Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Severus Snape ที่ มีนาคม 28, 2016, 05:07:44

หัวข้อ: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Severus Snape ที่ มีนาคม 28, 2016, 05:07:44
เห็นกระแสดีมาก ๆ ตั้งแต่ก่อนเปิดตัว แต่เห็นยอดเดือนล่าสุดแล้วไม่ถึง 500 คัน ทั้ง ๆ ที่ Pajero Sport ได้ไปตั้ง 1700 กว่าคัน ดูทรงแล้ว Everest ไม่น่าจะโดนทิ้งห่างได้มากขนาดนั้นนะครับ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: singving ที่ มีนาคม 28, 2016, 05:16:06
คหสต.  ของผมในฐานะคนใช้ฟอร์ด Focus 2009, Ranger 2012.   โยงมาเหี่ยวกับ everest 2015. คือ

1.ราคาไม่จูงใจ

2.สมรรถนะเครื่องยนต์/ความประหยัด.


เผอิญ สองข้อข้างต้น ยั่ห้ออื่นดีงามหว่าครับ. 

ยังไม่เทียบกับความเชื่อมั่นของแบรนด์ นะครับ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: xman2029 ที่ มีนาคม 28, 2016, 05:40:57
ตัว 2.2 ก็อืดไปแถมกินจุ ตัว3.2 ราคาก็แรงสุดๆไม่แปลกจะเป็นแบบนี้
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: masuoka ที่ มีนาคม 28, 2016, 05:51:03
แถมเรื่องปัญหาตัวรถ ถี่มากช่วงนี้เกี่ยวกับระบบไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ช่างแก้ไม่ได้ เป็นขวัญใจรถยกไปอตกหนึ่งรุ่น ของฟอร์ดตอนนี้ :-X

การใช้ระยะยาวเสี่ยงมาก ขับไปลุ้นไป รถจะเสียตอนไหน

แถม Ranger มีบางเคสไปรับรถยังไม่ทันขับออกพ้นจากศูนย์ ไฟเครื่องโชว์ซะงั้น
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: carenaruk ที่ มีนาคม 28, 2016, 06:28:04
โรงงานที่ผมทำอยู่ ทำpartเจ้ายอดเขาอยู่ ออเดอร์เยอะกว่าเก่านะ แต่ก้องงๆอยู่ ทำไมยอดขายน้อยลง เดี๋ยวแอบไปถามproductionก่อนครับ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: NS ที่ มีนาคม 28, 2016, 06:34:11
คหสต ไม่เคยใช้ Ford มาก่อนแต่จองตัวท็อปแล้วเปลี่ยนใจ
1. ราคาแรง(ไม่เอาเทียบกับใครเลยนะ) แต่ตอนนั้นอยากมาก
2. มั่นใจในแบรนด์ลดลงมาก ข่าวมาเยอะทั้งตังรถ(รุ่นอื่น ทั้งศูนย์บริการใกล้บ้านที่ ตจว)
3. ไปๆมาๆ ชอบรถที่พร้อมใช้งาน(เพราะซื้อมาใช้ละ55) ส่วนจะโดนไม่โดนกับตัวเองนั่นอีกเรื่อง แต่ความเสียงค่อนข้างสูง สุดท้ายตัดออก น่าเสียดายมากๆครับ ชอบตัวรถทุกอย่าง ตัวถัง เครื่อง ภายใน ระบบ แต่ติดอย่างที่บอก ที่บ้านก็มีรถใช้หลายคัน ตั้งแต่เก่ามากจนรุ่นปัจจุบัน แต่ต้องการรถที่พร้อมใช้ สงสัยไม่ for ก็ PA. จริงๆ แม้ PA จะมี defect บ้าง แต่รับได้ และเซ็นต์เซอร์ต่างๆครับ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: View ที่ มีนาคม 28, 2016, 06:41:52
คนส่วนใหญ่ที่ซื้อจะจอง 3.2+ ซึ่งฟอร์ดไม่มีรถส่งมอบ ยอดเลยไม่คค่อยดีเท่าไหร่ บางคนก็เปลี่ยนใจไป 2.2 บ้างแต่รุ่น 3.2 หลังปรับภาษีไม่รู้มีคนซื้อรึป่าว
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ มีนาคม 28, 2016, 07:06:20
ขายส่งออกเยอะมั้งเดาเอา
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: seeker ที่ มีนาคม 28, 2016, 07:24:26
ขายส่งออกเยอะมั้งเดาเอา

แล้วตัวส่งออกมาไม่มี error เหมือนตัวที่ขายในไทยหรือครับ
เพราะถ้าเจอเหมือนกัน ก็น่าจะรีบมาแก้ไลน์การผลิตได้แล้ว
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ มีนาคม 28, 2016, 08:00:26
คหสต ไม่เคยใช้ Ford มาก่อนแต่จองตัวท็อปแล้วเปลี่ยนใจ
1. ราคาแรง(ไม่เอาเทียบกับใครเลยนะ) แต่ตอนนั้นอยากมาก
2. มั่นใจในแบรนด์ลดลงมาก ข่าวมาเยอะทั้งตังรถ(รุ่นอื่น ทั้งศูนย์บริการใกล้บ้านที่ ตจว)
3. ไปๆมาๆ ชอบรถที่พร้อมใช้งาน(เพราะซื้อมาใช้ละ55) ส่วนจะโดนไม่โดนกับตัวเองนั่นอีกเรื่อง แต่ความเสียงค่อนข้างสูง สุดท้ายตัดออก น่าเสียดายมากๆครับ ชอบตัวรถทุกอย่าง ตัวถัง เครื่อง ภายใน ระบบ แต่ติดอย่างที่บอก ที่บ้านก็มีรถใช้หลายคัน ตั้งแต่เก่ามากจนรุ่นปัจจุบัน แต่ต้องการรถที่พร้อมใช้ สงสัยไม่ for ก็ PA. จริงๆ แม้ PA จะมี defect บ้าง แต่รับได้ และเซ็นต์เซอร์ต่างๆครับ
โดนแล้วครับสำหรับ 3.2ไม่Plus ลูกน้องขับไปต่างจังหวัดน็อตยึดเพลากลางคลาย2ตัวเสียงดังกระทบใต้ท้อง กลับมาเข้า0ตรวจสอบใหม่บอกขันแน่นแล้ว แค่นี้ ผมเลยส่งจดหมายไปฟอร์ดเป็นเดือนแล้วยังไม่มีคำตอบกลับมาว่ามาจากสาเหตุอะไร เคยไปถามเจ้าโฉเพื่อนผมที่เคยอยู่ฟอร์ด โฉบอกว่า ตอนอยู่ฟอร์ดกูมีหน้าที่ทะเลาะกับฝรั่ง ได้ฟังแบบนี้สงสัยหมดหวังกับฟอร์ดที่จะปรับปรุงละครับ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Olympuspen ที่ มีนาคม 28, 2016, 08:05:20
ความเชื่อมั่นในตัวรถครับมีผลมาก แบรนดของรถมีผลต่อคนไทยส่วนใหญ่มาก เพราะการซื้อรถก็เป็นการลงทุนอย่างนึง อาจจะไม่ได้ตอบแทนกลับมาเป็นตัวเงินแต่เป็นความคุ้มค่าต่อชีวิต

ศูนย์บริการ + อะไหล่ + การขายต่อ + ภาพลักษณ์ = ความคุ้มค่า
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: golferjk ที่ มีนาคม 28, 2016, 08:15:52
ดูๆแล้ว Defect นี้หละครับ รถพี่ผมออกมาไม่ถึงเดือน สคาร์ทไม่ติด ฟิวเสียพี่บอกมึนเลย
พี่เคยใช้เจ้ายอดเขาตัวเก่าบอกรถทนมาก แต่ต้องยอมรับเรื่องสมรรถนะว่าเจ้ายอดเขาทำได้ดีมาก
แล้วก็ตัว Top รถส่งมอบให้ลูกค้าไม่ทัน
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: unsignedint16 ที่ มีนาคม 28, 2016, 08:25:47
เพราะเป็นรถ อเมริกัน
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: SETTHASART ที่ มีนาคม 28, 2016, 08:35:36
รู้สึกว่าเขาไม่จริงจังกับตลาดเมืองไทยมากนักครับ การบริหารจัดการอะไรต่างๆก็เลยเป็นอย่างที่เห็นกัน ฟอร์ดในเมืองไทยก็เลยเหมาะเป็นรถคันที่ 2 ของบ้านมากกว่าที่จะเป็นรถคันเดียวในมือคุณ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: pladaek ที่ มีนาคม 28, 2016, 08:40:41
เพราะ 3.2 ราคาแรงมาก เครื่อง 2.2 คนก็ไม่แรง กินน้ำมัน

คนชอบฟอร์ดจริงๆมั้งครับ ถึงจะซื้อ..

หรือไม่ก็กลุ่มคนที่ชอบช่วงล่าง การขับขี่โดยรวม

แต่รวมๆแล้ว คนแบบนี้มีน้อยเมื่อเทียบกับกลุ่มคนทั้งหมดที่กำลังจะซื้อรถ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Smart ที่ มีนาคม 28, 2016, 08:41:22
เอาง่ายๆ แบบยังไม่วิเคราะห์อะไรมาก...ปีที่แล้วก่อนปรับภาษี Toyota กับ Mitsu ประกาศว่าใครจองก่อนปีใหม่แล้ว delay ได้ราคาเดิม ยอดจองมาแค่ไหนก็รับได้ ได้ใจมาก... ส่วน Ford บอกว่ามีรถให้แค่นี้แหล่ะ พี่น้องชาวไทยไปแย่งจองกันเอาระกัน วัดดวงเอา... แถมบางศูนย์เซลก็เอาไปจองไปปั่นราคาขายอีก เห็นบางคนที่จองตั้งแต่เปิดตัวแล้วต้องมาแห้ว น่าสงสารจริงๆ ขนาดคนที่เป็นแฟนพันธ์แท้เค้ายังไม่ดูแลเลย
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ มีนาคม 28, 2016, 08:52:49
ปีนี้ราคาฟอร์ดขึ้นไป   ถ้าเทียบกับราคาเดิม Ford น่าสนใจน่าเร้าใจมาก ทำให้หลายคนคิด
ส่วนปัญหาที่ขายรถได้น้อยที่ไม่ควรมองข้ามคือโควต้ารถที่ขายในประเทศค่อนข้างจำกัด     ต่างจากเจ้าตลาดทุกค่ายที่ใครจองก็มีรถแน่  ๆ ไม่รอนานเหมือนฟอร์ด  ทำให้ฟอร์ดเสียโอกาสขายรุ่นนี้ไป
อีกข้อนึงที่ไม่ควรมองข้าม  คือปัญหา Defect  ที่ออกมาคนยังกล้า  ๆ  กลัวก็มี
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: juonmgt ที่ มีนาคม 28, 2016, 08:52:59
ตอนเปิดตัวก็ดูสวยดีนะครับ แต่ตอนนี้เห็นบนท้องถนน เฉยๆมากครับ ภายนอกยิ่งนานยิ่งดูไม่สวยเอาซะเลย เทียบกับคู่แข่ง แล้วยังกับรถคนละยุคเลย
ความเป็นส่วนตัวนะครับ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: O_o" ที่ มีนาคม 28, 2016, 08:58:01
รถดี ออปชั่นครบ ไม่ได้หมายความว่ามันจะขายดีครับ  :D :D :D มันมีหลาย ปัจจัย ราคา ความคุ้มค่า ทั้งตัวชื่อ(เสีย)ง งานบริการหลังการขาย

ถ้าจับใส่ตรายี่ห้อ isuzu คงขายได้เยอะกว่านี้แล้ว รายนั้นตัวรถไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมายเลย ทั้งออปชั่น และการขับขี่ แต่กลับขายได้เรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Eddy5659 ที่ มีนาคม 28, 2016, 09:06:20
ขายได้เท่านี้ก็บุญแล้วหละครับ จากเดิมเดือนละไม่ถึง 100 คัน

ลูกค้าส่วนมากที่จะซื้อคือ 3.2+ ซึ่งฟอร์ดเองมีรถส่งมอบไม่ทันความต้องการ ถึงแม้จะมีหลุดมาบ้างแต่ก็ยังไม่พออยู่ดี

อีกอย่างแค่นี้รถเข้ารับบริการก็ล้น 0 ละครับ หากขายได้เดือนละเป็น 1000 คัน จะโกลาหลขนาดไหน แค่นี้ก็ดีแล้วครับ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มีนาคม 28, 2016, 09:07:08
รถดี ออปชั่นครบ ไม่ได้หมายความว่ามันจะขายดีครับ  :D :D :D มันมีหลาย ปัจจัย ราคา ความคุ้มค่า ทั้งตัวชื่อ(เสีย)ง งานบริการหลังการขาย

ถ้าจับใส่ตรายี่ห้อ isuzu คงขายได้เยอะกว่านี้แล้ว รายนั้นตัวรถไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมายเลย ทั้งออปชั่น และการขับขี่ แต่กลับขายได้เรื่อยๆ

ไม่จริงครับ
MU-X ไม่เห็นขายดีเลย
คนไทยไม่ได้หลับ ตาซื้อรถครับ


หลักๆ เลย เรื่อง ราคาๆ ที่มันแพงซะมากกว่า ลองลดราคามาเท่า เจ้าตลาดซิ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: secrecyguy ที่ มีนาคม 28, 2016, 09:12:32
ผมใช้ฟอร์ดเป็นคันที่2 ยอดขาย ณ ปัจจุบัน ทำศูนย์บริการเเน่น นัดเข้าบริการยากขึ้น เมื่อก่อนอยากเข้าเมื่อไรก็ได้

คนซื้อEverest, ranger เน้นซื้อตัวtop แต่Ford มีโควต้าไม่มากครับ

ใช้ผ่าน15,000 กม ทุกอย่างก็ปกติดี ใช้3.2wt ก็ไม่ได้มีปัญหากวนใจนะครับ หรืออาจจะเป็นเพราะผมไม่ใช่คนวิตกจริตก็เป็นได้

พวงมาลัย เบรค Everest ตอบสนองได้ดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Mike ที่ มีนาคม 28, 2016, 09:21:45
คหสต ไม่เคยใช้ Ford มาก่อนแต่จองตัวท็อปแล้วเปลี่ยนใจ
1. ราคาแรง(ไม่เอาเทียบกับใครเลยนะ) แต่ตอนนั้นอยากมาก
2. มั่นใจในแบรนด์ลดลงมาก ข่าวมาเยอะทั้งตังรถ(รุ่นอื่น ทั้งศูนย์บริการใกล้บ้านที่ ตจว)
3. ไปๆมาๆ ชอบรถที่พร้อมใช้งาน(เพราะซื้อมาใช้ละ55) ส่วนจะโดนไม่โดนกับตัวเองนั่นอีกเรื่อง แต่ความเสียงค่อนข้างสูง สุดท้ายตัดออก น่าเสียดายมากๆครับ ชอบตัวรถทุกอย่าง ตัวถัง เครื่อง ภายใน ระบบ แต่ติดอย่างที่บอก ที่บ้านก็มีรถใช้หลายคัน ตั้งแต่เก่ามากจนรุ่นปัจจุบัน แต่ต้องการรถที่พร้อมใช้ สงสัยไม่ for ก็ PA. จริงๆ แม้ PA จะมี defect บ้าง แต่รับได้ และเซ็นต์เซอร์ต่างๆครับ
โดนแล้วครับสำหรับ 3.2ไม่Plus ลูกน้องขับไปต่างจังหวัดน็อตยึดเพลากลางคลาย2ตัวเสียงดังกระทบใต้ท้อง กลับมาเข้า0ตรวจสอบใหม่บอกขันแน่นแล้ว แค่นี้ ผมเลยส่งจดหมายไปฟอร์ดเป็นเดือนแล้วยังไม่มีคำตอบกลับมาว่ามาจากสาเหตุอะไร เคยไปถามเจ้าโฉเพื่อนผมที่เคยอยู่ฟอร์ด โฉบอกว่า ตอนอยู่ฟอร์ดกูมีหน้าที่ทะเลาะกับฝรั่ง ได้ฟังแบบนี้สงสัยหมดหวังกับฟอร์ดที่จะปรับปรุงละครับ

น๊อตยึดเพลากลางหลุด นี่เป็นปัญหาตั้งแต่ 3.2WT 2012 แล้วครับ
Defect อื่นก็เช่นกัน ฟอร์ดไม่เคยแก้ จึงตามมาโผล่ใน EV 3.2 เช่นซีลท้ายเครื่องรั่ว ไฟโชว์รถดับ etc.
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: localgame ที่ มีนาคม 28, 2016, 09:27:58
ไปถามตัวtop3.2 ในงานมอเตอร์โชว์ รับรถเร็วสุดเดือน8 อาจจะเลื่อนออกไปอีก แล้วยอดมันจะเพิ่มได้ยังไง รู้ว่ารถรอนานจะมาโชว์ที่งานมอเตอร์โชว์ทำไมไม่รู้ ตลกการตลาดของฟอร์ด
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Arm ที่ มีนาคม 28, 2016, 09:30:07
คนซื้อส่วนใหญ่จะเอาแต่ตัวท็อปแต่โควต้าส่งขายในประเทศมันน้อย ส่วนใหญ่ส่งออกไปซะเยอะ
เหลือแต่2.2ที่รับรถได้เลยแต่ไม่มีใครอยากได้เพราะกลัวรถอืด+อยากได้ Full option แบบ3.2
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: -Brian ที่ มีนาคม 28, 2016, 09:41:47
3.2 รอนานมากครับ ผมไปดูในงาน เซลถามดูรุ่นไหน พอผมบอก 3.2+ เท่านั้นแหละเซลแทบจะเบือนหน้าหนี บอกดูตัว 2.2ดีกว่าไหมคะ
ผมเลยถามจองเลยรับรถเมื่อไร เซลบอกอย่างเร็วสุด เดือนตุลาโน่น
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ มีนาคม 28, 2016, 09:47:42
3.2+ บางคนจากปลายปีที่แล้วยังไม่รถเลย อีกอย่าง คนรอ 2.2+ อยู่เยอะเลย เพราะเค้าไม่ต้องการ 3.2 เพราะราคา แต่ต้องการออฟชั่น ในราคาต่ำลงมา
2.2 ธรรมดา ออฟชั่นก็โอเคนะ แต่คนยังต้องการแบบตัวท็อปมากกว่า

ส่วนตัวล่าง ที่ราคาต่ำๆ ฟอร์ดไม่มี

นี่แหละเหตุผล
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: SETTHASART ที่ มีนาคม 28, 2016, 09:50:35
เอเวอร์เรสรุ่นถูกสุด 1.389 ล้าน ... มิวเอ๊กซ์-ปาสปอร์ต ยิ้มครับ รุ่นถูกสุดของพวกนั้นถึงไม่มีอะไรเด่น แต่เค้าก็ไม่ได้แย่
เรื่องราคาแพงอาจจะจริงครึ่งไม่จริงครึ่งนะ เพราะอย่างฟอร์จูนเนอร์ก็ถูกซะที่ไหน ส่วนลดก็ไม่รู้จะโหดเท่ารีโว่รึเปล่า(อย่าลืมว่ารีโว่ที่บ่นกันว่าแพง พอหักส่วนลดของแถมแล้ว ราคาก็เหลือเท่าๆหรือบางทีถูกกว่าคู่แข่งซะงั้น-ดอกพอกัน)
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: bigrocket ที่ มีนาคม 28, 2016, 10:00:20
ใครว่าขายไม่ดี ผมว่า ฟอร์ดขายได้ตามเป้าที่วางเอาไว้เลยครับ เดือนละ 500 คัน เพราะเค้าได้โควต้าเท่านี้ 200 คันสำหรับ 3.2+ ที่เหลือเป็น 2.2  ถ้าเทียบแล้วได้เกือบ 100 % เสียด้วยซ้ำ ถ้าได้โควต้ามากกว่านี้ ตัวเลขน่าจะไปไกลกว่านี้ครับ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: yourturle ที่ มีนาคม 28, 2016, 10:00:32
แบรนด
โควต้า
ฯลฯที่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อในตัวรถ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: BaSkInElItEgUyS ที่ มีนาคม 28, 2016, 10:04:20
ราคามันแรงเวอร์เกินไป
ตอนที่เปิดราคามา 1.59 ล้านในตัวท็อป คือราคาที่เหมาะสมที่สุดแล้วของ EV
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มีนาคม 28, 2016, 10:20:53

อีกสองปียดในประเทศ จะเหลือเท่าไหร่น้า
ถ้า 500 ไปเรื่อยๆ ในบ้านเรา ถือว่า OK นะครับ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: JONNY ที่ มีนาคม 28, 2016, 10:22:44
Ford  เขาแบรนเ์ใหญ่ ทำตลาดหลายประเทศ โรงงานภูมิภาคก็เฉลี่ยกันไป ถึงยอดขายในประเทศน้อย แต่ยอดผลิตเยอะนะครับ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Harem ที่ มีนาคม 28, 2016, 10:33:49
3.2 + ขายดีทำไมไม่เพิ่มโควต้าแแล้วไปลดตัว 2.2 ลงอ่ะครับ งง :(
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Pegasus7700 ที่ มีนาคม 28, 2016, 10:36:38
ตอบในมุมของฟอร์ดพวกเราๆท่านๆ รู้กันหรือไม่ครับ ว่าฟอร์ดเอง ตั้งTarget ไว่เท่าไร ในแต่ละรุ่นและต่อเดือน?? 
ขนาดนี้กำลังผลิตของAAT มันไม่ไหวอยุ่แล้ว จนต้องมาmo line ford fac มาทำก็ยังไม่ทันส่งออก
ดังนั้น คำว่า  น้อย ไม่น่าเป็นในมุมของฟอร์ด

  มันต่างกันนะ...."ขายได้น้อย กับ ไม่มีของจะขาย"
                       ขายได้น้อย  กับ ผลิตแล้ว ไม่มีdealer สั่งมาลง
 


ตอบในมุมของคนเชียร์หรือคนแช่ง  อยากจะให้ขายได้เยอะๆมากกว่านี้หรือให้มันน้อยกว่านี้


ตอบในมุมของคนทั่วไป ผมว่ายอดนี้ก็สมเหตสมผล  รุ่นเดิมขายได้น้อยกว่านี้เยอะ ขายได้เท่านี้ก็ประสบคงามสำเร็จ


ตอบในมุมของคนทำproduct ผมเองมองว่า มันประสบตงามสำเร็จครับสำหรับตัวนี้


และเเน่นอนสำหรับบางคนที่มีinsider ก็ได้บอกไปบ้างแล้วครับว่า. Quota สำหรับขายในเมืองไทย เป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าต่างประเทศ

Dealer ในไทอยากได้quota เยอะกว่านี้แหละครับ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Doctorpook ที่ มีนาคม 28, 2016, 11:14:47
คนไม่ชอบแบรนด์แต่ไม่เคยใช้ คอยตำหนิหาเรื่องแม้กระทั่งข้ามรุ่นก็ยังมีเยอะ บอร์ดนี้ก็ด้วย
สำหรับEverestนี่ไม่ใช่คนเลือกรถแต่กลายเป็นรถเลือกคน คนที่จะเป็นเจ้าของต้องเหมาะสมกับรถด้วย
ผมไม่ได้พูดเล่นๆนะ ถ้าไม่ใช่คนชอบสมรรถนะรถและอุปกรณ์ความปลอดภัยและความสวยในสายตาจริงๆก็จะทนไม่ได้กับเรื่องจุกจิกเล็กๆน้อยๆ
หรือแม้กระทั่งเรื่องใหญ่ๆ เช่นบางคันมีปัญหาระบบไฟ เครื่อง เกียร์เป็นต้น หากลองเข้ามาอ่านบอร์ดที่มีคนที่โชคร้ายมาโพสต์
จำนวนไม่ต้องมาก แต่อ่านซ้ำไปมาและหลายบอร์ดมันก็คันเดิม ก็จะพาลวิตกจริตกลัวนั่นนี่
ทั้งๆที่เปรียบเทียบกับคนส่วนใหญ่ที่มีปัญหาแต่รับได้หรือไม่มีปัญหาอะไรมันมากกว่า

อย่างคันที่ผมใช้มีปัญหาเล็กน้อยมากเมื่อเที่ยบกับปัญหาของเจ้าตลาด ซึ่งปัญหาแบบผมแก้จบแต่ปัญหาของเจ้าตลาดบางอย่างมันเป็นทุกคันและแก้ไขไม่ได้
แบบนี้ก็มี ตอนนี้ผมมีรถใช้ทั้งหมด4คัน และคันที่ใช้บ่อยที่สุดคือEverest และทุกครั้งที่ใช้ก็มีความสุขดี ไม่ได้จิ้นแบบบางความเห็นว่ากลัวนั่นนี่ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นเจ้าของ
ตอนนี้ใช้มา18000กิโลไม่เคยต้องค้างอู่สักคืน แบรนด์อื่นผมใช้มามากก็ไม่เห็นว่าจะมีแบรนด์ไหนที่ไม่มีปัญหาใดๆเลย

ยิ่งสำหรับผมซึ่งขี้รำคาญเสียงกวนใจลองมีเสียงประหลาดจากคอนโซลที่แก้ไม่หายหรือเสียงตัดของแอร์แบบนี้ผมยังรับไม่ได้เลย
เรื่องความสวยมันนานาจิตตัง ใครว่าFortunerสวยแต่ผมว่าไม่ และไม่เคยแวะเข้าไปบูธToyotaเลยเพราะผมไม่ชอบdesignของมัน ก็เป็นเรื่องปรกติ
แต่จริงๆรถญี่ปุ่นที่ผมนั่งบ่อยกว่ายี่ห้ออื่นกลับเป็นtoyotaเพราะบางครั้งต้องขึ้นแทกซี่ก็โดนทุกทีเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มีนาคม 28, 2016, 11:20:24

ใคร ทำโรงงาน ผลิตชิ้นส่วน ให้ Ford
จะรู้ว่า

I don't care.

แต่ I don't care ทำให้ เฟียสต้า และ โฟกัส ประสบหายนะ

แต่ รุ่น ตลาดโลกอย่าง เรนเจอร์ และ เอเวอร์เรส ไม่ได้กระทบ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มีนาคม 28, 2016, 11:25:56
คนไม่ชอบแบรนด์แต่ไม่เคยใช้ คอยตำหนิหาเรื่องแม้กระทั่งข้ามรุ่นก็ยังมีเยอะ บอร์ดนี้ก็ด้วย
สำหรับEverestนี่ไม่ใช่คนเลือกรถแต่กลายเป็นรถเลือกคน คนที่จะเป็นเจ้าของต้องเหมาะสมกับรถด้วย
ผมไม่ได้พูดเล่นๆนะ ถ้าไม่ใช่คนชอบสมรรถนะรถและอุปกรณ์ความปลอดภัยและความสวยในสายตาจริงๆก็จะทนไม่ได้กับเรื่องจุกจิกเล็กๆน้อยๆ
หรือแม้กระทั่งเรื่องใหญ่ๆ เช่นบางคันมีปัญหาระบบไฟ เครื่อง เกียร์เป็นต้น หากลองเข้ามาอ่านบอร์ดที่มีคนที่โชคร้ายมาโพสต์
จำนวนไม่ต้องมาก แต่อ่านซ้ำไปมาและหลายบอร์ดมันก็คันเดิม ก็จะพาลวิตกจริตกลัวนั่นนี่
ทั้งๆที่เปรียบเทียบกับคนส่วนใหญ่ที่มีปัญหาแต่รับได้หรือไม่มีปัญหาอะไรมันมากกว่า

อย่างคันที่ผมใช้มีปัญหาเล็กน้อยมากเมื่อเที่ยบกับปัญหาของเจ้าตลาด ซึ่งปัญหาแบบผมแก้จบแต่ปัญหาของเจ้าตลาดบางอย่างมันเป็นทุกคันและแก้ไขไม่ได้
แบบนี้ก็มี ตอนนี้ผมมีรถใช้ทั้งหมด4คัน และคันที่ใช้บ่อยที่สุดคือEverest และทุกครั้งที่ใช้ก็มีความสุขดี ไม่ได้จิ้นแบบบางความเห็นว่ากลัวนั่นนี่ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นเจ้าของ
ตอนนี้ใช้มา18000กิโลไม่เคยต้องค้างอู่สักคืน แบรนด์อื่นผมใช้มามากก็ไม่เห็นว่าจะมีแบรนด์ไหนที่ไม่มีปัญหาใดๆเลย

ยิ่งสำหรับผมซึ่งขี้รำคาญเสียงกวนใจลองมีเสียงประหลาดจากคอนโซลที่แก้ไม่หายหรือเสียงตัดของแอร์แบบนี้ผมยังรับไม่ได้เลย
เรื่องความสวยมันนานาจิตตัง ใครว่าFortunerสวยแต่ผมว่าไม่ และไม่เคยแวะเข้าไปบูธToyotaเลยเพราะผมไม่ชอบdesignของมัน ก็เป็นเรื่องปรกติ
แต่จริงๆรถญี่ปุ่นที่ผมนั่งบ่อยกว่ายี่ห้ออื่นกลับเป็นtoyotaเพราะบางครั้งต้องขึ้นแทกซี่ก็โดนทุกทีเหมือนกัน

อันนี้ อ่านมาเหรอครับ มว่าคนซื้อรถ ไม่ได้มาเล่น board กันทุกคนหรอกครับ
ผมนี่ ชีวิตจริง ตัว จริง เสียงจริง ไม่ได้เล่น บอร์ด ฟอร์ดเลย
คนรอบกาย เล่นให้ฟัง หลายๆต่อหลายคน เจ้าของรถ ฟอร์ด
เรื่อง เสียง หรืออะไรที่มันไร้สาระ คนไม่ได้สนใจ
ผมว่า ปัญหา ที่คนทนไม่ได้เรื่อง การที่มันเสีย จนขับไม่ได้ซะมากกว่า
คงมีไม่กี่คนหรอกครับ ที่สามารถซื้อรถมาใช้ไปซ่อมไป
ไม่ใช่ แค่ฟอร์ด GM ก็เช่นกัน หลายๆ รุ่นรถดีมาก แต่ ตายเพราะ เครื่องยนต์และเกียร์

แต่ Everest ผมก็ยังไม่เห็นมันมีปัญหา ปัญหา คือ มันแพง คนไปรุ่นอื่นซะมากกว่า

วันนี้ได้คำคม

รถเลือกคน
จงภูมิใจ ที่ Ford เลือกคุณเป็นเจ้าของ ฮา แพรบ

หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: beerrl ที่ มีนาคม 28, 2016, 11:38:58
คู่แข่งในตลาดคือ Fortuner  MU-X และ Pajero sport ซึ่ง มองในแง่ ของยี้ห้อรถ option ราคาขายต่อ ศูนย์บริการ Everest เองเสียเปรียบอยู่
คนไทยส่วนใหญ่ คิดเรื่อง ราคาขายต่อ ค่าดูแลรักษา มากกว่า ต้องการรถขับดี ที่อาจจะมีปัญหาเรื่องศูนย์บ้าง กับ ราคาขายต่อตกเยอะ


หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: madboy ที่ มีนาคม 28, 2016, 12:03:09

วันนี้ได้คำคม

รถเลือกคน
จงภูมิใจ ที่ Ford เลือกคุณเป็นเจ้าของ ฮา แพรบ

 ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D

ฮาครับอันนี้ สงสัยมันไม่เลือกผม ปัญหามาเยอะจั๊งงงงง  :P
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: -Brian ที่ มีนาคม 28, 2016, 12:16:48
คนไม่ชอบแบรนด์แต่ไม่เคยใช้ คอยตำหนิหาเรื่องแม้กระทั่งข้ามรุ่นก็ยังมีเยอะ บอร์ดนี้ก็ด้วย
สำหรับEverestนี่ไม่ใช่คนเลือกรถแต่กลายเป็นรถเลือกคน คนที่จะเป็นเจ้าของต้องเหมาะสมกับรถด้วย
ผมไม่ได้พูดเล่นๆนะ ถ้าไม่ใช่คนชอบสมรรถนะรถและอุปกรณ์ความปลอดภัยและความสวยในสายตาจริงๆก็จะทนไม่ได้กับเรื่องจุกจิกเล็กๆน้อยๆ
หรือแม้กระทั่งเรื่องใหญ่ๆ เช่นบางคันมีปัญหาระบบไฟ เครื่อง เกียร์เป็นต้น หากลองเข้ามาอ่านบอร์ดที่มีคนที่โชคร้ายมาโพสต์
จำนวนไม่ต้องมาก แต่อ่านซ้ำไปมาและหลายบอร์ดมันก็คันเดิม ก็จะพาลวิตกจริตกลัวนั่นนี่
ทั้งๆที่เปรียบเทียบกับคนส่วนใหญ่ที่มีปัญหาแต่รับได้หรือไม่มีปัญหาอะไรมันมากกว่า

อย่างคันที่ผมใช้มีปัญหาเล็กน้อยมากเมื่อเที่ยบกับปัญหาของเจ้าตลาด ซึ่งปัญหาแบบผมแก้จบแต่ปัญหาของเจ้าตลาดบางอย่างมันเป็นทุกคันและแก้ไขไม่ได้
แบบนี้ก็มี ตอนนี้ผมมีรถใช้ทั้งหมด4คัน และคันที่ใช้บ่อยที่สุดคือEverest และทุกครั้งที่ใช้ก็มีความสุขดี ไม่ได้จิ้นแบบบางความเห็นว่ากลัวนั่นนี่ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นเจ้าของ
ตอนนี้ใช้มา18000กิโลไม่เคยต้องค้างอู่สักคืน แบรนด์อื่นผมใช้มามากก็ไม่เห็นว่าจะมีแบรนด์ไหนที่ไม่มีปัญหาใดๆเลย

ยิ่งสำหรับผมซึ่งขี้รำคาญเสียงกวนใจลองมีเสียงประหลาดจากคอนโซลที่แก้ไม่หายหรือเสียงตัดของแอร์แบบนี้ผมยังรับไม่ได้เลย
เรื่องความสวยมันนานาจิตตัง ใครว่าFortunerสวยแต่ผมว่าไม่ และไม่เคยแวะเข้าไปบูธToyotaเลยเพราะผมไม่ชอบdesignของมัน ก็เป็นเรื่องปรกติ
แต่จริงๆรถญี่ปุ่นที่ผมนั่งบ่อยกว่ายี่ห้ออื่นกลับเป็นtoyotaเพราะบางครั้งต้องขึ้นแทกซี่ก็โดนทุกทีเหมือนกัน

อันนี้ อ่านมาเหรอครับ มว่าคนซื้อรถ ไม่ได้มาเล่น board กันทุกคนหรอกครับ
ผมนี่ ชีวิตจริง ตัว จริง เสียงจริง ไม่ได้เล่น บอร์ด ฟอร์ดเลย
คนรอบกาย เล่นให้ฟัง หลายๆต่อหลายคน เจ้าของรถ ฟอร์ด
เรื่อง เสียง หรืออะไรที่มันไร้สาระ คนไม่ได้สนใจ
ผมว่า ปัญหา ที่คนทนไม่ได้เรื่อง การที่มันเสีย จนขับไม่ได้ซะมากกว่า
คงมีไม่กี่คนหรอกครับ ที่สามารถซื้อรถมาใช้ไปซ่อมไป
ไม่ใช่ แค่ฟอร์ด GM ก็เช่นกัน หลายๆ รุ่นรถดีมาก แต่ ตายเพราะ เครื่องยนต์และเกียร์

แต่ Everest ผมก็ยังไม่เห็นมันมีปัญหา ปัญหา คือ มันแพง คนไปรุ่นอื่นซะมากกว่า

วันนี้ได้คำคม

รถเลือกคน
จงภูมิใจ ที่ Ford เลือกคุณเป็นเจ้าของ ฮา แพรบ
นี่มันรถหรือ ไม้กายสิทธิ์ของแฮรรรี่ พอตเตอร์ครับเนี่ย มีเลือกเจ้าของด้วย
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Tedjung84 ที่ มีนาคม 28, 2016, 12:17:59
ง่ายๆครับ ชอบก็ซื้อ  ไม่ชอบก็ผ่านไป

จากหัวข้อที่ถาม
ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
มุมมองคนผู้บริโภค  คาดหวังว่าจะเห็นรถรุ่นนี้วิ่งเต็มถนนเหมือน ฟอร์จูนเนอร์ รึป่าว เพราะดูตอนเปิดตัวกระแสมาดี?
ความเป็นจริงมันยากครับที่จะเยอะแบบนั้นได้ อย่างที่หลายท่านออกความเห็นไว้ เค้าเน้นส่งออก  มากกว่าส่งขายในประเทศ

ส่วนตัวคิดว่ายอดขายเค้าก็โอเคแล้วไม่ได้แย่หรอกครับ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Doctorpook ที่ มีนาคม 28, 2016, 12:27:30
อย่างคุณmanamanนี่ก็เป็นตัวอย่าง คนรอบตัวเล่าให้ฟัง ตัวเองก็ไม่ใช่เหมือนกัน
แต่ก็ยังเข้ามาวอแวได้เกือบทุกกระทู้ที่มีโอกาสจะได้แขวะ
แค่คนเล่าก็เชื่อแถมขยายความยังกะใช้เองจริงๆ คนแบบนี้แหละที่รถเลือกคนที่ผมหมายถึง ขอฮาแพรบ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: recycleman ที่ มีนาคม 28, 2016, 12:28:39
มันแพงซะจนไม่มีความน่าซื้อหลงเหลืออยู่เลยอันนี้ความรู้สึกส่วนตัว ผมถึงรอดูตัวเทรนด์อยู่นี่ไงครับเผื่อราคาจะดูน่าซื้อขึ้นบ้าง

อีกอย่างขับดีไหม? ยอมรับว่ามันขับดีสุดในppvบ้านเรา แต่เอาเข้าจริงขับเรื่อยๆไม่บ้าระห่ำเกินไป ผมว่ามันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันสักเท่าไรเลย แถมออกตึงๆตังๆในบางจังหวะอีกต่างหาก
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: nudragon ที่ มีนาคม 28, 2016, 12:44:45
คหสต.

1) มันแพงไปสำหรับ 3.2
2) มันกินจุไปสำหรับ 3.2
3) ติดตรงที่เป็น FORD
4) ทำใจตอนเปลี่ยนรถไม่ได้ที่เงินหายเยอะ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: TorTy ที่ มีนาคม 28, 2016, 13:13:02
ราคาแบรนด์ลองแต่ตั้งราคาแรงอยู่ครับ+กับคนจะซื้อรถใช้กันทีถ้าเลือกอะไรที่ไม่คุ้นผมว่าส่วนใหญ่หาข้อมูลก่อนทั้งนั้น
หลังๆเริ่มมีความจุกจิกให้เห็นหลายเรื่องถอดใจไปหลายคนนะดูในคลับได้

พูดตรงๆว่าอยากได้มากครับพอเข้าไปสิงอยู่ในคลับเท่านั้นแหละจากข้อมูลที่ได้มาผมไม่กล้าซื้อ
เทียบอยู่ 3 รุ่น Fortuner TRD Ranger wildtrak 3.2 Everest 3.2+ พอดีคันนี้ต้องใช้ขนของบ่อย

และวิ่งเยอะพอสมควรใจตอนแรกอยากได้ Wildtrak ดูไปดูมา PPV พับเบาะเอาก็ได้เลยอยากได้ Everest ขึ้นมา
ไปตามอยู่ในบอร์ดที่เห็นๆก็มีเครื่องพังไปแล้ว 6 คัน วิ่งหลักพันกิโลกันซะส่วนใหญ่เพลียจริงๆจะพังง่ายอะไรขนาดนั้น

ไม่รู้มันจะจุกจิกอะไรขนาดนี้บางคันออปชั่นไม่มีในตัวขับ 2 ดันมีฟังชั่นตัวขับ 4 มากระพริบที่จอให้มันได้แบบนี้ซิ
จากอยากได้ตอนนี้ขออยู่ดูเฉยๆก่อนละกันครับที่เจอกันเยอะๆก็รวนระบบไฟแบตเสื่อมรถเลยรวน

ลองคิดเล่นๆว่าใช้ไปสัก 4 ปีขายไม่รู้จะต้องเข้าศูนย์กี่รอบไม่ต้องทำอย่างอื่นกันพอดีซื้อมาใช้ดันต้องมีภาระเพิ่มคันที่เครื่องพังบางคนเคลียจบ
ได้รถใหม่ศูนย์ซื้อคืนบางคันยังรอตกลงอยู่ครับตอนแรกจะเปลี่ยนเครื่องให้เจ้าของเค้าไม่ยอมวิ่งไปแค่ 3 พันกว่ากิโล

เห็นว่าไปเอาไวเทร็คแทนแล้วใจรักฟอร์ดยังรอวันที่ฟอร์ดไทยเห็นใจผู้บริโภคและใส่ใจคุณภาพตัวรถมากกว่านี้อยู่นะครับ
คนอยากใช้เยอะมากนะรอบข้างผมเพื่อนฟูงใช้หลายบางคนมีหลายคันหน่อยก็ไม่เดือดร้อนคนที่เค้าใช้เป็นคันหลัก

ขายทิ้งหนีกลับไปใช้เจ้าตลาดกันหมดแล้วการออกแบบระบบความปลอดภัยนะดีไม่เถียงแต่ช่วยให้ทนๆหน่อยกับรับผิดชอบแก้ไขข้อผิดพลาด
ไม่ใช่ออปชั่นความปลอดภัยจัดมาเต็มดับกลางอากาศแบบนี้แล้วมันจะช่วยให้ปลอดภัยได้ยังไงครับจะมีวันที่มีรถดีๆออปชั่นดีๆทนทานไม๊ประเทศไทยเอาใขช่วยอยู่นะจากคนที่ผิดหวังจนไม่กล้าซื้อแล้ว

เห็นมีอยู่กระทู้นึงในคลับบอกเอเวอเรสเรานี่แข็งจริงนะเอารถไปชนท้ายแคมรี่มาแล้วถ่ายรูปรถคันที่โดนชนไม่เซ็นเซอร์ทะเบียนให้เค้าด้วย
ท้ายยับเลยแล้วถ่ายด้านหน้ารถตัวเองว่าแค่กันชนหลุดนิดหน่อยเพลียจริงๆเอาหน้าชนท้ายรถก็สูงกว่าเค้าแล้วมาบอกรถเรานี่แข็งให้ได้งี้ซิ

เดาว่าแคมรี่ซ่อมเสร็จก่อน 555+ อันนี้ขำๆนะครับ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: CNX ที่ มีนาคม 28, 2016, 13:31:29

ใคร ทำโรงงาน ผลิตชิ้นส่วน ให้ Ford
จะรู้ว่า

I don't care.

แต่ I don't care ทำให้ เฟียสต้า และ โฟกัส ประสบหายนะ

แต่ รุ่น ตลาดโลกอย่าง เรนเจอร์ และ เอเวอร์เรส ไม่ได้กระทบ

ฟอร์ด ไทย ก็เป็นแบบว่า I do not mind, I ขายเอาลูกค้าใหม่
ลูกค้าเก่า ซ่อมตามการรับประกัน
ไม่มีre call

ซวยชะมัด ขับเฟียสตา เกียร์กะตุก 55
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มีนาคม 28, 2016, 13:32:56
อย่างคุณmanamanนี่ก็เป็นตัวอย่าง คนรอบตัวเล่าให้ฟัง ตัวเองก็ไม่ใช่เหมือนกัน
แต่ก็ยังเข้ามาวอแวได้เกือบทุกกระทู้ที่มีโอกาสจะได้แขวะ
แค่คนเล่าก็เชื่อแถมขยายความยังกะใช้เองจริงๆ คนแบบนี้แหละที่รถเลือกคนที่ผมหมายถึง ขอฮาแพรบ

คนรอบ ข้าง ก็เพื่อน ญาติพี่น้อง คนใกล้ตัว นี่ละครับ
ก็เห็นๆ กับ ตาสองข้างนี่ ละ ไม่ได้ มโน อะไรหรอกครับ
ไม่ได้ มานั่ง บอร์ดมโนนะครับ

ฮาแพรบ ขนาด บอก ว่า รถเพื่อน รถญาติ ยังจะมาว่า ผมมโน ฮาแพรบครับ
แล้วถ้าผมเห็น คา ตาขนาดนี้ ว่ารถมันพังจริงๆ แล้วผมจะกล้าซื้อันละ


ผมคงไม่คู่ ควรกับ รถ จริงๆ ละครับ
เพราะผมไม่พร้อมจะเอารถไปเลี่ยน ท่ออินเตอร์แตก ท่อน้ำมันเพาเวร์รั่ว
ฟังเค้ามาอีกทีครับ ฟังจากไอ้เพื่อน ที่มันทำงานด้วยกันนี่ละ
ตอนแรกก็เห่อไปซื้อรุ่นเดียวกัน มา สามคัน เจออาการเดียวกัน
อีกคัน
นี่ ขนาดคนใกล้ตัว เห็นๆ ใช้อยู่ ไม่กี่คัน ยังเจอปัญหา แบบ สาหัสขนาดนี้
ผมคงไม่กล้าเอามาวัดดวงหรอกครับ

ฮาอีกทีแพรบครับ

ผมคงไม่เดินไปถาม คนแปลกหน้า ว่า พี่ๆ รถ พี่ดีมั้ยครับ หรอก
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มีนาคม 28, 2016, 13:34:29

ใคร ทำโรงงาน ผลิตชิ้นส่วน ให้ Ford
จะรู้ว่า

I don't care.

แต่ I don't care ทำให้ เฟียสต้า และ โฟกัส ประสบหายนะ

แต่ รุ่น ตลาดโลกอย่าง เรนเจอร์ และ เอเวอร์เรส ไม่ได้กระทบ

ฟอร์ด ไทย ก็เป็นแบบว่า I do not mind, I ขายเอาลูกค้าใหม่
ลูกค้าเก่า ซ่อมตามการรับประกัน
ไม่มีre call

ซวยชะมัด ขับเฟียสตา เกียร์กะตุก 55

ผมไม่เชื่อ คุณหรอกครับ
รถมันดี จริงๆ นะ คุณขับเองยังชมเลยครับ
เพราะ เฟียสตา ได้เลือกคุณแล้ว
ฮาแพรบครับ

แล้ว รถเช่า วิ่งงานที่บริบัท เฟียสตา อีกห้าคัน อีก พอครบอายุ เกียร์ก็พร้อมใจกันพังอีก
เพราะ ผมไม่คู่ควร กับรถครับ ฮาแพรบครับ

ปล.ผมพิพม์เล่น ขำๆ ครับ อย่าคิดมาก กลัว คุณ toast หาว่าผมดราม่า
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Sencha ที่ มีนาคม 28, 2016, 13:39:54
ศูนย์บริการ + Defect

ถ้าผมอยุ่ ตจว. ผมไม่ซื้อหรอกครับ รถยี้ห้อนี้ ทั้งจังหวัดมีศูนย์เดียว เวลาทะเลาะกับศูนย์นี้ก็ไม่มีศูนย์อื่นให้เข้า ต้องวิ่งเป็น 100 โลเพื่อเข้าศูนย์อื่นอย่างนั้นหรือ

แต่ถ้าอยู่ใน กทม. ผมกล้าซื้อเพราะมีหลายศูนย์

พอมาดู กทม. มีสัดส่วนนิดเดียวในประเทศ ไม่แปลกที่ขายได้เท่านี้
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: unseen ที่ มีนาคม 28, 2016, 13:46:09
คงขายในประเทศได้ตามเป้าเเล้วเเหละมั่ง

เน้นส่งออก
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Life is a Highway ที่ มีนาคม 28, 2016, 13:57:43
คหสต ไม่เคยใช้ Ford มาก่อนแต่จองตัวท็อปแล้วเปลี่ยนใจ
1. ราคาแรง(ไม่เอาเทียบกับใครเลยนะ) แต่ตอนนั้นอยากมาก
2. มั่นใจในแบรนด์ลดลงมาก ข่าวมาเยอะทั้งตังรถ(รุ่นอื่น ทั้งศูนย์บริการใกล้บ้านที่ ตจว)
3. ไปๆมาๆ ชอบรถที่พร้อมใช้งาน(เพราะซื้อมาใช้ละ55) ส่วนจะโดนไม่โดนกับตัวเองนั่นอีกเรื่อง แต่ความเสียงค่อนข้างสูง สุดท้ายตัดออก น่าเสียดายมากๆครับ ชอบตัวรถทุกอย่าง ตัวถัง เครื่อง ภายใน ระบบ แต่ติดอย่างที่บอก ที่บ้านก็มีรถใช้หลายคัน ตั้งแต่เก่ามากจนรุ่นปัจจุบัน แต่ต้องการรถที่พร้อมใช้ สงสัยไม่ for ก็ PA. จริงๆ แม้ PA จะมี defect บ้าง แต่รับได้ และเซ็นต์เซอร์ต่างๆครับ
โดนแล้วครับสำหรับ 3.2ไม่Plus ลูกน้องขับไปต่างจังหวัดน็อตยึดเพลากลางคลาย2ตัวเสียงดังกระทบใต้ท้อง กลับมาเข้า0ตรวจสอบใหม่บอกขันแน่นแล้ว แค่นี้ ผมเลยส่งจดหมายไปฟอร์ดเป็นเดือนแล้วยังไม่มีคำตอบกลับมาว่ามาจากสาเหตุอะไร เคยไปถามเจ้าโฉเพื่อนผมที่เคยอยู่ฟอร์ด โฉบอกว่า ตอนอยู่ฟอร์ดกูมีหน้าที่ทะเลาะกับฝรั่ง ได้ฟังแบบนี้สงสัยหมดหวังกับฟอร์ดที่จะปรับปรุงละครับ

ไลน์คุณV มุ้งมิ้งจริงๆ  :D
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Carrera ที่ มีนาคม 28, 2016, 14:05:43
รถ PPV คนซื้อสักกี่คนที่จะเอามาเพื่ออัดเร็วๆ  วิ่งต้องหนึบ  พวงมาลัยต้องมันส์ 

ถ้าเอาจริงๆ รถประเภทนี้ มันก็วิ่งธรรมดา 90 100 110 พอวิ่งปกติ  ใช้งานปกติามประเภทรถ  ผมว่าจะ EV PA FOR มันไม่แตกต่างกันเยอะขนาดนั้นอะครับ  วัสดุภายในผมว่ามันก็ใกล้เคียงไม่ต่างกันมากสุดๆ แลกกับได้ความสบายใจตอนใช้งาน ผมว่า ผมยอมแลกความสบายใจดีกว่าครับ 

อย่างน้อยๆก็ซื้อรถมาใช้พาเราไปไหนมาไหน   ไม่ได้ซื้อมาเพื่อจอดศูนย์  ระบบความปลอดภัยเท่าที่พี่โตมีก็พอนะ  ผมขับ PPV  หรือแม่ผมขับก็ 80 - 100 ขับเว้นปกติไม่ได้จี้ตูดใคร   ขับรถนิสัยดีๆ โอกาศเกิดอุบัติเหตุมันก็น้อยกว่าพวกขับรถโหดๆ  ตีนผี ชอบจี้ ไล่บี้ ไล่ปาดรถชาวบ้าน อะครับ  พวกนี้ต่อให้ฟอร์ดมันก็คว่ำครับ  ::)
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: BMTA ที่ มีนาคม 28, 2016, 15:01:33
 ส่วนนึงเพราะไม่มีรถส่งมอบครับ ได้ฟังจากเซลล์มาว่าผลิตส่งออก90% ได้โควต้าในประเทศแค่10% จองกันมาเยอะแต่ฟอร์ดไม่ส่งรถมาให้โดยเฉพาะตัว3.2+ ซึ่งยอดจองรอกันปลายปีเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: porcupine ที่ มีนาคม 28, 2016, 15:04:18
คหสต.

1) มันแพงไปสำหรับ 3.2
2) มันกินจุไปสำหรับ 3.2
3) ติดตรงที่เป็น FORD
4) ทำใจตอนเปลี่ยนรถไม่ได้ที่เงินหายเยอะ

ถูกใจใช่เลย เค๊าไม่สนทำตลาดเมืองไทยอยู่แล้ว อย่าไปแคร์ครับซื้อเจ้าอื่นก็ได้
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Arado_kung ที่ มีนาคม 28, 2016, 15:24:22
คหสต.

1) มันแพงไปสำหรับ 3.2
2) มันกินจุไปสำหรับ 3.2
3) ติดตรงที่เป็น FORD
4) ทำใจตอนเปลี่ยนรถไม่ได้ที่เงินหายเยอะ

เพิ่มให้อีกข้อ เช็คระยะทีนึกว่ากำลังขับรถยุโรป ถ่ายน้ำมันเครื่องพร้อมกรองถ้าเป็นแบบธรรมดาก็ประมาณสองพันกว่าบาท ถ้าเอาสังเคราะห์มีครึ่งหมื่น ตัว 3.2 ใช้น้ำมันเครื่อง 9.25 ลิตร ส่วน 2.2 ใช้ 8.5 ลิตร ใช้น้ำมันเครื่องเยอะที่สุดในตลาดตอนนี้ อ่างน้ำมันเครื่องใหญ่ยังกะรถบรรทุก
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Doctorpook ที่ มีนาคม 28, 2016, 15:26:28
ขึ้นไปอ่านกระทู้ข้างบนที่ตั้งขึ้นไปวอแวกับ mu x ไม่แปลกใจกับนิสัยของคุณmanamanเลยสักนิด ก็ขอเชิญใช้revo ตัวต่ำของคุณสุดแสนดีต่อไปก็แล้วกัน
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ มีนาคม 28, 2016, 15:28:57
สิงอยู่ในเพจของคลับEV อยู่เหมือนกัน
เห็นว่า 3.2+ รอรถกันนานมากครับ(บนถนนผมเจอแต่ตัว 3.2+ซะส่วนใหญ่)


หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Thanakrit P. ที่ มีนาคม 28, 2016, 15:39:26
ค่ายนี้ ชอบแจก แจ็คพอท รถลากให้ลูกค้าอยู่บ่อยๆ  ???
เป็นผม ก็ไม่เอาคับ รถก็แพง
วัสดุดี ออกแบบดี อันนี้ขอชมคับ  เห็นแล้วอยากได้เลย 8)

ระบบเยอะดี แต่ยังไม่เสถียร เห็นเสีย ออกสื่อ อยู่บ่อยๆ  :'(
อันนี้แหละคับ ที่ทำให้ไม่กล้าซื้ัอ

ใครไม่เจอ ก็ดีไปคับ
แต่ใครเจอ นี่เครียดเลย
ยิ่งถ้าเสีย หลังหมดประกัน มีขายทิ้งแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ มีนาคม 28, 2016, 15:43:54
ขึ้นไปอ่านกระทู้ข้างบนที่ตั้งขึ้นไปวอแวกับ mu x ไม่แปลกใจกับนิสัยของคุณmanamanเลยสักนิด ก็ขอเชิญใช้revo ตัวต่ำของคุณสุดแสนดีต่อไปก็แล้วกัน

ขนาดข้อมูลยังมั่วครับ ผมไม่ได้ใช้ REVO ครับ
ผมตั้ง เพราะต้องการปกป้อง สิทธิการเลือกซื้อรถครับ

แล้วถ้าคุณอ่านดีๆ ผมยังไม่ได้ โจมตี Everest  นิดเลย แต่พูดเรื่อง ความนิยมแบรน และเหตุผลที่ไม่กล้าซื้อ
และ อีกอย่าง เวลา คุณเรื่องรถผมก็พูดเรื่องรถครับ มันก็ยังอยู่เรื่องรถ ตาม เนื้อหา ของมัน ก็มีพูด กระทบค่ายอื่น ตามความจริง ไม่ใช่กล่าวหาเลื่อนลอย

ไม่ใช่ คุยเรื่องรถ อยูก็มาลงประเด็น ลักษณะ นิสัย นี่ไม่ใช่ ห้องจิตวิทยานี่ครับ

ทุกวันนี้ คนใกล้ตัวในชีวิตจริง ที่ใช้รถหลากหลาย

นี่ก็พึ่งไปเสวนาเรื่องรถ กับเพื่อนข้างๆ มันก็บอกกำลัง จะไป เคลมโช้คหน้าขวา คงไม่ต้องบอกว่ารถรถรุ่นไหน ที่ เจอแทบทุกคัน
แต่พอบอกค่ายไปคุณจะหาว่า ผมอคติอีก
คนทั่วไป ซื้อรถได้แค่หนึ่งคัน ไม่ได้รวย มีรถขับเล่น เพราะงั้น การที่รถหนึ่งคัน แล้วเกิิดปัญหา ถึงขั้น ต้องลากจูงนี่ถือว่าไม่ธรรมดาแล้ว

ปล. ที่พูดมาทั้งหมด ผมยังไม่ได้ว่า EV ของคุณ Doctorpook  เลยสักคำนะครับ ลองกลับไปอ่านดูดีๆ
ผมพูดถึง สาเหตุที่คนไม่มั่นใจใน รุ่นอื่นๆ ซึ่ง ถ้า คุณไปย้อนดู การตอบกระทู้ เก่าๆ ดู จะเห็นว่าผมชม EV มาตลอด
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Tan Int ที่ มีนาคม 28, 2016, 15:45:39

ราคาเวอร์เกินเหตุ รุ่นล่างสุดเกือบเท่า Pajero Sport รุ่นท็อป+เครื่องไม่ได้แรงเท่าไหร่+ชื่อเสียงรุ่นเดิมไม่ใช่เจ้าตลาด+ยี่ห้อ
อีกข้อ อันนี้เหตุผลส่วนตัว มันไม่สวย
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Nonlamer ที่ มีนาคม 28, 2016, 17:24:35
ผมกลับมองว่ายอดขายดีกว่าที่ผมคาดไว้อีกนะครับ  :-[
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: AkE ที่ มีนาคม 28, 2016, 18:43:51
หลายอย่างเลยครับ คือตัวที่ขายดีคือตัวทอป ซึ่งเน้นส่งออกเป็นหลัก เพราะขายในไทยแล้วได้กำไรน้อยคับ ไปขายออส อยุ่ระดับเท่ากับ prado รถช่วงล่างนิ่งจิงครับ วิ่ง 160 เหมือน 120-130 เลย ขับเข้าโค้งมันมากๆแต่กินน้ำมันไปนิดยิ่งใช้ในเมืองยิ่งหนักแต่เครื่องมันขนาดนั้น หวังประหยัดคงยากอะคับ เรื่องราคาแพงอันนี้ส่วนนึงคับ แต่ for trd ล่ะแพงมั้ยดูซิว่าจะขายดีมั้ยสำหรับผมๆมองว่า มันคือ worst of motor show คราวนี้ เหมือนทำมั่วๆแบบเป็นเจ้าตลาดห้ามมีใครขายแพงกว่าต้องออกซะหน่อยไรงี้ ขับแล้วยังห่างครับถ้าไม่นับเรื่องความแรงนะ for & pjs ยังไม่ใกล้เคียง everest เลยด้านสมรรถนะแต่เรื่องประหยัดกับแรงเนี่ยสิคับที่คนสนใจรองๆจากเรื่องแบรนด์กับศูนเลยมันเลยเข้าทาง2 เจ้านี้ ppv 4-5 รุ่นนี่เลือกไปปวดหัวเลือกยากงั้น ไป cx5 2.2 ขับ2 & x trail hv ดีกว่าอันนั้นเวิคอยุ่ๆ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Mike ที่ มีนาคม 28, 2016, 20:40:43
ตอบในมุมของฟอร์ดพวกเราๆท่านๆ รู้กันหรือไม่ครับ ว่าฟอร์ดเอง ตั้งTarget ไว่เท่าไร ในแต่ละรุ่นและต่อเดือน?? 
ขนาดนี้กำลังผลิตของAAT มันไม่ไหวอยุ่แล้ว จนต้องมาmo line ford fac มาทำก็ยังไม่ทันส่งออก
ดังนั้น คำว่า  น้อย ไม่น่าเป็นในมุมของฟอร์ด

  มันต่างกันนะ...."ขายได้น้อย กับ ไม่มีของจะขาย"
                       ขายได้น้อย  กับ ผลิตแล้ว ไม่มีdealer สั่งมาลง
 


ตอบในมุมของคนเชียร์หรือคนแช่ง  อยากจะให้ขายได้เยอะๆมากกว่านี้หรือให้มันน้อยกว่านี้


ตอบในมุมของคนทั่วไป ผมว่ายอดนี้ก็สมเหตสมผล  รุ่นเดิมขายได้น้อยกว่านี้เยอะ ขายได้เท่านี้ก็ประสบคงามสำเร็จ


ตอบในมุมของคนทำproduct ผมเองมองว่า มันประสบตงามสำเร็จครับสำหรับตัวนี้


และเเน่นอนสำหรับบางคนที่มีinsider ก็ได้บอกไปบ้างแล้วครับว่า. Quota สำหรับขายในเมืองไทย เป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าต่างประเทศ

Dealer ในไทอยากได้quota เยอะกว่านี้แหละครับ

ผมอยากรู้ครับ

1.ทำไมปัญหาที่เจอตั้งแต่ WT 3.2 ตั้งแต่เปิดตัวเมื่อ 2012 มันเกิดมาเรื่อยๆยาวนานถึง 2015 และเกิดขึ้นอีกใน EV 3.2 จนถึงบัดนี้ เช่นไฟโชว์ สตาร์ทไม่ติด ดับกลางคัน/เข้าเกียร์ D ไม่เดินหน้า/ซีลท้ายเครื่องซึม/น็อตยึดเพลากลางหลุด/เกียร์พัง etc. เพราะอะไรครับ? ทางวิศวกรไม่รู้? หรือรู้? แต่หตุผลอะไรที่แก้ไม่ได้? หรือนี่แก้แล้ว แต่ได้แค่นี้?

2.ทำไม Ranger T6 ตั้งแต่เปิดตัว 2012 จนก่อน MC มีปัญหาท่ออินเตอร์ และ แผงอินเตอร์ แตก เปลี่ยนอันใหม่ก็แตกแล้วแตกอีก ผมเดาว่าเป็น Part เดิม (ผมเปลี่ยน 3 ครั้งแต่ไม่ได้ Part no. มาลองเทียบ) BT50-Pro ก็เช่นกัน ส่วนตัว MC ผมยังไม่เจอว่ามีปัญหานี้ บางทีอาจจะ/คาดว่ายังใหม่ ยังไม่มีใครวิ่งเยอะ/หรือไม่มีคนมาบ่นในคลับ/หรือปรับปรุง part แล้ว | และปัญหาอื่นๆเช่น เพลาข้อเหวี่ยงหัก/ชาร์ฟละลาย/เกียร์พัง etc. และหน้าเกลียดที่สุดคือ ส่วนหัวเก๋ง กับ กระบะท้าย ติดตั้งไม่ได้สมมาตร ไอ้เรื่องสายสลิงฝากระบะท้ายหย่อนไม่เท่ากันนี่จิ๊บๆมาก ผมไม่แคร์ แต่ก็อดสงสัย ว่าทำไมไม่แก้? ไม่รู้?
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ มีนาคม 28, 2016, 21:25:05
คหสต ไม่เคยใช้ Ford มาก่อนแต่จองตัวท็อปแล้วเปลี่ยนใจ
1. ราคาแรง(ไม่เอาเทียบกับใครเลยนะ) แต่ตอนนั้นอยากมาก
2. มั่นใจในแบรนด์ลดลงมาก ข่าวมาเยอะทั้งตังรถ(รุ่นอื่น ทั้งศูนย์บริการใกล้บ้านที่ ตจว)
3. ไปๆมาๆ ชอบรถที่พร้อมใช้งาน(เพราะซื้อมาใช้ละ55) ส่วนจะโดนไม่โดนกับตัวเองนั่นอีกเรื่อง แต่ความเสียงค่อนข้างสูง สุดท้ายตัดออก น่าเสียดายมากๆครับ ชอบตัวรถทุกอย่าง ตัวถัง เครื่อง ภายใน ระบบ แต่ติดอย่างที่บอก ที่บ้านก็มีรถใช้หลายคัน ตั้งแต่เก่ามากจนรุ่นปัจจุบัน แต่ต้องการรถที่พร้อมใช้ สงสัยไม่ for ก็ PA. จริงๆ แม้ PA จะมี defect บ้าง แต่รับได้ และเซ็นต์เซอร์ต่างๆครับ
โดนแล้วครับสำหรับ 3.2ไม่Plus ลูกน้องขับไปต่างจังหวัดน็อตยึดเพลากลางคลาย2ตัวเสียงดังกระทบใต้ท้อง กลับมาเข้า0ตรวจสอบใหม่บอกขันแน่นแล้ว แค่นี้ ผมเลยส่งจดหมายไปฟอร์ดเป็นเดือนแล้วยังไม่มีคำตอบกลับมาว่ามาจากสาเหตุอะไร เคยไปถามเจ้าโฉเพื่อนผมที่เคยอยู่ฟอร์ด โฉบอกว่า ตอนอยู่ฟอร์ดกูมีหน้าที่ทะเลาะกับฝรั่ง ได้ฟังแบบนี้สงสัยหมดหวังกับฟอร์ดที่จะปรับปรุงละครับ

ไลน์คุณV มุ้งมิ้งจริงๆ  :D
555 ช่างสังเกตจริงๆ ลูกน้องหญิงเค้าคุยกับพลขับเลยส่งแคปมารายงานให้ผมทราบน่ะครับ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: monsterjeff ที่ มีนาคม 28, 2016, 21:30:41
เป็นรถดีที่ไม่น่าซื้อมาใช้ .....
รถมีข้อดีหลายอย่าง แต่ให้ซื้อเองคงไม่...
แต่ถ้าให้เลือกรถประจำตำแหน่ง เอาครับ...

คงพอจะเข้าใจสิ่งที่อยากบอกนะครับ :P :P :P
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Wayfarer-R ที่ มีนาคม 28, 2016, 21:38:41
รู้สึกว่า กระทู้นี้เริ่มร้อนๆละนะ  ;D
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Volta ที่ มีนาคม 28, 2016, 22:35:11
ฟอร์ดเขาเน้นขายลูกค้าใหม่ครับ
ลูกค้าเก่าคงไม่กลับไปซื้อแล้ว

ตอนผมจะซื้อ ppv ก็ได้ไปลอง ev 2.2 ผลคือชอบมาก แต่สุดท้ายแฟนก็ไม่เห็นด้วยเพราะเคยใช้ยี่ห้อนี้แล้วมีปัญหา  ทั้งด้านคุณภาพตัวรถ และการแก้ไขปัญหาของผู้บริการ 
สุดท้ายก็ต้องตัดยี่ห้อนี้ออกไปจากตัวเลือก

พี่ชายผมหลังจากปล่อย ranger 2.2 ที่เกียร์พังออกไปได้ ก็หันกลับไปซื้อ fortuner มันบอกเข็ดแล้วกับยี่ห้อนี้ทั้งๆที่มันไปลอง ev แล้วก็ชอบมากเหมือนผม

ความเชื่อมั่นในแบรนด์มันก็มีส่วนอย่างมากนะครับ ถามว่าถ้ารถมันดีไม่มีปัญหา ผมกับพี่ชายยังไงก็ต้องกลับไปซื้อ ev แน่ๆ แต่ถ้าตราบใดผู้บริหารทั้งของคนไทยและฝรั่งยังไม่ดูแลสินค้าให้มันนิ่งๆไม่มีปัญหาหรือเต็มใจที่จะช่วยเหลือลูกค้ายามที่มีปัญหา สุดท้ายลูกค้าก็ไม่หนีไปไหนหรอกครับ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดราม่า ที่ มีนาคม 28, 2016, 22:35:44
อาการรถอาผม 3.2+ มาตายหน้าโรงปูนแก่งคอย ก็อย่างที่คุณ V221 พิมพ์เปี๊ยบ

รถไม่ใช่ไม้กายสิทธิ์จริงๆ แหละครับ ผมยอมเลือกทางเดินตัวเองกะหมวกคัดสรรก็แล้วกัน
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดราม่า ที่ มีนาคม 28, 2016, 22:38:08
เพิ่งนึกขึ้นได้อีกเรื่อง เฟียสต้าคนในหมู่บ้านผมนี่แหละ

- เกียร์มีปัญหาไปรอบ เข้า R ไม่ได้ ซ่อม แก้ไขตามอาการ ประกันตรงนี้ขยายมา 10 ปีแล้วก็จริง แต่ไม่ได้ครอบคลุมชิ้นส่วนอื่น
- จากนั้นมีปัญหาชิ้นส่วนอะไรสักอย่าง (ผมลืม น่าจะพัดลมหม้อน้ำ) ก็เลยเอาไปเข้าศูนย์เช็คระยะเลย
- เข้าศูนย์เอกพหลโยธิน (ซึ่งก็เจ้าของเครือเดียวกับเอกสีลมที่ลือกันว่าบริการดีเป็น 1 ใน 2 ของศูนย์ฟอร์ดในประเทศไทยนี่แหละ) เช้า ออกจากศูนย์บ่ายสอง
- หกโมงเย็น ตายสนิทกลางสะพานพระราม 8 ความร้อนขึ้นจนพัง ชาร์ปละลาย สายไฟบรรลัย
- ศูนย์ไม่รับผิดชอบ อ้างว่าประกันงานซ่อมเฉพาะส่วนเช็คระยะ

ประกอบกับปัญหาอื่นๆ ก่อนหน้านี้ จนเจ้าตัวบ่นว่า “เหมือนตั้งเวลาให้พังทั้งคัน”
ในที่สุดเจ้าตัวก็เตรียมไป Civic 1.8 EL ตัวใหม่ รอรถมา คงขายทิ้ง และลาก่อนฟอร์ด

ปล. เท่าที่ฟังคร่าวๆ คือ ช่างก็ใช้วิธีตรวจวัดค่าเกียร์ (เดาว่าความสึกหรือการจับตัวอะไรราวๆ นั้น)
แล้วก็ Learning ไปหลายๆ รอบ จนมันตายคามือ เสร็จแล้วระบบไฟก็มีปัญหาต่อ
และแบตเตอรี่ที่ศูนย์ฟอร์ดเปลี่ยนมา ใครที่จำกันได้ว่ารุ่นนี้ชอบมีปัญหาระบบไฟ แม่มก็ยังยัดแบต CCA ต่ำๆ มาให้อีก ให้เกียร์พังเล่น

ฟอร์ดก็เป็นอย่างนี้แหละครับ... รถสวย ขับดี แต่ผมขอบายคนนึง
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: NS ที่ มีนาคม 28, 2016, 22:42:06
มาสงสัยครับ หากเน้นส่งออกมากกว่าขายบ้านเรา (90:10) จริงๆ ปัญหาที่จะเกิดกับรถที่ส่งออกไปจะเกิดเหมือนกันไหม แล้วจะแก้ไขจบรึเปล่า เพราะหากคิดตามสัดส่วนดูก็คงไม่น้อยเลยที่จะเกิดปัญหา คงต้องพึ่งคนที่เข้าไปอ่านเวปคลัปของ Ford หรือeverestของ ตปท ที่ส่งไปขายบ้างละครับว่าเจอ defect เหมือนกันรึเปล่า อันนี้สงสัยเองนะครับ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Tee+...Lek ที่ มีนาคม 28, 2016, 22:50:38
ไม่ได้ทับถมใคร หรือยังไงนะครับ แต่ปัญหาของ Ford ไม่ได้อยู่แค่ในระดับประเทศของเราเท่านั้นครับ

ลองหาดู Consumer Reports ในอเมริกาดูนะครับ แล้วท่านจะพบว่าปัญหาเรื่องความเชื่อถือได้ (Reliability) ของรถแบรนด์อเมริกันส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับกลาง และต่ำของรถในระดับเดียวกันเมื่อเทียบกับรถญี่ปุ่น หรือแม้แต่รถเกาหลีอย่าง Hyundai หรือ Kia ก็มีคะแนนด้านนี้เหนือกว่ารถอเมริกันอย่าง GM และ Ford อยู่มากพอสมควร

แล้วอะไรเป็นตัวชี้วัดเรื่องนี้ละ? ทาง Consumer Report เค้าทำการสอบถามจากผู้ใช้งานจริงเป็นกลุ่มตัวอย่างที่น่าจะใหญ่อยู่พอสมควร และได้ผลสรุปเช่นนี้ออกมา นี่ขนาดในบ้านเค้าเองนะครับ คนอเมริกันบางกลุ่มถึงขนาดขยาด Ford กับ GM ไปเลย

โดยส่วนตัวแล้ว จากที่เคยขับรถเช่าที่โน่นมาบ้าง รถอเมริกันนี่ต้องรถใหญ่เลยครับ SUV อย่าง Tahoa หรือ Suburban หรือไม่ก็กระบะแบบ F-150 ไปเลย ยอมรับครับว่าดีจริง เน้นเครื่องใหญ่อย่าง V6 V8 ไปเลย ขนาดโตโยต้า และนิสสันที่ว่าแข็งแกร่งก็ยังสู้ไม่ได้เลยครับ นั่งสบายมาก นั่งนานๆ ก็ไม่เมื่อย แต่พวกนี้ก็ยังไม่วายมีปัญหาเรื่องความเชื่อถือได้ เลยทำให้รถ SUV อย่าง 4Runner Pathfinder และรถกระบะอย่าง Tacoma Titan ยังพอมีให้เห็นอยู่บ้าง
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: SETTHASART ที่ มีนาคม 28, 2016, 23:05:37
ดีเฟคคงมีกันทั่วโลกทุกเจ้า ผมสันนิษฐานว่าในต่างประเทศ(ที่เป็นตลาดสำคัญของเขา)ฟอร์ดคงมีการทำตลาดที่เอาจริงเอาจังมากกว่าไทย อย่างตลาดเมืองไทยเหมือนว่าเอฟเวอร์เรส 3.2+ ตัดแบ่งออกมาขายให้คนไทยแค่นี้ ใครอยากได้ก็รอคิวกันเอาเอง เวลารถมีปัญหาก็แก้ๆไปอย่างนั้น(เหมือนเคสเฟียสต้าของเม้นต์บนๆ)
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ มีนาคม 28, 2016, 23:30:37
ตามเป้านะครับ สำหรับQ1 สำหรับ Ford เอง คงไม่รู้สึกว่าน้อย

Q2 ตัวเลขจะขยับขึ้นเองครับ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: นครอัญมณี ที่ มีนาคม 29, 2016, 01:50:13
ความเห็นส่วนตัวของผมครับ
1. ราคาสูงเกินกว่าชาวบ้าน ถึงแม้ออฟชั่นจะเยอะกว่าก็ตาม (ชาวบ้านชอบออฟชั่นเยอะ แต่ราคาปรกติ)
2. สมรรถนะเครื่องยนต์ไม่ดี ไม่แรง แต่ดันกินน้ำมัน (แต่ช่วงล่างดี)
3. ชื่อเสียงที่ผ่านมาของ Ford ในเรื่อง อุปกรณ์จุกจิก เสียหาย ไม่ทนทาน
4. ชื่อเสียงที่ผ่านมาของ Ford ในเรื่อง ศูนย์บริการหลังการขาย
5. ชื่อเสียงที่ผ่านมาของ Ford ในเรื่อง ราคาขายต่อ
6. รูปทรง คลาสสิค เกินไป (บางคนบอกว่าสวย)
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ มีนาคม 29, 2016, 07:31:31
อาการรถอาผม 3.2+ มาตายหน้าโรงปูนแก่งคอย ก็อย่างที่คุณ V221 พิมพ์เปี๊ยบ

รถไม่ใช่ไม้กายสิทธิ์จริงๆ แหละครับ ผมยอมเลือกทางเดินตัวเองกะหมวกคัดสรรก็แล้วกัน
ตกลงผมมีเพื่อนที่โดนแบบเดียวกันด้วยแล้วใช่ไหมเนี่ย เพื่อนผมที่ทำงานอยู่ด้วยกันก็เล่าว่า น้องชายเค้าออกตัว 3.2+ มาไม่กี่เดือนก็เจอเสียงดังใต้ท้องจากสติกเกอร์หลุดหมุนตีและแอร์รั่วเลยครับ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: starlight ที่ มีนาคม 29, 2016, 07:37:43
ตลาดไหนที่เค้าไม่เน้นยอดขาย การดูแลมันก็จะแกนๆ ต้องทำใจ

เน้นๆเลย จะซื้อยี่ห้อนี้ใช้ ต้องไม่ใช่รถคันเดียวในบ้าน แล้วจะมีความสุขกับมัน ยามที่มันปกติไม่งอแง
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Nott ที่ มีนาคม 29, 2016, 07:45:13
คำตอบเดียวเลยครับ แพงกว่า x trail,pajero มากๆ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Ty ESC ที่ มีนาคม 29, 2016, 09:22:01
ผมแปลกใจมากกว่าที่มันยังขายได้เยอะขนาด4-500คัน


เรื่องขับดีคงไม่เถียง

แต่คนกล้ายอมเสี่ยงเพราะชอบรถรุ่นนี้ขนาดนี้เลย
ทำเหมือนไม่เคยได้ยินว่า ฟอร์ด เป็นยังไง

คนทั้งโลกเค้ารู้ ยอดขายในอเมกาก็เห็นๆกันว่า ไม่ได้ดีกว่ารถญี่ปุ่นเลย
ในยุโรปที่พอขายได้แต่ความน่าเชื่อถือในโปรดักก็ไม่ได้ดีอะไร
เคสในไทยก็มาก โกหกตัวเองไปเพราะอยากลองก็ต้องยอมรับความเสี่ยงนั้น

ถ้าซื้อแล้วพังเสีย ซ่อมลำบากเครมไม่ได้ อย่าโทษฟอร์ดเลยครับโทษตัวเองเถอะที่ไปหลงเชื่อ
เก็บเปนบทเรียน แล้วคราวหน้าเกิดฟอร์ดออกรถใหม่ก็อย่าไปซื้อครับ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: nutto151 ที่ มีนาคม 29, 2016, 09:41:15
ผมมองว่า ปัญหาฟอรด ที่เจอกันส่วนมาก เป็น รถ Sedan มากกว่า Ranger หรือ EV

แต่แน่นอนว่าถ้าใครไม่มีรถสำรองใช้ ก้ต้องวัดดวงหละคับ โอกาศเจอคันที่มีปัญหา ดูเหมือนจะสูงกว่าเจ้าอื่น
แต่ถ้าใครมีรถสำรองใช้ (ซึ่งส่วนมาก ถ้าคนเมืองนี่ PPV คงไม่ใช่รถคันเดียวแน่ๆ) EV นี่น่าใช้นะคับ


ถ้ากลัวปัญหาระบบไฟจุกจิกและไม่ค่อยลุยไรมาก ไปตัว 2.2 ขับ 2 สบายใจกว่า รถพื้นๆไม่มีอะไรมาก
ระบบ ความปลอดภับพื้นฐานครบ ถุงลม 6 ใบ ตั้งแต่ตัวล่าง
ขาดแค่ลูกเล่นละลานตา ที่สร้างโอกาศที่จะเป็นปัญหาได้มากกว่า ตัว +

แต่ ตัว 2.2 กลับไม่ค่อยมีคนพูดถึง เพราะคนที่เล็งและสนใจ EV ไปมองแต่ตัวท้อปกันหมด

หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: masuoka ที่ มีนาคม 29, 2016, 10:26:07
น่าจะเปลี่ยนสโลแกนนะ  "สร้างมาให้ซ่อมต่อ"
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: pipatwina ที่ มีนาคม 29, 2016, 11:28:26
ความเห็นส่วนตัวของผมครับ
1. ราคาสูงเกินกว่าชาวบ้าน ถึงแม้ออฟชั่นจะเยอะกว่าก็ตาม (ชาวบ้านชอบออฟชั่นเยอะ แต่ราคาปรกติ)
       - ตอนนี้เจ้าตลาดก็เริ่มยกระดับราคามาเทียบแล้วนะครับ (ทั้งๆ ที่สเป็กก็ไม่ได้เพิ่มอะไรมากมาย)

2. สมรรถนะเครื่องยนต์ไม่ดี ไม่แรง แต่ดันกินน้ำมัน (แต่ช่วงล่างดี)
       - รถส่วนใหญ่ก็ใช้น้ำมันกันทั้งนั้น เครื่องยนต์ดีไม่ดีไม่รู้เหมือนกันครับ เท่าที่ใช้งานก็รวดเร็วทันใจดี

3. ชื่อเสียงที่ผ่านมาของ Ford ในเรื่อง อุปกรณ์จุกจิก เสียหาย ไม่ทนทาน
       - สมัยนี้ชิ้นส่วนรถยนต์ ผมว่า ลดต้นทุนกันเยอะ  ส่วนเรื่องที่มันเสียหายจุกจิก ส่วนมาจะเป็นรถที่มีพวกระบบอิเล็กทรอนิกส์ระบบไฟฟ้าไปควบคุมมัน พวกนี้จะมีปัญหาจุกจิกเสมอ

4. ชื่อเสียงที่ผ่านมาของ Ford ในเรื่อง ศูนย์บริการหลังการขาย
       - ศูนย์บริการ ผมว่ายังไม่เวิร์กเท่าไหร่ แค่โปรโมชั่นที่ตัวเองมีพนักงานยังไม่รู้เล้ย... ต้องให้ลูกค้าบอก...

5. ชื่อเสียงที่ผ่านมาของ Ford ในเรื่อง ราคาขายต่อ
       - ถ้าส่วนมาซื้อมาขายต่อ ก็คงไปเล่นเจ้าตลาด แต่สมัยนี้ราคาไม่น่าจะหนีกันมาก

6. รูปทรง คลาสสิค เกินไป (บางคนบอกว่าสวย)
       - คนซื้อส่วนมากชอบรูปทรงแบบนี้ มีรถออกมาหลายๆแบบให้เลือกก็เป็นประโยชน์กับคนซื้อครับ

ความเห็นของคนใช้รถคันนี้ครับ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Pegasus7700 ที่ มีนาคม 29, 2016, 13:52:51
ตอบในมุมของฟอร์ดพวกเราๆท่านๆ รู้กันหรือไม่ครับ ว่าฟอร์ดเอง ตั้งTarget ไว่เท่าไร ในแต่ละรุ่นและต่อเดือน?? 
ขนาดนี้กำลังผลิตของAAT มันไม่ไหวอยุ่แล้ว จนต้องมาmo line ford fac มาทำก็ยังไม่ทันส่งออก
ดังนั้น คำว่า  น้อย ไม่น่าเป็นในมุมของฟอร์ด

  มันต่างกันนะ...."ขายได้น้อย กับ ไม่มีของจะขาย"
                       ขายได้น้อย  กับ ผลิตแล้ว ไม่มีdealer สั่งมาลง
 


ตอบในมุมของคนเชียร์หรือคนแช่ง  อยากจะให้ขายได้เยอะๆมากกว่านี้หรือให้มันน้อยกว่านี้


ตอบในมุมของคนทั่วไป ผมว่ายอดนี้ก็สมเหตสมผล  รุ่นเดิมขายได้น้อยกว่านี้เยอะ ขายได้เท่านี้ก็ประสบคงามสำเร็จ


ตอบในมุมของคนทำproduct ผมเองมองว่า มันประสบตงามสำเร็จครับสำหรับตัวนี้


และเเน่นอนสำหรับบางคนที่มีinsider ก็ได้บอกไปบ้างแล้วครับว่า. Quota สำหรับขายในเมืองไทย เป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าต่างประเทศ

Dealer ในไทอยากได้quota เยอะกว่านี้แหละครับ

ผมอยากรู้ครับ

1.ทำไมปัญหาที่เจอตั้งแต่ WT 3.2 ตั้งแต่เปิดตัวเมื่อ 2012 มันเกิดมาเรื่อยๆยาวนานถึง 2015 และเกิดขึ้นอีกใน EV 3.2 จนถึงบัดนี้ เช่นไฟโชว์ สตาร์ทไม่ติด ดับกลางคัน/เข้าเกียร์ D ไม่เดินหน้า/ซีลท้ายเครื่องซึม/น็อตยึดเพลากลางหลุด/เกียร์พัง etc. เพราะอะไรครับ? ทางวิศวกรไม่รู้? หรือรู้? แต่หตุผลอะไรที่แก้ไม่ได้? หรือนี่แก้แล้ว แต่ได้แค่นี้?

2.ทำไม Ranger T6 ตั้งแต่เปิดตัว 2012 จนก่อน MC มีปัญหาท่ออินเตอร์ และ แผงอินเตอร์ แตก เปลี่ยนอันใหม่ก็แตกแล้วแตกอีก ผมเดาว่าเป็น Part เดิม (ผมเปลี่ยน 3 ครั้งแต่ไม่ได้ Part no. มาลองเทียบ) BT50-Pro ก็เช่นกัน ส่วนตัว MC ผมยังไม่เจอว่ามีปัญหานี้ บางทีอาจจะ/คาดว่ายังใหม่ ยังไม่มีใครวิ่งเยอะ/หรือไม่มีคนมาบ่นในคลับ/หรือปรับปรุง part แล้ว | และปัญหาอื่นๆเช่น เพลาข้อเหวี่ยงหัก/ชาร์ฟละลาย/เกียร์พัง etc. และหน้าเกลียดที่สุดคือ ส่วนหัวเก๋ง กับ กระบะท้าย ติดตั้งไม่ได้สมมาตร ไอ้เรื่องสายสลิงฝากระบะท้ายหย่อนไม่เท่ากันนี่จิ๊บๆมาก ผมไม่แคร์ แต่ก็อดสงสัย ว่าทำไมไม่แก้? ไม่รู้?
หากคุณใช้ranger แล้วเกิดปัญหา ก็ดำเนินการแจ้งศุนย์ ตามกระบวนการปกติ หากยังแก้ไม่ได้ จนเยอะกว่าปกติ ก็ร้องเรียนหน่วยงานที่รับผิดชอบ

ผมก็มีใช้ranger ใว้ส่งของเหมือนกันนะ ไม่ค่อยมีปัญหา  หากมีก็เข้าศุนย์เก่งๆ

ส่วนที่คุณเจอมาก็ร้ายแรงเนอะ  หากทำทุกอย่างแล้วยังไม่หาย ก็เข้าใจที่มาอธิบายความแย่ของฟอร์ด
และหากวิธีที่ได้รถแบรนด์อื่นมาแทน แบรนด์อื่นคุณอาจจะเจอปัญหาอื่น

สรุป
เห็นใจคุณมากครับ เจอเรื่องแย่ๆ. หากฟอร์ดไม่ตอบโจทย์ ไปแบรนดอื่นนะครับ แล้วให้ฟอร์ดไปขายปนะเทศอื่น คนไทยส่วนหนึ่งแบบคุณไม่ปลื้ม

ผมเชื่อว่าฟอร์ดเองก็ทำcust satอยุ่แล้วครับ มุมมองฟอรดอาจจะไม่ใช้แบบเราๆ
ในมุมของinvestor อาจจะมองคนละมิติ กับการแค่แก้Defect
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Super hornet ที่ มีนาคม 29, 2016, 16:32:48
ผมพึ่งได้คุยกับลูกค้าคนนึงเรื่องรถลูกค้าคนนี้แกเป็นลูกค้า Toyota กับ Isuzuมาตลอด ผมเลยถามเขา ไม่ลองเล่นแบรนด์อื่นบ้างหรอ  แล้วได้ความเห็นดังนี้
"ผมมองว่ารถหน่ะดีนะ แต่จุดแข็งของแบรนด์ยังดีไม่เท่าเจ้าตลาด เลยทำให้ไม่เห็นข้อแตกต่างที่ชัดเจนออกมา
เลยเกิดคำถามวามันดีกว่าเจ้าตลาดอย่างไร?"  พี่แกยังเสริมว่าถ้ารถไม่น่าไว้ใจก็เป็นได้แค่รถสำรอง   ผมนี่อึ้งเลย

ได้ฟังพี่ลูกค้าคนนี้พูดละคิดว่าผู้บริโภคไม่น้อยเลย ที่ยอมเลือกรถที่ สมรรถนะพอไปได้ หน้าตาไม่สวยมาก ออฟชั่นไม่หวือหวา แต่ขับแล้วสบายใจ ศูนย์ไว้ใจได้ไว้เป็นรถคันหลัก  ผมว่าFordทำได้ แต่ปรับปรุงเรื่องชื่อเสียของตัวเอง ให้กลับมาเป็นจุดแข็งให้ได้ ตอนนั้น Toyota Isuzuก็มีหนาว

หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Tiger3539 ที่ มีนาคม 29, 2016, 17:27:31
เมื่อวาน
รถน้องชาย
3.2 วินแทค เพิ่งท่ออินเตอร์แตกสดๆร้อน 70000 กม
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Mike ที่ มีนาคม 29, 2016, 18:20:45
ตอบในมุมของฟอร์ดพวกเราๆท่านๆ รู้กันหรือไม่ครับ ว่าฟอร์ดเอง ตั้งTarget ไว่เท่าไร ในแต่ละรุ่นและต่อเดือน?? 
ขนาดนี้กำลังผลิตของAAT มันไม่ไหวอยุ่แล้ว จนต้องมาmo line ford fac มาทำก็ยังไม่ทันส่งออก
ดังนั้น คำว่า  น้อย ไม่น่าเป็นในมุมของฟอร์ด

  มันต่างกันนะ...."ขายได้น้อย กับ ไม่มีของจะขาย"
                       ขายได้น้อย  กับ ผลิตแล้ว ไม่มีdealer สั่งมาลง
 


ตอบในมุมของคนเชียร์หรือคนแช่ง  อยากจะให้ขายได้เยอะๆมากกว่านี้หรือให้มันน้อยกว่านี้


ตอบในมุมของคนทั่วไป ผมว่ายอดนี้ก็สมเหตสมผล  รุ่นเดิมขายได้น้อยกว่านี้เยอะ ขายได้เท่านี้ก็ประสบคงามสำเร็จ


ตอบในมุมของคนทำproduct ผมเองมองว่า มันประสบตงามสำเร็จครับสำหรับตัวนี้


และเเน่นอนสำหรับบางคนที่มีinsider ก็ได้บอกไปบ้างแล้วครับว่า. Quota สำหรับขายในเมืองไทย เป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าต่างประเทศ

Dealer ในไทอยากได้quota เยอะกว่านี้แหละครับ

ผมอยากรู้ครับ

1.ทำไมปัญหาที่เจอตั้งแต่ WT 3.2 ตั้งแต่เปิดตัวเมื่อ 2012 มันเกิดมาเรื่อยๆยาวนานถึง 2015 และเกิดขึ้นอีกใน EV 3.2 จนถึงบัดนี้ เช่นไฟโชว์ สตาร์ทไม่ติด ดับกลางคัน/เข้าเกียร์ D ไม่เดินหน้า/ซีลท้ายเครื่องซึม/น็อตยึดเพลากลางหลุด/เกียร์พัง etc. เพราะอะไรครับ? ทางวิศวกรไม่รู้? หรือรู้? แต่หตุผลอะไรที่แก้ไม่ได้? หรือนี่แก้แล้ว แต่ได้แค่นี้?

2.ทำไม Ranger T6 ตั้งแต่เปิดตัว 2012 จนก่อน MC มีปัญหาท่ออินเตอร์ และ แผงอินเตอร์ แตก เปลี่ยนอันใหม่ก็แตกแล้วแตกอีก ผมเดาว่าเป็น Part เดิม (ผมเปลี่ยน 3 ครั้งแต่ไม่ได้ Part no. มาลองเทียบ) BT50-Pro ก็เช่นกัน ส่วนตัว MC ผมยังไม่เจอว่ามีปัญหานี้ บางทีอาจจะ/คาดว่ายังใหม่ ยังไม่มีใครวิ่งเยอะ/หรือไม่มีคนมาบ่นในคลับ/หรือปรับปรุง part แล้ว | และปัญหาอื่นๆเช่น เพลาข้อเหวี่ยงหัก/ชาร์ฟละลาย/เกียร์พัง etc. และหน้าเกลียดที่สุดคือ ส่วนหัวเก๋ง กับ กระบะท้าย ติดตั้งไม่ได้สมมาตร ไอ้เรื่องสายสลิงฝากระบะท้ายหย่อนไม่เท่ากันนี่จิ๊บๆมาก ผมไม่แคร์ แต่ก็อดสงสัย ว่าทำไมไม่แก้? ไม่รู้?
หากคุณใช้ranger แล้วเกิดปัญหา ก็ดำเนินการแจ้งศุนย์ ตามกระบวนการปกติ หากยังแก้ไม่ได้ จนเยอะกว่าปกติ ก็ร้องเรียนหน่วยงานที่รับผิดชอบ

ผมก็มีใช้ranger ใว้ส่งของเหมือนกันนะ ไม่ค่อยมีปัญหา  หากมีก็เข้าศุนย์เก่งๆ

ส่วนที่คุณเจอมาก็ร้ายแรงเนอะ  หากทำทุกอย่างแล้วยังไม่หาย ก็เข้าใจที่มาอธิบายความแย่ของฟอร์ด
และหากวิธีที่ได้รถแบรนด์อื่นมาแทน แบรนด์อื่นคุณอาจจะเจอปัญหาอื่น

สรุป
เห็นใจคุณมากครับ เจอเรื่องแย่ๆ. หากฟอร์ดไม่ตอบโจทย์ ไปแบรนดอื่นนะครับ แล้วให้ฟอร์ดไปขายปนะเทศอื่น คนไทยส่วนหนึ่งแบบคุณไม่ปลื้ม

ผมเชื่อว่าฟอร์ดเองก็ทำcust satอยุ่แล้วครับ มุมมองฟอรดอาจจะไม่ใช้แบบเราๆ
ในมุมของinvestor อาจจะมองคนละมิติ กับการแค่แก้Defect

มี Ford 3 คัน และกำลังจะมี 4,5 ตามมา
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ไม่ใช่ติ่งฟอร์ด ไม่ใช่ติ่งแบรนด์ใดๆ ซื้อรถด้วยเหตุผล ที่เหมาะกับตัวเองครับ

ปัญหาเล็กน้อยๆ ผมไม่สนใจหรอกครับ ไม่อยากไปเสียเวลากับศูนย์ กับช่างโง่ๆแถๆ และความสามารถสวนทางกับค่าแรง ผมเป็นวิศวกร บางอย่างผมก็จัดการเอง ในเมื่อ 0 พึ่งไม่ได้
ปัญหาบางอย่างที่ไม่กระทบ กับการขับขี่ แต่น่าเกลียดขั้นรุนแรง คือ ปัญหาหัวเก๋ง-กระบะท้าย ติดตัังไม่สมดุลซ้ายขวา และศูนย์ไม่มีปัญญาแก้ครับ

ก่อนซื้อรถฟอร์ด ผมก็ทราบดีอยู่แล้ว เรื่องความด้อยของช่างและ 0 แต่ก็ไม่แคร์ ซื้อเพราะ รถมันขายตัวมันเองล้วนๆ แต่แค่สงสัยเหมือนที่ถามไปไงครับ ว่า วิศวกรฟอร์ด ไม่รับรู้ปัญหา บ้างหรือ/ไม่แก้บ้างหรือ

ตอนนี้ก็ได้คำตอบแล้วครับ
อีกอย่าง Policy ของบริษัทแม่ ก็อินดี้กว่าใคร
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ มีนาคม 29, 2016, 18:53:52
  ถ้าเรื่อง Defect  ใช้งานไปแล้วสบายใจมาก ๆ ก็ TOYOTA   เจ้าตลาดถ้ายี่ห้ออื่น ๆ Honda Isuzu  ยัีงมีบ้างเวลาใช้งานไปนาน ๆ ผมว่าสู้ TOYOTA  ไม่ได้     อย่างแฟนผมใช้วีออสตัวแรกอยู่    รถสตาร์ททีเดียวติดไปไหนมาไหนไม่เคยงอแงเลย เป็นเด็กดีตลอด     คือมีรถไว้ใช้งานจริง  ๆ   ไม่ใช่่มีรถไปจอดซ่อม แฟนผมก็ไม่ได้สนใจเรื่องรถอยู่แล้ว  เอาเข้าศูนย์เช็คตามระยะเท่านั้นล่ะ       รถเปลี่ยนโช๊คแบต ยาง เบรคตามระยะทางเท่านั้นเองอย่างอื่นไม่ต้องทำอะไร       ผมว่านี่คือจุดแข็งอย่างนึงของคำว่าเจ้าตลาดคนใช้งานก็สบายใจไม่ต้องไปต่อสู้กันในศาลหรือเถียงกันในศูนย์         หลายคนที่ใช้งานรถจึงไม่อยากไปวอแวกับยี่ห้ออื่นที่มีปัญหา Defect กันบ่อย ๆ ขึ้นรถยก      ฟอร์ดเองก็เคยมีปัญหาแบบนี้ทำให้ภาพลักษณ์ยังดูไม่ดี

ส่วนเรื่องราคาขายต่อ ตอนนี้วีออสแฟนผมเหลือแค่ 1 แสนปลาย ๆ  ราคาขายมันไม่ไ่ด้หนีจากยี่ห้ิออื่นแล้วนะครับ   จะขายทำไมรถก็ยังดีอยู่เก็บไว้ใช้ต่อดีกว่า     อีกคันอัลติสราคาขายมันก็ไม่ได้หนีจาก Mazda 3  เท่าไหร่   ปัจจัยเรื่องราคาขายต่อมาถึงวันนี้ตัดไปเหอะ  รถอะไรก็ราคาตกทั้งนั้นล่ะ
หัวข้อ: Re: ทำไม Ford Everest ถึงมียอดขายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ??
เริ่มหัวข้อโดย: Neokv ที่ มีนาคม 29, 2016, 20:35:35
ใช้ฟอร์ดเทียร่ามาเข้าปีที่14
ซ่อมอู่นอกมานานแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรหนัก
เปลี่ยนหัวฉีดน้ำมันไป ที่หนักๆ
เกียร์พังไปปีที่แล้ว ซ่อมไป เลยต้องใช้ต่อไป
ขายตอนนี้ราคาเท่าซ่อมเกียร์ไปเอง
มันใช้ได้นานอย่างนี้นี่เอง เพราะทำใจขายไม่ลง555