็ตื่นมาตี3เพื่อเตรียมตัวไปเที่ยวสังชละบุรี ผมแวะเติมน้ำมันและเพิ่มลมยางเป็น40จากที่เดิม37ปอนด์(ยางเย็นน่าจะลบออก2ปอนด์ครับ) แทบไม่ต้องปรับตัวเลยผมก็ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจและดูGoogle mapsนำทางไป
ได้ทดลองใช้ทุกระบบที่รถมี เพราะเส้นทางมันก็เอื้ออำนวยพอควรยกเว้นไม่ได้ลองMode Terrain Management Systemเพราะทางไม่ได้เลยร้ายขนาดนั้น ใช้HDCกับBrake assist
ผมเดินทางกลับในวันเดียวกันเพราะต้องกลับมาทานข้าวกับลูกชายเพราะนัดกันไว้6โมงครึ่งตอนเย็นที่กรุงเทพชานเมืองแถวบรมสายสอง
สรุปผมขับรถครั้งแรกวันแรกประมาณ700กิโล ภรรยาผมเป็นคนนั่ง ไม่มีใครเวียนหัว จะหน้ามืดเป็นลมหรืออาเจียนใดๆทั้งสิ้น อาการดีดเด้งมีบ้างเล็กน้อยไม่ได้เป็นปัญหาใดๆทั้งสิ้น
Option Moon Roof ซึ่งปรกติผมไม่เคยให้ความสนใจแม้เคยมีใช้ในรถBenzคันก่อนๆนี้ เพราะรถsedanเปิดแล้วผมไม่ค่อยเห็นประโยชน์ของมัน แต่สำหรับEverestมันช่วยให้โปร่งมากๆด้วยความที่รถมันคันใหญ่และสูง สีของเบาะเป็นสีโทนสว่างทำให้มันรู้สึกอิสระและการเดินทางท่องเที่ยวสนุกสนานขึ้นมาก ระยะยาวยังห่วงว่าจะเกิดเสียงดังก๊อกแก๊กจากหลังคาเหมือนที่เคยเจอกับBenzมาหลายคันหรือไม่
ปรกติรถที่ผมใช้ตอนนี้มีBenz E komW211,E coupe 250CDI,C coupe180และHonda Civic FDปี2006ซึ่งได้ขายHondaไปก่อนจะมาซื้อEverestเพราะผมไม่ชอบFDในเรื่องการขับขี่เลย
กลับมาผมอ่านคู่มือแล้วไปลดลมยางออกเหลือ36ก็ไม่เห็นมีอาการที่จะแตกต่างอะไรมาก ที่ผมเติมลมมากตอนแรกเพราะยังไม่มีเวลาอ่านคู่มือเลย ตอนใช้E Coupeล้อมัน19นิ้วเติม40ก็เลยเข้าใจว่า
Everestล้อ20น่าจะเติมไม่น้อยกว่านี้
ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์จริงจากผู้ที่ใช้จริง ไม่ได้ลองขับกันแค่ไม่กี่กิโล ตอนนี้วิ่งไปประมาณ1500กม.แล้วประทับใจทุกครั้งที่ได้ขับ จนคันอื่นๆจอดโรงรถเฝ้าบ้านเลย รถสูงๆแต่มั่นคงทำให้รู้สึกว่าขับง่ายเพราะทัศนวิสัยมันดีกว่ารถเตี้ยๆ
ข้อที่เปรียบไม่ได้กับรถที่ผมขับก่อนหน้าซึ่งส่วนใหญ่คือE Coupe CDIคือแม้ว่าแรงม้าจะมากกว่าEverestเพียง4ตัว แรงบิดมากกว่าเพียง30นิวตัน แต่เพราะขนาดและน้ำหนักที่น้อยกว่าย่อมจะไม่สามารถได้อัตราเร่งที่ดีเท่่าได้
แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่ามันช้าแต่อย่างใด และความเร็วเดินทางปรกติคอยจะเผลอเร็วไปด้วยซ้ำเพราะมันเงียบเก็บเสียงได้ดี ตอนเร่งออกตัวจากหยุดนิ่งหรือความเร็วต่ำๆเสียงจะเงียบกว่าE Coupeด้วย
แต่เสียงลมประทะจะดังกว่าเล็กน้อย
รอบเดินเบามีสะดุดนานๆครั้งไม่นิ่งเหมือนBenz และเมื่อพัดลมไฟฟ้าทำงานเต็มSpeedเวลารถติดๆ ความสะท้านจากตัวรถBenzจะทำได้ดีกว่าเล็กน้อย
ผมไม่ได้ลองขับFTNเพราะเคยขับตัวเก่ามันแย่มาก พอมาตัวใหม่การออกแบบไม่ตรงรสนิยมของผมและภรรยา(ย้ำว่าของผมและภรรยา) ก็เลยผ่านเลย

ขอบคุณประสบการณ์ดีๆครับ
หัวข้อ: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: Pranhirun ที่ กันยายน 09, 2015, 20:07:04
อ่านcommentของแต่ละคนทำไมมันไม่เหมือนผมเลย
ปรกติผมจะเมารถที่มีอาการโยนมากหรือเครื่องบินที่นุ่มคล้ายhydrolic เคยลองใช้CRV genแรกและgen2 ซึ่งภรรยาผมเขาใช้ลักษณะนี้บ่อย
แต่ผมไม่เคยชอบเลยไม่สามารถปรับตัวเข้ากับรถได้ จะกลัวทุกครั้งที่ต้องขับ มันรู้สึกสูงและไม่มั่นคง
เวลาไปสุวรรณภูมิต้องเช่ารถจากAOTตั้งแต่Mu7จนมาMuX ก็ไม่ชอบแต่มันนั่งระยะใกล้ๆ
ตอนนี้อยากได้PPVมาใช้งานจึงได้จองEverestไป2แห่งเพราะติดตามอ่านข่าวคราวมาตลอดแต่ไม่เคยเห็นตัวจริง สุดท้ายไปดูที่Central บางนา ก่อนจะได้ลองขับที่งานBIG1รอบ ภรรยาขับ1รอบและผมเป็นคนนั่ง
คันที่ได้ทดลองขับเป็นรุ่น3.2Titanium plus สีแดงsunsetรุ่นเดียวกับที่จองไว้ ทั้งผมและภรรยาประทับใจมากทั้งความสวยของตัวรถและการง่ายต่อการบังคับควบคุม
ตอนลองผมใช้sport modeและแม้เพียง1รอบแต่ผมก็อัดเต็มที่ช่วงสลาลอมและบั้มพ์เนิน จนคนควบคุมที่นั่งมาด้วยถูกว.มาเตือนให้ขับช้าลง พอดีผมก็กลายเป็นผู้โดยสาร ความเงียบสบายแอร์เย็นทำให้อยากจะหลับไปเลยถ้าทำได้

จากนั้นไม่นาน 2อาทิตย์ที่แล้วได้ไปรับรถ ภรรยาขอเป็นคนขับกลับบ้านผมก็ตกลงเพราะเธอชอบคันนี้มาก ผมกะจะลองขับในหมู่บ้านเมื่อมาถึงพอดีฝนตกก็เลยอดขับ
วันรุ่งขึ้นก็ตื่นมาตี3เพื่อเตรียมตัวไปเที่ยวสังชละบุรี ผมแวะเติมน้ำมันและเพิ่มลมยางเป็น40จากที่เดิม37ปอนด์(ยางเย็นน่าจะลบออก2ปอนด์ครับ) แทบไม่ต้องปรับตัวเลยผมก็ควบคุมรถได้อย่างมั่นใจและดูGoogle mapsนำทางไป
ได้ทดลองใช้ทุกระบบที่รถมี เพราะเส้นทางมันก็เอื้ออำนวยพอควรยกเว้นไม่ได้ลองMode Terrain Management Systemเพราะทางไม่ได้เลยร้ายขนาดนั้น ใช้HDCกับBrake assist
ผมเดินทางกลับในวันเดียวกันเพราะต้องกลับมาทานข้าวกับลูกชายเพราะนัดกันไว้6โมงครึ่งตอนเย็นที่กรุงเทพชานเมืองแถวบรมสายสอง
สรุปผมขับรถครั้งแรกวันแรกประมาณ700กิโล ภรรยาผมเป็นคนนั่ง ไม่มีใครเวียนหัว จะหน้ามืดเป็นลมหรืออาเจียนใดๆทั้งสิ้น อาการดีดเด้งมีบ้างเล็กน้อยไม่ได้เป็นปัญหาใดๆทั้งสิ้น
Option Moon Roof ซึ่งปรกติผมไม่เคยให้ความสนใจแม้เคยมีใช้ในรถBenzคันก่อนๆนี้ เพราะรถsedanเปิดแล้วผมไม่ค่อยเห็นประโยชน์ของมัน แต่สำหรับEverestมันช่วยให้โปร่งมากๆด้วยความที่รถมันคันใหญ่และสูง สีของเบาะเป็นสีโทนสว่างทำให้มันรู้สึกอิสระและการเดินทางท่องเที่ยวสนุกสนานขึ้นมาก ระยะยาวยังห่วงว่าจะเกิดเสียงดังก๊อกแก๊กจากหลังคาเหมือนที่เคยเจอกับBenzมาหลายคันหรือไม่
ปรกติรถที่ผมใช้ตอนนี้มีBenz E komW211,E coupe 250CDI,C coupe180และHonda Civic FDปี2006ซึ่งได้ขายHondaไปก่อนจะมาซื้อEverestเพราะผมไม่ชอบFDในเรื่องการขับขี่เลย
กลับมาผมอ่านคู่มือแล้วไปลดลมยางออกเหลือ36ก็ไม่เห็นมีอาการที่จะแตกต่างอะไรมาก ที่ผมเติมลมมากตอนแรกเพราะยังไม่มีเวลาอ่านคู่มือเลย ตอนใช้E Coupeล้อมัน19นิ้วเติม40ก็เลยเข้าใจว่า
Everestล้อ20น่าจะเติมไม่น้อยกว่านี้
ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์จริงจากผู้ที่ใช้จริง ไม่ได้ลองขับกันแค่ไม่กี่กิโล ตอนนี้วิ่งไปประมาณ1500กม.แล้วประทับใจทุกครั้งที่ได้ขับ จนคันอื่นๆจอดโรงรถเฝ้าบ้านเลย รถสูงๆแต่มั่นคงทำให้รู้สึกว่าขับง่ายเพราะทัศนวิสัยมันดีกว่ารถเตี้ยๆ
ข้อที่เปรียบไม่ได้กับรถที่ผมขับก่อนหน้าซึ่งส่วนใหญ่คือE Coupe CDIคือแม้ว่าแรงม้าจะมากกว่าEverestเพียง4ตัว แรงบิดมากกว่าเพียง30นิวตัน แต่เพราะขนาดและน้ำหนักที่น้อยกว่าย่อมจะไม่สามารถได้อัตราเร่งที่ดีเท่่าได้
แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่ามันช้าแต่อย่างใด และความเร็วเดินทางปรกติคอยจะเผลอเร็วไปด้วยซ้ำเพราะมันเงียบเก็บเสียงได้ดี ตอนเร่งออกตัวจากหยุดนิ่งหรือความเร็วต่ำๆเสียงจะเงียบกว่าE Coupeด้วย
แต่เสียงลมประทะจะดังกว่าเล็กน้อย
รอบเดินเบามีสะดุดนานๆครั้งไม่นิ่งเหมือนBenz และเมื่อพัดลมไฟฟ้าทำงานเต็มSpeedเวลารถติดๆ ความสะท้านจากตัวรถBenzจะทำได้ดีกว่าเล็กน้อย
ผมไม่ได้ลองขับFTNเพราะเคยขับตัวเก่ามันแย่มาก พอมาตัวใหม่การออกแบบไม่ตรงรสนิยมของผมและภรรยา(ย้ำว่าของผมและภรรยา) ก็เลยผ่านเลย

Comment แต่ละท่านส่วนใหญ่เป็นประสบการณ์การ test drive ตัว 2.2 ครับ

นี่ล่ะครับเป็นเหตุว่าทำไม ผมถึงมาตั้งกระทู้ถามว่ามีศูนย์ไหนให้ลอง 3.2+ บ้างครับ

ยินดีที่ได้รถถูกใจด้วยนะครับ  ;)

ยิ่งอ่านยิ่งอยากเทสจัง  ;D
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ กันยายน 09, 2015, 20:25:35
พวกอาการมึนๆเนี่ยผมว่ามันก็มีส่วนที่มาจากพื้นฐานกระบะและยกสูง ผมขับกระบะเตี้ยยังรู้สึกดีกว่า ในแง่ของการมึนๆนะครับ
ส่วนโคลงๆเนี่ยเป็นที่รถสูงนะผมว่า อย่างพวกSUV BMW บางคนก็ยังเป็นเลย
ผมว่าจะไปลองขับEVเหมือนกัน ถ้าโคลงน้อย มึนน้อย ซับแรงสะเทือนได้ดี อาจจะได้เจอกันตัวMC
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: secrecyguy ที่ กันยายน 09, 2015, 22:09:01
3.2 +คงไม่มีให้เทสครับ รถขายหมดเเล้วสำหรับปีนี้
หัวข้อ: Re: ไปลอง Everest 2.2 มายังไม่ว้าวเท่าที่คิดครับ (อยากลอง 3.2+ศุนย์ไหนมีบ้างครับ??)
เริ่มหัวข้อโดย: tierak ที่ กันยายน 10, 2015, 19:35:20
จากที่อ่านมา สรุปคือ
มาตรฐานความชอบกับความไวต่อความรู้สึก ของคนเราไม่เหมือนกัน บางคนที่เคยใช้เก๋งมาก่อนบอกไม่ชอบ หลายคนบอกชอบจนลืมเก่งไปเลย  อันนี้ก็แล้วแต่ชอบของแต่ละบุคคลแล้วละ

ปล.ถ้า จขกท.อยากลองตัว 3.2 เพื่อให้แน่ใจจริงๆ ลองเข้าไปในเวปคลับสิครับ เผื่อมีคนใจดีให้ลอง หรืออาจขอลองกับ สมาชิก HLM ก็ได้เพราะได้รถมาใช้กันหลายคนแล้ว :D :D ;D