Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: HHHsung ที่ กันยายน 28, 2015, 09:38:35

หัวข้อ: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: HHHsung ที่ กันยายน 28, 2015, 09:38:35
ปกติชอบดูคลิบการลองรถของคุณ J!mmy กับ คุณ แพน มาก inner มาเต็ม

ไม่ประดิษฐ์ประดอยคำพูดแบบนักวิจารณ์ทั่วๆ ไป ทำให้รู้สึกเป็นกันเอง และน่าเชื่อถือกว่ากันเยอะ

และผมก็ซื้อจากความเห้นทั้งสองท่าน (บอกสปอนเซอร์ได้เลยว่าซื้อตามความเห็นนักวิจารณ์)

บวกกับความเห้นของตัวเองจากการทดลองขับ ด้วย

แต่ยังงัยมันก็คาใจเรื่องการขับแบบลอยตัว กับการขับแบบ ติดๆ หยุดๆ แบบที่คลานในเมือง ครับ

เพราะรู้สึกว่ารถใหญ่เวลาขับในเมือง มันกินน้ำมันกว่ารถเล็ก แตผลการทดสอบมันไม่สะท้อนความเป้นจริงเท่าไหร่

อย่าง jazz ค่าเฉลี่ยอยู่ที่  15.96 ขณะที่ accord 2.0 อยู่ที่ 15.43 กม./ลิตร ต่างกันนิดเดียว

แต่เวลาคลานในเมืองจริงแอบรู้สึกว่าต่างกัน 3-4 กม./ลิตร  ขึ้นไป ซึ่งก็คิดว่า อนาคต จะมีการทดสอบแยก

ในส่วนของการขับแบบคลานในเมืองได้หรือเปล่า ซึ่งเท่าที่คิดก็สงสารผู้ทดสอบทั้งสองท่านเหมือนกัน

เพราะการทดสอบรูปแบบนี้น่าจะเหนื่อยน่าดู........................


 
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: ไทบ้าน ที่ กันยายน 28, 2015, 10:02:04
คำว่าวิ่งในเมืองเงือนไขมันต่างกันเยอะแยะครับ ติดไฟแดงกี่ครั้ง เบรคกี่ครั้ง เปลี่ยนเกียร์กี่รอบ วิ่งได้เร็วเท่าไหร่
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: ismael ที่ กันยายน 28, 2015, 10:08:32
เห็นด้วยอย่างมาก
แต่จะทำได้ไหม
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: chettaphong ที่ กันยายน 28, 2015, 10:11:45
ที่ทางทีมงานทดสอบก็บอกได้ระดับนึงแล้วครับเรื่องประหยัดน้ำมัน
แต่ถ้าอยากได้ในเมือง ยากครับ เพราะเงื่อนไขต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ติดบ้างไม่ติดบ้าง จะได้ใกล้เคียงจริง ๆ ก็ต้อง ทำกันเป็นอาทิตย์ครับ
แต่มันไม่เหมาะกับทีมงานที่ต้องมาเสียเวลาแบบนั้น ผมว่าไปโพสถามหรือเก็บข้อมูลตามคลับ ดีกว่าครับ
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: mongolias ที่ กันยายน 28, 2015, 10:20:14
การทดสอบในเมืองทำได้ค่อนข้างลำบาก เพราะแต่ละวัน รถติดไม่เหมือนกัน
รวมถึงการเจอไฟแดงอะไรต่างๆ ก็ไม่เหมือนกันครับ ดังนั้น factor มันจะเยอะครับ
อันที่จริง ในบทความตอนท้ายๆก็จะมีการคาดการณ์อยู่ว่า ในกรณีน้ำมัน 1 ถัง พอจะวิ่งได้ราวๆกี่ ก.ม. ก็น่าจะเอาตัวเลขนั้นมาอ้างอิงได้อยู่ระดับหนึ่งครับ
หัวข้อ: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: HHHsung ที่ กันยายน 28, 2015, 10:29:36
คำว่าวิ่งในเมืองเงือนไขมันต่างกันเยอะแยะครับ ติดไฟแดงกี่ครั้ง เบรคกี่ครั้ง เปลี่ยนเกียร์กี่รอบ วิ่งได้เร็วเท่าไหร่

อาจจะวิ่งในสนามทดสอบ กำหนดลูกระนาดที่ต้องชะลอวิ่งผ่าน ทำนองเนี่ยครับ

คืออยากให้เน้นใช้เกียร์ต่ำ เพราะการทดสอบที่ผ่านมา เกียร์ต่ำทำงานแป๊บเดียวเอง



หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: deathsheep ที่ กันยายน 28, 2015, 10:32:02
ต้องเส้นทางเดิม

เหยียบเบรคจำนวนครั้งเท่าเดิม

ติดไฟแดงเท่าเดิม

เร่งแซงรถกี่คันเท่าเดิม

ใช้ความเร็วแต่ละช่วงเท่ากัน


แค่คิดก็ปวดหัวแล้วครับ    ผมว่าเอาแค่นี้พี่จิมมี่ก็ไม่ค่อยมีเวลาทำรีวิวแล้วครับ ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ กันยายน 28, 2015, 10:47:00
ผมว่ายากนะมีปัญหาตอนทำแบบ mass หนักแน่ๆ ข้อมูลอันนี้ผมว่าไปอ่านตามคลับดีกว่าครับได้ข้อมูลจากู้ใช้งานจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Devil13 ที่ กันยายน 28, 2015, 11:00:10
ผมว่าอัตราบริโภคน้ำมันสำหรับการขับในเมืองทำได้ยากมาก เพราะเนื่องจากการขับขี่ในถนนแต่ละเส้นก็ต่างกัน เช่นการสิ้นเปลืองที่ขับบนถนนสุขุมวิท กับ วิภาวดี ก็ไม่เท่ากัน
แล้วเวลากับวันไม่เหมือนกันก็ต่างกันอีก เช่นขับที่สุขุมวิท วันจันทร์ตอน 18.00 กับขับวันเสาร์ตอน 18.00 ก็ไม่เท่ากัน
ถ้าจะเอาให้เป็นมาตรฐานจริงๆ ต้องขับเต่าลานด้วยความเร็วที่เท่ากัน และจอดเท่าๆกัน และถนนเส้นเดียวกัน เช่นขับ 30Km/H จอดทุกๆ 20 นาทีจอดครั้งละ 5 นาที ซึ่งผมว่าทำได้ยากมากครับ
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: MC Stradale ที่ กันยายน 28, 2015, 11:08:48
คงต้องหาถนนเส้นที่การจราจรค่อนข้างเป็นปกติกันเลยทีเดียวหละครับ ลองสังเกตุดูทุกวันนี้ไม่ว่าถนนเส้นไหน การจร่จรไม่มีซ้ำกันซักวัน คงจะยากหน่อยครับสำหรับการทดสอบในเมือง
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Poj ที่ กันยายน 28, 2015, 11:19:40
ทำได้ครับ แต่ต้องมีบุคลากร กับเงินทุน กฎเกณฑ์ทุกอย่างกำหนดได้หมดละครับ
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: applebees ที่ กันยายน 28, 2015, 11:35:22
จริงๆการค่าตัวเลขที่บอกมีปัจจัยมากมายนะครับ ขนาดที่ HLM ทดลอง ก็ยังได้แค่พยายามให้มีมาตรฐานเดียวกันมากที่สุด สำหรับผมค่าน่าเชื่อถือสุดแล้ว เพราะการทดลองคล้ายกับการขับรถจริงๆของผมคือชานเมืองเข้าเมือง แต่เรื่องอัตรากินน้ำมันในเมืองนี่ยากจริงๆ

ผมอยากแนะนำว่า HLM ทำระบบขึ้นมา ผู้ใช้รถแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อนำข้อมูลของตนมาใส่ข้อมูลกัน โดยก่อนที่จะกรอกข้อมูลได้ ต้องยืนยันตัวว่าเป็นผู้ใช้รถ/มีส่วนในรถนั้นจริงๆ แล้วมีค่า real time โชว์อัตราการกินน้ำมัน  ...ถ้ามีระบบนี้ขึ้นมาได้จริงๆ HLM จะยิ่งใหญ่มากๆ 55555

***PS กระทู้นี้ควรอยู่ในหัวข้อ แนะนำ ไหมครับ
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ กันยายน 28, 2015, 11:41:13
ถ้าจะทดสอบแบบในเมืองแล้วจะให้แฟร์ๆคุมปัจจัยได้ทุกอย่าง
ก็ต้องมีการกำหนดสถานที่ จากนั้นวิ่งทดสอบตาม Script เช่น ใส่เกียร์ D เหยียบจอด 3 นาที
จากนั้นวิ่ง 30 ก.ม./ช.ม. นาน 5 นาที แล้วใส่เกียร์ N จอดนาน 5 นาที จากนั้นวิ่ง 30 นาน 5 นาที
แล้วก็จอด ทำอย่างนี้สลับกันเรื่อยๆ ก็พอจะเรียกว่าทดสอบแบบในเมืองได้

ปัญหาอยู่ตรงนี้ครับ คุณทดสอบในโหมดดังกล่าว จะต้องใช้เวลากี่ชั่วโมงกว่าที่น้ำมันในถัง
จะพร่องลงจนถึงจุดที่วัดค่าออกมาแล้วแม่นยำ? พวกเราขับรถบางคนในที่ที่รถติดมากๆ
ยังใช้เวลา 1 ชั่วโมงเพื่อเดินทาง 10 ก.ม. ถ้าจะทดสอบโดยใช้ระยะทาง 50 ก.ม.
ผมว่าถึงทำไปคนก็ไม่ยอมรับ เพราะ 50 ก.ม. ยังไม่นานพอ ต้อง 70-80 ก.ม. เป็นขั้นต่ำ
คำถามคือจะหาใครมาทำ 6-7 ชั่วโมง? และยังไม่นับว่าสถานที่ทดสอบนั้นจะต้องว่างพอ
ให้เราสามารถดำเนินการทดสอบแบบต่อเนื่องนานขนาดนั้นได้ด้วย

ถ้าให้ทำ ทำได้ครับ แต่หมดเวลาไปเยอะจนผมคิดว่าไม่ทำจะดีกว่า

ทุกวันนี้ผมใช้วิธีว่าจิมมี่จับอัตราประหยัด ก็จับไป ส่วนถ้ารถคันนั้นผมได้แตะด้วย
ผมก็จะเอามันไปขับใช้งานจริงแล้วก็เอาตัวเลขมาให้ดูประกอบกันไปด้วย แต่ให้เพื่อ
พอเป็นไอเดีย ไม่ใช่เพื่อเอาไปเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่น
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: madboy ที่ กันยายน 28, 2015, 11:44:32
ทดสอบวิ่งในเมืองผมว่า ตัวแปรที่จะทำให้ผิดพลาดมันมีหลากหลายมากๆเลยครับ

ยกเว้นว่า เอาตัวเลขคร่าวๆ แบบหยาบๆ  ;D
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: unsignedint16 ที่ กันยายน 28, 2015, 12:09:35
เสนอให้ทำตอนดึกๆ ตี2 ครับ สภาพการจราจร น่าจะเกือบเหมือนกันทุกวัน
 
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ กันยายน 28, 2015, 12:17:05
เรื่องจริงครับ ปัจจุบันผมเลิกดูการทดสอบน้ำมันของเว็บไปแล้ว เนื่องจากทำผมซื้อรถผิดพลาดอย่างรุนแรงหลายครั้ง

ไม่ได้หมายความว่าการทดสอบผิดพลาดหรือไม่จริงนะครับ แต่มันดูค่าเดียวไม่ได้จริงๆ
ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าต้องดูยังไง ถึงจะไม่ผิดอีก และผมไม่ดูของเว็บนี้อีกแล้วครับ

ส่วนใครจะบอกว่าเทสไม่ใช้จำนวนชั่วโมง ผมเองไม่ติดใจตรงนั้น เพราะจะไม่เทสก็ไม่ว่าอะไรกันครับ

อันนี้ความเห็นส่วนตัวจริงๆ พูดแบบตรงๆ ไม่เอาใจเจ้าของเว็บ หรือใคร เพราะคนซื้อรถผิดแล้วเจ็บคือตัวผมเอง แต่ในใจก็ไม่อยากให้ใครซื้อผิดแบบผมเพราะดูค่าตรงนี้แล้วผิดพลาด

ค่าถ้ามันดูไม่ได้ เขย่าถังยังไงก็ซื้อผิดอยู่ดีครับ
ขอประทานโทษจริงๆ
เอาเป็นว่าใครจะซื้อรถเพราะดูค่าตรงนี้แล้งเอาเทียบกัน ผมว่าพลาดอย่างแรงแบบที่ผมเจอ

หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Dubee ที่ กันยายน 28, 2015, 13:21:55
ท้ายการทดสอบในส่วนของอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เค้าก็มีบอกแล้วนิครับว่าขับตามการจราจรรูปแบบต่างๆ มีเร่งคิกดาวนืบ้าง ทำความเร็วสูงสุดบ้าง รถติดหนักๆในเมืองบ้าง ผสมผเสกันไป ต่อ 1 ถังรถจะวิ้งได้กี่กม. สมมติรถเติมน้ำมัน 1 ถัง วิ้งแบบผมว่าก็ราวๆ 500 กม. ไรงี้ครับ ในบททดสอบก็มีอยุ่แล้ว แต่ไม่ได้แยกย่อยไปว่าขนาดเดินทางกี่กม./ลิตร ในเมืองกี่กม./ลิตร เท่านั้นเองครับ
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: NONT4477 ที่ กันยายน 28, 2015, 13:35:58
จริงๆ ลองสร้างสถานการณ์สมมุติในสถานที่ปิดได้ครับ (ถ้าหาที่ได้นะ)
เช่น จำลองจอดติดไฟแดง เปิดแอร์ติดเครื่องไว้เฉยๆ 30 นาที
ขับช้า 40kph 15 นาที
ขับปานกลาง 80kph 15 นาที
เร่งมิดคันเร่ง 0-60 แล้วเบรค 10 ครั้ง
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ กันยายน 28, 2015, 13:57:45
เรื่องจริงครับ ปัจจุบันผมเลิกดูการทดสอบน้ำมันของเว็บไปแล้ว เนื่องจากทำผมซื้อรถผิดพลาดอย่างรุนแรงหลายครั้ง

ไม่ได้หมายความว่าการทดสอบผิดพลาดหรือไม่จริงนะครับ แต่มันดูค่าเดียวไม่ได้จริงๆ
ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าต้องดูยังไง ถึงจะไม่ผิดอีก และผมไม่ดูของเว็บนี้อีกแล้วครับ

ส่วนใครจะบอกว่าเทสไม่ใช้จำนวนชั่วโมง ผมเองไม่ติดใจตรงนั้น เพราะจะไม่เทสก็ไม่ว่าอะไรกันครับ

อันนี้ความเห็นส่วนตัวจริงๆ พูดแบบตรงๆ ไม่เอาใจเจ้าของเว็บ หรือใคร เพราะคนซื้อรถผิดแล้วเจ็บคือตัวผมเอง แต่ในใจก็ไม่อยากให้ใครซื้อผิดแบบผมเพราะดูค่าตรงนี้แล้วผิดพลาด

ค่าถ้ามันดูไม่ได้ เขย่าถังยังไงก็ซื้อผิดอยู่ดีครับ
ขอประทานโทษจริงๆ
เอาเป็นว่าใครจะซื้อรถเพราะดูค่าตรงนี้แล้งเอาเทียบกัน ผมว่าพลาดอย่างแรงแบบที่ผมเจอ

พลาดยังไงหละครับ พอจะบอกกล่าวได้มั๊ยที่เล่าให้ฟังแค่นี้นึกภาพไม่ออกจริงๆครับ มาแค่นี้เหมือนตีหัวเข้าบ้านเลย งงๆกันไป  ถ้าให้เดาทางเว็ปเค้าวิ่งนิ่งๆ 110 แต่คุณเอาไปวิ่งในเมืองแล้วมันกินแหลกรึเปล่า
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: yord ที่ กันยายน 28, 2015, 15:24:16
ก็ตั้งกระทู้ปักหมุดสัก 1 กระทู้ก็ได้นิครับ ให้สมาชิกรายงานอัตราสิ้นเปลืองของรถตัวเองผมคิดว่าน่าจะมีกันแทบทุกรุ่น ทั้งในเมืองนอกเมือง

ก็น่าจะพอเป็นแนวทางได้นะครับท่าหลายๆท่านสมาชิกรายงานเข้ามาเรื่อยๆ ผมว่ามันก็พอใช้ประเมินและอ้างอิงได้นะครับ

ยกตัวอย่างเช่น รถ............ ผมขับใช้งานในกรุงเทพทุกย่านความเร็ว ไม่เกิน 140 km/hr  เฉลี่ยน้ำมัน 1 ถังได้ 10.7 กิโล/ลิตร

                   ขับออกต่างจังหวัด ไม่เกิน 120 km/hr มี 140 km/hr บ้างเป็นบางจังหวะ เฉลี่ยน้ำมัน 1 ถังได้ 13.7 กิโล/ลิตร


อะไรประมาณนี้น่ะครับ ท่าตอบกันเข้ามาเยอะๆ มันก็พอจะดูเป็นแนวทางได้นะครับ

หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: mile ที่ กันยายน 28, 2015, 15:35:58
เอาจริงๆเรื่องอัตรสิ้นเปลืองที่พี่จิมมี กับ พี่แพน ทำมันก็เหมือนค่าโดยประมาณครับ  ไม่จำเป็นว่าเราเอามาใช้แล้วมันต้องได้เท่านั้นเพราะถึงเอารถคันที่ทดสอบมาขับเอง  สภาพแวดล้อมที่ต่าง  การใช้คันเร่งที่แตกต่างกัน  พวกนี้ก็ทำให้ตัวแปรเปลี่ยนไปแล้วครับ

ถ้าจะดูควรดูเป็นไกด์ไลน์พอครับ  เพราะถ้าอยากเอาแบบละเอียดชอบรุ่นไหนผมแนะนำให้ไปหาข้อมูลดูตามคลับของรถรุ่นนั้นครับ  มีคำตอบให้คิดหลายแบบเลย
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Visual ที่ กันยายน 28, 2015, 15:58:23
เรื่องจริงครับ ปัจจุบันผมเลิกดูการทดสอบน้ำมันของเว็บไปแล้ว เนื่องจากทำผมซื้อรถผิดพลาดอย่างรุนแรงหลายครั้ง

ไม่ได้หมายความว่าการทดสอบผิดพลาดหรือไม่จริงนะครับ แต่มันดูค่าเดียวไม่ได้จริงๆ
ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าต้องดูยังไง ถึงจะไม่ผิดอีก และผมไม่ดูของเว็บนี้อีกแล้วครับ

ส่วนใครจะบอกว่าเทสไม่ใช้จำนวนชั่วโมง ผมเองไม่ติดใจตรงนั้น เพราะจะไม่เทสก็ไม่ว่าอะไรกันครับ

อันนี้ความเห็นส่วนตัวจริงๆ พูดแบบตรงๆ ไม่เอาใจเจ้าของเว็บ หรือใคร เพราะคนซื้อรถผิดแล้วเจ็บคือตัวผมเอง แต่ในใจก็ไม่อยากให้ใครซื้อผิดแบบผมเพราะดูค่าตรงนี้แล้วผิดพลาด

ค่าถ้ามันดูไม่ได้ เขย่าถังยังไงก็ซื้อผิดอยู่ดีครับ
ขอประทานโทษจริงๆ
เอาเป็นว่าใครจะซื้อรถเพราะดูค่าตรงนี้แล้งเอาเทียบกัน ผมว่าพลาดอย่างแรงแบบที่ผมเจอ

ถึงขนาด "ผิดพลาดอย่างรุนแรง" เลยหรอครับ
แสดงว่าอัตราบริโภคน้ำมันต้องมีผลต่อการซื้อรถของคุณมากแน่ๆ
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กันยายน 28, 2015, 16:48:49


ผมว่า ตั้งโปรแกรมทดสอบ จำลอง สภาวะ รถติดขึ้นมาดีกว่า
เพราะ ทุกวันนี้ มาตราฐาน ที่เค้าทดสอบ มัน ชิล มากๆ เลย

หรือไม่ก็ ทดสอบ อัตราสินเลือง ในขณ ติดเครื่องเดินเบาเฉยๆ แทน

หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: gnext ที่ กันยายน 28, 2015, 16:59:17
เอ่อ อัตราสิ้นเปลือง เอาเข้าจริง ก็ต้องพิจารณาหลายๆปัจจัยสิครับ
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าคุณทดสอบอัตราสิ้นเปลืองของอะไร
เครื่องยนต์ใช้น้ำมันปั่นเป็นแรงขับเคลื่อนให้มอเตอร์ ส่งไฟให้วิทยุ แอร์ และออพชันอื่นๆในรถของคุณ
รถจะกินน้ำมันต่างกัน นอกจากการออกแบบเครื่องยนต์ ยังขึ้นอยู่กับการออกแบบอัตราทดและช่วงล่าง รวมถึงยี่ห้อแอร์ที่สอดคล้องกับอุณหภูมิภายนอก วิทยุ และอื่นๆ

ของพี่จิมมี่แกก็ชัดว่า นั่งสองคน เปิดแอร์ ขับ 110 คงที่ ซึ่งผมเดาว่าทำอย่างนี้แล้ว ความแตกต่างของการกินน้ำมันหลักๆจะอยู่ในเรื่องของระบบเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อนกว่า 90%

ซึ่งถ้าคุณจะเทียบกับในเมืองแล้วอยากได้อัตราสิ้นเปลืองแบบที่ส่วนในเมืองนั้น มันมีปัจจัยภายนอกอีกมากมาย ซึ่งรวมถึงสภาพอากาศและสภาพถนนด้วย ถ้าอยากได้อัตราการกินน้ำมันที่เทียบกันได้ ก็ควรจะปิดวิทยุ ปิดบลูทูธ เปิดแอร์ให้ทำงานต่างจากภายนอกแค่ 3-5 องศา แล้วก็อย่าจอดอยู่เฉยๆ

ซึ่ง Label ตามการทดสอบมาตรฐานของเมืองนอกเองก็มีการควบคุมปัจจัยเหล่านี้เหมือนกัน เพราะเค้าทดสอบ"รถ" ไม่ได้ทดสอบ Option ที่ติดมา และในเมืองเองเค้าก็ไม่ได้รถติดเหมือนบ้านเรา คงเทียบกันยากละครับ
แบบที่ทดสอบ 20 นาที วัดน้ำมันพร่องเป็นหน่วยกรัม ได้ตัวเลขทั้งในเมืองและนอกเมือง
ซึ่งอันนั้นเค้าทดสอบในห้องแล็บ ควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ ไม่ต้องเปิดแอร์

อย่างรถยุโรปบางคัน ขับนอกเมืองขึ้น 6l/100km ในเมือง 10-13l/100km แต่วันไหนรถติดมันก็ขึ้นไป 40l/100km
อยากให้รายงานตัวเลขไหนละครับ
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ กันยายน 28, 2015, 17:30:55
เรื่องจริงครับ ปัจจุบันผมเลิกดูการทดสอบน้ำมันของเว็บไปแล้ว เนื่องจากทำผมซื้อรถผิดพลาดอย่างรุนแรงหลายครั้ง

ไม่ได้หมายความว่าการทดสอบผิดพลาดหรือไม่จริงนะครับ แต่มันดูค่าเดียวไม่ได้จริงๆ
ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าต้องดูยังไง ถึงจะไม่ผิดอีก และผมไม่ดูของเว็บนี้อีกแล้วครับ

ส่วนใครจะบอกว่าเทสไม่ใช้จำนวนชั่วโมง ผมเองไม่ติดใจตรงนั้น เพราะจะไม่เทสก็ไม่ว่าอะไรกันครับ

อันนี้ความเห็นส่วนตัวจริงๆ พูดแบบตรงๆ ไม่เอาใจเจ้าของเว็บ หรือใคร เพราะคนซื้อรถผิดแล้วเจ็บคือตัวผมเอง แต่ในใจก็ไม่อยากให้ใครซื้อผิดแบบผมเพราะดูค่าตรงนี้แล้วผิดพลาด

ค่าถ้ามันดูไม่ได้ เขย่าถังยังไงก็ซื้อผิดอยู่ดีครับ
ขอประทานโทษจริงๆ
เอาเป็นว่าใครจะซื้อรถเพราะดูค่าตรงนี้แล้งเอาเทียบกัน ผมว่าพลาดอย่างแรงแบบที่ผมเจอ

พลาดยังไงหละครับ พอจะบอกกล่าวได้มั๊ยที่เล่าให้ฟังแค่นี้นึกภาพไม่ออกจริงๆครับ มาแค่นี้เหมือนตีหัวเข้าบ้านเลย งงๆกันไป  ถ้าให้เดาทางเว็ปเค้าวิ่งนิ่งๆ 110 แต่คุณเอาไปวิ่งในเมืองแล้วมันกินแหลกรึเปล่า

ผมไม่อยากเปิดประเด็นมาก เดี๋ยวมันบานปลาย ไม่ใช่ตีหัวเข้าบ้าน

ไหนๆหลายท่านก็สงสัยว่ามันคืออะไร และเดี๋ยวว่าผมงั้นงี้อีกคิดไม่ดีกับเว็บอีก

คันแรกคือ ford fiesta 1.6s 5ประตู ปี2011
คันนี้เทสในเมือง 110 เปิดแอร์ ได้ 16km/l น่าจะ best in the class ยุคนี้เลย
แต่ผมวิ่งในเมือง กินเท่าteana j32 2500 v6 เลยครับ
เป็นรถ2บุคลิก  จริงๆ
ผมซื้อรถเครื่อง 1600 แต่ต้องมาจ่ายน้ำมัน แบบ2500ที่กินที่สุดในclass ยุคนั้น  มันใช่เรื่องเหรอครับ

ส่วนคันอื่นผมขอไม่พูดถึง เดี๋ยวมันจะลามไปเรื่องอื่นเยอะ
เอาที่ผมโดนชัดๆแล้วกันให้นึกภาพออกก็แล้วกัน
บอกตรงๆผมแทบจะไม่ดูอีกเลย ผมต้องเลือกดูอัตราสิ้นเปลืองจากแหล่งอื่นแทน แต่หากในเว็บปรับเปลี่ยนได้ ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ

สำหรับใครไม่เจอกับตัวก็ดีครับ ผมก็ถือว่าเป็นอุทหรณ์ให้กับท่านอื่นว่าอย่าพลาดแบบผม ส่วนตัวผมก็มีเงินจ่ายค่าน้ำมัน แต่ถ้าคนที่เลือกรถได้คันเดียว และต้องใช้โดยไม่อาจจะเปลี่ยนรถได้ ผมมันมันเผาเงินทิ้งไปเยอะ ทั้งผ่อนค่ารถและจ่ายค่าน้ำมัน ผมซื้อรถปี 2011 ผ่านยุคน้ำมันแพง ผมหมดเงินไปเท่าไหร่ในส่วนตรงนี้

ถามว่าผมใส่ใจอัตราสิ้นเปลืองมากมั๊ย  ถ้าไม่พลิกล๊อคก็คงไม่เท่าไหร่ อย่ามากก็ผิดหวัง แต่หน้ามือเป็นหลังมือมันก็ใช่เรื่องซะที่ไหน
มันไม่ make sense


ปล. การซื้อรถผิด หรือพลาด เป็นความผิดของผมเอง ไม่ได้โทษเว็บแต่อย่างใดครับ 
แค่แสดงความเห็นว่า ควรทดสอบอัตราสิ้นเปลืองในเมือเพิ่มเข้าไปด้วย  ใจผมคิดว่าแบบ combine mode ไม่สามารถบอกอะไรเกี่ยสกับรถได้ชัดเจนเท่า
110  กับในเมืองจริงๆไปเลย จะเห็นผลชัดเจนครับ
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: nakung ที่ กันยายน 28, 2015, 17:34:20
ผมอยากให้เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของรัฐไปเลยเหมือนอเมริกา

ในเมือง นอกเมือง ผสม ได้กี่กิโลลิตร
รวมไปถึงค่าไอเสียที่จะมีบทบาทในการกำหนดอัตราภาษี

เป็นข้อมูลที่ผู้บริโภคจะต้องรู้ในการซื้อรถ
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: promt ที่ กันยายน 28, 2015, 17:49:05
หากคุณแพนและจิมมี่ทำแบบนี้จริง คงไม่ต้องทำมาหากินกับข้อมูลอื่นๆ หรืองานอื่นๆ แล้วหล่ะ

คันที่ผมขับจริง ก็ไม่เคยได้ 14.x กม. ต่อลิตร ตามเวบนะครับ หายไปเยอะ

แต่ช่างมันเหอะ รถซื้อมาขับ

หากมันซดแพง จับติดแก๊สซะเลย
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ กันยายน 28, 2015, 18:23:33
ติดขนาดนั้นผมก็ไม่ขับทดสอบครับ ผมเมื่อย+เบื่อ (ถึงแม้ชีวิตจริงจะต้องเจอก็เถอะ อิๆ)
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: tierak ที่ กันยายน 28, 2015, 19:22:20
เรื่องจริงครับ ปัจจุบันผมเลิกดูการทดสอบน้ำมันของเว็บไปแล้ว เนื่องจากทำผมซื้อรถผิดพลาดอย่างรุนแรงหลายครั้ง

ไม่ได้หมายความว่าการทดสอบผิดพลาดหรือไม่จริงนะครับ แต่มันดูค่าเดียวไม่ได้จริงๆ
ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าต้องดูยังไง ถึงจะไม่ผิดอีก และผมไม่ดูของเว็บนี้อีกแล้วครับ

ส่วนใครจะบอกว่าเทสไม่ใช้จำนวนชั่วโมง ผมเองไม่ติดใจตรงนั้น เพราะจะไม่เทสก็ไม่ว่าอะไรกันครับ

อันนี้ความเห็นส่วนตัวจริงๆ พูดแบบตรงๆ ไม่เอาใจเจ้าของเว็บ หรือใคร เพราะคนซื้อรถผิดแล้วเจ็บคือตัวผมเอง แต่ในใจก็ไม่อยากให้ใครซื้อผิดแบบผมเพราะดูค่าตรงนี้แล้วผิดพลาด

ค่าถ้ามันดูไม่ได้ เขย่าถังยังไงก็ซื้อผิดอยู่ดีครับ
ขอประทานโทษจริงๆ
เอาเป็นว่าใครจะซื้อรถเพราะดูค่าตรงนี้แล้งเอาเทียบกัน ผมว่าพลาดอย่างแรงแบบที่ผมเจอ

ที่สรุปแบบนี้ก็ไม่น่าจะถูกนะครับ เพราะการขับขี่ของแต่ละคนไม่เหมือนกันทำให้ได้อัตราสิ้นเปลืองไม่เหมือน

ปล.ของผมขับในกรุงเทพ จะได้เยอะกว่าทางเวปทดสอบ 1 ก.ม./ลิตร ส่วนถ้าวิ่งต่างจังหวัดจะได้เยอะกว่าทางเวป 2 ก.ม./ลิตร
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: basst ที่ กันยายน 28, 2015, 20:10:48
เรื่องจริงครับ ปัจจุบันผมเลิกดูการทดสอบน้ำมันของเว็บไปแล้ว เนื่องจากทำผมซื้อรถผิดพลาดอย่างรุนแรงหลายครั้ง

ไม่ได้หมายความว่าการทดสอบผิดพลาดหรือไม่จริงนะครับ แต่มันดูค่าเดียวไม่ได้จริงๆ
ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าต้องดูยังไง ถึงจะไม่ผิดอีก และผมไม่ดูของเว็บนี้อีกแล้วครับ

ส่วนใครจะบอกว่าเทสไม่ใช้จำนวนชั่วโมง ผมเองไม่ติดใจตรงนั้น เพราะจะไม่เทสก็ไม่ว่าอะไรกันครับ

อันนี้ความเห็นส่วนตัวจริงๆ พูดแบบตรงๆ ไม่เอาใจเจ้าของเว็บ หรือใคร เพราะคนซื้อรถผิดแล้วเจ็บคือตัวผมเอง แต่ในใจก็ไม่อยากให้ใครซื้อผิดแบบผมเพราะดูค่าตรงนี้แล้วผิดพลาด

ค่าถ้ามันดูไม่ได้ เขย่าถังยังไงก็ซื้อผิดอยู่ดีครับ
ขอประทานโทษจริงๆ
เอาเป็นว่าใครจะซื้อรถเพราะดูค่าตรงนี้แล้งเอาเทียบกัน ผมว่าพลาดอย่างแรงแบบที่ผมเจอ

พลาดยังไงหละครับ พอจะบอกกล่าวได้มั๊ยที่เล่าให้ฟังแค่นี้นึกภาพไม่ออกจริงๆครับ มาแค่นี้เหมือนตีหัวเข้าบ้านเลย งงๆกันไป  ถ้าให้เดาทางเว็ปเค้าวิ่งนิ่งๆ 110 แต่คุณเอาไปวิ่งในเมืองแล้วมันกินแหลกรึเปล่า

ผมไม่อยากเปิดประเด็นมาก เดี๋ยวมันบานปลาย ไม่ใช่ตีหัวเข้าบ้าน

ไหนๆหลายท่านก็สงสัยว่ามันคืออะไร และเดี๋ยวว่าผมงั้นงี้อีกคิดไม่ดีกับเว็บอีก

คันแรกคือ ford fiesta 1.6s 5ประตู ปี2011
คันนี้เทสในเมือง 110 เปิดแอร์ ได้ 16km/l น่าจะ best in the class ยุคนี้เลย
แต่ผมวิ่งในเมือง กินเท่าteana j32 2500 v6 เลยครับ
เป็นรถ2บุคลิก  จริงๆ
ผมซื้อรถเครื่อง 1600 แต่ต้องมาจ่ายน้ำมัน แบบ2500ที่กินที่สุดในclass ยุคนั้น  มันใช่เรื่องเหรอครับ

ส่วนคันอื่นผมขอไม่พูดถึง เดี๋ยวมันจะลามไปเรื่องอื่นเยอะ
เอาที่ผมโดนชัดๆแล้วกันให้นึกภาพออกก็แล้วกัน
บอกตรงๆผมแทบจะไม่ดูอีกเลย ผมต้องเลือกดูอัตราสิ้นเปลืองจากแหล่งอื่นแทน แต่หากในเว็บปรับเปลี่ยนได้ ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ

สำหรับใครไม่เจอกับตัวก็ดีครับ ผมก็ถือว่าเป็นอุทหรณ์ให้กับท่านอื่นว่าอย่าพลาดแบบผม ส่วนตัวผมก็มีเงินจ่ายค่าน้ำมัน แต่ถ้าคนที่เลือกรถได้คันเดียว และต้องใช้โดยไม่อาจจะเปลี่ยนรถได้ ผมมันมันเผาเงินทิ้งไปเยอะ ทั้งผ่อนค่ารถและจ่ายค่าน้ำมัน ผมซื้อรถปี 2011 ผ่านยุคน้ำมันแพง ผมหมดเงินไปเท่าไหร่ในส่วนตรงนี้

ถามว่าผมใส่ใจอัตราสิ้นเปลืองมากมั๊ย  ถ้าไม่พลิกล๊อคก็คงไม่เท่าไหร่ อย่ามากก็ผิดหวัง แต่หน้ามือเป็นหลังมือมันก็ใช่เรื่องซะที่ไหน
มันไม่ make sense


ปล. การซื้อรถผิด หรือพลาด เป็นความผิดของผมเอง ไม่ได้โทษเว็บแต่อย่างใดครับ 
แค่แสดงความเห็นว่า ควรทดสอบอัตราสิ้นเปลืองในเมือเพิ่มเข้าไปด้วย  ใจผมคิดว่าแบบ combine mode ไม่สามารถบอกอะไรเกี่ยสกับรถได้ชัดเจนเท่า
110  กับในเมืองจริงๆไปเลย จะเห็นผลชัดเจนครับ
ผมขอแนะนำนะครับ ให้รีวิวมีตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่มาจากโรงงานด้วย มีทั้งตัวเลขในเมือง นอกเมือง และรวม
ผมคิดว่าทีมงานมีข้อมูลพวกนี้อยู่แล้ว คิดว่าคงจะไม่ยากเกินไป
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: localgame ที่ กันยายน 28, 2015, 20:34:12
เรื่องจริงครับ ปัจจุบันผมเลิกดูการทดสอบน้ำมันของเว็บไปแล้ว เนื่องจากทำผมซื้อรถผิดพลาดอย่างรุนแรงหลายครั้ง

ไม่ได้หมายความว่าการทดสอบผิดพลาดหรือไม่จริงนะครับ แต่มันดูค่าเดียวไม่ได้จริงๆ
ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าต้องดูยังไง ถึงจะไม่ผิดอีก และผมไม่ดูของเว็บนี้อีกแล้วครับ

ส่วนใครจะบอกว่าเทสไม่ใช้จำนวนชั่วโมง ผมเองไม่ติดใจตรงนั้น เพราะจะไม่เทสก็ไม่ว่าอะไรกันครับ

อันนี้ความเห็นส่วนตัวจริงๆ พูดแบบตรงๆ ไม่เอาใจเจ้าของเว็บ หรือใคร เพราะคนซื้อรถผิดแล้วเจ็บคือตัวผมเอง แต่ในใจก็ไม่อยากให้ใครซื้อผิดแบบผมเพราะดูค่าตรงนี้แล้วผิดพลาด

ค่าถ้ามันดูไม่ได้ เขย่าถังยังไงก็ซื้อผิดอยู่ดีครับ
ขอประทานโทษจริงๆ
เอาเป็นว่าใครจะซื้อรถเพราะดูค่าตรงนี้แล้งเอาเทียบกัน ผมว่าพลาดอย่างแรงแบบที่ผมเจอ

พลาดยังไงหละครับ พอจะบอกกล่าวได้มั๊ยที่เล่าให้ฟังแค่นี้นึกภาพไม่ออกจริงๆครับ มาแค่นี้เหมือนตีหัวเข้าบ้านเลย งงๆกันไป  ถ้าให้เดาทางเว็ปเค้าวิ่งนิ่งๆ 110 แต่คุณเอาไปวิ่งในเมืองแล้วมันกินแหลกรึเปล่า

ผมไม่อยากเปิดประเด็นมาก เดี๋ยวมันบานปลาย ไม่ใช่ตีหัวเข้าบ้าน

ไหนๆหลายท่านก็สงสัยว่ามันคืออะไร และเดี๋ยวว่าผมงั้นงี้อีกคิดไม่ดีกับเว็บอีก

คันแรกคือ ford fiesta 1.6s 5ประตู ปี2011
คันนี้เทสในเมือง 110 เปิดแอร์ ได้ 16km/l น่าจะ best in the class ยุคนี้เลย
แต่ผมวิ่งในเมือง กินเท่าteana j32 2500 v6 เลยครับ
เป็นรถ2บุคลิก  จริงๆ
ผมซื้อรถเครื่อง 1600 แต่ต้องมาจ่ายน้ำมัน แบบ2500ที่กินที่สุดในclass ยุคนั้น  มันใช่เรื่องเหรอครับ

ส่วนคันอื่นผมขอไม่พูดถึง เดี๋ยวมันจะลามไปเรื่องอื่นเยอะ
เอาที่ผมโดนชัดๆแล้วกันให้นึกภาพออกก็แล้วกัน
บอกตรงๆผมแทบจะไม่ดูอีกเลย ผมต้องเลือกดูอัตราสิ้นเปลืองจากแหล่งอื่นแทน แต่หากในเว็บปรับเปลี่ยนได้ ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ

สำหรับใครไม่เจอกับตัวก็ดีครับ ผมก็ถือว่าเป็นอุทหรณ์ให้กับท่านอื่นว่าอย่าพลาดแบบผม ส่วนตัวผมก็มีเงินจ่ายค่าน้ำมัน แต่ถ้าคนที่เลือกรถได้คันเดียว และต้องใช้โดยไม่อาจจะเปลี่ยนรถได้ ผมมันมันเผาเงินทิ้งไปเยอะ ทั้งผ่อนค่ารถและจ่ายค่าน้ำมัน ผมซื้อรถปี 2011 ผ่านยุคน้ำมันแพง ผมหมดเงินไปเท่าไหร่ในส่วนตรงนี้

ถามว่าผมใส่ใจอัตราสิ้นเปลืองมากมั๊ย  ถ้าไม่พลิกล๊อคก็คงไม่เท่าไหร่ อย่ามากก็ผิดหวัง แต่หน้ามือเป็นหลังมือมันก็ใช่เรื่องซะที่ไหน
มันไม่ make sense


ปล. การซื้อรถผิด หรือพลาด เป็นความผิดของผมเอง ไม่ได้โทษเว็บแต่อย่างใดครับ 
แค่แสดงความเห็นว่า ควรทดสอบอัตราสิ้นเปลืองในเมือเพิ่มเข้าไปด้วย  ใจผมคิดว่าแบบ combine mode ไม่สามารถบอกอะไรเกี่ยสกับรถได้ชัดเจนเท่า
110  กับในเมืองจริงๆไปเลย จะเห็นผลชัดเจนครับ
ผมขอแนะนำนะครับ ให้รีวิวมีตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่มาจากโรงงานด้วย มีทั้งตัวเลขในเมือง นอกเมือง และรวม
ผมคิดว่าทีมงานมีข้อมูลพวกนี้อยู่แล้ว คิดว่าคงจะไม่ยากเกินไป

ผมว่าข้อมูลจากโรงงานเป็นอะไรที่สามารถหาได้ตามโบร์ชัว หรือ ข้อมูลจากเวปไซหลักของแบรนด์นั้นๆ ผมว่ามันไม่ได้หายากอะไรเลย เอาจริงๆผมว่าถ้าคนสนใจจะซื้อรถรุ่นไหนควรจะศึกษารถรุ่นนั้นจากหลายๆแหล่งไม่ได้มีHLMที่เดียวที่ทดสอบ เพียงแต่HLMมีมาตรฐานในการทดสอบที่ดีกว่าเวปอื่นๆ คิดว่าคงไม่ยากเกินไปสำหรับคนจะซื้อรถนะครับ จะจ่ายเงินหลายแสนหลายล้านเสียเวลาอ่านข้อมูลจากหลายๆแหล่งซัก2-3วัน คงไม่เสียเวลาอะไรขนาดนั้นมั้งครับ
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: HHHsung ที่ กันยายน 28, 2015, 21:05:01
ที่ตั้งกระทู้มา ไม่ได้อยากจะให้เกิดดราม่ากันนะครับ เพียงแต่ผมที่เป็นคนกลุ่มนึงที่ทำงานใจกลาง กทม แล้วมีบ้านอยู่ชานเมือง

เส้นทางที่ใช้ขับ มันไม่สามารถเอาข้อมูลที่คุณ J!mmy และ คุณแพน ทดสอบไปใช้ได้ทั้งหมด

เพราะการทดสอบเน้นการขับแบบลอยตัว ซึ่งในชีวิตประจำวันจริงๆ เป็นสิ่งที่ผมได้แค่ฝัน

เนื่องจากรถปัจจุบันมันเยอะถึงเยอะมาก ทำให้รูปแบบการขับของผมมันไม่สอดคล้องกับทางเวปที่ทดสอบในช่วงดึกคืนวันอาทิตย์บนทางด่วนที่แทบนับรถวิ่งได้

ในความเป็นจริงเป็นตัวแปรที่มีความสำคัญ ไม่น้อยกว่าการเกาะถนน อัตราเร่ง หรือเบรคเลย เพราะมันใช้ได้ทุกวัน ต่างกับขับแบบทดสอบที่มันแทบไม่ได้เกิดขึ้นจริง

ก็เลยตั้งกระทู้ขึ้นเพื่อจุดประกายว่า การทดสอบรูปแบบนี้ ก็มีความสำคัญ ถึงแม้อาจจะทำได้ยากถึงยากมาก แต่ถ้าทำได้มันจะปิดจุดอ่อนนี้ไปเลย

หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: yod artstu ที่ กันยายน 28, 2015, 22:09:57
แบบเดิม ผมโอเคนะครับ
ดูเป็นไอเดียข้อมูลประกอบ และดูจากแหล่งอื่นเทียบ

Jazz
Freed
camry HV
subaru XV
ผมใช้แล้วใกล้เคียงผลทดสอบ
บางครั้งดีกว่า บางครั้งแย่กว่า แล้วแต่สภาพถนนครับ
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Weetting ที่ กันยายน 28, 2015, 23:29:09
ไม่สนับสนุนให้มีครับ

เงื่อนไขและ คอนดิชั่นมันเยอะเกินไปมาก 

คือถ้าใครใช้รถมันทุกวันมันก็ต้อง รู้เองปะครับ 

เอาง่ายๆอย่างกระบะ  เครื่องใหญ่กะเล็ก 

ยังไงแนวโน้มถ้าใช้ในเมือง เครื่องเล็กก็มีอัตราส่วนสิ้นเปลืองที่ดีกว่าเสมอไป

อย่าง Eco car ขับในเมืองมันประหยัดจริงครับ  แต่พอวิ่งทางไกล มันกินพอกับ 1.8 

เอา 1.8 มาวิ่งในเมือง  บรรลัยเลย 

แถมบางคนวิ่งในเมือง เล่นวิ่งจี้ๆๆ    กลัวคันอื่นแทรก  หวงเลนมากเป็น  ขับแบบนี้ 1.2 ก็กินพอกับ V6 ได้ครับ 

(ไอ้พวกจี้เกินเหตุผลนี้ ผมลากรอบแล้วย้ำคลัชต์เลย  อยากชนๆก็ชน )   

หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: E.P.W ที่ กันยายน 29, 2015, 00:08:49
เรื่องจริงครับ ปัจจุบันผมเลิกดูการทดสอบน้ำมันของเว็บไปแล้ว เนื่องจากทำผมซื้อรถผิดพลาดอย่างรุนแรงหลายครั้ง

ไม่ได้หมายความว่าการทดสอบผิดพลาดหรือไม่จริงนะครับ แต่มันดูค่าเดียวไม่ได้จริงๆ
ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าต้องดูยังไง ถึงจะไม่ผิดอีก และผมไม่ดูของเว็บนี้อีกแล้วครับ

ส่วนใครจะบอกว่าเทสไม่ใช้จำนวนชั่วโมง ผมเองไม่ติดใจตรงนั้น เพราะจะไม่เทสก็ไม่ว่าอะไรกันครับ

อันนี้ความเห็นส่วนตัวจริงๆ พูดแบบตรงๆ ไม่เอาใจเจ้าของเว็บ หรือใคร เพราะคนซื้อรถผิดแล้วเจ็บคือตัวผมเอง แต่ในใจก็ไม่อยากให้ใครซื้อผิดแบบผมเพราะดูค่าตรงนี้แล้วผิดพลาด

ค่าถ้ามันดูไม่ได้ เขย่าถังยังไงก็ซื้อผิดอยู่ดีครับ
ขอประทานโทษจริงๆ
เอาเป็นว่าใครจะซื้อรถเพราะดูค่าตรงนี้แล้งเอาเทียบกัน ผมว่าพลาดอย่างแรงแบบที่ผมเจอ

พลาดยังไงหละครับ พอจะบอกกล่าวได้มั๊ยที่เล่าให้ฟังแค่นี้นึกภาพไม่ออกจริงๆครับ มาแค่นี้เหมือนตีหัวเข้าบ้านเลย งงๆกันไป  ถ้าให้เดาทางเว็ปเค้าวิ่งนิ่งๆ 110 แต่คุณเอาไปวิ่งในเมืองแล้วมันกินแหลกรึเปล่า

ผมไม่อยากเปิดประเด็นมาก เดี๋ยวมันบานปลาย ไม่ใช่ตีหัวเข้าบ้าน

ไหนๆหลายท่านก็สงสัยว่ามันคืออะไร และเดี๋ยวว่าผมงั้นงี้อีกคิดไม่ดีกับเว็บอีก

คันแรกคือ ford fiesta 1.6s 5ประตู ปี2011
คันนี้เทสในเมือง 110 เปิดแอร์ ได้ 16km/l น่าจะ best in the class ยุคนี้เลย
แต่ผมวิ่งในเมือง กินเท่าteana j32 2500 v6 เลยครับ
เป็นรถ2บุคลิก  จริงๆ
ผมซื้อรถเครื่อง 1600 แต่ต้องมาจ่ายน้ำมัน แบบ2500ที่กินที่สุดในclass ยุคนั้น  มันใช่เรื่องเหรอครับ

ส่วนคันอื่นผมขอไม่พูดถึง เดี๋ยวมันจะลามไปเรื่องอื่นเยอะ
เอาที่ผมโดนชัดๆแล้วกันให้นึกภาพออกก็แล้วกัน
บอกตรงๆผมแทบจะไม่ดูอีกเลย ผมต้องเลือกดูอัตราสิ้นเปลืองจากแหล่งอื่นแทน แต่หากในเว็บปรับเปลี่ยนได้ ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ

สำหรับใครไม่เจอกับตัวก็ดีครับ ผมก็ถือว่าเป็นอุทหรณ์ให้กับท่านอื่นว่าอย่าพลาดแบบผม ส่วนตัวผมก็มีเงินจ่ายค่าน้ำมัน แต่ถ้าคนที่เลือกรถได้คันเดียว และต้องใช้โดยไม่อาจจะเปลี่ยนรถได้ ผมมันมันเผาเงินทิ้งไปเยอะ ทั้งผ่อนค่ารถและจ่ายค่าน้ำมัน ผมซื้อรถปี 2011 ผ่านยุคน้ำมันแพง ผมหมดเงินไปเท่าไหร่ในส่วนตรงนี้

ถามว่าผมใส่ใจอัตราสิ้นเปลืองมากมั๊ย  ถ้าไม่พลิกล๊อคก็คงไม่เท่าไหร่ อย่ามากก็ผิดหวัง แต่หน้ามือเป็นหลังมือมันก็ใช่เรื่องซะที่ไหน
มันไม่ make sense


ปล. การซื้อรถผิด หรือพลาด เป็นความผิดของผมเอง ไม่ได้โทษเว็บแต่อย่างใดครับ 
แค่แสดงความเห็นว่า ควรทดสอบอัตราสิ้นเปลืองในเมือเพิ่มเข้าไปด้วย  ใจผมคิดว่าแบบ combine mode ไม่สามารถบอกอะไรเกี่ยสกับรถได้ชัดเจนเท่า
110  กับในเมืองจริงๆไปเลย จะเห็นผลชัดเจนครับ

โดยส่วนตัวผมคิดว่าถ้าเจอรถติดๆแล้ว เอารถทั่วๆไปในบ้านเรา ผมว่าการกินน้ำมันไม่น่าจะต่างกันอย่างมีนัยยะมากนะครับ
เครื่องเล็กเครื่องใหญ่เจอรถติดเมืองไทยน่าจะซดหนักหมด


ทีนี้เลยอยากขอถามเป็นความรู้หน่อยครับว่ามีรถคันไหนบ้างครับที่เจอรถติดในเมืองแล้วยังทำอัตราสิ้นเปลืองได้เป็นที่ยอมรับได้บ้างครับแล้วได้ประมาณเท่าไหร่เหรอครับ
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ กันยายน 29, 2015, 00:24:36
ผมว่าไม่ต้องก็ได้นะครับ เพราะว่ายังไงอัตราสิ้นเปลืองมันตายตัวอยู่ล่ะ
แปรผันไปตามการทำงานของเครื่องยนต์ไม่ว่าจะรถติด หรือวิ่งอยู่ตลอดเวลา
วิ่งในเมืองยังไงมันก็กินหนักกว่าเดิมทุกรุ่นอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: kbank ที่ กันยายน 29, 2015, 00:59:50
ตัวเลขวิ่งในเมืองมันต้องคุมตัวแปรเยอะ ถ้าคุมอะไรไม่ได้
ข้อมูลที่ได้มาก็เอาไปใช้เทียบอะไรไม่ได้ ไร้ประโยชน์
เอาในเมืองแบบแยกแคราย หรือแยกเกษตร หรือหมอชิต
แบบรถติดตอนเช้า หรือบ่าย หรือเย็น
แบบวันหยุดหรือวันทำงาน


ข้อมูลเว็บนี้กำลังดีแล้วครับ เอาไปใช้เทียบอื่นๆได้ เอาไว้ตัดสินใจได้

// อาจจะทำได้แบบ ขับรถในสนามทดสอบ ระยะประมาณ 5km
ด้วยความเร็วต่ำ และจอดนิ่ง หลายๆแบบ
ภายในเวลาทดสอบ 1 ชั่วโมง
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: DriveOnly ที่ กันยายน 29, 2015, 01:03:21
เรื่องจริงครับ ปัจจุบันผมเลิกดูการทดสอบน้ำมันของเว็บไปแล้ว เนื่องจากทำผมซื้อรถผิดพลาดอย่างรุนแรงหลายครั้ง

ไม่ได้หมายความว่าการทดสอบผิดพลาดหรือไม่จริงนะครับ แต่มันดูค่าเดียวไม่ได้จริงๆ
ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าต้องดูยังไง ถึงจะไม่ผิดอีก และผมไม่ดูของเว็บนี้อีกแล้วครับ

ส่วนใครจะบอกว่าเทสไม่ใช้จำนวนชั่วโมง ผมเองไม่ติดใจตรงนั้น เพราะจะไม่เทสก็ไม่ว่าอะไรกันครับ

อันนี้ความเห็นส่วนตัวจริงๆ พูดแบบตรงๆ ไม่เอาใจเจ้าของเว็บ หรือใคร เพราะคนซื้อรถผิดแล้วเจ็บคือตัวผมเอง แต่ในใจก็ไม่อยากให้ใครซื้อผิดแบบผมเพราะดูค่าตรงนี้แล้วผิดพลาด

ค่าถ้ามันดูไม่ได้ เขย่าถังยังไงก็ซื้อผิดอยู่ดีครับ
ขอประทานโทษจริงๆ
เอาเป็นว่าใครจะซื้อรถเพราะดูค่าตรงนี้แล้งเอาเทียบกัน ผมว่าพลาดอย่างแรงแบบที่ผมเจอ

พลาดยังไงหละครับ พอจะบอกกล่าวได้มั๊ยที่เล่าให้ฟังแค่นี้นึกภาพไม่ออกจริงๆครับ มาแค่นี้เหมือนตีหัวเข้าบ้านเลย งงๆกันไป  ถ้าให้เดาทางเว็ปเค้าวิ่งนิ่งๆ 110 แต่คุณเอาไปวิ่งในเมืองแล้วมันกินแหลกรึเปล่า

ผมไม่อยากเปิดประเด็นมาก เดี๋ยวมันบานปลาย ไม่ใช่ตีหัวเข้าบ้าน

ไหนๆหลายท่านก็สงสัยว่ามันคืออะไร และเดี๋ยวว่าผมงั้นงี้อีกคิดไม่ดีกับเว็บอีก

คันแรกคือ ford fiesta 1.6s 5ประตู ปี2011
คันนี้เทสในเมือง 110 เปิดแอร์ ได้ 16km/l น่าจะ best in the class ยุคนี้เลย
แต่ผมวิ่งในเมือง กินเท่าteana j32 2500 v6 เลยครับ
เป็นรถ2บุคลิก  จริงๆ
ผมซื้อรถเครื่อง 1600 แต่ต้องมาจ่ายน้ำมัน แบบ2500ที่กินที่สุดในclass ยุคนั้น  มันใช่เรื่องเหรอครับ

ส่วนคันอื่นผมขอไม่พูดถึง เดี๋ยวมันจะลามไปเรื่องอื่นเยอะ
เอาที่ผมโดนชัดๆแล้วกันให้นึกภาพออกก็แล้วกัน
บอกตรงๆผมแทบจะไม่ดูอีกเลย ผมต้องเลือกดูอัตราสิ้นเปลืองจากแหล่งอื่นแทน แต่หากในเว็บปรับเปลี่ยนได้ ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ

สำหรับใครไม่เจอกับตัวก็ดีครับ ผมก็ถือว่าเป็นอุทหรณ์ให้กับท่านอื่นว่าอย่าพลาดแบบผม ส่วนตัวผมก็มีเงินจ่ายค่าน้ำมัน แต่ถ้าคนที่เลือกรถได้คันเดียว และต้องใช้โดยไม่อาจจะเปลี่ยนรถได้ ผมมันมันเผาเงินทิ้งไปเยอะ ทั้งผ่อนค่ารถและจ่ายค่าน้ำมัน ผมซื้อรถปี 2011 ผ่านยุคน้ำมันแพง ผมหมดเงินไปเท่าไหร่ในส่วนตรงนี้

ถามว่าผมใส่ใจอัตราสิ้นเปลืองมากมั๊ย  ถ้าไม่พลิกล๊อคก็คงไม่เท่าไหร่ อย่ามากก็ผิดหวัง แต่หน้ามือเป็นหลังมือมันก็ใช่เรื่องซะที่ไหน
มันไม่ make sense


ปล. การซื้อรถผิด หรือพลาด เป็นความผิดของผมเอง ไม่ได้โทษเว็บแต่อย่างใดครับ 
แค่แสดงความเห็นว่า ควรทดสอบอัตราสิ้นเปลืองในเมือเพิ่มเข้าไปด้วย  ใจผมคิดว่าแบบ combine mode ไม่สามารถบอกอะไรเกี่ยสกับรถได้ชัดเจนเท่า
110  กับในเมืองจริงๆไปเลย จะเห็นผลชัดเจนครับ

แค่ประโยคที่ผม highlight ก็ผิดแล้วนะครับ เท่าที่อ่านดู พี่เขาวิ่งยาวๆประมาณ 90 กิโลเมตรลอยตัว วนเติมนำ้มันกับขึ้นทางด่วนประมาณ 3 กิโล มันเรียกวิ่งในเมืองไม่ได้นะครับ อีกอย่าง รถที่ทดสอบจะเติม 95 ตลอด ซึ่งผมเคยทดสอบเหมือนกันหลายถังมากๆ กับ vios เติมเวลา 95 จะวิ่งได้ระยะทางไกลกว่า e10

ถ้าคุณไม่เชื่อต้องลองไปวิ่งเส้นทางเดียวกับเขาดู แล้วดูว่าตัวเลขมันเว่อเกินจริงไหม
ขับในเมือง โดยเฉพาะกรุงเทพ การกินนำ้มันได้ตำ่กว่า 10 โลลิตร ถือเป็นเรื่องค่อนข้างปกติ

ขนาดผมขับ c300 วิ่งทางไกล ชิวๆ เรื่อยๆ เร่งแซงบ้าง ความเร็ว 110 - 140 กินนำ้มัน 20 - 22 โลลิตร
แต่พอขับเข้าเมืองเท่านั้นแหละ (10 กิโล ใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง) กินนำ้มัน 7 - 9 โลลิตรเลย ซึ่งตัวแปลพวกนี้มันทดสอบยาก วันดีคืนดีรถติดมาก บางทีเจอคนขับหน้าชอบเบรคๆ เหยียบๆ บางวันเจอรถแซงบ่อย บางวันต้องเร่งแซงให้หลุดไฟแดง บางวันติดมันทุกไฟแดง ปัจจัยเหล่านี้เวลามาเขียนรีวิว มันอธิบายยากนะครับ ว่าคนขับไปเจออะไรมาบ้าง ตัวเลขเลยได้ เท่านี้

ส่วนการเลือกซื้อรถยนต์คุณก็ไม่ควรจะใช้เว็ปนี้เป็นที่อ้างอิงอย่างเดียว ควรไปลองเองแล้วคอยสังเกตุหน้าจอเอา อย่างผมไปเทส accord hybrid เห็นหน้าจอบริโภคนำ้เฉลี่ย 14 โลลิตร จากระยะทาง 100 กว่าโล ก็พอจะสรุปคร่าวๆ ได้ว่าประหยัดจริง เพราะรถเทสส่วนมากคนชอบขับเหยียบแบบเต็มๆ เท้า

สุดท้ายเว็บเขาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับค่ายรถ ดังนั้นไม่มีความจำเป็นอะไรที่เขาจะโม้ตัวเลข

เขียนไปเขียนมาเหมือนอวยเว็บนี้ แต่จริงๆ อยากให้มองเป็นกลางๆ มากกว่า
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: sith(สิทธิ์) ที่ กันยายน 29, 2015, 07:15:33
เค้าทดสอบมาเป็นแค่แนวทางไม่ใช่หรือ เราผู้อ่านก็ตัดสินใจเอา บวกลบคูณหาร
เค้าทดสอบแบบไหน ไปตามอ่านตามดูใหม่ คุณทดสอบในเมืองรถติดหนึบ แล้วมันซดน้ำมัน จะบอกว่าทดสอบผิดหรือเคลื่อนมันก็ยังไงๆอยู่ เวลาที่พี่เค้าทดสอบกี่โมง วิ่งเท่าไหร่ เติมน้ำมันอะไร เค้าใช้อันนี้เป็นมาตรฐานมาตั้งนานแล้ว ส่วนตัวคุณเอง เอามาวิ่งในเมืองรถติดหนึบ จอดมากกว่าวิ่ง เกียร์ต่ำ ความเร็วไม่คงที่ จะให้ออกมาเท่าที่ทีมงานทดสอบผมว่ามันก็นะ คิดเอาเอง จะซื้อรถไม่ใช่เค้าทดสอบออกมาว่า 12 กิโลต่อลิตร โดยประมาณ แล้วคุณไปซื้อมาใช้ ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะทำได้เท่าทีมงาน อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่า   ส่วนเรื่อง จขกท แนะนำมา ผมว่ายากครับ เสียเวลา มันไม่แน่นอน ถามตามคลับรถง่ายกว่า

ผมว่า ทางทีมงานทดลอง ทดสอบมาให้อ่านกัน มันเป็นแค่แนวทางครับ ไม่ใช่ชี้ชัดฟันธงครับ
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ กันยายน 29, 2015, 07:25:55
เรื่องจริงครับ ปัจจุบันผมเลิกดูการทดสอบน้ำมันของเว็บไปแล้ว เนื่องจากทำผมซื้อรถผิดพลาดอย่างรุนแรงหลายครั้ง

ไม่ได้หมายความว่าการทดสอบผิดพลาดหรือไม่จริงนะครับ แต่มันดูค่าเดียวไม่ได้จริงๆ
ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าต้องดูยังไง ถึงจะไม่ผิดอีก และผมไม่ดูของเว็บนี้อีกแล้วครับ

ส่วนใครจะบอกว่าเทสไม่ใช้จำนวนชั่วโมง ผมเองไม่ติดใจตรงนั้น เพราะจะไม่เทสก็ไม่ว่าอะไรกันครับ

อันนี้ความเห็นส่วนตัวจริงๆ พูดแบบตรงๆ ไม่เอาใจเจ้าของเว็บ หรือใคร เพราะคนซื้อรถผิดแล้วเจ็บคือตัวผมเอง แต่ในใจก็ไม่อยากให้ใครซื้อผิดแบบผมเพราะดูค่าตรงนี้แล้วผิดพลาด

ค่าถ้ามันดูไม่ได้ เขย่าถังยังไงก็ซื้อผิดอยู่ดีครับ
ขอประทานโทษจริงๆ
เอาเป็นว่าใครจะซื้อรถเพราะดูค่าตรงนี้แล้งเอาเทียบกัน ผมว่าพลาดอย่างแรงแบบที่ผมเจอ

พลาดยังไงหละครับ พอจะบอกกล่าวได้มั๊ยที่เล่าให้ฟังแค่นี้นึกภาพไม่ออกจริงๆครับ มาแค่นี้เหมือนตีหัวเข้าบ้านเลย งงๆกันไป  ถ้าให้เดาทางเว็ปเค้าวิ่งนิ่งๆ 110 แต่คุณเอาไปวิ่งในเมืองแล้วมันกินแหลกรึเปล่า

ผมไม่อยากเปิดประเด็นมาก เดี๋ยวมันบานปลาย ไม่ใช่ตีหัวเข้าบ้าน

ไหนๆหลายท่านก็สงสัยว่ามันคืออะไร และเดี๋ยวว่าผมงั้นงี้อีกคิดไม่ดีกับเว็บอีก

คันแรกคือ ford fiesta 1.6s 5ประตู ปี2011
คันนี้เทสในเมือง 110 เปิดแอร์ ได้ 16km/l น่าจะ best in the class ยุคนี้เลย
แต่ผมวิ่งในเมือง กินเท่าteana j32 2500 v6 เลยครับ
เป็นรถ2บุคลิก  จริงๆ
ผมซื้อรถเครื่อง 1600 แต่ต้องมาจ่ายน้ำมัน แบบ2500ที่กินที่สุดในclass ยุคนั้น  มันใช่เรื่องเหรอครับ

ส่วนคันอื่นผมขอไม่พูดถึง เดี๋ยวมันจะลามไปเรื่องอื่นเยอะ
เอาที่ผมโดนชัดๆแล้วกันให้นึกภาพออกก็แล้วกัน
บอกตรงๆผมแทบจะไม่ดูอีกเลย ผมต้องเลือกดูอัตราสิ้นเปลืองจากแหล่งอื่นแทน แต่หากในเว็บปรับเปลี่ยนได้ ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ

สำหรับใครไม่เจอกับตัวก็ดีครับ ผมก็ถือว่าเป็นอุทหรณ์ให้กับท่านอื่นว่าอย่าพลาดแบบผม ส่วนตัวผมก็มีเงินจ่ายค่าน้ำมัน แต่ถ้าคนที่เลือกรถได้คันเดียว และต้องใช้โดยไม่อาจจะเปลี่ยนรถได้ ผมมันมันเผาเงินทิ้งไปเยอะ ทั้งผ่อนค่ารถและจ่ายค่าน้ำมัน ผมซื้อรถปี 2011 ผ่านยุคน้ำมันแพง ผมหมดเงินไปเท่าไหร่ในส่วนตรงนี้

ถามว่าผมใส่ใจอัตราสิ้นเปลืองมากมั๊ย  ถ้าไม่พลิกล๊อคก็คงไม่เท่าไหร่ อย่ามากก็ผิดหวัง แต่หน้ามือเป็นหลังมือมันก็ใช่เรื่องซะที่ไหน
มันไม่ make sense


ปล. การซื้อรถผิด หรือพลาด เป็นความผิดของผมเอง ไม่ได้โทษเว็บแต่อย่างใดครับ 
แค่แสดงความเห็นว่า ควรทดสอบอัตราสิ้นเปลืองในเมือเพิ่มเข้าไปด้วย  ใจผมคิดว่าแบบ combine mode ไม่สามารถบอกอะไรเกี่ยสกับรถได้ชัดเจนเท่า
110  กับในเมืองจริงๆไปเลย จะเห็นผลชัดเจนครับ

แค่ประโยคที่ผม highlight ก็ผิดแล้วนะครับ เท่าที่อ่านดู พี่เขาวิ่งยาวๆประมาณ 90 กิโลเมตรลอยตัว วนเติมนำ้มันกับขึ้นทางด่วนประมาณ 3 กิโล มันเรียกวิ่งในเมืองไม่ได้นะครับ อีกอย่าง รถที่ทดสอบจะเติม 95 ตลอด ซึ่งผมเคยทดสอบเหมือนกันหลายถังมากๆ กับ vios เติมเวลา 95 จะวิ่งได้ระยะทางไกลกว่า e10

ถ้าคุณไม่เชื่อต้องลองไปวิ่งเส้นทางเดียวกับเขาดู แล้วดูว่าตัวเลขมันเว่อเกินจริงไหม
ขับในเมือง โดยเฉพาะกรุงเทพ การกินนำ้มันได้ตำ่กว่า 10 โลลิตร ถือเป็นเรื่องค่อนข้างปกติ

ขนาดผมขับ c300 วิ่งทางไกล ชิวๆ เรื่อยๆ เร่งแซงบ้าง ความเร็ว 110 - 140 กินนำ้มัน 20 - 22 โลลิตร
แต่พอขับเข้าเมืองเท่านั้นแหละ (10 กิโล ใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง) กินนำ้มัน 7 - 9 โลลิตรเลย ซึ่งตัวแปลพวกนี้มันทดสอบยาก วันดีคืนดีรถติดมาก บางทีเจอคนขับหน้าชอบเบรคๆ เหยียบๆ บางวันเจอรถแซงบ่อย บางวันต้องเร่งแซงให้หลุดไฟแดง บางวันติดมันทุกไฟแดง ปัจจัยเหล่านี้เวลามาเขียนรีวิว มันอธิบายยากนะครับ ว่าคนขับไปเจออะไรมาบ้าง ตัวเลขเลยได้ เท่านี้

ส่วนการเลือกซื้อรถยนต์คุณก็ไม่ควรจะใช้เว็ปนี้เป็นที่อ้างอิงอย่างเดียว ควรไปลองเองแล้วคอยสังเกตุหน้าจอเอา อย่างผมไปเทส accord hybrid เห็นหน้าจอบริโภคนำ้เฉลี่ย 14 โลลิตร จากระยะทาง 100 กว่าโล ก็พอจะสรุปคร่าวๆ ได้ว่าประหยัดจริง เพราะรถเทสส่วนมากคนชอบขับเหยียบแบบเต็มๆ เท้า

สุดท้ายเว็บเขาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับค่ายรถ ดังนั้นไม่มีความจำเป็นอะไรที่เขาจะโม้ตัวเลข

เขียนไปเขียนมาเหมือนอวยเว็บนี้ แต่จริงๆ อยากให้มองเป็นกลางๆ มากกว่า

ข้อความนั้นผมพิมผิด ดูความที่ผมพิมบนมือถือ note4 ซึ่งไม่ได้สะดวกในการตรวจทานคำที่พิมพ์ แต่อย่าเอาแค่คำที่พิมพ์ผิดมาตัดสินคนขนาดนั้นครับ

คำตรงนั้นผมจะเขียนว่า วิ่งนอกเมืองแบบที่เว็บนี้เทสได้ 16km/l

เรื่องที่คุณว่าปกติ อย่าบอกว่าปกติ ถ้าคุณยังไม่เคยได้เป็นเจ้าของ ford fiesta  teana2500 v6 และ jazz 1500 แล้วลองเทียบดู
เพราะของแบบนี้ไม่เจอกับตัว คุณจะคิดว่า มันจะเป็นไปได้หรือ หรือมันปกติแบบที่คุณยกตัวอย่างนั่นแหละ เพราะจริงๆมันควรเป็นแบบที่คุณว่าน่ะถูกต้องแล้ว  แต่อะไรที่ผมถึงบอกว่าผิดปกติล่ะ คุณต้องคิด
แต่ตัวอย่างที่คุณบอกว่าคุณวิ่งc300เหลือแค่ 7-8 กิโลลิตรแล้วถ้า fiesta มันเหลือแค่1-2คุณจะว่ายังไง


เป็นไปได้ถ้าใครไม่เชื่อ ผมก็ขายนะเฟียสต้าน่ะคันนี้ สนใจก็มาซื้อต่อได้ยินดีขาย ให้เอาไปลองกันเลย

เอาเถอะครับ ผมไม่อย่าเถียงเอาเป็นเอาตายหรอก แต่ใครคิดว่ายังไงก็ช่าง เอาเป็นว่า เมื่อดูแล้วไม่สะท้อน ผมก็บอกแค่นี้แหละ ไว้วันนึงคุณเจอแบบผมเองก็แล้วกัน จ่ายได้ก็จ่ายกันไปครับ ไม่ว่ากัน
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: DriveOnly ที่ กันยายน 29, 2015, 07:58:33
ถ้ามันกิน 1 - 2 โลลิตรในเมืองมันถือว่าผิดปกติมากๆ ครับ แต่ใช้รถแล้วไม่มีความสุขผมว่าขายทิ้งถูกแล้ว รถรุ่นนี้ชื่อเสียงโด่งดัง แต่ตอนแรกพี่ไม่พิมพ์บอกงี้ คนอื่นก็จะพาลเข้าใจหมด

ปล บ้านเคยมี jass ตัวแรก, vios 2007, accord g7 v6, nissan march, altis 2010
ผมเข้าใจว่าขับในเมืองต่อให้รถอะไรสำหรับผม ผมขับได้ต่ำกว่า 10 โลลิตร ยกเว้น แจ๊สกับมาช
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ กันยายน 29, 2015, 08:25:24
ยังงงๆไม่หาย เท่าที่จับใจความได้คือวิ่ง 110 นอกเมืองได้ 16 โลลิตรแต่วิ่งในเมืองกินเท่า teana j32 2500 v6 ใช่มั๊ยครับ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไม่เห็นเกี่ยวกับทางเวปตรงไหนเลยเค้าทดสอบแต่วิ่ง 110 ความเร็วคงที่น้ำมัยก็ 95 ถ้าวิ่งในเมืองคลานๆหยุดๆเบรคๆเร่งๆได้ต่ำ 10 ก็ไม่แปลกนี่นาแล้วมันไม่ make sense ตรงไหนเนี่ย รึมีประเด็นอะไรที่สื่อออกมาไม่ครบครับ


ป.ล. วีออสน้องที่โรงงานผมยืมมาใช้บ่อยๆ วิ่งทางไกลอย่างเดียวได้ 14.5 วิ่งในเมืองนอกเมืองสลับกันไปได้ 12 ในเมืองอย่างเดียว 8  ผมไม่เห็นว่าผิดปกติอะไรนะ
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: nl2br ที่ กันยายน 29, 2015, 09:14:25
ขับในเมืองกับขับแบบความเร็วแทบจะคงที่ จะเอาไปเทียบกันได้ไงครับ ถามคุณ Newhang หน่อยครับ เคยขับ fiesta วิ่งนอกเมืองความเร็วคงที่ 110 km/h ได้อัตราบริโภคเท่าไหร่ครับ
ต่างจากที่ hlm ทดสอบมากมั๊ยครับ แล้วเคยลองเข้าไปในคลับ fiesta มันกินจุแบบคันของคุณหรือเปล่า
ส่วนการทดสอบแบบ จขกท ผมว่ายาก แค่นี้ทีมงานก็ไม่ได้หลับได้นอนแล้วครับ สงสารทีมงานครับ
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: J!MMY ที่ กันยายน 29, 2015, 13:14:27
เฮ้อ.....

พี่แพน เขียนอธิบายให้คุณได้อ่านกันไว้หมดแล้ว

ดังนั้น

ผมจะไม่ทำการทดลอง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในเมืองให้โดยเด็ดขาดครับ!
แค่ ขับ โหมด 110 คุณต้องใช้เวลาไปแล้วตั้งแต่ 2 ชั่วโมงขึ้นไป ถ้าเติมแบบไม่เขย่า
แต่ถ้าเขย่ารถ จาก 4 ทุ่ม จบ ตี 4 ครึ่ง ก็มีมาแล้ว ดังนั้น ถ้าทดลองแบบในเมือง
การขับแต่ละคนไม่เหมือนกัน ในเส้นทางเดียวกันแต่ละวัน สัญญาณไฟจราจร
ยังขึ้นไม่เหมือนกันเลย ในเวลาเดียวกันเป๊ะ ก็ตาม ดังนั้น เอามาเทียบกันไม่ได้ครับ
เวลาในการยืมรถคันนึงมา มันไม่เท่ากัน บางคันได้แค่ 3 วัน บางคันได้สัปดาห์นึง
งานในแต่ละสัปดาห์ผมก็มีมาก จะให้ทดลองกันถึงขนาดนั้น เป็นไปไม่ได้ครับ

ส่วนคุณ NewHang นั้น ผมว่าคุณสุดโต่งไปครับ

ในรีวิว Fiesta ผมได้ทำรูปให้คุณดูไว้แล้วด้วยว่า
การใช้งานในเมืองหนะ มันกินน้ำมันอยู่นะ
เพราะผมก็เขียนไว้ในรีวิวชัดเจนว่า
แล่นได้ระยะทาง 390 กิโลเมตร  ไฟเตือนน้ำมัน ก็โผล่ขึ้นมาแล้ว

แต่ถ้าคุณยังยืนกรานว่าไม่เชื่อถือในผลการทดลองของเรา ก็ไม่เป็นไรครับ
นั่นเป็นสิทธิ์ของคุณ เราไมได้ขอให้คุณเชื่อเรา แต่ เราทำตัวเลขออกมาให้คุณได้ดู
ว่า ขับทางไกล จะได้ัตัวเลขประมาณนี้ เราไม่ได้ระบุว่า เป็นการขับในเมือง

ขับรถในเมือง ยังไงๆ ก็กินกว่า ขับทางไกล อยู่แล้วครับ นี่เป็นเรื่องพื้นฐานเลยละ!
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: MoO Cnoe ที่ กันยายน 29, 2015, 13:40:55
Specification ถังน้ำมัน Ford Fiesta ขนาด 43 ลิตร

FYI คิดแบบหลวมๆ สมมติว่า : Combined mode วิ่งสลับทั้งในเมืองและนอกเมือง
ใน 1 ถัง วิ่งจนไฟเตือนขึ้นได้ 390 กิโลเมตร หารด้วย 43 ลิตร = 9.06 km/l
วิ่งในเมืองอย่างเดียวก็คงได้ต่ำกว่านี้ ข้อมูลที่ให้ก็น่าจะครอบคลุมอยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: off_033 ที่ กันยายน 29, 2015, 13:45:02
fiesta ทางไกล 17 โลลิตร วิ่ง 100-180 สลับๆกัน
         ในเมือง+ทางด่วน 10-11 โลลิตร
         ในเมืองติดสุดๆ 20 กิโลเมตร ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 8-9 โลลิตร
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมัน
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ กันยายน 29, 2015, 13:54:13
ไม่ต้องทดสอบอัตราสิ้นเปลืองในเมืองหรอกครับเพราะทั้งเสียเวลามากมายและสภาพการจราจรก็ไม่แน่นอนด้วยครับ ขอให้สมาชิกเข้าใจความจำกัดของทีมงานด้วยเถอะครับ ถ้าจะรีวิวในเมืองก็ให้พวกเราเอามาลงให้ดูกันจะดีกว่าครับ
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: gnext ที่ กันยายน 29, 2015, 16:01:30
ถ้ามันกิน 1 - 2 โลลิตรในเมืองมันถือว่าผิดปกติมากๆ ครับ แต่ใช้รถแล้วไม่มีความสุขผมว่าขายทิ้งถูกแล้ว รถรุ่นนี้ชื่อเสียงโด่งดัง แต่ตอนแรกพี่ไม่พิมพ์บอกงี้ คนอื่นก็จะพาลเข้าใจหมด

ปล บ้านเคยมี jass ตัวแรก, vios 2007, accord g7 v6, nissan march, altis 2010
ผมเข้าใจว่าขับในเมืองต่อให้รถอะไรสำหรับผม ผมขับได้ต่ำกว่า 10 โลลิตร ยกเว้น แจ๊สกับมาช

การทดสอบการกินน้ำมันคือทดสอบรถวิ่ง ไม่ได้ทดสอบเครื่องยนต์กับแอร์หรือออพชันอื่นๆในรถ

สมมติผมทำรถขึ้นมาคันนึง ใส่เครื่องยนต์ที่ให้Torqueมากกว่าไฟฟ้า ใส่เครื่องเสียงกระหึ่มจากจีน เสาวิทยุSuper Boost ใส่ bluetooth ถูกๆ รถมีระบบ auto blah blah blah
แล้วผมใส่แอร์ให้ทำงานดีที่ส่วนต่างประมาณ 5-10 องศา ทำช่วงล่างดีๆ ใส่เพลาใส่ล้อและระบบขับเคลื่อนเนียบๆดีๆ เทสยังไง ระบบไหนมันก็กินน้ำมันน้อย

แต่พอเอาไปขับในเมือง ติดเครื่องยนต์อยู่เฉยๆเอาน้ำมันไปเลี้ยงเครื่องใช้ไฟฟ้า เปิดแอร์23ขณะที่ข้างนอก 40+5(รถติด) ยังไงมันก็กิน

ตรงนี้ไม่มีใครเทสให้หรอกครับ ออพชั่นหลากหลาย เทสยังไงก็เทียบกันไม่ได้
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: AT ที่ กันยายน 29, 2015, 16:19:35
เรื่องจริงครับ ปัจจุบันผมเลิกดูการทดสอบน้ำมันของเว็บไปแล้ว เนื่องจากทำผมซื้อรถผิดพลาดอย่างรุนแรงหลายครั้ง

ไม่ได้หมายความว่าการทดสอบผิดพลาดหรือไม่จริงนะครับ แต่มันดูค่าเดียวไม่ได้จริงๆ
ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าต้องดูยังไง ถึงจะไม่ผิดอีก และผมไม่ดูของเว็บนี้อีกแล้วครับ

ส่วนใครจะบอกว่าเทสไม่ใช้จำนวนชั่วโมง ผมเองไม่ติดใจตรงนั้น เพราะจะไม่เทสก็ไม่ว่าอะไรกันครับ

อันนี้ความเห็นส่วนตัวจริงๆ พูดแบบตรงๆ ไม่เอาใจเจ้าของเว็บ หรือใคร เพราะคนซื้อรถผิดแล้วเจ็บคือตัวผมเอง แต่ในใจก็ไม่อยากให้ใครซื้อผิดแบบผมเพราะดูค่าตรงนี้แล้วผิดพลาด

ค่าถ้ามันดูไม่ได้ เขย่าถังยังไงก็ซื้อผิดอยู่ดีครับ
ขอประทานโทษจริงๆ
เอาเป็นว่าใครจะซื้อรถเพราะดูค่าตรงนี้แล้งเอาเทียบกัน ผมว่าพลาดอย่างแรงแบบที่ผมเจอ

พลาดยังไงหละครับ พอจะบอกกล่าวได้มั๊ยที่เล่าให้ฟังแค่นี้นึกภาพไม่ออกจริงๆครับ มาแค่นี้เหมือนตีหัวเข้าบ้านเลย งงๆกันไป  ถ้าให้เดาทางเว็ปเค้าวิ่งนิ่งๆ 110 แต่คุณเอาไปวิ่งในเมืองแล้วมันกินแหลกรึเปล่า

ผมไม่อยากเปิดประเด็นมาก เดี๋ยวมันบานปลาย ไม่ใช่ตีหัวเข้าบ้าน

ไหนๆหลายท่านก็สงสัยว่ามันคืออะไร และเดี๋ยวว่าผมงั้นงี้อีกคิดไม่ดีกับเว็บอีก

คันแรกคือ ford fiesta 1.6s 5ประตู ปี2011
คันนี้เทสในเมือง 110 เปิดแอร์ ได้ 16km/l น่าจะ best in the class ยุคนี้เลย
แต่ผมวิ่งในเมือง กินเท่าteana j32 2500 v6 เลยครับ
เป็นรถ2บุคลิก  จริงๆ
ผมซื้อรถเครื่อง 1600 แต่ต้องมาจ่ายน้ำมัน แบบ2500ที่กินที่สุดในclass ยุคนั้น  มันใช่เรื่องเหรอครับ

ส่วนคันอื่นผมขอไม่พูดถึง เดี๋ยวมันจะลามไปเรื่องอื่นเยอะ
เอาที่ผมโดนชัดๆแล้วกันให้นึกภาพออกก็แล้วกัน
บอกตรงๆผมแทบจะไม่ดูอีกเลย ผมต้องเลือกดูอัตราสิ้นเปลืองจากแหล่งอื่นแทน แต่หากในเว็บปรับเปลี่ยนได้ ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ

สำหรับใครไม่เจอกับตัวก็ดีครับ ผมก็ถือว่าเป็นอุทหรณ์ให้กับท่านอื่นว่าอย่าพลาดแบบผม ส่วนตัวผมก็มีเงินจ่ายค่าน้ำมัน แต่ถ้าคนที่เลือกรถได้คันเดียว และต้องใช้โดยไม่อาจจะเปลี่ยนรถได้ ผมมันมันเผาเงินทิ้งไปเยอะ ทั้งผ่อนค่ารถและจ่ายค่าน้ำมัน ผมซื้อรถปี 2011 ผ่านยุคน้ำมันแพง ผมหมดเงินไปเท่าไหร่ในส่วนตรงนี้

ถามว่าผมใส่ใจอัตราสิ้นเปลืองมากมั๊ย  ถ้าไม่พลิกล๊อคก็คงไม่เท่าไหร่ อย่ามากก็ผิดหวัง แต่หน้ามือเป็นหลังมือมันก็ใช่เรื่องซะที่ไหน
มันไม่ make sense


ปล. การซื้อรถผิด หรือพลาด เป็นความผิดของผมเอง ไม่ได้โทษเว็บแต่อย่างใดครับ 
แค่แสดงความเห็นว่า ควรทดสอบอัตราสิ้นเปลืองในเมือเพิ่มเข้าไปด้วย  ใจผมคิดว่าแบบ combine mode ไม่สามารถบอกอะไรเกี่ยสกับรถได้ชัดเจนเท่า
110  กับในเมืองจริงๆไปเลย จะเห็นผลชัดเจนครับ

แค่ประโยคที่ผม highlight ก็ผิดแล้วนะครับ เท่าที่อ่านดู พี่เขาวิ่งยาวๆประมาณ 90 กิโลเมตรลอยตัว วนเติมนำ้มันกับขึ้นทางด่วนประมาณ 3 กิโล มันเรียกวิ่งในเมืองไม่ได้นะครับ อีกอย่าง รถที่ทดสอบจะเติม 95 ตลอด ซึ่งผมเคยทดสอบเหมือนกันหลายถังมากๆ กับ vios เติมเวลา 95 จะวิ่งได้ระยะทางไกลกว่า e10

ถ้าคุณไม่เชื่อต้องลองไปวิ่งเส้นทางเดียวกับเขาดู แล้วดูว่าตัวเลขมันเว่อเกินจริงไหม
ขับในเมือง โดยเฉพาะกรุงเทพ การกินนำ้มันได้ตำ่กว่า 10 โลลิตร ถือเป็นเรื่องค่อนข้างปกติ

ขนาดผมขับ c300 วิ่งทางไกล ชิวๆ เรื่อยๆ เร่งแซงบ้าง ความเร็ว 110 - 140 กินนำ้มัน 20 - 22 โลลิตร
แต่พอขับเข้าเมืองเท่านั้นแหละ (10 กิโล ใช้เวลา 1.30 ชั่วโมง) กินนำ้มัน 7 - 9 โลลิตรเลย ซึ่งตัวแปลพวกนี้มันทดสอบยาก วันดีคืนดีรถติดมาก บางทีเจอคนขับหน้าชอบเบรคๆ เหยียบๆ บางวันเจอรถแซงบ่อย บางวันต้องเร่งแซงให้หลุดไฟแดง บางวันติดมันทุกไฟแดง ปัจจัยเหล่านี้เวลามาเขียนรีวิว มันอธิบายยากนะครับ ว่าคนขับไปเจออะไรมาบ้าง ตัวเลขเลยได้ เท่านี้

ส่วนการเลือกซื้อรถยนต์คุณก็ไม่ควรจะใช้เว็ปนี้เป็นที่อ้างอิงอย่างเดียว ควรไปลองเองแล้วคอยสังเกตุหน้าจอเอา อย่างผมไปเทส accord hybrid เห็นหน้าจอบริโภคนำ้เฉลี่ย 14 โลลิตร จากระยะทาง 100 กว่าโล ก็พอจะสรุปคร่าวๆ ได้ว่าประหยัดจริง เพราะรถเทสส่วนมากคนชอบขับเหยียบแบบเต็มๆ เท้า

สุดท้ายเว็บเขาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับค่ายรถ ดังนั้นไม่มีความจำเป็นอะไรที่เขาจะโม้ตัวเลข

เขียนไปเขียนมาเหมือนอวยเว็บนี้ แต่จริงๆ อยากให้มองเป็นกลางๆ มากกว่า

ข้อความนั้นผมพิมผิด ดูความที่ผมพิมบนมือถือ note4 ซึ่งไม่ได้สะดวกในการตรวจทานคำที่พิมพ์ แต่อย่าเอาแค่คำที่พิมพ์ผิดมาตัดสินคนขนาดนั้นครับ

คำตรงนั้นผมจะเขียนว่า วิ่งนอกเมืองแบบที่เว็บนี้เทสได้ 16km/l

เรื่องที่คุณว่าปกติ อย่าบอกว่าปกติ ถ้าคุณยังไม่เคยได้เป็นเจ้าของ ford fiesta  teana2500 v6 และ jazz 1500 แล้วลองเทียบดู
เพราะของแบบนี้ไม่เจอกับตัว คุณจะคิดว่า มันจะเป็นไปได้หรือ หรือมันปกติแบบที่คุณยกตัวอย่างนั่นแหละ เพราะจริงๆมันควรเป็นแบบที่คุณว่าน่ะถูกต้องแล้ว  แต่อะไรที่ผมถึงบอกว่าผิดปกติล่ะ คุณต้องคิด
แต่ตัวอย่างที่คุณบอกว่าคุณวิ่งc300เหลือแค่ 7-8 กิโลลิตรแล้วถ้า fiesta มันเหลือแค่1-2คุณจะว่ายังไง


เป็นไปได้ถ้าใครไม่เชื่อ ผมก็ขายนะเฟียสต้าน่ะคันนี้ สนใจก็มาซื้อต่อได้ยินดีขาย ให้เอาไปลองกันเลย

เอาเถอะครับ ผมไม่อย่าเถียงเอาเป็นเอาตายหรอก แต่ใครคิดว่ายังไงก็ช่าง เอาเป็นว่า เมื่อดูแล้วไม่สะท้อน ผมก็บอกแค่นี้แหละ ไว้วันนึงคุณเจอแบบผมเองก็แล้วกัน จ่ายได้ก็จ่ายกันไปครับ ไม่ว่ากัน

มีบางยี้ห้อโฆษณาอัตราสิ้นเปลือง น้ำมันถังเดียว "เชียงใหม่-ปาดังเบซาร์ "   แนะนำว่าให้ใช้รุ่นนี้นะครับ
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: I-Am-Mixx ที่ กันยายน 29, 2015, 16:25:28
ผมก็ไม่รู้ว่า คนอื่นคิดยังไง.........

แต่ข้อมูลที่พี่แพนกับพี่จิมมี่ นำเสนอก็ใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจได้ส่วนนึง
คงไม่สามารถที่จะตอบทุกประเด็นที่เราอยากจะทราบได้

อีกอย่างมันเป็นงานฟรี ที่เราไม่ได้เสียเงินอ่านหรือชม
แค่นี้ก็ถือว่ามากและเพียงพอแล้วครับ ^^
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กันยายน 29, 2015, 16:28:07
ผมแนะนำ

ติดเครื่อง เปิดแอร์เต็มที่ เครื่องเสียงเต็มร้อย
ทิ้งไว้ 3 ชม

อย่าหา อัตราสิ้งเปลือง รถติด
แต่หาอัตราสิ้นเปลือง  เดินเครื่องทิ้งไว้เฉยๆ ง่ายกว่าเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แต่ใครจะบ้าทำ
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: digitalss ที่ กันยายน 29, 2015, 17:14:48
ผมว่าคุณจิมเค้าก็บอกวิธีการทดสอบโดยละเอียดแล้วนะ
ก็ควรเข้าใจว่าเป็นไม้บรรทัดที่ความเร็ว 110 km/hr
เพื่อให้เปรียบเทียบคร่าวๆที่ความเร็วนี้กับรถทุกประเภท
ไม่ใช่เอาไปเทียบตอนรถติดอยู่ในเมือง ยิ่งรถ hybrid จะยิ่งคลาดเครื่อนกันไปใหญ่
ถ้าอยากได้ช่วงรถติด ผมชอบไปอ่านในคลับรถเอาอะ ได้ค่าหลากหลายดี
หัวข้อ: Re: เป็นไปได้มั้ยครับที่การทดสอบประหยัดน้ำมันจะแยกระหว่างการขับรถในเมือง/นอกเมือง
เริ่มหัวข้อโดย: Poppuri ที่ ตุลาคม 03, 2015, 16:23:29
ถ้าแบบนั้นผมว่าผมเชื่อพวกยูเซอร์รีวิว หรือไม่ก็เลขตามโรงงาน(ซึ่งก็ไม่รู้จะเมคมาหรือเปล่า)

แต่ก็นั่นแหละ เงื่อนไขมันคุมยาก นอกซะจากทางเจ้าของเว็บต้องมีไดโน่และปั๊มในสถานที่ทดลองก็ว่าไปอย่าง...