Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: yourturle ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 12:01:18

หัวข้อ: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: yourturle ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 12:01:18
อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
ในระดับราคาที่จับต้องได้
เริ่มเมื่อ 10ปีที่แล้ว Mazda3 G1
                              Mazda3 G2
        ช่วงหลัง         PULSAR
                               EcoSport
                              Mg 6
                              HR-V EL
                              Mg 3
                              1.6 DIG TURBO
                              Mg 5

ปล. เท่าที่จำได้ ถ้ามีรุ่นไหนอีกช่วยเพิ่มเติมได้ (ช่วงราคาไม่เกิน ล้านห้าหมื่น)
       อนาคต คงจะมีออกมาอีกหลายรุ่นให้ได้เลือก
     
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: O_o" ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 12:07:20
มีไว้ใช้งาน หรือมีไว้โชว์ ไม่แน่ใจจริงๆ เรียกร้องอยากได้เยอะ

สภาพอากาศเมืองไทยร้อนมากๆ เป็นห่วงเรื่องขอบยางต่างๆ จะเสื่อมสภาพ
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: Activehybrid ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 12:10:56
อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
ในระดับราคาที่จับต้องได้
เริ่มเมื่อ 10ปีที่แล้ว Mazda3 G1
                              Mazda3 G2
        ช่วงหลัง         PULSAR               
                               EcoSport
                              Mg 6
                              HR-V EL
                              Mg 3
                              1.6 DIG TURBO
                              Mg 5

ปล. เท่าที่จำได้ ถ้ามีรุ่นไหนอีกช่วยเพิ่มเติมได้ (ช่วงราคาไม่เกิน ล้านห้าหมื่น)
       อนาคต คงจะมีออกมาอีกหลายรุ่นให้ได้เลือก
     

Focus2.0  X-Trail  Everest ราคาคุ้ม
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: Visual ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 12:15:11
มีไว้ใช้งาน หรือมีไว้โชว์ ไม่แน่ใจจริงๆ เรียกร้องอยากได้เยอะ

สภาพอากาศเมืองไทยร้อนมากๆ เป็นห่วงเรื่องขอบยางต่างๆ จะเสื่อมสภาพ

ผมว่าประโยชน์ของซันรูฟในไทยไม่ค่อยมีหรอก แต่มันทำให้รถดูโปร่งขึ้นมาก
เห็นใครไปนั่งรถที่มีซันรูฟก็ชอบแทบทั้งนั้น เพราะมันทำให้เวลานั่งแล้วรู้สึกไม่อึดอัด

ส่วนเรื่องขอบยาง ใช้เป็น 10 ปี ยังไม่เสื่อมเลยครับ รถใช้งานปกติ
ถ้า 10 ปีเปลี่ยนครั้งนึง ผมรับได้นะ
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: rotaryman ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 12:23:34
กลัวใช้ไปนานๆน้ำรั่วอย่างเดียวครับ
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 12:26:11
เหมาะไหม ไม่แน่ใจ แต่มีแล้วดี
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: tiger12r ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 12:45:06
ถ้ามีมาให้แล้วราคาไม่ต่างจากตัวที่ไม่มีมากนักก็น่าซื้อนะครับ เอาไว้นอนดูดาวบนยอดดอยกับสาว  :-*
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: -*PoM*- ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 12:49:52
ผมว่า ยางซันลุฟ กับ ยางฝากระโปรงท้าย เหมือนกัน ต่างกันที่ ทึบ กับ กระจก
ตราบใดที่ใช้รถแล้วน้ำไม่เคยรั่งซึมลงที่เก็บของท้ายรถ มันก็ไม่รัวลงห้องโดยสาร
มันเป็นขอบขึ้นมากันน้ำ ตราบใดที่มันระบายน้ำทัน มันก็ไม่ทะลักเข้าไป
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: balliblue ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 13:55:15
ใครชอบก็จัด แต่ผมก็ไม่เอาอยู่ดี รู้สึกปัญหาเยอะ ดู HRV เป็นตัวอย่าง แล้วพอน้ำรั่วเข้า สนิมเข้าไปกินข้างใน ทีนี้มันก็จะลามไปอีก เมืองไทยฝนตกชุกไม่ค่อยเหมาะกับพวก sunroof ใช่ไปนานๆก็ซีลก็เสื่อมอีก
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: sakano ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 14:03:15
มีไว้ใช้งาน หรือมีไว้โชว์ ไม่แน่ใจจริงๆ เรียกร้องอยากได้เยอะ

สภาพอากาศเมืองไทยร้อนมากๆ เป็นห่วงเรื่องขอบยางต่างๆ จะเสื่อมสภาพ

ผมว่าประโยชน์ของซันรูฟในไทยไม่ค่อยมีหรอก แต่มันทำให้รถดูโปร่งขึ้นมาก
เห็นใครไปนั่งรถที่มีซันรูฟก็ชอบแทบทั้งนั้น เพราะมันทำให้เวลานั่งแล้วรู้สึกไม่อึดอัด

ส่วนเรื่องขอบยาง ใช้เป็น 10 ปี ยังไม่เสื่อมเลยครับ รถใช้งานปกติ
ถ้า 10 ปีเปลี่ยนครั้งนึง ผมรับได้นะ

รถคันเก่าของผม  CIVIC เตารีด
ตอนที่ขายไป อายุ 10 ปีแล้ว
ซันรูฟ ยังสภาพดี ไม่เสื่อม ไม่รั่ว ไม่มีเสียงลมเข้า
ปกติดีทุกอย่างครับ ^^
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: J@K ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 14:11:23
มีไว้ใช้งาน หรือมีไว้โชว์ ไม่แน่ใจจริงๆ เรียกร้องอยากได้เยอะ

สภาพอากาศเมืองไทยร้อนมากๆ เป็นห่วงเรื่องขอบยางต่างๆ จะเสื่อมสภาพ

ผมว่าประโยชน์ของซันรูฟในไทยไม่ค่อยมีหรอก แต่มันทำให้รถดูโปร่งขึ้นมาก
เห็นใครไปนั่งรถที่มีซันรูฟก็ชอบแทบทั้งนั้น เพราะมันทำให้เวลานั่งแล้วรู้สึกไม่อึดอัด

ส่วนเรื่องขอบยาง ใช้เป็น 10 ปี ยังไม่เสื่อมเลยครับ รถใช้งานปกติ
ถ้า 10 ปีเปลี่ยนครั้งนึง ผมรับได้นะ

เห็นด้วยครับ มีไว้เพื่อให้ภายในรถดูโปร่ง และถ้ายิ่งเป็นรถแบบ 7 ที่นั่ง คนนั่งแถวสามความรู้สึกจะไม่อึดอัด
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: tarahlm ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 14:41:47
มีดีกว่าไม่มีครับ (ถ้าไม่บวกราคาเพิ่มมาก)

ซีลยาง sunroof มีอายุใช้งานนานพอควร ใช้ไปมีซึมเล็กน้อยแบบ capillary effectก็ไม่เป็นไรครับ
คนทั่วไปมักจะเข้าใจจุดสำคัญสุดคือซีลนี้

แต่จุดสำคัญที่สุด คือ ระบบรางระบายน้ำใต้ขอบ sunroof ทั้งสี่ด้านครับ 
ซึ่งจะเป็นรางพลาสติกหรืออลูมิเนียม มีท่อระบายน้ำทิ้งออกสู่ภายนอกมักเป็นท่อไปตามแนวเสาA
ถ้าท่อระบายน้ำทิ้งอุดตัน น้ำเข้ารถเลยครับ หรือท่อระบายขาดรั่วก็เป็นเหตุให้น้ำท่วมพรมรองพื้น
บางทีไปหลงกับท่อระบายน้ำแอร์รั่ว

ส่วนคันไหนขอบหลังคากับซีลยางsunroof เป็นสนิมเร็ว บ่งถึงขั้นตอนขบวนการเคลือบสีทำสีของรถห่วยครับ



หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 14:41:55
ยุคนี้มันต้องหลังคาแก้วแบ้วครัช
 ::) ::) ::)
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: jajaboss ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 15:05:47
ผมว่า ยางซันลุฟ กับ ยางฝากระโปรงท้าย เหมือนกัน ต่างกันที่ ทึบ กับ กระจก
ตราบใดที่ใช้รถแล้วน้ำไม่เคยรั่งซึมลงที่เก็บของท้ายรถ มันก็ไม่รัวลงห้องโดยสาร
มันเป็นขอบขึ้นมากันน้ำ ตราบใดที่มันระบายน้ำทัน มันก็ไม่ทะลักเข้าไป

ตามนี้ครับ ข้างใต้ยางมีรางน้ำทิ้งอีกที 8)
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: applebees ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 15:11:09
ผมออกรถช่วงปี 2012  น่าจะช่วงเริ่มบูมของรถไซส์ compact ที่มี Sun/Moon Roof มาให้

ตอนได้มา ผมคนนึงล่ะ ดี๊ด๊า เล่นแม่มทุกวัน

ผ่านมา 3ปี ห่วงจับจิต มันจะรั่วมากไปกว่านี้มั้ยน้า

จะออกรถใหม่ ในหัวผมตอนนี้ คิดว่ามันจะดีกว่าไหมถ้าตัวท๊อปไม่มี Sun/Moon Roof มาให้ เพราะผมไม่อยากได้แล้ว บ้านเราโคตรไม่จำเป็น
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: Mike ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 15:14:35
อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
ในระดับราคาที่จับต้องได้
เริ่มเมื่อ 10ปีที่แล้ว Mazda3 G1
                              Mazda3 G2
        ช่วงหลัง         PULSAR
                               EcoSport
                              Mg 6
                              HR-V EL
                              Mg 3
                              1.6 DIG TURBO
                              Mg 5

ปล. เท่าที่จำได้ ถ้ามีรุ่นไหนอีกช่วยเพิ่มเติมได้ (ช่วงราคาไม่เกิน ล้านห้าหมื่น)
       อนาคต คงจะมีออกมาอีกหลายรุ่นให้ได้เลือก
   

ไทรทัน โฉมก่อน เฉพาะรุ่นพิเศษ Exceed
Accord 2.0 JDM รุ่นน้ำท่วม
ซิลฟี่ เทอร์โบ
Ford Escape โฉมก่อน
Mazda Tribute ไม่แน่ใจ
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: seamonkey ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 15:19:28
ใช้ Teana มา 6 ปี เปิดอยู่ราวๆ 6 ครั้ง ครั้งละ 3 นาทีแล้วเปิดเพราะร้อน/รำคาญแสงจากหลอดไฟ
Ecosport มีม่ให้ คุยกันในบ้านไม่เคยมีใครคิดเปิดครับ

สำหรับบ้านผม ไม่มีไม่ใช่ประเด็นเลย
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: localgame ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 15:32:29
เวลาจอดตากแดดนานๆ พอขึ้นรถความร้อนสะสม เปิดซันรูฟ+กระจกประตูซัก1-2นาที ข้างในไม่ร้อนแล้ว เย็นไวกว่ารถไม่มีซันรูฟ หน้าหนาวเปิดซัฟรูฟแง้มๆขับกินลมช่วงเช้าวันเสาร์ก็ได้บรรยากาศดี ยิ่งเวลาไปเที่ยวเขาใหญ่เปิดรับลมหน่อยนี่ชิลสุดๆ หน้าฝนก็ปิดไว้อย่าไปเปิด จอดรถก็หามุมหลบๆฝนหน่อย ยางซันรูฟมันไม่ได้เสื่อมไวขนาดนั้นอยู่ที่การดูแลรักษาด้วย จอดตากแดดตากฝนบ่อยๆก็เสื่อมไวตามอายุ จอดในร่มใช้เป็น10ปียังไม่พังเลย รถผม20กว่าปีละยางยังดีไม่เคยเปลี่ยน
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: earrt ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 15:34:17
Sunroof มีไว้เปิด ตอนจอดรถตากแดด อากาศในรถจะไม่ร้อนมากเนื่องจากอากาศร้อนจะลอยขึ้นและถูกระบายออก Sunroof เนี่ยแหละ (เปิดแบบเอียงทิ้งไว้อะนะ)

หลังจากนั้น ตอนรถเริ่มเคลื่อนตัวออกไป การเปิดแบบเอียงทิ้งไว้ อากาศร้อนจะถูกดดูดออกไปอย่างเร็ว และแอร์จะทำงานไม่หนักมาก

พอไปทะเล ให้แฟนยืนแล้วเราขับช้าๆริมทะเลตอนเย็นๆ
.
.

หมายเหตุตอนนั้นใช้ CIVIC เตารีด CBU
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: bubball ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 15:41:15
ซันรูฟนะหาง่ายครับ แต่พาโนรามิครูฟนะสิที่หายาก
ที่ยากได้ Hrv EL ก็เพราะกระจกหลังคาเต็มบาน ถ้ามาเล็กๆแบบซันรูฟปกติผมเฉยมากๆ

พาโนารามิครูฟกับรถราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านมีคันอื่นอีกไม๊ ?

ถ้าถามว่ามีประโยชน์ไม๊ มันอยู่ที่มุมมองและรูปแบบชีวิตของคนใช้มากกว่าว่าจะเห็นประโยชน์จากมันมากแค่ไหน
สำหรับผมการได้เห็นเพื่อนๆและครอบครัวมองมันอย่างมีความสุขเวลาออกทริปไปเที่ยวรึเวลากลางคืน ผมบอกเลยว่าโคตรๆๆๆๆๆมีความสุข
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: tarahlm ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 15:42:29
จริงๆในบ้านเราเป็นแบบ Moonroof ที่เป็นแผ่นกระจก พร้อมมีแผ่นเลื่อนกันแสงกันแดด อีกที

ผิดกับ Sunroof ที่เป็นโลหะทึบ แบบรถเมืองนอกโบราณ

ในบ้านเราความจำเป็นจริงๆคงไม่มี แค่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มความสบายบาง
(แต่มีข้อเสียด้วยทำให้ร้อนขึ้นบ้าง หรือรั่ว ก็น้ำเข้า เสียงรบกวนเข้ามากขึ้น)

ผมขับรถไปทำงานตอนเช้าแดดยังไม่ออกหรือพอมีแดดอ่่อน ก็เปิดแผ่นบังแดด ให้สว่างโปร่งโล่งผ่อนคลายขึ้น
เปิดเวลาฝนตกก็ได้บรรยากาศอีกแบบ
แต่ชนิดให้เปิดเลื่อนให้ลมเข้า รับลมรับแดดแบบนั้นคงไม่ใช่ นอกจากนานๆครั้งที่พักผ่อนไปเที่ยวเขา เที่ยวทะเล

ใครมีก็ใช้ไปเถอะครับ ไม่ต้องกลัวรั่วแค่ดูระบบระบายน้ำให้ดี นานทีก็เปิดเลื่อนให้ทำงานบ้างเพื่อกันซีลยางติดและสวิทช์กดติดค้าง

หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: Tomz ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 16:36:22
ชอบเลยครับ คันเก่าผม น้องสาม2.0 ผมเปิดใช้ทุกวันอะ เวลาจอดร้อนๆ เปิดแปปเดียว รถเย็นล่ะ ตอนไปเที่ยวต่างจังหวัด ตามภูเขา ผมนี่ เปิดขับตลอดทางเลย หายใจสดชื่นดี เย็นสบาย แต่พอเข้าตัวเมืองแล้วต้องปิด มันร้อนนนนนน
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: r0u0g0e0k ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 16:36:58
ผมออกรถช่วงปี 2012  น่าจะช่วงเริ่มบูมของรถไซส์ compact ที่มี Sun/Moon Roof มาให้

ตอนได้มา ผมคนนึงล่ะ ดี๊ด๊า เล่นแม่มทุกวัน

ผ่านมา 3ปี ห่วงจับจิต มันจะรั่วมากไปกว่านี้มั้ยน้า

จะออกรถใหม่ ในหัวผมตอนนี้ คิดว่ามันจะดีกว่าไหมถ้าตัวท๊อปไม่มี Sun/Moon Roof มาให้ เพราะผมไม่อยากได้แล้ว บ้านเราโคตรไม่จำเป็น

"ผ่านมา 3ปี ห่วงจับจิต มันจะรั่วมากไปกว่านี้มั้ยน้า"

เเปลว่ามีรั่วเเล้วไช่ใหมครับ  ถึงใช้คำว่า มากกกว่านี้มั้ย
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: the kit ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 16:42:32
ขอบยาง sunroof or moonroof ไม่เสื่อมง่ายขนาดนั้น รถผมใช้มา 10 ปียังดีอยู่น้ำไม่รั่ว ไม่มีเสียง

แต่ panoramic roof อันนี้ซืน่ากลัว ที่ผมเจอมาใน E200 Coupe รุ่นล่าสุด จากทาง MBTH เวลารถขึ้นเนิน,
เนินเอียง, ทางขรุขระมีเสียงดังแอ๊ดๆ ตลอด (นี่ขนาดรถใหม่มือแรก ไม่มีชนแม้ซักครั้งนะ) เหมือนกับทาง K.Pan
กล่าวไว้ตอนทดสอบ Everest เมื่อเร็วๆ นี้
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: Mike ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 18:53:19
ขอบยาง sunroof or moonroof ไม่เสื่อมง่ายขนาดนั้น รถผมใช้มา 10 ปียังดีอยู่น้ำไม่รั่ว ไม่มีเสียง

แต่ panoramic roof อันนี้ซืน่ากลัว ที่ผมเจอมาใน E200 Coupe รุ่นล่าสุด จากทาง MBTH เวลารถขึ้นเนิน,
เนินเอียง, ทางขรุขระมีเสียงดังแอ๊ดๆ ตลอด (นี่ขนาดรถใหม่มือแรก ไม่มีชนแม้ซักครั้งนะ) เหมือนกับทาง K.Pan
กล่าวไว้ตอนทดสอบ Everest เมื่อเร็วๆ นี้

สาเหตุเพราะการบิดตัวของตัวถัง mono cog ?
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: Mizuihisachi ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 21:49:35
ผมซื้อ HRV เพราะ panoramic เลยครับ
ทุกวันนี้เปิดตลอด ไม่เคยปิด ติดฟิมล์เอา ใครนั่งก็ชอบ
เคยปิดทีสองที รถรู้สึกอึดอัดและแคบมากๆเลยครับ
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: NS ที่ พฤศจิกายน 19, 2015, 22:21:02
เมื่อก่อนชอบมากครับ แต่สุดท้ายหาโอกาสยากมาก เพราะร้อนครับ บ้านเราใช้งานไม่เกิน 10ปีไม่น่าห่วง
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ พฤศจิกายน 20, 2015, 01:55:24
ซันรูฟนะหาง่ายครับ แต่พาโนรามิครูฟนะสิที่หายาก
ที่ยากได้ Hrv EL ก็เพราะกระจกหลังคาเต็มบาน ถ้ามาเล็กๆแบบซันรูฟปกติผมเฉยมากๆ

พาโนารามิครูฟกับรถราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านมีคันอื่นอีกไม๊ ?

ถ้าถามว่ามีประโยชน์ไม๊ มันอยู่ที่มุมมองและรูปแบบชีวิตของคนใช้มากกว่าว่าจะเห็นประโยชน์จากมันมากแค่ไหน
สำหรับผมการได้เห็นเพื่อนๆและครอบครัวมองมันอย่างมีความสุขเวลาออกทริปไปเที่ยวรึเวลากลางคืน ผมบอกเลยว่าโคตรๆๆๆๆๆมีความสุข
  ผมกว่าตามนั้น  เปิดแล้วมีความสุขส่วนเรื่องรั่วผมไม่กังวลเพราะที่เห็นมานานมากกว่าจะเจอปัญหา   ถึงเจอปัญหาก็ซ่อมได้ไม่ยากอะไรนี่ครับเปลี่ยนยางขอบซันรูฟ ก็เท่านั้นเอง   ถ้ามันเพิมราคาไม่มากนักผมก็เอานะ         แต่ถ้าถามว่าจำเป็นไหมในเมืองไทยก็ไม่ถือว่าจำเป็นเท่าไหร่แต่มีก็ดีกว่าไม่มีแน่นอน  คือมีแล้วจะเปิดหรือไม่เปิดก็ได้   ยามไปเที่ยวทะเลหรืออกหน้าหนาวตามเขาจะเปิดเล่นก็ไม่แปลก    หรือไปเที่ยวสวนสัตว์ซาฟารีเปิดเล่นก็ไม่แปลก
แต่ผมไม่ซีเรียสแล้วนะว่าอยากได้หรือไม่เพราะตอนนี้ใจอยากได้รถโรดเสตอร์ที่มันเปิดประทุนได้ไว้ขับเล่นไปเลย    มากกว่ารถซีดานธรรมดา  ๆ คันนึง
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: LimitedEdition ที่ พฤศจิกายน 20, 2015, 08:33:29
เรื่องจำเป็นไม่จำเป็น มันแล้วแต่คนมั้ย

ผมใช้มาสด้าสาม เปิดทุกครั้งที่ขับรถออกมาทำงานตอนเช้า
บางทีบ่ายบ่ายวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ขับรถคนเดียว อารมณ์ดี ก็เปิดให้แดดส่องลงมา

สำหรับผมการมีซันรูฟทำให้การขับรถมันสุนทรีย์ขึ้นมาก
แล้วผมก็ไม่เห็นว่ามันจะน่ากลัวรั่วตรงไหน มันก็กระจกหนึ่งแผ่น แปะลงมาบนตัวถัง
เหมือนหน้าต่าง เหมือนกระจกหน้า ที่รถทุกคันมี รั่วก็เปลี่ยนซีลยางแค่นั้นเอง
ก็แค่เป็นอุปกรณ์เพิ่มอีกชิ้นทีคุณอาจจะต้องเสียเงิน Maintenance
เหมือนกับคุณเลือกซื้อรถ 6 สูบ เลยต้องซ่อมอะไรคูณ 6 แทนที่จะคูณ 4 ก็เท่านั้น

ปล. Toyota Wish Q-Limited รุ่นนั้นก็มีซันรูฟนะครับ
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ พฤศจิกายน 20, 2015, 09:11:47
ใช้แล้วชอบ ถึงจะใช้บ้างไม่ใช้บ้างก็เถอะ แต่มันทำให้รถมีเสน่ห์ขึ้น มีผลกับการเลือกซื้อแน่นอน

ผมว่าให้เพิ่มเงิน20000 ผมว่าคนเลือกซันรูฟนะ ต้องถามกลับโรงงานว่าต้นทุนเพิ่มถึง20000มั๊ย ตรงนี้คุณทำกำไรได้เท่าไหร่  ถ้าไม่เอาสำหรับบางคนอาจจะไปซื้อรถคู่แข่งเลยด้วยซ้ำ อาจจะทำให้คุณชวดการขายรถทั้งคันเลยก็เป็นได้

เคสhrv เรียกเงิน40000 กับบานใหญ่กว่าซันรูฟปกติเท่าตัว คนยังเลือกเลยคิดดู พูดไปก็ขำดี

คำว่าจำเป็นมันคงใช้ไม่ได้กับรถเท่าไหร่ ถ้ามันใส่มาแล้วยังขายได้ก็ใส่มาให้เลือกเถอะ ไม่มีอะไรเสียหาย
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: rtong ที่ พฤศจิกายน 20, 2015, 13:20:23
มันเรียกร้องความสนใจได้ดี   
แต่ mazda ลืมใส่มันมาในรุ่นใหม่ๆ
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: kan.kom ที่ พฤศจิกายน 20, 2015, 17:48:29
คนเราชอบอยากได้ในสิ่งที่ไม่เคยมี หรือมีน้อยเพื่อให้รู้สึกแตกต่าง
แต่พอมีแล้วจะรู้ว่า มีไปทำไมก็ไม่รู้
บ้านเรากับซันรูฟไม่มีความจำเป็นเลย รถเปิดประทุนก็เช่นกัน
แดดแรง ร้อน มีแต่คนอยากเดินแต่ในห้างเย็นๆทั้งนั้นละครับ
หัวข้อ: Re: อีกหน่อยเมืองไทย จะไม่ใช่ประเทศที่หา "ซันรูฟ" อยากอย่างในอดีต
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ พฤศจิกายน 22, 2015, 14:28:50
เป็น option ที่ผมไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าไหร่ มี ไม่มีก็ได้