Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ ธันวาคม 03, 2015, 17:06:52
-
เห็นข่าว Lancer ปิดตัวไป แล้วก็ดูรถยนต์ C Segment นอกจาก Altis Civic Mazda3 แล้วรุ่นอื่นขายแบบขอไปที มีแนวโน้มที่จะปิดตัวไปแล้วมีรถ SUV-Crossover มาแทน
ส่วนตัวรู้สึกเสียใจครับ เพราะว่าชอบรถเก๋ง ไม่ชอบรถยกสูงเพราะกินน้ำมันมากกว่าแล้วก็ช่วงล่างสู้รถเก๋งไม่ได้ (ในยี่ห้อเดียวกัน)
-
ไม่ถึงจุดจบหรอกครับ โดยเฉพาะ altis ยังไงก็ขายดีตราบที่เมืองไทยยังมี taxi
-
C Segment compact car segment
นี่ถือว่าใหญ่แล้วเหรอครับ 555
เก๋งราคา 1 ล้าน ยอดหาย เพราะมีแต่คนหนีไป SUV CUV
และอย่าลืม เบนซ์ บีเอ็ม ยอดขายโตมากๆ
มันสะท้อนว่า คนจนจนมากขึ้น คนรวยก็รวยมากขึ้น รึป่าวครับ
-
ไม่หรอกครับ คนชอบรถเก๋งก็ยังเยอะ มันแค่มาแชร์ส่วนแบ่งของตลาดไปเท่านั้น
-
บางคนชอบขับแต่รถเก๋ง ไม่ชอบรถสูงๆเลย ก็มีเยอะครับ
-
ผมว่ายังอยู่อีกนาน รถ Suv ผมมองว่าเป็นกระแสมากกว่าครับ
-
อนาคตไม่แน่ครับ ดูจากยอดขายที่ไม่ได้สูงมาก ตอนนี้กระแสรถขนาดเล็กประหยัดพลังงานกลังมามากกว่าครับ
อย่าง Lancer เองไม่พัฒนาต่อเพราะเรื่องงบประมาณที่จำกัดมากกว่าครับ หันไปทุ่มเทกับรถประเภทอื่นๆแทน
-
ผมกลับมองว่าเป็นยุคที่การแข่งขันจะดีขึ้นอีก
เมื่อก่อนมีแต่ altis civic
ตอนนี้ mz3 มาเปลี่ยนอะไรไปเยอะ ซิลฟี่ก็สร้างอะไรใหม่ๆได้ในระดับนึง
ขนาด MG ยังเข้ามาด้วย MG6 เดี๋ยวรอ civic ใหม่อีกระรอก
คงมีแต่ Lancer ที่ไปไม่ไหวเอง ตามคนอื่นไม่ทัน
จริงๆแล้ว c segment นี่ make sense to buy มาก
ราคากับขนาดดูตอบโจทย์คนหมู่มาก
แต่บังเอิญคนไทยอาจจะไม่ชอบทางสายกลาง
ไม่ประหยัดไปเลย ก็ขอหรูหราใหญ่โตกันไปเลย
-
ผมว่ายุคนี้คงถึงจุดเปลี่ยนละครับ
บริษัทรถในความคิดผม ควรมุ่งเน้นทำ B-seg 1.2 และ 1.5 ให้ใหญ่ขึ้น
ผมเห็นด้วยที่เขายุบ Lancer ทิ้ง เพราะรถน้ำหนักเยอะ กินน้ำมัน แต่คันไม่ได้ใหญ่ไปกว่า Ciaz เท่าไหร่นัก
ผมว่าอนาคต C-seg คงค่อยๆ หายไปจากตลาด คงเหลือเป็น B-seg คันใหญ่ หรือ lower C-seg แทน
-
ไม่หรอกครับ คนชอบรถเก๋งก็ยังเยอะ มันแค่มาแชร์ส่วนแบ่งของตลาดไปเท่านั้น
ผมว่าไม่ใช่แชร์ส่วนแบ่งแล้วหละครับ ดูยอด ppv กับ เก่ง D สิครับ ห่างกันแบบคนละโลกเลย หรือแม้กระทั่ง hrv แค่รุ่นเดียว ถ้าเทียบกับเก่ง c ก็เกือบครึ่งของยอดเก่ง c
มันไม่ใช่กระแสแล้วครับ ผมว่าความนิยมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปแล้ว ดู ฟอร์จูนเนอร์ ก็ได้ตั้งแต่เปิดตัวมาครั้งแรกเวลาเป็น 10 ปี ยอดขายไม่เคยตก
ผมว่าคนไทยมีมุมมองในการซื้อรถเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย เลือกรถที่ตอบโจทก์ไลฟ์สไตส์ของชีวิตมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมขังในเมืองใหญทั้งหลาย
ตอบโจทก์ : มันคงไม่ถึจุดจบหรอกครับ แต่ยอดขายอาจลดลงไปอีกเรื่อยๆ
-
ผมว่าไม่หรอกครับ อย่างผมยัง คงรอ MZ6 อย่างมีความสุขต่อไป เพราะไม่เสียตังค์
-
ไม่หายหรอกครับ เพียงแต่ส่วนแบ่งการตลาดของช่วงรถในแต่ละsegmentมันมีช่องว่างมากขึ้นเพราะการเติบโตของตลาดSUVเข้ามาเลยดูว่ารถเก๋งบนถนนมันน้อยลง
-
ผมว่าไม่หรอกครับ อย่างผมยัง คงรอ MZ6 อย่างมีความสุขต่อไป เพราะไม่เสียตังค์
5555 รอเหมือนกันเลย
-
ไม่หายหรอกครับ มีรถ Fleet ที่เป็นลูกค้ากลุ่มนี้ อย่างเหนียวแน่น
โดยเฉพาะ C seg 1.6, D seg 2.0
-
ถ้าออกต่างจังหวัดในเส้นทางที่คุ้นเคยไม่ลุยไม่กันดาร ผมชอบเอา D segment ออกไปนะครับ
แต่ถ้าไปในที่ๆไม่เคยชิน จะเอา SUV ไปแทนครับ
D seg ขับแล้วสบายไม่เหนื่อยมากครับ
-
เคยไปลองขับ lancer ex หรือยังครับ
5 ปี ที่แล้วผมไปลองขับ มันดู
มันมีดีที่ช่วงล่าง เท่านั้น
ด้านอื่นมันบ้วยถึงบ้วยที่สุดในกลุ่มเดียวกัน แล้วมันจะไปได้อย่างไร
ขออภัยแฟนคลับครับ
ส่วน D, C seg ไม่หายไปหรอก เพราะรุ่น-ยี่ห้ออื่นๆ ยังขายดีมาก
-
เก๋ง กำลังซื้อหลัก อยู่ใน กทม
ถ้าฝนตก เบาๆ แล้วน้ำท่วมเป็นฟุต รถจอดตายกันระนาว
ผู้ว่า แก้ไม่ได้ ไม่พอใจ เชิญไปอยู่ดอย >:(
ผมว่่า D seg แทบไม่ต้องขาย c ครับ
ลองนึกว่า ถ้าตัวเองเป็น หนึ่งในห้า แอคคอร์ด ที่จอดตาย ผมว่าคันหน้าเขาคงซื้อ suv >:(
-
ผมว่า c segment คงไปเรื่อยๆ
แต่ d segment นี่เหมือนจะเหนื่อย
คนเริ่มหันไปนิยม suv ppv มากขึ้น
อันนี้คิดเองนะ เพราะตั้งแต่ผมหันไปใช้ suv ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว
ผ่านมือมาอีกหลายคัน แต่ก็ไม่เคยคิดอยากกลับไปหารถเก๋งอีกเลย
พอมีโอกาสขับรถเก๋งญาติ เพื่อน ผมจะรู้สึกรำคาญทุกครั้งที่มันเตี้ยกว่ารถทรงสูง
ซึ่งผมเดาว่า น่าจะมีคนคิดแบบผมหลายคน
พอหันไปรถทรงสูงแล้วไม่อยากกลับไปหาเก๋งอีกเลย
-
แหม่ ที่เค้านิยม ppv มันแค่เมืองไทยเท่านั้นละครับ
ตลาดโลกยังไง c segment ก็ยังไปได้
มันยังเอาไปทำ suv แบบcx5 crv ต่อได้อีกนะ
-
ตราบได้ที่ถนนเมืองไทยยังเป็นแบบนี้
และมี SUV ออกมาให้เลือกมากขึ้นเรื่อยๆ
ยอดของเก๋ง C และ D Segment ตกลงแน่นอนครับ
กระแสก็ส่วนนึงครับ แต่ผมว่าคนซื้อที่อยากลุย แต่ไม่อยากได้กระบะมีมากนะครับ
-
มันเป็นเรื่องของความนิยมแหละครับ มีขึ้น มีลง ก็ trendy กันไป
-
คุณก็รู้อยู่ ถนนประเทศเรา มีน้ำท่วม มีซ่อมถนน อยู่ตลอด
หลายๆคนก็คิดว่า เอารถสูงๆเผื่อไว้หน่อย ก็อาจจะเลือกระหว่าง รถครอสโอเวอร์ / SUV / PPV / กระบะ ไป
แต่ยังไง ชาว C-Segment , D-Segment ก็ยังคงอยู่ครับ
-
แนะนำรถยี่ห้อที่ว่า หรู มีระดับ มาทำ Taxi เพื่อเพิ่มยอดขายด้วย (ว่าแต่คุณภาพมันจะคุ้มกับงานหรือเปล่า อิอิ)
-
C Segment compact car segment
นี่ถือว่าใหญ่แล้วเหรอครับ 555
เก๋งราคา 1 ล้าน ยอดหาย เพราะมีแต่คนหนีไป SUV CUV
และอย่าลืม เบนซ์ บีเอ็ม ยอดขายโตมากๆ
มันสะท้อนว่า คนจนจนมากขึ้น คนรวยก็รวยมากขึ้น รึป่าวครับ
สะท้อนยังไงครับ
เบนซ์ บีเอ็ม ยอดขายคิดเป็น กี่ % ของรถที่ข่ายได้ทั้งหมดครับ
ราคารถแพงขึ้นๆ เรื่อยๆ เพราะภาษี บ้าๆ ของรัฐบาล ในขณะที่ คนรายได้เฉี่ลยเท่าเดิม
-
ส่วนตัวคิดว่า B-segment ตอนนี้ไม่บูมแล้ว Vios City ขายได้ขายไป แต่นอกนั้นไม่มีใครได้เกิดเลย(Mazda2 ผมว่ายอดขายยังห่างจากสองคันนั้น)
C-segment กระทบมาก เพราะช่วงราคาดันไปตกที่กลุ่ม Compact Crossover สังเกตจาก Altis ยอดขายหายเยอะมาก
D-segment ไม่กระทบเท่าไหร่ เพราะมีจุดยืนคือความหรูความสปอร์ตความ elegant ความใหญ่อะไรก็ว่ากันไป ซึ่งภาพลักษณ์ตรงนี้ SUV ยังเทียบไม่ติด
(แต่ก็เริ่มเข้าใกล้มากขึ้นๆทุกวัน)
ส่วน ECO-Car เปรี้ยงแค่ปี 2012 และหลังจากนั้นก็ดับไปเลย Yaris คือผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียว
-
ตัวเลือกในตลาดมันแยอะขึ้น ในขณะที่รถเป็นสินค้าที่แล้วเปลี่ยนยากไม่เหมือนเสื้อผ้าซื้อมาไม่ถูกใจก็ซื้อตัวใหม่ ยอดขายเลยโดนแชร์ออกไป รวมถึงสมรรถนะของรถ b seg ตอบโจทย์การใช้งานได้มากขึ้น ในสายตาคนไทยส่วนใหญ่ที่มองรถเป็นแค่ยานพาหนะจากจุด A ไป B แค่นั้น
ถ้ามองในมุมมองคนชอบรถมันอาจดูขัดใจไปหน่อยแต่ยอมรับความจริงแถอะครับ
-
ไม่เกี่ยวกันครับ เป็นเรื่องของบางยี่ห้อ แลนเซอร์มันแทบจะสูญพันธ์มาตั้งแต่ท้ายเบ็นซ์แล้ว
ที่อยู่มานี่ประคองตัวมาก
อีกอย่าง ถ้าใคร อายุเกิน 50 เขามองที่ d seg ทั้งนั้นครับ
-
Lancer EX มัน Gen เดียวกับ Civic FD , Altis Gen ก่อนหน้า , Mazda3 gen2.
แถมตอนเปิดตัว ก็มาทีหลังชาวบ้าน ราคาเปิดตัวก็ 800 K up.
ราคา รถขนาดนี้ คนไป D-segment หมดละครับ
ขนาด Mazda3 gen2. ออกมาไม่กี่ปี ยังม้วนเสื่อ เจ็ง ไม่เป็นท่า มาแก้มือเอา Gen ล่าสุด
ปัญหาของ C-segmment คือราคามันสูงขึ้นเรื่อย
ซึ่ง Mitsubishi Thailand ฉลาดน้อยไปอย่างนึง ที่ไม่เอา MT มาขาย ไม่งั้นได้ ยอดจาก TAXI อีกบานครับ
จริงๆเหตุผลคือ MT ราคาสูง ยอดขายน้อย แต่ พี่ลืม TAXI ที่ลืม
จดจบของพวกการตลาด ที่ไม่รู้เรื่องรถครับ คิดเป็นแต่ ต้นทุน ต่อคัน ไม่วิเคราะห์ ตลาดรถ
-
ไม่ตายหรอกครับ คนชอบรถไซด์นี้ มีเยอะนะครับ แต่คนซื้อก็ต้องน้อยลง ตามสัดส่วนราคาแหละครับ ลองรถไซด์นี้ เหลือคันละห้าแสน ใครจะไม่ซื้อหล่ะครับ
-
C Segment compact car segment
นี่ถือว่าใหญ่แล้วเหรอครับ 555
เก๋งราคา 1 ล้าน ยอดหาย เพราะมีแต่คนหนีไป SUV CUV
และอย่าลืม เบนซ์ บีเอ็ม ยอดขายโตมากๆ
มันสะท้อนว่า คนจนจนมากขึ้น คนรวยก็รวยมากขึ้น รึป่าวครับ
สะท้อนยังไงครับ
เบนซ์ บีเอ็ม ยอดขายคิดเป็น กี่ % ของรถที่ข่ายได้ทั้งหมดครับ
ราคารถแพงขึ้นๆ เรื่อยๆ เพราะภาษี บ้าๆ ของรัฐบาล ในขณะที่ คนรายได้เฉี่ลยเท่าเดิม
ดูกระทู้ยอดขายรายเดือนดูได้เลยครับ
หรือลองรอดูยอดจองมอเตอร์เอกโปร์ก็ได้ครับ
บางช่วงขายได้เยอะกว่ารถยี่ห้อตลาดอย่างฟอร์ดหรือเชฟด้วย
แถมยังไม่รวมเมื่อเทียบสัดส่วนราคา ขายได้100 คันเท่ากัน แต่ราคาแพงกว่า3-4เท่าตัว ตีเป็นเงินแล้ว ยิ่งห่างกันไกล
-
แล้วแต่ ลักษณะการใช้งาน ของลูกค้าไปครับ
สำหรับผมซีดาน ขนาดเล็ก อย่าง C-seg ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมือง ผมสุดแล้วครับ
ขับดีพอควร คล่อง จอดไม่ลำบากชีวิต
D-seg เรียก กลางและ ระดับ S หรือ 7 ถึงเรียกใหญ่นะครับ
ส่วนของ Mitsu เอง คงมองว่า ตลาด city car ,Eco car มันทำกำไรมากกว่า
และด้วยงบที่จำกัดจึงอยากมุ่งไป ทาง ตลาดกลุ่มนั้นเพราะ เงินทุนเค้าจำกัด
ไม่เหมือนพี่เบิ้มT H
-
ไกล้ถึงจุดจบเลยเหรอฮะ
งั้นอนาคตคงไม่ต้องมีtaxiละสิ
:P :P :P
-
ผมชอบการขับขี่นะ แต่ผมว่ามันไม่ค่อยทน ถ้าราคาเท่ากันคนหนีไปเล่นกระบะ 4 ประตู ขนของได้อีกแถมช่วงล่างมันทนกว่าเยอะแม้จะนุ่มเท่าก็ตาม ทุกวันนี้ก็ทำได้ใกล้เคียงแล้ว แถมดีเซลถูกกว่าอีกประหยัดน้ำมันกว่าด้วย เหตุผลจะมองน้อยลงครับ ถ้าจะขับไปทำงานเอาคันเล็กๆ ดีกว่า คล่องกว่าหาที่จอดง่ายกว่า
-
แหม....คนไทยส่วนมากนะครับ
ถ้ามีเงินพอที่จะสามารถซื้อ รถขนาดใหญ่ได้
ก็เลือกซื้อ รถขนาดใหญ่ ครับ
ถ้ามีเงินพอที่จะสามารถซื้อ รถขนาดกลางได้
ก็เลือกซื้อ รถขนาดกลาง ครับ
มีส่วนน้อยมากๆ ที่จะเลือกซื้อ รถขนาดเล็ก ทั้งๆที่มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะซื้อ รถขนาดใหญ่กว่าได้
แถมเวลาซื้อก็นิยมรถที่มี option มากๆ ซึ่งไม่ใช่รุ่นล่างราคาถูกอีกต่างหาก ^^
8)
-
อย่าด่วนสรุปเลยไหม แค่เห็นรถชนิดใหม่ขายดีก็ต้องสรุป โน่นนี่นั่น ผมว่าคนเราไม่จำเป็นต้องรีบหาคำตอบอะไรนักก็ได้น้อ
ปล. รถซีดาน มันแค่เป็นรูปร่างมาตรฐานในปัจจุบัน อีก 10 -20 ปี รูปร่างมาตรฐานอาจจะเป็ฯ SUV ก็ได้ ใครจะรู้ มันก็เปลี่ยนไปตามค่านิยมตามยุคสมัยน่ะคุณ เผลอๆ ในอนาคตจริงๆ คนอาจจะไม่อยากได้รถกันแล้วก็ได้
แบบญี่ปุ่นตอนนี้ คนหนุ่มสาวนิยมซื้อรถน้อยลงมากๆ เป็นต้น
-
มันก็ทรงๆตัวอยู่แบบนี้แหละครับ
-
กระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางการไหล ถ้าไม่คิดจะทำอะไร ก็เตรียมตัวแห้งตายได้เลย
-
ไม่น่าจะจบนะครับ เพราะยังไงคนชอบรถเก๋งก็ยังชอบเหมือนเดิม
ส่วนตอนนี้ พวก SUV-PPV มันแค่นิยมมากขึ้น
-
C seg compact car มันคือเก๋งเล็กนะครับ
ส่วนcamry accord คือ D seg midsize sedan แปลตรงตัวคือเก๋งขนาดกลาง
ในไทยผมยังไม่เห็นรถเก๋งบ้านๆ ญี่ปุ่น มี E seg ขายเลย ถ้าไม่นับ lexus es300
-
ผมว่ามันไม่มีอะไรจบ แต่มันคงไม่ค่อยบูมเท่าที่ควร
ส่วนตัวผมมองว่าราคามันแพงเกินไปสักหน่อย ยิ่งบางรุ่นเนี่ยoptionน้อยกว่ารุ่นเล็กอีก
เชื่อผมป่ะ ผมว่าหลายๆคนก็คิดนะ ซื้อรถคันนึงล้านกว่า ถุงลมน้อยกว่าjazz อีก
ผมว่าเดี๋ยวตลาดก็คงปรับตัว ยังไงยุคนี้ผมว่า รถเกินล้านถุงลมควร 6 ลูกตั้งแต่ตัวล่าง
ค่ายหลักรถcompact ยังไม่มี vsc หรือ vdc vsa ผมว่ามันแพ้ b หรือ eco car ยุคใหม่
เหมือนตลาดกำลังรออะไรสักอย่าง เมื่อเค้ารอ ผู้บริโภคก็ชะลอไปด้วย
-
C seg compact car มันคือเก๋งเล็กนะครับ
ส่วนcamry accord คือ D seg midsize sedan แปลตรงตัวคือเก๋งขนาดกลาง
ในไทยผมยังไม่เห็นรถเก๋งบ้านๆ ญี่ปุ่น มี E seg ขายเลย ถ้าไม่นับ lexus es300
compact อาจแปลว่าเล็กครับ แต่จริงแล้วสำหรับผมมัน เป็น รถขนาดมาตราฐานหรือขนาดที่เหมาะสมครับ 5 คนนั่งได้พอเหมาะ นั่นครับ นิยามมัน
และเป็นรถที่ ควรจะขายดีด้วย ถ้าบ้านเราไม่ฟันภาษี และบังคับไปใช้ รถเล็กมากแบบ เล็ก กว่าB segment หรือ subcompact
Small หรือ B-segment ต่างหาก ที่ เป็น รถเล็กครับ
ซึ่งวิธีการจำแนก ขนาดหลายมาตราฐาน
บ้าก็วัดจากระยะ ฐานล้อ บ้างก็ เอาจากพื้นที่ภายในทั้งหมด
ซึ่งบางที รถขนาด C มา D อาจะแค่ เพิ่มที่สัมภาระหลัง ท้ายยาวๆหน่อย แต่ห้องโดยสานเท่าเดิม ก็กลายเป็น D segment ได้แลัว