Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Pan Paitoonpong ที่ ธันวาคม 28, 2015, 13:15:16
-
ถ้าจะเปรียบรถเป็นคน Sylphy Turbo เปรียบได้กับคุณลุงหน้าตาธรรมดา..หุ่นธรรมดา..ยิ้มๆ
พูดเสียงเบาๆ ที่นอนโยกเก้าอี้อ่านเพชรพระอุมาอยู่หน้าบ้าน แต่ข้างๆตัวลุงมีลูกซองแฝดดำเงา
อยู่ตลอดเวลา..
นั่นคือบุคลิกของรถประเภท Sleeper อย่างนี้ แต่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่ารถ Sleeper มีสองประเภท
คือประเภทที่ทำทุกอย่างมาพร้อมซิ่ง แต่ห่อหุ้มเรือนร่างภายนอกไว้ด้วยสิ่งที่ดูธรรมดา กับประเภทที่ 2 คือ
รถที่ทุกอย่างธรรมดาจริง มีไม่ธรรมดาอย่างเดียวคือเครื่องยนต์ ซึ่งในกรณีนี้ ผมนับเจ้า Sylphy Turbo
เป็นอย่างหลัง เพราะองค์ประกอบของรถทั้งคัน มันแทบจะเป็นรถบ้านธรรมดาคันนึง มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ข้อดีคือบรรยากาศภายใน การใช้งาน ความสบายของพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่วางขาซึ่งยาวมาก แอร์ออโต้
แบบ Dual Zone แล้วก็ยังมี Cruise control มีอุปกรณ์ความปลอดภัยมาครบ ถุงลม 6 ใบ VDC และอื่นๆอีกมาก
ซึ่งของเหล่านี้มันเป็นมรดกจากความเป็นรถบ้านที่เราชอบ มีไว้แล้วได้ประโยชน์
ส่วนข้อเสียคือการเซ็ตส่วนอื่นๆของรถนั้น มันก็ยังเป็นรถธรรมดาคันนึง พวงมาลัยน้ำหนักเบาไปนิดในความ
คิดผม อัตราทดพวงมาลัยออกแบบมาสำหรับรถธรรมดาที่มีความไวกลางๆ..คือมันไม่คล่องมือเวลาเลี้ยวโค้ง
แบบ Mazda 3 ช่วงล่างก็มาในสไตล์ญี่ปุ่นจ๋าคือตึงตังนิดๆที่ความเร็วต่ำ แต่เทโค้งแรงๆยังไงก็ยวบแบบรถบ้าน
แม้ว่าโช้คอัพจะหนืดกว่า Sylphy 1.8 ธรรมดา แต่ถ้าไม่ตั้งใจจับความรู้สึก..ผมเกือบคิดว่าเป็นโช้คชุดเดียวกัน
ด้วยซ้ำ
เรื่องช่วงล่าง..ผมว่ายังไม่จบ ถ้าวิ่งไม่เกิน 140 น่ะไม่เป็นไร แต่ถ้าเกินนั้นไปมากๆ จุดอ่อนจะออกมามากขึ้น
ลักษณะนิสัยเหมือน Tiida คันที่ผมใช้อยู่มาก มันให้คุณมั่นใจถึงระดับหนึ่ง แต่พอผมแต่งเครื่องจนสามารถ
วิ่งทะลุ 190 ได้ เมื่อนั้นจุดอ่อนของช่วงล่างจะเผยตัวแบบเซอร์ไพรส์ เปลี่ยนจากมั่นใจเป็นหวั่นกลัวภายใน
ช่วงความเร็วที่ต่างกันไม่มากนั่นแหละ..ตรงนี้ผมยังมองว่าช่วงล่าง Sylphy ต่อให้เป็นตัว Turbo ก็ยังขาด
บุคลิกขี้เล่น สนุกสนานแบบ Mazda กับ Chevrolet Cruze และยังไม่มั่นหนึบนุ่มแบบ Ford Focus คู่แข่งที่
เปรียบกันแล้วใกล้เคียงที่สุดคือ Altis ESport ซึ่งถ้าให้พูดตรงๆผมว่าบนถนนขรุขระบางแบบ ESport
เก็บอาการได้ดีกว่า Sylphy เสียอีก แต่เวลาโยนโค้งแรงๆ ESport จะมีอาการท้ายปัด ในขณะที่ Sylphy จะใช้
VDC ในการช่วยจัดหน้ารถให้เข้าร่องเข้ารอยได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เครื่องยนต์..บอกได้เลยว่าแรงดีจริง MR16DDT 1.6 ลิตร 190 แรงม้า ใช้เทอร์โบขนาดค่อนข้างเล็ก
อินเตอร์คูลเลอร์แบบอากาศขนาดค่อนข้างเล็ก ดังนั้นแม้ CVT จะหลอกความรู้สึกตอนออกตัวเหมือนว่า
เป็นเครื่องที่รอรอบ แต่ความจริงมันเป็นเครื่องที่ติดบูสท์ไวมาก กดตรงไหนก็มีแรง 0-100 8.3 วินั้นเป็น
ตัวเลขที่เร็วใช้ได้ทั้งๆที่ไปเสียเวลากับกับหน่วงลิ้นถนอมเกียร์ช่วงออกตัวเยอะ ถ้าเซ็ตเกียร์ให้พลีชีพหน่อย
อย่าง X-Trail เราอาจได้เห็นเลข 7.6-7.7 วิกันก็ได้ อัตราเร่ง 80-120 ได้ 5.19 วิ ซึ่งไล่ๆกับ Golf GTi
และ Scirocco การสร้างพลังของ Sylphy Turbo ในช่วง 60-200 นั้นเรียกได้ว่าต่อเนื่องไหลดี ไหลเร็ว
ไม่มีรถป้ายแดงราคาต่ำกว่าล้านคันไหนที่สามารถไต่ความเร็วได้ดีขนาดนี้อีกแล้วในวันนี้ ส่วนการวิ่ง
ทำระยะ 1.5 กม. นั้น ได้ความเร็ว 203 ซึ่งเร็วกว่า Pulsar Turbo, Veloster Turbo และใกล้เคียง F30 320d
กับ 320i หลังจากนั้นกล่องจะเริ่มหรี่ลิ้นคันเร่งและความเร็วสูงสุด 218 นั่นก็จำกัดไว้เพราะช่วงล่าง
ยาง และเบรกมันรองรับแค่นั้น ส่วนพลังเครื่องกับเกียร์ยังไปต่อไหว..แต่อันตราย
ส่วนเกียร์ CVT พร้อมโหมด Manual นั้น การทำงานช่วงออกตัวจับพลังและดีดออกดีกว่าเกียร์
CVT ของ Subaru คือถ้าให้เทียบกับ CVT Jatco ลูกที่อยู่ในรถรุ่นธรรมดา เจ้า CVT ในตัวเทอร์โบนี่
ทำตามสั่งไวกว่า อาการยักเย่อของเกียร์น้อยกว่า มันดูเป็นเกียร์ที่ดีจนกระทั่งคุณได้ไปลองเกียร์
CVT ยุคใหม่กว่าอย่างใน X-Trail ซึ่งเวลากดเต็มเท้าแล้วจะพลีชีพช่วงออกตัวมากกว่า และมีการไล่รอบ
ส่งให้ด้วย..ทำให้รู้สึกอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเกียร์ CVT ของเจ้านี่ดีเท่า X-Trail อัตราเร่งน่าจะดีกว่านี้
เบรกค่อนข้าง Linear เหยียบเท่าไหร่หยุดเท่านั้น ช่วงแป้นแรกๆจะไม่กดไปแล้วเจอความว่างเปล่า
แบบ Altis ส่วนผ้าเบรกติดรถ ก็ยังเป็นผ้าเบรกติดรถ ถ้าหยุดรถจากความเร็วสูงบ่อยๆเข้าก็มีอาการเฟด
ไม่ต่างจากรถบ้านทั่วไป
อัตราการสิ้นเปลือง เห็นตัวเลขวิ่งทางไกลแล้วอย่าดีใจไป ในชีวิตจริง ซัดทางด่วนแค่ 40 กิโลก็ส่งเข็มน้ำมันลง
ไป 1/7 ถังได้แล้ว เพราะเทอร์โบ on boost ตั้งแต่ 2,300 รอบ และคันเร่งนี่แตะ 1 นิ้ว รอบตวัดไป 2,700 แตะ
2 นิ้วรอบมา 3,400 เทอร์โบก็บูสท์อยู่เกือบตลอดและน้ำมันก็ต้องจ่ายหนาตลอด รู้สึกว่ามันซดหนักกว่า
Teana 2.5XV ซะอีก
ถ้ารถคันนี้ราคา 1.15 ล้าน ผมคงไม่สน เพราะเป็นรถที่ดูธรรมดา ทำทุกอย่างได้แบบกลางๆ เวลามันจอดนิ่งๆ
แล้วไปนั่งเล่น ผมรู้สึกว่า Altis ESport ไม่ได้ด้อยกว่ากันมากถ้าไม่นับเรื่องอุปกรณ์ความปลอดภัย
แต่การที่นิสสันตั้งราคาไว้ 999,000 บาท (ตามในเว็บ) และมีการตกแต่งมาในระดับที่ไม่มากหรือน้อยเกินไป
ของเล่นครบกว่า Pulsar Turbo และมีคุณค่าในตัวเองเหมือนเอา Altis ESport มาใส่อุปกรณ์ความปลอดภัย
ครบๆ เพิ่มระบบนำทาง เพิ่ม Cruise control และเพิ่มม้าอีกราว 50 ตัวเข้าไปในราคาที่ต่างกันแสนบาท
ในสายตาคนชอบรถแรงๆแต่หน้าตาเรียบร้อย ขับผ่านด่านตำรวจสบายบรื๋อไม่โดนข้อหาดัดแปลงรถ..
ผมว่ามันคุ้ม และผมก็คิดว่ามันคุ้ม..แต่คนที่ไม่สนใจเรื่องความแรงคงบอกว่าแพงไร้สาระมั้งครับ
ดังนั้น..ก็อย่างที่บอกครับ ถ้าผมมีเงินล้านนึง และต้องหารถ C-Segment ใช้สักคัน ผมคงต้องไปกับ Sylphy Turbo
ผมมีปัญหาแค่ข้อเดียวที่ซีเรียสมากจริงๆครับ
คือผมไม่มีตังค์
https://www.youtube.com/watch?v=tNagZBzM428
https://www.youtube.com/watch?v=p8JtATn3Euo
-
ขอบคุณครับ
คงต้องตามเครื่องตัวนี้อีกตัว....เล็ก แต่จี๊ด...
-
ขอบคุณมากครับ :-*
-
เอาตรงๆๆนะครับผมว่ากินเยอะนะครับผมว่ากินเยอะครับถ้าชีอมาติดLPGเถอะครับแต่ต้องบอกก่อนว่าเครีองเปนหัวฉีดไดเร็คด้วยครับถ้าติดจริงๆๆแพงกว่า2เท่าครับยังไงถ้าผมถ้าชีอจริงเอาแต่ผมสนยูโรปเทอร์โบไปแล้วครับ :)
-
น่าจะมีเลือกโหมดการขับขี่แบบขี้เกียจหรือใบกัญชามาให้ซักหน่อย อัตราสิ้นเปลืองจะได้ดีขึ้น
ทำได้ง่ายๆ อยู่แล้วไม่มีอะไรยากเลย
-
ขอบคุณครับ :D
-
ขอบคุนครับ :)
-
คุณลุงที่มีปืนไซโคกันแอบไว้ในแขน ;D ;D
-
ทำไมไม่เอาเครื่องนี้มาลงจู้ค
:(
-
ผมก็คิดเหมือนพี่จิม คือ แรร์ไอเทม น่าซื้อ ถุงลม6ใบ เครื่องเทอรโบ คือคุ้มเลย น้ำมันก็ถูกลง จับโมช่วงล่าง
-
อ่านแบบขำๆ สรุปน่าซื้อครับ หากมีเงิน 1 ล้าน
แต่มาสรุปตอนท้าย "ผมไม่มีตังค์"
55
-
ทำไมไม่เอาเครื่องนี้มาลงจู้ค
:(
ใช่ครับ เห็นด้วย ตั้งราคา + option ดีๆ น่าจะขายได้ดี ตัวนอกก็ทำขายอยู่แล้วด้วย
ไม่เกินล้านแบบ Sylphy turbo
-
ของโคตรดี
จะเสียตอนเปิดตัวซีวิคเทอโบ
-
ทำไมไม่เอาเครื่องนี้มาลงจู้ค
:(
ใช่ครับ เห็นด้วย ตั้งราคา + option ดีๆ น่าจะขายได้ดี ตัวนอกก็ทำขายอยู่แล้วด้วย
ไม่เกินล้านแบบ Sylphy turbo
จู๊คเรานำเข้าจากอินโดหนิครับ แต่เครื่องตัวนี้ผลิตที่ไทย จะประกอบส่งกลับมาไทยยังไงดีล่ะ ต่างจากซิลฟี่ / พัลซ่าร์ ประกอบสำเร็จทั้งคันส่งออส ก็ตัดแบ่งโควต้ามาขายได้
-
ขอบคุนคับ ดูโอเคนะ
-
การตลาดนิสสันไทย...เมื่อกล้าลองดีกับพัลซ่า กล้าลองบ้ากับซิลฟี่ แต่ไม่กล้าลองลุ้นกับจู๊ก...ถ้าทำ special edition ในราคาซิลฟี่ มีคนกล้าลองดีลองบ้าลองลุ้นกับมันแน่ๆๆๆๆ
-
ขอบคุณครับ
8) 8) 8)
-
เป็นรถที่มีเงินน่าซื้อไว้จริงๆครับ ขอบคุณครับพี่แพน
-
ตั้งแต่ตอน Pulsar Turbo มาผมเตรียมอัพ step ไอ้คันนี้ไว้แล้ว
(http://www.headlightmag.com/main/images/stories/01_PanNew/Tiida_TurboProject/t_bumpersoffshot.jpg)
ไปๆมาๆต่อให้อัพแล้วก็ยังสู้ไม่ได้ ปรับบูสท์จาก 0.4 เป็น 0.53 บาร์ เปลี่ยนน้ำมันเป็น E85 แล้ว ยังเค้นม้าที่ล้อได้ 170 แต่ Pulsar Turbo มาถึงไม่ต้องทำอะไรเลยม้าที่ล้อก็ 175 แล้ว ผมสู้ Pulsar ได้แค่ 2 ช่วงคือ 0-60 (เพราะเกียร์ปลดปล่อยพลังได้เต็มที่) กับอีกทีคือรอหลัง 220 เพราะรถผมไม่มีล็อคอะไรเลย ถ้าปล่อยมันไหลมันก็จะไหลไปเรื่อยๆ 221-225 ได้แต่ขึ้นช้ามาก
นอกนั้น 60-210 ปล่อย Pulsar/Sylphy Turbo เขาไปยาวๆเลยครับยิ่งช่วง 120-190 ที่ผมต้องลุยด้วยเกียร์ 3 ยาวๆ พวก MR16DDT เขาจุ่มปุ๊บรอบดีดมารับแล้วไปเลย ทิ้งไปแบบห่างๆเลยครับ ไอ้ช่วงแบบนี้แหละครับที่รู้สึกว่า CVT มันโคตรมีคุณค่า แต่อยากให้ตีนต้นมันออกได้ดีกว่านี้
หลักๆแล้วผมเฉยๆกับตัวรถ Sylphy Turbo นะ ผมติดมันเพราะเรื่องแรงเป็นหลัก แต่ถ้าผมต้องขายรถตัวเอง (ซึ่งก็ได้แค่เงินดาวน์) ผมต้องผ่อนต่ออีกเดือนละเป็นหมื่นไปอีก 4 ปี ผมคงไม่ไหว ขอเจียด 2-3 หมื่นมาเปลี่ยนก้านสูบกับอัพstep เกียร์ไอ้ขาวคันเดิมดีกว่า แม้หลายอย่างมันสู้ Sylphy ไม่ได้ แต่งบการเงินผมคงสุดได้แค่นี้จริงๆ
-
ตั้งแต่ตอน Pulsar Turbo มาผมเตรียมอัพ step ไอ้คันนี้ไว้แล้ว
(http://www.headlightmag.com/main/images/stories/01_PanNew/Tiida_TurboProject/t_bumpersoffshot.jpg)
ไปๆมาๆต่อให้อัพแล้วก็ยังสู้ไม่ได้ ปรับบูสท์จาก 0.4 เป็น 0.53 บาร์ เปลี่ยนน้ำมันเป็น E85 แล้ว ยังเค้นม้าที่ล้อได้ 170 แต่ Pulsar Turbo มาถึงไม่ต้องทำอะไรเลยม้าที่ล้อก็ 175 แล้ว ผมสู้ Pulsar ได้แค่ 2 ช่วงคือ 0-60 (เพราะเกียร์ปลดปล่อยพลังได้เต็มที่) กับอีกทีคือรอหลัง 220 เพราะรถผมไม่มีล็อคอะไรเลย ถ้าปล่อยมันไหลมันก็จะไหลไปเรื่อยๆ 221-225 ได้แต่ขึ้นช้ามาก
นอกนั้น 60-210 ปล่อย Pulsar/Sylphy Turbo เขาไปยาวๆเลยครับยิ่งช่วง 120-190 ที่ผมต้องลุยด้วยเกียร์ 3 ยาวๆ พวก MR16DDT เขาจุ่มปุ๊บรอบดีดมารับแล้วไปเลย ทิ้งไปแบบห่างๆเลยครับ ไอ้ช่วงแบบนี้แหละครับที่รู้สึกว่า CVT มันโคตรมีคุณค่า แต่อยากให้ตีนต้นมันออกได้ดีกว่านี้
หลักๆแล้วผมเฉยๆกับตัวรถ Sylphy Turbo นะ ผมติดมันเพราะเรื่องแรงเป็นหลัก แต่ถ้าผมต้องขายรถตัวเอง (ซึ่งก็ได้แค่เงินดาวน์) ผมต้องผ่อนต่ออีกเดือนละเป็นหมื่นไปอีก 4 ปี ผมคงไม่ไหว ขอเจียด 2-3 หมื่นมาเปลี่ยนก้านสูบกับอัพstep เกียร์ไอ้ขาวคันเดิมดีกว่า แม้หลายอย่างมันสู้ Sylphy ไม่ได้ แต่งบการเงินผมคงสุดได้แค่นี้จริงๆ
ถามคุณแพนนิดนึงครับ
หากเอามาซนนิดหน่อย เปลี่ยนเทอร์โบลูกใหญ่ขึ้นให้บูสต์ติดซัก 3,500 รอบ แล้วแฟลชกล่องดีๆ จะทำให้เหมาะกับชีวิตประจำวันกว่านี้มั๊ยครับ ลูกเล็ก บูสต์ติดตลอด ถึงกินมากขนาดนี
ขอบคุณครับ
-
มันน่าจะมีเกียร์แมนนวลนะ สุดเลย
-
ขอบคุณครับ :D
แรง ออฟชั่นครบ ราคาไม่เกินล้าน คุ้มอยู่ แต่ซดน้ำมันไวไฟไปหน่อยครับ
-
ทำไมไม่เอาเครื่องนี้มาลงจู้ค
:(
ใช่ครับ เห็นด้วย ตั้งราคา + option ดีๆ น่าจะขายได้ดี ตัวนอกก็ทำขายอยู่แล้วด้วย
ไม่เกินล้านแบบ Sylphy turbo
จู๊คเรานำเข้าจากอินโดหนิครับ แต่เครื่องตัวนี้ผลิตที่ไทย จะประกอบส่งกลับมาไทยยังไงดีล่ะ ต่างจากซิลฟี่ / พัลซ่าร์ ประกอบสำเร็จทั้งคันส่งออส ก็ตัดแบ่งโควต้ามาขายได้
เครื่อง 1.6 DDTi ชิ้นส่วนนำเข้ามาจากญี่ปุ่นแทบจะทั้งหมดครับ ดังนั้นถ้าส่งไปโรงงานอินโดเพื่อเอาใส่จู๊ค มันจะมีปัญหาว่าใช้ชิ้นส่วน Local ไม่ถึงเกณฑ์ AFTA ไม่สามารถทำราคาขายได้ครับ
-
ขอบคุณมากครับพี่แพน
ถ้าไม่จองESport ไปก่อนคงคิดหนักเหมือนกันครับ
-
ตั้งแต่ตอน Pulsar Turbo มาผมเตรียมอัพ step ไอ้คันนี้ไว้แล้ว
(http://www.headlightmag.com/main/images/stories/01_PanNew/Tiida_TurboProject/t_bumpersoffshot.jpg)
ไปๆมาๆต่อให้อัพแล้วก็ยังสู้ไม่ได้ ปรับบูสท์จาก 0.4 เป็น 0.53 บาร์ เปลี่ยนน้ำมันเป็น E85 แล้ว ยังเค้นม้าที่ล้อได้ 170 แต่ Pulsar Turbo มาถึงไม่ต้องทำอะไรเลยม้าที่ล้อก็ 175 แล้ว ผมสู้ Pulsar ได้แค่ 2 ช่วงคือ 0-60 (เพราะเกียร์ปลดปล่อยพลังได้เต็มที่) กับอีกทีคือรอหลัง 220 เพราะรถผมไม่มีล็อคอะไรเลย ถ้าปล่อยมันไหลมันก็จะไหลไปเรื่อยๆ 221-225 ได้แต่ขึ้นช้ามาก
นอกนั้น 60-210 ปล่อย Pulsar/Sylphy Turbo เขาไปยาวๆเลยครับยิ่งช่วง 120-190 ที่ผมต้องลุยด้วยเกียร์ 3 ยาวๆ พวก MR16DDT เขาจุ่มปุ๊บรอบดีดมารับแล้วไปเลย ทิ้งไปแบบห่างๆเลยครับ ไอ้ช่วงแบบนี้แหละครับที่รู้สึกว่า CVT มันโคตรมีคุณค่า แต่อยากให้ตีนต้นมันออกได้ดีกว่านี้
หลักๆแล้วผมเฉยๆกับตัวรถ Sylphy Turbo นะ ผมติดมันเพราะเรื่องแรงเป็นหลัก แต่ถ้าผมต้องขายรถตัวเอง (ซึ่งก็ได้แค่เงินดาวน์) ผมต้องผ่อนต่ออีกเดือนละเป็นหมื่นไปอีก 4 ปี ผมคงไม่ไหว ขอเจียด 2-3 หมื่นมาเปลี่ยนก้านสูบกับอัพstep เกียร์ไอ้ขาวคันเดิมดีกว่า แม้หลายอย่างมันสู้ Sylphy ไม่ได้ แต่งบการเงินผมคงสุดได้แค่นี้จริงๆ
ผมว่าเปลียนเกียร์ATมาเปนMTผมว่ามันokนะครับ
-
ทำรถออกมาให้แรง แต่พวงมาลัยและช่วงล่างทำให้ไม่มั่นใจนี่จบข่าวสำหรับขาซิ่งที่จะซื้อรถแนวนี้เลยนะครับ
-
ทำไมไม่เอาเครื่องนี้มาลงจู้ค
:(
ใช่ครับ เห็นด้วย ตั้งราคา + option ดีๆ น่าจะขายได้ดี ตัวนอกก็ทำขายอยู่แล้วด้วย
ไม่เกินล้านแบบ Sylphy turbo
เหมือนเห็นคุณจิมเคยบอกว่า ถ้าเอา juke ลงเทอร์โบ ราคาจะอยู่ราวๆล้านปลายๆเลยนะครับ
-
80-120 ได้ 5.19 ราคามาแบบนี้ น่าสนใจครับ
-
ถ้าได้เกียร์ธรรมดาน่าจะขับมันส์ขึ้นอีกเยอะและน่าจะประหยัดขึ้นอีกนิด(รึเปล่า)
-
??? ??? ??? ??? ???
-
เสียดายรุ่นนี้มาก
อยากได้แต่พาผู้ใหญ่ที่บ้านไปเจอกับศูนย์แย่ๆ
กับการตอบสนองของคอลเซ็นเตอร์ และ แอดมินเฟสบุ๊ค ห่วยๆ
ทุกคนสรุปว่าไปจองยี่ห้ออื่นเลย :'(
-
ถ้า Reflash กล่องและใช้เทอร์โบโตขึ้น ผมว่าช่วยให้ประหยัดได้ครับ แต่มีข้อแม้คือพอเปลี่ยนให้ไซส์เล็กลง รอบต้นมันจะอืดขึ้น คุณต้องไม่หงุดหงิดจนกดคันเร่งลึกกว่าที่เคยเป็นเพื่อให้มันไปไวเท่าก่อนนะครับแบบนี้จะประหยัดขึ้น
ผมกล้าพูด เพราะสมัยก่อนรถผมใช้โบ Garrett T25 ตัวเล็กของ Saab ซึ่งขนาดมันใกล้เคียงกับ TF035 ของ MR16DDT มาก (ถ้าผมจำไม่ผิดมันใช้รุ่นนี้นะ) โดยที่ 035 ขนาดมันจะอยู่ระหว่าง T25 Saab และ TD04 Subaru ผลคือขับในเมืองโคตรไวครับแตะปุ๊บมาทันทีเหมือนขับเครื่อง 2.5 ลิตร NA เลยแต่วิ่งในเมืองอย่างโหดครับ 7 โลลิตร วิ่งทางไกล 110 มีแตะ 11-12 โลลิตร ตอนหลังผมเปลี่ยนมาเป็นลูก TD04 ถอดจากซูบารุ บูสท์มาช้าลงเยอะครับ 3,000 ถึงมาเต็ม แต่อัตราสิ้นเปลืองดีขึ้น วิ่งทางไกลมี 13-14 วิ่งในเมืองมี 8 หรือพูดง่ายๆคือถ้าขับแบบไม่บูสท์บ่อยๆ มันประหยัดเกือบเท่าเครื่องเดิมตอนไม่โบแล้วครับ สมัยไม่มีโบถังนึงผมวิ่งไปๆมาๆอัดๆในเมืองได้ 400-410 โลก่อนไฟเตือนขึ้น ตอนนี้ก็ 380-400 โลไฟเตือนค่อยขึ้น
ในเคสที่เปลี่ยนจาก 035 เป็น TD04 อาจจะไม่เห็นผลชัดนักเรื่องความประหยัด แต่ถ้าผมมี Sylphy Turbo สักคัน ผมก็จะลองครับ เพราะ TD04 มันไม่ได้แพงแบบ 05 นานๆมีโผล่มาลูกละ 4-5 พันพอหาได้
ถ้าคุณจะ extreme ไปเลย..ลองเอา TD05 มาใส่ได้ครับรับรอง รอบไม่ถึง 3,000 ต่อให้กดมิดก็ไม่มีบูสท์แน่ครับ ขนาดเอามาใส่ Civic 1.7 ต้องลากกันเกือบ 4,000 กว่าบูสท์จะมา
อีกเรื่องนึงที่ผมยังไม่แน่ใจคือ เวสต์เกตครับ ผมไม่มีข้อมูลลึกถึงขนาดว่าเวสต์เกตของ MR16DDT มันเป็นกระป๋องกับสปริงโง่ๆแบบ TD04 ในรถผม หรือมันควบคุมด้วยแรงดันผ่านโซลินอยด์อีกที ตรงนี้คนเคยรื้อโบ MR16 ตอบได้แน่ แต่ผมไม่ได้ เพราะไม่เคยรื้อ ถ้าตัวรถมันสามารถคุมบูสท์ผ่านกล่อง ECU โดยอาศัยโซลินอยด์กับวาล์วแรงดันไฟฟ้าทำนองนี้..บางทีเราสามารถกำหนดแรงบูสท์ผ่านกล่อง ECU และสั่งให้มันบูสท์น้อยลงที่รอบต่ำได้เลย แบบนี้ก็ไม่ต้องไปยุ่งกับการเปลี่ยนเทอร์โบ
ส่วนการ Reflash หรือจูนกล่องเฉยๆไม่ได้ไปปรับบูสท์หรือเปลี่ยนโบเปลี่ยนท่อ..เห็นคนใช้ MR16DDT บอกกันว่ามันไม่ได้ช่วยให้ประหยัดขึ้นหรอกครับ
-
สรุป คือ พี่จิมมี่ จะซื้อ Sylphy Turbo หรือเปล่าครับ :)
-
ใช้ในเมืองไม่เหมาะแน่ๆ
-
รถแรงที่ประหยัดน้ำมันกว่ารถไม่แรง ไม่มีหรอกครับ
ส่วนตัวผมว่ารุ่นนี้กินน้ำมันปกติตามแบบเครื่องโบ เทียบกับเบนซ์ บีเอ็ม เทอโบเบนซินก็ไม่เห็นจะต่างกัน
-
ฟังตอนท้ายคลิปแล้วสงสาร Nissan
-
MR16DDT ปรับบูสผ่าน ECU ได้ครับ ลูกเดิมปรับได้เต็มที่ 1.2 bar ครับ
-
ลองดูภาพใน fb ของร้านเคลือบแก้วของคุณเคี้ยงสิครับ
ตอนแรกผมก็นึกว่าคุณจิมแค่พูดฟันธงในลักษณะของการแนะนำว่าต้องจองๆๆๆๆ
สรุป คือ พี่จิมมี่ จะซื้อ Sylphy Turbo หรือเปล่าครับ :)
-
การติดกล่องคันเร่งช่วยให้ประหยัดในเมืองได้รึเปล่าครับ
-
ขอบคุณสำหรับคลิปครับ
คิดไม่ถึงว่า Nissan Thailand จะกล้าเอาเจ้านี่มาขาย
-
รถแรงที่ประหยัดน้ำมันกว่ารถไม่แรง ไม่มีหรอกครับ
ส่วนตัวผมว่ารุ่นนี้กินน้ำมันปกติตามแบบเครื่องโบ เทียบกับเบนซ์ บีเอ็ม เทอโบเบนซินก็ไม่เห็นจะต่างกัน
อย่างนี้ trend เครื่อง downsizing ก็เชื่อไม่ได้เหรอครับ มีตั้งหลายเครื่องที่ติดโบเพื่อความประหยัด อย่าเหมารวม
-
โทรถามมาสองเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายใหญ่ (แต่ละเจ้ามีหลายโชว์รูมในเครือ) รถไม่มีขายอะ
-
อุดหนุนและรับมาดูแลเรียบร้อยสิบกว่าวันล่ะครับ
เหมือนที่รีวิวเป๊ะ ยกเว้น นน.พมล. ผมว่ามันใกล้กับ L33 อยู่นะครับ แต่ไม่คมเท่า
ใช้งานแบบ พ่อบ้านแอบซิ่ง เหมือนที่ว่าไว้ คือ วิ่งเรื่อยๆ แต่กดหนักๆบ้างบางเวลา
วิ่ง ตจว. 90% กทม.ติดๆ 10%
1.5 ถังแรกได้ 14.3 กม./ลิตร 1.66 บาท/กม. E10 ครับ
ไม่แน่ใจว่าจะดีขึ้นถ้าคุ้นเคยกันกว่านี้ไหม แต่ถ้าเทียบตอนนี้ ขับแบบเดียวกันกับ L33-2.5 เติม E20 กินน้อยกว่า sylphy turbo เติม E10 อยู่ราว 0.5-1 กม/ลิตร
โดยรวม พอใจและตัดสินใจไม่ผิดครับ
-
สเปคสุดยอดเลยครับ เสียเงินไม่ถึงล้าน แต่ได้ตั้ง 190 ม้า แต่ผมเฉยๆ กับหน้าตาและภายในของมันมาก
ตอนนี้ขอรอดู Civic 1.5 Turbo ก่อนละกันครับ