Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: i-din ที่ มีนาคม 30, 2009, 13:38:06
-
รถไฮบริด ทุกยี่ห้อมีหมด ทำไมเค้ามีเอามาขายในเมืองไทยบ้าง ภาษี 5 หรือ 10% เองผมไม่ค่อยแน่ใจ ถ้าว่ารวมภาษีนำเข้าแล้วราคามันจะแพงมหาศาล เลยไม่นำเข้ามา แถวบ้านผมมี Toyota Prius อยู่คันนึง เงียบมาก แล้วตามถนนนก็เห็น Alphard Hybrid อยู่บ้างนะ ผมว่า รถไฮบริดในเมืองไทย ก็พอจะมีอนาคตอยู่นะครับ เพื่อน ๆ คิดไงครับ
-
กินโยเกิร์ตสิครับ แล้วจะเกิด เหอๆๆๆๆ ล้อเล่นครับ
ผมว่ายังไม่เกิดง่ายๆ หรอกครับ สำหรับตลาด hybrid ถ้า...
1. ค่ายรถยนต์ยังไม่ให้ความสนใจมากกว่านี้
2. การดูแล บำรุงรักษา ยังถือเป็นเรื่อง "ยาก" และ ค่าใช้จ่ายสูง ในขณะนี้
-
อ๊ากกก
ข้างบนแย่งมุก T_T
-
อ๊ากกก
ข้างบนแย่งมุก T_T
แหะๆ เหลือบไปเห็นใน TV พอดี
-
ภาษีรถยนต์บ้านเรา ถ้าไม่นับเรื่อง VAT 7% (ที่มีในสินค้าและบริการทุกชนิด)
จะมีอยู่ 2 ส่วน คือ
- ภาษีสรรพสามิตรถยนต์
- ภาษีนำเข้ารถยนต์ทั้งคัน
รถ Hybrid ได้รับสิทธิพิเศษในเรื่องภาษีสรรพสามิตรถยนต์ก็จริงอยู่ (เสียภาษีอัตรา 10% เท่านั้น
ในขณะที่รถ E20 เสียภาษีต่ำสุดก็เริ่มต้นที่ 25% , EcoCar เสียภาษีสรรพสามิต 17%)
แต่ถ้าเป็นรถนำเข้ามาทั้งคัน ก็ต้องโดนเรื่อง ภาษีนำเข้ารถทั้งคัน ราวๆ 80% ขึ้นไป ของราคานำเข้าที่มาถึงท่าเรือ อยู่ดี
ดังนั้น ถ้าจะให้มันเกิด ก็ต้องประกอบในประเทศ อย่างที่ Camry Hybrid กำลังจะผลิต/ออกขายในปีนี้
แต่ทำไมถึงเริ่มขายกับรถรุ่นสูงๆ ก่อนก็ไม่ทราบ หรือจะวางภาพพจน์ไว้ว่า รถ Hybrid เป็นรถไฮโซนิดๆ
โดย Camry Hybrid จะเป็นรุ่นที่ช่วยปูพื้น/สร้างภาพให้เกิดกับผู้บริโภคชาวไทย ก็ไม่รู้เหมือนกัน
โดยส่วนตัว ผมว่า ถ้า Toyota ไม่ทำรถ ECOCar นะ ก็น่าจะประกอบรถเล็กเป็นรุ่น Hybrid นี่แหละ ไปขายแข่งกับ ECOCar เจ้าอื่นๆ ในตลาด
ถ้าเป็นเช่นนั้น ผมว่า เกิดแน่ๆ ครับ
-
อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวจริงๆครับ ถ้าภาครัฐสนับสนุนก็ไม่ยากหรอกครับ ลองมีนโยบายที่น่าสนใจ ค่ายรถคงตัดสินใจได้ไม่ยาก แต่ผมมองว่าถ้าเกิดจริงๆ คิดต่อไปนะครับ ราคาก็ไม่น่าจะแพงกว่ารถตลากมาก กลุ่มลูกค้าที่ซื้อรถเก๋งไว้ใช้สัดส่วนก็มากพอสมควรเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ รถไฮบริดมีอัตราการกินน้ำมันน้อยลงแน่ๆ น้ำมันก็จะมียอดจำหน่ายน้อยลงใช่มั๊ยครับ แล้วต่อมาบริษัทน้ำมันเหล่านั้นก็จะมีผลกำไรลดลง ผู้ถือหุ้นก็จะได้เงินปันผลลดลง มูลค่าหุ้นทางจิตวิทยาอาจทำให้มีราคาต่ำลง เอาล่ะครับสรุปเลยละกันว่าผู้ที่เสียผลประโยชย์จะทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ทางภาครัฐออกมาสนับสนุนเท่าที่ควร แล้วอย่างนี้ทางบริษัทอยากจะเข้ามาวัดดวงลงทุนเหรอครับ ผมว่าไม่......
-
ผมว่าเดี๋ยวก็รู้ครับว่ารถHybridจะรุ่งหรือไม่
เดี๋ยวcamryออกมาก็รู้ครับ 8)
ส่วนภาษีตามคุณ P_Wut เลยครับ
-
ผมว่ารัฐบาลควรสนับสนุนของพวกนี้ได้แล้วครับ
-
เปิดซิงด้วย Prius ก็ไม่เลวนะครับ ขอในราคาที่เอื้อมถึงหน่อยนึง
-
ผมว่า.....
ค่าบำรุงรักษาในเมืองไทยคงแพงโคตรๆๆๆๆๆๆ
-
โอ้....ภาษีนำเข้า
-
มุึมมองของผมนะครับเห็นด้วยกับคุณ P_Wut เลยครับ
Camry Hybrid เนี่ยจะเป็นตัวชี้วัดว่ารถไฮบริดจะรุ่งหรือร่วงในเมืองไทย
เรื่องอะไหล่และการบำรุงรักษาก็เป็นอีกเรื่องครับที่ต้องพิสูจน์กันอีกว่าจะเป็นยังไงต่อไป
ถ้า 2 อย่างเกิดขึ้นในราคาที่ไม่แพง "มาก" โอกาส "เกิด" ยังมีครับ
-
เหตุที่เค้าต้องทำระบบไฮบริดกับรถรุ่นแพงๆไว้ก่อน เพราะความกลัวนั่นละครับ
ซึ่งถ้าเป็นคุณผู้อ่านเอง ก็คงจะกลัว เงินลงทุนมันสูงมากนะครับ
ต้นทุนในการพัฒนาระบบ ในอดีตมันแพงมาก
ขืนเอามาใส่กับรถเล็กเลย รถเล็กคันนั้นราคาก็ทะลุพรวดพราด แพงเกินเหตุ คนก็ไม่อยากซื้อ
รถก็ขายไม่ออก เป็นอันว่าเจ๊ง นั่นเอง
ดังนั้น การเอาไปใส่ในรถราคาแพงก่อน ก็เพื่อให้ราคามันเหมาะสมในเบื้องต้น
จากนั้น พอคนเริ่มซื้อมากขึ้น การผลิตชิ้นส่วน เริ่มมากขึ้น
ต้นทุนต่อชิ้นอะไหล่ก็เริ่มลดลง ทีนี้ละ จะเอามาปรับปรุงต่อ ใส่กับรถเล็ก ก็ง่ายขึ้น เพราะต้นทุนถูกลง
ไม่ใช่ว่าบริษัทรถไม่สน
เพราะถ้าไม่สน โตโยต้า กับ ฮอนด้า ก็คงไม่ส่งรถไฮบริดของตนเองมาวิ่งเล่นในบ้านเราทดสอบเก็บข้อมูลมาหลายปีแล้วหรอก
แต่ ประเด็นที่เขายังห่วงๆคือ เรื่อง น้ำท่วม กับ การขับขี่ขึ้นเขา
เรื่องหลังปัญหาน้อยลงแล้ว แต่เรื่องแรก สำหรับรถไฮบริด ยังน่ากังวลอยู่เหมือนกันครับ
-
อืม จริงด้วย ลืมปัญหาเรื่องน้ำท่วมไปเลย บ้านเราเอาแน่ไม่ได้ด้วย เกิดจอดรอไฟแดงบนถนนในวันฝนตกหนักๆ ขึ้นมา น้ำท่วม รถจะดับป่าว แล้วถ้าดับจะสวิตช์ไปใช้เครื่องยนต์ได้หรือป่าว ไม่รู้ว่ามีค่ายไหนทดสอบเรื่องนี้หรือเปล่า
เคยเห็นพวกนำเข้าอิสระ ประกาศขายพริอุส ราคา 1,700,000 บาทแน่ะ ราคาไม่ต่างจากพวกคัมรี่หรือแอคคอร์ดเท่าไหร่เลยนะ รถขนาดกลางเหมือนกันด้วย