Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: ☺????☺ ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2010, 22:20:31
-
แบบว่าหลังจากหายไปพักใหญ่ๆๆก็กลับมา อิอิ วันนี้เลยขอมา รีวิว รถเก่าของเขาแต่ รถใหม่ของเราดีกว่า
;D ;D
ย้อนอดีตนิดหน่อยครับครับ หลังจาก ที่คุณพ่อ ใช้งาน เจ้า st 171 หน้ายิ้ม
มายาวนานถึง 18ปี ก็ได้มาอันเลิกลา เพราะดันไปตาย กลางทาง
เราเลยต้องเริ่มมองหาคันใหม่มาทดแทน เจ้า st171 หน้ายิ้ม
ผมและคุณพ่อเลย มอง รถราคา 400,00 - 500,000 บาท
และ แบบที่อยากได้
1. ใช้เดินทางไกลได้ เพราะคุณพ่อ ต้องไป-กลับ พิษณุโลก -กรุงเทพ
เดือน ล่ะ2 ครั้ง (ก็กลับมาบ้านนะล่ะ - -.)
2. ดูภูมิฐาน
3. ขับไกลๆๆแล้วไม่ค่อยเมื่อย
4. ไม่ค่อบจุกจิก
ผมและคุณพ่อก็เลน มองหา ก็มีอยู่ 4-5 ตัวเลือก คือ
1. MERCEDES-BENZ E-CLASS w124 E280 2.8 AT ปี 1996
2. VOLVO S40 2.0 AT ปี 1999
3. BMW SERIES 3 318i E36 AT ปี 1995
4. BMW SERIES 5 525i E34 big-nose AT ปี 1995
5. MERCEDES-BENZ C-CLASS C220 2.2 AT ปี 1994
-
เมื่อเอาตัวเลืกๆๆมาดูๆๆกันแล้วว ก็ตัด BMW ทิ้งหมดเลย เพราะ คุณพ่อบอกว่า มันจุกจิก แล้วตัก วอลโว่ ทิ้งซะ เพราะดูแล้ว มันเล็กไปซะงั้น - -*เลยเหลือ พี่น้อง E และ C class เท่านั้น ซึ้งปีนั้นต่างกัน อยู่ปี 1 คุณพ่อเลย ตัก C-class ทิ้งเพราะปีเก่ากว่า E-class อยู่1ปี จากนั้น เราก็ไปดูเจ้า w124 E280 กัน
-
เจ้า w124 ตัวนี้คือ code C ครับ ซึงเป็น รหัสท้ายสุดของตัว w124 ที่พวกนักเล่นรถเค้าเรียกว่า "โลงจำปา"
ตัว code c นี้ได้เปลี่ยนอะไรมาจาก a และ b บาง
1.ไ ฟหน้าชุดใหม่ที่เปลี่ยนจากสี่เหลี่ยมผืนผ้ามาเป็นแบบสี่เหลี่ยมคางหมู
2.ไฟเลี้ยวหน้าเป็นสีขาว
3.เปลี่ยนฝากระโปรงหน้า
4.กระจังหน้า
5.กันชนทั้งด้านหน้าและหลัง หลังจากเดิมที่มีส่วนรับแรงกระแทกสีดำก็เปลี่ยนมาเป็นสีเดียวกับตัวรถ
6.ไฟท้ายสามสีถูกเปลี่ยนเป็นแบบแดง-ชา
7.ฝากระโปรงหลังก็เปลี่ยนไปโดยมีเส้นโครเมียมเดินด้านบนของช่องใส่ป้ายทะเบียน
จะเรียก รถCode Cพวกนี้ว่ารุ่นEหน้า และเรียกรุ่นก่อนหน้านี้ว่ารุ่นEหลัง
ครับ
-
ก็ เจ้าตัวนี้ สภาพเดิมๆๆครับ - - ไม่ค่อยมีการแต่งอะไรมากมาย
ด้านหน้า กับไป สี่เหลื่ยมค้างหมู เอกลักษณของ Code C อิอิ ;D
-
ด้านท้ายครับ ดูเรียบๆๆดี แต่ก็ไม่ล้าสมัย มากมาย ^^ คุณพ่อชอบใจมากๆๆ และได้มา ราคา ไม่แพง เลยดีใจกันปายยย
-
ด้านข้างๆ ด้ามจับตรงประตูแอบมีโครเมียม ในcode a ไม่มีนะครับ ^^
ปล. หาทำเลไม่ได้ครับ ว่าจะไปถ่ายที่บรรยากาศดีๆๆ แต่ผมยังอายุไม่ถึงจะ
ทำใบขับขี่ เลยอดไป เอาหน้าบ้านนี้ล่ะ
-
อ้อ ลืมไปครับ เจ้าคันนี้ ประกอบนอกน๊า ^^ แอบดีใจ เอิ๊กๆๆใช้รถนอกๆๆๆ
55+ เสริมหล่อด้วย ขอบ ตัวอักษร MB
-
เปิดไปดูข้างในกันดีกว่าครับ แว๊บบบบบบบ พวงมาลัยลายไม้วอลนัท (ไฮโซนิดหนึ่ง *-*) ถ้าสังเกตดีๆๆ จะเห็น กางครูยคอนโทล จรงคอพวงมาลัย ว๊าวๆๆ ไม่เคยลองเล่นของใหม่ๆๆ ^^ สนุกกันไปพักใหญ่ๆๆ -0-
ภายในสีดำคร๊าบบบบบบบบ ^^สวยดุ
ปล.ภาพมันอาจมือดนะครับเพราะถ่ายรูปใกล้ค่ำ
-
ภายในต่อๆๆครับ ลายไม้วอลนัท ภายในสีดำ หัวเกียร์หนังแท้ วิทยุเดิมไม่อยู่แล้วตั้งแต่เจ้าของคนที่แล้ว เลยได้เจ้า วิทยุ BECKER ลายไม้ มา ซึงไอ้เราก็ไม่เคยใช้ ยี้ห้อนี้อ่ะ ไม่รู้ว่ามันดีหรือเปล่า แต่เค้าบอกว่าเมื่อก่อน ??
แพงน๊า - -* ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน เหอะๆๆ
-
ลืมบอกไป ครับ ตอนแรกก็งงว่า เปิด-ปิดกระจกตรงไหนฟะ - -* หรือมันไม่มีให้นี้ กำ นั่งมึนกันอยู่ 2คน พ่อ-ลูก -0- จนพี่คนขายเค้าทนดูไม่ได้บอกผม ว่าอยู่ตรงกลางครับบ เลยถึงบางอ้อ เลยย และตรงคอพวงมาลัยก็มี กระจกปรับไฟฟ้านะครับ อยู่ตรงกลางนั้นล่ะใกล้ๆๆ ที่ปิดกระจก มีล็อก กระจกด้วย แต่ไม่มีระบบล็อก แบบ กด ?? แต่ พอเหยียบ เบรก รถก็จะล็อกออโต้เลยย พอดับเครื่องมันก็จะ ปลอดล็อกเอง
-
มาดูด้านหลังมั่งครับ นั่งสบายดีครับ เบาะหนังนี้มันดีอย่างนี้ๆเอง -..-// พร้อมเข็มขัดนิรภัย 3จุด ตรงกลางงัดออกมาก็จะเป็นที่พักแขน สบายไปอีกนานๆๆๆ
-
มาเดินดูด้านนอกอีกที่ ครับ ด้วย ล้อ ขนาด 15 นิ้ว ลาย 8ช่อง มาตรฐาน พร้อมดิสเบรก 4 ล้อ +ABS + airback 2ลูก ก็พออุ่นใจอยู่บ้าง -..- ช่วงล่าง ยึดเกาะถนนดีครับ ถึงรถจะอายุ 14 ปีแล้ว
-
ข้อมูลเครื่องยนตร์ครับ
ที่ล้อมกรอบ แดงๆๆไว้นะครับ ^^ ผมขอข้างเรื่องการขับบนถนนจริงนะครับ
เพราะยังไม่บบรลุนิติภาวะเลยย -3- กลัวโดนตำรวจจับ T^T
-
F5 รัวๆ
-
มาดูโฉมหน้าของเครื่องยนตร์กันดีว่า รูปก่อนจะเอากินแก๊สครับ ไม่ไหวจริงๆๆ วิ่งได้ 6-7 กม/ลิตรเท่านั้น คุณพ่อลมแทบจับ @_@ น้ำตาจะไหลริน หรอจากนั้นก็ พา เจ้า w124 ไปดมแก๊สซะเลยย เลยประหยัดไปมากโข ;D
-
มีคนแอบปาดดดด !!!~ นึกว่าทำตอนดึกๆๆจะไม่มีคนปาดซะอีก หุหุ -..-
กลับเข้าเรื่องโลดดดด
อัตตราการบริโภคน้ำมันครับ
ถ้าขับแบบธรรมดา ในเมืองก็ประมาณ 8-9 โลลิตร ถ้าทางไกล ความเร็วคงที่แถว 120 ก็ได้ 10-12 โลลิตร แต่ถ้าความเร็วระดับใกล้ๆสองร้อย ก็สูบเหลือแถว 6 โลลิตร
ครับ แต่ก็รับไม่ค่อยไหว 555+ เลยตัดสินใจ เอาไปดูดแก๊สซะ เลยยยย
-
สรุป ครับ สำหรับคันนี้ มันคือสุดยอดตำนาน รถซีดานที่ขายดี ทน และ สร้างชื่อให้กับเบนซ์ อย่างดี ราคาก็พอที่จะคว้ามาจับต้องได้ ถ้าคุณต้องการความสะดวกสบาย ดูภูมิฐาน ความปลอดภัย และราคาที่ไม่แพง ผมว่า รถคันนี้นะจะตอบโจทย์ได้ดีครับ ^^
ขอบคุณที่เข้ามาเยื่ยมชมรีวิว นะครับ
อ้อ มีประโยคบางประโยคอยากจะบอกครับ ท่านผู้หนึ่งได้เขียนไว้
"ลองนับดูสิครับว่า W123 อายุ 30 ปีบนท้องถนนในไทยยังมีวิ่งอยู่ตั้งกี่คัน 124 คือรถที่ถูกสร้างมาเพื่อวิ่งตลอดไป แบบเดียวกันนั่นแหละครับ"
ผมชอบมากเลยครับ T^T และก็เลือกไม่ผิดด้วย^^
ขอบคุณแหล่งอ้างอิงครับ
- อ้างอิงจากเว็บไซต์ HeadlightMag
-www.benzowner.net
ครับ
ปล. ถ้าผิดพลาดอย่างใด ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วย ติชมได้ครับ ^^
-
จบแล้วคร๊าบบบ อาจสั้นไปหน่อยแต่ พยายามแล้วครับได้เท่านี้จริงๆๆ 55+
ติชมได้ครับ ^^ ;D ;D น้อมรับทุก คห ครับ ครั้งต่อไป จะเอา st171 มารีวิวใหม่ อิอิ
-
ขอบคุณสำหรับ Review ดีๆ ครับ ;D
เสด็จพ่อเกือบได้ถอยรุ่นนี้เหมือนกัน แต่ปันใจไปให้เจ้า Rover 800 ซะก่อน อดเลย :o
-
รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่ผมชอบมาก และอยากขับสุดๆ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีสภาพดีๆปล่อยออกมาเลย
ปล. รอพี่แพนมาเม้น อยากอ่าน ;D
-
จขกท ก็รอครับ อิอิ :D :D
-
วิทยุ BECKER ส่วนใหญ่เมื่อ 13-14 ปีก่อนจะเห็นติดมากับพวก W210, W140 ครับ
-
ดีครับ แต่รูปภายในมืดไป มองไม่ค่อยรู้เรื่องเลยครับ
ดมแก๊สแล้วกินเท่าไรครับ
-
E280 ตอนมันมาใหม่ๆนี่ถือว่าแรง เป็นความรู้สึกเดียวกับที่เรามีให้ 530i ในยุคหลังๆนี่เลยนะ
สำหรับรีวิวผมคิดว่ายังค่อนข้างสั้นไปเล็กน้อย อาจจะมีรายละเอียดส่วนอื่นเพิ่มเติมที่สามารถทำเพิ่มได้อีกเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน แต่มองในอีกแง่นึง เราควรจะรอวันที่คุณสามารถขับรถคันนี้ได้ และได้ไปลองขับรถคันอื่นๆเทียบกันอีกสักหน่อย คุณจะสามารถเข้าใจในจุดเด่นและจุดด้อยของมันจนสามารถเขียนรีวิวนี้ครบครันน่าอ่านได้อย่างง่ายดาย
ภาพภายในมืดไปจริงๆครับ สำหรับรูปสไตล์ User Voice นั้นผมไม่ได้เน้นว่าต้องสวยลงนิตยสารได้ แต่ขอให้มีรายละเอียดที่เห็นชัดเจนเป็นพอครับ
ขอบคุณครับ
-
ก็เป็นรถที่น่าใช้นะครับ คุณป้าผมใ้ช้อยู่ (ครอบครัวนั้นมีทั้ง S E C class เลย)
สำหรับเครื่อง ได้ 2.8 ตัวเดียวกับใน S280 มา ทำให้ E นี้คล่องกว่า S เยอะ
รายละเอียดอื่นๆ ที่ผมขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรถคันนี้นะครับ
- เบาะหน้า ซัพพอร์ตได้ดี พอดีตัว (ผมว่า S มันใหญ่ไปหน่อย ขนาดผมหนัก 85 สูง 171นะ)
- เบาะหลัง ส่วนที่รองก้นนั้น สูง และปลายยก นั่งแล้วไม่ลื่นเท่าไหร่ แต่พนักพิงค่อนข้างเตี้ยไปนิสนึง อยากได้พนักพิงจาก C W124 มามากกว่าแหะ..
- การเก็บเสียงทำได้ดี มากกกกกก วิ่ง 120 บนวงแหวนอุตสาหกรรม เสียงลมน้อยมากๆ
- ช่วงล่าง เฟิร์มกำลังดี อารมณ์แบบรถยุโรปน่ะครับ (ผมว่า S ด้านหลังเด้งไปหน่อย)
- ไม่รู้เป็นทุกคันรึเปล่า คันเร่งแข็ง มากกกกกก ก ไก่หมดโลก และลึกนิดนึง ทำให้เวลาขับกลับรถในที่แคบสำหรับคนที่ไม่ชินนั้นค่อนข้างลำบาก
- พวงมาลัยมีน้ำหนัก คือตอนคลานๆ ก็อาจมีเมื่อย แต่ถ้าขับเร็ว ผมว่าโอเคเลยล่ะ (S นี่เบาเป็นของเล่น เหมือน S80 เลย)
ปล. ความเห็นทั้งหมด มาจากการเห็นคันนี้ตั้งแต่จำความได้+นั่งบ่อยสมัยเด็ก สมัยนี้ ถ้ามีโอกาสนั่งก็จะสังเกตอาการ
ส่วนขับ....ยังไม่มีใบขับขี่ เคยแค่กลับรถในซอยแถวๆ นั้นล่ะครับ ถึงบ่นเรื่องที่แคบ ฮ่าๆ (แต่ขับวีออสรอบเมืองแล้วมั้งเนี่ย -.-)
-
ขอบคุณครับ
จะขับรถได้ไม่จำเป็นต้องบรรลุนิติภาวะนะครับ เพราะถ้าบรรลุ 20 แต่สอบใบขับขี่ 18 ครับ (มันยังไม่เปลี่ยนกฎใช่ไหม)
-
ที่บ้านผมกำลังดูๆรุ่นนี้อยู่พอดีเลย
เสียดายรูปภายในมืดไปหน่อยไม่ค่อยเห็นอะไรเท่าไหร่
;D ;D
-
รถไม่อยูซะแล้ว กลับกรุงเทพเรียบร้อย ลงอีกซักอาทิตย์ครับแวจะถ่ายภาพแก้ไขให้ครับ ^^^
ขอบคุณที่หลงมาดู เอิ๊กๆๆๆ ;D ;D
-
รถสวยอย่างน่าทึ่ง อึ้งกิมกี่มากกกมากครับ ไม่น่าเชื่อ อยากรู้ว่า MB สมัยนี้ จะอยู่ได้เป็น สิบ ยี่สิบปีเหมือนเมื่อก่อนได้ไหม
-
อ่านแล้วคิดถึงรถคันเก่าของพ่อผมเลยครับ รุ่นเดียวกันเลย ขายไปราวๆ 4-5ปีแล้ว
วิทยุรุ่นนี้ตอนซื้อพ่อผมสั่งติดเป็น option พร้อม cd 10แผ่น เพิ่มเงินหลายหมื่นเลยครับ แต่ใช้งานมากๆ ได้รับรางวัลวิทยุติดรถที่ใช้งานได้ง่ายที่สุดในยุคนั้นด้วย แล้วก็ยังสั่งติดม่านไฟฟ้าหลังอีกเป็นหมื่นเหมือนกัน
เครื่องแรงแบบถ้ากระแทกคันเร่งก็ออกตัวล้อฟรีได้เลย ช่วงล่างผมว่าแน่นกว่า W211 E240 2.6 ด้วยซ้ำ เพราะคันนั้นแถวๆ 210 เริ่มหวิวๆ แต่ W124 E280 เคยวิ่งได้สูงสุด 220 รอบเครื่องเหลือแต่ใจผมไม่เหลือแล้วครับ กลัวตาย
การเก็บเสียงดีกว่า Camry โฉมล่าสุดด้วยซ้ำ
ข้อเีสียร้ายแรงคือเบาะหลังพนักพิงหัวต้องยกขึ้นแถมยังไม่รองรับสรีระคนไทยอีกจะเอาลงก็ต้องบอกคนหน้าให้กดลงให้
ไฟเก๋งด้านหลังก็ไม่มีสวิทซ์เปิด-ปิด ต้องพึ่งคนหน้าอีกแล้ว (รถผมปี94 ยังไม่ใช่รุ่น Masterpiece ที่มีไฟเก๋งติดที่เสาC ครับ)
อีกอย่างคือเบาะหลังพับไม่ได้เพราะการวางถังน้ำมันไว้หลังเบาะนี่ละน้า - -"
คันเร่งแข็งเป็นทุกคัน เพราะรถยุโรปเน้นวิ่งระยะทางไกลๆ คันเร่งแข็งไว้ก่อนป้องกันคนขับหลับในครับ แก้ไขง่ายๆ ได้โดยบอกช่างซ่อมเบนซ์ทำได้ทุกคนครับ
-
ผมชอบรุ่นนี้มากเหมือนกันครับ คิดว่าหากพอมีสภาพคล่องหน่อย ก็จะจับจองมาเป็นเจ้าของสักคัน
มีคำถามอยากถามน้องเจ้าของกระทู้นิดนึงนะว่า... อะไหล่ของรถรุ่นนี้หายากมั้ยครับ และตอนที่คุณพ่อของน้องซื้อรถคันนี้มา
มันต้องการการบำรุงรักษาเบื้องต้นอะไรบ้าง....(ถามเผื่อไว้ จะได้ รู้เรื่องกับเค้าหน่อยน่ะ แหะๆ)
ผมเองก็ติดตามรีวิวของรถรุ่นนี้มาพอสมควรเหมือนกัน แต่พบว่า รีวิวที่ครบและอ่านเข้าใจที่สุดก็น่าจะเป็นของคุณ commander cheng! นี่แหละครับ
อ่านแล้วรู้สึกได้ว่า กลั่นออกมาได้คุณภาพจริงๆ
ในส่วนของรีวิวทีน้องไอซ์ทำมา พี่ก็ชอบนะครับเพราะว่า ได้บรรยากาศ และมุมมองของผู้ใช้งานจริงๆ ซึ่งจะหาอ่านได้ยากจากนิตยสารรถยนต์หรูๆ บางเล่มด้วยซ้ำไป
ขอบคุณครับ
-
ขอบคุณกับเนื้อหาดีๆ ;D