Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: yothailand ที่ มีนาคม 10, 2016, 16:38:22

หัวข้อ: ระหว่าง BMW 320 d กับ 320 i คันไหน น่าสนใจ มากกว่ากันครับ วิ่งใช้งานในกรุงเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: yothailand ที่ มีนาคม 10, 2016, 16:38:22
รบกวนขอ  comments  ด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง BMW 320 d กับ 320 i คันไหน น่าสนใจ มากกว่ากันครับ วิ่งใช้งานในกรุงเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: AkE ที่ มีนาคม 10, 2016, 16:54:00
ใช้งานใน กทม จริงๆบอก style การขับและแนวที่ชอบหน่อยจะดีนะครับ แต่ไม่เปนไรผมจะรวมๆให้ ถ้าเน้นว่าต้องประหยัดน้ำมัน ชอบดึงๆตอนต้น

แตะคันเร่งเปนมาๆ แต่ถ้าขับลากขับไกลแรงดึงหายเยอะนะครับ เสียงเครื่องรับได้ที่ไม่เพราะ อันนี้ 320d ได้ครับผ่าน แต่ถ้าชอบลากรอบเน้นดึง

ยาวๆ ซึ่งผมเห็นบอกว่าขับแต่ใน กทม ไม่รู้จะใช้ได้ซักเท่าไหร่ เรื่องประหยัดเป็นรองแต่ไม่ห่างกันเยอะ ชอบเสียงเครื่องเพราะๆ 320i เลยครับ ถ้า

เป็นผมๆเอา 320i ขับสนุกกว่า แรงกว่านิดๆ แต่ถ้าใช้แต่ในเมือง 320d ก้โอเคอะครับประหยัดกว่าด้วย
หัวข้อ: Re: ระหว่าง BMW 320 d กับ 320 i คันไหน น่าสนใจ มากกว่ากันครับ วิ่งใช้งานในกรุงเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: Super hornet ที่ มีนาคม 10, 2016, 17:03:08
เครื่องเบนซิน กับ ดีเซล บุคลิกต่างกันอยู่แล้วครับ ถ้าอยากชัดๆต้องหารถลองขับเทสดูจะรู่ใจตัวเองที่สุด
หัวข้อ: Re: ระหว่าง BMW 320 d กับ 320 i คันไหน น่าสนใจ มากกว่ากันครับ วิ่งใช้งานในกรุงเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: PAN ที่ มีนาคม 10, 2016, 17:06:48
ถ้าไม่คำนึงเรื่องประหยัดน้ำมันไปเบนซินเลยครับ ลากรอบสนุกกว่าเยอะครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง BMW 320 d กับ 320 i วิ่งใช้งานในกรุงเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: simcity ที่ มีนาคม 10, 2016, 17:08:19
ถ้ารับได้กับเสียงเครื่องยนต์ เลือก 320d เลยครับ

320i อาจจะแรงกว่านิดๆ แต่ไม่ต่างกันมาก

ระยะยาวเครื่องดีเซล ทนกว่า จุกจิกน้อยกว่า ราคาขายต่อดีกว่า

ประหยัดน้ำมันกว่า แถมค่าน้ำมันดีเซลถูกกว่า
หัวข้อ: Re: ระหว่าง BMW 320 d กับ 320 i คันไหน น่าสนใจ มากกว่ากันครับ วิ่งใช้งานในกรุงเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: kenny523 ที่ มีนาคม 10, 2016, 17:34:31
d ครับสำหรับผม ประหยัดน้ำมันดี ถึงแม้รถจะแพงกว่า #โครตขัดแย้ง
หัวข้อ: Re: ระหว่าง BMW 320 d กับ 320 i คันไหน น่าสนใจ มากกว่ากันครับ วิ่งใช้งานในกรุงเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: chaithawat ที่ มีนาคม 10, 2016, 18:01:03
ถ้าก่อนlci n20b กับ n47 ดีเซลเดิม ผมเลือกดีเซลครับ ดึงตั้งแต่ออกตัวแตะคันเร่งแล้ว ดึงดีแบบน่าตกใจเคยเทสไดร์ฟตอนยูเทรินรีบออก+กดลึกไปนิดนี่เล่นเอาล้อฟรีท้ายปัดเซลร้องลั่นเลย เกือบฟาดฟุตบาท  :-X
เป็นอะไรนี่ขับสนุกมาก กดเป็นดึงแต่รอบไม่สูงมากนะแค่สี่พันก็ตัด
แต่ถ้า lci ดีเซลยังบล๊อคเดิม แต่เบนซินเป็นเครื่องใหม่ตะกูล b จำไม่ได้ว่ารหัสอะไร ผมเอาเบนซินครับ เวลากดเสียงหวานนุ่มดีมาก แล้วก็ดึงยาวๆลากรอบนานกว่า เห็นเข็มกวาดและดีดได้อารมณ์ดี แต่ดึงหนักๆแรงๆยังไงก็สู้ดีเซลไม่ได้ ดึงไวแต่หมดไวเช่นกันครับ
ดุเสปคแล้วหนีกันไม่เกินครึ่งวิครับ แต่ขับจริงดูเหมือนดีเซลจะแรงกว่าเยอะ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง BMW 320 d กับ 320 i คันไหน น่าสนใจ มากกว่ากันครับ วิ่งใช้งานในกรุงเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: whoami ที่ มีนาคม 10, 2016, 20:59:56
เป็นผมเอาเบนซินนะ ส่วนต่างของราคาไว้เติมน้ำมันได้ยาวๆเลย
หัวข้อ: Re: ระหว่าง BMW 320 d กับ 320 i คันไหน น่าสนใจ มากกว่ากันครับ วิ่งใช้งานในกรุงเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: Alcatraz ที่ มีนาคม 11, 2016, 01:37:04
วิ่งในกรุงเทพ แปลว่าไม่ค่อยได้ใช้ความเร็วสูงๆ ใช้ดีเซลจะคล่องตัวกว่าเพราะแรงบิดที่มาแยอะกว่า เปลี่ยนเลนอะไรง่ายไปหมด โดยไม่ต้องลากรอบ อยู่ในกรุงเทพรถติดๆจะเอาที่ไหนไปลากรอบ

แต่ถ้าจะเอามาวิ่งแข่งกับคนอื่นเบนซินจะวิ่งได้เร็วกว่า

ถ้าก่อนlci n20b กับ n47 ดีเซลเดิม ผมเลือกดีเซลครับ ดึงตั้งแต่ออกตัวแตะคันเร่งแล้ว ดึงดีแบบน่าตกใจเคยเทสไดร์ฟตอนยูเทรินรีบออก+กดลึกไปนิดนี่เล่นเอาล้อฟรีท้ายปัดเซลร้องลั่นเลย เกือบฟาดฟุตบาท  :-X
เป็นอะไรนี่ขับสนุกมาก กดเป็นดึงแต่รอบไม่สูงมากนะแค่สี่พันก็ตัด
แต่ถ้า lci ดีเซลยังบล๊อคเดิม แต่เบนซินเป็นเครื่องใหม่ตะกูล b จำไม่ได้ว่ารหัสอะไร ผมเอาเบนซินครับ เวลากดเสียงหวานนุ่มดีมาก แล้วก็ดึงยาวๆลากรอบนานกว่า เห็นเข็มกวาดและดีดได้อารมณ์ดี แต่ดึงหนักๆแรงๆยังไงก็สู้ดีเซลไม่ได้ ดึงไวแต่หมดไวเช่นกันครับ
ดุเสปคแล้วหนีกันไม่เกินครึ่งวิครับ แต่ขับจริงดูเหมือนดีเซลจะแรงกว่าเยอะ



ไปเชคข้อมูลมาใหม่นะครับ 320d ใช้เครื่องใหม่ b47 ตั้งแต่ก่อน lci แล้วแต่เป็นปีหลังๆ
กลับกันเลย 320i Lci ยังคงเป็นเครื่อง N20 เดิม ส่วนเครื่องใหม่ b48 2000cc เบนซิน จะอยู่ใน 320i ประเทศอื่นยกเว้นไทย ส่วนไทยตัวนี้จะเป็น 330i 252แรงม้า
หัวข้อ: Re: ระหว่าง BMW 320 d กับ 320 i คันไหน น่าสนใจ มากกว่ากันครับ วิ่งใช้งานในกรุงเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: axister ที่ มีนาคม 11, 2016, 05:08:34
ถ้าไม่ได้ใช้งานเยอะมาก ผมว่า 320i ก็โอเคนะครับ ส่วนต่างเอาไปเติมน้ำมันได้เยอะ

ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองรึเปล่า 320d ใช้มา 2 ปีเหมือนเครื่องมันจะดังขึ้น หลังๆนิถ้าเปิด auto start/stop ปล่อยเบรกทีสั่นสะเทือนไม่ใช่น้อย

ผมใช้รถค่อนข้างเยอะ มันจะหยัดมากจริงๆๆๆ ขับแบบไม่สนุกเท้า 15-17 km/l เกือบตลอด
หัวข้อ: Re: ระหว่าง BMW 320 d กับ 320 i คันไหน น่าสนใจ มากกว่ากันครับ วิ่งใช้งานในกรุงเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: w212cdi ที่ มีนาคม 11, 2016, 10:17:30
ถ้าวิ่งเยอะ diesel ครับ ถ้าไม่เยอะ i ครับ

กำลังเครื่องไม่ต่างกันมาก ขับสนุกทั้งคู่
หัวข้อ: Re: ระหว่าง BMW 320 d กับ 320 i คันไหน น่าสนใจ มากกว่ากันครับ วิ่งใช้งานในกรุงเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: pite ที่ มีนาคม 11, 2016, 11:11:57
ระยะยาวหลัง BSI หมด ตัว ดีเซลซ่อมน้อยกว่า ตัวเบนซิน นะครับ พอใช้ไปนานๆ ตัวเบนซินจะรั่วซึมมากว่าดีเซล ช่างบอกมาเพราะแรงดันน้ำมันมันแรงกว่า
หัวข้อ: Re: ระหว่าง BMW 320 d กับ 320 i คันไหน น่าสนใจ มากกว่ากันครับ วิ่งใช้งานในกรุงเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: TRcdi ที่ มีนาคม 11, 2016, 11:38:02
ดีเซลครับ  แต่  ต้องรับเสียงเครื่องดังๆ สั่นๆ ได้นะ

ขับดี  เติมน้ำมันที ใช้ยาวจนลืมเลย
หัวข้อ: Re: ระหว่าง BMW 320 d กับ 320 i คันไหน น่าสนใจ มากกว่ากันครับ วิ่งใช้งานในกรุงเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: chaithawat ที่ มีนาคม 11, 2016, 12:20:04
วิ่งในกรุงเทพ แปลว่าไม่ค่อยได้ใช้ความเร็วสูงๆ ใช้ดีเซลจะคล่องตัวกว่าเพราะแรงบิดที่มาแยอะกว่า เปลี่ยนเลนอะไรง่ายไปหมด โดยไม่ต้องลากรอบ อยู่ในกรุงเทพรถติดๆจะเอาที่ไหนไปลากรอบ

แต่ถ้าจะเอามาวิ่งแข่งกับคนอื่นเบนซินจะวิ่งได้เร็วกว่า

ถ้าก่อนlci n20b กับ n47 ดีเซลเดิม ผมเลือกดีเซลครับ ดึงตั้งแต่ออกตัวแตะคันเร่งแล้ว ดึงดีแบบน่าตกใจเคยเทสไดร์ฟตอนยูเทรินรีบออก+กดลึกไปนิดนี่เล่นเอาล้อฟรีท้ายปัดเซลร้องลั่นเลย เกือบฟาดฟุตบาท  :-X
เป็นอะไรนี่ขับสนุกมาก กดเป็นดึงแต่รอบไม่สูงมากนะแค่สี่พันก็ตัด
แต่ถ้า lci ดีเซลยังบล๊อคเดิม แต่เบนซินเป็นเครื่องใหม่ตะกูล b จำไม่ได้ว่ารหัสอะไร ผมเอาเบนซินครับ เวลากดเสียงหวานนุ่มดีมาก แล้วก็ดึงยาวๆลากรอบนานกว่า เห็นเข็มกวาดและดีดได้อารมณ์ดี แต่ดึงหนักๆแรงๆยังไงก็สู้ดีเซลไม่ได้ ดึงไวแต่หมดไวเช่นกันครับ
ดุเสปคแล้วหนีกันไม่เกินครึ่งวิครับ แต่ขับจริงดูเหมือนดีเซลจะแรงกว่าเยอะ



ไปเชคข้อมูลมาใหม่นะครับ 320d ใช้เครื่องใหม่ b47 ตั้งแต่ก่อน lci แล้วแต่เป็นปีหลังๆ
กลับกันเลย 320i Lci ยังคงเป็นเครื่อง N20 เดิม ส่วนเครื่องใหม่ b48 2000cc เบนซิน จะอยู่ใน 320i ประเทศอื่นยกเว้นไทย ส่วนไทยตัวนี้จะเป็น 330i 252แรงม้า
ไม่ต้องเช็คหรอกครับข้อมูลถูกต้องแล้ว  เพราะเล่นบีเอ็มอยู่หลายคัน
ดีเซลยังคงเป็นบล๊อคเดิมไม่ได้บอกว่าเครื่องเดิม พัฒนาจากพื้นฐาน n47 อะไหล่ยกช้อตบลอกเดียวกันเลย ให้ม้าเพิ่มขึ้นแต่เปลี่ยนรหัสใหม่ฝาใหม่  เหมือน n42 มา n46 หรือ m ฝาขาวฝาดำ ไม่ได้เปลี่ยนเยอะ หน้าตาคล้ายกันแต่พัฒนาบางจุดเอา
320I เครื่องใหม่ถูกแล้วครับ 100% ไม่ต้องเช็คข้อมูลอะไรเพราะออกมาปลายปีที่แล้ว  ก่อนหน้านี้จอง n20 เอาไว้ก่อน lci ยอมทิ้งมาเอาเพราะเซลบอกว่ามีเครื่องใหม่น่าจะ b48 นะหละครับถ้าจำไม่ผิดจะมา กับหาข้อมูลจาก bmw th.
 เด๋วว่างถ่ายรูปเครื่องมาให้ชมครับ ดูเครื่องจะตัวใหญ่กว่าเดิมเต็มห้องเครื่องกว่าเดิม ช่องเติม กระปุกเติมของเหลวเปลี่ยนใหม่หมดทุกจุด
หัวข้อ: Re: ระหว่าง BMW 320 d กับ 320 i คันไหน น่าสนใจ มากกว่ากันครับ วิ่งใช้งานในกรุงเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ มีนาคม 11, 2016, 12:33:24
เครื่องดีเซลของ BMW เป็นเครื่องที่ดีไม่แพ้ใครนะครับ ถ้ามีโอกาส น่าจะเอา ดีเซล นะครับ
หัวข้อ: Re: ระหว่าง BMW 320 d กับ 320 i คันไหน น่าสนใจ มากกว่ากันครับ วิ่งใช้งานในกรุงเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: Dr.Jones ที่ มีนาคม 11, 2016, 12:55:39
กลับกันเลย 320i Lci ยังคงเป็นเครื่อง N20 เดิม

+++++++++++++++

320i LCI เป็นเครื่อง "B48" ครับ ข้าพเจ้าลองเช็ค VIN ของรถใน Web Bimmer ดูแล้ว

เปิดฝากระโปรงออกมา หน้าตา Layoutเครื่อง ไม่เหมือนกับที่คุณ Jimmy รีวิวไว้เมื่อ F30 ออกใหม่ๆครับ
(จะไม่เห็นตัวสีเงินๆเทาๆที่มุม)
หัวข้อ: Re: ระหว่าง BMW 320 d กับ 320 i คันไหน น่าสนใจ มากกว่ากันครับ วิ่งใช้งานในกรุงเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ มีนาคม 11, 2016, 13:29:48
อะไรก็ได้ครับ อยู่ที่ลักษณะการขับ
ถ้าเป็นคนเท้าหนัก กดมิดตลอด 320i ไปเลย ประหยัดเงินได้อีกเยอะ
ถ้าขับเรื่อยๆชิวๆ ใช้รถเยอะหน่อย 320d
หัวข้อ: Re: ระหว่าง BMW 320 d กับ 320 i คันไหน น่าสนใจ มากกว่ากันครับ วิ่งใช้งานในกรุงเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: bingoman ที่ มีนาคม 12, 2016, 17:44:24
ถ้าวัดกันจริงๆ 320i อัตราเร่งดีกว่านิดนึง ของโฉม F30 นะครับ   

แต่ใช้ในเมือง  แนะนำว่าไปดีเซลครับ
ตัวดีเซล ไม่มีคำว่าอืดครับ แต่พอวิ่งทางไกลแล้ว รอบไม่สูง ทำให้เค้นแล้วไม่มัน  มันไปแบบทื่อๆ เหมือน CVT  แต่ตัวเบนซินไปแบบยิ่งรอบสูงยิ่งมัน  ยิ่งหวาน

แต่ผมเชียร์ดีเซล  เพราะเบนซิน ในเมืองกินมากๆ   ปกติแล้ววิ่งในเมืองเบนซินจะกินกว่าดีเซลประมาณ 4-5 km/l เช่น เบนซิน  6 km/l  ดีเซลจะได้ซัก11 km/l   ถ้าขับตามกันไปเลยนะครับ ไม่ได้ขับต่างกันเลย
แล้ววิ่งในเมือง  เครื่องดีเซล ตรงสไตล์กว่า คือไม่ต้องเหยียบลึก  แต่รถไปได้ดี  เพราะท๊อคสูงกว่า