Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: shipcake ที่ พฤศจิกายน 13, 2015, 09:59:45
-
ตามนั้นครับ จริงๆแล้ว ecocar ควรจะขับไปต่างจังหวัดจริงๆหรอ
-
มันใช้งานทดแทนรถใหญ่ในการโดยสารไปต่างจังหวัดได้นะครับตราบเท่าที่เจ้าของรถไม่ใช้งานเกินขีดจำกัดของมัน :-X ยกตัวอย่างเช่นอีโคคาร์มีอัตราเร่งแซงที่น้อยกว่ารถที่มีความจุมากกว่าแต่กลับขนคนจำนวนมากบรรทุกคนไป5คนท้ายรถของเต็มพื้นที่บรรจุแล้วเร่งแซงบ่อยๆแล้วมาบอกว่าอีโคคาร์ไม่แรงเร่งแซงไม่ทันใจ :-[ หรือไม่ก็เอาอีโคคาร์ไปแล่นทางตรงๆโล่งๆที่ความเร็ว140-160หรือเอาที่เฉียดๆความเร็วสูงสุดที่มันจะทำได้แล้วบอกว่าอีโคคาร์ทรงตัวห่วยขับแล้วมันแกว่งไปมา :o
-
คงเหนื่อยกว่า ในลักษณะของ ควาไม่ได้ดั่งใจของตัวรถเนื่องด้วยพละกำลัง และ การทรงตัว มากกว่าครับ
แต่ถ้ารู้จักรถ ควบคุมรถเป็น มันก็ไม่ได้เหนื่อยอะไร ทั้งคนขับและผู้โดยสารครับ
เพียงแต่ความสะดวกโอ่โถงอ่าจจะไม่เท่ารถแพงๆ
พอดีว่าผมก็ไม่เคยใช้รถแพงนั่งทางไกลเป็นของตัวเอง ได้แต่นั่ง ก็อย่างที่บอกข้างบนครับ แต่ดีกว่ากระบะ เพราะมันไม่โยกเยกเท่ากระบะ ( รถเดิมๆด้วยกัน )
ที่ถามนี่คือกังวลว่า ถ้าซื้อมาแล้วจะเหนื่อยเวลาขับหรือเปล่าครับ ;D
-
ตอนได้มามีแต่คนถามแบบนี้ ผมเลยทดสอบวิ่งเลย
ภูเก็ต -ตรัง - ฉะเชิงเทรา
พักที่แปดริ้ว1วัน เข้ามาทำธุระกรุงเทพ1วัน
กลับภูเก็ต กรุงเทพ-ตรัง-ภูเก็ต ระยะทางไม่ต้องห่วง ด้วยรถอีโคคาร์
เหมื่อยไหม เหมื่อยครับ สั้นๆเลย
รถไหวไหม ไหวครับ แต่พอถึงจุดๆนึง เบรคมันเหมือนเอาไม่อยู่ เหยียบไม่อยู่
ผมขับหยุดพักแค่เติมน้ำมัน ยิงยาวตลอด พักไม่เกิน10นาทึ
ใจถึงก็ไปถึง แต่ทรมานตรงหลุมนี่แหละ
นั่งขับนานๆ ปวดเอว ปวดหลัง ปวดใหล่
-
ถ้าเหนื่อยในเรื่องของความสะดวกสบาย ก็แน่ล่ะ รถเขาทำมาแบบประหยัด ที่นั่ง ขนาดมันก็ต้องตามสมควร
ถ้าเรื่องสมรรถนะ ก็แน่อีกเช่นกัน รถเขาเครื่องเล็กเน้นประหยัด ก็แค่ขับแบบปรู้ดปราดไม่ได้ แต่ถ้าวิ่งแบบรู้ตัวมีสติก็ไปต่างจังหวัดสบายๆ
ถ้ามันดีเฟอเฟ็ก มันคงมีราคาอีกแบบนึก คุณเข้าใจน้อ?
รถแพงกว่าไม่ใช่แค่ขนาดมันใหญ่กว่านะ หลายๆ สิ่งมันก็ดีไปตามราคาล่ะ เข้าใจน้อ?
-
ตอนนี้ก็เพิ่งออกมาร์ชมาใช้ใหม่ครับ กะผ่อนยาว 5 ปีกว่าจะหมดคงเรียนจบทำงานอีก 4ปี ปกติชอบครับ เติมน้ำมัน e20 300 วิ่งได้ชิวๆ เลยครับ แต่รู้สึกน้อยใจนิดๆที่ว่าทำไมไม่เอาพวก วีออส ซิตี้ แจ้สตั้งแต่แรก เพราะนั่งขับแล้วรู้สึกสบายตรูดมากๆเลย
-
เหนื่อยกว่าแน่นอน
ถ้าวิ่ง 80 ตลอดทางไม่รีบก็เหนื่อยน้อยหน่อย
คำว่าเหนือ่ย ผมมองว่ามันล้า
ล้าเกิดจาก เสียงที่ดัง รบกวน, ความสั่นสะเทือน ความนุ่มนวล ของช่วงล่าง
ความมั่นใจของพวงมาลัย ไม่ต้องมานั่งเกรง จดจ้อง โฟกัส กับการควบคุม
-
รถแพงๆที่ว่ามันคือรถอะไรล่ะครับ
ถ้ารถที่แพงกว่ามันดันเป็น mini cooper s
หรือ a250 amg ความเหนื่อยล้าไม่ต่างกันครับ
ดีไม่ดี A250amg จะเหนื่อยกว่าด้วยครับ
ถ้ารถพี่แพงกว่าคือ segment ที่เหนือกว่าล่ะก็
ยังไงก็สบายกว่า eco car แน่ๆครับ ecocar
มันไปได้ทั่วไทยล่ะครับ แต่ต้องเผื่อไว้เยอะหน่อย
สมาธิเยอะหน่อย ความเหนื่อยล้าย่อมต้องมีมากกว่า
เป็นธรรมดาครับ
-
mazda2 1.3 sky ก็อีโค่คาร์นะครับ เก็บเสียงดีกว่ารถใหญ่ด้วย บรรยากาศห้องโดยสารก็หรู(บุหนัง) เครื่องเสียงก็พอตัว สบายกว่ารุ่นใหญ่หลายรุ่นแน่ๆ
แต่ต้องอย่าบรรทุกเยอะตามท่านอื่นว่า
สรุปก็อยู่ที่ราคาแหละครับ ถูกๆแต่ดีนั้นหายาก จะให้ไปชนะของแพงได้ยังไง
ประเด็นมันอยู่ที่เราพอใจและมีกำลังจ่ายถึงตรงไหน
-
ตอนนี้ก็เพิ่งออกมาร์ชมาใช้ใหม่ครับ กะผ่อนยาว 5 ปีกว่าจะหมดคงเรียนจบทำงานอีก 4ปี ปกติชอบครับ เติมน้ำมัน e20 300 วิ่งได้ชิวๆ เลยครับ แต่รู้สึกน้อยใจนิดๆที่ว่าทำไมไม่เอาพวก วีออส ซิตี้ แจ้สตั้งแต่แรก เพราะนั่งขับแล้วรู้สึกสบายตรูดมากๆเลย
City Jazz Vios ก็สบายตูดแค่ในเมืองครับ ออก ตจว ก็เมื่อยมากกกกกก เหมือน Eco car แระ
-
ผมยังไม่เคยลองรถ ECO นะ แต่เคยขับพวก Jazz ตัวก่อน (รถเช่า) ขับวิ่งวนเที่ยวเหนือ เชียงใหม่-ลำปาง-แพร่-น่าน-พะเยา
ก็ไม่ได้รู้สึกเมื่อยอะไรมากมาย อาจเป็นเพราะเบาะมันเข้ากับสรีระผมก็ได้ อีกอย่างคือผมไม่ได้ขับเร็วหรือทำเวลา เจอโค้งก็เข้าเร็วกว่าป้ายบอกนิดเดียว เจอทางกระเทือนก็มีชะลอ
อีกครั้งเคยลองเอา Civic FD วิ่งเที่ยวอินทนนท์-เชียงใหม่-ฝาง-อ่างขาง-แม่สลอง กลับรู้สึกเพลียกว่าทั้งๆที่ใช้เวลาเที่ยวพอๆกัน อาจเป็นเพราะเบาะมันแข็งกว่าและช่วงล่างมันตึงตังกว่า
ล่าสุดเอา XV (อันนี้นับเป็นรถแพงรึยัง)ขึ้นไปเหนือวิ่งคล้ายๆกับที่เคยไปมา ไม่ค่อยมีอาการเพลียแต่กลับรู้สึกเมื่อยมากกว่า (คงเป็นที่เบาะนั่ง)
ผมเลยรู้สึกว่ารถที่ขับทางไกลสบายๆมันไม่ได้ขึ้นกับราคารถโดยตรง แต่ขึ้นอยู่กับ............
-ช่วงล่าง และการทรงตัวรถ ถ้าไม่กระเทือนแรง+ทรงตัวดีก็ทำให้ขับสบาย
-เบาะนั่ง ถ้าเหมาะกับสรีระมันก็ไม่เมื่อยมาก
-ขนาดห้องโดยสาร ถ้าเล็กไปก็อึดอัด
-แอร์ ถ้าตั้งระดับความเย็นไม่เหมาะสม บางทีทำให้ไม่สบายได้นะ
แต่ถ้าเทียบรถ Ecocar แบบสุดโต่งกับพวก C-Class หรือ Serie3,5 คงไม่มีใครบอกว่า Ecocar นั่งสบายกว่าแน่ๆล่ะ
-
ตอนได้มามีแต่คนถามแบบนี้ ผมเลยทดสอบวิ่งเลย
ภูเก็ต -ตรัง - ฉะเชิงเทรา
พักที่แปดริ้ว1วัน เข้ามาทำธุระกรุงเทพ1วัน
กลับภูเก็ต กรุงเทพ-ตรัง-ภูเก็ต ระยะทางไม่ต้องห่วง ด้วยรถอีโคคาร์
เหมื่อยไหม เหมื่อยครับ สั้นๆเลย
รถไหวไหม ไหวครับ แต่พอถึงจุดๆนึง เบรคมันเหมือนเอาไม่อยู่ เหยียบไม่อยู่
ผมขับหยุดพักแค่เติมน้ำมัน ยิงยาวตลอด พักไม่เกิน10นาทึ
ใจถึงก็ไปถึง แต่ทรมานตรงหลุมนี่แหละ
นั่งขับนานๆ ปวดเอว ปวดหลัง ปวดใหล่
อาการเดียวกันเลย
-
อยู่ที่สรีระคนเราด้วยครับ ว่าตัวใหญ่ตัวเล็ก
อย่างผมตัวใหญ่สูง 185 นั่ง altis นานๆ ยังเมื่อยเลย พอไปขับ camry กลับรู้สึกสะบายมาก
พวก eco นี่อึดอัดมาก
ถ้าตัวเล็ก ก็คงไม่เห็นผลเท่าไร ขับคันไหนก็พอได้หมดแหละ
-
ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อยครับ
ถามว่าสู้หาเงินมาหลายแสนเพื่อเปลี่ยนเป็นรถคันใหญ่กว่านี้ ผมว่าเหนื่อยกว่ากันมาก
ถ้าไม่ได้ขับทางไกลบ่อยๆ ทนๆ ไปเถอะครับ
-
เหนื่อยกว่าแน่นอน
ถ้าวิ่ง 80 ตลอดทางไม่รีบก็เหนื่อยน้อยหน่อย
คำว่าเหนือ่ย ผมมองว่ามันล้า
ล้าเกิดจาก เสียงที่ดัง รบกวน, ความสั่นสะเทือน ความนุ่มนวล ของช่วงล่าง
ความมั่นใจของพวงมาลัย ไม่ต้องมานั่งเกรง จดจ้อง โฟกัส กับการควบคุม
+1000
จากประสบการณ์ที่เคยขับรถทั้งหลักแสนและหลักล้าน ถ้ารถมันโหวงๆหวิวๆ กระเทือนมากๆ ต้องใช้สมาธิควบคุมมากๆ
ขับทางไกลนี่เหนื่อยสุดๆครับ
รถราคาแพงจะช่วยในส่วนนี้ได้เยอะครับ.....
-
ผมวิ่ง โขทัย ชัยนาท ขาละ 300 กม.บ่อยๆ
หลักใช้ อัลมีร่า เพราะเครื่องมันเงียบ พวงมาลัยเบา ประหยัดดี
มีอีสุ ดีแมกซ์ แค๊บ 2500 ปี 2008 บางครั้ง
บางครั้งก็วีโก้แช้มป์ 4ประตู ขับสี่ 2500-144ม้า
บางครั้งอาจจะบิ๊กเอ็ม ตอนเดียว TD27
ผมไม่พบว่าอีโค่คาร์ทำให้การขับขี่ย่ำแย่อะไรนะ ไปสบายๆ เข้าใจรถ ก็ไม่เครียด
กระบะผมว่าเมื่อกว่า สะเทือน พวงมาลัยหนัก เลี้ยวแรงๆโยนตัวมาก เบรคหยุดใช้ระยะทางมากกว่าเก๋ง
เรื่องเกียร์ธรรมดา กับ ออโต้ ไม่มีผลกับผม
สรุปว่า ผมเข้าใจสภาพของรถ ไม่เหนื่อยเครียดอะไรเรื่องตัวรถ บนท้องถนนผมเหนื่อยกับการขับรถของเพื่อนร่วมทางมากกว่าอีก
-
ตอบเลยครับ
เมื่อยครับ
เหนื่อยครับ
เอวปวด
น่องปวดครับ
คั่นเก่า city 09
ปัจจุบัน
Ford focus mk3 / BMW 3 f30
ต่างกันฟ้ากับเหวครับ
สบายยยยยยยยยยยยยยยยย
-
แค่นั่งรถเพื่อนจากกรุงเทพไปอยุทธยายอมรับว่าเสียวเหมือนกัน วิ่งทางไกลเหมือนช่วงล่างมันแกว่งๆ สิบล้อขับสวนมารถยังส่ายเพราะแรงลมเลยครับ
-
น่าจะเรียกว่าเมื่อยกว่าครับ เพราะเบาะนั่งไม่เหมาะกับการนั่งนานๆ ไกลๆ ทั้งคนนั่งและคนขับแหละครับ
แต่ก็ขับไปได้ทุกที่แหละครับ
-
ตอบ จขกท. เมื่อยกว่า เหนื่อยกว่าครับ แต่จะต่างเเบบมีนัยสำคัญกับรถเเพงๆมั๊ยนั้น ขึ้นอยุ่กับแต่ละบุคคลเลยครับ
ส่วนอีกคำถาม Eco car ควรขับไป ตจว จริงหรือ ข้อนี้ไม่ขอตอบครับ
ควรหรือไม่ควรขับออกตจว. นั้นเเล้วแต่ดุลยพินิจของแต่ละบุคคลเลยครับ
แต่ถ้าถามว่าขับข้ามจังหวัดได้มั๊ย ตอบว่า ได้สบายมากครับ(มอไซค์น่าจะเมื่อยกว่านี้)
ส่วนตัวขับ Eco car (Mirage) ข้ามจังหวัดเป็นกิจวัตรเเทบทุกวันครับ ส่วนรถเเพงๆ(Benz Bmw)
ไม่เคยขับแบบไกลๆครับ
ปล. คันเก่าเป็น Civic FD ครับเมื่อยน้อยกว่าMirage เพราะอัตราเร่งดีกว่า เเซงง่ายกว่า (เกียร์MTทั้งคู่)
อีกคัน Fabia RS อัตราเร่งดีกว่า แซงง่ายกว่า แต่ขับเหนื่อยกว่ามิราจ เพราะต้องขับระมัดระวังกว่า กลัวนู่นนี่ เพราะไม่อยากเคลม อะไหล่หายาก รอนาน
-
ขอบคุณครับ มันก็ตอบยากเนาะ ผมตัวเล็กแต่สูง 180 พอดี นั่งพอดีกับเบาะมาร์ชและสบายมากๆในเบาะของ all vios แต่มันแปลกที่ผมขับ eco car แล้วรู้สึกว่ารถมันขับง่าย ขับคล่องกว่า vios ไม่รู้ทำไม
-
ไม่มี Eco car
แต่ขับ b เทียบกับ c และ suv-c
เทียบกันเลยพบว่า
c สบายกว่า
-
ผมก็ใช้สวิฟท์อีโคคาร์อยู่ เดินทางเกือบทั่วโซนภาคเหนือ ถามว่าเหนือยไหมกับการขับขี่ ถ้าทางเรียบธรรมดา ขับไม่เกินร้อยยี่ ชิวๆครับ ไม่เหมือนเท่าไหร่ แต่ถ้าขับเกินกว่านั้นหรือขึ้นลงดอย อันนี้เหนือยครับ เพราะต้องลุ้นมากกว่ารถเครื่องยนต์ใหญ่กว่านิดนึง
เดินทางไกลๆผมว่ามันไปได้หน่ะแหละครับ ด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ในปัจจุบันไปไหนไปกันครับ แต่จะมาเหนื่อยด้วยรถมันเล็กครับ อาจจะดูไม่มั่นคง เวลาแซงต้องลุ้นต้องดูไลน์ดีๆ ไอ้ลุ้นนี่แหละครับเหนื่อยกว่าขับรถอีก 555
สรุปมันออกแบบเพื่อเดินทางไกลไหม เขาก็ออกแบบเผื่อไว้ละครับ อาจไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักของมันที่ควรจะวิ้งในเมืองมากกว่า
-
ผมขับทางไกลประจำครับ ใช้รถทุกแบบแล้ว ตั้งแต่ eco car ยันรถตัวแรง
รถเล็กๆไม่รู้เป็นไรครับ คือขับแล้วมันเหนื่อยนะ ถึงที่หมาย ลงจากรถแทบจะอยากอาบน้ำนอนเดี๋ยวนั้นเลย มันหมดแรงแบบบอกไม่ถูกจริงๆ ถามว่ามันวิ่งได้ไหม มันไม่มีปัญหาหรอกครับ ถ้าวิ่งในย่านความเร็วที่ควรจะเป็นนะ เช่น ไม่เกิน 100-120 km/h อะไรประมาณนั้น แต่ถ้ากับรถคันใหญ่ๆ ขับแล้วไม่เหนื่อยแฮะ ถึงที่หมายแล้วผมมีแรงนั่งเล่น ทำนู่นนี่นั่นได้อีกซักพักเลย ตอนหลับก็หลับสบาย 5555+
-
จากที่เคยขับอเมสทางไกล เทียบกับซิตี้
1.เหนื่อยกับการบังคับพวงมาลัยครับ รถอีโค จะดิ้นมากกว่า แค่เหยียบเส้นถนนที่เป็นแถบถี่ๆ รถก็ดิ้นจนต้องประคองพวงมาลัยแล้ว
2.เหนื่อยกับการนั่ง เบาะ ที่ไม่สบายเท่า B- Seg
3.เหนื่อยกับการเร่งเซง เพราะเครื่องยนต์กำลังต่ำกว่า ประมาน 20% ทำใต้องเผื่อระยะเยอะว่า และลุ้นมากกว่าเวลาจะแซง
นอกนั้นผมว่ามันไม่ต่างกันเหรอกครับ รถนะมันไปถึงอยู่แล้ว อยู่ที่คนขับนี้แหละอย่าไปโทษรถ เห็นในคลับเค้าก็เอาไปออกทริป ขึ้นเขาลงใต้ไม่เห็นเป็นไรชิลมากๆ
-
8) มันเบาเหมือนขับกระป๋องครับยิ่งตอนรถ18ล้อพ่วงวิ่งแซงนี่มีลุ้นเลยย :'(
-
Eco car ไม่เคยนั่งครับ
เคยนั่งyaris 2012 mt ใส่ตรัสงานไทยมา เปลี่ยนท่อ
รถเพื่อนขับไปเที่ยว ชลบุรี-กาญจนบุรี-ชลบุรี 900กิโล 2วัน
ผมนั่งหน้าคู่คนขับ รู้สึกเหนื่อยๆแบบบอกไม่ถูกครับ
รถมันเล็กด้วย เสียงลมเข้าดัง ถึงตัวรถจะนิ่งๆแต่รู้สึกเหนื่อยๆครับ
ส่วนAltis esport ชลบุรี-กทม-อุบล-กทม-ชลบุรี 1900กิโล 3วัน
นั่งสบายกว่าครับไม่ค่อยเหนื่อย แต่เบาะช่วงกลางหลังค่อนข้างเเข็งครับทำให้ปวดหลังแทนครับ
ทำให้เนื่อยๆในการเดินทางครับ สบายแตกต่างกันชัดเจนอาจเนื่องด้วย ความกว้าง
ช่วงล่าง อัตราเร่ง เสียงรบกวน
ปล.ถ้าต่างsegment ผมว่าต่างแล้วครับ
-
ของผมนอกประเด็นหน่อย ผมว่าต้องดูเป็นรุ่นๆ คันๆไปครับ สำหรับผมไม่ได้ใช้ Eco แต่ใช้ D-seg (j31 v6 , G9 2.4) ขับออกต่างจังหวัด(ชลบุรี พัทยา หัวหิน) รู้สึกเลยว่าเหนื่อยและล้ามากๆๆ บางครั้งเอา ViGO 3.0 prerunner ของเพื่อนขับไป ขับเส้นทางเดียวกัน ความเร็วเฉลี่ยเท่าๆกัน (90-100km/h) แต่ลงจากรถแล้วรู้สึกว่าขับกะบะสบายกว่าเยอะเลยครับ ส่วนรถแพงๆที่เคยลองขับแล้วเหนื่อยก็ 320i F30 ช่วงล่างย้วยๆ ขับแล้วล้าไปหมดเลยครับ
-
ผมขับได้เรื่อยๆ นะครับ march E M/T ขับจากตากฟ้า จ.นครสวรรค์ ไปถึง นครพนม 660 กม. ขับ 100 กม/ชม ก็ไม่เมื่อยมากนะครับ แต่ก็อยากได้รถที่มันมีกำลังสูงกว่านี้ เผื่อจะเหนื่อยน้อยลงครับ
-
ถึงจะเป็น ecocar ก็มีวิธีลดความเหนื่อยล้าเวลาขับนานๆได้ ลองตามนี้...
- หาเบาะ/ผ้ามารองก้นและหลังให้สบายๆ แค่นี้ก็ลดความสะเทือนมาที่ตัวเราได้เยอะ
- ติดฟิลม์เข้มๆ ถ้าช่วยไม่ได้ใส่แว่นกันแดดช่วยก็ยังดี แดดแรงๆทำให้ล้า/เพลียได้ทันที เห็นได้ว่าขับตอนกลางคืนมักจะสบายกว่ากลางวัน
- ดูแลแอร์ให้เย็นฉ่ำๆ
- ลองหาหูฟังแบบครอบหู(ตัดเสียงภายนอกได้ดี)แล้วเสียบสายฟังเพลงที่ชอบ การขับแบบนี้เสี่ยงต่อการไม่ได้ยินเสียงภายนอกก็จริงแต่รื่นรมย์กับการขับขี่ได้ตลอดเวลาที่ขับ
ผมทำแบบนี้เวลาต้องนั่ง/ขับรถเล็กๆ ถ้าได้ลองแล้วจะรู้ว่าสบายขึ้นต่างกันแบบฟ้าดิน
-
ผมขับ Fiesta ecoboost ผมว่าเมื่อยกว่า March อีกนะครับ ไม่ได้ไปไกล ไปแค่อยุธยา
-
ผมใช้มาร์ช VL อยู่ครับ พอถึงเดือนหน้าก็ครบ 5 ปีแล้ว
เหนื่อยตอนเร่งแซงครับ คือ พอได้จังหวะแซงผมก็แซงไปปกตินะ แต่บางครั้งคันหลังที่แซงตามมา ก็มาแบบดันหลังรถมาก บางคันเปิดไฟสูงบอกให้เรารู้ตัวบ้าง บีบแตรบ้าง จนทุกวันนี้ จะออกตัวแซงผมก็ต้องดูรถที่ขับตามผมมาก่อน ถ้าเขาขับเร็วกว่าก็จะปล่อยให้เขาแซงไปก่อนเสมอ ตรงนี้ล่ะสำคัญเลย ทำให้เราเสียโอกาส คือคันที่ตามหลังเรามา แซงขึ้นไปเป็นคันแรก ก็มีคันที่สอง คันที่สาม เร่งตามต่อๆกันไปเป็นขบวน ผมต้องรอจนหมดขบวนก่อน แล้วจึงจะแซงตามไปได้ ผมเหนื่อยตรงนี้แหละครับ
ขับเรื่อยๆไม่เหนื่อยหรอกครับ ไม่ต้องใช้สมาธิมาก แต่ใช้เวลาเดินทางแทนและพักบ่อยกว่า กว่าจะไปถึงปลายทาง พักบ่อยก็มีค่าใช้จ่ายตามมาแทน จากค่าใช้จ่ายน้ำมันแล้วล่ะครับ
-
รถที่ให้ความมั่นใจมากกว่า นุ่มนวลมากกว่า
วัสดุและอุปกรณ์ที่เลือกใช้ดีกว่า บรรยากาศดีกว่า
ergonomic design ดีกว่า
ทำให้ขับรถเหนื่อยน้อยลงครับ
ถูกแพงก็มีส่วนด้านข้อจำกัดด้านต้นทุนครับ :)
-
เหนื่อยกว่า ถ้ารถที่แพงกว่าเป็นเก๋ง D-Seg หรือ C-SUV ขึ้น
เหนื่อยกว่า ถ้าต้องเร่งแซงบ่อยๆ ในถนนสองเลนสวน
เหนื่อยกว่า ถ้าทางขึ้นเขาสลับซับซ้อน โค้งเยอะ คนนั่งเยอะ
นอกจากนั้น ไม่ต่างกันมาก ยกเว้นไกลที่ว่าคือ 500 กม. ขึ้นครับ
อีโคคาร์ CVT ส่วนใหญ่ความเร็วเดินทาง รอบต่ำ เสียงรบกวนไม่ได้ต่างกะ C-Seg
ถ้าทำช่วงล่างให้เฟิร์มนิดหนึ่ง เปลี่ยนยางให้เกาะถนนกว่ายางติดรถ ผมว่า 200-300 กม. ไม่ได้ต่างกัน
แต่ถ้าเป็นรุ่นที่ เสียงรบกวนจากถนนเยอะ พวงมาลัยที่ความเร็วสูงไวเกินไป และรอบเครื่องสูงเกินไป ขับ 100 กม. ก็เริ่มล้าละครับ (ยิ่งกระบะเก่าๆ นี่ตัวดีเลย)
-
ไกลสุด กทม.ไปสมุทรสงคราม ก็เฉยๆนะครับ
แต่ก็นะ มันไม่เห็นจะไกลเลย
-
ปัญหาของ Eco car ผมว่าคือเสียงรบกวนครับ
เข้ารถมาก ดังตลอดทาง
ขับแล้วเหนื่อยครับ
ส่วนช่วงล่าง เครื่อง ถ้าวิ่งไม่เกิน 120 ไม่มีปัญหาครับ
-
ขับ jazz GE ไป สระแก้ว หนนึง บอกได้เลยว่าเหนื่อยมากครับ
ผมขับค่อนข้างเร็ว แล้วทางมันค่อนข้างโล่ง
รุ้สึกว่ามันต้องเค้นกำลังเครื่องเหลือเกิน ถ้าเครื่องแรงกว่านี้อีกซักหน่อย น่าจะขับทางไกลสบายขึ้น :) :) :)
-
สาเหตุที่คนอเมริกันชอบใช้รถคันใหญ่ เครื่องใหญ่ก็คงเป็นเพราะเหตุผลเดียวกัน
คือมันได้ทั้งความสบาย ผ่อนคลาย เหนื่อยล้าน้อยกว่าเวลาเดินทางข้ามรัฐ
-
Suzuki Swift ไปได้ดีครับ เว้นแค่ วิ่ง 140+ เสียงลม และ เสียงช่วงล่าง + พื้นถนน(ประเทศไทย) มันดัง และ กระเทือนเข้ามาตามสภาพถนน ครับ
แต่ถ้าทางตรง เรียบ ๆ ดี ๆ อันนี้ ฟิน ครับ มีแค่เสียงลมเท่านั้น
(เปลี่ยนยางเป็น 195/60/15 นะครับ นุ่มพอสมควรในทางเรียบ และ เข้าโค้งดีขึ้นมาก เครื่อง 1.2 ครับ)
-
รถเล็กขับแล้วเหนื่อยเครียดกว่าเยอะจริงครับ คันเก่าmazda2 พอเปลี่ยนมาเป็นfocus tdci หนังคนล่ะม้วนเลยครับ นิ่ง เงียบ แซงไม่ต้องลุ้น
-
ต่างกันราวกับฟ้ากับเหวเลยครับ อย่างที่หลายๆ คนกล่าวไว้ รถเครื่องใหญ่สบาย เหยียบแปปๆ แซงพ้น ไม่ต้องมานั่งลุ้นนั่งเกร็ง เวลาขับเร็วๆ ก็ต้องมากังวลเรื่องเบรคอีก ว่าจะเอาอยู่ไม่อยู่
เคยขับ altis 1.6 cng ผู้โดยสาร 4 คน ไปกลับ น้ำตกป่าละอู ระยะทาง 500 กว่า โล ใช้เวลา 10 กว่าชั่วโมงในรถ บอกเลยเหนื่อยสุดๆ เร่งแซงก็ลุ้น เบรคก็ลุ้น กลับถึงบ้านหลับเป็นตาย
กลับกัน สถานที่เดียวกันแต่ทีนี้เอา c300 ไป ผู้โดยสาร 4 คน ชิวเลย เพราะอยากจะแซงก็แซงได้เลยไม่ต้องมานั่งลุ้นจะพ้นไม่พ้น วันนั้นกลับถึงบ้าน ยังออกไปหาเพื่อนแถวบางนาได้อีก
แก้ไขเพิ่มเติม ที่บ้านมี มาชอีกคัน ไว้วิ่งในเมืองอย่างเดียว ออกชานเมืองหน่อยผมก็เสียวละครับ เช่น เส้น ปิ่นเกล้า พุธมลฑล เจอรถบรรทุกมาใกล้ๆ แซงไม่ออก เครียดจริงๆ เลยไม่เคยเอาออก ต่างจังหวัดไกลๆ
-
เมื่อยตูด เมื่อยต้นคอ ครับ
พวงมาลัยมันเบา ต้องเกร็งแขนมากกว่ารถใหญ่
-
เคยเอา Almera ไปกลับเชียงใหม่พะเยา ไปคนเดียวนะ ผมว่าไม่เมื่อยไปกว่ารถ C-segment เลย แต่อัตราเร่งแซงก็ตามนั้น
พวงมาลัย เบาไปอีก ช่วงล่าง เกิน 120 แล้วก็อย่าไปซ่ามาก รวมๆคุณภาพการขับขี่ดรอปลงจาก Altis CNG เก่าของผมนิดนึงทุกด้าน แต่ไม่แย่เกิน
ถ้าไม่ได้ขับยาวระดับ 400+ กิโลเมตร ผมว่าไม่ต่างกันมาก
-
เอาเมื่อยหรือเหนื่อยครับ ถ้าเมื่อยรถอะไรไม่น่าเกี่ยวจะแพงจะถูก เพราะขับ huracan ก้เมื่อยครับพวกลัมโบ แต่ถ้าเหนื่อยเพราะอัตราเร่งก้คงมีแต่ถ้าขับบ่อยๆชินๆผมว่าเฉยๆนะ m2 d ไงครับไม่น่าจะลุ้นไรมาก แรงอยุ่
-
เหนื่อยกว่าแน่นอนครับ
-
ความนิ่ง เก็บเสียง ช่วงล่าง พละกำลัง ภายในห้องโดยสาร
ผมว่าถ้าส่วนพวกนี้ดีทำให้เหนื่อยน้อยลงเยอะครับ แต่ Ecocar มันก็จะได้แค่บางส่วน
-
ความนิ่ง เก็บเสียง ช่วงล่าง พละกำลัง ภายในห้องโดยสาร
ผมว่าถ้าส่วนพวกนี้ดีทำให้เหนื่อยน้อยลงเยอะครับ แต่ Ecocar มันก็จะได้แค่บางส่วน
เห็นด้วยกับคุณ Focus2012 จากที่คุณถามมา คงต้องการสื่อถึงความสบาย และผ่อนคลายในการขับขี่มากกว่า ซึ่งมันต้องมีหลายๆ อย่างรวมกันอย่างที่คุณ Focus2012 ว่าไว้ ไม่ใช่ว่าภายในกว้างขวางอย่างเดียว แล้วจะขับสบาย มันต้องอยู่ที่กำลังเครื่องยนต์ สมรรถนะช่วงล่าง+พวงมาลัย รวมทั้งการเก็บเสียง (ถ้าเสียงมันดัง มันอู้ตลอดการเดินทาง เป็นใครก็รู้สึกไม่ผ่อนคลายครับ)
อย่าง Eco Car ที่ถามมา ข้อด้อยที่เห็นชัดก็คือ กำลังเครื่องยนต์ ถ้าคุณเป็นคนใจเย็น และขับรถไม่เร็วอยู่แล้ว ข้อนี้ก็อาจไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณ แต่ก็อาจจะมีข้ออื่นอีก เช่น การเก็บเสียง (ที่ความเร็วเท่าๆ กัน รถที่ Segment สูงกว่า มักจะได้เปรียบ)...ถ้าเป็นผมเอง ต้องซื้อรถสักคัน และรู้ว่าต้องขับทางไกล (จากต้นทางถึงปลายทาง เกิน 300 km) อยู่เรื่อยๆ ผมคงไม่เลือก Eco Car ตั้งแต่แรกครับ
-
ไม่มี ecocar และรถราคาแพง แต่อยากออกความคิดเห็นครับ
ในฐานะเป็นผู้โดยสาร รถนั่งเฉพาะไม่ใช่รถสปอร์ตนะครับ
segment ที่สูงกว่า เมื่อยล้าน้อยกว่าครับ
-
ผมไม่ค่อยเข้าใจกับเหนื่อยเวลาขับทางไกลแฮะ นี่พึ่งถึงบ้านหยกๆ 3 ทุ่ม พึ่งขับรถมาจากกระบี่ เอาเฟียสต้าขึ้นมา ถนนก็ราดยางใหม่ ทางเบี่ยงวิ่งสวนทางหลายจุดเลย แอบแซงได้บ้างช่วงที่รถสวนไม่มี (มีกรวยล้มลุกเป็นแนว ต้องหักพวงมาลัยเปลี่ยนเลน) ก็ปกตินะครับ ขับรถไกลๆมันก็เมื่อยปกติอยู่แล้วนี่ครับ กับตื่นเช้ามืดขับรถอีก 10 ชม มันก็ต้องง่วงเป็นธรรมดา แต่ผมยังมาอ่านบอร์ดซักพัก
รถเล็กรถใหญ่ผมก็ไม่เห็นต่างอะไร แค่ตื่นเช้ามาก ขับเป็น 10 ชม ก็ง่วง ผมก็ค่อยแวะด้วยก็เมื่อยนิ้วกับคอบ้าง ถ้าช่วงรถเยอะหน่อยก็เกร็งน่องไปนิดเพราะต้องสลับเบรก คันเร่งบ่อยๆ
-
mazda 2 ดีเซล จัดเป็น ecocar ไหมครับ
-
จากประสบการผม เคยขับทางไกลด้วยรถ 3 คันไปในที่ใกล้ๆกัน จากสมุทรสงคราม ขับประมาณ 100-130 แล้วแต่ช่วงถนน ประมาณ 200 โล พักกินข้าว
1 vogo ไปภูทับเบิก
2 city 2012 ไปภูหินร่องเกล้า
3 อันนี้ประเดนเลย ecocar brio amaze ไปเขาค้อ
รถไปได้สบายๆทุกคัน vogo เหนือยและเมื่อยสุด แบบสุดๆอยากตัดขาและเอวทิ้งเลย
city กับ amaze ในความรู้สึกผมใกล้เคียงกัน เสียงก็ดังเท่าๆกัน อัตตราเร่งไม่ต่างกันมาก คือผมเป็นคนขับรถแบบค่อยๆกดคันเร่ง ขับเร็วแต่ไม่กระชาก
สรุป vogo เหนื่อยและเมื่อยสุด city กับ amaze เมื่อยเหมือนกันแต่พอรับได้
รถใหญ่กว่าไม่เคยขับไกลๆ แต่คิดว่าคงเมื่อยน้อยกว่า
-
นานๆ จะเจอคนแม่กลองด้วยกันครับ
-
ต้องดูว่าปัจจัยที่ทำให้เหนื่อยมีอะไรบ้าง
- อัตราเร่ง ต้องใช้เวลาเร่งแซง ต้องลุ้นไหม แซงไม่ได้ก็ตามๆไปใช้เวลาเดินทางนาน ก็เหนื่อยล้า
- ช่วงล่างดีดๆเด้งๆ หรือย้วยไปมาน่าหวาดเสียว ก็เหนื่อยล้าสะสม
- ลักษณะการนั่ง เบาะรองรับสรีระดีไหม ขาเข่าชั่นหลังโก่ง นั่งงองุ้ม นั่งเบียด เบาะดันหัว เบาะแข็ง ลงรถทีอยากจะพักนานๆ เหนื่อยล้า
- ทัศนวิสัยไม่ดี ก่อนจะเปลี่ยนเลน ก่อนเลี้ยว ก่อนแซง มองไม่เห็น ต้องกะระยะเผื่อยาวๆ เครียด กังวล ทำให้เดินทางช้าลง เหนื่อยล้าสะสม
- เสียงเครื่องยนต์ เสียงยาง เสียงจากภายนอก ดัง หรือต้องเปิดเพลงดังแล้วตะโกนคุยกัน เหนื่อยล้าสะสม
รถที่แพงกว่าจะขับทางไกลเหนื่อยน้อยกว่ารึป่าว ก็ต้องดูว่ามีอะไรที่ทำให้เหนื่อยล้าน้อยกว่าบ้าง
-
นานๆ จะเจอคนแม่กลองด้วยกันครับ
ใช่ครับ
-
ไม่เคยขับ ECO car ไกลๆ ครับ แต่ผมเคยขับรถ Mazda 2 1.5 ตัวเก่า ของพี่สาวจาก กทม - เชียงราย(เทิง) โคตรเมื่อย ล้าไปหมด ขับเกิน
110 นี่เสียงลมดังไปหมด ถ้าขับช้าๆ 90-100 เรื่อยๆ ก็พอได้ครับ พื้นที่อึดอัดมากๆเวลาเดินทางไกลๆ ไม่ไหวผมไม่ขอเอามันกลับบ้านอีก
5555
แต่กลับมาขับ M3 2.0 ตัวเก่าก่อน Sky นะครับ เสียงลมนี่ดังเหมือนกันกะ 2 แต่ที่ได้มาคืดความมั่นใจ
ขับไปเถอะครับ 120-160 อัตราเร่งก็สบายใจกว่าไม่ต้องเกรง ห้องโดยสารถึงจะแคบกว่าคู่แข่งแต่มันก็กว้างกว่ามีที่พักแขนเหยีดขาได้สบายใจ
การควบคุมเวลาเบรกกระทันหัน การหักหลบ อารมณ์มันมั่นใจกว่ามาก เบาะหนังอาการเมื่อยล้าสะสมน้อยกว่าขับ
ระยะเวลาก็ลดหลั่นกันไป จากที่เคยขับ M2 ประมาณ 12-13 ชม แต่ถ้า M3 ประมาณ 9-11 ชม เหนื่อยน้อยกว่า มั่นใจกว่า ระยะเวลาเดิน
ทางไกลก็ลดลงด้วย นี่คงเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำไมต้อง รถ Segment ใหญ่ไว้เดินทางไกล ครับ
-
ผมว่าขับรถแพงๆที่ความจุเยอะๆให้ประหยัดน้ำมันในทางไกลๆ มันเหนื่อยสมองกว่าขับ eco car นะครับ